◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◑﹏◐ ดินต่างฟ้า ♂ รักของเด็กปั๊มกับคุณชาย [ตอน39-40 P.19] - 14/07/60  (อ่าน 146747 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
รอคุณชายมันมากอดขาร้องไห้ขอความรักจากข้าว  :katai2-1:

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
คิดถึงน้องข้าวจังค่ะ ยังไม่ได้แก้แค้นคุณชายเลย หนีหายไปไหนซะแล้ว
ยังรอติดตามอยู่นะคะ  :pig4: :กอด1:
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ผู้เขียน

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
   5 วันต่อมา...

   ผมกับพี่ปั๊มได้ขออนุญาติผู้จัดการหยุดยาว... เนื่องจากว่าใน 1 ปี นั้นผู้จัดการอนุญาตให้ขอลาหยุดชดเชยได้ 7 วัน เพราะปั๊มแห่งนี้ไม่อนุญาตให้พนักงานหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ จึงทำให้ทางปั๊มต้องชดเชยวันหยุดให้ในวันอื่นแทน แต่มีข้อแม้ว่าห้ามพนักงานหยุดพร้อมกันเกิน 3 คน ...ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ไอ้โด้ขอหยุดเพื่อที่จะไปเที่ยวที่บ้านเกิดของพี่ปั๊มด้วย แต่กว่าที่พี่ปั๊มจะยอม ไอ้โด้ก็ต้องเอ่ยพยายามอย่างยากลำบากเหมือนกัน

   “อะไรนะ! พี่ปั๊มจะพาพี่ข้าวไปเที่ยวบ้านงั้นเหรอ" โด้เอ่ยอย่างตื่นเต้น หลังจากที่พี่ปั๊มแจ้งข่าวให้ไอ้โด้รับทราบ

   “ก็เออน่ะสิ... แล้วมึงจะตะโกนเสียงดังทำไม" พี่ปั๊มยื่นมือไปตบกบาลไอ้โด้เบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้

   “โอ๊ย...” ไอ้โด้แสร้งทำเสียงเจ็บปวดก่อนที่จะกระพริบตาปริบ ๆ แล้วปฏิบัติการออดอ้อนก็เริ่มขึ้น "พี่ปั๊มสุดหล่อของโด้... โด้เป็นแค่เด็กตาดำ ๆ ที่บ้านยากจน กระซิก ๆ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองเหนือรึเปล่า... ไอ้โด้มันน่าสงสาร ใคร ๆ ก็ไม่รักมัน... ฮือ...”

   โด้สาธยายยืดยาวพร้อมกับแกล้งยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้ไหลออกมาสักนิดเพื่อแสดงให้สมบทบาท

   “ไม่!!!” พี่ปั๊มปฏิเสธอย่างรู้ทัน

   “โถ่... ดูสิ ไอ้โด้เอ๊ย แกมันเกิดมาอาภัพ ขนาดพี่ชายสุดหล่อยังไม่รักแค่พาไปเที่ยวบ้านเกิดยังพาไปไม่ได้ ผิดที่แกเองแหละโด้ วาสนาไม่ถึง บุญบารมีก็ไม่ดี เฮ้อ... สงสารชาตินี้จะต้องพยายามเข้าวัดทำบุญบ่อย ๆ เผื่อว่าชาติหน้าเกิดมาจะได้มีคนเมตตากับเขาบ้าง...” โด้ยังพยายามต่อไป ส่วนผมได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความขำขันไว้ข้างในจิตใจเพราะกลัวว่าจะเป็นการเสียน้ำใจหากหัวเราะออกมาตรง ๆ
   ผิดกับพี่ปั๊มที่เอาแต่ขมวดคิ้วมุ่น...

   “ไม่ว้อย...” พอปฏิเสธ... โด้ก็เริ่มแตะเนื้อต้องตัว แรก ๆ ก็แค่หัวไหล่แต่พอพี่ปั๊มยังยืนกรานคำเดิมโด้ก็ค่อย ๆ เลื่อนมือลงมาถึงกลางหลัง และในไม่ช้ามือของโด้คงจะเลื่อนลงไปถึงบั้นท้ายของพี่ปั๊มแน่ ๆ หากพี่ปั๊มไม่เอ่ยออกมาเสียก่อนว่า...

   “เออ... ตกลง ปล่อยกูได้แล้วไอ้เชี่ยโด้ กูเสียว บรึ๋ย!!!” พี่ปั๊มขนลุกซู่ว... พร้อมกับรีบถอยห่างจากโด้มาหลบอยู่หลังผมราวกับกลัวว่าจะโดนโด้ลวนลามจนทำให้ความยริสุทธิ์ที่เก็บไว้มานานหายไป "แต่มีข้อแม้...”

   “ข้อแม้อะไรครับพี่ปั๊มสุดหล่อ...” โด้กระพริบตาปริบ ๆ อย่างใคร่รู้ "โด้ยอมทุกอย่าง...”

   “หึ... มึงต้องห้ามเรียกกูแบบนี้อีก และมึงต้อง...” พี่ปั๊มทำหน้าครุ่นคิด

   “ต้อง...” โด้ทวนคำอย่างตื่นเต้น "ต้องอะไรครับ"

   พี่ปั๊มไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่กลับมากระซิบที่ข้างหูของผมเบา ๆ "ต้องอะไรดีวะไอ้ข้าว ช่วยกูคิดหน่อยดิ...”

   “อ้าว... พี่ปั๊มยังคิดไม่ออกเหรอ" ผมกระซิบกลับ

   “ก็เออสิวะ อยากแกล้งไรมันมึงก็ว่ามาได้เลย"

   สิ้นเสียงของพี่ปั๊มผมยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะกระซิบกลับเบา ๆ ว่า "ต้องกอดกูแรง ๆ หนึ่งทีตอนนี้"

   “เออ... ต้องกอดกูแรง ๆ หนึ่งทีตอนนี้" พี่ปั๊มที่มัวแต่พะวักพะวนเรื่องไอ้โด้จะทำมิดีมิร้ายเผลอพูดตามผมโดยที่ไม่ได้ไตร่ตรอง

   “ได้สิครับพี่ปั๊มสุดหล่อของโด้" แล้วไอ้โด้ก็ยิ่มกริ่มก่อนจะวิ่งมากอดพี่ปั๊มสุดแรง... พี่ปั๊มพยายามจะวิ่งหนีแล้วแต่เพราะผมช่วยจับเอาไว้สุดท้ายพี่ปั๊มก็เสร็จไอ้โด้จนได้

   “ฮ่า ๆ ๆ" ผมได้แต่หัวเราะด้วยความชอบใจพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือเป็นคำชมให้โด้ ส่วนไอ้โด้ก็ยิ้มรับพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือตอบกลับมาเช่นกัน ผิดกับพี่ปั๊มที่เป็นเพียงคนเดียวที่เอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพร้อมกับส่งสายตาดุ ๆ มาทางผม

   หลังจากที่ตกลงกับผู้จัดการเรียบร้อย... พวกเราทั้งสามต่างก็แยกย้ายกันกลับที่พักและได้นัดแนะตกลงกันอีกว่าให้ไปรวมตัวกันที่หอพักของพี่ปั๊มเวลาบ่าย 4 โมงเย็น

   ก่อนที่ผมจะปั่นจักรยานกลับไปเก็บของที่บ้าน... ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสมองของผมถึงสั่งให้ผมปั่นจักรยานไปที่บ้านของคุณชายเสียก่อน
   ทั้ง ๆ ที่พยายามไม่คิดถึง แต่มันก็อดเป็นห่วงและอยากเห็นหน้าของคุณชายไม่ได้เหมือนกันแฮะ...

   ผมใช้เวลาปั่นจักรยานไม่นานมากนัก ก็ไปถึงที่บริเวณหน้ารั้วบ้านของคุณชาย ผมจอดจักรยานหลบมุมเอาไว้ก่อนที่จะย่องเข้าไปส่องช่องว่างตรงกำแพงรั้วอย่างเงียบเชียบเพราะไม่อยากให้ใครเห็น แม้แต่ช้างก็ตาม...

   ภายในรั้วบ้านของคุณชาย ลุงแช่มกับช้างเดินไปเดินมาบริเวณสวนหน้าบ้านตามปกติ พอมองลึกเข้าไปในตัวบ้านก็เห็นแม่บ้านและคนใช้คนอื่น ๆ เดินกันว่อนทว่ากลับไม่เห็นร่างของคุณชาย

   ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างหมดหวัง ทว่าพอตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อที่จะกลับบ้าน ร่างที่ยืนจ้องเขม็งอยู่ด้านหลังก็ทำให้ผมชะงักกึก

   คุณชายยืนจ้องผมตาเขม็ง มือข้างหนึ่งของคุณชายถือไอศกรีมแม่งรสโปรดที่มีขายอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ส่วนมืออีกข้างถือถุงหิ้วใบใหญ่ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าน

   “อ่ะ... เอ่อ... คุณชายไปซื้อของมาเหรอครับ" ผมเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก รู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูกที่คุณชายมาเห็นว่าผมกำลังแอบส่องมองคุณชายอยู่ที่หน้ารั้วบ้าน

   ทว่าพอคิดไปถึงเรื่องที่คุณชายเดินออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด เพราะก่อนหน้านี้เราสองคนมักจะทะเลาะกันบ่อย ๆ เรื่องออกไปซื้อของหน้าปากซอย เนื่องจากคุณชายมักจะขับรถเบนซ์ออกไปซื้อส่วนผมก็จะชอบต่อว่าที่คุณชายไม่รู้จักเดิน... ปากซอยก็อยู่ไม่ไกลนักเดินแค่ไม่กี่นาทีก็ถึง แต่ไม่ว่าจะทะเลาะกันสักกี่ครั้งคุณชายก็ไม่เคยยอมผมสักครั้งจะต้องขับรถออกไปซื้อของตลอด ...แต่ในวันนี้มันไม่ใช่

   “มาที่นี่อีกทำไม" คุณชายถามเสียงขรึม ...ไม่สนใจตอบคำถามผมสักนิด

   “ก็...” ผมชะงัก จะให้ผมพูดออกไปได้อย่างไรว่าผมเป็นห่วงคุณชาย อยากมาดูให้รู้ว่าคุณชายยังปกติดีหรือเปล่า

   สงสัยว่าผมจะนิ่งเงียบนานเกินไป คุณชายก็เลยถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านด้วยความเงียบเชียบ ไม่แม้แต่จะชายตามองผมหรือหันหลังกลับมาหลังจากที่เดินผ่านผมไป

   ผมถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย อุตส่าห์ได้เจอคุณชายแล้วแท้ ๆ เราน่าจะได้พูดคุยอะไรกันให้มากกว่านี้ และด้วยความเสียดายนี้แหละ เลยทำให้ผมยืนตะโกนให้หลังอยู่หน้ารั้วว่า

   “คุณชายไม่ขับรถออกไปซื้อของแล้ว... เก่งจังเลยนะครับ" พูดจบ... ผมก็อยากจะตบกบาลตัวเองให้แรงที่สุดหลาย ๆ ที รู้ทั้งรู้ว่าคุณชายเป็นพวกไม่ชอบเสียหน้าและยอมแพ้แต่ผมดันเอาเรื่องแบบนี้มาพูดซะอย่างนั้น เจอกันทั้งทีน่าจะพูดอะไรที่มันดีกว่านี้

   คุณชายหยุดนิ่งไปชั่วขณะ... ไม่รู้ว่าผมหูแว่วหรือมโนไปเองหรือเปล่าเหมือนผมได้ยินคุณชายตอบกลับมาว่า

   “ก็นาย... เคยขอให้ฉันหัดทำแบบนี้ไม่ใช่รึไง" สิ้นเสียงที่คล้ายกับเสียงกระซิบนั้น คุณชายก็ก้าวขาเดินต่อไปส่วนผมได้แต่ทอดสายตามองตามร่างนั้นไปจนกระทั่งลับสายตา

   ไม่น่าเชื่อว่าการที่เราทะเลาะกันและไม่เจอกันเพียงไม่กี่วัน... พอกลับมาเจอกันอีกครั้งจะทำให้ผมเกิดความรู้สึกประหลาด ๆ มากมายขึ้นในจิตใจ

   ผมอยากจะเดินเข้าไปในรั้วบ้านของคุณชายเหลือเกิน... อยากจะเข้าไปเป็นไอ้ข้าวให้คุณชายโขกสับเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่ผมก็ทำได้แค่คิดเพราะในตอนนี้คุณชายไม่ต้องการให้ผมทำแบบนั้นอีกแล้ว

   ท้ายที่สุดผมก็เดินคอตกและถอนหายใจออกมาหลายสิบครั้งก่อนที่จะปั่นจักรยานกลับบ้านไป... กลับไปทั้งที่ผมได้ทิ้งอะไรบางอย่างเอาไว้ตรงนั้น และหวังว่าสักวันคุณชายจะเก็บมันขึ้นมาแล้วรู้ว่า ความรัก ความหวังดีที่ผมยังทิ้งไว้ที่คุณชายน่ะมันมีคุณค่ามากแค่ไหน

   ‘อย่างอแงสิไอ้ข้าว อย่าหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ สิ’ ผมรู้สึกรื้นที่บริเวณขอบตา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาถู ๆ ไถ ๆ เพราะไม่อยากให้น้ำใส ๆ เหล่านั้นมันไหลลงมา ...โถ่เอ๊ย ผมจะต้องรู้สึกแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เมื่อไหร่ผมถึงจะทำใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันได้นะ



ขออภัยครับที่หายไปนาน T___T

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: ขอแบบหลายๆที โห่ อย่างนานอะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :impress2:   อ๊ายยย น้องข้าวกลับมาแล้ว   :mew1:

อย่าหายไปนานๆอีกเลยนะ คิดถึง :sad4:

ว่าแต่อิคุณชายเนี่ย ซึนเหมือนเดิมจริงๆ

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ประกาศ.........

ประกาศ...................

ประกาศ............................

มีเพลงประกอบนิยายเรื่องนี้มาฝากด้วยครับ 5555+++ Ver.ชั้นต้องอุดดู อยากฟังตามลิ้งค์ไปเลยน๊า

คำเตือน... กรุณาปิดตา และอุดหูก่อนดูทุกครั้ง T__T

เพลง เธอทั้งนั้น... (มีแต่เพลงนี้ ไม่มีดนตรี 555++ หาคนดีดกีต้าร์ให้อยู๋)
https://www.facebook.com/photo.php?v=618327094941711

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เย้มาต่อแล้ว หายไปในช่วงกำลังกินมาม่าพอดี อารมณ์ค้างมานาน

แต่ข้าวไม่น่ากลับไปหาคุณชายเลย เล่นตัวแรงๆ นานๆ ไปเลย อย่าได้แคร์

มาต่อเร็วๆอีกนะ รอไปเที่ยวเหนือด้วยคน

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
 o13

ไม่เปนไรน้า ดีใจ o22 มาต่อแล้ว

อย่าหายไปนานๆอีกนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
น้องข้าวมาแล้วอ่ะดีใจๆ :mew1: o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ข้าวกับคุณชายกลับมาแล้ว

ข้าวน่าจะไปเที่ยวนานๆเนอะ คุณชายมันจะได้คิดถึงอกแตกตาย

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 22



แล้ววันเดินทางไปเที่ยวบ้านของพี่ปั๊มก็มาถึง พวกเราเดินทางมาถึงสถานีขนส่งก่อนเวลาขึ้นรถทัวร์ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ที่ต้องเผื่อเวลาไว้พอสมควรก็เพื่อป้องกันการผิดพลาดจากการจราจร มาถึงไวกว่าอย่างไรก็ดีกว่ามาสาย


   “ไอ้โด้... กูถามจริงเหอะ มึงคิดยังไงถึงแต่งตัวแบบนี้" พี่ปั๊มเอ่ยขึ้น


   ผมหันไปมองโด้แล้วก็ต้องพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยกับคำถาม เพราะโด้แต่งตัวด้วยเสื้อหนังสีดำแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าหนัง ที่ศีรษะก็สวมหมวกไหมพรมสีขาว มิหนำซ้ำมือทั้งข้างยังสวมถุงมือสีขาว บนใบหน้ายังมีแว่นตาดำทรงกลมทาบทับ


   “ไปเที่ยวเหนือทั้งทีก็ต้องใส่เสื้อหนา ๆ สิครับ ได้ยินมาว่าภาคเหนือของประเทศไทยอุณหภูมิต่ำ ยิ่งพอไปเที่ยวบนเขาบนดอยบางทีก็อุณหภูมิติดลบ โด้ก็ต้องทำตัวให้ชินก่อนสิครับพี่ ๆ" โด้ตอบอย่างฉะฉาน "แล้วพวกพี่ไม่เตรียมเสื้อกันหนาว ถุงเท้า ถุงมือและหมวกหนา ๆ ไปเหรอครับ ไม่เป็นไร โด้เตรียมมาเยอะไว้เดี๋ยวโด้ให้ยืม"


   “โถ่เอ๊ย... ไอ้โด้" พี่ปั๊มพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ "ไอ้อากาศหนาว ๆ น่ะ มันต้องช่วงปลายปีหน้าหนาว ช่วงนี้มันหน้าฝนมันไม่หนาวหรอกถอดหมวก ถอดถุงมือออกซะ"


   “อ้าว... จริงเหรอ โด้นึกว่าหนาวตลอดปี โถ่... แบบนี้ไปก็เสียเที่ยวน่ะสิ" โด้บ่นอย่างเสียดาย


   “หรือมึงจะไม่ไป" พี่ปั๊มเอ่ยขัด


   “ไปคร้าบ... ไป ๆ แหม... แค่นี้ทำเป็นน้อยใจไปได้" โด้ว่าก่อนที่จะหันหน้ามาทางผม "เนอะพี่ข้าว"


   “อ่ะ... เออ ๆ ใช่ ๆ แค่นี้ทำเป็นน้อยใจน้องไปได้ ก็น้องมันไม่รู้นี่นา" ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับโด้ก่อนที่จะยืนหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหูของพี่ปั๊มอย่างเบาเสียงที่สุด "ให้โด้มันแต่งอย่างงี้เหอะ เดี๋ยวสายตากดดันของคนรอบข้างก็ทำให้มันอายเองนั่นแหละพี่"


   “ซุบซิบอะไรกัน คิดจะแกล้งอะไรน้องโด้งั้นเหรอ" โด้เอ่ยขึ้น ผมสะดุ้งโหยง


   “เออ... มึงอยากทำอะไรก็ทำเหอะโด้" พี่ปั๊มว่า หลังจากนั้นเราก็เดินไปนั่งรับประทานอาหารเพื่อรอเวลาจนกระทั่งถึงเวลาที่รถจะออก


   พี่ปั๊มเดินนำไปยังชานชาลา พอไปถึงก็มีรถโดยสารสีขาวคาดฟ้า 2 ชั้นมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว ผมเดินเอากระเป๋าไปเก็บที่ช่องเก็บกระเป๋าด้านล่าง โด้เดินตามมาติด ๆ พนักงานช่วยจัดสัมภาระให้เราแถมยังยิ้มให้ด้วยความสุภาพอีกต่างหากสมกับที่เป็นพนักงานบริการ ส่วนพี่ปั๊มไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้า มีเพียงกระเป๋าเป้เล็ก ๆ ที่สะพายข้างใส่ของจุกจิกสำหรับผู้ชายเท่านั้น


   บนรถโดยสารมีผู้คนนั่งตามเบาะต่าง ๆ จนเกือบเต็ม พี่ปั๊มเดินนำไปจนกระทั่งหยุดอยู่แถวที่ 7


   “ข้าว... มึงไปนั่งข้างใน" พี่ปั๊มหันมาบอกผม ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปตามคำสั่งอย่างว่าง่าย จากนั้นพี่ปั๊มก็หันไปคุยกับโด้ "ส่วนโด้ มึงนั่งนี่"


   พี่ปั๊มชี้ไปที่เบาะอีกฝั่งแต่อยู่แถวเดียวกัน โด้ทำหน้าหงิกงอแต่ก่อนที่จะได้ประท้วงอะไรไปมากกว่านั้นพี่ปั๊มก็รีบนั่งที่เบาะข้าง ๆ ผมทันที โด้จึงจำใจเดินคอตกไปนั่งเบาะที่อยู่อีกฝั่ง(แต่แถวเดียวกัน)กับคนแปลกหน้าด้วยความจำใจ ...นึก ๆ ไปก็สงสารโด้แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ รถทัวร์มันไม่ได้กว้างพอจะออกแบบให้เบาะ 3 เบาะติดกันฉะนั้นหากเดินทางไปไหนมาไหนกันเป็นกลุ่มด้วยจำนวน 'คี่' ต้องมีหนึ่งคนที่ยอมเสียสละนั่งกับคนอื่น หรือถ้ารวยสักหน่อยก็อาจจะนั่งรถที่ราคาแพงขึ้นไปอีกแต่มีเบาะเดี่ยว ทว่าสำหรับเด็กปั๊มอย่างเรา... รถทัวร์ ป.1 ก็หรูแล้ว


   “ไงข้าว... ตื่นเต้นไหม" พี่ปั๊มถาม


   “หือ...” ผมเลิกคิ้วด้วยความฉงน ก็แค่ไปเที่ยวที่บ้านเกิดของพี่ปั๊มจะตื่นเต้นทำไม


   “กูถามว่าตื่นเต้นไหม" พี่ปั๊มย้ำ... เสียงของพี่ปั๊มรัวเร็วจนดูเหมือนว่าคนที่ตื่นเต้นจะเป็นพี่ปั๊มเสียมากกว่า


   “ก็... ไม่นี่ครับ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น"  ผมตอบออกไปตามตรง


   “มึงมันตายด้าน ขนาดกูยังตื่นเต้นเลย" พี่ปั๊มแกล้งตบกบาลผมเบา ๆ มันเป็นการตบแบบพี่น้องที่มักหยอกล้อกันซึ่งผมชินเสียแล้วล่ะ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไม...


   “แล้วทำไมต้องตื่นเต้นด้วย"


   “ก็มึงจะได้ไปเจอกับครอบครัวกูแล้วนี่" ขณะพูดพี่ปั๊มก็หลบสายตา สงสัยพี่ปั๊มอาจจะคิดมากเรื่องสภาพบ้านล่ะมั้ง ก็เลยคิดมากกว่าว่าผมจะอยู่ไม่ได้


   “อ๋อ... คิดมากน่าพี่ ต่อให้บ้านพี่จะเป็นกระต๊อบฟางหรือกระท่อมเอสกิโมผมก็อยู่ได้หมดแหละ" จากการศึกษาถึงภูมิประเทศในดินแดนอาลาสก้าทำให้ผมรู้มาว่ากระท่อมเอสกิโมมันคืออะไร


   “สัส... กูไม่ได้อยู่ขั้วโลกเหนือนะจะได้มีเอสกิโมอย่างที่มึงว่าน่ะ" พี่ปั๊มแยกเขี้ยวใส่ เวลาที่พี่ปั๊มทำหน้าแบบนี้ทีไรผมอดเอ็นดูไม่ได้ทุกที ไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กผิวขาวที่หน้าตาค่อนไปทางน่ารักมากกว่าหล่ออย่างพี่ปั๊มจะมาเป็นเด็กปั๊มตั้งหลายปี


   ผมยกแขนข้างซ้ายขึ้นไปพาดบ่าของพี่ปั๊มก่อนจะออกแรงดันให้มันแน่นจนร่างของเราติดกัน พี่ปั๊มเป็นพี่ชายที่แสนดีเสมอ ผมรู้ดีว่าพี่ปั๊มอยากทำให้ผมมีความสุขและไม่ต้องไปเครียดกับเรื่องของคุณชาย หลายวันมานี้พี่ปั๊มเลยพยายามชวนผมคุยหรือหากิจกรรมสนุก ๆ ทำซึ่งมันก็ได้ผล แต่เวลาที่ผมอยู่ตามลำพังผมก็อดคิดถึงคุณชายไม่ได้ทุกที


   “ขอบคุณนะพี่ ที่ช่วยเหลือผมในทุก ๆ เรื่อง" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บางเบา


   “มึงน้องกู" พี่ปั๊มก้มหน้าหลบสายตาตอบออกมาแถมยังนั่งตัวแข็งราวกับโดนสาป


   “ผมรักพี่จริง ๆ ว่ะ" ผมกระชับร่างของพี่ปั๊มแน่นเข้าไปอีก พี่ปั๊มสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าหรือขัดขืนแต่อย่างใด


   “ฮันแน่... สองคนนั้นแอบทำอะไรกัน" เสียงกะล่อนที่ดังขึ้นจากไอ้โด้ทำให้พี่ปั๊มรีบผละร่างของผมออก


   “ปล่อย มึงอย่ามาทำแบบนี้กับกูอีกนะ กูขนลุก" สิ้นเสียงของพี่ปั๊มผมก็ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผมจะไม่แต๊ะเนื้อต้องตัวที่พี่ชายหวงนักหวงหนาอีก


   “ขนลุกจริงเหรอพี่ปั๊ม... แหม่... โกหกใครก็โกหกได้นะ แต่โกหกใจตัวเอง...” โด้ยังพูดไม่จบพี่ปั๊มก็รีบหันไปเอ่ยขัด


   “หยุด! ไอ้โด้ ถ้ามึงยังขืนพูดมากกูจะลากมึงลงรถเดี๋ยวนี้ล่ะ"


   “คร้าบ ๆ" โด้ตอบด้วยน้ำเสียงกะล่อนก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำอีกต่อไปจนกระทั่งรถเริ่มขยับ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการเดินทางที่แสนยาวไกลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น






   
   ผมนั่งทอดสายตาออกไปนอกกระจก เส้นทางรอบข้างที่เคยมีตึกมากมายเรียงรายกันเป็นแถว ๆ แปรเปลี่ยนเป็นท้องทุ่ง ทว่าตลอดทางยังมีรถราแล่นสวนผ่านมาไม่ขาดสาย... ทั้ง ๆ ที่ผมควรจะตื่นเต้นกับการเดินทางแต่พอความเงียบเข้าปกคลุมทีไรมันก็ทำให้ผมอดนึกถึงใบหน้าของคนเจ้าอารมณ์อย่างคุณชายไม่ได้เสียทุกที


   ทำไมนะ... ทำไมคุณชายจะต้องเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาคุณชายก็เอาแต่เอ่ยคำพูดที่ทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณชายจะเป็นอย่างไรจะกำลังรู้สึกแบบเดียวกับผมหรือเปล่า หรือกำลังมีความสุขที่ไม่มีผมในชีวิตอีกต่อไป


   'คงไม่คิดหรอกไอ้ข้าวเอ๊ย... ถ้าคุณชายเสียใจก็คงไม่ตัดสินใจทิ้งมึงแบบนี้' เสียงความคิดของผมดังขึ้น


   'ไม่หรอกน่า... อย่าคิดมากไปเลย คุณชายก็แค่สับสน เดี๋ยวพอคุณชายยอมรับหัวใจของตัวเองได้เมื่อไหร่ก็กลับมาตามง้อเองนั่นแหละ' แล้วอีกความคิดก็แทรกเข้ามา ...ผมกำลังพยายามปลอบใจตัวเอง หลอกให้ความหวังกับตัวเองทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนอย่างคุณชายน่ะหรือจะยอมลดตัวมาทำอะไรเพื่อผม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสุดท้ายมันจะลงเอยแบบนี้ แต่ผมก็ไม่ยอมหักห้ามใจตั้งแต่ทีแรก จะมัวโทษคุณชายก็คงไม่ถูก มันก็สมควรแล้วแหละที่ผมต้องรู้สึกระอักกระอ่วนใจแบบนี้


   ระหว่างที่กำลังนั่งใจลอยอยู่นั่น แรงสัมผัสที่กระทบไหล่สายก็ทำให้ผมตื่นจากภวังค์เพ้อเจ้อ พอหันไปมองก็พบว่าศีรษะของพี่ปั๊มกำลังซบอิงที่หัวไหล่ด้านซ้ายของผม


   'คนอะไรหลับอย่างกะเด็ก' ผมคิดก่อนที่รอยยิ้มจะผุดออกมาแล้วปล่อยให้พี่ปั๊มนอนซบไหล่ผมต่อไป 'เหมือนคุณชายเลย เฮ้อ...'
   ผมนั่งคิดถึงความทรงจำเก่า ๆ ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานสักเท่าไหร่ จนกระทั่งรถทัวร์เลี้ยวเข้าไปยังจุดพักรถ ผมเดาว่าคงจะถึงครึ่งทางแล้ว


   แสงไฟในรถที่สว่างขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงประกาศของพนักงานสาวช่วยปลุกให้ผู้ที่ตกอยู่ในอาการหลับใหลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมารวมทั้งพี่ปั๊ม


   “ถึงจุดพักรถแล้วเหรอ" พี่ปั๊มเอ่ยด้วยเสียงงัวเงีย


   “ถึงแล้วครับ ไอ้พี่ขี้เซา" ผมเอ่ยตอบ


   “เออ... ก็กูง่วงนี่นา ป่ะ ลงไปหาไรกินกันดีกว่า" พี่ปั๊มขยี้ตาก่อนจะลุกขึ้น ทว่าพอหันไปมองไอ้โด้ที่กำลังนอนอ้าปากหวอ พีปั๊มก็อดที่จะกลั่นแกล้งมันไม่ได้


   หลังจากที่ผู้โดยสารลงจากรถไปจนเกือบหมด พี่ปั๊มก็ลุกขึ้นจากเบาะก่อนที่จะยื่นมือไปบีบจมูกโด้จนจมูกของเจ้านั่นแดง โด้สะบัดแขนไปมาทำท่าเหมือนขาดอากาศหายใจ สักพักปากที่อ้าหวอก็สูดลมหายใจเข้าออกจนเกิดเสียงดังและท้ายที่สุดโด้ก็ตื่นขึ้นมา


   “ไอ้ขี้เซา!” พี่ปั๊มว่าโดยที่ไม่ดูตัวเองเลยสักนิด นอนหลับสบายใจตลอดทางยังมีหน้าไปว่าโด้อีก


   “โอ๊ย... พี่ปั๊ม จะแกล้งโด้ทำไมเนี่ย กำลังฝันดีเลย" โด้บ่นอุบอิบ พอหันซ้ายหันขวาเห็นคนบนรถโล่ง ๆ โด้ก็ยิ้มแฉ่ง "ถึงแม่ฮ่องสอนแล้วเหรอครับ"


   “ถึงบ้านแป๊ะมึงดิ" พี่ปั๊มว่า โด้ทำหน้าจ๋อยทันที "นี่เพิ่งพักครึ่งทาง กูจะชวนมึงลงไปเข้าห้องน้ำแล้วก็หาไรกิน จะไปไม่ไป"
   ไม่รอฟังคำตอบ พี่ปั๊มก็เดินนำลงจากรถไปทันที ผมเดินตามโดยมีโด้รีบลุกจากเบาะนั่งแล้วรีบตามมาด้วยความรวดเร็วราวกับกลัวว่าจะโดนทิ้งปล่อยเกาะอย่างไรอย่างนั้น


   ทันทีที่เดินเข้าไปในจุดซื้อขายอาหาร สายตาของผู้คนที่นั่งรับประทานอาหารก็จับจ้องมาทางเราราวกับเป็นตัวประหลาด ผมรู้สึกเกร็งเล็กน้อย สังเกตเห็นใบหน้าของพี่ปั๊มก็รู้สึกหงุดหงิดเช่นกัน จะมีก็แต่โด้คนเดียวเท่านั้นที่เดินยิ้มสบายใจเฉิบไม่รู้เรื่องอะไร ...โด้เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตได้ตลอดเวลาจนน่าอิจฉาจริง ๆ


   “ไอ้โด้... มึงไปเดินไกล ๆ กูเลยไป" แล้วในที่สุดพี่ปั๊มก็ทนไม่ไหว


   “อ้าว! ไล่โด้ได้ไงอ่ะ ใช่สิ โด้มันไม่หล่อ มันไม่น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนพี่ข้าวนี่ พี่ก็เลยรังเกียจโด้ ชิ" โด้แสร้งทำหน้างอน


   “ไม่เกี่ยวเว่ย!!!” พี่ปั๊มปฏิเสธ "แต่กูอายที่ต้องมาเดินกับคนที่แต่งตัวประหลาด ๆ อย่างมึง ไม่เห็นเหรอไงวะ คนอื่นพากันจ้องมึงตาไม่กะพริบ กูเลยรู้สึกว่ากูเป็นตัวประหลาดที่โดนจ้องด้วย"


   ผมไม่ได้ว่าอะไรโด้เพราะสงสารแต่ก็อดพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ปั๊มไม่ได้


   โด้ลองหันมองลอบข้าง ปรากฏว่าสายตาหลายคู่ที่จับจ้องต่างพากันรีบหลบสายตาราวกับกลัวว่าจะโดนหาเรื่องเพราะพวกเขาจ้องหน้าโด้


   “แฮะ ๆ จริงด้วย" โด้ยกมือลูบหัวอย่างเด้อเขิน ...ให้ตายสิ เดินลงมาตั้งไกลเจ้านี่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าโดนคนรุมมอง ช่างไร้เดียงสาจริง ๆ "สงสัยโด้จะหล่อเกินไป พวกนั้นก็เลยพากันมอง อย่าอิจฉาผมเลยน่าพี่ปั๊มที่โด้มันหล่อกว่าพี่"


   “ถุย!!!” พี่ปั๊มเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินตรงไปยังห้องสุขา


   ผมเดินตามไปพี่ปั๊มไปติด ๆ ในใจก็นึกขำกับนิสัยของเพื่อนร่วมงานทั้งสอง พี่ปั๊มเหมือนพี่ใหญ่ที่เอาแต่ใจ ขี้หงุดหงิด ขี้บ่น แต่ในใจลึก ๆ ก็เป็นคนดีและห่วงน้องนุ่งเสมอ ส่วนโด้ก็เป็นน้องเล็กที่ไร้เดียงสา แถมยังกล้าต่อล้อต่อเถียงกับพี่ปั๊มและชอบทำตัวประหลาด ๆ จนบางทีผมก็อดเอ็นดูไม่ได้เหมือนกัน


   ในเวลาที่รู้สึกเศร้าใจแบบนี้ พอมีพี่ปั๊มกับโด้อยู่ใกล้ ๆ พูดคุยสนุกสนานด้วยมันก็ทำให้ผมลืมเรื่องคุณชายไปได้บ้างเหมือนกัน แม้จะเล็กน้อย... แต่ผมก็หวังว่าการเดินทางไปเที่ยวบ้านเกิดพี่ปั๊มในครั้งนี้ จะช่วยเป็นยารักษาที่ทำให้ผมกลับมามีชีวิตที่ปกติ และท้ายที่สุดผมก็จะค่อย ๆ ลืมคุณชายได้เอง





จบตอนครับ  :hao5:

แอบขอพื้นที่เล็กๆ โปรโมทหน่อยนะครับ แฮ่ๆ เป็นนิยายเรื่องที่ผมแต่งตอนที่ยังไม่รู้จักเล้าเป็ดครับ(ไปอยู่โลกไหนมา)เลยไม่ได้ลงที่นี่ T__T




Sketch Lover ร่างกายชายรัก

ผู้เเต่ง : MR. กุ๊กกู๋

ขนาด : A5 จำนวนหน้า: 280+ หน้า

ของเเถม: ที่คั่น ตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเว็บ

ของเเถมรอบจอง : เรื่องสั้น 1 เล่ม

ราคา : 300 บาท ไม่รวมค่าส่ง

สั่งจองได้ที่ : http://www.hermitandmomiji.com/product/106/pre-order-skecth-lover-by-mr-กุ๊กกู๋-เปิดจองและโอนเงินตั้งแต่วันนี้-15-กันยายน-2557

อ่านเรื่องได้ที่ :http://writer.dek-d.com/gugdczine/story/view.php?id=967971
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2014 20:04:45 โดย gugzabb »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
โฮ่ หายไปนาน
ชอบพี่ปั๊มค่ะ ฮืออออออออออ เขี่ยคุณชายทิ้งไปเลยๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เรื่องของพู่กันหน้าอ่านอ่ะ
ปกสวยมาก ส่วนเรื่องนี้มาต่อบ่อยๆนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
โด้ปั๊มป่ะ  :hao6:

พู่กันนี้ตอนพิเศษเยอะมั๊ย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
การเดินทาง ยังอีกยาวไกล ..

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 23


“ข้าว... กินไรหน่อยไหม" หลังจากที่ทำธุระในห้องน้ำกันเสร็จสรรพพี่ปั๊มก็เอ่ยถาม


   “ก็ดีเหมือนกันพี่" ผมตอบออกไป รู้สึกว่าระยะหลังมานี้ผมจะทานน้อยลง ไม่ใช่เพราะไม่หิวนะ แต่มันกินไม่ลงต่างหาก


   “ดี ๆ โด้ก็หิวแล้วเหมือนกัน" โด้เอ่ยขึ้นบ้าง คงอยากร่วมวงสนทนา


   “กูไม่ได้ถามมึง" พี่ปั๊มทำเสียงดุใส่ โด้หน้าจ๋อยลงทันที


   “พี่ปั๊มอ่ะ แกล้งโด้ประจำเลย" พูดจบโด้ก็เดินก้าวขาฉับ ๆ ตรงไปยังจุดรับประทานอาหาร สงสัยจะงอน ผมกับพี่ปั๊มรีบวิ่งตามเพราะกลัวว่าโด้จะโดนรุมสกรัม เพราะการแต่งตัวของโด้นอกจากประหลาดแล้ว แว่นตาดำที่สวมอยู่บนใบหน้ากับท่าทางการเดินที่ชวนเรียกสหบาทาทำให้ผมอดห่วงไม่ได้


   “ไอ้ขี้งอน" พี่ปั๊มว่าเข้าให้


   “ใครงอน โด้เปล่า" โด้ทำน้ำเสียงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


   “เปล่า! แล้วมึงจะรีบเดินหนีพวกกูทำไม" ผมเพิ่งรู้ว่าพี่ปั๊มเป็นคนรอบคอบ(เก็บทุกรายละเอียด)ก็ตอนนี้ เพราะไม่ว่าใครจะทำอะไรหรือมีท่าทีอย่างไรไม่เคยรอดพ้นสายตาพี่ปั๊มไปได้ มิน่าล่ะ... ในหลาย ๆ ครั้งที่ผมรู้สึกเครียด แม้ไม่ต้องพูดอะไรออกไปพี่ปั๊มก็สังเกตได้เองทุกครั้งไป


   “ก็แค่ลองใจว่าพี่จะห่วงแล้วตามมาหรือเปล่า... ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะ ฮ่า ๆ" โด้ยิ้มชอบใจ


   “กูไม่ได้ห่วงมึง กูเดินตามไอ้ข้าว" แล้วพี่ปั๊มก็มาโบ้ยให้ผมซะอย่างนั้น


   “เออ ๆ ผมห่วงไอ้โด้มัน" แล้วผมก็ต้องเล่นไปตามน้ำเพราะอยากให้เรื่องมันจบ ๆ "รีบไปหาซื้อไรมากินกันก่อนที่รถจะออกกันเถอะ จีบกัน เอ้ย...กัดกันอยู่ได้"


   พูดจบผมก็รีบเดินนำไปยังร้านอาหารทันที ไม่รอดูว่าอีกสองคนด้านหลังจะมีอาการอย่างไร แต่ก็ได้ยินเสียงพี่ปั๊มร้องประท้วงตามมาว่า 'กูไม่ได้จีบ ๆ' ส่วนไอ้โด้ก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ ผมชักสงสัยเสียแล้วสิที่ไอ้โด้ชอบยั่วโมโหพี่ปั๊มแบบนี้หรือว่าโด้จะชอบพี่ปั๊มเข้าแล้วจริง ๆ


   'ไม่จริงน่า ดูยังไง ๆ โด้ก็ไม่เหมือน พี่ปั๊มก็ไม่น่าจะใช่' ผมสะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้นออกไป ทว่าในใจกับยิ้มกริ่มรู้สึกขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก


   “กินไรวะข้าว" เสียงที่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับฝ่ามือที่เอื้อมมาจับบ่าทำให้ผมสะดุ้งโหยง "เฮ้ย! ตกใจอะไรวะ กำลังเหม่อลอยถึงใครอยู่เหรอไง"


   “เปล่า กำลังคิดอยู่ว่าจะกินไร" ผมแก้ตัวเองไปโดยไม่หันไปสบตากับคนถามสักนิด ความจริงอยากจะตอบพี่ปั๊มออกไปด้วยซ้ำว่าผมไม่ได้เหม่อลอยถึงใคร แต่กำลังคิดถึงเรื่องขนพองสยองเกล้าระหว่างพี่ปั๊มกับโด้ต่างหาก แต่ที่ผมไม่พูดเพราะผมกลัวว่าพี่ปั๊มจะโวยวายเสียงดังและท้ายที่สุดเราก็จะไม่ได้รับประทานอาหารกัน


   “อันแน่... จริงเหรอวะ กูดูออกน่าว่ามึงโกหก" ผมอุตส่าห์ไม่พูดไรแล้วแต่พี่ปั๊มตัวดีก็ดันไม่ยอมหยุด


   “รู้ดีนักใช่ไหม" ผมยืดแขนออกไปล็อกคอพี่ปั๊มก่อนจะออกแรงกดให้ใบหน้าข้างหนึ่งของพี่ปั๊มซุกอยู่กับอกของผมพี่ปั๊มจะได้หยุดพูดสักที จากนั้นเราสองคนก็เดินไปหยุดอยู่หน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง


   ผมสั่งอาหารออกไป พี่ปั๊มพยายามโวยวายและดิ้นให้หลุด แต่ตัวเล็ก ๆ อย่างพี่ปั๊มไม่มีวันสู้แรงของผมได้หรอก... กว่าที่ผมจะปล่อยให้พี่ปั๊มเป็นอิสระก็ตอนที่แม่ค้ายื่นจานอาหารมาให้ผม


   “เจอกันที่โต๊ะนะพี่" ผมชี้ไปยังโต๊ะว่างใกล้ ๆ กับร้านอาหาร


   “ไอ้น้องเลว แกล้งกู" พี่ปั๊มทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ มือทั้งสองข้างก็สาละวนกับผมที่ยุ่งเหยิง... ผมยักคิ้วกวนบาทาใส่แล้วชี้ไปยังโต๊ะอาหารอีกครั้ง "เออ... เดี๋ยวกูตามไป"


   ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ไม่นานมากนักโด้ก็ตามมาพร้อมกับพี่ปั๊มที่เดินตามหลังมาติด ๆ ในขณะที่โด้กำลังจะนั่งลงข้างผม พี่ปั๊มก็รีบเดินอ้อมแล้วนำจานอาหารมาวางตรงจุดที่โด้จะนั่ง


   “ตรงนี้ของกู" พี่ปั๊มพูด


   “แย่งโด้นี่หว่า" โด้เถียง


   “มีปัญหา หรือมีอยากจะลองดีกับกู" พี่ปั๊มขู่โดยไม่สนใจสักนิดว่าโด้ที่ยืนอยู่ด้านหลังกำลังทำปากขมุบขมิบล้อเลียน


   “นิสัยผู้หญิงจริง อยากนั่งก็นั่งเลย โด้นั่งตรงนี้ก็ได้" แล้วไอ้โด้ก็ดันปากเสียไม่ยอมพีปั๊มเสียด้วยสิ แถมคำที่โด้ต่อว่าแม้มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรแต่คนอย่างพี่ปั๊มผมรู้ดีว่าไม่มีวันยอมให้ไอ้โด้มันต่อว่าฝ่ายเดียวแน่นอน


   ปึง!!!


   แล้วเสียงทุบโต๊ะก็ดังขึ้น ผมสะดุ้งโหยง ผู้คนในละแวกนั้นต่างหันมามองทางโต๊ะของพวกเราด้วยความสนใจบ้างก็มีท่าทีที่หวาดระแวง


   พี่ปั๊มหน้าแดงก่ำ ผมสังหรณ์ใจไม่ได้จึงเอื้อมมือไปแตะบ่าพี่ปั๊มเบา ๆ


   “ใจเย็นพี่ โด้มันก็แค่ล้อเล่น" ผมเอ่ยขึ้นพลางหันไปมองโด้ สีหน้าของโด้เหยเกราวกับรู้ตัวดีว่าได้จุดชนวนให้คนขี้หงุดหงิดอย่างพี่ปั๊มประสาทเสียแล้ว ...จะบอกว่าพี่ปั๊มหงุดหงิดก็ไม่ได้เสียทีเดียว เพราะอาการแบบนี้พี่ปั๊มเป็นเฉพาะกับโด้เท่านั้น


   “มึงว่าใครเป็นผู้ญิงนะ" พี่ปั๊มหายใจฟุดฟัดลุกจากเก้าอี้แล้วยื่นมือไปกำคอเสื้อของดด้พร้อมกับออกแรงบิด สายตาของพี่ปั๊มในยามนี้ไม่ต่างจากราชสีห์ที่กำลังรอเวลาขย้ำเหยื่อตรงหน้าให้เละคาอุ้งเท้าเลยสักนิด


   “ดะ... โด้ไม่ได้ว่าพี่ ปะ... เป็น เป็นผู้หญิง" โด้พูดติด ๆ ขัด ๆ เสียงก็สั่นไหวด้วยความกลัว "โด้แค่แซวว่าพี่ทำนิสัยเหมือนผู้หญิงก็แค่นั้น แต่ๆๆๆๆ พี่ฟังโด้ก่อนนะ โด้แค่แซวเล่น แซวเล่นจริง ๆ โด้มันปากเสีย"


   “เออ... พี่ปั๊ม ใจเย็นเถอะ อย่าไปโกรธน้องมันเลย" ผมช่วยปลอบ เมื่อเห็นว่าพี่ปั๊มยังมีสีหน้าที่เครียดเขม็งผมก็เลยใช้ไม้เด็ดด้วยการพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน "นะครับพี่ปั๊ม เชื่อผมนะครับ น้องมันยังเด็กพูดไรไม่คิดอย่าไปถือสามันเลยนะครับคนเก่ง"


   สิ้นเสียง... มือของพี่ปั๊มก็คลายออกจากคอเสื้อของโด้ ผมถอนหายใจยาวเช่นเดียวกับโด้ จากนั้นพี่ปั๊มก็ค่อย ๆ นั่งลง


   “เออ... กูขอโทษ ช่วงนี้กูกำลังเครียดนิดหน่อย" พี่ปั๊มหันมาพูดกับผมก่อนจะหันหน้าไปทางโด้ "มึงด้วยเหมือนกัน กูขอโทษ"


   “โด้ก็ขอโทษพี่ โด้จะไม่พูดแล้ว ว่าแต่พี่เครียดอะไรล่ะ" โด้เอ่ยถาม


   “ก็กูกำลังสับสนในตัว... เอ้ย!!! แล้วมึงจะมาหลอกถามกูทำไม กูไม่ได้เป็นไร รีบ ๆ กินเหอะ" พี่ปั๊มเฉไฉ หน้าที่แดงจัดด้วยความโกรธค่อย ๆ จางลง จากนั้นเราสามคนก็รีบรับประทานอาหารด้วยความเงียบ มันเงียบจะกระทั่งได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงเคี้ยวอาหารเท่านั้นเหมือนกับว่าต่างคนต่างก็กำลังรู้สึกประหม่ากับเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเมื่อครู่


   “เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ กินเสร็จพวกมึงไปรอบนรถเลยก็ได้" พี่ปั๊มที่ทานข้าวเสร็จเป็นคนแรกเอ่ยขึ้น ผมพยักหน้ารับรู้เช่นเดียวกับโด้


   หลังจากที่พี่ปั๊มลุกจากโต๊ะ ผมที่สังเกตเห็นสีหน้าของโด้ยังคงเกร็ง ๆ อยู่ก็อดเป็นห่วงน้องไม่ได้


   “อย่าคิดมากน่าโด้ พี่ปั๊มโกรธมึงไม่นานหรอก"


   “พี่ข้าว... โด้ขอโทษ โด้ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้บรรยากาศมันอึมครึมแบบนี้" โด้พูดด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด


   “เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง จะเข้าห้องน้ำเปล่า" ผมเอ่ยยิ้ม ๆ


   “ไม่อ่ะพี่" โด้ปฏิเสธ


   “งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูพี่ปั๊มก่อน"


   “ครับ" โด้พยักหน้า จากนั้นผมก็ลุกออกจากโต๊ะทันที แต่ก่อนที่จะเดินจากไปผมไม่ลืมที่จะตบบ่าให้กำลังใจโด้

   ภายในห้องน้ำ ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งกำลังล้างหน้าที่หน้ากระจก เขาใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างรองหยาดน้ำที่ไหลเต็มแรงก่อนจะยกมันขึ้นมาลูบใบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเสื้อผ้าบางส่วนเปียกปอน


   ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ จับจ้องภาพในกระจกที่สะท้อนออกมา พี่ปั๊มมีสีหน้าที่สดใสผิดกับเมื่อครู่ราวกับว่าหยาดน้ำจากก๊อกช่วยชะล้างความหม่นหมองทั้งหมดออกไปจนสิ้น


   “อ้าวไอ้ข้าว มาเข้าห้องน้ำเหรอไง" น้ำเสียงของพี่ปั๊มกลับมาสดใสเป็นปกติ


   “เปล่า ผมมาดูพี่" ผมปฏิเสธพร้อมกับตอบออกไปด้วยเหตุผลที่แท้จริง


   “เป็นห่วงกูอ่อไอ้น้องรัก" พี่ปั๊มปิดก๊อกน้ำก่อนจะเดินกลับมากอดคอแล้วพาร่างของผมออกไปจากห้องน้ำ


   “อืม! ห่วง กลัวว่าพี่จะมาทำนิสัยผู้หญิงในห้องน้ำอีก" ผมแซวเข้าให้ ผมรู้ดีว่าถ้าเป็นผมพี่ปั๊มต้องไม่โกรธแน่ ๆ


   “ไอ้สัส ฮ่า ๆ ๆ กูมันงี่เง่าเนอะ แค่นี้ก็ไปโกรธไอ้โด้มัน" พี่ปั๊มเอ่ยติดตลก


   “ที่สุดเลยล่ะครับ" ผมตีหน้าซื่อแล้วพยักหน้า พอเห็นกำปั้นที่ยกขึ้นจึงรีบวิ่งหนีออกจากห้องน้ำทันที


   “ไอ้ข้าว!!! มึงตาย!!!” พี่ปั๊มเอ่ยเสียงดัง แม้ว่าผู้คนในละแวกนั้นจะมีอยู่อย่างหนาตาแต่ก็ไม่ได้มีความเกรงใจใครสักนิด


   ผมวิ่งไปจนกระทั่งถึงโต๊ะอาหารที่โด้นั่งอยู่ ผมอ้อมไปหลบหลังโด้แล้วโอบไหล่เอาไว้เพื่อใช้เป็นไม้กันพี่ปั๊ม... ได้ผล พี่ปั๊มชะงักเช่นเดียวกับโด้


   “โด้มึงต้องช่วยพี่นะ คนบ้ากำลังวิ่งไล่พี่มา น่ากลัวชะมัด" ผมทำเสียงตื่นเต้นเพื่อกลบเกลื่อนบรรยากาศคลื่นใต้น้ำที่ไม่แน่ใจว่ามันสงบลงหรือยัง


   “ไอ้ข้าว หน็อย!!! ถ้ากูไม่ได้ถีบก้นมึงวันนี้มีหวังกูนอนตายตาไม่หลับแน่" พี่ปั๊มทำเสียงฟึดฟัดขึ้นมาอีกครั้ง "โด้! จับไอ้ข้าวให้กู"
   สิ้นเสียงประกาศิตของพี่ปั๊ม แขนของผมที่โอบไหล่ของโด้ก็ถูกจับเอาไว้ทันที ผมไม่ดิ้นหนีไปไหน ยอมให้พี่ปั๊มทารุณกรรมร่างกายได้อย่างใจชอบ ขอแค่พี่ชายสุดที่รักกับน้องชายขี้เล่นหายโกรธกันแค่นั้นก็พอแล้ว


   และผลจากการที่ผมไม่วิ่งหนีไปไหน ทำให้โดนพี่ปั๊มถีบก้นอย่างแรง ไม่ถนอมน้ำใจที่สนิทสนมกันมาตั้งหลายปีสักนิด แต่นั่นมันก็ไม่เจ็บใจเท่ากับการที่หลังจากที่โดนถีบจนเซถลา พี่ปั๊มยังอุตส่าห์วิ่งเข้ามาใช้นิ้วมือสองนิ้วจิ้มทะลวงเข้าที่บั้นท้ายของผมอย่างแรงจนทำให้ผมรู้สึกเสียวพิลึกและเผลอร้องจ๊ากออกมาดังลั่นจนคนในละแวกนั้นหันมามองผมเป็นทางเดียว ...เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้


   เท่านั้นยังไม่พอ คนที่เพิ่งงอนกันสองคนเมื่อครู่นี่กลับตบฝ่ามือของกันและกันแล้วหัวเราะลั่นที่เห็นผมต้องอับอาย


   “ขออภัยด้วยนะครับ" ระหว่างที่เราสามคนกำลังหยอกล้ออย่างไม่อายสายตาผู้คนอยู่นั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูจากใบหน้าแล้วคาดได้ว่าน่าจะอายุประมาณ 30 ต้น ๆ ได้เดินเข้ามาหา เขาแต่งด้วยชุดสีกรมท่าลักษณะคล้ายกับเครื่องแบบของยามรักษาการณ์ทั่วไป


   “ครับ" พี่ปั๊มซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่มตอบรับ


   “รบกวนช่วยเบาเสียงลงนิดนึงนะครับ" ยามหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเกรงใจเล็กน้อยก่อนจะเบาเสียงลงราวกับกระซิบในประโยคถัดมาว่า "ต้องขออภัยจริง ๆ นะครับพอดีมีคนมาบ่นกับผมแล้วสั่งให้ผมมาเตือน"


   “ไม่เป็นไรครับ พวกเรากำลังจะขึ้นรถแล้ว" พี่ปั๊มตอบออกไป


   “ขอบคุณครับ" ยามหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินจากไป โดยระหว่างนั้นก็หันมาเหลียวมองพวกเราเป็นระยะ ๆ ไม่รู้เพระอะไรเหมือนกัน


   “ได้เวลาเดินทางต่อแล้ว Go Go” พี่ปั๊มพูดแล้วเดินนำไปยังรถทัวร์ โดยมีโด้เดินตามไปติด ๆ และผมเดินรั้งท้าย


   ในขณะที่เดินอยู่นั้น ผมอดคิดถึงคุณชายไม่ได้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีความสุขมากแค่ไหนกับการที่ไม่มีผมอยู่ใกล้ ๆ แล้วเวลาโมโหหรือหงุดหงิดคุณชายจะไประบายใส่ใคร เพราะคงไม่มีใครเป็นที่รองรับอารมณ์ของคุณชายได้ดีเท่ากับผมอีกแล้ว


   ผมไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่คน ๆ นั้นทำร้ายความรู้สึกของผมสารพัด ทำให้ผมร้องไห้ เสียใจแทบไม่เป็นอันกินอันนอน แต่พอย้อนนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ หรือข้อดีของคน ๆ นั้นมาเพียงเสียวเดียวเท่านั้น มันกลับทำให้ผมใจอ่อนและให้อภัยได้ง่าย ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ


   'นี่ใช่ไหมความรัก..'


   “ข้าว" เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมสะบัดศีรษะไล่ความคิดเล่านั้น


   “พี่ปั๊ม" ผมเอ่ยชื่อของผู้ที่เรียกผม ตอนนี้พี่ชายตัวเล็กกำลังยืนอยู่ข้าง ๆ รถทัวร์ส่วนไอ้โด้เดินขึ้นไปบนรถเรียบร้อยแล้ว "ทำไมไม่ขึ้นรถ"


   “กูขึ้นไปแล้ว แต่กูไม่เห็นมึงตามขึ้นไปสักที" คำพูดของพี่ปั๊มทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความฉงน "มึงโกรธกูเรื่องเมื่อกี้อยู่เหรอวะ"
   “ไม่ใช่" ผมสะบัดศีรษะด้วยความฉับไว "ผมไม่ใช่คนขี้น้อยใจหรือคิดเล็กคิดน้อยอย่างคนถามหรอก"


   “อ้าวไอ้น้องเวร กูถามดี ๆ ดันมาแขวะกูอีก" พี่ปั๊มบ่นหน้ามุ่ย


   “ฮ่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ ไปกันเถอะ" ผมเดินไปกอดคอพี่ปั๊มก่อนจะดันหลังให้เดินขึ้นรถไปพร้อม ๆ กัน พี่ปั๊มไม่ถามอะไรออกมาอีกสักคำสงสัยคงรู้ว่าผมกำลังคิดถึงคุณชายอยู่แน่นอน


   หลังจากที่ขึ้นรถไป ไม่นานมากนักคนขับและพนักงานก็ตามมานับจำนวนผู้โดยสาร เมื่อเห็นว่าผู้โดยสารมาครบรถทัวร์ก็เริ่มเคลื่อนอีกครั้ง


   “ข้าว" พี่ปั๊มเรียกผมอีกครั้ง


   “ไรพี่" ผมรับคำห้วน ๆ


   “ไหล่มึงนี่ก็นุ่มดีเหมือนกันเนอะ กูขอนอนท่านี้ไปจนถึงแม่ฮ่องสอนเลยละกันนะ" ไม่ว่าเปล่า ศีรษะของคนพูดยังรีบเอนมาซบที่หัวไหล่ของผมด้วยความว่องไว


   ผมไม่ได้ตอบออกไปด้วยคำพูดหากแต่พยักหน้าให้พี่ปั๊มรับทราบพลางนึกสงสัยในใจว่า ชายแท้ที่ไหนเขาชอบนอนซบไหล่ผู้ชายด้วยกัน พอคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ชายแท้จะทำแบบนี้ มันก็อดคิดไม่ได้ว่าพี่ปั๊มจะชอบผู้ชายจริง ๆ แต่พอลองถามหรือเอ่ยแซวทีไร พี่ปั๊มก็เอาแต่ปฏิเสธโวยวายเสียงแข็งปากหนักเสียยิ่งกว่าอะไร


   ผมยอมรับว่าขณะนี้ผมกำลังรู้สึกหวั่นไหว พี่ปั๊มทำให้ผมลืมเรื่องที่กำลังนึกถึงคุณชายไปจนสนิทใจ หรือว่านี่จะถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะต้องตัดใจจากคุณชายให้ได้อย่างเด็ดขาดสักที



จบตอน


............
ตอบคุณ IsDeer :: ตอนพิเศษ ในเล่ม 3 ตอนครับ แต่สั่งพรีออเดอร์กับ Hermit จะได้เรื่องสั้นพิเศษอีก 1 เรื่อง ครับ ^^

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
เย้มาไว แต่ไม่ถึงเมืองเหนือสักที คุณชายก็หายไปหลายตอนแล้ว คิดถึงนิดๆเหมือนกัน

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อย่าเพิ่งหวั่นไหวกับพี่ปั๊มนะข้าว
คนนี้ต้องให้โด้มันกดและปราบซะให้เข็ด  :hao6:

ขอบคุณที่ตอบจ้า  :mew1:

ออฟไลน์ jamelovelove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
อ่าน ตั้งแต่ ต้นจนจบ อ่า สงสารข้าววววมากเลยยยย รีบมาต่อนะเคอะ
เชียร์ไห้โด้แล้สพี่ปั้มได้กันนนะเคอะ :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 24


        กว่าที่รถทัวร์จะขับเคลื่อนไปถึงตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็เล่นเอาผมอาเจียนออกมาหลายรอบ โชคดีที่พี่ปั๊มรู้อยู่แล้วว่าเส้นทางการเดินรถจากเมืองหลวงสู่บ้านเกิดของตนนั้นมันสาหัสสากรรจ์แค่ไหน จึงได้พกถุงหิ้วใส่กระเป๋าสะพายข้างมาจำนวนหลายใบ


   “เฮอะ!” พี่ปั๊มพ่นลมหายใจออกมาขณะยื่นทิชชู่มาให้ผมเช็ดปาก ผมรับทิชชู่มาด้วยความเกร็งเพราะเข้าใจไปว่าพี่ปั๊มคงจะรังเกียจ


   “ขอโทษนะพี่" ผมเอ่ยหลังจากที่เช็ดปากเรียบร้อย "ผมไม่รู้ว่าเส้นทางมาบ้านพี่มันจะหฤโหดโคตรคดโค้งขนาดนี้"


   “ไม่! กูสิต้องขอโทษมึงที่ไม่ได้บอกมึง" พี่ปั๊มหันมาตอบด้วยความฉับไว แววตาของพี่ปั๊มแสดงถึงความจริงใจไร้การเสแสร้ง


   “อ้าว! ผมก็นึกว่าพี่รังเกียจซะอีก"


   “ไอ้ข้าว!” พี่ปั๊มจ้องมผมเขม็งราวกับว่าผมพูดความผิดร้ายแรงออกไป "มึงเป็นน้องกูนะโว้ย แค่มึงอ้วกมันยังน้อยไป ลองให้กูเช็ดตูดมึงสิ ยังได้เลยไอ้น้องรัก"


   “เอ๋? แล้วพี่หงุดหงิดอะไร" ถ้าพี่ปั๊มไม่ได้รังเกียจผม แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้พี่ปั๊มเป็นแบบนี้


   “ก็ดูไอ้โด้ดิวะ ไอ้กูก็นึกว่ามันจะอ้วกจนหมดแรง ที่ไหนได้นั่งยิ้มหน้าระรื่นมาตลอดทาง หน็อย! เจ็บใจนัก" พี่ปั๊มพูดเสียงดังตั้งใจให้ไอ้โด้ได้ยิน


   “อ๋อออออ.......” โด้ลากเสียงยาวพร้อมกับพยักหน้าอย่างเข้าใจ "อย่างงี้นี้เอง แต่เสียใจด้วยนะพี่ปั๊ม เพราะโค้งแค่นี้ทำอะไรสุดหล่ออย่างโด้ไม่ได้หรอก"


   “ไปกันเถอะข้าว" พี่ปั๊มแกล้งทำไม่สนใจไอ้โด้พลางพยุงร่างของผมเพื่อที่จะพาเดินลงจากรถเมื่อเห็นผู้โดยสารคนอื่น ๆ ทยอยลงกันจนหมดแล้ว


   ผมหันไปมองโด้ก็เห็นว่ารายนั้นกำลังทำหน้างอนจนแก้มป่องคิ้วขมวดที่พี่ปั๊มไม่ยอมสนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินตามลงมาด้วยความเงียบเชียบ


   หลังจากที่หยิบสัมภาระลงจากรถเสร็จ พี่ปั๊มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาใครบางคน


   “เอ้อ ไอ้ปอม อยู่ไหนแล้ววะ" นั่นคือประโยคแรกที่พี่ปั๊มเอ่ยขึ้น ก่อนจะเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ "เออ ๆ เดี๋ยวกูเดินไป"


   พี่ปั๊มกดวางโทรศัพท์แล้วหันมาพยักหน้าให้ผมกับโด้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง "ป่ะ"


   “ไปไหนพี่" เสียงของโด้เอ่ยขึ้น


   “ไปหาน้องกู มันขับรถมารออยู่ที่ร้านข้าวแกงด้านหน้าสถานีขนส่งแล้ว"


   พี่ปั๊มเดินนำไปยังหน้าสถานีขนส่งโดยมีผมกับโด้เดินตามไปติด ๆ ราวกับเด็กที่กลัวว่าจะโดนปล่อยทิ้งไว้กลางป่าอย่างไรอย่างนั้น สักพักพี่ปั๊มก็เลี้ยวเข้าไปในร้านขายข้าวแกงร้านหนึ่ง ภายในร้านมีผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะอาหารมากมายจนเกือบเต็ม


   “ปั๊ม ๆ ทางนี้” แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ผมหันไปมองตามต้นเสียงก็เจอกับเด็กหนุ่มผิวขาวเหลืองยกมือเรียกพี่ปั๊ม เขาตัดผมสั้นดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย หน้าตาของเด็กหนุ่มผู้นั้นราวกับดาราเกาหลีที่ผ่านการศัลยกรรมมาจนหล่อเหลา หากแต่คน ๆ นี้ไม่ใช่... ดูอย่างไรใบหน้าของเขาก็สดใสด้วยธรรมชาติไร้ซึ่งการแต่งเติมใด ๆ การแต่งกายก็ดูจะแสนธรรมดาเพราะเขาสวมเสื้อแขนกุดสีขาวเผยให้เห็นมัดกล้ามเล็ก ๆ ที่ต้นแขนเหมือนคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ท่อนล่างเป็นกางเกงสามส่วนสีดำ


   พี่ปั๊มพยักหน้ามาทางผมแล้วพยักหน้าเป็นการบอกว่าให้เดินตามไป จากนั้นพี่ปั๊มจึงเดินนำไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ กับเด็กหนุ่มผู้นั้น


   “ไอ้ปอมนี่เพื่อนร่วมงานกูนะ คนนี้ชื่อข้าวอายุเท่ากันกับมึง ส่วนนั่นไอ้โด้อ่อนกว่ามึง 4 ปีมั้ง น่าจะราว ๆ นั้น” พี่ปั๊มเป็นคนเริ่มบทสนทนา ก่อนจะหันหน้ามาทางผมและพยักเพยิดไปทางโด้


   เด็กหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดูยิ้มให้ผมกับโด้ก่อนยื่นมือออกมาตรงหน้าผม ผมยิ้มกลับพอจะชักมือไปจับตอบพี่ปั๊มปัดมือของเด็กหนุ่มคนนั้นออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ


   “นี่ไอ้ปอมน้องชายกูเอง...” พี่ปั๊มทำเสียงขรึมก่อนจะหันหน้าไปทางน้องชายแล้วกระซิบกระซาบกันสองคน แต่ผมดันได้ยินด้วย “มึงไม่ต้องมาทำเป็นพิธีรีตองจับมงจับมือแล้วพูดยินดีที่ได้รู้จักนะครับแบบในละครเลยไอ้ปอม!”


   “ทำไม” ปอมเอ่ยถาม หากแต่พี่ปั๊มไม่ตอบแถมยังเบือนหน้าหนีก่อนจะนั่งกอดอกอย่างวางท่า ทว่าพอได้ยินในสิ่งที่น้องชายเอ่ยในประโยคถัดไปออกมาเท่านั้นแหละพี่ปั๊มก็แทบจะนั่งนิ่งต่อไปไม่ได้ “หึงเหรอไงพี่”

   “หึง! หึงบ้าหึงบออะไรเล่า” น้ำเสียงของพี่ปั๊มแสดงออกถึงความขัดใจอย่างเห็นได้ชัด มิหนำซ้ำยังยกเหตุผลต่าง ๆ นานามาสารพัดราวกับกำลังร้อน “กูจะหึงได้ยังไง ผู้ชายเหมือนกันนะโว้ย ไอ้นี่หนิ ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วพูดมากพูดมั่วไปเรื่อยไป กูไม่ได้หึง ไม่ได้หึงจริง ๆ เข้าใจไว้ด้วย”


   “อื้อ... เข้าใจ” ปอมพยักหน้า สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารม์ใด ๆ ออกมาสักนิดทำให้ผมไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้กำลังครุ่นคิดอะไรกันแน่ “ก็แค่แซวเล่น ๆ แล้วทำไมต้องตอบซะยืดยาวขนาดนั้น”


   “เอ้อ... ก็เปล่า มึงนี่ก็พูดมากจัง กูไปสั่งอาหารก่อนดีกว่า หิวจะแย่แล้ว” พูดจบก็ลุกขึ้นทันที


   “โด้ไปด้วย” โดยมีโด้ที่ลุกขึ้นตามไปเลือกอาหารจากถาดอาหารด้านหน้าร้านติด ๆ ส่วนผมยังไม่รู้สึกหิวจึงยังนั่งอยู่ที่โต๊ะตามเดิม


   โต๊ะอาหารภายในร้านเป็นโต๊ะไม้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มีเก้าอี้ 4 ตัววางรอบโต๊ะ โดยที่ซ้ายมือของปอมเป็นที่นั่งของพี่ปั๊ม ส่วนฝั่งขวามือของปอมคือที่นั่งของโด้ ส่วนผู้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับปอมก็คือผม


   “ข้าว” เสียงที่เอ่ยเรียกทำให้ผมที่กำลังเสมองไปรอบ ๆ ร้านต้องหันหน้าไปปะทะกับคนตรงหน้า สายตาของคนที่มองมากลับทำให้ผมนึกไปถึงใครบางคนเสียได้ คนที่ผมเคยเป็นพี่เลี้ยงและเขาก็ได้ทอดทิ้งผมไปอย่างไม่ใยดี ...บ้าจริง!


   “ครับ” ผมรับคำอย่างสุภาพ แม้ว่าโครงหน้าจะต่างกันเพราะปอมคล้ายกับพี่ปั๊มมากกว่า ทว่าความสดใสไร้เดียงสาหากแต่แววตาแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจและไม่ยอมคนนั้นกลับทำให้ผมคิดถึงคุณชายไปได้ “มีอะไรครับคุณชาย”


   แล้วผมก็เผลอพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว


   “คุณชาย?” ปอมทำหน้างุนงงครู่หนึ่ง


   “อ้อ... เปล่า ๆ ไม่ใช่ ๆ” ผมรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ แล้วทำไมผมต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจแบบนี้ด้วยนะ พอจะสบตาก็กลับรู้สึกกลัวคนตรงหน้าขึ้นมาดื้อ ๆ ท้ายที่สุดผมจึงเลือกที่จะหลบตาแล้วนั่งก้มหน้านิ่ง ๆ เหมือนเป็นคนขี้อายที่ไม่กล้าสบสายตาใคร “ไม่มีอะไรครับ”


   ผมลอบถอนหายใจออกมา คุณชายยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของผมไม่ยอมจากไปไหน แล้วแบบนี้ผมควรจะทำอย่างไรต่อไป ปล่อยให้เรื่องทั้งหมดมันจบไปแบบนี้หรือลองกลับไปหาคุณชายอีกสักครั้ง เผื่อว่าคุณชายอาจจะแค่กำลังลองใจว่าผมจะทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้


   “ผมจะถามว่าข้าวไม่หิวเหรอ ไม่ไปหาไรกินบ้างล่ะ” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องสลัดความคิดบ้า ๆ ทิ้งไป


   “อ้อ...” ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก... ไม่รู้เหมือนกันว่าโล่งอกเรื่องอะไร “ผมยังไม่หิวครับ แล้วปอมล่ะ”


   “ว๊า... แย่จัง” ปอมทำน้ำเสียงเสียดาย “เห็นพี่ปั๊มกับโด้ไปเลือกของกินแล้ว ผมก็ว่าจะชวนข้าวไปซื้อด้วยกันซะหน่อย”


   คำพูดของปอมมันอาจจะไม่มีอะไรนอกจากความบริสุทธิ์ใจ หากแต่หัวใจของผมกลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเพียงเพราะประโยคสั้น ๆ ที่ถูกเอ่ยออกมา อาจเป็นเพราะผมรู้สึกว่าคนตรงหน้ามีอะไรบางอย่างที่คล้ายกับคุณชาย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คุณชาย ...ใช่! ปอมกับคุณชายเป๊กคนละคนและไม่มีทางที่ผมจะมองใครเป็นคุณชายไปได้อีก


   “ไม่กินสักหน่อยเหรอ สักนิดก็ยังดี กินไม่หมดเดี๋ยวผมช่วยกินก็ได้” …น้ำเสียงที่คล้ายกับออดอ้อนนั่นมันคืออะไรกัน


   “ครับ ๆ กินก็ได้” ผมอยากจะตบกบาลตัวเองแรง ๆ เหลือเกิน สมองสั่งให้ปฏิเสธออกไป แต่ทำไมปากของผมมันถึงตอบรับนะ


   “ดีมาก ปั๊มจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” พูดจบคนตรงหน้าก็ลุกขึ้นแล้วเดินนำไปทันที


   ผมไม่รอช้ารีบเดินตามไปทันที เพิ่งรู้ตอนนี้ว่าปอมมีส่วนสูงที่มากกว่าผมน่าจะประมาณ 3-4 เซนติเมตรได้


   ระหว่างที่กำลังเดินไปเลือกอาหาร อยู่ ๆ ปอมก็พูดในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา


   “ข้าวรู้ป่ะว่าปั๊มเป็นเกย์” น้ำเสียงราบเรียบปกติเหมือนกับว่าสิ่งที่เอ่ยออกมานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก


   “เหรอ...” ผมลากเสียงยาวก่อนที่จะส่ายศีรษะ ทั้ง ๆ ที่รู้สึกตกใจอยู่พอควรกับสิ่งที่ได้ยิน “ไม่รู้ครับ”


   “จริงเหรอครับ ว๊า... ผมนี่แย่จริงที่เอาความลับของพี่ชายมาเล่าให้คนอื่นฟัง” ปอมพูดด้วยน้ำเสียงสบายใจก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวของตัวเองราวกับสำนึกผิด หากแต่นั่นมันเป็นการเสแสร้งชัด ๆ “ปั๊มชอบโทรมาเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังบ่อย ๆ บางครั้งก็เล่าเรื่องของข้าวด้วยนะ ไอ้เราก็นึกว่าข้าวจะรู้ความรับของปั๊มข้อนี้แล้วซะอีก ดูปั๊มจะสนิทสนมและห่วงข้าวมาก ๆ เลยล่ะครับ”


   “ไม่รู้ครับ” ผมส่ายศีรษะ แม้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่คาดคิดว่าพี่ปั๊มจะเป็นอย่างที่ปอมกล่าวหาจริง ๆ “ไม่คิดว่าพี่ปั๊มจะเป็น...”


   “ผมขออะไรอย่างได้ไหม” คราวนี้น้ำเสียงของคนพูดเริ่มจริงจังจนผมอดรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะขอนั้นมันคืออะไร


   “ได้สิครับ” ผมตอบรับอย่างว่าง่าย ปอมกระตุกยิ้มออกมาหนึ่งทีแล้วพูดประโยคที่ยืดยาวออกมาว่า


   “อย่าให้ความสัมพันธ์ระหว่างปั๊มกับข้าวมันเกินเลยคำว่าพี่น้อง อย่ารักปั๊มแบบคู่รักเด็ดขาด ถึงมันจะเป็นเกย์ แต่ด้วยนิสัยใจคอและท่าทางของมันยังพอมีหวังที่จะกลับมาเป็นปกติได้ หวังว่าข้าวจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดนะ” พูดจบก็เดินนำลิ่ว ๆ ไปทางหน้าร้านปล่อยให้ผมยืนงุนงงกับสิ่งที่ได้ยินโดยไม่สนใจสักนิดว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่


   ผมกับพี่ปั๊มจะรักจะชอบกันได้อย่างไร เราสองคนสนิทสนมกันก็จริง แต่ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันก็แค่พี่น้องเท่านั้น ผมยอมรับว่าผมรักพี่ปั๊มมาก แต่รักในฐานะพี่ชายไม่เคยคิดอะไรเป็นอย่างอื่น แล้วการที่ปอมมากล่าวหาพี่ปั๊มกับผมแบบนี้จะให้ผมทนนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร ...แม้บางครั้งจะมีหวั่นไหวบ้างก็เถอะ แต่มันก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้น้องจากคำว่าพี่น้องเท่านั้น ผมมั่นใจ!


   คิดดังนั้น ผมจึงรีบเดินตามออกไปหวังที่จะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ปอมเข้าใจ แต่ทว่าพอไปถึงปอมก็สั่งอาหารและหันมาพูดกับผมโดยที่ไม่ยอมให้ผมเป็นฝ่ายเปิดปากขึ้นมาก่อน


   “ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ผมรู้ว่ามันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็แค่พูดดักเอาไว้ก่อน เพราะข้าวอาจจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น...” ระหว่างที่ปอมกำลังจะพูดต่อ เสียงของแม่ค้าขายอาหารก็ดังขึ้น


   “กับข้าวได้แล้วค่ะ”


   ปอมหันไปจ่ายเงินกับแม่ค้าจนเสร็จสรรพแล้วจึงหันมาพูดกับผมอีกครั้ง


   “แต่กับปั๊มไม่ใช่...” พูดจบก็เดินกลับไปที่โต๊ะ ปล่อยให้ผมยืนสับสนกับคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง


   การที่ปอมบอกว่า ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น แต่กับพี่ปั๊มไม่ใช่... มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ปอมไปรับรู้เรื่องราวอะไรของพี่ปั๊มมาอย่างนั้นหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดกบาล หวังจะมาเที่ยวคลายเครียดเพื่อลืมเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำ แต่เหตุไฉนผมต้องมาเครียดยิ่งกว่าเก่ากับคำพูดแปลก ๆ ของเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ


   “คุณคะ สั่งอะไรดีคะ” แล้วเสียงที่ดังขึ้นก็เรียกสติผมให้กลับคืนมาอีกครั้ง ผมเงยหน้าไปมองแม่ค้าขายอาหารทำตาปริบ ๆ อย่างสำนึกผิดที่มายืนอยู่หน้าร้านแต่ยังไม่ยอมสั่งอะไรสักที


   ผมกวาดสายตามองดูอาหารในถาด มีอาหารที่น่ารัปประทานหลายอย่าง ทั้งไข่ลูกเขย หมูหวาน ยำไข่ต้ม ฉู่ฉี่ปลาทู อะไรที่ไม่มีผักผมชอบทั้งนั้นแหละ แต่ทว่า


   “เอาผัดผักรวมมิตรกับยำเห็ดเข็มทองครับ” ผมตัดสินใจสั่งอาหารเพื่อสุขภาพไปแล้ว พอคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก คำที่คุณชายเคยพูดหรือเคยขอเอาไว้ก็กลับมาวนเวียนอยู่ในหัวสมองจนทำให้ผมต้องหวั่นไหวไม่เป็นอันทำอะไร เรื่องคุณชายว่าเครียดแล้ว ได้ยินคำพูดแปลก ๆ ของปอมเมื่อครู่ยิ่งทำให้ผมเครียดเข้าไปใหญ่ ...ไอ้ข้าวเอ๊ย เมื่อไหร่มึงถึงจะกลับมามีความสุขอีกสักทีวะ


   พอเดินถือจานอาหารกลับไปนั่งที่โต๊ะพี่ปั๊มก็ส่งสายตาที่แสดงถึงความประหลาดใจมาทางผม


    “ไอ้ข้าว มึงไม่ชอบกินผักไม่ใช่หรอเหรอวะ”


   “เอ๋... พี่ข้าวไม่ชอบกินผักหรอครับ” โด้เอ่ยแทรกด้วยความชอบใจก่อนจะเอามือทุบอกตัวเองแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “ไม่เก่งเหมือนโด้เลย กินผักเป็นตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จากนั้นก็กินมาตลอด”


   “ก็... เออน่าพี่ หัดกินบ้างก็ดี” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจพลางหันไปมองจานอาหารในมือแล้วรู้สึกขยะแขยงชอบกล ผมจะกินมันลงจริง ๆ หรือนี่


   ผมลอบถอนหายใจก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะอาหารพยายามไม่สบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พอจะตักอาหารเข้าปากมือมันก็ค้างอยู่กลางอากาศอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ...นี่ผมกำลังทำบ้าอะไรเนี่ย คุณชายก็ทิ้งผมไปแล้ว แล้วทำไมจะต้องไปใส่ใจกับไอ้คำพูดที่อยากให้เราทำนู่นนี่นั่นของคุณชายด้วยนะ


คิดดังนั้นผมจึงถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้ววางช้อนส้อมลงบนจานอาหาร ไม่กินก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ โตมาอายุป่านนี้ผมก็ยังแข็งแรงเหมือนคนทั่ว ๆ ไปนั่นแหละน่า


“เป็นอะไร” พี่ปั๊มเอ่ยถามหลังจากที่เห็นผมวางช้อนส้อมลง


“เปล่าครับพี่” ผมปฏิเสธออกไปก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มจนหมด จังหวะที่ผมกำลังเงยหน้าดื่มน้ำ สายตาของผมก็ดันไปปะทะกับสายตาเจ้าเล่ห์ของปอมเอาเสียได้ ทั้ง ๆ ที่เห็นในทีแรกก็ดูน่ารักสเใสไร้เดียงสา แต่พอได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยคผมกลับรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่คิดเสียแล้ว เขาดูฉลาดและยากที่จะเข้าใจ


ปอมยักคิ้วให้ผมหนึ่งทีก่อนจะเผยอยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า “ไม่ลองกินดูล่ะ กับข้าวร้านนี่อร่อยจริง ๆ นะ”


พูดจบก็ถือวิสาสะมาตักอาหารที่จานของผมแล้วยัดเข้าปากตัวเองก่อนจะเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ผมไม่ชอบท่าทีของหมอนี่เลย ทั้ง ๆ ที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูแต่กลับชอบทำเจ้าเล่ห์เพทุบายเหมือนอยากจะมีปัญหากับผมเสียให้ได้


“อร่อยจริง ๆ นะ ถ้าพี่ข้าวไม่กินโด้ขอนะครับ” พอโด้จะตักบ้างพี่ปั๊มก็รีบยื่นมือไปดันมือของโด้ออกทันที


“ไม่ได้! นี่ของไอ้ข้าว ให้มันกินบ้างช่วงนี้ยิ่งผอม ๆ อยู่ มึงก็เหมือนกันไอ้ปอมอย่าไปแย่งมันกิน” พูดจบก็หันมามองหน้าผม “รีบกินได้แล้วไอ้ข้าว”


“ครับ” ท้ายที่สุดผมก็ต้องกลั้นใจรับประทานผัดผักประหลาด ๆ และยำเห็ดพิสดารที่ผมตัดสินใจสั่งมา ...โถ่เอ๊ยไอ้ข้าว คิดเองเออเองทั้งนั้น ทำไมไม่ยอมทำอะไรตามใจตัวเองสักทีนะ ทำไมถึงชอบนึกถึงคุณชายและคำพูดบงการของคุณชายต่าง ๆ นานาสารพัดด้วย
การที่จะลืมใครบางคนที่มีความผูกพันกันมานั้นมันไม่ได้ทำง่าย ๆ เลยสักนิด แล้วคุณชายล่ะ จะมีสักเสี้ยววินาทีไหมที่มีอาการเหมือนผม หรือคุณชายไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว บางทีเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันอาจจะเกิดจากความสงสารก็เป็นได้


“ก็แค่เนี้ย จะกินก็กินได้นี่ครับ” หลังจากที่ผมตักอาหารคำสุดท้ายเข้าปาก เสียงของปอมก็ดังขึ้น ระหว่างนั้นพี่ปั๊มกับโด้กำลังเดินไปเลือกของหวานที่หน้าร้านเลยทำให้รอบโต๊ะอาหารเหลือเพียงแค่ผมกับปอมอีกครั้ง


   “นายมีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า” ผมถามออกไปตรง ๆ เพราะคำพูดหลาย ๆ อย่างของปอมมันสะกิดใจให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่หวังดีกับผม


   “ก็เปล่านี่ครับ” ปอมตอบพร้อมรอยยิ้มที่สดใสหากแต่ฉาบไปด้วยเล่ห์ร้ายที่ไม่มีใครสังเกตเห็นนอกจากผม “แล้วข้าวล่ะมีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า”


   เมื่อถามกลับมาตรง ๆ แบบนี้มีหรือที่ผมจะยอมแสร้งทำเป็นคนดีแล้วส่ายศีรษะปฏิเสธแบบเขา “มี”


   ได้ผล... ปอมยิ้มให้กับคำตอบ เขาเลิกคิ้วแล้วจ้องมองผมด้วยความสนใจ


   “เรื่องที่นายกล่าวหาพี่ปั๊มว่าเป็นเกย์ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมกับพี่ปั๊มจะรักกันไม่ได้” ที่ถามไม่ใช่เพราะผมหลงรักพี่ปั๊มไปแล้วหรอกนะ แค่อยากรู้เหตุผลที่แท้จริงเท่านั้น “เพราะที่นายบอกว่าพี่ปั๊มยังพอมีหวังที่จะกลับมาชอบผู้หญิงนั้น ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง”


“แล้วถ้าผมยังยืนยันคำตอบเดิมล่ะ” สีหน้าของปอมจริงจังมากขึ้น เขาจ้องผมเขม็ง


“แล้วเพราะอะไรล่ะ” ผมถามพร้อมทั้งพยายามคิดหาเหตุผลไปด้วย “เพราะนายไม่ชอบที่มีพี่ชายเป็นเกย์อย่างนั้นน่ะหรือ ผมเข้าใจนะว่าผู้ชายแท้ ๆ อย่างนายคงจะทำใจลำบากที่มีพี่ชายเป็นเกย์ แต่นายรู้ไหมว่ากว่าที่ใครคนหนึ่งจะยอมรับความรู้สึกที่ผิดเพี้ยนของตัวเองได้น่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ แล้วถ้าพี่ปั๊มเป็นแบบนั้นจริง นายก็ควรจะเข้าใจความรู้สึกของพี่ปั๊มมากกว่าที่จะเลือกต่อต้านสิครับ”


ผมพูดไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในจิตใจ รู้ดีว่าการที่ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคิดว่าตนเองเป็นชายแท้มาโดยตลอดนั้นจะยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลงเรื่องรสนิยมทางเพศที่เกิดขึ้นมันทำใจลำบากแค่ไหน ผมพยายามวิ่งหนีความจริงมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดผมก็ต้องพ่ายแพ้... พ่ายแพ้ให้กับหัวใจของตัวเองที่ไม่สามารถปฏิเสธถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้


ตั้งแต่ที่ผมเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ผมต้องทนอยู่กับความหวาดกลัวมาโดยตลอด... กลัวว่าครอบครัวจะรับรู้ถึงสิ่งที่ผมเป็น กลัวว่าเพื่อนฝูงและคนรอบข้างจะรังเกียจเมื่อรู้ว่าผมชอบเพศเดียวกัน ทว่าความกลัวเหล่านั้น แท้จริงแล้วมันไมไ่ด้น่ากลัวเลยสักนิด ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ผมจินตนาการไปเองทั้งนั้น บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ อยู่ที่ว่าผมกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือเปล่า และผมก็รู้แล้วว่าความกลัวเหล่านั้นมันช่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับการที่ผมได้รับรู้ความจริงว่าคนที่ผม 'รัก' กลับไม่ได้คิดเช่นเดียวกับผม เพราะคนที่ไม่สามารถยอมรับในความรู้สึกของตัวเองได้นั้นมันช่างน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าอะไร...


“ผมไม่ได้ต่อต้าน เพราะผมเข้าใจความรู้สึกแบบนั้นดี” ปอมยังคงยิ้มระรื่น “แต่เพราะพ่อกับแม่ยังอยากมีหลาน...”


“อยากมีหลาน” ผมทวนคำ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ปอมต้องการจะสื่อเลยสักนิด แต่แล้ววินาทีต่อมาความสงสัยของผมก็ถูกไขจนกระจ่าง และทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้นทันตา


“ใช่! ปั๊มน่ะยังพอมีโอกาสที่จะกลับไปชอบผู้หญิงได้ แต่ผมทำไม่ได้เพราะผมไม่เคยต้องการผู้หญิงมาเป็นคู่ครองเลยสักนิด” น้ำเสียงนั้นจริงจังเช่นเดียวกับสีหน้าและแววตาที่จับจ้องมาที่ผม


   สายตาที่เต็มไปด้วยความกดดันส่งผมให้ผมต้องนั่งนิ่งและสมองไม่สามารถประมวลคำพูดที่อยากจะพูดออกมาได้ สุดท้ายผู้ที่มาปลดปล่อยให้ผมหลุดจากความกดดันก็เดินมาพร้อมกับวางถ้วยของหวานถ้วยหนึ่งลงตรงหน้าผม


   “กินแก้เลี่ยนซะไอ้น้องรัก” เสียงของพี่ปั๊มช่วยเรียกสติผมให้กลับคืนมาอีกครั้ง


   “ขอบคุณครับ” ผมขยับถ้วยของหวานเข้ามาใกล้ ๆ แล้วรีบรับประทานโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ไม่อยากจะคิดอะไรให้ปวดหัวแต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพี่ปั๊มจะต้องเป็นฝ่ายเสียสละยอมมีหลานให้พ่อกับแม่ แล้วถ้าพี่ปั๊มไม่สามารถรักผู้หญิงคนใดได้จริง ๆ แล้วล่ะ เขาจะลำบากใจแค่ไหนที่ต้องฝืนความรู้สึกของตัวเอง โดยการคบกับผู้หญิงสักคนเพื่อครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันอาจจะเกิดขึ้นเพราะความจำเป็น ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้องเลยสักนิด


   ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือพี่ปั๊มกับผู้หญิงที่จะต้องมาเป็นคู่ครองและลูกที่อาจจะต้องเกิดมาในอนาคต แล้วมันจะมีทางแก้ไขบ้างไหม แล้วพี่ปั๊มจะยอมให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นไปตามคำบัญชาของพ่อและแม่รวมถึงปอมจริง ๆ น่ะหรือ




จบตอนนนนน.........

รอตัวละครแบบปอมมานานมากครับ หึหึหึ

เม้นท์ให้เค้าด้วยนะ.... อ้อนนน  :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-07-2014 01:08:54 โดย gugzabb »

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
อิดวกปอม ที่แท้เมิงก็แค่เห็นแก่ตัวสินะ ไอ้เราก็นึกว่ามันจะหวังดีกับพี่ซะอีก
คนแบบนี้เราว่ามันน่ารังเกียจจริงๆ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เมื่อก่อนเป็นแค่เรื่องของคุณชายกับข้าว แต่ตอนนี้ตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีกความสำคัญก็กระจายออกมาเลยคิดว่าไอ้คุณชายเนี่ยยังดำรงตำแหน่งพระเอกของเรื่องอยู่ใช่ไหม หรือเปลี่ยนตัวให้ข้าวเป็นแทนแล้ว

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
คิดเหมือนข้อความด้านบนเลย ^^
มันทำให้ความสำคัญของตัวละคร ดูน่าสนใจน้อยลง ความน่าติดตามเลยน้อยลงไปด้วย ..

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
คิดเหมือนข้อความด้านบนเลย ^^
มันทำให้ความสำคัญของตัวละคร ดูน่าสนใจน้อยลง ความน่าติดตามเลยน้อยลงไปด้วย ..

ง๊าา T___T ขออนุญาตแทรกตอบนิดนึงนะครับอย่าเพิ่งเบื่อน๊า ช่วงนี้มันเป็นเหมือนพาร์ทเล็กๆ ของการไปบ้านพี่ปั๊ม
เลยขอสอดแทรกอะไรเกี่ยวกับครอบครัวนี้เต็มที่ แล้วก็คุณชายไม่หายไปไหนแน่นอนครับ รออีกแป๊บนึง แป๊บนึง
ให้คุณชายได้เรียนรู้ก่อนว่าการไม่มีข้าวอยู่ด้วยแล้วเป็นยังไง เดี๋ยวก็กลับมาแล้วครับ  :laugh:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
สรุปว่า ปอมก็เป็นเกย์สินะเนี่ย

พี่ปั๊มเป็นของน้องโด้เท่านั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด