Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.31] [25.08.2018 : 21.20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.31] [25.08.2018 : 21.20]  (อ่าน 17364 ครั้ง)

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกมากกกกกกกกก อ่านรวดเดียวเลย

แต่ขอติตรงที่ผาพูดคะขากับน้ำนะ เกย์ยังไงก็เป็นผู้ชายอยู่ และเค้าคงไม่พูดคะขากับผู้ชายด้วยกันเอง ถึงน้ำจะน่ารักแค่ไหนก็ตามเราว่ามันไม่เหมาะ นิยายแนวชายรักชายมันไม่โอเคเลยที่จะมีการพูดคะขาใส่กัน มันไม่เมคเซ้นส์มากๆค่ะ  ถ้าจะมีการรวมเล่มขอนำข้อนี้ไปพิจารณาด้วยนะคะ แค่พูดเพราะๆมีครับใส่กันก็หวานและดูสุภาพแล้วค่ะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
​Episode 30




บ้านไม้โมเดิร์นสไตล์ยุโรปหลังใหญ่หนึ่งหลังและอีกสองหลังเล็กที่ตั้งเคียงอยู่ข้างกัน ถูกห้อมล้อมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดทั้งต้นไม้ใหญ่ยืนต้นให้ร่มเงาและดอกไม้สีสวยหลากหลายในพื้นที่มหาศาล ทำให้บ้านไม้หลังใหญ่ดูร่มรื่นอากาศเย็นสบายตามแบบฉบับของภาคเหนือ ซึ่งต่างจากดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแผดเผาอยู่ตอนนี้ ด้านหน้าของบ้านเป็นลานน้ำพุกว้าง ด้านหลังเป็นลานสนามหญ้าที่มีทั้งศาลาและบ่อปลาสวยงาม ซึ่งตอนนี้ในส่วนของหลังบ้านได้ถูกเนรมิตเป็นพื้นที่งานเลี้ยงต้อนรับคนตัวเล็กไปแล้ว...และใช่ งานที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แหละที่ทำให้น้ำทั้งตื่นเต้นและประหม่าจนมือไม้สั่นไปหมด



เพียงแค่รับรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลมหาเศรษฐีอย่าง 'บวรวัชรสิริกุล' เขาก็ประหม่าทำตัวไม่ถูกแล้ว ยิ่งเป็นงานสังคมที่มีผู้รากมากดีมากันแน่นขนัดแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย...เขาจะวางตัวยังไง จะทำตัวยังไง..มันดูเก้ๆกังๆไปหมด



"ตื่นเต้นหรอลูก" คุณพิชรัตน์เดินเข้ามาในห้องนอนของคนตัวเล็ก ก่อนจะนั่งลงข้างกันลูบหัวปลอบลูกชายตัวน้อยเบาๆ



"มากๆเลยครับตอนนี้... คุณแม่ครับ..น้ำควรทำตัวต่อหน้าแขกยังไงดีครับ..." คนตัวเล็กเอ่ยถามผู้เป็นแม่อย่างเป็นกังวล



"เป็นอย่างที่น้ำเป็นไงลูก...หนูไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรเลย...แค่หนูเป็นลูกชายที่น่ารักของแม่ก็พอแล้ว" สิ่งที่ผู้เป็นแม่ของเขากล่าวมา ช่วยคลายความกังวลและความตื่นเต้นลงไปได้เยอะและทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น



แกร็ก!

"พร้อมรึยังครับ.." ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของพี่ชายของเขาที่ยืนยิ้มอยู่ ส่วนคนที่เอ่ยถามเขานั้น...เดินยิ้มร่าเข้ามาจับมือเขากับแม่เอาไว้ก่อนจะออกแรงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกไป...



"ไม่ต้องตื่นเต้นนะ...เดี๋ยวเต้ยกับพี่ดินจะอยู่ข้างๆน้ำเอง" เต้ยบอกเขาด้วยรอยยิ้มก่อนจะปล่อยมือเขาออกและทำเพียงเดินเคียงกันออกไป เขาเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายของเขาอย่างเป็นกังวล แต่เขาก็ได้รับเพียงแค่รอยยิ้มอบอุ่นพร้อมกับฝ่ามือแกร่งที่ยื่นออกมาให้เขาจับตรงหน้า...น้ำรีบคว้ามือนั้นไว้ทันทีอย่างจะหาที่พึ่งที่ขาโหยหามันมาเนิ่นนานก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มน่ามองที่ออกมาจากใจที่เป็นสุข...







"ผา...อย่าหน้าบึ้งนักสิลูก" ผู้เป็นแม่กระซิบบอกกับลูกชายร่างสูงที่ยืนทำหน้าไม่รับแขกจนแขกเหรื่อในงานไม่กล้าเข้ามาทักทาย



"ผมไม่มีอารมณ์ขนาดจะมายิ้มหรอกครับม้า" เขายังคงหน้าบึ้งคิ้วขมวดเป็นปมตอบม้าไป มือหนึ่งก็พยายามกดสมาร์ทโฟนโทรออกหาใครอีกคนที่ไม่รับสายไม่ตอบกลับข้อความเขาเลยตั้งแต่เมื่อวาน..ตั้งแต่ที่ม้าโทรมาบอกกับเขาว่าคนตัวเล็กเก็บข้าวของออกจากหอเขาไปพร้อมกับดิน...เพื่อนสนิทของเขา และตอนนี้เขาก็มาอยู่ในงานเลี้ยงต้อนรับน้องของมันที่เชียงใหม่...อยากเจอ อยากถามมันว่าคนตัวเล็กของเขาไปไหน...เพราะว่ามันเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับน้ำ 



...เขาไม่รู้ว่าเมื่อวานนี้ผู้เป็นแม่ของเขาจะเข้าไปหาน้ำ รู้อีกทีก็ตอนที่ม้าเขาโทรมาบอก...ว่าอีกคนเก็บของออกไปแล้ว เขาไม่โทษม้าของเขาหรอกที่ทำให้อีกคนต้องเก็บของออกจากห้องเขาไป...ถ้าม้าเขาเป็นคนพูดให้น้ำออกไปจากชีวิตเขาจริงๆ ม้าคงไม่โทรมาบอกเขาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลแบบนั้นแน่นนอน...แล้วอะไรที่ทำให้คนตัวเล็กของเขาต้องเก็บของออกไปแบบนั้น...ไม่ว่าตอนนี้เขาจะคิดอะไรเขาก็ต้องเก็บพับมันไว้ก่อนเพราะว่าตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องสนใจงานเลี้ยงตรงหน้าแล้ว...และมันก็ทำให้เขาต้องสนใจมันจริงๆเพราะใครบางคนที่เดินออกมา



น้ำที่อยู่ในชุดสูทสีฟ้าอ่อน เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวสะอาดตาเปิดกระดุมคอเผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดที่มีสร้อยคอทองคำขาวที่ห้อยจี้อักษรตัว N ประดับอยู่ ...กางเกงสแลคพอดีตัวสีเดียวกับสูทที่ขับเน้นให้เห็นขาเรียวยาวดูดีที่ก้าวเดินอย่างสง่า...ไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องไปยังร่างเพรียวบางที่กำลังเดินเคียงข้างครอบครัวบวรวัชรสิริกุล ที่นำมาโดยประมุขของบ้านอย่างคุณเดช ตามมาด้วยลูกชายและภรรยาคือคุณชัชและคุณพิชรัตน์ ตามหลังมาติดๆคือดินและเต้ย แต่อีกคนที่อยู่ตรงกลางทำเอาหัวใจของร่างสูงเต้นโครมคราม...เขาลืมไปได้ยังไงกันนะ



ทุกสายตามองไปยังครอบครัวเจ้าของงาน แต่สายตากลับไปหยุดอยู่ตรงร่างบางในชุดสูทสีฟ้าอ่อน...ทั้งๆที่ในงานทุกคนต่างใส่ชุดที่ดูดีในโทนสีเดียวกันตามกำหนดการในการ์ดเชิญ ...แต่ชายหนุ่มแปลกหน้าตัวเล็กที่เดินมาในขบวนบวรวัชรสิริกุลกลับเป็นจุดรวมสายตาของคนทั้งงานไปเสียแล้ว...รวมถึงผาด้วยเช่นกัน



น้ำรู้สึกประหม่ากับสายตาของคนทั้งงานจนดินที่จับมือเล็กของน้องอยู่ตลอดเวลาสัมผัสได้ถึงความเย็นและชื้นจากมือนั้นจนเขาต้องกระซิบปลอบน้องเบาๆว่าไม่ต้องตื่นเต้น จนน้ำคลายความประหม่าและตื่นเต้นลงไปได้บ้าง เขาที่ชินกับสังคมแบบนี้รู้ดีอยู่แล้วจึงไม่รู้สึกอะไรกับสายตาและคำพูดพวกนั้นมากนักแต่กับน้องชายของเขาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนย่อมเป็นแบบนี้เป็นธรรมดา...แต่ก็ถือว่าคนตัวเล็กเก็บอาการภายนอกได้ดีไม่มีที่ติ...น้องเขานี่น่ารักจริงๆ ไม่เสียแรงเลยที่เฝ้าตามดู



ผู้อารักขาจำนวนหนึ่งเป็นเดินนำคุณเดชและลูกหลานขึ้นไปบนเวทีที่มีพิธีกรชายคนหนึ่งซึ่งปู่บอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องเขากำลังกล่าวต้อนรับพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังก้องไปทั่วทั้งบริเวร



"สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่สละเวลามางานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของหลานชายผมที่หายไปนานกว่ายี่สิบปี... มาหาปู่มา" คุณเดช ประมุขของบ้านหลังนี้เอ่ยกล่าวต้อนรับแขกอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเอ่ยเรียกคนตัวเล็ก หลานชายของเขาให้ขึ้นไปยืนข้างกัน...ถึงแม้อายุของท่านจะเลยวัยเกษียณมาแล้วแต่ความแข็งแรงและดูดียังมีอยู่ไม่จาง



น้ำหันมองหน้าพ่อแม่พี่ชายและเต้ยก่อนจะก้าวออกไปยืนข้างปู่ของเขาพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจที่สะกดทุกสายตาทุกคู่...



"..นี่คือหลานชายของผมที่ผมตามหามาตลอดเกือบยี่สิบปี..ครอบครัวของผมเฝ้ารอคอยที่จะรับเขากลับมาอย่างใจจดจ่อ..และวันนี้ผมก็เจอเขาแล้ว"



"..."



"...เขาต้องอยู่อย่างเดียวดายท่ามกลางผู้คนมากมายตั้งแต่ลืมตาดูโลก...เขาทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่ยังเด็กเพื่อจะหาเงินส่งตัวเองเรียนสูงๆ...หวังว่าในวันที่หลานชายของผมอีกคนกลับมายืนตรงนี้ ทุกคนจะให้การต้อนรับและเอ็นดูเขา"





"...ครอบครัวเราเสียใจไม่น้อย ที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในความสำเร็จของเขา ไม่ได้ดูเขาเติบโตอย่างที่คนในครอบครัวควรจะเป็น..ถึงแม้เขาจะใช้ชีวิตมาอย่างโดดเดี่ยว แต่เขาก็เติบโตมาอย่ามีคุณภาพจนได้เป็นนักศึกษาแพทย์อย่างทุกวันนี้..." ...คุณเดชกล่าวจบก็ส่งไมค์ให้กับเขา พร้อมกลับพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงบอกว่าให้เขาพูดอะไรกับแขกตรงหน้าสักหน่อย...คนตัวเล็กรับไมค์นั้นมาด้วยมือที่สั่นน้อยๆ ก่อนจะมองไปยังแขกทั้งหลายด้วยความประหม่า...แต่ก็ยังคงเก็บอาการทางสีหน้าได้ดีเพราะว่าใบหน้าใสนั้นยังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มสดใส



"..สวัสดี..ทุกๆท่านนะครับ เอ่อ..ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ผมพูดติดๆขัดๆ" คนตัวเล็กพูดติดๆขัดๆพร้อมด้วยอาการเขินอายที่มีออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนแขกทั้งหลายยกยิ้มตามด้วยความเอ็นดูในความน่ารักและเป็นธรรมชาติของหลานชายตัวเล็กของคุณเดช



"อย่างที่คุณปู่พูด..ที่ผ่านมา คือ..ผมไม่ได้มีชีวิตแบบนี้มาก่อน..ผมไม่คิดมาก่อนด้วยซ้ำ ว่าผมจะมีครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ พี่ชายและปู่...ทุกสิ่งอย่างที่ผมเห็นและได้สัมผัสอยู่ตอนนี้ มันอยู่ในความฝันของผมมาตลอด...และตอนนี้ผมก็คิดว่าผมคงจะฝันอยู่.." น้ำหัวเราะออกมาน้อยๆกับความคิดตัวเอง แต่ก็ทำให้คนฟังทั้งหลายหัวเราะตามได้ไม่ยาก...



"ซึ่งถ้าหากมันเป็นฝัน มันก็คือฝันที่ดีที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาของผม...ผมอยู่มาได้ด้วยความหวังอันเล็กน้อยในใจว่าจะได้เจอพ่อกับแม่ในสักวัน เพราะฉะนั้นผมถึงต้องมีชีวิตที่ดี เพื่อให้ท่านรู้สึกภูมิใจที่มีผม... ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก มันเร็วจนผมยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าแค่เพียงข้ามคืน ผมก็มีครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างในฝัน... ขอบคุณคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่ แม่ดา พี่ดินแล้วก็เต้ยมากนะครับ...ที่ทำให้ผมมีวันนี้" เขายกมือไหว้ทุกคนด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา แต่ก็ยังคงรอยยิ้มมีความสุขอยู่เต็มใบหน้าสวย



"..ยังไงผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ..ถ้าหากผมทำสิ่งใดผิดไป ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ...ขอบคุณครับ" ..เขากล่าวเพียงแค่สั้นๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ก่อนจะโค้งตัวลงเชิงว่าฝากเนื้อฝากตัวตามที่เขาพูดเอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับที่ได้รับเสียงปรบมือ



...ความเป็นธรรมชาติที่ออกมาจากคนตัวเล็ก ทำให้ได้รับความเอ็นดูเป็นอย่างมากจากผู้ใหญ่หลายๆท่าน ...ทั้งที่ก่อนหน้านี้ในความคิดมันติดลบไปต่างๆนาๆ ว่าคงจะเชิดหน้าชูคอเป็นคางคกขึ้นวอเป็นแน่ ...แต่ท่าทางที่นอบน้อมและเขินอายแบบไม่ดัจริตอย่างใครหลายๆคนทำ ก็แสดงให้เห็นว่า...เพชรยังไงก็คือเพชรอยู่วันยังค่ำ ต่อให้มันจะจมอยู่ใต้โคลนตมยังไงมันก็ยังเป็นเพชร...



ยังจากที่กล่าวกับแขกเหรื่อในงานไปพอสมควรแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินไปทักทายกับแขกผู้ใหญ่ตามโต๊ะที่จัดให้นั่ง...จนมาถึงโต๊ะที่ตั้งอยู่เกือบสุดท้าย





"นั่นน้ำใช่มั้ยลูก..." 

"..ครับม้า"

"..ท ทำไมน้อง.."





"สวัสดีค่ะคุณสุดา คุณสุเมษ..น้ำมาสวัสดีคุณน้าเขาสิลูก..." คำถามของผู้เป็นแม่ร่างสูงถูกขัดด้วยประโยคทักทายของคุณพิชรัตน์และลูกชายคนเล็กที่ประนมมือไว้อย่างนอบน้อมแต่แฝงไปด้วยความแข็งเกร็ง



คุณสุดามองหน้าน้ำด้วยความตกใจ ด้วยความที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าคนรักของลูกชายจะเป็นลูกของคนที่รู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี...



"ไงมึง..ไหนตอนแรกบอกไม่มา" ดินเอ่ยทักทายเพื่อนสนิทตัวเองหลังจากที่ยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่เสร็จแล้ว



ทั้งๆที่ตาควรมองหน้าเพื่อนตัวเอง แต่สายตากลับมองจ้องอยู่ที่คนตัวเล็กที่ยืนข้างกายเพื่อนสนิทไม่วางตา...อะไรกัน เจอหน้ากันทั้งทีไม่คิดจะเงยหน้ามาทักทายเขาบ้างเลยหรือไงกัน เรื่องนี้ก็ไม่ยอมบอกกัน...งอนสะดีมั้งเนี่ย



"อะไรวะไอ้ผา..กูพูดด้วยไม่พูดด้วยนะมึง...เอาแต่มองน้องกูอยู่นั่น" ดินเอ่ยแซวเพื่อนตัวเองอย่างเป็นต่อ...เพราะรู้ดีว่ามันคงทำอะไรมากไปกว่ามองไม่ได้



"ก็น้องมึงหน้าตาเหมือนแฟนกูเลยนี่...กูก็เลยมอง" น้ำเสียงที่มีแววตัดพ้ออยู่ในที ทำให้คนตัวเล็กที่ฟังอยู่ถึงกับช้อนตามอง...แต่ร่างสูงกลับหันหน้าหนีกันอย่างงอนๆ



"หึๆ น้ำ..สวัสดีพี่เขาหน่อยสิครับ...เพื่อนสนิทพี่เองมันชื่อผา ..ไอ้ผา นี่น้องกูชื่อน้ำ ยังไงฝากเป็นหูเป็นตาด้วยนะ กูไม่ชอบให้มีหมาแมวมายุ่มย่ามกับน้องกู" ..คนตัวเล็กยกมือไหว้ตามคำพี่ชายบอก แต่คนที่รับไหว้กลับทำหน้าบอกบุญไม่รับ...เพราะกำลังถูกกวนโมโหจากเพื่อนสนิท



"ไอ้ดินมึงง...กวนตีนกู" ผาพูดเสียงรอดไรฟันอย่างเจ็บใจ...



"หึๆ ...กูไปกวนอะไรมึงล่ะ" 



"...ไม่คิดจะทักพี่บ้างเลยหรือ" ผาไม่สนใจคำพูดกวนประสาทของเพื่อนตัวดีอีกต่อไป..แต่หันไปพูดกับอีกคนที่ยืนก้มหน้าไม่สบตา



"คือ..น้ำ.."



"น้ำลูก...ไปหาคุณปู่กัน" 



"ครับแม่..." น้ำที่กำลังเงยหน้าขึ้นมาเพื่อตอบร่างสูงเป็นอันต้องตอบรับคำของมารดาแล้วเดินไปหา



"...ดินขออยู่คุยกับไอ้ผาก่อนนะครับ..เดี๋ยวดินตามไป" ดินเอ่ยบอกกับผู้เป็นแม่อย่างนั้นก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มน้องเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะผละไปลูบหัวทุยเบาๆแล้วผละออกมา...ทั้งๆที่คนที่ควรจะทำแบบนั้นได้ควรเป็นเขา แต่ตอนนี้กลับทำได้แค่มอง





"มองอะไรน้องกูจังวะ"



"ไอ้ดิน...อย่ากวนตีนกู"



"อะไรวะ...กูก็แค่ถามดีๆ หึๆ"



"เลิกกวนตีนและเล่ามา.."



"กูนึกว่ามึงรู้แล้ว..."



"..." ผาไม่ตอบ แต่มองแก้วที่ถืออยู่ในมือนิ่ง



"...กูอยากจะบอกอะไรมึงอย่างนึง" ดินเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง ไร้แววเล่นๆอย่างเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิงจนผาเองปรับอารมณ์จริงจังตาม



"ว่ามา"



"...น้องกูเป็นผู้ชาย ถ้ามึงจะเล่นๆ มึงปล่อยน้องกูไปเถอะ...ถือว่ากูขอในฐานะเพื่อนและพี่ชาย" ถึงแม้ว่าดินจะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเขาเองก็คงจะจริงจังอยู่บ้าง ดูจากที่ผ่านมา...แต่ในฐานะพี่ชายที่รักน้องก็อยากจะเตือนสติมันเพื่อป้องกันการเสียใจที่จะเกิดขึ้นกับน้องของเขา...



"ที่ผ่านมามึงเห็นมาตลอด...มึงเองน่าจะรู้อยู่แล้ว" ดินพยักหน้าตามคำที่ผาบอก...ตัวเขาเองคงไม่คิดจะขัดขวางอะไร..แต่ก็แอบกังวลอยู่เหมือนกันว่าถ้าพ่อ แม่และปู่ของเขารับรู้..พวกท่านจะว่ายังไงบ้างแล้วจะรับกับเรื่องนี้ได้มากน้อยเพียงไหน...หากพวกท่านรับไม่ได้ ความรู้สึกของน้องเขาจะเป็นยังไง



"กูไม่รู้ว่าพ่อแม่กู...จะรับกับเรื่องนี้ได้หรือเปล่า..." ดินเอ่ยออกมาอย่างเป็นกังวลพลางทอดสายตาไปยังครอบครัวของเขาที่กำลังยืนคุยกับแขกในงานอยู่อย่างออกรส



"กูก็ไม่รู้...แต่ยังไงก็คงต้องบอก"



"อืม...แล้วที่บ้านมึง?"



"กูบอกแล้ว...พ่อแม่ฟ้าไม่มีปัญหาอะไร"



"ก็ดี...ส่วนเรื่องวันนี้ถ้ามึงอยากรู้ มึงก็ถามน้องเอาแล้วกัน กูไปละ" ดินตบบ่าผาสองสามทีก่อนจะเดินออกไปหาครอบครัว...





หลังเลิกงาน ผาส่งพ่อแม่ของเขาขึ้นรถกลับบ้านพักที่เคยมาซื้อไว้เมื่อนานมาแล้ว ก่อนจะบอกคนขับรถให้ขับรถเขามาจอดทิ้งไว้ให้ ส่วนตัวเขาเข้ามานั่งเล่นรอคนตัวเล็กกลับเข้ามาในบ้านหลังนี้ที่ถูกแยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่ที่ปู้และพ่อแม่ของคนตัวเล็กอยู่...บ้านของดินก็แยกออกมาอยู่ติดๆกันเช่นกัน...และที่เขาเข้ามาได้ก็เพราะดินนั่นแหละที่ให้เขาเข้ามาได้ /จริงๆแล้วบ้านสองหลังนี้เป็นหลังเล็กๆที่เอาไว้พักผ่อนนอนเล่นเวลาว่าง แต่ที่ตอนนี้ต้องลงมาอยู่บ้านหลังเล็กก็เพราะว่ายังทำการต่อเติมในส่วนของลูกชายคนเล็กไม่เสร็จ...





แกร๊ก!

"พ พี่ผา" ทันทีที่คนตัวเล็กเปิดประตูไม้เข้ามาภายในบ้านก็ต้องตกใจกับร่างสูงที่ยืนพิงเอวไว้กับราวบันไดมองมาทางเขา



ทันทีที่เห็นว่าคนที่รอคอยเปิดประตูกลับเข้ามาแล้วร่างสูงไม่นึกลังเลหรือรอคอยที่จะเดินเข้าไปสวมกอดอีกคนเอาไว้แทบจมอก ...



"ไม่บอกกันเลยนะตัวแสบ..."



"จะให้บอกยังไงครับ..."



"โทรมาก็ได้นี่..."



"...ตั้งแต่รู้เรื่อง น้ำก็ยังไม่ได้แตะโทรศัพท์เลย"



"ถึงว่า...โทรไปก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ"



"ขอโทษครับ..." คนตัวเล็กเอ่ยขอโทษพลางซุกหน้ากับแผงอกอย่างออดอ้อนสองมือเล็กขยุ้มชายเสื้อสูงของอีกคนไว้แน่น



"อ้อนกันแบบนี้..จะงอนก็ไม่ได้อีก" 



"ฮื่อออ~ น้ำให้งอน...เดี๋ยวน้ำง้อ" น้ำผละออกมาช้อนตามองหน้าอีกคนอย่างน่ารัก จนร่างสูงก้มลงหอมแก้มคนน่ารักอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะปิดท้ายด้วยจูบหนักๆที่ริมฝีปากอิ่มหนึ่งที



"อย่าน่ารักมากได้มั้ย" อีกคนบอกเสียงพร่า...ร่างสูงต้องรวบตัวคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น...เพราะรู้สึกว่าหากมองหน้าน่ารักๆของอีกคนต่อไป...คงไม่หยุดแค่หอมแก้มเป็นแน่...และอีกอย่างที่เขารับรู้ได้คงเป็นความคิดถึงที่มีมากเหลือเกิน ทั้งๆที่เพิ่งจะห่างกันมาได้แค่สองวัน เขาเองก็ไม่คิดหรอกว่าจะคิดถึงคนๆนึงได้มากมายขนาดนี้...แต่พอได้เห็นหน้า ได้กอดความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลก็แทบทะลักออกมา...จนต้องกอดอีกคนไว้แนบอกเช่นนี้ และเพราะว่ามัวกอดให้หายคิดถึงนี่แหละ...จึงไม่ทันสังเกตว่ามีใครอีกคนกำลังเปิดประตูเข้ามา





แกร๊ก!

"น้ำลูก..." เสียงเรียกที่แสนอ่อนโยนนั่นทำให้น้ำผละออกจากอกร่างสูงทันทีราวกับโดนไฟช้อต



"แม่ครับ...คือน้ำ..." น้ำละลำ่ละลักจะอธิบายขึ้นมาทันทีอย่างห้ามไม่อยู่ ..หน้าเสีย ยิ้มไม่ออกเพราะมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ที่ผู้เป็นแม่ต้องมาเห็นลูกชายตัวเองยืนกอดกับผู้ชายอีกคน...แต่แทนที่แม่ของเขาจะโกรธหรืออาจจะต่อว่าเขา ท่านกลับทำเพียงยิ้มให้นิดๆยกมือขึ้นลูบหัวเขาเบาๆก่อนจะหันไปมองผา ที่ยืนห่างออกไป



"หนูอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็พาพี่เขาไปบ้านใหญ่ด้วยนะลูก..." ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาเท่านั้นก่อนจะหันหลังเดินกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ยังคงมีอยู่เต็มใบหน้า



ถึงแม้แม่ของเขาจะไม่ได้แสดงท่าทางว่าโกรธเคืองอะไรออกมาแต่ใบหน้าสวยก็ยังคงซีดเผือดเพราะเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด



เขาเพิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้แท้ๆ แต่กลับสร้างเรื่องให้หนักใจอีกจนได้...มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก ที่จะยอมรับได้ง่ายๆว่าเขาเป็นแบบนี้...ถ้าหากว่าแม่ของเขาเสนอทางเลือกให้ เขาเองก็คงเลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเอายังไง...เพราะความรักที่มีให้คนทั้งสองฝ่ายมันแตกต่างกัน จะให้เลือกอีกฝ่ายเพื่อตัดอีกฝ่ายนึงออกไป...มันคงรู้สึกแย่น่าดู



"ไม่เป็นไรคนดี...ทุกอย่างมันต้องดีแน่นอน พี่สัญญา" ผาเข้าสวมกอดคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง กดจูบตรงขมับและเอ่ยคำสัญญาออกมาอย่างหนักแน่นจนคนในอ้อมกอดอดยอมรับไม่ได้ว่ามันทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด







"...เป็นแฟนกับหลานปู่รึ" 



"ครับ.."



"ฮ่าๆ ...สาวๆก็เยอะแยะไม่ใช่หรือเรา ทำไมถึงมาคบกับน้องล่ะ"



หลังจากที่คนตัวเล็กอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เขาก็พากันมายังบ้านใหญ่ยังคำบอกของคุณพิชรัตน์ ...และตอนนี้ เขาก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นที่ดูสบายๆ แต่บรรยากาศที่เขารู้สึกอยู่ตอนนี้มันกลับดูไม่สบายเอาเสียเลย



ทั้งปู่ ทั้งพ่อทั้งแม่ หรือแม้แต่ดินเองก็นั่งอยู่ด้วยกันในห้องพร้อมกับคำถามง่ายๆถึงความสัมพันธ์ของเขากับหลานชายคนเล็ก ที่ออกมาจากประมุขของบ้าน...เขาคิดว่าน่าจะรับมือได้ง่ายๆ แต่เขากลับคิดว่ามันไม่ง่ายเลย...ไม่ง่ายเลยสักนิดเดียว



ท่าทางสบายๆของคนทั้งบ้านแต่แฝงไปด้วแววของความไม่พอใจ กับเรื่องที่รับรู้มา...



หลานชายของเขาน่ะหรือจะคบกับเสือร้ายอย่างผาได้...



"...ผมรักน้ำครับปู่"



"หึๆ มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ" ปู่ของคนตัวเล็กส่งเสียงในลำคอ พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นถาม



ปู่ของน้ำไม่ใช่เป็นคนที่ถ้าเวลาจริงจังจะเคร่งขึม และดุมากคนหนึ่ง และข้อนี้ผมก็รู้ดีเพราะว่าผมสนิทกับบ้านนี้มากจนแทบจะเป็นลูกชายคนนึงของบ้านนี้



"ผมรู้ครับว่ามันไม่ง่ายเลย...แต่ผมรักน้องจริงๆ" ...และก็คิดว่ารักมานานแล้ว



"น้องยังเด็ก...น้องต้องการเวลา และน้องก็มีความฝัน..."



"อายุไม่ได้เป็นปัญหาของผม...ถึงต่อไปข้างหน้าผมจะงานยุ่งแต่ที่หนึ่งของผมคือจะเขา...และไม่ว่าเขาจะมีความฝันอะไร ผมก็จะคอยสนับสนุนเขาอยู่ข้างๆแน่นอนครับ..." ผาเอ่ยบอกอย่างหนักแน่นและจริงใจ แววตาและน้ำเสียงมั่นคงจนคนฟังเองก็ต่างเชื่อในคำพูด...และจากสิ่งที่ตามเฝ้าดูมา อีกฝ่ายก็ดูแลน้ำคนตัวเล็กได้อย่างดี...แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ สิ่งที่ได้มาง่ายๆมักจะไม่มีคุณค่า...



"เอาเถอะๆ...ถึงพูดไป ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ปู่ไม่อยากฟังนักหรอก...แต่จะรอดู" คุณเดชบอกเขาพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก เช่นเดียวกับคุณพิชรัตน์และคุณชัช ที่มองเขาด้วยบรรยากาศที่ดีขึ้น...ร่างสูงยิ้มรับ หันไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งยักคิ้วให้เขาอยู่ ก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณ "ขอบคุณปู่มากนะครับ..สำหรับโอกาส" ...สัญญาจากใจว่าจะรักษาเอาไว้อย่างดี



เสียดายที่คนตัวเล็กไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยเพราะถูกคุณเดชสั่งให้ขึ้นไปเต้ยที่ดูเหมือนจะไม่สบาย ตั้งแต่เขามาถึง...ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคิดมากไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ ถึงจะเป็นห่วงถึงจะอยากเจอ...แต่วันนี้ก็คงทำได้แค่นี้ แต่ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแค่ไหนแล้ว...



"ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ...ไปก่อนนะไอ้ดิน" ร่างสูงยกมือไหว้ลาพ่อแม่และปู่ที่กำลังเดินแยกออกไปขึ้นบันไดเพื่อไปพักผ่อน...



"...ไม่รอเจอน้องกูก่อนหรอ รายนั้นคงกังวล" ดินบอกอีกคนที่กำลังจะเดินพ้นประตูใหญ่พร้อมกับใช้นิ้วโป้งชี้ไปทางด้านหลังให้อีกคนได้ดูว่าคนตัวเล็กกำลังเดินลงมา...



"ไปส่งน้องกูที่บ้านเล็กด้วย... น้ำ เดี๋ยวให้ไอ้ผาไปส่งน้ำนะ พี่ว่าจะออกข้างนอกหน่อย จุ๊บ" ดินบอกกับร่างสูงก่อนจะเดินไปบอกกับน้ำ ก้มลงจุ๊บที่ผมนิ่มทีหนึ่งแล้วผละออกไป





"ปะ..พี่ไปส่ง" ผายื่นมือให้น้ำจับ ก่อนจะเดินออกไปยังบ้านหลังเล็กด้วยกัน...ถึงตลอดทางเดินจะสว่างไสวไปด้วยไฟประดับ...แต่ก็ยังอยากจะเดินมาส่งอยู่ดี...



"ฝันดีนะคะคืนนี้..." ถึงหน้าประตูไม้แล้วผาก็บอกลาคนตัวเล็กบ้าง..แม้จะไม่อยากลาเลยก็ตามเถอะ อยากนอนกอด อยากหอม อยากมอนิ่งคิส...เห้ออ



"อื้ม พี่ผาก็ด้วยนะ" คนตัวเล็กก้มหน้าบอก...ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองกันแต่มือเล็กก็ยังไม่ยอมปล่อยจากมือเขาไปเลย



"ทำไมก้มหน้าแบบนี้คะ พี่จะไปแล้วนะ..ไม่มองหน้ากันหน่อยหรอ หื้ม?" ร่างสูงเชยคางอีกคนนึงขึ้นมา...



"...ดีมั้ย" คำถามที่มีเพียงแค่สองพยางค์ แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าคนตัวเล็กของเขาหมายถึงเรื่องอะไร... เขายิ้มขำ เอามือลูบกลุ่มผมนิ่มอย่างเอ็นดู



"ดีสิคะดีมากด้วย พี่ผาซะอย่าง ...ไม่ต้องกังวลหรอก ท่านทั้งสามคนไม่ได้ว่าอะไร...แต่ก็คงจะตกใจนั่นแหละที่ได้ทั้งลูกชายและลูกเขย" ...โดนฟาดไปหนึ่งที



"บ้า...แม่กับพ่อยังไม่ได้รับพี่ผาเป็นลูกเขยซะหน่อย"



"ฮ่าๆ ยังไม่ยอมรับเดี๋ยวพี่ก็ทำให้ท่านยอมรับเองไม่ต้องห่วง... ปะ ขึ้นนอนได้แล้วค่ะดึกแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาหานะคะ จุ๊บ" ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้ลูบหัวกลมเบาๆก่อนจะจุ๊บลงไปหนึ่งที



"ครับ...ขับรถกลับดีๆนะครับ" ผาตัดใจผละออกมาโบกมือให้คนตัวเล็กแล้วหันหลังเดินกลับไปทางเก่าก่อนจะขับรถกลับออกไปโดยมีคนตัวเล็กมองตามจนสุดสายตา ก่อนจะเปิดประตูบ้านเข้าไปเพื่อพักผ่อนบ้าง...



คนตัวเล็กเข้ามายังห้องนอนของตัวเอง จัดการล้างมือล้างเท้าเตรียมตัวเข้านอน ...ถอดสร้อยเส้นสวยที่ใส่มาตลอดทั้งวันออก..เก็บใส่ไว้ในกล่องเหล็กราคาแพงที่เขาได้มาเมื่อนานมาแล้ว...



...เขาไม่รู้จะขอบคุณใครดี... จะขอบคุณพ่อแม่ปู่และพี่ชายที่ตามหาเขา หรือจะขอบคุณใครสักคนหนึ่งที่เก็บสร้อยมาคืนเขาในวันที่เขาทำมันหายไป...













100%

...To Be Continued...


talk
ขอบคุณสำหรับคอนเม้นต์ติชมน้า เค้าจะเอาไปปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่อๆไปน้าา ขอบคุณมากๆนะคะ อ่านให้สนุกนะคะ ผิดพลาด หรือไม่ถูกใจประการใดก็ต้องขอโทษด้วยน้าาา ติชมกันได้เขาอยากพัฒนาฝีมือ :impress2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
โอมเพี้ยง ขอให้รักไม่มีสะดุด  :call:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จงราบรื่นๆๆๆ สาธุ :call:

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มาหรือยังน้า :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :call: :call: :call:

หายไปนานมากกกกกกก

เรื่องใกล้จบแล้วนิ  กลับมาลงต่อให้จบเถอะนะ

พลีสสสสสสส

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
:จะมาต่อรึยังนะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Episode 31








หลังจากวันที่ตระกูลมหาเศรษฐีอย่าง บวรวัชรสิริกุล เปิดตัวทายาทคนเล็กไปอย่างเป็นทางการ มันก็ผ่านเลยมาเดือนกว่าแล้ว...หลังจากที่เปิดตัวไป สำนักข่าว ช่องข่าว ช่องบันเทิงต่าง ๆ ก็กระหน่ำนำเสนอข่าวของคนตัวเล็กอย่างบ้าคลั่ง รวมทั้งเพจของมหาลัยที่ประโคมนำรูปมาลง จนมันเต็มหน้าเพจและแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ในไลน์กลุ่มเพื่อนก็ถามไถ่กันเข้ามาไม่หยุด...เขาไม่ได้รำคาญหรอก แต่ยังช็อคไม่หายต่างหาก...ก็มันใช่เรื่องที่จะเชื่อกันได้ง่ายๆที่ไหน อยู่ในฝันของเขามาเกือบยี่สิบปี อยู่ ๆ มาก็กลายเป็นจริงไปเสียฉิบ...ถ้าไม่มีพี่ดิน เต้ย พ่อกับแม่และปู่อยู่ข้างๆเขาเป็นพยาน เขาเองก็คงไม่เชื่อหรอก...

เรื่องเรียนของเขาก็เกือบจะเป็นปัญหาใหญ่แล้วเหมือนกันเมื่อผู้เป็นแม่บอกให้คนตัวเล็กย้ายขึ้นไปเรียนที่มหาลัยดังในจังหวัดเชียงใหม่ เกือบจะใจอ่อนยอมย้ายขึ้นมาตามที่ผู่เป็นแม่ขอ ถ้าไม่ได้ดินกับเต้ยช่วยพูดเอาไว้ และนั่นก็ทำให้ทั้งครอบครัวตัดสินใจย้ายลงมาอยู่กับสมาชิกใหม่ที่กรุงเทพฯ รวมทั้งคุณปู่เองก็ด้วย...ทีแรกคนตัวเล็กก็ไม่เขาใจเหมือนกันว่าทำไมท่านถึงต้องย้ายลงมากันหมดแบบนี้เพราะมันคงจะลำบากน่าดู แต่เหตุผลที่พวกท่านให้มาก็ทำให้เขาขัดไม่ลงเพราะเขาเองก็ต้องการเช่นนั้นอยู่ลึกๆ...แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากออกไป



'แม่เพิ่งจะได้ลูกของแม่คืน แม่ก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับลูกของแม่สิ...แม่อยากทำกับข้าวให้ลูกทานตอนเช้า กลับมาก็ทานมื้อเย็นด้วยกันพร้อมหน้า...ฟังพวกหนูเล่าให้แม่ฟังว่าวันนี้ทำอะไร เรียนอะไรบ้าง...แค่ย้ายลงมา ไม่ลำบากอะไรเลย'



รอยยิ้มพิมพ์ใจพร้อมกับฝ่ามืออุ่นที่ลูบหัวเขายามบอกเล่าสิ่งที่จะทำ มันทำให้เขาอุ่นวาบในใจไม่จาง...จริง ๆ แล้วมันต้องเป็นเขาหรือเปล่าที่ต้องทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ท่านลำบาก แต่พวกท่านก็ยืนยันว่าแบบนี้ก็สบายใจดีและก็ไม่ได้ลำบากอะไรเพราะว่าคุณพ่อของเขาเองก็ต้องลงมาติดต่อและดูแลธุรกิจสาขาที่อยู่ในกรุงเทพฯ บ่อย ๆ เหมือนกัน

"มาแต่เช้าเหมือนเดิมเลยนะครับคุณหนูน้ำ" เสียงกระเซ้าเย้าแหย่ดังขึ้นมาก่อนจะเห็นตัวต้นเสียง

"อย่าเรียกน้ำแบบนั้นเลยเบท" น้ำบอกกลับไปด้วยหน้าเจื่อนๆ เพราะเขาเองไม่ชอบให้ใครเรียกแบบนี้เลยสักนิดเดียว...ทั้งในเพจมหาลัยก็ด้วยที่พากันติดแท็กคุณหนูน้ำกันไปหมดแล้ว

"แหม ก็เรียกตามความเป็นจริงน่า ...ดูดิเสื้อผ้าหน้าผม" เบทเอามือวางบนหัวก่อนจะโยกไปมาพร้อมกับเสียงหัวเราะน้อย ๆ ซึ่งตอนนี้คนถูกแซวก็หน้ายู่ไปแล้วเรียบร้อย...

ไม่ชินเลยสักนิดเดียว...ในเมื่อทุก ๆ อย่างเปลี่ยนไป สถานะเขาก็เปลี่ยนไปด้วย...และเขาก็จะแต่งตัวมอซอแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้ด้วย ทุก ๆ อย่างถูกเปลี่ยนไปจนหมด...เขาไม่ได้อยากจะสิ้นเปลืองแต่มันจำเป็นต้องเปลี่ยนให้มันดูดีขึ้นให้สมฐานะอย่างที่ควรจะเป็น...ไม่มีใครสอนให้เขาฟุ่มเฟือย แต่สอนให้เขาอยู่ในสังคมแบบนี้อย่างเหมาะสม

"เอาน่า...แรกๆก็ไม่ชินแบบนี้แหละ แต่นาน ๆ ไปเดี๋ยวก็ชินเองเปลี่ยนฐานะกระทันหันก็แบบนี้แหละ องยากหน่อยนะคุณหนูไฮโซ ฮ่า ๆ"

"ฮื่อ บอกว่าเรียกน้ำแบบนั้นไง" น้ำหันมาบอกตาขวาง ทำปากยู่ๆเสียจนเบทอยากจะอื้มมือไปดึงปากแดงๆนั่นสักที





ท้องฟ้าสีครามแจ่มใส แสงอาทิตย์ทอแสงจ้าในยามเช้า มันคงเป็นวันดีๆสำหรับใครหลายๆคนในการเริ่มทำอะไรใหม่ๆ แต่มันคงไม่ใช่วันที่ดีสำหรับคนตัวสูง และที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบเดือนมันก็ไม่ได้เป็นวันที่ดีเลย ไม่ว่าจะเป็นเช้าที่สดใส หรือเช้าที่ฝนพรำ มันก็แย่ทั้งนั้น...เพราะในแต่ละวันที่ผ่านมา เขาต้องใช้ชีวิตคนเดียว ทั้งตอนตื่นนอนและตอนหลับตา...

ตั้งแต่ที่คนตัวเล็กกลายเป็นทายาทของตระกูลบวรฯ ไปเมื่อเดือนก่อน เขากับน้องก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเลย...เขาเข้าใจว่าน้องมีครอบครัวแล้ว ก็ต้องอยู่กับครอบครัวที่จากมานานเป็นธรรมดา...



...คิดถึงน้อง..



"ไอ้ผา มึงจะไปไหน เดี๋ยวมึงก็เข้าพบที่ปรึกษาไม่ทัน" ในระหว่างที่เขากำลังจะลุกออกจาม้าหินหน้าคณะไปยังจุดหมายที่ตนนั้นต้องไปให้ได้ทุกเช้าก็ต้องชะงักไปเพราะคำท้วงของพุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"จะไปกินข้าว"

"ที่ไหน"

"เรื่องของกู"

"จะไปกินกับน้องล่ะสิท่า ฮ่า ๆ พอน้องไม่อยู่นี่หงอยเป็นหมาพอน้องมานี่ยิ้มร่ายังกับถูกรางวัลที่หนึ่ง" เสียงแซว ขำขันของพวกเพื่อนตัวดีดังไปทั่วทั้งบริเวณ...แต่เอาจริงๆเถอะ ดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลอีก

"อืม...เดี๋ยวมา"



ว่าจบร่างสูงก็หยิบสัมภาระติดตัวมาและตรงไปยังคณะแพทย์ที่มีคนตัวเล็กรอทานข้าวเช้าพร้อมกันอยู่...นี่แหละ จุดหมายที่เขาต้องไปในทุก ๆ เช้า







...วันแรกที่เจอกันหลังจากที่เชียงใหม่คือวันเปิดเทอมเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เขารีบไปหาทันทีเมื่อคนตัวเล็กมาถึงมหาลัย ถามว่าเขาคิดถึงมากแค่ไหน...ก็คงพอทำให้ระยะเวลาที่ผ่านมาเขานอนไม่หลับและซูบลงไปเลยทีเดียว แต่เขาก็ต้องทนล่ะนะ เพราะว่าที่ผ่านมาเขาไม่มีโอกาสเจอน้องเลยน้องจากวิดีโอคอลเห็นหน้ากันผ่านจอสีเหลี่ยม คิดว่าพอหรอ? ไม่ มันไม่พอ ยิ่งตอนนี้น้องเป็นแบบนี้ แค่เปลี่ยนการแต่งตัวให้ดีขึ้น คนตัวเล็กก็ดูดีและน่ารักมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า แค่เดิม  ๆคนก็มองก็จ้องกันมากพออยู่แล้ว ยิ่งมาเป็นแบบนี้...ไม่ต้องพูดถึงเลย



...เขาน่ะโคตรอยากไปหา แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...วันแรกที่ครอบครัวของคนตัวเล็กลงมา เขาก็ติดต่อผ่านทางดินไปทันทีว่าจะเข้าไปหา แต่กลับถูกเบรกเอาจนหัวแทบทิ่มด้วยประโยคที่ว่า 'ขอเวลาให้ครอบครัวบ้าง'...และมันก็จริง น้ำเพิ่งจะกลับเข้าสู้อ้อมอกของครอบครัว เขาเพิ่งจะมีความสุขกันแบบพร้อมหน้า แล้วคนอย่างเขากำลังจะเข้าไปทำลายความสุขตรงนั้นด้วยเรื่องที่คนในครอบครัวค่อนข้างที่จะรับไม่ได้กันเป็นส่วนใหญ่ ใช่ว่าเขาไม่รักน้อง ใช่ว่าเขากลัวจนหัวหด...แต่การที่เขาจะทำอะไรเขาควรจะรู้กาลเทศะ ว่าเวลานี้ควรหรือไม่ควรไม่ทำอะไร...แล้วอีกอย่าง เขาก็ได้พูดไปเบื้องต้นแล้วว่าสถานะของเขากับคนตัวเล็กนั้นเป็นยังไง ถึงปฏิกิริยาตอบรับจะดูตกใจและก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะคัดค้านหรือกีดกันเขาออกจากคนตัวเล็ก...หรือการที่ท่านเงียบแบบนี้ก็คือการคัดค้านกลายๆ



...ขอให้ไม่เป็นแบบนั้น...



...และผลจากการที่เขามาหาคนตัวเล็กด้วยสภาพที่อิดโรยและซูบลงไปจนคนตัวเล็กแทบร้องไห้ว่าเขาทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ และแน่นอนเขาก็โดนน้องบ่นไปตามระเบียบเรื่องที่ไม่ทานข้าวและพักผ่อนให้เพียงพอ หลังจากนั้นน้องก็เลยทำข้าวเช้ามานั่งทานกับเขาทุกเช้าตลอดทั้งสองสัปดาห์ซึ่งนั่นก็ถือว่าดีมาก...แต่มันก็ยังไม่พอ เขาอยากนอนพร้อมน้อง อยากตื่นมาพร้อมน้อง อยากมองน้องใส่ผ้ากันเปื้อนทำกับข้าวให้เขาทานทุกเช้า...



"หวัดดีครับพี่ผา..."

"อืม หวัดดี...และอีกสองคนไปไหนล่ะ" สองคนที่ว่าก็คืออิ่มกับพราว

"เพิ่งถึงหน้ามอ.ครับ อีกสักพักคงเข้ามาถึง" ผาทำเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ไม่ถามอะไรต่อแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างคนตัวเล็ก น้ำยิ้มรับก่อนจะเขยิบตัวนิดหน่อยเพื่อให้อีกคนทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน



น้ำรับรู้ได้ดีว่าความรู้สึกของเขาและคนข้างตัวนั้นไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่อีกคนทำมันแสดงให้เขาเห็นมากพอ...ทั้ง ๆ ที่อีกคนมีงานยุ่งรัดตัวทั้งธุรกิจที่บ้านที่จะต้องเข้ารับช่วงต่อและการควบคุมกิจการในสาขาย่อยที่เพิ่งเปิดตัวได้เมื่อไม่นาน บางวันก็ติดประชุมแทบจะทั้งวัน ไหนจะโปรเจคจบที่จะต้องเร่งทำและหาเวลาเข้าพบที่ปรึกษาเพื่อรายงานความคืบหน้า...แต่อีกคนก็ยังเจียดเวลาอันน้อยนิดมาหาเขาในตอนเช้า กลางวันและในตอนเย็นซึ่งจะมีเวลามาหาและมาส่งเขาขึ้นรถที่ดินเป็นคนขับเป็นบางวันเท่านั้น...



"วันนี้พี่ผาต้องเข้าพบที่ปรึกษาไม่ใช่หรอครับ" คนถูกถามรวบช้อนเข้าด้วยกันและปิดฝากล่องข้าวที่หมดเกลี้ยงเก็บเข้าที่เดิมก่อนจะตอบออกมา

"ใช่ แต่มากินข้าวก่อน หิว" รอยยิ้มหล่อที่ประดับอยู่บนหน้าทำให้น้ำอดจะเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ไม่ได้

...รู้หรอกน่าว่าอ้าง..


"แล้วแบบนี้จะพรีเซ็นต์ทันไปประชุมมั้ยล่ะครับ"

"บ่ายโมงตรงนู่น คิดว่าน่าจะทันอยู่ พี่เก่งจะตายไป" คนตอบยักคิ้วส่งมาให้สองจึกอย่างอวดๆ จนทำให้อีกคนเบ้ปากใส่ไปอีกทีกับความจริงที่ว่านั่น

"แหวะ ไม่เห็นจะเเก่งเลย" คนทำท่าแหวะได้น่ารักเสียจนเบทเองที่มองอยู่ยังว่าน่าหมั่นเขี้ยวเสียจนอยากจะยื่นมือไปบิดปากแดงๆนั่นสักทีแบบที่คนข้างตัวนั่นกำลังทำอยู่

"แหวะหรอ หื้ม มันน่าหมั่นเขี้ยวนัก"

"อ่อยเอยอ๊ะ อ๊ามเอ็บ"

"ก็ทำตัวน่าหมั่นเขี้ยวทำไมล่ะ หื้ม?"

"น้ำยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" คนโดนกล่าวหา นั่งหน้ายู่ลูบแก้มตัวเองป้อยๆ



"พี่ผา สวัสดีค่ะ" เสียงหวานใสของพราวเอ่ยทักขึ้นมาจากทางด้านหลัง ผาหันกลับไปส่งยิ้มตอบรับให้น้อยๆ ก่อนจะมองไปยังอีกคนที่เดินตามหลังพราวมา ยักหน้าให้เป็นการทักทายกลับ..



"ขึ้นเรียนได้แล้วไป...ตอนเย็นจะมาหา” น้ำพยักหน้าหงึกหงักเป็นอันว่ารับรู้กับสิ่งที่ร่างสูงบอก เก็บข้าวของบนโต๊ะใส่กระเป๋ายกขึ้นสะพายบ่า ก่นจะลุกขขึ้นยืนแต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกไปไหนเพราะแรงกระตุกเบา ๆ ที่แขนจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ น้ำก้มลงมองเลิกคิ้วขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นเชิงถามเจ้าของฝ่ามืออุ่น



“ขอกำลังใจไปพรีเซ็นต์หน่อย” คนที่ได้ฟังถึงกับต้องเลิกคิ้วมองยิ่งกว่าเก่า ก่อนจะเอียงหน้าหรี่ตามองเผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ...ทั้ง ๆ ที่แต่ควรจะมองที่เขา แต่กลับส่งสานตาดุ ๆ ไปให้ยังคนรอบข้างที่กำลังมองมา...

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น...”

“ก็แล้วทำไมพี่ผาต้องทำสายตาแบบนั้นล่ะครับ” น้ำก้มหน้าลงไปถามพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มแสนน่ารัก ทำเอานักศึกษารอบข้างที่มองมาต่างก็อิจฉาทั้งคนที่เป็นแฟนน้ำ และคนที่ได้น้ำเป็นแฟน...ส่วนคนที่ถูกยิ้มใส่ไปแบบนั้นก็ถึงกับไปต่อแทบไม่ถูก

“ก็พี่ไม่ชอบ...”

“ไม่ชอบอะไรครับ” น้ำยังคงถามไล่ต้อนด้วยรอยยิ้มน่ารักเช่นเดิมอย่างคนเป็นต่อ

“น้ำก็รู้อยู่แล้ว...จะถามทำไม หื้ม?”

“ก็น้ำอยากฟังนี่ครับ ไม่ได้หรอ...ก็ได้ครับก็ได้ น้ำไม่ฟังก็ได้ แบร่~” น้ำแลบลิ้นใส่ก่อนจะบิดข้อมือออกแล้ววิ่งเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่ยืนรออยู่หน้าลิฟต์ มองมาด้วยสายตาอิจฉาและพร้อมแซวเต็มที่...ร่างสูงที่นั่งอยู่ก็ผลุดลุกขึ้น จะตามไปเพราะคิดว่าโดนงอนเข้าให้แล้ว แต่พอหันมาเจออีกฝ่ายก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา...รอยยิ้มน่ารักนั่นที่ส่งมาพร้อมกับโบกมือมาให้...เท่านี้แหละกำลังใจในแต่ละวัน






“ไงมึง ไม่รีบไปรึไง”

“ก็ไม่เท่าไหร่...มึงล่ะ”

“เหมือนกัน”

“…”

“ผา...”

“ว่าไง”

“กู...จำได้แล้วนะ”

“เออ จำกูได้สักทีนะมึง...อ้าวไอ้ใหม่” ผาเอ่ยทักใหม่ที่กำลังจะเดินเร็ว ๆ ผ่านหน้าเขาไปพร้อมกับเสื้อกาวน์ที่พาดแขนอยู่

“ไงมึง...มาหาแฟนกูอีกล่ะสิ” ใหม่หยุดเท้าเอาไว้ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผาที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างกันกับอิ่มที่ทำเพียงยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่ง ๆ

“อยากโดนตีนกูงั้นสิมึงน่ะ ...และจะรีบไปไหน” ผายกเท้าเตะหน้าแข้งอีกฝ่ายไม่เบาแรงนัก

“มีแลปอ่ะดิ...งั้นกูไปก่อนนะ ไปช้ากูโดนพี่หมอแดกหัวตายห่า”

“เขาไม่กล้าแดกหัวมึงหรอก สุดที่รักมึงนี่”

“เงียบไปไอ้สัดต้น...ไปละ ไว้เจอกันมึง” ใหม่หันไปโบกหัวเพื่อนตัวเองที่เดินตาม ๆ มาด้วยกันอย่างนึกหมั่นไส้ เอ่ยลาเพื่อนสนิทก่อนจะรีบลากเพื่อนตัวเองเดินจ้ำอ้าวออกไป…โดยที่สายตาคู่นั้นไม่ได้ปลายตามองร่างสูงที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังของผาเลยแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายคนถูกเมินราวกับเป็นอากาศธาตุนั้นมองไม่ได้ละสายตาไปไหนตั้งแต่อีกคนเดินเข้ามาอยู่ในระยะการมองเห็น



“ถ้ามึงจำได้แล้ว ก็เคลียร์ซะ”

“อืม...กูพยายามอยู่”

“แต่กูว่ารีบๆหน่อยกูดี...เห็นมันแบบนั้นเสน่ห์แรงจะตายไป”

“ข้อนั้น...มึงไม่ต้องบอก กูก็รู้ดี”

เสียงที่เปล่งออกมาเรียบนิ่ง สายตาที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ ที่มองตามคนที่วิ่งออกไปจนตอนนี้ได้หายไปจากระยะสายตา... ถึงในตาคมคู่นั้นจะไม่สื่ออารมณ์ใด ๆ ออกมา แต่ผาก็รับรู้ได้ดีว่าในแววตาคู่นั้นซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้







50%

...To Be Continued...

ฮาโหลววววว~ อิอิ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆที่หายตัวไป แบบตามไม่เจอ ...มีเรื่องหลายๆอย่างให้คิดสะระตะเต็มไปหมด แล้วก็ต้องฝึกงานด้วยซึ่งมันช่างโหดร้ายเหลือเกินกับสังคมแบบนั้นแต่ก็ผ่านมาแล้ว แบบลากเลือดอ่ะนะ5555 แล้วก็....แอบไปแต่งเรื่องใหม่มาด้วย แต่งไว้สองสามเรื่อง อิอิ

และตอนนี้มีแค่คำเดียวที่อยากบอกได้คือ ขอโทษค่า*ก้มกราบ* แล้วก็ยอมรับผลกรรมที่ตามมาหากรีดจะหายกันไปแบบไม่กลับมาแล้วว555555 ขอบคุณค่ะที่คชติดตามและจะเป็นพระกรุณาหากจะเม้นท์ติชมและให้กำลังใจ





ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณที่กลับมาลงต่อ

นานจนลืมตัวละครไปหมดแล้ว  สงสัยต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกรอบ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ก็เข้าใจน้ำนะ ใช้ชีวิตแบบธรรมดา ๆ มานาน อยู่ ๆ จะให้ทำตัวหรูหรากระทันหัน มันทำใจไม่ทันอ่ะ  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มาต่อก้ดีใจ

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
 :mew4:มาต่อไว้ๆๆๆๆนะ  มารอ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด