ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1267391 ครั้ง)

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 :L1: ตัวละครเปะมากกกกก น้องยุกะเฮียกฤต

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
พลังการจิ้นอัพเวลขึ้นสามร้อยเท่าค่าาา

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
น้องยุน่ากินมากค่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ black-egoistic

  • 尚之
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 314
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ว๊ายยยยย จางกึงซอกเหมาะกับจะเป็นอิมเมทสดายุมากจริงๆค่ะ
 o13

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
คุณเมธหล่อฝุด ๆ อ่ะ เหมาะมาก

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
กริ๊ดคะ   อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2

ออฟไลน์ YaoTJi

  • เพราะชีวิต ขาดวายไม่ได่้
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มโนอิมเมจคุณกฤตเมธเป็นพี่ติ๊กไปแล้วค่ะ (คุณเขมมมมมมม) แต่อิจเมจเป็นคนนี้ก็เริ่ดค่ะ คือแซ่บ  :hao6:

* แก้ไขชื่อ55555*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2014 18:58:44 โดย YaoTJi »

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
จะบอกว่าพี่เมธแซ่บมากค่ะ

 :hao6: :hao6: :hao6:

_Yammery_

  • บุคคลทั่วไป
อุ๊ยตาย อิมเมจคือเฮียจางกึน! รักกว่าเดิมอีก อร้ายยยยย!

อยากจะบอกว่า .....นี่ฉันพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงตั้งนานเนี่ย !
เพิ่งมาอ่าน ทั้งที่ผ่านตามา 10 ครั้งเห็นจะได้ อ่านปุ๊บ ว้ายมันใช่!>_________<
ชอบคู่เฮีย(?)บลูม่า กับซอลย่ามากอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 31 เนรคุณ




ไม่เกินสิบโมงครึ่งสดายุก็เดินทางมาถึงบริษัทต้นสังกัด ด้านล่างทางเข้ายังคงพลุกพล่านไปด้วยเหล่าทีมงานหลายที่สดายุคุ้นตาบ้างไม่คุ้นบ้างเดินกันอยู่ขวักไขว่ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของสดายุมากนัก เพราะความมุ่งมั่นของเขา คือคนที่อยู่ชั้นบนสุดของที่นี่ต่างหาก 

ผู้บริหารสูงสุด 'ท่านประธานเสน่ห์จันทร์'

ความจริงกะจะเข้ามาหาบลูม่าก่อน แต่ผู้จัดการสาวใหญ่ของเขาดันออกไปพบลูกค้าข้างนอกพอดี กว่าจะกลับเข้ามาคงอีกพักใหญ่ๆ สดายุเองก็ไม่คิดจะรอ ขอไปเคลียร์กันซึ่งหน้ากับท่านประธานก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีกับบลูม่า




“อ้าว? สดายุ?” ในขณะที่กำลังอยู่ในอารมณ์มุ่งมั่น และกำลังจะกดลิฟท์ จู่ๆก็มีเสียงเรียกจากด้านหลัง ด้วยเสียงที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าที่ควร

“.....................??” สดายุไม่ได้ตอบโต้ในทันที เพราะยังฉงนเล็กน้อยด้วยว่าจำไม่ได้แล้วง่าคนที่เรียกคือใคร

“หวัดดี วันนี้เข้าบริษัทด้วยเหรอ?”

“...อ่า...สวัสดีครับ...คุณ...” ถึงจะถูกถามไถ่อย่างเป็นมิตร แต่สดายุก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าใคร ได้แค่คุ้นๆหน้าเท่านั้น

ชายหนุ่มที่มาทักเขานี่ถ้าจำไม่ผิด เขาอาจเคยเห็นหน้าค่าตาบ้างทางโทรทัศน์ แต่ไม่ยักจำได้ว่าเคยคุ้นเคยหรือไปรู้จักมักจี่กันตอนไหน ดังนั้นสดายุจึงอาศัยช่วงทักทายตอบโต้สังเกตคู่สนทนาใหม่อีกครั้ง ชายหนุ่มตรงหน้าอายุน่าจะพอๆกับเขา ผมขาว...ถึงขาวมาก ขนาดสดายุที่มั่นใจในความขาวของตัวเอง ยังรู้สึกได้เลยว่าคนตรงหน้าสว่างกว่าเขาเยอะ ขาวจนริมฝีปากบางๆนั่นแดงแจ๊ด...ส่วนสูงน่าจะประมาณกฤตเมธ ซึ่งถือได้ว่าตัวใหญ่เลยทีเดียว ดวงตาคมเรียวดูมีเสน่ห์แกมเจ้าเล่ห์นิดๆ (อันนี้สดายุยอมแพ้)ผมหยักศกฟูฟ่อง ลักษณะนิสัยดูเป็นมิตรน่าคบหา...

ทว่า...นี่มันใช่เวลาที่เขาจะมาสนใจคนอื่นมั้ยเนี่ย?

“จำเราไม่ได้แล้วเหรอ? เฮ้ย เสียใจว่ะ” หนุ่มตัวขาวตัดพ้อพร้อมรอยยิ้ม

“อ่า...ขอโทษทีนะ...” แต่ก็ไม่ได้ทำให้สดายุนึกอะไรออก

“หึหึ...เรา ‘ดนัย’ ไง ที่เคยเล่นหนังเรื่อง ‘เรือนแก้ว’ ด้วยกันน่ะ เอ้ย นี่ลืมสนิทเลยจริงๆเหรอ?” ชายหนุ่มที่อ้างตัวว่าชื่อ ‘ดนัย’  ถึงกับเลิกคิ้วสูงพร้อมขบขันออกมาทันทีที่รู้ว่าสดายุจำตัวเองไม่ได้

“อ๋อ...อ่า พอจะจำได้แล้วล่ะ ขอโทษทีนะ ดนัย” สดายุขมวดคิ้วน้อยๆ เหมือนยังนึกสงสัย แต่ก็เออออ ออกไปเพื่อจะได้จบบทสนทนาเสียที นี่เขาไม่ได้ว่างพอจะมารื้อความหลังเอาตอนนี้หรอกนะ!

“แอ่ะ จำกันจริงเปล่าเนี่ย? ฮะฮะ ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวคุยๆกันไปก็จำได้เองแหละ” ดนัยยิ้มจนตาหยี เป็นมิตรสุดๆ

นั่นสินะสดายุก็เริ่มรู้สึกคุ้นตาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะทบทวน

“เอ่อ...ขอโทษทีนะดนัย คือผมกำลังรีบน่ะ ขอตัวก่อนนะ”

“อ้าว....”

สดายุเอ่ยขอโทษจบ ก็หันไปกดลิฟท์ที่ลงมารออยู่ก่อนแล้ว เพื่อจากไปแบบไร้เยื่อใยสานต่อ

ติ๊ง...

Going Up…


“.............................................”

“โอ๊ะ ขอโทษที เราก็จะขึ้นสำนักงานเหมือนกัน ขอติดไปด้วยคนนะ”

ทันทีที่สดายุก้าวเท้าเข้าลิฟท์ ดนัยก็ตามเข้ามาด้วยติดๆ รอยยิ้มหวานที่ตอนนี้ดูไม่ค่อยจะเข้าตาสดายสักเท่าไหร่ยังคงส่งให้ไม่ขาด

‘เฮ้อ...ไอ้ประหลาดคน’

ติ๊ง...

Thirty two floor…


ถึงชั้น 32 ประตูเปิด ดนัยเดินออกไปได้สองก้าวก็ต้องชะงัก แล้วหันกลับมาถามสดายุด้วยท่าทีฉงน “อ้าว? ไม่ออกไปสำนักงานด้วยกันเหรอ?”

สดายุส่งยิ้มน้อยๆให้คนถามก่อนตอบออกไปตามมารยาท “ผมจะไปชั้น 40”

“อื๋อ? ห้องท่านประธานน่ะเหรอ?” ดนัยเลิกคิ้วสูงถามต่อโดยใช้ตัวโตๆของตนขวางประตูลิฟท์เอาไว้ไม่ยอมให้ปิด

“ขอโทษนะผมกำลังรีบ” ถูกตื้อนานเข้าสดายุเริ่มอารมณ์ไม่ดี ‘หมอนี่มันจะอะไรของมันนักหนาวะ!?’ ทั้งๆที่เขาอยากริบไปทำธุระให้เสร็จไวๆ แล้วทำไมต้องมาติดหนึบอยู่กับคนที่เขาไม่ได้รู้จักสนิทสนมด้วยละเนี่ย!!?

“เฮ้ย!?” ทันทีที่สดายุผลักอกอีกฝ่ายให้ออกพ้นประตู ก็เป็นอันต้องสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดเพราะถูกอีกฝ่ายคว้ามือของเขาไว้อย่างถือวิสาสะ

“อย่าเพิ่งฉุนสิยุ เราแค่จะบอกว่า ท่านประธานคงไม่ว่างมั้งตอนนี้”

“ทำไม?” สดายุเสียงกร้าวเล็กน้อย พลางกระชากมือตัวเองกลับมา

ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...

เสียงร้องเตือนพร้อมประตูลิฟท์ที่ปิดลงทันทีเพราะหมดเวลารอ ทำให้ดนัยลนลานเข้ามาในลิฟท์อีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ ชายหนุ่มยิ้มแผล่ให้กับสดายุที่ได้แต่ขมวดคิ้วหงุดหงิด

“เอ่อ...โทดทีนะ...เราแค่จะบอกว่า ตอนนี้ท่านประธานน่าจะมีแขกอยู่น่ะ...”

“.....รู้ได้ไง”

“คือ...เมื่อกี้ตอนเราเอาแผนงานขึ้นไปส่งท่านประธานแทนผู้จัดการส่วนตัวของเราน่ะ เราเห็นคุณกฤตเมธเข้ามาคุยกับท่านประธานอยู่ ตอนนี้ก็คงยังอยู่มั้ง ยังไม่ยักเห็นลงไปด้านล่างเลย”

ติ๊ง...

Forty Floor…


“อ๊ะ? ยุ? เฮ้ยจะเข้าไปแทรกเลยเหรอ ไม่เวิร์คมั้ง?” ดนัยคว้าสดายุเอาไว้ทันทีที่เห็นว่าเพื่อนนักแสดงเลือดร้อนตรงหน้า วิ่งฝ่าโถงกว้างไปอย่างไม่คิดฟังคำห้ามปราม

“ปล่อย!”

“โอ๊ะ?....เอ้ย...สดายุ!!”

สะบัดทีเดียวหลุด สดายุก็จ้ำห้อตรงไปข้างหน้าจุดหมายคือห้องท่านประธานโดยไม่คิดจะฟังเสียงทัดทานให้ระคายหู อารมณ์นี้ใครห้ามเขาก็ไม่สนแล้ว โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่า ‘กฤตเมธ’ ก็อยู่ในห้องนั้นด้วย

แกร๊ก!!

“ขออนุญาตครับ!”

ทันทีที่ถึงหน้าประตูบานเขื่อง สดายุก็เปิดเข้าไปทันทีแบบไม่มีการให้สัญญาณใด ทั้งที่มันเคยเป็นห้องที่เขาเคยหวาดหวั่นไม่คิดย่างกราย
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของสดายุคือ เสน่ห์จันทร์ที่นั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะด้วยสีหน้าที่ไม่รับแขกเท่าไหร่ กับกฤตเมธที่ยืนอยู่ฝั่นตรงข้ามที่กำลังแสดงสีหน้าตกตะลึงเล็กๆ

“...ยุ?”

กฤตเมธเอ่ยเรียกสดายุเบาๆ ชายหนุ่มดูท่าทางจะตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าคนที่ควรนอนพักอยู่ที่คอนโด ดันมาโผล่ที่นี่

“อึ๋ย...ขอโทษครับท่านประธาน คุณกฤตเมธ เดี๋ยวผมพาเขาออกไปก่อนให้นะครับ” ดนัยที่วิ่งตามหลังมาติดๆ เอ่ยขอโทษที่เสียมารยาทแทนสดายุ ก่อนจะเข้ามาคว้าตัวคนสร้างเรื่องไว้แล้วพยายามดึงรั้งออกไปด้วยกัน

“เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย? ปล่อยฉันนะ!” สดายุบ่นอุบ พลางพยายามฝืนกายออกจากอ้อมแขนแข็งแรงที่กำลังจับรั้งต้นแขนทั้งสองข้างของเขาจากด้านหลัง

“อย่าดื้อน่า เดี๋ยวก็เจอดีหรอก บ้าบิ่นเหมือนเดิมเลยนะนายเนี่ย” ทว่าดนัยเองก็ไม่ยอมปล่อย ด้วยความที่ชายหนุ่มตัวโตกว่าสดายุมากนัก จึงทำให้ไม่ว่าสดายุจะดิ้นรนยังไง ดนัยก็ไม่คนามือ

“เดี๋ยว!!”

“...........................” เสียงคำรามต่ำของกฤตเมธทำเอาทั้งสดายุและดนัยถึงกับกยุดการเคลื่อนไหวชะงัด

“........................” และยิ่งได้เห็นใบหน้าถมึงทึงตึงเปรี๊ยะของพระเอกเนื้อทองเข้าด้วยแล้ว เล่นเอาดนัยหายใจไม่ออกเลยทีเดียว ผิดกับสดายุที่แค่ขมวดคิ้วขัดใจเท่านั้น

“ปล่อยสดายุเถอะ ดนัย เขามีธุระกับฉัน” ไม่พูดเปล่า มือของกฤตเมธคว้าตัวสดายุเข้ามาโอบไว้ในอ้อมอกด้วยแขนเพียงข้างเดียวทันทีที่แจ้งให้เด็กร่วมสังกัดทราบ ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มรื่นหู

“อ่า...ครับ” ทว่าสายตาอันโหดเหี้ยมที่ส่งมานั้นไม่ได้ทำให้ดนัยรู้สึกดีกับเสียงสบายหูนั่นแต่อย่างใด แค่สบตาประกายไฟก็แล่นปราดเล่นเอาหน้าดนัยชาไปเป็นแถบ หนุ่มหน้าทะเล้นจึงทำได้แค่ถอยไปตั้งหลัก แล้วออกจากห้องไปเงียบๆ ปิดประตูให้เบาๆ

>
<
>
<

ดนัย นักแสดงหนุ่มฝีมือดี ที่เพิ่งจะกลับจากการไปรับงานที่ต่างประเทศมาเป็นเวลาสองปี เขาไม่ค่อยรู้นักว่าในวงการบันเทิงของไทยนั้นใครเป็นอะไรยังไงบ้าง เพราะเพิ่งจะกลับมาได้ไม่ถึงสัปดาห์

