## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]  (อ่าน 231995 ครั้ง)

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
ขอให้มาสม่ำเสมอนะชอบมากเรื่องนี้
รพีอึกหน่อยต้องหลงเค้าแน่นอน

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
เฝ้ารอมานานแสนนานได้อ่านซะที

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รพีชอบรังแกปิงปองจังนะ
เราก็เป็นคนนึงที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆอ่ะ ฉะนั้นคนเขียนควรจะหางานอะไรซักอย่างให้ปิงปองทำนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
บรรยากาศบนโต๊ะทานข้าวเป็นไปอย่างเงียบสงบ ทุกคนรวมตั้งแต่ศูร รพี อดุล ตะวันและเพื่อนสนิทอย่างทานตะวันทานข้าวโดยไม่พูดไม่จากับใคร รพีแค่ไม่อยากจะพูดเฉยๆไม่ได้นึกหนักใจแทนคนอื่น ส่วนศูรที่เงียบเพราะเขาก็เป็นหนึ่งเสียงที่สนับสนุนให้ตะวันเปลี่ยนนามสกุลเป็นเรืองรัตนโยดม ในเมื่อซักวันตะวันต้องเป็นคนที่รับช่วงต่อธุรกิจ คงจะไม่เหมาะถ้าทายาทจะให้นามสกุลที่ไม่มีใครรู้จัก

ตะวันที่ยังหน้าบึ้งตึ่งสุดท้ายก็ลากเพื่อนตัวใหญ่กลับมาบ้านด้วย แค่ฟังเรื่องจากในโทรศัพท์ก็นึกโกรธคนพูดอย่างพ่อปิงปองแต่ที่ไม่โวยวายเพราะเหตุการณ์คราวก่อนที่เขาน้อยใจพ่อปิงปองทำพ่อเสียใจสอนให้เขาควบคุมสติมากขึ้น อีกทั้งคำพูดของเพื่อนที่ทำให้รู้ว่าพ่อปิงปองรักตนมากขนาดไหนก็ยังจำได้อยู่ติดหูตลอดเวลา

จะโกรธก็ญาติที่พึ่งเพิ่มมาใหม่ทั้งสองคน ไม่พ้นศูรและรพีเท่านั้นที่เป็นคนคิดจะให้เขาเปลี่ยนนามสกุล

อดุลย์มองลูกชายกลัวว่าตะวันจะโกรธ รู้อยู่ว่าลูกเป็นพวกเลือดร้อน ใช่ว่าอดุลย์จะไม่เข้าใจเหตุผลที่รพีบอก เขายอมรับได้ถ้าตะวันจะไม่ใช้นามสกุลเดียวกับตัวเอง ถึงจะรู้สึกใจหายแต่ก็พร่ำบอกตัวเองว่ามันเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องยอมรับความจริง

ความจริงที่ตะวันคือ ตะวัน เรืองรัตนโยดม

“ผมอิ่มแล้ว ขอตัวไปส่งเพื่อนก่อนนะครับ”ตะวันลงขึ้นก่อนจะพยักหน้าให้เพื่อนที่นั่งข้างๆลุกตาม

“เดี๋ยวตะวัน...จะไปส่งน้องทานยังไง ให้พ่อไปส่งเป็นเพื่อนมั้ย”อดุลย์ถามประจบลูกชายทั้งๆที่ความจริงร่างกายของตัวเองตัวนี้ไม่ค่อยจะสมประกอบเท่าไร พยายามนั่งพยายามเดินให้ไม่ผิดปรกติก็ลำบากพอแรงอยู่แล้ว

“เดี๋ยวตะวันยืมมอ’ไซลุงโชนไปส่งเอาครับพ่อ”

“เดี๋ยวให้คนรถไปส่ง ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย”คนที่เงียบมาตลอดมื้ออาหารพูดขึ้น อย่างไรเสียตนก็เป็นพ่อแท้ๆ จะให้มาข้ามหัวแบบนี้คงไม่เหมาะ แววตาคมทั้งคู่สบตากันไม่มีแววของความผูกพันกันแม้แต่น้อย

“ไม่ครับ”ตอบกลับเสียงเรียบ ไม่สนใจคำสั่งจนคนสั่งนึกขัดใจ

“ชั้นไม่ได้พูดไม่ได้บอกธรรมดา แต่ชั้นสั่ง”

“เดี๋ยวรพี แกไม่เห็นต้องรีบคุยอะไร หลานมันพึ่งเข้ามาอยู่จะรีบเปลี่ยนไปทำไม ชั้นไม่เห็นว่าต้องรีบร้อนอะไร..”ผู้อาวุโสสุดพยายามจะออกความคิดเห็น ไม่เข้าใจว่าทำไมรพีไม่ยอมพูดกับตะวันดีๆ ศูรเชื่อว่าตะวันเป็นเด็กดีมีเหตุผลเพราะถูกเลี้ยงมาแบบนั้น คงมีแต่ตัวเองล่ะมั้งที่เลี้ยงลูกมาไม่ดี

“ไม่ครับ ผมไม่เปลี่ยนนามสกุล”

“เอ่อ ผมว่าเดี๋ยวค่อยพูดเรื่องนี้ทีละ...”

“คนนอกไม่ต้องเสือก!!”เสียงตวาดดังทั้งๆที่อดุลย์ยังพูดไม่จบประโยคคนถูกตวาดสะดุ้งจนตัวโยน แต่คนที่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกลับเป็นตะวัน

ปัง!!

“พ่อปิงปองไม่ใช่คนนอก!! ถ้าพวกคุณไม่พอใจผมกับพ่อจะย้ายกลับเลยก็ได้!!”มือขาวทุบลงบนโต๊ะอาหารเสียงดังอย่างหยุดอารมณ์ไม่อยู่ ขนาดที่ว่าเพื่อนสนิทคอยสะกิดบอกเตือนให้ควบคุมสติก็ไม่สามารถทำได้

ตะวันโกรธรพีจริงๆที่กล้ามาขึ้นเสียงใส่พ่อปิงปองแถมยังว่ากล่าวอีก แต่โกรธพ่อปิงปองมากกว่าที่ไม่ทำอะไรตอบโต้เลย แม้จะรู้ว่าพ่อจิตใจดีแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยเห็นพ่อยอมคนถึงขนาดนี้

“ตะวันอย่างก้าวร้าว ไม่น่ารักเลย”อดุลย์ปรามเสียงเข้ม

“ก็พ่อดูพวกเขาซิ!! เขามาว่าพ่อนะ พ่อยอมได้ยังไง พ่อไม่ใช่คนนอกซักหน่อยพวกเขาต่างหากไม่ใช่เหรอที่เป็นคนนอก ที่เอาตัวผมกลับมาผมรู้หรอกว่าไม่ใช่เพราะรักพวกเขาแค่อยากได้เพราะผมมีสายเลือดเดียวกับเขาเท่านั้น!!”ตะวันตวาดไม่ไว้หน้าใคร มองตรงมาที่รพีอย่างไม่กลัวเกรง

“ไม่ใช่นะตะวัน ปู่แค่ไม่รู้ว่ามีหลานอยู่”

“ใครจะเชื่อ!! คุณอย่ามาทำพูดดี พวกคุณมันก็พวกเห็นแก่ได้เหมือนกันทั้งพ่อทั้งละ..!!!”

เพี้ยะ!!!!

เสียงกระทบของฝ่ามือใหญ่ดังสนั่นส่งให้เสียงรอบข้างเบาบางลง เป็นรพีที่ลงมือตบหน้าเพื่อหวังจะให้ตะวันหยุดพูดจาสาวหาว

“อย่าลามปาม พ่อชั้นไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย!!”เสียงเข้มบอกด้วยอารมณ์โกรธ ถึงจะเป็นลูกแท้ๆแต่ไม่ได้มีความผูกพันอะไรอยู่แล้ว จะให้ทำร้ายมากกว่านี้รพีก็ทำได้เพื่อสั่งสอน

!!!!

“เฮ้ยตะวันอย่า!!”เพื่อนสนิทตัวใหญ่คว้าตะวันไว้ทั้งตัวเมื่อเห็นว่าคนที่ถูกตบหน้ากระโจนเข้าหาร่างของพ่อแท้ๆตัวเองที่ยื่นนิ่งราวกับไม่กลัวพายุอารมณ์ของลูกชายแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เห็นว่าเด็กตรงหน้ากำลังเงื้อมือใส่ ดวงตาดุดวงนั้นยังไม่กระพริบหลบซักนิด

“น้องทาน พาตะวันออกไปก่อน...ตะวัน ออกไปก่อน”อดุลย์เดินเข้าไปขว้างช่วยอีกคนจนตะวันต้องส่งสายตาราวกับจะร้องไห้ให้เมื่อพ่อปิงปองไม่เข้าตัวเอง

“นะตะวัน เดี๋ยวพ่อคุยให้นะ...นะครับ เชื่อพ่อสิ”แม้จะยังไม่พอใจแต่คนที่กำลังโมโหก็สะบัดมือของเพื่อนเดินกระทืบเท้าออกไปจากห้องทานอาหารในที่สุด

“หึ...ไหนว่าเลี้ยงกันมาดี แบบนี้หรือครับคนดีของคุณพ่อ”รพีพูดใส่ศูรด้วยท่าทีเรียบๆก่อนจะเดินออกจากห้องไปอีกคนเหลือไว้เพียงศูรที่ถอนหายใจทิ้งอย่างหนักอกกับอดุลย์ที่เฝ้าขอโทษขอโพยอยู่อย่างนั้น



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ใคร”เจ้าของห้องตัวสูงใหญ่เงยหน้ามองไปที่เสียงเคาะประตู เวลาสองทุ่มกว่าทำให้คิ้มเข้มขมวดสงสัยว่าใครกันที่มาเคาะประตูเรียก

“ผมอดุลย์ครับคุณรพี”เสียงแหบเล็กที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่อยู่ด้านนอกดังเข้ามา รพีละออกจากกองเอกสารไปเปิดประตูเผยให้เห็นร่างของคนที่ตัวเองพึ่งใช้งานไปอย่างหนักเมื่อช่วงบ่ายกำลังก้มหน้ามองพื้น ทั้งๆที่เป็นคนมีธุระมาแท้ๆ

“มีอะไร ชั้นจะทำงาน”

“ผมขอเวลาสักครู่ครับ เรื่องของตะวัน”อดุลย์บอกเหตที่ทำให้ต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่อยากเลี่ยง

“...เข้ามาซิ”ดวงตากลมมีแววไม่มั่นใจเล็กน้อย เงยหน้ามองที่อนุญาตให้เข้าไปในห้องก็เจอแต่ความนิ่งเรียบไม่เหมือนเมือตอนบ่าย เท้าเล็กจึงตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้องที่มีแค่แสงสีส้มจากโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยแฟ้มและเอกสารจำนวนมาก อีกทั้งแว่นตาที่วางไว้ทำให้รู้ว่ารพีคงทำงานอยู่จริงๆ

“มีเรื่องอะไรว่ามา”รพีเปิดประเด็นเข้าเรื่องอย่างรวดเร็วไม่อยากเสียเวลาอ่านเอกสารที่พรุ่งนี้ต้องเข้าประชุม ที่วันนี้ว่างก็เพราะประชุมเลื่อนไปพรุ่งนี้แทน ถึงจะเป็นถึงประธานฯแต่ก็ต้องอ่านรายละเอียดต่างๆที่จะประชุมให้พร้อมก่อน ยิ่งเมื่อกลางวันเสียเวลาไปกับกิจกรรมบางอย่างกับคนตรงหน้า ยิ่งทำให้เวลาเตรียมตัวน้อยลงไปอีกมาก

...แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร...

“เรื่องตะวัน...ผมจะมาขอโทษที่ลูกผมก้าวร้าวใส่ ที่จริงเขาไม่ใช่เด็กไม่ดีหรอกนะครับ”คนฟังฟังนิ่งๆ ถึงจะขัดหูกับคำว่า ลูกของผม แต่ก็ไม่แย้งอะไรออกมา

“เรื่องที่จะเปลี่ยนเขามาเป็นเรืองรัตนโยดมผมจะค่อยๆพูดกับตะวันเอง คุณรพีให้เวลาแกหน่อยได้มั้ยครับ”

“นายแน่ใจเหรอว่าจะเปลี่ยนใจเด็กนั่นได้ ท่าทางโอ๋มากจนเคยตัวแบบนั้น นี่ทำอะไรผิดก็ให้นายที่เป็นผู้ปกครองมาตามขอโทษตลอดเลยหรือไง? ถึงชั้นจะไม่สนใจว่าเด็กนั้นจะเป็นชั้นเป็นพ่อหรือเปล่าก็เถอะ...แต่อย่างน้อยชั้นก็แก่กว่ามัน แก่กว่าคนที่มันเรียกว่าพ่อด้วยซ้ำ”คำตำหนิที่ถูกส่งมากทำเอาอดุลย์แก้ตัวไม่ถูก จะว่ารพีพูดถูกก็ใช่...แต่ว่า

“ผมเชื่อว่าเด็กที่ผมเลี้ยงมาเป็นเด็กดีครับ ถึงจะเป็นคนโมโหง่ายเลือดร้อน แต่ตะวันเป็นเด็กมีเหตุผลและเชื่อฟังผมเสมอ ถ้าลองพูดด้วยเหตุผลตะวันก็จะรับฟังนะครับ”

“นี่นายว่าชั้นเป็นพวกไม่มีเหตุผลงั้นสิ?”รพีถามกลับพร้อมจ้องตากลมหวังรอคำตอบ

“เอ่อ...ผมแค่...ผมแค่หมายถึงทำไมคุณถึงไม่พูดดีๆกับตะวันแค่นั้นเอง”

“...”รพีไม่พูดตอบ พอรู้ตัวอยู่เหมือนกันที่เมื่อค่ำใส่อารมณ์มากเกินไปทั้งๆที่เรื่องมันไม่น่าจะเป็นเรื่องราว เพียงแต่เห็นท่าทางกระด้างกระเดืองของคนที่ขึ้นว่าเป็นลูกชายก็พาลหัวเสียขึ้นมา แถมยังเห็นศูรที่คอยเอาใจใส่หลานชายคนใหม่ยิ่งเกิดความอิจฉาขึ้นมาจนคุมตัวเองไม่อยู่แสดงอาการพาลขึ้นมา

“นะครับ ถือว่าผมขอร้อง อย่างไรตะวันก็ลูกคุณ...ถ้าไม่มีผมเขาก็เหลือแค่คุณกับคุณท่าน”อดุลย์อ่อนอกอ่อนใจขอร้อง ถ้าไม่ใช่ว่านี่เป็นเรื่องของลูกชายเขาคงไม่บากหน้ามาขอร้องคนที่ทำร้ายทางกายตัวเองขนาดนี้

“หมายความว่ายังไง? ถ้าไม่มีนาย?”คิ้วเข้มขมวดอย่างสงสัย คำพูดแปลกๆมาพร้อมกับรอยยิ้มเศร้าๆที่ปรากฏเพียงครู่เดียวบนใบหน้าสะกิดใจให้รู้สึกแปลกๆ

“ผมไม่คิดจะอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปตลอดหรอกครับ พอตะวันปรับตัวได้ผมจะกลับไปอยู่บ้านของผม”เสียงเศร้าหน้าเศร้าทำให้จิตมืดบอด...สงสาร...ขึ้นมาชั่วครู่

แต่เพราะด้วยชีวิตที่เคยผ่านมาทำให้สร้างกำแพงมาปิดกั้นความรู้สึกไปจนหมด อคติที่ถูกสร้างขึ้นจากกลเกมธุรกิจทำให้รพีไม่ได้เชื่อในท่าทางที่น่าสงสารนั้นอย่างสนิทใจ

“หึ กับชั้นนายไม่ต้องแสร้งเป็นคนดีอะไรหรอก ชั้นขยาดพวกที่หน้าไหวหลังหลอกเต็มทน”

“...ผมเปล่า”ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธพลางคิดว่าทำไมผู้ชายคนที่ตนเคยหลงใหลถือได้เป็นคนที่มองโลกด้วยแง่ร้ายได้ขนาดนี้กัน

“ช่างเถอะ เพราะไม่ว่านายคิดจะทำอะไร ชั้นจะไม่ยอมปล่อยให้นายสมหวังแน่ๆอดุลย์”เสียงกดเข้มบ่งบอกว่าคนพูด พูดจริงทำจริง แต่คนฟังทำได้แค่ส่ายหัวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ไม่เข้าใจคนตรงหน้าจริงๆ

“มีธุระแค่นี้ใช่มั้ย ชั้นกำลังทำงาน ไม่อยากอารมณ์เสีย”อดุลย์ฟังคนพูดแล้วตาโตขึ้นเหมือคนคิดอะไรบางอย่างออก

...ไม่อยากอารมณ์เสีย...

จริงซินะ ตั้งแต่เจอกันทั้งสี่ห้าครั้งที่ผ่านมา คนตรงหน้ามาด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวอย่างกับพายุลูกใหญ่ แต่ครั้งนี้ตอนนี้รพีดูนิ่งเรียบขนาดที่เขาพูดเหมือนตำหนียังไม่ตะคอกกลับ...บางทีถ้าพูดถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ไม่ควรตอนนี้...อาจจะ

“เอ่อ...คุณรพีครับ”

“อะไรอีก?”เสียงเข้มตอบกลับนิ่งๆไม่บ่งบอกอารมณ์ อดุลย์กลืนน้ำลายลงดังคออึก ก่อนจะเริ่มพูด

“เรื่องเมื่อตอนกลางวัน....”หากแต่พอจะพูดร่างบางกับอายที่จะพูดออกจากปาก หน้านวลที่มีริ้วรอยขึ้นสีอย่างเขินอาย อายุก็ขึ้นเลขสามมาหลายปี แต่ก็อดจะอายไม่ได้จริงๆ

คนที่เห็นปฏิกิริยาของอดุลย์ลอบยิ้มนึกขันในใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงขำกับท่าเขินๆอย่างกับสาวแรกรุ่นแต่ก็ไม่ได้ดูขัดหูขัดตาเท่าไรนัก

“ทำไม? หรือนายอยากได้อีก? ถึงเป็นชั้นก็ไม่ไหวหรอกนะ เมื่อกลางวันก็เสร็จไปตั้งหลายรอบแล้ว”คำพูดล้อทำเอาเลือดฝาดแล่นริ้วไปทั่วใบหน้ายิ่งกว่าเดิม รพีหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว

“ปะ...เปล่าครับ...”

“แล้วทำไม มีอะไร?”

“ผมแค่...ไม่อยากให้คุณทำแบบนั้นกับผมอีก”ใบหน้าที่ผ่อนคลายจากการขำคนเขินกลับมาตึงอีกครั้ง จนอดุลย์ก้าวขาหลบไปด้านหลังครึ่งก้าว

“....”

“ผมว่ามันไม่เหมาะที่คุณจะทำแบบนั้นกับผม ที่ผ่านมาสองครั้งผมเรียกมันว่าการข่มขื่นครับ และผมไม่อยากให้มันมีครั้งที่สาม”เสียงแหบเล็กแบบความต้องการของตัวเอง ที่ผ่านมาเขาที่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้เพราะไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องราว ไม่อยากให้ตะวันรู้และผิดหวังกับพ่อปิงปองที่ลูกแทบจะเห็นเป็นตัวอย่าง

“ถ้าคุณไม่เชื่อใจผม กลัวว่าผมจะมาปอกลอก...ผมก็ไม่รู้จะแก้ไข้ความระแวงนั้นยังไง แต่ผมยืนยันนะครับว่าผมเคยคิดร้ายอะไรกับพวกคุณทั้งนั้น”

“ถือว่าสงสารผมเถอะครับคุณรพี อย่าทำร้ายผมแบบนั้นอีกเลย”

“หึ...จะบอกว่านายไม่ชอบเหรอ? ชั้นเห็นครางซะแทบจะขาดใจตาย”คนพูดหน้านิ่งทั้งๆที่ในใจกำลังคิดว่าคนตรงหน้ากล้ามาจากที่มาพูดแบบนี้กับเขา ถ้าเขาต้องการไม่ว่าสิ่งนั้นจะสูงค่าหรือเป็นแค่เศษดินเขาก็จะเอามาให้หมด

“แล้วไง? แล้วนายจะอยู่บ้านนี้เฉยๆรอวันที่นายออกไปเหรอ? ไม่ไร้ค่าไปหน่อยหรือไง ถ้านอนกับชั้นอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นเมียของเจ้าของบ้าน ก็ยุติธรรมดีแล้วไม่ใช่หรือ จนกว่านายจะออกไปจากบ้านนี้ นายก็ยอมนอนกับชั้น...งานง่ายๆไม่ชอบหรือไง”ร่างบางที่ได้ฟังขมึงตาขึ้นมองลืมกลัวไปชั่วขณะ คำพูดของรพีพยายามสื่อว่าตัวเองเป็นพวกขายตัว

“...มากเกินไปหรือเปลาครับ...ผมทำอะไรให้คุณมากมายหนักเหรอ คุณไม่ขอบคุณที่ผมเก็บลูกที่คุณไม่ต้องการไปเลี้ยงผมไม่เคยว่า จะเอาลูกไปจากผมผมก็ยอมขอแค่ให้รักและเลี้ยงดูตะวันให้ดีๆ แต่ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นค่าของผม คุณกลับเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำอีก ขนาดว่าผมเองยังไม่เข้าใจเลยว่าเคยไปทำอะไรคุณไวถึงขนาดที่คุณต้องแก้แค้นผมคืนขนาดนี้”อดุลย์พูดเสียงเข้ม จ้องมองคนตัวสูงสื่อถึงความจริงจังในคำพูด

“เรื่องงาน...ระหว่างอยู่ที่นี่ผมจะช่วยงานบ้านทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ถ้าไม่พอหรืออยากให้ผมทำอะไรก็สั่งมาได้เลยครับ แต่ผมจะไม่ทำอย่างที่คุณบอก เพราะผมเองก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคน”

“....”

“และผมก็ขอยืนยันคำเดิมว่าผมไม่เคยต้องการอะไรจากคุณทั้งบ้านทั้งเงินทองหน้าที่การงาน....แม้กระทั้งตัวคุณ ผมก็ไม่อยากได้”พูดจบร่างเล็กก็เดินออกจากห้อง ไม่สนใจใบหน้าขมึงและตาคมที่จ้องมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

...ที่อดุลย์บอกมาทั้งหมดหมายความว่าอดุลย์ไม่ต้องการตัวเขาใช่มั้ย..???

...ได้...

...แล้วเราจะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่ต้องเป็นคนเรียกร้องอีกฝ่าย!!...




ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
นายโตมาตัวเท่าควายได้ไงเนี่ยรพี

โอ้ยไม่อยากเอาควายมาเปรียบ

สงสารควาย (-_-)





ปล.อินไปหน่อยนะ5555

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
รู้สึกบ้างป่ะว่าเค้าไม่ต้องการ สำนึกบ้างนะ คุณรพี

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
แหม มันไม่มีแม้แต่ความสงสารเลยหรือไง
เอาง่ายๆ นะ ปิงปอง กลับบ้านเถอะ
ยังไงลูกก็โตแล้วคงดูแลตัวเองได้
หรือไม่ลูกอยากจะกลับบ้านก็กลับสิ รอไห้โตกว่านี้ก็ได้
ค่อยไปบ้านนั้น
อย่าไปอยู่ให้คุณค่าความเป้นคนลดลงเลย จริงๆ

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อยากเชียร์ให้ปิงปองคู่กับคนอื่นจริงๆ ขัดใจอิตารพี น่าจับโยนทิ้งทะเลซะ

Ma Lullaby

  • บุคคลทั่วไป
ศรีจะไม่ทนพีแล้วนะคะ

 :katai1:

ดุลย์สู้ๆนะจ้ะ :กอด1:

ปล.เปนกำลังใจให้คนแต่งนะเจ้าคะ :mew1:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
โอ้วยังเป็นคนได้ไง อิจฉา กระทั่งลูกตัวเอง. รพีหน้าปลากะโห้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
รพี  :katai1: :katai1: ไหวป่ะะะะะะะะะะะะะะะะะ คืออะไรรรรร....บ้าบอจัง เหมือนคนไม่มีความคิด ดีแล้วพ่อปิงปองงง เข้มแข็งอย่างนี้นานๆ นะคะ ไม่รู้ว่ารพีจะงัดไม้ไหนมาเล่นอีก  :z3:

ออฟไลน์ ใบโพธิ์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำไมเรารู้สึกว่ารพีรักพ่อศูรจัง ที่จริงๆแล้วรพีรักพ่อมากไม่ใช่เหรอ ที่ยอมให้คนที่ตัวเองตั้งแง่รังเกียจเข้ามาอยู่ด้วยก็เพราะอยากให้พ่ออยู่กับหลาน ที่ด่าลูกก็เพราะลูกลามปามพ่อ

แย่จัง เราอ่านแล้วเราเห็นใจรพี ซึ่งจริงๆไม่อยากเห็นใจเลย
ทั้งๆที่เป็นคนที่ขาดทำไมต้องทำร้ายคนอื่นต่อ
ทั้งๆที่ตัวเองก็อยากได้ความรักไม่ใช่เหรอ

รพีเอ้ย นายต้องให้ความรักคนอื่นก่อนนะถึงจะได้ความรักกลับมา จำไว้ๆ

เฮ้อออ

ปล. ปิงปองก็ไม่ได้ดูเป็นนางเอกเจ้าน้ำตานี่ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเหมือนดาวพระศุกร์

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
วิกฤติวัยกลางคนเหรอ แบบไม่รู้ว่าชีวิตนี้อยู่เพื่ออะไรอ่ะ

40 แล้วแต่คิดได้แค่นี้

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 o22 รพี มีความคิดไม่เหมือนคนที่จะบริหารงานใหญ่ๆได้เลยนะ
คนจะเป็นผู้บริหารต้องมองการณ์ให้ออกนี่มองแต่ตัวเองเป็นสำคัญ
อะไรขัดใจ ไม่ตรงใจ ก็ใช้อารมณ์เข้าจัดการตลอด
คนเราบางครั้งศักดิ์ศรีก็มีค่าเกินจะถูกย่ำยีได้ตลอดหลอกนะ
แล้วจะรออ่านต่อจ๊ะ

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
เช้าวันใหม่ที่เริ่มต้นด้วยแสงแดดอ่อนๆของดวงอาทิตย์ที่ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้ามาไม่เต็มดวง อดุลย์ตื่นขึ้นแล้วลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันในทันที ทุกเช้าเขาขออาสาเป็นคนทำอาหารให้ตะวันทานเอง ส่วนตอนเย็นจะเป็นหน้าที่ของแม่บ้านกันไป เพราะบ้านของศูรที่อยู่ตรงข้ามกันก็มีแม่บ้านประจำ และศูรเองก็จะมาทานข้าวด้วยแค่ตอนเย็นเท่านั้น

วันนี้ร่างบางตั้งใจจะทำหมูทอดกับข้าวผัด เป็นเมนูง่ายๆที่สามารถทำเองได้ ที่จริงอดุลย์ไม่ได้มีทักษะด้านงานครัวเท่าไรนัก คงจะมีแต่เด็กหนุ่มลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาเท่านั้นที่มักจะชมฝีมือการทำอาหารของเขา

แต่ก่อนการจะเข้าครัวทำอาหารเป็นอะไรที่ต้องค่อนข้างในโอกาสพิเศษหรือเป็นวันหยุดของอดุลย์เท่านั้น ส่วนใหญ่เขาเลือกจะซื้อกับข้าวสำเร็จจากข้างนอกมาเลยมากกว่า ทั้งสะดวกและประหยัดทั้งเงินและเวลา

“วันนี้ทำอะไรทานค่ะคุณปิงปอง”เสียงของดาวแม่บ้านหลักของบ้านหลังนี้เอ่ยถามอยู่ด้านหลัง อดุลย์หันไปยิ้มน้อยๆตอบ

“ข้าวผัดกับหมูสามชั้นทอดน่ะ ของโปรดของตะวัน”

“ฮ่ะฮ่ะ คุณหนูนี่มีของโปรดหลายอย่างจังเลยค่ะ ดาวเห็นคุณปิงปองทำแต่ของโปรดของคุณหนูทุกวัน ยังไม่ซ้ำกันซักวันเลย”ดาวล้อเลียนยิ้มแย้มให้กับคนที่ถือว่าเป็นเจ้านายคนใหม่ ซึ่งความจริงดาวคงจะไม่กล้าทำอย่างนี้กับเจ้านาย หากแต่เจ้านายคนใหม่ตรงหน้าไม่ถือตัว ไม่เคยเห็นว่าดาวเป็นคนใช้ ดาวรู้สึกได้ว่าอดุลย์มองตนเป็นเสมือนเพื่อนเหมือนน้องสาวตนจึงกล้าที่จะหยอกล้อพูดคุย

“เห็นผอมๆแบบนั้น ตะวันกินเก่งมากเลยนะดาว สมัยตอนเด็กๆ บดกล้วยหมดไปไม่ต่ำกว่าสองลูกตลอดเลย ป้อนหายป้อนหายไม่รู้ว่าท้องเด็กหรือหลุมดำกันแน่ ฮ่าๆ”พูดพลางแล้วทำให้คิดถึงสมัยตอนที่ตะวันยังเป็นทารก เขาเองก็ไม่เคยเลี้ยงเด็ก โชคดีที่แถวนั้นเป็นชุมชนที่มีคนสูงอายุอยู่พอควร ก็ได้พี่ๆป้าๆแถวนั้นแนะนำตลอด

“เหรอคะ คงน่ารักน่าเอ็นดูมากเลยนะคะ “

“ใช่ดาว ตอนสองสามขวบคุณหมอถึงกับเตือนเลยนะกลัวตะวันจะเป็นภาวะเด็กอ้วน ตอนนั้นก็แค่คิดว่ายังเด็ก อยากกินเราก็ป้อน ป้อนไปป้อนมาจากคนกลายเป็นหมูเฉยเลย ดีหน่อยตอนเข้าโรงเรียนได้เพื่อนเล่นเลยค่อยๆลดลงน่ะ”แววตาเป็นประกายยอมเล่าทำให้คนฟังเชื่อสนิทใจเลยว่าอดุลย์คงมีความสุขกับการได้เลี้ยงดูแลให้ตะวันเติบใหญ่ขึ้นมา

“ตอนนั้นไปไหนมาไหนมีแต่คนเข้ามาขอถ่ายรูป มาหยอกตะวันกันทั้งนั้น เด็กอ้วนๆขาวๆแถมแก้มยังเป็นพ่วง คนเข้ามานี่หยิกกันทุกคน ไอ้เราก็กลัวว่าลูกจะไม่ชอบหรือเปล่า แต่กลับกันเลยนะ ตะวันชอบมากเลยล่ะ เขาชอบเล่นกับคนอื่นตั้งแต่เด็กแล้ว”

“ไม่ต้องเดาเลยค่ะว่าคุณหนูคงต้องพูดเก่งมากแน่ๆ”

“ใช่ๆ พูดจนเหนื่อย คนฟังนะไม่ใช่คนพูด ฮ่ะๆ ผมยังเคยขอร้องเขาเลยนะว่าให้หยุดพูด คิดดูนะดาว ผมไปรับตะวันจากโรงเรียนตอนบ่ายสามตะวันพูดไปจนข้าวเย็นเลย พอเราทำทางไม่สนใจไม่ฟังก็กระโดดขึ้นตักแล้วก็พูดต่อ เรียกร้องความสนใจจากเราให้ฟัง สุดๆเลยล่ะ”

“หวา...เล่าเพลินหมูจะไหม้แล้วดาว!!”อุทานเสียงหลงเพราะกำลังสนุกที่นินทาลูกชายให้ดาวฟังจนหมูสามชั้นที่อยู่กระทะส่งกลิ่นขึ้นมาถึงได้รู้ตัวหันไปสนใจงานตรงหน้าแทน

หญิงสาวใช้ยืนมองอดุลย์ด้วยความชื่นชม เธอพอรู้มาจากลุงโชนที่รู้มาจากคุณท่านอีกทีว่าก่อนหน้าอดุลย์เป็นแค่พนักงานขายเครื่องสำอางธรรมดา ฐานะทางบ้านก็ไม่ใช่ว่าจะร่ำรวยแต่ก็ยังเลี้ยงดูคุณหนูมาอย่างดีทั้งๆที่ก็ไม่ใช่ลูกของตัวเอง

“แล้วมีอะไรให้ดาวช่วยมั้ยคะ”

“เรียบร้อยหมดแล้วดาว ยังไงตอนดาวกับเด็กๆในบ้านจะกินข้าว รบกวนไปเรียกผมด้วยนะ ส่วนนี่ของตะวันผมแยกไว้แล้วเห็นว่าวันนี้จะออกไปเรียนไวหน่อยมีสอบเก็บคะแนนตอนเช้า ถ้าตะวันลงมาบอกให้กินให้เรียบร้อยนะดาว เดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อน”

“ได้ค่ะคุณปิงปอง”

อดุลย์ยิ้มขอบคุณส่งไปให้แขวนผ้ากันเปื้อนกำลังจะหมุนตัวออกจากครัว เหมือนว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ ที่จริงก็ไม่อยากจะสนใจแต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายมาต่อว่าเขาได้อีก

“เออ แล้วคุณรพีเขากินอะไรล่ะดาว หรือดาวกำลังจะทำให้ผมช่วยหรือเปล่า จะได้อาบน้ำทีเดียวหลังทำงานเสร็จเลย”

“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะคุณปิงปอง ปรกติคุณผู้ชายจะรับแค่กาแฟตอนเช้า”

“...แก่แล้วทำไมไม่รู้จักกินข้าวเช้า ถึงว่าสมองไม่ปรกติ”

“อุ้ย คุณปิงปองก็แซวคุณรพีระวังนะคะ คุณผู้ชายได้ยินเข้าจะโกรธเอา”ดาวบอกขำๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก

“คงจะได้ยินหรอก คุณผู้ชายของดาวคงไม่เข้ามาในครัวหรอกมั้ง ป่านนี้ไม่รู้จะตื่นหรือยังเมื่อคืนผมลงมากินน้ำตอนเที่ยงคืนยังเห็นไฟในห้องเปิดอยู่เลย”บอกพลางทำเบะปากใส่ ถึงจะกลัวอีกฝ่ายแต่ตอนนี้อดุลย์อยู่ในที่ปลอดภัย ก็ขอเอาคืนเล็กๆน้อยๆถึงอีกฝ่ายจะไม่รู้ก็ทีเถอะ

“ค่ะ นั้นแหละค่ะคุณผู้ชายของแท้เลย ทำงานหามรุ่งหามค่ำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เมื่อสิบปีกว่าปีก่อนที่ดาวเข้ามาทำงานที่นี่นะ คุณผู้ชายน่าสงสารนะค่ะ ลุงโชนเล่าว่าตอนนั้นคุณเธออยากเรียนด้านวาดรูปหรือยังไงนี่แหละค่ะ แต่ก็ต้องเปลี่ยนมาเรียนเกี่ยวกับธุรกิจตามที่คุณท่านเธอสั่ง ตอนที่เข้าไปทำงานใหม่ๆก็เหมือนกัน โดนคุณท่านทั้งด่าทั้งตำหนิออกจะบ่อย  กว่าจะมาถึงจุดนี้คุณผู้ชายเธอก็ต้องตรากตรำมาเยอะเหมือนกันค่ะ ดาวอยู่ในบ้านนี้ดาวก็เห็นทุกอย่าง แต่ก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ทำได้แค่เข้าใจเวลาคุณผู้ชายเธอโกรธเกรี้ยวมาจากข้างนอก”ดาวบอกเรียบๆ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าอดุลย์เองก็ออกจะนึกเกรงในตัวเจ้านายของเธอ จากมุมคนนอกที่เห็นแต่ความร้ายกาจของรพีแต่คนใกล้ชิดที่เห็นว่าแท้จริงที่มาที่ไปคืออะไร

เห็นมาตลอดว่าอะไรทำให้รพี...ร้ายขนาดนี้

“...งั้น...ถ้าคุณรพีลงมาดาวก็ลองตักกับทานนี่ไปให้เขากินซิ ทำงานหนักๆก็น่าจะกินให้ครบสามมื้อนะ”

“ผมไปอาบน้ำก่อนนะดาว ฝากด้วยนะ”ร่างบางหมุนออกไปจากห้องครัวอย่างเร็ว ในใจนึกถึงคำพูดของดาวเมื่อครู่ ที่ตนกลัวรพีเพราะรพีแสดงแต่ความน่ากลัวให้ตนเห็นตลอดเวลา ถ้าแท้จริงแล้วรพีไม่ใช่คนที่เลวไปซะหมด บางทีเขาก็อาจจะตัดสินคนไวเกินไป..บางทีรพีอาจไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




เสียงทีวีเครื่องใหญ่ที่ตั้งอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่นดังขึ้น พร้อมๆกับที่ป่านสาวใช้อีกคนในบ้านหลังนี้เดินเข้ามาบอกกับดาวที่กำลังง่วนอยู่กับการทำความสะอาดภายในห้องครัว

“พี่ดาวๆ คุณผู้ชายจะเอากาแฟค่ะ”

“อืม เดี๋ยวพี่จัดการเอง ป่านไปจัดห้องคุณหนูไป”

“ค่ะ”สาวใช้ร่างเล็กเดินไปจ่อที่เครื่องทำกาแฟก่อนจะลงมือชงกาแฟอย่างชินมือ ไม่นานแก้วกาแฟเล็กๆสองใบก็วางอยู่ในถาดพร้อมๆกับเลม่อนหนึ่งซีกแบบที่รพีชอบดื่ม เมื่อเรียบร้อยดาวจึงยกออกไปโดยไม่ลืมกับข้าวที่มีคนสั่งให้ลองยกไปเสิร์ฟ

“กาแฟกับข้าวเช้าค่ะคุณผู้ชาย”คิ้วเข้มขมวดเข้าหาทั้งๆที่ยังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ร่างสูงในชุดพร้อมออกไปทำงานมองลอดผ่านแว่นตากรอบสี่เหลี่ยนเจอกาแฟแบบที่เคยดื่มทุกเช้า แต่ต่างจากทุกที่เพราะวันนี้มีข้าวผัดสีทองกับหมูสามชั้นทอดที่สีติดไหม้หน่อยๆมาด้วย

“ชั้นจำไม่ได้ว่าสั่งให้เอาข้าวมาด้วย”

“คุณปิงปองเธอทำไว้น่ะค่ะ ทำเผื่อพวกเด็กๆในบ้านด้วย”ดาวบอกอย่างซื่อๆ

“...ชั้นก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าสั่งให้ทำให้ชั้น”รพีบอกเรียบๆ หยิบกาแฟสีดำก่อนจะใส่เลม่อนลงไปทั้งชิ้น แล้วยกขึ้นดื่มหันไปสนใจหนังสือพิมพ์ในมือต่อไม่มีท่าทีว่าจะสนใจกับข้าว

“คุณปิงปองบอกให้เอามาเสิร์ฟค่ะ เธอบอกว่าคนทำงานหนักควรทานให้ครบสามมื้อ เธอเป็นห่วงคุณผู้ชายนะคะ”สาวใช้ไม่ย้อท้อพยายามตื้อให้รพีทานข้าวให้ได้ ไม่อยากให้คนทำต้องเสียน้ำใจ แล้วก็คิดว่ารพีน่าจะชอบเพราะลูกชายแท้ๆอย่างตะวันทานไปก็ชมไปไม่ขาดปากบอกว่าอาหารของพ่อปิงปองอร่อยที่สุดในโลก

“หึ นึกอะไรของเขาถึงลุกขึ้นมาทำอะไรแต่เช้าแบบนี้”ปากหนายกยิ้ม เหลือบมองดูกับข้าวพื้นๆอีกครั้ง

“คุณปิงปองเธอทำทุกตัวตั้งแต่เข้ามาอยู่แล้วค่ะ ทำให้คุณหนูทานก่อนไปเรียน พวกเด็กๆในบ้านก็พลอยโชคดีมีของอร่อยๆทานด้วย”ดาวบอกเสียงใส แต่ก่อนคนที่บ้านนี้จะต้องหากินเอง บ้างก็ทำเองจากของในครัว หรืออาจจะเป็นอาหารที่ยังเหลือจากเมื่อวานตอนเย็น

“ชั้นไม่กินข้าวเช้าก็รู้อยู่ วันหลังถ้าทำอะไรก็ไม่ต้องยกมาหรอก เสียเวลาเปล่าๆ”

“ไม่รับซักหน่อยหรือคะ คนทำจะเสียน้ำใจแย่นะคะ นี่คุณปิงปองลงมาทำตั้งแต่เช้า...”

“ชั้นไม่ยักรู้ว่าเธอช่างพูดขนาดนี้นะดาว”โดนเจ้านายดุเสียงเข้มทำเอาหญิงสาวต้องก้มหน้าเก็บคำพูดตามเดิม ที่จริงวันนี้ดาวพูดมากไปจริงๆ อาจเพราะความสนิทที่ปิงปองให้ทำให้เธอรู้สึกทำตัวสบายเกินไป

“เอาไปเก็บไป ชั้นไม่ชอบกินข้าวเช้า เธอก็น่าจะรู้”

“ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย”สุดท้ายจานอาหารที่เปี่ยมไปด้วยความหวังดีก็ไม่ถูกแตะต้องแม้แต่นิดเดียว หญิงสาวลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเทขายฟัดลงกระทะตามเดิม เสียดายน้ำใจของอดุลย์ที่ทำกับทาน แม้จะไม่ได้ตั้งใจทำให้รพีแต่ก็เอยปากบอกให้ยกไปให้ทานแท้ๆ



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




เย็นย่ำของวันเดียวกันผู้คนภายนอกกำลังเดินทางกลับบ้านเพราะเป็นเวลาเลิกงานของใครหลายคน แต่ภายในสำนักงานใหญ่ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังกำลังเคร่งเครียดอยู่กับการประชุมรอบที่สองของวัน

รพีนั่งอยู่ฟังลูกน้องเล่ารายละเอียดพร้อมกับแผนงานที่จะเพิ่มรายได้ขึ้นในไตรมาสต่อไปเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นที่กำลังเกรงว่าราคาหุ้นที่เคยสูงมาตลอดตกลงมานิดหน่อยเพราะข่าวฉาวของผู้บริหาร

เมื่อเช้าเขาก็นัดผู้ถือหุ้นมาประชุมไปแล้วหนึ่งรอบ และรอบนี้เป็นรอบตอนบ่าย ทำให้ทั้งวันเขาต้องจมอยู่แต่ในห้องประชุม เสียงน้ำย่อยในท้องที่หมุนวนทำเอาปวดท้องขึ้นมาเล็กน้อย

“มีใครสงสัยหรือมีคำแนะนำกับแผนการตลาดนี้มั้ยครับ”ชายหนุ่มที่เสนอแผนงานเอ่ยหลังจากนำเสนอเสร็จ แต่ไม่มีใครที่แสดงตัวที่จะพูดอะไรต่อ รพีจึงข่มความปวดทำหน้าสุขุมลุกขึ้นพูด

“ผมขอขอบคุณความเชื่อมั่นของทุกคนครับ ขอให้มั่นใจว่าบริษัทของเราไม่มีทางจะเกิดวิกฤตแน่นอนผมในฐานะทั้งที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นประธานกรรมการขอยืนถึงความมั่นคงของทางเรา และหวังว่าทุกคนจะเชื่อใจผมแบบนี้ตลอดไป ขอบคุณนะครับ”เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงพูดจบ ใบหน้าเอาจริงเอาจังที่พยายามสื่อให้คนฟังเชื่อตามที่พูดได้ผลดีเยี่ยม แต่ภายในใจกลับรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่เต็มทน

“ขอบคุณมากนะครับคุณรพี”เหล่าคนที่มาร่วมประชุมแห่เข้ามาร่วมกล่าวขอบคุณอย่างไม่มีสาเหตุ ร่างสูงนึกรู้ทันที่เข้ามาคงหวังจะเข้ามาทำความรู้จักกับเขา แต่ก็เพราะมันเป็นหน้าที่จึงได้แต่ปั้นหน้ายิ้มตอบกลับคนแล้วคนเล่า

“ท่านประธานจะกลับเลยหรือเปล่าครับ?”ชายหนุ่มที่เป็นเลขาของรพีเอ่ยถาม

“อืม วัชร...พรุ่งนี้ชั้นมีนัดหรือเปล่า”

“ครับ พรุ่งนี้ภรรยาเก่าท่านขอนัดคุยเรื่องคดีฟ้องหย่าครับ”วัชรตอบกลับไม่ต้องดูเครื่องช่วยจำ เขาจำรายละเอียดยิบย่อยได้เป็นอย่างดี เลยทำให้ทำงานกับรพีมาได้เข้าปีที่ห้าแล้วหลังจากเลขาเก่าแก่ที่เคยเป็นเลขาของศูรลาออก

“หึ ทำไมช่วงนี้ชีวิตชั้นมีแต่อะไรน่าวุ่นวายเต็มไปหมด”

“เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปครับ เหมือนที่ท่านเคยผ่านมันไปได้ทุกครั้ง”วัชรเอ่ยให้กำลังใจ ในขณะที่รพีทำหน้านิ่งตอบรับในลำคอ ไม่ได้สนใจคำปลอบโยนเพราะตัวเขาเองก็เชื่อมั่นในตัวเองว่าต้องแก้ปัญหาทุกอย่างได้ทั้งหมด

“วันไหนว่างๆนายเข้าไปที่บ้านชั้นหน่อย มีคนจะให้นายทำความรู้จักไว้”

“ครับ? ใครหรือครับ”วัชรคิดพลางมองที่เจ้านายของตัวเอง คนที่บ้านของรพีก็รู้จักหมดอยู่แล้วด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ จึงต้องรู้ทุกเรื่องและทุกคนที่อยู่รอบตัวของเจ้านาย

“ลูกชายชั้น แล้วเดี๋ยวชั้นจะให้นายคอยดูแลเขา แล้วจะเพิ่มเงินพิเศษให้”ตาตี๋ของเลขาหนุ่มเบิกกว้างเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่ทำงานมาก็พอรู้อยู่ว่าเจ้านายไม่สามารถมีลูกได้

“...”

“ไปเอาแฟ้มในห้องชั้นไปอ่าน แฟ้มสีน้ำตาลวางอยู่ในลิ้นชักตรงกลาง เขาอายุสิบห้าอีกหน่อยจะให้นายช่วยสอนงาน แต่งานใหญ่ที่คงต้องทำก่อนเลยคือต้องหางานเปิดตัวว่าเขาเป็นทายาทของเรืองรัตนโยดม”รพีพูดไปเดินไปส่วนคนฟังถึงจะสงสัยจนอยากเดินไปหาแฟ้มที่ว่ามาอ่านแต่ก็ยังยืนฟังคำสั่งไปเรื่อยๆ

“ครับ ยังไงผมจะดูให้นะครับ แล้วยังไงพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปที่บ้านท่านประธานนะครับ พรุ่งนี้คุณไปพบภรรยาผมเลยว่าง”ร่างสูงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ส่วนตัวไปยังรถของตัวเองที่จอดรออยู่ในที่จอดส่วนตัวของตัวเอง

“กลับเลยใช่มั้ยครับ”คนรถประจำตัวถามขึ้น รพีพยักหน้าตาก่อนจะปลดเนกไทที่คอแผ่ตัวลงที่เบาะหลังด้วยความเหนื่อยล้า มือใหญ่ยกขึ้นมากดที่สันจมูกโด่งส่วนอีกมือก็กดไว้ที่ท้องเพราะเหมือนน้ำกรดจะเล่นงานอีกครั้งแต่ก็ได้แต่กดความเจ็บปวดนั้นก่อนจะเผลอหลับไป

ด้วยจราจรที่ติดขัดในช่วงหัวค่ำของเมืองหลวงนานกว่าสองชั่วโมงรถยุโรปคันหรูก็เคลื่อนตัวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ไฟในบ้านบ่งบอกว่าทุกคนคงแยกย้ายไปที่ห้องของตัวเองหมดแล้วเพราะมีแค่ไฟที่ชั้นหนึ่งเท่านั้นที่เปิดทิ้งไว้ ยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็พบว่าเวลาเลยมาเกือบๆจะห้าทุ่มอยู่แล้ว

“ดาว...ดาว!”ทันทีที่เข้ามาในบ้านรพีก็ตะโกนเรียกสาวใช้ ร่างกายรู้สึกหิวจนแสบท้องไปหมด

“พวกเด็กๆเข้านอนแล้วครับ คุณรพีต้องการอะไรหรือเปล่าครับ”เสียงแหบเล็กเอ่ยตอบพร้อมกับปรากฏตัวในชุดกางเกงเลกับเสื้อยืดที่ใส่นอนประจำ

“ทำไมถึงนอนกันหมด ชั้นให้คนโทรมาบอกว่าวันนี้ชั้นกลับบ้าน ทำไมไม่รอปิดบ้าน”เสียงเข้มเอ่ยอย่างขัดใจ หงุดหงิดที่ต้องทนแสบท้องเพราะขี้เกียจหาของกินข้างนอก แล้วยังต้องมาหงุดหงิดเพราะเจอหน้าของคนที่ไม่ถูกใจอีก

“พรุ่งนี้พวกเขาต้องตื่นไปจ่ายตลาดแต่เช้าครับ ผมเลยอาสาอยู่คอยปิดบ้านให้เอง”อดุลย์ตอบ นึกหวาดๆคนตรงหน้านิดหน่อย ทั้งสีหน้าและท่าทางของรพีดูไม่ปรกติ อดุลย์กลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงพยายามยืนคุยให้ห่างที่สุดพลางสอดสายตาหาทางหนีไว้พร้อมๆกัน

“ไปปลุกพวกนั้นมา ชั้นหิว ไปบอกพวกนั้นว่าไปหาอะไรมาให้ชั้นกินเดี๋ยวนี้”

“...ถ้ายังไงผมทำให้ก็ได้นะครับ”

“...”ร่างสูงไม่ตอบจ้องไปที่ตากลมของคนที่เสนอตัวทำอาหารให้ทาน ถึงจะไม่อยากกินอาหารที่คนตรงหน้าทำเหมือนเมื่อตอนเช้าแต่ความหิวกำลังเล่นงานอย่างหนักเลยทำให้ต้องพยักหน้าส่งๆไปให้

“ครับ...งั้นซักครู่นะครับ”ร่างบางเดินหลบเข้าไปในห้องครัวทำเอาคนที่หิวลืมแสบท้องไปชั่วขณะ ปากหนายกยิ้มขำๆที่เห็นอดุลย์กลัวตัวเองขนาดที่ว่าทางไปห้องครัวต้องเดินผ่านรพีไปแต่อดุลย์กับเดินอ้อมไม่เดินผ่านเขาซะอย่างนั้น

ไม่นานเกินรอข้าวผัดกับไข่เจียวฟูร้อนๆก็มาเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะอาหารตัวยาว ไม่ทันที่คนทำจะได้วางจานดีๆคนรอทานก็ตักข้าวคำแล้วคำเล่าเข้าปาก อดุลย์จึงเลี่ยงเดินไปเทน้ำเปล่ามาวางให้

“คุณรพีไม่ได้ทานข้าวเย็นหรือครับ”เพราะมันเงียบเกินไปคนที่ยืนห่างๆรอดูว่ารพีต้องการอะไรอีกจึงชวนคุย ร่างสูงเงยหน้ามองก่อนจะพยักหน้า แต่ปากร้ายก็ไม่วายกัดกลับไปนิดหน่อย

“ชั้นมีการมีงานต้องทำ ไม่ว่างเหมือนนายที่อยู่เฉยๆก็มีข้าวกับครบสามมื้อหรอกนะ”

“...”

“ทำไมนายถึงชอบทำข้าวผัด?”รพีเปลี่ยนเรื่องเพราะอีกฝ่ายไม่ตอบโต้ ยอมรับคำว่ากล่าวของเขาเฉยๆ

“พอดีข้าวเมื่อเย็นเหลือน่ะครับแล้วดาวเอาใส่ตู้เย็นไว้ผมไม่อยากให้คุณรพีรอหุงข้าวใหม่”

“ที่จริงชั้นชอบข้าวหุงสุกใหม่ๆ เอาเถอะถ้าเลือกกินอีกก็คงไม่ได้กินอะไรเหมือนเมื่อตอนกลางวัน”คำบอกเล่าเหมือนพูดขึ้นมาลอยๆทำเอาคนฟังต้องแปลกใจพร้อมกับสงสัยไปพร้อมๆกัน

“นี่คุณรพีไม่ได้ทานอะไรทั้งวันเลยเหรอครับ”คำถามจากร่างบางทำให้คนที่ทานข้าวอยู่รู้ตัวว่าเผลอพูดเรื่องส่วนตัวออกมา

“ใช่เรื่องที่นายต้องรู้หรือไง”

“...ผมว่าคุณรพีควรทานให้ครบสามมื้อนะครับ อย่างที่คุณบอกว่าคุณมีการมีงานทำคุณก็ควรทานเยอะและทานให้ครบซิครับ”หน้าคมหันไปจ้องคนพูด ดวงตากลมพยายามสื่อถึงสิ่งที่ตัวเองพูดว่าเป็นเรื่องสำคัญ

“นายย้อนชั้นหรือไง...ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องสนใจ”มือหนารวบช้อนไว้ตรงกลางจานที่มีข้าวเหลือแค่ไม่กี่คำกับเศษไข่เจียว ยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะลุกออกไปจากห้องอาหารไม่สนใจจะบอกขอบคุณคนที่ทำอาหารให้ทานเลยซักคำ

แต่สำหรับอดุลย์ก็ไม่ได้ถือว่าแย่นัก...ถึงรพีจะไม่พูดดีๆด้วยแต่แค่ไม่ทำร้ายแค่นั้นก็ถือว่าดีถมไปแล้ว



ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รพีปากร้ายตลอด!!!

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :katai2-1: อ่านตอนนี้ค่อยรู้สึกว่ารพีดูเป็นการเป็นงานขึ้นมาหน่อย
แต่แบบก็ยังอดสงสารอดุลย์ไม่ได้อยู่ดี  :เฮ้อ: ต้องมาได้กับคนแบบนี้
สงสัยต้องใช้เวลาอีกเป็น 10 ตอนกว่าจะเริ่มคิดได้ 555+
แล้วจะรออ่านต่อนะจ๊ะ ^^

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :katai4: :katai4: จิกกัดตลอดๆ รพีนี่ปากจัดกว่าผู้หญิงอีกนะ ชอบที่พ่อปิงปองแอบเบะปากใส่ด้วยอ่ะ 555  o13 อิอิ แล้วพรุ่งนี้วัชรมาที่บ้านต้องเจอพ่อปิงแล้วแอบปิ๊งแน่ๆ หึหึ จะได้เติมเชื้อไฟให้รพีร้อนนนนนน  :hao7: :hao7: มโนจัง 555555555

ให้พ่อปิงปองสู้ๆ อย่างนี้ไปเรื่อยน้าา เดี๋ยวรพีนางไม่ค่อยร้ายแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ใช้ชีวิตแบบนี้น่าเป็นโรคกระเพาะควบกรดไหลย้อนตั้งแต่ 30

ไหนจะเล่นยาจนเป็นหมัน.... เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหน่อยน่าจะแจ่ม
สภาพร่างกายน่าจะอ้วนลงพุง ไม่ควรจะหล่อเหลานะบอกตรง

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
พูดดีๆเป็นไหม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :hao5: วันนี้รอเก้อเลย 5555  :กอด1: เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้าา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เอิ่ม........เป็นนักธุรกิจใหญ่โตแต่ไม่รู้จักดูแลตัวเอง

หาคนมาช่วยดูแลสิก๊ะ อิอิ

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
ยังๆ ยังไม่เห็นความดีของเขาอีก ชิส์
เด๋วปั๊ดเหนี่ยวหน้าไห้

ออฟไลน์ paojijank

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ช่วงนี้คนเขียนขยันปล่อยของบ่อย ขอบคุณค่ะ 

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รพีเริ่มหวั่นไหวรึยังล่ะ เมื่อไหร่จะทำดีกับปิงปอง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
บ้านไม้สองชั้นทรงโบราณที่ปลูกตรงข้ามกับคฤหาสน์หลังงามแต่เป็นเจ้าของเดียวกัน ศูรกำลังนั่งทานข้าวเช้าในตอนที่มีเพลงชาติดังเอื้อยๆมาจากวิทยุที่ลูกน้องคนสนิทเปิด โต๊ะกลมเล็กๆในสวนที่เขาลงมือทำเองทุกอย่างเป็นโต๊ะทานข้าวในทุกมื้อเช้า

เสียงออดดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งเจ้านายและลูกน้องที่นั่งอยู่ไม่ไกล ศูรมองหน้าโชนและพยักหน้าบอกให้ไปดูว่าใครเป็นคนมาแต่เช้า

“สวัสดีครับคุณท่าน”ชายหนุ่มรูปร่างไม่เตี้ยไม่สูงติดออกจะโปร่งบางไปซักหน่อยกล่าวสวัสดีเจ้าของบ้าน มือใหญ่ของศูรยกขึ้นรับไหวจำได้ว่าคนที่มาเป็นลูกน้องของรพีที่บริษัท เคยเห็นหน้าคราตากันอยู่บ้างเพราะน้องจากเป็นเลขาและรพียังคอยให้ช่วยเรื่องต่างๆนานาในชีวิตประจำวันอยู่ด้วย

“เลขารพีรึ มีอะไรล่ะมาแต่เช้า”เสียงทุ้มที่ยังคงทรงอำนาจอยู่พูดถาม

“ผมวัชรครับคุณท่าน พอดีผมเข้ามาคุยกับคุณอดุลย์และก็คุณตะวันตามคำสั่งของท่านประธารน่ะครับ”แจ้งเหตุผลที่เข้ามาที่นี่ แต่ที่นี่แต่ตามมารยาทต้องมากล่าวสวัสดีหัวเรือใหญ่ของบ้านเสียก่อน

“พึ่งทะเลาะกันเมื่อวันก่อน ไม่รู้มันจะใจร้อนไปไหน แล้วนี่มันให้เธอเข้ามาคุยเรื่องอะไร”คนอายุมากกว่าทำหน้าขัดใจ ว่ากล่าวลูกชายออกมาเพียงเพื่อไม่อยากให้หลานชายกับลูกชายมาทะเลาะกัน วัชรยิ้มอ่อนเมื่อเห็นท่าทีที่ไม่เห็นด้วยของศูรส่วนตัวของขาเขาเข้าใจรพีเพราะทำงานด้วยกันมากว่าห้า เจ้านายของเขาก็แค่อยากให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งก็พลาดอะไรบางอย่างที่สำคัญไป

“ท่านประธานให้ผมเข้ามาทำความรู้จักเฉยๆครับ เห็นว่าจะให้ผมคอยจัดการเรื่องต่างๆของลูกชายท่านน่ะครับ แต่เท่าที่ผมอ่านประวัติก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จะมีก็แค่เรียนวิทยาลัยที่คุณตะวันเรียนมันค่อนข้างจะอันตรายไปซักหน่อยครับ”ด้วยความอยู่รู้เรื่องราวที่สงสัยอยู่แล้ววัชรจึงนั่งอ่านแฟ้มที่เอามาจากรพีอย่างละเอียดถี่ถ้วน แถมยังหาข้อมูลที่พอจะหาได้จากทางอินเตอร์เน็ทประกอบไปด้วย อย่างพวกพวกเรื่องนักเรียนยกพวกตีกันหรือข่าวว่ามีในวิทยาลัยถูกทำร้ายจากต่างสถาบันก็ทำให้วัชรอดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้

“ตะวันไม่อยากเปลี่ยน เขาอยากเรียนสายช่างชั้นก็จนปัญญาจะไปบังคับ เหมือนกันเหลือเกินพ่อลูก ขนาดไม่เคยอยู่ด้วยกันยังเอานิสัยกันมานึกไม่ออกว่าถ้าอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิดไม่รู้จะเหมือนกันขนาดไหน”ทั้งๆที่เป็นเหมือนคำว่ากล่าวแต่คนฟังสามารถจับน้ำเสียงของความเอ็นดูได้ในนั่น หนุ่มตี๋ยิ้มอ่อนๆส่งไปให้ ถ้าเรื่องของศูรที่เขาพูดกันในบริษัทเป็นความจริง

...ก็คงเหมือนกันมาตั้งแต่ปู่เลยไม่ใช่เหรอ...

“ยังไงก็ดูแลหลานชั้นดีๆแล้วกัน...โชนมาพาเจ้าหนุ่มนี่ไปหาอดุลย์ทีไม่แน่ใจว่าวันนี้ตะวันออกไปเรียนหรือยัง”ทิ้งบทสนทนาไว้แค่นั้น วัชรรับคำสั่งแล้วเดินตามลุงคนสวนที่ใบหน้าเป็นมิตรวนกลับไปทางที่เข้ามาเพราะต้องไปบ้านที่อยู่ตรงกันข้าม

ทั้งสองเดินข้ามถนนเล็กๆในหมูบ้านเข้าไปยังประตูของบ้านที่หลังใหญ่กว่าเมี่อครู่อยู่โขหาก ในโรงรถไม่ปรากฏรถคันโปรดที่เจ้านายของวัชรใช้ประจำทำให้รู้ว่ารพีคงออกไปตามที่นัดหมายแต่เช้า นึกโล่งใจที่เจ้านายไม่เบี้ยวนัดของอดีตภรรยาอย่างคุณนลินที่วันนี้นัดมาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเลี้ยงดูหลังจากการหย่า

“คุณปิงปองครับ คุณปิงปอง”โชนตะโกนเรียกอีกฝ่ายทันทีที่เข้ามาในตัวบ้าน ประจวบเหมาะกันคนที่ถูกเรียกเดินลงมาหลังจากไปอาบน้ำที่ห้องนอนบนชั้นสองพอดี

“สวัสดีตอนเช้าครับลุงโชน มีธุระอะไรหรือเปล่าครับมาแต่เช้าเลย...อ่าวนั้นคุณวัชร?”อดุลย์มองคนมาใหม่งงๆก่อนจะเบิกตากว้างอย่างลืมฉุกคิด

“สวัสดีครับคุณอดุลย์”วัชรบอกนอบน้อม นึกขำอีกฝ่ายที่ยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน แต่ก่อนเป็นอดุลย์ที่ชอบทำตัวนอบน้อมกับเขาและคนอื่นๆมากกว่าด้วยเพราะตนเป็นแค่พนักงานชั้นล่างทั้งๆที่แก่กว่าคนที่ไหว้ซะอีก

“รู้จักกันแล้วหรือเปล่า”

“อ้อ ครับ ก็คุณอดุลย์ทำงานอยู่ที่ห้างของเรานี่ครับ เคยมีโอกาสคุยกันบ้างน่ะครับ บางทีผมก็ไปซื้อของที่บูธที่คุณอดุลย์เขาขายอยู่”คำบอกเล่าของวัชรทำให้ผู้ที่อาวุโสสุดพยักหน้าเข้าใจก่อนจะขอตัวกลับไปที่บ้านหลังของศูรหลังจากที่เห็นว่าผู้มาเยื่อนรู้จักกันดีอยู่แล้ว

“คุณวัชรมามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”พาหนุ่มหน้าตี๋ไปนั่งที่โต๊ะโซฟาภายในห้องนั่งเล่นที่อยู่เยื่องด้านซ้ายของตัวบ้าน ก่อนหน้าที่รู้จักวัชรเพราะอีกฝ่ายเป็นเลขาของประธานฯ มักชอบลงมาเดินดูในตัวห้างบ่อยๆ แถมเครื่องสำอางยี่ห้อประจำของเจ้าตัวก็เป็นแบรนด์ที่อดุลย์รับหน้าที่ขายอยู่

ทำให้ได้เคยคุยกันอยู่หลายครั้งแต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เท่านั้น เวลาเดินสวนกันอดุลย์ก็จะยกมือไหว้ก่อนจะเดินผ่านกันไปเฉยๆ ถึงจะเคยได้ยินพี่ๆน้องๆที่แผนกเม้าส์กันว่าวัชรเป็นทั้งเด็กเส้นและเด็ก...โปรดของท่านประธานฯเพราะไม่เคยมีใครทำงานกับประธานฯที่ว่าได้มานานอย่างวัชรอีกแล้ว

แต่ตอนนั้นอดุลย์ไม่ได้สนใจเรื่องของคนอื่น ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าประธานฯที่ว่าน่ะเป็นใคร เขาแค่มาทำงานทำเสร็จก็กลับบ้านไปดูแลลูกชายก็มีเวลาไม่พอใช้อยู่แล้ว

“คุณรพีส่งผมครับ ท่านจะให้ผมมาคอยช่วยดูแลจัดการเรื่องต่างๆของทั้งคุณและคุณตะวัน ว่าแต่คุณตะวันไปเรียนหรือยังครับ?”วัชรตอบเรียบๆ มองสีหน้าตกใจของคนตรงหน้าที่ยังไม่หายไปไหน

“อ้อ เอ่อ ตะวันน่าจะเรียนแล้วครับ พอดีเห็นบ่นว่าถ้าออกช่วงสายๆรถมันจะติดน่ะครับ”

“อ้อ ใช่ครับทางไปวิทยาลัยของคุณตะวันจากแถวนี้รถติดจริงๆ”

“แล้ว...”อดุลย์ยังคงไม่เข้าใจว่าที่บอกว่าจัดการเรื่องต่างๆน่ะมันเรื่องอะไร เกิดมาก็ไม่เคยมีพี่เลี้ยงหรือคนดูแล และก็ไม่เข้าใจด้วยว่าเด็กอายุที่พึ่งทำบัตรประชาชนไปไม่ถึงปีทำไมต้องมีคนดูแลราวกับเลขาฯด้วย

 “งั้นขอคุยกับคุณอดุลยก่อนแล้วกัน นี่ผมเรียกว่าพี่แบบแต่ก่อนได้มั้ยครับ”วัชรเอ่ยถาม พอจะรู้นิสัยที่แท้จริงของคนตรงหน้าอยู่บ้างถึงจะดูเป็นคนพูดน้อยแต่ก็อัธยาศัยดีมากๆคนหนึ่ง ตอนที่ตนเข้าไปขอคำแนะนำเรื่องผลิตภัณฑ์ก็ดูแลเขาอย่างดี แถมกับเพื่อนร่วมงานก็ไม่เคยมีประวัติว่าไม่มีใครไม่ชอบขี้หน้าเลยซักคน ผลประเมินของฝ่ายบุคคลก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก

“อ้อๆได้ครับคุณวัช”ยิ้มบางตอบกลับพร้อมเรียกด้วยชื่อที่เคยเรียกมาตลอด ที่จริงแล้ววัชรมีชื่อเล่นจริงๆอยู่แต่ตั้งแต่เข้ามามหาวิทยาลัยก็มักถูกเรียกว่าวัชเขาเลยมักบอกให้ใครๆเรียกเขาว่าวัชด้วยความที่ว่ามันก็เรียกง่ายดี

“ครับ...งั้นเรื่องแรกเลยนะ ผมอยากคุยเรื่องนามสกุลน่ะครับ ผมพอทราบมาว่าที่จริงทานประธานฯคุยไปแล้วแต่คงไม่ประสบความสำเร็จ ที่จริงท่านก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายนะครับ ที่ท่านอยากให้เปลี่ยนเพราะว่าคิดจะเปิดตัวให้สังคมรู้ว่าคุณตะวันเป็นลูกชายของท่านเป็นทายาดของเรืองรัตนโยดมน่ะครับ”วัชรพูดยืดยาว มองคนฟังที่ฟังอย่างตั้งใจ

“ผมเข้าใจครับ ผมเองก็พยายามบอกลูกชายแต่ตะวันเขาใจร้อนแถมยังเป็นเด็กขี้ดื้อด้วย เขาบอกว่าเขาไม่ยอมลูกเดียวยังไงก็ไม่ยอมคนละนามสกุลกับผม ผมเองก็อ่อนใจ...”ไม่ทันจะพูดจบหนุ่มหน้าตี๋ก็ขัดทัพขึ้นมากลางปล้อง

“ก็ไม่ยากนี่ครับ”


“....พี่ก็เปลี่ยนมาเป็นเรืองรัตนโยดมซะก็สิ้นเรื่อง”

“หา...เอ่อ ผมว่าไม่เหมาะหรอกมั้ง”ตาโตเบิกกว้างกับข้อเสนอใหม่ ทำเอาคนตรงหน้ายิ้มขำ เขาไม่ได้พูดเล่นแต่พูดจริงๆ ถึงจะไม่ใช่คนในตระกูลแต่ก็เชื่อว่ารพีและศูรก็ยอมยกนามสกุลของตัวเองให้อดุลย์แน่นอนเพราะที่ได้ตามมาคือลูกและหลานชายรวมถึงทายาดของธุรกิจอีกด้วย

“ผมจะโดนเจ้านายคุณระแวงอีก แค่นี้เขาก็คิดว่าผมจะปอกลอกเขาจะแย่แล้วครับ”อดุลย์บ่นทำหน้าหนักใจ เป็นความหนักใจเดียวที่อยู่ที่นี่ เขาไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดีเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะหาวิธีอะไรมาแสดงความบริสุทธิ์ใจที่มี

“ฮ่ะๆ คงโดนท่านประธานฯว่ามาเยอะซินะครับ พี่อย่าใส่ใจกับท่านเลย คนแบบท่านน่ะเป็นพวกกระหายความสำเร็จครับ ทำได้ทุกอย่างขอแค่ให้สิ่งที่ตัวเองต้องทำออกมาสำเร็จก็พอ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่จริงๆก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอกนะครับ พี่ลองตีสนิทท่านซิจะได้รู้ว่าจริงๆท่านน่ะไม่มีอะไรเลย ชีวิตมีแค่งานเท่านั้นเอง”วัชรบอกอย่างที่คนสนิทรู้ อดุลย์เองก็เผลอเห็นด้วยในหลายๆอย่างที่รพีสามารถทำได้จริงๆเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ

อดุลย์เงียบไม่ได้พูดอะไรต่อส่วนวัชรก็รู้ท่าทีของคนตรงหน้า เขาไม่อยากให้อดุลย์มองรพีในแง่มุมที่ร้ายเกินไปนัก แม้จริงๆรพีจะไม่ได้ได้ดีแต่ถ้าจะมองว่าร้ายก็น่าสงสารเกินไป

ในระหว่างที่เกิดความเงียบ ดาวก็เดินถือถาดน้ำมาวางให้สองแก้ว

“คุณปิงปองจะให้จัดโต๊ะอาหารเลยมั้ยคะ”...หืมม อดุลย์หันไปมองหน้าคนถามงงๆ ปรกติข้าวเช้ากับกลางวันเขาก็แค่เดินไปในครัวตักใส่จานแล้วหาที่นั่งกินในครัวไม่ก็ออกไปนั่งกินในสวนหน้าบ้าน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าดาวคงคิดว่าวัชรเป็นแขกจึงถามแบบนี้กับเขา

“คุณวัชทานข้าวเช้ามาหรือยังครับ?”

“อ้อ เรียบร้อยแล้วครับ พอดีเมื่อวานประชุมลากยาวจนดึกกว่าจะกลับถึงห้องผมก็สลบคาที่ ตื่นเช้ามาเลยโซ้ยแหลกหมดข้าวมันไก่กับหมูปิ้งไปสิบไม้เลยครับ”วัชรบอกแต่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ที่จริงหลังจากกลับถึงห้องเขายังอ่านเอกสารเกี่ยวกับอดุลย์กับตะวันจนลืมหิวมากกว่า

“ทำงานหนักๆแบบนี้กันบ่อยหรือครับ?”

“อ้อ ไม่หรอกครับ ช่วงนี้มีปัญหาภายในนิดหน่อยเลยต้องประชุมทุกวัน พึ่งเสร็จเมื่อวานนี่เองครับ”ตอบเลี่ยงๆถือคติเก็บรักษาความลับเป็นสำคัญแม้ว่าตอนนี้อดุลย์จะถือว่าเป็นหนึ่งในครอบครัวของเจ้านายก็เถอะ

“คุณวัชอย่าอดอาหารแบบเจ้านายแล้วกันนะครับ ไม่ดูแลตัวเองแล้วพาลอารมณ์เสียใส่ลำบากคนอื่นแย่ แล้วทำงานหนักแต่ไม่ยอมดูแลตัวเองแบบนี้อย่าถือว่าผมแช่งนะ ผมแค่ไม่อยากให้ลูกชายผมเขาต้องกำพร้าพ่อหรอกนะครับ”

“ฮิฮิ คุณปิงปองนี่ชอบนินทาคุณรพีจริงๆ น่ารักดีนะคะ”หญิงสาวที่นั่งรอคำตอบแต่กลับได้ฟังคำบ่นของอดุลย์หัวเราะออกมา ยิ่งนับวันที่อดุลย์อยู่ที่นี่ยิ่งชอบบ่นเจ้านายของเธอได้ทุกวัน แต่พอเจอหน้าจริงๆก็เงียบเป็นเป่าสาก แถมยังชอบทำท่าทางกลัวอีกฝ่ายด้วย

ลิงหลอกเจ้าชัดๆนี่น่า...

“หวา ขอโทษทีนะดาวนินทาเจ้านายด้วยอีกล่ะ งั้นรบกวนดาวจัดโต๊ะอาหารหน่อยนะสองที่”

“อ้าว...”

“กินเยอะๆไงคุณวัช ทำงานเยอะๆก็ต้องกินเยอะๆ ไม่ใช่เอาแต่ทำงาน ชอบทำงานขนาดนั้นตายขึ้นมานี่อดทำงานเลยนะครับ”หนุ่มตี๋สะอึกเหมือนโดนด่าเข้าซะเองได้แต่ยิ้มกลับไปให้

“นี่นอกจากงานคุณรพีเขาทำอะไรบ้างมั้ยครับ”อดุลย์เปลี่ยนเรื่องทันทีที่เห็นยิ้มแหย้ๆของคนตรงหน้า เผลอตัวพูดทำให้วัชรคงหนักใจเพราะคนที่ตัวเองว่าไปก็เจ้านายของวัชรทั้งนั้น

“ส่วนใหญ่ก็สังสรรค์ตามงานสังคมครับ แล้วก็ตีกอล์ฟ แต่ถ้ามีวันหยุดจริงๆท่านชอบไปตั้งแคมป์คนเดียวน่ะครับ แต่ที่ไหนผมก็ไม่เคยไป ช่วงหลังๆนี่ท่านไม่ได้ไปนานแล้วเหมือนกัน”

“อืม..ก็ไม่ได้ทำแต่งานนี่ครับ”ยังไม่วายพูดออกมา

“โธ่ พี่ก็”อดุลย์ขอโทษขอโพยที่นินทาเจ้านายคนตรงหน้า พลางชวนลุกขึ้นไปทานข้าวเช้าด้วยกันวันนี้เขาตื่นเช้ากว่าทุกวันมาหุงข้าวสุกใหม่ๆ แล้วก็ผัดผักคะน้าฮ่องกงซอสเห็ดหอมและต้มจืดเต้าหู้ไข่กับไส้กรอกทอดที่ทำเยอะเพราะด้วยดาวกับป่านพึ่งซื้อของสดมาใส่ตู้เย็นเลยเกิดคันมืออยากทำขอโปรดของตะวันทั้งนั้น และก็ทำเผื่อคนที่บอกชอบกินข้าวหุงร้อนๆด้วย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับอีกหนึ่งวัน

...ก็ช่าง...ไหนๆเขาก็ทำข้าวเช้าทุกวันอยู่แล้ว ทำเผื่อๆไปก็ไม่เสียหายอะไร ยังไงก็เป็นของของเจ้าของบ้านอยู่แล้ว...

...จะกินไม่กินก็ช่าง...



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




ช่วงสายของวันภายในสี่เหลี่ยมที่มีโต๊ะไม้ตัวใหญ่อยู่ตรงกลางห้อง อากาศเย็นเชียบจากเครื่องทำความเย็นยังเย็นไม่เท่าใบหน้าคมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงที่กาลเวลาไม่สามารถทำร้ายเธอได้...นลิน

รพีไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลยแม้แต่น้อยทุกอย่างเป็นหน้าที่ของทนายส่วนตัวของเขาเป็นคนจัดการ เขาแค่มีหน้าที่มานั่งฟังเรื่องราวเท่านั้น

จนกระทั้งทนายฝ่ายอดีตภรรยายื่นข้อเสนอที่ให้รพีไม่ใช่แค่เสียเงินแต่ร่วมถึงเสียหุ้นในบริษัทด้วยร่างสูงถึงกับยืนตบโต๊ะดังกังวานไปทั้งห้อง มองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงข้ามที่พยายามเบือนหน้าหนี

นลินรู้ดีแก่ใจว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรยุ่งกับรพีคือครอบครัวหรือก็คือศูรและบริษัท แต่ด้วยเธอเองก็ไม่มีหลักประกันอะไรเลยแม้เงินที่ฟ้องหย่าจะมีมูลค่ามากขนาดที่คนธรรมดาทั่วไปไม่เคยจะคิดฝันว่าจะได้ครอบครอง แต่ยังไงหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ของรพีก็สามารถสร้างได้ทั้งเงินทอง และพื้นที่บนสังคมให้กับเธอได้

“เธออย่าคิดว่าการที่เธอถือไพ่เหนือกว่าชั้นและจะเรียกร้องอะไรก็ได้นะนลิน”เสียงเย็นเชียบดังจากปากหนาคู่นั้น จริงอยู่ที่ที่โดนฟ้องหย่าเพราะพฤติกรรมเที่ยวผู้หญิงของรพี เวลาสังสรรค์ในวงสังคมมักจะมีผู้หญิงหน้าใหม่ๆติดมือมาด้วยเสมอ ละเลยคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาจนถูกฟ้องหย่า แต่รพีก็รู้ว่านลินก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้เพราะไม่อย่านั้นคงฟ้องหย่าตั้งแต่หกเจ็ดปีก่อนไปแล้ว

“ถ้าเธอยื่นขอเสนอแบบนี้ก็ไม่ต้องนัดชั้นมาไกล่เกลี่ยมันทำให้ชั้นอารมณ์เสีย เธอน่าจะรู้ดีว่าชั้นโมโหร้ายแค่ไหนนะนลิน”

“ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องเจอกันในศาล”ไม่ใช่นลินเป็นคนพูดแต่กลับเป็นทนายข้างๆที่พูดออกมาแทนเรียกความสนใจจากใบหน้าที่ดุกว่าสัตว์ร้ายให้หันไปมอง

“เอาซิ ถ้าอยากรู้จักอำนาจเงินให้ถ่องแท้ก็เอาเลย แล้วจะได้รู้กันว่าวิชาความรู้หรือประสบการณ์ต่างๆมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยในกรณีนี้ ยังไม่เคยเห็นใช่มั้ยไอ้ทนายหน้าอ่อน”

“...ด้านมืดของเงินน่ะ...”คำขู่ทำเอาขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว รพีมองจ้องไม่กระพริบตากับหนุ่มหน้าอ่อนที่ดูคงพึ่งจะเป็นทนายเต็มตัวมาได้ไม่นาน นลินคงไม่มีเงินจ้างทนายแพงๆมาแน่ ในเมื่อทุกบาททุกสตางค์ที่เขาเคยให้ตอนที่แต่งงานกันเธอใช้มันไปหมดแล้ว

“ทำไมคุณถึงใจร้ายกับชั้นอย่างนี้ล่ะซัน ชั้นไม่เคยว่าอะไร ไม่เคยเรียกร้องอะไร คุณกลับยิ่งทำร้ายชั้นหนักขึ้นทุกวัน พอวันนี้ชั้นมาขอกู้ศักดิ์ศรีชั้นคืนคุณยังคิดจะเหยียบย่ำมันอีกเหรอ ใจคุณทำด้วยอะไรกันแน่ซัน”หญิงสาวหนึ่งเดียวในห้องพูดออกมาแต่ก็ยังไม่หันมามองหน้าคนที่พูดด้วย เรื่องที่พูดมาเป็นความรู้สึกจริงๆในใจของเธอ

ครั้งหนึ่งเธอเคยรักรพีมาก มากขนาดที่ว่าใช้กลอุบายเข้ามาในช่วงรอยต่อของชีวิตของรพี ช่วงที่รพีต้องสร้างทั้งความเชื่อมั่นในบริษัทและสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเอง ตอนนั้นเธอก็เป็นแค่ลูกสาวของบก. นิตยสารหัวเก่าที่พอมีหน้าตาในสังคมอยู่บ้าง เจอรพีในงานจนต่อความสัมพันธ์ ใช้สื่อที่มีอยู่ในมือออกข่าวต่างๆจนคิดว่ารพีไปไม่รอดมือเธอแน่ๆ คิดว่าเธอคือคนกุมทุกอย่าง

แต่เปล่าเลย...ถ้ารพีจะแก้ข่าวด้วยเม็ดเงินที่มีก็ทำได้แต่เป็นเธอเองที่ถูกรพีใช้เป็นเครื่องมือ

เธอรู้มาตลอดว่ารพีไม่เคยรักเธอ แต่ก่อนเคยคิดว่าซักวันชายหนุ่มอาจจะรักเธอตอบจนเวลาผ่านไปความรักที่เธอให้รพีเปลี่ยนเป็นความรักที่มีให้ ‘เงิน’ ของรพี และเมื่อรู้ตัวว่าถ้าวันหนึ่งวันใดเธอถูกเขี่ยทิ้งจากตำแหน่งที่ยื่นเธอคงไม่เหลืออะไรเลย

“หึ ชั้นพึ่งรู้ว่าศักดิ์ศรีที่เธออยากได้นักหนาสามารถตีค่าเป็นเงินทองได้ แบบนี้เรียกว่าขายศักดิ์ศรีกินหรือเปล่า?”ปากร้ายยกยิ้มอย่างที่ชอบทำพร้อมๆกับยืนเต็มความสูงมือหน้าเอื้อมไปจับคางเรียวแล้วออกแรงหันให้มาสบตาอย่างแรงจะนลินร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“จำเอาไว้ว่าถ้าเธอยังโลภ...เงินซักแดงเธอก็จะไม่ได้จากชั้น”

“นังโสเภณี!!”









**********

เดี๋ยวคนเขียนต้องไปดูงานที่ สปป ลาวนะค่ะ กลับวันอังคาร

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
เปลี่ยนน้ำสกุลก็ดีนะ ลองให้คุณรพีพูดซิ บางที่ปิงปองอาจใจอ่อน
เดินทางปลอดภัยนะคะคนเขียน
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะ

ตัวละครเกือบทุกตัวไม่มีใครยอมกันเลยจริงๆ

+ 1 + เป็ดจ้า

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :katai2-1: กำลังมันเลยจ๊ะ น่าดูชมนักเชียวว่าศึกใน หรือ ศึกนอกอันไหนจะมันกว่ากัน
ถ้าเผอิญว่าศึกนอกไม่จับเอาอดุลย์ กับ ตะวัน มาใช้เป็นเครื่องมือด้วยก็ดีสินะ
แล้วจะรออ่านต่อจ๊ะ ^^

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เข้มข้นๆ o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด