♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♂♂ [The Secret Love at Siam]คุณหลวงไดอารี่ พยับที่ ๒๑ ๑๕.๐๕.๖๐  (อ่าน 62413 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จ้า ไม่เป็นไรๆ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ชอบเรื่องแนวนี้
+1

ออฟไลน์ k_U_K_K_I_K

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
สนุกมากกกกกก รอตอนต่อไป

จุฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

meili run

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกก  :hao5: รอแล้วรอเล่า

ทำได้เพียงแค่รอ เรื่องมันเศร้า คนอ่านนะที่เศร้าอ่ะ อิอิ

 :monkeysad:

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พยับที่ ๗
[/b]


“พ่อนพ วันนี้ก็รีบนอนเข้าหนาลูก กระเดี๋ยวจักหายไข้ช้า”

“ขอรับคุณแม่”ฉันพยักหน้ารับคำคุณแม่ หลังจากที่เรานั่งกินข้าวเย็นกันที่หอนั่ง เห็นทีคงจักมิได้นั่งดูดาวเยี่ยงทุกทีแล้วกระมัง
ฉันเป็นคนชอบดูดาว เป็นมาตั้งแต่ครั้งไปเรียนที่อังกฤษ บนเรือนั้นไม่มีอันใดที่จักทำให้ฉันเจริญใจได้เลย นอกจากท้องฟ้า...

“ไปเถิดลูก กระเดี๋ยวนึงแม่ก็จักไปนอนแล้ว”

“ขอรับ คุณแม่ดูแลตัวเองดีๆหนาขอรับ อากาศก็เริ่มจักเย็นบ้างเสียแล้ว กระผมเกรงว่าคุณแม่จักป่วยไข้เอาเสียได้”

“จ้ะ ไปเถิดลูก แล้วก็ดูแลพ่อทีป์เขาดีๆหนา อย่างไรเสียก็รับเขามาอยู่เสียด้วยกันแล้ว”

“ขอรับคุณแม่ เกรงว่าตอนนี้จักเป็นพ่อทีป์เสียมากกว่าที่ต้องดูแลลูก”

“เอาเถิดๆ ไปเสียได้แล้วลูกกระเดี๋ยวพ่อทีป์เขาจักรอท่า”

“ขอรับ”ฉันเกรงว่า...คนที่คุณแม่ว่าจักรอท่าฉันจะแอบหลับไปเสียก่อนน่ะซี พ่อคนนั้นน่ะ วันๆก็อยู่แต่กับคุณแม่แล้วก็อ่านหนังสือไปตามเรื่องตามราวของเขาเท่านั้นเอง วันๆสนใจมาคุยกับฉันเสียบ้างที่ไหนกัน


   
“พรึ่บ”เสียงพลิกกระดาษอย่างแรงดังขึ้นทีหนึ่ง ทำเอาร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาในห้องตนเองหยุดชะงักสายตาทอดมองไปทางต้นเสียงทันทีทันใด

นภทีป์นั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือของเขาเอง...จุดตะเกียงให้ตัวเองเสียเรียบร้อย กำลังนั่งหน้าเคร่งอยู่หน้าหนังสือเล่มหนา...
นภทีป์ตกอยู่ในภวังค์ของหนังสือเล่มนั้นยาวนานหาได้สนใจผู้มาใหม่ไม่

“พ่อทีป์ ยังมิง่วงดอกหรือ?”

“ยังครับ...เอ้อ ขอรับ ยังไม่อยากนอนเท่าไร คุณนอนก่อนสิ เดี๋ยวผมไปนอนที่เดิมนั้นแหละ”

“ข้างหน้าต่างน่ะหรือ มันหนาว กระเดี๋ยวจักเป็นไข้”

“ให้ผมนอนเบียดคุณก็ร้อนได้ห่าสิครับแหม”

“ดูพูดเข้าซี เออ เอาเถิด อยากนอนหนาวๆก็ช่างพ่อทีป์ไปแล้วกัน ฉันจักนอนแล้วหนา คุณแม่ท่านว่าให้นอนเร็วเสียหน่อย จักได้หายไวๆ พ่อทีป์ก็รีบนอนเข้าล่ะ กระเดี๋ยวจับไข้ฉันจักไม่สงสารเลยเทียว”

“อื้อหือ คุณครับ แหมๆ นอนไปเถอะไป เดี๋ยวผมก็นอนแล้วเหมือนกัน อ่านไฟตะเกียงแบบนี้ก็ปวดตาอยู่ ห่มผ้าดีๆล่ะคุณเดี๋ยวหนาวตายผมไม่รู้ด้วย”

“แช่งฉันเสียอีกนะ”

“เปล่าแช่ง เขาเรียกว่าเป็นห่วงหรอกคุ๊ณ”

“เอาเถิดๆ พาทีกับพ่อทีป์นี่ทำฉันปวดหัวได้เหมือนกัน ฉันจักนอนแล้วเสียที”

“ขอร้าบบบ”

“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจอย่างระอาใจดังมาแว่วๆ เรียกรอยยิ้มให้จุดขึ้นที่มุมปากของคนที่นั่งอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี



“แปะ แปะ”เสียงน้ำค้างหยดลงบนพื้นกระดานแผ่วๆมาจากนอกเรือนนอน คุณหลวงนพเทพอัคราลืมตาตื่นช้าๆสายตาทอดมองไปริมหน้าต่าง เจอก้อนผ้านวมขยุกขยุยเป็นก้อนอยู่จนเต็มตั่ง หึหึ บอกแล้วเทียวว่าให้มานอนเตียง แล้วนี่ไปค้นผ้านวมมากจากหีบได้อย่างไรก็สุดรู้

“ก๊อกๆ คุณหลวงขอรับ ตื่นแล้วหรือยังขอรับ”

“ตื่นแล้ว เอ็งมีอะไร”

“กระผมเอาน้ำล้างหน้ามาเตรียมไว้ท่าขอรับ วันนี้คุณหลวงจักอาบน้ำหรือไม่ขอรับ”

“ไม่เอาล่ะ เกรงไข้จักกลับเอาเสียได้ ไปเอาน้ำมาอีกสักกะละมังเถิด กระเดี๋ยวข้าเช็ดเนื้อเช็ดตัวคงพอสดชื่นขึ้นบ้าง”

“ขอรับ กระผมจักไปบอกนางพวกนั้นให้ยกเข้ามา”

“เออๆ ไปเถิด”

“ขอรับ”

“ฮ้าวววววววววว”เสียงหาวดังลั่นมาจากตั่งเล็กริมหน้าต่างก้อนผ้าขยุกขยุยขยายตัวออก ชายหนุ่มหน้ายุ่งหัวฟูโผล่ออกมาบิดขี้เกียจอย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้องแม้แต่น้อย

“ตื่นแล้วก็มาล้างหน้าเสีย ใช้น้ำอ่างเดียวกันนี่เสียก็ได้ นางเล็กๆเขาเตรียมไว้ให้”

“อือๆ”นภทีป์เดินเตาะแตะงัวเงียเซซ้ายป่ายขวามาจนถึงข้างเตียงคุณหลวง นั่งแปะลงบนเก้าอี้สัปหงกอยู่หลายหงึกกว่าจะยอมจุ่มมือลงไปในอ่างควานหาผ้ามาเช็ดหน้าได้

“เฮ้อ...เยี่ยงนั้นจักได้เรื่องหรือ? หืม อยู่มาเสียนานแล้วนายังเช็ดหน้าไม่เป็นหรือไร?”คุณหลวงส่ายหัวเบาๆ คว้าผ้าไปจากมือนภทีป์ นิ้วเรียวยาวจุ่มผ้าลงน้ำอีกรอบ บิดจนออกหมาดๆแล้วค่อยเช็ดหน้าให้คนที่นั่งสัปหงกอยู่แผ่วเบา


คิ้วเรียว

ตาโต

ปากแดงๆ

จมูกโด่งเป็นสัน...

พ่อทีป์นี่จัดว่ารูปงามมากเลยเทียว หากให้ไปเดินตามร้านตลาดสาวๆคงตามติดกันเกรียวกราว สูงหรือก็พอๆกับเขา ออกจะตัวบางกว่าตามประสาเท่านั้นเอง

“อือ เปียกหมดแล้วคุณ”เสียงงึมงำบ่นเบาๆ ทำเอาคนเช็ดหน้าให้อยากจะเขกกะโหลกสักที ง่วงงุนอันใดเสียขนาดนั้นก็หารู้ได้ไม่

“ง่วงมากหรือ? เมื่อคืนไม่ยอมนอนหรือไร?”

“นอนแล้ว หลังคุณเดี๋ยวเดียวเอง แต่ง่วงอ่ะ นอนอีกแปปได้ไหม”

“แปปแปลว่าอะไร?”

“กระเดี๋ยวของคุณแหละมั้ง เออ มันแปลว่าอะไรก็ช่างมันเหอะ แต่นอนต่ออีกหน่อยนะ”ไม่รอให้คุณหลวงอนุญาตแต่อย่างใดนภทีป์ก็ไถลตัวออกจากเก้าอี้ไปนอนแปะบนเตียงเจ้าของห้องเขาอย่างอุกอาจ เรียกได้ว่าไม่มีความเกรงใจกันเลยทีเดียว แค่หัวถึงหมอนคลี่ผ้าห่มคลุมตัวได้ คนง่วงจัดก็ผล็อยหลับไปทันที

“กระไรจักง่วงถึงเพียงนั้นพ่อทีป์เอ๋ย”คุณหลวงบ่นพึมพำ แต่ไม่ได้สนใจคนที่นอนอยู่อีก ไปเปิดประตูห้องเรียกบ่าวให้รีบๆเอาน้ำมาให้ด้วยเหนียวเหนอะหนะเสียเหลือเกินแล้ว

“คุณหลวงให้บ่าวช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ดีไหมเจ้าคะ”นางเล็กๆที่ขึ้นมาห่มผ้ามาหมิ่นเหม่เสียแทบจะหลุดออกจากเต้านมส่วนผ้านุ่งนั้นก็หยักรั้งขึ้นสูงกว่าปกติอยู่บ้างเผยขาอ่อนวับๆแวมๆ คุณแม่ยังไม่เลิกมาตรการนี้อีกหรือกระไรนะ คุณหลวงหนุ่มทำได้เพียงถอนหายใจแผ่วเบาแล้วเอ่ยปากไล่นางคนนั้นลงไปเสีย ด้วยรำคาญนัยน์ตาเสียเหลือเกิน

“เอ็งออกไปเถิดไป เรียนคุณแม่ด้วยว่าวันนี้ฉันจะออกไปรับข้าวเช้าด้วย”

“เจ้าค่ะ”นางบ่าวผู้นั้นทำหน้าหมองด้วยโดนไล่ออกไปอย่างไร้เยื่อไยแม้เพียงหางตาก็ไม่เหลือบแลมาแม้เพียงนิด

“ไปเสียได้ก็ดี เห้อ...”คุณหลวงถอดถอนใจ ค่อยๆจุ่มผ้าลงไปในน้ำแล้วบิดมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ตัวเอง หวังว่าคงจะสบายตัวขึ้นมาบ้างสักเพียงน้อยก็ยังดี

“ฟี้...ฟี้...”เสียงหายใจแผ่วๆดังมากจากที่เตียงเรียกรอยยิ้มจากคนที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวตัวเองอยู่ไม่น้อย...

พ่อทีป์เอ๋ยพ่อทีป์

เจ้าช่าง...

   น่าภิรมย์อันใดถึงเพียงนี้กัน...



หอนั่ง


“เอ้า มาแล้วหรือพ่อนพ วันนี้เหตุใดจึงมาทานข้าวพร้อมแม่ได้เล่าลูก ไม่เข้ากรมหรือ?”

“วันนี้ไม่ต้องเข้ากรมก็ได้ขอรับ เจ้าคุณท่านว่าหากมีเรื่องด่วนประการใดจักให้ม้าเร็วนำหนังสือมาให้ที่เรือนขอรับ”

“หรือจ้ะ ดีจริง แม่จักได้มีเวลาอยู่กับพ่อนพมากหน่อย แล้วพ่อนพจักได้อยู่กับเจ้าตัวเล็กสามคนนั่นด้วย ไม่ได้เจอจนเด็กๆจักลืมว่าพ่อตัวเองเป็นใครเสียแล้วกระมัง?”

“ขอรับ”คุณหลวงยิ้มบางเบา มองไปทางชานเรือนหน้าเรือนนอนของคุณหญิงแขไขที่แม่นมกับนางเล็กๆสองสามคนกำลังช่วยกันไกวเปลที่วางเรียงกันสามเปลไปมาอยู่ ด้วยเด็กน้อยกำลังหลับ พอเขาทานข้าวเสร็จ เข้าไปปลุกพ่อทีป์ เด็กๆคงตื่นพอดีกระมัง

“แล้วพ่อทีป์เล่า ยังไม่ตื่นหรือ? สายถึงเพียงนี้แล้ว”

“เมื่อคืนคงหลับมิใคร่สนิทกระมังขอรับ พ่อทีป์ไปนอนตั่งน้อยริมหน้าต่างห้องลูก เช้ามาเลยง่วงงุนหลับไปเสียอีกรอบ คราวนี้พ่อทีป์นอนบนเตียงลูกเลยเทียว”

“คงนอนมิใคร่หลับจริงๆกระมัง งั้นให้เขานอนไปเถิด เดี๋ยวพ่อทีป์ตื่นมาเมื่อไรมาจักให้บ่าวเขาจัดสำรับให้อีกรอบแล้วกัน มาๆ พ่อนพก็รีบกินเถิด จักได้ไปดูลูกๆเสียบ้าง เด็กพวกนี้น่าเกลียดน่าชังนักเชียวล่ะลูก”

“ขอรับ ลูกเองก็อยากจักใกล้ชิดเด็กๆพวกนั้นเช่นกัน หากว่ารับเขามาเป็นลูกแล้วหากลูกเอาแต่ทำกิจการราชการหาได้ใส่ใจครอบครัวของตัวเองเสียบ้างก็น่าสงสารเด็กมัน”

“ดีๆ คิดได้เช่นนี้ก็ดีแล้วลูก”


“ฮ้าวววว”ร่างสูงโปร่งลุกมาบิดขี้เกียจซ้ายขวา แถมด้วยการหาวเสียงดังจนปากกว้างจนแทบจะฉีกถึงรูหูนั้นอีก นภทีป์นอนหลับไปอีกหลายชั่วโมง เรียกได้ว่ากินบ้านกินเมือง ตะวันแยงหูแยงตาซ้ายขวาก็ยังไม่ตื่น ด้วยเมื่อคืนหลับไม่ค่อยสนิททั้งยังไม่ใคร่สบายเนื้อสบายตัวเสียอีก

“ตื่นแล้วหรือ ฉันว่าจักเข้ามาเรียกพอดีเทียว กระไรนอนนานนัก นึกว่าเจ็บไข้ไปเสียแล้ว คุณแม่ท่านเป็นห่วงท่านว่าพ่อทีป์หลับนานเหลือเกิน”

“เอาน่าๆ ผมก็นอนของผมแบบนี้แหละ ก็มันง่วงนี่ขอรับ เมื่อคืนนอนตัวแข็งเลยนะ ผมกลัวตกลงมาจากตั่งห้องคุณเนี้ย”
“คราวหลังก็มานอนเสียเตียงเดียวกับฉันท่าจะดี?”

“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวคุณหายป่วยผมก็กลับไปนอนห้องผมสิ แม่คุณก็จัดห้องไว้ให้ผมอยู่แล้วไมได้ให้อยู่กับคุณตลอดไปสักหน่อย เอ้อ แล้ววันนี้คุณหลวงไม่ไปทำงานหรือขอรับ?”

“ไม่ต้องไป ท่านเจ้าคุณท่านว่าให้อยู่บ้านกับลูกเสียบ้างกระเดี๋ยวเด็กมันจักลืมว่าใครเป็นพ่อมัน”

“ฮ่าๆ เจ้านายคุณตลกดีแหะ เออ ว่าแต่คุณไหนล่ะงานที่คุณบอกว่าจะให้ผมช่วย ผมอยู่มาจะครบเดือนอยู่แล้วยังไม่เห็นคุณเอางานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาให้ช่วยทำสักที มีแต่งานจุกจิก”

“อยู่เฉยๆไม่ชอบหรือ?”

“น่าเบื่อจะแย่ ดีหน่อยก็ตรงคุณแม่คุณเห็นผมเหงาแล้วยกครัวขึ้นมาสอนทำกับข้าวบ้างเท่านั้นแหละ”

“หึๆ พ่อทีป์น่ะหรือ ทำกับข้าว กินได้หรือไม่จ้ะ?”

“ต้องลองๆ อย่ามาดูถูกผมเชียว ไว้วันหน้าวันหลังจะทำให้กินล่ะกัน ขอฝึกปรือฝีมือกับแม่คุณก่อน เดี๋ยวไม่อร่อยละก็ขายหน้าตาย”

“หึๆ จ้ะๆ ตื่นแล้วก็ลุกมาล้างหน้าล้างตาเสียใหม่ คุณแม่ท่านเรียกหาโน้นแล้ว ว่าให้ไปรับทานข้าวได้แล้ว กระเดี๋ยวจักปวดท้องปวดไส้เอา”


“ขอรับๆ กระผมจะรีบล้างหน้าล้างตาแล้วรีบไปกินข้าวกับคุณเลย ดีไหม?”

“เอาแต่เล่น นู้น ฉันให้บ่าวยกอ่างมาให้แล้วล้างหน้าเสียเร็วเข้า”

“ขอรับๆ”



“พ่อทีป์ ออกจากห้องมาได้แล้วหรือลูก?”

“โธ่ กระผมหาได้เกียจคร้านอันใดนะขอรับ เพราะนอนไม่สบายเท่าไหร่เลยอยากนอนชดเชยเสียบ้างเท่านั้นเอง”

“เอาเถิดๆ เล่นลิ้นอยู่นั่น รีบมากินข้าวกินปลาเสีย แม่ให้บ่าวมันจัดอาหารอ่อนๆมาให้พ่อทีป์ด้วย เห็นว่าไม่ได้กินมาแต่เช้าแม่เกรงเหลือเกินว่าจักปวดท้องเอา”

“ขอรับ”นภทีป์นั่งลงตรงข้างคุณหลวง แล้วเริ่มกินข้าวพร้อมกันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะคนตัวผอมไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้าเลยกินได้เยอะเป็นพิเศษทำเอาคุณหญิงปลื้มอกปลื้มใจยกใหญ่

“อร่อยหรือลูกวันนี้?”

“อร่อยด้วยหิวด้วยขอรับ”

“แน่ล่ะสิ ก็พ่อทีป์เอาแต่นอนเสียครึ่งค่อนวัน หากเป็นเด็กๆฉันจักเฆี่ยนให้หลังลายเชียว”

“คุณหลวงใจร้าย”นภทีป์เบ้ปากใส่คุณหลวง พร้อมสายตาขุ่นเคือง มีอย่างที่ไหนมาบอกว่าจะเฆี่ยนคนที่อายุขนาดเขาแล้วกัน ใจร้ายใจดำเกินไปแล้วนะเว้ย!

“พ่อนพนี่ล่ะก็ เอาๆ รีบกินกันเสียเถิดลูก กระเดี๋ยวเจ้าตัวเล็กพวกนั้นก็จักตื่นมากวนกันบ้านแตกแล้ว แม่เกรงจักไม่ได้กินข้าวกินปลากัน”

“ฮะๆ ขอรับ”นภทีป์รับคำแล้วรีบเปิบข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว ทำเอาคุณหลวงได้แต่ส่ายหน้าปลง กระไรกันนะเจ้าคนนี้

“กระเดี๋ยวข้าวติดคอเถิด ฉันจักหัวร่อให้จงหนักเชียว”

“แค่กๆๆ”


“เห็นหรือไม่พี่เขาว่ายังมิทันขาดคำดีเทียว เอ่าๆ ดื่มน้ำนี่เข้าไปเสียก่อนลูก”

“แค่กๆ อึกๆๆๆ”

“หึ เป็นอย่างไรเล่า คราวหน้าคราวหลังต้องระมัดระวังกว่านี้รู้หรือไม่พ่อทีป์”

“ขอรับๆ”นภทีป์รับคำแล้วดื่มน้ำตามเข้าไปอีกอึกใหญ่ๆ ทำเอาจุกน้ำจนเลิกกินข้าว กลายเป็นว่าต้องเสียมารยาทรามือไปก่อนคุณหญิงทั้งอย่างนั้น

“มิเป็นไรดอกลูก กินไม่ไหวแล้วก็พอเถิด นั่งนิ่งๆเสียบ้างพ่อทีป์น่ะ กระเดี๋ยวจักไม่มีแรงไปสู้รบปรบมือกับเจ้าสามแสบนั่น แม่ล่ะปวดหัวนักเทียว หากได้ร้องสักคนล่ะก็ เป็นอันต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ปลอบเจ้าสองคนที่เหลือด้วยเพราะกลัวน้อยหน้ากัน”

“ฮ่าๆ กระนั้นเทียวหรือขอรับคุณแม่”คุณหลวงหัวเราะชอบใจแล้วพากันรามือจากสำรับข้าวไปทั้งแม่ทั้งลูก


“เอิ้กๆๆ”เสียงเด็กเล็กๆหัวเราะดังลั่นเรือนไปหมด ฉันล่ะดีใจเหลือเกิน คุณแม่คงพอคลายเหงาไปได้บ้างได้ทั้งพ่อทีป์ ทั้งเจ้าสามคนนี่มากวนใจ

“ว่าไงครับ หืม ฮ่าๆๆ โอ้ยไอ่แสบอย่าดึงๆ”เสียงพ่อทีป์ก็ดังไม่แพ้กับเด็กๆเลยเทียว เหมือนมีเด็กๆสี่คนกำลังตะลุมบอนกันให้วุ่นวายไปหมด

น่ารักจริงๆเชียว

น่ารักทั้งลูกฉัน

น่ารักทั้งพ่อทีป์

หึๆๆๆ

“ยิ้มกระไรนั่นพ่อนพ แลดูประหลาดเหลือประมาณเทียวนะลูก”

“กระไรหรือขอรับคุณแม่ กระผมเพียงยิ้มเพราะเห็นลูกชายสนุกสนานกันเท่านั้นเอง”

“หรือจ้ะ มิใช่มองเลยลูกชายไปเสียล่ะ”

“กระไรนะขอรับ?”

“แม่หาได้ห้ามอันใดดอกนะลูก แม่ศรัทธามหาเถรเหลือเกินลูกเองก็แจ้งแก่ใจ หากมหาเถรว่าอย่างไรแม่ก็จักเชื่ออย่างนั้นแลลูก”

“โถ่ คุณแม่ขอรับ หากเรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นเสียอย่าง มิใยคุณจักต้องคิดให้มากความด้วยขอรับ”

“แม่เพียงแต่บอกไว้เท่านั้นเองลูก ว่าแม่หาได้หมองใจอันใดหากจักรักกัน พ่อนพ รู้หรือไม่จ้ะว่าแม่พบเจ้าคุณพ่อของลูกเอาเสียวันเข้าหอ ตอนนั้นแม่มีแต่ความหวาดกลัว หากเจ้าคุณพ่อขับไล่แม่ไปแล้วไซร้แม่จักทำเยี่ยงไรได้ หากใครจักรักชอบใครแม่จักไม่ห้ามหักเอาเทียว”

“ขอรับ คุณแม่อย่าได้กังวลใจไปเลยขอรับ ลูกเองตอนนี้ก็หาได้รักชอบกันไม่ หากต่อไปจักเป็นเยี่ยงไรก็ให้เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าดินเถิดขอรับ หากมันเกิดขึ้นแม่จริงๆแล้วไซร้ ลูกจักมิปิดบังคุณแม่เลยแม้เพียงนิด”

“จ้ะพ่อนพ แม่รักลูกนะ หากพ่อนพจักเป็นกระไร มีเมียมีหลานในไส้ให้แม่หรือไม่กระไรนั้น แม่ก็ยังรักลูกของแม่แบบนี้ รู้หรือไม่ลูก”

“ขอรับ”

“ขอเพียงพ่อนพสุขใจแม่เองก็สุขใจ ใครจักว่ากระไรเราได้ ชาวบ้านนินทาไปก็เพียงนั้น เขาหาได้มาสุขกับเราไม่ รู้หรือไม่ลูก หากวันหน้าวันใดลูกรักกันขึ้นมาจริงๆแล้ว ขอให้บอกแม่ แล้วหากใครเขาว่ากระไรให้ก็ขอให้เข้มแข็งให้จงหนัก”

“ขอรับคุณแม่ กระผมโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นลูกของเจ้าคุณพ่อกับคุณแม่”

“แม่เองก็โชคดีเหลือเกิน ที่ได้ลูกชายที่แสนดีเยี่ยงพ่อนพ”

“ขอรับคุณแม่ ยามนี้ลูกหวังเพียงว่าเด็กๆสามคนนั่นจะเติบโตมาเป็นเด็กดี ไม่ทำให้คุณย่าของพวกแก กับพ่ออย่างตัวลูกเองช้ำใจ”

“แม่เองก็หวังใจไว้เช่นกันลูก”

“ยามนี้ก็คงเหลือแต่เพียงหาแม่ให้พวกเขากระมังขอรับคุณแม่”

“จ้ะ จักหาแม่หรือหาใครให้ก็แล้วแต่พ่อนพเถิด”


ฉันทอดสายตาไปทางเด็กๆกับเจ้าพี่เลี้ยงเด็กตัวโตที่กำลังหยอกเอินกันอย่างสนุกสนาน

ฉันน่ะหรือจักรักชอบกับพ่อทีป์ได้

กระไรนั่น...หากมันจักเกิดอันใดขึ้นก็ขอให้มันเกิดขึ้นมาเถิด

ติดเสียแต่ว่ายามนี้ ฉันเองยังรักชมชอบในสตรีเพศ และพ่อทีป์เองก็เห็นจักเป็นเฉกเช่นเดียวกัน

หากจักได้รักกันแล้วไซร้

ขอให้มันเป็นเรื่องของสันนิวาสเถิด



เอาคุณหลวงมาส่งแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆที่หายไปนาน (มากๆ) เพราะกิจกรรมล้นหลามเยี่ยงน้ำป่าไหลหลากจริงๆค่ะ T^T
ช่วงนี้เปิดเทอมล่ะด้วย รีพอร์ทจะมาอีกมหาศาล อาจจะมาได้อย่างเร็วที่สุดสองอาทิตย์ครั้งนะคะ แต่จะพยายามอัพให้ได้ทุกเดือนเน้อ

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มาต่อแล้ว :hao7:
จะบอกว่าแค่เห็นว่ามาต่อ
ก็ดีใจสุุดๆในรอบวันเลย
เข้าใจจ้าว่างานเยอะอย่าเครียดนะ
เป็นกำลังใจให้ :3123: :กอด1:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
สู้ๆค่ะ  :mew1:
ว่าแต่เปลี่ยนหัวกระทู้ ลงวันที่หน่อยก็ดีนะค่ะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
มาแว้ว
คุณหญิงแขไขเป็นแม่ที่ดีมากอ่ะ เข้าใจลูกชายที่สุดอ่ะ
ทีนี้รอให้คุณหลวงรักกับพ่อทีป์ อิอิ
สนุกมาก

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
2อาทิตย์ครั้งก็คือเดือนละ2ตอนใช่มั้ย ฮือออออ เราจะรอนะ เราจะรอทุกเดือนเบย
เราจะรอให้คุณหลวงกับทีป์คนรักกันไวๆ ให้ตฤนโดนพี่ธามปล้ำเร็วๆ ให้เรื่องลงเอยซะที
อิอิอิ เรารักนิยายเรื่องนี้จุง มาอัพไวๆน้า ตั้งใจเรียนด้วยนะคะ สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ว่าที่แม่สามีน่ารักมากมาย
+1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สู้ๆ จ้า เป็นกำลังใจให้เสมอ  :L2:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0







พยับที่ ๘



“พรึ่บ...”เสียงพลิกกระดาษหน้าหนังสือดังต่อเนื่องมาสักระยะแล้ว ต้นเสียงก็ไม่ใช่ใครที่ไหน วันนี้นภทีป์ได้งานคัดลอกหนังสือกองใหญ่มาจากทนายหน้าหอของคุณหลวงที่เอามาส่งให้ที่เรือนตอนสายๆ ทำให้ต้องละจากงานบ้านงานเรือนมานั่งทำงานหลวงอยู่อย่างนี้

“คุณทีป์เจ้าขา คุณหญิงท่านให้มาเรียนถามว่าอยากทานของหวานกระไรหรือไม่เจ้าคะ?”แม่นมของคุณหลวงที่เป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของคุณหญิงหมอบราบอยู่ใกล้ๆแถวนั้น ทำเอาคนอายุน้อยกว่าเกรงใจไม่น้อย อย่างไรเสียแม่นมก็อายุมากกว่าเขานี่นะ

“วันนี้ผมไม่ได้อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรอกครับแม่นม แต่อยากได้อะไรเย็นๆเสียมากกว่า วันนี้อากาศหรือก็ร้อนเหลือใจ”

“กระนั้นรับน้ำมะตูมเสียหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ?”

“น้ำมะตูมหรือจ๊ะ เอามาเถิดตอนนี้น้ำอะไรฉันก็กินได้ทั้งนั้นแหละจ้ะ”

“เจ้าค่ะ สักกระเดี๋ยวบ่าวจักยกมาให้นะเจ้าคะ วันนี้ในครัวเขาทำน้ำมะตูมอยู่พอดีเทียว”แม่นมว่าแล้วคลานออกไป เฮ้อ...เห็นแม่นมที่นี่แล้วก็คิดถึงคุณนมนุ่มนิ่มอยู่เหมือนกันแฮะ ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง แล้วก็ไม่รู้ว่าไอ่ธามกับไอ่ตฤณจะเป็นยังไงบ้าง...



“คุณหลวงขอรับ คุณหลวงจักให้บ่าวไปเอาหนังสือที่ให้คุณทีป์ไปลอกให้มาเสียตอนนี้เลยหรือไม่ขอรับ?”คุณหลวงหนุ่มเงยหน้ามองทนายหน้าหอคนสนิทที่มาเฝ้ารับใช้อยู่ใกล้ๆในกรมด้วย ด้วยจักใช้ส่งหนังสือไปมากระนั้น

“เออ จริงซี เอ็งเร่งไปเอามาเถิด หากยังไม่เสร็จเสียทั้งหมดก็ให้เอามาเสียแต่อันที่แล้วเสร็จแล้ว เข้าใจหรือไม่?”

“ขอรับ”

คุณหลวงหนุ่มทอดสายตามองไปยังทิศทางเรือนของตนด้วยสายตาอาดูรยิ่ง...

ไม่รู้ว่าพ่อทีป์จักกระทำอันใดอยู่บ้าง คัดลอกหนังสือเสร็จแล้วหรือยัง?

แดดข้างนอกร้อนแรงยิ่งนัก....

พ่อทีป์จักร้อนหรือไม่นะ?


กระไรกันนั้่น เหตุใดฉันถึงทำตัวเป็นอ้ายหนุ่มที่เพิ่งริลองรักครั้งแรกกระนั้น เหตุใดจึงคิดถึงแต่พ่อทีป์ได้ถึงเพียงนี้กันนะ
ไม่...

ฉันหาใช่ลักเพศ...

คงเป็นฉันที่คิดมากไปเองกระมัง...

   นี่เป็นแค่เพียงความห่วงใยต่อสหายคนหนึ่งเท่านั้นเอง
   


“อ้าว นายทดคุณหลวงให้มาเอาหนังสือหรือ?”

“ขอรับคุณทีป์ เสร็จแล้วหรือไม่ขอรับ”

“อือ เสร็จแล้วแหละ เอาไปสิ แล้ววันนี้คุณหลวงจักกลับเย็นมากหรือไม่?”

“คงค่ำอยู่เทียวขอรับ วันนี้มีหนังสือใหม่ที่ได้มา เป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยเทียว”

“กระนั้นหรือ งั้นเอ็งไปเถอะ ดูแลคุณหลวงให้ดีๆล่ะ อย่าให้ได้เจ็บไข้อย่างคราวนั้นอีก เข้าใจหรือไม่”

“ขอรับ กระนั้นกระผมกราบลาแล้วหนาขอรับคุณทีป์”

“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคุณหลวงรอนานเข้าจักเสียการณ์ เอ็งนั้นแลที่จักโดนดุเอา”

“ขอรับ”นายทดคลานออกไปสักพักแล้ว ส่วนนภทีป์ได้แต่ทอดสายตาไปทางกรมท่าที่คุณหลวงทำงานอยู่อย่างหงอยเหงา ช่วงนี้คุณหลวงทำงานดึกทุกวัน กว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืด อย่างกับจะทำโอทีแข่งกับพวกพนักงานออฟฟิซในยุคของเขาอย่างไรอย่างนั้น

“พ่อทีป์ เป็นกระไรไปจ้ะลูก แม่เห็นนั่งเหม่อลอย เบื่อหรือลูก?”

“เปล่าขอรับ กระผมเพียงแต่เหงาอยู่สักหน่อย...คิดถึงบ้านน่ะขอรับ ไม่รู้จักหาทางกลับไปยังไง”

“ก็คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านไปเสียกระไรเล่าลูก อยู่กับแม่เรียกแม่ว่าแม่ เรียกพ่อนพว่าพี่ก็ได้”

“ขอรับ ขอบคุณคุณแม่มากหนาขอรับที่เมตตาผมขนาดนี้”

“จ้ะ ก็พ่อทีป์น่ะน่าเอ็นดูออกขนาดนี้ เนื้อตัวหรือก็ดูขาวนวลเนียนไปเสียหมด หากไม่ติดว่าพ่อทีป์เป็นผู้ชายแล้วล่ะก็แม่คงจักต้อง
รีบส่งสินสอดทองหมั้นไปขอจองตัวไว้ก่อน พ่อนพเขาจักได้ออกเรือนไปเสียที”

“คุณหลวงยังไม่มีคู่หมั้นหรือขอรับ?”

“เคยมีจ้ะ แต่เขาขอให้แม่ไปบอกทางนั้นว่าจักยกเลิกสัญญาหมั้นหมายเสีย พ่อนพน่ะ หากไม่ต้องการจักทำอันใดแล้วหรือหากต้องการจักทำอันใดก็เด็ดขาดนักแล เหมือนเจ้าคุณพ่อเขานั่นแลจ้ะ”

“ทำไมเล่าขอรับ ผู้หญิงเขาไม่สวยถูกใจคุณหลวงหรือขอรับ?”

“ใครว่าไม่งามกันเล่าลูก แม่มะลินั้นหนา เป็นที่ลือไปทั่วคุ้งน้ำทั้งในวังนอกวังว่างามนัก กริยาก็เรียบร้อย เขาเป็นเอกด้านกรองมาลัยดอกไม้นักแลลูก แม่น่ะรู้จักมักจี่สนิทกับก๊กนั้นเขามาแต่น้อย ถึงได้เห็นแม่มะลิโตมากับตาเทียว ตอนจักไปยกเลิกสัญญาหมั้นหมายนั้นแม่ก็กลุ้มอกกลุ้มใจอยู่นานโข สงสารแม่มะลิเขา เฝ้ารอแต่พ่อนพมาเสียตั้งแต่พ่อนพไปเรียนต่อที่อังกฤษ ไฉนเลยจักฉุกใจคิดว่าสุดท้ายแล้วจักโดนถอนหมั้นเอาเสียดื้อๆ เพราะอย่างนี้แลแม่ถึงกับมองหน้ากับคุณหญิงแม่แม่มะลิเขาแทบไม่ติดเชียวลูก หาไม่คำนึงถึงความหลังครั้งยังเป็นเด็กน้อยแล้วเติบโตมาด้วยกันแล้วล่ะก็ แม่คงจักถูกเขาถอนหงอกจนหมดหัวเชียวแล”

“แล้วทำไมคุณหลวงเขาถึงไม่ชอบล่ะขอรับ?”

“เขาว่ายังไม่เคยพบหน้ากันแม้เพียงน้อยจักให้ไปนิยมชมชอบถึงขั้นออกเรือนไปด้วยกันได้อย่างไร แม่ก็ไม่รู้จักห้ามเขา
อย่างไร ตัวแม่เองก็เห็นหน้าเจ้าคุณพ่อของพ่อนพครั้งแรกตอนแต่งงานนี้แลจ้ะ แม่นั้นหนาเพิ่งจักมารู้เห็นว่าท่านเจ้าคุณท่านมีนางเล็กๆเลี้ยงไว้เสียมากก็เมื่อแต่งเข้ามาแล้ว แต่เจ้าคุณพ่อของพ่อนพน่ะรักใคร่เอ็นดูแม่ดี แม่จึงมิได้ลำบากใจอันใดมาก ท่านไม่เคยให้นางเล็กๆคนใดขึ้นเรือนมาอีกยามแต่งแม่เข้ามาเรือนเขาแล้ว แต่ก็หาได้เลิกกินเล็กกินน้อยอย่างเด็ดขาดอันใดไม่นา พี่น้องต่างพ่อของพ่อทีป์น่ะมีอีกหลายคนเทียวลูก หากท่านเจ้าคุณท่านปลูกเรือนให้อยู่แยกต่างหาก ยิ่งพอมีพ่อนพท่านยิ่งห่างออกมาจากเรือนเล็กๆ แม่ก็พลอยดีใจ”

“อย่างนั้นหรือขอรับ? คุณหลวงเขาไม่มีนางเล็กๆบ้างหรือขอรับ?”

“เขาเกลียดอย่างกับอะไรดีเชียวลูก พวกคนมากรักหลายใจน่ะ เขาว่าไม่อยากให้ใครต้องมาทนกล้ำกลืนอย่างแม่ ถึงไม่เคย
ชายตามองนางเล็กๆที่เพียรนุ่งน้อยห่มน้อยมาล่อเสืออยู่ทุกวันอย่างไรเล่า”

“ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณหลวงจะเกลียดคนมากรักถึงเพียงนั้น?”

“แม่เองก็ไม่เคยนึกถึงเหมือนกันลูก ด้วยว่าท่านเจ้าคุณน่ะไม่เคยกระทำอันใดให้ลูกชายคนเดียวของเขาขับข้องหมองใจเลย แต่เองก็ยังค้างใจอยู่ว่าด้วยเหตุกระไรกันพ่อนพถึงได้มิชอบคนมากรักหลายใจถึงเพียงนั้น”

“นั้นซีขอรับ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าอิจฉาผู้หญิงที่จะได้แต่งงานกับคุณหลวงนะขอรับ เขาคงโชคดีมาก เพราะคุณหลวงคงจะไม่ไปหาเศษหาเลยที่ไหนอีก คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ครอบครองทั้งหัวใจและร่างกายของคนที่เรารักให้เป็นของเราคนเดียว”

“แม่ก็กลัวแต่พ่อนพจักไม่แต่งงานแล้วน่ะซีจ้ะ”

“ทำไมล่ะขอรับ? เขาว่าเขาจะไม่แต่งงานแล้วหรือ?”

“จ้ะ เขาบอกไม่อยากมีพันธะ แล้วก็ไม่ได้ถูกตาต้องใจใครในยามนี้ พ่อนพถึงได้วิ่งโร่ไปขอเจ้าสามแสบมาเลี้ยงอย่างไรเล่าลูก ด้วยว่าแม่พูดกับเขาเสียบ่อยๆว่าอยากอุ้มหลาน ให้พ่อนพรีบแต่งงานแต่งการเสีย จักได้มีหลานให้แม่อุ้ม แต่พอเขาได้ยินเข้า แล้วไม่อยากแต่งงานถึงกับไปหาเด็กมาให้แม่เลี้ยงเชียงแลจ้ะ แม่เองก็คาดไม่ถึงพ่อนพในข้อนี้เช่นกัน “

“อย่างนั้นหรือขอรับ คุณแม่ขอรับเมื่อสักครู่นายทดเขามาเอาหนังสือจากกระผม แลบอกว่าวันนี้คุณหลวงคงจักกลับค่ำมืดเช่นวันก่อนๆ คุณแม่ทานข้าวเสียก่อนเถิดขอรับ กระผมจักรอทานพร้อมคุณหลวงเสียเองก็ได้”

“รอทำไมกันลูก ก็ทานไปเสียพร้อมแม่ ไว้เขากลับมาเขาหิวเขาก็เรียกบ่าวตั้งสำรับเองแลลูก”

“อย่างนั้นหรือขอรับ วันอื่นๆกระผมก็รอคุณหลวงตลอด เกรงว่าเขาจักไม่ชอบใจหากต้องทานข้าวเสียเพียงผู้เดียว”

“ไฮ้ กระไรกันลูก พ่อนพน่ะ ทานข้าวคนเดียวเสียจนเคยแล้วแลจ้ะ เมื่อก่อนพ่อทีป์มา เขาก็กลับมาเสียค่ำมืดแบบนี้แล เขาเพียง
ไปกราบแม่บอกว่ากลับมาแล้วแล้วก็ให้บ่าวตั้งสำรับเฉพาะตนขึ้นเท่านั้นแล ไม่ต้องห่วงพี่เขาดอกจ้ะ พ่อทีป์นั้นแล ทานพร้อมแม่แล้วรีบไปนอนเสียดีหรือไม่จ้ะ แม่เห็นนั่งเขียนกระไรขยุกขยิกทั้งวัน”

“หนังสือที่คุณหลวงเอามาให้คัดนั้นแลขอรับ”

“เฮ้อ หนุ่มๆนี่ช่างทำงานกันเสียจริงๆเชียว เอ้า พ่อทีป์นั่งพักไปเสียก่อนเถิด หากว่าตั้งสำรับเมื่อใดแล้ว แม่จักให้บ่าวมาเรียกนะ
ลูก”

“ขอรับ”นภทีป์พยักหน้ารับคำ คุณหญิงยิ้มพึงใจก่อนจะเดินออกไป ส่วนนภทีป์ก็นั่งทอดสายตาไปทางเดิม กรมท่า... ทิศทางนี้คุณหลวงเคยชี้ให้ดูว่ากรมท่าอยู่ทางนี้ แต่เขาเองก็ไม่เคยไปเห็นสักทีว่ากรมท่าที่ว่านั้นหน้าตาเป็นอย่างไร มือขาวล้วงเข้าไปในคอเสื้อ ล้วงเอาสร้อยผ้าร่มของตนที่คล้องพระไว้พร้อมแหวนวงหนึ่งออกมา พระน่ะ เขาห้อยมาเสียตั้งแต่อยู่ในยุคโน้น ส่วนแหวน ด้วยเพราะจับต้องมันแล้วถึงได้ย้อนอดีตมา ถึงได้เก็บแหวนนี่ไว้กับตัว ไม่ได้บอกใครว่ามี ด้วยกลัวคุณหลวงขอคืน แล้วเขาจะกลับบ้านยังไงล่ะ ถ้าไม่มีแหวนตัวต้นเหตุ

“เฮ้อ...”เสียงทอดถอนหายใจดังแผ่วเบา นภทีป์ถอนสายตาออกมาจากทางกรมท่าแล้วหันไปหยิบหนังสือภาษาฝรั่งเศสที่ตนเพิ่งค้นเจอในตู้หนังสือของคุณหลวงขึ้นมาเปิดอ่านแทน



“คุณแม่ยังมิได้เข้านอนดอกหรือขอรับ?”คุณหลวงถามทันที่ที่ก้าวพ้นบันไดเรือนมาแล้วพบคุณหญิงแม่ของเขานอนเอกเขนกบนเบาะนั่งกับหมอนขวานมองตรงมาทางบันไดเรือนอยู่

“รอลูกชายแม่กลับบ้านน่ะซี เหตุใดกลับมืดค่ำนักเล่าลูก? พระจันทร์จักตรงหัวอยู่แล้วเทียวนา”

“วันนี้เพิ่งได้หนังสือลับมาใหม่ขอรับ แต่มีปัญหาหลายอย่าง หนึ่งเพราะหาได้มีผู้ใดเชี่ยวชาญภาษานั้นไม่ สองเพราะต้องแปลความไปมา ลูกเองหรือก็หาได้เชี่ยวชาญกระไรนัก สุดท้ายเลยเสียเวลาไปนานโขอยู่”

“กระนั้นหรือจ้ะ เอาเถิดหิวแล้วหรือไม่ แม่จักให้บ่าวตั้งสำรับให้”

“มิเป็นไรดอกขอรับคุณแม่ บ่าวมันจะพลอยมิได้นอนเอาเพราะนายมันกลับมาเสียดึกดื่นแล้วเรียกหาอะไรกิน กระผมคงจักต้อง
โดนสาปแช่งไปอีกนานโข”

“เอาเถิดๆ พ่อทีป์เขาว่าจักรอทานพร้อมพ่อนพเชียวนา ดีที่แม่กล่อมให้ทานเสียพร้อมแม่ได้ หากเช่นนั้นมิใยพ่อทีป์ต้องพาลไม่
ได้กินข้าวไปเสียด้วยพร้อมพ่อนพ”

“กระนั้นหรือขอรับ?”

“งั้นซี เอ้า ไปอาบน้ำพลัดผ้าแล้วนอนเสียเถิดลูก ดึกมาแล้วหนา...น้ำค้างลงแรงแล้ว แม่ก็ว่าจักนอนแล้วเทียวจ้ะ พ่อสามแสบนั่นนอนเสียแต่หัววัน ส่วนพ่อทีป์ก็เข้าห้องไปเสียแต่หัววันเหมือนกัน เห็นว่าจักอ่านหนังสือรอพ่อนพกลับมา”

“ขอรับ”คุณหลวงรับคำแล้วตรงไปยังท่าน้ำพร้อมสั่งการนายทดให้ไปเอาผ้ามาให้ผลัดเปลี่ยน



“แอ๊ดดด”

“กลับมาแล้วหรือขอรับคุณหลวง? อ้าว นายทด ฉันเองก็นึกเสียว่าเป็นคุณหลวงท่านกลับมาแล้วเสียอีก?”

“กลับเรือนมาแล้วขอรับ แต่ไปผลัดผ้าอาบน้ำเสียก่อน ท่านให้กระผมมาหยิบเสื้อผ้าไปให้ผลัดเปลี่ยนน่ะขอรับ คุณทีป์มาการณ์
อันใดจักสนทนากับคุณหลวงหรือขอรับ กระผมจักไปเรียนท่านให้”

“มิเป็นไรดอกจ้ะ ฉันเพียงแต่ถามถึงเท่านั้นเอง แล้วเอ็งไม่ต้องรีบกลับเรือนเอ็งหรือ ฉันได้ยินว่าเมียเอ็งเพิ่งคลอดลูก”

“ขอรับ เพิ่งคลอดได้ก่อนคุณทีป์มาไม่มานาน มิเป็นไรดอกขอรับ รอคุณหลวงผลัดผ้าเสร็จกระผมก็จักกลัลเรือนแล้ว”

“เอ้า งั้นกลับไปเถอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นคุณหลวงไปพรากลูกพรากเมียเอ็งเป็นบาปแก่คุณหลวงเสียเปล่าๆ เอาผ้ามาซีฉันจักถือ
ไปให้คุณหลวงผลัดเสียเอง”

“จะดีหรือขอรับ?”

“เอาเถิดน่า เอ็งไม่คิดถึงลูกหรือ? มิเป็นไรดอก อย่างไรเสียฉันก็มาอาศัยเรือนเขาอยู่เช่นกัน ก็ให้ได้งานได้การณ์กันบ้างเถิด อยู่
เฉยๆเปล่าๆปลี้ๆไปวันๆจนฉันเสียดายเรี่ยวแรงตัวเองนัก”

“คุณทีป์ช่างเป็นนายที่ประเสริฐเหลือเกินขอรับ กระผมวางผ้าไว้ที่นี่น่ะขอรับ มีเสื้อคอปาดกับกางเกงแพรที่หลวงท่านใส่นอน
แล้วก็ผ้าสำหรับไว้ผลัดผ้าอีกผืนขอรับ”

“อืม เช่นนั้นเอ็งก็กลับไปได้แล้ว คุณหลวงอาบน้ำอยู่ที่ท่าน้ำใช่หรือไม่?”

“ขอรับ ท่านล่วงไปทีท่าน้ำก่อน แล้วให้กระผมมาเอาผ้าตามไปให้ผลัดขอรับ”

“เออ...เอ้า ทีนี้เอ็งก็ไปได้แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าคุณหลวงจักตำหนิอันใดดอก หากคุณหลวงท่านว่ากระไรฉันจักปกป้องเอ็งเองดี
หรือไม่?”

“ขอบพระคุณคุณทีป์เหลือเกินขอรับ เช่นนั้นกระผมลาแล้วนะขอรับ”

“เอ้า รีบๆไปเถอะ มัวแต่มาไหว้ฉันอยู่ ลูกเมียได้หนีออกจากบ้านก่อนพอดี”

“ขอรับ”พอนายทดจากไปแล้ว นภทีป์ก็หอบเอาเสื้อผ้าของคุณหลวงขึ้นมาแล้วคว้าเอาคบไต้แถวๆนั้นเดินไปตามทางไปท่าน้ำ

“อ้ายทดมาแล้วหรือ? ชักช้าเชียวเอ็ง รีบเอาผ้ามาซี ฉันจักขึ้นแล้ว”

นภทีป์ไม่ตอบคำอันใดแล้วก้าวไปทางท่าน้ำ ยื่นผ้าให้คุณหลวง คุณหลวงหนุ่มเดินขึ้นมาจากน้ำ ผมที่เคยระตรงหน้าผากเปียกลู่
จนเห็นใบหน้าคมสันชัดเจน กล้ามเนื้อสีขาวหนั่นแน่นทั้งๆที่มิได้ทำงานออกแรกอะไรมากแท้ๆ ทำเอาผิวแก้มของนภทีป์ร้อนผะผ่าว

โธ่เว้ยยย ทำไมกูไม่เห็นมีกล้ามแบบนี้บ้างวะ?

นภทีป์ได้แต่บ่นอยู่ในใจ คุณหลวงมองหน้านภทีป์อย่างแปลกใจแต่ไม่ได้กล่าวคำใด นอกจากรับผ้าไปผลัดเอาของเดิมออก สวม
เสื้อคอปาด แล้วตามด้วยกางเกงแพรเนื้อนิ่ม

พอแต่งตัวเสร็จแล้วถึงได้ฤกษ์เอ่ยถามคนที่หอบผ้ามาให้ว่าจากอ้ายทดที่ใช้ไปเอาผ้าให้ในคราแรกกลับแปรเปลี่ยนเป็นพ่อทีป์ได้
อย่างไร...

“อ้ายทดเล่า”

“ผมอาสามาแทนน่ะ เห็นว่าเมียเขาเพิ่งคลอดได้ไม่นาน เขาคงเป็นห่วงอยากกลับบ้าน ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวผมจะเอาผ้ามาให้คุณ
เอง แล้วให้นายทดกลับไปเสียก่อน”

“ใจดีเสียจริงเชียวนะพ่อทีป์”

“กับบ่าวไพร่ก็ต้องเมตตามิใช่หรือขอรับ?”

“ถูกแล้วแล ไปเถิด ขึ้นเรือนกัน กะเดี๋ยวจักจับไข้เอาเสียง่ายๆ”

“ขอรับ”นภทีปืพยักหน้ารับคำ แล้วก้าวตามคุณหลวงที่เดินนำออกไป สายตาของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งติดตรึงอยู่ที่แผ่นหลังของ


คนตรงหน้า...


คุณหลวงนพเทพอัครา...


เหตุใดจึงรูปงามถึงเพียงนั้นนะ...

เหตุใดถึงได้มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบขนาดนั้น...

แล้วทำไม....

เขาถึงต้องใจเต้นแรงกับผู้ชายด้วยกันด้วย!!?

โอ้ย ตายล่ะ ไอ่ทีป์ นี่มึงเป็นเกย์แล้วหรือยังไงวะ บ้าเอ้ย!!
ชายหนุ่มได้แต่สบถลั่นอยู่ในใจ

เพราะเพิ่งค้นพบว่าหวั่นไหวหัวใจเต้นแรงกลับกล้ามท้องหนั่นแน่นของผู้ชายไปสดๆร้อนๆ

ยิ่งนึกถึงภาพกล้ามเนื้อที่มีหยดน้ำเกาะพราวก็ยิ่งทำให้นภทีป์เคอะเขิน ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ...

ส่วนคุณหลวงหนุ่มก็ได้แต่ยิ้มกับจันทร์กับดาว ด้วยอารมณ์ดีเหลือเกินที่หันหลังขึ้นจากน้ำมาแล้วเจอเข้ากับนภทีป์ เหตุใดถึงได้

คิดถึงถึงเพียงนี้นะ เพียงแค่ได้เจอหน้าก่อนห้วงเวลาที่คาดว่าจักได้เจอเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก ทำให้เขาอารมณ์ดีถึงเพียงนี้
เชียวหรือ...

   นภทีป์...

บนร่างกายของพ่อทีป์ร่ายมนตร์อันใดไว้หรือไม่...

เหตุใดยิ่งเห็น ยิ่งรู้สึกหวั่นไหวเข้าไปทุกที...

เขาจักเป็นลักเพศเช่นนั้นหรือ...ไม่หรอกกระมัง...

ไม่หรอก...

ไม่มีทาง...

จักเป็นได้เยี่ยงไรกัน



 :katai5:สวัสดีค่ะ มาต่อตามสัญญาสองอาทิตย์ งิงิ อาจจะฝืดๆไปบ้างนะคะตอนนี้ แต่งตอนงานสุมหัวเชียง ทั้งรีพอร์ตทั้งคอนเฟอร์เรนซ์เล่นเอาอยากซิ่ววันล่ะหลายๆรอบ 55 รอบถัดไปอาจจะช้ากว่าสองอาทิตย์นิดหน่อยนะคะ เพราะจะตรงกับช่วงสอบกลางภาคมหาภัย T^T ยังไงจะรีบมาต่อนะคะ


ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
คุณหลวงงง ยอมรับเถอะ ว่าเป็น อิอิ  :oo1: :hao6:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
มีหวั่นไหวกันด้วยวุ้ย
เยี่ยงนี้คงไม่แคล้วได้รับขวัญสะใภ้ในเร็ววันเสียแล้วกระมัง คึๆ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
 :hao6: คุณหลวง ชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอก ฮิ้ววว

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

meili run

  • บุคคลทั่วไป
ฟินนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ขอโทษนะคะที่คราวนี้ต้องเบี้ยวสัญญาสองอาทิตย์ไป
 :hao5: :hao5: :hao5:
คนเขียนติดงานรับน้องของม.ค่ะ มีนัดตลอดซ้อมตลอดเลย
ยังไงจะพยายามเขียนมาให้อ่านให้ได้ในอาทิตย์นี้นะคะ  :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
สนุกมากอยากให้มาต่อบ่อยๆจัง

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชอบเรื่องนี้อ่ะ อยากอ่านต่อๆ
เป็นกำลังใจให้นะ :)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จ้า ไม่เป็นไร
สู้ๆน้าคนแต่ง

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พยับที่ ๙



หายไปไหนกันนะ?

คุณหลวงหนุ่มขมวดคิ้วหมุ่นเดินไปมารอบๆห้องมาสักพักหนึ่งแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดราชการ เขาเองก็อยากจักอ่านหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาเสียหน่อย หากแต่ว่าหนังสือภาษาฝรั่งเศสเล่มโปรดเล่มนั้นไม่รู้ว่ายามนี้ไปอยู่เสียที่ใดแล้ว

“หาอะไรเหรอคุณหลวง?”

“หาหนังสือน่ะซี พ่อทีป์เห็นหนังสือฉันบ้างหรือไม่ ปกสีแดง เป็นภาษาฝรั่งเศส”

“เอ่อ แหะๆ ผมหยิบไปอ่านน่ะขอรับ ไม่ได้บอกคุณหลวง ไม่โกรธใช่หรือไม่ขอรับ?”

“จะโกรธอันใดพ่อทีป์ได้เล่า อ่านจบแล้วฤาไม่ ฉันใคร่จักอ่านเสียหน่อย”

“จบแล้วขอรับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”นภทีป์ว่าแล้วก็เดินออกไปนอกห้องตรงมุมประจำที่ทั้งนั่งทำงาน ทั้งนั่งอ่านหนังสือ

“ปกติพ่อทีป์นั่งเล่นตรงนี้หรือ?”

“ขอรับ ปกติก็ทั้งนั่งเล่นทั้งนั่งทำงานให้คุณหลวงตรงนี้แหละ นี่ขอรับ ผมหยิบเล่มอื่นมาอ่านอีกได้หรือเปล่า?”

“ได้ซีกระไรจักมิได้เล่า”

“คุณใจดี”

“กระนั้นหรือ พ่อทีป์เป็นคนแรกๆเชียวแลที่ชมว่าฉันใจดี หากเป็นลูกน้องที่กรมคงว่าฉันดุนัก ใครๆก็ว่าฉันเหมือนเจ้าคุณพ่อ ดุดันแลก็เฉียบขาดนัก”

“คุณไม่เคยดุกับผมนี่”นภทีป์ยิ้มแฉ่งใส่หน้าคุณหลวง ทำเอาใบหน้าสีนวลขึ้นสีระเรื่อ นี่เขาเป็นอะไรไปแล้ว เหตุใดจึงเคอะเขินกับพ่อทีป์ได้นะ

“กระนั้นหรือ? ฉันคงเอ็นดูพ่อทีป์เหมือนน้องกระมัง จึงไม่เคยดุเสียที เอ้า อยากอ่านก็ไปหยิบมาอ่านเสียซี มัวแต่ยืนจ้องหน้าพี่อยู่จะได้อ่านหรือจ๊ะ?”

“เอ่อ...ขอรับ”เพราะปลายเสียงอ่อนเสียงหวานนั่นแท้ๆ ทำเอานภทีป์จิตใจกระเจิดกระเจิงไปเสียหมด โอยย ไม่นะ อยู่มาตั้งยี่สิบกว่าปีไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเดินบนเส้นทางมีสี (ม่วง) วันดีคืนดีดันมาใจเต้นตึกตักกับคนแก่กว่าร่วมร้อยปีเนี้ยนะ ไปกันใหญ่แล้ว
ไอ่ทีป์!!


“หน้านิ่วคิ้วขมวด ไปเลือกเสียซี หรือจะให้พี่ช่วยบอกให้หรือไม่จ๊ะว่าเล่มไหนสนุก”

“มะ...ไม่ต้องขอรับ คือผม เอ้อ กระผมมีเล่มที่เล็งๆไว้แล้วน่ะขอรับ”

“เอ้างั้นก็รีบๆไป หาไม่แล้วเกิดพี่เปลี่ยนใจมิยอมให้หยิบยืมเสียแล้ว พ่อทีป์จะอดได้ลาภเอานา...”รอยยิ้มยั่วเย้าจุดขึ้นบนใบหน้า
คมๆของคุณหลวง ทำเอาคนมองยิ่งใจเต้นไปกันใหญ่

“ขะ...ขอรับ”คราวนี้นภทีป์เลยไม่รอให้คุณหลวงพูดอะไรรีบหันหลังปุบปับเข้าห้องไป

“หึๆ น่ารักเสียจริงเชียว”คุณหลวงพึมพำเบาๆ ถือหนังสือเล่มโปรดไปนั่งตรงหอนั่งอย่างอารมณ์ดี มัวแต่รื่นรมย์จนลืมฉุกใจคิดไป
ว่า หนังสือที่นภทีป์ยืมนั้นเป็นหนังสือภาษาฝรั่งเศส

และเขาเอง กำลังต้องการผู้รู้ภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่วไปช่วยงานเขาอยู่พอดี



“โอยยย หัวใจจะวาย ทำไมกูเป็นงี้เนี้ย ไอ่ทีป์มึงนะมึง ทำไมทำตัวแบบนี้ห้ะ!?? กลายเป็นผู้ชายใจง่ายไปแล้วกู”นภทีป์บ่นพึมพำระหว่างที่กรีดนิ้วไปตามสันหนังสือที่วางเรียงเป็นระเบียบอยู่บนชั้นหนังสือในห้องนอนของคุณหลวง

“เอ...นี่มันร.ศ.อะไรนะ?”


“คุณหลวงขอรับ”พอพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ได้ว่าคุณหลวงเคยบอกว่านี่ร.ศ.อะไรเมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรก สุดท้ายนภทีป์เลยเดินออกไปถามให้หายค้างใจ

“ว่ากระไร? อยากได้อะไรเพิ่มหรือ?”

“เอ่อ เปล่าขอรับ กระผมแค่จะถามว่าปีนี้ร.ศ.เท่าไร?”

“ร.ศ.111 พ่อทีป์ถามไปทำไมหรือ”ตากลมๆเบิ่งโต ตกใจจนไม่ได้สนใจฟังคุณหลวงต่อไปแล้ว อะไรนะ!?? ร.ศ.111 นี่มันช่วงวิกฤตการณ์ที่ไทยเสียดินแดนนี่นา....

“ตอนนี้...มีเรื่องอะไรรึเปล่าขอรับ?”

“เรื่องกระไรล่ะ ช่วงนี้มีเยอะเทียว...พ่อทีป์ อยากรู้กระไรหรือ?”

“ตอนนี้...เอ่อ...มีปัญหากับอังกฤษกับฝรั่งเศสอยู่หรือเปล่า?”เสียงนภทีป์แผ่วเบา แต่คุณหลวงนพเทพอัครากลับได้ยินชัดเจน พ่อทีป์รู้แจ้งในเรื่องนี้หรือ??

“พ่อทีป์รู้ได้อย่างไร?”

“กระผม...เอ่อ...กะ...ก็เคยบอกไปแล้วไงว่าผมมาจากพ.ศ.2557”

“พ่อทีป์ ไข้อีกแล้วหรือ วิปลาสอันใดกันหือ?”นภทีป์ได้แต่ถอนใจแผ่วเบา... เมื่อไหร่ตาคนนี้จะเชื่อสักทีว่ากูไม่ใช่คนยุคนี้ว้อยยยยยย ไม่งั้นคงไม่ทำอะไรแปลกๆไปซะเยอะหรอก ตอนมาแรกๆแทบจะกินน้ำล้างมือตอนกินข้าว รอดตัวไปฉิวเฉียดเพราะคุณแม่จุ่มมือลงไปล้างเสียก่อน จิ๊

“เฮ้อ...ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าผมรู้ว่าตอนนี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้นก็พอแล้วขอรับ”

“นั่นสินะ...พี่จะไปคาดคั้นอันใดจากเจ้าได้กัน ไหนไปหยิบอันใดมาอ่านให้พี่ดูทีฤา”

“เล่มนี้ขอรับ”นภทีป์ยื่นหนังสือเกี่ยวกับการทูตของสมัยนี้ที่ไปเจอแล้วเกิดอยากศึกษาการทูตแบบโบราณขึ้นมาเลยหยิบมาอ่านให้คุณหลวงที่ยื่นรออยู่

“พ่อทีป์...รู้ภาษาอะไรบ้าง”

“อังกฤษ ฝรั่งเศส แล้วก็พอได้เยอรมันกับสเปนบ้างนิดหน่อยขอรับ”

“พ่อทีป์เป็นใครกันแน่!??”



“ฉ่า....”เสียงน้ำมันเดือดดังไปทั่วเรือนเมื่อคุณหญิงนึกอยากจะฝึกปรือนภทีป์ให้ทอดปลาให้น่าทานตามฉบับชาววังขึ้นมา นภทีป์ยืนถือตะหลิวอย่างเก้กังรอฟังคนสั่งจากคนที่วันนี้สถาปนาตัวเองเป็นอาจารย์ด้านการเรือนให้กับชายหนุ่มให้พลิกปลาไปมาอย่างไรอยู่

“พ่อทีป์ แม่ว่าปลาคงใกล้ได้แล้วแลลูก ไหนลองพลิกอีกสักที”

“เอ่อ...เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”นภทีป์เงยหน้าถาม

“อือ...แม่ว่ากำลังน่ากินเชียว เอ้าพอแล้ว ยกกระทะออกมาเสียลูก เอาปลาขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันตรงนี้ นั้นแหละ แหม พ่อทีป์เก่ง
การเรือนขึ้นเยอะ ไว้วันหลังแม่จักสอนทำต้มทำแกงเสียบ้าง”นภทีป์หน้าซีดเผือด โอ้ย กูนะกู เป็นผู้ชาย แถมยังเป็นนักการทูตอนาคตไกล ตอนนี้กลายเป็นพ่อศรีเรือนไปซะแล้ว

“หึหึ”เสียงหัวเราะขลุกขลักดังมาจากตรงชานเรือน ทำเอาคนตัวเล็กกว่าหันไปค้อนขวับใส่เสียวงเบ้อเร่อ เพราะถูกคนแก่กว่าหัวเราะเยาะใส่ ใช่สิ ก็ไม่ใช่นักการทูตยุคนี้นี่หว่า

“เอ้า เบะปากทำไมลูก พ่อนพนี่ล่ะก็ อย่าหัวเราะเยาะน้องซี”คุณหญิงแขไขหันไปดุลูกชายเบาๆเมื่อเห็นว่าสายตาขุ่นเคืองของนภทีป์พุ่งตรงไปที่ใคร

“โธ่ คุณแม่ขอรับ ลูกแค่หยอกน้องนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองขอรับ ใช่หรือไม่จ้ะพ่อทีป์ บอกคุณแม่ไปซีว่าพี่แค่หยอกเล่น”คุณหลวงพูดพลางสาวเท้ามายืนประกบด้านหลังนภทีป์แล้วชะโงกดูปลานิลตัวอวบอ้วนที่ถูกทอดเสียเหลืองกรอบ แลดูน่าทาน

“จ้างให้ก็ไม่พูด”

“หึหึ ไว้พี่จะคิดบัญชีทบต้นทบดอกทีหลังกับงานหนังสือนั่น ดีหรือไม่?”คุณหลวงพยักเพยิดไปตรงมุมประจำของนภทีป์ที่ตอนนี้บนตั่งตัวเตี้ยมีแต่กองหนังสือภาษาฝรั่งเศสวางอยู่เต็มเอี๊ยด

“กลัวตายแหละ”

“กระไรกันจ้ะสองคนนี้ มาๆลูก ไหนพ่อทีป์เอาปลามาใส่จานนี่มา นังใบเอาจานไปให้คุณทีป์เข้าสิ”บ่าวสาวร่างแน่งน้อยที่ยังคงรูปแบบนุ่งน้อยห่มน้อยจนแทบหลุดของบ้านนี้นวยนาดเอาจานมายื่นให้ บิดตัวยื่นอย่างพอเหมาะพอเจาะว่าถ้าคุณๆทั้งสองมองลงไปจักต้องเจอร่องหน้าอกที่เบียดกันอยู่อย่างแม่นมั่น

“ขอบใจจ้ะ”นภทีป์ยิ้มให้พร้อมรับจานมา สายตาจ้องมองไปด้านหลังปะทะกับร่องอกเข้าเต็มๆจนต้องกลืนน้ำลายเสียอึกใหญ่

“พ่อทีป์ รีบๆช้อนปลาใส่จานซี คุณแม่ท่านรอ”คุณหลวงที่มองมาอย่างขัดใจเอ่ยขึ้นขัดจังหวะ นภทีป์ถอนสายตาออกจากร่องอกใหญ่โตคู่นั้นแล้วหันมาสนใจปลาแทน

“เอ้า นังใบนั่งอยู่ทำไม เสร็จเรื่องของเอ็งแล้วก็ลงเรือนไปเสียซี กระเดี๋ยวข้าจักเรียกใช้เมื่อใดค่อยขึ้นมา”คุณหลวงหันไปสั่งนางบ่าวที่ยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิมอย่างนั้น

“เจ้าค่ะ”นางใบชม้อยชม้ายชายตาให้สองหนุ่มอีกรอบ จนคุณหลวงได้แต่หงุดหงิดใจจนคิ้วขมวดมุ่นเป็นปมใหญ่ นางบ่าวนี้ กระไรนักนะ

“เป็นอะไรหรือขอรับคุณหลวง”

“กระไร ฉันเป็นอะไรหรือ?”

“เอ้า ก็ผมเห็นคุณหลวงทำหน้าบูดอยู่นี่ไงขอรับ”

“หน้าบูดคืออันใด?”

“เออ...หน้าตาไม่พอใจน่ะขอรับ”

“ฉันน่ะหรือ?ไม่พอใจ?”

“นี่ไง โกรธอะไรผมหรือขอรับ เมื่อตะกี้ยังเรียกพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้อยู่เลย??”

“ใครโกรธกระไรพ่อทีป์ หาได้มีแต่อย่างใดไม่”

“จริงนะขอรับ”นภทีป์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนคุณหลวงต้องย่นคอหนีแล้วรีบร้อนตอบ

“จริงซี ฉันจะหลอกลวงพ่อด้วยเหตุอันใดเล่าจ้ะ”

“พ่อง”นภทีป์พึมพำเบาๆแล้วเบือนหน้าหนี เพราะคุณหลวงยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆบ้าง ทำเอาใบหน้าขาวๆแดงๆระเรื่อ



“แหม ไหนมาให้แม่ดูทีพ่อทีป์”คุณหญิงแขไขกวักมือเรียกไวๆเมื่อสองหนุ่มที่เดินมาทางหอนั่ง

“ไม่รู้ว่าจักถูกปากคุณแม่หรือไม่นะขอรับ กระผมเองก็ไม่เคยลองงานเรือนพวกนี้เลย”

“แหม กำลังน่าทานเชียวลูก”

“จริงหรือขอรับ"

“จริงซี แม่จักหลอกให้พ่อทีป์ดีใจเปล่าด้วยอันใดเล่า มา เดี๋ยวแม่จักให้นังม้วนมันสั่งให้เขายกสำรับขึ้นมาอีก”

“นังม้วน นังม้วน”

“เจ้าค้า”

“สั่งให้นังพวกนั้นยกสำรับมาที แล้วบอกพวกมันให้นุ่งผ้าห่มผ้าเสียให้เรียบร้อย อย่าให้มันประเจิดประเจ้อนัก”

“เจ้าค่ะ”



“แอ้ๆ”ตอนนี้ผมอยู่ที่นี้มาได้สักหกเดือนแล้วมั้ง...จริงๆก็ถึงบ้านอยู่ แต่ไม่รู้จะกลับยังไง เออ นั้นแหละก็เลยต้องรออยู่เฉยๆ ทำนั้นทำนี้ เลี้ยงลูกให้คุณหลวงก็เป็นอีกงานนึงของผม แม่ศรีเรือนสัสๆเลย

“ว่าไงครับ หืมม หิวแล้วหรือ”ผมหันไปถามเจ้าตัวเล็กที่จู่ๆก็ร้องโยเยชูไม้ชูมือขึ้นมา สงสัยจะหิว เด็กๆใกล้ๆจะครบขวบนึงในวันสองวันนี้แล้ว เพราะตอนคุณหลวงไปพามา แล้วก็เจอผมเด็กๆก็อายุหลายเดือนแล้ว

“ป้อ...”หึๆ ว้า น่าสงสารคุณหลวงจริงๆ เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านเด็กๆเลยติดเรียกผมว่าพ่อแทนคุณหลวงคนที่จะเป็นพ่อเจ้าตัวซนพวกนี้

“ว่าไงครับ หืมมมม”โอ้ยน่ารักจริงๆ เล่นเอาซะผมอยากมีลูกเลย เฮ้ออ ว่าไปก็คิดถึงที่บ้าน คิดถึงคุณพ่อ คุณแม่ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ผมร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว เลยเริ่มปลงๆไปซะบ้าง

“เอ้า พ่อทีป์ทำกระไรจ้ะ เด็กๆกวนหรือไม่ลูก?”

“ไม่เลยขอรับคุณแม่ เจ้าสามแสบนี่เลี้ยงง่ายออกจะตายไป คุณแม่ขอรับ เมื่อไหร่เด็กๆจะมีชื่อหรือขอรับ?”

“เขาว่ารอให้ครบขวบก่อนจ้ะถึงจักตั้งชื่อให้ ถ้านับตามที่พ่อนพบอกแม่มาตั้งแต่คราแรกว่าเจ้าพวกนี้อายุเท่าไรตอนมาเรือนเรา นี่ก็จวนแล้วแลลูก แม่ก็ดูๆไว้บ้างแล้ว แม่หวังใจให้เด็กๆเป็นเด็กดี อย่าได้กเฬวรากเหมือนเด็กๆบางบ้านเขา เพราะพอเขาเริ่มโต พ่อนพของจักมียศศักดิ์ใหญ่โตยิ่งแล้ว แม่เกรงว่าเจ้าพวกนี้จักติดนิสัยไม่ดีเพราะคิดว่าพ่อของตนใหญ่โตคับฟ้า”

“ผมเชื่อว่าเด็กๆต้องเป็นเด็กดีแน่ๆขอรับคุณแม่ คุณแม่ขอรับวันนี้คุณแม่ไม่มีกระไรจักสอนกระผมหรือขอรับ”อันที่จริงผมค่อนข้างชอบหลักสูตรการเรือนของคุณหญิงแขไขทีเดียวนะ ทำให้ผมหายเหงาไปได้เยอะ ว่างๆก็อยากจะเรียนบ้างอะไรบ้าง อย่างน้อยก็ยังจะมีอะไรทำ

“อยากทำอันใดเล่าจ้ะ จีบบุหรี่ดีหรือไม่ เมื่อวานแม่เพิ่งให้บ่าวไปเก็บดอกบัวมาเด็ดกลีบตากไว้เทียว”

“จีบบุหรี่หรือขอรับ?”

“ก็จีบบุหรี่น่ะซี”

“ใช่กลีบบัวนี่หรือขอรับ?”

“ก็กลีบบัวน่ะซีลูก สูดเข้าไปจักได้หอมหวาน มากระเดี๋ยวมาจักสอน รอให้เด็กๆนอนเสียก่อนแล้วกัน จักได้ลองจีบให้พ่อนพเขาสูบดูบ้าง”

“คุณหลวงสูบบุหรี่ด้วยหรือขอรับ?”

“สูบบ้างจ้ะ แต่แม่เองก็มิได้เห็นพ่อนพจักหยิบบุหรี่มาสูบเสียเท่าไรดอกจ้ะ พ่อคนนั้นเขาทานแต่ข้าวกับชาก็เหลือเกินสำหรับวันๆ
นึงแล้ว ทั้งซิกาเร็ตฝรั่ง ทั้งบุหรี่ของแม่ ทั้งหมากทั้งพลู มิเห็นเขาค่อยสนใจสักเท่าใด”

“หรือขอรับ คุณแม่ขอรับกระผมว่าพาเด็กๆไปนอนเสียตอนนี้ดีหรือไม่ขอรับ แดดเริ่มแรงแล้วเดี๋ยวจักเพลียแดด”

“เขาเรียกแดดนายลูก มาเถิด เดี๋ยวแม่จักช่วยพาไป ให้หลับกันเสียในห้อง กระเดี๋ยวจักไม่สบายกันเสียอีก ใช่หรือไม่จ้ะหลานย่า”คุณหญิงแกดูมีความสุขมากครับเวลาอยู่กับพวกเด็กๆ ถ้าเป็นผมผมก็คงมีความสุข อยู่ดีๆได้หลานมาเสียตั้ง 3 คน ถึงจะเป็นฝรั่งหัวแดงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลยก็เถอะ

“ลางที พ่อทีป์กับเด็กๆพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิตมาให้พ่อนพก็เป็นได้นาลูก”จู่ๆคุณหญิงก็พูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังเดินไปที่ห้องคุณหญิง ผมกระเตงเจ้าตัวเล็กมาสองคน ส่วนคุณหญิงอุ้มอีกคนนึงไป เด็กๆไม่ค่อยงอแงเลย ดีจังเลยแฮะ ไม่รู้ว่าตอนเด็กๆผมเลี้ยงง่ายแบบนี้รึเปล่า


ไม่เคยถามคุณแม่ซะด้วยสิ...


   แล้วคิดว่าบางที ตอนนี้คงหมดโอกาสที่จะได้กลับไปถามแล้ว ผมไม่ได้ตายจาก ผมยังมีชีวิต แต่อยู่กันคนละภพชาติกับครอบครัวของผม บางทีก็ได้แต่เจ็บปวดในใจแหละนะ...

ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หรือบางที อาจจะเป็นฟ้าลิขิตแบบที่คุณหญิงว่าก็เป็นได้ล่ะมั้ง




“เด็กๆน่ะกระผมพอเข้าใจนะขอรับคุณแม่ แต่กระผมเองเนี้ย ฟ้าจักประทานมาให้คุณหลวงด้วยเหตุอันใดเล่าขอรับ หากกระผมเป็นกุลสตรีแม่เรือนที่ฟ้าประทานมาก็ว่าไปอย่าง”

“พ่อทีป์น่ะไม่รู้อันใดดอกจ้ะ แต่แม่จักไม่บอกดอกหนา โบราณเขาถือ”นภทีป์หัวเราะเบาๆกับอาการหวงความลับเรื่องฟ้าประทานมาของคุณหญิง

“เอาไว้กระผมรอให้ถึงเพลาที่กระผมจักได้รู้ก็ได้ขอรับคุณแม่”

“จ้ะ เอ้า วางเด็กๆลงเสียซี แล้วรอสักกระเดี๋ยว แม่จักสั่งบ่าวให้เตรียข้าวเตรียมของจักได้จีบบุหรี่ไว้รอรับพ่อนพเขา”

“ขอรับ กระผมเกรงว่าคุณหลวงจะไม่กล้าสูบเพราะมันดูน่ากลัวเกินไปน่ะซีขอรับ”

“พ่อทีป์นี่ล่ะก็ เอ้า ไปเอนหลังเสียหน่อยก็ได้ลูก กว่าบ่าวจักเตรียมข้าวของเสร็จของใช้เวลานานโขอยู่เทียว หาใช่เพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกดอก”

“ขอรับคุณแม่”
นภทีป์นอนอยู่ริมเตียงกว้างในห้องคุณหลวง เขาเข้ามานอนในห้องนี้ได้สักพัก หลังจากที่คุณหลวงให้ช่วยงานบ้าง...นอนเตียงเดียวกันทุกคืน เฮ้อ...อย่างกับผัวเมีย

ตากลมโตกวาดไปรอบๆห้องด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากที่คุณหญิงบอกว่าให้มานอนพักเสียหน่อยเขาเลยตัดสินใจมานอนพักเอาจริงๆ ติดแต่ว่าเขานอนไม่หลับ เลยได้แต่เอนหลังลงเตียงแล้วก็พลิกตัวไปมาอยู่แบบนี้
นอนไม่หลับทั้งๆที่อยากจะนอนนี่มันแย่จริงๆเลย


ครืน...ครืน...

เสียงฟ้าร้องมาแต่ไกล ฝนคงตั้งเค้าจะตกอีกแล้ว...เขามาที่นี้ตอนหน้าฝน น้ำกำลังหลาก ฝนกำลังแรง แล้วก็อยู่มาเรื่อยๆ จนหน้าร้อนเข้าไปแล้ว อันที่จริงก็ไม่ร้อนเท่าไหร่ในความคิดของนภทีป์ ด้วยต้นไม้ยังมากนัก ถึงร้อนอย่างไรก็ยังเย็นอยู่ดีนั้นแหละ


ซู่....

นั้นไง คิดยังไม่ทันขาดตอน ฝนก็เทลงมาซะแรงเชียว สงสัยจะไม่ได้จีบบุหรี่ซะแล้วล่ะมั้งนี่ บางทีฝนตกนี่อาจจะทำให้เขาอยากนอนขึ้นมาก็ได้...



“คุณแม่ขอรับ คุณแม่”

“จ๋า พ่อนพมีกระไรกับแม่หรือจ้ะ? กลับมาถึงก็ร้องทักเสียก่อนอย่างนี้”

“พ่อทีป์อยู่ในห้องหรือขอรับ?”

“จ้ะ เห็นจักเป็นเยี่ยงนั้นกระมัง หะแรกแม่ชวนเขามวนบุหรี่ จีบบุหรี่ กระเดี๋ยวเดียวยังตระเตรียมขอมิทันเสร็จอันใดฝนก็ตกเสีย
ยกใหญ่เชียวลูก แม่เลยให้บ่าวเก็บของไว้เสียก่อน ค่อยสอนพ่อทีป์เขาวันหลัง”

“กระนั้นหรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นกระผมขอไปดูพ่อทีป์เขาก่อนนาขอรับ”

“เอาซีลูก ไปเถิด แม่มิว่าอันใดดอก”

“ขอรับคุณแม่”คุณหลวงหนุ่มเดินเข้าส่วนของเรือนตนไป ในห้องของเขาเงียบกริบ ค่ำแล้วไฟตะเกียงก็หาได้จุดไม่ พ่อทีป์จักทำ
กระไรอยู่นะ

“พ่อทีป์ พ่อทีป์จ๋า”คุณหลวงเรียกชายหนุ่มอีกคนเสียงเบา แต่ไม่มีการตอบรับอันใดนอกจากความเงียบที่รายล้อมอยู่รอบกายคุณหลวง

“พ่อทีป์”คุณหลวงเรียกย้ำอีกครั้ง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบอันใดกลับมา

“พ่อทีป์ เหตุใดเงียบไปเล่า”คุณหลวงรีบสาวเท้าเข้าไปหลังฉากกั้น พลันสายตาก็เห็นร่างโปร่งของอีกคนนอนตะแคงอยู่บนเตียง คุณหลวงเดินไปจุดตะเกียงตรงโต๊ะหัวเตียง แสงไฟวับแวบสว่างกระจายเป็นวงไปทั่วห้อง พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับร่างสูงโปร่งของอีกคนที่นอนขดตัวอยู่ริมเตียง

“พ่อทีป์ เป็นกระไรนั่น”คุณหลวงขยับเข้าไปหาแล้วถามอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเงียบไร้เสียงตอบรับ มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอที่ดังต่อเนื่อง ทำให้คนมาปลุกพออุ่นใจได้บ้างว่าคนที่นอนอยู่ยังคงมีชีวิตไม่ได้เป็นอะไรไป

“อือ...”นภทีป์ส่งเสียงครางแผ่วเบาแล้วพลิกตัวกลับมา หากแต่เปลือกตายังคงปิดสนิท หน้าผากของคนที่นอนอยู่ยับย่น เหงื่อยังคงไหลไม่หยุด

“พ่อทีป์ เป็นกระไรไป ฝันร้ายหรือ หรือเป็นไข้จ้ะ เป็นกระไร บอกพี่ซี”

“ผม...ปะ...ปวดหัว”

“ปวดมากเลยหรือ?”

“มากเลยขอรับ คุณหลวงขอรับ อย่าไปไหนนะ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว”ร่างโปร่งพึมพำเบาๆ แล้วเงียบหายไปอีกรอบ คนตัวโตกว่าเลยอนุมานได้ว่าอีกคนหลับไปแล้วเรียบร้อย

“หากพี่ไม่ออกไปจักเอายาที่ใดมาให้พ่อทีป์ได้เล่า หือ...”คุณหลวงบ่นงึมงำกับคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง แล้วขยับไปสั่งการกับบ่าวหน้าห้อง


“อ้ายทดๆ”

“มีกระไรให้กระผมรับใช้หรือขอรับ”

“ไปเอามะนาวฝานทางปูนแดงมาให้ข้าที น้ำกับผ้าสักผืนด้วย”

“ขอรับ”นายทดรับคำแล้วรีบวิ่งแจ้นไปเตรียมของมาให้คุณหลวง



“ฮ้าวววว”ร่างโปร่งขยับเปลือกตาขึ้นพลางบิดขี้เกียจ ตากลมโตกระพริบปริบๆ เพราะเห็นใบหน้าของอีกคนอยู่เสียชิดจนหน้าใจหาย

“คุณหลวง”ริมฝีปากพึมพำเบาๆ ใบหน้าคมสันของคนตรงหน้าคล้ายมีมนตร์สะกดอะไรสักอย่างทำให้นภทีป์ถอนสายตาออกไปไม่ได้

“อือ...ตื่นแล้วหรือจ้ะ”

“ขอรับ ตื่นแล้ว”นภทีป์เอ่ยตอบคนที่อุตส่าห์ถามเขาแต่ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา

“หายปวดหัวแล้วหรือไม่จ้ะ?”เสียงทุ้มยังคงงัวเงีย

“ขอรับ หายแล้ว คุณหลวงขอรับ คุณหลวงเอาอะไรแปะหน้าผากผม?”

“มะนาวทาปูนอย่างไรเล่า เขาว่าแก้ปวดชะงัดนักแล พ่อทีป์ไปทำกระไรมาเหตุใดจึงปวดหัวเสียได้เล่า”

“อ่านหนังสือมากไปกระมังขอรับ คุณหลวงง่วงก็นอนต่อก็นะขอรับ กระเดี๋ยวกระผมจักเรียนคุณแม่ให้ ว่าคุณหลวงลุกไม่ใคร่ไหว”นภทีป์พูดขณะชันศอกขึ้นตั้งฉากกับหมอนแล้ววางหัวลงไปบนฝ่ามือ สายตายังคงจับจ้องไปบนใบหน้าคมสัน

“อือ บอกท่านว่าวันนี้ฉันไม่เข้ากรม ไม่ใคร่ตื่นแต่ย่ำรุ่งเสียเท่าใด”นภทีป์พึมพำรับคำ พลางผินหน้าไปมองนอกหน้าต่าง แสงสีทองเรื่อๆเพิ่งจะแตะขอบฟ้า เสียงน้ำค้างยังคงร่วงเปาะแปะลงกระทบพื้นบ้านอยู่เรื่อยๆ


“ก๊อกๆ คุณหลวงเจ้าคะ คุณหญิงให้มาเชิญเจ้าค่า”เสียงนังม้วนดังมาจากหน้าประตูห้อง นภทีป์มองหน้าคนที่หลับสนิทแล้วเลยตัดสินใจไม่ปลุก แต่เดินไปบอกยายม้วนเสียเองว่าคุณหลวงอยากจักนอนให้มากเสียหน่อยในวันนี้

“คุณหลวงหลับอยู่นะม้วน ท่านว่าอยากพักให้มากหน่อยวันนี้ ฉันฝากเรียนคุณหญิงทีนะจ้ะ กระเดี๋ยวสายๆคุณหลวงคงจักตื่น”

“เอ...กระนั้นหรือเจ้าค่ะ ม้วนจักเรียนคุณหญิงท่านให้นะเจ้าคะ”

“ขอบใจม้วนมาก กระเดี๋ยวสายหน่อยให้คนยกสำรับเข้ามาในห้องได้หรือไม่ ฉันว่าจักรับพร้อมคุณหลวงท่านน่ะ”

“เจ้าค่ะ”

“ขอบใจมากนะจ้ะ”นภทีป์ก้มหัวปลกๆให้นังม้วนซึ่งได้แต่ยิ้มปลาบปลื้มใจที่เจ้านายอ่อนโยนกับตนถึงเพียงนี้ นางจึงยิ้มกริ่มจากไป

นภทีป์เดินกลับไปในห้อง เอนหลังพิงหัวเตียงแล้วเริ่มอ่านหนังสือที่หยิบติดมือมาเมื่อวาน คุณหลวงยังคงหลับตาพริ้ม ด้วยเมื่อคืนอยู่เฝ้าไข้นภทีป์เสียดึกดื่น จนคนตัวบางกว่าหลับสนิทนั้นแหละ คุณหลวงถึงได้หลับลง

“ชอบหรือ?”จู่ๆเสียงนุ่มทุ้มก็เอ่ยถามคนที่อ่านหนังสืออยู่ นภทีป์เงยหน้าจากหนังสือมองตรงมายังคุณหลวงอย่างงงๆ จู่ๆก็ถาม ใครก็ตกใจแหละวะ

“ชอบอะไรขอรับ?”

“หนังสือที่อ่านอยู่นั่นอย่างไรเล่า ฉันเห็นพ่อทีป์อ่านไปยิ้มไป เลยคิดว่าน่าจะชอบกระมัง?”

“ออ...ชอบซีขอรับ เป็นหนังสือที่ดีเชียวแหละ แล้วคุณหลวงไม่นอนต่อแล้วหรือ? หิวหรือยังขอรับผมจะไปเรียกม้วนให้เค้าตั้งสำรับให้”

“อืม...ยังหรอกว่าแต่พ่อทีป์เถิด ตื่นมาก่อนฉันเสียนานเนิ่น ยังไม่หิวหรือไรจ้ะ?”

“ยังขอรับ จริงๆตอนอยู่บ้านผมก็ไม่ค่อยกินข้าวเช้าอยู่แล้ว ส่วนมากก็กินกาแฟแก้วเดียวกับขนมปัง”

“กินแบบอีหรอบมันหรือ?”

“งั้นมั้งขอรับ ตกลงคุณหลวงหิวแล้วหรือยัง?”

“ยังไม่หิวเท่าใดดอก ออกไปรับที่ศาลาเล็กก็คงได้กระมัง หรือพ่อทีป์อยากกินในห้องจ้ะ?”

“ศาลาเล็กก็ดีขอรับ จักได้ให้ลมโกรกเพลินๆเสียบ้าง...”

“ไป...งั้นไปกันเถิด”คุณหลวงผุดลุกขึ้นล้างหน้าล้างตา เอาไม้ทุบปลายสีฟันสักเดี๋ยวก็ชักชวนให้นภทีป์ออกไปข้างนอกห้องพร้อมกัน นภทีป์ยังคงถือหนังสือติดมือ หากแต่ก็ตามคุณหลวงไปต้อยๆ ด้วยไม่เคยกินข้าวตรงศาลาเล็ก เลยอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศใจแทบขาด


คงจะดีมาก...


------------------------------
มาต่อให้แล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ผิดสัญญาหายไปเป็นเดือนเลย
เพราะยุ่งมากจริงๆ TT มีคอนเฟอเรนซ์ตลอดเลย งานบึ้มบั้ม
ตอนถัดๆไปคนเขียนจะพยายามให้มากขึ้นเน้อออออ
 :mew2: :mew2:








ออฟไลน์ hayatosan

  • ความเห็นใจช่วยใครไม่ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ??
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :z13: :z13:

ชอบแนวนี้ค่ะ  แต่ยังไม่ได้อ่าน  ยังไงก็ขอจิ้มมมมมมมไว้ก่อนนะค่ะ

 :z2:

ออฟไลน์ infernoA

  • ^ ^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
งือออ แค่มีคนชอบก็ดีใจแล้วค่ะ ว่าแต่อ่านแล้วเป็นไงอ่าาา -///-

ปอลิง ขอโทษทีนะคะ ตอนแรกที่ลงลืมเปลี่ยนหัวเรื่อง -/////- อายไปอีก

ปอลิง 2 ช่วงรับน้องใกล้เข้ามาแล้ว คนเขียนเป็นวินัยอาจจะยิ่งไม่ว่างไปกันใหญ่นะคะ (แต่ต้องเอาชีวิตรอดผ่านช่วงสอบไปให้ได้ก่อน) แต่จะพยายามมาต่อให้บ่อยที่สุดในช่วงสองเดือนนี้น้าาาา
 :o8: :o8: :-[

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
พึ่งเห็นนะเนี่ยยยย
ฝึกทำอาหาร พร้อมจะเป็นภรรยาสินะ   :katai3:

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สนุกมากเลยค่ะ ชอบสไตล์นี้ อ่านแล้วอินมากๆ

ผู้ชายสมันก่อนเค้าน่าร้ากกก น่ารักจัง

ส่งแรงใจให้คนเขียนมาต่อได้เร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
รออยู่นานเลยนึกว่าลืมไปแล้วซะอีก. เนื้อเรื่องสนุกมากตอนที่คุณหลวงเรียกหาแล้วทีป์ไม่ตอบกลัวแทบตายว่าทีป์จะกลับไปแล้ว

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เย้ๆ มาแว้ว
เริ่มพัฒนากันแล้ว อิอิ
มีการออกไปสวีท เอ้ย กินข้าวนอกเรือนเสียด้วย
ยังไงก็สู้ๆน้าคนเขียน เป็นกำลังใจให้น้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด