ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1269077 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อุ้ป!! ป้าแกน่าสงสารเนอะ  ต้องรอดูๆ

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
บดินทร์คิดอะไรๆกะยุป่ะ?
แง้มๆๆ เมธอ่า ไปไหน?
ไม่เอานะ อย่ามายุ่งกะยุของเขาาาา

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ โกดังเก็บสินค้าที่
บ. ของคนเขียนฝากสินค้าเอาไว้จนวอดวาย ไม่เหลือซากนั้น
ทำให้คนเขียนงานงอก 7 วันเต็มสัปดาห์
ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า - 4 ทุ่ม ณ นิคมอุตสาหกรรม...ไกลโพ้น

จึงขอเรียนมาเพื่อทราบว่าคนเขียนจะไม่มีเวลาลงตอนใหม่เลยจ๊ะ
หากโชคดีสามารถเคลียร์งานหลวงได้ทันภายในวันอาทิตย์นี้
 :o12:
คนเขียนจิรีบมาลงภายในวันพุธหน้าเลยค่ะ
แต่หากเป็นไปไม่ได้
ขอเป็นคืนวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคมนะคะ
(คืนวันอาสาฬหบูชาพอดีเชียว -*-)

ขออภัยอย่างสูงปรี๊ดในความไม่สะดวกค่ะ
อนาคี 99
 :ling3:
ปล. ตอนหน้าจะต้องมาแบบยาวเหยียด จนเสียดกระเพาะปัสสาวะค่ะ
(ตั้งปนิธานแรงกล้า ฝุดๆ)

 :katai4:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ item

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เป็นกำลังใจให้คะ

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
เข้าใจแล้วรอได้จ้า

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
เป็นกำลังใจให้จ้า

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เอาใจช่วยคนเขียน fighting!!!!!(กับงาน)นะค่ะ
รอได้เสมอเน้อ :katai3:

ออฟไลน์ 28016

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ใช่ที่บางปูรึเปล่าคะเหมือนจะเห็นข่าวอยู่
สู้ๆนะคะ คนอ่านเป็นกำลังใจให้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Death Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สู้ๆ นะค่ะ

รอเสมอค่ะ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
รับทราบ...สู้ๆ ค่า  :a2: :a9: :a2:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
รอได้จ้ะ

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
จิรอเสียดนะ...  :katai5:

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
ดราม่ามากๆคะ ชอบๆจะเกาะติดหน้าจอรอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ ultra_bang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
คราฟฟสู้ๆๆๆนะครับๆๆๆ    จะรอคราฟๆๆผม :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป รอได้เสมอค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
รอนะฮะ  :')

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ finn~luv

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
รับทราบค่าาา
สู้ๆ กับงานนะคะ แล้วจะรอค่า  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 33




เมื่อครั้งอายุเพียง 18 ปี เสน่ห์จันทร์ซึ่งตอนนั้นเป็นบุตรสาวคนเดียวของเจ้าสัวโรงสีใหญ่ย่านชานเมือง ได้หนีตามชายคนรักที่เป็นเพียงคนงานในโรงสี ทั้งคู่หนีออกจากบ้านไปด้วยกัน เพียงเพราะถูกครอบครัวกีดกัน และเสน่ห์จันทร์ยังถูกจับคลุมถุงชนกับลูกชายเสี่ยปล่อยเงินกู้เจ้าใหญ่ของแถบนั้นอีกด้วย

ความรักเกิดจากความเข้าใจและใกล้ชิด เพราทั้งคู่นั้นรู้จักกันมาตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยชายหนุ่มก็เป็นลูกชายของคนงานเก่าแก่ ความผูกพันเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างไม่อาจหักห้าม และในวันที่ความรักมากล้นเกินทนไหว สองหนุ่มสาวก็หนีตามกันไป ใช้ชีวิตด้วยกันด้วยความรัก แม้จะลำบากเข้าขั้นปากกัดตีนถีบ แต่เสน่ห์จันทร์ก็มีความสุขมาก กระทั่งหล่อนตั้งครรภ์ในสองปีถัดมา เด็กในครรภ์สมบูรณ์แข็งแรง หลังอัลตร้าซาวด์พบว่าเป็นเพศชาย

 ‘ลูกชายของคนที่หล่อนรัก’

สองสามีภรรยาทั้งดีใจและมีความสุขมาก ทั้งคู่พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินเลี้ยงดูลูกที่กำลังจะเกิดมา วาดหวังสร้างอนาคตแสนยาวไกลกันตามประสาพ่อ แม่ ลูก

ทว่า...

ความสุขมันไม่เคยจีรัง เพราะในวันที่เสน่ห์จันทร์ตั้งครรภ์ครบ 5 เดือน สามีและพ่อของลูกของหล่อนก็ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ จากอุบัติเหตุ เขาถูกรถชนเสียชีวิตขณะกำลังเดินทางกลับจากที่ทำงานในตอนเย็น ในวันครบรอบการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันครบ 2 ปีพอดิบพอดี เสน่ห์จันทร์ที่เตรียมงานเลี้ยงเล็กๆรออยู่ที่บ้านนั้น พอทราบเรื่องเข้าก็แทบเสียสติ หล่อนรีบรุดมาที่โรงพยาบาลแต่ก็สายเกินไป ชายคนรักเธอสิ้นลมหายใจก่อนที่หล่อนจะไปถึงได้ไม่นาน ความเสียใจถาโถมจนเสน่ห์จันทร์สิ้นสติ  และด้วยความช็อครุนแรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เสน่ห์จันทร์แท้งบุตรชายไปโดยไม่ตั้งใจ หล่อนตกเลือดมากจนน่ากลัว หลับไหลอยู่ในห้องไอซียูอยู่หลายวัน ทางโรงพยาบาลติดต่อญาติได้จากฐานข้อมูลที่มีอยู่

...จากนั้น หล่อนก็ถูกพาตัวกลับบ้าน แล้วชีวิตหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

หลังรักษาตัวจนหายดีแล้ว เสน่ห์จันทร์ถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของบริษัทเงินกู้ทันที ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ และเพื่อล้างอายจากสิ่งที่เสน่ห์จันทร์ทเอาไว้ด้วย จากเคยเป็นลูกรัก ก็กลายเป็นลูกชังของที่บ้าน แต่งเข้าตระกูลเงินกู้ก็ถูกดูแคลนเพราะใม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แถมยังเคยแท้งลูกมาก่อน ชายผู้มาเป็นสามีของเสน่ห์จันทร์ก็เป็นผู้ชายจับจด ไม่เป็นโล้เป็นพาย ใช้เงินเรี่ยราดไปวันๆ มีเมียเล็กเมียน้อยเป็นขโยง แต่เสน่ห์จันทร์ก็ไม่ได้สนใจ เพราะหล่อนไม่ได้รัก ตั้งแต่วันที่ตกลงแต่งงานกันทั้งคู่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเด็ดขาด การแต่งงานครั้งนี้จะมีเพียงสกุลเท่านั้นที่ใช้ร่วมกัน

เสนห์จันทร์ทุ่มเททำงาน จนกิจการเงินกู้ของบ้านสามีรุ่งเรืองขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะเสน่ห์จันทร์เป็นคนเก่งและฉลาดเป็นทุน ด้วยเหตุนั้นทำให้พ่อแม่สามีและญาติพี่น้องไม่กล้าดูแคลนหล่อนมากนักเพราะต้องพึ่งพาหล่อนในหลายๆเรื่อง สุดท้ายเลยไปลงกับสามีของเสน่ห์จันทร์ที่ลอยไปลอยมาวันๆแทน ความเก็บกดทำให้ คืนหนึ่งผู้ได้ชื่อว่าสามีที่ดื่มเหล้าจนเมามายอดรนทนไม่ไหว บุกเข้าไปข่มขืนเสน่ห์จันทร์จนตั้งท้อง
เสน่ห์จันทร์เสียใจมากก็จริงแต่ก็ยังกัดฟันสู้ทน แม้จะเกลียดคนเป็นพ่อ แต่ในท้องนี้ก็เลือดเนื้อเชื้อไข หล่อนตั้งใจที่จะรักและปกป้องอย่างเต็มที่เฉกเช่น กับลูกคนแรกที่หล่อนเสียไป

ทว่าพอคลอดลูกแล้ว ความสัมพันธ์ของหล่อนกับครอบครัวเงินกู้ก็ยิ่งเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่สามีที่เอาแต่หลาน หรือสามีที่ยังมีอีหนูไม่ขาดงานการไม่ทำปล้ำแต่ผลาญเงิน สุดท้ายความอดทนของเสน่ห์จันทร์ก็มาถึงขีดสุด หล่อนหย่าขาดจากสามีและออกจากบ้านเงินกู้ตอนอายุ 35 ปี แล้วมาเปิดกิจการเกี่ยวกับวงการบันเทิงนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ทุกอย่างเป็นไปได้สวยก็จริง แต่ยังมีสิ่งที่หล่นทำพลาดไป นั่นคือ การที่หล่อนทิ้งลูกสาวคนเดียวไว้ที่บ้านของสามี

เพราะตอนฟ้องหย่า หล่อนตัวคนเดียวไม่สามารถเลี้ยงบุตรตามลำพังได้ ศาลเลยตัดสินให้ชิดจันทร์ลูกสาวต้องอยู่กับคนเป็นพ่อ แม้เสน่ห์จันทร์จะส่งเสียเลี้ยงดูไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เพราะช่วงเปิดบริษัทงานหล่อนหนักมากจึงไม่ได้มีเวลามากพอจะไปเยี่ยมบ่อยๆ แถมทุกครั้งที่ไปหายังถูกกีดกันสารพัด เพราะทางบ้านเงินกู้ไม่ได้ชอบหน้าหล่อนเป็นทุนอยู่แล้ว

นานวันเข้าชิดจันทร์เติบใหญ่ เด็กน้อยซึมซับความเกลียดชังที่ปู่ย่ามีให้มารดาของตน ในที่สุดชิดจันทร์เองก็ไม่ชอบเสน่ห์จันทร์ผู้เป็นมารดาไปด้วยอีกคน เพราะเด็กน้อยฝังใจหนักหนาว่าตัวเองถูกแม่ทิ้ง

แม้เติบใหญ่ขึ้นจนสามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวกแล้ว ชิดจันทร์ก็ไม่ได้คิดจะมาหาผู้เป็นแม่สักเท่าไหร่นัก กระทั่งวันที่เสน่ห์จันทร์รับอุปการะดาราหนุ่มน้อยไว้ในสังกัด นามว่า ‘กฤตเมธ’ ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่ได้เจอกัน ชิดจันทร์ก็ไปมาหาสู่กับมารดามากขึ้นโดยไม่รู้เหตุผล ซึ่งเสน่ห์จันทร์เองก็ไม่ได้ต้องการจะรู้ แค่ลูกมาหาหล่อนบ้าง หล่อนก็ดีใจจะแย่แล้ว ยิ่งได้เห็นว่าชิดจันทร์เข้ากันได้ดีกับกฤตเมธ หล่อนยิ่งดีใจ ถึงขั้นเอ่ยปากฝากฝังให้กฤตเมธช่วยดูแลชิดจันทร์ด้วย

และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เสน่ห์จันทร์ผู้เด็ดขาดในทุกเรื่องนั้น ต้องอ่อนเป็นขี้ผึ้งกับลูกตัวเองทุกที ไม่ว่าเรื่องแบบไน ไม่ว่าชิดจันทร์จะเอ่ยปากขออะไร เสน่ห์จันทร์ก็ไม่เคยขัด สปอยล์กันจนคนทั้งวงการรู้ดีว่าลูกสาวคนเดียวของท่านประธานหญิงนั้นช่างเอาแต่ใจ และขี้วีนถึงขีดสุด


“...ด้วยประการละฉะนี้แหละค่ะ คุณหนูชิดจันทร์เธอเลยร้ายนัก”

บลูม่าอธิบายยาวเหยียด เล่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับท่านประธานให้สดายุฟัง เล่าเสียนาน บรรยบายความซะเยอะ กินเวลาเป็นชั่วโมงๆ ราวกับดูหนังโศกนาฏกรรมรักเป็นเรื่องๆ ฟังจบสดายุก็ถึงกับต้องถอนหายใจ ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครจริงๆด้วยสินะ

“จากที่เจ๊เล่ามาผมก็เห็นใจท่านประธานเธออยู่หรอกครับ แต่จะโทษโชคชะตาอย่างเดียวมันก็ไม่ได้หรอก ตัวเธอเองก็ผิด...” สดายุเปรยออกมาด้วยความคิดเห็นแบบกลางๆ ไม่เห็นดีเห็นร้ายมากนัก จริงอยู่เรื่องของเสน่ห์จันทร์น่าเห็นใจมาก เขาเองก็สะเทือนใจไม่น้อยที่ได้ยินปูมหลังแสนเศร้าของท่านประธาน เล่นเอารู้สึกผิดไปเลยที่เคยทำตัวก้าวร้าวใส่ แต่... แล้วมันยังไงล่ะ ท่านประธานน่าสงสารเขาเลยต้องเป็นพ่อพระถึงขนาดต้องเสียสละกฤตเมธให้อย่างนั้นเหรอ? ถ้าจะพูดถึงความน่าสงสาร เขาที่ถูกครอบครัวหันหลังให้ไม่น่าสงสารเลยอย่างงั้นหรือ? ต่างคนก็ต่างชะตากรรม อยู่ที่ว่าเราจะเผชิญมันแบบไหน เขาพลาดที่ประชดชีวิตโดยการทำตัวเหลวไหลเหลวแหลก และเสน่ห์จันทร์ก็พลาดที่สปอยล์ลูกจนเหลิง...เลี้ยงลูกไม่เป็นนี่หว่า...

“เรื่องนั้นใครๆเขาก็รู้ค่ะยุ ที่พี่เล่าให้ยุฟังเนี่ยก็แค่อยากให้ยุปรับมุมมองใหม่ มองคุณเสน่ห์จันทร์เธอเป็นมิตรขึ้นสักนิด”

“เข้าข้างกันจังนะเจ๊...อย่าบอกนะ ว่าเจ๊จะให้ผมยอมยกกฤตเมธให้ชิดจันทร์ เพียงเพราะท่านประธานเธอน่าสงสาร?”

“แหม อย่าพูดอย่างนั้นสิคะคุณน้อง พี่ต้องเข้าข้างน้องยุของพี่มากกว่าอยู่แล้วสิ เรื่องคุณเมธพี่ก็สนับสนุนน้องเต็มที่เลยไม่เห็นเหรอ อย่านอยด์นักสิคะพี่แค่เล่าให้ฟัง...” บลูม่าเร่งอธิบายเมื่อเห็นสดายุเริ่มเข้าใจเป๋ไปคนละเรื่อง

“หึหึ ผมแหย่เล่นน่า” สดายุหัวเราะร่า เมื่อเห็นหน้าเครียดจัดของบลูม่า เสียงหัวเราะแหบหวานทรงเสน่ห์แต่ไม่ได้ช่วยให้บลูม่าเลิกค้อน

“น้องยุคะ เดี๋ยวพี่ก็ดีดตกเก้าอี้เสียหรอกค่ะ แหย่กันแรงแบบนี้พี่ใจเสียนะ โถ่...”

“ฮะฮะ ขอโทษคร๊าบเจ๊ ก็ผมน้อยใจนี่ เจ๊รักคนอื่นมากกว่าผมอ่ะ” ว่าแล้วก็อ้อนสำทับพร้อมวางศีรษะหนักๆของตนบนไหล่แกร่งของพี่สาว(?)ตามปกติที่เคยประจบขอนู่นนี่มานานปี สดายุไม่เคยสนใจใคร สดายุไม่เคยเปิดใจให้ใคร แต่เมื่อไหร่ที่ให้ไปแล้ว สดายุก็ไม่เอาคืน  ซึ่งบลูม่าคือคนคนนั้นที่ได้ใจสดายุไป ดังนั้นจึงเป็นคนเดียวที่โดนสดายุอ้อนอย่างน่ารักน่าชังแบบไม่อายฟ้าดินเช่นนี้

คิวต่อไปคงเป็นกฤตเมธ...แต่...จะได้หรือเปล่านะ...

<
>
<
>
<

หลังจากนั้นสองพี่น้องบลูม่าสดายุก็นั่งถกปัญหากันอยู่ได้อีกไม่เกินชั่วโมง ในที่สุดกฤตเมธก็โทรเข้ามาเพื่อเป็นสัญญาณให้สดายุลงไปหา ชายหนุ่มจอดรออยู่ตรงหน้าอาคารไม่ยอมขึ้นมาเพราะไม่อยากเสียเวลา

“คุณเมธมารับแล้วสินะคะน้องยุ”

“ครับเจ๊ รออยู่ข้างล่าง”

“ยุ...”

“หืม?”

เห็นว่าสดายุจะกลับแล้ว บลูม่าก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วโอบเอวสดายุเข้าอ้อมกอด ส่วนสูงที่ต่างกันพอสมควรทำให้สดายุต้องเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อเกยคางไว้บนไหล่กว้าง มุมทำงานของบลูม่าค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีทั้งพาร์ทิชั่นกั้นสูงและกองเอกสารสุมทุมหลายกอง รก แต่ส่วนตัวสุดๆ ดังนั้นการที่สองพี่น้องจะหลบมุมกอดกันเงียบๆ จึงไม่เป็นที่สนใจมากนัก

“ยุ...พี่อยู่ข้างยุเสมอนะ ไม่ว่ายุจะตัดสินใจยังไง ไม่ว่ายุจะยังอยู่ตรงนี้ หรือยุจะอยู่ที่ไหน จำไว้นะ...ยุคือน้องชายคนสำคัญของพี่คนนี้เสมอ”

“...............................เจ๊...ผมขอโทษ...ผมขอโทษที่เอาแต่ใจ...ขอโทษ...ที่ทำให้เจ๊เหนื่อยอีกแล้ว...ยุขอโทษ...”

คำพูดของบลูม่านั้นกลั่นมาจากก้นบึ้งของหัวใจอย่างไม่ต้องสงสัย สดายุรู้ดีว่าบลูม่าคือคนที่ดีที่สุด มีความหมายต่อเขาที่สุดและรักเขาที่สุด การที่เขาได้กลับเข้ามาเล่นหนังอีกครั้ง แน่นอนว่าย่อมมีบลูม่าช่วยวิ่งเต้นให้ พี่สาวของเขาคนนี้คงเหนื่อยไม่น้อย เหนื่อยมาตั้งแต่เขายังโด่งดังแต่เหลวไหล เหนื่อยเพื่อพยายามแก้ข่าวทั้งยังปกป้องสารพัด เหนื่อยเพื่อจะพาเขากลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง...และยังต้องเหนื่อย เมื่อเขาเอาแต่ใจจะออกจากวงการเสียให้ได้

สดายุสำนึกจนไม่รู้จะสำนึกยังไง ว่าตัวเองผิดกับบลูม่าเหลือเกิน ไม่รู้ควรทำอย่างไรถึงจะสามารถทดแทนความรัก ความห่วงใยและความผิดหวังในครั้งนี้ได้ อ้อมกอดสั่นๆของเขา คำขอโทษงี่เง่าของเขา เพียงเรื่องแค่นี้ที่พอจะให้ได้ มันไม่พอสดายุรู้ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร...

“อย่าร้องสิคะน้องยุ...แค่นี้ไม่ได้หนักหนาหรอกค่ะ ไม่กะเทือนพี่เลยสักนิด ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ...แค่ยุมีความสุขในทางที่ยุเลือก พี่ก็พอใจแล้ว...”

บลูม่าเอ่ยพลางกระชับอ้อมกอด เมื่อรู้สึกได้ว่าไหล่ของตนที่สดายุซุกใบหน้าไว้นั้นเริ่มเปียกชื้นจากหยาดน้ำตาพร่างพรู

“...ขอบคุณครับเจ๊...ขอบคุณที่รักยุ...”

สดายุได้แต่เอ่ยคำขอบคุณซ้ำๆ เพราะหัวมันตื้อจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนที่มีความหมายมากกว่านี้มาบอกบลูม่า จึงได้แต่ขอบคุณ กอดบลูม่าแน่นแล้วซุกหน้าซ่อนหยาดน้ำตาเอาไว้อย่างนั้น สดายุแอบขำตัวเองน้อยๆเหมือนกันที่ร้องไห้ออกมาง่ายๆ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็น แต่สดายุก็ไม่ได้อายที่จะร้อง เพราะชายหนุ่มรู้ซึ้งแล้วว่าน้ำตาของเขาครานี้ไม่ได้หลั่งออกมาเพราะว่าเขาอ่อนแอ แต่มันไหลออกมาเพราะว่าเขาคือคนที่มีหัวใจ และมันเป็นน้ำตาที่แสนมีค่า เพราะมันมีไว้ให้คนที่เขารักเท่านั้น...

“ยุไปก่อนนะเจ๊ เดี๋ยวว่างๆมาหาใหม่” หลังกอดปลอบขวัญกันครู่ใหญ่ๆ สดายุก็เอ่ยลาขอตัวไปเสียที เพราะป่านนี้กฤตเมธคงรอนานแล้ว

“ค่ะ ถ้ามีอะไรพี่จะโทรไปแล้วกัน...”

“ฮะฮะ โทรมาแบบไม่มีเรื่องดีกว่าคร๊าบ...แค่นี้ยุก็มีเรื่องมากพอแล้ว...”

“เออจริง ฮะฮะ...อืมยุ...พี่ดีใจนะที่ยุมีคุณเมธอยู่” บลูม่าเอ่ยพลาง ลูบสีรษะสดายุเบาๆ บลูม่าดีใจจริงๆที่สดายุยอมเปิดใจให้คนอื่นเสียที แม้จะแค่คนเดียวก็เถอะ และที่สำคัญกฤตเมธเป็นคนดี คนที่หล่อนไว้ใจฝากสดายุไว้ได้

“..............” สดายุยิ้มรับโดยไม่ตอบอะไร

“พี่มั่นใจนะ ว่าคุณเมธเขาจะดูแลยุของพี่ได้”

“ให้เขาเคลียร์ตัวเองได้ก่อนเถอะครับ...หึหึ” สดายุเปรยกับตัวเองเบาๆ แทนการรับคำบลูม่า

“คะ?” ผู้จัดการสาวเอียงคอสงสัยเพราะฟังไม่ค่อยถนัด แต่สดายุก็ได้แต่ยิ้มตอบก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่นที่น่าสนใจมากกว่า

“ผมบอกว่า...รอยที่คอน่ะ เซ็กซี่ดีนะ” ไม่พูดเปล่าสดายุทำท่าทางล้อเลียนโดยการชี้เบาๆไปที่คอของตัวเองด้วย ตอนแรกสดายุก็ไม่เห็นหรอก เพราะรอยแดงนั้นมันถูกซ่อนเอาไว้ตรงขอบปกเสื้อเชิ๊ต ซึ่งถ้าไม่มองใกล้ๆคงไม่เห็น และบังอิญว่า ตอนที่กอดกันรอยนั่นมันดันอยู่ในระดับสายตาพอดี

“..........!!!!!????”  บลูม่าตะปบต้นคอตัวเองทันทีด้วยความตกใจ ใบหน้าแกร่งแดงซ่านด้วยความเขินสะเทิ้นอาย เล่นเอาสดายุหัวเราะคิกคักถูกใจ ก่อนจะแซวออกไปเบาๆ

“หึหึ...ไม่ยักรู้ว่าเจ๊มีแฟน ร้อนแรงซะด้วย”

“มะ...ไม่คือ...พี่....อ่า....” บลูม่าอยากเถียงใจจะขาดแต่อ้าปากลิ้นไก่ก็จุกคอ (สตอไม่ออกกันเลยทีเดียว)

“เอ้ย ยุแซวเล่นน่าอย่าคิดมาก ว่างๆเอามาแนะนำบ้างแล้วกันนะ...” สดายุยังแซวไม่เลิก แต่ตอนนี้บลูม่าตั้งตัวได้ทันจะตอบโต้แล้ว

“มะ...ไม่ใช่แฟนหรอกค่ะ เอ่อ...One night stand น่ะ” แถกันน้ำขุ่นๆ แต่ก็ไม่ได้ผิดจากที่พูดเท่าไหร่นัก ถ้าหมายถึงข้อตกลงระหว่างเขากับเจ้าของรอยนี้ล่ะก็นะ

“หืออออ...? จริงง่ะร้อยวันพันปีไม่เห็นเจ๊จะเคยกิ๊กกับใคร ไหนบอกรอคอยรักแท้ไงครับ? โดนหนุ่มที่ไหนหลอกเอาเนี่ย?” สดายุถามไถ่สงสัยจริงจัง เพราะรู้ดีว่า One night stand ไม่ใช่แนวของบลูม่า

“เออน่า คุณน้อง พี่แก่แล้วนะคะ ขืนยังหยิ่ง ชาตินี้คงไม่มีวันเสียซิงแล้วล่ะค่ะ มีโอกาสเลยคว้าไว้ก็เท่านั้น” บลูม่าอธิบายเสียงสูงปรี๊ด

“เอาจริง? ........เจ๊ไม่ได้โดนใครหลอกฟันแน่นะ” สดายุถามเสียงเครียด ใจเริ่มเป็นห่วงบลูม่าขึ้นมาตะหงิด

“แน่ค่ะ พี่คอนเฟิร์ม เอ๊...ยุ อย่าจ้องนักสิ พี่อายนะ” บลูม่าเริ่มบ่ายเบี่ยงพลางปิดรอยที่คอเอาไว้ไม่ปล่อย ไม่อยากให้สดายุถามอะไรเกี่ยวกับมันอีก เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่พลาด... แต่มันโคตรจะพลาดอย่างมหันต์ต่างหาก หวนคิดไปถึงแล้วอยากจะกัดลิ้นตายให้รู้แล้วรู้รอด...

“โอเคๆ ยุไม่ถามแล้ว แต่ถ้าวันไหนเจ๊อยากเล่าอะไรให้ผมฟังล่ะก็ ยุพร้อมฟังเสมอนะ” สดายุกล่าวยิ้มๆ

“ค่ะ ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่ ยุจะได้รู้เป็นคนแรกแน่ๆ” บลูม่าเองก็ยิ้มรับ พร้อมให้คำมั่น

 “งั้น...ยุไปก่อนนะเจ๊ แล้วเจอกัน”

“หึหึ ค๊า...บายค่ะ”

บลูม่าโบกมือให้น้อยๆ พลางมองสดายุเดินออกจากประตูไป คำพูดทิ้งท้ายก่อนสดายุจะเฉไฉมาเรื่องรอยจูบบนคอของเขานั้นที่จริงแล้วบลูม่าก็พอได้ยินอยู่ แต่เห็นว่าน้องไม่อยากพูดถึงจึงไม่ได้ถามต่อ เรื่องราวระหว่างกฤตเมธ สดายุ และชิดจันทร์เขาก็พอรู้มาบ้าง เรื่องระหว่างกฤตเมธกับสดายุแค่สองคนก็ว่ายากแล้ว ยังเพิ่มเรื่องของชิดจันทร์เด็กไร้เหตุผลเอาแต่ใจสุดโต่งที่ต้องการจะแย่งกฤตเมธไปอีก อิรุงตุงนังวุ่นวายจนปวดหัว สงสารทั้งสดายุทั้งกฤตเมธอยู่ลึกๆ

สดายุก็แสนจะอ่อนไหว นิดหน่อยก็พร้อมจะหันหลังให้ทุกอย่าง โดยเฉพาะหากได้ยึดติดกับใคร ก็จะหวงราวกับเด็กๆ ซ้ำยังเลือดร้อน ใจร้อน ไม่ได้ดั่งใจก็งอนตะพึดตะพือ ยิ่งเป็นคนไม่เอาใครด้วยอยู่แล้วเลยยิ่งไปกันใหญ่

ฝ่ายกฤตเมธเองก็สุดแสนจะเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ใหญ่ที่ตรงกันข้ามกับสดายุอย่างสิ้นเชิง แม้จะพูดไม่ได้ว่ากฤตเมธเป็นคนใจเย็น แต่ก็เป็นคนรู้จักจัดการกับชีวิตได้ดีกว่าสดายุแน่ๆ

และในเรื่องรักสามเส้าเราสามคนนี้ ที่ไม่ว่าใครก็ดูออกว่ากฤตเมธเลือกสดายุแน่ๆ แต่เพราะชายหนุ่มค่อยๆจัดการกับปัญหาทีละเปลาะทีละประเด็นไม่รีบร้อนอย่างที่สดายุคาดหวัง เลยทำให้ทั้งคู่มีแต่เรื่องผิดใจกัน ซ้ำยังโดนคุณหนูชิดจันทร์คอยกวนให้ขุ่นอยู่เนืองๆอีก เลยไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกสักเท่าไหร่ถึงจะลงเอยกันได้เสียที

บลูม่าเองก็อยากช่วย แต่จะให้ช่วยอย่างไรเล่า...

ให้กำจัดคุณหนูชิดจันทร์ทิ้งไปซะน่ะเหรอ?

แล้วควรทำอย่างไรล่ะ?

คิดสะระตะจนปวดหัว บลูม่าจึงได้แต่เดินมาชมวิวอยู่ตรงริมกระจกบานใหญ่เพื่อคลายความตึงเครียด มุมกระจกด้านซ้ายของสำนักงานสามารถมองเห็นถนนหน้าบริษัทได้ชัดเจน ถึงชั้นสามสิบสองจะสูงลิบจนมองไม่ชัดนักว่าใครเป็นใคร แต่หากเป็นคนที่รู้จักมักคุ้น ก็ยังพอเดาออก
อย่างเช่นตอนนี้ ที่บลูม่ามองเห็นรถของกฤตเมธจอดอยู่...
 
*
*
*
*
*

"เอ่อ คุณสดายุ"

"อ้าว คุณซอลย่า? สวัสดีครับ"

สดายุกำลังจะเดินไปที่รถกฤตเมธ ทว่าขณะกำลังจะออกไปตรงหน้าบริษัทเสียงทุ้มหวานก็เอ่ยเรียกขึ้นจากด้านหลัง เมื่อหันไปก็พบเข้ากับชายหนุ่มร่างเล็กบอบบาง ผิวขาวจัด ใส่เสื้อสูทสีน้ำตาลทับเสื้อเชิ๊ตขาวกับผ้าพันคอผืนบางดูน่ารักมากกว่าเท่ห์ คิดอยู่อึดใจว่าเป็นใคร แต่พอระยะที่ใกล้ขึ้นก็นึกออกในทันที  แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผู้ขานชื่อเขาคือซอลย่า ร้อยวันพันปีไม่เคยได้คุยกันจริงจัง อย่างดีแค่ทักทาย แต่วันนี้อีกฝ่ายกลับรั้งเขาไว้ด้วยเสียงเรียก มีอะไรหรือเปล่านะ?

"เอ่อ...คือ..." ซอลย่าทำหน้าเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดมากมาย แต่พอถึงตรงหน้าสดายุเท่านั้นผู้จัดการหนุ่มก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ใบหน้าขาวใสใต้กรอบแว่นมีแต่ริ้วรอยเครียดขึง

"......................" สดายุเงียบฟังตามมารยาท แต่ด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่รับแขก ทำให้ซอลย่ายิ่งอึกอัก

"มีอะไรก็บอกมาตรงๆเถอะครับคุณซอลย่า ไม่ต้องเกรงใจ" นานเข้าคนขี้อายตรงหน้าก็ไม่ยังยอมเอื้อนเอ่ยเจรจา จนสดายุต้องตัดบทขึ้นเผื่อการสนทนาจะได้ลื่นไหลได้เสียที เพราะเขาเองก็กำลังรีบเช่นกัน

"เอ่อ...ผม...ผมขอโทษแทนบดินทร์ด้วยนะครับ"

"..........!!?..."

สดายุขมวดคิ้วมุ่นทันทีที่ได้ยินคำขอโทษ ยิ่งได้เห็นว่าดวงตาใต้กรอบแว่นที่เคยหลุบต่ำนั้นกำลังเหลือบมองตรงไหนอยู่หัวใจของสดายุก็ถึงกับกระตุก ชายหนุ่มกระแอมขึ้นเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นเกาต้นคอตรงจุดเกิดเหตุเพื่อเป็นการบอกคนตรงหน้ากลายๆว่า 'เลิกมองเสียที!'

เห็นดังนั้นซอลย่าก็หลุยตาต่ำลงทันทีด้วยรู้ว่าตัวเองกำลังเสียมารยาท ก่อนจะอ้อมแอ้มเอ่ยขอโทษขอโพยดาราหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง

"ต้องขอโทษจริงๆนะครับที่ผมดูแลเขาไม่ดี...ปล่อยให้เขา...ไปเสียมารยาทกับคุณ"

"ช่างเถอะครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก...ผมเข้าใจ คุณดูแลเขาได้ก็แต่ตัว สันดานน่ะ มันดูแลกันยากครับ คุณไม่ผิดหรอกไม่ต้องนอยด์”
 
“...อ่า...ขอโทษครับ...ขอโทษจริงๆ...” โดนสดายุตอกกลับมาเสียหน้าเกือบหงาย ซอลย่าสลดลงทันที ใบหน้าหวานใสหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่เพียงเอ่ยขอโทษซ้ำๆ เพราะไม่รู้จะสรรหาคำแก้ต่างอย่างไร ผิดเต็มทุกประตู

ฝ่ายสดายุก็ได้แต่ถอนหายใจ ยิ่งเห็นคนตรงหน้าสลดเขาเองก็ยิ่งหดหู่ ไม่ได้ตั้งใจจะเอาอารมณ์มาลงที่ผู้จัดการส่วนตัวอย่างซอลย่าหรอก แต่พอได้ยินว่ามาขอโทษแทนบดินทร์เขาก็อดฉุนไม่ได้ คำว่า ‘พวกเดียวกัน’ ทำให้สดายุพาลทุกคนที่เป็นคนของบดินทร์อย่างยั้งตัวเองไม่อยู่

“บดินทร์เล่าให้คุณฟังเหรอ เรื่องที่เขาทำกับผมน่ะ?” ตอนแรกก็โมโหอยู่ แต่พอคิดไปคิดมาหากบดินทร์ถึงขนาดเล่าเรื่องระยำในห้องน้ำนั่นให้ผู้จัดการส่วนตัวของมันฟัง แล้วเรื่องระหว่างเขากับกฤตเมธล่ะ? หรือมันก็โพนทนาออกไปหมดแล้ว?

“เอ่อ เปล่าครับ ดินเขาไม่ได้เล่าอะไรทั้งนั้น ผมเห็นเขาบาดเจ็บ เลยคาดคั้นถามจนรู้ว่ามีเรื่องกับคุณสดายุมา...แล้ว...ผมก็ตีความเอาเองว่าดินเขาต้องเป็นคนเริ่มเรื่องแน่ๆ...” ฟังคำอธิบายของซอลย่า สดายุก็ได้แต่แอบถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ไม่ได้วางใจนัก ถ้าบดินทร์ไม่พูดอะไรออกมาวันนี้ แล้ววันไหนล่ะที่มันจะพูด พูดกับใคร พูดถึงไหน....

“มันไม่ได้เล่าอะไรจริงๆเหรอ...หมายถึงบดินทร์น่ะ” วางใจไม่ได้จนสดายุต้องถามซ้ำ เขาไม่ได้รู้จักซอลย่าเป็นการส่วนตัว แม้ข่าวที่เข้าหูมาจะไม่เคยมีเรื่องเสียหาย แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกเดียวกันกับบดินทร์เขาก็ไม่มีทางวางใจ

“เอ๊ะ? เอ่อ...เปล่านี่ครับ ดินเขาออกจะหงุดหงิดด้วยซ้ำผมเลยไม่ได้ซักไซ้อะไร...เอ่อ...มีอะไรกัน...หรือเปล่าครับ?” ซอลย่ารีบตอบคำถาม สีหน้าเลิ่กลั่กด้วยไม่รู้จริงๆว่าสดายุหมายถึงเรื่องอะไร เพราะบดินทร์ไม่ได้ปริปากบอกอะไรกับเขาเลย

“..................ช่างเถอะครับ งั้นผมขอตัวก่อน” เห็นหน้าจับต้นชนปลายไม่ถูกของซอลย่าเข้า สดายุก็ไม่คิดจะถามอะไรอีก เขาเอ่ยขอตัว พร้อมหมุนตัวเดินจากไปทันทีแบบไม่มีการร่ำลา

“อ๊ะ...คุณสดายุ....!!”

พรึ่บ!!

ซอลย่าทำท่าว่าจะเอ่ยบางอย่างต่อ แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่ลมหวนแรงพัดผ่านมาพอดี ผ้าพันคอผืนบางที่เขาพันคอไว้หลวมๆ หลุดปลิวหวือไปแปะเข้ากับร่างสดายุทันที

“....................” สดายุหันมาเก็บ พลางยื่นคืนให้อย่างเสียไม่ได้ ทว่าฉับพลันที่จะได้มองหน้า สายตาของเขาก็พลันไปเจอกับอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน ตรงขอบปกเสื้อเชิ๊ตนั้น...รอยแดงจ้ำ ช้ำไปทั่วซอกคอขาว เยอะจนแทบไม่ต้องนับ ‘รอยดูดคอ’ แสนเร่าร้อน จนสดายุอดกระตุกยิ้มเบาๆไม่ได้

...เห็นหน้าใสๆ เอ๋อๆ ร้ายเหมือนกันนี่หว่า...

“................เอ่อ....ข...ขอบคุณครับ”  ทันทีที่สดายุยื่นผ้าพันคอคืนให้ ซอลย่าก็เอ่ยขอบคุณอึกอัก โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นรอยยิ้มเย้าบางๆบนใบหน้าหล่อเหลานั้นซอลย่ายิ่งทำตัวไม่ถูก ใบหน้าเห่อแดงอายจัดด้วยรู้ดีถึงความหมายของรอยยิ้มบนใบหน้านั้น

รับผ้าพันคอคืนมาได้ก็เร่งพันปิดเอาไว้อย่างเดิม ก่อนยืนมองสดายุจากไปทั้งๆอย่างนั้น อยากคุยอยากถามอะไรเมื่อก่อนหน้านี้ก็ตื้อจนต้องยืนทื่อเงียบอยู่อย่างนี้เท่านั้น

...บ้า...เรามันบ้าที่สุด

*
*
*
*
*

 :katai5:
ต่อด้านล่างจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2015 12:43:28 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ต่อค๊า
 :katai4:


ก๊อก ก๊อก

เดินถึงรถได้สดายุก็เคาะเรียกกฤตเมธที่นั่งรออยู่ ก่อนจะก้าวขึ้นรถทันทีที่กฤตเมธปลดล็อคประตู

"ขอโทษที รอนานมั้ยครับ?" สดายุเอ่ยขอโทษที่ช้า เพราะเขาแวะคุยเสียตลอดทาง เลยทำให้กว่าจะมาถึงรถได้ก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง

"ไม่เท่าไหร่ครับ หึหึ หิวยังจะบ่ายสองแล้วเนี่ย" กฤตเมธยิ้มพราวก่อนจะเหยียบคันเร่งทยานออกสู่ท้องถนน เป้าหมายคือห้องพักใจ ที่เป็นรังรักของทั้งคู่

*
*
*
"หนาวเหรอ?" ขับออกมาได้สักระยะ กฤตเมธก็เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าสดายุเริ่มนั่งกอดตัวเองพลางถูแขนไปมา

"อ๋อ...นิดหน่อยน่ะ แค่รู้สึกว่าไข้จะกลับนิดหน่อย"

"ให้ผมเบาแอร์ก่อนมั้ย?"

"ไม่ต้องหรอก ผมขอแค่เสื้อคลุมตรงเบาะหลังก็พอ"

"อืม"

กฤตเมธพยักหน้ารับ พลางปล่อยให้สดายุเอื้อมไปหยิบเสื้อเจ็คเก็ตสีดำของเขาที่กองอยู่ตรงเบาะหลังเอาเอง ทว่า...

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

"เฮ้ยยยยย!!"

สดายุร้องว๊ากเสียงหลง เมื่อจู่ๆกฤตเมธก็หักรถเข้าข้างทางพร้อมเบรกกะทันหันจนตัวเขาที่กำลังเอื้อมไปหยิบเสื้อด้านหลังถึงกับกระเด็นกระดอน
"เป็นบ้าอะไรวะ!? ไอ้คุณกฤตเมธ!!"

"รอยอะไร!!?"

"ห๊ะ!!...เหวออออ?"

ยังไม่ทันที่สดายุจะได้ทำความเข้าใจว่ากฤตเมธถามถึงอะไร เขาก็ถูกจู่โจมอย่างไม่ตั้งตัวอีกครั้งโดยกฤตเมธที่ปรับเบาะที่นั่งของสดายุลงกะทันหันทำให้สดายุหลายเงิบลงไปพร้อมกันแล้วถูกคร่อมไว้ทันทีด้วยร่างหนากว่าของกฤตเมธ วูบแรกกะจะอาละวาดเสียหน่อยที่ถูกกระทำโดยไม่ตั้งตัวซ้ำยังไม่รู้เหตุผล แต่พอได้เห็นหน้ากฤตเมธในระยะใกล้เท่านั้น สดายุก็ราวโดนสะกด

...สายตา...จะโหดไปไหนวะ!!?

"ใครทำ?"

".........อะ...." คำว่า 'ใครทำ' พร้อมปลายนิ้วร้อนที่แตะตรงซอกคอทำสดายถึงบางอ้อทันทีว่ากฤตเมธหมายถึงอะไร และอารมณ์รุนแรงแปรปรวนนี้มันเกิดจากอะไร อยากเขกหัวตัวเองสักทีนี่เขาลืมไปได้ยังไงเนี่ย  ก็ใครจะไปนึกล่ะว่าตาลุงจะหึงโหดขนาดนี้...

"ผมจำได้ว่าไม่ได้ทำรอยไว้...แล้วนี่...ของใคร?" กฤตเมธถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งทั้งที่มือยังไม่ได้ละออกจากซอกคอขาว

"...เอ่อ.." เสียงทุ้มยังคงนุ่มหู ทว่าสีหน้าเหมือนจะฆ่าคนได้นี่สิ เล่นเอาสดายุพูดไม่ออก บอกตรงๆเลยว่าตั้งแต่รู้จักกันมายังไม่เคยเห็นกฤตเมธแผ่รังสีอาฆาตพยาบาทออกมามากขนาดนี้มาก่อน

"ใคร?" ถามแค่คำเดียว ทว่าโคตรจะคาดคั้น

"....บดินทร์"

พรึ่บ!!

"เฮ้ย!! เดี๋ยวก่อน คุณจะไปไหนเนี่ย? กฤตเมธ!! เหวออ!!!!" คำตอบเดียวของสดายุ กระตุกทั้งร่างของกฤตเมธเปลี่ยนหน้าพระเอกเป็นฆาตกรโหดได้ในพริบตา กฤตเมธปล่อยตัวสดายุทันทีก่อนจะกระชากรถหักเลี้ยวกลับแบบไม่กลัวตาย เป้าหมายคือสำนักงานต้นสังกัด ที่บดินทร์ทำงานอยู่ แม่สดายุจะร้องห้ามจนเสียงหลง ก็ไม่มีทีท่าว่ากฤตเมธจะชะลอลงเลยแม้แต่นิด มีแต่จะเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นจนแทบมิด แซงซ้ายแซงขวาแบบไม่กลัวรถสวน

"เฮ้ย! เดี๋ยว กฤตเมธ! คุณอย่าเพิ่งวู่วามเซ่!!"

"เมธ! ผ่อนคันเร่งหน่อยสิว๊อย!! คุยกันก่อน!!"

"จอดเดี๋ยวนี้นะคุณกฤตเมธ!!"


"ถ้าคุณไม่ฟังผมวันนี้ ก็ไม่ต้องฟังอีกชั่วชีวิต!! จอด!!"

เอี๊ยดดดดดดดดดดดด!!

หลังสดายุยื่นคำขาด สุดท้ายก็สามารถทำให้กฤตเมธหักพวงมาลัยเข้าจอดข้างทางได้ในที่สุด แม้ว่า...จะเบรกจนหัวทิ่มกันไปเลยก็ตาม

"........................ทำไมต้องห้ามผม?"

หลังจอดรถได้นิ่งสนิทจากการเบิร์นยางเสียเป็นทาง กฤตเมธก็ถามขึ้นทั้งที่ดวงตาวาวโรจน์ยังคงจดจ้องไปข้างหน้าไม่วางตา

"คุณจะไปไหน? อย่าบอกนะว่าจะไปหาไอ้บดินทร์มันน่ะ"

"...ผมจะไปเอาเลือดหัวมันออก" แค่เพียงได้ยินชื่อกฤตเมธก็ขบกรามกรอด น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาต่ำขรมด้วยอารมณ์ดาลเดือด สดายุได้แต่ถอนหายใจแรงๆ รู้สึกปวดหัวไม่น้อยที่จู่ๆคนตรงหน้าก็ทำตัวเป็นวัยรุ่นใจเร็ว

"...บดินทร์มันเห็นเราในห้องน้ำ"

"............!!?" กฤตเมธหันมองหน้าสดายุทันทีที่ได้ยินคำเฉลย หัวใจหนุ่มใหญ่ราวโดนกรีดซ้ำๆ หากรอยบนคอของสดายุเกิดจากบดินทร์ เหตุมันย่อมเกิดจากการที่เขากระทำย่ามใจ จนทำให้สดายุต้องเป็นคนรับเคราะห์ในคราวนี้

เขาเอง...

เพราะเขามันง่าวเอง...

"โธ่เวย!!!!!"

ในเมื่อไม่สามารถทำอะไรคนที่ทำให้คับแค้นได้กฤตเมธจึงได้แต่ระบายอารมณ์กับคอนโซลหน้ารถและพวงมาลัยโดยการทุบแรงๆแบบไม่กลัวบุบ เจ็บใจ เขาเจ็บใจมากที่ทำเป็นปากดีว่าจะดูแลสดายุ แล้วก็ทำไม่ได้ ปล่อยปละละเลยจนสดายุโดนรังแก เขาเจ็บใจทั้งเจ็บปวดจนแทบกระอักเลือด
"พอแล้วคุณ! เดี๋ยวมือก็แตกหรอก"  สดายุรีบห้าม จับคว้ามือของกฤตเมธไว้ให้หยุดทำร้ายรถ หยุดทำร้ายตัวเอง

"เป็นอะไรของลุงเนี่ย!? เลือดร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้ แก่แล้วนะตัวเองน่ะ เจียมตัวซะบ้างสิ! คิดให้ดีก่อนว่าไปตอนนี้มันจะได้ประโยชน์อะไร!? เอาเลือดหัวมันมาล้างตีนได้ แล้วจากนี้เราจะเป็นยังไงกันต่อไป อย่าเอาแต่โมโหจนหน้ามืดสิ!"

"......................." เจอคำเตือนสติสุดเกรียนของสดายุเข้าไป กฤตเมธเลยต้องหันไปจ้องมองคนข้างๆอีกครั้ง 

สดายุจ้องตอบไม่วางตา ก่อนจะยิ้มให้กฤตเมธน้อยๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังทำหน้าราวกับเป็นฆาตกร

"ใจร่มๆก่อนนะลุง ผมเองก็โมโหมันไม่ต่างกันหรอก เผลอๆมากกว่าคุณอีก ผมเป็นคนโดนทำนะ อ๊ะ!! อย่างเพิ่งดิ้นสิ ฟังให้จบก่อน!" สดายุที่พยายามจับมือกฤตเมธไว้ไม่ยอมปล่อยนั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะอธิบายและปลอบให้กฤตเมธเย็นลง แต่ดูเหมือนยิ่งพูด กฤตเมธจะยิ่งโมโหแฮะ...

"ไม่ต้องถึงมือคุณ มันก็โดนผมตื๊บไปตั้งแต่มันกล้ามาทำไอ้รอยเหี้ยนี่บนคอผมแล้ว ผมไม่ได้อ่อนแอนะ....นี่เลิกเดือดซะที แล้วพาผมกลับบ้านก่อน"

"..........................." กฤตเมธได้แต่นิ่งฟัง แม้อารมณ์ยังคงพลุ่งพล่าน แต่เขามีสติมากขึ้นแล้ว อย่างที่สดายุว่า ไปเอาเรื่องบดินทร์ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์ ซ้ำร้ายจะมีแต่เสียกับเสีย

ทว่า...มันก็เกินจะหักห้ามความโกรธเกลียด...

"เอาน่า...ไอ้เวรนั่นมันยังไม่ตายไปไหนง่ายๆหรอก เราค่อยเอาคืนมันวันไหนก็ได้ คุณแค่ช่วยหาน้ำมนต์มาล้างเสนียดให้ผมก่อนก็พอ........เฮ้ย!!"
ตามคำขอ พูดถึงน้ำมนต์ น้ำมนต์ก็มา... เพราะกฤตเมธคว้าคอสดายุเข้าไปดูดทับรอยบดินทร์ทันที

"อ๊ะ! อึ๊ย....เมธ...เจ็บ..."  สดายุดิ้นรนทันทีที่ถูกล่วงล้ำ ทว่าดิ้นไปก็เท่านั้นเมื่อกฤตเมธกระชับท้ายทอยเขาไว้แน่น อีกแขนก็โอบกระชับเอวเขาไว้ไม่ปล่อย แถมวิธีการฝากรอยรักก็แสนเจ็บแสบ ทั้งดูดเม้ม ขบกัด และเลียซับให้ยิ่งแสบ เล่นเอาสดายุถึงกับหูอื้อสิ้นเรี่ยวสิ้นแรงกันเลยทีเดียว

…'ชีวิตวันนี้มันอะไรกันวะเนี่ย โดนลวนลามทั้งวันเลยวะตรู!!'

"ฮึ่ย พอแล้วไอ้ลุงหื่น จะเลียอีกนานมั้ย!?" สดายุตะคอกเบาๆ ปรามคนย่ามใจที่ยังอ้อยอิ่งอยู่ตรงคอเขาไม่เลิก 

ได้ผลเมื่อกฤตเมธยอมผละออกไปในที่สุด "ดูดขนาดเมื่อกี้เนี่ย คงไม่ต้องถามถึงรอยบนคอผมเลยสินะ" และระหว่างนั้นสดายุก็บ่นไม่หยุด กฤตเมธค่อยๆปรับเบาะฝั่งของสดายุให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมพลางฟังสดายุบ่นไปเรื่อยๆ

"ชิ...ดีจริง พรุ่งนี้ได้อายกันทั้งกองถ่าย..." กำลังบ่นอย่างออกรส ก็ต้องขาดตอนเพราะถูกกฤตเมธคว้าไปกอดเสียก่อน

"ยุ...ผมขอโทษ"

"....................คุณ...เมธ?..."

"ขอโทษที่ปกป้องคุณไม่ได้ ขอโทษที่ปล่อยให้คุณโดนรังแก ผมขอโทษ..." มากมายคำขออภัยพร่างพรูไม่ขาดอยู่ข้างหู ทำหัวใจของสดายุอ่อนยวบ จนอดกอดตอบไม่ได้

ตาลุงเอ้ย บางทีก็เฉื่อยแฉะจนน่ารำคาญ บางทีก็ใจร้อนแถมยังพาลจนน่าใจหาย ผู้ใหญ่อะไรกันที่อ้อนเป็นเด็กน้อยขนาดนี้...

สดายุได้เพียงคิดในใจ ก่อนจะหลับตารับอ้อมกอดอุ่นเพื่อซึมซับความห่วงใยที่อีกฝ่ายทะลักทลายมอบให้

"ไม่ต้องปกป้องผม จนขนาดรู้สึกผิดแบบนี้หรอกครับ แค่ที่เป็นอยู่ก็พอแล้ว" สดายุกระซิบเบาๆที่หูของกฤตเมธ สิ่งเขาพูดมาจากใจจริงๆ เขาดีใจที่รู้ว่าตัวเองถูกรักถูกปกป้อง แต่เขาเองก็เป็นผู้ชายไม่เหนือบ่ากว่าแรงเขาก็พอดูแลตัวเองได้...แม้ว่างวดนี้จะพลาดไปก็เถอะ 

"..........................." กฤตเมธไม่ได้ตอบคำใดๆ นอกจากกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น

เนิ่นนานกว่าพระเอกหนุ่มจะยอมคลายอ้อมกอด ความพลุ่งพล่านในหัวใจเขาสงบลง แต่ใช่ความแค้นเคืองจะสลายหายไปด้วย กฤตเมธมาดมั่นอยู่ในส่วนลึก เขาไม่มีวันปล่อยบดินทร์ลอยนวลอยู่นานแน่!!

"...อารมณ์ดีขึ้นรึยังลุง?"  สดายุถามขึ้นเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง และกฤตเมธเลี้ยวรถกลับเส้นทางเดิมที่ควรจะเป็นในการกลับคอนโดแล้ว

"คนของตัวเองโดนรังแกทั้งคน ใครจะไปอารมณ์ดีไหวกัน" กฤตเมธตอบเสียงเรียบนิ่งทั้งยังมีแผงอารมณ์เหวี่ยงเล็กๆ

"อะไรกัน อุตส่าห์เปลืองตัวให้ตั้งเยอะ"  สดายุแกล้งเย้าเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดของอีกฝ่าย เขาเองก็เครียดจากข้างนอกมาพอแล้ว เลยอยากให้เวลาที่อยู่สองต่อสองกับกฤตเมธเป็นเวลาที่ผ่อนคลายที่สุด

"ก็ไหนว่าอยากได้น้ำมนต์ไง ผมเลยจัดให้ น้ำมนต์ประจำตัว ศักดิ์สิทธิ์ด้วยนะ" ได้ผล เพราะหลังจบคำกระเซ้า สดายุก็โดนมุกคนแก่ยิงเอาจนจุกเช่นกัน กฤตเมธเองเมื่อเห็นว่าสดายุพยายามปรับบรรยากาศให้ผ่อนคลาย เขาเองก็ไม่อยากขัดขวาง เลยตบมุกให้อีกฝ่ายค้อนเล่นซะเลย...

แน่นอนว่าโดนจังๆ สดายุถึงกับกระตุกคิ้วเขม่น ก่อนจะตบมุกกลับแบบแสบกว่ากลับไป...

"...นี่ลุง...เมื่อกี่ที่ลุงดูดทับรอยไอ้บดินทร์น่ะ รู้ป่าว...มันเหมือนการจูบกับมันทางอ้อมนะ"

"........................ยุ"

"หึหึ...เก็บไปฝันแน่ ลุงเอ้ย"

"กลับไป...เจอหนักแน่"

"....!!!??"

*
*
*
*
*


"ขอบคุณครับท่านประธาน ขอบคุณที่ยังให้ความช่วยเหลือครับ"

"อืม กลับไปทำงานของเธอเถอะซอลย่า ถ้าไงก็ฝากเตือนบดินทร์ด้วยแล้วกันนะ ถึงจะเก่งยังไงก็อย่าเที่ยวไปกร่างใส่ใครเขาไม่เลือกแบบนั้นอีก ดนัยน่ะถึงไม่ได้มีผลงานในเมืองไทย แต่ก็เป็นเพชรน้ำงามที่ฮอลลีวู๊ดเขาการันตี จะผยองก็ช่วยผยองให้มันถูกคนด้วย จำไว้นะ"   เสน่ห์จันทร์สั่งสอนชัดเจนผ่านทางผู้จัดการส่วนตัวซอลย่า

"ครับ ผมจะดูแลเขาให้ดี..." ซอลย่ารับคำ

"เธอก็เหมือนกันซอลย่า อย่าตามใจบดินทร์มากนัก เลิกใจอ่อนกับเด็กนั่นสักที ปล่อยให้เหลิงไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะกู่ไม่กลับเอา" เสน่ห์จันทร์สั่งสอนเพิ่มเติมมาถึงคนหัวอ่อนอย่างซอลย่าด้วย หล่อนรู้ว่าซอลย่าเป็นคนมีฝีมือมาก แต่ก็อ่อนใจเหลือเกินกับความหัวอ่อนยอมคนของเจ้าตัว ถึงขนาดเด็กในสังกัดยังไม่กลัวหรือเกรงใจซอลย่าเลยสักคน

"ครับ ผมจะระวัง" ชายหนุ่มได้แต่ตอบรับเสียงอ่อย การฝากฝังแต่ละอย่างของท่านประธานนั้นช่างยากเข็ญแก่เขาเหลือเกิน

"เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว ต้องไปดูบดินทร์อัดรายการต่อด้วยนี่"

"ครับ ผมขอตัวครับท่านประธาน"

ซอลย่าเอ่ยลาก่อนจะออกจากประตูห้องเย็นของท่านประธานอันแสนจะอึดอัด ออกมาด้านนอกได้ก็ถึงกับถอนหายใจพรู วันนี้เขาโดนท่านประธานเรียกพบ เพราะบดินทร์เด็กในสังกัดของเขาไปก่อเรื่องเอาไว้อีกแล้ว ตอนแรกซอลย่าคิดว่าจะเป็นเรื่องของสดายุเรื่องเดียวเสียอีก เพราะได้ยินบดินทร์บ่นออกมาแค่นั้น ไม่นึกเลยว่าเจ้าตัวจะดันไปกร่างกับลูกรักอีกคนของท่านประธานเอาเสียได้ 'ดนัย' เด็กปั้นโดยตรงของเสน่ห์จันทร์ รุ่นถัดจากกฤตเมธไม่นาน เรียกได้ว่าปั้นตั้งแต่ยังเป็นเพียงดาราเด็กเลยทีเดียว แล้วหลังจากโดเป็นหนุ่ม มีแววดีเด่นทางด้านการแสดงจนไปถูกตาต้องใจผู้กำกับจากฮอลีวู๊ดเขา เสน่ห์จันทร์ก็พยายามผลักดันให้ดนัยไปรับงานที่แดนไกลตั้งแต่นั้นมา แม้แรกๆจะไม่ได้บทเด่น เป็นเพียงแค่ตัวประกอบประปราย แต่นานเข้าก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น และแม้วันนี้ดนัยยังไม่ได้เป็นระดับแนวหน้า แต่บทที่เขาได้ก็ถือว่าเด่นไม่น้อย แล้วขนาดนี้จะไม่ให้เสน่ห์จันทร์ถือหางเข้าข้างสุดโต่งได้อย่างไร 

ดนัย ดังขนาดนี้แต่บดินทร์กลับไม่รู้จัก หลายคนคงคิดว่าแปลกประหลาด แต่สำหรับซอลย่านั้นไม่แปลกเลย เพราะนอกจากงานกับสดายุแล้ว บดินทร์ไม่เคยสนใจคนอื่นเลย ต่อให้คนคนนั้นเด่นดังขนาดไหนก็เถอะ เรื่องนี้มีแค่ซอลย่าเท่านั้นที่รู้ เพราะต่อหน้าเสน่ห์จันทร์บดินทร์แสดงเป็นคนเปิดหูเปิดตาที่ดี เป็นนักแสดงในสังกัดที่เชื่อฟัง ทั้งที่จริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้นเลย ดีที่ยังพอมีฝีมือ และเสน่ห์จันทร์ยังพอมีเมตตา ผนวกกับอยู่มานาน จึงยังพอได้งานเด่นๆอยู่บ้าง แต่...หากหลังจากนี้สดายุกลับมา หรือหากดนัยที่อยู่ในช่วงพักงานหลังถ่ายหนังฟอร์มยักษ์ของฮอลิวู๊ดจบนั้นอยากรับงานในไทยขึ้นมาบ้าง ท่าทางบดินทร์คงอยู่ยากมากขึ้นกว่านี้เป็นแน่ เพราะนอกจากจะไม่ใช่ลูกรักแล้ว หลังๆมาดูท่าท่านประธานจะไม่ค่อยปลื้มเสียด้วย 

เย็นนี้บดินทร์มีอัดรายการ 'สตาร์ทอล์ค' ไม่รู้เจ้าตัวจะรู้แล้วหรือยังว่าจะต้องสัมภาษณ์ดนัย...คิดได้ดังนั้นซอลย่าเริ่มกระวนกระวาย เขาต้องรีบไปบอกบดินทร์เสียตั้งแต่ตอนนี้

"เฮ้อ...ดินนะดิน...สร้างแต่เรื่องจริงๆเชียว..."

“เออ ไอเหี้ยดิน แม่งสร้างแต่เรื่องอยู่แล้วล่ะ!!”

“...บลู?...”

เสียงขานรับห้าวกระโชกคุ้นหูทำหัวใจของซอลย่ากระตุกวูบ และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ได้พบกับใบหน้าที่ทำให้เขาปวดร้าวที่สุด

‘ใบหน้าโกรธเกรี้ยวชิงชังของบลูม่า’

“...บลู...” ซอลย่าครางเรียกคนตรงหน้าเสียงสั่นพร่า กลัวที่จะต้องเผชิญหน้าด้วยเหลือเกิน เขากลัวบลูม่าจะโกรธจะเกลียดเขาไปมากกว่านี้ เพราะตอนนั้นเขารับปากไปแล้วว่าจะดูแลบดินทร์ให้ดี ไม่ให้ไปสร้างความวุ่นวายกับสดายุอีก ทั้งยังรับปากหนักแน่นว่าจะไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเด็ดขาด แต่นี่...ตอนนี้เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย ผิดคำพูดไปทุกอย่าง...ไม่ไหวแล้วอยากหนี อยากหนีไปให้พ้นจากตรงนี้เหลือเกิน...

...หนี....ต้องหนี...

“จะหนีไปไหนซอล!!”

“อ๊ะ!”

บลูม่าคว้าแขนซอลย่าเอาไว้ทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดินหนี วันนี้เขามีเรื่องจะต้องคุยกับซอลย่าให้รู้เรื่อง

“ปละ...ปล่อยนะ” คว้าได้ก็ดันร่างเล็กกว่าเกือบครึ่งเข้าผนังทันที แม้ซอลย่าจะพยายามดิ้นรนให้พ้น แต่ก็ถูกร่างสูงกว่ากักเอาไว้ในกรงแขนมนุษย์ที่บลูม่าเท้ามือทั้งสองข้างยันไว้กับผนังเพื่อจองจำผู้ต้องหาร้ายแรงเอาไว้สอบปากคำแบบตัวต่อตัว

"ไหนรับปากฉันแล้วไงว่าจะคุมไอ้เวรนั่นให้ดี แล้วนี่ยังไงถึงปล่อยให้มันมาระยำใส่สดายุได้อีกห๊ะ!!?" บลูม่าตะคอกใส่ซอลย่าอย่างไม่ไว้หน้า เขามีเรื่องบางอย่างต้องคุยกับท่านประธานให้รู้เรื่องจึงขึ้นมาชั้นสี่สิบนี้ ไม่คิดว่าจะได้เจอกับซอลย่าเข้าจังๆ แต่ก็ดีมากที่ได้เจอ เพราะนอกจากท่านประธานแล้วก็เป็นซอลย่านี่แหละที่เขาต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อน

“...ข...ขอโทษ...” ซอลย่าได้แต่เอ่ยคำขอโทษ เพราะไร้ซึ่งข้อแก้ต่างใดๆ เขาผิดในทุกประตูจนไม่เหลือรูให้มุดหนี สมแล้วที่จะถูกบลูม่าเอ็ดตะโรชิงชังเอาแบบนี้

“ขอโทษแล้วมันหายหรือไง!! ถ้าคิดว่าจะทำไม่ได้ก็อย่าริจะรับปากพล่อยๆตั้งแต่แรกสิ!!” บลูม่าตะคอกพร้อมทุบผนังด้านข้างของซอลย่าโครมใหญ่ ไม่ใส่ใจแล้วว่าเสียงจะดังไปถึงไหน เพราะตอนนี้อารมณ์คุกรุ่นพลุ่งพล่านเกินกว่าจะเก็บงำ

“......................ขอโทษ...” ซอลย่าไร้คำพูดใดอีกนอกจากขอโทษด้วยเสียงสั่นเครือ หยาดน้ำตาเอ่อรวมกันอยู่เต็มเบ้า ทว่าไม่กล้าร้อง เขาไม่กล้าร้องต่อหน้าบลูม่า เพราะแทนที่จะได้รับความเห็นใจ อาจโดนดูถูกจนอยากไปเกิดใหม่เสียมากกว่า เมื่อไร้ทางหนี เมื่อไร้คำพูด ซอลย่าจึงทำได้เพียงแค่ยืนก้มหน้าตัวสั่น ยอมรับผิดในทุกข้อกล่าวหา และรอการลงทัณฑ์อย่างไม่คิดหลบเลี่ยง

บลูม่าเองเมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่าน เขารู้ว่าซอลย่าไม่สู้คนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่มันต้องไม่ใช่ตอนนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าเขาที่กำลังเดือดดาล บลูม่าไม่ชอบรังแกคนอ่อนแอกว่า ดังนั้นหากซอลย่าไม่คิดสู้เขาก็จะทำอะไรไม่ได้

“....แม่ง....อย่าหลบหน้าฉันนะซอล!! ไม่ต้องมาบีบน้ำตาเรียกความสงสารจากฉันด้วย! เงยขึ้นมาคุยกันดีๆเดี๋ยวนี้นะ!!”

เมื่อทำอะไรไม่ได้ บลูม่าก็ต้องขู่กรรโชกพร้อมบังคับจับปลายคางของซอลย่าให้เงยขึ้นมาสบตา หัวใจของบลูม่ากระตุกไหวในวูบแรกที่ได้เห็นดวงตาฉ่ำน้ำของคนตรงหน้า แต่ทิฐิบางอย่างก็ทำให้เขามองข้ามมันไป

“...ขอโทษ...บลู...ซอลขอโทษ...ขอ...ขอโอกาสอีกครั้ง....”

“ไม่ต้องมาอ้อนวอน! ฮึ! โอกาสงั้นเหรอ โอกาสสำหรับเธอน่ะมันมีแค่ครั้งเดียว และเธอใช้มันไปแล้วตั้งแต่วันที่เธอขอให้ฉันนอนด้วย!!”

********************************************************
ตัดฉับ! อิอิ
ใครอยากอ่านเรื่องลับๆของบลูซอลบ้างยกมือขึ้น....หึหึหึ  ตอนหน้ามาแน่จ๊ะ

กลับมาแล้วค๊า...งานเคลียร์ซากเสร็จเร็วกว่าที่คาด เลยพอเหลือเวลาปั่นอยู่บ้าง
บอกตรงค่ะว่า ตั้งแต่ตอนที่ 31-34 ความจริงแล้วมันคือตอนเดียวกัน แต่มันยาวเกิ๊นนนน เลยต้องบั่นเป็น 4 ตอน เพื่อความสะดวก

ประกาศ ณ ตรงนี้เลยจ๊ะ ว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องโอละพ่อ โพดๆ
เนื่องจากว่าตอนแรกกะแต่งเป็นเรื่องสั้น จบตั้งแต่ยังอยู่มัลดีฟส์
แต่พอตัดสินใจแต่งเป็นเรื่องยาวเท่านั้นแหละ...ยาวเลย -*-
บ่องตงว่า ปม ของเรื่องพันกันจนยุ่ง แต่...จบแฮปปี้ มั่นใจได้จ๊า

ทว่าช่วงนี้อาจหน่วงหน่อย อดทนกันนิดนะจ๊ะ
เราจะผ่านมันไปด้วยกันจ๊ะ

ช่วงก่อนไคลแม็กซ์และหลังจากนี้ ตัวละครคู่อื่นจะเข้ามามีบทบาทต่อเรื่องหลักมากขึ้นนะจ๊ะ ใครเชียร์ใครคู่ไหนอยู่ ก็รอลุ้นกันต่อไปว่าจะโผล่มาตอนไหน อิอิ

ขอบคุณทุกกำลังใจ
และขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งที่ติดตามนะคะ
อนาคี 99
:กอด1: :L2: :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2014 11:38:04 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
ลุงเลือดร้อนเป็นวันรุ่นจริงๆนะ กร๊ากกกก  :hao7:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ลุงบทจะร้อนก็ลุกเป็นไฟเชียว

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 o18 หึงโหดนะตาลุง สงสารน้องยุอ่ะ

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ยกมือด่วนๆอีกคนเลยค่ะ!!!!

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
สนุกมั่กมากกก

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เห็นด้วยกับความคิดยุเรื่องของเสน่ห์จันทร์นะ คือเป็นกลางมากที่พูดแบบนั้น

แล้วฮาตอนที่ยุกับเมธจะลดความตึงเครียดในรถด้วย พี่เมธจูบทางอ้อมกับบดินทร์แล้วนะ :m20:

ส่วนเรื่องของบลูม่ากับซอลญ่า ซอลน่าสงสารนะตั้งแต่อ่านมา แถมเรื่องนอนด้วยกันอีก ขอหลบไปกรี๊ดแป๊บ

ซอลเป็นคนขอ แต่รอยที่คอซอลทำไมเยอะกว่าล่ะ อิอิอิ บลูม่าเข้าใจซอลญ่าเร็วๆหน่อยนะ

ขอยกมืออยากอ่านคู่บลูกับซอลจ้ะ :hao7:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
 :z6: บลูม่าทำกับคนที่ตัวเองนอนด้วยแบบนี้ มันถูกแล้วเหรอ

เฮียเมธเลือดร้อนหุ   หุ คบเด็กต้องปรับตัวสินะ

ยุ เราก็ลูกผู้ชายคนนึง ต้องดูแลตัวเองได้ ถ้ามันทำอีกเอามีดเสียบให้มิดด้ามเลย

เจ้จันทร์ ขอแนะนำให้ไปเข้าชื่อด่วน  ข่มขืน= ประหาร

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
โง้ยยยย อยากอ่านบลูซอล
รอตอนต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด