ผมคือ...นางเอก
ซีนที่...19 (วิบากกรรมของน้องรุจน์)
ครึ่งแรก"พ...พอร์ช...ก...กูจะเป็นลมแล้วอ่ะ"
ชายหนุ่มร่างเล็กเอ่ยครวญกับเพื่อนรัก ขณะนั่งมองกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกของพวกตนกำลังเร่งมือเซ็ตฉาก จัดไฟ จัดมุมกล้องอยู่ตรง...หน้าเตียง
...หน้าเตียง คิงไซส์ในบังกะโลหลังย่อม ที่ที่กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิรบของเจ้าหนุ่มรุจน์ในไม่ช้า
ช่วงเย็นกองถ่ายภาพยนตร์ ‘สุดปลายทางของ...หัวใจ’ เดินทางมาปักหลักถ่ายทำกันที่บังกะโลเช่า ตรงหน้าหาด อีกฟากของเกาะที่ห่างออกจากตัวโรงแรมไม่น้อย คืนนี้พวกเขาจะต้องถ่ายทำฉากเลิฟซีนร้อนฉ่าของหมอธเนศกับซอ เฉพาะฉากบนเตียงและฉากที่ต้องใช้โลเกชั่นอย่างเดียวกันนี้เท่านั้น ส่วนที่เหลือสำหรับตอนต่อเนื่องจะมีการถ่ายทำต่อในวันถัดไป
"จะเครียดไปทำไมรุจน์ แค่ฉากเลิฟซีน ไม่ได้ทำกันจริงๆสักหน่อย กลัวเป็นสาวๆไปได้"
"อร๊าก ไอ้บ้าพอร์ช มึงลองมาเป็นกูดูดิ! ชีวิตคนจิโดนปล้ำมันช้ำใจนะเว้ย!!"
"หึ...เอาเวลานั่งนอยด์มานั่งทำสมาธิกับบทเหอะ เวิ่นเว้อนัก เดี๋ยวก็โดนเทคยับหรอก กูไม่อยากปล้ำซ้ำซากนะ"
ชายหนุ่มหน้าคม คิ้วเข้ม ยื่นหน้าเข้าไปเอ่ยเตือนสติเพื่อนซี้ที่ได้แต่นั่งกระสับกระส่าย แต่ดูเหมือนคำเตือนจะไม่ได้ช่วยอะไร เพราะรุจน์เพื่อนรักยังคงห่อเหี่ยวเหมือนเดิม
"...อย่าเครียดไปเลยรุจน์ มึงทำตามบทมึงให้เต็มที่แล้วกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูจะเป็นคนช่วยมึงเอง"
คำปลอบโยน ช่วยให้รุจน์คลายความกังวลลงหน่อย ตื้นตันอยู่หรอกที่เพื่อนรักอุตส่าห์เอ่ยปากว่าจะคอยช่วย แต่ลึกๆแล้วรุจน์อยากตะโกนออกไปเพื่อระบายความอัดอั้นกระแทกหน้าเพื่อนรักสักทีว่า...
'กุไม่ได้เครียดเรื่องบทเว้ย ไอ้บ้า! กุเครียดเรื่องเมิงต่างหาก!!...ฮือๆๆๆ'
"เอ้าพร้อมกันยัง? เริ่มกันเลยมั้ย สองทุ่มแล้ว จะได้เลิกไม่ดึกมาก"
ยังไม่ทันที่รุจน์จะได้หายกระสับกระส่าย เสียงของอ๊อดก็ดังขึ้น...รุจน์จิเป็นลมอีกรอบ...
*
*
*
'เอาวะ! เป็นไงเป็นกันสิ!!'
ไหนๆก็ไม่สามารถเลี่ยงได้ ในที่สุดรุจน์ก็ได้แต่ทำใจ ได้แต่ท่องกับตัวเองว่า มันคืองาน มันคือหน้าที่ ไม่มีอะไรในกอไผ่ ทำให้ดีที่สุด ม้วนเดียวจบ เทคเดียวผ่าน...สู้ว๊อย!!
เสียงทะเลซัดสาดอยู่ภายนอกหน้าต่างผ่านเข้ามาในห้องเช่าห้องเล็กที่เงียบสงัด แสงไฟสีนวลอ่อนช่วยส่องให้ห้องน้อยสะท้อนสีสันอันแสนโรแมนติก เตียงนอนขนาดคิงไซส์เด่นตระหงานอยู่กลางห้องมองดูให้ความรู้สึกลามกอย่างประหลาด เพราะบนเตียงนั่นอีกเพียงครู่คงหนีไม่พ้นกลายเป็นสังเวียนเดือดชวนเรียกเลือดพุ่ง ของคู่ต่อสู้ที่ต้องเปลือยล่อนจ้อนขึ้นไปโรมรันพันตูถึงพริกถึงขิง
"เอาล่ะ พอร์ช รุจน์ เข้าใจคิวที่พี่ให้ซ้อมเมื่อกี้แล้วใช่มั้ย"
อ๊อดถามไถ่หลังการซ้อมคิวที่ยาวนาน สองหนุ่มนักแสดงหน้าใหม่พยักหน้าหงึกหงักเข้าใจ อ๊อดยิ้มกริ่ม...
"ดี งั้นเริ่มกันเลย"
หลังการซ้อมคิวกันจนชำนิชำนาญแล้ว ก็ถึงเวลาถ่ายทำจริงเสียที จริงอยู่ว่ารุจน์ดีขึ้นมากแล้ว อาการตกประหม่า หรืออารมณ์ตื่นกลัวแทบจะไม่หลงเหลือร่องรอย แต่หัวใจชายหนุ่มก็ยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ดี...โดยเฉพาะ เมื่อต้องสบตากันตรงๆกับเพื่อนรัก ที่กำลังจะร่วมกันหักเหลี่ยมโหด...
แล้วแถมมันยัง...อมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อีกด้วย!!
"เอาล่ะเดี๋ยวพอพี่สั่งเดินกล้อง ก็ละเลงได้เลยนะ"
อ๊อดเอ่ยกำชับในตอนสุดท้าย เพื่อยืนยันความเข้าใจให้ตรงกัน สองหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมแล้วที่จะกระโจนเข้าสู่ความหฤหรรษ์ขวัญแขวน?
"เอ้า แสงพร้อม ไฟพร้อม กล้องสามตัวพร้อม...แอ็คคคคคคคคค....ชั่น!!!"
“ให้ผม...ช่วยปลอบคุณนะ”
สิ้นเสียงสั่งเดินกล้องก้องกังวานของอ๊อดปุ๊บ รุจน์ก็ลอบสูดหายใจเรียกพลัง แล้วส่งสมาธิทั้งหมดเข้าสวมบทบาทสำคัญทันที สองขาก้าวเดินเข้าประชิดร่างสูงของพอร์ชอย่างเสน่หาแล้วบรรจงคล้องแขนเรียวกับไหล่กว้างเพื่อเย้ายวนตามบทบาทที่ได้รับมา...
...และยั่วได้ดีเสียด้วย จนพอร์ชถึงกับเคลิ้มเลยทีเดียว
“...ซอ”
หมับ...
พอร์ชในคราบของหมอธเนศ เอ่ยชื่อของซอ (รุจน์) ออกมาแผ่วเบา สายตาเชื่อมปรอยราวกับคนเมาเหล้าจริงๆนั้นส่งอารมณ์สนองตอบเพื่อนรักไปอย่างเต็มที่ จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปคว้าเอวเพื่อนตรงหน้าเข้ามากอดเอาไว้ตามบทบาท แล้ว...ก้มลงจูบหนักหน่วงทันที
“อื้อ...อ๊ะ...อื้ม!!...”
รสจูบเผ็ดร้อนรุนแรงบดขยี้ริมฝีปากของรุจน์อย่างไม่ไว้หน้า อีกทั้งเรียวลิ้นที่ยากจะต้านทานนั้น ทำเอาทั้งร่างของชายหนุ่มสะท้านเฮือก
‘...อ...ไอ้เชี่ยพอร์ช มึงจะจูบเก่งไปไหนว๊ะ!!’
รุจน์ได้แต่สบถสรรเสริญเพื่อนซี้อยู่ในใจ แต่ได้ไม่นานก็ต้องรีบเข้าให้ถึงบทบาท ก่อนที่จะหลุดไปไกลกว่านี้เพราะจุมพิสเร่าร้อนของเพื่อนรัก
‘เชี่ยเอ้ย...กูจิเคลิ้มแล้วนะ...!!’
“อ๊ะ!”
“อืม...ซอ...”
ตุบ...
พอร์ชที่ยังคงเล่นไปตามบทครางกระเส่าอยู่ข้างหู ขณะที่กดรุจน์ลงไปบนที่นอนนุ่ม มือไม้ฟอนเฟ้นไปตามร่างกายแน่นตึงและนุ่มลืนมือของเพื่อนรักอย่างไม่เกรงใจ
“อ๊ะ ห...หมอ อ๊ะ”
รุจน์ร้องคราง (แทบขาดใจ) ทั้งจากบทของซอที่เมาเหล้าจนไม่สามารถยับยั้งอารมณ์หวามไหว และทั้งจากตัวของเขาเองที่หวิวจะไม่ไหวจะทนเช่นกัน จนต้องรีบยกแขนขึ้นโอบรอบคอคนที่ตะโบมจูบตัวเองอยู่อย่างเต็มที่ จนน้ำลายที่กลืนไม่ทันไหลเอ่อเปอระล้นออกมาจากริมฝีปาก
‘อา...บ้าชิบ...กองถ่ายอยู่กันตั้งหลายคน ทำไมเราดันเสียวขึ้นมาได้วะ! ไม่ได้การ...สมาธิ...สมาธิ!’
“อ๊ะ! ฮ้า!...”
ในที่สุดการจูบจ้วงล้วงลิ้นถึงตับก็จบลง พร้อมกับเป้าจู่โจมใหม่ที่ซอกขอขาวสะอ้านของรุจน์
“อ๊ะ ห...หมอ อ๊ะ”
เมื่อจุดเสียวสยิวโดนขยี้ซ้ำๆ รุจน์ก็แทบจะสิ้นแรงเสียดื้อๆ แต่ยังคงต้องพยายามอยู่ในบทให้ได้นานที่สุด ทั้งที่น้ำตาจะไหลเมื่อโดนพอร์ชซุกไซร้ที่ซอกคน จนสะท้านเกร็งไปทั้งร่าง
‘อ๊ายย เอาอีกแล้ว!! คอ...จุดอ่อนกู...อ๊ากกกก!!...ไอ้พอร์ช!! ไอ้บ้า! ทำไมมึงไม่โกนตอหนวดมึงก่อน!!’
รุจน์โวยวายอยู่ในใจอย่างบ้าคลั่ง แต่นั่น….มันก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
*
*
*
*
*
แสงไฟสลัวในห้องบังกะโลหลังน้อย ที่ตั้งใจจัดแต่งให้ตรงกับบทประพันธ์ที่สุดนั้น ตอนนี้กำลังส่องกระทบร่างเปลือยล่อนจ้อน (เหลือเพียงผ้าผืนน้อยปิดของพึงสงวนอยู่) ของสองนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ ทั้งคู่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่อย่างบ้าคลั่ง หลังจากเริ่มซีนแรกจนถึงตอนนี้ ถ่ายเสร็จไปแล้วถึง 3 ซีน คือซีนที่เน้นบทจูบล้วนๆ ซีนเปลื้องผ้าและกอดรัดกลิ้งไปมาบนเตียง และซีนลูบคลำร่างกายของกันและกัน ซึ่งยังเหลือซีนสำคัญอีก 3 ซีนด้วยกัน คือ…ซีนที่แสร้งว่าสอดใส่ กับซีนขย่มตอ และซีนสุดท้าย คือซีนหลังเสร็จสม…
แค่ฟังชื่อของแต่ละฉากแต่ละซีนที่ต้องถ่ายรุจน์ก็แทบจะเป็นลมกำเดาพุ่ง แถมซีนทั้งหลายที่เหลือเหล่านั้นนอกจากจะหนักหนาต่อการทำใจแล้ว ยังยาวแบบเวอร์ๆ แบบไม่มีการขั้นเวลา เพราะผู้กำกับขาใหญ่ไม่ต้องการให้อารมณ์ขาดตอน…
และตอนนี้ก็กำลังเริ่มถ่ายซีนที่ 4 หรือก็คือซีนสอดใส่อยู่ ทว่า…คนหนึ่งอินอยู่กับบทบาทที่ได้รับอย่างเต็มที่ แต่อีกคนก็ใกล้จะหลุดจากบทเต็มทีแล้วเช่นกัน
“มะ...หมอ...ผม..ไม่ไหว...”
รุจน์ร้องระงม เมื่อริมฝีปากร้อนระอุของพอร์ชเริ่มรุกไล่...ไกลไปจนถึงยอดอกแข็งเป็นไตของเขา และต้องสะดุ้งตัววาบเมื่อถูกริมฝีปากนั้นครอบครองหัวนมตุ่มน้อยๆนั่นอย่างกะทันหัน แถมยังโรมรันถึงใจสุดๆ
“อ๊า…อ๊ะ…โอ๊วววว!.....หมอ! อ๊ะ!!...!!”
รุจน์ในคราบของซอครางกระเส่า ยอดอกถูกลิ้นร้อนกระหวัดไปมากระตุ้นความหวามไหว จนไม่อาจต้านทานได้ หัวนมคัดตั้งท้าทายเรียวลิ้นและริมฝีปากของพอร์ชในคราบของหมอธเนศอย่างที่สุด รุจน์อยากจะบ้า…เพราะว่า…มันเสียวเกิ๊น!!
‘เมื่อไหร่จะออกจากหัวนมกูสักทีวะไอ้พอร์ช ทิ้งหน่วงนานไปแล้วนะ เลียขนาดนั้นหัวนมกูยุ่ยหมดพอดีสิไอ้เพื่อนบ้า!!...อ๊า...อย่ากัดสิ! มันเสียวนะ!!’
“อ๊ะ”
“อ๊ะ ห...หมอ อ๊ะ”
“อย...อ๊า”
‘อ๊ายยย!! อย่าขยี้อย่างน๊านนนน!! อึ๋ย…อย่าเอาน้องชายมึงมาถูหว่างขากูจริงๆสิ ถูหลอกๆก็พอแล้วไอ้พอร์ช ไอ้เพื่อนไม่รักดี!!’
ครางตามบทไป ครางจริงไปบ้าง พร้อมด่าในใจไปพลางอย่างอารมณ์ขึ้น?
และเพียงอึดใจต่อมาสัญญาณอันตรายจากพอร์ชก็ดังขึ้น!
มันคือสัญญาณที่ตกลงกันไว้…ถึงตอนที่จะต้อง… ‘แสร้งโดนเสียบ!’
ในที่สุด ในขณะที่พอร์ชยังกอดจูบลูบคลำอยู่นั้น แขนแกร่งของเพื่อนตัวโตก็สอดเข้าไปใต้ขาพับของรุจน์ตามคิวที่ได้ซ้อมกันไว้ในตอนแรก พร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ขยับกายตั้งมั่น ก่อนจะก้มหน้าลงใกล้รุจน์เพื่อให้สัญญาณ ด้วยคำพูดคำเดียวว่า…
“เอานะ!”**********************************************************
อีกครึ่ง มาคืนพรุ่งนี้นะจ๊ะ
ค้างไว้ก่อนเน่อ…(ขออภัยอย่างแรงจ๊ะ)

ปล. จากประโยคจบท้ายเรื่อง…ถ้าอิชั้นเป็นรุจน์อาจตอบออกไปว่า
…”เอาสิ” อิอิ
