ต่อจ๊ะคืนนั้นไม่รู้ว่าเผลอหลับกันไปตอนไหน จำได้คร่าวๆแค่มีเซ็กส์มาราธอนกันจนเสร็จถึงสามรอบแบบไม่มีการถอนอาวุธออกจากปลอก ดุเด็ดเผ็ดมันจนสิ้นเรี่ยวสิ้นแรง
สดายุตื่นขึ้นมาหลังจากนั้นสองชั่วโมง ใกล้ตีสี่เต็มที และพรุ่งนี้พวกเขาต้องไปกองถ่ายตั้งแต่เช้า สดายุเดินไปเปิดตู้เย็นดื่มน้ำดับกระหาย และกะว่าจะกลับมานอนต่ออีกสองสองชั่วโมง ณ ขณะที่สดายุดื่มน้ำอยู่นั้นสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของกฤตเมธที่ตั้งอยู่ชั้นวางของเข้าพอดี จำได้ว่าโทรศัพท์ของกฤตเมธนั้นแบตเตอรี่หมดอยู่ จึงคิดว่าจะชาร์ตทิ้งไว้ให้ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องลำบากเอาไปชาร์ตที่กอง
‘ปี๊บ’
หลังจากชาร์ตไฟไปได้สักพัก สดายุก็ฉุกใจคิดอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง จึงทำการถือวิสาสะเปิดมือถือของกฤตเมธขึ้น ทันทีที่โทรศัพท์บูตเครื่องเสร็จสิ้น และสามารถรับสัญญาณโทรศัพท์กับอินเตอร์เน็ตได้แล้ว เพียงแค่อึดใจเสียงเตือนต่างๆดังขึ้น ทั้งไลน์ที่ยังไม่ได้อ่าน ทั้งสายโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับ แน่นอนว่ามีชื่อสดายุในสายไม่ได้รับอยู่นับสิบสาย ทว่านอกเหนือจากสดายุแล้วยังมีอีกหนึ่งชื่อ…ชิดจันทร์ ที่โทรเข้ามาหลังเที่ยงคืน นับสิบสาย เช่นกัน
ทว่า…ช่องที่เตือนไลน์ยังไม่ได้อ่านนั้น กลับไม่มีชื่อสดายุ มีเพียงชิดจันทร์…
ข้อความสุดท้ายที่เขาส่งให้กฤตเมธไปเมื่อช่วงเย็น ทุกข้อความที่กฤตเมธยังไม่ได้อ่าน
ทั้ง
[…รีบกลับมานะ ผมจะรอครับ…พีเมธ] และ
[…( ^ 3 ^ )/…] ทั้งหมดถูกลบจนหมด แค่เห็นสดายุก็รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร สดายุยกยิ้มมุมปากด้วยความสมเพชทันทีที่เห็น….
“หึ…แสบนักนะ”
สดายุได้แต่เปรยกับตัวเอง ก่อนจะกดอ่านไลน์ของชิดจันทร์ที่ส่งมาด้วย
[พี่เมธยังไม่ถึงบ้านเหรอคะ ชิดโทรหาไม่ติดเลย] 00:36
[รีบโทรกลับมาสิคะพี่เมธ] 00:50
[ว๊า ชิดง่วงแล้วนะ] 01:24
[งั้นพรุ่งนี้อย่าลืมโทรหาชิดนะ ไม่งั้นงอนจริงๆด้วย] 01:25
[ฝันดีนะคะ พรุ่งนี้คุยกันค่ะ] 01:25
[จุ๊บๆค่ะ] 01:25
อ่านจบสดายุก็ลงมือลบทีละข้อความ ทีละข้อความ จากนั้นก็เข้าไปลบในประวัติการโทร ลบชื่อชิดจันทร์จนเกลี้ยง ก่อนจะทำการปิดโทรศัพท์มือถือของกฤตเมธแล้ววางชาร์ตเอาไว้เหมือนเดิม
“อุ๊บส์…ขอโทษนะครับคุณหนูชิดจันทร์ มือผมลื่นไปหน่อย…”
สดายุเอ่ยออกมาเบาๆพลางแสยะยิ้มออกมาทั้งที่สายตาเย็นชาสุดขีด เมื่อครู่ที่เขาลบประวัติการโทร เขาเห็นชื่อเสน่ห์จันทร์ในบรรดารายชื่อที่โทรหากฤตเมธในช่วงเย็นด้วย คงโทรไปบงการอะไรบางอย่างหลังจากเจรจากับเขาไม่สำเร็จ สดายุถอนหายใจบางๆ ก่อนจะกลับไปนั่งที่ขอบเตียง เฝ้ามองกฤตเมธที่ยังคงหลับฝันดีใบหน้าอิ่มเอมมีความสุขอย่างน่าหมั่นไส้
“หึ…พ่อเทพบุตรแห่งวงการ…ตาแก่เอ้ย…”
สดายุมองหน้ากฤตเมธอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อน นิ่งงันหากแต่ในหัวใจกำลังใช้ความคิด เขาไม่ใช่คนชอบแก้ตัว อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด ใครจะว่าร้ายอย่างไรถูกผิดเขาก็ไม่เคยแก้ไข
…ใช่ เขาเป็นคนแบบนั้น
…แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะยอมเป็นหมาขี้แพ้!
“เอาสิ เสน่ห์จันทร์ เรามาลองกันสักตั้งดูสิ ว่าสุดท้ายแล้ว กฤตเมธจะเลือกใคร…”
*
*
*
*
*
กองถ่ายวันนี้อึมครึมอีกแล้ว แม้นักแสดงทุคนยังแสดงทุกอย่างออกมาได้ดี แต่บรรยาศมาคุ ก็ปะทุเดือดทุกวินาทีเช่นกัน
"พี่อ๊อดขา...แตงกวาจะหายใจไม่ออกแล้วค่ะพี่ มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่เมธกับพี่ยุเหรอคะ?"
สาวน้อยในชุดนักศึกษา(ชุดที่ใส่เข้าฉาก) วิ่งโร่เข้ามากระซิบกระซาบกับผู้กำกับอ๊อดอย่างสุดทนกับความอึดอัดที่แผ่กำจายจากสองนักแสดงรุ่นพี่
"...เฮ้ย มาถามไรพี่เล่า? พี่ก็ไม่รู้ อยากรู้ไปถามเจ้าตัวสิ"
"จะบ้าเหรอคะพี่อ๊อด ขืนเข้าไปตอนนี้หัวแตงกวาได้หลุดจากบ่าแน่ พี่นั่นแหละเข้าไปเคลียร์หน่อยสิ เข้าฉากแต่ละทีแตงกวากลัวจนฉี่จะราดแล้วเนี่ย"
"เออน่า ได้อารมณ์สมจริงดีออก โดยเฉพาะซีนที่สองเพื่อนรักกำลังจะหักเหลี่ยมโหดเพราะแย่งผู้หญิงเนี่ย อารมณ์อย่างตอนนี้แหละเป๊ะสุด"
"โหยพี่อ๊อดอ่ะ! เห็นแก่บทอยู่นั่นแหละ เกิดพี่เขาหน้ามืดตีกันขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง!?"
"หื้อ อย่าคิดมากน่าแตงกวา เดี๋ยวมันก็ดีกันเองแหละ เมื่อก่อนมันก็เคืองกันอย่างนี้ทุกวันไม่เห็นจะตีกันเสียที ไปๆ ไปพักได้แล้ว พี่จะเช็คงาน"
อ๊อดได้แต่ออกปากไล่นักแสดงสาวน้อยออกไปให้พ้นทาง พลางคิดในใจถึงสิ่งที่แตงกวากำลังกังวลอย่างอารมณ์ดีว่า...
'มันไม่ตีกันตอนนี้หรอก เดี๋ยวมันกลับไปตีกันบนเตียงต่างหาก...หึหึ'
'สงสัยจะงอนเรื่องข่าว...เฮ้อ สู้ๆนะเมธของพี่'
ข่าว ที่อ๊อดคิด คงหนีไม่พ้นข่าวร้อนที่ลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับวันนี้เป็นแน่...
ข่าวของกฤตเมธและชิดจันทร์ *
*
“กฤตเมธ “ เนื้อหอมแอบซุ่มคบ “ชิดจันทร์” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าแม่ WTL ’
‘ซุ่มหวานเงียบๆ แต่ข่าวลือเพียบนะจ๊ะ เป็นคู่จิ้นต่างวัย กฤตเมธพระเอกเนื้อทอง เทพบุตรแห่งวงการผู้ซึ่งไม่เคยมีข่าวคาวข่าวฉาวกับสาวคนไหนมาก่อน ในที่สุดหัวใจน้ำแข็งของพระเอกรุ่นใหญ่ก็ถูกกระเทาะอย่างง่ายดาย เพราะสาวน้อยอย่าง “ชิดจันทร์” สาวน้อยวัยยี่สิบสาม บุตรสาวคนเดียวของเจ้าแม่เสน่ห์จันทร์แห่ง WTL ข่าวว่าทั้งคู่ปลูกต้นรักกันมาพักใหญ่ก่อนที่ชิดจันทร์จะไปเรียนต่อเมือกนอกเมืองนา แต่ระยะทางไม่เคยเป็นอุปสรรค ความรักของทั้งคู่ยังคงหวานเสมอ คู่นี้แอบแซบลึก ซุ่มหวานคบหากันแบบไม่เปิดเผย แต่ก็มีโชว์หวานบ้างอย่างเมื่อคืนพอสาวชิดจันทร์กลับจากเรียนโทที่อเมริกาปุ๊บ กฤตเมธก็รีบรับไปดินเนอร์หวานฉ่ำกันถึงหาดบางแสนทันที เรียกได้ว่าหวานล้ำหวานนานน้ำตาลเรียกพี่กันเลยทีเดียว ขนาดคุณเสน่ห์จันทร์ที่หวงลูกสาวราวไข่ในหินยังออกอาการเชียร์ว่าที่ลูกเขยอย่างออกหน้าออกตา ก็แหมพี่เมธเขาดีขนาดนี้ ใครไม่คว้าไว้เป็นเขยก็แย่แล้วค่ะ จากนี้คงมีภาพหวานๆออกมาให้อิจฉากันเป็นระยะแน่ๆค่ะ...’
นอกจากเนื้อข่าวชวนคิดแล้ว ยังมีภาพประกอบสุดหวาน เป็นฉากดินเนอร์สุดโรแมนติกที่หาดบางแสน ที่น่าจะโดนแอบถ่ายแนบเอาไว้ด้วย
*
*
เช้าวันใหม่หลังผ่านคืนที่เร่าร้อน กฤตเมธและสดายุออกมากองถ่ายด้วยกันตามปกติ การแสดงช่วงเช้าผ่านไปด้วยดีจนกระทั่ง ช่วงพักที่สดายุและกฤตเมธได้เห็นหนังสือพิมพ์ที่ทางทีมงานวางทิ้งเอาไว้
เนื้อข่าวไม่ได้แรง แต่บาดใจเป็นที่สุด
ดังนั้นหลังจากช่วงพักเป็นต้นมา บรรยากาศมาคุก็พุ่งสูงทันที เล่นเอาหายใจหายคอไม่ออกกันไปถ้วนหน้า โดยที่ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงกฤตเมธ สดายุ และอ๊อดเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจ
การถ่ายทำทั้งวันเป็นไปด้วยความอึดอัดจนในที่สุดก็จบลงตอน สองทุ่ม ระหว่างนั้นกฤตเมธมีสายเข้าตลอดจนเจ้าตัวต้องปิดเครื่องไว้ ‘ชิดจันทร์โทรมาทั้งวันจนงานการแทบไม่ต้องทำ’ แม้จะบอกว่าทำงานอยู่สาวเจ้าก็บอกอยากมาหาที่กองบ้าง ชวนไปทานข้าวเที่ยงข้าวเย็นบ้าง จนกฤตเมธเริ่มทนไม่ไหว เลยปิดเครื่องให้จบเรื่องกันไป
และแน่นอนว่าทุกการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของสดายุตลอด ยิ่งมีสายเรียกเข้า อารมณ์คุของสดายุก็ยิ่งกระพือโหม ยิ่งเดือดบรรยากาศรอบกายของสดายุก็ยิ่งทยานสู่จุดเยือกแข็ง กว่าจะเลิกกองได้ ทีมงานแทบขาดใจตายไปหลายคน โดยเฉพาะแตงกวาที่ต้องเข้าบทด้วยเยอะสุด...(น่าสงสารจริงๆ)
“ยุ!?...”
“ยุ? คุณจะไปไหนน่ะ?”
กฤตเมธตะโกนเรียกไล่หลังทันทีที่เห็นสดายุเดินลิ่วๆ ออกจากกองถ่ายแต่ไม่ได้ตรงไปที่จอดรถ
“ยุ!”
หมับ!... ในที่สุดก็คว้าตัวได้ทัน กฤตเมธดึงแขนสดายุเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้อีก รู้ตัวดีว่าข่าวที่ออกมานั้นคงทำให้สดายุช็อคมาก และกฤตเมธต้องการอธิบาย เพราะข่าวนั้นมันไม่มีมูลความจริงเลยแม้เพียงสักเสี้ยวเดียว!
“ยุ คุณจะไปไหน?” กฤตเมธถามไถ่อย่างร้อนรน ยิ่งได้เห็นใบหน้าเย็นชาของสดายุ เขายิ่งร้อนใจ
“....................” ทว่า สดายุยังคงเงียบงัน
“ยุ...เอ้ย เดี๋ยวสิ!”
เพียงแค่หันมาสบตากฤตเมธเพียงครู่ สดายุก็สะบัดตัวออกจากการเกาะกุม แล้วทำท่าว่าจะเดินหนีไปอีก กฤตเมธจึงรีบคว้าตัวไว้อีกครั้ง แล้วลากไปด้วยกันดื้อๆ
“เฮ้ย! ปล่อยนะ”
“มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน แล้วผมจะปล่อย!”
“กฤตเมธ! ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ! ปล่อยผม!!”
ไม่ว่ายังไง การดิ้นรนของสดายุก็สูญเปล่าเสมอ เพราะสุดท้ายก็ถูกลากมายัดเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับแล้วล็อคไว้ด้วยเข็มขัดนิรภัยในทันที
“อย่าดิ้นยุ! นั่งเฉยๆไปซะ ไม่งั้นผมจะปล้ำคุณในรถตอนนี้เลย!!”
“…………….!!!”
สดายุหยุดดิ้นรน แล้วกลับไปนั่งปั้นหน้าบึ้งตึงอยู่ตรงที่อย่างว่าง่าย ที่ยอมหยุดไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ของกฤตเมธ แต่เพราะสดายุคิดว่า เล่นตัวพอเป็นพิธีน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า และอึดใจต่อมากฤตเมธก็ขึ้นมานั่งข้างๆตรงที่นั่งคนขับเป็นที่เรียบร้อย
“ข่าวนั่นมันไม่จริงนะยุ” ขึ้นมานั่งตั้งสติได้ กฤตเมธก็เปิดประเด็นทันที
“อือฮึ แล้วยังไงครับ?” สดายุตอบกลับออกไปด้วยเสียงเรียบเย็น ทำเป็นเมินหมางอย่างจงใจ
“รูปดินเนอร์นั่นน่ะ ผมไปทานกับผู้จัดธารินทร์ เพราะคุณเสน่ห์จันทร์เธอให้ผมไปเอาเอกสารลับ แล้วพอดีว่าชิดจันทร์ร่วมโต๊ะอยู่ด้วยเลยเหมือนกับดินเนอร์สองต่อสองก็เท่านั้น”
“อืม….ไม่ยักรู้นะว่านอกจากจะเป็นพระเอกแล้วเนี่ย คุณกฤตเมธยังมีจ๊อบพิเศษเป็นคนขับรถกับคนรับส่งเอกสารด้วย”
“ยุ เฮ้อ…ใช่ ปกติคุณเสน่ห์จันทร์มักใช้ให้ผมทำโน่นทำนี่ให้ เธอบอกว่าไว้ใจผมที่สุดน่ะ ผมเลยไม่รู้จะปฏิเสธยังไง…”
“แค่บอกว่าไม่ทำมันจะยากตรงไหน อ๋อ ลืมไป..ยังติดหนี้บุญคุณท่วมหัวอยู่ ต้องตอบแทนทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ว่าเขาจะใช้ให้ไปทำอะไรก็ทำ ให้ไปไหนก็ไป ให้เป็นสามีลูกสาวก็คงต้องเป็น…..”
“ไม่มีทางยุ! เรื่องผมกับชิดจันทร์มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก….”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ ทางคุณแม่ก็เป็นใจขนาดนี้ ทางคุณลูกก็ออกจะทุ่มสุดตัวขนาดนี้ หึ! อีกไม่กี่วันก็คงได้แล้วล่ะ วันนี้ก็โทรมาจิกอยู่ทั้งวัน เห็นว่าจะชวนไปทานข้าวเย็นนี่ ทำไมไม่รีบไปล่ะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก วันนี้ผมนัดกับเจ๊บลูม่าไว้แล้วว่าเราจะไปเที่ยวกัน…”
“ไปไหน? นัดกันไปไหน?” กฤตเมธถามด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่เห็นสดายุจะออกไปเที่ยวที่ไหน
“ก็ว่า…จะลองไปผับของ ‘ชาวเรา’ ดูสักหน่อย ไหนๆผมก็หลงมาทางนี้แล้ว ไม่แน่นะคืนนี้ผมอาจตกเด็กหรือหนุ่มใหญ่ได้สักคน…”
“สดายุ! คุณจะทำแบบนั้นลงคอเหรอ? คุณเอาผมไปไว้ที่ไหน?” กฤตเมธแทบจะกระโจนใส่เมื่อได้ยินสดายุพูดถึงเรื่องเที่ยวกับชายอื่น สองมือแกร่งยึดไหล่สดายุไว้มั่นเพื่อรั้งกายฝ่ายนั้นให้หันมาสบตา
“ก็ที่เดิม…ไม่เห็นต้องเอาไปไว้ที่ไหนนี่” ทว่าสดายุก็ดูไม่ได้ร้อนรน ชายหนุ่มยังคงตอบคำถามอย่างใจเย็น
“ยุ เราไม่ใช่คนรักกันหรอกเหรอ เราไม่ได้คบกันอยู่หรอกเหรอ? ทำไมคุณทำกับผมแบบนี้ล่ะ?” กฤตเมธถามด้วยความเจ็บปวด ท่าทีของสดายุทำให้เขาปวดใจไม่น้อย และแน่นอนว่าคำตอบต่อมาของสดายุแทบทำให้กฤตเมธกระอักเลือด
“ครับ…คุณดีกับผมมาก แต่…ผมไม่เห็นจำได้ว่าเราเคยคบกัน…เอ้…ผมไปตกลงคบกับคุณตอนไหนงั้นเหรอ?...”
“…………….สดายุ…” เจอคำตอบเข้าไปกฤตเมธถึงกับอึ้ง
“โอเคนะ คุณดีกับผม ผมก็ตอบแทนคุณแล้วไง จำได้ว่าเคยบอกคุณไปแล้วนะว่า ทางผมเองที่กำลังอาศัยบารมีของคุณเพื่อหาทางกลับเข้าวงการอยู่นั้น จะใช้ตัวผมแลกกับการที่คุณจะพาผมกลับเข้าวงการอีกครั้ง…แล้วผมก็กำลังทำอยู่นี่ไง”
ทุกคำพูดสดายุเอ่ยมันออกมาด้วยความหนักแน่น ใจริงแล้ว เขาเองก็รักกฤตเมธ และไม่ได้ต้องการจะทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บ แต่ในเมื่อกฤตเมธยังคงอยู่ในโลกที่ต่างกับเขาเกินไปอยู่ เขาก็ต้องสอนให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว
“…ที่ผ่านมา…คุณเคยรักผมบ้างมั้ย?...” กฤตเมธได้แต่ทอดอาลัย ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น เจ็บปวด สับสน จนต้องถามคำถามที่แสนจะงี่เง่าออกไปด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
“คนที่รักคุณอย่างหัวปักหัวปำคนนี้ ขอถามคุณหน่อยสดายุ ความรักของผม…เคยส่งถึงใจคุณบ้างมั้ย? คุณ…เคยเปิดใจให้ผู้ชายคนนี้บ้างมั้ย?...”
กฤตเมธแทบจะร้องไห้เมื่อจบคำถาม ชายหนุ่มก้มหน้าซบลงบนตักของสดายุอย่างเจ็บปวด เพื่อเฝ้ารอคำตอบของสดายุ แม้ว่ามันจะแสนร้ายกาจ…
“…ผมรักคุณครับคุณกฤตเมธ” “…………..!!??” คำตอบของสดายุทำเอากฤตเมธแทบกระโดด แต่…แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงบอกว่าไม่ได้คบกันล่ะ?
“แต่คุณรู้มั้ย? ต่อให้ผมรักคุณเท่าไหร่ คุณก็ไม่มีวันเป็นของผม”
“…ยุ…ผมเป็นของคุณ…” กฤตเมธพยายามแก้ไขความคิดของสดายุ แต่ดูท่าจะไม่เป็นผล กฤตเมธจึงได้แต่จ้องหน้าของสดายุเพื่อหาคำตอบ
“หึ…ตราบใดที่คุณยังมีจิตสำนึกแห่งการแทนคุณคนคนนั้นเป็นความหมายของชีวิตอยู่ล่ะก็ คุณก็ไม่มีวันเป็นของผม อย่ามาพูดให้ความหวังกันพล่อยๆแค่ลมปากสิครับ”
สดายุเอ่ยขึ้น พร้อมเอื้อมมือมาตระกองใบหน้าของกฤตเมธไว้
“กฤตเมธถ้าคุณอยากยืนยันว่าคุณรักผมจริงๆ ล่ะก็…พิสูจน์สิ”
“พิสูจน์ให้ผมเห็น…ว่าผมคือที่หนึ่งของคุณ”
*******************************************
น้องยุจิเปิดศึกแล้วจ๊า!!
เบิกกลองสะบัดชัย ออกมาตีเรียกขวัญกำลังใจหน่อยเร๊วววววว!!
