ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1268699 ครั้ง)

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
รอดูวันที่ดนัยกดบดินทร์  :hao7:

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ…นางเอก
ซีนที่ 38 ข่าว






"ฮ...ฮัลโหล?"

"รับสายได้เสียทีนะไอ้ขี้ขลาด หนีเอาตัวรอดหน้าด้านๆเลยนะแก!"

"ก็ถ้าผมถูกจับได้ ก็จบกันพอดีสิ..."

"หึ! แกมันก็แค่คนน่าสมเพช ขี้ขลาดตาขาว ไม่รู้ว่าจะยังเป็นผู้ชายอยู่อีกทำไม หากระโปรงมาใส่ได้แล้วย่ะ ไอ้สวะ!"

"...แล้วคุณหนูยังมีอะไรกับผมอีก?"

"ชิ...เมื่อวานตรงหน้าลิฟท์ แกถ่ายรูปไว้ใช่มั้ย ตอนชั้นกับพี่เมธเดินเข้าห้องน่ะ"

"...มีแค่รูปเดียว ไม่ชัดด้วย"

"ไม่ได้เรื่อง!"

"ก็คุณบอกว่าให้ผมตามไปถ่ายแค่ในห้อง..."

"โอ้ย! ไอ้โง่! สั่งแค่ไหนได้แค่นั้นเลยนะ! คนอย่างแกนี่เลี้ยงไว้เสียข้าวสุกจริงๆ!!"

“...........ก็ไปให้คนอื่นทำสิ...ผมก็ไม่ได้อยากทำนักหรอกนะ!”

“อย่ามาปากดี! แกลืมไปแล้วรึไง? ว่าแกพึ่งใบบุญใครอยู่? ไม่ใช่แม่ แต่เป็นฉัน!...”

"ผมก็พยายามอยู่นี่ไง!!"

"อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ! คนเลวชาติอย่างแก ไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้องอะไรทั้งนั้นแหละ! ถ้าไม่มีฉัน หนี้พนัน 10 ล้านของแกจะเอาที่ไหนไปจ่าย!  แกคิดว่าแกจะยังหายใจอยู่ได้อย่างงั้นเหรอหากฉันไม่ขอเพื่อนฉันไว้? ถ้าฉันไม่เอาชื่อช่วยการันตีแก ให้แกได้ผ่อนดอกเขาไปวันๆ แกว่าวันนี้แกจะเป็นผีอยู่ที่ไหน หืม...บดินทร์!? แล้วแกคิดว่านอกจากฉันคนนี้จะมีใครช่วยแกได้อย่างงั้นเหรอ? ครอบครัวเขาก็ตัดขาดแกไปแล้วเพราะแกไปทำระยำกับน้องเลี้ยงลูกรักของเขา...กับไอ้สดายุมันคงช่วยแกหรอก โดนแกหักหลังซะขนาดนั้น หึหึ..."

"อย่าพูดเรื่องนั้นอีกคุณชิด...ผมขอร้อง"

"เรื่องอะไร? เรื่องที่แกถูกเฉดหัวออกจากบ้าน เพราะแกดันไปทำน้องเลี้ยงของตัวเองท้อง? หรือเรื่องที่แกโบ้ยว่าเด็กคนนั้นท้องกับสดายุเพื่อนรักของแกกันล่ะ? งามหน้าทั้งสองเรื่อง แกไม่อยากให้ฉันพูดถึงเรื่องไหนกัน ฉันจะได้เงียบให้"

"คุณชิด ผมยอมทำตามที่คุณพูดทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะให้ผมทำอะไรผมทำให้ ชั่วช้าแค่ไหนผมก็จะทำ ยังไงซะคนแบบผมมันไม่เหลืออะไรจะให้เสียอีกแล้ว แต่ผมขอร้อง...ได้โปรด อย่าทำร้ายสดายุ..."

"หึ! โดนมันรังเกียจอย่างกับกิ้งกือไส้เดือน แกยังจะไปห่วงมันอีกเหรอ ตลกน่า!"

"...ได้โปรด คุณชิด..."

".......หึหึ ได้! เห็นว่าแกอุตส่าห์อ้อนวอนหรอกนะ งั้นฉันจะให้งานแกทำอีกงานนึง"

"...ร...เรื่องอะไร?...ทำอะไรอีก แค่รูปนั่นก็เล่นกฤตเมธอยู่หมัดแล้วใช่เหรอ?"

"ไม่ใช่พี่เมธ แต่เป็นสดายุ..."

"คุณชิด! ผมบอกแล้วไง ว่าอย่ายุ่งกับสดายุ!"

"หึ! ฉันสนรึไง...หึหึ...เอาเป็นว่างานนี้ถ้าแกทำได้ หนี้ 10 ล้านที่แกติดเพื่อนฉันไว้ ฉันจะให้เขายกหนี้ให้แกทั้งหมด..."

"............"

"แต่ถ้าไม่สำเร็จแกก็ต้องคืนหนี้ก้อนนั้นทั้งก้อนทันที! รวมทั้งเรื่องเน่าฉาวโฉ่ที่แกพยายามหมกเม็ดทั้งหมดก็จะถูกกระจายสู่สาธารณะด้วย...ทีนี้ก็เลือกเอาแล้วกัน ว่าจะทำหรือไม่ทำ..."

"ถ้าเรื่องผมหลุดออกไป ผมก็พาดพิงคุณได้เหมือนกัน!"

"แล้วคิดว่าแกจะมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นเหรอ? แกก็รู้ว่าเพื่อนฉันไม่โหด หึหึ...ถ้าแกมีเงินจ่ายล่ะก็นะ ฮะฮะ"

"......."

"อ่อ...แล้วต่อให้แกไม่ทำ ก็ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมจะทำให้ฉัน อย่าคิดว่าฉันจะง้อแกไอ้ขี้ขลาด นี่ฉันอุตส่าห์ใจดี เห็นแก่ว่าแกอ้อนวอนนักหนา เลยให้แกเป็นคนจัดการไอ้สดายุเองกับมือ มันจะได้ไม่บอบช้ำมากนัก แต่ถ้าแกไม่ทำฉันก็คงต้องให้คนของเพื่อนฉันจัดการ  แหม่...พวกนั้นเบามือไม่เป็นกันซะด้วยสิ..."

"ทำไมครับคุณชิด! ทำไมต้องทำสดายุ? สดายุไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย!..."

"ใช่! มันไม่เกี่ยว แต่มันกล้าอวดดีกับฉัน สะเออะมายุ่งเรื่องของฉัน! คนอย่างมันต้องโดนสั่งสอนให้รู้สำนึก! ให้มันรู้ว่าใครเป็นใคร!!"

"...แต่"

"จะทำไม่ทำ! ถ้าไม่ ฉันจะได้เรียกใช้คนอื่น!!"

"...คุณจะให้ผมทำอะไร?..."

"...ฉันจะให้แก............................................."



จบคำสั่งแสนเย็นชาร้ายกาจจากคนที่ถือได้ว่าเป็นผู้กุมชะตาชีวิต โทรศัพท์ถูกตัดสายไปนานแล้ว แต่เหมือนเสียงหวานใสที่แฝงไปด้วยความเลวร้ายนั้นจะยังก้องอยู่เต็มหู

ร่างสูงค่อยๆทรุดลงตรงผนังข้างเตียงนอนในห้องคอนโดห้องเล็ก ภายในห้องนั้นยังคงมืดด้วยเจ้าของไม่ยอมเปิดไฟเพิ่มความสว่าง แม้ว่าจะมืดจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใดเลยก็ตาม

สองแขนสั่นระริกยกขึ้นกอดตัวเองช้าๆ

ค่อยๆแน่นขึ้นจากเพียงกอด เป็นรัดรึง ปลายนิ้วทั้งสิบเกาะจิกตรงบ่าของตัวเองอย่างเผลอไผลจนแทบจะขึ้นรอยช้ำแม้จะผ่านเนื้อผ้าของเสื้อยืดอีกชั้นก็ตามที

ร่างทั้งร่างที่กอดเข่าคุดคู้สั่นระริกราวกับหนาวเหน็บระคนหวาดกลัว

เสียงสะอื้นจางๆดังออกมาจากใบหน้าที่ก้มซุกอยู่ตรงซอกเข่าตั้งชัน

และเพียงครู่เสียงนั้นก็ดังขึ้น...ดังขึ้น จนกลายเป็นสะอื้นฮั่ก พร้อมเสียงปล่อยโฮของคนที่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเจียนตาย

น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าพรั่งพรูจนกางเกงยีนส์ที่ต้นขาเปียกฉ่ำ

น้ำตาที่แสนเศร้าสร้อย เสียงสะอื้นที่แสนหงอยเหงา ร่างคุดคู้ที่ได้เพียงกอดตัวเองด้วยความโดดเดี่ยว

..ไม่มีใคร

...เขาไม่มีใครเลย

รอบกายมืดมิดแม้ในความฝัน

ร่างกายเย็นเฉียบเหน็บหนาวแม้จะกอดตัวเองแน่นหนา

ไม่มีทางใดให้เลือก

ไม่เหลือทางใดให้เดิน

อยากพูดคุยกับใครสักคนก็ไม่กล้า...

กลัว...

เพราะไม่เคยมีใคร

หนึ่งเดียวที่เคยไว้ใจ...

ก็ทำลายไปจนสิ้นด้วยมือของตัวเอง

...เจ็บปวด เหน็บหนาว ร้าวราน ทุรนทุราย

ไร้ทางหนี

ไร้ทางไป

ไม่ใช่เพียงอยู่ชดใช้ในสิ่งที่เคยก่อ แต่ยังต้องอยู่ต่อไปเพื่อก่อเวรสร้างกรรมเพิ่ม

เพื่ออะไร?  เขาจะยังอยู่เพื่ออะไร?

อยากย้อนเวลา...

คนเขลาแสนขลาดคนนี้อยากย้อนเวลา...

หากสามารถนั่งไทม์แมชชีนกลับไป เขาจะแก้ไขมัน แก้ไขมันทุกอย่าง...

จะไม่ปล่อยให้ความต้องการอยู่เหนือเหตุผล ที่ไปเผลอมีอะไรกับเด็กคนนั้น จนตั้งท้องเด็ดขาด

หรือไม่ ก็จะยืดอกรับว่าเป็นพ่อเด็ก ไม่ยอมให้ยัยแม่เลี้ยงนั่นใช้มันไปหลอกจับสดายุ จนเป็นข่าว เป็นเรื่องราวใหญ่โต...

หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่เป็นไอ้บดินทร์ที่ขี้ขลาด จะพูดความจริงทุกอย่าง จะปกป้องเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีอย่างสุดกำลัง จะไม่ยอมให้มันกลายเป็นแบบนี้...

หากย้อนเวลากลับไปได้ล่ะก็...........

……..ก็คงได้เพียงแค่คิด

เพราะในตอนนี้ มันไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนอะไรได้อีกแล้ว

ทำน้องเลี้ยงท้อง...

รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนรักถูกโยนความผิด แต่กลับไม่กล้าปริปาก

มัวแต่กลัว...

กลัวจะถูกสังคมประนาม กลัวพ่อจะรู้แล้วโดนรังเกียจยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ กลัวจะอยู่ในวงการไม่ได้อีก กลัว กลัว กลัว กลัว...

กลัวจนตาขาว กลัวจนยอมทิ้งทุกอย่างให้ตัวเองรอด ทิ้งทุกอย่างให้เพื่อนรัก...ให้สดายุต้องรับกรรมแทน

ถูกรังเกียจแล้วยังไม่ยอมสำนึก ทั้งที่ทรยศเพื่อนจนได้หน้าด้านอยู่ในวงการต่อ ขนาดยอมเป็นลูกล่อลูกชนให้ทางต้นสังกัด ที่สกัดให้รับแต่งานระยะยาวซึ่งไม่มีทางเกิด ซ้ำๆไปวันๆ แบบนั้นอย่างหน้าด้านหน้าทน

ซ้ำยังไม่คิดจะทำดีล้างชั่ว ยังเลวซ้ำติดการพนันจนหมดตัว หนี้สินมากล้น เกือบจะตายเพราะโดนทวงอยู่หลายรอบ

จนสุดท้ายต้องยอมตกเป็นเครื่องมือของชิดจันทร์ นังเด็กอำมหิตวิปริตผิดมนุษย์... เพราะหล่อนคือเพื่อนของเจ้าของบ่อนผู้เป็นเจ้าหนี้ เพราะหล่อนเห็นถึงความเลวระยำในตัวเขาที่สามารถเรียกใช้งานได้ เพราะงั้น หล่อนเลยยอมบากหน้าขอร้องเจ้าหนี้เพื่อนหล่อนให้ เพื่อให้เขาได้ต่อลมหายใจ ให้เขาได้มีชีวิตอยู่ต่อ...

...แม้จะอยู่ในฐานะของ ลูกสมุนแสนเลวก็ตาม

หล่อนคือจอมมาร...และเขาก็คือซาตานลูกสมุน

รับคำบัญชา ทำทุกอย่างเพื่อแลกกับการหายใจไปวันๆ

เพื่ออะไร?  เขาจะยังอยู่เพื่ออะไร?

ใจจริงรู้ดี...ว่าที่ต้องการคืออะไร

เขาทนอยู่มาจนวันนี้เพื่ออะไร

...เพื่อที่ในสักวัน เขาจะได้เอ่ยขอโทษเพื่อนรักคนนั้นอย่างเต็มปาก

...เพื่อที่ในสักวัน เขาจะได้รับการอโหสิกรรม...

ทว่า...

แค่...สบตา ก็โดนรังเกียจไปทุกอณูขุมขน...

ถูกสายตาของคนคนนั้นจ้องมองอย่างชิงชัง จนไม่อาจทนได้ เผลอร้ายใส่ทั้งที่ไม่ต้องการ...

อย่างนี้แล้ว...

ยังจะหวังการให้อภัยจากใครอีก...

แล้วมัน...

เพื่ออะไร?  เขาจะยังอยู่เพื่ออะไร?

หรือว่า...

จะเป็นการอยู่เพื่อ.............................

'......................................ครั้งสุดท้าย'



******************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2014 09:24:48 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ


ความเย็นที่กดซับอยู่ตามแขน ลำคอ และใบหน้า เรียกสติของกฤตเมธให้ฟื้นขึ้น ดวงตาคมกล้าค่อยๆ ปรือปรอยลืมขึ้นเชื่องช้า

“ตื่นได้แล้วสิ แม่สาวน้อยไร้เดียงสา…”

“…ย…ยุ…อืม ผมรอดมาได้เหรอเนี่ย…” เสียงงัวเงียของกฤตเมธตอบกลับออกมา ดวงตาที่ลืมขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งหลับลงอีกครั้ง เพื่อจัดระบบการประมวลภาพและลำดับความคิดใหม่อีกที เพราะตอนนี้ยังมึนได้ไม่เลิก

“รู้ได้ไงว่ารอด? คุณน่ะโดนข่มขืนแล้วทิ้งไว้ข้างทาง ผมกับเจ๊บลูไปเจอเข้าหรอกเลยช่วยกลับมา”

“หึ…อย่าอำผมสิ ถึงจะไม่ 100% แต่ผมก็พอมีสติจำได้ลางๆนะ ว่าคุณบุกไปช่วยผมมาได้น่ะ” กฤตเมธว่า พลางพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเอนกายพิงขอบเตียงไว้ มือหนึ่งยกขึ้นนวดขมับที่ยังคงปวดตุบๆของตัวเอง

“อ้าว? ยังพอมีสติแล้วทำไมไม่หนีออกมาล่ะ หรือตั้งใจนอนรอเป็นพระอกในคลิปฉาวกัน?” สดายุแสร้งถามขณะเดินเอาผ้าชุบน้ำบิดหมาด ช่วยซับตามใบหน้าเหนื่อยอ่อนของกฤตเมธอีกครั้ง

“มีแรงที่ไหนล่ะ ไม่รู้ในไวน์นั่นใส่ยานอนหลับไปเท่าไหร่ โดนไปแค่อึกเดียว เล่นซะเคว้งเลย”

“เป็นไงล่ะ? ชิดจันทร์ น้องสาวแสนดีไร้เดียงสาของคุณ เห็นฤทธิ์แล้วหรือยัง?”

“…ผมเถียงไม่ออกเลยล่ะ ผมรู้อยู่แล้วว่าชิดจันทร์เป็นคนเอาแต่ใจ รู้อยู่เต็มอกว่าเขากำลังทำสงครามอยู่กับคุณ แต่ไม่นึกว่า…จะทำขนาดนี้” กฤตเมธยอมรับโดยดีพร้อมถอนหายใจบางเบา ชิดจันทร์เป็นคนยังไงเขาก็พอรู้ แต่นึกไม่ถึงจริงๆที่หญิงสาวจะทำกับเขาแบบนี้

“ดูเหมือนเขาจะอยากได้คุณมากเลยนะ ถึงกับยอมเอาตัวเองเข้าแลกขนาดนี้…คุณหนูชิดจันทร์ คงรักคุณมาก”

สดายุพูดออกไปตามความคิด เมื่อคืนเขารุนแรงกับชิดจันทร์ไปเยอะ ด้วยความไม่พอใจที่เห็นว่าอีกฝ่ายไม่เล่นไปตามกติกา แต่พอนำกฤตเมธกลับมาที่ห้อง พอได้นั่งมองคนที่หลับไม่ฟื้นเสียทีอยู่เงียบๆ แล้วลองไพล่นึกถึงสิ่งที่ชิดจันทร์พยายามจะทำ เขาไม่เข้าใจว่าหล่อนต้องการอะไร แต่…หากผู้หญิงคนหนึ่งจะลงทุนทำขนาดนั้นเพื่อให้ได้คนที่ตัวเองรักกลับไปล่ะ ชิดจันทร์เอง…จะอยู่ในกลุ่มผู้หญิงที่คิดอย่างนั้นหรือเปล่านะ…

ความคิดนั้น เล่นเอาสดายุห่อเหี่ยวใจสุดๆเลยทีเดียว

เพราะถ้าให้พูดตรงๆ เขาคือคนที่มาทีหลัง ดังนั้นชิดจันทร์จึงมีสิทธิ์ทวงคืน!

ทว่า…

“ชิดจันทร์น่ะ ไม่ได้รักผมหรอก”

“เอ๊ะ?” กำลังคิดหนักอยู่ดีๆ กฤตเมธก็ดันโพล่งตัดกระบวนความคิดที่อุตส่าห์จะมองชิดจันทร์ดีขึ้นมาหน่อยจนหายเหี้ยน

“ผมไม่รู้แรงจูงใจของเขาหรอกนะ แต่เชื่อเถอะ มันไม่ใช่เพราะเขารักผมแน่ๆ”

“แล้วทำไม คุณหนูนั่นถึงจ้องทำขนาดนั้น? คุณแน่ใจเหรอ?”

“ใครชอบผม ผมดูออก แค่มองตาก็รู้แล้ว…” กฤตเมธเอ่ยพลางเอื้อมมือข้างหนึ่งมาจับไว้ที่แก้มของสดายุ

“และชิดจันทร์ ไม่เคยมองผมด้วยสายตาของคนรัก”

คำยืนยันแน่นหนักของกฤตเมธ ทำเอาสดายุมึนหนัก กฤตเมธเล่นออกตัวแบบนี้ จุดประสงค์แท้จริงของชิดจันทร์ก็ยิ่งคลุมเครือน่ะสิ อย่าบอกนะ ว่าที่ลงทุนทำทั้งหมดน่ะ ‘แค่เพื่อเอาชนะเขา??’

ต้องการเอาชนะ โดยการลงทุนเป็นนางเอกคลิปฉาวกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักเนี่ยนะ!?

สดายุได้แต่สะท้อนใจ เพราะถ้าแค่เหตุผลนั้นจริงๆล่ะก็ ชิดจันทร์ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ  บ้าเข้าขั้นเลยด้วย!!


ตั้งแต่ได้ยินคำบอกเล่าของกฤตเมธ สดายุก็เอาแต่นิ่งเงียบ เพราะมัวแต่วิเคราะห์ประเด็นที่น่าจะเป็นไปได้ของเหตุผลที่ชิดจันทร์ลงมือทำเรื่องดังกล่าว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีผลสรุป เพราะถ้าแค่จะเอาชนะเขา  ยังมีวิธีอีกร้อยแปดที่ไม่ต้องถึงขนาดเปลืองตัวเอง แต่เหตุผลอะไรล่ะที่มันจะหนักแน่นพอให้ชิดจันทร์ลงมือ ข้อนี้สดายุคิดไม่ตกจริงๆ

ความเงียบงันปกคลุมคนทั้งคู่อยู่พักใหญ่ๆ ต่างคนต่างคิดไปคนละอย่าง สดายุเครียดเรื่องชิดจันทร์ แต่กฤตเมธกลับเครียดกับอีกเรื่องที่สำคัญกว่า

"ยุ...ผมขอโทษนะ"


"...หืม? ขอโทษผมทำไม?"

จู่ๆกฤตเมธก็เอ่ยขอโทษออกมาด้วยสีหน้าเครียดขึง สองมือใหญ่จับตระกองมือข้างหนึ่งของสดายุไว้มั่นขณะเอื้อยเอ่ยคำขอโทษนั้น

"ทุกเรื่อง...ทุกเรื่องที่ผมทำลงไปโดยไม่คิดถึงคุณ..."

"หึ...รู้ตัวด้วยเหรอ?...ว่าแต่เรื่องอะไรบ้างล่ะ? ผมจำไม่ค่อยจะได้แล้ว" ดายุแสร้งขำออกมาบางๆ เพื่อลดทอนบรรยากาศหน่วงๆ ที่กฤตเมธสื่อมาถึงตน ‘จู่ๆ จะดราม่าอะไรอีกล่ะลุง?’

“เรื่องชิดจันทร์...”

“...ไม่เห็นต้องขอโทษ คุณโดนมอมนี่ ไม่ได้สมยอมตามไปถึงเตียงเสียหน่อย คุณต้องรู้สึกผิดทำไม?”

“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ผมหมายถึงเรื่องที่ผมยอมตามใจชิดจันทร์ ในการให้ข่าวต่างๆกับสื่อ ยอมออกหน้ากล้องให้สัมภาษณ์คู่กับเธอโดยไม่ปริปากแย้งอะไรเลย...”

“อืมมมม...เรื่องนั้นมันก็น่าโมโหจริงๆนั่นแหละ  แต่ผมก็เข้าใจ คุณก็แค่ทำตามหน้าที่ล่ะนะ สุภาพบุรุษที่ดีย่อมไม่ควรหักหน้าสุภาพสตรีในที่สาธารณะ...ละมั้ง”

ถ้อยคำติดประชดประชันเล็กน้อย ทำเอากฤตเมธถึงกับหน้าสลดกว่าเก่า แต่สดายุก็ไม่ได้คิดสงสาร เพราะเรื่องนี้ก็ฝังใจเขามานานแล้วเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดประเด็น ด้วยคิดว่ายังเร็วเกินไป และที่อีกอย่าง ทางสดายุก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไรมากมายนัก มันก็แค่โลกมายา เบื้อหน้าอย่างเบื้องหลังอย่างมันก็เรื่องปกติ ช่างหัวมันเถอะกับข่าวหน้าฉาก สดยุไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว

แต่ถ้ากฤตเมธจะคิดมากเพราะเขา...อืม...สดายุก็คิดว่าน่าสนุกดีเหมือนกันนะ แกล้งคนแก่เล่นซะหน่อยดีกว่า

“ทุกครั้งที่ต้องให้สัมภาษณ์ต่อหน้านักข่าว ผมจะปิดปากเงียบแล้วปล่อยให้ชิดเป็นคนให้ข่าวเพียงคนเดียว ที่ทำแบบนั้นไม่ใช่เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่เธอทำ  แต่เพราะผมเห็นแก่คุณเสน่ห์จันทร์ ผม...ไม่อยากทำให้ท่านเสื่อมเกียรติ...”

“อ้อ....ครับ ผมพอเข้าใจ....”  สดายุพยักหน้าช้าๆสองสามครั้ง สายตาบ่งบอกอาการเหนื่อยหน่ายเล็กๆ เห็นด้วยอยู่หรอกกับการที่กฤตเมธทำแบบนั้นเพื่อรักษาหน้าของท่านประธาน แต่มันก็อดหมั่นไส้เล็กๆในความกตัญญูเกินเหตุนั่นไม่ได้จริงๆ

และมันอดไม่ได้ จนต้องหลุดเหน็บไปคำโต

“...อืมๆ เพื่อคุณเสน่ห์จันทร์สินะ...ดีครับดี คุณนี่ช่างเป็นพระเอกทั้งในและนอกจอจริงๆ นี่ถ้าผมนิสัยพระเอกได้สักครึ่งของคุณนะเมธ ป่านนี้ผมคงได้เป็นเทพบุตรแห่งวงการกับเขาบ้างแล้วล่ะ...”

“...อย่าประชดผมสิยุ...ผมเจ็บนะ” โดนแขวะไปเต็มรัก จนต้องออดอ้อนขอความเมตตาจากคนรัก ก่อนที่แผลจะเหวอะไปมากกว่านี้

ร่างหนาเบียดกายเข้าใกล้ มือแกร่งเอื้อมไปโอบเอวคนช่างประชดเอาไว้เบาๆ แล้วซุกศีรษะหนักๆของตนลงบนไหล่บอบบางแต่ผึ่งผายของสดายุอย่างไม่เกรงใจว่าอีกฝ่ายจะหนักหรือเปล่า

สดายุพรูลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนซบศรีษะของตนบนศีรษะของกฤตเมธอีกที

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาเข้าจริงถ้าผมเป็นคุณ ก็อาจทำแบบนั้นเหมือนกันก็ได้...ถ้าบังเอิญผมคบอยู่กับลูกสาวของเจ๊บลูม่า ผมเองก็คงต้องยอมฝ่ายหญิงแบบนี้แหละ ต่อให้ไม่ได้รักก็เถอะ...ผมเข้าใจคุณ โอเคยัง?”

“เปรียบเทียบซะเห็นภาพเชียว หึหึ...ขอบคุณนะยุ ที่คุณเข้าใจผม”

“จำใจต่างหาก”

“ยุครับ...จากนี้ไปผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้นอีก”

“ทำไม? จะไม่ออกสื่อคู่ยัยคุณหนูนั่นแล้วสิ เข็ด?”

"จะออกสื่อหรือไม่ ผมก็จะไม่ปล่อยให้ชิดจันทร์พูดอะไรตามใจตัวเองแบบนั้นอีกแล้ว..." ถึงตรงนี้กฤตเมธผงกหน้าขึ้นมองสบตากับสดายุเป็นนัย ว่าคำพูดต่อจากนี้ไปของเขาจะเทียบเท่าคำสัญญา

ผม...จะชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่ายามที่อยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง ผมมันงี่เง่าเองที่มัวแต่ให้เกียรติ์คนอื่น แต่ไม่ยอมให้เกียรติ์หัวใจคุณ...ผมเกลียดตัวเองจัง ที่มาฉลาดเอาตอนนี้...”

คำมั่นพร้อมคำตัดพ้อตัวเองของกฤตเมธ ทำหัวใจสดายุวูบไหว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาดีใจที่กฤตเมธใส่ใจเขามากมายขนาดนี้ แต่คนฟอร์มจัดอย่างเขา จะให้ยิ้มรับหน้าชื่น ก็คงจะดูแปลกไปหน่อย ดังนั้นจึงขอเล่นตัวอีกนิด พอให้อีกฝ่ายใจหายใจคว่ำเล่นๆ

“พูดซะใหญ่โตเชียว ทำอย่างกับคุณจะแถลงการณ์ว่าคั่วอยู่กับผมตอนออกสื่อครั้งหน้าอย่างงั้นแหละ”

“ใช่”

“เฮ้ย?” ทีแรกแค่ตั้งใจจะแหย่เล่น แต่พอกฤตเมธรับคำจริงจังเข้า สดายุก็ถึงกับเอ๋อ เพราะคนที่ใจหายใจคว่ำดันกลายเป็นเขาซะอย่างนั้น

“ผมพูดจริงนะ ถ้ามันจำเป็น”

“ตลกน่า ใจหายหมด จะทำอะไรก็ช่วยรอหนังฉายจบก่อนเถอะคุณ แค่นี้ก็เป็นข่าวจะแย่ละ” ดีว่ายังมีเงื่อนไขตามหลัง สดายุส่ายหัวยิก ให้คนรักที่เอาแต่ทำหน้าจริงจังอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะชำเลืองไปเห็นว่าอีกฝ่ายลอบอมยิ้ม ‘อ้าว? โดนคนแก่เล่นอีกแล้ว’

ใบหน้ายียวนของกฤตเมธ เรียกหมัดหนักๆของสดายุให้ฟาดลงดังผั๊วะ ตรงต้นแขนหนาล่ำ พร้อมใบหน้าแสดงความเคืองขุ่นเล็กๆที่ทำให้กฤตเมธต้องรีบโอบกอดร่างบอบบางของสดายุไว้อีกครั้งเพื่ออ้อนขอความเห็นใจ ผิดไปแล้วที่ทำให้โกรธ...

“ผมไม่ได้ล้อเล่นนะยุ ผมอยากแถลงข่าวจริงๆ อยากคบกันแบบออกหน้าออกตาจะแย่อยู่แล้ว”

“อย่าเพิ่งรีบเลยคุณ แค่นี้คุณก็ต้องสละหลายอย่างมากพอแล้ว คิดให้ดีก่อนเถอะ อย่าใจเร็ว จนทำให้ต้องเสียใจในอนาคต เพราะผมอาจกลายเป็นสิ่งที่คุณตัดสินใจพลาดไป”

“มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน  คุณคือความแน่นอน ที่ผมไม่เคยมีมาก่อน ผมมั่นใจว่ามันจะไม่พลาด”

กฤตเมธเถียงจริงจัง ผละตัวออกมาพลางใช้สองมือตระกองไหล่บอบบางนั้นไว้ จดจ้องสองตาคมสวยตรงหน้าอย่างค้นหาคำตอบ  ‘เมื่อไหร่นะ สดายุถึงจะเชื่อใจเขาเสียที’


“เมธ...ในวันที่คุณยืนยันที่จะใช้ชีวิตร่วมกับผมอย่างจริงจัง วันนั้นคุณต้องละทิ้งหลายๆสิ่งที่คุณมีอยู่ในตอนนี้...อย่างแรกก็...เกียรติยศ ชื่อเสียงที่คุณอุตส่าห์สั่งสมมาร่วมสิบปี ในวันที่คุณจูงมือผมออกสื่อ มันคง...หายวับ แบบไม่มีทางกู่กลับ”

“อย่างที่สองก็...โอกาสทางการแสดง ขึ้นชื่อว่าเกย์ งานพระเอกคงไม่เหลือ”

“อย่างที่สาม...ก็คือความเมตตาจากผู้มีพระคุณ ทิ้งลูกสาวเขาแล้วมาเอาผม เข้าขั้นเนรคุณเชียวนะ บอกเลย”

“และที่สำคัญ...หากคุณต้องการจะมีผมไปทั้งชีวิต คุณจะหมดสิทธิ์ที่จะได้เป็นพ่อคน...คุณจะไม่มีงานแต่งงานออกหน้าออกตา ไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม ไม่มีลูกที่สืบสายเลือดของตัวเอง...ผมถามจริงคุณเมธ...ถึงตอนนั้น คุณจะรับได้เหรอ? ครอบครัวคุณ ญาติพี่น้องคุณ เขาจะรับได้เหรอ? ...คนอย่างผม...”

“ยุ! ผมรักคุณ ไม่มีอะไรที่คุณว่ามาสำคัญต่อชีวิตผมมากไปกว่าคุณ  เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือโอกาสในวงการอะไรนั่นมันไม่ได้จำเป็นสำหรับผมสักนิด มีลูกไม่ได้ ผมก็มีคุณแล้วไง เราอยู่กันแค่สองคนไปจนแก่จนเฒ่าก็ได้นี่  ญาติพี่น้องเขาก็ไม่ได้มามีสิทธิ์อะไรกับชีวิตผมสักหน่อย ครอบครัวของผมมีแค่คุณแม่...และท่านรู้ดีว่าผมรักคุณ!............”



“ว่าไงนะ!?” กำลังซาบซึ้งกับคำประกันรักของกฤตเมธอยู่ดีๆ ประโยคสุดท้ายของชายหนุ่มทำเอาสดายุแทบสำลัก ‘คุณแม่ของกฤตเมธ รู้เรื่องที่เขาทั้งคู่รักกันแล้ว!?’



“ต...ตั้งแต่เมื่อไหร่!? คุณบอกแม่คุณตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย!!?” สดายุแทบจะกระชากคอถาม สองมือเขย่าไหล่กฤตเมธไปมาจนหัวสั่นหัวคลอน อารามตกใจทำให้สองแขนผอมบางทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

“ใจเย็นก่อนยุ...ผมบอกเรื่องคุณกับแม่ตั้งแต่กลับถึงไทยแล้ว...” กฤตเมธยกสองมือขึ้นเหนือศีรษะ ยอมแพ้แก่คนรักโดยสดุดี

“อร๊ากกก คุณจะบ้าเหรอ!? แล้วทำไมไม่บอกผมก่อน!!”  ทว่าสดายุก็หาได้ปรานีไม่ ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนฉับพลัน ยันขาข้างหนึ่งไว้บนเตียงข้างตัวของกฤตเมธ พลางเขย่าคอของเหยื่ออารมณ์ไปมาแบบไม่มียั้งแรง

"โอ้ย...ยุ อย่าเขย่าคอสิ ผมยังมึนอยู่นะ...คุณจะอารมณ์เสียทำไมเนี่ย...?" กฤตเมธได้แต่ท้วงออกมาเบาๆ เมื่อคอยังคงโดนเขย่าไปมา

"แก่ปูนนี้แล้วทำอะไรไม่ยั้งคิดเลยนะคุณน่ะ! แล้วนี่แม่ของคุณเขาจะคิดยังไง! เขาจะเสียใจแค่ไหน ที่ลูกชายเขาเป็นแกย์! คุณมันบ้าที่สุดเลยกฤตเมธ!!"

"ใจเย็นๆก่อนสิครับยุ แม่ผมไม่ได้เป็นอะไร ท่านออกจะดีใจซะด้วยซ้ำ..." เห็นว่าคนรักกำลังจะเสียสติ กฤตเมธจึงรีบปลอบขวัญ สองมือแกร่งที่ยกชูเหนือศีรษะอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนมาแกะสองมือผอมบางที่ขยุ้มคอเสื้อเขาอยู่ลงมาถือเอาไว้แทน พลางเร่งบอกสดายุออกไปว่าไม่ต้องคิดมาก เพราะมันไม่ได้มีปัญหาใหญ่โตอะไรอย่างที่สดายุคิดเอาไว้ทั้งนั้น

"อย่ามาโกหกซะให้ยากเลย แม่ที่ไหนเขาจะดีใจที่ลูกตัวเองเป็นเกย์กัน!!?" แต่มีหรือที่สดายุจะยอมเชื่อในทันที ชายหนุ่มที่มองโลกในแง่ร้ายอย่างเขา จะทำใจเชื่อเรื่องแบบนี้ลงด้วยหรือ?

"...ก็แม่ผมไง ตอนผมบอกท่านว่าผมมีคนรักแล้ว แต่ว่าเป็นผู้ชาย เห็นท่านดีใจจะแย่" กฤตเมธย้ำชัด ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง

"...แม่คุณ...ท่าน..."

"ก็เพี้ยนเหมือนผมนี่แหละ หึหึ..."

"...เมธ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ"

"ก็ไม่ได้ล้อเล่นไง ผมพูดจริงๆนะ แม่ผมน่ะ ท่านดีใจจริงๆที่ผมมีคนรัก ตอนที่ผมบอกเรื่องคุณกับท่านน่ะ ท่านดีใจจะตาย ซ้ำยังขอให้ผมเล่าเรื่องของคุณให้ฟังเยอะๆอีก ความจริงท่านบ่นว่าอยากเจอคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ผมยังไม่มีโอกาสจะบอกคุณสักที"

".................อะไรล่ะนั่น แม่คุณทำผมมึนอ่ะ" ฟังคำสาธยายของกฤตเมธ สดายุก็หน้าแดงแจ๋ บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เขิน? ดีใจ? มีความสุข?
แน่นอนว่าการได้รับการยอมจากบุพการีของคนรักย่อมเป็นสิ่งที่เขาปรารถนา ความจริงเรื่องนี้เขาตัดใจและทำใจรอมาตั้งแต่เริ่มคบกับกฤตเมธแล้ว ว่าทางครอบครัวของกฤตเมธคงรับเขาไม่ได้ แต่พอมาได้ยินเรื่องน่าเหลือเชื่อจากปากกฤตเมธแบบนี้ สดายุก็ถึงกับลมแทบจับ เพราะความตื้นตันมันล้นเอ่อ... 

"อ้อ...ลืมบอกไป..." เห็นว่าสดายุอ่อนยวบลงแล้วกฤตเมธก็ไม่ยอมพลาดโอกาสงามๆตรงหน้า สองแขนแกร่งรีบคว้าเอวบางเข้ามากอดหมับ แล้วซุกศีรษะหนักๆของตนลงบนหน้าท้องของสดายุทันที  แรงกอดรัดทำเอาร่างที่ยืนอยู่ข้างเตียงเสียงหลักเล็กน้อยจนต้องเผลอใช้มือรั้งไหล่คนนั่งมั่นคงอยู่ยนเตียงใหญ่อย่างช่วยไม่ได้ เข้าทางให้กฤตเมธได้กอดรัดแน่นหนากว่าเดิม


"แม่ผมน่ะ แฟนละครตัวยงของคุณเชียวนะ"


"ห๊ะ?"

"เพราะงั้น...พอรู้ว่าได้ดาราในดวงใจอย่างคุณมาเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของ บอกตรงๆ แม่ผมงี้ดีใจจนเนื้อเต้นเลยทีเดียว...หึหึ"

"นี่คุณ....อย่ามาอำผมน่า..." สดายุแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง สมองประมวลผมยังไม่ได้ด้วยซ้ำในสิ่งที่กฤตเมธพูดออกมา ซ้ำชายหนุ่มยังเอาแต่พูดอู้อี้อยู่ตรงพุงเขาโดยไม่ยอมสบตากันแบบนี้อีก อำกันเล่นหรือเปล่า? จะไปเชื่อลงได้ยังไง? เรื่องดีๆแบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆอย่างนี้เลยน่ะเหรอ?

"ผมพูดจริงนะ ถ้าคุณไม่เชื่อ...ลองไปเจอท่านดูมั้ยล่ะ"

".......จ...เจอแม่คุณ...น่ะเหรอ?" คำชวนพาสดายุอึ้ง เพราะมันฉุกละหุก จนเขาตั้งตัวไม่ทัน

"อืม...ยุ คุณพร้อมจะเจอ ผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักหรือยัง? ผู้หญิงคนนั้นน่ะ เขาพร้อมจะเจอคุณมาตั้งนานแล้วนะ..." คราวนี้กฤตเมธเงยหน้าขึ้นสบตาสดายุชัดๆ ถ้อยคำอ่อนหวานเอ่ยชวนเนิบนาบ หลอกล่อคนตกประหม่าจนหน้าแดงให้เคลิ้มตามตอนที่ยังตั้งสติไม่ได้

"...จะดีเหรอ?....ผม...ผมเป็นผู้ชายแบบนี้...ประวัติก็....เลวร้าย..."  สดายุอึกอัก สองจิตสองใจ

“ดีสิ ไปพบท่านกับผมนะ” พระเอกหนุ่มใหญ่ทั้งหลอกล่อ ทั้งออดอ้อน สองตาคมกล้าจ้องตาอีกฝ่ายไม่ลดละราวกับกำลังสะกดจิต

“...เอ่อ...ผม...” การสะกดจิตใกล้จะได้ผล เมื่อสดายุเริ่มออกอาการลังเล...เผลอไผล ใกล้จะเคลิ้มตามในไม่ช้า

“ตั้งแต่ที่พ่อผมเสีย ตัวผมก็อยู่กับแม่แค่สองคนมาตลอด ทำงานในวงการควบกับการฟื้นฟูธุรกิจของครอบครัว ยุ่งตัวเป็นเกลียวจนไม่มีเวลาเปิดใจคบกับใคร ที่เคยมีคบหาก็แค่ฉาบฉวย ส่วนใหญ่อีกฝ่ายจะเป็นคนเข้ามาหาผมก่อน เพราะผมไม่เคยให้ความสนใจใครเป็นพิเศษ แถมเวลาก็ไม่มีให้ คบกันประเดี๋ยวประด๋าวก็เลิก ก็จบกันไป...ตรงจุดนี้คุณแม่ท่านบ่นตลอด เพราะกลัวผมจะกลายเป็นคนหัวใจตายด้าน เอาแต่งานไม่เอาเมีย...กระทั่ง...ได้มาเจอคุณ”

เห็นว่าสดายุกำลังเคลิ้มตามได้ที่ กฤตเมธเลยตะล่อมต่อด้วยเหตุผลที่แม่ของเขายอมรับสดายุได้ อยากบอกให้รู้ อยากให้สดายุสบายใจ

“ผมยอมรับครับ  ว่าตอนที่ผมบอกแม่ ท่านตกใจน่าดู คงคิดไม่ถึงว่าผมจะชอบผู้ชาย...แต่พอผมเล่าหลายๆอย่างให้ท่านฟัง บอกท่านว่าคุณคือใคร แท้จริงคุณน่ารักแค่ไหน  ไม่นานท่านก็ยอมรับได้  บอกว่าดีแล้วที่ในที่สุดผมก็รักใครแบบจริงๆจังๆเป็นเสียที ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้ชายแต่ถ้าเป็นคนดี ท่านก็ยินดีด้วย”

“...คุณแม่คุณนี่...สุดยอดไปเลย”  ยิ่งได้ฟังสดายุก็ยิ่งทึ่ง คุณแม่ของกฤตเมธในความรู้สึกของสดายุตอนนี้มีแต่ความน่ารักและอ่อนโยน 'ตัวจริง...จะน่ารักและใจดีอย่างนี้หรอเปล่านะ'

ถึงอดจะสงสัยไม่ได้ขึ้นมา แต่พอได้มองคนที่ยังคงกอดเอวเขาไว้ไม่ห่าง จ้องหน้าเขาอย่างกับจะดูดให้เข้าไปอยู่ในดวงตาคู่นั้น ทั้งยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่น่าเอ็นดูเสียยิ่งกว่าเด็กเล็กทั้งที่แก่จะแย่อย่างกฤตเมธ สดายุก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาหน่อยแล้วว่า 'คุณแม่ของคนอย่างกฤตเมธ จะต้องเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมากแน่ๆ'


แล้วในที่สุด สดายุก็ตัดสินใจได้

"คุณแม่ผมชอบคุณมากจริงๆนะ ตอนที่ผมเฉลยว่าผู้ชายที่ขโมยหัวใจผมไปได้คือใคร แม่ผมดีใจใหญ่บอกว่าตัวเองเป็นแฟนคลับคุณอยู่ พยามจะให้ผมรีบพาคุณไปเจอท่านให้ได้ บ่นอยากเห็นหน้าลูกสะใภ้จะแย่แล้ว"

"พอเหอะคุณ ไม่ต้องยกยอแล้ว.."  สดายุรีบห้าม เพราะพาลจะเลี่ยนกับคำป้อ เขาไม่อยากถูกอวยจนเหลิง เดี๋ยวเจอตัวจริงแล้วไม่เป็นดังคิด ชีวิตจะเปลี่ยนเสียเปล่าๆ

"ตกลงผมจะลองไปเจอท่านดู" ว่าแล้วก็รีบตอบตกลงก่อนจะโดนตะล่อมจนเคลิ้มไปกันใหญ่

"จริงนะ" กฤตเมธดีใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะชายหนุ่มยิ้มตาหยีไม่มีเก็กเหมือนปกติ เรียกได้ว่าหมดมาดพระเอกรุ่นใหญ่กันเลยทีเดียว

"แล้วจะโกหกไปทำไมล่ะ"

“งั้นไปพรุ่งนี้เลยมั้ย?”

“รีบไปแล้วคุณ หึหึ...พรุ่งนี้ให้ได้นอนก่อนเถอะ ไม่เห็นคิวถ่ายที่พี่อ๊อดให้ไว้เหรอ เช้าชนเช้าแหงๆ ยังจะมีเวลาไหนไป”

“...ก็ผมดีใจนี่ อยากให้คุณเจอกับแม่เร็วๆ...”

“วันอาทิตย์ก็ได้นี่ครับ วันนั้นไม่มีถ่าย” สดายุเสนอทางออก กฤตเมธยิ้มรับแล้วกอดเอวคนรักเอาไว้ต่อ เขามีความสุขที่ได้อยู่กับสดายุ มีความสุขมากจนไม่อยากปล่อยมือ ไม่อยากคลายอ้อมแขน

 จำแทบไม่ได้แล้วว่าในวันที่ไม่มีคนคนนี้ข้างกายเขาผ่านวันเหล่านั้นมาได้ยังไง? เขารู้สึกเหงาแค่ไหน?

จากนี้ไปก็นึกไม่ออกเลยว่า ชีวิตต่อจากนี้ไป หากไม่มีสดายุเขาจะเป็นยังไง?

จะทนได้มั้ย...

เมื่อก่อนนั้น ก่อนที่จะได้เจอกับสดายุ เขาเองก็คงเคยรู้สึกเหงา แต่มันคงไม่ได้รุนแรง หรือมีผลอะไรเพราะเขาชินเหลือเกินกับการเดินเพียงลำพังบนเส้นทางที่เขาเลือก

แต่หลังจากได้เจอกับสดายุ ชีวิตเขาเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง เขาไม่อาจเลือกเส้นทางที่จะเดินไปเพียงลำพังได้อีก

เขาทนเหงาขนาดนั้นไม่ไหว

ทุกวันนี้แค่ไม่เจอข้ามวันก็รู้สึกคิดถึง

นี่เขาเคยรู้สึกกับใครมากขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่านะ...

คำตอบคือ 'ไม่'

แค่สดายุเท่านั้น เพียงสดายุเท่านั้น ที่ทำให้เขารู้สึกรุนแรงขนาดนี้

คนอย่างกฤตเมธไม่เคยหึงหวงใคร

แต่เขากลับหึงสดายุจนขาดสติ

คนอย่างกฤตเมธไม่เคยเหงาที่ต้องนอนคนเดียว

แต่เขากลับนอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนกอดสดายุ

คนอย่างกฤตเมธไม่เคยสนใจแม้ใครจะเดินจากไป

แต่เพียงสดายุบอกว่าจะไป เขาก็แทบทนไม่ได้

คนอย่างกฤตเมธไม่เคยแคร์หากใครจะไม่รัก

แต่เขาทนไม่ไหวหากสดายุจะไม่รัก

คิดได้ดังนั้น กฤตเมธก็ยิ้มออกมาน้อยๆขณะที่ยังซุกใบหน้าอยู่ตรงพุงอุ่นๆของสดายุ

'แย่แล้ว...สดายุทำเขาแย่แล้วจริงๆ'


**************************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2014 03:35:47 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ



“คัท!!!!”


“ไอ้รุจน์! อย่าเหม่อนักสิวะ เมื่อคืนนอนไม่พอรึไง! พูดบทผิดบทถูกอยู่นั่น  เอ้าๆพักก่อนๆ ไปนั่งทำสมาธิเลยเอ็ง พักๆๆๆ!!”

“อึ๋ย...ขอโทษครับพี่อ๊อด เดี๋ยวเทคหน้าผ่านเลยครับ”

“ให้มันจริงเหอะ ฉันจะสาธุให้! ไปพักก่อนไป เดี๋ยวฉันจะถ่ายซีนเดี่ยวของเมธก่อนละกัน”

เสียงอ๊อดกับรุจน์โหวกเหวก ด้วยวันนี้คิวถ่ายแสนจะแน่น แต่พอร์กลับจำบทผิดบทถูก น่าเห็นใจอยู่เพราะช่วงนี้เด็กหนุ่มวิ่งรอกออกงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตแทบไม่ค่อยได้พัก ทั้งงานของทางค่ายเอบีเอฟเองที่ยังต้องออกโปรโมตซีซั่นภาคต่อ ทั้งยังต้องออกมินิคอนเสริตกับเพื่อนร่วมบ้าน ออกรายการโปรโมตอัลบัมใหม่ ละครซิทคอม และ ฯลฯ...

เยอะ...จนรุจน์แทบไม่ได้อ่านบท วันนี้ถึงได้ยึกๆยักๆนักในฉากที่สดายุ หรือกฤตเมธเล่นด้วยนั้นยังพอช่วยกันต่อบท ช่วยกันด้นสดจนผ่านพ้นมาได้  แต่ในฉากที่ต้องเล่นเดี่ยวนี่ถึงกับต้องเทคกันยับเลยทีเดียว

น่าสงสารรุจน์ที่วันนี้หัวเดียวกระเทียมลีบ เนื่องจากพอร์ชติดงานโปรโมตละครของค่าย เลยต้องเลื่อนคิวไปถ่ายตอนเย็นถึงดึก กลางวันรุจน์เลยโดนว๊ากเดี่ยวคนเดียวโด่เด่ ให้สดายุต้องคอยปลอบด้วยความเห็นใจ

ฝ่ายสดายุกับกฤตเมธนั้น ไม่มีปัญหา ทั้งคู่ยังคงทำได้เพอร์เฟคดีไม่เปลี่ยน สถานการณ์ประจำวันราบรื่นจนทั้งคู่เกือบจะลืมไปแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อคืนที่ผ่านมา ความจริงแล้วทั้งสดายุและกฤตเมธแอบกังวลใจอยู่ไม่น้อย ตอนแรกมั่นใจเหลือเกินว่า วันรุ่งขึ้นทันทีที่ลืมตาตื่น พวกเขาจะต้องได้เห็นพาดหัวข่าวอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องในโรงแรมที่ชิดจันทร์มอมกฤตเมธไปเมื่อคืนแน่ๆ

ทว่ากลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลยสักนิด ทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน  ข่าวสดตอนเช้า รายการเม้าท์ตลาดแตก ชิทแชท รายการวิทยุ แม้แต่ในโลกโซเชียล มันไม่ปรากฏข่าวใดที่เกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนเลยแม้เพียงนิด เงียบสงบจนน่ากังวล เพราะอันที่จริงชิดจันทร์ไม่น่าปล่อยให้ผ่านมาได้ง่ายๆ เพราะถึงจะพลาด แต่ก็อุตส่าห์ลงทุนทำถึงขนาดนั้น อย่างน้อยๆมันจะต้องมีข่าวอะไรโดนปล่อยออกมาบ้างสิ

หรือว่าชิดจันทร์จะอายจนไม่กล้าลงข่าว...

หรือไม่ก็โดนเสน่ห์จันทร์ปิดข่าวไว้เช่นทุกครั้ง

ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนปวดหัว เพราสดายุไม่แน่ใจว่าชิดจันทร์จะทำอะไรมากกว่านี้อีกหรือเปล่า


RRRRRRRRRRRRRRRRR….

RRRRRRRRR…


“ครับเจ๊?” จังหวะกำลังใช้ความคิด คนที่อยากปรึกษาก็โทรมาพอดี ‘เจ๊บลูม่าญาณทิพย์นี่เอง’

“เป็นไงบ้างคะน้องยุ อยู่ไหนคะเนี่ย?”

“ที่กองถ่ายน่ะครับ แต่คุยได้ยุพักอยู่”


“แล้วคุณเมธล่ะคะ เธอเป็นไงบ้าง เมื่อคืนตอนพี่กลับเห็นยังไม่ฟื้นเลย”


“โอเคแล้วครับพี่ แค่โดนยานอนหลับน่ะครับ งีบตื่นนึงก็พอจะสร่างแล้วล่ะ เนี่ยตอนนี้เมธเขาก็กำลังเข้าฉากอยู่”


“เฮ้อ....โล่งใจ ยังดีนะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก”


“ขอบคุณที่เป็นห่วงครับเจ๊ ว่าแต่เจ๊มีไรป่าวเนี่ย  หรือแค่โทรมาถามอาการเมธเขา?”

“เอ่อคือ…เมื่อกี้พี่ไปเจอดนัยเขามาน่ะค่ะ พี่เลยจ่ายเงินค่าอาหารของเราเมื่อคืน คืนดนัยเขาไปแล้ว…”


“ฮ้า!? จริงด้วย! ยุลืมไปเลยอ่ะ เท่าไหร่ครับเจ๊ เดี๋ยวยุจ่ายคืนให้!!”

“ไม่เป็นไรค่ะ…เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

“ฮึ๋ย ไม่ต้องเจ๊ นี่มันเรื่องของยุนะ ยุต้องเป็นคนจ่ายเองสิ เท่าไหร่ครับบอกยุมาเถอะ”

“ให้พี่จ่ายเถอะยุ…ขอร้อง พี่อยากไถ่โทษ…ง่า…”

“ไถ่โทษ? เรื่อง?”

“คือพี่….เอ่อ…คือตอนที่พี่คืนเงินให้ดนัย…เราคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน…แล้ว…พี่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจ…คือมัน…เอ่อปากพี่…มันดันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกไป…แฮะแฮะ…ให้ดนัยเขาฟัง…หมดเลย…”


“……..อะไรนะเจ๊? เล่าหมดเลย?”

“คือพี่หลุดปากอ่ะยุ…รู้ตัวอีกทีก็เล่าไปถึงตอนที่พี่วิ่งไล่จับไอ้ชายชุดดำนั่นแล้วอ่ะ คือ…พี่…พี่ขอโทษ…”

“แสดงว่าดนัยเขาคงน่าไว้วางใจในสายตาเจ๊ล่ะสิ ถึงได้เผลอเล่าไป เพราะปกติเจ๊บลูปากหนักจะตาย ไม่ไว้ใจใครง่ายๆด้วย”

“…อืม…พี่ก็ไม่แน่ใจหรอกนะ แต่ตอนนั้นสิ่งที่พี่มั่นใจแน่นอนก็คือ…ดนัยเข้าข้างยุ”


“อืม เจ๊ไม่ต้องซีเรียสหรอกครับ ยุเองก็พอจะเชื่อใจดนัยอยู่ ว่าเขาคงไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดต่อหรอก แล้วที่สำคัญ…เขาเองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ เพราะอย่างน้อย ที่เรื่องนี้ผ่านพ้นไปได้ก็เพราะได้ดนัยช่วยจ่ายค่าอาหารให้โดยไม่อิดออดนี่แหละ…”

“…ยุไม่โกรธพี่นะ ที่พี่…ปากเบาไปหน่อย…”

“ยุจะโกรธไปทำไมล่ะเจ๊ ฮะฮะ โอ๋ๆ อย่านอยด์นะครับ”

“แหม…ยุล่ะก็”

การพูดคุยดำเนินต่อไปอีกเล็กน้อย สดายุถามไถ่ถึงความเป็นไปที่บริษัท ว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า บลูม่าก็ได้แต่ถอนใจว่าเงียบกริบอย่างไม่น่าเชื่อ ความคลุมเครือในการกระทำของชิดจันทร์จึงยังคงกวนใจสดายุต่อไปไม่เลิก



“ดนัยมีอะไรเหรอ?”


“!!?” สดายุสะดุ้งหวือ เมื่อจู่ๆกฤตเมธก็ย่องมากระซิบจากด้านหลังแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัว

“ฮึ่ย! ตกใจหมด ถ่ายเสร็จแล้วเหรอคุณ?”

“อือ พักกองอยู่น่ะ นี่มันจะเที่ยงแล้วนี่.” กฤตเมธไหวไหล่ตอบเนิบนาบ

ก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้สดายุเพื่อถามคำถามคาใจอีกที

“ที่คุยกันถึงเรื่องดนัยน่ะ…มีอะไรเหรอ?”

“อะไรคุณ? จู่ๆมาสนใจดนัยทำไม?” สดายุขมวดคิ้วสงสัย ร้อยวันพันปีไม่เห็นกฤตเมธเคยถามจี้ถึงใครแบบนี้มาก่อน

“คุณต่างหาก ไปยุ่งกะดนัยมันตั้งแต่เมื่อไหร่?” คราวนี้กฤตเมธมีกอดอกข่มด้วย เพื่อเร่งรัดให้สดายุคลายความสงสัยในเรื่องบุคคลที่สามที่เขาไม่พึงประสงค์เสียที

สภาพนี้สดายุชักจะเริ่มเดาออกเล็กน้อย ‘หึงสินะ’


“นี่ลุง เลิกหึงจนหน้ามืดซะที บอกเลยเมื่อคืนถ้าไม่ได้ดนัยช่วยไว้ คุณโดนรุมโทรมจนต้องโร่แจ้งมูลนิธิปาวีณาแล้วป่านนี้  รู้แล้วก็รีบไปขอบใจดนัยเขาซะพ่อพระเอก หึหึ”

คำตอบที่ได้เล่นเอากฤตเมธหน้าชา ‘นี่เมื่อคืนในสภาพนั้น…ดนัยมันก็มาเห็นด้วยเหรอเนี่ย!!?’


“อย่าบอกนะยุ ว่านอกจากยุกับบลูม่าแล้ว…ที่ห้องนั้นยังมีดนัยอีกคนที่เห็นผม…โดนมอม”

“ไม่เห็นหรอก ดนัยเขาแค่มาช่วยจ่ายค่าอาหารไว้ทันการ ตอนที่ผมกับเจ๊บลูวิ่งตามคุณที่ถูกคุณหนูลากออกจากร้านในสภาพเมาเป๋ต่างหาก”

“เฮ้อออ…แล้วไป” กฤตเมธถอนหายใจเฮือกใหญ่ โล่งใจที่ไม่โดนดนัยเห็นสภาพน่าอาย เพราะในฐานะลูกผู้ชายแล้วกฤตเมธไม่รู้ว่าจะเอาหน้าตัวเองไปไว้ไหนดี

เห็นดังนั้นสดายุก็หัวเราะคิกคักถูกใจ นานๆจะเห็นพระเอกรุ่นใหญ่ทำหน้าอิหลักอิเหลื่อแบบนี้สักที

“หึหึ…อายเหรอ?”

“แหงสิ…หึหึ ว่าแต่คุณนี่ก็โชคดีนะ ที่ไอ้ดนัยมันญาติดีด้วยน่ะ”

“หือ? ทำไมล่ะ? ผมไม่ได้ไปทำอะไรดนัยเขานี่ แล้วเขาจะไม่ญาติดีกับผมทำไม?”

คราวนี้เป็นสดายุที่ต้องออกอาการงงไปกับคำพูดของกฤตเมธ

“ก็ดีแล้วที่มันญาติดีด้วย ความจริงตัวตนของไอ้ดนัยมันร้ายจะตาย ใครโดนมันเกลียดขี้หน้าเข้า ตายจากวงการไปหลายคนแล้ว”

เรื่องที่กฤตเมธเล่า เล่นเอาสดายุงงหนักขึ้นไปอีก นี่ดนัยที่เขารู้จัก(แค่ผิวเผิน)คนนั้น ไม่ไดเป็นแค่เด็กปั้นที่เพิ่งกลับจากนอกอย่างเดียวหรอกเหรอ? แต่ยังเป็น…เป็นมาเฟียด้วย?

“หึหึ ไม่ต้องทำหน้างงหรอก ผมก็แค่อยากเตือนคุณ ว่าถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปสนิทกับมันมากนัก เห็นมันขี้เล่นเฮฮาแบบนั้น นิสัยจริงๆของมันผมเองยังไม่อยากยุ่งเลย”

“นิสัยจริงแบบไหน? นี่คุณอำผมเปล่าเนี่ย? จะกันท่าดนัยล่ะสิ”

“ไอ้กันน่ะกันแน่ แต่เรื่องนี้ผมแค่จะเล่าสู่กันฟัง เมื่อก่อนตอนที่ดนัยมันยังไม่ได้ไปต่างประเทศ ข่าววงในเขารู้กันทั่ว ว่าใครที่กล้ามีปัญหากับดนัย จบไม่สวยสักราย ไม่ใช่เพราะหมอนั่นเป็นเด็กปั้นท่านประธานแล้วใช้อำนาจในทางมิชอบอะไรหรอกนะ แต่ไม่รู้ทำไม ใครที่เขม่นมัน หรือโดนมันเขม่น มักถูกออกจากวงการในเวลาไม่ถึงเดือนทุกคน เพราะเรื่องชั่วช้าที่คนพวกนั้นทำ จู่ๆก็ถูกตีแผ่แบบทุกเม็ด แถมยังโดนทำอะไรอีกหลายๆอย่างที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร รู้แต่ไม่มีใครกล้าสู้ดนัยมันสักคน ยอมไปแบบไม่กลับกันหมด”

“นั่น…ไม่ได้อำกันใช่มั้ย?” สดายุถึงกับต้องถามซ้ำ เพราะเรื่องที่ได้ฟังมันห่างไกลกับดนัยที่เขารู้จัก(แบบผิวเผิน)คนนั้นแบบสุดกู่

“ตอนที่ช่วงนึงดาราหลายคนเป็นข่าว แล้วหายหน้าไปจากวงการ ช่วงนั้นคุณยังอยู่นี่ เคยสนใจอะไรบ้างมั้ยเนี่ย?”

สดายุส่ายหน้ายิกๆทันที เพราะตอนนั้นเขาไม่รู้จริงๆ เอาเข้าจริงเพราะตอนนั้นเขาเองก็กำลังดัง และกำลังเหลวไหลได้เต็มที่ ก็เลยไม่เคยสนใจอะไรรอบตัวเลยแม้แต่นิด คงไม่แปลก ที่ไม่เคยรู้…

“เฮ้อ…แต่เอาเถอะ ถึงดนัยมันจะร้อยยังไง แต่มันก็มีขอบเขต ดนัยมันถือคติของมันอยู่”

“คติอะไร?”


“มันจะเล่นงานเฉพาะคนเลวที่มันเหม็นขี้หน้าเท่านั้น”


“ยังไง?”

“ก็ถ้าคนที่มีปัญหากับมันเป็นคนดี มันก็จะไม่ทำอะไร หรือต่อให้เลวแค่ไหนแต่ไม่ได้มีอะไรกับมันมันก็จะไม่ยุ่ง…คนที่ดนัยมันเลือกที่จะเล่นงานก็คือ คนที่มีประวัติไม่สวยแล้วยังทำตัวเฮงซวยไปหาเรื่องมัน พวกนั้น…ตายสนิททุกราย”

“อืมมม…โชคดีของผมสินะ ที่ตอนนั้นผมไม่ได้ไปเหยียบตาปลาดนัยเข้า ไม่งั้นคงจบเละกว่านี้ใช่มั้ย?”

กฤตเมธได้แต่ยักไหล่เชิงเห็นด้วยกับคำพูดสดายุ ชายหนุ่มรู้ดีว่าแท้จริงสดายุไม่ได้เชื่อที่เขาพูดทั้งหมดหรอก แต่เขาก็ยังอยากจะบอก เผื่อคนรักของเขาจะได้ระวังตัวเอาไว้บ้าง เพราะไม่รู้ทำไม เดี๋ยวนี้ดนัยถึงชอบเข้ามาป้วนเปี้ยนวุ่นวายกับสดายุเสียจริง

************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2014 03:40:39 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ

“เอ่อ…ไม่เห็นเลยจริงๆเหรอครับ?”

“ค่ะ คือถ้ามีทางเราจะเก็บเอาไว้ให้คุณลูกค้าอยู่แล้ว แต่นี่ดิฉันให้หลายๆฝ่ายช่วยกันเช็คแล้ว แต่เราไม่เห็นจริงๆค่ะ” 

พนักงานแผนกคอนเชียสสาวสวยที่ทำหน้าที่ต้อนรับและประสานงานให้นั้นต่างก็ยืนยันขันแข็งกับบดินทร์ว่าไม่พอหรือเห็นกระเป๋าเงินสีดำที่ชายหนุ่มอ้างว่าทำตกไว้ที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อคืนเลยแม้แต่นิด ทั้งสืบทั้งค้น ประสานงานไปทางหลายๆแผนก ก็ไม่มีใครเห็น

“งั้น...ขอบคุณครับ” ในที่สุดชายหนุ่มก็ถอดใจ เขาเองก็ไม่ได้แน่ใจนักว่าเขาทำกระเป๋าเงินตกหายที่ไหน เมื่อคืนกว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่กลับถึงบ้านแล้ว ระหว่างทางเขาใช้เพียงเศษเงินที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต เลยไม่ได้ใส่ใจกระเป๋าเงินของตัวเองมากนัก เลยไม่รู้ว่าร่วงตั้งแต่ที่โรงแรม บนแท็กซี่ หรือแถวคอนโดกันแน่

ความจริงกระเป๋าใบนั้นมันก็ไม่ได้มีของมีค่ามากนักหรอก เงินสดในนั้นก็มีเพียงสองพันกว่าบาท บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็มเขาก็สั่งอายัติหมดแล้ว เหลือก็เพียงบัตรประชาชนกับใบขับขี่ที่เสียดายมากหน่อยเพราะไม่อยากไปแจ้งหาย และขี้เกียจไปทำใหม่

สิ่งเดียวในกระเป๋าใบนั้นที่สำคัญมากจนเขาต้องตามหาเสียให้วุ่น นั่นก็คือ ‘รูปถ่ายหนึ่งใบ’ ที่เขาซ่อนมันไว้ช่องลับ รูปเพียงใบเดียวที่เขามี...

“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าพอจะสะดวกฝากเบอร์ติดต่อเอาไว้ได้หรือเปล่าคะ เผื่อว่าอาจมีลูกค้าท่านอื่นนำมาคืน เราจะได้ติดต่อคุณลูกค้าให้มารับน่ะค่ะ” พนักงานสาวเสนอบริการ

“ขอบคุณครับ” บดินทร์รีบเขียนเบอร์โทรฝากไว้กับหญิงสาว ก่อนจะเดินจากออกมา พร้อมกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น


‘ชิดจันทร์’


บดินทร์ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายก่อนจะกดรับสายอย่างเสียไม่ได้

"ฮัลโหล"

"นี่แก! ทำไมป่านนี้ยังไม่มีข่าวอะไรออกมาเลยล่ะ!? รูปนั้นแกส่งให้นักข่าวยังเนี่ย!!?" เสียงแหลมสูงที่ทะลุออกมาจากมือถือของบดินทร์นั้น ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด

"ยัง"

"ฮึ่ย! แล้วแกจะให้เขาชาติหน้ารึไง! ทำไมสั่งอะไรไม่เคยได้อย่างใจเลยห๊ะ!!?” ชิดจันทร์ยังคงโวยวายเสียงแหลมปรี๊ดใส่บดินทร์ไม่ยั้ง ชายหนุ่มได้แต่ทนเก็บกักความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะพยายามเดินหลบผู้คนไปแอบคุยอยู่ตรงโถงลิฟท์ ทั้งเพื่อความสะดวกในการคุยเรื่องลับ และง่ายต่อการหลบซ่อนใบหน้าจากผู้คนทั่วไป

"ก็ข่าวที่จะออกรอบเช้ากับสาย ท่านประธานแม่คุณเป็นควบคุม ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าออกไปตอนนั้นยังไงก็ต้องโดนเซ็นเซอร์อยู่ดี!" บดินทร์พยายามอธิบายอย่างหัวเสีย

"เออ! จะยังไงก็ช่าง! ไม่ว่ายังไงภายในวันนี้ฉันต้องเห็นข่าว! หาทางทำอะไรเข้าสักอย่างสิ มัวแต่บื้อใบ้อยู่ได้ น่ารำคาญ!!"

'แกสิน่ารำคาญ!' บดินทร์ได้แต่คิดในใจด้วยความคั่งแค้นชิงชังที่มีทั้งต่อชิดจันทร์ และต่อตัวเอง เกลียดตัวเองนักที่กระจอกงอกง่อยอ่อนแอจนไม่สามารถต่อกรได้แม้กับอีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวที่อายุยังน้อยกว่าเขาด้วยซ้ำ

"รู้แล้วน่าคุณหนู! เดี๋ยวผมรีบจัดการให้ คอยเช็คในเพจกับรอดูข่าวบันเทิงภาคค่ำได้เลย!!"


พูดเพียงแค่นั้นบดินทร์กดก็วางสายทันที ช่างหัวมันแล้วว่าชิดจันทร์จะว่าอะไรต่อหรือเปล่า ตอนนี้เขาไม่อยากคุยอะไรกับหญิงสาวทั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้ ไม่ต้องคุยกันอีกเลยยิ่งดี!

บดินทร์ในชุดไปรเวทสีดำใส่หมวกใส่แว่นปิดหน้ามิดชิด ยังคงยืนทำอารมณ์อยู่ตรงซอกหนึ่งตรงโถงทางขึ้นลิฟท์ แค่กระเป๋าเงินหายเขาก็รู้สึกย่ำแย่พออยู่แล้ว ยังมาโดนชิดจันทร์งี่เง่าไม่เข้าเรื่องใส่อีก ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย ชีวิตเขาถูกต้อนให้จนตรอกขึ้นทุกที

'อยากหลุดพ้น...'

'อยากหนีไป...ให้พ้นๆ...'




"สวัสดีครับ คุณบดินทร์"


"!!!?"

ขณะที่บดินทร์ยังคงยืนสงบใจ ยังไม่ทันจะถึงนาทีเสียงกระซิบทุ้มพร่าตรงข้างหูก็ทำเอาพิธีกรหนุ่มสะดุ้งสุดตัว

".............."

และที่น่าตกใจมากกว่านั้น ก็คือคนที่เข้ามาทักเขา... 

มันเป็นคนที่บดินทร์ไม่ต้องการที่จะเจอที่สุดในตอนนี้...



'ดนัย!!'


"มาทำอะไรแถวนี้ครับ? พักที่นี่เหมือนกันเหรอ?" ดนัยเอ่ยถามด้วยหน้าตายิ้มแย้มเป็นมิตร

"...อะ...ค...แค่ผ่านมา ผมขอตัวก่อนละกัน" ทว่าบดินทร์ไม่ได้อยากเป็นมิตรด้วย ชายหนุ่มรีบตัดบทลากันดื้อๆทันที

"อ่ะ เดี๋ยวสิคร๊าบ...จะรีบไปไหนกัน อยู่คุยกันก่อนสิ...นะ" ดนัยขยับตัวขวางไว้ทัน ปิดทุกทางที่บดินทร์จะหนีได้ ซ้ำยังเอ่ยชวนเสียงใส เล่นเอาหัวใจของบดินทร์เต้นรัว

'ดนัย...มันรู้ได้ยังไงว่าเป็นเรา? อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนมันจำเราได้...'  บดินทร์คิดหนัก หัวใจป่วยๆของเขายิ่งเต้นรัวระส่ำ มือไม้เย็นเฉียบขึ้นมาจนถึงข้อศอก เหงื่อกาฬแตกชื้นเต็มแผ่นหลัง

'ต้องหนี!'

'เขาต้องรีบไปให้พ้นจากคนคนนี้!!
'


หมับ!!


"อ๊ะ!!??" ทันทีที่บดินทร์ตั้งท่าจะเบี่ยงกายออกวิ่ง มือแกร่งของอีกฝ่ายก็คว้าแน่นเข้าที่ต้นแขน เหนี่ยวรั้งรุนแรงจนบดินทร์ก้าวพ้นไปจากตรงนั้นไม่ได้

"จะรีบหนีไปไหนล่ะครับ" ดนัยยังคงพูดจาไพเราะ ใบหน้า ดวงตายังคงยิ้มให้บดินทร์ ดูไร้พิษภัย แต่มือที่จับแขนบดินทร์ไว้นั้นส่งกระแสคุกคามอย่างชัดเจน!

"....ปล่อย...ปล่อยผม!" บดินทร์พยายามดิ้นรน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

โดยส่วนสูงแล้วดนัยสูงกว่าบดินทร์ไม่เท่าไหร่ แต่ความหนาของร่างกายเรียกได้ว่าชนะขาด คนที่ต้องเฟิร์มหุ่นสู้กับดาราต่างชาติอย่างดนัยย่อมได้เปรียบดาราไทยแท้อย่างบดินทร์หลายขุมอยู่แล้ว

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่แม้บดินทร์จะดิ้นรนเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถหลุดจากอุ้งมือของดนัยได้สักที


"ไม่ได้ตามหาไอ้นี่อยู่หรือไง?"


"…!!?...ทำไม..." พอได้เห็นสิ่งที่ดนัยหยิบขึ้นมา สันหลังบดินทร์ก็เย็นวาบ 

กระเป๋าเงินของเขาที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายนั้นเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดีว่า...ดนัยรู้แล้วว่าคนที่เจอกันเมื่อคืน...คือเขาเอง

และอาจจะรู้แล้ว....เรื่องที่เขากับชิดจันทร์ร่วมมือกัน!

"คุณ...ต้องการอะไร?" เห็นดังนั้นบดินทร์ก็ไร้ทางหลีกเลี่ยง จึงได้แต่ถามออกไปตรงๆว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากเขากันแน่

เขากับดนัย เพิ่งพบเจอกันแค่สองครั้ง

เขากับดนัย ไม่เคยมีปัญหาต่อกัน (นอกเสียจากครั้งแรกที่เขาหาเรื่องอีกฝ่ายก่อน) แต่ก็แค่นั้น บดินทร์ออกจะมั่นใจด้วยซ้ำว่าไม่เคยสร้างความแค้นเคือง แต่ที่เขาไม่อยากพบเจอกับดนัย ก็เพราะเคยไปกร่างใส่ครั้งนึงนั่นแหละ ซ้ำตอนเจอครั้งล่าสุดยังเป็นตอนที่เขากำลังทำเรื่องไม่ดีกับเด็กปั้นของท่านประธานเสียอีก (แม้จะร่วมมือกับลูกท่านก็เถอะ) เขากลัวว่าถ้าเกิดดนัยรู้เข้าแล้วคาบข่าวไปฟ้องท่านประธานขึ้นมาเขาอาจจะลำบาก

ดังนั้น บดินทร์จึงไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ดนัยต้องการมากนัก  คิดจนหัวแทบแตกก็ไม่เข้าใจ เพราะคนอย่างเขาแทบไม่มีอะไรให้ดนัยได้เลย แล้วอีกฝ่ายยังจะตามมาวุ่นวายเขาอยู่แบบนี้ทำไม?

“ขึ้นไปคุยเล่นที่ห้องผมก่อนมั้ย?” ดนัยยิ้มให้ พลางเอ่ยชวน

“ผมไม่สะดวก” และแน่นอนว่าบดินทร์ย่อมปฏิเสธ ‘จู่ๆจะมาญาติดีชวนขึ้นห้องเพื่อ!?’


“งั้น...ผมไม่คืนให้นะ” ดนัยชูกระเป๋าเงินของบดินทร์ขึ้น ก่อนจะขยับไปๆมาๆ ต่อหน้าเจ้าของ มันดูง่ายถ้าบดินทร์จะคว้าของตรงหน้า แต่มันก็ช่างแสนยากเมื่อคนที่ถือมันคือดนัย

“นี่คุณ!?”

“บอกให้มาก็มาดีๆเถอะน่า!”

“โอ๊ย!!”

รอยยิ้มเปลี่ยนเป็นเหยียดยิ้ม น้ำเสียงละไมกลายเป็นเหี้ยมห้าว มีแกร่งที่ยังคงจับอยู่ตรงต้นแขนยิ่งกระชับแน่นพลางกระตุกร่างบางกว่าเข้าประชิด แล้วข่มขู่แบบไม่ไว้หน้า

“ถ้าไม่ไปดีๆ ผมจะถอดหมวกกับแว่นคุณออก แล้วอุ้มขึ้นลิฟท์ไปทั้งๆอย่างนี้แหละ คงได้ฮือฮากันทั้งล๊อบบี้!”



“…….น…นี่มันเรื่องอะไรกัน?...คุณต้องการอะไรกันแน่…” บดินทร์ได้แต่กระซิบถามเสียงสั่นพร่า เมื่อหมดทางจะหนี เพราะแน่ใจเหลือเกินว่าคำขู่ของอีกฝ่ายนั้น ไม่ใช่แค่เพียงต้องการให้เขากลัว…

“เดี๋ยวก็รู้”

*
*
*

ในที่สุดบดินทร์ก็ถูกบังคับลากจับลากมาจนถึงชั้นที่ 47 ห้องเบอร์ 4704 อันเป็นห้องพักสุดสวยหรูในระดับ 5 ดาวใจกลางเมือง แน่นอนว่าราคาต่อคืนนั้นไม่ใช่น้อย นับประสาอะไรกับการเช่าอยู่รายเดือนของดนัย บดินทร์ได้แต่คิดในใจว่าลำพังแค่ค่าตัวนักแสดงที่เมืองนอกเมืองนาของดนัยนั้น สามารถทำให้เจ้าตัวอู้ฟู่ได้ขนาดนี้เชียวเหรอ? หากเป็นระดับกฤตเมธ หรือสดายุสมัยรุ่งเรื่องเขาอาจไม่สงสัย แต่สำหรับดนัยที่ไม่ได้มีบทเด่นในวงการหนังไทย…ที่เมืองนอก คนคนนี้เล่นบทเด่นแค่ไหนกันนะ?

ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิด บดินทร์ก็ถูกผลักเข้าไปในห้องนั้นทันที โดยมีดนัยผู้เป็นเจ้าของห้องตามประกบเข้าไปติดๆ ก่อนจะปิดปิดล็อคประตูตามหลังโครมใหญ่ ทั้งสองยืนสบตากันอยู่ในห้องที่ค่อนข้างจะมืดเพราะดนัยไม่ยอมสับสวิชต์ไฟเสียที 

“ตกลง…คุณมีอะไรจะคุยกับผม?”บดินทร์กัดฟันถามออกไปอีกครั้ง เมื่อเจ้าของห้องยังคงยืนกอดอกจ้องมองเขาไม่ละสายตา แถมยังไม่ยอมปริปากพูดอะไรเสียที

“ก็แค่เชิญมาดื่มชา” ดนัยตอบยิ้มๆ

“ถ้าแค่นั้น…ผมต้องขอโทษที ผมไม่ว่างพอจะดื่มชากับคุณหรอก ช่วยคืนกระเป๋าผมด้วย ผมต้องรีบไป” บดินทร์รีบตัดบท เพราะเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของดนัยแล้ว บดินทร์ก็ไม่อาจวางใจจะอยู่ในห้องนี้ต่อ เพราะเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน และต้องการอะไรจากเขากันแน่? 

ความไม่รู้ทำหัวใจของบดินทร์เต้นระส่ำ ความกลัวผุดพรายในส่วนลึกอย่างยากจะหักห้าม

“ว้า…เสียดายจัง คุณจะรีบไปไหนเหรอ? ให้ผมไปส่งมั้ย?” ได้ยินอีกฝ่ายว่ารีบ ดนัยก็แสร้งทำสีหน้าลำบากใจ พลางเสนอตัวไปส่งราวกับห่วงใยหนักหนา ทว่าสายตาที่จับจ้องมา กลับยิ่งทำให้บดินทร์ขนลุก…

“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเอง…ช่วยคืนกระเป๋าผมมาที” บดินทร์ยังคงพยายามขอร้อง

“โธ่…คุณบดินทร์ครับ อุตส่าห์มาทั้งที นั่งคุยเป็นเพื่อนผมหน่อยไม่ได้เหรอ อยู่ว่างๆคนเดียว ผมเหงาจะแย่…นะครับนะ แป๊บเดียวก็ยังดี” ดนัยพยายามหว่านล้อม แถมไม่พูดเปล่า ยังถือวิสาสะเข้าไปโอบเอวบดินทร์ไว้แล้วดันพรืดๆไปที่โซฟากลางห้องรับแขก พลางลอบแสยะยิ้มออกมาเล็กๆ เมื่อเห็นท่าทางอิหลักอิเหลื่อของบดินทร์

พอถูกจับมานั่งตรงโซฟาได้ บดินทร์ก็ไม่กล้าจะลุกไปไหน หัวใจจดจ่ออยู่กับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองที่ดนัยยังคงยึดเอาไว้อยู่ อึดใจต่อมาชาอุ่นๆก็มาเสิร์ฟถึงที่ กลิ่นชาหอมกรุ่น คนที่อุตส่าห์ทำมาให้ก็ยังคงส่งยิ้มละมุนไม่ขาด ดังนั้นบดินทร์จึงจำต้องยอมนั่งจิบชาที่ดนัยอุตส่าห์ทำมาให้อย่างเสียไม่ได้

“เออ จริงสิ เมื่อกี้ที่ด้านล่าง ได้ยินคุณพูดถึงรูป…กับข่าว มันคือรูปอะไรเหรอ?”

ไม่ต้องเสียเวลานาน ดนัยถามขึ้นทันทีที่ชงชาให้บดินทร์เสร็จ คำถามนั้นทำบดินทร์ถึงกับหน้าถอดสี ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยที่ได้รู้ว่าดนัยได้ยินบทสนทนาของเขากับชิดจันทร์เมื่อครู่ด้วย!?

“ไม่เกี่ยวกับคุณ!” บดินทร์ตะคอกออกมาไม่ดังนักเพราะต้องพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นอย่างเต็มที่

“ไม่หรอก ผมว่าเรื่องนี้…ผมเกี่ยวได้”


“!!?”

จบคำดนัยก็ทรุดกายนั่งลงตรงข้างบดินทร์ทันที คนถูกต้อนถึงกับผวาเฮือกจนถ้วยชาแทบจะหลุดจากมือ ดนัยยิ้มให้น้อยๆพลางดึงถ้วยชาใบย่อมออกจากมือของบดินทร์แล้ววางลงบนโต๊ะเบาๆ

บดินทร์จับจ้องคนข้างกายไม่วางตา การกระทำเนิบนาบนั้นสั่นคลอนประสาทเขาจนตึงเครียด โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายรุกคืบจนใกล้เกินกว่าที่เขาจะรับได้ บดินทร์ตั้งท่ารีบลุกออกจากโซฟานั่นทันที

แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับกายให้พ้นจากโซฟาตัวใหญ่ ฉับพลันร่างของบดินทร์ก็ถูกผลักลงบนพื้นโดยแรง ตามด้วยดนัยที่ขึ้นคร่อมบนร่างของเขาไว้ อารามตกใจบดินทร์รีบกระเสือกกระสนหนีจากการถูกคุกคามตามสัญชาตญาณที่รู้สึกว่าอันตราย แต่ก็ใช่ว่าจะหนีพ้น ร่างของเขาถูกดนัยจับตรึงไว้กับพื้นห้องอย่างง่ายดาย

“ทะ...ทำอะไรน่ะ!!? ปล่อยนะ!!” บดินทร์ตวาดถามออกไปด้วยความหวาดหวั่น


‘น่ากลัวเหลือเกิน’


หัวใจของบดินทร์เต้นรัว เนื้อตัวเริ่มสั่นสะท้าน เขากลัวแววตาที่เหมือนจะฉีกกระชากร่างให้เป็นชิ้นๆนั่น กลัวอุ้งมือที่แม้จะพยายามดิ้นรนหนีออกไปเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกบีบรัดแน่นจนเจ็บร้าวราวกระดูกจะแหลกเป็นผุยผง ถึงจะไม่รู้ว่าดนัยต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการนั้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อเขาเป็นแน่

บดินทร์พยายามดิ้นรนหลบหนี แต่ยิ่งขยับกายดนัยก็ยิ่งโถมร่างกดทับ ซ้ำยังเอาแต่ยิ้มเยาะไม่ยอมพูดอะไรเลย

 “ปล่อย!!” บดินทร์ตวาดลั่นอย่างสุดจะอดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป ทั้งพยายามดิ้นหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย “ปล่อยกู!!” เหมือนยิ่งดิ้นรน ยิ่งถูกกดตรึง ยิ่งผลักไส ยิ่งถูกรุกไล่

“บอกมา! เมื่อกี้มึงคุยเรื่องรูปเหี้ยอะไรกับยัยคุณหนูชิดจันทร์!!?”


ในที่สุดดนัยก็ปริปาก และคราวนี้ไม่ใช่คำพูดเสแสร้งหวานหูที่ใช้ประจำ แต่เป็นเสียงตะคอกห้าวทั้งยังเป็นคำหยาบคายที่บดินทร์ไม่เคยได้ยินจากดนัยมาก่อน

“เสือก! ไม่ใช่เรื่องของมึง!” บดินทร์ตะคอกกร้าวอย่างลืมตัว ความกลัว ความตึงเครียด และถ้อยคำหยาบคายที่อีกฝ่ายพ่นใส่หน้า ทำสติบดินทร์เลอะเลือนไปชั่ววูบ

“ปล่อยกู สัด…อู้!!?”   ดนัยคว้าใบหน้าของบดินทร์ไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้วบีบบังคับให้ใบหน้านั้นให้มองตรงมาที่ตน ชายหนุ่มจ้องมองลงไปที่แววตาตื่นตระหนกของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกเย้ยหยัน เขาเหยียดยิ้มเย็นที่มุมปากก่อนจะกล่าวคำที่ทำให้เลือดในกายของบดินทร์เย็นเฉียบ

“ทำไมจะไม่เกี่ยว…สดายุเป็นผู้มีบุญคุณของกู กฤตเมธเป็นพี่ที่คอยช่วยเหลือกู สองคนนี้เป็นคนที่กูรัก และกูจะไม่ให้ไอ้เหี้ยตัวไหนเข้ามาวุ่นวายกับสองคนนี้ทั้งนั้น…”


ยิ่งพูด เสียงของดนัยก็ยิ่งเบาลง

ยิ่งพูดใบหน้าของดนัยก็ยิ่งโน้มต่ำลง

“ถ้าจะเหี้ย…ก็มาเหี้ยกับกูนี่…”

แล้วใบหน้าร้ายกาจนั่นก็โน้มลงมาจนจดจ่ออยู่กับใบหน้าของบดินทร์เพียงแค่ลมหายใจกั้น

ดนัยแสยะยิ้มร้าย ก่อนก้มลงกระซิบเบาๆที่ริมหูบดินทร์

“กูชอบกินเหี้ย” จบคำดนัยก็ก้มลงลากลิ้นร้อนไปบนแก้มของบดินทร์ ผู้ถูกกระทำถึงกับแข็งทื่อไปทั้งร่างราวกับถูกฉาบทาด้วยพิษร้าย

 “อ๊ะ...อยะ...อย่า อย่า!!” พอรู้สึกตัวขึ้นมาได้มือข้างหนึ่งที่เป็นอิสระของบดินทร์ ก็ผลักใสทุบตีร่างหนาเพื่อหวังเพียงจะหลุดพ้น กลัว…บดินทร์กลัวจนแทบจะคลั่ง มือหนึ่งปัดป่าย อีกมือก็พยายามบิดขยับเพื่อให้พ้นจากพันธนาการ หากแต่ก็ไม่ได้เป็นผล ซ้ำยังถูกกดตรึงข้อมือทั้งสองข้างลงบนพื้นอีกครั้ง ร่างที่คร่อมอยู่ของดนัย เริ่มโน้มกายเข้าหาจนแทบจะแนบลงบนร่างของบดินทร์ เพื่อจะบดเบียดย่ำยีราวกับจะเย้ยหยัน

“อ๊า!! อย่า! ไอ้เหี้ย! ปล่อยกู!!” บดินทร์ร้องลั่น ส่ายหน้าไปมาราวกับเสียสติ อยากดิ้นรนหลบหนี แต่รู้ดีว่ายากนัก เมื่อข้อมือทั้งสองข้างยังถูกตรึงไว้ แถมยังถูกดนัยโถมทับมาทั้งตัวจะแทบหายใจหายคอไม่ออก

“บอกมาก่อนสิ ว่ามึงวางแผนจะทำห่าอะไร? กูรู้หมดแล้วเรื่องที่เมื่อคืนมึงมาที่นี่ เพื่อจะทำเรื่องระยำกับกฤตเมธ มึงรวมหัวกับชิดจันทร์จะทำเรื่องอะไร? แล้วรูปที่มึงถ่ายไว้เมื่อคืน มึงจะเอาไปให้นักข่าวใช่มั้ย? บอกกูมาสิ!!”


“ไม่มีอะไร! กุไม่รู้อะไรทั้งนั้น!! ปล่อยกู!!” บดินทร์ไม่ยอมพูด

“บดินทร์!! พูด!!”

“กูไม่รู้!! ปล่อยยยย!! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!” ต่อให้ถูกข่มขู่ ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมปริปาก นอกจากพยายามดิ้นรน และร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ

และคราวนี้เส้นความอดทนของดนัยก็ขาดสะบั้นในที่สุด

“ดี! มึงจะไม่ยอมพูดใช่มั้ย…ได้…” ดนัยยิ้มร้ายให้กับนักโทษในมือใต้ร่าง ใช้มือข้างเดียวกดบดินทร์เอาไว้ ส่วนอีกมือก็เอื้อมไปหยิบไอโฟนของตัวเองออกมาจากกระเป๋าหลัง

“งั้น…ก็มาเป็นนางเอกในคลิป x ของกูหน่อยแล้วกัน!”

ทันทีที่พูดจบ ดนัยก็คว้าเสื้อของบดินทร์เลิกขึ้น ตั้งท่าถ่ายคลิปดังคำขู่

“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!”


บดินทร์ถึงกับดิ้นพราดๆ เป็นปลาโดนทุบหัว สองมือปัดป่าย ร่างกายบิดพล่าน ต่อให้ต้องตายเขาก็จะต้องหนีออกจากใต้ร่างนี้ให้ได้!!

ผลั่ก!

“โอ้ยยยย!!!”


เสียงดนัยร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด บดินทร์เองยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป เสียงของแข็งบางอย่างกระทบพื้นเสียงดัง แต่บดินทร์ไม่เห็นหรอกว่ามันคืออะไร สายตาเขาถูกตรึงไว้กับสีแดงฉานของของเหลวอะไรบางอย่างที่กำลังไหลเป็นทางตรงหางคิ้วของดนัย…

ของเหลวสีแดงนั้นไหลเร็วไปตามข้างแก้มของดนัย จากนั้นก็หยดเปาะแปะลงบนพื้น

ถึงตอนนี้บดินทร์ไม่อยู่เฉยอีกต่อไป ชายหนุ่มดิ้นรนอีกครั้ง และคราวนี้มันช่างง่ายดาย แค่ดันตัวออกมาเพียงนิดเดียวก็สามารถหลุดพ้นจากคนบาดเจ็บตรงหน้าได้แล้ว

หัวใจของบดินทร์เต้นระรัว ลมหายใจสะดุดเป็นห้วง จ้องมองคนที่ยังคงนั่งปาดเลือดของตนเงียบๆตรงหน้า

และในจังหวะที่ฝ่ายนั้นเงยขึ้นมาสบตาบดินทร์ก็ไม่อยู่รออะไรอีกต่อไป
*
*
*
เสียงฝีเท้าที่วิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต เสียงประตูห้องที่ปิดล็อคอัตโนมัติ และความเงียบที่เข้าปกคลุมรอบกาย

ดนัยยิ้มออกมาน้อยๆ ด้วยใบหน้าซีกซ้ายที่นองไปด้วยเลือด…

“…ดีมากบดินทร์…” เสียงทุ้มพร่าดังขึ้นเบาๆ


“เหี้ยแบบนี้…กูชอบ”


*****************************************************************************

'พระเอก ม. ย่องแซ่บลูกสาวเจ้าแม่คาโรงแรมดัง’

'ปากบอกว่ายังไม่ถึงไหนครับ แต่ดอดชวนกินตับถี่ยิบ’
'สายข่าวบอกว่าสองหนุ่มสาวจู๋จี๋กันไม่ห่าง กอดรัดซัดกันนัวตั้งแต่หน้าห้อง…’


พาดหัวข่าวใหญ่โต พร้อมเนื้อหาข่าวเสียดสีรุนแรง แนบมากับภาพสองหนุ่มสาวกอดกันนัวอยู่ตรงโถงลิฟท์โรงแรม แม้ไม่ชัดเจนมาก แต่ก็พอดูออกว่าเป็น พระเอก ม. (เมธ) และลูกสาวเจ้าแม่ (ชิดจันทร์)


“นี่มันข่าวบ้าอะไรกัน! ชิดจันทร์!!?”


***************************************************************
สุขสันต์วันเสาร์แห่งชาติคร๊า
(มายาวอีกแล้ว...ช่วงนี้ทำไมแต่ละตอนมันยาวได้ขนาดนี้...)

และแล้วก็เป็นข่าว หุหุ ชิดจันทร์ต้องการจะทำอะไรกันแน่นะ
สองหนุ่มเมธยุจะฝ่าฟันกันไปรอดมั้ยน่อ

บดินทร์ยังคงเป็นปม…กำลังสับสนในตัวเองว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว
 ส่วนดนัย...หุหุ ดูร้ายขึ้นโขเลยใช่มั้ยคะ กิกิ
บอกไว้เลยว่าไอ้หมอนี่โรคจิตไม่น้อยเลยค่ะ
 :hao7:
ขอบคุณที่ติดตามค๊า
อนาคี99
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2014 03:58:11 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ supamat_ice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
ชอบดนัย อ่าาาา โหดดดดดดดดดดี

ออฟไลน์ Xhunters

  • 씨엘씨
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หมั่นไส้ยัยชิดจันทร์ :katai1:


ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
ดนัยโคดโหด 5555
ได้เวลาชัดเจนแล้วค่ะคุณเมธ ขนาดนี้ยังเกรงใจใครอยู่อีกมะ พูดคำไหนให้คำนั้นนะ โดนแฉเสียที จะได้ให้คุณแม่เธอพาลูกสาวไปบำบัดอย่างด่วน

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
แอบเชียร์ให้ดนัยจัดการไอ้บดินทร์และอีชิดจันทร์ลงหลุมพร้อมกลบให้มิด
เพราะเบื่อพวกพระเอก-นายเอกของเรื่องที่ทำตัวเป็นพ่อพระซะเหลือเกิน จนบางทีก็รำคาญ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ดีน่ะ ที่ดนัยเป็นพวกของยุ
ดีใจที่ยุมีเพื่อน?บ้าง

แต่ถึงไงเค้าก็สงสารบดิทร์ไม่ลงจริงๆ
ตัวเองเลว แต่มาโยนข่าวให้ยุเฉยเลย
ข่าวออกไปแล้วแบบนี้ อะไรจะตามมา
ชิดจันทร์ต้องทำลายพี่เมธและชื่อเสียงตัวเอง
แก้นแค้นแม่ใช่มั้ย คิดได้แย่มาก :fire:

4life

  • บุคคลทั่วไป
เกลียดชะนี เเต่เรื่องนี้ต้องโทษความโง่ของพระเอกด้วย
โง่เเละทำตัวดีเกินเหตุ กว่าจะคิดได้นะยะ เป็นไงล่ะโดนมอมเหมือนหมา
อ้างเเต่บุญคุณค้ำคอ มัวเเต่เกรงอกเกรงใจอินั้น อยู่ได้
ข่าวออกมาเเบบนี้เเกจะเเก้ยังไงอิเมธธธธธ??? อิพ่อพระเอกคนดี เกรงใจทุกคนนอกจากเมียตัวเองงงงง
 :beat: อินจัด ฮ่าๆๆๆ

ดนัยจัดการเหี้ยตัวผู้เเล้วไปจัดการอิเหี้ยตัวเมียด้วยนะ เอาให้มันไม่กล้าสู้หน้าประชาชีเลย
 :z6: :z6:


อยากอ่านตอนต่อไปเเล้วอ่าาาา :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2014 06:12:53 โดย 4life »

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ตอนนี้ยาวดี แต่ยังไม่สะใจเลย
รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
ยังไงก็ยังเกลียดบดิทร์เหมือนเดิมทำผิดแล้วไม่ยอมรับแถมยังให้คนอื่นรับผิดของตัวเองอีก เลวจริง(ที่จริงยังมีอีกหลายเหตุผลที่เกลียดนะเนี่ย) คนแบบบดิทร์ไม่ควรให้มีความสุขกับเขาด้วยซ้ำ :angry2: เมธก็อีกคนถ้ายังทำตัวเป็นพระเอกเกินไปยังนี้ละก็เค้าจะเชียร์ให้ดนัยเป็นพระเอกซะนี่ :m16: ส่วนยัยมารร้ายคนนั้นขอให้มันถึงจุดจบของชีวิตเร็วๆ(ขอโทษค่ะตอนนี้อินจัดมาก) :m31:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
สารภาพ!!!!!! เราแอบปิ๊งดนัยล่ะ //ซาดิสม์ :z3:
แหมมมมมมม แลดูโฉดชั่ว แต่ก็ปกป้องพระเอกนายเอกของเรา :impress2:
สงสารดินนนน คนไม่มีทางเลือก ฮึกๆๆ :hao5:
ไปเป็นเมียดนัยซักรอบไหมคะ? :katai3:
รอตอนต่อไปน้าาาา :กอด1: ข่าวออกมาแล้วว

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
้ดนัยเหมาะกะบดินทร์ดีนะ  :hao6:

ออฟไลน์ uchikas

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
โหย รอลุ้นตอนหน้าเลย
ชิดจันทร์ไมร้ายอย่างงี้ =_=
สงสารเมธกับยุ เมื่อไหร่จะหมดเรื่องหมดราวซะที
แอบสงสารบดินทร์นะ ดนัยจะทำอะไร ?

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
มาจิ้มมาจองงงงงง
ก่อนอ่านนนน

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ดนัยซาดิสต์แน่ๆมีคู่ใหม่เพิ่มมาอีกคู่

ออฟไลน์ yearrayoeng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
 :z1:แลดูคู่ดนัยจะแซ่บ แอบลุ้นนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
สงสัยยัยชิดจันทร์ อยากฉาว เผื่อคุณแม่หน้าบาง

จะได้บังคับพ่อพระเอกอ่อนต่อโลก ให้แต่งกับนาง หุ หุ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
จัดการยัยชิดคลองเลย

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ยาวมากนอนนี้ สนุกมาก
คนอย่างบดินทร์พอมาเจอดนัยนี่คนละเรื่องเลยนะ ไม่คิดว่าดนัยจะเป็นแนวนี้  ตอนหน้าขอเจ๊บลูกะนู๋ซอลบ้างนะ

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
ยาวมากจุใจจริงค่ะ ยัยชิดจันทร์อะไรนี่...ท่าจะสติไม่ดี เหอๆๆๆ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ยัยชิดจันทร์ ร้ายไปแล้วนะ น้องยุจัดการด่วน!!!

ออฟไลน์ NIMME

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ยาวๆแบบี้สิชอบ
ดนัยจัดบดินทร์แม่งเลย

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ไม่รู้ว่าจะสงสารบดินดีหรือเปล่า
แต่ก็นะทำตัวเองทั้งนั้น

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อนะคะ ^^

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ยาวสะใจ ดนัยช่วยจัดการยัยคุณหนูโรคจืตนั่นด้วย

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ดุเดือดมาก คู่ของบดินทร์กับดนัยเนี่ย  :hao3:

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
ดนัยโคตรโหดดดดดดดแอบจิต
สมน้ำสมเนื้อกับบดินทร์นะ อร๊ายยยยยยย ชอบบบบบบ
ส่วนยัยชิดจันทร์ใครก็ได้หยุดนางืี  นางสติหลุดไปแล้วตอนนี้!!!!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด