♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐  (อ่าน 62377 ครั้ง)

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

เรียน   ท่านสมาชิกทุกท่านทราบและโปรดดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เรื่อง  กฎกติกาและมารยาท

          กรุณาอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วยข้าล่างนี้   ด้วยความระมัดระวังยิ่ง

เพราะเป็นบรรทัดฐานที่พึงยึดและปฏิบัติตามอย่างไม่สามารถพิจารณาเป็นอื่นได้

หากผู้ใดฝ่าฝืน  ทางเราจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป


      จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

                                                                                 นับถือ

                                                                            อิเจ้  โมดุเรเตอร์


..................................................................................................
 

เปิดทู้ใหม่เลยนะจ้ะ T^T ขอโทษจริงๆที่หายไป
รีไรท์ทั้งหมดเลย เนื้อเรื่องเปลี่ยนค่อนข้างเยอะนะ
แต่โครงเรื่องเหมือนเดิม  :hao5:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2017 20:33:35 โดย infernoA »

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทนำ
«ตอบ #1 เมื่อ08-09-2013 23:42:39 »

บทนำ

‘ฉันนั้นยิ้มลำพัง หัวเราะลำพัง สดชื่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา...’

       เสียงเพลงคลอเบาๆ ดังไปทั่วรถ ตอนนี้ ผมกำลังขับรถวนรอบเขตชานเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อหาบ้านเก่าๆ ริมแม่น้ำ

เจ้าพระยาสักหลังไว้เป็นที่พักกายพักใจพักไข่ (?) ของผม ผมขับรถวนรอบแถบๆนี้มาได้สองสามชั่วโมงแล้วล่ะมั้ง

ในที่สุดผมก็เจอบ้านที่ถูกตาต้องใจ ถูกโฉลกกับไข่ของผมในที่สุด บ้านริมน้ำหลังโต ติดประกาศขายไว้ตัวเบ้อเริ้มเทิ่มพร้อมเบอร์

โทรติดต่อซื้อขาย ราคาแม่งจะกี่บาทวะเนี้ย หลังอย่างใหญ่ มีสวนอยู่รอบๆบ้าน ดูร่มรื่นดี บางทีผมควรจะติดต่อหาเจ้าของเก่าเขา

สักหน่อย...


    หนึ่งเดือนหลังจากนั้นผมก็เจรจาซื้อขายบ้านหลังนั้นเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนไอ่ทีป์

ตอนนี้ก็เหลือแค่ปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆบ้านกับย้ายเข้า และวันนี้ก็เป็นวันฤกษ์งามยามดีวันศรีอมิตสะโตโอโหใหญ่จังที่ผมจะ

ย้ายเข้า พร้อมกับนมนุ่มที่เป็นแม่นมของผมตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กน้อยตัวกระจ้อยร้อย กับพี่ชายสุดที่รักที่ช่วยออกค่าบ้านให้ผม

เล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ พี่ชายผมมันโคตรของโคตรของโคตรงก ผู้หญิงที่ว่าแน่ยังแพ้ไอ่ธามผู้นี้เลยคิดดู)

   “มึงคิดอะไรมึงวะ ทำตัวอย่างกับเป็นพระเอกมิวสิกวีดิโอ”

   “ไม่ขัดอารมณ์สุนทรีย์กูสักวันนี่มึงจะขี้ไม่ออกรึไงวะตฤณ”คือแบบแม่งกวนตีนอ่ะ กวนตีนทุกวัน  แม่งตอนเด็กๆผมคิดไงไปคบกับ

เชี่ยนี่วะ

   “เอ่าห่า กูก็นึกว่ามึงดราม่าอุตส่าห์เป็นห่วง เชี่ยนี่แม่งไม่เคยเห็นความสำคัญของกูอ่ะมึง กูเสียใจ” สลิดสัสๆเลยนะจุดนี้ แหม

 อยากกระทืบเพื่อนรัก -_-  คือถ้าไม่คบกันมาแต่เล็กแต่น้อยนี่ผมกระทืบแม่งมิดตีนไปล่ะ

   “หน้ามึงนี่เสียใจมากเลยนะสลิด กวนตีนจริงๆวะแม่ง”

   “โว๊ะ! ด่ากูอยู่นั้นแหละ มึงจะเอาไงวะครับ กูไม่ได้มาบ้านมึงเพื่อโดนมึงโขกสับเหมือนละครจำเลยรักนะครับไอ่เพื่อนรัก”

   “แค่นี้ทำบ่นนะมึง ทีธามด่ามึงชิบหายตายห่ามึงไม่เห็นว่าอะไร ยังมาขออยู่กับกูอีก ทั้งๆที่รู้ว่าจะได้อยู่ใกล้มันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

สุดๆ”เรื่องของเรื่องที่ไอ่ตฤณมันมาบ้านผมวันนี้คือ นอกจากมาช่วยขนของแล้วมันจะย้ายมาสิงสู่บ้านผมอย่างเป็นทางการด้วยครับ

 มันเป็นนักศึกษาแพทย์ปีหกที่ต้องออกมาระเห็จระเหเร่ร่อนฝึกงาน แล้วโรงพยาบาลที่มันจับฉลากได้อยู่แถวนี้พอดี เลยเข้าทาง

มัน น้ำไฟฟรีทีวีพร้อมไม่ต้องจ่ายเหี้ยอะไรเลยสักอย่าง เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆให้ตาย

   “กูอยากกินฟรีอยู่ฟรีมั้งสัด ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมันเลย แล้วก็ขนของกันเลยดีมั้ยครับมึงเดี๋ยวจะไม่ได้ขึ้นบ้านกันพอดี”มันลาก

กระเป๋าใบเท่าควายน้อยของผมขึ้นไปบนบ้านพร้อมกระเป๋าใบน้อยของมันส่วนผมก็แบกกระเป๋าของตัวเองอีกสองสามใบ นี่ถ้าพี่

ชายตัวดีของผมมาช่วยผมขนของบ้างอะไรบ้างมันจะดีกว่านี้นะ แม่งหนักเหี้ยๆ


   “โอ้ละหนอ...ดวงเดือนเอย...เจ้ามาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง...”หืม?? เสียงใครมาร้องเพลงไทยแถวนี้กันหว่า? ดังมาจากๆ

แถวๆบ้านนี่แหละ หรือไอ่ธามมันจะเฮี้ยน อยากร้องเพลงไทยเดิมขึ้นมา?

   “ไอ่ทีป์ เร็วๆดิวะ”เสียงเร่งเย้วๆดังมาจากบันไดขั้นบนสุด ไอ่เพื่อนสุดที่รักยืนปักหลักเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่แล้วเรียบร้อย

   “เออๆ นี่ก็เร่งกูจัง”คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง นมนุ่มคงเปิดเพลงไทยเดิมฟังตามประสาสาวสวยวัยทองเหลืองอร่ามร่ามเรืองไปตาม

เรื่องตามราว

   “แม่ง! อะไรของมึงวะ อยู่ดีๆก็หยุดยืนทำหน้าเป็นหมาอดแดกข้าว”แหม ดูมันเปรียบเทียบ เป็นเพื่อนรักที่น่ากระทืบให้มิดตีนจริงๆ
   
“เรื่องกูเหอะสัด เดี๋ยวสั่งธามปล้ำแม่ง”

   “ปล้ำมึงน่ะสิไอ่เหี้ย ไม่ต้องพูดถึงพี่หน้าหนวดของมึงเลย ชิบหาย ชอบรังแกเด็กตัวเล็กๆตาดำๆอย่างกู”

   “ตาดำๆหรือตัวดำๆ”จริงๆไอ่ตฤณมันก็ไม่ดำหรอกครับแต่ผมหมั่นไส้แม่งไง -3- มันชอบกวนตีนผมอ่ะ ต้องรังแกมันเยอะๆ รังแก

มันอีกบ่อยๆ

   “พ่องมึงไอ่ทีป์”

   “มันจับมึงซั่มแน่”แถมด้วยการยักคิ้วอีกสองจึ้ก ก็ผมหมั่นไส้มันอ่ะ แม่งไม่ได้รู้ตัวห่าอะไรเลย ถึงพี่ผมจะชอบทำไม่ดีกับมันแต่ผม

ว่ามันคงสนใจไอ่ตฤณอยู่หน่อยๆหรอกไม่งั้นไม่แกล้งได้แกล้งดีแกล้งแบบตล๊อดตลอดแบบนี้หรอก -3-

   “ถ้ากูโดนซั่มมึงก็ต้องโดนสัด”แม่งชูนิ้วกลางให้ผมด้วยอ่ะ ใจหมาชิบหาย TT ผมเสียใจโดนเพื่อนด่าพร้อมภาษากายว่าฟัคโยว่

 (ฟัคโย่วพ่องสิ ฟัคยู - -)

   “แม่ง เห้ยๆ ห้องข้างหน้าเนี้ยที่ประตูมันเปิดอยู่อ่ะ”ผมกำลังจะด่ามันต่อล่ะแต่พอดีถึงห้องก่อนเลยต้องหยุดการด่าไว้แต่เพียงเท่า

นี้แล้วไปเก็บของกันในห้องต่อ ผมจะไล่มันไปอยู่ปีกเดียวกับไอ่ธามให้มันโดนพี่ผมจับปล้ำซั่มทำเมียไปซะ

   “ห้องมึงวิวดีว่ะ ดูอากาศโปร่งๆดีด้วย เครื่องใช้ในห้องมึงนี้ของเก่าหมดเลยเปล่าวะ?”

   “เออ เห็นเจ้าของบ้านเขาว่าเป็นของเก่าหมดเลย ส่วนระบบไฟระบบน้ำนี่เขาเข้ามาทำใหม่”

   “มึงไม่กลัวไปเจอของเก่าท่านเจ้าคุณแบบนั้นบ้างเหรอวะ?”

   “ไม่รู้สิ อาจจะเจอหรืออาจจะไม่เจอ ใครจะไปรู้ว่าท่านเจ้าคุณอยู่ห้องนี้รึเปล่า นี่อาจจะห้องเมียเขาก็ได้”ผมกวนตีนมันอีกระลอก

แต่ก็จริงนั้นแหละ ใครจะรู้ว่าท่านเจ้าคุณอยู่ห้องนี้รึเปล่า

   “โหย สัสมึงก็คิดไปนู้น แล้วจะให้กูวางของตรงไหนครับคุณชาย?”

   “ปลายเตียงนั้นแหละ เดี๋ยวกูเก็บเอง มึงก็ไสหัวไปห้องมึงได้ละ”

   “ห้องไหนละครับไอ่เพื่อน แหม พูดเหมือนกูจะรู้ว่าตัวเองจะซุกหัวนอนที่ไหนเลยนะสาส”ทำมามองค้อนเป็นผู้หญิง ไอ่ห่านี่จริต

จะก้านเยอะครับ ผมว่าสักวันคงไม่แคล้วกลายเป็นเมียไอ่ธามพี่ชายหน้าหนวดของผมแน่นอน!

   “รีบวางของเดะ เดี๋ยวกูพาไปส่ง”ต้องรีบพามันไปให้ไอ่พี่ธามเจอหน้า มันทำความดีความชอบใหญ่หลวงไว้ครับถ้าผมไม่บอกว่า

ไอ่ตฤณได้ฝึกงานแถวนี้ถ้าผมซื้อบ้านแล้วจะย้ายมาอยู่ด้วย มีเหรอที่ไอ่ธามมันจะยอมออกตังก์ให้อ่ะ

   “เอ่าๆ เดี๋ยวๆสัส มึงจะให้กูนอนห้องไหนเนี้ย ไม่ใช่ห้องข้างมึงเหรอสัส”

   “โนว์ๆๆ ซอรี่นะจ้ะ ห้องมึงอยู่ปีกโน้นโว้ยครับ ปีกนี้มันมีห้องกว้างๆห้องเดียว”ผมไม่ได้หลอกมันนะ คือมันมีห้องเดียวจริงๆอ่ะ -3-

อีกสองห้องเป็นห้องทำงานกับห้องหนังสือ แล้วก็ห้องเล็กอีกห้องโดนเจ้าของบ้านคนเก่าทำเป็นห้องน้ำไปแล้ว 
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               
   “โหย สัส แปลว่าปีกนี้มึงอยู่คนเดียว แล้วปีกโน้นไอ่พี่ธามก็อยู่คนเดียว??”

   “นมนุ่มด้วยต่างหากล่ะ -3-“

   “เวรสัสๆ เวรเหี้ยๆ ไอ่เพื่อนเวรตะไล ถ้ากูรู้ว่ามึงจะให้กูอยู่ใกล้มันแบบเอ็กซ์คลูซีฟขนาดนี้มึงคิดว่ากูจะมาเหรอวะครับ?”

   “เอ่า กูจะรู้เหรอ กูนึกว่ามึงอยากใกล้ชิดแบบตูดแนบไข่กับพี่ชายกู”

   “ไอ่สัส พ่องตาย”มันจัดแจงยกนิ้วกลางให้ผมเสร็จสรรพ เถียงกันไปเถียงกันมาก็เดินมาถึงห้องนอนมันพอดี คือไม่อยากจะเอ่ย

ว่าอยู่ข้างๆห้องไอ่ธามเลยทีเดียว ใกล้ชิดสุดๆ ใช้ห้องน้ำเดียวกันด้วย มิมิ ขอให้มึงจงสุขสวัสดิ์นะจ้ะไอ่เพื่อนเลิฟ <3

   “เอ่า ถึงแล้ว เชิญเสด็จเข้าไปจัดห้องได้ตามสะดวก ห้องน้ำอยู่ถัดจากห้องธามไปนะ ส่วนนมนิ่มอยู่ถัดจากห้องน้ำไปอีกที”

   “เออ!”มันสะบัดบ๊อบเข้าห้องไปแล้วครับ สงสัยจะงอนที่ผมพยายามจะพรากเอกราชของมันมาให้พี่ผมเหลือเกิน

   “ปั้ง!!” แหมะ ปิดประตูห้องซะบ้านใหม่กูสะเทือนเลยนะสัส อย่างนี้ต้องแก้แค้น

   “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”หึหึ โดนกูเอาคืนแบบเจ็บปวดแน่ไอ่ตฤณเพื่อนรัก

   “มีไรวะ กูกำลังจะนอนไอ่สัส -  -;;”คือแบบพี่กูเถื่อนมาก ทักน้องทักนุ่งแบบนี้ตลอดอ่ะสัส ทีสาวๆนี่เสียงอ่อนเสียงหวาน เดี๋ยวจะ

แช่งให้ไอ่ตฤณไปรักกับหนุ่มอื่นคอยดู!!

   “กูพาไอ่ตฤณมาล่ะ ห้องข้างๆมึงเนี้ย”

   “จริง??”

   “เออสิ มึงจะทำไรก็รีบทำนะครับสัส ช่วงปีนึงที่มันฝึกงานเนี้ย”

   “เออ เดี๋ยวกูก็ทำจนได้แหละ มึงไปจัดห้องมึงไป๊ เพิ่งมาถึงนี่”

   “เออ”เห้อ...ผมยัดเยียดเพื่อนให้เป็นเมียพี่มากไปปะวะ? แต่ถ้าไอ่ตฤณมันไม่รักผมก็ไม่บังคับกะเกณฑ์มันหนา


 :z13:มุ้งมิ้งจุ้งจิ้ง เค้าเอาบทนำมาฝากนะแจ๊ะ

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทนำ
«ตอบ #2 เมื่อ09-09-2013 10:27:47 »

ยังติดตามเป็นกำลังใจให้อยู่นะ
เพราะเราชอบเรื่องแนวนี้มากๆเลย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะจ๊ะ :mew1:

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทที่ 1
«ตอบ #3 เมื่อ19-09-2013 10:49:00 »

กลับมาจัดหน้าให้ค่ะ เมื่อวานรีบจัด เพราะลงก่อนไปเรียน
เพื่อนมาเคาะห้องพอดีเลยไม่ได้จัดอะไรเลย

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) บทที่ 1
«ตอบ #4 เมื่อ03-10-2013 22:43:04 »


พยับที่ ๑ ความทรงจำในสมุดหนัง

          ผมอยู่บ้านนี้มาได้ประมาณสองสามเดือนแล้ว เจออะไรมาเยอะแยะทีเดียว คือไม่ใช่สิ่งลึกลับนะเว้ยหมายถึงพวกของ

เก่าๆน่ารักๆ กุ๊กกิ๊กไรงี้  บางวันเจอพัดงาช้าง เจอปิ่นปักผม แล้วแต่ว่าผมไปเก็บกวาดตรงไหน วันนี้ผมจะเก็บห้องทำงานที่ผมเอา

ทั้งของผม กับของเก่า   เขามาสุมๆกันไว้จนแทบจะล้นออกมานอกห้องนี่ซะก่อน ไม่งั้นผมจะไม่มีที่ทำงาน

           “ปั้ง โครม!!” เหยดดดดด คือผมแม่งจะปีนไปเอาของบนหลังตู้หนังสือลงมาครับ แล้วแม่งลื่น มือเลยกวาดเอาทุกอย่างลง

มากองทับบนตัวผมเลยทีเดียว เจ็บอ่ะ TT
       
            “โอ๊ย...เชี่ยแม่ง!”ผมสบถเบาๆ ผมตกเก้าอี้บ้านสะเทือนเลื่อนลั่นขนาดนี้ยังไม่มีใครได้ยินอีกเหรอวะ T[]T โธ่ชีวิตบัดซบ

ของไอ่ทีป์

            ลุกเองก็ได้วะ ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมานั่ง ของบนตัวล่วงกราว แหมะ พื้นที่ร่างกายนี่มันรองรับได้หลายอย่างจริงๆ มี     

ตั้งแต่สมุด หนังสือ หีบเล็กๆ เหมือนกล่องแหวน นาฬิกาพกเรือนน้อยๆแบบแขวนคอ ทั้งของที่ใหม่ๆแบบของผมแล้วก็ของเก่าๆ

ของเจ้าของคนเก่า...

           “ก๊อกๆๆ”เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องอันศิวิไลซ์ของผม สงสัยคงเป็นใครสักคนที่ได้ยินเสียงการแลนดิ้งของผมเมื่อกี้

           “เปิดมาเลย ไม่ได้ล็อค”

           “เอ่า ไอ่เชี้ยมึงลงไปทำห่าอะไรตรงนั้นวะทีป์?”ไอ่ตฤณทักผมด้วยความเป็นห่วง (?) ก่อนจะค่อยๆเยื้องย่างมา

พยุงผมขึ้นอย่างอ่อนโยน (?)

          “โอ๊ย ไอ่เชี่ย มึงจะช่วยกูหรือจะฆ่ากูเนี้ยสัด”แม่งกระชากแขนผมขึ้นซะ -..- อย่างกับจะแยกร่างผมเสี่ยงๆนะครับแหม่

          “ช่วยสิไอ่เหี้ย มึงเห็นกูฆ่ามึงรึไงควาย!!”ซึ้งใจสัดๆเลยครับ  อย่างจะกระทืบเพื่อนรักคืนเป็นการตอบแทน  เอ๊ะ หรือ

ผมจะยุให้พี่ชายผมจับมันทำเมียดี??

          “ทำหน้าเจ้าเล่ห์นะไอ่สัส แล้วมึงจะบอกกูได้ยังว่าไปกองตรงนั้นได้ไง?”

         “กูจะปีนขึ้นไปเก็บของบนหลังตู้หนังสือลงมา แล้วเนี้ยเสือกลื่นไอ่เก้าอี้ตัวเนี๊ยะ เลยลงมากองอยู่เนี้ย”ผมอยากจะทำ

ปากยื่นแล้วชักดิ้นชักงอแบบที่ชอบทำใส่ไอ่ธามตอนเด็กๆอยู่เหมือนกัน แต่กลัวไอ่ตฤณกระทืบ ไม่เอาดีกว่า -..-
   
       “ควายจริงๆเลยมึง มากูช่วยเก็บ ละหัวไม่ได้กระแทบใช่มั้ย?”

         “เออ ไม่กระแทกมีแต่ตูดกับหลังเนี้ยกระแทกเต็มๆ ห่าเอ๊ย!”

        “โทษความโง่ของตัวมึงเองเถอะไอ่เพื่อนรัก”ปลอบซะกูหายเจ็บปวดเลยนะไอ่เหี้ย อย่างงี้อย่าเรียกปลอบเลยสัส แถวบ้านกู

เรียกซ้ำเติม - -;
      “เออ ไอ่สัสมาช่วยกูเก็บเลยมึง”
      “เออๆ”มันนั่งลงข้างๆผมแล้วหยิบของออกไปวางจำแนกเป็นกองๆ พวกหนังสือเก่า หีบเล็กหีบน้อย เครื่องประดับอย่างแหวน

เก่าๆ นาฬิกาพก แล้วก็พวกหนังสือใหม่ของผมที่ดันไปกองๆไว้ตอนแรก

      “ของแม่งอย่างเยอะเลยว่ะ เจ้าของเก่าเค้าไม่เก็บไปรึไงวะ ของๆต้นตระกูลเค้าแท้ๆ”ไอ่ตฤณมันพูดแถมพลิกหีบไม้สลักลาย

ที่มันเพิ่งรื้อออกมาไปมา สายตาเป็นประกายบิ๊วกิ๊ง มันชอบของเก่าครับ หมอวินเทจ

      “สงสัยเขาคงคิดว่าไม่สำคัญมั้ง ไม่งั้นเค้าคงไม่ขายบ้านหลังนี้ทิ้งหรอก บ้านก็เป็นบ้านต้นตระกูลเค้าเหมือนกันนะเว้ย”

      “เออจริง เห้ยมึง นี่อะไรวะ?”ไอ่ตฤณมันหยิบหีบแบนๆออกมาจากกองของแล้วยื่นมาให้ผม อย่างกับหีบเก็บคัมภีร์ ผมรับหีบ

นั้นมา เหมือนมันจะล็อคอยู่ กุญแจของหีบนี่จะอยู่ที่ไหนกันนะ?

      “วางไว้อีกกองละกัน มาๆแยกต่อจะได้เก็บถูก เออ แม่งแล้วกูจะเก็บของเก่าพวกนี้ไว้ไหนวะมึง??”บางอย่างแม่งเป็นหนังสือ

ครับ ผมจะเอาไปตั้งโชว์ก็ไม่ได้...แต่แปลก ทั้งๆที่บ้านเก่าขนาดนี้แต่หนังสือพวกนี้กลับดูไม่เก่าเท่าไหร่นัก ไม่มีรอบมอดหรือ

แมลงเจาะเลยด้วยซ้ำ

      “เอาของจุ๊กจิ๊กน่ารักไปตั้งโชว์ ส่วนหนังสือ กูว่าคงต้องหาตู้ในบ้านสักตู้ใส่ไว้โชว์แขก ว่าเนี้ย ของเก่านะเว้ยเห้ย”เออ ถึง

ความคิดมันจะดูไร้สาระไปหน่อย แต่ก็น่าสนใจ...

      ผมกับตฤณก้มหน้าก้มตาเก็บของที่หล่นลงมาต่อจนหมด แล้วจัดการเอาหนังสือเก่าๆไปไว้ที่มุมห้องก่อน ส่วนของที่เหลือก็

เอาใส่กล่องไว้ เอาไว้จัดต่อพรุ่งนี้ เพราะวันนี้มันก็จะค่ำล่ะ คงต้องแยกย้ายกันไปพักผ่อนเอาแรง


       20.20 น.

      ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอน ช่วงนี้งานผมยุ่งๆ ที่สถานทูตมีคนมาติดต่อเยอะแยะไปหมด ผมทำงานตามรอยคุณพ่อของ

ผม...ใช่แล้ว คุณพ่อของผมเป็นทูต ส่วนผมเป็นลูกชายคนเล็กของท่านทูตที่อยากจะเป็นนักการทูตเหมือนพ่อ ผมเลยเรียนด้าน

รัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ จากมหาลัยชื่อดังด้านการเมืองแห่งหนึ่ง ผมเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง ทำเอาคุณ

พ่อหน้าบานไปเจ็ดวัน -3- ส่วนไอ่ตฤณ มันไม่ได้เรียนหมอที่เดียวกับผม แต่อีกมหาลัยชื่อดังด้านการแพทย์อีกที่หนึ่งของไทย แต่

เพราะเราสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาลจนมัธยม สายสัมพันธ์มันเลยไม่ขาดไปไหน เรียกว่านัดเจอกันแทบทุกสัปดาห์ ถึงมันจะเจอหน้า

พี่ผมที่เป็นรุ่นพี่มันมากกว่าผมก็เหอะ...

      “หาววว...”ผมบิดขี้เกียจเบาๆแล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมา แหม ก็มันเมื่อยนี่ นั่งอยู่นานๆ ผมอาจจะตายก็ได้นะ เป็นแผลกดทับ

ตาย -..- (มึงคงต้องนั่งเป็นปีอ่ะค่ะแหม) ว่าไปไปเอาหีบนั่นมาดูหน่อยยดีกว่า

ผมหยิบหีบแบนๆที่เจอเมื่อตอนกลางวันมานั่งพิจารณา...อืมม...สวยดี ด้านบนหีบแกะเป็นรูปสิงโตสองตัวเคียงกัน ว่าแต่ผมจะเปิด

หีบนี่ยังไง? บางทีถ้าหีบอยู่ในห้องนี้กุญแจก็อาจจะอยู่ในห้องนี้ก็ได้ จะหาดูดีมั้ย? จะดูเสือกเรื่องของเค้าไปนิดนึงมั้ยวะ แต่ว่า

อยากรู้นี่หว่า...

      “เพล้ง!”เชี่ย! เสียงอะไรแตกวะ ผมหันไปตามที่มาของเสียง ดังมาจากด้านนอก สงสัยต้องออกไปดู ก็มันดังอยู่ในปีกของผม

นี่นาปีกนู้นคงนอนหลับสบาย

      “ฟู่ววว”พอผมเปิดประตูลมก็พัดใส่หน้าซะผมหลอนเลยครับ นึกถึงหนังผีน่ะ -..- สยองเลยทีเดียว ผมกดเปิดสวิตซ์ไฟด้าน

นอกจะได้เดินสำรวจเสียทีว่าอะไรมันตกลงมาแตก


      [ God eye view ]
   

      อีกด้านหนึ่งยังมีอีกสายตาหนึ่งที่จับจ้องนภทีป์อยู่ เขาไม่รู้ว่าเขามาอยู่บนเรือนลูกน้องคนหนึ่งในกรมได้อย่างไร...แล้วที่

ข้องใจคือ ทำไมบ้านลูกน้องถึงไม่เหมือนเดิม มีหลายอย่างผิดแผกไป อย่างเจ้านาฬิกานั่น เรือนกลมๆ ไม่มีนกกุ๊กกู๋เลยสักตัว

หรือเจ้าจอสี่เหลี่ยมที่คนในบ้านนี้เพิ่งดูอยู่เมื่อตอนเย็น และที่สำคัญหามีใครมองเห็นเขาไม่! เขาจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่

เขาถูกชะตาด้วยเป็นพิเศษ

     “ตึก ตึก ตึก”ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่เดินได้เสียงดังเสียจริงกระดานลั่นจนหูเขาแทบระเบิด เห้อ อะไรทำให้ท่านเจ้าคุณแห่งกรมท่า

อย่างเขาต้องมาด้อมๆมองๆเด็กหนุ่มเหมือนเป็นพวกลักเพศเยี่ยงนี้นะ!! ว่าแต่ทำไมเด็กหนุ่มนี่ถึงมาอยู่บนเรือนของหลวงนพ ซ้ำ

ยังเดินเข้าออกห้องหลวงนพราวกับเป็นห้องของตัวเอง...แต่ดูที...เหมือนจักอยู่คนละภพกันอย่างไรอย่างนั้น เมื่อตะกี้เขาเผลอ

เดินไปชนรูปหลวงนพบนตู้หนึ่งตกลงมาแตกเสียงดัง คงเป็นเหตุให้เด็กหนุ่มนี่ต้องออกมาดู เขาได้แต่แปลกใจเหตุใดรูปหลวงนพ

ที่ยังหนุ่มแน่นถึงได้ดูแก่ขึ้นกว่าเดิมเสียเยอะ...คงน่าจะประมาณสามสิบกว่าๆ ทั้งๆที่ตอนนี้หลวงนพอายุแค่ยี่สิบเก้าเท่านั้น

      “อ๋อ ที่แท้ก็กรอบรูปตกนี่เอง แมวที่ไหนมาวิ่งชนวะ ลำบากกูเก็บอีก”เด็กหนุ่มบ่นเบาๆ ทำเอาเจ้าคุณที่แอบดูอยู่ใกล้ๆ (ก็เขา

มองไม่เห็น) ขมวดคิ้วมุ่น เจ้าเด็กนี่

      “เอ๊ะ นี่รูปใครวะ”เด็กหนุ่มหยิบกรอบรูปแตกๆขึ้นมา ก่อนจะลุกออกไป แล้วกลับมาใหม่พร้อมไม้กวาดกับที่ตักขยะ ที่คนที่

แอบดูอยู่ไม่ได้รู้เลยว่าไอ่ที่ตักขยะเนี้ย มันคืออะไร เขาเห็นแค่เด็กหนุ่มใช้ไม้กวาดหน้าตาประหลาดที่ไม่เหมือนกับไม้กวาดทาง

มะพร้าวที่เขาเคยเห็น บรรจงกวาดเศษแก้วจากรอบรูปใส่ในอะไรสักอย่างที่เขาไม่เคยเห็น...ก่อนจะเอาทุกอย่างไปเก็บ พร้อมกับ

ถือกรอบรูปเข้าไปในห้องด้วย...พิลึกจริงเชียวเจ้าหนุ่มคนนี้...

      “ตามไปดูที เขาจักทำอันใดกันนะ?”ท่านเจ้าคุณในวัยสามสิบปลายๆค่อยๆเยื้องย่างตามหนุ่มน้อยเข้าไปในห้องนอนของคุณ

หลวง

      สายตาที่ทอดมองจับภาพชายหนุ่มกำลังเพ่งพินิจพิจารณารูปภาพของลูกน้องในกรมของเขา ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งกรมท่าซ้าย

คุณหลวงนพเทพอัครา นักเรียนนอก ลูกชายของท่านพระยาเทพอัครากับคุณหญิงแขไข ช่วงนี้ในเมืองหลวงต่างก็พูดถึงคุณหลวง

หนุ่มผู้นั้น...รูปร่างสูงใหญ่ ออกจะผิดชายชาวสยามทั่วไปเสียหน่อย หน้าตาคมเข้มงดงาม กิริยาท่าทางหรือคุณหญิงท่านก็สอน

มาดีเหลือเกิน สุภาพ อ่อนน้อม พูดอะไรก็ไพเราะไปเสียหมด เฮ้อ...นึกไปนึกมาทำไปคุณหลวงถึงได้ดีไปเสียหมดเยี่ยงนี้นะ? ว่า

แต่เจ้าหนุ่มน้อยนั่นจะจ้องรูปหลวงนพทำไมกัน?

      “หล่อว่ะ”เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆ แต่เจ้าคุณหนุ่มก็ได้ยิน แหมก็เขายืนอยู่ข้างหลังเจ้าเด็กนี่เองนี่นา ว่าแต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่

แล้วเขาจะกลับไปที่เรือนได้อย่างไรกันนะ?

       “ว่าแต่ทำไมรูปมันนูนๆอะไรดันขึ้นมาวะ? รึว่าจะเป็นภาพนูนต่ำ?”เด็กหนุ่มยังพึมพำต่อไป แถมด้วยการงัดแงะแกะเกากรอบ

รูปไปพร้อมๆกัน เจ้าคุณหนุ่มได้แต่มองแบบงงงัน เจ้าหนุ่มน้อยนี่มันจะทำอันใดของมัน?

       “เหี้ย!!”เสียงสบถลั่นทำเอาคุณหลวงสะดุ้งเฮือก ส่วนเด็กหนุ่มเบิกตาโพลงจ้องมองกุญแจดอกเก่าๆในมือ เด็กหนุ่มยกรูปที่มี

ข้อความเขียนด้วยหมึกจางๆอยู่ด้านหลังขึ้นมาอ่าน ท่านเจ้าคุณได้แต่หยีแต่เพ่งมองตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นสุดๆ

      “ความทรงจำของฉัน…เก็บไว้กับกุญแจดอกนั้น”เด็กหนุ่มอ่านจบก็ได้แต่ขมวดคิ้วงุนงง เก็บอะไรไว้กับกุญแจ กุญแจไม่

เห็นจะมีอะไร?

      “หรือว่า...”สายตาของเด็กหนุ่มรีบเก็บกรอบรูปไปไว้บนชั้นที่เดิม ส่วนรูปถือติดมือไปพร้อมกุญแจ เขาแทบจะวิ่งกลับเข้าไป

ในห้องไปหยิบหีบแบนๆที่ยังเปิดไม่ได้สักทีมาลองไขดูสักที

       “หึหึ ใช่แน่ๆ”เด็กหนุ่มจัดการใช้กุญแจลองสอดเข้าไปในรูกุญแจช้าๆ สีหน้าของเด็กหนุ่มดูลุ้นจนเหงื่อตก ท่านเจ้าคุณเองยัง

ลุ้นแทนอยู่ข้างๆ เหมือนว่าเป็นเรื่องของตัวเองยังไงยังงั้น

      “กริ๊ก”เสียงกุญแจลั่นเบาๆท่ามกลางความเงียบสงัดของบ้าน นภทีป์ยิ้มสมใจที่มุมปาก ดวงตาโตเริ่มหยีเป็นประกาย

      “หึหึ จะได้รู้กันสักทีว่าหีบนี่มันซ่อนอะไรอยู่”เขาค่อยๆเปิดฝาหีบออกช้าๆ ด้านในหีบมีสมุดบันทึกปกหนังสีน้ำตาลเก่าๆ

กระดาษเหลืองกรอบ...แหวนสองวง แล้วก็ดอกรักแห้งๆ กับพวงมาลัยกรอบๆกับกิ่งไม้แห้งๆอีกหนึ่งกิ่ง


เขาขมวดหัวคิ้วเข้าหากัน...

ของนี่เป็นของคนในรูปหรือ?

ส่วนท่านเจ้าคุณเอง ก็มีสีหน้าแปลกใจไม่แพ้กัน ถึงนภทีป์จะมองไม่เห็นท่านเจ้าคุณก็เถอะ ของๆหลวงนพ มิแปลกที่จะอยู่ในบ้าน

ของหลวงนพ แต่ว่าตอนนี้...เขาไม่เห็นหลวงนพเลย...ที่นี่ที่ไหนกัน

      “แอบอ่านสักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง”นภทีป์หยิบสมุดขึ้นมา ส่วนแหวนกับดอกไม้แห้งๆพวกนั้นเขาทิ้งไว้ในหีบ ปิดแล้วไข

กุญแจปิดเหมือนเดิม ส่วนสมุดคงอีกสักพัก กว่าจะได้เอากลับไปไว้ในหีบ   นภทีป์เดินไปปิดไฟกลางห้อง...

เปิดเพียงโคมไฟหัวเตียงแสงนวลตา...ถึงจะดูเสือกเรื่องชาวบ้านไปนิด แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะอ่านไดอารีที่แสนดึงดูดใจนี่

มือขาวพลิกเปิดหน้าแรกออกดูช้าๆ หน้าแรกมีเพียงข้อความสั้นๆเขียนไว้กลางหน้ากระดาษ ลายมือหวัดปลายน้อยๆ แต่สวย...

                   ‘นพเทพอัครา’
   
เขาอ่านทวนชื่อนั้นในใจ...ไม่รู้ว่าทำไมชื่อนี้ถึงได้ดึงดูดให้เขาอยากเจอตัวคนนัก รวมทั้งหน้าคร้ามคมในรูป...เชอะก็แค่หล่อกว่า

เขาหน่อยเดียวเอง!!

      “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
     
      “อือ...”นภทีป์มุดหัวลงไปใต้ผ้าห่มแพรเนื้อบาง เหมือนพยายามหลบเลี่ยงเสียงเคาะประตูเบาๆที่ดังอยู่ข้างนอก...

      “คุณทีป์คะ นมเตรียมอาหารเช้าพร้อมแล้วนะคะ”เสียงผู้หญิงวัยกลางคนค่อนไปทางแก่ดังขึ้นจากอีกฝั่งของประตู แต่ไม่ได้

ทะลุเข้ากระดูกชิ้นไหนในรูหูของชายหนุ่มที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงเลยแม้แต่น้อย

       “นมครับ ปล่อยมันนอนไปเหอะ เดี๋ยวนมค่อยอุ่นให้มันก็ได้ ตอนนี้ธามหิวแล้วเดี๋ยว รีบไปราวน์วอร์ดเดี๋ยวธามกินก่อนกับไอ่

ตฤณ”เสียงทุ้มต่ำของชายอีกคนดังมาจากอีกฝากของประตู นั้นแหละไม่ได้เข้าหูคนที่นอนอยู่หรอก แต่...มีคนหนึ่งได้ยิน...

ท่านเจ้าคุณแห่งกรมท่าซ้าย...


      ไอ่หนุ่มนี่มันไม่เคยได้หลับนอนหรือไร สายจนตะวันแยงก้นเยี่ยงนี้ยังหารู้สึกตัวไม่...หากเป็นเขา...คนตื่นเสียก่อนย่ำรุ่ง ไม่

นอนกลิ้งเกลือกไปมาเยี่ยงนี้แน่ๆ ถึงอากาศจะน่านอนเพียงใดก็เถิด

      สายลมพลิ้วแผ่ว...พัดผ้าม่านสีขาวโปรงบางปลิวไสวตามแรงลม หอบกลิ่นหอมของดอกไม้หลังบ้าน ทั้งความเย็นจาก

เจ้าพระยามาแตะผิวกาย...เอ่อ  ถึงตอนนี้เขาจะดูโปร่งแสงแปลกๆก็เถิด


      ...ท่านเจ้าคุณสูดลมหายใจเข้าแผ่วเบา...

       เขาเหมือนจะเป็นลักเพศเข้าไปทุกที...เหตุใดจึงต้องมานั่งมองเจ้าหนุ่มนี่นอนด้วย...ถึงเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจ้าหนุ่มนี่ก็

เถอะ

      เฮ้อ...

      เมื่อไรเขาจะได้กลับเรือนกันนะ...คิดถึงเรือน...

      “อื้มมมมม”นภทีป์พลิกตัว ขาขาวนวลลอดออกมาจากกางเกงนอนตัวบาง...

      เจ้าหนุ่มนี่มันคิดจักระวังตัวบ้างหรือไม่นะ? หากเขาเป็นลักเพศเห็นทีคงจะปลุกปล้ำไปเสียแล้วกระมัง

      “ฮ้าววววววววววววววว”นภทีป์เหยียดตัวขึ้น ปิดปากหาวเสียงดังจนน้ำหูน้ำตาเล็ดไปหมด ท่านเจ้าคุณปรายหางตามอง พลาง

สั่นหน้าเบาๆ

      เมื่อไหร่เขาจะได้กลับเรือนกัน...ต้องแอบมองเจ้าหนุ่มนี่ไปถึงเมื่อไร...



       หลังจากตื่นได้ไม่นานนภทีป์ก็กลับไปขลุกตัวอยู่ในห้องทำงาน แปลเอกสารที่ได้รับมอบหมายมา...เขาทำงานในสถานทูต

แปลเอกสารอะไรต่อมิอะไรให้วุ่นไปหมด...เขาอยากทำงานนี้เพราะพ่อ...พ่อที่เป็นเอกอัครราชทูตอยู่ต่างแดน พ่อเป็นฮีโรสำหรับ

เขา เป็นแบบอย่าง...อยากจะโคลนนิ่งออกมาเสียให้หมด

      “ก๊อกๆๆ”

      “ครับ”

      “นมเอาของว่างมาให้ค่ะคุณทีป์ จะรับไหมคะ?”

      “เอาครับ เอาเข้ามาเลยนมผมไม่ได้ล็อกห้อง”เจ้าคุณหนุ่มในร่างโปร่งแสงเดินอ้อมโต๊ะไปแอบมองสิ่งที่นภทีป์ให้ความสนใจ

นักหนา ก่อนตาคมๆจะเบิกโต ก่อนคิดอะไรบางอย่างพลางยิ้มสมใจ รอยยิ้มที่ไม่ว่าใครๆได้เห็นก็มักจะบอกว่าท่านเจ้าคุณช่างยิ้ม

เจ้าเล่ห์เหลือเกิน

      “แหม ทำงานคนหน้าตอบหมดแล้วนะคะคุณหนู ถ้าคุณผู้หญิงกลับมาเห็นคุณทีป์ผ่ายผอมขนาดนี้ป้าคงจะโดนคุณหญิงหัก

เงินเดือนแย่”หญิงวัยกลางคนกระเซ้ายิ้มๆ ก็คุณหนูคนเล็กของเธอน่ะ กินอยากเหลือเกิน เรื่องอื่นไม่เคยเรื่องมากจุกจิก เห็นจะ

เรื่องมากอยู่เรื่องเดียว เรื่องของกินนี่แหละ ผักก็กินอยู่แค่ผักกาดที่ต้องต้มเปื่อยๆ กินผักอย่างอื่นบ้างนานๆครั้ง เนื้อคาวๆบางครั้งก็

กินไม่ได้เสียเลย อ้วกออกเสียหมด

      “คุณแม่จะมาว่าอะไรนมของทีป์ได้ละครับ”นภทีป์พูดยิ้มๆก่อนก้มหน้าลงไปง่วนกับเอกสารต่อเป็นอันตัดบทสนทนากับแม่นม

เธอส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของคุณหนูคนเล็ก ส่วนท่านเจ้าคุณหนุ่มหลังจากเห็นเอกสารที่นภทีป์ง่วนกับ   

การแปลและอ่านอยู่ก็นึกอะไรได้บางอย่าง

      อยากให้เจ้าหนุ่มนี่มีชีวิตอยู่ในร.ศ.111 ที่เขาอยู่ยิ่งนักคงจะดีไม่น้อยถ้ามีคนที่เชี่ยวชาญด้านภาษาขนาดนี้มาช่วยถึงแม้ที่นั้น

จะมีหลวงนพแต่คุณหลวงนั้นหาได้เชี่ยวชาญในภาษาฝรั่งเศสเยี่ยงนี้ไม่ ตัวเขาเองก็ไม่ได้เก่งกาจมากไปกว่าคุณหลวงสักเท่าไร

เอกสารส่วนมากที่ได้มาจึงผ่านการแปลไปอย่างล่าช้า เพราะต้องแปลกลับไปกลับมาระหว่างกภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ

ฝรั่งเศส ยังดีที่เกรทบริเตนยังคงดูเชิงอยู่มิได้เข้ามารุกรานมากนัก หากกลับกันไปแล้ว ช่างแตกต่างจากฝรั่งเศสที่พร้อมจะหุบ

แผ่นดินสยามแทบจะทุกเวลา เขาจะต้องเช่นไร จึงจะรักษาแผ่นดินนี่ไว้ได้ ถึงรักษาได้ไม่หมดอย่างน้อยก็ขอให้มากที่สุด เท่าที่

บรรพบุรุษผู้หนึ่งจะทำให้ลูกหลานในอนาคตได้

เขาจะทำอย่างไรดี เขาจะพาเจ้าหนุ่มนี่กลับเรือนไปเสียพร้อมกันได้หรือไม่? เขาจะทำอย่างไรดี จะทำอย่างไร เขามาที่นี่ได้

อย่างไร เขาจะกลับไปอย่างไร แล้วเขาจะพาเจ้าหนุ่มนี่ไปด้วยได้อย่างไร คิ้วเข้มขมวดเป็นปม ริมฝีปากคมหยักเม้มแน่น จะทำ

อย่างไรดี??

      “แกรกๆ”เสียงปากกาหัวแหลมแบบจุ่มหมึกขูดกระดาษไปมา ปากกาด้ามเรียวถูกบังคับให้ขีดเขียนด้วยมือกร้านคม ผิวขาว

เหลืองแบบคนโดดแดดบ้างหาได้ขาวซีด เจ้าของดวงหน้างามแบบรูปสลัก คิ้วเข้มปาดเฉียงเล็กน้อย ดวงตาคมโต หางตายกขึ้น

ตามหางคิ้ว ยิ่งทำให้ตาดูดุไปใหญ่ จมูกโด่งเป็นสันตรง ปากหยักลึก ที่ตอนนี้ไม่ค่อยงามเป็นรูปสลักแบบที่ชาวบ้านโจษจันกันเสีย

เท่าไร คิ้วคมเข้มขมวดเป็นปมแน่น


      เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าคุณกันแน่

      บ่าวที่เรือนท่านมาเรียนให้เขาทราบว่าท่านเจ้าคุณจู่ๆก็ล้มลง แล้วหาได้ตื่นขึ้นมาอีก เรือนนั้นยุ่งวุ่นวายกับการรักษากัน

เอิกเหริก ส่วนตัวเขาก็ได้แต่คิดว่าจะทำอย่างไรกับงานตรงหน้า ขาดท่านเจ้าคุณไปเสียคนเขาก็มิรู้ว่าต้องทำอย่างไร ท่านเจ้าคุณ

เป็นผู้ให้เอกสารลับฉบับนี้แก่เขา ยังมีเรื่องต้องหารือกันอีกมาก แต่ท่านเจ้าคุณมาล้มเจ็บเสียแบบนี้เขาจะทำอย่างไรได้ จะไปเฝ้า

สมเด็จฯในกรมหรือเขาก็หามีสิทธิมีเสียงขนาดนั้นไม่

เขาควรทำเช่นไร รอท่านเจ้าคุณฟื้นขึ้นมาได้เพียงอย่างเดียวเช่นนั้นหรือ หามีทางอื่นเลยเทียวหรือไร เห็นทีเขาคงต้องหาทางทำ

อะไรสักอย่าง หาไม่แล้วเกรงว่ากว่าท่านเจ้าคุณจักฟื้นคืนมา สยามประเทศจะขาดแหว่งไปหมดแผ่นดินเสียก่อน

ร่างสูงลุกคลายหัวคิ้วออก มือหนาปิดสมุดบันทึกเล่มหนาของเขา สมุดที่เริ่มขีดเขียนมันตั้งแต่สมัยไปเรียนที่

เกรทบริเตน ในแผ่นดินที่ตอนนี้กำลังรุกรานสยามประเทศ!!

     “พ่อนพจ้ะ แม่เอาน้ำมะตูมมาให้จ้ะ”คุณหญิงแขไข ภริยาของท่านพระยาเทพอัคราผู้เป็นบิดาของคุณหลวงนพเทพอัคราเดิน

เข้ามาในห้องช้าๆ กิริยามารยาทอย่างผู้ดีทุกระเบียด หากหาได้ถือยศถืออย่างไม่

      “ขอบคุณขอรับ เหตุใดแม่จึงเอาเข้ามาเอง ให้นางเล็กๆเอามาให้ลูกก็ได้”ชายหนุ่มละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้า หันมา

คุยกับมารดา ญาติสนิทที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของเขา

      “อยากเจอหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนะซี วันๆอยู่แต่กับงาน จะแต่งงานกับงานหรือจ้ะพ่อ?”คุณหญิงแขไขกระเซ้ายิ้มๆนั่ง

ลงตรงเก้าอี้มุมห้องทำงานของลูกชาย

      “โธ่ คุณแม่ขอรับลูกหาได้ยุ่งกับงานถึงเพียงนั้นไม่ เพียงแต่ลูกยังไม่อยากมีดอกขอรับ”

     “จ้ะ พ่อลูกชาย เอ่า กินเสียหน่อย แดดยังนายพ่อนพคงกระหายน้ำมาก”

      “จ้ะแม่”คุณหลวงหนุ่มรับแก้วใบโตที่ภายในบรรจุน้ำสีน้ำตาลอ่อนๆอยู่เต็มมาจิบช้าๆ น้ำมะตูมสูตรคุณแม่ ยังชุ่มคอเหมือนเคย

      “พ่อทีป์ มะรืนว่างหรือไม่ลูก?”
     
      “คุณแม่มีอะไรหรือขอรับ ลูกหาได้มีธุระอันใดสำคัญให้ต้องเข้ากรมฯ ยิ่งท่านเจ้าคุณมาล้มเจ็บเสียอีก งานทุกอย่างแทบจะ   

หยุดชะงักทีเดียวจ้ะ”

      “อย่างนั้นหรือ? ท่านเจ้าคุณยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ เหตุใดจึงมีอันให้ล้มเจ็บได้นะ”

       “ลูกเองก็จนใจจ้ะแม่ หามีใครรู้ไม่ว่าท่านเจ้าคุณล้มไปด้วยเหตุอันใด เหตุใดยามนี้ยังไม่ฟื้น แม่มีอะไรหรือจ้ะ ถึงถามลูก

เหมือนอย่างให้ลูกไปไหน?”

       “แหม...รู้ดีจริงเทียวลูกแม่ ไปวัดเป็นเพื่อนแม่ทีได้หรือไม่จ้ะ?”

      “ขอรับ ลูกเองช่วงนี้ก็ว้าวุ่นใจ เห็นทีจักต้องพึ่งใบบุญพระพุทธเข้าสักทีเสียเหมือนกัน”

      “ดี แม่จะได้ให้หลวงตาท่านทำนายทายทักเนื้อคู่ให้บ้างเสียที”คุณหญิงแขไขยิ้มสมใจ ส่วนคุณหลวงเมื่อรู้ตัวว่าพลาดเสีย

แล้วจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆให้มารดา โธ่ เขายังมิได้อยากแต่งงานถึงเพียงนั้นเสียหน่อย!



เอาพยับที่ ๑ มาเสิรฟค่ะ


ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๑
«ตอบ #5 เมื่อ16-10-2013 11:50:22 »

มาแล้วๆๆๆ
รอน้องทีป์พบกะคุณหลวง อิอิ

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๑
«ตอบ #6 เมื่อ16-10-2013 13:58:14 »

รอด้วยคนค่าาา

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒
«ตอบ #7 เมื่อ17-10-2013 19:47:41 »

พยับที่ ๒

‘แสงจันทร์ยามค่ำคืนนวลงามตา แสงจันทร์พาประหวัดถึงหนั่นเนื้ออนงค์นวล’

ลมยามค่ำคืนรำเพยเข้ามาเบาๆ ผ้าม่านโปร่งบางสีนวลตาพลิ้วไปตามแรงลม คุณหลวงนพเทพอัครายังคงนั่งอยู่ภายในห้องทำงาน

สายตาคมยังคอยไล่อ่านกระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่า...

‘เกรทบริเตนและฝรั่งเศสมีดำริว่าจักแบ่งสยามประเทศออกเสียตรงกลาง’

ถ้อยคำนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของคุณหลวง เขาจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยง่ายมิได้ ถึงแม้จะเป็นประเทศเข้มแข็งขนาดไหน

ก็ต้องมีช่องว่างบ้าง ขอแค่ช่องว่างเล็กๆก็เพียงพอ พอที่จะหาประเทศใหญ่โตสักประเทศ เพื่อมาขยายรูโหว่นั้นให้ใหญ่ขึ้น ใหญ่

ขึ้น จนทั้งสองประเทศไม่สามารถช่วงชิงแผ่นดินสยามไปได้



เขาจะทำอย่างไรดี

“เฮ้อ...”คุณหลวงถอนใจ เห็นทีจะต้องไปสูดอากาศข้างนอกเสียหน่อย อยู่แต่ในห้องทึมทึบนี่เห็นทีจักเวียนหัวตายเสียก่อน
เปล่าๆ

คุณหลวงเดินออกมาเพียงที่เฉลียงด้านหน้าเรือนนอนฝั่งของตัวเอง ร่างสูงทรุดตัวพิงเสาเรือนเงียบๆ คืนนี้เดือนแจ่มจ้า คุณหลวง

มองท้องฟ้าที่ไร้ดาว มีเพียงดวงจันทร์ดวงโตสกาวพร่างอยู่ด้านบนฟ้า รัตติกาลมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด


บางทีเขาก็เหงา


อยากมีใครสักคนเคียงกาย หากแต่ว่าไม่เคยต้องตาหญิงงามคนไหนเสียที บรรดาคุณหลวงด้วยกันหากไม่แต่งเมียเสียก็มีนาง

เล็กๆเต็มไปหมด แต่เขายังไม่ต้องใจใคร เหมือนต้องรอ รอใครสักคน

“ฤาจักร้างไร้คู่อยู่เดียวดาย”เสียงทุ้มงึมงำเบาๆ คิ้วคมขมวดมุ่น เขาคงจักเหงาเกินไปแล้วสินะ แต่จักให้ไปคว้านางเล็กๆในเรือน

สักคนมาเป็นเมียหรือ? ไม่ละ เขายังไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสมภารกินไก่วัดอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกันคนอื่น ถึงเรือนอื่นจะชอบนินทาว่า

เขาไม่รู้จักเลี้ยงนางเล็กๆไว้ใช้อย่างที่เขาเรียกว่า ‘ร้อยเอาไว้ใช้’ ก็เถิด เอาไปทำไมเสียเป็นร้อย มีเมียเดียวเรื่องปวดหัวคงจะ

มากมายแล้วกระมัง?

“อันจันทราเคลื่อนคล้อยดุจลอยลับ

อยากสดับเสียงเนื้อเย็นเห็นไฉน

ฤาจะปล่อยให้พี่ร้างลาอยู่เดียวดาย

ทั้งหนาวกายหนาวใจไร้คู่เคียง”



“ก๊อกๆ ไอ่ทีป์ ทีป์โว้ย”โอ้ย เสียงใครมาโวยวายหน้าห้องแต่เช้าวะ โฮ นี่ผมยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยนะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตั้งนาน แม่งเอ๊ย

“อะไร ใครวะ?”ผมตะโกนตอบกลับไป ง่วงก็ง่วง บัดซบเอ้ย

“ไอ่ทีป์ ถ้ามึงจะลืมไอ่ตฤณเพื่อนรักมึงเนี้ยช่วยลืมวันอื่นไม่ใช่วันที่มึงบอกว่าจะไปส่งกูที่ทำงานได้ไหมไอ่สัส จะสายแล้วนะโว้ย”

โอ้ย พ่องตายไอ่เหี้ยตฤณ สุดท้ายผมก็ต้องจำใจลุกออกจากเตียงนุ่มนิ่มอุ่นสบายของผม ข้างนอกฝนยังคงตกปรอยๆ

“เออ ขอเวลากูสิบนาที เดี๋ยวไปส่ง”



“ได้แค่เกิดมาเป็นทั้งคนที่รักเธอ คนที่เธอทิ้ง”เสียงวิทยุครวญเพลงของสิงโต นำโชคเบาๆ ส่วนไอ่คนที่ไประเบิดประตูห้องผมเมื่อ

เช้าก็หลับไปแล้วเรียบร้อย ไอ่ห่าเอ๊ย ปลุกกูมาส่งละเสือกให้นั่งคนเดียวเปลี่ยวใจอีก เดี๋ยวยุให้ไอ่ธามปล้ำแม่งเลยซะดีมั้ย?

“ไอ่คุณตฤณครับ มึงช่วยตื่นมาคุยกับกูหน่อยได้ไหมครับสลัด”ผมขว้างซองบุหรี่ใส่หัวมันเบาๆ เผื่อมันจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาซะบ้าง

ถ้ารู้ว่ามีราวน์วอร์ดเช้าก็ควรจะซื้อรถไว้ใช้เองสิวะ

“โอ้ยย พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง กูขอร้องเลยนะ ขอร้องจริงๆอย่าเพิ่งปลุกกูได้ไหม กูเพิ่งได้นอนนะ วันนี้ถ้ากูเบลอจนอาจารย์หมอ

ด่ากูจะไปตบหัวพี่มึงให้ซีรีบรัมกระจุยเลยชิบหาย!”

“พี่กูทะลายประตูหลังมึงรึไงถึงไม่ได้นอน”

“ปั๊ก”

“โอ้ย ไอ่เหี้ย กูจะไปรู้มึงเหรอ เห็นไม่ได้นอนแล้วโทษพี่กู ตบหัวกูขนาดนี้มึงยังจะให้กูขับรถต่อไปได้อีกมั้ยหะไอ่สัส”ชิ! ผมจะยุ

ให้ธามปล้ำมันแล้วจริงๆด้วย แม่งเอ้ย ใครจะไปรู้วะ ก็เห็นไม่ได้นอนแล้วโทษไอ่ธาม ผมก็นึกว่ามันเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนไอ่ธาม

ไปแล้วน่ะสิ

“ไอ่ควายเผือก พี่มึงมันเสือกเปิดเพลงเสียงดังลั่นบ้าน พอกูไปเคาะประตูด่ามันก็บอกว่ามันจะทำเคสสตัดดี้แต่ไม่อยากอยู่เงียบๆ

กูละอยากเอาแผ่นชาร์ตของอาจารย์หมอฟาดหัวมันให้กระจายเลยไอ่เหี้ย เคสสตัดดี้พ่องตาย ดูก็รู้ว่าแกล้งกู”

อ่ะหือ...ไอ่ห่าพ่องมันก็พ่องกูนะครับนั่น อย่าเพิ่งแช่งพ่อกูสิไอ่เวรนิ

“เอ่า แล้วมึงไม่ฟาดมันไปล่ะ?”ผมเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยรถเบาๆแล้วถามมัน

“ฟาดมัน พี่มึงก็...”มันไม่ได้พูดต่อ แต่สะดุ้งตกใจเหมือนว่าจะหลุดพูดอะไรออกมาแล้วเฉไฉไปมองนอกหน้าต่างซะเฉิ่ม

“อะไรจ้ะ น้องตฤณ พี่ชายของพี่ทีป์ทำอะไรจ้ะ?”ผมชะโงกหน้าไปพูดใกล้ๆมัน ฮ่าๆ เห็นมันเป็นแบบนี้แล้วน่าดีใจแทนไอ่ธาม

จริงๆ สงสัยแผนกอร้อกอติกของมันจะได้ผลบ้างแล้วล่ะนะ รอแต่วันไอ่ตฤณมันยอมเป็นพี่สะใภ้ผมนั่นแหละ อันที่จริงทีแรกผมไม่

เคยรู้มาก่อนเลยว่าไอ่ธามพี่ชายผมมันจะเป็นเกย์ จนมันมาสารภาพว่าชอบเพื่อนสนิทผม ตอนนั้นผมแทบช็อกเชียวล่ะ แต่ทำไง

ได้ผมมันคนติดพี่ ต่อให้พี่ผมเป็นตุ๊ดผมก็รับได้แหละน่ะ

“พ่องตายไอ่สัส เงียบๆแล้วขับรถไปเลยจะไฟเขียวแล้ว”มันผลักหน้าผมออกซะแรง เกือบโขกกระจกรถแล้วไหมล่ะมึง ถ้าหัวทุยๆ

สวยๆของกูเป็นรอยโนขึ้นมากูจะให้ไอ่ธามเอาคืนให้มึงลุกไม่ขึ้นเลยไอ่ตฤณ!!

พอส่งพ่อคุณชายหมอที่โรงพยาบาลเรียบร้อยผมก็ต้องขับรถต่อไปที่ทำงานของผมน่ะ วันนี้ผมมีงานแปลเอกสารด่วน น่าเบื่อจริงๆ

อะไรๆในชีวิตผมก็ดูด่วนไปซะหมด เฮ้อ ถ้าผมไม่ต้องไปส่งไอ่ตฤณที่โรงพยาบาลนะ ผมจะมีเวลานอนอีกตั้งสี่สิบห้านาที ให้ตาย

เถอะ ผมอยากให้ชีวิตผมมันไหลช้าๆ เนือยๆดูบ้างเหมือนกันแฮะ แต่ทำไงได้เลือกมาทำงานแบบพ่อตามที่หวังไว้แล้วนี่ รู้งี้ผมใช้

เส้นสายใหญ่เบิ้มของพ่อไปเป็นเลขาฯพ่อไปเลยซะก็ดี ใครใช้ให้ผมบ้าอุดมการณ์จนต้องมาทำงานเยอะแยะเพื่อไต่เต้าเองด้วยล่ะ


“เฮ้อ”ผมถอนหายใจเบาๆ เซ็งห่านที่สุดในจักรวาล เบื่อชีวิตในเมืองหลวงอันศิวิไลซ์ที่ซะจริ๊งจริง ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะนั่งไทม์

แมชชีนไปสักร้อยปีที่แล้วไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ใช้ชีวิตสงบๆ ชิวๆ ไม่ต้องมารีบทำงานแลกเงินขนาดนี้ เหอะ นั้นก็เป็นอีก

เหตุผลนึงที่ผมซื้อบ้านชานเมือง ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เรือนไทยหลังใหญ่เบิ้ม สนองนี้ดตัวเองล้วนๆเลยแหละ

“ขอโทษครับวันนี้ผมมาช้าไปนิดนึง”ผมพงกหัวให้รุ่นพี่ที่ร่วมงานกัน พี่เขาไม่ว่าอะไรแต่ส่งเอกสารปึ้กหนาเบ้งมาให้ผมปึกหนึ่ง

“แปลเก็บความ ขอวันนี้ก่อนเลิกงาน”พี่เขาสั่งแล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง ทำเอาผมแทบกระอักเลือดเอกสารกองเท่าบ้าน จะเอาภายในวันเดียว เฮ้อ...กูจะบ้า!!

กว่าจะทำงานของวันนี้เสร็จก็เฉียดเส้นตายพอดี ผมน่ะแทบจะไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะทำงานเลยด้วยซ้ำ ข้าวกลางวันก็ไม่ได้กิน ชิ!!

จะลาออกแม่งก็ดูเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ อีกอย่างผมน่ะ อยากเป็นได้อย่างพ่อด้วย เลยต้องก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆอยู่นี่ โคตรเมื่อย

เมื่อยคอ เมื่อยไหล่ไปหมดผมรู้สึกเหมือนกระดูกจะหลุดออกเป็นสิบๆเสี่ยงเลยแหละ กว่าจะหอบสังขารกลับมาบ้านได้ผมแทบจะ

ตายคารถ ดีแค่ไหนที่ไม่หลับในแล้วแหกโค้งไปกระแทกเสาไฟฟ้าที่ไหนซะก่อน

“โอ้ยยยย ปวดตัวจะตายอยู่แล้ว นมนุ่มนิ่มคร้าบ ขอนมอุ่นๆให้ผมสักแก้วก่อนอาหารเย็นนะครับ”ผมตะโกนหานมนุ่มนิ่ม อยากนอน

แช่น้ำอุ่นจะแย่ แต่น่าเสียดายที่ที่นี่ไม่มีอ่างอาบน้ำให้เลยสักอ่างเดียว ผมเลยต้องเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ร้อนสุดๆแล้วก็ยืนแช่อยู่

อย่างนั้นแทน เอาน่ะ แก้ขัดไว้วันไหนว่างๆค่อยลงแช่เจ้าพระยาสักหน่อยคงไม่สายไปล่ะมั้ง

“ก๊อกๆ คุณทีป์คะ นมเอานมอุ่นๆที่คุณทีป์สั่งมาให้แล้วนะคะ”โอ้ย หลังจากอาบน้ำเสร็จผมเพิ่งจะทิ้งตัวไปได้ไม่ถึงสิบห้านาทีเลย

นะ แต่เอาน่ะ ก็ผมเป็นคนสั่งไว้เองนี่ว่าให้นมนุ่มนิ่มเอานมอุ่นๆมาให้สักแก้ว ผมลากสังขารไปเอานมอุ่นๆมากรอกปากอย่างรวดเร็ว

แล้วคืนให้นมนุ่มนิ่ม อยากนอนจะแย่

“พอถึงเวลาอาหารค่อยมาเรียกผมอีกทีนะครับ”

“ค่ะ”นมนุ่มนิ่มไปแล้ว ถึงเวลานอนสบายๆสักชั่วโมงสองชั่วโมงเสียที ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม ฮ้า...อยากย้อนเวลาจริงๆเลย

อากาศในอดีตจะร้อนเหลือร้ายแบบยุคนี้หรือเปล่านะ? หรือจะเย็นยะเยือกพร้อมกลิ่นดอกไม้กัน ฮ่าๆเลื่อนเปื้อนไปใหญ่แล้วแหะเรา...



“พ่อทีป์ หายไปไหนมาหรือ?”จู่ๆผมก็มายืนอยู่ในพื้นที่ปริศนา เอาล่ะๆ ไม่ใช่ปริศนาขนาดนั้นหรอกมันก็ห้องนอนของผมเองนี่แหละ

แต่ผมรู้สึกว่า...มันแปลกตาไป เครื่องเรือนทุกชิ้นเป็นเงาตะคุ่มๆอยู่ในความมืด ลมรำเพยเอากลิ่นหอมจางๆมาจากนอกหน้าต่าง...ผมฝันอยู่หรือเปล่าน่ะ?

“คุณเป็นใคร?”ผมถามเบาๆ คนๆนั้นเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว เงยหน้ามองผม แต่ทำไมนะ ทำไมผมเห็นเพียงแค่เขาขยับเงยหน้าแต่ไม่เห็นหน้าเขาเลย เพราะอะไรกัน?

“พ่อทีป์ จะไม่ตอบฉันเสียหน่อยหรือ? หายไปไหนมาจ้ะ พี่คิดถึงเสียแทบแย่ อย่าหายไปแบบนี้อีกได้หรือไม่”ปลายเสียงทอด

หวานซะจนผมขนลุก นี่ผมอยู่ที่ไหนกันแน่... ผมอยากจะหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไป วิ่งออกไปจากดินแดนลึกลับนี่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ

ว่าผมอยู่ตรงหน้าใคร คุยกับใคร ถึงใจผมมันจะสั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเขาก็เหอะ...

บ้าน่า...ผมไม่ใช่เกย์ ผมรู้ดี ถึงผมจะยุให้ธามงาบไอ่ตฤณเพื่อนผมบ่อยๆก็เถอะ แต่ผมไม่ใช่เกย์แน่ๆ ผมมั่นใจในตัวเองมากนะ

จู่ๆผมจะไปใจสั่นกับผู้ชายได้ยังไงกันเล่า!!

“พ่อทีป์ อย่า...อย่าหันหลังให้กับฉันเลย ขอร้องล่ะ อย่าจากฉันไปไกลอีกเลยได้หรือไม่...”เสียงทอดหวานไปกันใหญ่ มือใหญ่ๆเอื้อมออกมา


อีกนิด


อีกนิดจะถึงมือของผม


เฮือก!!

ฝันน่ะ แค่ฝัน ผมนอนไปนานขนาดนั้นจะฝันได้เลยหรือยังไงนะ? ผมหันไปมองนาฬิกา เพิ่งจะหกโมงครึ่ง ผมเลิกงานตอนสี่โมงครึ่ง

ถึงบ้านตอนห้าโมงเย็น ก่อนจะนอน ยังไม่ถึงเวลาอาหาร เวลาอาหารของบ้านเราจะอยู่ระหว่าง ทุ่มครึ่งถึงสองทุ่มครึ่ง ผมเพิ่งหลับ

ไปได้ไม่เท่าไหร่...ก็ฝันประหลาดแบบนั้นเข้าซะแล้วแหะ สงสัยต้องตื่นซะแล้ว ผมไม่อยากนอนแล้วฝันต่อนี่นา หมอนั่นน่ะใครก็ไม่รู้

ถึงจะทำให้จิตใจสั่นไหวก็เถอะ

“ร้อนชิบหาย”ผมมองไปรอบๆที่แท้ผมก็ลืมเปิดหน้าต่างก่อนนอนถึงว่าสิ ร้อนจนสติเตลิดฝันเลื่อนเปื้อนเลอะเทอะไปหมด ผมเดิน

ไปเปิดหน้าต่าง ลมจากแม่น้ำเจ้าพระยาพัดมาเบาๆ เจ้าพระยา...แม่น้ำสายนี้คงมีประวัติศาสตร์มากมายแน่ๆ

“ก๊อกๆ ไอ่ทีป์”เพิ่งจะดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องเจอตัวกวนตีนอย่างไอ่ตฤณอีกแล้วสินะ

“มีอะไร”ผมจ้องหน้ามัน...แดงเป็นริ้วๆเลยเว้ยเห้ย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันเพิ่งเจอพี่ผมมาแน่ๆ แล้วคงโดนทำอะไรๆมาถึงได้แจ้นมาหาผมนี่


“เออ...เอ...”

“เอ่าไอ่ห่าจะรู้เรื่องกันมั้ย ตกลงมึงมีอะไรวะครับคุณตฤณ โดนธามปล้ำมารึไงถึงมาหากูนี่”มันทำตาโตแล้วก็ฟาดมือใส่บ้องหูผม

เต็มๆเลยครับ โอ้ย...วันนี้โดนมันโบกไปกี่ครั้งแล้วเนี้ย จะบ้าตาย ทำไมผมต้องโดนมันทำร้ายตลอดเลยนะ

“อะไรของมึงเนี้ย ตบกูหาพ่อง?”ผมอยากจะกระโดดถีบยอดหน้ามันสักทีเหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าถ้าผมแตะต้องมันนิดๆหน่อยๆแล้ว

จะโดนไอ่ธามกลั่นแกล้งคืนเป็นสองเท่าล่ะก็นะ ใช่สิ ผมมันแค่น้องชายตาดำๆ จะไปสู้อะไรกับคนที่มันหวังจะเอามาเป็นเมียใน

อนาคตได้

“มึงอ่ะ พูดเหี้ยอะไรเหี้ยๆ”

“กูยังไม่ได้พูดคำว่าเหี้ยสักคำไอ่สัส”มันทำท่าจะโผมาตบหัวผมอีกรอบ ดีที่เบี่ยงตัวหลบทัน ไอ่บ้านี่เขินแล้วรุนแรงชิบหายเลยให้ตาย

“มึงนี่วอนตีนจริงๆ กูมาตามมึงไปช่วยแปลเปเปอร์ให้กูหน่อย”

“โหยไอ่สัส จะใช้งานกูแต่มึงตบบ้องหูกูเป็นการขอร้องเนี้ยนะ มึงคิดว่ากูควรไปปะ?”

“น่านะไอ่ทีป์ มึงอย่าใจร้ายสิวะ ถ้ามึงช่วยแปลเปเปอร์นี้ให้กูโดยที่กูไม่ต้องไปพึ่งพี่ชายใจหมาก็มึงละก็ พรุ่งนี้กูจะหาผลไม้

หวานๆแถวนี้มากำนัลมึงเลย นะนะนะน้า”มันทำตาละห้อย เขย่าแขนผมยังกับว่าจะเป็นเด็กน้อยน่ารักแน่ะ ทั้งๆที่มันโตเป็นควาย

ขนาดนี้แล้ว

“เออ เดี๋ยวกูไปช่วยขอกูล้างหน้าล้างตาแปป ไอ่ห่าจะเรียนหมอแต่เป็นภาระกูตลอด”

กว่าผมจะช่วยไอ่ตฤณเพื่อนรักแปลเปเปอร์ที่มันไม่ยอมบอกตั้งแต่ตอนแรกว่าเป็นภาษาฝรั่งเศสไม่ใช่ภาษาอังกฤษจบก็เล่นเอา

ผมอยากจะฉีกไอ่เอกสารวิชาการห่านี่ทิ้งไปซะหลายครั้ง ถึงว่าสิมันแจ้นมาหาผม คาดว่าคงไปหาไอ่ธามมาก่อนแล้วล่ะ แต่คงโดน

แทะโลมมาถึงได้มาหาผมถึงห้องนี่

“เอ่าไอ่ห่า เสร็จสักที มึงนะมึงศัพท์วิชาการห่าเหวหอกส้นตีนอะไรเต็มหน้ากระดาษไปหมด แทนที่มึงจะไปหาพี่กูนะ จะเสือกมาหากูทำไมก็ไม่รู้”

“มึงอ่ะ ก็พี่มึงมันนิสัยไม่ดี สู้น้องทีป์ของป๋าตฤณไม่ได้สักนิด”ทำมาฉอเลาะไอ่เวร ทีตอนแรกยังตบหัวผมซะกระโหลกแทบจะ

แยกส่วนออกจากซีรีบรัม

“ไม่ต้องมาตอแหลไอ่สัส ไปไกลๆกูเลยมึงน่ะ”

“แหม มึงอ่ะอย่างอนสิ เนี้ยๆ กูไปเก็บลูกจันทน์ในสวนมาให้มึงเลยนะ”มันยื่นจานใส่ลูกจันทน์สี่ห้าลูกเรียงๆกันอย่างงดงามบนจานกลมๆมาตรงหน้าผม

“แหมไอ่ที่หายไปไม่ช่วยกูนี่คือไปหาส่วยมาให้กูว่างั้น?”ผมเลิกคิ้วถาม ไอ่ตฤณพยักหน้ายิ้มๆ มันนั่งลงทำตาแป๋วตรงหน้าผม น่า

เอาตีนขยี้จริงๆเลยให้ตาย

“น่านะ มึงอย่าโกรธกูไปหน่อยเลยน่า กินสิมึง ลูกจันทน์เนี้ยคุณนมนุ่มนิ่มเขาบอกกูว่าอร่อยมากนะเว้ย กูเลยลงทุนไปเก็บลูกเหลืองๆ หอมๆ มาให้มึงสดๆร้อนๆเลย”

“เออ เดี๋ยวกูเอากลับไปแดกที่ห้อง มึงน่ะอาบน้ำนอนได้ล่ะ ก่อนพี่กูจะเข้ามาปล้ำทำเมียอีกรอบ”มันทำหน้าเหวอ แล้วถอยหลังไป

จนหล่นตุ้บลงบนเตียงนู้นเลย ฮ่าๆ สะใจพิลึก คิดว่าผมไม่เห็นรึไงกัน ไอ่รอยแดงๆตรงไหปลาร้ามันน่ะ


“ลมเอย เพียงเชยกลับเลยพ้นผ่าน ให้ใจสะท้านหวั่นไหวแล้วกลับลับไป...”ผมนั่งอ่านไดอารี่ของคุณหลวงมาได้สักพักนึงแล้ว ใน

ไดอารี่นี่บรรจุเรื่องราวอะไรไว้เต็มไปหมดในชีวิตของคุณหลวงนพเทพอัครา เขาเขียนว่าเขาเรียนยังไง ที่ไหน ผมว่าเขาคงเขียน

ไดอารี่ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ไฮสคูลที่อังกฤษ ที่เขาเรียกว่าเกรทบริเตนนั้นแหละ เขาเรียกฝรั่งว่าอีหรอบ ศัพท์แสงแปลกๆอีกเยอะ

แยะเต็มไปหมด

“อีกเดือนเดียวจักกลับสยามแล้ว เรียนจบเสียที...คิดถึงคุณแม่ยิ่งนักไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง”ผมอ่านออกเสียงตามเบาๆ ตานี่นี่ดู

ท่าจะติดแม่ไม่เบาแฮะ ไม่งั้นคงไม่บ่นคิดถึงแม่ในไดอารี่ ไม่เห็นเขาพูดถึงพ่อเขาเลยแหะ เห็นพูดถึงแค่ช่วงอยู่บนเรือก่อนถึง

อังกฤษ หลังๆไม่เห็นเขียนถึง ส่วนมากก็เป็นชีวิตประจำวันของเขา เรื่องที่เขาเรียนมา เขียนเตือนตัวเอง เรื่องที่เขาไม่ชอบใจแต่

ไม่รู้จะระบายที่ไหน เมนูอาหารที่อยากกัน ผู้ชายสมัยก่อนก็มุ้งมิ้งเหมือนกันนะเนี้ย

“RRR”เสียงโทรศัพท์สั่นเป็นสัญญาณสั้นๆ ไลน์เข้าแหละมั้ง ผมหยิบมาดู เห็นข้อความจากไอ่ตฤณหน้าหมา


‘อย่าลืมกินลูกจันทน์ที่กูเก็บให้นะ : ))’


ผมไม่ได้ตอบกลับไป แต่หยิบลูกจันทน์สีเหลืองนวลมากัดกินเท่านั้นเอง

ฮ้า...หวานฉ่ำ...เนื้อนุ่มละมุนลิ้นอย่างกับจะละลายในปาก ผมหลับตาพริ้ม...ไดอารี่กับแหวนในกล่องที่ผมเอามาหมุนๆเล่นยังอยู่ในมือ...


จู่ๆผมก็เข้ามาอยู่ในอุโมงค์มืดๆ เอ่อ อันที่จริงก็ห้องผมเองนั้นแหละ แค่มันมืดๆไปหมด ผมมองเห็นแค่เตียงที่ผมใช้นอนทุกคืน รูป

ร่างเหมือนกับเปี๊ยบ...แต่คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ในนั้นไม่ใช่ผม เป็นคนอื่น คนอื่นที่ผมรู้สึกคุ้นเคย

“พ่อทีป์ หายไปไหนมาอีกแล้ว มาให้พี่กอดได้หรือไม่ คิดถึงจนใจจะขาดอยู่แล้ว”เสียงนั้นเพรียกหา ผมขนลุกซู่ โอย นี่มันเรื่องบ้า

อะไรกัน ผมฝันแน่ๆ ผมมั่นใจว่าผมฝัน ว่าแต่คนที่เข้ามาในความฝันผมบ่อยๆอย่างอีตาคนนี้น่ะมันใครกัน?


“คุณเป็นใคร?”

“พ่อทีป์ มาให้พี่กอดเร็วซี ไม่รักพี่แล้วหรือ?”แน่ะ มีมาตัดพ้อ ไม่รู้จักกันซักหน่อย เอ๊ะ แต่หมอนี่เรียกผมว่าอะไรนะ? พ่อทีป์เหรอ? เขารู้จักผมได้ยังไง

จู่ๆ คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ตลอดก็ขยับตัวมานั่งห้อยขาประจันหน้ากับผม แต่ผมก็ยังมองไม่เห็นหน้าเขาอยู่ดี ก็เขาซ่อนหน้าไว้ในเงามืดนี่นา

“พ่อทีป์”เสียงอ่อนหวาน มือหนาๆนั่นเริ่มขยับออกมาไขว่ขว้าเหมือนคราวที่แล้ว ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ เหมือนเฝ้ารอ แต่ก็เหมือนจะตก

ตะลึงไปเหมือนกัน จะถึงแล้ว ผมอยากจะเอื้อมมือออกไป จะได้คว้ามาดูหน้าให้รู้แล้วรู้รอดว่าเขาเป็นใคร แล้วเขาก็แตะถูกมือผม

ผมพยายามจะดึงเขาออกมา แต่เขายังนั่งนิ่งอยู่ มือนั้นอบอุ่น...น้ำเสียงอ่อนหวานยังคงกระซิบแผ่วเบา

“พ่อทีป์ ในที่สุดก็กลับมาหาพี่แล้ว”


เฮือก!!

ฉันสะดุ้งตื่น เช้านี้ฉันต้องเข้ากรมไปหารืองานกับท่านเจ้าคุณ ท่านเจ้าคุณเพิ่งฟื้นคืนสติกลับมาไม่ถึงวันก็เรียกหาฉันให้ไปพบที่กรม

เมื่อคืนฉันถึงได้ตระเตรียมเอกสารเสียเป็นกุรุฐเพื่อไปพบท่านเจ้าคุณ ข้างนอกหน้าต่างเริ่มเห็นแสงเรื่อๆจับขอบฟ้า


เช้าแล้ว...

ฉันฝันอะไรกันนะ ฝันว่าเรียกหาใครสักคนแล้วเขาก็มา แต่เขาเป็นผู้ชาย...ฉันคงใกล้วิปลาสเต็มที คงเพราะวิตกกับคำทำนายของ

พระคุณเจ้าในวันนั้นมาไปเสียแล้วกระมัง วันนั้นคุณแม่ให้ฉันพาไปที่วัด หลังจากกราบพระรับพร คุณแม่ก็ถามหลวงตาว่าจะตรวจ

ดวงให้ฉันได้หรือไม่

“ได้ซี โยมบอกวันเวลาตกฟากของลูกชายโยมมาซี ประเดี๋ยวอาตมาจะดูให้”พอคุณแม่บอกไป พระคุณเจ้าท่านก็นิ่งนาน หลับตา

แล้วลืมตาอยู่อย่างนั้น เหมือนท่านไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“โยม ช่วงนี้มีอะไรของโยมหายไปหรือไม่?”จู่ๆหลวงตาก็ผินหน้ามาถามฉัน อะไรของฉันที่หายไปหรือ? คงเป็นแหวนที่พ่อให้ไว้

เสียก่อนไปเกรทบริเตนกระมัง

“มีขอรับ มีแหวนของกระผมหายไปวงนึง พ่อท่านให้ไว้ก่อนกระผมไปเรียนต่อ แต่ไม่รู้ว่าหายไปเสียตั้งแต่เมื่อไร”

“กระนั้นหรือ...โยมแขไขอาตมาก็จนใจล่ะนะ ถึงโยมจักไม่ยอมรับโยมก็ต้องยอมรับ”ฉันได้แต่เลิกคิ้วทำหน้าฉงนเหตุใดคุณแม่จึง

ต้องยอมรับ? แล้วทำไม...

“ยอมรับอันใดเจ้าคะพระคุณเจ้า”

“เนื้อคู่ของโยมนพน่ะจะมาแล้วก็จริง...แต่เขา”

“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ? เขาหรือ? ไม่จริงกระมัง พระคุณเจ้าจะบอกอิฉันว่า...เนื้อคู่ของพ่อนพเป็นผู้ชายหรือเจ้าคะ?”

“นั้นแหละ เขาจะมาพร้อมของที่หายไป”

ตั้งแต่ที่กลับมาคุณแม่ก็เฝ้าครุ่นคิดตลอด ฉันก็ได้แต่ปลอบใจท่านไปว่าฉันหาใช่ลักเพศ แต่คุณแม่ก็ยังยืนยันว่าพระรูปนี้ท่านแม่นมาก

ตรวจดวงใครไม่เคยพลาดแม้แต่หนเดียว ตอนนี้เลยกลายเป็นฉันเสียอีกที่กลุ้ม


ถึงขนาดเก็บเอามาฝันเทียว!!

ผู้ชายในฝันเขาเป็นใครเสียก็ไม่รู้ ฉันรู้เพียงฉันเพรียกหาเขา โหยหาเขาเหลือเกิน อย่างกับว่ารักเขาไปแล้วแน่ะ แต่ฉันไม่ใช่ลักเพศนะ

 ถึงคนที่ไปเรียนด้วยกันส่วนมากแล้วจะเล่นเพื่อนกันก็เถอะ แต่ฉันยังไม่เคยกับเขาเสียที แล้วก็ไม่คิดจะลองเสียด้วย

“พ่อนพจ้ะ ตื่นแล้วหรือลูกแม่ได้ยินเสียงกุกกัก”

“ขอรับ ลูกตื่นแล้วประเดี๋ยวล้างหน้าแล้วจักออกไปรับสำรับนะขอรับ”

“จ้ะไม่ต้องรีบดอกลูก อีกประเดี๋ยวเทียวล่ะกว่าสำรับจะขึ้นมา นังแม้นมันว่าวันนี้แพลูกบวบแตกบ่าวไพร่แตกตื่นกันเสียหมด กว่าจะได้งานได้การกันก็สายโด่งเสียแล้ว”


“ขอรับ”เฮ้อ...ฉันคงต้องวางเฉยเรื่องนี้บ้างเสียแล้ว เขาในฝันของฉันหาได้มีตัวตนจริงๆไม่

--------------------------
ฮี่ๆ เอาพยับที่สองมาลงให้แล้วจะจ้าวววว
ช่วงที่หายไปนี่คือไฟนอลมรณะรังควาญอยู่ค่ะ แทบตายกว่าจะผ่านมาได้  :sad4:


ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
«ตอบ #8 เมื่อ17-10-2013 20:47:17 »

แอร๊ยยยย   ใกล้จะได้เจอกันแล้วสิ
แอบหลอนคุณหลวงอ่ะ 555

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
«ตอบ #9 เมื่อ17-10-2013 22:57:35 »

แอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นึกว่าจะไม่แต่งเรื่องนี้แล้วววว TT

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
« ตอบ #9 เมื่อ: 17-10-2013 22:57:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
«ตอบ #10 เมื่อ18-10-2013 12:57:21 »

จะได้กันแล้วพ่อทีป์กะคุณหลวง

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
«ตอบ #11 เมื่อ22-10-2013 00:25:57 »

แอร๊ยยยย   ใกล้จะได้เจอกันแล้วสิ
แอบหลอนคุณหลวงอ่ะ 555

อย่าว่าแต่คนอ่านหลอนเลยค่ะ คนเขียนยังหลอน ฮ่าๆ
แอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นึกว่าจะไม่แต่งเรื่องนี้แล้วววว TT

ยังแต่งอยู่ค่ะ แต่ว่าชีวิตปีหนึ่งเทอมแรกมันยุ่งเหยิงมาก เพิ่งมีเวลาว่างๆบ้าง ต้องรีบแต่ง >< เดี๋ยวพอปีสูงๆเวลาจะหายไปเรื่องยาหมดแล้ว T^T
จะได้กันแล้วพ่อทีป์กะคุณหลวง

แง่ววว ยังไม่ได้กันเน้อ 555555 คนอ่านพิมพ์ผิดใช่มั้ยคะ ตกคำว่าเจอไปใช่มั้ย ><

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๒ 100%
«ตอบ #12 เมื่อ29-10-2013 15:33:20 »

ดันๆ

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พยับที่ ๓ ลูกจันทน์

         “ไอ่ทีป์เพื่อนเลิฟ มารับกูที่โรงพยาบาลได้เปล่าอ่ะ?”เสียงออดอ้อนลอดมาจากโทรศัพท์ในมือผม แหม กูเพิ่งเลิกงานยังไม่ได้กระดิกไปไหนไอ่เพื่อนที่รักก็โทรมาจองตัวซะละ         

         “เออ อีกสามสิบนาทีเป็นอย่างน้อยนะมึง รอไป รถติดชิบหายตายห่า”

          “คร้าบๆ รอได้คร้าบ”เสียงมันกวนตีนจริงๆเลย ผมค่อยๆเคลื่อนรถไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยรถนี่ โอ้ย รถติดชิบหาย เบื่อจริงๆเลยไอ่เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพพระมหานครเนี้ย!! ถ้าผมมีไทม์แมชชีนผมจะมุดลิ้นชักแบบโนบิตะกับโดเรมอนแล้วย้อนเวลาแม่ง จะได้หลุดพ้นความวุ่นวายชิบหายนี่สักที


           ผมขับรถกว่าชั่วโมงกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลที่ไอ่ตฤณกับธามทำงานอยู่ ว่าแต่ทำไมไอ่ตฤณมันไม่กลับกับไอ่ธามวะ บ้านก็อยู่บ้านเดียวกัน จะเรียกผมมารับทำหอกอะไรก็ไม่รู้ อ้อมโลกมารับมันกลับบ้านเนี้ย เปลืองน้ำมันสัสๆ

            “ฮัลโหล อยู่ไหนรถกูจอดอยู่ตรงหลังตึกวีไอพีอ่ะ”

             [อื้อ...อ่ะ...แปป...อื้อ...เดี๋ยวไป] เห้ยไอ่ตฤณ เสียงแบบ เป็นไรปะเนี้ย ผมกำลังจะอ้าปากถามแต่สายแม่งก็ตัดไปซะละ ชิบหาย เพื่อนชายของผมคงไม่โดนใครที่ไหนข่มขืนไปซะหรอกนะ!!


           [Thrin’s part]

           ผมเพิ่งวางโทรศัพท์เครื่องสวยลงหลังจากโทรไปตามให้ไอ่ทีป์เพื่อนเลิฟมารับกลับบ้านมัน ก็ผมไม่อยากกลับกับไอ่ธามนิ วันนี้มันแกล้งผมซะน่วมตอนราวน์วอร์ดด้วยกัน โดนอาจารย์สับแหละ แทบจะโดนกินหัวอยู่แล้ว!!

         “วันนี้รอกูอยู่นี้นะ เดี๋ยวกูลงวอร์ดแล้วมารับ”พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา ผมหันไปมองหน้าไอ่คนใจหมาที่กลั่นแกล้งผมตอนราวน์วอร์ดอย่างชิงชัง เชอะ!!

         “ไม่รอ กูโทรให้ทีป์มารับกูแล้ว”อีกครึ่งชั่วโมงไอ่ทีป์เพื่อนรักสุดสวาทขาดใจก็จะมารับผมถึงที่แล้วด้วย ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องรอคนที่แกล้งผมให้คนอื่นต่อว่านี่นา ทีกับสาวๆนะมีแต่พูดสนับสนุนไอ่สัส!

          “ตฤณมึงอย่าดื้อได้ปะ?”
               
           “กูโทรบอกทีป์แล้วจริงๆ อย่ามายุ่งกับกูได้ปะ หะ? มึงเป็นอะไรกับกูไม่ทราบ”ผมเชิดหน้าหนีมัน เตรียมสะบัดก้นเดินหนีเต็มที่ด้วย

           “มึงอย่ามาอวดดีแถวนี้ตฤณ ถ้ามึงไม่อยากเจอดี”เสียงมันเริ่มเยียบเย็นขึ้นเรื่อยๆละ แม่งกูเริ่มกลัวละนะเว้ย แต่ไม่ยอมแพ้อ่ะจะทำไม

           “ทำไมมึงมีดีอะไรให้กูกลัวหะ เห้ย ไอ่เหี้ย จะเอากูไปไหน”มันกระชากลากถูผมไปตามทางเดินโรงพยาบาลอย่างโหดเหี้ยม? โอเค ผมเองที่เว่อไป มันลากถูลูถูกังผมไปแบบหลบๆซ่อนๆ ออกแรงซะสุดตัวแต่ค่อยๆเดิน ก็มันเป็นหมอ ส่วนผมก็ว่าที่หมอที่มาฝึกที่นี้ขืนทำอะไรโจ่งแจ้ง เป็นอันได้โดนข้อครหาอันยิ่งใหญ่พอดีสิครับ ผมก็เลยยอมโดนลากไป ขืนผมขัดขืน ก็นั้นแหละ โดนครหา นินทากันพอดี โอ้ย ผมรู้สึกปวดใจกับการที่เป็นหมอละขัดขืนมันไม่ได้เนี้ย เกิดมันข่มขืนผมในห้องตรวจขึ้นมาผมจะทำอะไรได้เนี้ย!!

           นั่นไงๆ มันเปิดเข้าไปในห้องพักแพทย์แล้ว โฮ! มันจะไม่ข่มขืนผมใช่มั้ย!?

           “โอ้ย”มันเหวี่ยงผมลงมาบนเตียงแข็งๆในห้องพักแพทย์ ผมกำลังจะวิ่งออกไปทางประตูได้อยู่แล้วเชียว ถ้ามันไม่กระชากขาผมกลับมาแล้วล็อกประตูซะแน่นหนา

           “กูบอกมึงแล้วว่าอย่าริมาลองดีกับกูไงตฤณ ทำไมมึงไม่ฟัง หรือว่า...มึงอยากลอง?”

            “พ่องตาย”โอ้ย ให้ตายผมไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อน ฮือ พ่อแก้วแม่แก้ว ไอ่ทีป์มึงช่วยรีบมาที พี่ชายมึงจะจับกูทำเมียอยุ่แล้ว!!

            “พ่อกูยังไม่ตาย แต่ถ้ามึงปากดีกว่านี้มึงอาจจะโดนกูเอาจนตายคาอกนี่แหละ!”โอ้ย มึงจะเน้นคำว่า เอา ไปไหนวะครับ กูไม่ใช่เกย์นะไอ่เหี้ย!

             “กูไม่ยอมให้มึง อื้อ”



        [God eye]


             ธามประกบปากลงกับรุ่นน้องร่างบาง แบบไม่ปราณีปราศรัย ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบดขยี้รุนแรง

             “กูบอกแล้วว่าอย่าลองดี”ธามผละออกมาจากตฤณ ปากเล็กๆบวมเจ่อ มีรอยเลือดไหลซึมเล็กๆตรงมุมปาก ธามมองรอยเลือดนั้นอย่างเลือดเย็น ทำไมไอ่เด็กนี่มันชอบขัดใจเขานักนะ

             “กูไม่ได้อยากลองไอ่สัส”ตฤณตะโกนด่า ธามโถมตัวเข้าหา ร่างแกร่งๆทาบทับลงไปบนตัวตฤณทั้งตัว ตาโตๆเบิกกว้าง โว้ย นี่เขายังไม่อยากกลายเป็นเมียหมอทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้ชายแล้วก็เป็นหมอเหมือนกันหรอกนะ!

             “ไม่ได้อยากลองเหรอ? มึงอวดดีขนาดนี้ยังบอกว่าไม่อยากลอง เอ๊ะ หรือมึงอยากได้กูใจแทบขาดเลยแกล้งดื้อให้ท่ากูห้ะ!!”เสียงตวาดเบาๆด้วยเกรงว่าแพทย์คนอื่นๆที่ยังวนเวียนอยู่จะได้ยิน นัยน์ตาของตฤณเริ่มมีน้ำใสๆมาเอ่อคลอ ย้อมแววตานั้นให้วาววับ แต่คงเพราะโกรธมากเกินไปธามเลยไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้เลยแม้แต่น้อย ยังคงรุนแรง

              “กูเกลียดมึง...”เสียงกระซิบแผ่วๆ แต่กลับเหมือนสาดน้ำมันลงบนกองไฟ ไฟโทสะในดวงตาของธามลูกโชน ก้มลงมาฉกฉวยจูบไปอย่างรุนแรง

            “ฮื้อ...อ๊ะ...อย่าลูบไอ่สัส”

            “อื้อ...อ๊ะ”ยิ่งได้ยินเสียงคราง รับรู้ได้ถึงแรงขัดขืนมากเท่าไหร่ ธามยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น มือแกร่งลูบไล้อย่างหยาบคาย

             “พะ...พี่ธาม...ไม่เอา...อื้อ...อ๊ะ...ไอ่ทีป์จะมา...อ๊าซ์....”

            “ทำไม กูบอกแล้วว่าให้กลับกับกู ทำไมมึงไม่ฟังห้ะ?”

            “ก็...อ๊า....ตรงนั้น...อ๊ะ”นิ้วเรียวยาวของธามบดบี้ลงบนยอดอกของตฤณอย่างรุนแรง ริมฝีปากไล้เลียขบเล็มใบหูบางเบาๆ

            “ทำไม? กูบอกอะไรให้ฟังกูบ้าง ทีนี้จะเข็ดได้รึยัง”


                      [RRRR]

            ตฤณเห็นเบอร์ที่โทรเข้าก็รีบรับโทรศัพท์แบบเร่งรีบ เพื่อให้เพื่อนรักมาช่วยชีวิตน้อยๆของตัวเองที่กำลังจะถูกหมาป่าธามขย้ำจนต้องเสียเวอร์จิ้นประตูหลังให้หมาป่าธาม

            “อื้อ...อ่ะ...แปป...อื้อ...เดี๋ยวไป”เสียงพูดแทบจะไม่เป็นคำเพราะถูกขย้ำตรงโน้น เลียตรงนี้ สติของตฤณกระเจิดกระเจิงไปไกล เขาจะทำยังไงถึงจะรอดจากวิกฤตการณ์เสียเวอร์จิ้นให้ไอ่หมอหื่นเนี้ยนี่!??

            “กูไม่ให้มึงไป”ธามพูดเสียงเหี้ยม ยิ่งบดเบียดตัวเองเข้ากับธามอีกเรื่อยๆ แกนกายเริ่มขยายเบียดต้นขาของตฤณทำเอาคนตัวเล็กกว่าหน้าแดงเถือก

              “ไอ่สัส ปล่อยกูได้แล้ว ถ้าไอ่ทีป์มาเจอพี่มันกำลังจะเอาเพื่อนมันอยู่เนี้ย มึงคิดว่ามันจะรับได้เหรอ?”

             “หึหึ มึงไม่รู้อะไรอย่ามาพูด มึงคิดว่าบ้านหลังนั้นน่ะ ใครเป็นคนช่วยมันออกเงินซื้อกันหะ?”

              “ไอ่!!”

               “ก๊อกๆ ไอ่ตฤณ มึงอยู่ในนี้เปล่าวะ? กูรอนานแล้วเนี้ยไอ่เหี้ย ไข่กูแข็งหมดล่ะ”

              “อยู่ๆ แปปนึงกูไล่หมาก่อน”


               นภทีป์ที่อยู่ข้างนอกได้แต่ขมวดคิ้วงงๆ ไล่หมาอะไรของแม่งวะ ในเมื่อมันอยู่ในห้องพักแพทย์ บางทีเขาควรให้เพื่อนไปเช็กสมองดูบ้าง มันคงจะใช้สมองมากเกินไปสินะ เห้อ....เพื่อนของเขานี่น่าสงสารจริงๆ

               “ว่ากูเป็นหมาเหรอ? มึงเห็นของลับหมาไหมละ? ใหญ่พอใจมึงมั้ย?”

              “ไอ่สัส ไปไกลๆกูเลยไป เหี้ยเอ้ย แม่ง เหี้ยๆๆๆๆ กูจะกลับแล้ว!!”ตฤณสะบัดตัวออกจากธามแล้วเดินหนีออกไปหาทีป์ที่รออยู่หน้าห้อง แถมรีบเปิดปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว กลัวเพื่อนเห็นว่าเกือบจะเสียตัวได้เป็นพี่สะใภ้มันอยู่รอมร่อ!!


               “คอแดงแน่ะมึง”

               “ห้ะ??!”ตฤณตะปบคอตัวเองควับ รีบวิ่งไปส่องกระจกตรงทางเดินที่เห็นอยู่ลิบๆ

               “อ๊ากกกก ไอ่ธามพ่องตาย ทำรอยหาพ่องงงงงงงงงงงงง”เสียงกรีดร้องดังลั่นโรงพยาบาลที่เงียบสงบ จนคุณป้าพยาบาลต้องออกมาขมวดคิ้วใส่ว่าที่คุณหมอหนุ่มเป็นการตักเตือนไปในที

                “ฮ่าๆ พี่กูนี่เด็ดว่ะ”นภทีป์หัวเราะเบาๆ แล้วเดินนำออกไป เขาจะรีบกลับบ้านไปแปลงานของสถานฑูตน่ะสิ งานยุ่งชิบหาย ยังต้องมารอเพื่อนรักโดนพี่ตัวเองแทะโลมจนพอใจก่อนอีก เฮ้อ ชีวิตน้องทีป์นี่มันน่าสงสารจริงจริ๊ง

             “ฟ้าในเดือนฝนฉ่ำ คงนึกขำต่อคำสัญญา...”ผมฮัมเพลงโปรดเบาๆ ตอนแรกฟังเวอร์ชั่นคาราบาวก็ชอบแล้ว พอแทททูคัลเลอร์เอามาทำใหม่ก็ยิ่งชอบ มันดูไม่ใช่แนวนักการทูตเลยเนอะ แต่เทเลอร์ สวิฟท์ผมก็ชอบนะ จริงๆก็ชอบทั้งหมดทั้งมวลนั้นแหละ เผอิญผมมันคนสุนทรียภาพสูงเสียดฟ้าน่ะนะ

             “พ่องตาย มึงร้องเพลงนี้กี่รอบต่อวันวะ ห้ะ? กูฟังจนกูจะเปียกตามเพลงมึงละไอ่สลัดผักกาดขาว”

              “เอ่า กูชอบของกู ไม่ชอบฟังมึงก็ลงไปเดินกลับเลยปะ”

             “จิ๊ ไอ่สัส”มันสะบัดบ๊อบใส่ผมครับ แม่งเกย์ชิบหาย ถ้าไอ่ธามไม่รักไม่หลงไม่ปล้ำนี่ผมให้ถีบเลยเอ้า!!

             “เมื่อไหร่พ่อทีป์จะมาหาฉัน”เสียงทุ้มทอดเสียงเบาๆ ผมอยู่ที่ไหน??

             “ใครน่ะ ที่นี่ที่ไหน”ผมถามกลับ ผมมองเห็นเพียงที่นี่เป็นห้องที่คุ้นตา...แสงตะเกียงวับแวมทำให้มองเห็นพื้นไม้ได้รางๆ เตียงสี่เสา มุ้งถูกเอาลงทุกด้าน ผมถึงได้มองเข้าไปเห็นเพียงเงารางๆ

              “ที่นี่คือที่ของพ่อทีป์ ไม่คิดถึงฉันหรือ? จะให้ฉันรอถึงเมื่อไร...”ปลายเสียงออดอ้อน ทั้งๆที่เขาก็เป็นผู้ชายแต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกรังเกียจอะไรเลยนะ ออกจะแบบ...เขิน...มันคงใช้คำนี้ได้อยู่ล่ะมั้ง

              “คุณเป็นใครผมยังไม่รู้ แล้วผมจะคิดถึงคุณได้ยังไง?”

              “เหตุใดถึงได้ใจร้ายกับฉันนัก...ฉันทรมานหัวใจเหลือเกินแล้ว”

              “คุณพูดอะไรน่ะ??”

              “พ่อทีป์จ๋า มาหาพี่เถอะ มาหาพี่นะคนดี มาอยู่ในอ้อมกอดพี่...”
              “คุณ???”บ้า...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน จะไปกันใหญ่แล้ว

              “ฉันจะรอ”เสียงนั้นถอดแผ่วเบาลง...



                “ไอ่ทีป์ๆ มึงจะนอนหลับลึกไปล่ะไอ่ห่า ตื่นๆ”

                  “หะ?? อะไร? นี่ที่ไหน?”

                “บ้านมึงไงไอ่ควายอย่ามาโง่ตอนนี้ ลุกเร็วมึง มึงนอนเพ้อห่าอะไรของมึงเนี้ย คนเค้าตกใจทั้งบ้านแล้วสลัด”ผมเลิกคิ้วงงๆ ผมเนี้ยนะเพ้อ??? หรือจะเป็นเพราะฝันเมื่อกี้?

                “กูเพ้ออะไรวะ?”

                “มึงเพ้อหาใครไม่รู้ เห็นเรียกพี่นพๆ นี่ตกลงมึงแอบไปมีสามีกกไว้ที่ไหนรึเปล่า”มันทำหน้ายียวนลอยหน้าลอยตาถาม ผมละอยากจะถีบแม่งให้จมตีนจริงๆ

                 “พ่อง จะไปมีที่ไหนละ ละมึงมาเรียกกูทำไมแต่เช้า??”

                 “เช้าบ้านพ่อมึงสิ นี่มันจะเที่ยงแล้วควาย คุณนมเขาให้มาปลุกมึงไปกินข้าวไง นี่มึงมีตาปะ? แหกตาดูข้างนอกดิ๊สัส แดดจ้าขนาดนี้มันเช้าตรงไหน??”

                “อ้าว...เวรกูตื่นสายขนาดนี้เชียว?”

               “เออสิ ลุกเหอะมึงนอนนานๆเดี๋ยวปวดหัว”

               “เออๆ มึงไปรอกูข้างนอกไป เดี๋ยวกูแปรงฟันละตามไป”

                “คร้าบๆคุณชาย” ผมได้แต่ส่ายหัวปลงๆกับความกวนตีนของมัน ไอ่หมอเพี้ยน



                ลูกจันทน์สีเหลืองนวลวางจัดเรียงไว้งดงามในถาดกลมใบหนึ่ง คุณแม่บอกว่าให้ฉันกินเสียก่อนมันจะงอมเสียหมดอร่อย...อืม บ่าวของคุณแม่ช่างเลือกเวลาเก็บลูกจันทน์ได้ดีเสียนี่กระไร กรอบ หวาน กำลังอร่อยเทียว...
วันนี้เป็นวันพักผ่อนของฉันหลังจากตรากตรำทำงานติดๆกันมาหลายมื้อหลายยาม คุณแม่ท่านดีใจนักเทียวที่ฉันอยู่ติดบ้านบ้างเสียได้ ท่านคงเป็นห่วง

            “ทด เอ็งไม่หิวหรือ? มานั่งมองข้ากินอยู่นานสองนาน?”

            “ยังดอกขอรับกระผมเพิ่งกินมาจากในครัวนี่เอง”

            “อย่างนั้นหรือ? ลูกชายเอ็งเป็นอย่างไรบ้าง ข้าได้ข่าวว่านังแดงเมียเอ็งเพิ่งคลอดลูกหรือ?”
           
             “ขอรับ แข็งแรงดีขอรับ แต่คนแม่มันท่าทางไม่ค่อยดีกระผมก็จนใจไม่รู้จะหายาที่ไหนมาให้มันกินอีกได้”

            “อย่างนั้นหรือ เอ็งเอาอัฐนี้ไปซื้อยูกยาให้ลูกให้เมียเอ็งเสีย แล้วก็ลางานไปเฝ้าเสียก็ได้ ข้าคงได้พักอีกนานโข ข้าจะจ่ายเบี้ยหวัดให้เหมือนอย่างเดิม แต่เอ็งไปอยู่ดูลูกเมียเอ็งเถิด ประเดี๋ยวเขาจะอื้ออึงกันว่าข้าพรากลูกพรากพ่อเขา”

            “ขอบพระคุณขอรับคุณหลวง คุณหลวงช่างเป็นนายที่ประเสริฐแท้ๆ”

            “เออๆ รีบไปหาลูกเมียเอ็งเถิด ไม่ต้องมายกยอปอปั้นอันใดข้าให้มากความหรอก ไปไป๊”คุณหลวงโบกมือไล่ลูกน้องคนสนิท เฮ้อออ เห็นทีช่วงนี้จักต้องวุ่นวายเสียยกใหญ่ ก็ลูกน้องคนสนิทก็ดันให้ไปดูแลลูกเมียมันเสียแล้ว
           
            “พ่อนพ อยากบุหรี่หรือไม่จ้ะ แม่มวนไว้ให้เสียหลาย งานหนักมากหรือลูกแม่เห็นทำหน้าทมึงถึง”

            “เปล่าจ้ะแม่ ลูกไม่ได้ทำงานหนักอันใดดอกจ้ะ แต่ว่ากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับห้องหับตัวเองดี ลูกให้อ้ายทดไปดูแลลูกกับเมียมันเสียแล้ว เมียมันเพิ่งคลอดลูกจ้ะ ลูกเห็นมันทำตาละห้อยแล้วลูกสงสาร”
         
           “ให้นางเล็กๆไปดูซีจ้ะ”
           
           “ไม่ดอกจ้ะ เขาจะได้อื้ออึงกันไปหัวคุ้งท้ายคุ้งว่าลูกจะเอาบ่าวในเรือนมาร้อยไว้ใช้เป็นเมียเสีย”

           “พ่อนพยังไม่อยากออกเรือนดอกหรือจ้ะ? แม่มะลิเขาก็รอมานมนานจนชาวบ้านร้านตลาดเขาอึงไปเสียหมดว่าจะเป็นหม้ายขันหมาก”
 
          “ลูกไม่ได้ชอบพอแม่มะลิเขาเสียหน่อยนี่จ้ะแม่ แม่ส่งของไปขอขมาเขาเถิดจ้ะ ชาตินี้ทั้งชาติลูกคงไม่ได้ดองกับเขา หากลูกไม่รักแล้วจะให้อยู่ด้วยกันฉันผัวเมีย มันยากนัก”

          “พ่อนพ แม่ก็เจอหน้าเจ้าคุณพ่อเสียวันแต่งงานนะจ้ะ”

         “โถ...คุณแม่ขอรับ ลูกไม่อยากฝืนใจตัวเองถึงเพียงนั้น ถ้าคุณแม่ไม่ส่งของไปขอขมาบ้านนู้นเขาเสียตอนนี้เกิดลูกไปรักชอบพอคนอื่นขึ้นมา คุณแม่ไม่กลัวคุณหญิงท่านมาถอนหงอกเอาหรือจ้ะ?”

          “แม่ก็คุณหญิงจะไปเกรงอะไร๊”คุณหญิงแขไขกล่าวเสียงสูงขัดใจลูกชายเสียเหลือเกิน มาว่าหล่อนจะเกรงกลัวคุณหญิงยมโดยแม่ของแม่มะลิเสียได้ เชอะ! หล่อนน่ะหรือจะกลัวใคร??

          “โธ่ คุณแม่ขอรับ  คิดเสียว่ากระผมขอร้องคุณแม่เสียก็ได้ ส่งของขอขมาไปถอนหมั้นเขาเถิดนะขอรับ ลูกไม่อาจทำใจรักชอบแม่มะลิได้จริงๆ”

          “ทำไมเล่าจ้ะ? แม่มะลิเขาไม่ดีตรงไหนหรือพ่อนพ? บอกแม่ได้หรือไม่จ้ะ?”

          “ลูกไม่ชอบเขานี่จ้ะ ไม่เคยรู้จักมักจี่กันเสียหน่อย อีกอย่าง เขาว่ากันว่าแม่มะลิเองก็เมียงๆหลวงบวรเทพอยู่เหมือนกัน ลูกไม่อยากได้เดนใครหรอกจ้ะ”

          “ต๊ายย พ่อนพ พูดจาเสียน่าเกลียด แม่มะลิก็กิริยางาม จะไปทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติอย่างนั้นได้อย่างไรเล่าลูก อีกอย่างแม่มะลิเขาทำงานอยู่ข้างใน จะทำเรื่องเสื่อมเสีย เสียอย่างนี้มิได้ดอกจ้ะลูก เห็นทีลูกแม่คงหวงแม่มะลิจนคิดมากไปกระมังจ้ะ?”

          “ลูกจะไปหวงแหนเขาได้อย่างไรเล่าขอรับคุณแม่ โถ่ คุณแม่พูดเสียอย่างกับมิเคยรู้ว่าสาวๆข้างในเขาลักลอบกันอย่างไร เอาเป็นว่าลูกรู้ แล้วลูกก็ไม่อยากไปพรากคนรักกันจากใครเขา นะขอรับท่านแม่ ลูกไม่อยากฝืนใจตัวเองไปรักไปชอบกับใครที่ไหน”ถ้าไม่ใช่คนในฝันคนนั้น...

           “เอาเถอะๆ ไว้แม่จะลองคิดดู”



          “เห้ยธาม! มึงเก็บลูกจันทน์มาให้กูเหรอวะ?”เสียงโหวกเหวกของนภทีป์ดังก้องไปทั่วหอนั่ง ทันทีที่เจ้าตัวล้างหน้าแปรงฟันแล้วลากสังขารอ่อนเปลี้ยเพราะนอนนานเกินไปมาจนถึงหอนั่งได้
 

          สายตาคมกริบจ้องมองลูกจันทน์ที่วางเรียงซ้อนไว้บนถาดกลมสวย ขอบถาดเป็นลายฉลุงามงดงาม ลายไม้เลี้ยนพันอยู่รายรอบดอกไม้...ไอ่ห่าตฤณมันไปหาถาดวินเทจสุดฤทธิ์สุดเดชนี่มาจากไหนวะ??

          “อะไร อ๋อ กูไม่รู้ว่ะ ก่อนกูไปเรียกมึงก็เห็นวางอยู่แล้วนมนุ่มนิ่มเขาเก็บมาให้มึงกินมั้ง เห็นรอบบ้านมีอยู่หลายต้น มีแต่ต้นใหญ่ๆ คงจะปลูกมานานโข”

         “กูก็ว่าหนังหน้าอย่างมึงไม่น่าจัดถาดออกมาซะสวยขนาดนี้ได้ ฮ่าๆ”

         “ไอ่ควายเผือกเดี๋ยวกูถีบกระดูกหลุด”ตฤณหันหน้ามายกนิ้วกลางให้เพื่อนรักด้วยความเสน่หาสุดๆ ส่วนคนที่โดนแสดงความรักนั้นลอยหน้าลอยตาใส่เต็มที่ เล่นเอาเท้าหมอกระตุกยึกๆ อยากกระทืบหน้าเพื่อน!!

        “ถ้าถีบกูหนึ่งทีกูจะยุให้ไอ่พี่ธามสุดที่ร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ของมึงปล้ำมึงสักหนึ่งยก ดีมั้ย? แฟร์ๆ”นภทีป์เลิกคิ้ว ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่เพื่อนที่หน้าแดงฉ่า ตฤณยกนิ้วกลางให้อีกรอบแล้วสะบัดตูกกลับห้องตัวเองไปซะเฉยๆ ปล่อยให้นภทีป์ยืนขำกลิ้งอยู่คนเดียว


          แหม...ไอ่หมอมันเขิน น่าดูน้อยเสียเมื่อไรกัน??

     
         “กูอุตส่าห์ลุ้นให้มันถีบมึง กูจะได้ปล้ำมันให้สมใจอยาก”เสียงงึมงำดังมาจากมุมมืด นภทีป์ยิ่งหัวเราะหนักเข้าไปใหญ่ ถุ้ย ไอ่พี่ชายตัวดีแทนที่จะปกป้องไม่ให้น้องโดนทำร้าย นี่ดันเสือกยุให้ไอ่หมอถีบกูเพื่อจะได้ปล้ำมันเนี้ยนะ? แหมควรซาบซึ้งใจจริงๆเล้ยยย
         “ควาย แล้ววันนี้มึงไม่ต้องขึ้นเวรรึยังไงวะ?”

         “ยังอ่ะ กูเวรดึก ไปพร้อมมันนั้นแหละ วันนี้มันเป็นเด็กกู แล้วมึงอ่ะตื่นซะสายตะวันโด่งเห็นนมนุ่มนิ่มว่ามึงเพ้ออะไรพี่นพๆ มึงไปเสียตูดให้ใครโดยที่กูไม่รู้ปะเนี้ย?”
 
         “พ่อง”

         “พ่อกูก็พ่อมึงอ่ะไอ่ควาย ไปหาไรแดกรองท้องก่อนไป เดี๋ยวอีกสักพักนมนุ่มนิ่มคงให้เด็กๆยกสำรับขึ้นมา”

          “เออๆ มึงอ่ะไม่กินรึไง?”ผมเลิกคิ้วถามพี่ชายหน้าหนวด หน้าตาแม่งไม่หน้าเป็นหมอเล้ยยย มองยังไงก็นึกว่าแม่งเรียนสถาปัตย์ไม่ก็วิศวะอะไรเทือกๆนั้น

           “ยังว่ะ เดี๋ยวกูเข้าไปทำงานแปป นมนุ่มนิ่มตั้งสำรับเมื่อไรมึงให้ไปถามกูด้วยละกัน” แปลว่าที่ออกมานี่มาส่งไอ่ตฤณล้วนๆสินะ โห้ย พี่กู หลงเขาหัวปักหัวปำเสือกเอาแต่แกล้งเขา ถ้าหมาคาบไปแดกเมื่อไหร่จะหัวเราะให้ฟันหลุดกระเด็น

            “เออๆ”สุดท้ายก็เหลือผมอยู่ที่หอนั่งคนเดียว...เดินกลับไปเอาหนังสือมาอ่านเล่นฆ่าเวลาละกัน

 

             นิ้วเรียวไล่มือไปตามหนังสือบนชั้นข้างผนังที่เจ้าตัวเพิ่งขนขึ้นมา หรือเขาจะอ่านนิยายเล่มโปรดดีวะ?? ไม่ได้อ่านมานานแล้วด้วย...เอ...มันดูไร้สาระไปแหะ


              ‘ร.ศ.๑๑๒’

            จู่ๆเขาเกิดสะดุดตาปิ้งปั้งกับหนังสือประวัติศาสตร์เล่มเก่าขึ้นมา...

            เห็นทีจะต้องอ่านซะแล้ว...ไม่ได้อ่านซะนานลืมไปหมดแล้วมั้งกู

             “กร๊อบ”เสียงกัดลูกจันทน์ดังมาเป็นระยะๆจากตรงกลางหอนั่ง ที่เจ้าของบ้านอนเอกเขนกอยู่ข้างหมอนขวาน แถมยังเลิกเสื้อขึ้นซะเต็มที่เพราะเจ้าตัวมันร้อนเสียเต็มประดา ในมือยังคงมีหนังสือประวัตศาสตร์คาอยู่ ส่วนมืออีกข้างก็หยิบลูกจันทน์ใส่ปากเอาๆ จนลูกจันทน์ที่แต่เดิมมีเต็มถาดหร่อยหรอลงเสียเกือบหมด ทำไมนมนุ่มนิ่มถึงไม่ยกสำรับขึ้นมาสักทีวะ!! เจ้าตัวคิดอย่างหงุดหงิดใจ นี่ครึ่งชั่วโมงเข้าไปแล้วเขากินลูกจันทน์จนตอนนี้เหลือลูกสุดท้ายอยู่บนถาด...

         สายตาของนภทีป์นิ่งจดจ่ออยู่บนลูกจันทน์เนิ่นาน...

         ควรทิ้งไว้ให้เป็นชิ้นมารยาทมั้ยวะ?

          เผื่อว่ามีใครอยากกิน...

          แต่!!

           อย่าเลยดีกว่า แดกแม่งคนเดียวนี่แหละเสือกไม่มีใครแดกเป็นเพื่อนดีนัก (มีต่อ)



ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
            คุณหลวงหนุ่มกำลังจ้องมองลูกจันทน์ลูกสุดท้ายในถาดอย่างแสนเสียดาย...จะหมดแล้วหรือนี่...เขาน่ะแสนจะชอบเจ้าลูกจันทน์เหลืองนวลรสชาดดีพวกนี้เหลือประมาณ คงอีกหลายวันเทียวกว่าจะได้กินอีก...

           มือขาวละเอียดของคุณหลวงยื่นไปหยิบลูกจันทน์ลูกสุดท้ายเข้าปาก...

            อืม...

           หวาน... อร่อยยิ่งนัก หามีใครสักคนมานั่งกินด้วยกันก็คงจะดี...

           เห้อ... นี่เขาคงเหงาใจมากจนอยากมีใครสักคนขึ้นมากระมัง?

         “หิวหรือยังลูก?”คุณหญิงแขไขที่นั่งจีบหมากอยู่ถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หล่อนนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหาร การจีบหมากจีบพลู กับมวนบุหรี่กลีบบัว จนเดี๋ยวนี้ยังต้องทำส่งเข้าไปข้างในบ่อยๆ ด้วยเจ้านายท่านชอบเหลือเกิน

         “คุณแม่จะตั้งสำรับหรือขอรับ ลูกเพิ่งกินลูกจันทน์เสร็จเทียว กินข้าวต่อเลยก็ได้จ้ะ”

           “จ้ะ แม่ม้วนไปเรียกนางเล็กๆมาตั้งสำรับเสียไป”สมัยเมื่อก่อน ตอนท่านเจ้าคุณคู่ชีวิตของหล่อนยังอยู่นั้น ท่านให้แต่บ่าวแก่ๆขึ้นมาบนเรือน หล่อนจะได้สบายใจ แล้วท่านก็ไม่เคยมีนางเล็กๆที่ไหนให้หล่อนช้ำใจเลยสักคนเดียว...แต่พอท่านเจ้าคุณเสีย และลูกชายหล่อนกลับมาอยู่เรือน หล่อนก็เปลี่ยนให้นางเล็กๆขึ้นมาเสียทั้งหมด หล่อนอยากมีหลาน...บ้านนี่มีแต่ลูกชายหล่อนเงียบเหงาเหลือเกิน หากมีเสียงเด็กเล็กๆวิ่งเล่นกันบ้างคงจะดีไม่น้อย

           สักพักก็มีสาวๆรูปร่างแน่งน้อยนุ่งผ้าแถบบางเบาสีน้ำตาอ่อน เต้านมแทบจะทะลักออกมาเสียทั้งเต้าเดินยกสำรับขึ้นมาบนเรือน ถึงคุณหญิงจะขัดใจแม่พวกนี้อยู่บ้างที่นุ่งผ้าเจียนหลุดปานนั้น แต่หล่อนก็ยังอยากได้หลานน่ารักๆสักคนอยู่ดี

          “บ่าวของคุณแม่นุ่งผ้าหมิ่นเหม่ไปเยอะเทียวนะขอรับ”เสียงลูกชายเปรยขึ้นเบาๆ ส่วนแม่สาวน้อยที่กำลังก้มหน้าวางสำรับได้แต่เอียงอายหน้าแดงซ่าน หล่อนอาจจะตกถังข้าวสารก็ได้นี่นา ใครๆที่ครัวก็พากันพูดว่าถ้ามีโอกาสขึ้นมาบนเรือนให้แต่งตัวงามๆ เผื่อคุณหลวงท่านจะต้องใจ

         “หรือจ้ะ แหม... แม่พวกนี้คงรีบร้อนกระมังจ้ะลูก อย่าไปถือโทษบ่าวมันเลย หรือลูกถูกใจแม่จะได้ให้พาขึ้นมาสักคน”

          “โธ่ คุณแม่ขอรับ ลูกหาใช่สมภาร”

           “แต่แม่อยากมีหลาน...”

           “ไปหารับเด็กจากบ้านอื่นที่เขาเลี้ยงไม่ไหวมาเลี้ยงไว้ดีหรือไม่เล่าขอรับ? ลูกจะรับเป็นลูกของลูกเสีย ถ้าคุณแม่พึงใจเด็กคนไหนลูกก็จะรับคนนั้น ดีหรือไม่ขอรับ?”

           “ใครเขาจะยกลูกเขาให้เราได้ง่ายดายปานนั้นลูก?”

           “ลูกจะลองถามคนที่กรมดู ดีหรือไม่เล่าขอรับ?”

            “เอาๆ ตามใจพ่อนพเถอะ หาหลานมาให้แม่ให้ได้แล้วกัน แล้วเอาลูกเขามาเลี้ยงแล้วจะเอานมที่ไหนให้เด็กมันกิน”

             “หาแม่นมสักคนให้ลูกคนแรกของคุณหลวงนพเทพอัคราคงไม่ยากเย็นถึงปานนั้นดอกกระมังขอรับ”
เห้อ... สงสัยเขาต้องไปหาเด็กมาให้ได้สักคนแล้วซี หากแต่ว่าจะไปหาจากที่ไหนกันเล่า...


             ไปวัดดูสักทีจะดีหรือไม่นะ ไปไหว้พระทำบุญเสียบ้าง เรื่องปวดหัวจะได้น้อยลงเสียที คุณหลวงหนุ่มทอดถอนใจ มือขาวผ่องได้แต่เปิดอาหารตรงหน้าเข้าปากช้าๆ กิริยาเนิบนาบงดงามจนนางเล็กๆที่นั่งรอท่าอยู่ไกลๆได้แต่มองตาค้าง...โอ้ย อยากจะตกใส่ถังข้าวสารของคุณหลวงเสียจริงๆ!!


              “มีเรื่องทุกข์ใจอันใดมาหาอาตมาได้เล่าโยม”หลวงตาทอดสายตาเมตตามาที่คุณหลวง วัดที่เขามาไม่ใช่วัดระฆังที่คุณหญิงแม่ชอบไปบ่อยๆ ที่นี่เป็นวัดใกล้ๆท่าน้ำบ้านเขานี่เอง พายเรือมาสักเดี๋ยวก็ถึงท่าน้ำของวัดแล้ว เขาชอบมาอุปถัมภ์วัดนี้เป็นพิเศษตั้งแต่กลับมา เพราะบังเอิญได้มาหลบฝนแล้วได้สนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสที่นี่ ท่านรอบรู้นัก...

              “เรื่องคุณแม่กระผมน่ะขอรับ ท่านอยากได้หลานแต่กระผมไม่อยากแต่งงาน”

              “อย่างนั้นหรือ? เหตุใดโยมไม่อยากแต่งงานออกเรือนไป มีคนมาใช้ชีวิตร่วมกันกับโยม มาคอยบรรเทาทุกข์โศกบ้าง ไม่ดีหรือ?”

              “ก็คงเหตุผลเดียวกับที่หลวงพี่บวชอยู่กระมังขอรับ”เจ้าอาวาสวัดนี้อายุยังน้อย ดูไปราวๆสามสิบกว่าๆเท่านั้นเอง แก่กว่าเขาเพียงไม่กี่ปี

             “อย่างนั้นหรือ แล้วโยมวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อ?”

              “คงรับเด็กสักคนมาอุปถัมภ์แล้วให้เขาเรียกกระผมเป็นพ่อกระมังขอรับ”

             “โยมไม่กลัวไปพรากพ่อพรากแม่เขาหรือ...เป็นบาปนะโยม”

         “โธ่ หลวงพี่ เช่นนั้นกระผมจะทำอย่างไรได้เล่าขอรับ”

         “โยมอยากได้ลูกชายหรือลูกสาว?”หลวงพี่ถามฉันเบาๆ ท่านพูดราวกับว่า...จะหาลูกให้ฉันได้อย่างนั้นแหละ ถ้าเป็นลูกชายคุณแม่คงชอบใจมากกว่า

          “ลูกชายขอรับ คุณแม่ท่านคงจะชอบใจมากกว่า”หลวงพี่หลับตาลงชั่วครู่ ราวกับคิดอะไรบางอย่างไม่ตกดี

           “อาตมามีน้องสาว...”

            “ขอรับ?”

            “หล่อนตั้งคลอดเด็กออกมาทีเดียวกันสามคน...หัวแดง...พ่อมันเป็นฝาหรั่ง แล้วก็ทิ้งน้องฉันไปเสียแล้ว ตัวแม่มันเองพอคลอดเสร็จก็ทนเจ็บไม่ไหว อีกสองสามวันถัดมาก็เสียไป นี่อาตมาเพิ่งไปสวดศพให้น้องเสร็จเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง เรามีกันสองพี่น้อง พอฉันทิ้งน้องมาบวช หล่อนก็อยู่คนเดียว ถึงได้ทำงามหน้ากับฝาหรั่งได้ คุณหลวงจะรังเกียจเด็กพวกนั้นหรือไม่เล่า?”

          “สามคนหรือขอรับ”ฉันทวนคำหลวงพี่เบาๆ บ้านฉันคงคึกคักขึ้นเยอะถ้ามีเด็กสามคนมาเจี๊ยวจ๊าวอยู่ในบ้าน


            “สามคน แต่คุณหลวงจะเอาไปสักคนก็ได้ ตอนนี้ก็เหลือแค่อาตมานี่แหละที่จะเลี้ยงเจ้าเด็กพวกนี้”

           “ถ้ากระผมจะขอรับไปเป็นลูกเสียทั้งสามคนจะได้หรือไม่ขอรับ?”

           “สามคนเทียวหรือ??”

            “ขอรับ หรือหลวงพี่ขัดข้องอันใดหรือไม่ขอรับ”

             “เปล่าดอก อาตมาเองก็ยังคิดไม่ตกว่าจะเลี้ยงดูอย่างไร แต่โยมเป็นชายโสดจะรับเด็กไปเสียทั้งสามคน จะเลี้ยงไหวหรือ?”

              “ไหวซีขอรับ กระผมน่ะคุณหลวงนพเทพอัคราเชียวนา จะเลี้ยงดูเด็กสามคนให้ดีไม่ได้เชียวหรือ?”

             “เอาเถอะๆ ถ้าโยมว่าอย่างนั้น เด็กพวกนั้นอยู่ในกุฏิอาตมานี่เอง”

             “ไว้เย็นๆกระผมจะมารับแล้วกันขอรับ คงต้องกลับไปเตรียมที่อยู่ให้หลานของหลวงพี่เสียก่อน”

              “เอาๆ เอาไงเอากัน อย่างไรเสียมันก็หลานอาตมา มันได้อยู่ที่ดีๆอาตมาก็ดีใจ”





             “พ่อทีป์จ๋า เมื่อไรจะมาหาพี่...”

              “ใครน่ะคุณเป็นใคร...”ผมกลับมาอยู่ในความฝันนี่อีกแล้ว ผมได้แต่ห่อตัวลงตรงกลางห้อง ผมกลัว...กลัวว่าผมจะหลุดไปอยู่กับเขาจริงๆ เขาเป็นใครก็ไม่รู้ แต่ทำไมใจผมถึงเต้นเร้าๆ อยากจะให้ผมเดินผ่านประตูเข้าไปในโลกของเขา...



               “ทีป์ๆ มึงหายไปไหน ไอ่เหี้ยทีป์ ออกมานะเว้ย”เสียงตะโกนของตฤณดังขั้นในตอนเช้าของอีกวัน เขากลับมาจากราวน์วอร์ดพร้อมธามแล้วนมนุ่มนิ่มก็มาบอกว่าทีป์หายไป ไม่มีร่องรอยอะไรเลย ข้าวของยังอยู่ครบทุกอย่าง
มีแต่เจ้าตัว...ที่หายไป

                “ฮือออ ไอ่ทีป์กูไม่สนุกนะเว้ย ออกมาสิวะ มึงหายไปไหน”เขาร้องไห้จนน้ำตานองหน้าไปหมด ส่วนธามนั้นรีบโทรแจ้งตำรวจท้องที่ แล้วก็แยกกันตามหาไอ่ทีป์

        แต่ไม่มีเลย
           ไม่มีร่องรอยอะไรเลย...
               เพื่อนรักของเขาหายไปไหนกัน...








----------------------------------------
ไม่รู้ยังมีคนตามอ่านอยู่หรือเปล่า TT แต่ขอโทษนะคะที่คนเขียนหายไปนานมาก ปัญหารุมเร้าหลายอย่างอ่ะค่ะ TT
แต่จากนี้ไปจะพยายามมาแต่งให้ได้มากขึ้นนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2014 20:36:06 โดย infernoA »

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
                       พยับที่ ๔



          เย็นย่ำแล้ว เสียงสกุณาแว่วมาแต่ไกลๆ คุณหลวงหนุ่มสั่งให้บ่าวไพร่ตระเตรียมเรือไว้รอท่าตัวเองที่กำลังวุ่นวายกับการจัดการหาที่อยู่ที่นอนให้ลูกชายฝาแฝดที่กำลังจะไปรับมา...ฝาแฝดสำหรับสยามมิได้มีให้เห็นบ่อยนัก...แต่คงไม่แปลกอันใดเพราะเด็กสามคนนั้นมีพ่อเป็นอีหรอบหัวแดงที่คงจักมาลงเรือทำอันใดสักอย่างแล้วปล่อยไข่ทิ้งไว้...

          น่าสงสารก็แต่น้องสาวของหลวงพี่....

          คงถูกอ้ายอีหัวแดงพวกนั้นหลอกลวงเอา


          คุณหลวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็นั้นแลหากว่าพ่อของเด็กสามคนไม่ทิ้งไป แม่ของเด็กๆพวกนั้นไม่ได้ตายจาก เค้าจะมีโอกาสได้มีลูกหรือ??

          “พ่อนพ”เสียงคุณหญิงแขไขดังขึ้นเบาๆเมื่อขยับร่างกายอวบอ้วนมาอยู่ข้างกายลูกชายตนได้ นางทั้งรักทั้งห่วงลูกชายคนนี้ยิ่งนัก...พ่อนพน่ะ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เจ้าพระยาเทพอัคราทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า สามีของนางสิ้นบุญไปเสียนานแล้ว นางเล็กๆที่เคยเลี้ยงดูไว้ก็ใช่ว่าจะไม่มี ลูกเต้าของคนพวกนั้นก็ยังเลี้ยงดูอยู่ด้วยเห็นว่าเป็นลูกของสามีตน แต่ไม่เคยให้ขึ้นเรือนมาให้เห็นหน้าเสียเลย ด้วยไม่อยากให้ลูกชายขุ่นข้องหมองใจ...นางรู้ดีตั้งแต่พ่อนพเล็กๆ ลูกชายของนางเกลียดพวกเจ้าชู้หลายใจเยี่ยงพ่อของเขายิ่งนัก หากแต่คุณหลวงหนุ่มก็ยังรักแลเคารพพ่อของตนเสมอ...แลมิเคยไประรานลูกของนางเล็กๆพวกนั้น ยามนี้เด็กสาวหลายคนที่เป็นลูกของสามีเธอก็เติบใหญ่ขึ้น...เฮ้อออ หวังว่าลูกชายของนางจะไปคว้าเด็กพวกนั้นมาทำเมีย อย่างไรเสียก็พ่อเดียวกัน

          “ว่ากระไรขอรับคุณแม่”

          “หาแม่นมได้หรือยังลูก? แม่เห็นเมียอ้ายทัดมันเพิ่งคลอดลูกมิใช่หรือ ให้มันมาเลี้ยงลูกอยู่เสียที่เรือนนี่ดีหรือไม่ หลานแม่จะได้มีนมกิน”

          “จริงด้วยขอรับ ลูกก็ลืมคิดถึงเมียอ้ายทัดไป มิใยกลัดกลุ้มเสียนมนาน คุณแม่ขอรับ...หากลูกได้เจอเนื้อคู่เป็นผู้ชายเสียแล้ว คุณแม่จักรังเกียจลูกหรือไม่ขอรับ?”คุณหลวงหนุ่มมองหน้ามารดาของตนนิ่ง เขากลัวเหลือเกิน หากว่าวันใดการณ์ได้เป็นไปอย่างที่หลวงพ่อวัดระฆังทำนายเสียแล้ว คุณแม่จักรับไม่ได้ขึ้นมา เขาหาได้สนใจสายตาผู้อื่นมากมายนักดอก หากแต่อยากให้เพียงคุณแม่เข้าใจ หากว่าการณ์นั้นมันจักเป็นจริงดังว่า แม้นเขามิเคยหมายมาดในกายชายผู้ใดในสยามนี้เลยก็ตาม

          “ไฮ้! แม่จักไปรังเกียจลูกในไส้ของแม่ได้อย่างไรพ่อทีป์ เรื่องมันยังมิเกิด ใยต้องไปคิดให้มากมายเยี่ยงนั้นฤๅลูก”

          “กระผมเพียงเกรงว่ามันจักเกิดเท่านั้นเองขอรับ คุณแม่ขอรับ ลูกของลูกให้เขานอนเสียกับลูกได้หรือไม่ขอรับ?”

          “ทำเยี่ยงนั้นได้เยี่ยงไรเล่าพ่อทีป์ แต่ไรมาก็มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นดอกลูกที่เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าอยู่บ้าน พ่อทีป์ยังมีงานราชการต้องสะสาง หากจุดตะเกียงจนดึกดื่นเสียแล้วหลานแม่จักหลับได้เยี่ยงไรเล่า?”

          “กระผมเพียงแต่ไม่อยากไปหาเด็กมาเพื่อเป็นภาระคุณแม่เท่านั้นเองขอรับ ด้วยตัวลูกเองก็หาได้ออกเรือนไม่”

          “พ่อนพรักใครแม่ก็รักดอกจ้ะ เริ่มค่ำแล้วนาลูก รีบไปรับหลานแม่มาเถิด หากค่ำกว่านี้น้ำค้างลงจะพาลไม่สบายเอาทั้งพ่อทั้งลูก”

          “ขอรับคุณแม่ กระผมจักรีบไปรีบมา เกรงว่าใครแถวนี้จักร้อนใจอยากเห็นหน้าหลานไวๆ”

          “ช่างพูดนะยะเจ้าลูกคนนี้”คุณหญิงแขไขค้อนใส่ลูกชายตัวเองวงเบ้อเร้อ ก่อนจะพากันเดินออกจากยกพื้นที่ทำงานของคุณหลวงไป



          “อ้ายคม เอ็งรีบพายเข้า กระเดี๋ยวจักมืดค่ำไปเสียกว่านี้ คุณแม่จักไม่สบายใจ”เมื่อคุณหลวงขึ้นนั่งบนเรือเรียบร้อยก็ร้องสั่งนายคมเสียงดัง

           “ขอรับ”เสียงพายกระทบน้ำดังขึ้นเบาๆ ด้านท้ายมีคนคัดท้ายเรืออีกคนหนึ่ง แต่คุณหลวงหาได้สนใจเจ้าผู้นั้นมากมายนัก ด้วยมิเคยได้เสวนาด้วย ต่างจากนายคมที่เคยได้รับใช้คุณหลวงบ่อยๆ

          “ถึงแล้วขอรับคุณหลวง”เพียงเวลาหนึ่งก้านธูปก็มาถึงท่าน้ำวัด คุณหลวงเดินลงเรือมา ยามน้ำท้องฟ้าเริ่มเป็นสีส้มจัด คุณหลวงหนุ่มได้แต่เพียงคิดในใจว่า เห็นทีต้องรีบกลับเสียแล้ว พลันสายตาคมที่ทอดมองไปยังท้องฟ้าฝั่งตรงข้างกับท่าน้ำวัดก็

          สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง...

          เงาตะคุ่มๆลอยอยู่ในแม่น้ำฝั่งตรงข้าม...

          เหมือนของชิ้นใหญ่... 

          คุณหลวงเพ่งสายตามองสักครู่ ก่อนจะผงะอ้าปากค้าง ร้องสั่งนายคมอย่างรวดเร็ว



          “อ้ายคมๆ เอ็งเห็นหรือไม่ นั่นคนหรือไม่วะเอ็งดูที”

          “กระผมว่าน่าจักเป็นคนขอรับ คุณหลวงจักให้ไปช่วยขึ้นมาหรือไม่ขอรับ?”

          “ไปซี เอ็งจักรอช้าอันใด กระเดี๋ยวมันได้ตายเสียก่อน”

          “ขอรับ”นายคมรับคำรวดเร็วก่อนจะถกโจงกระเบนให้เป็นถกเขมรแล้วว่ายน้ำไปยังร่างนี่นอนติดตลิ่งอยู่ตรงนั้น ในใจพลันสงสัย มาได้อย่างไรกัน เมื่อกี้เขาพายเรือมาไม่ยักเห็นใครสักคน เพียงชั่วเวลาที่คุณหลวงลงเรือไปที่ท่า เจ้าคนนี้ดันมาติดอยู่ริมตลิ่งเลยอย่างนั้นหรือ?

          คิดไปคงไร้ประโยชน์อันใด เขาเป็นเพียงทาส มิสมควรจักยุ่งเรื่องของเจ้านาย...

          “มันยังหายใจหรือไม่อ้ายคม”เสียงตะโกนข้ามฝั่งน้ำ เมื่อเห็นบ่าวของตนไปถึงร่างนั้น

          “ยังหายใจอยู่ขอรับ กระผมจักลากกลับไปเดี๋ยวนี้แล้วขอรับ”นายคมเอาแขนตัวเองลากร่างที่ยังนอนแน่นิ่งมาจนถึงท่าน้ำวัด

          “เอ็งกับเจ้าคนคัดท้ายนั่น ไปตามมาที่เรือนกูเสีย เสร็จแล้วจึงค่อยมารับกู ฝากเรื่องกับบ่าวแถวท่าน้ำไปรายงานคุณแม่เสียด้วย กระเดี๋ยวท่านจะเป็นห่วง

          “ขอรับ”บ่าวทั้งสองรับคำแล้วรีบเร่งพายเรือออกไป ส่วนคุณหลวงได้แต่โอบประคองแขนเรียวๆของเจ้าหนุ่มที่เพิ่งให้บ่าวไปช่วยขึ้นมาจากลำน้ำไว้ที่คอ แล้วเข้าไปรอบ่าวพร้อมทั้งรับขวัญลูกชายทั้งสามคน


          “หลวงพี่ขอรับ กระผมมาแล้วขอรับ”คุณหลวงหนุ่มพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงนั้นให้ไปนอนอยู่เสียที่ใต้กุฏิของเจ้าอาวาส พลางเดินมาที่หน้าบันไดร้องเรียกเจ้าอาวาส

         “มาแล้วหรือคุณหลวง ขึ้นมาก่อนซี กระเดี๋ยวอาตมาจักผูกข้อแขนให้เสียก่อน”

         “กระไรนะขอรับ ผูกให้กระผมหรือ?”คุณหลวงมุ่นหัวคิ้วน้อยๆ หากแต่ก็ยอมเดินขึ้นนั่งพับเพียบแต้อยู่บนกุฏิ

         “ส่งมือมาซี คุณหลวงนี้กระไร มิเคยผูกแขนหรือ?”เสียงสัพยอกเบาๆดังขึ้นเมื่อคุณหลวงเอาแต่นั่งจดจ้องเด็กน้อยสามคมที่ถูกห่อไว้ในผ้าสีหม่นๆ

         “จะผูกให้กระผมจริงๆหรือขอรับ?”

         “เหตุใดจักไม่ได้เล่า?”

         “กระผมโตปานฉะนี้แล้ว มิคิดว่าจักมีผู้ใดมาผูกข้อแขนให้อีก คราแรกกระผมคิดไว้ว่าคงได้ผูกตอนออกเรือนเสียทีเดียว”

         “ตอนนี้ก็ผูกได้ ส่งข้อมือมาซี เสร็จแล้วคุณหลวงจักได้ผูกแขนรับขวัญหลานอาตมาอย่างไรเล่า”

         “ขอรับ” คุณหลวงยอมส่งแขนไปตรงหน้าเจ้าอาวาสโดยดี ท่านบริกรรมคาถาบางอย่างอยู่ชั่วครู่ก่อนจักผูกด้านสายสิญจน์ที่ขมวดปมตรงกลางแล้วเข้ากับข้อมือของคุณหลวง

         “เอ้า เสร็จแล้ว รอสักกระเดี๋ยวนาอาตมาจักทำสายสิญจน์เจ้าตัวเล็กให้”

          “ขอรับ”ว่าแล้วเจ้าอาวาสก็ยกสายสิญจน์ขึ้นมาทั้งม้วนโตๆ ก่อนจะบริกรรมคาถาเสียยาวยืด ก่อนตัดแบ่งเป็นเส้นเล็กๆสามเส้นให้คุณหลวงหนุ่ม

          “เอ้า เอาไปผูกรับขวัญเสีย”คุณหลวงยิ้มมุมปากน้อยๆ รับสายสิญจน์มาผูกให้เด็กทารกหัวแดงๆที่ยังนอนหลับสนิทกันอยู่
         
          “กระผมคงต้องรอให้อ้ายคมมันมาตามเสียก่อนขอรับถึงจักออกไปที่ท่า”

          “รอกระไรหรือ อาตมานึกว่าคุณหลวงจะพาหลานอาตมากลับเรือนไปเดี๋ยวนี้เสียอีก”

          “ให้มันไปตามหมอมาที่เรือนขอรับ กระผมช่วยคนได้ผู้หนึ่ง นอนอยู่ใต้กุฎินี่เองขอรับ”

          “อย่างนั้นหรือ เอ้า อย่างนั้นคุณหลวงไปดูคนที่ช่วยมาเสียก่อนเถิด กระเดี๋ยวอาตมาจะดูหลานไว้ให้ อย่างไรเสียก็เลี้ยงมาได้ถึงสามเดือนแล้ว หาได้ลำบากอันใด”

         “ขอรับ”คุณหลวงกราบเจ้าอาวาสแล้วเดินลงกุฏิมา

         “อือ..”เสียงครางเบาๆดังมาจากร่างที่นอนแผ่อยู่บนแคร่ คุณหลวงเพียงขมวดคิ้วแล้วก้าวเข้าไปนั่งเสียริมแคร่ มองหน้าคนที่ตนช่วยมาได้

          คุ้นเคยเหลือเกิน...

          ใบหน้าขาวจัด ริมฝีปากแดงเรื่อๆ จมูกโด่งคมไม่ต่างจากเขาเท่าไร แต่แต่งกายประหลาด...

          นุ่งผ้าเหมือนคนที่เขาเคยเห็นยามหลับฝัน...

          ที่ๆเขาคุ้นเคยดี เรือนของเขา แต่ทุกอย่างกลับแปลกตา

          เรือนไม้หลังงามที่เก่าครึ สีเริ่มหลุดล่อน...


          “นะ...หนาว”เสียงครางแผ่วๆดังขึ้นอีกครั้ง พลันร่างนั้นก็ตะแคงพลิกตัวไปเสียอีกทาง ขดตัวแน่น คงจะหนาวมากจริงๆกระมัง? คุณหลวงหนุ่มทำได้เพียงรั้งร่างนั้นมานอนใกล้ๆตัว ปากสีแดงเรื่อๆเมื่อครู่เริ่มซีดลงเรื่อยๆ ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว เกรงว่าคงจะหนาวยิ่งกว่าเดิมเข้าเสียแล้วกระมัง...

           จักทำอย่างไรดี...
            กอดอย่างนั้นหรือ...
           ไม่มีวันดอก เขาจักไปกอดผู้ชายได้อย่างไร คุณหลวงถอนหายใจเบาๆ ในใจภาวนาให้บ่าวของตนมารับเสียที จักได้พา    เจ้าหนุ่มนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย...


           “คุณหลวงขอรับกระผมมาแล้วขอรับ”เสียงอ้ายคมตะโกนมาแต่ไกลๆ คุณหลวงจึงขึ้นกุฏิไปลาเจ้าอาวาส อุ้มเด็กน้อยสามคนที่ถูกจับใส่ไว้ในห่อผ้าคาดบ่าลงมา

           “อ้ายคม เอ็งมาพยุงเจ้าหนุ่มนี่ไปที ข้าจักพาลูกข้าไปที่เรือเสียก่อน”

           “ขอรับ”นายคมรีบวิ่งทั่กๆมาพยุงร่างอ่อนเปลี้ยของชายหนุ่มที่เจ้านายเขาใช้ให้ไปลากมาจากน้ำเดินตามเจ้านายของตนไป

           “พ่อนพมาแล้วหรือ แม่ร้อนใจแทบแย่ คนเจ็บอยู่ในลูก แม่จักให้บ่าวมันพาไปเสียที่เรือนนก หมอก็มารออยู่แล้ว”

            “อยู่ในเรือขอรับ ลูกสั่งให้อ้ายคมพาลงมา กระเดี๋ยวคงได้เห็น นั่นกระไรขอรับ เดินมาโน่น”คุณหลวงตวัดสายตาไปทางท่าน้ำที่เห็นเงาตะคุ่มๆสองร่างเดินมา พร้อมหิ้วปีกคนที่อ่อนปวกเปียกไว้ตรงกลาง

             “อ้ายคม พาเขาไปเสียที่เรือนนก ส่วนพ่อนพ ส่งหลานมาให้แม่ก่อนลูก แม่จักพาไปนอนเสียเอง ลูกไปดูคนเจ็บเถิด”

             “ขอรับ”คุณหลวงปลดห่อผ้าออกจากกาย ส่งให้คุณหญิงแขไข และเมียอ้ายทัดบ่าวคนสนิทที่มารอรับอยู่ที่ท่าพร้อมกัน

             
             “เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

              “เห็นทีจักเป็นไข้จับสั่น เห็นบ่าวที่พามาบอกว่าช่วยมาจากน้ำหรือ”

              “ถูกแล้ว”คุณหลวงยืนอยู่ที่หัวเตียงสายตาทอดมองร่างที่ยังนอนนิ่ง แต่เสื้อผ้าถูกผลัดเปลี่ยนไปแล้ว บ่าวในบ้านเขาคงมาจัดการผัดให้ตามคำสั่งคุณแม่

               เสื้อคอจีนสีขาว กางเกงแพรสีน้ำเงินเข้ม...

                     เจ้าหนุ่มนี่หล่อเหลาเอาการอยู่...

          “ฉันจะเขียนเทียบยาให้ คุณหลวงให้บ่าวไปหามาต้มเถิด กินจนหมดหม้อน่าจักหายขาด”

          “อืม อ้ายคม เอ็งรับเทียบยาแล้วก็ไปให้เขาหามาเสีย ไปส่งหมอด้วย”

          “ขอรับ”หมอที่อ้ายคมตามมายังคงนั่งเขียนเทียบยาอยู่ชั่วครู่ ก่อนส่งกระดาษใบน้อยให้นายคม

          “เช่นนั้นกระผมคงต้องลาคุณหลวงแล้ว”

          “อืม”เสียงทุ้มตอบแบบขอไปที เมื่อหมอและอ้ายคมออกไปแล้ว จึงไปลากเก้าอี้มานั่งแหมะลงเสียข้างเตียง สายตายังคมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้านั้นมิได้ห่างหายไปไหน...

                        คุ้นเคย...
                       แต่นึกไม่ออกเสียทีว่าเป็นผู้ใดกัน...
                     คุณหลวงพินิจใบหน้าที่เริ่มขาวซีดดูอีกครา...
                  เอ็งคือผู้ใดกัน...


          “หนาว...”คุณหลวงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลุกไปคุ้ยหาผ้าห่มนวมผืนหนามาคลุมร่างบนเตียงเสียจนเกือบมิด นอนไปเถอะเอ็ง



           ผมปวดหัวชิบหายเลยครับตอนนี้...
           แม่งกูอยู่ไหนวะเนี้ย อากาศหนาวชิบหายตาห่า แล้วนั้นใครไม่ได้ปิดก๊อก เสียงน้ำหยดเปาะแปะๆ เซอร์ราวน์รอบตัวเลยทีเดียว...

          เดี๋ยวนะ รอบตัวเหรอวะ?

          เพดานไม่คุ้นตา มองไปเห็นหลังคาสูงๆ กับม่านมุ้งบางๆที่แผ่คลุมเตียงนี่อยู่...

           ที่นอนแข็งสัสหมา

           หมอนก็แข็ง...

           ยังดีที่ผ้าห่มยังพอนุ่มบ้าง กลิ่นแปลกๆ ไม่เหมือนกลิ่นที่บ้าน...

            หอมเย็นๆ

             “ตื่นแล้วหรือ”

           “ห้ะ??”เสียงใครวะ นี่กูก็บ้าจี้ตอบรับเขาไปแบบไม่มีสะดุดคิดสักนิดเดียว...

           “ยังหนาวอยู่หรือไม่?”

           “หนาว”แล้วไอ่ตัวคนแม่งอยู่ไหนวะ เหมือนได้ยินเสียงมาจากมุมห้อง ไม่รู้ว่าเป็นใครด้วย แล้วไอ่ตะเกียงที่ไหววูบวิบวับอยู่ข้างตัวกูนี่อะไร๊ นี่หลุดมาเป็นตัวประกอบในหนังพีเรียดของช่องหลากสีปะวะ!??

           “รอสักเดี๋ยว ฉันให้บ่าวไปเอายากับข้าวต้มมาให้ เอ็งชื่อกระไร” เดี๋ยวๆๆๆ นี่มึงใช้ภาษาโบราณไปมั้ย แล้วนี่กูอยู่ส่วนในของโลกวะ!!

           “ชื่อทีป์ นภทีป์ ที่แปลว่าเมฆเคยได้ยินไหม?”

           “ชื่อเอ็งแปลก”ไอ่นี้ ยังไม่เลิกพูดจาโบราณๆใส่กูอีก แถมไม่โผล่หน้ามาให้เห็นด้วย เฮ้ออออ สุดท้ายเลยได้แต่ยันตัวเองมาพิงหัวเตียง รู้สึกไร้เรี่ยวแรงแปลกๆแฮะ...

           “ว่าแต่คุณชื่ออะไร”

           “ฉันชื่อนพ เอ็งมาจากไหน ทำไมถึงไปลอยอยู่ริมน้ำได้ เมาหัวราน้ำหรือกระไร”

           “บ้าสิ ผมไม่ค่อยถูกกับเหล้า ผมมาจากกรุงเทพฯ แล้วที่นี้ที่ไหน?”

           “กรุงเทพฯน่ะซี ข้าหมายถึงเอ็งเป็นลูกบ้านไหน จักได้ให้เขาพาไปส่ง”

          “เดี๋ยวนะ ทำไมคุณต้องพูดจาสำเนียงโบราณขาดนี้ด้วยวะ?”

           “โบราณอันใด คนอื่นเขาก็พูดจากันแบบนี้ เอ็งน่ะซีที่พูดแปลกแยกไป”

          “ห้ะ?? เดี๋ยวนะคุณ นี้มันยุค 2014 นะครับ ใครเขาพูดแบบคุณกันวะ?”

          “เพ้อเจ้อไปใหญ่เทียว นี้ร.ศ.111”

          “อะไรนะ??”เหยดดดดดด มึงอย่ามาหลอกลวงกูเลย ถึงกูไม่ได้ฉลาดมาก แต่ก็ไม่โง่นะเว้ย นี้หลุดเข้ามาในโลกลิเกที่ไหนปะเนี้ย??

          “ร.ศ.111 เอ็งวิปลาสเสียแล้วกระมัง”

         “บ้าพ่องสิ ปกติดี...เอาจริงๆนี่ร.ศ.111 จริงๆเหรอ?”

         “ถูกแล้ว นี่ก็เรือนฉัน แต่ที่เอ็งอยู่นี่เขาเรียกเรือนนก ทำแยกออกมาจากเรือน เอาไว้แขวนกรงนกไว้รอบๆชายคา”

         “ผมไม่ได้ยินเสียงนก”

         “ปล่อยไปหมดแล้ว คราแรกที่เรือนนกหาได้มีผู้ใดอยู่”

         “แล้วคุณจะสร้างไว้ทำไม”

           “เจ้าคุณพ่อชอบเลี้ยงนกมากเท่านั้นเอง เอ็งยังไม่ตอบว่าเอ็งมาจากไหน”ผมขมวดคิ้วแน่นขึ้น จะให้กูตอบไงวะ มากจากอนาคตอีกสองร้อยกว่าปีข้างหน้าวะครับ นี่กูได้โดนไล่กระทืบ ไม่ก็จับส่งไปอยู่ข้างถนนเพราะเป็นคนบ้าน่ะสิ

           “กรุงเทพฯ ผม...”จะบอกดีมั้ยวะ เขาจะเชื่อกูมั้ย? เฮ้ออ เป็นคนหล่อนี้มันก็มีเรื่องให้ลำบากเหมือนกันเว้ย

          “อะไร?”

          “มาจากอนาคต อีกสองร้อยกว่าปีข้างหน้ากรุงเทพยุค 2557...”

         “เอ็งวิปลาส”

         “ก็บอกแล้วว่าไม่ได้บ้า ผมมาจากอนาคตจริงๆ”

         “เอาเถอะ อย่างไรเสียเอ็งก็ยังคุยรู้เรื่องไม่เหมือนคนบ้าคนอื่น”เอ๊ะ ไอ่นี่ กูบอกว่าไม่ได้บ้าว้อยยยยยยยยย น่ากระทืบให้มิดตีนจริงๆ

         “คุณหลวงเจ้าคะ ยากับข้าวต้มได้แล้วเจ้าค่ะ”เอ๊ะ นี่ตกลงกูย้อนเวลามาจริงๆใช่มั้ย... เหยดดดดดดด นี่เผลอหลุดไปในลิ้นชักที่มีไทม์แมชชีนของโดเรมอนปะวะ?

         “เอาเข้ามา เดี๋ยวข้าจัดการเอง”

         “เจ้าค่ะ”

          ประตูห้องเปิดออกช้าๆ เห็นแม่สาวหุ่นเอ็กซ์แตกนางหนึ่งประคองถาดเข้ามา โอ้ยย แม่เจ้าโว้ยย นั่นใส่ผ้าแถบแล้วเรอะ ทำไมมันปลิ้นขนาดนั้น แล้วขาขาวๆตามรอยแยกตรงโจงกระเบนนั้นอีก

          ฮึ่ยยย ไม่เอาข้าวแต่เอาเขาแทนได้มั้ยวะ?

         “ออกไปได้แล้ว เรียนคุณแม่เสียด้วย ว่ากระเดี๋ยวฉันจะขึ้นไปรับสำรับพร้อมท่าน”

         “เจ้าค่ะ”แม่สาวหุ่นเซ็กซี่เดินออกไปแล้ว ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ตรงมาที่เตียงนี่แทน


         เหี้ย!!

         นั่นมัน...


         คนเดียวกับในรูปที่ผมเจอกุญแจหีบ

         เจ้าของไดอารี่ที่แอบอ่านเสียหมดเปลือก

          เจ้าของแหวนที่ตอนนี้ติดอยู่ที่นิ้วผมเพราะลองเอามาสวมเล่นๆ...

         คุณหลวงนพเทพอัครา..

         ตัวจริง เสียงจริงด้วย!!






กลับมาแล้วค่ะ >< ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนานมาก ทั้งกิจกรรมทั้งสอบไฟนอลรุมตีไปหมด ตอนนี้เกรดออกแล้ว แล้วก็พักช่วงกิจกรรมเลยมีเวลามาปั่นฟิกเสียที

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๓ 100%
«ตอบ #16 เมื่อ13-04-2014 04:05:08 »

มาต่อแล้ว  :impress2:
ยังรออ่านอยู่เสมอค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า :L2:

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๓ 100%
«ตอบ #17 เมื่อ13-04-2014 08:09:54 »

ตามมาชูป้ายไฟให้คุณหลวงค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ชอบอ่ะ >.<  น้อยทีป์น่ารักมากๆเลย
พี่ธามก็เป็นหมอที่หื่นได้ใจ พี่น้องคู่นี้แสบได้ใจมาก
นายเอกของเราย้อนยุคไปนานเหมือนกันนะเนี่ย
แล้วจะเป็นไงต่อ อยากรู้ๆ มาอัพไวๆนะคะ >.<

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๕
«ตอบ #19 เมื่อ18-04-2014 18:29:09 »

พยับที่ ๕ คุณหญิงแขไข


นภทีป์เบิกตากว้างอยู่อย่างนั้น...

“ตกใจอันใด ฉันเป็นคน!”ปลายเสียงห้วนสั้นบ่งบอกถึงความอารมณ์เสียสุดชีวิต โอเคครับ กูขอโทษ แต่จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงละวะ ก็ไอ่คนตรงหน้าผมเนี้ย มันคนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนนะเว้ย!!

“เอ่อ...เออผมรู้ว่าคุณเป็นคน ที่นี้ที่ไหน?”

“กรุงเทพฯ ฉันบอกไปแล้วมิใช่หรือ?”

“เออๆ อันนั้นผมรู้เว้ย ผมหมายถึงว่าอยู่ตรงไหนของกรุงเทพฯ”

“ถนนราชวงศ์”

“ห้ะ??”นั่นมันพิกัดเดียวกับบ้านผมนิ?? อาจจะคนละหลังก็ได้...ล่ะมั้ง

“งงอะไรของเอ็ง ท่าจักวิปลาสเสียจริงๆกระมัง?”

“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้บ้า เออ ช่างเถอะ”

“ช่างเถอะหมายความว่าอย่างไร?”โอ้ยยยยยย หล่อกลุ้ม หล่อเครียด นี่จะคุยกันรู้เรื่องไหมวะกู ต้องแอ๊บโบราณตามๆเขาไปมั้ย?

“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องนั้นแล้วน่ะ คุณไม่รู้จริงดิ?”

“อันใดคือจริงดิ?”

“โอ้ยยยย ช่างมันเถอะ ว่าแต่ข้าวนั้นผมกินได้หรือยัง หิวจะแย่”ท้องผมนี่แทบจะร้องครวญครางออกมาเป็นเพลงแร็ปแล้วเหอะ หิวชิบหาย

“อ้อ...ฉันเกือบลืมไป กินยาเสียก่อนค่อยกินข้าว”คุณหลวงส่งถ้วยกลมๆเล็กๆมาให้ เห็นน้ำสีน้ำตาลเข้มๆ กลิ่นพิลึกพิลั่นอยู่จนปริ่มขอบถ้วย

“มันขมรึเปล่า?”

“ขม เอ็งเป็นเด็กหรือไรถึงจักกินมิได้น่ะหือ?”

“ชิ”ผมได้แต่ก้มลงมองถ้วยยาในมืออย่างทำใจ ต้องขมสัสๆแน่ๆ เฮ้อออ กินก็กิน ถ้ามันจะทำให้ผมพอสบายเนื้อสบายตัวกว่านี้ได้หน่อยน่ะนะ

“พรูด!!”เป็นฝอยเต็มเตียงเลยครับ ขมเหี้ยๆ ขมสัสหมา!!

“เอ็งพ่นยาทำไม?”

“ขมอย่างห่า ผมก็เผลอพ่นน่ะสิ”

“เฮ้อออ จะหายไหมทีนี้ กินที่เหลือเข้าไปเสียให้หมด อย่าได้พ่นออกมาอีกเชียว หาไม่ฉันจะเอาหวายลงหลัง!”เหวยๆ นี่อยู่ในละครนางทาสปะวะ? มีหวายลงหลังด้วย กูไม่ใช่ทาสของคุณมึงนะครับนะ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงยังไม่รู้ตัวเองเลย เวรจริงๆ

“ครับๆ”ผมพยายามกลั้นใจกรอกยาใส่ปากลงไปรวดเดียว อี๋...ขมสุดๆ ยังขมติดคออยู่เลย แหวะ

“เอ้า กินน้ำเสีย”คุณหลวงรินน้ำใส่ในถ้วยกังไสใบน้อยๆที่เหมือนจะหยิบมาจากแถวๆหัวเตียงให้ผม เออดีๆ อย่างน้อยก็ยังดูแลคนป่วยแบบกูบ้าง

“ขอบคุณครับ”ได้น้ำไปค่อยยังชั่วหน่อย ไม่งั้นผมคงขื่นคอตาย ยาหม้อนี่มันขมจริงๆ

“ทำไมพูดครับ”

“เอ้า ก็ไม่สนิทกันผมก็ต้องพูดสุภาพกับคุณหลวงสิ”

“รู้บรรดาศักดิ์ฉันได้อย่างไร ตั้งแต่พูดกันมาฉันหาได้บอกไม่?”

“เออ...”นี่ต้องตอบยังไงวะ บอกว่ากูรู้อนาคตครับพี่ ได้ถีบส่งผมออกนอกเรือนแหงมๆ เออ...เอาไงดีวะ จริงๆรู้เรื่องมึงโดยละเอียดเลยครับคุณหลวง ของที่ชอบ ไม่ชอบ ขนมที่ชอบกิน อาหารโปรด คือแม่งมีอยู่ในไดอารี่หมดไง ตั้งแต่มันเรียนยันทำงานจนถึงมีคนรัก แต่ไม่เห็นเคยเขียนบอกสักทีว่าคนรักเป็นคนแบบไหนยังไง

“เอออะไร เอาเถิดฉันจักไม่ซักไซ้เอาความ แต่เวลากล่าวกับผู้ใหญ่ให้พูดขอรับ”

“ขอรับ?”

“นั้นแหละ ขอรับ พูดเสียให้ชินปากจักได้มิโดนหาว่าวิปลาสแปลกแยกเข้าใจหรือไม่?”เมื่อกี้ยังด่ากูวิปลาสอยู่เลยนะครับ กูจำได้นะมึง

“ขอรับ ขอรับ”

“ล้อเลียนผู้ใหญ่ไม่ควร”โอ้โห รู้ได้ไงเห้ยว่าเป็นผู้ใหญ่กว่า เห็นอย่างนี้ผมก็ ๒๖ ขวบล่ะเหอะ (ขวบพร่องส์)

“รู้ได้ไงว่าแก่กว่า?”

“ยอกย้อนก็ไม่ควร เอาเถอะ ดูอย่างไรก็รู้กระมัง เอ็งอายุเท่าไหร่ละ?”

“ยี่สิบหก”

“งั้นก็ถูกแล้ว ฉันอายุยี่สิบเก้าแล้ว อีกเดือนสองเดือนก็จักสามสิบเต็ม เยี่ยงนี้เอ็งว่าควรหรือไม่”อื้อหือ มีใครเคยบอกหมอนี่หรือเปล่าว่ากวนตีนหน้าตายสัสๆ แม่งเอ้ยยยยยย แก่ก็แก่สิวะ เชอะ!!



ติ๋ง ติ๋ง

เสียงหยดน้ำกระทบพื้นกระดานดังไปทั่วห้องนอนที่เรียกว่าเรือนนกของผม เออ...จริงๆก็ไม่ใช่ของผมที่ผมมาขออาศัยเขาอยู่นั้นแหละ บรรยากาศเงียบๆ วังเวงๆ หน้าต่างในห้องที่ผมนอนถูกปิดเรียบทั้งหมดทั้งมวล เห็นเขาว่ากันลมเข้ามาโดนตัว เดี๋ยวไข้จะกลับ...เวรกรรมจริงๆ

“ลุกได้แล้วหรือ”

“ยังมั้ง”

“เอ็งช่างยอกย้อน เอาเถิดลุกได้แล้วก็ดี แล้วนั่นทำอะไร”คุณหลวงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังผม พลางชะโงกหน้ามาดูหนังสือในมือผมด้วย ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้ มีบ่าวบ้านนี้มาจุดตะเกียงให้เรียบร้อย เลยค้นๆหาหนังสือในชั้นหนังสือของคุณหลวงเขามาอ่าน นี่จะไม่โกรธที่กูแอบเอาออกมาหรอกใช่มั้ย?

“หนังสือเล่มนี้ของคุณพ่อท่าน อ่านหนังสือเป็นหรือ?”

“เป็นสิ สมัยผมไม่ค่อยมีคนอ่านหนังสือไม่ออกแล้ว”

“เขียนก็เป็นหรือ?”

“เป็นสิ เขาบังคับให้เรียนกันทั้งแหละสมัยผมน่ะ พอจบภาคบังคับแล้ว ก็แล้วแต่ความใฝ่ความอยากกันไปว่าจะไปเรียนต่อทางไหน หรือจะไม่เรียน เลือกได้”

“อย่างนั้นเลยหรือ เอ็งนี้วิปลาสเป็นเรื่องเป็นราวเทียว”

“เฮ้อออ เมื่อไหร่จะเลิกหาว่าผมบ้าสักที ช่างเหอะๆ ว่าแต่คุณหลวงมาทำอะไรที่นี่”

“มาดูคนป่วยซี เอ็งเขียนหนังสือได้จริงๆหรือ”

“เอ๊ะ ก็บอกว่าเขียนได้เขียนได้ ก็ต้องเขียนได้สิครับ เอ่อ ขอรับ ถ้าผมเขียนได้แล้วจะทำไม?”

“เอ็งกลับบ้านเอ็งไม่ได้แล้วใช่หรือไม่?”เออ... กูเศร้าของกูเสร็จแล้วมึงไม่ต้องมาพูดแทงใจดำกูได้ครับว่ากูกลับบ้านไม่ได้แล้วเนี้ย

“อือ ทำไมล่ะ”

“ฉันมีงานให้ทำ...อยากทำหรือไม่? ทำที่เรือน เอ็งจักได้อยู่ที่นี่ต่อได้ไม่ต้องไประหกระเหเร่ร่อน”ออ...จะให้ทำงานแลกที่กินที่อยู่สินะ

“เอาสิ ดีกว่าออกไปจากที่นี้แหละนะ ว่าแต่งานอะไรขอรับ”

“งานคัดลอกหนังสือ”

“อืมๆ เอาสิๆ”

“ไว้เอ็งหายดีเมื่อใด จักให้เขาจัดห้องหับบนเรือนให้ เวลาทำงานจักได้ไม่ต้องเทียวเดินขึ้นลงเรือนให้ลำบาก บางวันฉันก็ทำงานที่เรือน”

“ไม่ต้องไปทำที่ทำงานก็ได้เหรอ?”

“ที่ไหนก็ทำได้ เออ คุณแม่ท่านว่าถ้าลุกได้แล้วจะให้บ่าวมาพาไปอาบน้ำ”

“ที่ไหน?”

“ท่าน้ำ เดินไปเพียงชั่วครู่ก็ถึงแล้ว เตรียมตัวไว้เสีย กระเดี๋ยวฉันจะออกไปเรียกบ่าวให้”

“ขอรับ”เยสสสส ในที่สุดก็จะได้อาบน้ำ ผมทนดมกลิ่นตัวเองมาได้สามวันนี่ก็น่าเหลือเชื่อสุดๆละ ดีที่อากาศยังเย็นๆ ผมจำได้ว่าตอนก่อนมาเพิ่งจะเดือนสิงหา ที่นี่จะเป็นเดือนสิงหาเหมือนกันรึเปล่าวะ? แต่ดูจะเย็นกว่ายุคปัจจุบันเยอะเลย


จ๋อม...

ฮ้า........ สดชื่นสุดๆ ผมจุ่มขันสีเงินลงไปจ้องน้ำขึ้นมาอาบบนท่า เพราะไม่กล้าลงน้ำ กลัวจม บ่าวผู้ชายที่พามายืนรออยู่ไม่ไกลนัก แต่ไม่ได้หันมาดูผมอาบน้ำ เครื่องอาบน้ำที่นี่แปลกดี มะขาม ใยบวบ แล้วก็ไม้อะไรสักอย่างทุบปลายๆจนแตกเป็นฝอยๆ ผมถามบ่าวที่พามาเขาว่าเอาไว้แปรงฟัน แถมยื่นกระปุกอะไรเล็กๆมาให้ผมด้วย บอกว่าให้จุ่มไม้นี่ลงไปแล้วแปรงฟัน ฟันจะได้เรียงแน่นสวย

อ่อ แล้วก็ที่ท่านี้มีแต่เจ้านายในบ้านมาอาบ ส่วนบ่าวทาสต้องไปอาบน้ำอีกท่านึง ท่านี้รอบๆดูมีต้นไม้รกครึ้มบังสายตาได้ดีเลยแหละ ผมเลยอาบอย่างสบายใจได้นิดหน่อย ผมอาบน้ำไปเพลินๆ จนท้องฟ้าเริ่มส้มจัดเรื่อยๆ เลยตัดสินใจว่าควรจะอาบเสร็จได้แล้ว

“เอ็งอาบน้ำนาน”

“คุณหลวงมาแอบซุ่มดูผมอาบน้ำรึไง?”สยองเลยนะเว้ย นี่อย่าบอกว่าอิคุณหลวงเป็นเกย์นะ ไม่นะๆ ถึงพี่แกจะมีกล้าม มีซิกแพ็คหล่อล่ำบึ้กขนาดไหนก็เหอะ

“เอ็งนี่นะ ฉันมารออาบน้ำน่ะซี อาบจนเปื่อยหมดแล้วกระมัง ถ้าไข้กลับขึ้นมาฉันจะหัวร่อให้ฟันหักทีเดียว”หัวเราะยังไงฟันมึงก็ไม่หักหรอก แต่ตอนนี้กูหมั่นไส้จนจะเอาศอกกระแทกปากเนี้ย ไม่แน่อาจจะได้หักสมใจอิคุณหลวง เชอะ!! ก็แค่ดื่มด่ำกับแม่น้ำใสๆหรอก ใสกว่ายุคที่ผมอยู่ ถึงจะหนาวกว่าหน่อยๆก็เถอะ

“กลัวที่ไหนล่ะ เป็นไข้ก็เป็นสิ”

“เอ็งนี่นะ! เออ เอาเถิดฉันคร้านจักหาความเต็มที แล้วคราวหน้าคราวหลังเอ็งก็ลงไปอาบเสียในน้ำ มาถูตัวอยู่บนท่าให้คนจรผ่านไปมาเห็นหรือไร?”

“ผมไม่เห็นจะมีเรือผ่านสักลำ”

“วันนี้ไม่มีหาใช่วันอื่นจักไม่มีไม่ เอาเถิดๆ เอ็งรีบไปผลัดผ้าเสียที่เรือนนก อีกกระเดี๋ยวบ่าวมันคงเอายากับข้าวต้มไปให้”
เฮ้อ...เมื่อไหร่ผมจะได้เลิกกินข้าวต้มวะ เบื่อฉิบ...ข้าวต้มเละๆจืดๆ แถมข้าวยังไม่ได้ขาวจั๊วะด้วย ดูๆแล้วเหมือนข้าวซ้อมมือ ระคายคอสุดๆ


คุณหญิงแขไขทอดสายตาไปที่เรือนนกอยู่นานแล้ว...

เธอนึกสังหรณ์ใจว่าผู้ชายคนนี้ที่ลูกชายเธอช่วยมา...อาจเป็นคนในคำทำนาย

ผู้ชายผิวขาวจัด ริมฝีปากเป็นรูปกระจับสวย จมูกโด่ง คิ้วเข้มคมสัน มองอย่างไรก็หาที่ติมิได้เลย นับว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง...

“แอ้...”คุณหญิงละสายตาจากหน้าต่างมาดูหลานชายตัวน้อยๆที่นอนอยู่ในเบาะนอน เจ้าสามคนนี้น่าเกลียดน่าชัง ตากลมๆ จมูกเล็กๆ ขัดตาอย่างเดียวก็ตรงหัวแดงนี่เทียว

“ว่าอย่างไรจ้ะ คิดถึงย่าหรือ?”คุณหญิงส่งนิ้วมือไปตรงหน้าหลานชาย หยอกเอินกันจนเด็กอีกสองคนตื่น เป็นที่สำราญใจของคนแก่ขี้เหงาอย่างคุณหญิงได้บ้าง

“คุณแม่ขอรับ ลูกเข้าไปได้หรือไม่ขอรับ”

“เข้ามาซี เจ้าตัวเล็กกำลังตื่นทีเดียว”

“งอแงหรือไม่จ้ะลูกพ่อ”คุณหลวงจับเด็กน้อยโยนขึ้นลงเบาๆ เจ้าตัวเล็กหัวเราะเอิ้กอ้ากเสียงดัง จนปลุกพี่น้องฝาแฝดอีกสองคนที่ยังนอนหลับปุ๋ยตื่นมาร้องไห้จ้าเสียงดังลั่นเรือนไปหมด

“แว้...ฮึก”คุณหลวงรีบอุ้มเจ้าตัวเล็กในมือในท่าทางปกติที่คุณแม่เพิ่งสอนเมื่อเย็นก่อนจะกอดปลอบลูกชายตัวน้อยเบาๆ เมื่อเจ้าคนในอ้อมแขนที่เมื่อครู่หัวเราะเอิ้กอ้ากเริ่มร้องไห้ตามพี่น้องฝาแฝด คุณหญิงตะโกนเรียกแม่นมลั่นเรือน ทำเอาวุ่นวายไปพักใหญ่ๆกว่าเด็กน้อยสามคนจะหลับลงได้ เด็กๆยังไม่มีชื่อ คุณหญิงว่าให้ได้สักขวบก่อนค่อยมีชื่อเรียกเสียก็ได้

“หลับเสียที หึๆ ไม่ได้เลี้ยงเด็กมานานแล้วซี พ่อนพก็ไม่ขี้งอแงกับแม่เยี่ยงนี้เสียด้วย”

“คุณแม่คงจะเหนื่อยมาก หากเข้าที่เข้าทางเมื่อใดกระผมจักพาลูกไปนอนด้วยกับกระผมนะขอรับ”เพราะตอนนี้เด็กน้อยยังเด็กเกินไป ยังต้องกินนมจากอกแม่นมที่พาลูกตัวเองมาเลี้ยงดูอยู่บนเรือนเสียด้วยกัน เลยต้องเอาไว้ฝั่งผู้หญิงอย่างนี้ โถ่ ก็จะให้เมียอ้ายทัดไปเปิดเต้านมให้ลูกเขาดูดในห้องนอนของเขามันใช้เรื่องเสียเมื่อไหร่กันเล่า...ไม่รู้เจ้าคนที่นอนอยู่เรือนนกนั่นจะเลี้ยงเด็กเป็นหรือเปล่า ถ้าเลี้ยงเป็นก็คงจักดีไม่น้อย จะได้ใช้งานเสียให้คุ้มค่าข้าวค่าน้ำ...เมื่อคิดถึงตรงนี้ริมฝีปากหยักลึกของคุณหลวงก็ค่อยๆคลี่ยิ้มสวยออกกว้าง

“หึหึ”

“พ่อนพรื่นเริงอะไรถึงเพียงนั้นลูก ไปนอนเสียเถิดไป เดี๋ยวแม่จักเข้านอนแล้ว”

“ขอรับคุณแม่”คุณหลวงกล่าวรับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนของคุณหญิงแขไข ใบหน้าของคุณหญิงเบือนกลับมามองลูกชายคนเดียว...


เธอรู้สึกว่าเสียงหัวเราะเบาๆเมื่อตะกี้ หาได้เกิดจากลูกชายตัวน้อยทั้งสามของลูกชายเธอไม่

หากแต่จะเกิดจากใคร หรืออะไรนั้น เธอก็อาจล่วงรู้อีกเช่นกัน....

นภทีป์ ที่แปลว่าเมฆกระนั้นรึ

หวังว่าเมื่อคล้อยเคลื่อนมาแล้ว อย่าได้เลื่อนลอยลับหายไปจนลูกชายเธอคลั่งใจขึ้นมา

เธอเป็นคนหัวโบราณ...จะว่ารับไม่ได้กับเรื่องลักเพศก็ว่าได้

หากแต่ว่า...

ถ้าเป็นลูกชายของตน แม่คนไหนจักรังเกียจเดียดฉันท์ได้เล่า...

หากคำทำนายของหลวงพ่อวัดระฆังเป็นจริง

เธอคงจักไม่มีหลานในไส้ให้ได้ยล...



วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติ สงสัยแปลกที่...มั้ง

เออจริงๆแม่งก็ไม่ได้แปลกที่อะไรหรอก ผมแค่รู้สึกว่านอนพอแล้วน่ะ ไม่รู้สิ จู่ๆผมก็กลายเป็นคนตื่นเช้า (ชิบหายวายวอด)ขึ้นมาซะเฉยๆ ช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมเหมือนว่าจะหายดีแล้ว ถ้าจะเปิดหน้าต่างคงไม่มีใครว่าหรอก (มั้ง)

“ผลั่ก!”เอ่อ บางทีผมคงเปิดแรงไป ทำเอาคนที่อยู่แถวๆนั้นเงยหน้าขึ้นมาบนเรือนกันหมด

“ขอโทษทีครับ”ผมส่งรอยยิ้มเจื่อนๆไปให้ สงสัยจะทำเสียงดังเกินไปแหะกู...

“ก๊อกๆๆ”

“อ้าวทำไมเปิดหน้าต่าง เดี๋ยวลมพัดไข้จะกลับเอา”

“เออน่าผมไม่เป็นไรแล้ว แล้วคุณมาที่นี่ทำไม? ปกติเห็นมีแต่บ่าวคุณมาส่งข้าวส่งน้ำให้ผมนี่”

“อ้อ...ฉันน่ะรึ ว่าจะมาดูอาการ หายดีแล้วหรือ? ไหนมาดูที”เป็นหมอรึยังไงวะครับ! จริงๆผมก็แค่บ่นไปงั้นแหละสุดท้ายก็สาวเท้าไปยืนอยู่หน้าคุณหลวงอยู่ดี

หมับ..

เอ่อ คุณหลวงครับ กูว่ามันผิดท่าผิดทางไปหน่อยไหมวะครับ จู่ๆพี่แกก็เอามือมาวางทาบบนหน้าผากผมครับ อือ..มันคงจะอยากวัดไข้กูสินะ

“ตัวหายร้อนแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวสายๆจะให้บ่าวมาพาไปบนเรือน ไปกราบคุณแม่ แล้วก็ย้ายไปนอนเสียบนเรือน”

“อือ เอ่อ ขอรับ แล้วนี่คุณจะไปไหน”ผมผละออกมาถึงเพิ่งได้สังเกตว่าคุณหลวงแต่งตัวเต็มยศสุดๆ เสื้อราชประแตน โจงกระเบนผ้าม่วง ถุงน่องสีขาวนั่นก็ด้วย ยังไม่เห็นก็แต่รองเท้านี่แหละ แต่เขาคงถอดไว้ด้านหน้าเรือนล่ะมั้ง...

“เข้ากรม วันนี้ท่านเจ้าคุณเรียกปรึกษางานราชการ กระเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว เอ็งก็ลงไปอาบน้ำผลัดผ้าเสีย อย่าอาบนานแบบเมื่อวานอีก เข้าใจหรือไม่?”

“ครับๆๆๆๆๆ”ผมพยักหน้ารับคำรัวๆ คุณหลวงมุ่นหัวคิ้ว ดูท่าจะรู้ว่าผมประชด แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะเดินออกจากห้องไป ว่าไป อากาศในยุคนี้แม่งเย็นชิบหายวายวอดทำเอาอยากลงไปนอนกลิ้งเกลือกกับเตียงต่อเลยแหะ...

แต่ช่างเถอะ ไหนๆก็ตื่นแล้วนี่ ผมควรออกไปอาบน้ำอาบท่าเสียที

“ซู่”ร่างขาวๆนั่งอยู่ที่ท่าน้ำ ตักน้ำราดตัวเองเสียงดัง เรียกสายตาจากคนที่ใส่ชุดราชการเต็มยศให้หันไปมองได้ไม่ยาก คุณหลวงขมวดคิ้วมุ่น ยังไม่ยอมลงไปอาบน้ำในน้ำเหมือนเคย...

คงได้แต่ปลงตก

ไม่รู้หรือยังไงว่ามีคนมองอยู่ อย่างน้อยก็เขาคนหนึ่งล่ะ ก็ร่างขาวๆนั่นมาดึงดูดสายตาน้อยเสียที่ไหนกันเล่า เขาหาใช่ลักเพศนะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจ้องมองเจ้าคนดื้อรั้นนั่นเหลือเกิน

จะไปกันใหญ่แล้วเจ้านพ เกิดมาไม่เคยแอบดูใครอาบน้ำ ดันมาแอบดูเจ้าเด็กนี่...

คุณหลวงสลัดหัวเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านไปเพื่อไปยังโรงรถลาก วันนี้ไปทางเรือคงไม่สะดวกใจเท่าไรนัก
ก็...ไม่อยากไปจับจ้องใครเขานานๆนี่


ผมอาบน้ำเสร็จขึ้นมาที่เรือนนก  ก็เห็นมีบ่าวรออยู่แล้ว เขาช่วยผมสวมเสื้อคอกลมสีขาวที่มีกระดุมผ่าตรงไหล่ แล้วก็สอนผมใส่โจงกระเบน กว่าจะแต่งตัวเสร็จก็ใช้เวลาไปสักพัก นี่ผมมาจากยุคศิวิไลซ์นะครับ จะมาใส่โจงกระเบนได้คล่องแคล่วเสมือนหนึ่งอยู่ในรั้วในวังเมื่อสมัยสองร้อยปีก่อนก็คงไม่ใช่ล่ะ

สารภาพตามตรง

ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยใส่โจงกระเบนเลยสักครั้ง...

สงสารตัวเองจริงๆ ปวดตับปวดไต

“คุณหลวงท่านสั่งกระผมไว้ พอคุณทีป์แต่งตัวเสร็จแล้วให้ขึ้นไปกราบคุณหญิงบนเรือน ท่านว่าคงทันบนเรือนตั้งสำรับ”ผมพยักหน้ารับ ผมกะๆดูนี่เหมือนจะเพิ่งแปดโมงกว่าเอง ไม่รู้คุณหลวงมันจะรีบไปกรมอะไรแต่เช้ามืดขนาดนั้น ท่าจะบ้างานน่าดู ถ้ามันมีเมีย มีหวังเมียหนีไปมีชู้แน่มึง

“อือ นำไปสิ เอ้อ เดี๋ยวนะ พอผมเจอคุณหญิงผมต้องทำอะไรบ้าง?”

“ก็ไหว้ท่านซีขอรับ ไปเถิดขอรับ กระเดี๋ยวจะไม่ทันคุณหญิงท่านตั้งสำรับ”

“เออๆ นำไปๆ”ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินตามบ่าวออกมาจากเรือนนก ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ผมยังไม่เคยขึ้นไปบนเรือนใหญ่ที่เห็นอยู่ลิบๆนั่นเลยสักครั้ง ตอนไปอาบน้ำก็ไม่ได้ผ่านเพราะเรือนนกอยู่ใกล้ท่าน้ำ เดินไปอีกทางนึงเลย

แหม...ว่าไปก็อดตื่นเต้นไม่ได้แฮะ

“คุณหญิงขอรับ กระผมพาคุณทีป์มาแล้วขอรับ”ยังไม่ทันพ้นบันไดดี เสียงของคนที่ไปรับผมมาก็ดังขึ้นเสียก่อน อื้อหือออ อย่างกับในหนังจีน ฟีลแบบ ฮ้องเต้เสด็จแล้ว...

เอ่อ...ผมว่าบางทีผมก็เพ้อเจ้อเกินไป

ผมกวาดสายตามองเข้าไปด้านในเรือน ตรงกลางมีหอนั่งยกพื้นสูงอยู่ อยู่ใกล้ๆบันไดบ้านนี่เอง ผมเห็นนายคนนั้นคลานเข่าเข้าไป...

เออ แล้วผมต้องคลานเข่ามั้ยวะ??

เอ้า คลานก็คลาน

เจ็บน้ำตาเล็ด ฮือ...เข่าน้อยๆของพ่อ พ่อขอโทษนะลูก

“เอ่อ สะ...สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้คนที่นั่งอยู่บนเบาะรองนั่งด้านในหอนั่ง เธอเป็นผู้หญิงวัยกลางคนครับ ใส่ผ้าแถบสีสันสดใสเลยแหละ รูปร่างอวบๆ เห็นแล้วคิดถึงคุณแม่แฮะ....

ไม่รู้ป่านนี้ทุกคนที่โน้นจะเป็นยังไงบ้าง...

“สวัสดีแปลว่าอะไร?”เห...นี่กูคงไม่ได้หลงประเทศหรอกใช่มั้ย???

“ก็...คนเจอกันเค้าก็ต้องสวัสดีกันไม่ใช่เหรอครับ?”

“เปล่า เขาจะถามว่ากินอะไรมาหรือยัง สบายดีหรือไม่ ช่างเถิด พ่อหนุ่มชื่อทีป์ใช่หรือไม่จ้ะ”

“เอ่อ...ครับ”

“ฉันชื่อแขไข เป็นแม่ของพ่อนพเขา...ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหญิงก็ได้ เรียกแม่เถิดจ้ะ พ่อนพว่าพ่อทีป์ไม่มีที่ไปแล้วหรือ?”

“จะว่าอย่างนั้นก็คงใช่คะ...เอ่อ...ขอรับ...จริงๆผม...เอ้อ กระผมไม่รู้ว่าจะต้องกลับยังไงมากกว่า”พูดสำเนียงโบร๊าณโบราณนี่มันยากจริงๆเลยว้อย  โอ้ย ผมจะดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างปกติสุขจริงๆเหรอวะครับ!

“โถ พ่อคุณ งั้นก็อยู่ด้วยกันเสียที่นี่ เห็นพ่อนพว่าอ่านหนังสือออกเขียนหนังสือได้ พ่อทีป์คงเป็นเชื้อพระยากระมัง”

“เอ่อ...แหะๆ”ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ เชื้อพระยาอะไรกันเล่า พ่อเป็นนังการทูตนะ ไม่ใช่เจ้าพระยาที่ไหน เอ...แต่จะว่าไปแล้ว บางทีอาจจะใช่ ถ้าเทียบตามบรรดาศักดิ์ของสมัยนี้

“เอาเถิดจ้ะ เดี๋ยวฉันจะให้บ่าวมันจัดห้องหับไว้ให้บนเรือนนี่แหละ จะได้ช่วยงานพ่อนพเขาได้สะดวก”

“เอ่อ ขอบคุณครับ”

“พ่อทีป์พูดจาแปลกๆ ไม่ค่อยเหมือนคนอื่น”เหยย อย่าเปิดประเด็นครับคุณหญิงแม่ ผมไม่พร้อมจะตอบ ผมเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆไป คุณหญิงแม่เลยไม่ติดใจเอาความอะไรผม แต่บอกให้คนที่พาผมมาพาผมไปเดินดูเสียให้รอบบริเวณบ้านด้านล่าง จริงๆคือพาไปให้ทาสในเรือนรู้จักล่ะมั้งครับ เวลาไปไหนจะได้เรียกใช้ทาสได้ไม่ต้องมาท้าวความว่าเป็นอะไรกับเจ้านายของทาสเหล่านั้น

เฮ้อ....

คงต้องลองอยู่แบบโบราณๆดูสักทีแล้วล่ะมั้ง...



มาต่อแล้วค่าาา >< ช่วงมาต่อได้เร็วเพราะยังไม่เปิดเทอม แต่เดี๋ยวเดือนพ.ค.นี้ก็เปิดเทอมแล้ว ไม่รู้จะมาแบบนี้ได้รึเปล่า แหะๆ แต่จะพยายามนะคะ :katai4:

เรามีทวิตเตอร์ด้วยนะ เผื่อใครอยากเมนชั่นทวง T^T @Phittha_phitch
ใครไม่มียูสในเล้าเป็ดติชมในทวิตเตอร์ก็ได้นะคะ ติดแฮชแท็ก #คุณหลวงนพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2014 20:37:17 โดย infernoA »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๕
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-04-2014 18:29:09 »





ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: ♂♂ [[The Secret Love at Siam]];;(rewrite) พยับที่ ๕
«ตอบ #20 เมื่อ18-04-2014 19:46:42 »

อยากไปส่องใกล้ๆแม่น้ำื หุหุ

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
แค่พบกันไม่นาน
คุณหลวงก็็็็็เริ่มหลงพ่อทีป์ของเราซะแล้ว :hao7:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ :3123:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อยากแปลร่างเป็นปลาบู่ไปแอบดูทีป์อาบน้ำจริงๆ >.<
คุณหลวงกับคุณแม่นี่ผู้ดีสุดๆเลย 55555 ชอบๆๆๆ
มาอัพต่อไวๆน้า เราจิรออ่านน

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
พ่อทีป์ คิดถึงบ้านไหม
ดูเหมือนจะสนุกกับยุคก่อนจนลืมพี่ชายและพี่สะไภ้เสียแล้ว

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0








พยับที่ ๖




ผมอยู่ที่นี่มาได้สามอาทิตย์เข้าไปแล้ว...จริงๆก็ไม่ได้ลำบากอะไรเท่าไหร่ นอกจากต้องจุดตะเกียงตอนกลางคืน แล้วก็ไม่มีเกมส์หรือมือถือให้ผมเล่นแก้เซ็ง ผมเลยกลายเป็นคนติดหนังสือแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คืออ่านแม่งทุกอย่าง ตอนนี้ห้องหนังสือของบ้านนี้เลยเป็นที่สิงสถิตที่ดีที่สุดสำหรับผม แหงล่ะ หนังสือเยอะอย่างเหี้ย มีหลายภาษาด้วย  เปรมเลยสิผม

“คุณทีป์เจ้าคะ”

“หืม” โอ้โห!! บ่าวสาวๆบ้านนี้ ทำไมแต่งตัวได้หมิ่นเหม่กันทุกคนจริงๆเลยเว้ย แหมๆแต่นั่นแหละอาหารตาผมก็จ้องไปสิครับ อื้อหือ ชุดเสื้อผ้าสมัยนี้เหมาะแก่การถอดแต่ไม่เหมาะแก่การใส่จริงๆ

“คุณหญิงให้มาเรียนว่าจะตั้งสำรับแล้วเจ้าค่ะ”แหมะๆ แม่คุณเอ้ย มีอายหน้าแดงแต่ไอ้ที่ก้มต่ำลงเรื่อยๆจนนมหกแล้วหกอีกนั้นมันอะไรกันคร้าบบบบ โอ้ย นภทีป์หัวใจจะวาย แม่เจ้าพระคุณรุนช่อง คุณหลวงโดนแบบนี้บ่อยๆหรือเปล่าน่ะ? แล้วทนได้ยังไงวะ โอย สาวๆ ขาวๆแบบนี้

“จ้ะ นำทางฉันไปทีซี”จะได้แอบดูแผ่นหลังอีกสักหน่อย แหมๆ ผ้าแถบนั่นก็รัดแค่หน้าอกด้วย ตรงเอวก็เปิดโล่ง เฮ้อ...ถ้าผมเป็นคุณหลวงที่มีสิทธิเรียกสาวๆพวกนี้มารับใช้นะ ไม่เกินเดือนหรอก คงได้ลูกบ้างแหละ!!

ไม่ต้องไปรับลูกคนอื่นเขามาเลี้ยง แต่ผมชอบเด็กๆนะ ถึงจะยังไม่รู้ว่าจะเรียกใครว่าอะไรเพราะยังไม่รู้ชื่อก็เถอะ แต่ผมชอบพวกแกนะ ผมแดงๆ แก้มยุ้ยๆ น่ารักน่าชัง ผมยังหาโอกาสไปนั่งเล่นที่หอนั่งด้วยบ่อยๆเลย

ผมน่ะฝันว่าอยากมีน้องตั้งแต่เด็กๆแต่ก็ไม่เคยได้มี มีแต่พี่ชายนิสัยเสียชอบแกล้งผมกับเพื่อนอยู่คนหนึ่งแค่นั้นแหละ แต่ผมรักไอ่ธามนะ

ไม่รู้ว่าตอนนี้มันจะคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า

มันจะตามหาผมไหม แล้วไอ้ตฤณล่ะจะอยู่กับธามอยู่หรือเปล่า

คุณพ่อ คุณแม่จะรู้เรื่องหรือยัง

เฮ้อ...คิดถึงบ้านสุดๆเลยว่ะ

“เอ้า พ่อทีป์มาแล้วหรือ มานั่งซีแม่เพิ่งให้บ่าวมันยกสำรับขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง”

“ขอรับ”จริงๆนี่ก็เป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของผมแหละ นั่งพบเพียบเรียบแต้เนี้ย...แม่งไม่ใช่แนวเลยครับ คงได้ข้อเข่าอักเสบกันไปข้างนึงแหละ ฮือ...วันๆไม่ได้นั่งแค่สิบนาทียี่สิบนาทีนะ ถ้าอยู่กับคุณหญิงผมก็ต้องนั่งแบบนี้ตลอด โอย รู้สึกเหมือนมาฝึกหัดเป็นนางใน!!

“หิวหรือยังลูก เห็นบ่าวมันว่าขลุกอยู่กับหนังสือทั้งวันเทียวหรือ?”แหม แม่ของคุณหลวงใจดีครับ แกคงเหงา ก็ผมไม่เคยเห็นคุณหลวงจะได้กินข้าวกับแม่เขาสักทีนอกจากตอนเย็น ถ้ามีเมียเมียคงมีชู้น่ะครับ พี่แกเล่นทำแต่งาน งาน งานแล้วก็งาน ผมว่าแกคงคิดถูกแล้วแหละที่ไปหาเด็กมาเลี้ยงไม่งั้นคงไม่ได้มีลูกมีเต้า

“ก็หิวๆบ้างขอรับ ผม เอ้อ กระผมเบื่อน่ะขอรับนั่งเฉยๆคงได้แต่คิดถึงบ้านเลยไปหาอะไรมาอ่านซะดีกว่า”

“จริงสินะ...พ่อทีป์อยากลองทำกับข้าวกับปลาดูไหมลูก?”

“หือ? อะไรนะขอรับ ผมเหรอ?”ผมชี้หน้าตัวเองงงๆ สมัยนี้เค้าไม่ได้มีแต่ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเหรอวะครับ หรือคุณหญิงแกจะสงสารที่ผมท่าจะเหงาจริงๆเลยหาอะไรให้ทำ


แต่ว่านะ ทำกับข้าวเนี้ยคงไม่แย่เท่าไหร่หรอก...มั้ง???

“ก็พ่อทีป์น่ะซี แม่เห็นว่าเหงา แม่ก็ทำอะไรอย่างอื่นที่ผู้ชายเขาทำกันมิได้เสียด้วย เว้นแต่พ่อทีป์จะมาศึกษาการเรือนกับแม่แก้เหงาเท่านั้นแลจ้ะ”

“จริงๆแล้ว...กระผมก็พอทำกับข้าวเป็นบ้าง ลองหัดทำอย่างอื่นบ้างก็ดีขอรับ”ผมยิ้มประจบ เขาว่าปฏิเสธความหวังดีของผู้ใหญ่นี่ไม่ดีครับ ทำกับข้าวก็ทำกับข้าววะถึงมันจะแต๋วไปนิด ไม่เหมาะกับชายไทยวัยฉกรรจ์แบบผมก็เถอะ


“ดีเทียวจ้ะ ไว้พรุ่งนี้แม่จะให้บ่าวมันยกเตาขึ้นมาเสียบนเรือน วันนี้พ่อทีป์คงต้องทนเหงาไปหน่อยแล้วล่ะลูก”

“ขอรับ จริงๆก็เหงามาเสียหลายวันแล้ว อีกสักวันคงไม่เป็นไร”

“จ้ะๆ เอ้า รีบกินเสียเถอะกระเดี๋ยวกับข้าวกับปลามันจะเย็นชืดเสีย หมดอร่อยกันพอดีนา เดี๋ยวแม่ต้องไปดูเจ้าสามแสบด้วย ไม่รู้จะงอแงกับแม่นมมากหรือไม่”

“ขอรับ”เอ่อ จริงๆก็ยังมีอุปสรรคใหญ่หลวงอีกข้อครับ การกินข้าวของผมที่ค่อยข้างจะ เลอะเทอะไปหน่อย ดูคุณหญิงแกกินไม่เห็นจะเลอะเลยแหะ เปื้อนมาถึงแค่ข้อนิ้วข้อแรก ผมนี่แทบจะเปื้อนทั้งมือ ให้ตายเถอะซาร่าห์ เรื่องมันเศร้าขอเหล้าเข้มๆ
เออ...พูดถึงเหล้าไม่รู้สมัยนี้เขากินเหล้าอะไรกัน ไม่พ้นยาดองแหงมๆ แต่ก็น่าสนใจ ฮี่ๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้วคงต้องหาโอกาสไปกินเหล้าให้เปรมปรีเข้าสักทีล่ะวะ!!

“คิดอะไรของเอ็งทำหน้าทำตาพิลึก”

“อ้ะ!!”อีตาคุณหลวงอยู่ดีๆก็โผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ครับ นี่เพิ่งเที่ยงเองไม่ใช่เรอะ??

“ตกใจอันใด ฉันหาใช่ผีสางเสียหน่อย วันนี้งานเสร็จเร็วขอรับคุณแม่ ท่านเจ้าคุณได้ข่าวว่าลูกรับลูกเขามาเลี้ยงเลยว่าให้รีบๆกลับเรือนเสียหน่อยจะเข้าที”ว่าเสร็จคุณชายเขาก็ไปนั่งพับเพียบแต้ข้างๆคุณหญิง อื้อหือ ผู้ชายสมัยนี้สุภาพเรียบร้อยสุดๆ

“หรือจ้ะ พ่อนพกินข้าวกินปลาแล้วหรือยังจ้ะ นี่แม่กับพ่อทีป์กำลังกินกันเทียว”

“กินแล้วจ้ะแม่ กระเดี๋ยวลูกว่าจักไปดูเด็กๆเสียหน่อย ให้แม่นมดูคนเดียวท่าจะเหนื่อย ไหนจะลูกมันเองอีกเล่า กระเดี๋ยวไอ่ทัดได้แช่งชักหักกระดูกลูกในใจประไรว่าใช้งานเมียมันเสียหนัก ให้แต่นมลูกของลูกไม่ได้ให้นมลูกมันเอง”

“จ้ะ พ่อนพไปเถิดกระเดี๋ยวมากินเสร็จเมื่อใดจักตามไปนะจ้ะ”

“จ้ะแม่”อื้อหือออออ น่ารักจิบิโก๊ะจิบิกี๊ที่สุดครับ พูดจ้ะจ๋ากับแม่ แหม ถ้ามีเมียคงจะปากหวานน่าดู แหม...น่าปลื้มใจแทนแม่สาวน้อยคนนั้นจริงๆนะนี่นะ



ซู่...

วันนี้เมนูผัดครับ คุณหญิงแขไขแกแทบจะยกครัวมาไว้บนชานเรือนแล้ว แกคงอยากถ่ายทอดวิชาน่าดู ผมเริ่มร่ำเรือนการเรือนมาได้สองสามวันแล้วครับ สนุกดี

แต่...

ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากกลับไปทำอาหารกินกับไอ่ธาม ทำอวดมัน มันคงจะหัวเราะแน่ๆถ้าผมบอกว่าจะทำกับข้าวแบบไทยแท้ให้มันกิน

นึกหน้ามันออกเลยล่ะครับ...

แต่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหน้าของมันอีกหรือเปล่า หรือไม่ ก็อาจจะไม่ได้เจอกันอีกตลอดไป

ทั้งไอ่ธาม ไอ่ตฤณ พ่อ แม่ นมนุ่มนิ่ม พี่ที่ทำงาน ป้าร้านหมูปิ้งเจ้าอร่อย เจ้าของร้านกาแฟที่ผมชอบไปนั่ง เออ...ว่าไปชักจะดราม่าละกู ทำกับข้าวกับปลาต่อดีกว่า


“นี่พ่อทีป์ ไอ่เนื้อนี่มันต้องค่อยๆทำแบบนี้นะลูก จะได้กลมกล่อม...บลาๆๆ”

แล้ววันนั้นทั้งวันผมก็คลุกอยู่กับการทำกับข้าว จีบหมากจีบพลู

อื้อหือ นี่ถ้าผมใส่สไบ นุ่งโจงกระเบน ไว้ผมยาว

แล้วเกิดสวย มีนงมีนม มีตงมีตูด คงหัวกระไดบ้านไม่แห้ง ผู้ชายคงแวะเวียนมามองหลังคาบ้านไม่หวาดไม่ไหวแหละครับ กุลสตรีเหลือเกิ๊น!!

ติดอยู่ที่ว่าไอ่กระผมนั้นเป็นผู้ชาย

แถมมีไอ่จ้อน!!

เออ...ไม่ใช่แถมสิ ปกติผู้ชายแม่งก็ต้องมีอยู่แล้ว ตอนนี้เลยเป็นกุลบุรุษไป คุณหลวงก็เอาหนังสือมาให้อ่านแล้วสรุปความให้บ้าง แต่นานๆจะมีมาเสียทีนึง ตอนนี้ผมเลยนั่งหง่าว เป็นกุลบุรุษอยู่แบบนี้

แหม...ถ้ามีหนังสือให้อ่านเยอะกว่านี้ท่าจะดี นี่เล่นมีแต่หนังสือวิชาการสมัยนี้ทั้งนั้น ผมอ่านจนแทบจะหมดห้องหนังสือ บางทีก็เบื่อนะครับแหม่ ไอ่เรารึก็ใช่คนรักประวัติศาสตร์อะไรมากมาย ถ้ามีนิยายสมัยนี้ให้อ่านบ้างคงดี


หรือไม่ก็...

หนังสือต่างประเทศ ผมว่าคุณหลวงมีแน่ๆ เคยถามเอากับไอ่ทัดบ่าวคนสนิทเขา เห็นนายคนนั้นเขาว่าคุณหลวงทำงานอยู่กรมท่า ฝ่ายต่างประเทศฯ จบจากอังกฤษ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย สาวๆหมายตากันทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้าไม่ห่วงความเป็นกุลสตรีคงรีบประเคนตัวเองให้คุณหลวงไปแล้ว อะไรเทือกๆนั้น

ว่าไป อีตาคุณหลวงก็หล่อจริงๆนั้นแหละ

ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันๆ สรุปว่ามันหล่อนั้นแหละ ตอนเห็นรูปที่บ้านตอนเก็บของ ผมยังนึกว่าเขาอาจจะหล่อแต่เสือกเตี้ยตามมาตรฐานชายไทยสมัยสันทัดซะอีก แต่นี่เขาสูงทีเดียวแหละ สูงกว่าผมไปเป็นคืบ นี่ไอ่ตัวกระผมก็สูงร้อยเจ็ดสิบเจ็ดไปแล้วนะขอรับ ดูท่าต้นตระกูลเขาคงเป็นคนสูง ผมเป็นสาวๆผมก็คงอยากได้

แต่นี่เผอิญผมเป็นผู้ชายมีโจ้ย ผมเลยอิจฉาเขาแทนแค่นั้นแหละ แม่ง หล่อกว่ากูครับ



เปาะ แปะ เปาะ แปะ...

นั่งๆไปสักพักฝนก็เริ่มโปรย เห็นบ่าวเขาคุยกันว่าช่วงนี้มีฝนไล่ช้าง ช้างไหนวะ?? ไม่เห็นจะมีแต่เห็นเขาเรียกฝนไล่ช้าง เอาไว้ผมมีโอกาสค่อยถามใครสักคนแถวนี้แล้วกัน

“ทั่กๆๆ”เสียงวิ่งดังมาจากหน้าบันไดโน้นเลยครับ

“คุณหญิง! คุณหญิงขอรับ คุณหญิง”เสียงเรียกดังลั่นบ้าน ผมเห็นคุณหญิงแขไขรีบร้อนเปิดบานประตูห้องออกมาแล้วเดินเร็วๆอ้อมไปตามระเบียงนั้นแหละครับ

เห็นเขาว่าไม่ควรรีบร้อนเดินผ่านระเบียงบ้าน มันไม่งาม...

เออ ช่างแม่งเหอะ นั่นเก็บไว้ให้กุลสตรีเขาทำกัน ตอนนี้ผมเลยก้าวยาวๆฝ่าลมฝ่าฝนไปทางหน้าบ้านแน่นอนถึงก่อนคุณหญิง
“อ้าว ทัดมีอะไรหรือถึงมาเรียกคุณแม่เสียลั่นบ้าน”

“คุณหลวงแย่แล้วขอรับคุณทีป์”

“พ่อนพเป็นอะไรอ้ายทัด รีบว่าไปซี เอ็งจะให้ข้าหัวใจวายตาก่อนหรือ”คุณหญิงตวาดเสียงดัง ทำเอาทั้งผมทั้งไอ่ทัดที่มาร้องแรกแหกกระเชอเมื่อตะกี้สะดุ้งเฮือก

“รถลากพลิกลงข้างทางขอรับ คุณหลวงท่าน...ยังไม่ฟื้นเลยขอรับ ตอนนี้ก็ยังพาออกมาจากตรงนั้นไม่ได้ เพราะรถลากมันหนักเสียยิ่งกว่าอะไร กระผมจึงต้องมาตามคนไปช่วยขอรับ”

“ตายจริง พ่อนพ พ่อนพของแม่”เห้ยๆ อย่าเพิ่งทรุดสิครับคุณหญิง ผมค่อยๆประคองแกไว้ ก่อนป้านวลจะมาประคองคุณหญิงไปนั่งหน้าเรือนนอนของคุณหญิง

“เอ้า เอ็งไปเกณฑ์คนไปให้มากหน่อย เดี๋ยวฉันจะไปด้วย”ผมสั่งนายทัดไป เขาก็ตะโกนเรียกพรรคพวกแถวนั้นรวดเร็วเชียวครับ ไม่ถึงห้านาทีเราก็ออกเดินจากเรือนคุณหลวง ฝนตกหนักมาก ผมว่าถ้าคุณหลวงไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากก็อาจจะเป็นไข้หวัดกันไปข้างแหละวะ



กว่าเราจะมาถึงจุดเกิดเหตุก็เกือบๆยี่สิบนาทีแล้วครับ ในการคาดเดาเวลาของผมเองเท่านั้นด้วย ตรงนั้นเป็นท้องร่อง รถลากคว่ำทับตัวคุณหลวงอยู่ ตาเขายังปิดสนิท ข้างๆกันมีคนลากรถนั้นแหละมั้งที่เฝ้าคุณหลวงอยู่ แต่ไม่มีคนผ่านทางมา เพราะเริ่มเป็นสวนของชาวบ้านแล้วไม่ได้มีตลาดหรืออะไรแถวๆนี้

“พวกเอ็งรีบไปกู้รถลากขึ้นมา”ผมสั่งการ ก่อนนะเดินไปที่ท้องร่องแล้วสไลด์ตัวลงไปตรงที่คุณหลวงอยู่ บ่าวที่ลากรถตัวสั่นงันงก คงทั้งกลัวแล้วก็หนาวด้วยละมั้ง

“เอ็งขึ้นไปเสียก่อนไป ฉันจะดูคุณหลวงเอง”



ผมค่อยๆช้อนหัวพี่ท่านมาวางไว้บนตักแทนบนพื้น หวังว่าจะไม่ด่าผมเพราะไปยุ่งกับหัวที่เขาว่าเป็นของสูงหรอกนะ ได้ยินเสียงทาสออกแรกฮึบ ฮึบดังลั่น เพีบงครู่เดียวพวกนั้นก็เอารถลากออกไปจากตัวคุณหลวงได้ ผมเลยพยายามงัดตัวคุณหลวงให้ยืนขึ้นแทน นายทัดรีบลงมาช่วยผมประคองนายตัวเองไปบนรถลากที่ดูแล้วยังใช้การได้ดี  ส่วนผมก็ตามไปนั่งคู่กับเขาแหละครับ กระเป๋าเอกสารทรงเจมส์บอนด์นายทัดก็ไปเก็บมาแล้ว ตอนนี้เราเลยต้องเร่งฝีเท้ากลับบ้านกันอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน

หน้าซีดเชียว...


คุณหลวงเขาซบอยู่ตรงไหล่ผมนี่เองครับ รถลากมันแคบหน่อยเดียวก็เลยต้องนั่งเบียดๆกันไป ดีนะที่ผมผอมอยู่หน่อย เลยไม่เบียดมาก เรามาถึงเรือนคุณหลวงกันไวมาก คุณหญิงให้บ่าวไปตามหมอมารอท่าอยู่แล้ว เราเปลี่ยนเสื้อผ้าคุณหลวงให้เป็นเสื้อผ้าแห้งๆ แล้วคุณหมอก็เริ่มตรวจไปตามเรื่องตามราว แต่คุณหลวงก็ยังไม่ฟื้น...คุณหญิงหน้าซีดเซียวจะเป็นลมแล้วจะเป็นลมอีก ผมเห็นท่านตาแดงๆ แน่ล่ะลูกชายคนเดียวเกิดเรื่องนี่ ส่วนเด็กๆก็ร้องไห้จ้าตั้งแต่พวกเรามาถึงเรือน เหมือนรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับพ่อตัวเอง ทำเอาวุ่นไปหมด กว่าทุกอย่างจะสงบลงฟ้าก็มืดสนิทแล้ว คุณหญิงให้นายทัดไปส่งหมอ ส่วนผมก็ถูกจัดการให้มาดูแลคุณหลวง


เจริญล่ะกู เกิดมาในชีวิตมีแต่คนดูแล แต่คงไม่อยากอะไรมั้ง นั่งเฝ้า ป้อนยา แค่นี้เอง

ล่ะมั้ง?? เนอะ!


“นะ...”ผมได้ยินเสียงครางมาจากเตียงสี่เสากลางห้องเบาๆตอนกลางดึก สงสัยจะฟื้นแล้ว เลือกเวลาได้ดีเหลือเกิน ผมเพิ่งเอนหลังได้หน่อยเดียวตรงตั่งเล็กๆข้างหน้าต่างที่ป้านวลเอาฟูกบางๆกับผ้าห่มมาคอยท่าไว้ให้ ฝนยังคงตกพรำๆ ประตูหน้าต่างห้องที่ถูกปิดสนิท ตามความเชื่อโบราณว่าอย่าให้ลมโกรก ไข้จะไม่หาย

แต่นี่มันโคตรอุดอู้!!

“ว่ายังไงครับ”ผมเดินไปริมเตียง ลากเก้าอี้ไม้เล็กๆหน้าตู้กระจกมาด้วย นั่งแหมะแม่งตรงนี้แหละกู คืนนี้ทั้งคืนคงต้องอยู่อย่างนี้

“หนาว...ฉันหนาว”เสียงพึมพำ แต่ไม่ได้ลืมตา ดูท่าจะละเมอ แล้วก็คงหนาวจริงๆ สงสัยต้องหาผ้าห่มเพิ่ม ไอ่ตัวผมก็ไม่ได้หนาวอะไร ยกๆให้เขาไปแล้วกัน



เหมือนจะสงบลงแต่ไม่เลยครับ

“หนาวเหลือเกินแล้ว”แหม...อุ่นขึ้นหน่อยทำมาบ่นหนาว ละเมอยาวขึ้นด้วย ผมคงได้แต่ถอนหายใจแหละครับจุดนี้ จะให้ทำยังไงเล่า ก็ผ้าห่มก็ไม่รู้จะไปหาจากไหนอีก ถุงน้ำร้อนก็ไม่มี วุ้ย!

“กูต้องทำยังไงวะ!!”


ปึก!!

เสียงร่างสูงๆกระแทกตัวลงบนเก้าอี้เสียอย่างจัง ใบหน้าเรียวๆบูดบึ้ง แม่งจะให้กูทำยังไงวะครับ หนาวเนื้อห่มเนื้อรึยังไงกัน! กูไม่ใช่นางเอกทรงโตนะว้อยยย จะได้เอานมเบียดหน้าให้ความอบอุ่นได้เนี้ย นภทีป์กรีดร้องอยู่ในใจ ส่วนคุณหลวงหนุ่ม ก็ยังคงละเมอว่าหนาวอยู่อย่างนั้น สุดท้ายนภทีป์ถึงตัดใจขยับตัวไปบนเตียง


ร่างบางกว่าค่อยๆถดตัวเข้าไปในผ้าห่ม เพียงแค่ครู่เดียวในใจก็กรีดร้องลั่น

ไอ่ห่า ร้อนแทบตายมึงยังจะหนาวอีกเรอะ!!

นภทีป์มองหน้าคุณหลวงแบบหงุดหงิดน้อยๆ ถดตัวลงไปจนสุดแล้วตัดสินใจนอนเบียดคุณหลวงเสียเลย ดี บ่นหนาวดีนัก จะเบียดให้ตกเตียงเลยมึง!


แสงแดดรำไรส่องเข้ามาผ่านช่องไม้ในห้องนอน...

ร่างสองร่างยังคงหลับสนิท คุณหลวงหนุ่มยังคงมีใบหน้าเผือดสี ส่วนชายหนุ่มอีกคนตอนนี้เหงื่อแตกพลั่กๆด้วยร้อนจัด

“ฮ้าวววววววววววววววว”นภทีป์รู้สึกตัวแล้วลุกขึ้นมาหาวหวอดใหญ่ๆ ส่วนคุณหลวงก็ยังคงหลับสนิท ชิผู้ชายอะไรคนตายาวชิบเป๋ง คนตัวบางกว่าได้แต่จดจ้องด้วยสายตาอิจฉาแกมหมั่นไส้ เชอะ!! อย่าให้เขาคนตายาวงอนแบบนี้บ้างละกัน

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

“ใครครับ?”นภทีป์ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู ถ้าเคาะอีกรอบสงสัยคุณหลวงได้ตื่นแน่ๆ ถึงจะเคาะเบาๆก็เหอะ แต่เมื่อกี้เห็นขมวดคิ้วไปแล้วนี่ อะไรจะไวต่อเสียงขนาดนั้น

“บ่าวเอาข้าวต้มกับยามาส่งเจ้าค่ะ คุณหญิงท่านว่ารอให้คุณหลวงตื่นแล้วก็ให้รับทานเจ้าค่ะ”เสียงเบาๆดังมาจากอีกฝากนึงของประตู นภทีป์ถึงได้เปิดประตูรับเอาสำรับเข้ามา ยี้ ไม่เห็นน่ากินเลย ข้าวต้มเละๆ ไม่มีหมู ไม่มีผักชี จริงๆคือไม่มีหอกหักคิตตี้อะไรเลยนอกจากข้าวเละๆ แล้วก็ยาที่ใส่มาในถ้วยใบโต อี๋ แค่กลิ่นก็ขมล่ะ ใบหน้านภทีป์แหยลงเรื่อยๆตามความคิดถึงรสชาติอาหารในสำรับ คุณหลวงแม่งกินเข้าไปได้ไงวะ?

“ยานี่กินก่อนหรือหลังข้าว”

“หลังเจ้าค่ะ คุณหญิงท่านยังว่าถ้าสายแล้วคุณหลวงยังไม่ลุก ให้คุณทีป์ไปรับสำรับพร้อมคุณหญิงที่หอนั่งก่อนเจ้าค่ะ”

“เออๆ ไปเถอะ”ชายหนุ่มรับคำแล้วถือสำรับเดินไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง มองคุณหลวงยังหลับสนิท ตอนนี้ตากลมๆจึงสอดส่ายไปทั่ว ก่อนจะเป็นประกายระยิบระยับ


เจอของดีล่ะกู!!

นภทีป์สาวเท้าเร็วๆไปที่ตู้หนังสือตู้ใหญ่ที่ตั้งเรียงกันอยู่จนเต็มผนังห้องด้านหนึ่งจนเต็มเอี๊ยด ด้านในมีหนังสือต่างประเทศเต็มไปหมด ตาโตๆยิ่งเบิกโตไปอีก ริมฝีปากเริ่มแย้มกว้าง

หึหึหึ เสร็จกูแน่ๆ

โอ้ยยย มีแต่หนังสือน่าอ่าน นภทีป์โอดครวญในใจ นิ้วมือค่อยๆไล่ไปตามสันหนังสือตามชั้น โง้ย... แอบอ่านแม่งเลยล่ะกัน เจ้าของแม่งอยากมัวเอาแต่นอน คิกๆ

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

“คุณทีป์เจ้าคะ คุณทีป์”เสียงเรียกเบาๆดังขึ้นจากอีกฟากของประตูห้องนอน แต่เจ้าของนามนั้นกลับหลับคาหนังสือไปเสียแล้ว ร่างสูงโปร่งนอนเอกเขนกอยู่ที่ตั่งเล็กริมหน้าต่าง แต่คนที่ตื่นตามเสียงเรียกกลับเป็นชายหนุ่มอีกคนเสียนี่...

คุณหลวงนพเทพอัคราลืมตาตื่นขึ้นมา ดวงตาคมกริบฉายแววอ่อนล้า กระพริบปริบๆเพื่อปรับตัวเข้ากับแสงสว่าง ใครมาส่งเสียเอะอะอยู่หน้าห้องเขากัน??

“ใครน่ะ”เสียงแหบแห้งถามกลับออกไป แต่คนข้างนอกคงไม่ได้ยิน ถึงยังคงเคาะประตูไม่หยุด จนคนบนเตียงได้แต่ขมวดคิ้วหมุ่นเพราะความรำคาญ

โอ้ย บ่าวบ้านเขานี่ช่างน่าขัดอกขัดใจเสียจริง

แล้วพ่อทีป์ไปอยู่เสียที่ไหน มันเคาะเรียกเสียงดังจนหูเขากระเทือนออกอย่างนี้ยังไม่ยอมออกไปเปิดอีก จะให้เขาโมโหจนอกแตกตายหรือไรกันนะ!!

“พ่อทีป์...”

“พ่อทีป์”

นี่เขาเรียกไปสองครั้งแล้วนะ พ่อทีป์ไปอยู่เสียที่ไหน สุดท้ายคุณหลวงหนุ่มเลยได้แต่ขยับตัวให้ลุกขึ้นมานั่งพิงเตียง สายตากวาดไปรอบๆห้อง แล้วไปสะดุดกับคนที่นอนพาดอยู่บนตั่ง

หลับคาหนังสือหรือนั่น...

เฮ้อ...จักง่วงนอนอะไรถึงเพียงนั้นนะ สุดท้ายด้วยจนใจคุณหลวงเลยเดินไปเปิดประตูเองเสีย ก็คนที่บ่าวเรียกเอาแต่หลับนี่ อีกอย่างเขายังเดินไหว หาได้พิกลพิการง่อยเปลี้ยเสียขาแต่ประการใดไม่

“มีกระไร”

“คุณหญิงให้มาตามคุณทีป์ไปรับสำรับเสียพร้อมกันเจ้าค่ะ คุณหลวงค่อยยังชั่วแล้วหรือเจ้าค่ะ”

“ฟื้นแล้ว ไม่หนาวแล้ว หากฉันออกจะอ่อนเพลียอยู่บ้าง บอกคุณแม่ท่านรอสักกระเดี๋ยว ฉันจะไปพร้อมพ่อทีป์นี่แหละ เอ็งไปบอกให้คนเอาน้ำล้างหน้ามาให้ฉันด้วยแล้วกัน”

“เจ้าค่ะ”บ่าวสาวร่างแน่งน้อยรับคำด้วยใบหน้าแดงซ่าน ด้วยไม่เคยได้พาทีกับคุณหลวงด้วยประโยคยาวๆเยี่ยงนี้มาก่อนเลย หัวใจสาวเต้นตึกตัก ก้มหน้าก้มตาเดินไปทางหอนั่งอย่างรวดเร็ว


“เสน่ห์แรง...”

“หึ ก็พ่อทีป์เอาแต่นอนเอง ถึงไม่ได้มาโปรยเสน่ห์อย่างฉัน”

“เฮอะ มาเรียกไปกินข้าวอ่ะดิ แล้วคุณหายแล้วรึไง”

“แค่ไม่ค่อยมีแรง แต่อย่างอื่นหายแล้ว เมื่อคืนโดนเบียดเสียร้อนนี่นา เหงื่อออกจนเปียกไปหมด คงต้องให้บ่าวมาเปลี่ยนผ้าปูฟูกเสียใหม่”

“ชิ ก็คุณเอาแต่บ่นหนาวๆนี่ ไปๆกินข้าว”นภทีป์หน้าซับเลือดฝาดน้อยๆ แต่คุณหลวงหนุ่มก็ทันสังเกตเห็น สงสัยจะขวยอายที่ต้องมานอนกับผู้ชายด้วยกันกระมัง?

“ไปซี ฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน”



หอนั่ง


ผมเดินตามคุณหลวงต้อยๆ มานั่งแปะลงตรงโต๊ะบนพื้นยกของหอนั่ง สำรับข้าววางอยู่เรียงราย พอมาถึงสองแม่ลูกเขาก็คุยกัน

“พ่อนพ หายแล้วหรือลูก กระไรหายไวนัก แม่ว่าจักลุกไม่ขึ้นแล้วเสียอีก เมื่อคืนพ่อนพตัวร้อนเป็นไฟเชียวลูก แม่ร้อนใจไปหมดเชียว”

“สงสัยยาหมอท่านจักดีกระมังขอรับคุณแม่ คุณแม่อย่าร้อนใจไปเลยขอรับลูกเพียงตากฝนเล็กน้อยเท่านั้นเอง”

“จ้ะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว มากินกันเถิด วันนี้มีแต่ของโปรดพ่อนพเชียวนา...แต่อย่าเพิ่งกินแกงกะทิเลยนะลูกแม่เกรงจะระคายคอ”

“ขอรับคุณแม่ ทานกันเถิดขอรับ คุณแม่อย่าได้กังวลไปเลยขอรับ ลูกเพียงแต่ไม่ค่อยมีแรงบางเท่านั้นเองขอรับ”

“จ้ะๆ พ่อนพกินเยอะๆนะลูก พ่อทีป์ ลองกินนี่ดูซี อร่อยเชียวนา ของโปรดพ่อนพเขาแล”

“ขอรับ”ผมรับคำแล้วตักแกงกะทิมาจากถ้วยกลาง อร่อยจริงๆด้วยสิ แต่ลำบากตรงผมต้องเปิบมือกินนี่แหละ ตอนนี้ก็ยังคงเปื้อนเปรอะเหมือนวันแรกๆที่เปิบกินแบบนี้  ไม่มีพัฒนาการเอาซะเลยกู แต่นั้นแหละ กินๆไปก็คิดถึงบ้านขึ้นมา น้ำตาจะไหลเว้ยเห้ย แม่งไอ่ธามมันจะแดกข้าวตรงเวลาบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ เป็นหมอที่มีสุขอนามัยเหี้ยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยนะ

ไอ่ตฤณจะเสร็จไอ่ธามไปหรือยัง....

นมนุ่มนิ่มจะทำอะไรให้พวกมันกินกันนะวันนี้...

   คุณพ่อคุณแม่จะสบายดีหรือเปล่า

รู้หรือยังว่าผมหายไป....

หายไปจากโลกนั้น....

หายไปจากภพนั้น....

หายไปจากชีวิตของทุกคน....

เป็นการหายไปที่ผมรู้สึกว่า...

ชั่วนิรันดรนี้คงไม่ได้เจอกันอีก...

ผมคิดถึงบ้าน คิดถึงทุกคน คิดถึงกรุงเทพฯยุคที่มีรถไฟฟ้า มีตึกสูงๆ

คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตผมตอนนั้น

ขนาดรถติด...


ผมยังคิดถึงเลย....


เย่ๆ ในที่สุดก็เข็นตอนนี้ออกมาได้แล้ว ทีแรกเค้าว่าจะอัพให้ได้ทุกวันเสาร์หรืออาทิตย์ แต่อาทิตย์นี้ต้องขอโทษจริงๆนะคะ
กิจกรรมล้านแปด เพิ่งกลับมาม.ต้องไปซ้อมเชียร์แบบมาราธอน งือ

แต่เราจะพยายามเอามาลงให้ได้สม่ำเสมอที่สุดเน้อ
ถ้าไม่มียูสในเล้าเป็นคอมเม้นต์ใน twitter :: #คุณหลวงนพ ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเค้าไปอ่านเอง

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากก  :mew3:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
คุณหลวงฟื้นแล้ว เย้ๆๆ
ทีป์มีแอบเขินด้วย หุๆ
ฝึกไว้ๆ ต่อไปคุณหลวงจะได้รุกให้หนักๆ 555

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ไหนพี่ทีป์บอกเบื่อ อุสามีย้อนเวลามาให้แล้สนะพี่ ดื้มด่ำนานๆหน่อย  :hao3:

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ขอโทษนะคะ อาทิตย์นี้คงไม่ได้ลงจริงๆ อาทิตย์หน้าก็อาจจะไม่ได้ลง T^T
คนเขียนต้องไปซ้อมรับน้องของม.อ่ะค่ะ ไม่ว่างแต่งต่อเลยย

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด