เล่ห์ลวงใจ ตอนพิเศษ Pillow Talkตัวเลขบนนาฬิกาดิจิตอลบอกว่าเลยเวลาห้าทุ่มแล้ว แต่ธีระซึ่งนอนหนุนหมอนอยู่บนเตียงกลับยังไม่หลับ เด็กหนุ่มพิมพ์ข้อความแชทกับเพื่อนในมือถือขณะฟังเสียงใครบางคนกำลังอาบน้ำไปเรื่อย
ไม่นานนักกฤตภาสก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อคลุมอาบน้ำพลางใช้ผ้าขนหนูซับผมที่ยังชุ่ม เมื่อเห็นว่าธีระยังไม่หลับก็มุ่นคิ้ว
"เลิกเล่นมือถือก่อนนอนได้แล้วตี้ เดี๋ยวก็สายตาเสียหรอก"
"ครับๆ ขอคุยกับเมธกับซันอีกแป๊บ"
เด็กหนุ่มตอบทั้งที่สองตายังจดจ่อกับหน้าจอโทรศัพท์ กฤตภาสไม่พูดอะไรมากกว่านั้นเพราะไม่ชอบย้ำเรื่องเดิมซ้ำซาก เขาเดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วก็หยิบไดร์เป่าผมออกมาเสียบปลั๊ก
ธีระเหลือบมองคนที่กำลังเป่าผมไปพลางขยี้ผมให้แห้ง จากนั้นก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วลุกเดินเข้าไปใกล้
"มา ตี้ช่วย"
เด็กหนุ่มหยิบไดร์เป่าผมจากมือกฤตภาสแล้วค่อยๆ เป่าไปตามเรือนผมที่ดำขลับและดกหนา ขณะเดียวกันก็ใช้ปลายนิ้วนวดไปตามหนังศีรษะด้วยแรงกำลังดี กฤตภาสเคยเล่าให้เขาฟังว่าไม่เคยทำสีผม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เส้นผมดำเป็นเงาและดูสุขภาพดีกว่าผมของเขาเสียอีก
หลังจากผมของกฤตภาสเริ่มหมาด ธีระก็ปรับโหมดไดร์เป็นลมเย็นแล้วเป่าต่อ พอผมแห้งสนิทแล้วจึงปิดไดร์แล้วก็ใช้มือทั้งสองบีบนวดไปบนไหล่กว้างให้ กฤตภาสหลับตาลงพลางระบายลมหายใจยาว ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็ปรือตาขึ้นแล้วหันกลับมา บนมุมปากมีรอยยิ้มแต้มบางเบา
"มาอ้อนแบบนี้นี่กะขออะไรหรือเปล่า?"
"เปล่าซักหน่อย นานๆ ทีตี้ก็อยากเซอร์วิสบ้างแค่นั้นเอง"
เด็กหนุ่มตอบพลางย่นจมูก กฤตภาสหัวเราะขณะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
"นอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้จะได้ไปบ้านคุณยายแต่เช้า"
"อื้อ"
ธีระก้าวไปบนเตียงพลางซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม เขานอนตะแคงมองกฤตภาสที่ถอดเสื้อคลุมอาบน้ำออกก่อนจะหยิบกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นสวม จากนั้นก็มองจนกระทั่งอีกฝ่ายปิดไฟแล้วเดินมาทิ้งตัวลงนอนข้างกัน
ภายในห้องไม่ได้มืดสนิท ธีระซึ่งนอนตะแคงจึงเห็นได้เลือนรางว่ากฤตภาสยังไม่หลับตา เด็กหนุ่มกระถดตัวเข้าไปจนชิดแล้วก็กระซิบถาม
"คุณยายของพี่กฤต...ใจดีใช่มั้ย?"
"อืม คนละแนวกับแม่พี่เลยล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก"
กฤตภาสตอบก่อนจะหันมาแนบริมฝีปากบนหน้าผากเนียน คุณยายของเขาเคยชวนหลายครั้งแล้วว่าให้พาธีระไปเยี่ยมและร่วมทานอาหารที่บ้าน แต่เพราะบางสัปดาห์เด็กหนุ่มก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัด บางครั้งก็ติดนัดไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เขาจึงไม่ได้เร่งและรอจนกระทั่งเจ้าตัวบอกว่าพร้อมจะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่กับเขาด้วยตัวเอง
ประสบการณ์เมื่อครั้งที่ได้พบกับหม่อมหลวงมุกตาภาคงจะยังฝังใจ เขารู้และไม่โทษที่ธีระค่อนข้างหวั่นเกรงญาติฝ่ายแม่ของเขา แต่โชคดีที่คุณยายไม่ใช่คนใจแคบ ดังนั้นถ้าเขาคอยอยู่ข้างๆ ย่อมไม่มีอะไรน่าวิตก
"ไม่รู้คุณยายจะชอบขนมสาลี่ที่ซื้อให้หรือเปล่า"
กฤตภาสหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงพึมพำ หลังจากตกลงกับเขาได้แล้วว่าจะไปเยี่ยมบ้านคุณยายด้วยกันช่วงวันหยุด เมื่อกลางสัปดาห์ธีระก็โทรให้แม่ซื้อขนมสาลี่จากร้านดังในเมืองแล้วส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษมาให้ ตอนนี้ขนมเหล่านั้นแช่อยู่ในตู้เย็น รอเวลาที่จะได้นำไปมอบให้ผู้สูงวัยในวันรุ่งขึ้น
"ถ้าเป็นขนมไทยคุณยายพี่ชอบทั้งนั้นแหละ เราก็เลิกคิดมากได้แล้ว ถ้าไม่นอนซักทีพี่จะได้ชวนทำอย่างอื่น"
คนตัวเล็กกว่าหน้าแดงซ่าน ธีระรีบซุกหน้าเข้ากับอกกฤตภาสเหมือนจะบอกว่าอยากนอนมากกว่า กฤตภาสจึงโอบเอวเพรียวแน่นเข้าแล้วก็หลับตาลง แต่แล้วก็ปรือตาขึ้นอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นที่แตะบนปลายคาง
"ไม่อยากนอนจริงๆ สินะ"
"ใครว่า แค่กู้ดไนท์คิสเท่านั้นหรอก ตี้นอนล่ะ"
ธีระเอ่ยก่อนจะพลิกตัวตะแคงไปอีกทาง กฤตภาสนึกมันเขี้ยวจึงจับไหล่อีกฝ่ายให้หันกลับมา จากนั้นก็ดันตัวขึ้นคร่อมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
"เด็กเอ๋ยเด็ก กู้ดไนท์คิสของจริงมันต้องแบบนี้ต่างหาก"
คนที่อยู่ด้านล่างไม่ทันได้ส่งเสียงเมื่อริมฝีปากถูกบดเบียด ธีระหายใจหอบเมื่อกฤตภาสเพิ่มความลึกล้ำของรสจูบจนแทบสูดลมเข้าปอดไม่ทัน สองมือยกขึ้นเกาะเกี่ยวไหล่หนาราวต้องการหลักยึดจากความรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้ออ่อนแรง ครู่ใหญ่กว่าเขาจะมีโอกาสสูดหายใจเต็มปอดอีกครั้ง กระนั้นก็รับรู้ได้ว่าริมฝีปากทั้งบวมทั้งชาไปเรียบร้อยแล้ว
ขนาดในห้องค่อนข้างสลัว เขาก็ยังเห็นได้รางๆ ว่านัยน์ตาของกฤตภาสพราวประกายอย่างเจ้าเล่ห์
"พี่กฤตแกล้งกันนี่"
"แกล้งที่ไหน ใครกันแน่ที่มากู้ดไนท์คิสครึ่งๆ กลางๆ ทางนี้ก็แค่สอนวิธีที่ถูกต้องให้เฉยๆ"
ไอ้เรื่องพูดเข้าข้างตัวเอง กลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำล่ะถนัดนัก เด็กหนุ่มได้แต่คิดเพราะไม่อยากต่อความให้ยืดยาว เขาลูบไหล่ของกฤตภาสไปมาแล้วก็เอ่ยเสียงอ่อน
"นอนกันเถอะครับ พรุ่งนี้ตี้อยากแวะซื้อดอกไม้สักช่อไปให้คุณยายด้วย ขืนพี่กฤตไม่ยอมให้นอน พรุ่งนี้คงไม่ได้ไปหาคุณยายกันพอดี"
กฤตภาสหัวเราะก่อนจะยอมทิ้งตัวลงนอนด้านหลังของธีระ ชายหนุ่มรั้งเอวอีกฝ่ายให้เอนพิงอกพลางฝังจมูกลงสูดกลิ่นหอมจากเรือนผมนิ่ม ไม่นานก็รับรู้ได้ว่าคนในอ้อมแขนหลับสนิทจากร่างกายที่ผ่อนคลายและเสียงหายใจเป็นจังหวะ
ทั้งที่มีเขาคนนี้อยู่แล้ว ยังจะต้องกลัวคนอื่นไม่ชอบอีกทำไมกัน
กฤตภาสเพิ่มแรงโอบโดยระวังไม่ให้คนที่หลับสะดุ้งตื่น เขารู้ดีว่าธีระเป็นคนใส่ใจความคิดของคนอื่นแค่ไหน นิสัยที่โหยหาการเป็นที่รักของคนรอบข้างทำให้บางครั้งเจ้าตัวก็วิตกเกินเหตุ และเขามองว่ามันทำให้เสียสุขภาพจิตโดยเปล่าประโยชน์
ไม่ต้องคิดมากหรอกนะตี้ ขอแค่เป็นตัวของตัวเองก็พอแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าคุณยายจะชอบหรือเปล่า ขอแค่เขาได้เห็นว่าพี่หลงเราแค่ไหน ที่เหลือก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลทั้งนั้น...
+++---END---++
A/N: สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ รู้สึกเหมือนไม่ได้พิมพ์นิยายมานานมาก (ที่จริงก็กำลังพยายามพิมพ์เรื่องใหม่อยู่น่ะแหละ แต่ยังไปไม่ถึงไหน) พอดีเมื่อวานนี้เห็นจากเพจนักวาดหลายๆ เพจที่ติดตามว่าเป็นวัน Kiss Day ที่ญี่ปุ่น เลยเกิดไอเดียอยากเขียนตอนพิเศษให้ตากฤตกับน้องตี้ขึ้นมา แต่เขียนไปเขียนมาออกมาคนละอย่างกับที่ตั้งใจไว้ตอนแรกเลย แถมไม่ได้เกี่ยวกับ Kiss Day ซักกะนิด แต่คงช่วยให้หายคิดถึงคู่นี้กันบ้างนะคะ ^_^
ปล.1 ถ้าใครไม่ได้อ่านรวมเล่มอาจจะงงว่าน้องตี้เคยเจอหม่อมแม่ของตากฤตตอนไหน เนื้อหานี้อยู่ในตอน "จุดยืนของหัวใจ" ที่อยู่ในฉบับตีพิมพ์และอีบุ๊คค่ะ
ปล.2 คิดถึงนักอ่านในเล้าทุกคนเลยค่า