(เรื่องสั้น) ผมคือ…นางเอก
ซีนที่ 13 สัมผัสเย็นฉ่ำที่บรรจงซับเบาๆที่ข้างแก้ม เรียกสติเลือนรางของสดายุให้ฟื้นคืนตัวขึ้น ร่างบางกระพริบตาปรือปรอยช้าๆเพื่อประมวลสมองให้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบกาย รวมถึง...สิ่งที่ผ่านไปเมื่อคืน
"ตื่นแล้วเหรอยุ...คุณเป็นยังไงบ้าง?"
เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเหนือศีรษะส่งความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน ทว่าตอนนี้สดายุยังมึนงงเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้ว่าเสียงอันอ่อนโยนนั้นคือเสียงของใคร
"คุณหิวน้ำหรือเปล่าครับ?"
อีกคำถามที่ส่งมาคราวนี้พอจะทำให้อดีตพระเอกหนุ่มรับรู้ได้แล้วว่าคนที่กำลังช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัว คนที่กำลังเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอยู่ข้างกายตอนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่ฝากความอัปยศอย่างสุดแสนไว้ให้เขาเมื่อค่ำคืนอันรวดร้าวที่ผ่านมา คนที่เขาไม่อยากเห็นหน้าที่สุด คนที่ชื่อว่า...'กฤตเมธ'
"สดายุ?"
กฤตเมธเอ่ยเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายลืมตาตื่น หากแต่กลับเงียบงัน ไม่ยอมตอบคำที่เขาไถ่ถาม 'คงโกรธมาก' เพียงแค่ได้เห็นปฏิกิริยาของสดายุ กฤตเมธก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังถูกโกรธเคืองมากแค่ไหน และเพราะพอจะรู้อยู่แก่ใจบ้างแล้ว ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่ได้ตกใจหรือรู้สึกเสียใจใดๆมากมายนัก เขารู้ตัวดีว่าเรื่องนี้เขาผิดเต็มๆ ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งจะเกิดจากการที่ถูกสดายุยุแหย่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เขาทำลงไปเพื่อตอบโต้คนตรงหน้านั้นจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม
"สดายุ...คุณมีไข้ต่ำๆนะ เดี๋ยวผมสั่งรูมเซอร์วิสให้ จะได้ทานข้าวแล้วทานยานะครับ..."
"ผมเช็ดตัวให้คุณเรียบร้อยแล้ว ยังรู้สึกไม่สบายตัวตรงไหนหรือเปล่าครับ"
"คุณอยากทานอะไรหวานๆหน่อยมั้ย ในห้องผมมีน้ำส้มอยู่..."
"...สดายุ..."
เหมือนคุยอยู่กับตุ๊กตากระเบื้องที่มีแต่ลมหายใจแต่ไร้จิตวิญญาณอย่างสิ้นเชิง เพราะทุกคำทุกประโยคที่แสดงถึงความห่วงใย ความกังวลต่อร่างที่นอนลืมตาเหม่อลอยอยู่ตรงหน้านี้ ดูเหมือนจะปลิวหายไปกับสายลม ไม่ได้ส่งไปถึงโสตประสาทของสดายุเลยแม้เพียงคำ
"สดายุ ผมขอโทษ…ผมรู้ว่าผมผิด ผมทำระยำหมากับคุณมาก ถ้าคุณโกรธผม ต่อยผมสิ ด่าผมแรงๆก็ได้ แต่ได้โปรด อย่าเงียบแบบนี้ได้มั้ย..."
"...สดายุ..."
ไม่ว่าจะเรียก จะอ้อนวอน ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ ร่างนั้นยังคงแน่นิ่ง แววตานั้นยังคงว่างเปล่า
'เกลียดกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ...'
"......!!!??"
จู่ๆกฤตเมธก็ลงมือทำบางอย่างที่ทำให้สดายุที่แสร้งนอนนิ่งอยู่นั้นยังต้องหันมามอง พร้อมขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ใคร่จะพอใจนัก เพราะตอนนี้กฤตเมธกำลังพยายามสำเร็จโทษตัวเองโดยการจับมือของสดายุกำเป็นหมัดหลุนๆแล้วรัวต่อยหน้าตัวเองไม่ยั้งอยู่ แม้สดายุจะพยายามขืนมือไว้ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เรี่ยวแรงมันต่างกันเกินไป ชายหนุ่มจึงทำได้แค่ข่มใจกัดฟันนอนนิ่งๆยินยอมให้อีกฝ่ายทำอะไรโง่ๆต่อไป...
ผลั่ก
ผล๊อก
ปึ่ก
ร่วมสิบหมัดที่กฤเมธพยายามชักนำมือของสดายุให้ต่อยไปที่หน้าตน และดูเหมือนจะยังไม่ยอมจะหยุดลงง่ายๆ นานเข้าสดายุเองก็รู้สึกเหลืออดเหมือนกัน
"ปล่อย! ผมเจ็บมือ!"
"...สดายุ คุณยอมคุยกับผมแล้วเหรอ.."
แม้จะไม่ใช่คำหวานหูหรือประโยคที่น่าฟัง แต่กฤตเมธก็ยังพอรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อย สดายุก็ยังพอจะตอบสนองเขา แม้ใบหน้านั้นจะยังนิ่งเฉย และแววตาที่ไม่ได้มองมาทางเขาเลยแม้สักนิดนั้นจะยังคงเย็นชา
"...ปล่อย!"
"...ผมขอโทษนะ คุณอย่าเย็นชากับผมนักสิ ผมรู้สึกไม่ดีเลย"
คำอ้อนอ่อนหวานที่ออกจากปากพระเอกเนื้อทองเช่นกฤตเมธนี้ หากเป็นคนอื่นได้ฟังคงได้ระทวยอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปแล้ว แต่ทว่ามันไม่มีทางได้ผลกับสดายุผู้มีหัวใจที่แข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว!
"...คุณยังต้องการอะไรจากผมอีกอย่างนั้นเหรอ? กฤตเมธ"
ในที่สุด ความอดทนของสดายุก็หมดลง ชายหนุ่มเอ่ยถามกฤตเมธออกไปด้วยคำคล้ายประชดประชันที่แสนจะเจ็บแสบ
"ไม่ใช่อย่างนั้น...ผมก็แค่..."
"ถึงจะอยากได้...ผมก็คงไม่มีอะไรเหลือพอจะให้คุณอีกแล้วล่ะ หึหึ...สาแก่ใจคุณแล้วล่ะสิ"
"หมายความว่ายังไง สดายุ?"
กฤตเมธเอ่ยถามเสียงพร่าเมื่อถูกสดายุเอ่ยคำทำร้ายน้ำใจอีกคำรบ ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยไม่ยอมมองสบตา ด้วยสายตาที่เย็นชาแม้จะเหม่อมองไปทางอื่น และด้วยรอยยิ้มเชือดเฉือนหมายจะฆ่ากันให้ขาดใจตายเสียให้ได้
"สะใจมั้ยล่ะ ที่สามารถย่ำยีศักดิ์ศรีของผมได้ ภูมิใจสินะที่ได้เหยียบย่ำผมให้จมลงสู่นรกแห่งความอัปยศอันแสนระยำนี่ ต่อไปจะให้ผมทำอะไรให้อีกมั้ย จะเอาอะไรอีก? หรือจะให้ผมเป็นนายบำเรอให้ก็ไม่เลวนะ ลีลาคุณก็ถือว่าใช้ได้อยู่..."
"สดายุ!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!"
"เอาเถอะ เป็นคุณก็คงไม่เลวนักหรอก เพราะอย่างน้อย..."
"คุณเลิกพูดเหยียดหยามตัวเองเถอะ ผมขอร้อง..."
ทั้งขอร้องด้วยวาจา ทั้งกำมือของอีกฝ่ายแน่นหนาแต่ก็ไม่สามารถทำให้สดายุหยุดทำร้ายทั้งตัวเขาและตัวเองด้วยคำพูดแดกดันถากถาง กฤตเมธรู้สึกผิดต่อสดายุมากเกินไปจนไม่สามารถรู้สึกขุ่นเคืองแม้โดนอีกฝ่ายพูดจาดูหมิ่นน้ำใจอย่างแสนสาหัส ยิ่งเห็นสดายุเหยียดยิ้มร้าย กฤตเมธก็ยิ่งรู้สึกผิด...รู้สึกผิดจนแทบกระอัก โดยเฉพาะในประโยคสุดท้ายของผู้ชายที่ชื่อสดายุ...
"การได้เป็นนายบำเรอกามของคุณ ผมคงไม่ต้องแล่นไปตรวจโรคให้ขายขี้หน้าหรอกใช่มั้ย...หึหึ"
จบคำสดายุก็หัวเราะส่งท้ายน้อยๆ เสียงหัวเราะนั้นไม่สามารถเจาะจงได้ว่าเป็นไปด้วยอารมณ์ไหน เพราะมันทั้งให้ความรู้สึกเยาะหยันแต่ทว่าก็ช่างแสนเศร้า...
“ผมรู้ว่าที่ผมทำมันช่างเลวร้ายสำหรับคุณ และแค่คำขอโทษคงไม่พอที่จะขอการให้อภัย...แต่...ผมขอแค่โอกาสได้หรือเปล่า? โอกาสที่จะให้ผมได้รับผิดชอบการกระทำทั้งหมดต่อตัวคุณ...โอกาสให้ผมได้ดูแลคุณ...”
กฤตเมธเอ่ยขอโอกาส ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะไม่ว่าน้ำเสียงเขาจะแหบพร่า ไม่ว่าใบหน้าเขาจะเจ็บปวด หรือไม่ว่าหัวใจเขาจะรวดร้าวกับการกระทำไม่ยั้งคิดของตัวเองแค่ไหน ความรู้สึกเหล่านั้นก็ไม่สามารถส่งผ่านไปถึงสดายุได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยว ความเย็นชาที่อีกฝ่ายแสดงออกมาช่างร้ายกาจ ตลอดชีวิตที่ผ่านมากฤตเมธยังไม่เคยเจอใครที่ใจหินได้เท่ากับสดายุมาก่อนเลย รับมือยากจนอ่อนใจ
ไม่รู้ว่าฟ้าเกลียดชังเขา หรือโชคชะตาอยากกลั่นแกล้งเขาเล่นกันแน่ ที่ดลจิตดลใจให้คนอย่างกฤตเมธต้องมาพ่ายแพ้ต่อคนนิสัยเสียอย่างสดายุ คนเอาแต่ใจ ดื้อด้าน หยิ่ง ยะโส โอหัง ทว่า…ช่างน่าสงสาร และ…น่ารักที่สุดในโลก แค่คิดกฤตเมธก็ต้องถอนหายใจ ‘หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้ว’
“…จะขอทำไมอีกล่ะ?”
ในที่สุดคำตอบของสดายุก็เฉลยออกมา ขณะที่ใบหน้าของเจ้าตัวนั้นยิ่งเบือนหนีห่างไปอีกทางอย่างโจ่งแจ้งขึ้นไปอีกว่า ไม่อยากเห็นเสี้ยวหน้าเขาแม้กระทั่งหางตา
“……สดายุ??”
“คุณจะขอให้เหนื่อยทำไมกัน? ถึงขั้นนี้แล้ว คุณอยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ ถึงผมจะไม่ยินยอมก็ใช้กำลังบังคับเอากันง่ายๆ จะลำบากอะไรล่ะ หึหึ…ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทางผมเองก็กำลังอาศัยบารมีของคุณเพื่อหาทางกลับเข้าวงการอยู่เหมือนกัน…ผมรู้ครับคุณกฤตเมธ ว่าไม่มีของฟรีในโลก เพราะงั้นจะเป็นอะไรไปถ้าผมจะใช้ตัวผมแลกกับการที่คุณจะพาผมกลับเข้าวงการอีกครั้ง ฮ่าฮ่า…คิดแล้วก็คุ้มดีออก…”
“แล้วคุณเคยคิดถึงใจผมบ้างหรือเปล่า!!?”
“…..!!??”
ในที่สุดความอดทนของกฤตเมธก็ดำเนินมาจนถึงขีดจำกัด เขาไม่อาจ อดทนที่จะหว่านล้อมคนปิดหูปิดตาปิดใจคนนี้ได้อีกแล้ว จากนี้ไปเป็นไงก็เป็นกัน ในเมื่อคนอย่างกฤตเมธเองก็ไม่ใช่คนที่นิยมชมชอบการพ่ายแพ้ ในเมื่อเขายอมแพ้ไปแล้วหนึ่งเรื่อง นั่นคือการยอมรับว่ารักว่าชอบสดายุ เขาก็จะขอแพ้แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น! จากนี้ไปก็ตาต่อตาฟันต่อฟันแล้วกัน ไม่ว่ายังไงเขาต้องเอาชนะใจของเจ้าเด็กดื้อด้านตรงหน้านี่ให้ได้ จะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปไหนเด็ดขาด
“ผมเข้าใจว่าเมื่อก่อนผมอาจทำตัวแย่ให้คุณรู้สึกรังเกียจ แต่ผมก็ละทิ้งทุกศักดิ์ศรีที่ผมมีเพื่อกล่าวคำขอโทษจากหัวใจให้คุณไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน...แม้ว่าทุกครั้ง...มันจะโดนคุณเหยียบย่ำอย่างไม่มีชิ้นดีก็ตาม...”
“…คุณ…กฤตเมธ!!?”
สดายุครางเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสั่นเล็กน้อย เพราะจู่ๆคนที่ได้แต่จับมืออ้อนวอนขอโอกาสขอคำให้อภัยอยู่เมื่อครู่นั้น กลับจู่โจมคร่อมร่างครึ่งบนของเขาไว้แบบไม่ให้ได้ตั้งตัว พร้อมก้มลงกระซิบถ้อยคำแสลงใจใกล้จนลมหายใจรินรดแก้มนิ่ม
“…ผม…ชอบคุณนะ…”
“….!!!???”
“...หรือว่า...คำว่าชอบจากคนอย่างผม...มันน่ารังเกียจสำหรับคุณกัน?...”
สดายุรีบเบี่ยงใบหน้าหลบการรุกราน เขายังไม่อยากเห็นหน้ากฤตเมธตอนนี้ เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ใจเขายังสับสนเกินกว่าจะมองจ้องเข้าไปในดวงตาที่ลึกล้ำของอีกฝ่ายได้ ไม่อยากให้กฤตเมธได้รับรู้แม้เพียงนิดว่าสดายุคนที่ใจแข็งดั่งหินผาคนนี้จริงๆแล้วกำลังหวั่นไหว
…โกรธแค้นที่ถูกทำลาย
…เจ็บปวดที่ถูกย่ำยี
…แต่กลับเผลอหวั่นไหวไปกับคำขอโทษอ้อนวอน หวามหวิวไปกับคำว่าชอบ…และไม่แน่ว่าหากอีกฝ่ายยังสัมผัสตัวเขาไม่เลิกอยู่แบบนี้…เขาเองก็อาจเผลอไผล…
“คุณไม่ตอบผมไม่เป็นไร สดายุ…เอาเป็นว่าผมยอมรับข้อเสนอเมื่อครู่ของคุณก็แล้วกัน”
“ผมจะยอมรับร่างกายของคุณเป็นของตอบแทนในทุกสิ่งที่ผมจะทำเพื่อคุณต่อจากนี้ไปเอง!!”
พรึ่บ!!
“….!!!???...เฮ้ย!! เหวอ!! กฤตเมธ!!??”
ไม่ทันให้ตั้งตัวร่างทั้งร่างของสดายุก็ลอยหวือขึ้นจากเตียงนอน อารามตกใจทำให้สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดทำงานทันทีโดยการคว้าแขนขึ้นคลองคอแกร่งของกฤตเมธไว้มั่น
“คุณจะทำบ้าอะไรเนี่ย!!?? จะพาผมไปไหน!!?”“อาบน้ำ”****************************************************
ขอโทษค่ะ หายหัวไปนานมั่ก…
(แถม…ยังมาแค่สั้นๆ น้อยนิดกระจ้อยร่อย…อย่าเพิ่งด่าเก๊านะ อย่าเพิ๊งงงง…อร๊ากกกก)
(หมุนตัวหลบรองเท้าอย่างทุลักทุเลอีกรอบ)
และ…จะยังต้องหายไปเนืองๆนะเจ้าคะ จนกว่าจะต้นเดือนหน้าค่ะ
งานยุ่งจนจะกระอักเลือดตาย…ขออภัยอย่างแรงจริงๆค่ะ

ขอบคุณที่รักกันเสมอมานะคะ
Thearbooเองก็รักท่านผู้อ่านทุกคนค่ะ…(แต่ก็แอบหายหัวบ่อยเหลือเกิน)
จุ๊บๆๆๆ

ปล. วันนี้ออฟฟิตเก๊าจัดอีเว้นท์แข็งกอล์ฟสัมมนาคุณลูกค้า…เก๊าตื่นตีสองเพื่อไปสนามกอล์ฟตอนตีห้า…
ประเด็นคือ…ตอนนี้แต่งขึ้น ณ ขณะปฏิบัติภารกิจกับนายยุ่นที่อ่านภาษาไทยไม่ออกค่ะ…อิอิ เนียน
ขณะที่นายกำลังทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย อิชั้นพิมพ์นิยายลงเล้าค๊า…(หุหุ…แอบมาสารภาพความเลวเล็กๆ)
ปล.2 อุ๊ย!...แอบเห็นคนถือมีด!! จ๊ากกกก!! แผ่นแน่บ

ปล.3 ตอนหน้าจะมายาวๆนะ...อย่าเพิ่งเคืองนะตะเอง...
ปล.ท้ายสุด...ซีนนี้เป็นซีนฆ่าพระเอกจ๊ะ อิอิ ทายสิ ตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้น [attachment deleted by admin]