หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจ♥ซ่อนรัก ตอนพิเศษปิดท้าย คนของหัวใจ (๘ มกราคม ๒๕๕๗) หน้า ๑๓ ค่ะ  (อ่าน 194035 ครั้ง)

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

 

********คุยกันสักนิดก่อนอ่านนะคะ สำหรับท่านที่เคยอ่านเรื่องนี้ไปแล้ว แล้วเกิดคำถามว่า อ้าว มันเคยลงแล้วนี่มาลงใหม่ทำไมอีก ใหม่ขอชี้แจงดังนี้...

ใหม่เคยบอกไปว่าจะรีไรท์เรื่องนี้แล้วนำกลับมาลงใหม่อีกครั้ง ซึ่งนี่คือฉบับปรับปรุงค่ะ ถ้าท่านที่เคยอ่านแล้วและรู้สึกว่า "เฮ้ย ฉันอ่านไปแล้วไม่อ่านอีกได้ป่ะ?"

ใหม่ขอตอบว่าได้ค่ะ ตามแต่สะดวก สำหรับคนที่มาไม่ทันฉบับก่อนหน้าก็ค่อยๆอ่านฉบับนี้ไปนะคะ อารมณ์เรื่องแบบเดียวกัน แค่เพียงเปลี่ยนแปลงบทใหม่ที่คิดว่ามันน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม(ในความรู้สึกของใหม่เอง)เท่านั้นเองค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามและจดจำกันได้
 :pig4:
วันใหม่ค่ะ**********




หัวใจซ่อนรัก
บทนำ


ห้องทำงานส่วนตัวภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกตกแต่งให้เข้ากับบุคลิกเคร่งขรึมของเจ้าของห้อง น้อยคนนักที่จะได้อย่างกรายเข้ามาในนี้หากไม่ได้รับอนุญาต หลังโต๊ะไม้เนื้อดีที่ถูกเคลือบและขัดเสียมันวาบ ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ยืนหันหลังให้ประตูทางเข้า บรรยากาศกดดันแผ่ออกมาจากแผ่หลังกว้างภายใต้สูทสีทึมเทา เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นชายหนุ่มเหลือบมองเพียงหางตา เมื่อรู้ดีว่าผู้ที่เข้ามาเป็นใคร

“คุณอเล็กซ์ครับ...” ชายสูงวัยในชุดพ่อบ้านเอ่ยเรียกบุคคลในห้องที่หันหลังให้ตนอยู่ด้วยท่าทีนอบน้อม

“พ่อบ้านมิลเลอร์ ออกไปก่อน”

เสียงทุ้มสั่งพ่อบ้านโดยไม่ได้หันกลับมา เจ้าของชื่อค้อมตัวด้วยความนอบน้อมก่อนก้าวถอยไปตามคำสั่งโดยไร้ข้อโต้แย้ง สายตาพ่อบ้านเหลือบมองชายอีกคนที่ตนพามาด้วยแววห่วงใย ก่อนจะออกจากห้องไปแล้วปิดประตูลง

คนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูเริ่มอึดอัดกับบรรยากาศกดดันภายในห้อง เมื่อเหลือเพียงตนเองกับผู้เป็นเจ้าของห้องเท่านั้น บุคคลหลังโต๊ะทำงานค่อยหันมาทางเขาเชื่องช้า แต่สร้างความอึดอัดเท่าทวี ดวงตาสีน้ำทะเลที่มองมาทำเอาเขาหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลย

“มานี่”

น้ำเสียงทุ้มต่ำจากร่างสูงใหญ่หลังโต๊ะทำงานเอ่ยเรียกแกมสั่ง ชายหนุ่มผู้ยืนอยู่หน้าประตูจำต้องก้าวเข้าไปหาอย่างขัดไม่ได้ เมื่อมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนเรียกมือหนาก็เอื้อมมาแตะข้างแก้มก่อนลูบขึ้นมาถึงศีรษะที่มีผ้าสีขาวพันเอาไว้รอบ สายตาดุดันมองนิ่ง

“มันน่าทำโทษเสียให้เข็ด”

น้ำเสียงลอดไรฟันกับแววตาเอาจริงเกือบทำให้อีกคนก้าวถอย แต่นั่นก็แค่เกือบ เพราะเขาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ปล่อยให้เจ้าของห้องสำรวจตรวจตราบาดแผลตรงศีรษะเสียจนพอใจ มือใหญ่บีบปลายคางก่อนบังคับให้เอียงซ้ายขวา

“เป็นบอดีการ์ดประสาอะไร ไม่รู้จักดูแลตัวเองบ้าง”

ถ้อยคำตำหนินั้นไม่ได้รับการโต้ตอบจาก ‘บอดีการ์ด’ คนที่ว่า เพราะเจ้าตัวเขายังคงนิ่งเงียบ เจ้าของห้องออกจะขัดใจไม่น้อยกับความเงียบของอีกฝ่าย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะใช่ว่าคนตรงหน้าจะเป็นพวกชอบพูดเสียเมื่อไหร่

“ต่อไปมาอยู่กับฉัน เข้าใจไหมอัล?”

สายตาคนถูกสั่งมองมาอย่างมีข้อข้องใจ คนออกคำสั่งจึงต้องถามย้ำอีกหน

“เข้าใจไหม?”

“...ครับ” จำต้องตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ใจอยากค้านแต่ก็ค้านได้เพียงในใจ

เมื่อหลายปีก่อน พ่อบ้านมิลเลอร์ คาร์ล ลุงของเขาพามาฝากฝังกับผู้เป็นนายอย่างวิคเตอร์ เฟอร์ริงตัน เจ้าของธุรกิจทางการเงินครบวงจร ผู้ได้ชื่อว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์กอบโกยผลประโยชน์โดยไม่สนวิธีการ แต่กับลูกน้องในความดูแลเขาไม่เคยตระหนี่ ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี หากไม่ลุกขึ้นมาเป็นปฏิปักษ์กับเจ้าพ่อการเงินคนนี้

อัลเบิร์ต คาร์ล ในฐานะหลานพ่อบ้านไม่คิดว่าตนเองจะได้รับโอกาสเข้าศึกษาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยดีๆเหมือนคนอื่น แต่เพราะความเมตตาจากวิคเตอร์ คนที่ใครๆก็เห็นว่าเจ้าเล่ห์และเห็นผลประโยชน์ของตนเองมาเป็นอันดับแรกคนนั้น อัลเบิร์ตจึงได้เข้าเรียนที่เดียวกับลูกชายของวิคเตอร์อย่างอเล็กซานเดอร์ เฟอร์ริงตัน เพื่อตอบแทนในบุญคุณนั้นอัลเบิร์ตจึงได้ทำหน้าที่ดูแลอเล็กซานเดอร์มาโดยตลอดจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย

ช่วงนั้นเองที่เจฟฟรี่ ดีฟไคล์ถูกส่งมาอยู่ด้วยกันกับทั้งสองคนในฐานะว่าที่บอดีการ์ดข้างกายของอเล็กซานเดอร์ หรือบอดีการ์ดฝึกหัดของเฟอร์ริงตัน ด้วยเหตุที่ว่าการจะทำงานใกล้ชิดต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี ได้เห็นมุมดีมุมด้อย พึ่งพาอาศัยและเชื่อใจ คนที่อยู่ข้างกายจะได้ไม่คิดคดทรยศในภายหลัง วิคเตอร์วางหมากเอาไว้เป็นอย่างดี

พวกเขาสามคนพักอยู่ด้วยกันในห้องชุดขนาดใหญ่ใกล้มหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ โดยมีอัลเบิร์ตที่เป็นคนดูแลเรื่องทุกอย่างในที่พัก ส่วนอีกสองหนุ่มออกเที่ยวราตรีไม่เว้นแต่ละวัน จนเรียนจบอัลเบิร์ตจึงได้เข้ารับการฝึกเป็นบอดีการ์ดอย่างจริงจังเพราะวิคเตอร์เห็นหน่วยก้านดีใช้ได้ ทั้งยังซื่อสัตย์ไม่ต่างจากมิลเลอร์ คาร์ลผู้เป็นลุง ในตอนนั้นอเล็กซานเดอร์กลับคัดค้านความคิดของบิดา พอไม่ได้อย่างใจความโกรธนั้นก็มาลงที่อัลเบิร์ต ทำให้ไม่ว่าอัลเบิร์ตจะทำอะไรก็ดูจะผิดใจอเล็กซานเดอร์ไปเสียทั้งหมด

“อเล็กซ์”

บอดีการ์ดหนุ่มเอ่ยเรียกผู้เป็นนายเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่มองนิ่ง แผลที่ศีรษะปวดตุบแต่ก็ยังไม่สามารถไปพักได้ในทันที เหตุเพราะคนตรงหน้าที่ยังไม่มีคำสั่งให้ออกไป พอเอ่ยเรียกสายตาดุก็มองจ้องแล้วบอกเสียงนิ่ง

“พูด”

“ผมอยากพัก... มันเหมือนโลกเอียง”

คนพูดยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่คำพูดที่เอ่ยบอกผนวกกับผ้าพันแผลบนศีรษะที่มีเลือดซึมออกมาเป็นวงก็ทำให้คนฟังตกใจไม่น้อย

“ก็แล้วทำไมไม่รีบไป!”

อัลเบิร์ต คาร์ล มองคนเสียงดังนิ่ง ยังมีหน้ามาตวาดเขาอีก ไม่ใช่เพราะคำสั่งให้รีบมาพบด่วนของเจ้านายอย่างอเล็กซานเดอร์หรืออย่างไรเขาถึงต้องหอบสังขารมาที่นี่ทั้งๆที่ร่างกายไม่พร้อม สายตาที่บอดีการ์ดหนุ่มใช้มองผู้เป็นนายทำให้อีกฝ่ายรู้สึกได้ว่ากำลังถูกตำหนิในใจ

อเล็กซานเดอร์หลับตา กัดฟันกรอดก่อนคว้าแขนบอดีการ์ดหนุ่มลากเข้าไปในห้องที่เขาใช้สำหรับพักผ่อนเวลาลุยงานหนักแล้วสั่งเสียงห้วน

“พัก”

เพียงคำเดียวสั้นๆแล้วเจ้าของร่างกายสูงใหญ่ก็หมุนกายก้าวกลับออกไป อัลเบิร์ตถอนใจเหนื่อยหน่าย จะเดินตามออกไปเพราะอยากกลับไปพักที่ห้องของตนเองเสียมากกว่า

“ถ้ายังดื้อ... นายจะไม่ได้พักทั้งคืน!!”

ราวนกรู้เมื่อเสียงข่มขู่จากผู้เป็นนายดังมา อัลเบิร์ตชะงักกึก ก่อนหมุนกายกลับแล้วขึ้นเตียงหนานุ่มไปนอนตามคำสั่ง ถึงอย่างไรก็ไม่อยากเสี่ยง เพราะอเล็กซานเดอร์ยิ่งไม่ค่อยจะเหมือนใครเขาอยู่

“อย่าให้เห็นว่าลุกออกมา”

ยังมิวายข่มและขู่ซ้ำอีก อัลเบิร์ตถอนใจอีกเฮือกใหญ่ เบื่อคนบ้าอำนาจเต็มที เปลือกตาค่อยปิดลงเพราะหัวเริ่มหมุนมากขึ้นจนจะทนไม่ไหว ช่างมันเถิด อยากบ้าอำนาจสั่งการอะไรก็ช่างแล้ว...



อเล็กซานเดอร์นั่งทำงานอยู่พักใหญ่รู้สึกเมื่อยขึ้นมาจึงปิดแฟ้มงานแล้วพัก บิดกายไล่ความเมื่อยขบเล็กน้อยก่อนลุกจากเก้าอี้ ชายหนุ่มตรงไปยังห้องพักผ่อนโดยลืมไปแล้วว่าให้ใครใช้อยู่ เมื่อเข้าไปถึงได้ชะงักที่เห็นอัลเบิร์ตนอนอยู่บนเตียง กลอกตาหน่ายตนเองที่ลืมไปเสียสนิท

ขาแกร่งก้าวเข้าไปข้างเตียง มองคนหลับนิ่งนาน มือหนาค่อยเอื้อมไปหาแต่ก็ต้องชะงักค้างกลางอากาศแล้วลดลงข้างกาย ก่อนร่างสูงใหญ่จะหมุนกลับ ตรงไปยังโซฟามุมห้องแล้วนั่งลง สายตาดุดันมองมายังคนบนเตียง

‘ความรักมันจะทำให้แกอ่อนแอ อเล็กซ์’

เสียงของผู้เป็นบิดาดังแทรกเข้ามาในความคิด คำพูดกรอกหูซ้ำๆที่เขาไม่เคยอยากจะฟังมัน แต่กลับซึมซับมันไปแล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ อเล็กซานเดอร์ถอนใจยาว ก่อนยืดตัวขึ้นแล้วผละออกจากห้องไปอีกครั้ง




ภายในบ้านลูกหนี้กิตติมศักดิ์ของเฟอร์ริงตัน สมาชิกทุกคนในบ้านถูกต้อนมาอยู่รวมกันที่ห้องโถงกว้าง เจ้าของบ้านและลูกชายถูกจับมัดราวกับกำลังจะถูกโจรปล้นสะดม แต่ผู้ที่ทำเช่นนั้นหาใช่โจรกระจอกที่ไหนไม่ เพราะเขาเป็นถึงทายาทบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่างอเล็กซานเดอร์ เฟอร์ริงตันต่างหาก ใจจริงแล้วเขาก็ไม่ได้อยากเหยียบย่างมาที่แห่งนี้สักนิด ถ้าเพียงแต่คนที่นี่ไม่ได้ไปกระตุกหนวดของเขาเข้า

บอดีการ์ดของเขาคอยยืนคุมสถานการณ์ ขณะที่มือขวาของเขาก็รักษาความปลอดภัยอยู่ไม่ห่าง ที่จริงมันเป็นเรื่องที่เขาไม่ควรจะลงมาจัดการเองด้วยซ้ำ แต่เมื่อนึกไปว่านี่จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เขาก็อยากลงมาร่วมสนุกด้วยสักตั้งเหมือนกัน

กายแกร่งเยื้องย่างเข้าไปใกล้ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มนั้น เขาจำได้ติดตาเชียวล่ะ เจ้าแฮกเกอร์หน้าละอ่อนคนนี้ กล้าปลอมตัวเข้าไปทำงานในบริษัทของเขา มันน่าชื่นชมในความใจกล้า แต่ก็น่าสมเพชในความสิ้นคิด สายตาคมปลาบปรายมองบิดาของชายคนดังกล่าวที่ถูกจับมัดไว้อีกด้านหนึ่ง มุมปากหยักภายใต้ไรเครายกยิ้มหยันกับอาการดิ้นรนอยากเข้ามาช่วยลูกชาย

ร่างสูงใหญ่ค่อยนั่งยองลงตรงหน้า มือหนาบีบคางผู้ไร้หนทางหนี ก้มลงใกล้ กวาดมองใบหน้าและลามลงมายังร่างกายโดยถ้วนทั่ว ยิ่งเห็นแววตาตื่นกลัวของอีกฝ่ายอเล็กซานเดอร์ก็แสยะยิ้ม

“ไม่เลวนี่ น่าสนุกกันสักตั้งนะว่าไหม?”

น้ำเสียงแปร่งปร่าแต่แฝงแววเหี้ยมเกรียมจนคนฟังตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ชายหนุ่มเพิ่งรับรู้เดี๋ยวนี้เองว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินกว่าที่เขาจะรับมือ คางของเขาถูกบีบจนเจ็บร้าวทำให้ต้องอ้าปากร้อง ก่อนจะชะงักกึกแทบกลั้นใจตายเมื่อลิ้นชื้นตวัดแลบเลียริมฝีปากของเขา ขณะที่คนทำยังเหยียดยิ้มแสยะอย่างดูแคลน

“อเล็กซานเดอร์ หยุดเถอะฉันขอร้อง อย่าทำอะไรลูกชายฉันเลย เขาไม่รู้เรื่องด้วย” เกินจะทานทนเห็นลูกถูกรังแกได้ ผู้เป็นบิดาจึงละล่ำละลักเพราะห่วงลูก

อเล็กซานเดอร์ขยับลุก ยืดตัวตรงหรี่ตามองนักธุรกิจสูงวัยผู้อยู่ในฐานะลูกหนี้ “ไม่รู้เรื่องหรือ? ทั้งที่ปลอมตัวเข้าไปแฮกข้อมูลจากบริษัทของผมอย่างนั้นน่ะหรือ?”

ชายสูงวัยกลืนน้ำลายหนืดคอ ไร้ข้อโต้แย้งเมื่อมันคือความจริง บุตรชายของเขาเข้าไปขโมยข้อมูลสำคัญจากที่นั่นมาจริงๆ แต่นั่นก็เพราะครอบครัวของเขาไม่มีทางเลือก เฟอร์ริงตันต่างหากที่บีบให้พวกเขาต้องทำเช่นนี้

“ฮิวโก้” น้ำเสียงเย็นเยือกเอ่ยเรียกคนที่เปลี่ยนท่าทีจากละล่ำละลักร้องขอเป็นโกรธกรุ่น ก่อนเอ่ย

“คุณคงไม่คิดว่าการที่บริษัทของผมเสียหายมันจะยกโทษให้กันได้ง่ายๆหรอกใช่ไหม? ลองเลือกดูสิว่าระหว่างให้คุณโดนยำกับให้ลูกชายของคุณ...” ปรายตามองเหยียด “มาสนองผมนิดๆหน่อยๆอันไหนมันดีกว่ากันล่ะ หืม?”

“อเล็กซานเดอร์!! แกมันไม่ใช่คน!!”

ร่างสูงใหญ่ไม่ยี่หระต่อคำด่าทอ ใครก็พูดอย่างนั้น เขามันไม่ใช่คน ไม่มีความเมตตากรุณาให้ใคร ในเมื่อต่างก็รู้ว่าเขาเป็นเช่นไร ทำไมถึงยังก้าวเข้ามาหา ทำไมยังนำพาตนเองตกลงมาในหลุมพรางของเขา แต่พอตกลงมาแล้วกลับโทษเขาสารพัดไม่มองดูตนเอง ตอนมา ใครเขาอ้อนวอนให้มา พอเขาจะเอาคืนกลับด่าทอต่อว่าและสาปส่ง ช่างน่าขำ

ด้านนอกมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น บอดี้การ์ดของเฟอร์ริงตันขยับตัวระวังภัย แต่มันก็ช้าไปเมื่อเพียงไม่นานพวกเขากลับกลายเป็นฝ่ายถูกล้อม เจฟฟรี่ มือขวาของอเล็กซานเดอร์กวาดมองรอบด้านที่เต็มไปด้วยชายฉกรรจ์และอาวุธปืนในมือแล้วเอ่ยกับผู้เป็นนาย

“ดูเหมือนจะติดกับ”

เมื่อสถานการณ์พลิกผันให้ลูกหนี้ขี้โกงเป็นต่อ ฝ่ายนั้นก็หัวเราะร่าด้วยความสาใจ “คิดไม่ถึงว่าคนอย่างอเล็กซานเดอร์จะติดกับได้ง่ายดายขนาดนี้”

ฮิวโก้เย้ยหยัน ขณะที่ลูกน้องของเขาเข้ามาปลดเชือกให้ ลูกชายของฮิวโก้เข้ามาอยู่ข้างกายบิดา สายตามองจ้องอเล็กซานเดอร์ที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยราวไม่ทุกข์ร้อน

“นึกว่าตัวเองฉลาดนักหรือไงอเล็กซานเดอร์ ทำไมกับดักง่ายๆแบบนี้ยังก้าวตกลงมาได้ หรือเพราะทะนงตนมากไปจนไม่เฉลียว?” ฮิวโก้ยังเหยียดยิ้มทั้งเย้ยหยันไม่หยุด

“เคยได้ยินไหม?” อเล็กซานเดอร์เอ่ยขึ้นมา

“?”

“คนที่มันพูดมากๆมักจะตายตอนจบ”

“แก!” ราวถูกตบหน้าฉาดใหญ่ ฮิวโก้แทบเต้น ชี้หน้าหนุ่มรุ่นราวคราวลูกที่ยืนค้ำหัวและใช้ถ้อยคำจิกกัดจนเลือดซิบ

“อย่าคุยโอ่...อวดความโง่ของตัวเองนัก เพราะคนที่มันติดกับคือคุณต่างหากฮิวโก้”

จบประโยคโต้กลับของอเล็กซานเดอร์ ฮิวโก้ถึงได้เหลียวมองรอบกายอีกหน นอกจากคนของเฟอร์ริงตันจะเพิ่มขึ้นมายังมีตำรวจอีกส่วนหนึ่งเพิ่มมาด้วย ดวงตาชายสูงวัยเบิกโพลง เมื่อสถานการณ์กลับตาลปัตรอีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่สามารถหาหนทางรอดได้เลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ การมาถึงอย่างทันท่วงทีเพราะเฟอร์ริงตันติดต่อประสานงานให้มาจับกุมผู้ต้องหาที่เข้าไปขโมยข้อมูลบริษัทยังผลไปถึงการทำลายชื่อเสียงและทรัพย์สินที่สูญหาย ทางตำรวจไม่นึกด้วยซ้ำว่าเฟอร์ริงตันจะติดต่อมา เพราะคนพวกนี้ก็ใช่ว่าจะอยู่ในกฎหมาย ธุรกิจที่ทำอยู่แน่ใจได้แค่ไหนว่าสะอาดหมดจด ทั้งยังเป็นที่จับตามองของนายตำรวจน้ำดีอีกด้วย แต่เมื่อได้รับแจ้งพวกเขาก็ต้องมาทำตามหน้าที่

“ผมว่ามันมีเบื้องหลัง” เจฟฟรี่เอ่ยกับผู้เป็นนายขณะยืนมองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน

“หึ แน่ล่ะ คนอย่างตาแก่นั่นน่ะหรือจะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ได้เองโดยไม่มีคนหนุน”

“คุณคิดว่าเป็นเขาหรือ?” บอดีการ์ดหนุ่มย่นหัวคิ้วเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถามถึงสิ่งที่รู้ๆกันอยู่

“มันก็มีแค่หมอนั่นที่อยากกำจัดฉัน”

“คงต้องระวังตัวให้มากกว่านี้”

เจฟฟรี่ว่า พอเหลือบมองผู้เป็นนายก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคอ ดูเหมือนอเล็กซานเดอร์จะฟังที่เขาพูดแต่ก็เหมือนไม่ได้ฟังอยู่ในที เพราะสายตาของเจ้านายหนุ่มกำลังมองใครอีกคนอยู่ จ้องมองนิ่งจนนายตำรวจเจ้าของคดีเดินเข้ามาหาพร้อมบอดีการ์ดอีกหนึ่งนายของเฟอร์ริงตันที่พูดคุยกันอยู่เมื่อครู่ บอดีการ์ดที่เป็นที่ไว้วางใจให้ช่วยจัดการหลายๆเรื่อง อัลเบิร์ต คาร์ล

“จากนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเรานะครับ ขอบคุณมากที่คุณไม่บุ่มบ่ามทำอะไรลงไป”

นายตำรวจคนดังกล่าวยื่นมือมาตรงหน้า อเล็กซานเดอร์เพียงแค่มองโดยไม่คิดจะจับมันเพื่อสานไมตรีแต่อย่างใด จนคนยื่นไมตรีให้ถึงกับเก้อกระดากแล้วลดมือลง

“หมดธุระแล้วผมคงต้องขอตัว” เอ่ยบอกนายตำรวจแต่สายตากลับมองบอดีการ์ดของตนเป็นเชิงบังคับให้เดินตาม

“อ้อ ครับ” นายตำรวจหนุ่มพยักหน้ารับ

“หวังว่าคงเชื่อมือตำรวจอย่างพวกคุณได้”

คำพูดทิ้งท้ายเจ็บแสบไม่เบา ทำเอานายตำรวจหนุ่มถึงกับชะงักงัน ก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วถอนใจแรงๆ ถึงแม้ตอนนี้เฟอร์ริงตันจะให้ความร่วมมือทางด้านกฎหมาย แต่นั่นก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ลองไม่มีเรื่องพวกนี้มาเกี่ยวข้อง สองพ่อลูกที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้คงถูกปลิดชีวิตไปแล้ว ที่จริงทั้งตำรวจอย่างเขา และฮิวโก้กับลูกชายก็เป็นเพียงหมากในกระดานที่เฟอร์ริงตันวางไว้ล่อเหยื่อก็เท่านั้นเอง


“อ้อยอิ่ง”

อัลเบิร์ตที่ก้าวขึ้นรถมา ยังไม่ทันจะได้นั่งเต็มเบาะน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดก็ดังขึ้นมาจนเขาต้องชะงัก อยากถอนใจสักเฮือกแต่ถึงทำไปก็เท่านั้น รังแต่จะทำให้ถูกโกรธมากขึ้นไปอีก บอดีการ์ดหนุ่มจึงได้เพียงนั่งเงียบไม่อยากเปิดประเด็นให้รำคาญใจ อเล็กซานเดอร์ชอบหาเรื่องเขา ไม่สิ อาจไม่ได้ชอบหาเรื่องแต่เป็นนิสัยมากกว่า เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ดูจะขัดหูขัดตาคนๆนี้ไปเสียหมด ท่าทางคงเกลียดเขากระมัง เพราะไม่เห็นเป็นเช่นนี้กับบอดีการ์ดคนอื่นเลยสักคน


---------------------


ตึกสูงระฟ้าในค่ำคืนเดียวกันนั้น กระจกกั้นที่สามารถมองเห็นวิวยามค่ำคืนด้านนอกนั้นสะท้อนเงาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ลูกน้องของเขาเข้ามารายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเฟอร์ริงตันในวันนี้ มุมปากชายหนุ่มกระตุกด้วยความโกรธเกรี้ยว แก้วไวน์ชั้นดีในมือถูกหมุนเบาๆ เครื่องดื่มสีแดงเข้มในแก้วถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากแล้วสาดลงคอในครั้งเดียว ก่อนที่แก้วใบนั้นจะถูกเหวี่ยงไปกระทบพื้นห้องจนแตกกระจาย

มือหนากำหมัดเกร็งแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ร่างกายเขาสั่นเทิ้มด้วยความแค้นที่แน่นในอก แววอาฆาตมาดร้ายฉายชัดในดวงตา พร้อมเปล่งถ้อยคำปรามาส

“คนอย่างแกรอดไปได้อีกไม่นานหรอก อเล็กซานเดอร์!!”


--------------------


เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์อเล็กซานเดอร์ก็เข้าไปคุยกับผู้เป็นบิดาถึงเรื่องคดีความในวันนี้ที่ตนเองลงไปจัดการ วิคเตอร์แสยะยิ้มกับคำรายงานของลูกชาย เขารู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นฝีมือใคร อเล็กซานเดอร์เองก็คงเดาได้ ชายสูงวัยมองผู้เป็นลูกก่อนเอ่ยเสียงเย็น

“ถ้ายังไม่เบื่อก็เล่นกับทางนั้นไปก่อนแล้วกันนะอเล็กซ์” มุมปากตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ยกยิ้มหยัน ก่อนที่ผู้เป็นลูกจะออกจากห้องไปวิคเตอร์ก็ยังไม่วายสั่งเรื่องสำคัญ

“อ้อ อเล็กซ์... อย่ายุ่งจนลืมหนูเกวนไปเสียล่ะเจ้าลูกชาย”

อเล็กซานเดอร์ลอบถอนใจกับเรื่องดังกล่าว เกวนอีกแล้วหรือ บิดาของเขาหมายมั่นปั้นมือเหลือเกินที่จะดองกับเจฟเฟอร์สัน โดยการดึงบุตรสาวคนเดียวของทางนั้นเข้ามาพัวพัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จำต้องตอบรับไปอย่างเสียไม่ได้ อารมณ์ที่กรุ่นมาจากข้างนอกยิ่งคุกรุ่นมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเจอเรื่องยุ่งยากใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาสั่ง แม้แต่ผู้เป็นบิดาก็ตาม

ชายหนุ่มออกจากห้องของบิดามาด้วยใบหน้าถมึงทึงจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ สายตาปรายมองผู้หญิงของบิดาที่กรีดกรายผ่านเขาไป สายตาที่เจ้าหล่อนส่งมาให้เขาถูกตอบกลับด้วยความเฉยชา วันนี้มีแต่เรื่องกวนใจ

เมื่อเข้ามาในห้องอัลเบิร์ตก็เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขาอาบแล้ว อเล็กซานเดอร์เหวี่ยงเสื้อที่ตนเองถอดออกทิ้งไว้แถวนั้นด้วยความหงุดหงิด อัลเบิร์ตเป็นคนตามเก็บให้ เขาทำมันจนชินแล้ว ไม่รู้ว่าที่จริงเขาเป็นบอดีการ์ดหรือพ่อบ้านกันแน่

“อัล”

เสียงเรียกจากในห้องน้ำดังมา เจ้าของชื่อขานรับแล้วจึงก้าวเข้าไปในห้องน้ำกว้าง อเล็กซานเดอร์ที่มีเพียงผ้าขนหนูพันเอวไว้หลวมๆมองมาที่บอดีการ์ดของตน ความหงุดหงิดไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

“น้ำไม่ร้อน”

อัลเบิร์ตเลิกคิ้วเมื่อได้ฟังปัญหา ก่อนเขาออกไปมันยังร้อนอยู่เลย กะว่าพออเล็กซานเดอร์เข้ามาแช่มันก็คงจะอุ่นพอดี ไม่ร้อนจนเกินไปนัก อัลเบิร์ตโน้มตัวลง เอื้อมมือจะสัมผัสวัดอุณหภูมิน้ำในอ่างอาบน้ำแต่กลับถูกอีกคนผลักลงไปในอ่างขนาดใหญ่นั่นจนเปียกซ่ก

อเล็กซานเดอร์มองบอดีการ์ดหนุ่มที่เปียกปอนเพราะฝีมือตนเองแล้วจึงก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำ ปลดผ้าขนหนูโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดีสักนิด อัลเบิร์ตก้มหน้ามองต่ำ ขยับจะลุกขึ้นแต่โดนกดไหล่เอาไว้

“ก็บอกว่ามันไม่ร้อน” อเล็กซานเดอร์กดเสียงราวคำรามในลำคอ

“ผมก็จะช่วยเปลี่ยนให้ใหม่นี่ไงครับ”

“จะให้ฉันรออีกหรือ?”

“อึ่ก...”

อัลเบิร์ตสะอึกเมื่อมือหนาขยุ้มผมเขาแล้วกระตุกเบาๆให้แหงนขึ้นมา ก่อนที่คำสั่งไร้ซึ่งเหตุและผลจะดังลอดจากริมฝีปากหยักลึก

“ฉันต้องการ-เดี๋ยว-นี้!”

น้ำเสียงกดต่ำ ทั้งร่างกายสูงใหญ่ที่โน้มลงหา รู้ทั้งรู้ว่าต้องเจอแบบนี้แต่อัลเบิร์ตก็หมดทางหนี แม้พยายามหาทางเลี่ยงก็ยังยากจนเกินไปกับความสัมพันธ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ไม่ใช่คนรัก เป็นเพียงนายกับลูกน้อง แต่ความสัมพันธ์ที่มีกลับเกินเลย ไม่มีจิตใจผูกสมัครรักใคร่ ไม่มีความรัก ไม่มีเลย...




โปรดติดตามตอนต่อไป


อัพตามสัญญาค่ะ ฉลอง 200 ไลค์ ทีแรกกะว่าสักปีหน้าค่อยเปิดเรื่อง แต่พอเวลามันมีเยอะก็ทำตัวชิลล์เหลือเกิน ฮึ่ก  :hao5:

เรื่องนี้ขออัพสัปดาห์ละครั้งนะคะ เพราะฉะนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์พบกันค่ะ จุ๊บ :mew1:

ชื่อวันใหม่นะคะ เป็นน้องใหม่ของบอร์ดนี้(เหรอ) ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยค่ะ :-[
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2014 11:06:04 โดย wanmai »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เราเคยเจอกันแล้วนี่นาใช่ป่าว เอามาลงใหม่เหรอคะ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
กีสสสสสสสสสสส เฮียอเล็กซ์มาแว้วววววววววววววว
 :hao7:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ขอบคุณที่มาลงให้ก่อนเวลาที่เคยบอกไว้  :mc4:
รออ่านจนถึงตอนที่เคยอ่านค่ะน้องใหม่ ^^
ยังสนุกเหมือนเดิม ชอบๆ / ลงให้จบนะคะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ   :กอด1:

ออฟไลน์ heangsure

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เฮ้ สวัสดีค่ะ

ยินดีที่มาเปิดเรื่องใหม่ (ใหม่จริงๆเหรออออ อิอิ)

รอติดตามนะคะ น้องอัลผู้น่าสงสาร อิชั้นจะเป็นกองเชียร์ต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
เรื่องใหม่อะ น่าติดตามมากกคะ
เจ้านายเเอบเป็น เอส อะป่าวคะเนี่ย
หนูอัลบอร์ดิการ์แบบหนูทำหน้าที่พิเศษงคะเลยไม่เหมือนคนอื่น อิอิ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
อเล็กซ์ รัก อัล แต่ก็ต้องหักห้ามใจ จะมีความรักไม่ได้
แต่ก็ละสายตาไปจากอัลไม่ได้ ต้องการให้อัลมาอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา
แสดงออกแต่ด้านร้ายกาจใส่อัล ทำเหมือนต้องการแค่ร่างกาย
สงสารอัลจัง  :monkeysad: แล้วอย่างนี้ จะรักกันได้ยังไงนะ
เอาใจช่วยน้องอัล ขอบคุณนะคะ :L2: :3123:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เรื่องนี้เคยลงแล้วไม่ใช่เหรอ

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
โอ้ว มาแล้วเหรอใหม่ สมกับที่ไม่ได้นอน 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
มารอด้วยคนค่ะ :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
เรื่องนี้กลับมาแล้ว  +1 +เป็ด :mc4:

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ตามมาสงสารอัล อิอิ

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ดีใจมากๆที่จะได้อ่านคู่นี้ ยังติดใจไม่หาย จากเล่ห์พรางรัก
ขอบคุณๆวันใหม่ที่นำมาลงได้ทันใจคนอ่าน ไม่ต้องรอกันปีหน้า
//ขอพลังดราม่าจงสถิต อิอิ

ออฟไลน์ ikoolpaul

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตามมาจากเรื่องของอลัน
ฮื่ออออ อิตาอเล็กนี่มันยังไง
รักเค้าชอบเค้า แต่ทำร้ายเค้า
เดี๋ยวแม่ปั๊ด!!! 5555
ติดตามอยู่นะคะ คุณนักเขียน > <
สู้ๆค่ะ!!

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มาจิ้มรอนะวันใหม่ 

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
หัวใจซ่อนรัก
ตอนที่ ๑ ซ่อนรักใต้เงาร้าย



หลายปีก่อน ณ คฤหาสน์เฟอร์ริงตัน

มิลเลอร์ คาร์ล พ่อบ้านประจำคฤหาสน์ได้พาหลานชายมาฝากฝังกับผู้เป็นนาย เด็กชายอัลเบิร์ตในวัย 13 แหงนเงยมองความยิ่งใหญ่ของสถานที่ที่ตนเองได้ย่างก้าวเข้ามาด้วยความตื่นตา เสียงของผู้เป็นลุงเอ่ยเรียกให้รีบเดินตามทำให้ตัวผอมโย่งต้องออกก้าวเดินให้ทัน เขาถูกพาเข้ามายังตัวคฤหาสน์ ภายในห้องโถงใหญ่ที่ไม่ว่าหันไปมองทางไหนก็มีแต่ความหรูหราซึ่งบ้านเขาเทียบไม่ติดสักน้อยนิด บนเก้าอี้ยาวฉะลุเนื้อไม้เป็นลวดลายอย่างดี ชายคนหนึ่งพร้อมลูกชายนั่งอยู่ที่ตรงนั้น ดวงตาสีฟ้าของเด็กชายคนดังกล่าวต่างจากผู้เป็นบิดามองมาที่อัลเบิร์ตนิ่ง ไม่มีคำพูดแต่มันกลับทำให้เด็กชายอัลเบิร์ตรู้สึกกดดันยิ่งกว่าอะไร เขาไม่กล้าแม้จะขยับตัวด้วยกลัวจะไม่เป็นที่ถูกใจ

มิลเลอร์แนะนำเจ้านายของตนให้หลานชายได้รู้จักและเข้าไปฝากตัว ครอบครัวของเขาค่อนข้างยากจนจึงต้องรอนแรมมาไกลถึงในเมืองใหญ่อย่างลอนดอน การศึกษาที่มีไม่เท่าคนอื่นทำให้มิลเลอร์ถูกนายจ้างโกงอยู่บ่อยครั้งจนได้มาพบกับคนของเฟอร์ริงตันและได้ทำงานที่นี่ ทำอยู่นานหลายปีจนรู้เรื่องราวของคนในคฤหาสน์นี้เป็นอย่างดีเพราะเป็นที่ไว้วางใจ วันนี้เขาจึงได้ขออนุญาตพาหลานชายมา หวังอย่างยิ่งว่าอัลเบิร์ตจะได้รับความเอ็นดูและให้การศึกษาที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งวิคเตอร์ก็ไม่ได้ทำให้ความคาดหวังนั้นผิดไป ซ้ำยังเกินกว่าที่มิลเลอร์หวังเสียอีก เพราะอัลเบิร์ตได้เข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกับอเล็กซานเดอร์ บุตรชายของผู้เป็นนายอย่างวิคเตอร์เลยทีเดียว

ตั้งแต่แรกที่เจอกันอเล็กซานเดอร์ก็ไม่ค่อยได้พูดกับอัลเบิร์ต ทำให้หลานพ่อบ้านหงอเสียยิ่งกว่าหงอเพราะไม่รู้จักอีกฝ่ายดีพอ ไม่รู้ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร มันพาลกลัวไปเสียทุกอย่าง แม้ตัวเขาจะไม่ได้เล็กจ้อย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอเล็กซานเดอร์มันยิ่งกว่าเล็กจิ๋ว

ช่วงนั้นเองที่วิคเตอร์มีภรรยาสาวสวยสดเพิ่มเข้ามาในบ้าน อเล็กซานเดอร์ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไร ก่อนนี้บิดาของเขาก็มีหญิงสาวมากมายรายล้อม จะยกใครออกหน้าออกตาสักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา แค่ต่างคนต่างอยู่ ไม่เข้ามาวุ่นวาย แต่นั่นดูเหมือนเขาจะหวังมากไป เพราะเธอคนนี้ นาตาเซีย ผู้หญิงคนใหม่ของบิดา ดูเหมือนเธอจะเล็งเขาเอาไว้ตั้งแต่แรกที่พบกัน

มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับอเล็กซานเดอร์ที่จะมีใครมาหมายตา แต่นาตาเซียที่ถูกบิดายกให้เป็นภรรยา แม้ไม่ใช่ทางนิตินัยเหมือนเช่นมารดาของเขาและมารดาของอลัน แต่ก็ถือว่าเป็นแม่เลี้ยงที่เขาไม่เต็มใจคนหนึ่ง การเข้ามายุ่งวุ่นวายกับลูกเลี้ยงอย่างเขาเกินจำเป็นมันใช่เรื่องดีที่ไหน เพื่อตัดปัญหาทำให้น้อยครั้งนักที่อเล็กซานเดอร์จะกลับมาที่คฤหาสน์ เมื่อเข้ามัธยมปลายเขาก็ไปพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมอย่างถาวรมันเสียเลย โดยมีเจ้าหลานพ่อบ้านหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมติดตามมาเป็นลูกไล่

อเล็กซานเดอร์มักออกเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนแทบทุกคืน บอดีการ์ดต้องทำงานหนักโดยใช่เหตุเพราะเขา แต่มีหรือที่เขาจะต้องสนใจ หน้าที่ใคร ใครคนนั้นก็ทำไป มันเป็นเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่เจ้าหลานพ่อบ้านจะมาอยู่กับเขาเสียอีก เขาไม่มีทางจะเปลี่ยนแปลงมัน ไม่มีทาง

นาฬิกาบอกเวลาล่วงเข้าสู่หนึ่งนาฬิกาของวันใหม่ หลานพ่อบ้านที่รออยู่ที่ห้องก็ชะเง้อแล้วชะเง้ออีก ลูกชายเจ้านายของลุงกลับดึกทุกคืน เขาอดห่วงไม่ได้จนต้องอยู่รอ หน้าที่เขาคือดูแลอเล็กซานเดอร์ คุณวิคเตอร์ท่านฝากฝังมาเขาจึงต้องทำมันให้ดี แม้อีกฝ่ายจะไม่อยากได้รับการดูแลจากเขาก็ตาม รออยู่นานจนแทบหลับคนที่เขารอก็เปิดประตูเดินโซซัดโซเซเข้ามาในห้อง เตะร้องเท้าทิ้งไปคนละทางก่อนมาล้มตัวลงนั่งแหมะบนโซฟาตัวที่อัลเบิร์ตนั่งอยู่เมื่อครู่ มองสภาพแล้วท่าจะไม่ไหว อัลเบิร์ตจึงได้ไปหาอะไรมาให้กินพร้อมผ้าเย็นสำหรับเช็ดหน้าเผื่อดีขึ้น

“อเล็กซานเดอร์ ดื่มน้ำหน่อยจะได้รู้สึกดีขึ้น”

อัลเบิร์ตถือแก้วน้ำมาให้แต่อีกฝ่ายไม่ยอมดื่ม มือไม้ป่ายปัดจนน้ำจะหก เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจวางแก้วไว้บนโต๊ะก่อนไปค้นตู้เย็น เมื่อเห็นสิ่งที่ตนเองต้องการริมฝีปากก็ยกยิ้ม มะนาวลูกโตถูกนำมาผ่าแล้วบีบเอาแต่น้ำใส่ในแก้วเล็กๆ อัลเบิร์ตมองผลงานของตนเองแล้วหัวเราะเบาๆ

แก้วน้ำมะนาวเข้มข้นถูกนำมาให้อเล็กซานเดอร์ แน่ล่ะว่าอเล็กซานเดอร์ไม่มีทางดื่มมันแน่ อัลเบิร์ตจึงจัดการจับกรอกปากอีกฝ่ายเสียเลย อเล็กซานเดอร์ตาเหลือก ร้องโวยวายแล้วไอแค่ก อัลเบิร์ตคว้าแก้วน้ำมาให้ดื่ม แต่มือหนาปัดแก้วทิ้งแล้วคว้าคอเขาไปหา ประกบปากลงมารวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ลิ้นสากกวาดตวัดปาดไล้ลิ้นของเขาทำให้รู้รสเปรี้ยวจากปากของอีกฝ่ายไปด้วย อัลเบิร์ตพยายามดันตัวอีกฝ่ายออกห่าง แต่คนเมากลับยิ่งกดแรงกว่าเดิมจนเขาหงายลงไปนอนบนโซฟา มีผู้ชายตัวโตๆทาบทับไม่ให้ดิ้นหนี

“เปรี้ยว อเล็กซ์... มันเปรี้ยว…!” เอ่ยประท้วงตะกุกตะกัก พยายามเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากที่ยังคงตามติดไม่เลิก

“เปรี้ยวที่ไหน หวานจะตาย ไม่งั้นนายจะเอามันมากรอกปากฉันเรอะ!” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแค้นจัด น้ำมะนาวที่เหลือในแก้วจึงถูกเทกรอกปากตัวเองแล้วประกบปากอัลเบิร์ตอีกรอบ

“อื้อ อะ...”

ริมฝีปากหยักบดเบียดเข้าหาไม่ให้คำประท้วงใดหลุดรอดออกมาได้ จากแค่แกล้งกลับกลายเป็นจูบอย่างจริงจังไปตอนไหนไม่รู้ รสจูบแสนประหลาด เปรี้ยวเข็ดฟันแต่ก็ยังอยากจูบ อัลเบิร์ตขยุ้มกำเสื้อของอีกคนแน่น รู้สึกแปลกไปหมดกับสัมผัสที่ได้รับ อเล็กซานเดอร์ค่อยถอนจูบช้าๆ มองเจ้าเด็กโย่งที่นอนหอบแล้วก้มลงไปขบปลายคางเบาๆ

“รสชาติห่วยชะมัด”

เสียงทุ้มออกจะแปร่งเล็กน้อยเอ่ยลอดไรฟันขณะก้มลงจูบต้นคอของคนใต้ร่าง อัลเบิร์ตสะดุ้งเฮือก ดันตัวอเล็กซานเดอร์ออกสุดแรงด้วยความตกใจ ดวงตาฉายแววตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

“ทำหน้าตาตื่นอะไร นึกว่าตัวเองเป็นสาวน้อยเรอะ?”

อเล็กซานเดอร์ดีดหน้าผากเจ้าหลานพ่อบ้านหน้าตื่น ก่อนขยับลุกเดินโซเซเข้าห้องตนเองไป อัลเบิร์ตกะพริบตาปริบ รีบลุกพรวดแล้ววิ่งเข้าห้องของตัวเองเช่นกัน

เช้าวันต่อมาอัลเบิร์ตก็ยังคงทำอาหารเช้าให้อีกคนตามปรกติ อเล็กซานเดอร์เปิดประตูออกจากห้องนอนมาเห็นเจ้าหลานพ่อบ้านทำอะไรกุกๆกักๆอยู่ในครัว ร่างสูงใหญ่จึงก้าวเข้าไปหาแล้วหยุดยืนอยู่ด้านหลัง

“หิว”

เสียงออกจะแหบเล็กน้อยเอ่ยบอก อัลเบิร์ตชะงักมือกับเสียงที่ดังขึ้นด้านหลัง คงเพิ่งตื่นนอนกระมัง กลิ่นสบู่อ่อนๆหลังอาบน้ำทำให้ใจเด็กหนุ่มเต้นผิดจังหวะ “รอก่อนครับ กำลังจะเสร็จแล้ว...”

คนถูกบอกให้รอเอื้อมมือข้ามไหล่มาหยิบของกิน อัลเบิร์ตสะดุ้ง ยืนนิ่งอยู่ท่าเดิมรอให้อีกฝ่ายผละไป ลมหายใจอุ่นๆที่รินรดต้นคอนั่นยิ่งทำให้อัลเบิร์ตไม่กล้าขยับ อดใจเต้นตุ้มๆต่อมๆไม่ได้ถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ใกล้ชิดขนาดนี้ก็ตาม

อเล็กซานเดอร์มองเจ้าหลานพ่อบ้านที่ยืนตัวแข็งทื่อแล้วยกยิ้มมุมปาก ก้มลงไปใกล้แล้วกดริมฝีปากกับท้ายทอยจนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง หันมามองเขาหน้าตาตื่น

“หิวแล้ว รีบๆล่ะ”

หัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนผละออกไปรอที่หน้าโทรทัศน์ เปิดข่าวช่วงเช้าดูไปเรื่อย เหลียวกลับมามองคนที่กำลังจัดเตรียมอาหารไปวางบนโต๊ะทานข้าวแต่ไม่ได้พูดอะไร ทุกอย่างเป็นไปแบบเดิมๆราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย


------------------


“อเล็กซ์”

อเล็กซานเดอร์หันมาตามเสียงเรียกของเพื่อนในกลุ่ม ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงเรียน และเจ้าหลานพ่อบ้านนั่นก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน แค่นึกถึงก็พาลหงุดหงิดขึ้นมา ถึงจะบอกย้ำกับตนเองว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขากลับจำได้ไม่ลืมเสียนี่ว่าคืนนั้นเขาทำอะไรกับมันบ้าง เมื่อเช้านี้ก็ด้วย แย่ชะมัด

“เจ้าเด็กโย่งนั่นใคร ฉันเห็นมันตามนายต้อยๆ”

เพื่อนของเขาพยักพเยิด อเล็กซานเดอร์เหลือบมองเจ้าเด็กโย่งที่เพื่อนเอ่ยถึง เดาะลิ้นเบาๆกับท่าทีเจี๋ยมเจี้ยมของมัน เลิกเรียนเจ้าหลานพ่อบ้านก็มายืนรอกลับห้องพร้อมเขา จะไปไหนมาไหนก็พลอยไม่ได้ไปจนหงุดหงิดอยู่แบบนี้

“สนใจหรือไง?”

คำถามของอเล็กซานเดอร์ทำให้เพื่อนตาวาว เด็กหนุ่มทำเสียงหยันในลำคอ ไม่เคยเก็บหางให้พ้นตาคนเขาเสียบ้างเจ้าพวกนี้

“หน้าตามันดูซื่อๆดี... ขอได้ไหมล่ะ?”

สายตาคมปลาบตวัดมองคนพูดจนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก หลังจากนั้นถึงค่อยยิ้มออกเมื่ออเล็กซานเดอร์บอก

“เอาไปสิ ฉันยกให้... คิดว่าฉันจะพูดแบบนั้นหรือไง?”

รอยยิ้มที่มีหุบฉับ สีหน้าเพื่อนไม่สบอารมณ์เท่าที่ควร

“อยากได้มากหรือไง?” อเล็กซานเดอร์ยังเอ่ยถาม

“อย่าถามเลยถ้านายไม่ให้”

“หึ” เด็กหนุ่มยกยิ้มมุมปากขณะลุกขึ้นยืน สายตามองเจ้าหลานพ่อบ้านที่ยืนกระสับกระส่ายรอเขาอยู่ไม่ไกล

“ขอโทษที คนนี้ยกให้ไม่ได้”

ว่าแล้วอเล็กซานเดอร์ก็ออกเดิน เพื่อนในกลุ่มส่ายหน้าเซ็งอารมณ์ ของที่พวกเขาอยากได้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอามาให้ได้ แต่หากของชิ้นนั้นมันมีเจ้าของเป็นของอเล็กซานเดอร์ เฟอร์ริงตันแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะอยากได้แค่ไหนก็ต้องตัดใจ พวกเขาไม่คิดอยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนขนาดนั้น เพราะรู้ดีว่าของๆอเล็กซานเดอร์ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตใครก็ห้ามแตะ

อัลเบิร์ตมองคนที่เดินมาหาด้วยความดีใจ เขาไม่กล้าเข้าไปตามเพราะกลุ่มของอเล็กซานเดอร์มันคนละระดับกับเขา แถมแต่ละคนยังมีรังสีความไม่น่าไว้ใจแผ่ออกมาจนรู้สึกได้อีกด้วย

“ยืนเซ่ออยู่ทำไม?”

ความดีใจเมื่อครู่หายวับไปกับตา มาถึงก็ดุเขาเลยอเล็กซานเดอร์นี่

“จะกลับไม่กลับ?”

น้ำเสียงหงุดหงิดเร่งมา อัลเบิร์ตรีบวิ่งตามให้ทัน เขาไม่อยากถูกทิ้งไว้ที่นี่แล้วหารถกลับห้องเองหรอก อเล็กซานเดอร์ชอบทำแบบนั้น นึกจะไปไหนก็ไปเหมือนไม่ได้อยู่ด้วยกันกระนั้น

“คุณอเล็กซ์อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ผมจะได้ซื้อกลับห้องด้วย” เมื่อขึ้นมานั่งด้วยกันบนรถอัลเบิร์ตก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ ปรกติอาหารแต่ละมื้อเขาคิดเองทำเอง ไม่รู้ว่าอเล็กซานเดอร์ชอบมันไหม

“อย่าทำตัวเหมือนแม่ ฉันไม่ชอบ”

อัลเบิร์ตสะอึกกับคำพูดเรียบๆแต่เหน็บเขาโดยตรงนั้น จากที่ทำใจกล้าเอ่ยถามออกไปตอนนี้ใจดวงน้อยมันห่อเหี่ยวจนพาให้ตัวเล็กลีบ ขยับออกห่างอเล็กซานเดอร์อย่างไม่ตั้งใจ ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองด้วยหางตา ท่าทีของเจ้าเด็กโย่งมันพาให้เขาอยากเตะส่งมันลงจากรถ

“ถ้าขยับออกไปอีกนิดเดียว ฉันจะให้นายเดินกลับเอง”

ตัวสูงโย่งชะงัก นั่งนิ่งๆไม่พูดไม่จาตลอดทาง อเล็กซานเดอร์เดาะลิ้นขัดใจ ทำเหมือนเขาเป็นยักษ์เป็นมาร พูดอะไรนิดๆหน่อยๆก็กลัวหัวหด ชิ!

การใช้ชีวิตใต้ชายคาเดียวกันของสองหนุ่มก็ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ อเล็กซานเดอร์ก็ยังขยันไปเที่ยวราตรี ปล่อยให้อัลเบิร์ตอยู่เฝ้าห้องไปอย่างนั้น แต่ละวันทักทายกันแทบนับได้ การเป็นฝ่ายเริ่มต้นเข้าหาของอัลเบิร์ตในวันนั้นแต่ถูกตอกกลับด้วยความเย็นชา อัลเบิร์ตก็ไม่กล้าที่จะทำอีก กลัวจะเป็นการตีตนเสมอนาย ต่อให้นั่งทานอาหารเช้าด้วยกันพวกเขาก็ยังแทบจะไม่พูดอะไรกันเลย ช่างเป็นการอยู่ร่วมกันที่ประหลาดดีแท้

ทุกครั้งที่อัลเบิร์ตมารอกลับห้องพร้อมอเล็กซานเดอร์ สายตาแปลกประหลาดจากกลุ่มเพื่อนของอเล็กซานเดอร์ก็มักทำให้อัลเบิร์ตแขยง เขาไม่รู้จุดมุ่งหมายของคนพวกนั้น และไม่อยากจะรู้ จนกระทั่งคืนหนึ่งที่อเล็กซานเดอร์ออกท่องราตรี มันเป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง แม้จะรู้ว่ามันเป็นเช่นนั้นอัลเบิร์ตที่รอจนติดเป็นนิสัยก็ยังคงนั่งรออยู่ทุกคืน คล้อยหลัง กลุ่มเพื่อนของอเล็กซานเดอร์ก็มาที่ห้อง อัลเบิร์ตเปิดประตูออกมาด้วยความมึนงง บอกกับพวกเขาว่าอเล็กซานเดอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ คนกลุ่มนั้นกลับยกยิ้มแสยะ ดูเหมือนเป้าหมายของพวกเขาจะไม่ใช่อเล็กซานเดอร์...


-------------------


อเล็กซานเดอร์กลับจากข้างนอกในเวลาเพียงไม่นาน คลับที่เขาเคยไปแล้วสนุกสุดเหวี่ยงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เดี๋ยวนี้มันกลับกร่อยสิ้นดี ไม่ใช่เพราะคลับแห่งนั้นด้อยคุณภาพ สถานที่มันไม่ได้เปลี่ยน สิ่งที่เปลี่ยนคือใจของเขาต่างหาก แค่คิดว่ามีคนรออยู่ที่ห้องก็พาลหมดอารมณ์เที่ยวแล้ว

เมื่อกลับมาถึงห้องพัก เปิดประตูเข้ามาด้านในแล้วอเล็กซานเดอร์ก็ชะงัก ความเย็นเยียบแล่นปราดไปทั่วทั้งประสาทรับรู้ ขายาวก้าวเร็วไปที่ห้องอัลเบิร์ต ประตูถูกกระชากเปิดรุนแรง สายตาคมกวาดมองไม่พบแม้แต่เงาเจ้าของห้อง อเล็กซานเดอร์เรียกบอดีการ์ดมาถามถึงได้ความว่าอัลเบิร์ตถูกเพื่อนของเขาพาออกไปตอนที่เขาไม่อยู่ เห็นทางนั้นบอกว่าเขาเป็นคนให้มารับ ยิ่งได้ฟังความโกรธยิ่งแล่นริ้ว ดวงตาวาวโรจน์โกรธเกรี้ยว พวกมันคิดจะท้าทายเขา!

ไม่รอช้า อเล็กซานเดอร์ตามไปถึงที่ เขารู้ดีว่าพวกมันชอบสุมหัวกันที่ไหน ทั้งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายคนพวกนั้นมีไว้ในครอบครองแทบทุกสิ่ง ถ้าไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันเขาไม่คบให้เสียเวลา ห้องชุดของหนึ่งในนั้นคือที่ซ่องสุมชั้นดี เพราะระบบตรวจสอบคนนอกที่ค่อนข้างเข้มงวด ทำให้เป็นที่ที่ปลอดภัยจากจมูกตำรวจ อเล็กซานเดอร์ที่เคยเข้าออกที่นี่มาหลายหน เป็นเรื่องไม่ยากนักที่จะเข้าไปด้านในพร้อมบอดีการ์ดอีกสองนาย เขาคือทายาทเฟอร์ริงตัน การพกบอดีการ์ดติดตัวไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับที่นี่มันก็ต้องมีลูกไม้กันบ้าง

เมื่อมาถึงอเล็กซานเดอร์ก็ไม่คิดจะรอช้าให้เสียเวลาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ บานประตูถูกบอดีการ์ดของเขาจัดการลงจนราบ เพียงก้าวเข้าไปในห้องอเล็กซานเดอร์ก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ภาพที่เห็นทำเอาเขาแทบเก็บอารมณ์ไม่อยู่ บนพื้นห้องนั่นอัลเบิร์ตถูกจับขึง ผู้ชายวัยกำดัดรุมล้อมแทบมองไม่เห็น มีเพียงขาเปลือยที่ถูกจับยึดโผล่มา กับสภาพเพื่อนของเขาที่กึ่งเปลือยท่อนล่าง พวกมันมองมาที่เขาด้วยความตื่นตะลึง อเล็กซานเดอร์กำหมัดแน่น จุกไปทั้งอกเมื่อพวกมันผละออกห่างทำให้มองเห็นอัลเบิร์ตในสภาพบอบช้ำ ใบหน้าและริมฝีปากแตกจนเลือดซึม น้ำตาของอีกฝ่ายไหลพรากขณะมองมาที่เขาอย่างขอความช่วยเหลือ

“อเล็กซ์…” หนึ่งในนั้นเอ่ยเรียกเสียงสั่น รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ

สายตาอเล็กซานเดอร์ยังคงจับจ้องอัลเบิร์ตที่หอบหายใจสะท้อน ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่หายใจ ทุกคนภายในห้องกำลังหวาดหวั่นกับสถานการณ์ เหมือนอเล็กซานเดอร์จะไม่สนใจพวกเขา แต่ที่จริงแล้วพวกเขารู้ดีว่าเพียงขยับตัว ดวงตาสีฟ้านั่นหันมาเล่นงานพวกเขาแน่

“อเล็กซ์ ฉันอธิบายได้ คือ…” ชายคนเดิมพยายามจะแก้ตัวในสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่อเล็กซานเดอร์มีหรือจะฟัง “อเล็กซ์…”

ผลัวะ!!

หมัดแรกถูกส่งออกไปสุดแรงจนเพื่อนคนนั้นเซลงไปกอง อเล็กซานเดอร์ตามไปกระชากคอมันกลับมากระหน่ำทั้งหมัดทั้งเท้า ก่อนที่จะยกเท้าเหยียบใจกลางร่างของมันจนร้องโอดโอย ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลตอนนี้กลับกลายเป็นสีฟ้าหม่น พวกที่เหลือลนลานใส่กางเกง หมายจะเอาอาวุธเข้าไปช่วยเพื่อนที่ถูกยำ แต่บอดีการ์ดของอเล็กซานเดอร์กลับทำให้พวกเขาชะงักกึก เมื่อปลายกระบอกปืนถูกเล็งมาเพียงแค่เห็นพวกเขาขยับตัว สีหน้าสองบอดีการ์ดดูเรียบเฉยจนเดาอารมณ์ไม่ถูก พวกเขาไม่อยากเสี่ยงแลก ได้แต่มองเพื่อนอีกคนนอนตัวบิดตัวงออยู่ที่พื้น และลำดับต่อไปคงเป็นพวกเขาเองที่กลายเป็นกระสอบทรายให้อเล็กซานเดอร์ซ้อม

อัลเบิร์ตพยายามยกศีรษะขึ้นมามองด้วยสายตาพร่ามัว ความไม่ชัดเจนนั้นทำให้เขาเห็นเพียงอเล็กซานเดอร์เลือนรางและเสียงโอดโอยที่ดังมาไม่ขาดระยะ

“อเล็ก...ซ์...”

เสียงผะแผ่วที่ดังแทบไม่พ้นคอเอ่ยเรียก แต่อเล็กซานเดอร์คงไม่มีทางได้ยิน เขาอยากเรียกให้ดังกว่านี้ แต่มันเจ็บร้าวไปทั้งตัวเหมือนสติจะหลุดลอย ก่อนที่สติรับรู้จะหมดไปอ้อมแขนแข็งแรงของใครบางคนเข้ามาโอบประคองเขา ในความพร่าเลือนนั้นเขาเห็นคนๆนั้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เขาพยายามยกมือขึ้นมา แต่มันก็ตกลงข้างตัวเมื่อแรงที่เหลืออยู่หมดลงไป


---------------


อัลเบิร์ตฟื้นมาอีกครั้งก็อยู่ที่ห้องของอเล็กซานเดอร์ในคฤหาสน์เฟอร์ริงตันแล้ว เด็กหนุ่มที่ยังสะลึมสะลือมองรอบด้านงงๆ พ่อบ้านมิลเลอร์เข้ามาดูอาการหลานชาย นำอาหารและยามาให้ ทั้งยังวัดไข้และทำแผลให้หลานด้วยตนเอง อัลเบิร์ตมองผู้เป็นลุงที่ลงมือทำแผลให้เขา ภายในห้องมีแต่ความเงียบ ลุงไม่ได้พูดอะไรและเขาก็ไม่กล้าถาม เพราะรู้สึกได้ว่าลุงของเขาเครียดเอามากๆ

เด็กหนุ่มค่อยเอื้อมไปแตะมือของผู้เป็นลุงที่ทำแผลที่ต้นขาให้เขา พ่อบ้านมิลเลอร์ชะงัก รู้สึกเจ็บในอกจนไม่กล้าจะเงยมองหน้าของหลานชาย กลัวแววตาของเขาจะแสดงความสงสารเวทนาออกมาทำให้หลานชายของเขารู้สึกย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม

ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา พ่อบ้านมิลเลอร์ขยับลุกอย่างรู้หน้าที่ อเล็กซานเดอร์เดินเข้ามาหาสองลุงหลาน มิลเลอร์จึงเอ่ยขอตัว ก่อนไปยังกำชับให้อัลเบิร์ตอย่าลืมทานยา เมื่อเด็กหนุ่มรับคำแล้วผู้เป็นลุงจึงออกจากห้องไป

อเล็กซานเดอร์ค่อยนั่งลงบนเตียงข้างอัลเบิร์ต มองสภาพคนเจ็บอยู่นานโดยไม่พูดอะไร มือใหญ่เอื้อมมาหา อัลเบิร์ตเบี่ยงหน้าหลบอย่างไม่ตั้งใจ มือนั้นชะงักพลอยทำให้เขาชะงักไปด้วย ก่อนจะหยุดอยู่นิ่งๆเมื่อเห็นแววบางอย่างในดวงตาสีฟ้านั่น

“ฉัน...”

เพียงเอ่ยคำแรกก็พูดต่อแทบไม่ออก อเล็กซานเดอร์แตะแก้มของอีกฝ่ายแผ่วเบาราวกลัวว่ามันจะช้ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่

“ฉันไปทันหรือเปล่า ไปทัน... ใช่ไหม?”

ดวงตาสีเข้มเฉหลบ แค่นึกถึงมันขึ้นมาอัลเบิร์ตก็หายใจติดขัด “พวกเขาบอกว่าคุณยกผมให้พวกเขา”

ลำคอแห้งผากเมื่อเอ่ยถึงสิ่งที่ได้ยินมา ถ้อยคำหยามหยาบเย้ยหยัน เสียงหัวเราะเยาะบาดหู ความกักขฬะของคนพวกนั้นและความสกปรกบนร่างกายของเขา

“ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ นายจะเชื่อไหม?” ดวงตาสีฟ้าเว้าวอนไม่ตั้งใจ มือใหญ่กุมมือของอีกคนที่กุมกันอยู่บนตักของเจ้าตัวเขา “ฉันเป็นพวกหวงของถ้านายยังไม่รู้”

คิ้วอัลเบิร์ตขมวด อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเขาพอรู้หรอกว่าอเล็กซานเดอร์เป็นคนอย่างไร เด็กหนุ่มมองสบสายตาอีกคนอย่างค้นคว้า

“กับนาย... ฉันก็หวง...”

เอ่ยบอกเช่นนั้นแล้วอเล็กซานเดอร์ก็ฉกจูบอีกฝ่ายรวดเร็ว ดวงตาซื่อเบิกกว้างตกใจ แต่ไม่ได้ผลักเขาออกห่าง อเล็กซานเดอร์มองแววตาสับสนในระยะประชิดเมื่อเอนร่างอีกฝ่ายลงไปบนเตียง ขณะที่ร่างกายสูงใหญ่ของเขาขยับขึ้นมาคร่อมกาย

“นายเป็นของฉัน ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์”

น้ำเสียงเอาแต่ใจเอ่ยบอก เสื้อที่สวมใส่ถูกถอดทิ้งไป เปิดเปลือยกล้ามเนื้อได้รูปสวย อัลเบิร์ตเม้มปาก ใจเต้นผิดจังหวะ มือค่อยยกขึ้นแตะกล้ามเนื้อหน้าท้องของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเจ้าของเขาก็จับข้อมือเอาไว้ก่อนนำพาให้ลูบขึ้นไปยังแผ่นอก หัวใจเด็กหนุ่มเต้นระรัวแรงเมื่ออเล็กซานเดอร์โน้มลงมาหา เพียงริมฝีปากกระกบพบกัน รสจูบแสนดูดดื่มก็พาให้หลงเพ้อ มือหนาลูบคลำฟอนเฟ้นไปตามร่างกายของคนข้างใต้ ใจกลางร่างเสียดสีปลุกเร้าเพลิงอารมณ์

“รับปากมาสิอัลว่าจะอยู่กับฉันไม่ไปไหน จะเป็นของฉันแค่คนเดียว” อเล็กซานเดอร์ราวหลงเพ้อ

“อเล็กซ์... อเล็กซ์...”

อัลเบิร์ตละล่ำละลัก หัวเขาหมุนจากการถูกโจมตีจุดอ่อนไหวบนร่างกาย ปลายเล็บมนจิกบนไหล่หนาเมื่อริมฝีปากร้อนรวบยอดอกแข็งเกร็งแล้วตวัดปาดลิ้นชื้น

“พูดสิอัล”

อเล็กซานเดอร์โลมเล้าไม่หยุดขณะสั่งให้อีกคนรับปากตน อัลเบิร์ตบิดตัวเมื่อความอึดอัดกดแทรกอยู่ในร่างกาย มือหนาดันต้นขาของเขาให้แยกกว้าง ความร้อนเร่าที่เต้นตุบกดแนบก่อนโจนจ้วงเข้าสู่ความคับแน่นจนร่างกายแทบปริแยก อเล็กซานเดอร์คำรามในลำคอ ก้มลงแลกจูบกับอัลเบิร์ตที่ดิ้นพล่านด้วยความเจ็บ มือหนายกสะโพกหนั่นเนื้อขึ้นรับเมื่อตนเองเริ่มขยับหมุนวน ริมฝีปากไม่ละจากการมอบจุมพิตหลอกล่อให้อีกฝ่ายคล้อยตาม ซุกไซ้ดุนดันขณะที่สะโพกสอบโยกคลึง ร่างกายเกร็งเยือกกับความเสียวปลาบที่แล่นสู่ปลายประสาททุกจุด

“อเล็ก...ซานเดอ...ร์”

เสียงครางเรียกชื่อดังแทรกเข้ามาในห้วงอารมณ์ร้อนเร่า ร่างกายร้อนผ่าวจนอยากปลดปล่อยความร้อนรุ่มนี้ให้หมดไป อเล็กซานเดอร์แทรกกายดำดิ่งสู่ความคับแน่น เตียงนอนถูกใช้เป็นสมรภูมิรัก เสื้อผ้าอาภรณ์ที่หล่นเกลื่อนไร้คนสนใจ เมื่อกิจกรรมที่ทำอยู่ตอนนี้มันน่าสนมากกว่าอะไรทั้งหมด เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราย ความร้อนแทรกซึมทุกอณู

สองร่างที่โรมรันกันแทบลืมทุกสิ่ง สะโพกหนั่นแน่นของคนใต้ร่างถูกจับยึด กายหนาหนักทาบทับโถมกระชั้นถี่ มือหนาข้างหนึ่งเอื้อมรั้งให้คนใต้ร่างหันมารับจูบร้อน ขณะที่ขยับสวนกายไม่หยุดพักพร้อมจะปลดปล่อย ลมหายใจขาดห้วงทั้งเสียงคำรามก้องเมื่อร่างกายเกินทานทนไหว สะโพกสอบขยับรัว หูอื้อไปชั่วขณะเมื่อความรุ่มร้อนถูกสาดซัดพัดพาจนตาพร่าด้วยความสุขสม สองร่างเกร็งยะเยือก ก่อนที่คนด้านบนจะทรุดกายลงมาทับอีกคนทั้งตัว ปลายจมูกโด่งกดแนบซอกคอ เสียงลมหายใจหอบแรงดังอยู่ใกล้หู ก่อนที่ร่างนั้นจะลุกจากไปในเวลาต่อมา

อัลเบิร์ตนอนซบหน้านิ่งอยู่บนที่นอน ยังไม่คิดที่จะขยับเขยื้อนไปไหน เจ็บหน่วงไปทั้งตัว หัวก็ปวดจนเกินทนจนต้องอยู่นิ่งๆไปสักพัก เด็กหนุ่มถอนใจยาว ค่อยพลิกกายกลับมานอนหงาย มองเพดานที่มันไม่มีสิ่งน่าสนใจอะไรเลยอยู่ครู่ใหญ่ถึงได้ผล็อยหลับไปอีกหน หยูกยาก็ไม่ได้กินเพราะความบ้าระห่ำของทั้งสองแท้ๆทีเดียว


บนเตียงนอนในเวลาต่อมา อัลเบิร์ตรู้สึกตัวขึ้นมาภายใต้วงแขนกว้าง ออกจะตกใจอยู่ไม่น้อยที่ตนเองมานอนอยู่ในท่านี้ได้ ตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้วไม่รู้ ท่าทางคงค่ำแล้วกระมังอเล็กซานเดอร์ถึงได้ขึ้นมานอนข้างเขา เด็กหนุ่มช้อนสายตาขึ้นมองโครงหน้าคนหลับที่ตนเองอิงแอบแนบชิด ที่เห็นเด่นชัดกับสายตาคงเป็นปลายคางที่เริ่มมีไรเคราบางๆ กับจมูกโด่งเป็นสันสวย สายตาของเด็กหนุ่มไล่มองจนถ้วนทั่วก่อนจะถอนใจออกมาเมื่อนึกถึงสถานะของตนเองในเวลานี้ เป็นอะไรไม่รู้ล่ะ ไม่มีคำนิยาม แค่คำสั่งที่บอกให้อยู่ข้างกายและเป็นของคนๆนี้แค่คนเดียว เขาอาจจะโง่ก็ได้ที่ยินยอม แต่ใจเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่

กายแกร่งขยับทำให้อัลเบิร์ตเกร็งตัวขึ้นมาเล็กน้อย กลัวว่าอีกคนจะตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่ใช่ เมื่ออเล็กซานเดอร์เพียงขยับตัวตะแคงพาดแขนกอดเขาเอาไว้ ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดหน้าผาก อัลเบิร์ตชะงักนิ่งอยู่ครู่ใหญ่จึงค่อยสอดแขนพาดโอบเอวหนาของอีกฝ่ายบ้าง ริมฝีปากเผยยิ้มเจือจางขณะหลับตาลงในอ้อมกอดที่อีกฝ่ายเพียงเผลอไผล...


-----------------
ต่อด้านล่างค่ะ :L1:

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5


ราวทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกยังคงดำเนินเรื่อยมา ความเคลื่อนไหวทุกอย่างอยู่ในสายตาของวิคเตอร์โดยตลอด จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยเจฟฟรี่ ดีฟไคล์ก็ถูกส่งมาอยู่กับทั้งสองคนในฐานะว่าที่บอดีการ์ดคู่กายอเล็กซานเดอร์ รวมทั้งยังเข้าเรียนร่วมมหาวิทยาลัยกับทั้งคู่ด้วย

อัลเบิร์ตมีเพื่อนสนิทในช่วงมหาวิทยาลัยคือปอนด์ เด็กหนุ่มตัวเล็กจากเมืองไทยที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเรียนไกลถึงลอนดอน ปอนด์ดูจะไม่ถูกกับอเล็กซานเดอร์สักเท่าไร ด้วยความที่รักเพื่อนพ้องทำให้หนุ่มตัวเล็กไม่ชอบใจเอามากๆที่มีคนมากดขี่เพื่อนของตัวเอง เจอหน้ากันทีไรเป็นอันต้องต่อปากต่อคำกับอเล็กซานเดอร์ตลอด เรื่องเถียงปอนด์ไม่เคยแพ้ใคร อเล็กซานเดอร์ที่วางมาดนิ่งอยู่ตลอดเลยหาทางเอาคืนนอกจากการเถียง เห็นว่าหวงเพื่อนนักอัลเบิร์ตจึงกลายเป็นคนที่เขาใช้แก้เผ็ดเจ้าเพื่อนตัวเล็กนั่นให้โกรธจนอกจะแตกตาย

ในวันหนึ่งระหว่างกลับห้อง อเล็กซานเดอร์ให้เจฟฟรี่ลงไปต่อคิวซื้ออาหารที่ร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง เจฟฟรี่มองผู้ออกคำสั่งอย่างไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อเป็นคำสั่งเขาจึงจำต้องลงไป ร้านอาหารไทยร้านดังกล่าวดูแล้วค่อนข้างเป็นที่นิยม เพราะมีลูกค้าทั้งในร้านและที่ต่อคิวซื้อกลับบ้าน เจฟฟรี่ยืนรออย่างใจเย็น ขณะที่อเล็กซานเดอร์นั่งรอบนรถ ส่งข้อความหาใครบางคนแล้วอมยิ้มเล็กๆ

ภายในร้าน ปอนด์ยกกล่องอาหารตามรายการที่ลูกค้าสั่งเดินไปเดินมาขาแทบขวิด เพื่อนพนักงานที่ตัวโตกว่าเข้ามาช่วยเปลี่ยนให้เขาไปทำหน้าที่รับออเดอร์แทน เด็กหนุ่มตัวเล็กเดินฉิวไปอยู่ประจำเคาน์เตอร์ เขาทำงานอยู่ที่นี่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว หารายได้พิเศษระหว่างเรียนดีกว่ารอเงินจากทางบ้านส่งมาให้อย่างเดียว มือเรียวจดยิกตามรายการที่ลูกค้าสั่ง ไม่ได้มองว่าใครมาหยุดยืนเป็นรายต่อมา

“ขยันจังนะครับ”

เสียงทุ้มเอ่ยกลั้วหัวเราะเล็กน้อย ปอนด์เงยหน้าขึ้นมองฝรั่งตัวโตตรงหน้า ใครวะ?

เจฟฟรี่มองเด็กหนุ่มตัวเล็กที่มีสีหน้ามึนงงสงสัยแล้วทำเสียงขึ้นจมูก กลอกตามองสูงอย่างไม่อยากเชื่อ

“คุณ...จำผมไม่ได้?” เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

ปอนด์ถอนใจ เท้าสะเอวแล้วเอียงคอเล็กน้อย “ขอโทษทีเถอะนะครับ วันๆผมเจอคนเป็นร้อย คงจำได้หรอกมั้ง ถ้าไม่มีธุระสำคัญอะไรก็ช่วยหลบด้วยครับ ลูกค้าคนอื่นรอคิวอยู่”

โดนตอกกลับมาเช่นนั้นแล้วเจฟฟรี่ก็อยากหัวเราะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าขำตรงไหน ตัวสูงใหญ่ขยับไปข้างแถว ให้ลูกค้ารายถัดไปได้สั่งอาหารบ้าง สายตามองจ้องเด็กหนุ่มตัวเล็กที่ทำงานของตนไม่สนใจเขาอีก ออกจะเสียหน้าเล็กๆที่อีกฝ่ายจำไม่ได้ ทั้งที่เขากับอเล็กซานเดอร์ก็อยู่ด้วยกันแทบตลอด จำไม่ได้เลยนี่มันก็มากไป หรือจริงๆแค่แกล้งทำเป็นจำไม่ได้กันแน่

เมื่อได้ของที่สั่งมาเจฟฟรี่ก็ยังไม่เดินออกไปในทันที อยากคุยกับเพื่อนตัวเล็กของอัลเบิร์ตอีกสักหน่อยแต่อีกฝ่ายดูจะยุ่งจนไม่สนใจ เจฟฟรี่จึงได้เดินกลับไปที่รถ เพราะถึงอย่างไรที่มหาวิทยาลัยก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว

ปอนด์เหลือบมองคนตัวโตที่เดินห่างจากร้านไปแล้วยักไหล่ ใครก็ไม่รู้



“ขอโทษที นานไปหน่อย”

เจฟฟรี่ขึ้นรถมาพร้อมถุงอาหาร เอ่ยขอโทษคนในรถที่ปล่อยให้รอนาน

“เอาเถอะ ไม่ได้รีบ”

อเล็กซานเดอร์บอกอย่างไม่ถือสา เขากำลังอารมณ์ดี รถเคลื่อนตัวออกจากหน้าร้านอาหารช้าๆ เจฟฟรี่มองถุงอาหารแล้วเอ่ยขึ้นมา

“ไม่นึกว่าคุณจะชอบอะไรแบบนี้นะอเล็กซ์”

“ก็ไม่ได้ชอบ”

เจฟฟรี่เลิกคิ้ว ไม่ชอบแล้วให้เขาไปต่อคิวซื้อเพื่ออะไร คำถามนั้นได้รับคำตอบเมื่อมาถึงห้อง วันนี้ฝนท่าจะตก เขาเห็นอัลเบิร์ตยิ้มเสียด้วย ซื้อมาเอาใจกันก็ไม่บอก

เจฟฟรี่ผละเข้าห้องของตนเองไป อเล็กซานเดอร์เดินตามอัลเบิร์ตเข้าครัว รั้งให้หมุนตัวกลับมาหา สายตาของทั้งคู่มองสบ อเล็กซานเดอร์โน้มลงไปจูบริมฝีปากของอีกคน

“ค่าของฝาก” เสียงทุ้มกระซิบบอก

“คิดแพงจัง” อัลเบิร์ตว่า

“ยืนรอตั้งนาน”

“คุณ?”

“เจฟฟรี่น่ะ”

อัลเบิร์ตหลุดขำ โธ่ ก็นึกว่าจะไปยืนต่อคิวซื้อเองเสียอีก อเล็กซานเดอร์มองนิ่งทำให้อัลเบร์ตเลิกคิ้วสงสัย

“ทำหน้าแบบนี้ก็เป็น”

คนตัวโตเฉลย อัลเบิร์ตหัวเราะเบาๆก่อนเลี่ยงไปเอาอาหารในกล่องใส่จาน ก่อนยกออกมาให้ทุกคนได้ทานเป็นมื้อเย็นในวันนี้ การใช้ชีวิตในแบบวันรุ่นทั่วไป ไม่มีอะไรผิดแปลกเกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่ได้ตระหนักว่าเบื้องหลังความสงบเงียบ พายุร้ายกำลังก่อตัว


-----------------


หลังเรียนจบวิคเตอร์ได้เรียกพบอัลเบิร์ตเป็นการส่วนตัว เมื่อเขามาถึงวิคเตอร์ก็ให้นาตาเซียออกไปจากห้อง หญิงสาวกรีดกรายมาใกล้ สายตาดูแคลนปรายมามองเขา ริมฝีปากอิ่มบิดเบ้เล็กน้อยก่อนก้าวผ่านเขาไปด้วยท่าทีหน้าเชิดคอตั้งราวนางหงส์ อัลเบิร์ตถอนใจเล็กน้อยก่อนก้าวเข้าไปหาวิคเตอร์ ดูท่านาตาเซียจะไม่ถูกชะตาเขาสักเท่าไร

อัลเบิร์ตค้อมศีรษะเป็นการทำความเคารพเมื่อมาหยุดยืนตรงหน้าวิคเตอร์ ชายสูงวัยมองเขานิ่ง ก่อนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ฉันเห็นว่าเธอไว้ใจได้นะอัลเบิร์ต” น้ำเสียงเรียบเรื่อยที่วิคเตอร์ใช้เริ่มต้นประโยคสนทนาทำให้อัลเบิร์ตเงียบฟังอย่างตั้งใจ

“มิลเลอร์ทำงานที่นี่มานาน และฉันก็ไว้ใจเขา เมื่อเธอเป็นหลานชายของเขา ฉันเองก็ไว้วางใจที่จะให้เธอคอยอยู่ช่วยเหลือลูกชายของฉัน”

ในใจคนฟังเริ่มหวาดหวั่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น ราวทำความผิดเอาไว้แล้วถูกจับได้ ไม่รู้ว่าวิคเตอร์จะพูดอะไรกับเขากันแน่ ชายสูงวัยมองท่าทีของเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาอ่านไม่ออก ก่อนเอ่ยต่อ

“ในอนาคตอันใกล้นี้ อเล็กซ์ต้องดำรงตำแหน่งในบริษัทแทนฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันสร้างมาจะเป็นของเขาทั้งหมด ฉันอยากให้เขามีคนที่วางใจได้อยู่ใกล้ๆ คอยสนับสนุนเขา ผลักดันเขาให้เดินไปข้างหน้า ไม่ใช่คนที่จะฉุดดึงเขาให้ต่ำลง”

อัลเบิร์ตสะอึก ชาไปทั้งใบหน้า แม้วิคเตอร์จะไม่ได้เจาะจงว่าสิ่งที่พูดมานั้นคือเขา แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้สึกว่ากำลังถูกตำหนิ

“ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ ฉันหวังมากไปหรือเปล่าอัลเบิร์ต?” วิคเตอร์จบประโยคด้วยคำถาม

อัลเบิร์ตนิ่งอึ้ง ก่อนที่จะเอ่ยตอบรับเมื่อสายตาคาดคั้นรอคำตอบมองมาที่เขา “ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ท่านโปรดวางใจ”

“ดี ขอบใจมาก ฉันไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่รับอุปการะเธอ”

ราวปิดประตูทางออกของตนเอง อัลเบิร์ตรู้สึกหายใจแทบไม่ออก เขากับอเล็กซานเดอร์ ความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังจะเปลี่ยนไป


-------------------


วิคเตอร์มีคำสั่งส่งอัลเบิร์ตเข้ารับการฝึกกับเจฟฟรี่ อเล็กซานเดอร์ที่รู้เรื่องนี้คัดค้านความคิดของบิดา แต่อัลเบิร์ตกลับยอมรับมันและทำตามที่วิคเตอร์บอก

“ทำไมต้องรับปากวิคเตอร์ไปแบบนั้น!?”

อเล็กซานเดอร์กระชากแขนคนที่กำลังนั่งจัดกระเป๋าเตรียมตัวเข้ารับการฝึกหนัก ความโกรธกรุ่นยังคงพุ่งพล่าน ยิ่งเห็นท่าทีไม่ยินดียินร้ายของเจ้าหลานพ่อบ้านเขายิ่งโกรธ

“ผมไม่เห็นเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ” อัลเบิร์ตตอบกลับเสียงเรียบ บิดแขนตนเองจากการจับกุม ยัดข้าวของใส่กระเป๋าลวกๆ

“อยากเป็นมากหรือไงบอดีการ์ดน่ะ?” อเล็กซานเดอร์เอ่ยถาม สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ เส้นความอดทนขาดผึง ริมฝีปากหยักเหยียดรอยยิ้ม

“อย่างนั้นหรือ... ก็ดี ถ้าอย่างนั้นลองเอาตัวรอดจากฉันให้ได้ก่อนเป็นไง!”

ตัวสูงถูกผลักลงไปบนเตียง มือหนากดไหล่เอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี อัลเบิร์ตนิ่วหน้า พยายามดันตัวออกห่างแต่อเล็กซานเดอร์กดไว้ทั้งตัว มือคว้าผ้าในกระเป๋ามามัดแขนอัลเบิร์ต

“อเล็กซ์!”

อัลเบิร์ตเรียกอีกฝ่ายด้วยความตกใจ รู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะความทรงจำครั้งเก่าที่เกิดขึ้นกับเขาโดยฝีมือเพื่อนอเล็กซานเดอร์ แต่ตอนนี้มันคงเลวร้ายมากกว่า เพราะเป็นอเล็กซานเดอร์ เป็นคนที่เขาไม่คิดจะสู้

“ไม่เชื่อ ไม่ฟังกันเลยใช่ไหม แค่อยู่ข้างๆฉันทำไมทำไม่ได้!” อเล็กซานเดอร์ตะคอกถาม แววตาเจ็บปวด

“ถึงผมจะเป็นบอดีการ์ด ผมก็ยังอยู่ข้างคุณได้” อัลเบิร์ตพยายามให้เหตุผล

“ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น!”

ริมฝีปากหยักกดจูบรุนแรง ไม่อยากรับฟังคำแก้ตัว เขาไม่ได้ต้องการสถานะนี้ ทำไมไม่เข้าใจ อัลเบิร์ตน้ำตาไหล รู้ว่าอีกฝ่ายเจ็บกับการกระทำของเขา แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธหน้าที่ที่ได้รับมาได้ ในใจเพียงแต่คิดว่าอยากอยู่กับอเล็กซานเดอร์ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม ถ้ามันทำประโยชน์ให้อเล็กซานเดอร์ได้ ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ยอม

“อเล็กซ์...”

อัลเบิร์ตผงกศีรษะขึ้นมองอีกคนด้วยความมึนงง เมื่ออเล็กซานเดอร์ที่ตั้งท่าจะหักหาญน้ำใจอยู่เมื่อครู่กลับหยุดทุกอย่างลง ใบหน้าซุกซบกับลาดไหล่ของเขานิ่ง ความเจ็บเสียดทิ่มแทงใจเมื่อเห็นไหล่หนาสั่นไหว ไม่มีคำพูดใด มีเพียงหัวใจของพวกเขาที่มันบีบรัดจนเจ็บปวด


--------------------


อัลเบิร์ตเข้ารับการฝึกตามที่ได้รับปากกับวิคเตอร์เอาไว้ ในช่วงนั้นอเล็กซานเดอร์ก็ได้เข้าทำงานที่เฟอร์ริงตันเต็มตัว เขากลายเป็นคนเย็นชายิ่งกว่าเก่า ด้วยหน้าที่การงานที่ทำไม่ได้ใสสะอาดนัก เขาจึงจำเป็นต้องแกร่งเพื่อปกครองผู้อื่น จนแทบจะกลายเป็นคนไร้หัวใจอย่างที่ใครต่อใครให้ฉายา

งานขึ้นรับตำแหน่งของอเล็กซานเดอร์ อัลเบิร์ตที่กลายเป็นบอดีการ์ดเต็มตัวตามมาคุ้มกันวิคเตอร์ ท่ามกลางพนักงานเป็นร้อยเป็นพัน สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่อเล็กซานเดอร์ คนที่อยู่ไกลจนเอื้อมไม่ถึง ไกลจนเกินเอื้อม

“ต่อไปมาอยู่กับฉัน เข้าใจไหมอัล?”

และครั้งแรกในรอบหลายปีที่ได้พูดคุยกันกลับมีเพียงคำพูดเช่นนี้ที่เขาได้รับจากอเล็กซานเดอร์ แต่ถึงแม้จะเป็นคำสั่งแกมบังคับ แต่อัลเบิร์ตก็ยินยอมที่จะก้าวเข้าไปหาด้วยหัวใจที่ภักดี ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยที่เขาสร้างขึ้นมาป้องกันตนเอง มันคือความยินดีที่ได้กลับมาอยู่เคียงข้างคนๆนี้ แม้อีกฝ่ายจะไม่มีทางรับรู้เลยก็ตาม

เสื้อสูทเนื้อดีถูกกางออก ยกค้างไว้ด้านหลังร่างสูงใหญ่ของอีกคน แขนแกร่งสวมเข้ามา อัลเบิร์ตยกสูทตัวดังกล่าวขึ้นเสมอไหล่ของผู้เป็นนาย เมื่อสวมเข้าไปแล้วก็จัดระเบียบให้เรียบร้อย อเล็กซานเดอร์มองลูกน้องแสนชิดใกล้ของตนที่ทำหน้าที่ไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักอย่าง แม้จะถูกเขาเอาเปรียบอยู่บ่อยครั้งก็ไม่เคยบ่น ชายหนุ่มยืดตัวตรง ก้าวเดินอย่างสง่าออกจากห้องไป เพื่อไปทำหน้าที่ของตนเองให้ลุล่วง

อัลเบิร์ตมองแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไป อเล็กซานเดอร์ในวันนี้คือผู้นำของเฟอร์ริงตัน เป็นคนที่อยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึงได้อีกต่อไป ไม่ว่าก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเรียกว่าอะไร หรือแม้กระทั่งตอนนี้ก็ตามแต่ สิ่งที่ควรตระหนักอยู่เสมอคือพวกเขาเป็นนายกับลูกน้อง คืออเล็กซานเดอร์ เฟอร์ริงตัน และอัลเบิร์ต คาร์ล บอดีการ์ดข้างกาย... เพียงเท่านั้น

ทุ่มเททำไปด้วยใจรัก หากแม้นวันใดเขาไม่เห็นค่า จงก้าวออกมาอย่างทระนง



โปรดติดตามตอนต่อไป


สวัสดีทุกท่านอีกครั้ง กลับมาพบกันทุกวันอาทิตย์เน้อ ตอนนี้มันไม่ดราม่าเลยอ่ะ ผิดคอนเซปต์ ไปต้มมาม่ากินก่อน เพิ่มสารดราม่าให้ตัวเอง o18

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาต้อนรับเฮียอเล็กซ์กับหนูอัลผู้น่าสงสารค่ะ

บวกและบวกให้ทุกท่าน :L2:

วันใหม่ค่ะ

ปล. @คุณฟางข้าว กรี๊ดดดด ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อคืนใหม่หลับก่อนเที่ยงคืนอีกค่ะ แหะๆ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
สงสารทั้งอัลทั้งอเลกซ์  :ling1:
รอแต่ละคนเปิดใจให้กันค่ะ

ใหม่สู้ๆ  :katai4:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ดราม่าหน่วงตอนท้ายนี่แหละ อัลน่าสงสารนี่เพิ่งเรียนจบเองอัลยังคงน่าสงสารไปอีกนาน แง๊ แง

Magician

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เอามาลงใหม่ก็มาอ่านอีก ชอบบบบ
จะมารอกินมาม่าชามใหญ่ๆ

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ชอบเลย ส่วนตัวคิดว่า เป็นมาม่าคัพไซส์มินิ ที่ปริมาณพอดีต่อหนึ่งตอน รสชาติกำลังอร่อย
อ่านแล้วคาดว่าคืนนี้อยู่ท้องหลับสบายแน่นอน กลมกล่อมมากๆเลยค่ะ
แต่ถ้าคุณวันใหม่ยังเห็นว่า ต้องต้มเพิ่ม ก็ไม่ขัดข้อง เพราะเป็นของโปรดอยู่แล้ว อิอิ 

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เหมือนได้อ่านเรื่องใหม่เลย มาต่อเยอะๆน๊า อย่าเอามาม่ามาก ท้องจะอืดเอา 5555+ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สงสารอเล็กซ์ สงสารอัล แต่อเล็กซ์ทำไมไม่เข้าใจอัลบ้าง คนสั่งเป็นพ่ออเล็กซ์แล้วอัลจะขัดได้ยังไง

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด