ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 23 (หวานระยะสุดท้าย)หลังจากกลับมาถึงเมืองไทยได้สองวัน การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 'สุดปลายทางของหัวใจ' ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ในส่วนของช่วงย้อนอดีต การแอ๊บหน้าเด็กน้อยของสดายุผ่านฉลุย เพราะใบหน้าของชายหนุ่มอ่อนเยาว์อยู่แล้ว และยิ่งดูเด็กขึ้นมากเมื่อรูปร่างผอมบางลง หนักใจก็ตรงกฤตเมธที่ไม่ว่าจะแต่งแต้มยังไง ความหล่อเหลาสมวัยเต็มหนุ่มก็เด่นจรัสเกินกว่าจะกลบให้ดูเป็นหนุ่มรุ่นๆหน้าตาธรรมดาๆได้ สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลย ทำผมรองทรงสั้นปรกหน้าเล็กน้อย ใส่แว่นเพื่อกลบความหล่อเทพ แต่งตัวเซอร์หน่อยให้สมกับเป็นเด็กหนุ่มชมรมถ่ายภาพ ผู้ที่ต้องพกกล้องอย่างดีราคาเรือนแสนติดตัวตลอดเวลา แต่งออกมาก็ยังพอถูไถดูเด็กกว่าวัยไปหน่อย ยิ่งพอเล่นเข้าคู่กับสดายุ ก็ยิ่งดูเข้ากันสุดๆ (ฟินกันไปอีกรอบ)
"ตายแล้ว น้องยุคะ แต่งแบบนี้แล้วดูไม่ออกเลยค่ะว่าอายุเกิน นี่ถ้าไม่รู้จักนะให้ตายก็ไม่มีใครนึกหรอกค่ะว่าไม่ใช่เด็กมหาลัย ดูเด็กอย่างกับเด็กอายุ 19 แน่ะค่ะ คิก คิก คิก"
"...ฮะฮะ ขอบคุณครับพี่จิ๋ม"
"ต๊ายยยย คิก คิก คิก"
เสียงหัวร่อต่อกระซิกน่าหมั่นไส้ของช่างแต่งหน้าสาวที่กำลังฉอเลาะนักแสดงหนุ่มรูปงามอยู่นั้นเล่นเอาทีมงานหลายคนถึงกับส่ายหน้า (ออกแนวรำคาญเสียงแหลมๆของนางเหลือเกิน) ทั้งที่เมื่อก่อนออกจะจงเกลียดจงชังคอยเสียดแทงกระแนะกระแหนสารพัด แต่ตอนนี้กลับกางปีกปกป้องเป็นแม่ไก่แก่ ใครอย่าได้มาว่าร้ายสดายุในดวงใจของนางเชียว นางด่ากราดไม่ไว้หน้า เฮ้อ..คนเรานี่นะก็ช่างง่าย แค่เจอรอยยิ้มกระชากใจของสดายุเข้าไปหน่อย นางถึงกับขายวิญญาณให้เลยทีเดียว -*-
"เอ้า ยุ เมธ พร้อมลุยซีนสุดท้ายกันหรือยัง?"
เสียงอ๊อดตะโกนเรียกมาแต่ไกล ให้สองหนุ่มพระนางเตรียมพร้อมเข้าฉากสุดท้ายของวัน ซึ่งเป็นแค่ฉากพูดคุยกันธรรมดา ฉากนี้เป็นฉากที่นคินทร์สารภาพความในใจต่อภุมราที่หลงรักตัวเองมาตลอดว่า ชายหนุ่มนั้นกำลังหลงรักเพื่อสาวอีกคนที่ชื่อว่าฝ้าย นคินทร์ที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักนั้นแสนจะมีความสุข เล่าไปก็เขินไป แต่ภุมราที่กำลังอกหักยับเยินนั้นต้องแสร้งยิ้มและยินดีกับเพื่อนรักอย่างน่าสงสาร ฉากนี้ไม่ได้ยากเท่าไหร่ก็จริง แต่ก็ต้องให้เวลาทั้งสองหนุ่มทำอารมณ์กันครู่หนึ่ง
"เออ พอดีเลยก่อนถ่ายทำพี่ขอแนะนำนักแสดงอีกคนก่อนนะ แตงกวามาทางนี้หน่อย"
"ค่ะพี่อ๊อด"
ก่อนจะได้เตรียมถ่ายต่อ พอดีว่าอ๊อดมีนักแสดงใหม่มาแนะนำพอดีจึงเรียกสองหนุ่มกฤตเมธสดายุมาทำความรู้จักก่อน ภาพหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนคลายๆที่ปลายผมยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าเรียวเล็กปากนิดจมูกหน่อย ดวงตากลมสวยหยาด แก้มสีชมพูระเรื่อเข้ากับสีปากชมพูฉ่ำวาวด้วยลิปกลอสสีสวย รูปร่างบอบบางแขนขาเรียวขาวราวกับสีน้ำนม ตัวเล็กที่ดูจากส่วนสูงแล้วคงราวๆปลายคางของสดายุเท่านั้น...ดูดีราวกับนางฟ้า
"นี่แตงกวานะ รับบทเป็นฝ้ายเดี๋ยวน้องเขาจะมาร่วมถ่ายทำกับพวกเราวันพรุ่งนี้ พอดีวันนี้น้องมันว่างเลยแวะเข้ามาทักทายพวกเราก่อนยังไงก็ดูแลน้องเขาด้วยล่ะ เอ้า แตงกวา นี่เมธ นั่นยุ สนิทกันเอาไว้นะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาพี่ๆเขาดูแล้วกัน"
อ๊อดแนะนำรัวทันทีแบบไม่ต้องให้เสียเวลา
"ค่ะ สวัสดีค่ะพี่เมธ พรุ่งนี้ฝากตัวด้วยนะคะ"
แม้แต่เสียงพูดยังหวานสนิท ใครได้เห็นก็ต้องรู้สึกได้ว่าแตงกวานั้นช่างเป็นผู้หญิงที่สวยหมดจดและน่ารักไปทุกอิริยาบถจริงๆ
"สวัสดีค่ะน้องแตงกวา พี่ยินดีที่ได้ร่วมงานกับน้องอีกค่ะ โตขึ้นเยอะจนพี่จำแทบไม่ได้เลยนะเนี่ย"
กฤตเมธทักตอบไปเสียงหวาน เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อนในละครเรื่องล่าสุดของกฤตเมธเมื่อหลายปีก่อน สมัยที่แตงกวายังเป็นเพียงตัวประกอบรุ่นเด็ก
"แฮะ แฮะ นอกจากจะโตแล้วยังสวยขึ้นด้วยใช่มั้ยล่ะคะ" ^^
สาวน้อยฉอเลาะตอบอย่างเป็นกันเอง ดูจะสนิทกันกับกฤตเมธพอสมควร เพราะในละครเรื่องที่เคยแสดงร่วมกันนั้นทั้งคู่เคยแสดงเป็นพี่น้องที่อายุห่างกันมากมาก่อน เลยได้เข้าบทกันบ่อยจนสนิทสนมกัน
"เอ่อ...สวัสดีค่ะ พี่ยุ พรุ่งนี้แตงกวาต้องขอรบกวนด้วยนะคะ..."
หลังทักทายกับกฤตเมธเสร็จสาวน้อยหน้าหวานอย่างแตงกวาก็หันมาทักทายสดายุบ้าง และเพราะเพิ่งเคยเจอตัวเป็นๆกันครั้งแรกสาวเจ้าจึงออกอาการเขินอายเล็กน้อย ใบหน้าใสกระจ่างสีชมพูระเรื่อนั้นยิ่งซับสีเลือดเห่อขึ้นไปอีกเมื่อได้เจอกับรอยยิ้มชวนฝันไม้ตายของสดายุเข้าไป
"หึหึ ทางพี่ต่างหากครับที่ต้องรบกวนน้องแตงกวา พี่เองก็ติดตามผลงานของน้องอยู่ น้องเก่งมากเลยนะ ส่วนพี่น่ะห่างวงการไปนานจนฝีมือเริ่มฝืดไปหมดแล้วล่ะครับ"
"อุ้ย...ไม่หรอกค่ะ พี่ยุ...ชมกันตรงๆเลย...เขินจังค่ะ" >/////<
โดนเสียงแหบเสน่ห์เอ่ยถ้อยคำแสนประทับใจเข้าไปหน่อย แตงกวาก็แทบละลายลงตรงนั้น เพราะความจริงแล้วแตงกวาแอบปลื้มสดายุมาตั้งแต่เด็กเรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธ์แท้ แม้ขนาดตอนที่สดายุมีข่าวเสียหายก็ไม่เคยเอาใจออกห่าง เข้าข้างพระเอกหนุ่มอย่างหน้ามืดตามัวตลอด ดังนั้นตอนที่รู้ว่าตัวเองได้รับคัดเลือกจากทางผู้จัดให้แสดงภาพยนตร์ร่วมกับสดายุนั้น แตงกวาดีใจจนกรี๊ดลั่นไปสามบ้านแปดบ้าน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่หญิงสาวจะเขินม้วนเมื่อได้มาอยู่ตรงหน้าคนที่เธอหลงใหล
"เอ่อ...คือ...แตงกวา...ชื่นชมพี่ยุมานานแล้ว...เอ่อ...ถ้าพี่ยุไม่ว่าอะไร...เอ่อ...แตงกวาขอ...ขอถ่ายรูปคู่หน่อยได้มั้ย...คะ?..."
พอได้จังหวะหญิงสาวก็ไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสที่หล่อนรอคอยมานานแสนนาน ขอได้ใกล้ชิดสักหน่อยเถอะ!
"อ๋อ....ได้สิครับ" ^^
อาจจะแปลกใจอยู่บ้างแต่การถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร สดายุจึงเต็มใจยอมทำตามคำอ้อนของสาวเจ้าแต่โดยดี
"กรี๊ดดด ดีใจจังค่ะ! งั้นมองกล้องนะคะ"
แตงกวากระดี๊กระด๊าทันทีที่ได้รับการอนุญาต หล่อนแทบกระโดดเข้าไปซบที่ไหล่อุ่นของสดายุพลางยกไอโฟนเครื่องสวยขึ้นจับภาพคู่ในทันที
แชะ...แชะ...แชะ...แชะเสียงรัวชัตเตอร์ดังต่อเนื่อง แบบไม่มีเว้นวรรค ขณะที่คนถ่ายทั้งซุกทั้งแนบให้ได้ใกล้คนที่ตัวเองปลื้มที่สุด จนแม้แต่สดายุยังต้องลอบขำ ...ทว่า...รู้สึกอีกคนจะเริ่มไม่ขำด้วย
"อะแฮ่ม น้องแตงกวาคะ พี่ว่าพอก่อนดีกว่าเนอะ พวกพี่ต้องทำงานแล้ว" ^^
"อุ้ย...แฮะ แฮะ แตงกวาลืมตัวไปน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ"
เมื่อเห็นว่าชักจะเกินเลยกฤตเมธก็เข้ามาห้ามทัพเอาไว้เสียก่อนที่สดายุของตนจะโดนแตงกวาเขมือบไปเสียก่อนจะได้ทันตั้งตัว
'เฮ้อ...พอกับสาวๆล่ะก็ปล่อยตัวเลยนะเจ้าตัวแสบ'
หลังจากการเข้าแทรกแซงของกฤตเมธ แตงกวาก็ยอมถอยทัพแต่โดยดี ที่จริงแล้ววันนี้นักแสดงสาวมีงานถ่ายละครอีกเรื่องหนึ่งอยู่ด้วย แต่เพราะยังไม่ถึงเวลานัด แตงกวาเลยจะขออยู่ดูการถ่ายทำจนวินาทีสุดท้าย (แหม...ก็คนมันปลื้มอ่ะ)
สุดท้ายเมื่อสามารถกันตัวสดายุออกมาได้แล้ว ในที่สุดการถ่ายทำฉากสุดท้ายของวันนี้ก็ได้เริ่มเสียที แต่ก่อนที่จะได้เข้าฉากจริงๆจังๆ กฤตเมธก็เข้าไปสะกิดกระซิบกระซาบสดายุเบาๆ
“เสน่ห์แรงจังนะคุณ”
“…อะไรครับ?...”
“ก็ดูเหมือนแค่เจอกันครั้งแรกแตงกวาก็ดูท่าจะหลงเสห่ห์คุณจนหัวปักหัวปำซะแล้ว เฮ้อ…ทั้งที่ผมเองก็หล่อไม่ใช่เล่น แถมยังรู้จักมาก่อนตั้งนาน สุดท้ายก็แพ้คุณจนได้ หึหึ…เจ็บใจชะมัด”
คำประชดประชันอย่างคาดไม่ถึงของกฤตเมธทำเอาสดายุถึงกับหลุดขำ ด้วยรู้ดีว่าที่โดนกฤตเมธแขวะเอาอย่างนี้ไม่ใช่เพราะริษยาดังที่ปากว่า แต่เพราะไม่ชอบที่มีคนเข้าใกล้เขามากเกินไปต่างหาก ถึงจะอยู่ด้วยกันมาไม่ถึงสามสัปดาห์ แต่สดายุก็พอจะเริ่มจับทางกฤตเมธได้แล้วว่าชายหนุ่มคอยตามคุมเขาแจแค่ไหน
“หึหึ…ก็คุณมันแก่เกินแกงแล้วไงคุณเมธ น้องเขาเลยไม่สน ผมเด็กกว่า สดกว่า น้องแตงกวาเขาก็ต้องชอบผมมากกว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้วล่ะ”
“…ฮึ! สดที่ไหนกัน ผมชิมแล้วต่างหาก…”
“…แล้วไง? คุณแค่ชิม แต่น้องเขาอาจอยากกินผมเลยก็ได้นะ”
“ยุ!”
“หึหึ…ทำงานได้แล้วลุง คิดมากหน้าแก่กว่าเดิมจะแย่เอานะ ฮ่าฮ่า”
พูดจบสดายุก็จากไปพร้อมเสียงหัวเราะเยาะหยันเล็กๆ เล่นเอากฤตเมธหางตากระตุกยิก ได้แต่ท่อง ยุบหนอพองหนอ ในใจเพื่อระงับอารมณ์หมั่นไส้ที่กำลังปะทุปุดปุดขึ้นมาไม่หยุด
‘หึ…ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าตัวแสบ เผลอเมื่อไหร่จะจับกินให้หมดทั้งตัวเลย!’
*
*
*
*
*
และแล้วการถ่ายทำฉากสุดท้ายของวันก็จบลง วันนี้ถ่ายทำกันน้อย เพราะจะรอไปหนักวันหลังๆ ที่ต้องไปขอสถานที่ถ่ายทำถึงในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง โดยเฉพาะฉากรับน้องในวันพรุ่งนี้
ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยทีมงานและนักแสดงทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ บ้างก็กลับบ้านพักผ่อน บ้างก็มีงานต่อ บ้างก็ต้องเข้าสตูดิโอ ส่วนสดายุกับกฤตเมธที่ไม่ได้มีคิวไปไหนในวันที่ๆได้เลิกกองเร็วในวันนี้ก็ตรงกลับบ้านของตนเลย
ตั้งแต่กลับจากมัลดีฟส์วันแรกถึงดึกหน่อยกฤตเมธเลยขออาศัยนอนที่ห้องของสดายุ วันถัดมาที่ผู้จัดอนุญาตให้หยุดพักหนึ่งวันคุณพระเอกรุ่นใหญ่ก็ไม่ยอมกลับไปไหน นอนเปื่อยอยู่ที่ห้องของสดายุทั้งวัน จากนั้นก็เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์กันในวันที่สาม สี่ ห้า หก จนวันนี้วันที่เจ็ดเข้าไปแล้วแต่ดูเหมือนว่ากฤตเมธจะยังไม่ยอมอัปเปหิตัวเองออกไปไหนต่อให้โดนสดายุทั้งบ่นทั้งแขวะก็ไม่เห็นว่ากฤตเมธจะมีทีท่ายี่หระอะไร ทุกวันยังคงกลับมานอนที่ห้องของสดายุเหมือนเดิม ต่อให้โดนต่อว่าก็ยิ้มให้อย่างไม่สะทกสะท้านเหมือนเดิม จนกระทั่งสดายุเองต้องเป็นฝ่ายยอมถอยร่น เพราะไม่อาจสู้ความหน้าทนของกฤตเมธไหว แล้ววันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ผู้ใหญ่ร่างยักษ์ตามมาอยู่ด้วยถึงบ้าน
"อือออ...หิวจังเลย...จะมีใครใจดีทำกับข้าวให้กินหน่อยน๊า..."
กลับมาถึงห้อง (ของคนอื่น) ได้ก็ออกอาการอ้อนขอข้าวกินทันที เสียงอ่อนเสียงหวานพลางเข้ามากอดมาออเซาะ ชวนให้สดายุได้แต่ส่ายหน้าเบื่อบ้างก็จริง แต่ก็อดยิ้มกับเฒ่าทารกไม่ได้ นี่ถ้าแฟนคลับทั้งประเทศมาเห็นเข้าคงต้องร้องไห้กันโฮ เพราะใครจะนึกว่า พระเอกรุ่นใหญ่เนื้อทองหล่อระเบิด ที่ยามออกงานอยู่หน้ากล้องนั้นแสนจะสุขุมนุ่มลึก น่าเชื่อถือ น่าหลงใหล พอหลบมาอยู่ที่รังของตัวเองทีไรเป็นต้องหลุดมาดเท่ห์จนแทบไม่เหลือคราบพระเอก ยิ่งคิดสดายุก็ได้แต่ลอบยิ้มขำเพราะถ้าเขาเป็นหนึ่งในแฟนคลับเหล่านั้น เขาต้องเป็นลมแน่ๆหากได้เห็นกฤตเมธในสภาพนี้...
"หิวก็ปล่อยผมก่อนสิ เดี๋ยวทำอะไรให้ทาน"
"ไม่ไหวครับ ไม่รอแล้ว..."
"ฮื่อ อะไรของคุณเนี่ย? ก็ถ้าหิวก็ปล่อยก่อน งอแงอยู่อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้กินล่ะครับ?"
"ก็ผมหิวนี่ หิวหิวหิวหิว...หิวหิวหิวหิวหิว..."
"เอ๊คุณนี่? หิวก็ปล่อยสิเฟ้ย!"
เมื่อถูกกวนจนเริ่มมีน้ำโห เสียงแหบหวานของสดายุก็เริ่มแหบโหด อยากหันไปต่อยหน้าคมสันนั่นให้หายหิวเสียทีแต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากทั้งร่างยังคงถูกโอบกระชับไว้แนบแน่น
'ฮึ่ย...ไอ้ตาเฒ่ากวนโอ้ย!'
ฟอด...
"เอ้ย?..." ∑ O////o
ดิ้นขลุกขลักอยู่ครู่หนึ่งจู่ๆก็โดนขโมยหอมแก้มดังฟอดใหญ่เล่นเอาสดายุชะงักไปชั่วครู่ พอตั้งสติจะหันไปจวกสักแผลสองแผลก็โดนคำร้องกระชากใจที่กระซิบพร่าอยู่ข้างหูเข้าเสียก่อน...
"ผมหิวคุณจนไส้จะขาดอยู่แล้ว ขอผมกินได้หรือยังครับ..."
"..........................." -////-
เจอคำขอกำกวมแต่ชัดเจนในความหมายเข้าไป สดายุถึงกับพูดไม่ออก และยิ่งต้องถอนหายใจสะท้านน้อยๆเมื่อถูกขบเบาๆที่ใบหู ใจจริงอยากจะผลักใสไอ้เฒ่าลามกคนนี้ให้พ้นทางอยู่เหมือนกันแต่แรงปรารถนาบางอย่างกลับเข้าครอบงำอย่างง่ายดายเสียแล้ว...โหยหาหรือว่ารักกันแน่นะ...
*
*
*
*
*
“อยะ…อือ...คุณเมธ…อ๊ะ อื้อ…อ๊า…”
ร่างแบบบางขาวผ่องของสดายุสะท้านไหวรุนแรง ช่องทางรักที่ถูกรังแกด้วยความปรารถนาจนเต็มแน่นนั้นทำให้หยาดน้ำขาวขุ่นไหลซึมออกจากแก่นกายตั้งชัน สภาพที่ถูกจับให้นั่งตักโดยมีความเป็นชายของกฤตเมธฝังแน่นอยู่ในร่างจากทางด้านหลังนั้นก็ทำให้สดายุเสียดเสียวจนแทบจะสำลักอยู่รอมร่อ
“อืม…ผมจะแย่แล้วครับยุ ผ่อนแรงหน่อยสิครับคนเก่ง…”
“อ๊า…มะ…ไม่ไหว…ผม...ผมทำ...ไม่…ได้หรอก…อื้อ…”
สดายุส่ายหน้าพรืด ทั้งยังครางเสียงแผ่วระโหย เมื่อหน้าอกถูกคลึงเคล้น แถมยังโดนแก่นกายใหญ่โตทะลวงลึกอย่างไม่ยั้งแรงอีก ความเสียวซ่านที่ทบทวีทำเอาชายหนุ่มถึงกับต้องร่อนเอวระริก
“ฮ้า…อ๊ะ…อื้อ…อ๊ะ…”
กฤตเมธกระทุ้งร่างเข้าไปในตัวของสดายุไม่เบานัก ทั้งที่ใจอยากจะทะนุถนอมคนในอ้อมแขนให้มากกว่านี้อยากจะนุ่มนวลกับอีกฝ่ายให้มากกว่านี้ แต่พอเอาเข้าจริง ความหฤหรรษ์ที่ สดายุมอบให้ก็ทำสติของเขาเตลิดเปิดเปิงทุกที กว่าจะรู้ตัวก็เผลอทำรุนแรงลงไปเสียแล้ว ครานี้เองก็เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่กฤตเมธจะทำได้ตอนนี้คือการให้ความสุขสมกับสดายุอย่างเต็มที่เพื่อทดแทนความรุนแรงของเขาให้ดูเบาบางลง โดยการกอดรัดร่างขาวนวลจากทางด้านหลัง แล้วหยอกล้อยอดอกสั่นระริกนั่นเป็นการปลอบโยน
“อ๊ะ…อ๊า…อื้ม…อ๊ะ…เมธ...คุณเมธ…อ๊า…”
“อือ...ยุครับ...คนดีของผม...”
สดายุครางกระเส่าเมื่อถูกกฤตเมธจับสะโพกไว้อย่างแน่นหนาแล้วโยกวนเข้ามาในร่างอย่างไม่เกรงใจ ทว่าช่องทางแคบร้อนของเขากลับตอบรับความแข็งขืนนี้นอย่างแนบแน่นราวกับกำลังยินดีที่ถูกโยกวนสอดแทรกซ้ำไปซ้ำมา
“อ๊า อ๊ะ อื้อ อื้อ อ๊ะ!!”
“อืมมม อา ยุ ยุ อึก!”
สดายุใช้สองแขนขาวคล้องจิกกอดทึ้งร่างหนาด้านหลังไว้แน่น เพราะช่องทางด้านหลังกำลังโดนรุกล้ำด้วยความร้อนดุจเหล็กเผาไฟ ความเร่าร้อนที่ทำให้ทั้งสองหนุ่มทั้งหวาดหวั่น ทั้งลุ่มหลง กฤตเมธกัดฟันกรอดด้วยความเสียดเสียวจับยึดสะโพกบางให้ตั้งตรง พลางทิ่มแทงกายสวนใส่ไม่ยั้ง สดายุเองก็ขยับรับการเคลื่อนไหวของพระเอกหนุ่มของตนได้อย่างเหมาะเจาะ พาอารมณ์รักให้ยิ่งกระพือโหม
เสียงครางหวานกระเส่าดังไม่ขาดระยะสะท้อนก้องอยู่ในห้องนอน กฤตเมธสอดใส่เข้าไปจนสุดแล้วค่อยๆชักออกช้าๆ ดื่มด่ำกับความอ่อนโยนลึกล้ำ แก่นกายตั้งตรงรุกรานช่องทางคับแน่นเป็นจังหวะ ความเสียวซ่านแผ่กำจายทั่วสรรพางค์กาย สดายุร้องครางจนเสียงแหบ
“อ๊า เมธครับ…คุณเมธ อ๊ะ อ๊า อ๋า!!”
“รักครับ….อา…ยุ…ผมรักคุณ…อึก!...”
เสียงกระซิบตรงหลังหูทำเอาวาโยเสียวปลาบไปจนถึงสะโพก ทั้งร่างสั่นระริก ผนังภายในก็ตอดรัดความเป็นชายแข็งแกร่งของกฤตเมธแน่น สภาพปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการรุกรานของสดายุนั้น ทำให้กฤตเมธไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป มือแกร่งช้อนใต้ขาขาวอ่อนของสดายุขึ้นแล้วจับร่างนั้นหมุนกลับเข้าเผชิญหน้าทั้งที่สองร่างยังคงเชื่อมโยงกันอย่างลึกล้ำ จากนั้นก็โถมกายหนักหน่วงสวนใส่เข้าสู่ร่างบนตักอย่างไม่ปราณีเล่นเอาสดายุแทบจะสำลักตายเสียหลายหน
“ค…คุณเมธ…จะถึง…ผม…จะถึงแล้ว…อื้อ!!...”
ยิ่งได้ยินเสียงหวานกระเส่าของสดายุ กฤตเมธก็จ้องใบหน้าเย้ายวนนั้นไม่ละสายตา ด้วยความที่ครางจนคอแห้งผากสดายุจึงแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหิวกระหาย ภาพนั้นกระตุ้นอารมณ์ดิบของกฤตเมธอย่างรุนแรง ลิ่มเนื้อพองขยายขึ้น พระเอกหนุ่มใหญ่โหมโรมรันร่างบนตักแบบไม่มีพักหายใจ ความสุขสมเอ่ออาบไปทั่วร่างของสดายุ อย่างไม่อาจต้านทาน และความสุขสมนั้นก็กลั่นตัวเป็นความรักสีขาวขุ่นทะลักทลายเต็มหน้าท้องของทั้งคู่ เมื่อสดายุถึงจุดหมาย ช่องทางอุ่นร้อนโอบรัดกายเนื้อของกฤตเมธอย่างรุนแรงจนยากจะต้านทาน ชายหนุ่มเสือกกายเข้าออกอย่างต่อเนื่อง และจากนั้นไม่นานก็ปล่อยความสุขสมทั้งหมดเข้าไปในร่างของคนในอ้อมกอดเช่นกัน สดายุสะท้านกายทันทีเมื่อรู้สึกถึงธารรักร้อนระอุที่ถาโถมพุ่งเข้าสู่ส่วนลึก กฤตเมธโอบกอดสดายุแน่นพลางแนบจูบอย่างอ่อนโยน ทั้งที่ยังคงขยับกายแผ่วเบาเนิบนาบเพื่อดื่มด่ำกับความสุขสมที่ยังคงแผ่ซ่านอยู่ทั่วร่าง…
“…อืม…ยุครับ…ผมรักคุณ…”
“……………..”
จุดสุดยอดที่เพิ่งผ่านพ้นทำเอาสดายุยังคงพูดไม่ออก สมองของชายหนุ่มยังคงชาปลาบ ขนอ่อนทุกอณูบนร่างลุกชันจากความซ่านเสียวที่ได้ลิ้มรส สองแขนเรียวโอบกอดลำคอหนาของกฤตเมธไว้เพื่อเป็นที่พึ่ง ขณะที่ยังคงหอบหายใจหนักหน่วง
“…ขอโทษนะครับที่ผมรุนแรงไปหน่อย…คุณเหนื่อยมากมั้ย?...”
เห็นว่าร่างในอ้อมแขนยังคงหอบสะท้าน กฤตเมธก็ถามไถ่ขึ้นด้วยความเป็นห่วง แอบรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกันที่ดึงดันจะรังแกทั้งที่สดายุเองก็น่าจะเหนื่อยจากงานอยู่ไม่น้อย แต่…มันอดใจไม่ค่อยจะไหวจริงๆ เพราะการถ่ายทำมันหนักมากมาหลายวัน จนแทบไม่มีเวลาจะทำอะไรเลย วันนี้ว่างหน่อยก็เลย...เผลอไปหน่อย
“…ถ้าจะเป็นห่วงล่ะก็…ออกจากตัวผมเสียทีสิ ขยับดุ๊กดิ๊กอยู่ได้!...”
ตั้งสติได้หน่อยสดายุก็แขวะกฤตเมธออกไปทันทีทั้งที่ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังแดงเห่อไปด้วยความขวยเขินก็ตามที
ฝ่ายกฤตเมธพอได้ยินสดายุตัดพ้อก็ถึงกับขำออกมาเบาๆ ก่อนจะถือโอกาสหอมแก้มแดงๆนั่นอีกฟอดหนึ่งพลางขยับกายถอนร่างออกมาช้าๆตามคำขอแสนหวานของสดายุ ผละกายออกมานิดหน่อยก่อนจะค่อยๆตระกองร่างกะปลกกะเปลี้ยของสดายุลงนอนบนเตียงนุ่มอย่างทะนุถนอม แล้วจุมพิตที่หน้าผากชื้นเหงื่อของสดายุอีกครั้งเป็นการทิ้งท้าย
“หิวมั้ยครับ? เดี๋ยวผมทำอะไรให้ทานเอามั้ย?”
“…ทีอย่างนี้เอาใจใหญ่เลยนะ หึหึ…ผมอยากกินข้าวไข่เจียว…เอากรอบๆนะ”
พอกฤตเมธเสนอตัวจะเป็นพ่อครัวให้ สดายุก็รีเควสของชอบออกไปทันที ของธรรมดาๆ ที่สดายุชอบมาก และกฤตเมธเองก็ทำออกมาได้อร่อยถูกใจสดายุมากเช่นกัน
“หึหึ…ตามนั้นเลยครับ รอสักครู่นะขอรับคุณผู้ชาย”
“รีบๆนะ ผมหิวจนจะกินควายได้ทั้งตัวอยู่แล้ว”
กฤตเมธยิ้มรับขำๆ ก่อนลุกขึ้นไปทำอาหารให้สดายุตามคำบัญชา ความสุขเล็กๆที่เกิดขึ้นนั้นแผ่กำจายไปทั้งห้องพาให้บรรยากาศอบอุ่นอวลไปทั้งห้องน้อย…
อบอุ่นเหลือเกิน…
มีความสุขเหลือเกิน…*******************************************************
ก็ยังคงเป็นบัวลอยไข่หวานนะจ๊ะ
ทว่า…ตอนหน้า…เก๊าจะเริ่มปรุงมาม่าแล้วล่ะ อิอิ
อย่าหวานมากเลยเนอะ เดี๋ยวเบาหวานขึ้นตากันหมด หุหุหุ
ต้มผัดแกงทอดหอมอร่อยในพริบตา…
มาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้นคลั่กหม้อใหญ่ๆ กำลังจะพร้อมเสิร์ฟในอีกไม่ช้านี้แล้วคร๊า
อร๊างงงงงงง…
(หมุนตัวหลบพายุรองเท้าอย่างสวยงาม…ฟิ้วววว)
ปล. หลายคนเริ่มชำเลืองน้องแตงกวา...