ก่อนไปเขารู้ว่าสดายุที่เคยเล่นละครด้วยกันถูกข่าวลือรุมเร้าจนต้องออกจากวงการ ตอนนั้นดนัยรู้สึกเสียดายมาก เพราะโดยส่วนตัวแล้วเขาเองนั้นชื่นชมในฝีมือของสดายุอยู่ไม่น้อย อยากส่งกำลังใจไปช่วยแต่ก็ติดงานต้องไปต่างประเทศเสียก่อน มาวันนี้พอได้เจอสดายุตัวเป็นๆที่บริษัท ดนัยยอมรับตรงๆเลยว่าดีใจสุดๆ สดายุในสายตาของเขายังคงเปล่งประกายเจิดจ้า แม้จะแปลกจากความทรงจำไปหน่อยตรงที่ผอมมาก แต่ก็ผอมแบบดูดี ไม่ขัดตา ออกไปทางน่าทะนุถนอมเสียมากกว่า

ถูกตาต้องใจจนต้องรี่เข้าไปทักทายด้วยว่าทนไม่ไหว ทว่าอีกฝ่ายดันจำเขาไม่ได้เลยแม้สักกระผีก เล่นเอาเสียเส้นไปนิด แต่ไม่เป็นไร เขาเข้าใจอยู่ เพราะตอนนั้นที่เล่นละครด้วยกัน สดายุที่เล่นเป็นพระเอกนั้นกำลังขึ้นหม้อและโด่งดังสุดๆ เทียบกับเขาที่เป็นเพียงเพื่อนพระรองนอกสายตาที่เข้าฉากด้วยกันเพียงไม่กี่ฉากแล้ว ก็ไม่แปลกที่สดายุจะลืม...

“มีธุระอะไรกันน๊า...เฮ้อ ทำโก๊ะซะแล้วเรา” ดนัยได้แต่บ่นกับตัวเอง เกาหัวแกร๊กๆ แล้วเดินลงลิฟท์ไปยังที่ของตน



“เอาไว้ค่อยขอเบอร์คราวหน้าแล้วกันวะ”




>
<
>
<
>

กฤตเมธ มาถึงบริษัท ตอนเก้าโมงสี่สิบ หลังจากที่ตอนแรกเขาตั้งใจแค่จะไปหาอ๊อดที่กองถ่าย จึงโทรเข้าไปนัดอีกฝ่ายก่อนทว่า ข้อมูลที่อ๊อดแจ้งให้ฟังทำให้กฤตเมธต้องเปลี่ยนเส้นทางบึ่งเขาบริษัทก่อน

‘เฮ้ยเมธ มีคำสั่งลงมาจากคุณเสน่ห์จันทร์ว่ะ ว่าให้ลดเวลาพักของไอ้ยุ และการถ่ายทำลง เพื่อจะปล่อยทีเซอร์เดือนหน้า ลองโทรไปเช็คกับไอ้บลูม่าก็ดูเหมือนจะถูกสั่งห้ามรับงาน พี่ว่ามันไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะ ไอ้บลูม่ามันก็บอกเดี๋ยวจะลองคุยกับไอ้ยุมันก่อน พี่ว่าเมธก็เถอะ ลองไปเคลียร์กับท่านประธานเธอดูหน่อยแล้วกัน ผลที่มันออกมาแบบนี้ พี่ว่าเหตุก็คงไม่แคล้วไอ้ข่าวที่เคยเกือบหลุดน่ะแหละ...’

ได้ยินดังนั้นกฤตเมธก็ไม่รอช้า เขาเปลี่ยนเส้นทางตรงไปยังบริษัทต้นสังกัดทันที นี่อาจถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเคลียร์บางอย่างกับเสน่ห์จันทร์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียทีแล้ว

>
<
>
<
>


ติ๊ง!

Forty Floor…


>
<
>
<
>


“ขอร้องเถอะครับ ท่านประธาน! ได้โปรดของานให้ผมหน่อยนะครับ!!”


ทันทีที่กฤตเมธเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของเสน่ห์จันทร์ น้ำเสียงกระวนกระวายของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น

วันนี้กฤตเมธรีบร้อนไปหน่อย จึงทะเล่อทะล่าเข้ามาให้ห้องทำงานส่วนตัวของประธานเสน่ห์จันทร์โดยไม่ได้แจ้งทางเลขาฯให้ทราบก่อน และพอขึ้นมาถึงก็มาเจอเข้ากับเหตุการณ์นี้พอดี

ชายคนที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตรงหน้าโต๊ะของเสน่ห์จันทร์นั้นไม่ได้สังเกตเลยว่ามีเขาเข้ามาเป็นส่วนร่วมอยู่ตอนนี้ ยังคงร้องไห้ฟูมฟายอ้อนวอนบางอย่างกับท่านประธานด้วยทีท่าน่าสงสาร

แต่ดูเหมือนเสน่ห์จันทร์จะไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก ปล่อยให้อีกฝ่ายเกาะโต๊ะทำงานอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ไล่ แต่ก็ไม่ได้ฟัง และแม้เสน่ห์จันทร์จะเห็นแล้วว่ากฤตเมธเข้ามาในห้อง หล่อนก็ยังคงนิ่งฟังชายคนนั้นต่อไป

“ท่านประธานครับ ผมขอร้องจริงๆ งานอะไรก็ได้ เล็กน้อยก็เอา ขอให้ผมได้ลับมาทำเถอะนะครับ ผมไม่มีเงินเลย ครอบครัวผมตอนนี้ก็ลำบากมากครับ ซ้ำพรอกับแม้ยังป่วยอีก ผมสิ้นไร้ไม้ตอกแล้วจริงๆครับท่านประธาน เห็นใจผมด้วยเถอะครับ ได้โปรด ผมขอร้อง…”

“หมดตัวเพราะการพนัน จนเจ้าหนี้ตามเรียกถึงกองถ่ายจนเสียงานเสียการมากี่ครั้งกี่หนแล้ว หืม เธอยังมีหน้ามาขอความเห็นใจอีกเหรอ พิมาน?”

“ตอนนั้นผมผิดไปแล้วครับท่าน จากนี้ไปผมจะไม่เล่นพนันอีกแล้ว ผมจะตั้งใจทำงาน ขอร้องล่ะครับ”

“กลับไปซะเถอะ ฉันไม่มีงานอะไรให้เธอทั้งนั้นแหละ”

“ไม่นะครับ โธ่ท่านประธาน ได้โปรด…”

“กลับไปซะ! แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้วนะ”

“ทำไมทีกับไอ้สดายุท่านยังเรียกมันกลับมารับงานได้ แล้วผมล่ะ…” เมื่อโดนไล่อย่างไร้เยื่อใย ชายคนนั้นก็กร้าวเสียงขึ้น ซ้ำยังอ้างไปถึงสดายุที่ถูกเรียกกลับมาทำงาน ทั้งที่ประวัติก็ไม่ได้ดีไปกว่าตน

คำพูดนั้น ทำเอาเสน่ห์จันทร์ถึงกับหัวร่อ พร้อมกล่าวคำเย้ยหยันอย่างที่สุดใส่คนตรงหน้าอย่างไร้ความปรานี “ฉัน…ไม่ชอบทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์ เธอก็น่าจะรู้ดีใช่มั้ย ฉันเรียกสดายุกลับมา เพราะเขายังมีค่า…”

“ต่างกับเธอ…ที่ไม่เหลืออะไรประโยชน์อะไรอีกต่อไป”

“….ท่าน…ประธาน………”

“กลับออกไปได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องเสียมารยาท” เสน่ห์จันทร์ออกปากไล่เป็นครั้งสุดท้าย

“……………………..ท่านประธาน….แล้วท่านจะเสียใจ ที่ปฏิเสธผม…” ชายหนุ่มที่ชื่อพิมาน ตัดพ้อเสียงสั่นพร่า ทว่าไม่เป็นผลอะไรกับเสน่ห์จันทร์อีกต่อไปแล้ว

ตี๊ด…

“สุริยาวดี ให้คนขึ้นมาเชิญพิมานออกจากห้องฉันหน่อย เดี๋ยวนี้เลย”



 เห็นว่าอีกฝ่ายยังรั้น เสน่ห์จันทร์เลยใช้มาตรการเด็ดขาด ได้ยินดังนั้น พิมาน ก็ไม่รั้งรอให้ถูกจับหิ้ว ชายหนุ่มผลุนผลันออกจากห้องไปทันทีเช่นกัน ตอนที่หันมาเจอกฤตเมธยืนอยู่ฝ่ายนั้นผงะไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใด นอกจากเร่งฝีเท้าก้าวผ่านหน้ากฤตเมธ จ้ำเดินงุดๆออกไป ด้วยสีหน้าเจ็บร้าวระคนเจ็บแค้นชิงชัง…

“ว่าไง เมธ เรื่องที่เธออุตส่าห์มาหาฉันตั้งแต่เช้าแบบนี้ คงไม่ต้องเดาให้เสียเวลาสินะ”  เสียงหวานกังวานน่าเกรงขามของท่านประธานสาวใหญ่ถามไถ่ขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็กๆทันทีที่ได้อยู่กันสองต่อสอง

“ขอโทษครับที่ขึ้นมาโดยไม่ได้แจ้งก่อน” กฤตเมธกล่าวขออภัยด้วยความนอบน้อม พลางสืบเท้าเข้าใกล้โต๊ะทำงานที่เสน่ห์จันทร์นั่งรออยู่

“เอ่อ…คนเมื่อกี้นี่ใช่พระเอกที่ถูกปลดกลางอากาศ ตอนก่อนที่ผมจะไปมัลดีฟส์ใช่มั้ยครับ” กฤตเมธถามถึงคนที่จากไปแล้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย

“ฮึ อย่าไปสนใจเลย ไม่มีประโยชน์ให้ต้องใส่ใจหรอก” ทว่าเสน่ห์จันทร์ก็ไม่ได้สนใจที่จะตอบ

“คุยเรื่องขอเธอมาเถอะ….เรื่องสดายุล่ะสินะ” เสน่ห์จันทร์ลากเข้าเรื่องแบบไม่ต้องจั่วหัวเรื่อง

“ได้ข่าวว่า...ท่านห้ามสดายุรับงานอย่างนั้นเหรอครับ?” และกฤตเมธเองก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเสน่ห์จันทร์ได้ ชายหนุ่มก็ถามขึ้นตามตรงไม่มีอ้อมค้อม สายตามุ่งมั่นแน่วแน่ จ้องมองผู้เป็นนายและผู้มีพระคุณอย่างไม่มีลดละ

เสน่ห์จันทร์เพียงแต่ยิ้มให้กับคำถามของกฤตเมธ หล่อนเอนตัวลงไปด้านหลังเพื่อพักลงกับเบาะหนานุ่มของเก้าอี้ระดับผู้บริหารตัวใหญ่มั่นคง เท้าแขนลงบนที่เท้าขาทั้งสองข้างด้วยท่าทีสบายๆ สายตาของหล่อนหลุบต่ำลงเล็กน้อยพร้อมประสานนิ้วมือไว้ระดับหน้าอกราวกับกำลังใช้ความคิด

“เมธ เธอคิดอะไรอยู่...หืม?”

“ครับ?” คำถามแรกที่หลุดออกมาจากปากของเสน่ห์จันทร์ที่นั่งเงียบงันอยู่เนิ่นนาน

"หึหึหึ...แหม แหม...ตอบได้ฉะฉาน ราวกับวัยรุ่นเลยเชียวนะเมธ ป๊อบปี้เลิฟอยู่ล่ะสิ...หึหึ...ไร้เดียงสาจริงเชียว" เสน่ห์จันทร์หัวเราะชอบใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วหันหลังให้กฤตเมธ เดินไปยืนชมวิวของกรุงเทพมหานครตอนสายริมกระจกบางเขื่อง ไร้ความเชื่อมั่นในคำพูดของกฤตเมธอย่างสิ้นเชิง

"คุณเสน่ห์จันทร์........."

"เฮ้อ...เรื่องนี้ฉันคงเป็นคนผิดเองแหละ" เสน่ห์จันทร์ส่ายศีรษะที่มวยผมไว้อย่างสวยงาม มือซ้ายหล่อนยกขึ้นทาบอกราวกับรู้สึกผิดหนักหนา

"ผิดที่ให้เมธไปเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าอ๊อดอยากได้ และผิดหนักยิ่งกว่านั้นอีกตรงที่...เอาสดายุกลับเข้ามา" เสียงของเสน่ห์จัทร์กร้าวขึ้นเล็กน้อยตอนออกเสียงเรียกชื่อของสดายุ หล่อนปักใจเชื่ออย่างจริงจัง ว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่ความรู้สึกฉาบฉวยของคนสองคนเท่านั้น มันไม่มีทางจริงจังไปได้

เพราะหนึ่งคือพระเอกหนุ่มใหญ่ที่ผาดโผนในวงการมานานผ่านสาวน้อยสาวใหญ่มากก็มาก เดิมๆในทุกวันอาจแค่รู้สึกอยากทดลองของแปลกใหม่

และอีกหนึ่ง ก็แค่อดีตพระเอกเสเพล ที่ฟันไม่เลือกสมัยยังโด่งดังเพียงแต่เมื่อก่อนหน้านั้นสนใจแต่ผู้หญิง สงสัยว่าช่วงตกอับคงอดอยากปากแห้ง มาเจอกฤตเมธเข้าเลยไม่คิดจะเลือกมาก แถมยังเป็นประโยชน์สองชั้น เพราะกฤตเมธทั้งดังและมีบารมีในวงการไม่น้อย คว้าเอาไว้ได้ ก็ไม่อดตายอยู่แล้ว...

ไม่ได้จริงจังสินะ

ไม่มีทางจริงจังกันได้อย่างเด็ดขาด........................สินะ


"เธอคงแค่หลงไปน่ะกฤตเมธ ฉันว่าเธอเองก็คงรู้ ไม่ว่ายังไงมันก็ไปไม่รอด แค่ชั่วครั้งชั่วคราวฉันจะไม่ถือสา   ความสัมพันธ์ฉาบฉวยแบบนี้ฉันหวังว่ามันคงจะจบไปพร้อมกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้นะ ทางที่ดีเธอก็ควรห่างออกมาได้แล้วเมธ ฉันเร่งเวลาการถ่ายทำแล้ว อีกไม่นานก็คงจบ ทำเหมือนที่ผ่านๆมาน่ะแหละ ไม่ยืดเยื้อ...”


“ขอโทษนะครับท่านประธาน”

%
%
%
%
%
 :katai4:
ต่อด้านล่างจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2015 12:41:27 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ

 :katai1:



“ขอโทษนะครับท่านประธาน”

นิ่งฟังอยู่นาน นานจนรู้สึกว่าพอ ในที่สุดกฤตเมธก็ขอเป็นฝ่ายพูดในสิ่งที่เป็นจุดหมายของตนในวันนี้บ้าง

จุดหมายของเขาที่ต้องการอธิบายให้เสน่ห์จันทร์ได้เข้าใจว่า เรื่องระหว่างเขากับสดายุคือเรื่องจริง และที่ผ่านมาทั้งหมด เสน่ห์จันทร์นั่นแหละที่เข้าใจผิด

“ผมกับสดายุ เรารักกันจริงๆครับ”

“...เมธ”

“จริงอยู่ครับที่ช่วงแรก ผมอาจมองสดายุเป็นแค่ความแปลกใหม่น่าลิ้มลอง แต่ตอนนี้ผมรักเขาจริงๆ รักขนาดที่ว่าชีวิตต่อจากนี้ไป ผมก็ต้องการที่จะอยู่เคียงข้างเขาครับ!”


คำพูดแน่นหนัก สายตาแน่วแน่ กระแสเสียงมั่นคง ตอกย้ำในทุกๆความหมาย ทุกๆคำที่เอื้อนเอ่ยออกมาว่ามันจริงจังแค่ไหน และคนพูดให้ความสำคัญกับมันยิ่งกว่าสิ่งใด

ตั้งแต่ถูกช่วยเหลือ และผลักดันสู่วงการจากเสน่ห์จันทร์ กฤตเมธเทิดทูนแทบจะบูชาในน้ำใจของนายหญิงที่เอื้อเฟื้อแก่ครอบครัวของเขาที่เกือบจะเข้าภาวะล้มละลาย จนบิดาของเขาถึงกับเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตไป ฝ่ายมารดาเองก็ตรอมใจจนป่วยหนัก หนี้สินมากล้นพ้นตัว จนกฤตเมธที่ในขณะนั้นเป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 2 แทบไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนกระทั่งเสน่ห์จันทร์ ผู้บริหารใหม่ไฟแรงของบริษัทจัดหาดารามาเจอเข้า และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซ้ำยังให้งานกฤตเมธทำ งานนักแสดงรายได้ดี จนสามารถจุนเจือครอบครัวได้ ยิ่งนานเข้างานชิ้นใหญ่ขึ้น ได้เล่นละคร หนัง รวมทั้งได้เป็นพระเอกทั้งที่อายุยังน้อย ชื่อเสียงโด่งดัง ค่าตัวสูงขึ้น ไม่ช้าเขาก็ล้างหนี้สินหมด ธุรกิจที่เคยล้มก็สามารถยึดยื้อเอาไว้ได้ ทั้งยังสามารถขยายกิจการให้ใหญ่โตขึ้นได้อีก

เพราะความช่วยเหลือของเสน่ห์จันทร์โดยแท้

จากนั้นมา กฤตเมธก็เชื่อฟังเสน่ห์จันทร์มาตลอด ประธานสาวเป็นคนดี หล่อนมีเหตุผลในการลงมือทำสิ่งต่างๆเสมอ กฤตเมธเคารพและเชื่อฟังเสน่ห์จันทร์มากทั้งใจฐานะเจ้านาย และผู้มีพระคุณ ชายหนุ่มทำตัวดี อยู่ในโอวาท ไม่เคยสร้างความเสื่อมชื่อ เพราะกฤตเมธถือว่านั่นคือการทดแทนบุญคุณที่สมค่าที่สุด

กระทั่งผ่านมาเกือบ 15 ปี ความรู้สึกนี้ของเขาก็ยังไม่ได้เปลี่ยน แน่นอนว่ากฤตเมธยังคงรู้สึกสำนึกในความเมตตา และบุญคุณของเสน่ห์จันทร์เสมอ

แต่นั่น...มันไม่เกี่ยวกับความรู้สึกรักที่เขามีให้สดายุ

และมัน...

แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง

เขาไม่มีทางตอบแทนบุญคุณของเสน่ห์จันทร์ ด้วยการเลิกรักสดายุ

“เธอ...คิดดีแล้วเหรอ?” เสน่ห์จันทร์ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ยากจะคาดเดาอารมณ์

“ครับ” และกฤตเมธก็ไม่ได้ลังเลที่จะตอบ

“...เมธ...เธอคิดดีๆก่อนนะ...ฟังฉัน...ทางที่เธอเลือกมันกำลังจะทำลายทุกอย่างที่เธอสร้างมาทั้งหมดให้ย่อยยับลงด้วยมือของเธอนะ”  เสน่ห์จันทร์ทัดทาน สีหน้าของหล่อนตอนนี้ฉายแววกังวล ชัดเจน หล่อนหันกลับมาเผชิญหน้ากับกฤตเมธอีกครั้ง แต่ยังคงยืนกอดอกอยู่ตรงที่เดิม

“ผมคิด และไตร่ตรองอย่างดีที่สุดแล้วครับ”

“แต่เมธ...เธอยังไปได้ไกลกว่านี้นะ ตัดสินใจให้ดี! หรือหากว่าเธออิ่มตัวแล้วกับการแสดง เธอยังสามารถผันตัวไปเป็นเบื้องหลัง โดยทิ้งเกียรติ์ประวัติที่น่าสรรเสริญไว้แก่พวกเด็กรุ่นหลัง...เธอทำมาดีแล้วนะเมธ อย่าให้มันต้องมาพังตอนจบ อย่าให้มันต้องพินาศไปเพียงเพราะคนคนเดียว...”  เสน่ห์จันทร์พยายามเกลี้ยกล่อม “ฉันหวังมากนะเมธ ว่าเธอจะออกจากวงการอย่างสง่างาม ฉันหวังให้เธอยังคงเป็นที่กล่าวขาน และหวังเหลือเกินให้เธอยังคงเป็นดาวค้าฟ้าที่ไม่มีวันดับ...” จบคำสเน่ห์จันทร์จดจ้องกฤตเมธด้วยความคาดหวัง ว่ากฤตเมธอาจตาสว่าง อาจจะยังฟังเธออยู่บ้าง

“...ขอบคุณมากครับท่านประธานที่ท่านเป็นห่วงผมถึงขนาดนี้...” ทว่า กฤตเมธกลับทำลายความหวังของสเหน๋จันทร์จนป่นปี้ลงในประโยคเดียว “ แต่ผมตัดสินใจแล้วครับ...ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าผมจะอยู่กับสดายุ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”

เสน่ห์จันทร์แทบจะทรุดฮวบลงบนพื้นห้อง ความหวังที่เธอมีเหมือนถูกทำลายลงต่อหน้า หล่อนเดินราวคนจะสิ้นแรงกลับมาทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง ถอนหายใจยาวเหยียด เท้าแขนขวากับโต๊ะทำงานกว้าง พลางนวดขมับขวาตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน

“เธอทำให้ฉันผิดหวังมาก…กฤตเมธ…” เสน่ห์จันทร์เอ่ยขึ้นหลังนิ่งเงียบอยู่นาน

“ทั้งที่เธอเคยบอกว่าจะตอบแทนฉัน…”

“และฉันก็คาดหวัง…ในสิ่งที่เธอพูด…หวังไว้อย่างสวยงาม”

“แต่สุดท้าย เธอก็เป็นคนเหยียบย่ำมันเสียเอง…”

“เธอทำลายความหวังของฉันด้วยเท้าของเธอเอง กฤตเมธ!!”


เสน่ห์จันทร์เค้นทุกคำออกจากอกอย่างรวดร้าว หล่อนคาดหวังกับกฤตเมธมากจริงๆ และคิดมาตลอดว่ากฤตเมธต้องตอบสนองความคาดหวังของหล่อนได้ เสน่ห์จันทร์ทั้งคาดหวังและฝากทุกอย่างไว้ในมือของกฤตเมธ ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มที่หล่อนเฝ้าฟูมฟัก กลับทรยศความหวังของหล่อนแบบไม่มีชิ้นดี

“ผมขอโทษ” กฤตเมธเอ่ยขอโทษออกไปจากหัวใจ เขารู้สึกผิด ยิ่งได้เห็นว่าเสน่ห์จันทร์ เจ้านายผู้ไม่เคยลงให้ใครต้องมาเจ็บปวดเพราะเขาด้วยแล้ว กฤตเมธยิ่งรู้สึกผิดขึ้นไปอีก

“ท่านจะให้ผมทดแทนคุณของท่านแบบไหน อีกเท่าไหร่ก็ได้ครับ ขออย่างเดียว…เรื่องสดายุ…ขอให้ผมได้อยู่กับเขา…” ทว่าความรู้สึกผิดนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนใจ

“ฮึ…ฉันคนนี้…เป็นคนที่จะไม่ยอมลงมือลงแรงกับเรื่องใดเด็ดขาด ถ้าเห็นว่ามัน ไร้ซึ่งประโยชน์…ใครๆต่างก็รู้ดี เธอก็ด้วยสินะเมธ…”

“….?? ครับ…พอจะทราบ” จู่ๆ เสน่ห์จันทร์ก็เอ่ยบางเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองขึ้นมา ทำให้กฤตเมธรู้สึกฉงนใจเล็กน้อย

“แน่นอนว่าที่ฉันชุบเลี้ยงเธอให้เป็นพระเอกแถวหน้านั้นเพราะมันคือผลประโยชน์ ทั้งกับตัวฉันและตัวเธอ…”

“ประโยชน์…ทั้งเรื่องเกียรติยศชื่อเสียง และประโยชน์เรื่องที่ฉันจะได้วางใจฝากฝังของสำคัญไว้กับเธอได้…”

เสน่ห์จันทร์เอ่ยทุกคำโดยที่ไม่ยอมเงยขึ้นมาสบตากฤตเมธเลยแม้แต่นิด หล่อนยังคงเท้าแขนขวากับโต๊ะ พลางใช่มือขวานวดขมับอยู่อย่างนั้น

‘ของสำคัญ’ ที่เสน่ห์จันทร์พูดถึง คืออะไร กฤตเมธก็ไม่อาจรู้ได้ ชายหนุ่มรู้เพียงแค่ ‘รู้สึกผิดทบเท่าทวี’ ที่ไม่สามารถสนองความคาดหวังของผู้มีพระคุณได้ก็เท่านั้น

“กฤตเมธ…”

“ครับ!”

จู่ๆ เสน่ห์จันทร์ก็เรียกขึ้น

“ที่เธอเคยสัญญาว่าจะดูแลชิดจันทร์เป็นอย่างดี…เธอยังทำมันได้อยู่มั้ย?”

“…ผม………………………..”

แกร๊ก!!

“ขออนุญาตครับ!”


“…………………………………………”

การสนทนาทุกอย่างสะดุดลงทันทีที่ถูกขัดขวางอย่างกะทัน

“...ยุ?”

กฤตเมธถึงกับเอ่ยเรียกสดายุออกไปเบาๆอย่างลืมตัว เขาตกใจไม่น้อยเลยที่จู่ๆ คนที่ควรนอนพักอยู่ที่คอนโด ดันมาโผล่ที่นี่

“อึ๋ย...ขอโทษครับท่านประธาน คุณกฤตเมธ เดี๋ยวผมพาเขาออกไปก่อนให้นะครับ” และยิ่งต้องขมวดคิ้วมุ่นทันทีเมื่อได้เห็นว่ามีชายหนุ่มร่างใหญ่โตอีกคนตามมาด้านหลังพลางฉุดกระชาก ถึงเนื้อถึงตัวของสดายุมากจนเกินความจำเป็น

“เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย? ปล่อยฉันนะ!” สดายุบ่นอุบ พลางพยายามฝืนกายออกจากอ้อมแขนแข็งแรงที่กำลังจับรั้งต้นแขนทั้งสองข้างของเขาจากด้านหลัง โดยไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า กฤตเมธที่กำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้นั้นทำหน้าตึงขนาดไหน

“อย่าดื้อน่า เดี๋ยวก็เจอดีหรอก บ้าบิ่นเหมือนเดิมเลยนะนายเนี่ย” ดนัยพยายามรั้งร่างโปร่งบางของสดายุอย่างสุดกำลัง

“เดี๋ยว!!”

“...........................” จากนั้นเสียงคำรามต่ำแต่กังวานของกฤตเมธทำเอาทั้งสดายุและดนัยถึงกับหยุดการเคลื่อนไหวชะงัด หลังจากยื้อยุดกันอยู่นาน

“........................” และยิ่งได้เห็นใบหน้าถมึงทึงตึงเปรี๊ยะของพระเอกเนื้อทองเข้าด้วยแล้ว เล่นเอาดนัยหายใจไม่ออกเลยทีเดียว ผิดกับสดายุที่แค่ขมวดคิ้วขัดใจเท่านั้น

“ปล่อยสดายุเถอะ ดนัย เขามีธุระกับฉัน” ไม่พูดเปล่า มือของกฤตเมธคว้าตัวสดายุเข้ามาโอบไว้ในอ้อมอกด้วยแขนเพียงข้างเดียวทันทีที่แจ้งให้เด็กร่วมสังกัดทราบ ด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มรื่นหู เสียงนุ่ม ตาขวาง เพราะไฟหึงในหัวใจกำลังลุกโชน

‘ไอ้เด็กบ้านี่ใครวะ!?’

“อ่า...ครับ” เมื่อตั้งสติได้และเห็นว่าตัวเองกำลังโดนจ้องเล่นงาน หนุ่มหน้าทะเล้นถึงกับผละจากแล้วถอยไปตั้งหลักทันที ก่อนจะออกจากห้องไปเงียบๆ ปิดประตูให้เบาๆ

ทิ้งไว้เพียงความเงียบ…

“มาทำอะไรที่นี่กันยุ? ยังไม่สร่างไข้ดีเลยนะ!” ทันทีที่ลับร่างของดนัยผู้เป็นส่วนเกิน กฤตเมธก็ระล่ำระลักถามไถ่ที่มาที่ไปของสดายุ เพราะชายหนุ่มมั่นใจเหลือเกินว่าเมื่อเช้าตอนวัดไข้ให้ คนรักของตนยังมีไข้ต่ำๆอยู่เลย แล้วนี่ออกมาผจญภัยข้างนอกตอนแดดจัดๆแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ไข้กลับอีก

“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์นิดหน่อยครับ ผมเลยต้องมา” สดายุตอบออกไปพร้อมรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะผละจากกฤตเมธเพื่อเดินตรงไปหาชิดจันทร์

“หึ…เข้าง่ายจริงนะ ห้องประธานบริษัทเนี่ย ไม่ต้องแจ้งก่อน ไม่ต้องขออนุญาต ไม่ต้องให้เกียรติ์ ไม่ต้องรักษามารยาท นึกจะมาเมื่อไหร่ก็มา นึกจะไปตอนไหนก็ได้…ฮึ!” เสน่ห์จันทร์ค่อนขอดขึ้น โดยที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำว่าผู้มาเยือนคนล่าสุดคือใคร

“ขอโทษครับ” สดายุกล่าวขอโทษตามมารยาท เพราะรู้ดีว่าตัวเองมีส่วนผิด

“บังเอิญผมมีเรื่องด่วนที่จะต้องคุยกับคุณให้ได้ ผมเลยต้องเสียมารยาทโดยการผลุนผลันเข้ามาโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อน” สดายุอธิบาย สายตาจับจ้องไปที่เสน่ห์จันทร์ที่ในตอนนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่จะชายตามามอง

“……………………” ซ้ำยังไม่มีการตอบโต้อีกด้วยว่าต้องการจะคุย หรือสะดวกหรือเปล่า

เห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบ สดายุก็เปิดปากพูดต่อ จะสนหรือไม่ไม่สำคัญอีแล้วในตอนนี้

“ผมมาขอกฤตเมธจากคุณครับ คุณเสน่ห์จันทร์!”

“……………….!!!???” เมื่อประโยคเด็ดถูกส่งออกไป คราวนี้ไม่สนใจคงไม่ได้แล้ว ทั้งกฤตเมธและเสน่ห์จันทร์ถึงกับหันมองสดายุเป็นตาเดียว…

แตกต่างกันเล็กน้อย ตรงที่

กฤตเมธดูตกตะลึง ระคนดีใจ

ผิดกับเสน่ห์จันทร์ ที่แสนจะขุ่นเคือง

“กฤตเมธ! เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ!” คำขอของสดายุดูท่าเสน่ห์จันทร์จะปฏิเสธทิ้งโดยไม่ใยดี เพราะหล่อนไม่ยอมต่อความกับสดายุ แต่กลับหันไปคุยกับกฤตเมธต่อแทน

“ตอบฉันมาสิ! ว่าที่เธอเคยสัญญาจะดูแลชิดจันทร์เป็นอย่างดีน่ะ…เธอยังทำมันอยู่ใช่มั้ย?

จบคำถามคุกรุ่นของท่านประธาน สดายุหันมองกฤตเมธทันที สัญญาอะไร? ผูกมัดกฤตเมธขนาดไหน? หัวใจของสดายุถึงกับเต้นระส่ำ ทั้งตกใจกับคำถาม และหวาดหวั่นคำตอบของกฤตเมธ

“ว่าไง!?” เสน่ห์จันทร์ไม่รอช้า หล่อนเร่งเร้าจะเอาคำตอบ เส้นประสาทเธอตึงถึงขีดสุดแล้วในตอนนี้

“ผมขอโทษครับ…” กฤตเมธก้มหน้าเล็กน้อย ด้วยความรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง พลางเอ่ยคำตอบที่แสนเจ็บหน่วง “ผม…สามารถดูแลชิดจันทร์ได้ในฐานะพี่น้องเท่านั้น อย่างที่ผมเคยแจ้งท่านเอาไว้ตั้งแต่แรก และมันจะไม่มีวันเปลี่ยน……….” พูดจบก็เอื้อมมือมากระชับเข้ากับมือของสดายุมั่น

“ผมรักสดายุ ผมไม่สามารถให้ใครมาสำคัญกับหัวใจของผมมากไปกว่าเขาได้…”

“ส่วนชิดจันทร์…ผมยังสามารถดูแลเธอในระดับพี่น้องได้เหมือนเดิม เพียงแต่มันไม่มีทางเป็นอะไรได้มากกว่านั้นเด็ดขาด……”

“โปรดเข้าใจผมด้วยครับ” พูดจบกฤตเมธก็ก้มหัวแทนการขอโทษ ชายหนุ่มก้มอยู่อย่างนั้นนิ่งงัน เพื่อรอคำบริภาษของเสน่ห์จันทร์

“เนรคุณ!!”



**********************************************************************

โอย…หน่วงเล็กๆ

เมื่อไหร่จะถึงฉากไคลแม็กซ์สักทีน่อ…

สปอยล์ : ตอนหน้า มีปะทะเล็กน้อย แต่เอ๊ะ? จะเป็นใครกับใครนะ

ดราม่าจะมีมาให้สดายุต้องฝ่าฟันไปอีกพักใหญ่ๆจ๊ะ
แต่เอาน่า นางไม่ใช่พวกยอมแพ้อะไรง่ายๆหรอก
แถม…ยิ่งสู้ นางยิ่งรู้คุณค่าของตัวเองมากขึ้นด้วยนะ
(เอ้า…อวยกันเข้าไป) อิอิ

ปล. และแล้วก็ได้ เปิดตัวดนัย!

 :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2014 00:33:16 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
แม่เจ้า  นี่มันคือมนุษย์ป้าของแท้เลยนี่  แหมๆๆๆ แม่คุณอะไรจะขนาดนั้น  ก็เข้าใจอ่ะนะว่าเป็นผู้มีพระคุณกับ กฤตเมธ  แต่ป้ามากเกินไปป่ะจะให้เค้าทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการทุกอย่างเลยรึไง  กฤตเมธก็เป็นคนนะเค้ามีสิธิ์ที่จะเลือก ป้าอ่ะทุเรศมีการรำเริกบุญคุณด้วยอ่ะ คือของแบบนี้มันไม่ใช่บ้างป่ะ  ไอ่ชุบเลี้ยงอ่ะพอเข้าใจหวังดีอยากให้เป็นดาวค้างฟ้าแบบไม่มีมลทินอ่ะเข้าใจ  แต่แบบจะเก็บเอาไว้ให้ลูกตัวเองมันไม่ใช่อ่ะป้าเรื่องแบบนี้เค้าไม่มาบังคับฝืนใจกันหรอก  กลัวลูกไม่มีผัวหรอคะ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงคะดูจากการกระทำแล้ว  นางมีแน่นอนเพราะเห็นนอกระแทกเบ้าตามาแล้วนางแอ๊บใสเก่งมากเลยค่ะ แต่ตอนนี้รักหนูยุมากค่ะ ป้าต้องเข้าใจสิคะว่าคนเค้ารักกันมันเป็นสิทธิ์ของเค้า  ป้าอย่าเอาคำว่าบุญคุณมาบังหน้าสิ  มันไม่งามนะคะ  เเล้วเรื่องเนรคุณนี่ป้าคงแค่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองแค่นั้นป่ะถึงได้พูดจาน่าเกลียดแบบนี้อ่ะ  มองจากการกนะทำของกฤตเมธแล้วมันไม่ใช่เลยอ่ะ ออกจะสำนึกในบุญคุณด้วยซ้ำ  แต่ผิดที่ป้าเองนั้นแหละที่ต้องการทุกอย่างให้เป็นใจตัวเองหมด  แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อมนุษย์ป้าไม่มีสิทธิ์มาตัดวินชีวิตใครหรือบังคับการดำเนินชีวิตของใครได้เพราะป้าแค่ผู้มีพระคุณที่เค้าตอบแทนมามากพอแล้ว และอย่าหวังว่าจะเก็บกฤตเมธให้ลูกสาวตัวเองได้แหละเพราะชั้นไม่ยอมแน่  มยุษย์ป้าที่เห็นประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่ต้องเจอกับชั้นสตรีผู้มีจิตใจงามดั่งมหาสมุทร  เข้าใจตรงกันนะคะ 

ส่วนเธอชิดจันทร์ เดี๋ยวชั้นจะเอาเลื่อยไปตัดนอเธอจะได้เลิกไล่ควิดสดายุกับกฤตเมธเค้าสักที  ยังสาวอยู่แท้ๆทำไมครั่นเนื้อครั่นตัวอยากมีผอสระอัวผัวขนาดนั้น  ป่ะกลับบ้านไปนอนซะได้เลิกเพ้อเจ้อมโนว่ากฤตเมธเป็นของตัวเองสักที จบนะ!!!

หนูสู้ๆนะจ๊ะการกระทำของหนูมันดีแล้วสำหรับตัวหนูและหัวใจของหนูลูก ชีวิตเราต้องสู้กับคนที่เค้ามีอำนาจมากกว่าแล้วยังใช้กดขี่เรา  อย่ายอมนะคะ  อย่าให้ใครมาดูถูกเพราะที่ผ่านมาก็มากพอแล้ว  มาความสุขใส่ตัวเองบ้างนะคะ จะได้สดชื่นขึ้น เป็นกำลังใจให้นะคะ รักน้องยุมากกกกก

ดนัยนายแค่พระรองที่ออกมาช้าเกินไป เค้าได้กันถึงไหนล่ะ  พึ่งโผล่มา  ไม่ได้เเอ้มน้องนุกรอก  บอกไว้เลย ฮ่าๆๆๆๆๆ

ปล.คนเขียนสุดยอดค่ะ ทำให้คนคนนึงหมั่นไส้ตัวละครได้ขนาดนี้ รอตอนต่อไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2014 23:59:00 โดย wikawee »

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
เอะอะก็ลำเลิกบุญคุณ !!!! ใจคอบุยคุณนี่จะให้ชดใช้กันไปจนตายเลยมั้ย รึยังไง ห๊าาาา
หยี้ น่าเกลียด ยัดเยียดลูกสาวตัวเองใส่พานให้คนอื่น มันน่าเกลียดไม่รู้หรอ
ยุไฟท์เลยลูก จะสู้ก็ต้องสู้ให้ชนะ !!!!!!

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด พระรองที่เฝ้าร้ออออออออออออออออออ  :m11:

... กราบงามๆให้คุณอนาคีที่ส่งคู่แข่งมาให้ตาลุงก่อนจบ

...ไม่ได้ไรนะ แต่จันตัวแม่นิอยากได้เอง รึให้จันลูก นางแลดูใส่อารมณ์นะ 555

รอตอนต่อไป๊ ยั้ย ยั้ย  :katai5:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
ส่งใบลาป่วย ขอไปรักษาไตวายเรื้อรังจากการบริโภคมาม่า  น้ำตาล น้ำตาก่อนค่า
แล้วจะกลับมาเมื่อภาวะหัวใจหายล้มเหลว :ling3:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
อะไรยังไงไม่รู้ รู้แต่ปลี้มพี่เมธกับน้องยุเต็มล้นใจ
ตอบกันไปคนละประโยคสองประโยคเด็ดๆได้ใจทั้งนั้น
“ผมมาขอกฤตเมธจากคุณครับ คุณเสน่ห์จันทร์!”
“ผมรักสดายุ ผมไม่สามารถให้ใครมาสำคัญกับหัวใจของผมมากไปกว่าเขาได้…”
โอ๊ยยย รู้สึกฟินนาเล่สุดๆๆๆๆ ดีดดิ้นไปมาหน้าคอม ขอโทษนะคะ เม้นท์ออกแนวบ้าบอเว้นเว้อ
แม่ยกน้องยุปลื้มปริ่มมากกกก  :heaven

4life

  • บุคคลทั่วไป
เเหม ด่าเขาเนรคุณ ตัวเองกับลูกโคตรเห็นเเก่ตัว
เเม่ลูกคู่นี้ปญอ อย่างเเรง

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เกลียดเสน่ห์จันทร์!!!!!!!!!!!!!!!

เมธแค่ขอรักและอยู่กับยุนี่เป็นการเนรคุณหรือเนี่ย

ที่จริง การตอบแทนบุญคุณ เมธก็ทำมาให้ตั้งแต่เข้าวงการแล้วนะ

เพราะเมธเป็นดาราในสังกัดของเสน่ห์จันทร์ ยังไงตอนมีงานก็เหมือนได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

โอ๊ยยยยย ไม่ชอบเลย :ling1:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เอาลูกสาวมาประเคนให้ชาวบ้านแบบนี้  ไปๆมาๆไม่ต่างจากแม่เล้าเลยวุ้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
โหยยยยยยย ป้า
ปล่อยๆเค้าไปเหอะ
เห็นละเซ็งแทนยุ

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
จะมาม่าชามเล็ชามใหญ่ไม่ว่า ขอแค่อย่าเอามาม่าเส้นอืดมาให้กินก็พอ
แต่2-3ตอนล่าสุดเนี่ยสำหรับเราไม่เรียกมาม่านะ เราเรียกต้มยำรสแซ่บ
หรือไม่ก็ยำรวมมิตรรสจัด คือมันแซ่บถูกปากมาก อีกอย่างเราอ่านแล้วไม่ค่อยหน่วง
มีแต่อย่างอ่านต่อเรื่อยๆเพราะมันสะใจดี อ่านนายเอกใสซื่อเจ้าน้ำตามาจนเบื่อแล้ว
ขอแรงๆแซ่บๆ สู้คนแบบนี้ล่ะ เค้าชอบ

ปล.แอบอยากเห็นไมเม้นท์คุณกฤตเมธหึงบ้างอะไรบ้าง อยากดูว่าคุณเมธแกจะแซ่บแค่ไหน
หลังจากพิสูจน์มาแล้วว่าบนเตียงแกก็แซ่บ แต่จะรอดูสนามรบชิงยุดูบ้างว่าแกจะมาแนวไหน
จะมีทางไหนบ้างที่สองแม่ลูกนั่นจะฉิบหายวายวอดมั่งป่ะจะได้ไปช่วยยุบ้าง
หวังว่าพระเอกที่ถูกถอดคงจะแค้นจนหาทางเอาคืนด้วยนะ จะได้ไม่ต้องถึงมือสุดายุ
และสุดท้ายมีสองคำที่อยากจะฝากแก่ชะนีมีนอสองตัวทั้งชิดจันทร์และเสน่ห์จันทร์ อีด-อก


ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
จะกรี๊ด อะ ทั้งเมศและน้องยุมาด้วยเรื่องหัวใจเหมือนกันเลยคู่รักตัวอย่าง คิคิ ใจตรงกัน ดนัยนี้โพล่มาได้จังหวะเลย อยากเหนเมศหึง ตอนหน้าจะรอซดมมาม่านะคะ

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :laugh: รู้สึกสะใจยังไงไม่รู้แฮะ รอติดตามคร่า

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
กริ๊ดอ่ะบอกเลย ยุ ไฟท์ติ้ง
คุณป้าขา ที่จริงคุณป้าต่างก็ผลประโยชน์ตอบแทนกันนะ
คุณกฤตเมธก็น่าจะทำเงินให้บริษัทของป้าได้ไม่น้อยตั้งแต่เข้าวงการ ถ้าหนี้บุญคุณใช้ไม่มีวันหมดก็ไม่ไหวนะ
แถมยังให้ตอบแทนโดยการแต่งงานกับยัยชิดจันทน์อีก ไม่ไหวคร่า
สดายุทุ่มสุดตัวเพื่อตาลุงเลยจร้าเพื่อความสุข อิอิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2014 11:58:38 โดย kinjikung »

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
น้องยุกล้าได้ใจมากเลย

ออฟไลน์ mahaki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
ยังไงๆก็ยังไม่ชอบใจคุณเมธอยู่ดี ต้องรอให้ยุออกโรงก่อนทุกทียังไม่เห็นคุณเมธทำอะไรด้วยตัวเองก่อนสักที ยังสงสัยเหมือนตอนที่ชะนีมาที่กองตอนก่อนหน้านี้ค่ะ ถ้ายุไม่ทำอะไรสักอย่างก่อนเมธจะทำยังไง ผู้มีพระคุณเราควรตอบแทนในทางทีทถูกนะคะไม่ใช่ยอมตามเขาไปทุกอย่าง นี่ถ้าตอนนี้เมธไม่ตอบแบบนั้นเราจะขอโหวตให้คนอื่นเป็นพระเอกแทน :beat:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ความรักมันบังคับกันได้ที่ไหนเล่า
พอเขาไม่รักลูกสาวตัวก็ว่าเขาเนรคุณ
คนแบบนี้ก็มีด้วย

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ป้าเยอะว่ะ

ไม่รู้จะนิยามยังไงดี  ป้าแม่มคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเองเหรอไงฟระ
คิดว่ามีบุญคุณแล้วได้ทุกอย่าง?
ให้ตายก็ต้องยอมเรอะ?


ออฟไลน์ uchikas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
โอ่ย ได้ใจทั้งพี่เมธทั้งยุเลย  :sad4:
มันต้องแบบนี้
สู้ไปด้วยกันนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด