ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1269497 ครั้ง)

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :ling1: :ling1: :ling1: ค้างๆๆ

น้องยุจะกลัวอะไรกะเรื่องอนาคตค่ะ ตอนนี้เจ็บ เพราะคิดไปเองหรอกค่ะ เอาใจช่วยน้องยุ ขอคนเขียนอย่าใจร้ายกะน้องยุมากนะคะ


ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สงสารน้องยุ พี่เมธคงไม่ปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างนั้นหรอก  :katai2-1:

ออฟไลน์ ultra_bang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
 :m15: :m15: :m15:

น้ำตาไหลเบย  ฮื่อๆๆๆ :monkeysad:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ยุอย่าคิดเองเออเองสิ

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 22 เรื่องบนเตียง




“นอนกับผมได้มั้ยครับ”


“…ยุ?...”

“กอดผมเถอะ…”

“คุณแน่ใจเหรอยุ?...ไม่ต้องฝืนเพื่อผมหรอกนะ…”

“ไม่เป็นไร ผมอยากให้คุณสัมผัสผม…จริงๆนะ”

“…ยุ…”


“ให้ผม…เป็นของคุณนะครับ…ผมอยากเป็นของของคุณ…”


ถ้อยคำออดอ้อน ส่งผลต่อความตระหนักยั้งคิดของกฤตเมธโดยตรง โดยเฉพาะสายตาเว้าวอนที่ส่งมาให้นั้น ช่างกรีดลึกลงในหัวใจของกฤตเมธเหลือเกิน….

‘สายตาของเด็กขี้เหงา ที่กำลังต้องการที่พึ่งพิง…’

จบคำอ้อนที่แสนจะอันตรายต่อหัวใจ อ้อมกอดแน่นหนาของกฤตเมธก็คลายลง แล้วค่อยๆประคองร่างแบบบางของสดายุให้หันกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง จากนั้นมือแกร่งก็ค่อยๆเชยปลายคางเรียวขึ้นประทับรอยจูบอ่อนหวาน จูบที่มาจากใจจริง ไม่ใช่จากบทละคร จูบที่อิ่มเอมกว่าทุกจูบที่เคยผ่านมา

จากสัมผัสริมฝีปากกันเพียงผิวเผิน ก็เพิ่มความดูดดื่มขึ้นเป็นจังหวะ ระหว่างนั้นฝ่ามือใหญ่ก็ค่อยๆสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ๊ตตัวบาง บรรจงลูบไล้บางเบาไปบนผิวเรียบตึงลื่นมือ เมื่อสะท้านกายรับพร้อมครางเครือออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า สดายุก็ถูกกดลงบนเตียงนอนข้างโต๊ะอาหาร ทั้งที่ยังถูกกอดจูบ และสัมผัสอยู่อย่างนั้น

เพียงครู่เสื้อเชิ๊ตก็ถูกถอดออก ผิวกายสีน้ำนมถูกสัมผัสโดยตรงจากริมฝีปากและเรียวลิ้นช่ำชอง ยอดอกถูกหยอกเย้าจนต้องสะท้านกายรับอย่างไม่อาจห้าม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทั้งคู่มีเซ็กส์ และยิ่งไม่ใช่ครั้งแรกของกันและกัน แต่ทว่ามันคือครั้งแรกที่ได้สัมผัสกันด้วยหัวใจ และความรู้สึกที่ต้องการเป็นของอีกฝ่ายที่ปะทุเอ่อล้นจากในร่างของทั้งคู่

‘ด้วยความรู้สึกที่เรียกว่า…รัก…’

สดายุสะท้านหอบ ริมฝีปากถูกประทับบดเบียดครั้งแล้วครั้งเล่า เปลี่ยนมุมไปเรื่อยๆในแต่ละครั้ง ก่อนจะเลื่อนไปยัง แก้ม ใบหู และพรมจูบจนทั่วใบหน้า เลื่อนเรื่อยลงมายังซอกคอ ทุกสัมผัสเชื่องช้าราวกับกำลังปลอบประโลม และมันอ่อนโยนเกินไปจนสดายุประหม่า ความรู้สึกขัดเขินตีรวนขึ้นจากส่วนล่าง อยากให้ทำแบบรุนแรง อยากให้บีบเค้นจนจนตรอกมากว่า สดายุคิดว่าบางทีการถูกไล่ต้อนอาจทำให้เขารู้สึกสบายใจกว่าตอนนี้ เพราะหากเขาถูกระทำย่ำยีมากเท่าไหร่ หัวใจเขาจะได้ด้านชามากขึ้น อยากรู้สึกอย่างนั้นมากกว่าการเป็นคนสำคัญที่กำลังโดนกระทำอย่างทะนุถนอม เพราะแบบนี้มันทำให้หัวใจเขาหลอมละลาย อ่อนไหว อ่อนแอ และสุดท้าย ก็ตัดใจไม่ได้เสียที…

‘แย่แล้ว…’

“คุณเมธ…อือ….อย่าทำแบบนี้สิ…”

“…แบบไหนครับ?...”

“อ๊ะ…อือ….อย่าอ่อนโยนกับผมเลย ทำตามที่คุณต้องการเถอะ…”

“………….ผมก็กำลังทำอยู่นะ…นี่ก็กำลังทำอย่างที่ผมต้องการอยู่…”

“…ยังไง?...”

“ก็อ่อนโยนกับคุณไง ผมอยากรักคุณอย่างอ่อนโยนที่สุด….อย่างที่ผมไม่เคยทำกับใครมาก่อน…”

คำสารภาพของกฤตเมธช่างโหดร้ายกับหัวใจของสดายุเหลือเกิน ทำไมกันนะผู้ชายคนนี้ ทั้งที่เขากำลังพยายามตัดใจแท้ๆ…ชอบมาทำให้หวั่นไหวอยู่เรื่อยเลย…

“อ๊ะ! คุณเมธ…อื้อ…”

สติของสดายุค่อยๆหลุดออกจากร่าง ดวงตาปิดสนิททันทีที่ส่วนสำคัญถูกครอบครอง ไม่ได้ตั้งใจให้คนบนร่างปรนเปรอให้ถึงขนาดนี้เสียหน่อย ไม่คิดไม่ฝันว่าอีกฝ่ายจะกล้าใช้ปากให้กับผู้ชายด้วยกันด้วย ร่างกายเริ่มเดือดพล่าน เมื่อถูกรุกเร้าอย่างแสนสาหัส สติหลุดลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไป และสุดท้ายแม้จะไม่อยากนัก แต่สดายุก็ปลดปล่อยตัวเองในที่สุด

“อ๊า….อื้อ….อา….”

“…อือ…ยุครับ โลชั่นอยู่ไหน…”

“…อา…โต๊ะ…โต๊ะกระจก…”

สดายุลมหายใจหอบถี่เมื่อตัวเองได้ปลดปล่อย สายตาพร่าเบลอ ในสมองโล่งไปหมด ขนาดถูกกฤตถามถึงโลชั่นบางอย่าง ชายหนุ่มยังตอบออกไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว รู้สึกแค่ว่ากฤตเมธออกห่างไปไม่ถึงสิบวินาที ก็กลับมาคร่อมร่างเขาไว้อย่างเก่า จากนั้นสายตาหาโฟกัสไม่ได้ของสดายุก็ได้แต่เหม่อมองกฤตเมธที่กำลังเทโลชั่นเหนียวเหนอะลงบนฝ่ามือ

“อ๊ะ? อื้อ….”

ตอนแรกยังเบลออยู่แต่ทันทีที่มือใหญ่แยกขาทั้งคู่ของเขาออกจากกัน สดายุก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังจะโดนทำอะไร หัวใจเต้นโหมระทึกอีกครั้งเมื่อนิ้วแรกของกฤตเมธเบิกทางเข้ามา

“ผมจะทำช้าๆ…หายใจลึกๆนะครับคนเก่ง…”

“…อ…อื้ม…อา…อ๊ะ…”

สดายุได้แต่ถอนหายใจบ้างครางเครือเบาๆบ้าง ยามที่ถูกปลายนิ้วร้อนสอดใส่เข้าสู่ส่วนลึก

“อ๊ะ!”

ร่างกายสะท้านวาบขึ้นทันทีที่ถูกแตะต้องบางจุดในร่าง และดูเหมือนกฤตเมธเองก็จะรู้ได้ทันทีว่านั่นคือจุดที่ทำให้สดายุรู้สึกดี ชายหนุ่มกดนิ้วซ้ำๆ ย้ำอยู่ที่เดิมเพื่อความแน่ใจ สดายุสะดุ้งไหวเมื่อภายในถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง

“อื้อ…อื้มมม…”

สองมือยกขึ้นมาปิดปากเอาไว้ด้วยกลัวว่าจะเผลอหวีดร้องเสียงดัง จากแรงปรารถนาที่คาดไม่ถึง ไม่นึกเลยว่าแท้จริงแล้วช่องทางนั้นจะมีจุดให้เขารู้สึกดีขนาดนี้ได้ แม้จะเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นมีแต่ความทรมานและเจ็บปวดชิงชัง ซึ่งต่างจากครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง   

‘เพราะตอนนี้ เขากำลังจะละลายแล้ว…’

เพียงครู่ใหญ่ตรงส่วนนั้นของเขาก็สามารถรับได้สามนิ้ว สดายุอัศจรรย์ใจตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีเวลาให้เขาชื่นชมตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อรู้ว่าเขาพร้อม กฤตเมธก็เตรียมการรุกรานเขาอย่างเรียบร้อยแล้ว…

“…ทานล่ะนะครับ…”

“…อื้อ….ตาเฒ่าลามก…”

ทั้งที่กฤตเมธเองก็แทบคิดอะไรไม่ออก ใบหน้าแดงก่ำนั่นทำให้รู้ได้อย่างดีว่าชายหนุ่มกำลังอดทนอยู่แค่ไหน แต่ขนาดที่ยังมีเวลาพูดเล่นได้ ก็แสดงว่ายังไหวอยู่แหละนะ

“อา…อย่าเกรงนะครับยุ…”

“อื้อ…อ๊า….อ๊ะ!”

ส่วนที่เพิ่งว่างเว้นจากนิ้วมือเมื่อครู่ ตอนนี้กำลังเปิดรับแขกผู้มีเกียรติ์ท่านใหม่ ที่กำลังขยับเข้ามาอย่างเชื่องช้า แค่เฉพาะส่วนปลายที่ใหญ่โตนั้นกว่าจะเข้ามาได้ สดายุก็แทบขาดใจได้เสียหลายรอบ ทั้งรู้สึกอึดอัดและรู้สึกหวามไหวแปลกๆ ฝ่ายกฤตเมธเองก็ลมหายใจหอบถี่ พยายามประคองอารมณ์ตัวเองไว้ให้ถึงที่สุด เขาไม่อยากฝืนบังคับ จึงพยายามระมัดระวังและอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อสามารถเข้าไปจนสุด ชายหนุ่มก็ยังพยายามที่จะไม่รีบร้อน กฤตเมธค่อยๆขยับสะโพกช้าๆ พร้อมพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าของสดายุเพื่อเป็นการปลอบขวัญ

“อ๊ะ อื้อ โอ้…อื้อ….”

“…เจ็บหรือเปล่าครับ…ยุ”

ด้วยกลัวว่าจะรุนแรงเกินไป เลยคอยถามไถ่คนใต้ร่างเรื่อยๆ สดายุส่ายหน้ายิกแทนคำตอบ ตอนนี้อารมณ์ของชายหนุ่มเองก็กำลังเดือดพล่าน ความหวามหวานฉีดซ่านไปทั้งร่างจนชาดิก

“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊า…อื้อ…อื้อ…”

เมื่อส่วนเปราะบางในร่างกายถูกรังแกซ้ำๆ สดายุก็ต้องเผลอร้องออกมาอย่างยากจะต้านทาน และเมื่อปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยแล้วเห็นใบหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยความทรมานจากแรงอารมณ์ที่กระพือโหมอยู่ด้วยแล้ว สดายุก็แทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป ความเร่าร้อนอันแสนหวานทำให้เขาไร้สติ ถูกสอดคว้านระหว่างที่ยังเชื่อมโยงกันถึงส่วนลึก ร่างบอบบางโค้งแอ่นเป็นคันศรเกร็งสะท้านรองรับการเคลื่อนไหวที่เร่าร้อนขึ้นทุกขณะ

“อ๊ะ…อย…ม…ไม่ไหว…ไม่ไหวแล้ว….อ๊า…..!!...”

เมื่อถูกชักนำให้ดำดิ่งสู่จุดที่ยากจะแหวกว่ายกลับมา สดายุก็ได้แต่ปล่อยร่างกายและอารมณ์ของตัวเองไปตามแรงปรารถนา…และในทันทีที่เขาปลดปล่อย ก็รู้สึกได้ทันทีถึงแรงระเบิดเล็กๆในร่างพร้อมความอุ่นซ่านที่ถูกปลดปล่อยเข้าสู่ส่วนลึก…พร้อมกับที่ได้ยินเสียงสั่นพร่าของกฤตเมธอยู่ข้างหู…

“…ยุ….ผมรักคุณ…”

*
*
*
*
*

ต่อด้านล่างจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2015 12:29:11 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
“…ยุ….ผมรักคุณ…”

*
*
*
*
*

ร่างเปล่าเปลือยผิวสีน้ำนมค่อยๆลุกขึ้นช้าๆด้วยว่าขัดยอกและเมื่อยขบไปทั้งตัว ลุกขึ้นนั่งได้ก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดท่อนล่างของตนอย่างหมิ่นเหม่เพื่อกันอุจาด พลางเอื้อมมือไปดึงโต๊ะตัวน้อยที่ยังคงมีอาหารอยู่เต็มโต๊ะเข้าใกล้ตัว จ้องมองเค้กก้อนน้อยตรงหน้าเงียบๆ ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักลงไปตรงส่วนท้ายของเค้กขอนไม้ขึ้นมา 1 คำ

…อ้ำ...

"...หวานชะมัด"

แค่คำแรกที่แตะลงบนปลายลิ้น ความหวานก็ซึมซ่านไปทั้งปากอย่างรวดเร็ว จนสดายุอดบ่นออกมาเบาๆไม่ได้ แต่ถึงจะไม่ค่อยชอบของหวานเท่าไหร่นัก กระนั้นก็ยังคงใช้ช้อนตักเค้กก้อนนั้นเข้าปากคำแล้วคำเล่า เวลา 6 โมงเช้าไม่ใช่เวลาที่เขาจะหิว แต่เขาอยากทานเค้ก ทานไปเงียบๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งถึงคำสุดท้าย ชายหนุ่มวางช้อนลง แล้วใช้มือหยิบแผ่นช๊อกโกแลตที่เขียนข้อความ 'HAPPY BIRTHDAY to SADAYU' ขึ้นมากัดทีละคำเล็กๆ ละเลียดทีละข้างทีละข้างจากมุมไปขอบ จนเหลือเพียงข้อความตรงกลางเอาไว้ จ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนส่งใส่ปากทั้งคำ เคี้ยวแล้วก็กลืน...

หลังเก็บเค้กจนไม่เหลือซากแล้วสดายุก็ขยับกลับมาที่เตียงเดิมข้างๆคนที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง จ้องมองใบหน้ายามหลับสนิทของกฤตเมธอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก่อนค่อยๆ เอนตัวลงนอนข้างๆ ซุกกายเข้าหาความอบอุ่นที่ได้รับมาตั้งแต่เมื่อคืน...ความอบอุ่นที่เขาโหยหามานานแสนนาน

"...คุณมันเพี้ยนไปแล้ว กฤตเมธ..."

พอกลับมานอนประจำที่ ได้หนุนท่อนแขนกำยำของกฤตเมธ ได้จ้องมองใบหน้ายามหลับใหลของเจ้าของวงแขน ได้ลองใช้ปลายนิ้วสัมผัสเบาๆไปตามสันกราม โหนกแก้ม สันจมูก พอไต่นิ้วไปจนถึงหว่างคิ้วก็ละลงมาที่ปลายคาง แล้วจบลงที่ริมฝีปาก 

"...และคุณ...กำลังจะทำให้ผมเพี้ยนไปด้วย..."

พูดจบก็ค่อยๆสวมกอดเอวสอบของร่างสูงเบาๆ ซุกกายเข้าหามากขึ้น และดูเหมือนผู้ถูกกระทำจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาครู่หนึ่ง สาดยุจึงถูกสวมกอดกลับในทันที

"อืม...อ้อนอะไรแต่เช้าหือ...เด็กดื้อ..."

พอหันมาสวมกอดสดายุเอาไว้ได้ กฤตเมธก็งัวเงียขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มพร่าที่แสนจะเซ็กซี่ ร่างใหญ่บรรจงจูบหน้าผากของคนในอ้อมแขนเบาๆ ก่อนจะนิ่งค้างไปพร้อมเสียงผ่อนลมหายใจบางๆ เป็นสัญญาณว่ากฤตเมธหลับต่อไปเรียบร้อยแล้ว

"...ตาแก่หื่นเอ้ย...คุณทำแบบนี้แล้วผมจะอยากปล่อยมือจากคุณเหรอ?"

เสียงแหบหวานของสดายุเอ่ยตัดพ้อเจ้าของอ้อมกอดเบาๆ

"มาทำให้เคยชินกับอ้อมกอดอุ่นๆขนาดนี้ แล้วถ้าวันที่ต้องแยกกันมาถึงผมจะทำใจห่างจากคุณไปได้ยังไงล่ะทีนี้..."

ถึงจะบ่นแต่สดายุก็ยังไม่ยอมผละจากอ้อมกอดของกฤตเมธ แม้จะยังบ่น แต่ริมฝีปากนั้นก็ยงคงเต็มไปด้วย...รอยยิ้ม...

"...ไอ้คนใจดำ..."

เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน
เงียบๆคนเดียวและไม่อยากตื่นขึ้นพบใคร
เพราะว่าใจก็ยังเสียดาย
ที่ฝันดีๆกำลังจะจบและหายไป

ภาพที่ฉันได้เป็นดั่งคนที่เธอรัก
ช่างเป็นอะไรที่ประทับใจ
อยากซึมซับนานๆและเก็บไว้
ไม่ให้มันผ่านไป

อยากหลับตาอยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น
ฝันถึงเธอเรื่อยไป
เพราะว่าความจริง ไม่มีทางใด
ทำให้เราได้รักกัน
ทำได้แค่นั้น ทำได้แค่นี้
ทำได้เพียงแค่ฝัน
ต้องหลอกตัวเอง ฝันไปวันๆ
ไม่มีทางที่ฝันมัน(จะ)เป็นจริง

...อ้างอิง  ‘เพลงเรื่องบนเตียง’ บอย พีชเมกเกอร์


*
*
*
*
*

ภาพยนตร์ในส่วนของมัลดีฟส์ทั้งหมดในที่สุดก็จบลงตามกำหนดการ สองสัปดาห์หลังจากปาร์ตี้วันเกิดแสนหวานทีมงานทุกคนขึ้นเครื่องกลับประเทศไทยบ้านเกิดเมืองนอนกันอย่างพร้อมหน้า คิดถึงบ้านเหลือเกินแล้ว เพราะในช่วงเวลาสามเดือนเต็มบนเกาะมัลดีฟส์แม้ดาราหรือทีมงานบางคนจะมีบินไปๆกลับๆ แต่บางคนก็ต้องอยู่โยงยาวสามเดือนเต็ม

เดินทางกลับด้วยสายการบินประจำเมืองหลวงไฟลท์ PG0712 เป็นเครื่อง Aircraft Type : 319 เครื่องเล็ก ที่มีเพียงแถวละสามที่นั่งสองแถวเท่านั้น เครื่องออกจากเมืองหลวง มาเลย์ของมัลดีฟส์ตอนเที่ยงสี่สิบนาที และจะทยานถึงสุวรรณภูมิเวลาประมาณทุ่มตรง และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเสียที ทันทีที่เครื่องแลนดิ้งลงสู่สนามบินประจำชาติ ทุกคนก็ดูเหมือนจะเร่งร้อนกว่าเวลาปกติ ผ่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าและสัมภาระหนักอึ้ง ทั้งลากทั้งเข็นออกมาจนถึงจุดรอรับที่มีญาติบ้างคนรู้จักบ้างมารอรับอยู่พร้อมหน้า หลายคนตรงกลับบ้าน หลายคนมีที่แวะ อย่างน้อยก็เหล่าตากล้องช่างไฟของทีมถ่ายละครล่ะ ที่ต้องเข้าสตูดิโอก่อน

"ถึงบ้านแล้ว หายเหงายัง?"

กฤตเมธเอ่ยถามสดายุขึ้น ขณะที่กำลังแบกกระเป๋า เข็นสัมภาระกันออกมาด้านนอก ตัวติดกันมาตลอดตั้งแต่อยู่มัลดีฟส์ ขึ้นเครื่องก็นั่งด้วยกัน ลงจากเครื่องแล้วก็เข็นสัมภาระออกมาคู่กันอีก นี่ถ้าตามกลับบ้านได้ เชื่อว่ากฤตเมธคงไม่รอช้า

"...เพิ่งจะสนามบินเองคุณ ยังไม่ถึงบ้านเสียหน่อย..."

สดายุตอบออกไปขำๆ ตั้งแต่วันนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกฤตเมธดีขึ้นมาก ขนาดที่ว่าอ๊อดยังทักอยู่บ่อยๆ เพราะสองอาทิตย์สุดท้ายที่ต้องเข้าฉากพระนางหวานหยดนั้น กฤตเมธและสดายุเล่นออกมาได้ดีมาก สมจริงสมจังสุดๆ เล่นเอาหวานเลี่ยน เบาหวานขึ้นตากันไปทั้งถ่าย น่าเห็นใจสุดๆ

"ผมไปส่งมั้ยครับยุ ผมให้ที่บ้านเอารถมาฝากไว้ให้แล้ว"

(นั่นไง...วางแผนตามถึงบ้านจริงๆด้วย)

"...ไม่เป็นไรครับ พี่บลูม่ามารับแล้ว"

"...อ๋อ...โอเคครับ"

พอได้ยินว่าสดายุมีคนมารับ กฤตเมธก็เสียงสลดลงทันที ออกอาการผิดหวังสุดขีดจนน่าสงสาร ทำเอาสดายุถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ เพราะเขาแพ้ทางเวลาคนแก่งอนที่สุดเลย

"ฮะฮะ...โอเคๆ คุณเมธคนดีของผม ผมให้คุณไปส่งก็ได้ เดี๋ยวผมบอกพี่บลูม่าเอง"

"...จริงเหรอ?"

พอถูกตามใจเข้าหน่อย ผู้คงแก่พรรษาก็หันมาหรี่ตาใส่เด็กน้อยอย่างผู้มีชัย ก่อนจะอมยิ้มหวานแล้วเข็นกระเป๋าสัมภาระของตนและของสดายุตรงลิ่วไปที่ลานจอดรถทันที ฝ่ายสดายุก็ได้แต่ส่ายหน้า

ท่าทางเริงร่าจนสดายุต้องส่ายหน้ายิก 'แบบนี้มันเฒ่าทารกชัดๆ'

"ฮัลโหลพี่บลูม่าตอนนี้อยู่ไหนครับ?"

"อ๊ะ น้องยุพี่อยู่ตรงทางออกที่สี่น่ะค่ะ วนรถรออยู่เลย"

พอตัดสินใจได้ว่าจะให้กฤตเมธไปส่ง สดายุก็รีบโทรหาบลูม่าที่อุตส่าห์โทรนัดให้มารับทันที รู้สึกผิดกับผู้จัดการคนดีของตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่อยากขัดใจกฤตเมธ เอาเข้าจริง เพราะสดายุเองก็ยังไม่อยากห่างจากชายหนุ่มคนสำคัญด้วยเหมือนกัน ก็จะให้ทำอย่างไรล่ะ มันยังติดนิสัยต้องนอนกอดกันอยู่นี่ เพราะตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องนอนด้วยกันทุกคืน...มันก็เลยติด

ถึงจะรู้ว่าต้องรีบปรับตัว เพราะหลังจากนี้คงต้องห่างๆกันบ้างแล้ว...แต่ขอวันนี้อีกวันแล้วกันนะ

"เอ่อ...ขอโทษครับพี่บลูม่า...คือยุมีคนไปส่งแล้ว ขอโทษจริงๆนะพี่กลับก่อนได้เลยครับ"

"อ้าวจริงดิ? ใครจะไปส่งเหรอยุ?"

น้ำเสียงแสดงความสงสัย แต่ดูเหมือนบลูม่าเองก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรที่โดนผิดนัด แถมยังต้องมาวนรถรออยู่ตั้งนานสองนาน

"...เอ่อ...เดี๋ยวคุณเมธเขาจะไปส่งให้ครับ"

พอต้องบอกว่าใครเป็นคนไปส่งนี่ก็เล่นเอาสดายุพูดไม่ค่อยออก แต่ก็ไม่อยากมีความลับกับบลูม่าผู้จัดการส่วนตัวที่เขาทั้งรักและไว้ใจ เพราะแค่เขาปิดเงียบไม่ยอมเล่าเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับกฤตเมธให้เจ้าหล่อนฟังสดายุก็แอบรู้สึกผิดอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน

"...ห๊ะ? ใครนะคะน้องยุ? เอ่อ...พี่ฟังไม่ค่อยถนัด..."

บลูม่าย้อนถามอีกครั้งเหมือนไม่ค่อยแน่ใจว่าชื่อที่ได้ยินมานั้นถูกต้อง สดายุเข้าใจในคำถามนั้นทันที เพราะเป็นใครก็คงตกใจจนต้องถามซ้ำกันทั้งนั้น หรือต่อให้ฟังถนัดชัดเจนยังไง ก็ต้องคิดว่าเป็นชื่อเดียวกันแต่คนละคนอย่างแน่นอน ในเมื่อความทรงจำที่เคยมีเกี่ยวกับสดายุและกฤตเมธก็คือ 'คนสองคนที่เหม็นขี้หน้ากันสุดๆ' และนั่นมันย่อมเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่จะรับส่งกันถึงบ้าน!

"คุณเมธครับ...เอ่อ...คุณกฤตเมธ พระเอกของผมนั่นแหละ..."

"ต๊ายยยยยยย!! ตายแล้วตายๆๆๆ!!! คุณน้องคะ เป็นไงมาไงคะ!? เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!!"

"เอ่อ...เราสนิทกันตอนถ่ายหนังน่ะครับ ก็ปกติเอาเป็นว่าในส่วนของรายละเอียดยุค่อยเล่าให้ฟังนะครับพี่บลูม่า"

"อัยย๊ะ อกอีแป้นแล่นลึก ไม่นึกเลยค่ะว่าจะมาลงอีหรอบนี้...แหม...เก็บเงียบเลยนะน้องยุ ไม่เห็นเล่าให้พี่ฟังเลยว่าดีกันแล้ว"

ถัดจากตกใจ เสียงกระเซ้าเย้าแหย่ตามสไตล์ของบลูม่าก็ตามมาติดๆ

"อยากบอกอยู่หลายทีแล้วเหมือนกันครับ แต่เห็นว่าพี่น่าจะยุ่งๆ เลยไม่บอกดีกว่า ฮะฮะฮะ..."

"หือออออ! ใจร้ายเกินไปแล้วนะคะน้องยุ! เดี๋ยวเจอกันเรามีอะไรต้องคุยกันเยอะเลยนะคะ เตรียมใจไว้ได้เลยค่ะคุณน้อง!"

"ฮ่าฮ่า โอเคครับ แล้วเจอกันนะครับ บายครับ"

สดายุขอตัววางสายเมื่อเดินตามกฤตเมธมาถึงที่จอดรถ บลูม่ายอมถอนตัวกลับแต่โดยดี แต่แอบมีการคาดโทษเล็กน้อยว่าพรุ่งนี้ต้องเจอ เพราะมีเรื่องต้องเคลียร์ (เคลียร์ความคิดถึงล้วนๆ) หลังเก็บสัมภาระทั้งหมดขึ้นบน บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอ็กซีรี่ย์สปอร์ตสีขาววาววับแล้ว กฤตเมธกันหันมาอัญเชิญสดายุขึ้นไปประดับเป็นตุ๊กตาหน้ารถคู่กับตนที่เป็นคนขับทันที ถามไถ่เส้นทางเสร็จสรรพก็ขับรถบึ่งออกจากสนามบิน

คอนโดของสดายุอยู่ย่านบางนา ไม่ได้ไกลจากสนามบินมากนัก ขับรถมาไม่นานก็ถึง คอนโดสวยสูงประมาณ 30 ชั้น โดยสดายุอยู่ขั้น 23 ของตึก คอนโดห้องนี้สดายุซื้อไว้ตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ แต่พอช่วงดังมากๆ เขาไปซื้อคอนโดอยู่ใหม่ตรงใจกลางเมือง ชั้นบนสุด ไฮโซสุด ดูดีที่สุด แต่หลังจากตกอับ ก็ต้องขายทิ้งอย่างไม่มีศักดิ์ศรี แล้วย้ายตัวเองกลับมาอยู่คอนโดนห้องน้อยชานเมืองห้องนี้แทน คิดถึงตอนนั้นขึ้นมาทีไร สดายุก็ได้แต่แค่นหัวเราะในใจทุกที 'หัวเราะกับชีวิตเน่าๆของตัวเอง'

"ที่นี่ห้องกว้างดีเหมือนกันนะเนี่ย ดูสบายตาดีจัง"

พอขึ้นมาถึงห้องของสดายุได้ กฤตเมธก็เอ่ยปากชมเปาะกับความเรียบร้อยของห้องชายโสด ที่น่าจะรกกว่านี้กลับสะอาดสะอ้านน่ามอง

"หึหึ...อยากมาอยู่หรือไง ห้องข้างบนยังว่างนะครับ ราคาสูงหน่อย แต่คุณคงซื้อเงินสดได้สบายๆอยู่แล้วล่ะ"

"...นี่ชวนมาอยู่ด้วยเลยเหรอครับ ผมเขินนะ"

".................." -*-

โดนมุกคนแก่สวนกลับเข้า สดายุเลยหุบปากฉับ ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงจนเพลี่ยงพล้ำให้เจ็บใจเล่นอีก อยู่กันมาสักพักสดายุก็เริ่มจับทางกฤตเมธได้แล้วว่าตาแก่ที่ชอบแอ๊บด็กคนนี้แสบแค่ไหน ดังนั้นเขาเลือกที่จะถนอมตัวไม่หือไม่อือแบบนี้เป็นการดีที่สุด

"หึหึ งอนซะแล้วเหรอ? ผมแค่แซวเล่นนิดเดียวเองนะ"

ถึงจะเห็นว่าสดายุเงียบไป แต่กฤตเมธก็ยังคงแซวต่อ เพราะเขาเองก็จับทางของสดายุได้เหมือนกันว่าสดายุเป็นคนที่หากเมือ่ไหร่ตัวเองรู้สึกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ก็จะถอนตัวจากสมรภูมิทันที แล้วมีหรือคนอย่างกฤตเมธจะยอม 'ถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ยอมให้หนีง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ'

"อะไรกันคุณ เดี๋ยวนี้ถึงเนื้อถึงตัวเหลือเกินนะครับ"

สดายุแขวะออกไปทันทีที่โดนสวมกอดจากด้านหลังขณะที่ยังรื้อของกินของฝากออกจากกระเป๋าที่ยังตั้งอ้าซ่าอยู่บนโซฟา แต่ก็แค่นั้นเพราะยังไงคนตัวยักษ์ข้างหลังก็ยังกอดไม่ยอมปล่อยอยู่ดี

'ข้าวใหม่ปลามันก็อย่างนี้แหละน๊า...'

"ปล่อยผมก่อนคุณเมธ ผมหิวข้าวอ่ะ จะไปหาอะไรกินก่อน"

เมื่อแกะมือปลาหมึกมือตุ๊กแกไม่ไหวก็ต้องใช้วิธีโอดครวญอย่างอื่นเพื่อสร้างความเห็นอกเห็นใจจากเจ้าของวงแขน แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะสดายุเองก็หิวจริงๆเนื่องจากตั้งแต่ออกจากสนามบินก็ตรงดิ่งกลับบ้านเลย เริ่มชักจะหิวขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ผู้กำกับขอร้องให้เขาเพิ่มน้ำหนักขึ้นสักหน่อยก่อน เพื่อถ่ายทำฉากย้อนอดีต ก่อนที่ขอให้ดัมพ์ลงต่อเนื่องเพื่อฉากป่วย ฉากย้อนอดีตบางฉาก เขาถ่ายทำไปบ้างบางส่วนแล้วโดยเฉพาะในส่วนที่ต้องเล่นคู่กับกฤตเมธ แต่เพราะพี่อ๊อดต้องการให้ภุมราสมัยมหาวิทยาลัย เป็นหนุ่มร่างผอมบางจึงรอให้เขาลดน้ำหนักลงอีกหน่อยก่อนซึ่งในตอนที่ถ่ายทำตอนแรกกล้ามเขายังฟูเกินบทอยู่ แต่ตอนนี้ก็เพรียวเกินบทไปเยอะเช่นกัน ดังนั้นพี่อ๊อดเลยให้เขาเพิ่มน้ำหนักในช่วงนี้เพื่อถ่ายเพิ่มเติมในฉากย้อนอดีตแทน การเพิ่มลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากของสดายุ เพราะมันเป็นหน้าที่หนึ่งของนักแสดงที่ต้องแสดงในบทบาทต่างๆอยู่แล้ว...

ถึงแม้ว่า...คนที่สวมกอดเขาอยู่ตอนนี้จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะเป็นห่วงสุขภาพเขาเหลือเกินก็เถอะ... (คิดแล้วก็แอบอมยิ้มเล็กๆ)

"...ผมหิวจริงๆนะ"

สดายุย้ำขึ้นอีกทีเมื่อเห็นว่าคนตัวใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยมือ

"ในตู้เย็นคุณมีอะไรบ้างล่ะ?"

จู่ๆกฤตเมธก็ถามถึงตู้เย็น สดายุก็ได้แต่ขมวดคิ้วสงสัย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบๆไปตามความจริง

"...จะไปมีได้ยังไงล่ะคุณ ผมไม่อยู่ตั้งสามเดือนนะ ขืนมีไว้ก็คงเน่าหมดแล้วล่ะ""

"...จริงด้วย เฮ้อ...ไม่อยากออกไปข้างนอกแล้วนี่ครับ สั่งมาทานที่ห้องได้มั้ย?"

"ผมไปซื้อให้ก็ได้นะ ข้างล่างมีอาหารตามสั่งขาย...เอ้อจริงสิ!...เขามีบริการส่งด้วย อยากทานอะไรบ้างคุณ เดี๋ยวผมสั่งให้ ร้านนี้ปิดตั้งเที่ยงคืน"

"จริงเหรอคุณ? มีเมนูเด็ดๆอะไรบ้าง ตอนนี้ผมอยากทานอาหารไทยมากเลยนะ เอาแบบเข้มข้นๆหน่อย ทานแต่อาหารไม่คุ้นปากอยู่ตั้งสามเดือน คิดถึงต้มยำจะแย่แล้วล่ะ"

พอรู้ว่าสั่งมาทานที่ห้องได้ กฤตเมธก็ยิ้มย่อง จ้องจะออร์เดอร์ของที่ชอบเป็นการใหญ่ จนสดายุยังต้องหัวเราะเยาะออกมาไม่มียั้ง

"ฮ่าฮ่า...คุณนี่อย่างกับเด็กแน่ะ ตื่นเต้นกับเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ หึหึ ว่ามาอยากทานอะไรเดี๋ยวผมโทรไปสั่งให้เดี๋ยวนี้เลย"

เห็นคนข้างกายมีความสุขสดายุก็ดีใจ เขาจดรายการอาหารที่กฤตเมธอยากทาน ก่อนจะโทรไปออเดอร์ร้านข้าวร้านประจำ จากนั้นก็จัดโต๊ะรออย่างใจจดใจจ่อ

และแล้ว...เมื่อเวลาผ่านไปได้ราวๆ 40 นาที

ในที่สุดกับข้าวถุงเล็กถุงน้อยก็มารอเสริฟอยู่ถึงหน้าห้อง สดายุรับอาหารทั้งทหมดมาแกะใส่จานที่วางรออยู่บนโต๊ะ โดยมีกฤตเมธเป็นลูกมือคนขยัน และจากนั้นก็ถึงเวลาลงมือทานกันอย่างเอร็ดอร่อย

"อื้ม...อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆด้วย"

"เห็นมั้ยล่ะ ป้าเจ้าของร้านน่ะเขาเป็นเชฟอาหารไทยในภัตคารของโรงแรมมาก่อน ผมรับรองได้เลยว่าฝีมือป้าเขาไม่แพ้ใครในสยามประเทศแน่นอนครับ”

"ว๊าว...ฮ่าฮ่า ขนาดนั้นเชียว"

บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ทำให้สองหนุ่มทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย และที่ทานกันไม่ขาดคำขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเพราะห่างอาหารไทยไปนาน หรือว่าเพราะหิวมากกันแน่

"เออ ยุครับ...พี่อ๊อดเขาให้คุณเพิ่มน้ำหนักกี่กิโลน่ะ?"

ระหว่างที่กำลังสนุกสนานกับการทานอาหารรสชาดที่คิดถึงอยู่นั้นจู่ๆกฤตเมธก็ไถ่ถามขึ้น เพราะวันนี้ดูสดายุจะเจริญอาหารมากกว่าปกติ ทั้งที่ตอนอยู่ที่มัลดีฟส์ ชายหนุ่มแทบไม่แตะมื้อเย็นเลยด้วยซ้ำ

“ประมาณ 5 กิโล”

“เหรอ แล้วนี่ได้กี่กิโลแล้วครับ?”

“…อืม…ผมยังไม่ได้ชั่งเลยเหมือนกัน คิดว่าคงได้แค่กิโลสองกิโลเองละมั้งครับ…?...”

พอสดายุพูดจบก็ถูกมือของกฤตเมธเอื้อมมาลูบศีรษะเบาๆ พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและเอ็นดู

“งั้นทานเยอะๆนะครับ ผมอยากให้คุณมีน้ำมีนวลกว่านี้…”

“…………..ทำไม?...”

ใบหน้ากรุ้มกริ่มเกินคำว่าห่วงใยไปนิดหน่อยทำให้สดายุต้องถามถึงเจตนาแอบแฝง เพราะดูท่าทางตาลุงตรงหน้าเขาจะเริ่มมีนัยยะซ่อนเร้น และทันทีที่ได้ยินคำถามของสดายุกฤตเมธก็หัวเราะเริงร่าทันที ‘มีเจตนาแอบแฝงจริงๆด้วย’

“ฮ่าฮ่า…รู้ทันนะคุณเนี่ย ผมไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ แค่อยากให้คุณดูมีเนื้อขึ้นหน่อย ตอนนี้มันผอมเกินไป”

“……….แค่นั้น?...”

“…ก็ถ้ามีเนื้อกำลังน่ารัก…เวลากอดจะได้เต็มไม้เต็มมือไงครับ”

“……………….ตาลุงลามก”  =*=

พอเฉลยความในใจก็โดนสดายุแขวะเอาตามคาด กฤตเมธหัวเราะร่าถูกใจทันที น่ารักเหลือเกินนางเอกของเขา ยิ่งนานวันก็ยิ่งน่ารัก แม้ตอนแก่นกะโหลกเหมือนที่เจอตอนช่วงแรกๆจะกวนประสาทไปหน่อย แต่พอได้สัมผัสจริงๆจังๆแล้วก็เข้าใจเต็มที่เลยว่า แท้จริงแล้วเป็นคนไร้เดียงสาและขี้อายกับเรื่องรักๆใคร่ๆมากแค่ไหน พอโดนต้อนให้จนมุมเข้าหน่อยก็จะหน้าแดงแล้วเฉไฉทำหน้าดุเพื่อกลบเกลื่อนทั้งที่พอเผลอก็จะแอบอมยิ้มโดยไม่รู้ตัวทันที…อย่างตอนนี้ก็เหมือนกัน

“หึหึ…ผมก็อยากตามใจคุณนะ แต่ผมอ้วนกว่านี้มากไม่ได้หรอกคุณ ขืนปล่อยตัวขึ้นจนหยุดไม่อยู่ กว่าจะเอาลงได้ก็ตายกันพอดี อย่าลืมสิอีกสองเดือนผมต้องดัมพ์มันลงอีกหลายกิโลนะครับ”

เหตุผลของสดายุจริงจังเกินไป จนกฤตเมธยังต้องนิ่วหน้า บังคับน้ำหนักขึ้นๆลงๆในเวลาสั้นๆแบบนั้นมันค่อนข้างอันตรายต่อสุขภาพพอสมควร ถึงจะเข้าใจว่ามันเป็นงาน แต่ก็อดเป็นห่วงสดายุไม่ได้

“…ยุครับ แล้วคุณจะไหวเหรอ?...”

คำถามคราวนี้แฝงความห่วงใยชัดเจน จนสดายุรู้สึกได้ และนึกขอบกฤตเมธอยู่เสมอที่คอยเป็นกำลังใจดีๆให้

“หึหึ…ไหวอยู่แล้วละครับ ผมยังฟิตน่า”

“…อย่าฝืนนักนะครับ ไม่ไหวต้องรีบบอกนะ ผมเป็นห่วง”

“……………” ( -/////- )

ถึงจะชอบที่ถูกห่วงใย แต่ถ้ามากไป….ก็เขินเป็นเหมือนกันนะ…

“พูดเยอะนะคุณเนี่ย รีบทานไปครับจะได้รีบกลับ ผมอยากพักผ่อนจะแย่แล้ว”

เมื่อเฉไฉไม่ไหวก็ต้องไล่กันดื้อๆ เพราะสดายุมั่นใจเหลือเกินว่าหากยังขืนปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่ร่วมห้องกันต่อไปล่ะก็ น้ำตาลในเลือดของเขาอาจถึงจุดวิกฤต แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมง่ายๆเสียแล้ว

“อะไรกันคุณ ใครว่าผมจะกลับกัน? ผมเหนื่อยจะแย่ ง่วงด้วย ขับรถไม่ไหวหรอก นอนนี่แหละ ไหนๆพรุ่งนี้ก็อุตส่าห์ได้หยุดตั้งหนึ่งวัน ผมจะนอนให้ถึงเย็นเลย”

“เฮ้ยคุณเมธ? ตะแบงจะนอนที่นี่เนี่ย คุณถามความเห็นผมหรือยังครับ? ได้ข่าวว่าเจ้าของห้องยังไม่ได้เชิญนะ”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายตีมึน จะค้างอ้างแรมกันดื้อๆ สดายุเลยต้องปรามลงเสียหน่อย ผู้ใหญ่อะไร เอาแต่ใจชะมัด

“แต่เราเคยอยู่ด้วยกันทุกคืน ถ้าคืนนี้ผมทิ้งคุณไว้ แล้วคุณจะอยู่คนเดียวได้ยังไง…จริงมั้ย?”

ถึงจะแขวะไปแล้วก็ดูเหมือนจะไม่ระคายผิว เพราะกฤตเมธยังคงลอยหน้าลอยตาหยอดคำหวาน(เข้าข้างตัวเอง)ไม่เลิก

“เฮ้อ…ผมอยู่คนเดียวได้ครับ” (สดายุ : สีหน้าหนักแน่นจริงจัง)

“จริงเหรอคร๊าบ…”  (กฤตเมธ : ยื่นหน้าเข้ามาหาด้วยสายตากรุ้มกริ่มพร้อมส่งยิ้มหวานร้ายให้ไม่ขาด)

“เออๆ จะค้างก็ค้าง รีบกินข้าวไปเลยคุณ หึหึ” ( = _ = )

สุดท้ายก็ต้องยอมให้ค้างด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ เล่ห์คนแก่ใช้ได้ผลเสมอจริงๆ

แม้จะดูเหมือนระอาลูกตื้อของกฤตเมธเล็กๆ แต่ความจริงแล้วหัวใจของสดายุพองโตมาก มีความสุข และอบอุ่นมากเหลือเกิน ยิ่งได้เห็นกฤตเมธยิ้มให้ ยิ่งถูกสัมผัสร่างกายอย่างอ่อนโยน ยิ่งอยากเกาะติด ยิ่งอยากเก็บเอาไว้คนเดียว…

…อยากให้เวลานี้คงอยู่ตลอดไป…

…อยากจดจำทุกวินาที และตักตวงให้มากกว่านี้…

…เวลาได้โปรดเดินช้าๆ…ขอเวลาให้ได้มีความสุขนานขึ้นอีกหน่อย

…ได้โปรด…



********************************************************************
อุ๊ย…มาม่ายังไม่สุกจ๊ะ รอต่อไปอีกนิดนะจ๊ะ
ช่วงนี้กินบัวลอยน้ำขิงไปก่อนก็แล้วกันเนอะ

 :katai2-1:

ปล. สมมติว่าเป็นเค้กวันเกิดของน้องยุเราก็แล้วกันเนอะ
(หารูปเค้กขอนไม้เจ๋งๆไม่ได้ เอาอันนี้ไปก่อนแล้วกันค่ะ)
เครดิต : Google เจ้าเดิมจ๊า


[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-03-2014 06:16:07 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
^
^
^
 :z13: :z13: :z13: จิ้มไว้ก่อนนนนน

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
ไม่อยากทานมาม่าเลย มันบาดคอบาดจิต
อยากให้อารมณ์มุ้งมิ้งอย่างนี้เรื่อยไป

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวานอีกแล้ว อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป ไม่ชอบกินมาม่า อิอิ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เค้าไม่อยากกินมาม่า....โซเดียมเยอะ XD

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
อารมณ์เหมือนสงบก่อนพายุจะเข้านะเนี่ยย
อย่าคิดมากนะยุ ดูสิลุงเมธ?แกออกจะรักจะห่วงใยขนาดนี้
อย่าต้มมาม่าให้เค้าเลยยยน่า บัวลอยน้ำขิงก็อร่อยแล้ววว :mew2:

หวานกันแบบนี้น่ารักอะ ชอบความใส่ใจของเมธและความซึนเล็กๆของยุ
น่ารักมาก รักกันๆ อย่าคิดมากเลย o13

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
นี่คือหวานก่อนมาม่าจะมาใช่ไหมมมมมม
 :hao5:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อันที่จริงไม่อยากกินมาม่าหรอกแต่คนเขียนบังคับอะ อยากกินบัวลอยน้ำขิงอะ.  :ling1:  น้องยุเวลาอ้อนน่ารักมากกกกกเลย อย่างนี้ตาแก่คงไปไหนมะรอด อิอิ แต่อย่างว่ากลับมาเมืองไทยหูตาอย่างกะสับปะรส คิดถึงอนาคตแล้วเครียดแทนน้องยุจริง สงสัยคงต้องรอกินมาม่าจริงละมั้งเนี่ย

 :3123:  เป็นกำลังใจให้น้องยุและตาแก่ลามก ดูแลน้อยยุดีๆนะ ถ้าน้องยุเสียน้ำตานะ  :z6:  แล้วจะหาว่าไม่เตือน 555

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
หวานๆๆๆๆ  จนไม่อยากเจอดราม่าเลยอ่าา :ling3:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
แง้ อย่าเอามาม่ามาเลยT^T

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
โอ้ ! ชอบบัวลอยน้ำขิงที่สุด เมธยุมุ้งมิ้งน่ารักสุดๆ :-[

โดยเฉพาะเรื่องบนเตียงหวานจัง อ่อนโยนมากเลย
 
 :กอด1: นักเขียน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องยุน่ารักมากเลยช่วงนี้

อยากให้น้องยุมีความสุขมากๆๆๆ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Minnie~Moo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
เหมือนจะใกล้มีมาม่าชามใหญ่ให้กินยังไงไม่รู้  :katai1:

ออฟไลน์ title

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ไม่เอา มาม่า ได้ไหมเนี่ย.  :-[  :-[  :-[

ออฟไลน์ nuwi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หวานกันจังเลย  :katai4: :katai4:
 :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ Pine_apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เค้กหวานดราม่า(กำลัง)หยด  :hao5:

ออฟไลน์ ipookza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
  :hao5:  :hao5: เกลียดมาม่า ไม่อยากได้  :katai1:  :katai1: กำลังน่ารักเลยอะ
ถ้ามีมาม่า ของชามเล็กๆนะมานิดเดียวพอ  :hao5:  :hao5:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
แพ้ทางตลอด555

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
หวานนนนนนนนนนนนไม่อยากให้ดราม่าเลย โธ

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
อยากกินบัวลอยไปเรื่อยๆ
มาม่านี่กินที่บ้านทุกวันแล้ว 555

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ม่ายอยากกินมาม่า ฮืออออ
แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วเนาะะะะะะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
มาม่าไม่มีวันสุกเลยได้ไหมเนี่ย  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด