ต่อค่ะเวลาผ่านไปเร็วราวกับโกหก... ขณะที่กฤตเมธและสดายุยังวุ่นวายตาลายหัวหมุนอยู่กับการถ่ายทำแบบข้ามวันข้ามคืนอยู่นั้น Teaser ตัวแรกของภาพยนตร์เรื่อง ‘สุดปลายทางของหัวใจ’ ก็ออกสู่สารธารณะในที่สุด แม้จะมีกระแสข่าวมาพักใหญ่ๆเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทางโลกโซเชียล แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผู้ชมหรือผู้ที่สนใจจะได้เห็นเนื้อหาบางส่วนอย่างชัดเจน และถึงใน Teaser จะไม่ได้บ่งบอกเกี่ยวกับเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ แต่กระแสหนังชายรักชายที่นำพระเอกที่ถือว่าระดับตัวพ่อสองคนมาประกบคู่กันเองแบบนี้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่ว่าใครจะพูดกันไปแบบไหน ไม่ว่ายังไงภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ต้องออกฉาย และที่สำคัญ ยังมีผู้ชมอีกเป็นส่วนใหญ่ที่ยังอยากจะดู
‘สวัสดีคร๊าบบบท่านผู้ชมที่น่ารักของผททุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ Star Talk! รายการแห่งความบันเทิงที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับดาราที่คุณรัก’
กรี๊ดดดดดดดดดด อร๊ายยยยยย
‘ทุกวันอาทิตย์เรามีนัดกันสี่ทุ่มยี่สิบนาที ตั้งหน้าตั้งตารอผมกันหรือเปล่าเอ่ย’
รออออออออออออ
‘ชื่นใจมากครับ…แล้ว…วันนี้เป็นวันสำคัญอะไรกันเนี่ย ผู้ชมล้นห้องส่งกันเลยทีเดียว มีป้ายไฟด้วย อ่านว่าอะไรน๊า Porch & Roojn นั่น Meth โอ้วSdayuht ก็มี โหวววว...แฟนคลับตามมาให้กำลังใจกันล้นหลามมาก ชื่นใจแทนเลยนะครับเนี่ย’
‘งั้น...’
‘เราไปพบกับพวกเขาเหล่านั้นได้เลยครับ! ’
กรี๊ดดดดดด
‘พวกเขาคือ…เหล่านักแสดงนำของภาพยนตร์ที่สร้างกระแสแหวกตลาดมากที่สุดในตอนนี้ …ขอเชิญพวกท่านพบกับ…’
‘กฤตเมธ สดายุ รุจน์ และ พอร์ช ครับ!! ’
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ในที่สุด วันที่ต้องให้สัมภาษณ์ก็มาถึง แฟนคลับแน่นห้องส่ง เสียงกรีดร้องต้อนรับดังสนั่นทันทีที่พิธีกรอย่างบดินทร์เอ่ยเชิญทั้งสี่คนออกสู่หน้าเวที ที่ตรงนั้นแสงไฟสาดส่องสว่าง เบื้องหน้าคือผู้ชม แฟนคลับมากมายที่มารอชมการสัมภาษณ์ในคืนนี้อย่างล้นหลาม ทั้งสี่หนุ่มเดินยิ้มแย้มทักทายผู้ชมออกมาด้านหน้าเวทีด้วยความมั่นใจในชุดทันสมัยที่ใส่แล้วดูดีอย่างที่สุด
เสียงกรี๊ดต้อนรับเล่นเอาหูอื้อ แต่ก็เป็นการหูอื้อที่น่ายินดี โดยเฉพาะกับสดายุที่แม้ภายนอกจะปกติดี แต่แท้จริงในหัวใจนั้นกลับเต้นรัวและแกว่งเป็นลูกตุ้ม เขาออกจากวงการนี้ไปนาน…นานมากจนแทบจะลืมไปแล้วว่าการมีแฟนคลับรอต้อนรับนั้นเป็นอย่างไร แต่ที่ยิ่งกว่าความรู้สึกนั้น เขากลัวมาก สดายุกลัวเหลือเกินว่าที่หน้าเวทีนี้จะไม่มีใครคอยต้อนรับเขาอยู่ เสียงกรีดร้องมากมายที่ได้ยินนี้บางทีกลับไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของสามคนที่ออกมาพร้อมกัน กลัวเหลือเกินว่าแท้จริงแล้ว…เขายังเป็นคนที่เลวร้าย และยังไม่มีใครต้องการ
กรี๊ดดดดด สดายุ
สดายุ….อร๊ายยยย
เสียง….เรียกชื่อเราเหรอ?
อร๊ายยย สดายุ เราคิดถึงคุณ!!
คิดถึง….เราเหรอ?
น้ำตา…แทบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อในที่สุดสดายุก็ได้เห็นกลุ่มแฟนคลับของตน ที่ชูป้ายไฟที่เขาพลางตะโกนต้องรับด้วยความคิดถึง แม้จะไม่ได้เยอะเหมือนเด็กใหม่ที่เพิ่งชนะออกจากบ้านอย่างรุจน์และพอร์ชที่มีแฟนคลับของตัวเองล้นหลาม หรือไม่ได้เท่ากฤตเมธที่มีแม่ยกเพียบ แต่แค่นี้สดายุก็ยิ้มได้ สดายุก็พอใจแล้ว
อย่างน้อย…ในที่แห่งนี้ก็ยังมีคนสนใจเขาอยู่
(บดินทร์)
สวัสดีครับ คุณกฤตเมธ คุณสดายุ น้องพอร์ช น้องรุจน์
ผมรู้สึกเป็นเกียรติ์และดีใจมากเลยนะครับ ที่ได้สิทธิ์สัมภาษณ์พวกคุณก่อนใครในวันนี้
(สี่หนุ่ม)
สวัสดีครับคุณบดินทร์
(บดินทร์)
คุณสดายุนี่หายหน้าหายตาจากวงการไปนาน แต่ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะครับ
ที่เห็นว่าผอมลงขนาดนี้ ข่าวว่าเพราะบทที่ต้องเล่นเป็นคนป่วยในเรื่องใช่มั้ยครับ?
(สดายุ)
ขอบคุณครับ(ยิ้มหวาน) คือในเรื่องผมต้องป่วยหนักและเข้าผ่าตัดจึงต้องผอมมากๆ
แล้วทางพี่อ๊อดผู้กำกับก็ต้องการให้ภาพออกมาสมจริงที่สุดเลย
จัดการสั่งรีดน้ำหนักผมเป็นการใหญ่เลยล่ะครับ (ยิ้ม)
อย่างที่คิด เปิดประเด็นปุ๊บ บดินทร์ก็ยิงคำถามสดายุก่อนเป็นคนแรก ทุกคนสังเกตได้ เพราะเห็นคุณพิธีกรท่านนี้เล็งจะถามแต่สดายุมาตั้งแต่เตรียมคิวที่ห้องแต่งตัวแล้ว
(บดินทร์)
โห…ผู้กำกับเคี่ยวมากเลยนะครับ ผอมบางมาเชียว (หัวเราะกันทั้งห้าคน)
เอาล่ะ งั้นผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ
คิดยังไงคะถึงได้ตอบตกลงเล่นภาพยนตร์เรื่อง ‘สุดปลายทางของหัวใจ’
ที่เป็นหนังเกย์100%
(กฤตเมธ)
คือผมถือว่ามันเป็นความท้าทายนะครับ ผมอยู่ในวงการมานาน
เล่นมาแทบจะทุกบทแล้ว ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นความท้าทายครับ
แล้วพอได้ลงมือแสดงจริงๆก็ถือว่าสนุกมากครับ
ถือว่าตัดสินใจไม่ผิด (ยิ้มแล้วชำเลืองมองทางสดายุ)
(บดินทร์)
หือ...สมกับเป็นคำตอบของเทพบุตรแห่งวงการจริงๆครับ
งานสำคัญที่สุด แล้วส่วนคุณยุล่ะครับ หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน
กลับมาคราวนี้รับบทคู่คุณกฤตเมธเลยรู้สึกยังไงบ้างครับ
(สดายุ) อย่างที่รู้กันนะครับ ผมหายไปจากวงการพักใหญ่
พอมีโอกาสเข้ามาผมก็ต้องรีบคว้าไว้แหละครับ
(บดินทร์) แล้วตอนที่ได้รู้ว่าต้องเล่นคู่กันนี่
รู้สึกยังไงกันบ้างคะ จั๊กจี้กันบ้างมั้ยเนี่ย
(กฤตเมธ)
ดีใจครับที่ได้ยินว่าจะต้องคู่กับน้องยุ เพราะเราเคยเล่นละครด้วยกันมาก่อน
เลยยังพออุ่นใจครับ จะได้ไม่ต้องปรับตัวเยอะ
(สดายุ) พอรู้ว่าต้องมาเล่นคู่กับพี่เมธ
ตอนแรกก็ตกใจนะครับไม่คิดว่าพี่เขาจะมาแนวนี้ (หัวเราะ) แต่ก็ดีใจมากครับ
เพราะโดยส่วนตัวก็ชื่นชมพี่เขาอยู่แล้ว
แล้วก็ยิ่งรู้สึกหายห่วงด้วยครับ
เพราะตอนแรกก็กังวลอยู่กลัวทำไม่ได้ แต่พี่เขาเก่งครับผมเลยมั่นใจ
(บดินทร์)
แล้วพอได้มาเล่นเข้าพระเข้านางกันจริงๆ มีฉากไหนที่รู้สึกว่ายาก
หรือเขินจนเล่นไม่ได้บ้างมั้ยครับ
(กฤตเมธ)
ตอนเข้าพระเข้านางก็โอเคครับ แรกๆยังเขินๆกันบ้าง แต่ตอนนี้เริ่มชินครับ
ขำๆกันซะมากกว่า
(สดายุ) ครับ ช่วงแรกผมเป็นนางเอกร้อยเทคได้
มันเขินน่ะครับ ไม่เคยด้วย ทำอารมณ์ไม่ถูกเลยจริงๆครับ ต้องคอยท่องไว้
เราเป็นนางเอก เราเป็นนางเอก (หัวเราะ)
(กฤตเมธ)
แต่น้องยุเก่งมากครับ เข้าถึงอารมณ์ได้ดี พอเข้าที่เข้าทาง
ก็ไหลพลิ้วจนผมอายเลยครับ เล่นเก่งมาก
(บดินทร์)
ได้ข่าวว่าเรื่องนี้ฉากเลิฟซีนแรงมาก ทั้งสองคู่จริงหรือเปล่าครับ
(กฤตเมธ)
ก็...ครับ ค่อนข้างครับ ต้องไปดูเอาเอง
(บดินทร์)
แล้วหนังที่แรงขนาดนี้ ถ้าเล่นดีไม่กลัวผู้ชมจะติดภาพเหรอครับ
มันจะเป็นการยากที่จะไปรับบทอื่นๆในอนาคตหรือเปล่า
เคยคิดกันบ้างมั้ยครับ?
เหมือนกับถามทั่วไป แต่สายตาจับจ้องแน่วแน่มาที่สดายุ ตั้งใจจะให้เป็นผู้ตอบคำถามเพียงผู้เดียว
(สดายุ)
ผมไม่ซีเรียสครับ คือมันเป็นงาน และผมก็มั่นใจว่าผู้ชมคงเข้าใจ
ดีเสียอีกครับ ถ้าเราจะแสดงได้ดีจนทุกคนเชื่อ (หัวเราะ)
(บดินทร์)
งั้นมาทางน้องใหม่กันบ้าง
รู้สึกเป็นไงบ้างครับกับการเล่นหนังครั้งแรก
แล้วต้องมาเจอบทสยิวกิ้วแบบนี้ (ฮา)
ข่าวว่าทั้งคู่เป็นคู่จิ้นกันตั้งแต่อยู่ในบ้านด้วย
เจอบทแรงขนาดนี้ทำใจนานมั้ยครับ
น้องรุจน์ก่อนแล้วกัน ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายรับบทหนัก
(รุจน์)
ตอนแรกก็ยังไม่ทราบอ่ะครับ
พอต้นสังกัดเสนองานมาบอกว่าเล่นกับพอร์ชด้วยผมก็รับเลย
(บดินทร์)
ไม่ได้ถามเขาก่อนเลยเหรอครับว่าเป็นบทอะไร?
(รุจน์)
ไม่ครับ รู้อีกทีก็ตอนฟิตติ้งเลย (ฮา)
(บดินทร์)
แล้วน้องพอร์ชล่ะครับ รู้สึกยังไงบ้าง หรือว่ารับเลยเหมือนน้องรุจน์ครับ?
(พอร์ช)
อ๋อ ผมพอจะรู้อยู่บ้างแล้วครับ แล้วผมก็รับเลยเหมือนกัน
เพื่อนผมเล่นได้ ผมก็อยากจะเล่นด้วย (ยิ้มหันมองรุจน์ รุจน์ยิ้มตอบทันทีแต่เพียงครู่พอร์ชก็หันไปมองทางอื่น)
(บดินทร์)
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้แฟนๆคุณจิ้นได้ยังไงล่ะครับ
(รุจน์)
ฮ่าฮ่า เพื่อนกันเฉยๆครับ เพื่อนเฉยๆ
(หัวเราะกอดคอพอร์ช มองปฏิกิริยาเพื่อนรักไม่วางตา)
(พอร์ช)
ครับเพื่อนผมครับ
(พอร์ชหน้านิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะโอบคอรุจน์กลับแล้วทำหัวชิดกันเพื่อจะได้ไม่ต้องหันมองตาเผชิญหน้า และตอกย้ำคำว่าเพื่อน เน้นๆ)
กรี๊ดดดดดดดด (แฟนคลับถูกใจที่ทั้งคู่กอดคอหัวชิดกัน)
‘เพื่อนผม’ คำที่สะเทือนในหัวใจของรุจน์ที่สุด คำที่พอร์ชฝืนใจในการเอ่ยมันออกมาที่สุด คำที่ทั้งคู่พยายามยึดไว้ภายในใจไม่ให้ไขว้เขวหลุดไปเป็นอย่างอื่นได้อีก
‘ถ้ารุจน์ต้องการอย่างนั้น…พอร์ชก็จะยอมเป็นแค่เพื่อนของรุจน์เท่านั้น’
‘พอร์ช…ถ้ามึงไม่ได้คิดจะจริงจัง เรากลับไปเป็นแค่เพื่อนกันเถอะ’
(บดินทร์)
เอ้า คู่เล็กเคลียร์นะครับ จิ้นในจอได้ แต่นอกจอแค่เพื่อนรักธรรมดา ยืนยัน
เหลือคู่พี่ใหญ่ ข่าวว่าช่วงหลังเป็นคู่หูไปไหนไปกันไม่ห่าง หรือว่าจะมีจิ้นนอกจอกันบ้างครับ
คำถามเหมือนทีเล่นทีจริง แต่กฤตเมธและสดายุรู้ดีว่า บดินทร์เอาจริง และแน่นอนว่าคำถามนี้ไม่ได้มีอยู่ในสคริป
(กฤตเมธ)
(คว้าตัวสดายุเข้ามาโอบคอไว้พลางหัวเราะร่า) แบบนี้ต้องไปลุ้นกันเลยแล้วล่ะครับ (ทิ้งท้ายด้วยการชูนิ้วโป้งแบบยอดเยี่ยม)
กรี๊ดดดดดดดดดด ฮ่าๆๆๆๆๆ
คำตอบรุ่นใหญ่เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะพอใจของผู้ชมในห้องส่งพอสมควร บดินทร์หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปตามน้ำ เหลืออีกไม่ถึงห้านาทีจะจบเบรคแรก และอีกสองเบรกต่อไปจะเป็นกิจกรรมให้ดารารับเชิญและผู้ชมในห้องส่งได้เข้าร่วม ดังนั้นนี่จะเป็นคำถามสุดท้ายของเบรกแรก
(บดินทร์)
คุณสดายุครับ คุณเป็นข่าวอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะหายไปจากวงการ
แล้วการกลับมาครั้งนี้ คุณคาดหวังอะไรไว้ครับ
เช่น การกลับไปเป็นพระเอกชั้นแนวหน้าอย่างเมื่อก่อน…
คำถามสุดท้ายที่ทำให้ทั้งทั้งห้องส่งเงียบกริบ พอร์ชและรุจน์หน้าเจื่อนไปทันทีที่ได้ยินคำถาม ถึงกฤตเมธจะยังมีสีหน้าปกติ แต่ลึกๆในใจชายหนุ่มรู้สึกเดือดไม่น้อยทีเดียว ‘มันเล่นจนได้นะไอ้บดินทร์!!’
(สดายุ)
ผมแค่คาดหวัง ว่าจะทำงานออกมาให้ดีที่สุดครับ
สดายุตอบคำถามเพียงแค่นั้น พร้อมกับรอยยิ้มสดใสอย่างที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก บดินทร์จบการสัมภาษณ์ในเบรคแรกเพียงแค่นั้น ก่อนจะกล่าวตัดเข้าโฆษณา
ช่วงระหว่างพักเบรก ต่างคนก็ต่างอยู่ ระหว่างที่บดินทร์กำลังเตรียมคิว เหล่าดารารับเชิญอย่างสดายุ กฤตเมธ และพอร์ชรุจน์ก็ทักทายเหล่าแฟนคลับของตัวเองอย่างเป็นกันเอง และเมื่อครบสิบห้านาที สำหรับการเปลี่ยนฉาก และเซ็ตกล้อง เซ็ตไฟ การสัมภาษณ์เบรกต่อไปก็เริ่มขึ้น ซึ่งการสัมภาษณ์ในช่วงหลังพักเบรคเป็นไปด้วยความสนุกสนาน คำถามและกิจกรรมในช่วงต่อมาเป็นแบบเอาใจแฟนคลับมากกว่าเจาะลึกเรื่องภาพยนตร์ เพราะทางต้นสังกัดไม่ต้องการให้มีการปล่อยสปอลย์มากจนเกินควร
(บดินทร์)
วันนี้ก็ต้องแน่นอนนะครับ ต้องขอขอบคุณทั้งสี่ท่านที่อุตส่าห์มาเล่าความสนุกในกองถ่ายและความสนุกของภาพยนตร์ให้เราฟังกันนะครับ โดยเฉพาะเรื่องเนื้อหาภาพยนตร์ต้องเข้มข้นถูกใจแน่นอนเลยครับ ‘สุดปลายทางของหัวใจ’ เข้มข้นสนุกจุใจแน่นอนครับ (ปรบมือ)
(บดินทร์)
และก่อนที่พวกเรานะครับจะส่งท่านผู้ชมเข้านอน เรามาฟังเพลงเพราะๆจากน้องรุจน์กันอีกว่านะครับ ชื่อเพลงอะไรครับน้องรุจน์
(รุจน์)
‘เสียงที่เปลี่ยน’ ครับ (ของคุณเบล นันทิตา)
(บดินทร์)
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เลยใช่มั้ยครับ
(รุจน์)
ครับ เป็นเรื่องราวของตัวเอกที่เคยเป็นเพื่อนรักกันมา ประมาณรักกันมาแล้วต้องเปลี่ยนไปเพราะไปชอบอีกคนนึงแทนน่ะครับ
(บดินทร์)
ท่านผู้ชมครับวันนี้เราลากันด้วยเพลงจากน้องรุจน์ครับ ‘เสียงที่เปลี่ยน’ นะครับ
วันนี้เวลาหมดลงแล้วนะครับ พบกันใหม่อาทิตย์หน้าสี่ทุ่มยี่สิบ ทางช่อง JNN แห่งนี้ คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ
การสัมภาษณ์สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี กิจกรรมท้ายรายการคือการร้องเพลงส่งคนดูของรุจน์
ท่าทีเปลี่ยนไป ปิดยังไง เก็บยังไง
ซ่อนเร้นในจิตใจฉันดูออก
ทำเหมือนไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน
เสียงที่แผ่วเบา มันช่างเบา ช่างเบา
สะท้อนคำว่าเรานั้นใกล้จบ
และพบปลายทางของสองเรา
นี้คือสิ่งที่ฟ้องในใจ ปิดอย่างไรก็คงไม่อยู่
วันนี้ยิ่งฟังยิ่งรับรู้ อาการมันยิ่งดูยิ่งแน่ใจ
เสียงที่เปลี่ยน คือเสียงตรงมาจากหัวใจ
ยิ่งเสียงแผ่วเบาสักเท่าไร
ความรักคงแผ่วลงเท่านั้น
เสียงมันเปลี่ยน ตอนนี้รอจะฟังคำนั้น
บอกฉันมาเลยก็แล้วกัน
ประโยคที่บอกเลิกกัน เธอคงพูดชัดเจน
**ขอบคุณ คุณเบล นันทิตา
เพลงที่กินใจผู้ชมโดยไม่รู้เหตุผล เพราะรุจน์ร้องเพลงนี้ออกไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเล็กๆของตน ช่างบังเอิญนักที่เนื้อเพลงมันช่างคล้องจองกับชีวิตความสัมพันธ์ของเขากับพอร์ชตอนนี้เหลือเกิน
เหมือนจะรับได้กับการกลับไปเป็นแค่เพื่อน แต่ความจริงแล้ว….มันไม่มีทางรับได้
เพราะเขามัวแต่เล่นตัวเหรอ?
หรือพอร์ชนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเปลี่ยน
หรือว่าที่จริง ที่มัลดีฟส์พอร์ชอาจจะแค่เผลอ…
หรือว่า…เขาแค่รู้สึกไปเอง…
เสียงที่เปลี่ยน คือเสียงตรงมาจากหัวใจ
ยิ่งเสียงแผ่วเบาสักเท่าไร
ความรักคงแผ่วลงเท่านั้น
เสียงมันเปลี่ยน ตอนนี้รอจะฟังคำนั้น
บอกฉันมาเลยก็แล้วกัน
ประโยคที่บอกเลิกกัน เธอคงพูดชัดเจน
พอร์ช…ทำไมมึงเปลี่ยนไป
*
*
*
*
*
หลังจบรายการเหล่าดารารับเชิญยังกลับไม่ได้ เพราะต้องอยู่แจกลายเซ็นและถ่ายรูปกับเหล่าแฟนคลับก่อน โดยเฉพาะพอร์ชกับรุจน์ที่แทบจะกลืนหายเข้าไปในดงแฟนๆ ฝ่ายกฤตเมธและสดายุเองก็กำลังพูดคุยอยู่กับเหล่าแฟนหนังแฟนละครของตนอยู่เช่นกัน
และในขณะนั้นเอง หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสวยสดขับผิวขาวให้ยิ่งน่ามอง ก็เดินเข้ามาพร้อมช่อกุหลาบสีแดงสดไม่ต่างกับสีชุดช่อใหญ่ตรงเข้ามาหากฤตเมธ
ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดเอ่ยทักทายทันทีที่ถึงตัวเป้าหมาย
“ชิดยินดีด้วยนะคะพี่เมธ”***********************************************************************
ชิดจันทร์ Returned!!
อยากรู้ชิมิ อิเจ๊ชิดจิกลับมาทำซากอะไรอีก!
นึกว่าโดนอิแม่ เสน่ห์จันทร์จับขังไว้ในบ้านแล้วแท้ๆเชียว!
EP.36 ยังเรื่อยเปื่อยอยู่ค่ะ แต่ว่าตั้งแต่ EP.37 เป็นต้นไป
จะเข้าเนื้อหาเข้มข้นแล้วนะคะ โปรดจิบน้ำขณะอ่าน เดี๋ยวเลือดข้น ความดันขึ้นค่ะ
เรื่อง ผมคือ…นางเอกนี้ คนเขียนวางพล็อตคร่าวๆเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
มันจะเป็นนิยายเรื่องแรกที่ข้าพเจ้าเขียนได้ยาวที่สุด นั่นคือ 52 ตอน แบบไม่รวมตอนพิเศษค่ะ!!
คุณพร๊ะ!! จะใดยาวเพียงนี้น่อ…

ขออภัยอย่างสูงที่มาช้าค่ะ
อนาคี99
ช่วงที่สอง(จากทั้งหมดสามช่วง) บรรทัดที่4กับ10 มีคนชื่อวาโยโผล่มาค่ะ
จิงๆต้องเปยสดายุรึป่าวคะ
รออ่านต่อเด้อออ ยันชิดโผล่มาละ
ขอบคุณที่แจ้งค๊าบ...อิอิ เก๊าเผลอเอาเจ้าแฝดกับสดายุมาปนกันซะแว้ว
ใครเจอวาโยโผล่ตรงไหนอีกบ้างน่อ...
