ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1269030 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
รอฉันรอเธออยู่ จุ๊บ :z2:

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เข้าแถวรอด้วยอีกคนค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
รอนะคะ รออออออออออออออออ :mew2:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
พี่กฤตนี่เลวจิงๆนะ แต่ขอบอกว่า...ชอบ!!!!!
อยากรู้ปมของยุเร็วๆ เอาจริงๆก็อยากให้รักกันซะที
อ่านรู้แค่ความรู้สึกด้านเกลียดอ่ะ อยากอ่านตอนรัก><

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เค้าจะรอตัวนะ :hao3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โอเค รับทราบ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอเค รอได้จ้า

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ไม่เป็นไรจ้า
รอได้
เพื่อฉากเซอร์วิสหวานๆ ของพี่เมธกับน้องยุ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
รับทราบค่ะ  รอด้วยใจรัก :L1: :L1:

ออฟไลน์ tararatart

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
 :z3: :z3:   อ๊ายยย พลาดไปได้ไง ตั้งนงตั้งนานนนนน ห๊าาาา  :katai1: :katai1:
กรี๊ดดดด  ชอบเรื่องงนี้เขียนได้มันส์มากก ยังกับเป็นผู้กำกับเสียเองง

แต่อย่าลืมไปต่อเรื่อง สุดปลายทาง ของหัวใจนะ ชอบมากเหมือนกัน(โลภเนอะ อิอิ)

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
(เรื่องสั้น) ผมคือ...นางเอก

ซีนที่ 6


 

 

“น้องยุ!!”

 

“เจ๊บลูม่า!!”

 

“เจ๊...”

 

‘หมับ’

 

สดายุถลาเข้ากอดบลูม่าทันทีที่เห็นโดยไม่แคร์สายตาใคร ‘คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน’

 

“เป็นไงบ้างคะน้องยุของเจ๊ ไหนดูสิ ผอมลงไปนะเนี่ย”

 

“ช่วงนี้ผมต้องลดน้ำหนักอ่ะ เพราะตามบทภุมราเขาป่วยเลยจะต้องผอมมากๆ”

 

“โถ พ่อคุณ ทรมานแย่เลย”

 

กอดกันเสร็จก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันด้วยความคิดถึง
บลูม่าที่ตัวสูงกว่าสดายุเล็กน้อยก้มลงตระกองหน้าของน้องรักที่ไม่ได้เห็นกันมาเกือบเดือน

 

“ไม่หรอกเจ๊ ผมไม่ค่อยเจริญอาหารอยู่แล้วด้วยล่ะ
ไม่มีปัญหาหรอก”

 

“...มีปัญหาอะไรหรือเปล่ายุ บอกเจ๊ได้มั้ย?”

 

ไม่มีอะไรที่บลูม่าไม่รู้เกี่ยวกับสดายุ อยู่กันมาหลายปี
สนิทกันยิ่งกว่าคนในครอบครัว
ดังนั้นความผิดปกติของสดายุแม้จะเล็กน้อยบลูม่าก็สังเกตุเห็นได้ทันที

 

“ไม่มีอะไรหรอกครับเจ๊ คงเพราะโหมถ่ายทำมากไปหน่อย
ผมเลยเนือยๆ ว่าแต่เจ๊เถอะ อุตส่าห์มาได้ผมดีใจจัง”

 

“ก็ต้องเป็นนายหน้าพานักข่าวมาอยู่แล้วล่ะค่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องให้สัมภาษณ์ยุพร้อมใช่มั้ยจ๊ะ”

 

“ก็แค่สัมภาษณ์เอง ไม่เห็นต้องตื่นเต้น”

 

สดายุไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ
ยังไงซะคนที่จะโดนรุมถามพรุ่งนี้คือพ่อกฤตเมธมากกว่าเขาอยู่แล้ว

 

“ถ้าจะห่วงอ่ะนะเจ๊ ห่วงพ่อเทพบุตรนู่นดีกว่า”

 

คำประชดกลายๆของสดายุทำเอาบลูม่าต้องตีต้นแขนเรียวไปหนักๆหนึ่งทีเป็นการลงโทษ

 

“ไปว่าคุณกฤตเมธอย่างนั้นได้ยังไงคะน้องยุ
เรายังต้องอาศัยบารมีเขานะคะ และการสัมภาษณ์พรุ่งนี้ก็สำคัญมากด้วย
กระแสเราจะแรงไม่แรงขึ้นอยู่กับบทสัมภาษณ์นี้เลยนะคะ”

 

“รู้แล้วครับรู้แล้ว ผมไม่ทำเสียเรื่องหรอกน่าเจ๊...ว่าแต่เจ๊ต้องกลับพรุ่งนี้จริงๆเหรอ
อยู่ต่อไม่ได้เหรอ?”

 

“เจ๊เป็นนายหน้าพานักข่าวมา เจ๊ก็ต้องเป็นคนพากลับสิคะ อย่างอแงสิ
โตจนจะแก่แล้วนะคะน้องยุ”

 

“ก็มันเหงานี่นา...อยู่นี่ยุไม่มีเพื่อนเลย”

 

สดายุตอบกลับพร้อมกับเอาศีรษะหนักๆของตนวางบนไหล่ของบลูม่าเบาๆ

 

“เหนื่อยจังเจ๊ครับ ทั้งงาน ทั้งคน...”

 

“อดทนค่ะ ไม่มีของฟรีในโลกฉันใด
ความสำเร็จก็ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายฉันนั้นค่ะคุณน้อง”

 

ที่จริงบลูม่าอยากปลอบใจมากกว่านี้ แต่ก็เกรงว่าจะดราม่าเกินไป
เลยตบออกมาเป็นมุกตลกแทน และดูเหมือนสดายุเองก็คงชอบใจในคำตอบของพี่สาวไม่น้อย

 

“สาธุ...คมเชียว...ไปบวชเป็นพระเหอะเจ๊”

 

“ต๊าย ปากคอเราะร้ายขึ้นนะคะน้องยุ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า...”

 

สดายุหัวเราะร่วน เสียงหัวเราะครั้งแรกในรอบเดือนที่ผ่านมา
เพราะตั้งแต่เดินทางมาถ่ายทำที่นี่ สดายุไม่เคยแม้แต่จะยิ้มหรือพูดจาเล่นหัวกับใคร
ไม่ใช่เพราะหยิ่ง แต่เพราะไม่มีใครเข้าใกล้เขา ไม่มีใครอยากยุ่งกับเขา ‘พระเอกสันดานเลว’ ในสายตาของทุกคน

 

ดังนั้นพอบลูม่าเดินทางมาถึง
สดายุเลยดีใจมาก บลูม่าเป็นคนเดียวในชีวิตที่สนิทและเข้าใจสดายุที่สุด
ไม่เคยหลอกลวง ไม่เคยทิ้งขว้าง
สดายุจึงหัวเราะได้สุดใจทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าบลูม่า
เพราะสดายุรู้ดีว่าไม่ว่าเขาจะอ้อน จะทำตัวเหลวไหลแค่ไหน บลูม่าก็จะไม่โกรธ

 

เสียงหัวเราะแหบหวานน่าฟังของสดายุนั้นเรียกสายตาคนในกองถ่ายได้ชะงัด
เพราะน้อยครั้งนักที่จะได้เห็น แถมส่วนใหญ่นั้นก็เห็นแค่ในฉากละครเท่านั้น
ไม่เคยเห็นในชีวิตจริงเลยแม้แต่นิด ขนาดกฤตเมธเองยังต้องละสายตาจากบทขึ้นมามองตาม
เสียงหัวเราะหวานหู กับใบหน้าทอประกายสดใส
ที่เขาไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่แสดงร่วมกันมา

 

‘หัวเราะก็เป็นด้วยเหรอเนี่ย’

 

หลังจากถ่ายฉากเลิฟซีนวันนั้นก็ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว
แม้สดายุจะยังคงเถียงคำไม่ตกฟากเหมือนเดิม
แต่จะไม่ก้าวร้าวเขาก่อนเหมือนตอนแรกๆอีก
อีกทั้งยังพยายามหลีกหนีเขาเท่าที่จะทำได้อีก ฝ่ายกฤตเมธเองก็ยินดีที่จะอยู่ห่างๆ
เขาเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่หาเรื่องเด็กก่อน เพราะเท่าที่เขาแอบแกล้งอีกฝ่ายโดยอาศัยบทละครนั้นก็เยอะพอแล้ว
รู้ตัวว่านิสัยไม่ดี แต่กฤตเมธก็อดใจไม่แกล้งเด็กโอหังอย่างสดายุไม่ได้เสียที

‘ไม่รู้ไปเผลอถูกใจเข้าตอนไหน…’

*

*

*

*

*

วันรุ่งขึ้น...

 

(พิธีกร)
  สวัสดีค่ะ คุณกฤตเมธ คุณสดายุ แหม
ดิฉันดีใจจังเลยค่ะ ที่ได้มาสัมภาษณ์พวกคุณในวันนี้ ถึงที่นี่ โอ้ว
เกาะมัลดีฟส์...

(กฤตเมธ)
สวัสดีครับ

(สดายุ)
  สวัสดีครับ

(พิธีกร)
  อุ้ย คุณสดายุ
ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ดูโตขึ้น ฟินเวอร์ค่ะ

(สดายุ)
  ขอบคุณครับ(ยิ้มหวานหว่านเสน่ห์)

(พิธีกร)
  ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ คุณเมธ คุณยุ
คิดยังไงคะถึงได้ตอบตกลงเล่นภาพยนตร์เรื่อง ‘สุดปลายทางของหัวใจ’ ที่เป็นหนังเกย์100%น่ะค่ะ

(กฤตเมธ)
คือผมถือว่ามันเป็นความท้าทายนะครับ โดยส่วนตัวผมไม่มีอคติในเรื่องรักร่วมเพศอยู่แล้วด้วย
และอีกอย่างทางผู้ใหญ่เขาอุตส่าห์หางานให้
ผมจะไม่รับๆได้ยังไงล่ะครับ

(พิธีกร)   หือ...สมกับเป็นคำตอบของเทพบุตรแห่งวงการจริงๆค่ะ
งานสำคัญที่สุด แล้วส่วนคุณยุล่ะคะ คิดยังไงเอ่ย

(สดายุ)   อย่างที่รู้กันนะครับ ผมหายไปจากวงการพักใหญ่
พอมีโอกาสเข้ามาผมก็ต้องรีบคว้าไว้แหละครับ

(พิธีกร)   ตายจริง
ประเดิมการหวนคืนจอด้วยหนังแนวชายรักชายเลยนะคะเนี่ย
แฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยค่ะ

(สดายุ)   แค่ยังยอมอ้าแขนต้อนรับผม ผมก็ดีใจแล้วล่ะครับ
(ยิ้มหวาน)

(พิธีกร)   โอ้ว อ้อนขนาดนี้ ยอมตายเลยค่ะ คิกคิกคิก

(พิธีกร)   แล้วตอนที่ได้รู้ว่าต้องเล่นคู่กันนี่
รู้สึกยังไงกันบ้างคะ จั๊กจี้กันบ้างมั้ยเอ่ย

(กฤตเมธ)
ดีใจครับที่ได้ยินว่าจะต้องคู่กับน้องยุ เพราะเราเคยเล่นละครด้วยกันมาก่อน
เลยยังพออุ่นใจครับ จะได้ไม่ต้องปรับตัวเยอะ

(สดายุ)    พอรู้ว่าต้องมาเล่นคู่กับพี่เมธ
ตอนแรกก็ตกใจนะครับไม่คิดว่าพี่เขาจะมาแนวนี้ (หัวเราะ) แต่ก็ดีใจมากครับ
เพราะโดยส่วนตัวก็ชื่นชมพี่เขาอยู่แล้ว

(พิธีกร)   แล้วพอได้มาเล่นเข้าพระเข้านางกันจริงๆเป็นยังไงบ้างคะ
อุ้ย? ใครพระใครนางคะเนี่ย

(กฤตเมธ)
ผมพระเอกครับ ส่วนน้องยุเป็นนางเอกของผม

(พิธีกร)   อ๊าย อกอีแป้นแล่นลึก! นางเอกของผม กรี๊ดค่ะ อยากกรี๊ด ฟินเวอร์ (หัวเราะ)

(กฤตเมธ)
ตอนเข้าพระเข้านางก็โอเคครับ แรกๆยังเขินๆกันบ้าง แต่ตอนนี้เริ่มชินครับ
ขำๆกันซะมากกว่า

(สดายุ)   ครับ ช่วงแรกผมเป็นนางเอกร้อยเทคได้
มันเขินน่ะครับ ไม่เคยด้วย ทำอารมณ์ไม่ถูกเลยจริงๆครับ ต้องคอยท่องไว้
เราเป็นนางเอก เราเป็นนางเอก (หัวเราะ)

(กฤตเมธ)
แต่น้องยุเก่งมากครับ เข้าถึงอารมณ์ได้ดี บทไหนที่ต้องเศร้า
เขาเศร้าจนช่างไฟน้ำตาร่วงเลยครับ

(พิธีกร)   ขนาดนั้นเลยเหรอคะ สมกับเป็นคุณยุจริงๆค่ะ

(พิธีกร)   มาถึงคำถามสำคัญค่ะ
ได้ข่าวว่าเรื่องนี้ฉากเลิฟซีนแรงมากเลยใช่มั้ยคะ

(กฤตเมธ)
ก็...ครับ ค่อนข้าง

(พิธีกร)   อุ้ยพอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยคะ? ว่าเป็นยังไง?
(ดวงตาเป็นประกาย)

(กฤตเมธ)
อืม...ความลับครับ เอาเป็นไว้ไปพิสูจน์กันเองในโรงหนัง

(พิธีกร)   โธ่...เสียดายจังค่ะ
แย้มๆให้ฟังนิดไม่ได้เหรอคะ นิดเดียวเอง...(อ้อนเต็มที่)

(กฤตเมธ)
เอาเป็นว่า...ขนาดผู้กำกับสั่งคัทแล้ว นางเอกของผมยังร้องไห้ไม่หยุดเลยล่ะครับ

(พิธีกร)   อร๊ายยยย ขอกรี๊ดอีกรอบค่ะ จริงเหรอคะน้องยุ!!?

(สดายุ)   (หัวเราะเขิน) ก็นิดหน่อยครับ อินเนอร์ครับ
อินเนอร์

 

การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างสนุกสนาน
โดยที่คำตอบของคำถามส่วนใหญ่กฤตเมธจะเป็นคนตอบแทนสดายุแทบทั้งหมด
ด้วยห่วงว่าสดายุที่ลาวงการไปนานจะเฟคหน้ากล้องได้ไม่เนียน
และคำตอบเหล่านั้นเป็นคำตอบที่ทั้งกองถ่ายรู้ดีว่าสิ่งที่สองหนุ่มตอบออกไปนั้น 90% เป็นเรื่องโกหก!!
โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นจริง

*

*

*

*

*

บ่ายคล้อยกว่าที่การสัมภาษณ์จะเสร็จสิ้น
หลังจากทีมสัมภาษณ์กลับไปแล้ว สดายุต้องถ่ายหนังต่อ
โดยฉากที่ถ่ายนั้นไม่ต้องมีกฤตเมธเล่นด้วย
พระเอกหนุ่มจึงเลี่ยงออกมานั่งจิบกาแฟรอเข้าฉากอื่นต่อไป และขณะนั้นเอง
บลูม่าก็ขอเข้ามาคุยด้วย

 

“สวัสดีค่ะคุณเมธ”

 

“อ้าว...สวัสดีครับคุณบลูม่า เชิญนั่งสิครับ”

 

“ขอบคุณนะคะเรื่องสัมภาษณ์ ที่ช่วยตอบคำถามแทนน้องยุไปตั้งเยอะ”

 

“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกครับ ดูเขายังฝืนๆ
ผมไม่อยากให้พวกนักข่าวจับไต๋อะไรได้มากมายด้วย”

 

“ถึงยังไงก็ขอบคุณนะคะ”

 

บลูม่ายังคงเอ่ยขอบคุณที่อีกฝ่ายมีน้ำใจ

 

“ได้ข่าวจากทีมงานมาว่าน้องยุทำตัวไม่ดีใส่คุณเหรอคะ?
เอ่อ...บลูม่าขอโทษแทนน้องเขาด้วยนะคะ น้องเขาคงไม่ตั้งใจ...”

 

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ”

 

“ขอบคุณนะคะ ที่ไม่ถือสาน้องยุ”

 

“เปล่าครับ...ผมหมายถึงคุณบลูม่าไม่ต้องขอโทษผม
เพราะคุณบลูม่าไม่ได้ผิด สดายุต่างหากครับที่เป็นเจ้าของเรื่อง”

 

บลูม่าถึงกับหน้าเสีย เมื่อได้ยินคำตอบกระชากใจของกฤตเมธ
แต่ด้วยสปิริตผุ้จัดการดารามือทอง บลูม่าจึงต้องพยายามต่อรองกับกฤตเมธต่อ

“บลูม่าก็แค่เป็นห่วงน้องยุเขาน่ะค่ะ ยิ่งมาอยู่ตั้งไกลขนาดนี้
บลูม่าเองก็ตามมาดูแลไม่ได้...”

 

“ผมว่าคุณบลูม่าห่วงมากไปแล้วมั้งครับ คุณสดายุเขาดูแลตัวเองได้อยู่แล้วล่ะ...”

 

กฤตเมธตัดบทขึ้นด้วยรู้สึกว่าบลูม่ากล่าวเกินไป และแอบคิดในใจว่า ‘คงเพราะบลูม่าคอยโอ๋ คอยสปอยล์ขนาดนี้สินะ
สดายุจึงได้เสียผู้เสียคนจนเป้นพระเอกขี้วีน เอาแต่ใจอยู่ในตอนนั้น’

 

“ผิดแล้วค่ะคุณกฤตเมธ ยุเขาเกลียดตัวเองมากกว่าที่คุณคิดนะคะ”

 

“....ยังไงครับ??”

 

‘เกลียดตัวเอง?’
พอบลูม่าเอ่ยคำคำนี้ขึ้นมากฤตเมธก็ถึงกับขมวดคิ้วสงสัย
คนเอาแต่ใจอย่างสดายุเนี่ยนะ จะเกลียดตัวเอง? แม้จะสงสัยจนอยากจะเอ่ยปากถาม
แต่บลูม่าก็เอ่ยเรื่องราวต่างๆออกมาให้ได้ฟังเสียก่อน

 

“ยุเขาไม่รักตัวเองสักเท่าไหร่หรอกค่ะ เรียกได้ว่าไม่รักเลยซะดีกว่า
ตอนนี้ดีขึ้นหน่อยแล้วนะคะ สมัยก่อนนี้ฉุดยื้อกันแทบไม่ไหว”

 

“แต่ตอนนี้เขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับ เลยเบญจเพศแล้ว
คงไม่ต้องตามดูแลขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ”

 

ฟังไปฟังมาก็คล้ายกับแค่ว่า บลูม่าหลงเห่อในเด็กในสังกัดของตัวเองอย่างเดียว
หรือไม่ก็แค่มาจูงใจให้เขาเห็นใจจนต้องช่วยผลักดันสดายุเข้าไปโลดแล่นในวงการอีกครั้ง
ดังนั้นกฤตเมธจึงอดไม่ได้ที่จะตอบโต้แรงๆออกไป

 

“ไม่หรอกค่ะ ไม่ว่าจะอายุขนาดไหน ยุเขาก็ไม่เปลี่ยนหรอกค่ะ
ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ยังเป็นเด็กที่ต้องการการดูแล...”

 

‘ดูแล?’ คำที่เอ่ยออกมาพร้อมสายตาที่แฝงความหมาย
กฤตเมธไม่ใช่คนโง่ ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าบลูม่ากำลังต้องการต่อรองบางอย่าง

 

“คุณตั้งใจจะบอกอะไรผมกันแน่ครับ? เอาตรงๆเลยดีกว่า”

 

และชายหนุ่มที่ไม่ชอบอ้อมค้อมอย่างกฤตเมธก็ไม่รอช้าที่จะถามออกไปตรงๆ

 

“มันอาจดูเหมือนมากไป แต่ฉันขอร้องได้มั้ยคะคุณกฤตเมธ
ระหว่างที่อยู่ที่นี่ คุณช่วยอยู่เคียงข้างน้องยุ แทนฉันได้มั้ยคะ?”

 

“...ทำไมต้องเป็นผม?”

 

ถึงกับสงสัยหนักกว่าเดิม เมื่อถูกร้องขอให้ ‘อยู่เคียงข้าง’ ไม่ใช่การขอร้องให้ช่วยผลักดัน ‘กลับเข้าวงการ’

 

“จะว่าบลูม่าเห็นแก่ตัวก็ได้นะ แต่ขอร้องจริงๆค่ะ
ตอนนี้ยุเขายังเคว้งคว้าง ฉันเองก็มาดูแลเขาไม่ได้ ขอร้องล่ะค่ะคุณกฤตเมธ
คุณเท่านั้นที่จะทำได้ ฉันเห็นตอนที่คุณให้สัมภาษณ์ ฉันก็รู้ทันทีค่ะ
ว่าฉันจะฝากฝังคุณได้ นะคะ...ได้โปรด...”

 

 

“.......ผมว่า...คุณขอร้องผิดคนแล้วล่ะครับคุณบลูม่า
สดายุเขาเกลียดหน้าผมจะแย่ และก่อนหน้านี้ผมก็...แกล้งเขาเอาไว้หนักเสียด้วย
ต่อให้ผมอยากจะดูแลเขาจริงๆ
เจ้าตัวเองก็คงไม่ยอมอยู่ดี...ผมว่าคุณฝากกับคนอื่นดีกว่านะ”

 

“ไม่ได้จริงๆเหรอคะ...”

 

เมื่อถูกขอร้องหนักข้อเข้า
เสียงของกฤตเมธก็เริ่มอ่อนลง การถูกขอร้องหนักแน่นอีกทั้งน้ำเสียงของบลูม่ายังดูจริงจังมากกว่าจะเป็นการเสแสร้งแกล้งเล่นนั้น
ทำให้กฤตเมธหนักใจไม่น้อย การจะให้ตัวเขาตอบตกลงในเรื่องที่ไม่เข้าใจก็ออกจะดูใจเร็วไปหน่อย
แต่การปฏิเสธออกไปก็เหมือนจะยิ่งทำให้บรรยากาศหดหู่ลง ดังนั้นชายหนุ่มจึงทำได้แค่การรับปากกลายๆเท่านั้น

 

 “โอเค โอเค ผมจะคอยดูให้
แต่ผมไม่โอ๋เขาเหมือนคุณนะ”

 

เพียงแค่ได้ยินการรับปากแบบไม่จริงจังนักของกฤตเมธเท่านั้นบลูม่าก็ยิ้มออกมาได้
แม้จะยังหนักใจแต่ก็พอจะอุ่นใจขึ้นมาบ้าง

 

“แค่นั้นก็ขอบคุณแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะ เฮ้อ...ค่อยโล่งใจขึ้นหน่อย...”

 

“คุณนี่...เป็นผู้จัดการส่วนตัวที่ดีมากเลยนะครับคุณบลูม่า
ผมไม่ค่อยเห็นผู้จัดการดาราคนไหน
เขามาคอยนั่งสนใจพระเอกที่หมดราคาจนขายแทบไม่ออกแล้วนักหรอก
แต่นี่ดูคุณยังเป็นห่วงสดายุเขามากเลยนะครับ”

 

กฤตเมธเอ่ยปากชื่นชมจากใจเมื่อเห็นว่าบลูม่าดูจะเป็นห่วงเป็นใยและรักเด็กในสังกัดของตัวเองอย่างสดายุมากมายนัก


 

ส่วนบลูม่าเองเมื่อถูกชื่นชมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาบางๆ
ไหนๆก็จะฝากฝังสดายุไว้กับกฤตเมธแล้ว
บลูม่าจึงคิดว่าควรจะเล่าอะไรบางอย่างให้กฤตเมธฟังเอาไว้บ้าง

 

“ยุเขาเป็นเด็กน่าสงสารน่ะค่ะ...”

 

เมื่อสบตากับผู้จัดการสาวข้ามเพศ
กฤตเมธก็รู้ได้ทันทีว่าบลูม่ากำลังจะเล่าอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับคนที่ถูกฝากฝังไว้กับตน
ชายหนุ่มจึงนิ่งเพื่อรับฟัง

 

“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอยุเขา ตอนนั้นยุเรียนมหาวิทยาลัยอยู่
ปีสุดท้าย เขาก็เป็นเด็กแข็งกระด้างอยู่แล้ว หน้าตาดี แต่ปากมอม ทะเลาะวิวาทเก่ง
ไม่ค่อยร่ำเรียนจะจบแหล่มิจบแหล่ เสเพล เที่ยวผู้หญิง แต่เพราะตีหน้าเก่ง
ดูมีเสน่ห์มีพลัง ฉันจึงดึงเขาเข้าวงการค่ะ แค่เพียงไม่นานก็ดังพลุแตก
แต่...ก็ได้ไม่นาน เพราะฉันเองแหละค่ะ ที่ตามใจเขาเกินไป
เพราะอยากให้เขาได้มีความสุขบ้าง จนมันเลยเถิด พอเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นสักเรื่อง
จากนั้นก็ถูกขุดคุ้ย ประเดประดังไม่หยุดหย่อน ทั้งเรื่องจริงไม่จริง
ทั้งที่ทำและไม่ได้ทำ พอมีข่าวมากขึ้น ยุเองก็ไม่ยอมปฏิเสธอะไรอีก บอกว่าขี้เกียจ
ขนาดถูกป้ายสีถึงขั้นทำเด็กอายุไม่ถึงสิบแปดท้องแล้วไม่ยอมรับ
เรื่องนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ยุก็ไม่ปฏิเสธ เลยดับอนาถอย่างที่เห็น...”

 

พอได้ฟังกฤตเมธก็พอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตั้งแต่ที่ได้รู้จักชื่อเสียงของสดายุตั้งแต่ช่วงที่ฝ่ายนั้นเข้าวงการใหม่ๆ
ไม่ว่าจะมีข่าวอะไรออกมาก็ไม่เคยเห็นว่าสดายุจะออกมาแก้ข่าว
ยิ่งข่าวเสียหายมากเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็ยิ่งนิ่งเงียบมากเท่านั้น
ไม่มีทั้งคำแก้ตัวและไม่มีแม้กระทั่งคำขอโทษ จนหลายๆคนในวงการออกอาการหมั่นไส้
เพราะเข้าใจว่าสดายุเป็นคนดังแล้วหยิ่ง ไม่เห็นหัวใคร
แม้กระทั่งเขาเองก็ยังเคยคิดในทำนองนี้เช่นกัน

 

“ยุเป็นเด็กแปลกค่ะ เมื่อไหร่ที่ถูกกล่าวหาว่าผิด เขาก็จะไม่ยอมแก้ตัว
จะนิ่งอยู่อย่างนั้น แม้จะไม่ใช่คนผิด ก็จะไม่ปริปากแก้ตัวเด็ดขาด”

 

“ทำไมเหรอครับ?”

 

“ตอนแรกฉันก็สงสัยค่ะ
จนได้รู้เรื่องชีวิตครอบครัวตั้งแต่เด็กของยุเข้า ฉันจึงเข้าใจ และอยากปกป้องเขา
อยากเคียงข้าง อยากดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยุที่น่าสงสาร...”

 

“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? ร้ายแรง?”

 

ยิ่งรู้ลึกกฤตเมธก็ยิ่งรู้สึกหน่วงในหัวใจ
อะไรกันแน่คือสาเหตุของเรื่องทั้งหมด อะไรกันที่ทำให้สดายุคนนั้นไร้ซึ่งรอยยิ้ม 

 

“คุณพ่อของน้องยุ เสียไปตั้งแต่น้องยุยังเด็กมากน่ะค่ะ
ยุอยู่กับคุณแม่สองคนมาตลอดปากกัดตีนถีบจนอายุได้สิบเอ็ดปี
คุณแม่ของน้องยุได้แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยงที่มีลูกติดเป็นผู้หญิงอายุไล่เลี่ยกับน้องยุสองคน
พ่อเลี้ยงเป็นคนมีฐานะ จึงสามารถดูแลทั้งคุณแม่และน้องยุให้อยู่อย่างสุขสบาย
แต่ก็ไม่ได้ชอบน้องยุมากนัก มักจะอารมณ์เสียใส่ ทำโทษสารพัด แม้ยุจะไม่ผิด
ยุไม่กล้าเถียงค่ะ เพราะถ้าทำแบบนั้นพ่อเลี้ยงจะไปลงที่คุณแม่แทน
และคุณแม่จะร้องไห้เสียใจ ยุไม่อยากให้คุณแม่ต้องเจ็บ เขาเลยไม่เคยเถียง
ยอมรับผิดในเรื่องที่ไม่ได้ก่อมาตลอด จนกระทั่งพอโตเป็นหนุ่ม
ยุหล่อขึ้นจึงทำให้มีผู้หญิงมาติดเยอะ แม้กระทั่งน้องเลี้ยงทั้งสองคนของยุเอง
เด็กสองคนนั้นชอบยุมากถึงขนาดขอนอนกับยุ แต่ยุไม่เล่นด้วย
แต่ทั้งคู่ก็ยังหลงรักยุและเข้าหายุอยู่ตลอด สุดท้ายก็ทะเลาะตบตีกันเองเพื่อแย่งยุ
รู้ถึงหูพ่อเลี้ยงเข้าเลยเกิดเรื่องค่ะ ในที่สุดยุก็ถูกให้ออกจากบ้าน
และเพราะตอนนั้นคุณแม่มีลูกกับพ่อเลี้ยงอีกคนนึง น้องยุเลยเหมือนถูกลืมน่ะคะ
จากนั้นก็ทำตัวเหลวไหลเรื่อยมา ส่วนหนึ่งเพื่อประชด
อีกส่วนก็เพื่อเรียกร้องความสนใจ...แต่ตอนนี้ยุไม่ทำแบบนั้นแล้วนะคะ”

 

“......ก็พอรู้ครับ ได้ยินว่าเก็บตัวเงียบ...”

 

พอได้ยินเรื่องราวทั้งหมด
กฤตเมธก็เหมือนปากของตัวเองจะหนักอึ้ง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายจอมยะโสและน่าหมั่นไส้สุดๆคนนั้นจะมีอดีตที่เลวร้ายได้ขนาดนี้


 

“ยุเคยพูดค่ะว่าเขาเสียใจที่ทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน...”

 

“แล้วครอบครัวของเขาตอนนี้...?”

 

“ราวกับตัดขาดกันไปเลยค่ะ
ช่วงยุมีชื่อเสียงก็ยังพอเห็นติดต่ออยู่บ้าง แต่หลังจากมีเรื่อง ก็เงียบไปเลย
ยุบอกว่าครอบครัวยุคงรังเกียจ และคงตัดขาดยุไปแล้ว...เพราะอย่างนี้ไงคะ
ฉันเลยทิ้งเขาไม่ลง...”

 

“.................”

 

“บลูม่าไม่ได้ต้องการให้คุณเมธคอยประคบประหงมยุเหมือนที่บลูม่าทำหรอกนะคะ
แค่ไม่ทิ้งเขา ทักเขาบ้าง แค่นั้นก็พอค่ะ ยุเขาเข้าหาคนไม่เก่ง พูดดีๆไม่เป็น
อาจก้าวร้าว ทำตัวไม่น่ารัก แต่ฉันขอร้อง อย่าทิ้งเขานะคะ”

 

บลูม่าพยายามขอร้องสำทับเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป

 

“..............”

 

“คุณเมธ...”

 

“ครับ...ผมจะไม่ทิ้งสดายุ”

 

 กฤตเมธรับปากออกไปหนักแน่น
หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจนจบ
ที่จริงแล้วตัวกฤตเมธเองก็ไม่ได้มั่นใจหรอกว่าจะดูแลสดายุได้ดีเหมือนที่ถูกฝากฝัง
แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ตั้งใจที่จะคอยดูแลสดายุให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

 

“ขอบคุณนะคะ…ขอบคุณจริงๆ”

 

ด้วยแอบตั้งใจเล็กๆว่าบางทีเขาอาจมีความสามารถขนาดที่จะทำให้คนดื้อดึงคนนั้นหันมายิ้ม
มาอ้อนเขาเหมือนที่เจ้าตัวทำกับบลูม่าก็เป็นได้

แต่…

พอได้สติกฤตเมธก็ถึงกับหน้าเห่อร้อนเล็กๆ
เพราะดันนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษกับสดายุเลยสักนิด แล้วทำไมกัน ทำไมเขาถึงต้องอยากเห็นรอยยิ้มของสดายุด้วย
ทำไมต้องอยากให้อีกฝ่ายมาอ้อน ยิ่งคิดยิ่งตื้อ…

‘เฮ้อ…บ้าไปแล้วเรา’

*

*

*

*

*




ต่อด้านล่างจ๊ะ

ปล. แถมนางฟ้าของเรื่องนี้ค่ะ เจ๊บลูม่าของเรานี่เอง แท๊นนนนน!!!

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2015 12:09:04 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
“เอ้าคัททททททททท!!!”

“เยี่ยมๆ ดีมาก เก่งๆๆๆ”

ในที่สุด ณ เวลา 23:00 น. ซีนสุดท้ายของวันนี้ก็ถ่ายทำจบ หลังจบคำสั่งคัทของอ๊อดทุกคนก็ถอนหายใจออกมาแทบจะพร้อมกัน ‘จบไปอีกหนึ่งวัน’

“วันนี้พระนางเราเหนื่อยทั้งวันเลยเนอะ ไหนจะต้องให้สัมภาษณ์ ไหนจะต้องถ่ายทำต่อ น่าสงสารจัง”

“อืมแต่ก็เก่งจังเลยเนอะ ทั้งคุณเมธคุณยุ ตีบทแตกกระจาย ฉันนี่นะดูสองคนนี้ทีไรอดจั๊กจี้ไม่ได้สักที”

“ในบทดูดีนะ แต่พอนอกบทไม่เห็นคุยกันดีๆเลย ฉันเห็นทะเลาะกันประจำ”

“ทะเลาะที่ไหน ฉันเห็นมีแต่คุณยุ แว๊ดๆๆๆอยู่คนเดียว ไม่เห็นคุณเมธจะเคยโมโหอะไรเลยนะ”

“แหม…คุณเมธเธอเป็นสุภาพบุรุษย่ะ เป็นถึงเทพบุตรแห่งวงการ มารยาทดี วางตัวดี ใช่จะเหมือนกับอีตาคุณยุซะเมื่อไหร่ ขานั้นขี้วีนจะตาย เมื่อก่อนนะฉันเคยทำงานในกองละครที่คุณยุเธอแสดง วู้ยยยย พ่อวีนกองแตกได้ตลอดเลยย่ะ ทั้งๆที่ตัวเองนะ มาก็สาย บางทีก็เมาค้างมา นิสัยเสียแบบสุดๆเลยนะจะบอกให้ เธอก็เห็นใช่มั้ยว่าข่าวคาวคุณยุเธอไม่เคยขาด ถ้าตอนนั้นไม่ฟูขึ้นหม้ออยู่นะ รับรองไม่มีใครจ้างหรอกจ๊ะ พระเอกแบบนั้นน่ะ ใครๆเขาก็คาดกันว่าคงอยู่ไม่นาน แล้วก็จริงๆด้วยล่ะเธอ  ดังอยู่ได้ไม่ถึงสองปีดับวูบเลย”

“ตายแล้ว เรื่องจริงเหรอเนี่ย? เอ๊ แต่ฉันไม่เห็นคุณยุเขาจะโมโหอะไรใส่พวกทีมงานอย่างเราๆเลยนะ เธอเวอร์ไปรึเปล่า?”

“หืม ยัยนี่โง่จริง ก็คุณยุเธอเพิ่งจะกลับมาเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกหลังจากโดนเฉดหัวออกจากวงการ จะกล้าออกฤทธิ์ออกเดชอะไรล่ะ ลองได้กลับมาดังเหอะ ลายออก เชื่อฉันสิ คนแบบนี้ทนทำตัวดีๆได้ไม่นานหรอก”

“เหรอ…ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆก็น่าสงสารคุณเมธเขานะ ที่ต้องมาเล่นคู่กันเนี่ย”

“ก็แหงสิยะ เจ้าตัวคงบากหน้าไปขอผู้ใหญ่มาน่ะสิ เขาถึงให้มาเล่นคู่กันเนี่ย อาศัยบารมีคุณเมธเพื่อกลับเข้าวงการไงเธอ”

“ตายจริง คุณเมธยิ่งน่าสงสารเข้าไปใหญ่ เฮ้อ…”

“นั่นน่ะสิเธอ”

ฯลฯ

หลังเลิกกอง สองสาวคอสตูมกับช่างแต่งหน้าที่กำลังเก็บของและกำลังเม้าท์มอยเรื่องของสดายุอยู่นั้น สองสาวไม่รู้ตัวเลยว่ามีอีกคนที่ได้ยืนฟังทุกอย่างที่พวกหล่อนคุยกันอยู่ด้วย แถมยังได้ยินชัดเจนทุกคำทุกประโยค
‘เรา…ทำไมถึงยังยืนอยู่ตรงนี้นะ…’

เสียงคลื่นที่สาดซัดเข้ากระทบชายหาด ไม่ว่าได้ฟังเมื่อไหร่ ก็พาหัวใจให้คิดถึงบ้านขึ้นมาเมื่อนั้น
‘เจ๊บลูม่า ทำไมเจ๊ต้องรีบกลับวันนี้ด้วยนะ ทำไมไม่อยู่กับผมก่อน’
 ‘ผมเหงา…ผมเจ็บ’
*
*
*
*
*
“นี่คุณ มานั่งเมาอะไรอยู่คนเดียวบนหาดมืดๆเนี่ย ไม่กลัวรึไง?”

สดายุสะดุ้งหวือขึ้นมาทันทีเมื่อจู่ๆก็ถูกเรียกจากด้านหลัง

“คุณกฤตเมธ?...มาทำไม ยุ่งไรด้วย?”

เมื่อหันไปมองแล้วเห็นว่าเป็นกฤตเมธ สดายุก็รีบหลบหน้าเพื่อแอบปาดหยาดหยดแห่งความเหงาออกจากใบหน้า แต่ภาพหยาดน้ำตานั้นไม่อาจหลบสายตาของกฤตเมธพ้น ชายหนุ่มหน่วงใจขึ้นมาเล็กๆทันทีที่เห็นกระแสความเหงาที่ออกจากร่างที่นั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้า

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีสองแล้ว บังเอิญว่ากฤตเมธรู้สึกว่านอนไม่หลับ เพราะได้แต่นอนคิดมากเรื่องของสดายุ หนักเข้าชายหนุ่มจึงตัดสินใจออกมาเดินนอกที่พัก เพื่อผ่อนคลายสติอารมณ์ แต่พอเดินออกมาได้สักพัก กฤตเมธก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่า เงาตะคุ่มที่นั่งอยู่ลิบๆตรงมุมมืดของชายหาดนั้นคือ สดายุ
‘ดึกขนาดนี้มานั่งทำบ้าอะไรตรงหน้าหาดเนี่ย!? ไม่กลัวโดนฉุดรึไง ลมเย็นขนาดนี้เดี๋ยวก็ได้ไม่สบายกันพอดี นั่นอะไรน่ะ ดื่มเหล้าด้วยเหรอ!?’

แล้วพอจะเดินมาเรียกก็ดันเห็นว่าเจ้าคนขี้เมาตรงหน้านั้นกำลังนั่งร้องไห้อย่างว้าเหว่อยู่ ‘เกิดอะไรขึ้นกันนะ’ ใบหน้าแดงช้ำจากคราบน้ำตาและฤทธิ์แอลกอฮอล์นั้นช่างดูหน้าสงสารบาดใจจนกฤตเมธทำอะไรแทบไม่ถูกเลยทีเดียว

“ผมก็แค่เป็นห่วง กลัวว่านางเอกของผมจะโดนใครซิวหายไป ขี้เกียจหานางเอกใหม่นะครับ”

เมื่อเห็นว่าสดายุพยายามจะแอบซ่อนหยาดน้ำตา กฤตเมธก็ไม่อยากจะไปทักถึงเรื่องที่เจ้าตัวพยายามหลบเลี่ยง ดังนั้นชายหนุ่มจึงทักออกไปในประเด็นที่ดูเป็นเรื่องขำขันมากกว่า

“ไม่ดีรึไง จะได้เจอนางเอกดีๆ เอาใจเก่งๆ หึหึ มีคนรอจ่อคิวเพียบ...”

คำตอบประชดประชันเล็กๆที่ตอบกลับมาเล่นเอากฤตเมธถึงกับส่ายหน้าขำกับคำตอบนั้นเบาๆ แต่จะให้มานั่งคุยตรงที่มืดๆก็ใช่ที่ และดูเหมือนสดายุจะเมาพอสมควรแล้ว ดังนั้นกฤตเมธจึงเข้าไปประคองร่างบางนั้นขึ้นหมายจะพากลับห้องพัก

“ไม่ต้อง แค่คุณก็เหนื่อยพอแล้ว มานี่เลย...”

“เฮ้ย! อะไรของคุณเนี่ย ปล่อยผมนะ!!”

“มันดึกแล้ว ตรงนี้มันอันตราย กลับที่พักกับผมเดี๋ยวนี้เลย”

“โอ้ยยย!! ไม่ต้องมายุ่งกับผม ผมเป็นผู้ชายนะ ใครจะพาผมไปทำบ้าอะไรที่ไหนได้วะ!!?”

และเป็นดังคาด สดายุดิ้นรนออกจากวงแขนแข็งแรงนั้นทันที

“ผู้ชายรูปร่างหน้าตาผิวพรรณอย่างคุณน่ะ อันตรายเสียยิ่งกว่าพวกผู้หญิงบางคนเสียอีก แถมยังเมาเคว้งแบบนี้อีก อยากโดนจับไปขายรึไง!?”

เมื่อเห็นว่าสดายุเล่นตัวไม่เลิก กฤตเมธก็เริ่มออกอาการหงุดหงิดกับเด็กดื้อที่พูดยากพูดเย็นคนนี้ขึ้นมาตงิดตงิด เพราะถึงแม้จะอธิบายถึงอันตราย ที่อาจเกิดขึ้น เจ้าตัวแสบก็ไม่ยอมเชื่อ

“ใครเขาจะโรคจิตอย่างคุณกัน พ่อพระเอกเทวดา โธ่เว้ย! หลบไปเลย...”

สดายุโวยวายและสามารถดิ้นออกจากมือของกฤตเมธในที่สุด หลุดออกมาได้เจ้าคนเมาไม่รู้เรื่องก็เดินเซแท่ดๆออกสู่ชายทะเลทันที

“นั่นคุณจะไปไหน!?”

“เรื่องของผม มาตามวุ่นวายทำไมเนี่ย...อ๋อ...หลงรักผมเข้าแล้วสิ”

“ห๋า!!?”

กฤตเมธอุทานเสียงหลงเมื่อถูกคนเมาหันกลับมาแหย่ ‘รัก’ เหรอ! บ้าไปแล้ว!!

“ชอบผมแล้วอ่ะดี๊ ตามกันต้อยๆแบบนี้ ฮ่า ฮ่า ขอโทษนะคุณพระเอกของผม อิอิ ผมชอบนมตู้มๆ มากกว่าอกแข็งๆ นิยมประตูหน้ามากกว่าประตูหลัง ไปหาคนอื่นเถอะนะ หึหึ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ด้วยความเมามายสดายุจึงกระเซ้าอีกฝ่ายออกไปพร้อมกับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ร้อนถึงกฤตเมธที่ต้องแก้ต่างพัลวัน ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะไปถือคนเมาทำไม และที่สำคัญแก่จนปูนนี้แล้วจะยังเขินเพราะโดนแซวอยู่อีกทำไม 

“ไปกันใหญ่แล้ว! เพี้ยนอะไรของคุณเนี่ย เฮ้อ! อย่าสำคัญตัวผิดไปเลยคุณนางเอก นี่ถ้าคุณบลูม่าไม่ขอร้องผมไว้ให้คอยช่วยดูแลคุณนะ ผมไม่มาวุ่นวายคุณอยู่อย่างนี้หรอก...”

และเพราะมัวแต่ทำอะไรไม่ถูกที่โดนแซว กฤตเมธจึงพลั้งปากตอกกลับเด็กขี้เมาให้ได้หน้าหงายบ้างโทษฐานที่หลงตัวเอง แต่พอพูดจบประโยคกฤตเมธก็รู้ตัวทันทีว่าดันพูดอะไรที่ไม่ควรออกไปเสียแล้ว และยิ่งรู้สึกผิดหนักเมื่อเห็นว่าใบหน้าที่ยังเปื้อนยิ้มอยู่เมื่อครู่สลดลงทันใด

“..........อ๋อ...งั้นคุณก็อย่ามาเหนื่อยกับผมเลย...”

แม้แต่คำพูดที่ออกจากริมฝีปากนั้นยังแฝงไปด้วยความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด

“ผมไม่ฟ้องเจ๊บลูม่าหรอก คุณไปพักเหอะ อย่ามายุ่งกับคนอย่างผมเลย ผมดูแลตัวเองได้”

สดายุยังคงพร่ำพูดให้อีกคนเลิกสนใจเขา ใบหน้านั้นแย้มยิ้มออกมาอีกครั้ง แต่มันเป็นยิ้มที่ทำให้หัวใจของกฤตเมธเจ็บจี๊ด

“ดูแลตัวเองได้บ้าบออะไรกันคุณสดายุ เดินให้ตรงยังทำไม่ได้เลย...”

กฤตเมธรีบกระโดดเข้าคว้าตัวสดายุไว้ทันควันเมื่ออีกฝ่ายที่กำลังจะเดินต่อไปนั้น ทำท่าจะล้มแหล่มิล้มแหล่

“ปล่อย!!”

สดายุดิ้นพล่านทันทีที่ถูกคว้าตัวเอาไว้ได้

“นี่! คุณสดายุ! ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ?”

“อย่ามายุ่ง! ปล่อยผมนะ!”

“เออ! ผมปล่อยคุณแน่ ถ้าคุณพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าคุณดูแลตัวเองได้!!”

“อะไรน่ะ!!?”

“เอาสิ! ถ้าคุณดิ้นหลุดจากมือผมได้ผมจะปล่อยคุณ”

กฤตเมธยื่นคำขาดให้คนเมาแถมยังดื้อในอ้อมแขน และยิ่งกอดร่างนั้นแน่นขึ้นเมื่อคนที่กะปลกกะเปลี้ยจากความเมามายพยายามจะดิ้นรน

“โอ้ย! ปล่อยผม! คุณกฤตเมธ!!”

“ไงล่ะ แค่ผมคนเดียวคุณก็ดิ้นไปไหนไม่รอดแล้ว จะดูแลตัวเองยังไง เอาตัวรอดจากผมยังไม่ได้เลย”

“อ๊ะ!? เหวอ!!!?”

ทั้งที่พยายามดิ้นเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการ สุดท้ายแล้วยังถูกแบกขึ้นบ่าราวกับตัวเขาเบาเป็นปุยนุ่น แถมคนอุ้มยังเดินชิวกลับที่พักได้อย่างง่ายดายอีก ทั้งที่พยายามร้องโวยวาย แถมดิ้นพล่าน แต่ความเป็นจริงเป็นได้แค่ดิ้นสะเปะสะปะ มื้อไม้ไร้เรี่ยวแรง ยิ่งถูกจับพาดบ่าห้อยหัวอยู่อย่างนั้นอีก ยิ่งเลือดลงหัวก็ยิ่งมึนหนัก

“ปล่อยนะ!! ไอ้บ้า!! ปล่อยยยย!!”

ตุบ

“พ...พามาที่นี่ทำไม ผมจะกลับห้อง”

“ไม่ให้กลับ ในเมื่อคุณหนีไปจากผมไม่พ้น คุณก็ต้องอยู่ที่นี่...”

ในที่สุดก็ถูกปล่อยตัว ถึงตอนนี้สดายุจะเมามาก แต่เขาก็ยังมีสติพอที่จะรู้ว่าทีที่ถูกพามาไม่ใช่ห้องของตน ชายหนุ่มพยายามฝืนตัวลุกขึ้นจากเตียงนุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าไร้ประโยชน์ แถมเจ้าคนพามายังประกาศิตไม่ยอมให้เขากลับอีกด้วย

และมีหรือที่คนอย่างสดายุจะยอมแต่โดยดี งานนี้มีฟาดฝีปาก!!

“จะบ้าเหรอ!!? นี่! โอ้! ไอ้กฤตเมธ!!”

“หยุด!! ห้ามหยาบคายใส่ผมอีก!!”

“ทำไม!? ทำไมจะทำไม่ได้ ใหญ่มาจากไหนไม่ทราบ!!?”

พอเถียงกลับไปคราวนี้ร่างที่นั่งอยู่ข้างเตียงก็โถมทั้งร่างลงมาหาสดายุทันที ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบคำขู่อยู่ตรงหน้าคนเมาที่ได้แต่นอนหงายแบอยู่ใต้ร่าง

“ก็ลองดูสิ หยาบคายใส่ผมอีกที ผมกัดคุณลิ้นขาดแน่”

“ไอ้!!....หนอย! คิดว่าคำขู่ง่าวๆของแก ฉันจะกลัวเหรอ ไอ้แก่โรคจิต!! อื้อออออ!!!???”

เมื่อเตือนแล้วไม่ฟังสดายุก็โดนลงโทษทันทีด้วยริมฝีปากร้อนฉ่าของร่างเบื้องบน กฤตเมธทาบริมฝีปากลงไป สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากราวกับจะคว้านลงไปให้ลึกที่สุด

“อึก!!!”

เรียวลิ้นที่สั่นเกร็งของสดายุถูกไล่ต้อนอย่างง่ายดาย ปลายลิ้นน้อยถูกดูดดุนอย่างรุนแรง ริมฝีปากที่ถูกบดขยี้ราวกับจะบี้ให้หลอมเป็นเนื้อเดียวกันนั้น พยายามจะเผยอขึ้นเพื่อสูดอากาศบ้าง แต่ริมฝีปากร้ายของกฤตเมธก็รุกไล่ไม่หยุด จนสดายุนิ่งไปนั่นแหละเขาถึงจะยอมปล่อย

“ฮ้า…ฮ้า…ฮ้า…”

สองร่างหอบถี่จากรสจูบรุนแรงเมื่อครู่ออกมาพร้อมกัน

“เคยบอกแล้วไง ว่าอย่าท้าทายผม ไม่เคยเข็ดเลยนะ คุณสดายุ”

“............”

หลังถูกลงโทษด้วยจูบรุนแรง สดายุก็ได้แต่นิ่งงัน เพราะสมองของเขานั้นยังไม่สามารถประมวลผลอะไรออกมาได้ทั้งนั้น

“นอนนิ่งๆเป็นแล้วใช่มั้ยครับ คุณนางเอก ดื่มเหล้าจนเมาเป๋ขนาดนี้ อยู่ห้องคนเดียวมันอันตราย...”

“คุณ...เป็นเกย์เหรอ?...”

“หือ!?”

คำถามที่ออกจากปากบวมเจ่อนั้น ทำเอากฤตเมธแทบหงายหลัง ‘คิดได้ไง??’

“คุณเป็นเกย์สินะ คุณถึงได้...จูบ...ผม...”

“...เกย์?...หึหึ...นั่นสินะ ผมอาจเป็นเกย์ก็ได้ ไม่รู้สินะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

“ไม่รู้ได้ยังไง คุณจูบผู้ชาย คุณเป็นเกย์”

“ผมจูบคุณ เป็นการลงโทษที่คุณมันดื้อไม่เลิก”

“ผู้ชายบ้าที่ไหนเขาลงโทษผู้ชายด้วยกันด้วยการจูบบ้างวะ? เพี้ยนเหรอ? เกย์ใช่มั้ย!?”

“ก็ถ้าลงโทษแบบอื่น รุนแรงไปมันจะทิ้งรอย คุณยิ่งเป็นพวกช้ำง่ายอยู่ นี่ไงรอยที่ผมทำไว้คราวที่แล้วยังไม่จางเลย ม่วงซะ...”

“แล้วมันเกี่ยวกับจูบตรงไหนกัน!?”

“ก็จูบ มันทำให้คุณเงียบได้ แถมไม่ทิ้งรอยให้คนอื่นเห็นด้วยไงล่ะ”

ได้แต่ทำฟอร์มว่าเป็นการจูบเพื่อลงโทษที่อีกฝ่ายดื้อรั้น แต่ความจริงแล้วกฤตเมธเองก็ไม่รู้หรอกว่าจูบไปทำไม เขาไม่สามารถให้คำตอบที่แท้จริงได้ทั้งกับสดายุและกับตัวเอง จะให้พูดยังไงล่ะ ว่าพอรู้ตัวก็เผลอจูบไปเสียแล้ว

“...ไอ้แก่โรคจิต...”

“อยากโดนอีกรึไง สดายุ? คราวนี้ไม่จบแค่จูบนะ”

“.....................”

“.......หึหึ...เงียบได้ซะที คืนนี้นอนที่นี่แหละ เดี๋ยวผมเอาน้ำให้ดื่ม”

พอเห็นว่าสดายุสิ้นฤทธิ์ลง เพราะดวงตาฉ่ำหวานของร่างปวกเปียกนั้นกำลังปรือปรอย แสดงว่ากำลังใกล้จะหลับในไม่ช้าแล้ว กฤตเมธจึงตั้งใจลุกขึ้นไปหยิบน้ำเย็นมาให้ชายหนุ่มดื่มล้างพิษแอลกอฮอล์เสียหน่อยก่อน แล้วค่อยจัดการให้นอนสบายๆ แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกออกจากเตียงกว้าง สดายุก็เอ่ยบางอย่างออกมาแผ่วผิวราวกับเสียงคนละเมอ

“คุณมันเพี้ยน กฤตเมธ...มายุ่งกับผมแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้ตกต่ำตามผมลงไปด้วยหรอก...”

“...........”

“.....อย่าเอาตัวคุณ...มาเกลือกกลั้วกับคน...แบบผม...เลย...เดี๋ยวจะตก…ต่ำ…เอา…นะ…”

“........................”

คำเพ้อที่ออกมาจากปากสดายุนั้น ไม่ใช่คำประชดประชันเหมือนที่เจ้าตัวเคยทำเป็นปกติ แต่ทุกคำล้วนออกมาจากจิตใต้สำนึกของสดายุทั้งนั้น คำดูถูกตัวเอง ที่แสนเจ็บปวด

“ตัวตนจริงๆของเธอเป็นเด็กแบบไหนกันแน่นะ สดายุ...”

กฤตเมธค่อยๆโน้มตัวลงมองร่างที่หลับใหลไปแล้วของสดายุอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือออกมาลูบเรือนผมนุ่มนั้นเบาๆ ขณะนี้หัวใจที่เต้นระส่ำของกฤตเมธช่างสับสนกับพฤติกรรมของสดายุเหลือเกิน ‘ตกลงสดายุคนนี้คือใครกัน พระเอกผู้เย่อหยิ่ง หรือ ชายหนุ่มผู้เงียบเหงา?’


“เปลือกแข็งกระด้างที่ห่อหุ้มตัวเธอไว้ซ่อนตัวตนแบบไหนเอาไว้กันแน่...หืม?”

“เป็นเหมือนที่ตาฉันเห็น...”

“หรือเป็นเหมือนที่ใจฉันสัมผัสได้กันแน่นะ...”


*********************************************************************************
แต่งไปดูรายการคนอวดผีไป…เอิ่ม…เนื้อหามันเลยอาจงงๆหน่อยนะคะ 555+

วันนี้แอบมาแบบดราม่าเงียบๆ...งานในมือยังไม่เสร็จเลยค่ะ
กะจะเขียนตอนพิเศษเกลียวบาป แต่ดันคิดออกแต่พล็อตของนางเอก อร๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!
ก็เลยต้องเขียนมาลงไว้ก่อนค่ะ
แล้วก็ขอตัวหายหัวไปอีกสักสอง-สามวัน เพื่อปั่นตอนพิเศษเกลียวบาปต่อ...

ถึงจะดูเหมือนยุทำตัวเองทั้งนั้น แต่อย่าไปโทษยุเลยนะคะ ยุเขาเซ้นสิทีฟค่ะ
จากนี้ไป พี่เลี้ยงอย่างกฤตเมธจะกำราบสดายุของเราอยู่รึเปล่าน่อ
ลุ้นกันต่อไปค่ะ อิอิ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
อนาคี99 / Thearboo
 :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2013 10:14:50 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :katai5: มาแอบอ่านเหมือนกัน

ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ย่องมาอ่านนน น้ำตาซึมเบาๆอะเทออออ

ออฟไลน์ NIMME

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :sad4: หน่วงๆแฮะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 :hao5: ที่แท้ยุก็มีปมแบบนี้นี่เอง น่าสงสาร

ออฟไลน์ karmdodcom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
\\น้ำตาชื้นเบาๆ
ฮือออ TT
ยุเอ๊ยยยย...
สนใจมาอยู่กับเราไหม?  คุณเมธไม่ดูแล เราดูแลให้ก็ด้ายยยย
แม่ของยุนี่ก็ดูใจร้ายดีนะคะ...ลูกชายตัวเองแท้ๆ กลับทิ้งกันลงได้
แต่อ่านตอนนี้แล้วกลัวใจยุจังเลยค่ะ กลัวว่า ถ้าจู่ๆทำอะไรแย่ๆกับตัวเองแบบไม่คาดคิดขึ้นมา...
...มันจะเป็นยังไง...อีกอย่าง...เราว่าที่ยุไม่ยอมแก้ตัว...เพราะคนกล่าวหาทั้งหลายไม่ให้โอกาสยุแก้ตัวไม่ใช่หรอ?
หมั่นไส้เมธอ้ะ...ถึงยุจะปากไม่ดีก็เถอะ แต่นายก็อายุมากกว่าตั้งเยอะ ไปทำยุเขาเสียใจอยู่เรื่อยเลย   :katai1: :katai1:
จริงสิ...
...อาการแบบนี้คล้ายจะเป็นเด็กเก็บกดเลยค่ะ ยิ่งโดนกล่าวหายิ่งเงียบยิ่งนิ่งนี่่น่ะค่ะ
...น่ากลัวว่าถ้าเป็นหนักกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น

รอตอนต่อไปเน้อ TT
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2013 04:03:21 โดย karmdodcom »

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น้องยุ น่าสงสารนะคะ
รอวันที่สองคนนี้จะรักกันเร็วๆ
พี่เมธก็อย่าใจร้ายกับน้องนักนะ
 :sad4:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอ้โดนจูบ


เมธเริ่มหลงน้องปะเนี่ย



รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จูบพิฆาตสดายุ อิอิ


ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อ่านไปพร้อมกับฟังเพลงเศร้า น้ำตาร่วงสงสารน้องยุอะ  เจ๊บลูม่าเข้าใจเลือกคนมาดูแลน้องยุอะ ชอบบบบบ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ได้พี่เลี้ยงเป็นพระเอกแห่งวงการเลยอะยุ ;_;

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
แอบน้ำตาคลอไปกับความเจ็บปวดของสดายุ
กฤตเมธช่วยทำให้ตัวตนที่แท้จริงของสดายุกลับมาได้มั้ย 
:mew6:

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS

เย้ พระเอกเริ่มเป็นเกย์แล้วค่ะ

ใช่สิ น้องยุน่ารักน่าจูบใช่ไหม??

พระเอกคงอ่อนลงเยอะหลังจากรู้ อดีตเศร้าๆของนายเอก

รักกันไวๆนะคะ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด