ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1269243 ครั้ง)

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ดนัย+บดินทร์ จะได้เลิกมาม่ากัน
คุณหนูชิดจะได้เจอของแข็งบ้าง

ออฟไลน์ maxiez2p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หายป่วยแล้วหรอครับ
รักษาสุขภาพด้วยนะ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
จะเกิดอะไรขึ้นกับยุเนี่ย
ขอให้ดนัยรู้แผนการร้ายๆนี้ทีเถอะ

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 41 ขอโทษ




"เฮ้อ...หนังเรื่องนี้มันอาถรรพ์รึเปล่าวะเนี่ย?"

เสียงผู้กำกับวัยกลางคนเปรยบ่นด้วยเสียงระโหย

"อีกไม่กี่ตอนก็จะปิดกล้องแล้วแท้ๆ...จะได้ฉายรึเปล่าน๊า..."

น้ำเสียงเหนื่อยใจยังไหลออกมาเป็นระยะระยะ ท่ามกลางกฤตเมธที่ยืนนิ่งหน้าตาเครียดขึงไม่ต่าง และสดายุที่นั่งกอดอกทอดดวงตามองพื้นครุ่นคิด บรรยากาศระหว่างสามคนดูตึงเครียด จนทีมงานและดาราตัวประกอบรอบข้างได้แต่นั่งลุ้น ตุ้มๆต่อมๆ

"ถึงจะเป็นหนังนอกกระแส แต่ก็เป็นหนังน้ำดี ถ้ามันจะไม่ได้ฉายก็น่าเสียดายไม่น้อยล่ะนะ"

"ขอโทษนะครับพี่อ๊อด ที่มันลงเอยแบบนี้ มันเป็นความเอาแต่ใจของผมเอง ที่ผลีผลามทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน" กฤตเมธเอ่ยขอโทษ เพราะความหุนหันของเขา ทำให้เรื่องราวมันใหญ่โต

หลังจากการแถลงข่าวเมื่อวาน ตั้งแต่ตอนนั้นทั้งโลกโซเชียล ข่าวบันเทิง และสื่อสาขาต่างๆ ล้วนเผยแพร่การแถลงข่าวของเขาอย่างแพร่หลาย แน่นอนว่าเหล่านักเขียนข่าวก็ตีความกันไปหลากหลาย และมันก็ไม่ค่อยจะเป็นไปในทางที่ดีนัก ที่แน่ๆก็มีพูดกันว่ากฤตเมธแตกหักกับเสน่ห์จันทร์ในเรื่องผลประโยชน์ หรือการทำสัญญาค่าตัวที่ไม่ลงตัวนัก หรือมากกว่านั้นก็จะเป็นประเภทที่พูดในเชิง กะแล้วว่าต้องเลิก เพราะชิดจันทร์ยังเด็กเกินไป คงไม่ใช่แนวของพระเอกรุ่นใหญ่ ที่ทนคบมาเพราะต้องการผลประโยชน์จากแม่อย่างเสน่ห์จันทร์ และหรืออื่นๆ มีขนาดที่ว่า กฤตเมธเริ่มระหองระแหง ชิดจันทร์เลยวางแผนรวบรัด ภาพทีโรงแรมเลยหลุดออกมา แต่ฝ่ายชายไม่รับ....

แค่เรื่องนี้ก็คาวคลุ้งไปทั่วอยู่แล้ว ยังมีการขุดคุ้ยประเด็นคนรักคนใหม่อีก ที่เหยี่ยวข่าวแทบจะทุกสำนักพยายามตามกันว่า คนคนนั้นของกฤตเมะคือใคร?

บ้างก็เดาไปว่าเป็นคนนั้นคนนี้

บ้างก็ว่าเป็นน้องใหม่ในวงการอย่าง แตงกวาที่แสดงภาพยนตร์ร่วมกัน แต่ก็มีข่าวแย้งว่า แต่งกวาเป็นกิ๊กอยู่กับสดายุ และหรือ อาจกำลังมีศึกชิงนาง

แต่ก็มีบางข่าวที่วิเคราะห์ใกล้เคียงจนน่าตกใจ แล้วพอดูชื่อนักเขียนคอลัมน์ ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นคนคนเดียวกันกับที่เคยจะลงข่าวเรื่องที่กฤตเมธและสดายุอยู่ด้วยกัน แต่เพราะข่าวนั้นมันถูกสกัดเอาไว้เสียก่อนจึงยังเงียบมาจนตอนนี้ เจ้าของข่าวคงเห็นว่าสบโอกาส จึงกะจะลงข่าวนี้เรียกเรตติ้งใหม่ ทว่าด้วยเพราะไม่แน่ใจในความปลอดภัย เพราะยังไม่มีอะไรการันตีว่ากฤตเมธและเสน่ห์จันทร์แตกคอกันแล้วจริงๆ ทางนั้นจึงแค่ลงเป็นเปรยข่าว ไม่ได้เจาะลึกอย่างที่อยากทำ

แต่เพียงแค่นั้นก็ฮือฮากันไปในกลุ่มที่ได้เห็นได้อ่าน

'แท้จริงกฤตเมธเป็นเกย์'  หลายๆคนก็ถึงกับตบเข่าว่า 'กะแล้วเชียว' ผู้ชายอะไรจะดีงามสะอาดหมดจดจากเรื่องผู้หญิงได้ขนาดนั้น ที่แท้ก็เป็นเกย์ แอบซุกหนุ่มนี่เอง

แต่ถึงยังไงแฟนคลับอีกนับร้อยนับพัน ก็ยังคงช่วยกันปกป้อง

ความคลุมเครือเป็นเรื่องโอชะ ที่เหล่าเหยี่ยวข่าวต้องการกัดแทะกลืนกินไปจนถึงรากเหง้า

เรียกร้องว่าตน 'มีสิทธิ์ที่จะรู้' แล้วขุดคุ้ยราวกับสุนัขดมกลิ่น โดยไม่สนว่าเจ้าของเรื่องราวจะต้องการหรือไม่

ยิ่งเน่ายิ่งเหม็นยิ่งน่าค้นหาสำหรับคนเหล่านั้น ที่อ้างว่า เหล่าดาราคือบุคคลสาธารณะ ไม่ว่าจะถูกเปิดโปงอะไรก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะบ่น

เหล่าบุคคลที่ชอบเสพความหายนะของคนอื่นต่างอาหารสามมื้อ...

"เฮ้อ...ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกเมธเอ้ย โดนจับเป็นข่าวขนาดนั้น เป็นพี่ พี่ก็ต้องแถลงให้โลกรู้เหมือนกัน ถ้าจะโทษ ก็โทษชะตากรรมเถ๊อะ ที่ทำให้หลายๆอย่างมาเจอกัน ทำให้หลายๆสิ่งมันเกิดขึ้น บางครั้งมนุษย์เราก็ไม่ได้เดินไปบนทางที่ตัวเองเลือกได้ตลอดหรอก เพราะถ้าเลือกได้ขนาดนั้น คงไม่มีใครต้องทุกข์..."

อ๊อดดึงกฤตเมธลงมานั่งข้างกัน ตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ แล้วเอ่ยปากสอนน้องในฐานะที่ตัวเองผ่านชีวิตมานานกว่า

"ฟังพี่นะ เมธ ยุ พี่รู้ว่าพวกเอ็งคงจะอึดอัด แต่ถ้าอยากจะเปิดตัวกันแล้วจริงๆ พี่ก็อยากให้พวกเอ็งเคลียร์ทุกอย่างให้จบก่อน ถึงตอนนั้นจะได้เปิดตัวกันแบบสวยๆ จบแบบเคลียร์ๆไม่ต้องเสียเวลาขุดคุ้ย ไหนๆก็ตัดสินใจจะออกจากวงการทั้งคู่อยู่แล้ว"

คราวนี้อ๊อดไม่ได้เพ่งเป้าไปที่กฤตเมธคนเดียวอย่างตอนแรก ผู้กำกับหนุ่มใหญ่ค่อยๆจับมือของพระเอกรุ่นน้องทั้งคู่ แล้วเอ่ยปากสอนในฐานะรุ่นพี่ที่อยู่มานาน รู้ดีว่าอาจดูเหมือนจุ้นไม่เข้าเรื่อง แต่ก็อยากจะบอกเล่าเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกับน้องๆที่เขาให้ความเอ็นดู

"จะหาว่าพี่ยุ่งไม่เข้าเรื่องก็ได้นะ แต่พี่อยากจะเตือนเอ็งสองคนหน่อย ช่วงนี้มันยังกรุ่น นักข่าวยังตามกันเป็นเงา ถึงจะระวังยังไงพวกนั้นก็หาช่องเอาจนได้ เผลอแค่นิดเดียวก็เสร็จมันแล้ว ทางที่ดีพี่ว่าช่วงนี้พวกเอ็งแยกกันอยู่ก่อนดีกว่ามั้ย แค่รับส่งน่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่ถึงขนาดขึ้นห้องด้วยกันเนี่ย เดี๋ยวมันจะเป็นประเด็น เชื่อพี่"

คำสั่งสอนตรงไปตรงมาของอ๊อดนั้น กฤตเมธและสดายุ เข้าใจความหมายของมันอย่างดี ไม่รักไม่ห่วงกันจริงคงไม่เตือนกันขนาดนี้ และเขาทั้งคู่รับรู้มันได้ด้วยหัวใจโดยไร้ข้อโต้แย้ง

"ผมก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกันครับพี่อ๊อด จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบ ผมคงต้องกลับไปนอนบ้าน..." 

กฤตเมธพยักหน้ารับคำ พร้อมรับคำตามที่อ๊อดว่า พลางหันมองหน้าสดายุทียังคงนั่งเงียบอยู่ข้างกัน

ฝ่ายสดายุที่ยังคงนิ่งงัน ก็ค่อยๆพยักหน้าเบาๆเป็นนัยน์ว่าเห็นด้วย แม้ว่าจะยังหน่วงใจอยู่ไม่น้อย 

สดายุ คนอย่างเขาไม่ใช่พวกหนีความจริง ชีวิตผ่านอะไรมามากมายแม้จะเพิ่งผ่านเบญจเพศมาไม่นาน เพราะไม่เคยสนใจอะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้สนใจใครเป็นที่ตั้ง ดังนั้นเขาจึงสามารถผ่านช่วงชีวิตในช่วงที่ตกต่ำมาได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนวุ่นวายใจ คิดเพียงอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเกิดไป ขนาดถูกยกเลิกสัญญาจ้าง ถูกออกจากวงการด้วยข่าวเสียหาย ถูกก่นด่าจนตกต่ำ ชีวิตเขายังอยู่ได้ เพราะหัวใจของเขายังเข้มแข็ง...

ไม่สิ...

หัวใจของเขายังเฉยชาต่างหาก...

เฉยชาจนแม้แต่เขาเองก็รู้สึกว่า คงไม่มีอะไรในโลกนี้ทำอะไรเขาได้อีกแล้ว

ทว่าตอนนกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น...

แค่เรื่องเป็นข่าวเล็กน้อย แค่โดนขุดคุ้ย เขาก็เครียดจนแทบบ้า

ยิ่งเห็นว่าคนที่โดนโจมตีหนักตอนนี้เป็นกฤตเมธ ใจของเขายิ่งกังวล ห่วงว่าอีกฝ่ายจะเสื่อมเสียชื่อเสียง กลัวว่าอีกฝ่ายจะถูกสังคมประนาม กลัวว่ากฤตเมธต้องเป็นทุกข์

กลัวในทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด ทุกๆวินาทีนับจากลมหายใจนี้เป็นต้นไป

คนที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจใดๆอย่างเขาตอนนี้...จะปกป้องกฤตเมธได้ไหมนะ

สีหน้าที่แสดงความกังวลชัดเจนของสดายุทำหัวใจของกฤตเมธหน่วงหนักราวถูกบีบรัด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือคนรักด้วยความห่วงใย เขาไม่เคยเห็นสดายุเครียดเรื่องอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มแสดงหน้าตากังวลออกมาชัดเจนขนาดนี้มาก่อน

"...ยุ"  กฤตเมธเอ่ยชื่อคนรัก ตั้งใจจะปลอบขวัญด้วยหลายล้านความห่วงใยที่อยู่ในอก ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร อีกฝ่ายก็เงยหน้ามาสบตากับเขาเสียก่อน

"เมธ...ผมจะปกป้องคุณให้ได้"

สดายุสบตา พร้อมเอ่ยคำสัญญาแน่นหนัก

"ใครหน้าไหนกล้าว่าร้ายคุณ ผมจะจัดการมันเอง!"

สิ้นคำสดายุ กฤตเมธได้แต่นิ่ง 'กำลังถูกปกป้องอยู่สินะ'  คือคำที่ผุดขึ้นในใจของเขาเป็นคำแรก และอานุภาพของมันก็ช่างยิ่งใหญ่มหาศาล เพียงคำเดียวทำใจที่สั่นไหวของเขาให้กลับมามั่นคง พร้อมทั้งยังอุ่นซ่าน แผ่จากอกซ้ายสู่ร่างกายทุกส่วน

'นี่เรา...ถูกรักมากขนาดนี้เลย...สินะ'  หวานล้ำยิ่งกว่าน้ำตาลหวานใดในโลก ชนะสิ่งใด ไม่เท่าชนะใจสดายุ ฝ่าฟันกว่าจะได้มา แม้จะเคยลิ้มลองมาหลายคราว แต่ตอนนี้ราวกับได้ตอกย้ำ ว่าหัวใจที่เคยแข็งราวกับเพชรของสดายุนั้น เนื้อในช่างหวานฉ่ำนุ่มนวล

...และกฤตเมธคนนี้ ก็รักสดายุมามากเหลือเกิน เช่นกัน

"...ครับยุ...เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ"

กฤตเมธรับคำด้วยรอยยิ้มบางเบา พร้อมสายตาที่แสดงถึงความรักล้น มอบแด่คนที่เป็นดังดวงใจ

สดายุยิ้มรับไม่ต่าง สองมือประสานกันนิ่ง สองตาประสานกันนาน พร้อมกับถ้อยคำที่ย้ำชัดอยู่ในหัวใจ

'เราต้องผ่านมันไปได้...'

"แฮ่ม! ตรงนี้ยังเหลือพี่อยู่อีกคนนะครับน้องๆ ทำอะไรคิดถึงใจพี่บ้าง แฟนพี่ไม่อยู่หลายวัน อิจฉาบอกเลย!"

หนึ่งคำของอ๊อด ยุติบรรยากาศหวานล้ำทั้งปวงสิ้น...สองหนุ่มแยกย้ายกันนั่งตามเดิม พลางลอบยิ้มเขินๆ

"หนังเรื่องนี้ก็คงถ่ายไปจนจบสินะครับ"

พอได้คลายบรรยากาศลงมาได้หน่อย สดายุก็ถามอ๊อดขึ้น เพราะใจของเขาก็กังวลเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย สดายุไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนไปด้วยเพราะพวกเขา ถ้าหนังเรื่องนี้มีอันต้องยุติการถ่ายทำ ไม่มีแม้แต่การถ่ายทำต่อให้จบ คนที่เดือดร้อนมันมีเยอะจนเขาไม่อาจรับผิดชอบไหว ทุกคนจะน่าสงสารเกินไปถ้าต้องติดร่างแหไปด้วยพร้อมพวกตน

"ก็คงงั้นแหละ มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเข็นกันไปจนจบล่ะ เรื่องฉายก็คงฉายแน่นอนอยู่แล้ว ลงทุนลงแรงไปไม่ใช่น้อย โค้งสุดท้ายแล้วด้วย พวกสปอนเซอร์ไม่ยอมอยู่เฉยแน่ถ้าถูกระงับ แต่จะได้ฉายตามกำหนดไหมนี่มันก็พูดยากว่ะ ต้องคอยดูกันต่อไป"

คำตอบของอ๊อดค่อยทำยุคลายความกังวลลงได้หน่อย ชายหนุ่มถึงกับพรูลมหายใจเฮือกใหญ่ ที่ไม่ได้พาใครจมลงไปกับตนด้วย

"เอ่อ...แล้วทางท่านประธานล่ะครับ เขาว่าไงบ้าง?"  พอโล่งใจได้เพียงครู่ สดายุก็นึกขึ้นได้ว่าเจ้าของเรื่องยังอยู่ คนที่ตัดสินใจได้จริงๆแล้วคือเสน่ห์จันทร์ ไม่แน่ว่าทางนั้นอาจตัดสินใจยกเลิกโปรเจ็คหนังเรื่องนี้โดยไม่สนใจว่าใครจะเสียหายก็เป็นได้

"อันนี้ก็ไม่รู้เว้ย ลองโทรไปถามดุที่ออฟฟิสแล้ว แต่เห็นว่าวันนี้ประธานไม่มาทำงานว่ะ แถมไม่ได้แจ้งอะไรไว้ด้วย หายไปเฉยซะอย่างนั้น สงสัยกันว่าหนีนักข่าวน่ะ เพราะคงโดนรุมถามแน่อยู่แล้ว เรื่องจริงของคุณหนูชิดจันทร์กับเมธเนี่ย"  อ๊อดตอบออกมาตามสิ่งที่ตัวเองรู้

"...หายไปเลยเหรอ ปกติเสน่ห์จันทร์เขาไม่ใช่คนแบบนั้นนะ เท่าที่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นเขากลัวหรือหลบผู้สื่อข่าวเลย" แต่กฤตเมธท้วงขึ้น เพราะเห็นว่าผิดวิสัย

"ใครๆก็ว่างั้นแหละ แต่ในเมื่อจู่ๆหล่อนหายไปทันทีหลังมีข่าว จะให้คิดยังไงล่ะ?" 

จากนั้นกฤตเมธกับอ๊อดก็เริ่มถกกันต่อ โดยมีสดายุคิยช่วยเสริมเป็นช่วงๆ

ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงพักการถ่ายทำ เพื่อเปลี่ยนฉาก ระหว่างรอทีมงานเซ็ตฉากใหม่ เหล่านักแสดงก็จับกลุ่มคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
"พี่เขาคุยเครียดกันจังแฮะ ปวดท้องแทนเลยเนี่ย"  รุจน์บ่นขึ้นมาเบาๆในวงสนทนา สายตาจับจ้องไปที่กลุ่มของอ๊อด กฤตเมธ และสดายุ ที่ยังคงคุยเครียดกันอยู่

"ก็คงเรื่องข่าวแหละรุจน์ ตอนนี้นะพี่เมธโดนยับเลยอ่ะ พวกนักข่าวนี่ก็ไม่ยอมปรานีกันบ้างเลย" แตงกวาช่วยเสริม ขณะหยิบขนมชูครีมใส้แตกเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

"เฮ้อ จะว่าไปก็สงสารพี่ๆเขาเนอะ บางทีแค่เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ กลับโดนขุดคุ้ยซะใหญ่โต" รุจน์ว่า พลางเอื้อมมือไปหยิบขนมชูครีมจากแตงกวา หมายจะกินเล่นบ้าง

ปริ๊ด!!

"!!? เอ้ย!" ทว่ายังไม่ทันจะได้เอาเข้าปาก ชูครีมใส้แตกของแท้ก็ทะลักพรวดออกมาเปรอะเลอะไปหมด

แค่เลอะมือยังพอว่า แต่ลามไปถึงหน้านี่รุจน์ไม่อยากจะเชื่อ ‘แม่ะ...บีบแรงไปหน่อย กระเด็นไกลเชียว’

“อี๋...ทำอะไรของนายเนี่ยรุจน์ อย่างกับเด็กแน่ะ อ่ะทิชชู่!"  แตงกวารีบสาวกระดาษทิชชู่ส่งให้คนข้างกายเมื่อเห็นสภาพดูไม่จืดของเพื่อนร่วมวงเข้าแตงกวาก็ได้แต่เวทนา คนอะไรแค่จะกินชูครีมก็เอาซะเละคามือ ไส้ทะลักถึงหน้า ไม่เรียกว่าน่าสงสาร ก็คงต้องบอกสมน้ำหน้าแล้วล่ะ ( -*- )

"เง่อ...ตั้งใจซะที่ไหนล่ะ" รุจน์บ่นอุบ ก่อนจะพยายามเลยครีมที่มือด้วยความเสียดาย

"เลอะขนาดนั้นเดี๋ยวต้องรองพื้นเพิ่มอีกรอบแน่ ไม่ไหวๆ" แตงกวาเองก็บ่นไปหัวเราะขำไป กระทั่งมีผู้ร่วมวงสนทนาที่นั่งเงียบอยู่ตลอดคนหนึ่งขยับตัวทำอะไรสักอย่าง...

และการการะทำนั้น ก็ทำแตงกวาอึ้ง...

ขนาดที่ว่าชูครีมในมือถึงกับหล่นพื้น...แหมะ

แผลบ...

รุจน์ขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อถูกคว้าปลายคางจนใบหน้าเงิบไปด้านหลัง และทันใดนั้นก็ได้รับรู้ถึงสัมผัสเปียกลื่นที่ข้างแก้ม

“กรี๊ดดดด!! พอร์ช! นายทำอะไรรุจน์น่ะ!? อร๊ายยย ขนลุก! ฉันเขินนะ!!”  ( >///Q///< ) พอตั้งสติจากภาพตรงหน้าได้ แตงกวาก็ถึงกับกรี๊ดลั่น หน้าแดงมือไม้สั่น

“อะไรของเธอ?  ฉันแค่กินครีม” พอร์ชตอบแค่นั้น ก่อนจะหย่อนตัวกลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง โดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องโหยหวนของแตงกวา และหน้าอึ้งๆของรุจน์

“กินครีม!? บนหน้ารุจน์เนี่ยนะ!!” แตงกวาร้องถามแทบจะเสียงหลง เมื่อได้ยินคำตอบ กับสีหน้าที่ไม่รู้จักสะทกสะท้านใดๆของพอร์ช

“อื้ม ทำไม? แปลตรงไหน?” พอร์ชตอบเนียนๆพร้อมยักไหล่

“ก็แปลกตรงที่นายเลียแก้มรุจน์ไงล่ะ อร๊ายยย เขินจะตายแร้ววว!!!”  ทั้งๆที่พยายามเลี่ยงที่จะพูดถึง แต่ก็อดตะโกนออกไปไม่ได้ คำที่ทำให้แตงกวาแทบลงไปดิ้นด้วยความขวยเขิน ก็แหม...เลิฟซีนชายชายเธอเคยเห็นแต่ในบท กับคู่พี่เมธพี่ยุ  ไม่นึกว่าเพื่อนนักแสดงรุ่นเดียวกันอีกสองคนที่เธอรู้แค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน หยอกล้อเล่นหัวกันได้อย่าง พอร์ชกับรุจน์ จะมีโมเม้นต์อันตรายแบบนี้ด้วย!

“...ก็แค่เลียแก้ม แปลกตรงไหน” พอร์ชพูดขึ้นยิ้มๆ แล้วเดินออกจากกลุ่มไป เพื่อตั้งสมาธิท่องบทของตัวเอง 

“ถ...ถามมาได้ ตาบ้านี่!” แตงกวาได้แต่ด่าตามหลัง ทั้งที่ยังยิ้มค้าง (สารภาพตามตรง ว่าหล่อนชอบบบ!!)

สองหนุ่มสาวยังคงเอะอะมะเทิ่ง ใครๆก็ได้ยิน

ทว่า...ตัวรุจน์นั้น หูดับไปนานแล้ว

‘ไอ้พอร์ช ไอ้บ้า! ไหนว่าไม่รัก ไมมึงมาทำกับกูแบบนี้เนี่ย!!’  ( > ///// < )



“เฮ้ย รุจน์”

เอือก!!  “อ...อะไร?”  กำลังนั่งทำสมาธิอยู่ดีๆ รุจน์ก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อถูกพอร์ชเรียกมาจากข้างหลัง

“พี่เขาเรียกเข้าฉากแล้ว นั่งเหม่อไมเนี่ย?”  ที่แท้พอร์ชก็มาช่วยเรียก หลังหมดเวลาพัก และเริ่มถ่ายฉากต่อไป แต่รุจน์ที่นั่งเหม่ออยุ่กลับไม่รู้เรื่องรู้ราว

“อ...อ้าวเหรอ? เออๆ ไปแล้วๆ” คนถูกเรียกพยักหน้าหัวสั่นหัวคลอน  จนพอร์อดจะรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้

“หึหึ...อย่าเทคมากนักล่ะ เดี๋ยวจะเสียเวลามากเกิน ไป ซ้อมคอนเสิร์ตเย็นนี้ไม่ทัน มึงโดนเฮียป๊อดด่ากระจุยอีก”  ว่าพลางใช้มือยีผมเพื่อนรักเบาๆ

“...เออน่า...กูไม่เทคมากนักหรอก...” รุจน์แก้ตัวเสียงอู้อี้

“ก็ดีแล้ว ไปเข้าฉากไป พี่ๆเขารออยู่”  พอร์ชรับคำด้วยรอยยิ้ม พร้อมดันหลังเพื่อนให้รีบเดินออกไป

“อืม...พอร์ช...” ตอนแรกรุจน์ก็ว่าจะเดินไปตามที่พอร์ชว่า แต่หัวใจของเขากลับยั้งให้เขาหยุดเดินเสียเฉยๆ แล้วยังบงการให้หันมาพูดอะไรบางอย่างกับพอร์ช...

อะไรบางอย่างที่แม้แต่เขา ยังไม่สามารถเรียบเรียงเป็นคำพูดออกมาตอนนี้ได้

“หืม?” พอร์ชตอบรับ รอฟังว่าเพื่อนจะถามอะไร

“...พอร์ช มึงยัง...ยัง...............” แต่รุจน์กลับพูดมันไม่ออก



“น้องรุจน์คะ พร้อมถ่ายแล้วค่ะ ขอซับหน้านิดนึง”


สุดท้ายรุจน์ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ระหว่างซับหน้า ทำเพียงแค่จ้องมองไปยังพอร์ชอย่างมีความหมาย และดูเหมือนพอร์ชเองก็พอจะรู้สึกได้ ถึงสายตาที่ส่งมา เพราะพอร์ชเองก็จ้องกลับ ด้วยสายตาที่ไม่สามารถหยั่งถึง

เพียงครู่ต่อมารุจน์ ก็ต้องเดินตามทีมงานไปเข้าฉาก และในตอนนั้นชายหนุ่มก็ได้แต่คิดอยุ่ในใจถึงสิ่งที่กำลังจะหลุดปากถามออกไปเมื่อครู่...

คำถามไร้สาระที่ว่า...

‘พอร์ช...มึงเคยรู้สึกกับกูเกินเพื่อนบ้างหรือเปล่า?’

‘ตั้งแต่กลับจากมัลดีฟส์มา มึงก็เปลี่ยนไปมากเลยรู้ไหม?...’

‘เดี๋ยวก็ทำเป็นห่างเหิน เดี๋ยวก็เข้ามาใกล้...’

‘การกระทำของมึงทำกูสับสนนะ...’

‘มึงทำให้กูคิดไปเอง...คิดไปไกล จนจะกู่ไม่กลับอยู่แล้วนะเว้ย...’

‘พอร์ช...กูว่า...’


‘กูคงรักมึง...จนจะถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้ว...’


*
*
*
*
*


หนึ่งทุ่มครึ่งโดยประมาณ ในที่สุดการถ่ายทำในวันนี้ก็จบลง

เหลืออีกเพียงไม่กี่ฉากกี่ตอน การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘สุดปลายทางของหัวใจ’ ก็จะดำเนินการไปจนสำเร็จเสร็จสิ้นจนปิดกล้องภายในอีกไม่เกินสามสัปดาห์ข้างหน้า เพราะการเร่งถ่ายทำแบบเอาเป็นเอาตายและการคัด ตัดฉากที่ไม่จำเป็นและเยิ่นเย้อออก ทำให้ฉากที่เหลืออยู่นั้นมีน้อยลง และระยะเวลาสั้นขึ้น

“วันนี้ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้นะ ผมว่าจะเข้าไปหาเจ๊บลูที่สำนักงานสักหน่อย เดี๋ยวผมให้เจ๊เขาไปส่ง"   สดายุเอ่ยทัดทานขณะที่กฤตเมธทำท่าจะคว้ากระเป๋าใบย่อมของเขาขึ้นรถ

"...เอางั้นเหรอ?"  กฤตเมธหันมาถามเพื่อความแน่ใจ ใบหน้าแสดงความเสียดายเล็กๆ

"ครับ คุณกลับบ้านไปก่อนเถอะ ผมนั่งแท็กซี่ต่อไปเอง โทรบอกเจ๊เขาไว้แล้ว...หึหึ...อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ"  ก็ว่าจะไม่ขำ แต่สุดท้ายสดายุก็อดไม่ไหว ในเมื่อกฤตเมธไม่ยอมหยุดทำหน้าราวกับเด็กน้อยโดนลงโทษไม่ให้กินขนม ช่างไม่สมกับอายุเอาซะเลยจนสดายุยังอดขำไม่ไหว

"งั้น...ให้ผมไปส่งที่สำนักงานแล้วกันนะ"  แม้จะโดนขำใส่ แม้จะถูกไล่ แต่หัวใจของชายหนุ่มกลับยังไม่อยากไปไหนไกลทั้งนั้น อีกนิดเถอะนะ ขอเวลาเขาอีกสักนิด

"ไม่ต้องก็ได้ คุณจะอ้อมไปอ้อมมาทำไมกัน?"  แต่คำตอบของสดายุก็ยิ่งทำให้หัวใจกฤตเมธฟีบเหี่ยว ยิ่งเห็นใบหน้ายิ้มแย้มสบายใจ กฤตเมธยิ่งอยากจะแอบน้อยใจให้รู้แล้วรู้รอด

"ขอเวลาผมหน่อยเถอะ ก็ผมยังไม่อยากห่างคุณนี่...นอนด้วยกันทุกวัน จู่ๆต้องนอนหนาวคนเดียวน่ะ คนแก่อย่างผมทรมานนะ"  ไม่พูดเปล่า แอบใช้นิ้วเกี่ยวปลายนิ้วสดายุไว้ด้วย ซ้ำยังพยายามช้อนตาอ้อน

"...รุ่นใหญ่ใจเปลี่ยวเหรอคุณ หึหึ ผมก็คิดถึง อยากอยู่กับคุณนานๆเหมือนกันแหละ นอนคนเดียวในห้องนั้นผมก็คงหนาว...แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา ในเมื่อเรายังต้องรักษาระยะปลอดภัย..."  สดายุคล้องนิ้วตัวเองเข้ากับนิ้วของกฤตเมธเป็นการตอบสนองสัมผัสอุ่น เสียงแหบหวานเอ่ยอ้อน
สำหรับกฤตเมธน้ำเสียงแบบนี้ของสดายุช่างน่าฟัง...

แต่มัน...ก็แสนเศร้า

"เมธครับ...จนกว่าจะปิดกล้องเรายังได้เจอกันทุกวันที่กองถ่ายนะ วันไหนเลิกเร็วเราค่อยไปกินข้าวกัน ผมว่าอีกไม่นานทุกอย่างคงจะเคลียร์ได้..."  สดายุพยายามคิดในแง่ดี ในเมื่อพวกเขาไม่มีทางเลือกในตอนนี้ ก็ทำได้เพียงกัดฟันทน

"เรื่องนั้นผมรู้ ก็แค่ใจหาย ที่เรื่องมันลุกลามใหญ่โตขนาดนี้ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะนิ่งไว้ อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วจูงมือกันแถลงข่าวทีเดียวตอนหนังออกโรงแท้ๆ...ผิดแผนไปหมดเลยน๊า" 

กฤตเมธเองก็เห็นด้วยทุกอย่างที่สดายุว่ามา ความจริงก็เข้าใจดีอยู่แล้วกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น อยู่กับตัวเอง อยู่ต่อหน้าคนอื่น เขายังคงดูเป็นผู้ใหญ่น่าเชื่อถือ มีหัวคิด แต่พออยู่ต่อหน้าสดายุ  เขาดันอ้อนอีกฝ่าย งอแงวุ่นวายจนน่ารำคาญออกไปซะอย่างนั้น  ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจเหมือนกัน ว่าทำอะไรช่างไม่สมวัยเอาเสียเลย...

แต่พอเห็นหน้าสดายุทีไร...ก็เผลออ้อนออกไปทุกที

"...ความลับมันไม่มีในโลกจริงๆสินะ...”  ฟังกฤตเมธบ่น สดายุก็ได้แต่เปรยกับลมฟ้า  พลางเอนกายพิงข้างประตูรถเพื่อพักร่างเมื่อยๆของตน

“มันไม่ใช่ความลับเสียหน่อย...” แต่กฤตเมธไม่ได้เห็นด้วยกับสดายุสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มขยับเข้าใกล้ พร้อมค่ำแขนข้างหนึ่งข้างกายคนรัก พลางยกนิ้วชี้ขึ้นแนบที่ริมฝีปากสีโอโรสอ่อนๆของสดายุไว้  “แต่มันเป็นเรื่องที่เราแค่ปิดเอาไว้ เพื่อเซอร์ไพรซ์ชาวโลกในอีกไม่กี่วันนี้ต่างหาก”

คำพูดที่มาพร้อมสายตากรุ้มกริ่มของกฤตเมธ ทำสดายุขำออกมาอีกครั้ง  “อื้ม...ดูยิ่งใหญ่มากครับคุณพี่...หึหึ”

“แน่นอนสิ ก็พี่อยากคบกับยุแบบเปิดเผยนี่นา อยากจูงมือ อยากกอด อยากทำอะไรตั้งหลายอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่าเราเป็นแฟนกัน เป็นคนรักกัน ให้ทุกคนได้เห็น ไห้ไอ้อิจฉากันเยอะๆ”  พอโดนคนรักหยอกเย้ามา กฤตเมธก็ต่อบทด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ทำเป็นทีเล่นทีจริง แต่เนื้อหาที่กล่าวมาไม่ได้คิดเล่นอย่างเนื้อเสียงที่เปล่งออกมา

อยากกอด อยากจูงมือ  อยากหยอกเย้ากลางแจ้ง ต่อหน้าสาธารณะชน สิ่งเหล่านั้น กฤตเมธคิดจริงจังอยู่ตลอด ว่าสักวันพวกเขาจะต้องเปิดตัวสู่สังคมให้ได้ แม้ว่าใครจะว่ายังไงก็ตาม

และความหมายในถ้อยคำเหล่านั้นสดายุก็เข้าใจมันดีด้วยเช่นกัน

“........พูดซะผมเคลิ้มเลยครับพี่เมธ หึหึ” ( - ///w/// - ) “ไปส่งผมได้แล้ว เดี๋ยวเจ๊บลูเขารอนาน” 

“ครับ ครับ คุณผู้ชายของผม...”

แต่เวลาหวานๆประจำวันของพวกเขาหมดแล้ว จำต้องกลับสู่โลกปกติเสียที

 :katai4:
ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2014 09:28:07 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
 :katai1:


“นายจะหยุดไปไหนเหรอดิน ตั้งหลายวัน?”

“ผมมีธุระนิดหน่อยน่ะพี่ซอล ขอลาหลายวันหน่อย พี่บอกเขาไปแล้วกันว่าผมป่วย แล้วก็ให้คนที่เคยแทนผมอยู่บ่อยๆนั่นแทนไปก่อนแล้วกัน”

“กะทันหันขนาดนี้ พี่ไม่รู้ว่าเขาจะรับงานเราได้หรอกนะ รายนั้นก็คิวงานชุกอยู่”

“ยังไงก็ฝากด้วยแล้วกันนะพี่ซอล ผมจำเป็นจริงๆ”

เสียงพูดคุยระหว่างสองหนุ่มดังก้องอยู่ตรงโถงทางเดิน ทว่าตอนนี้ก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว พนักงานในส่วนสำนักงานคนอื่นๆต่างก็กลับบ้านกันไปเสียส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยลำบากนักหากบดินทร์กับซอลย่าจะคุยกันด้วยเสียงที่ไม่ต้องเบามากได้

วันนี้บดินทร์มาคุยกับซอลเรื่องลาหยุดกะทันหัน ทั้งๆที่วันพรุ่งนี้เขาต้องอัดรายการ Star Talk และยังไม่สามารถหาคนทำแทนได้

เรื่องนี้ถึงกับทำให้ซอลย่าหัวหมุน ชายหนุ่มค่อนข้างระอาใจกับดาราหนุ่มในสังกัดตัวเองคนนี้เหลือเกิน  บดินทร์เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมาก แถมยังอีโก้สูงตามอีกด้วย การจะรั้งจะเตือนเลยสุดแสนจะลำบาก บทอยากจะลาก็ลา อยากจะหยุดก็หยุด ไม่มีเหตุผล ไม่ให้ตั้งตัว แม้จะไม่ได้บ่อยมาก แต่ก็จะเป็นแบบนี้เกือบทุกครั้ง

อย่างตอนนี้ จู่ๆก็บอกว่าจะหยุด แถมยังเกือบสัปดาห์  ให้หาคนแทนทั้งๆที่พรุ่งนี้ช่วงเย็นก็จะอัดรายการกันอยู่แล้ว  แม้เรื่องแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย จนพูดได้ว่า เหลวไหล หรือ ไม่รับผิดชอบ แต่การทำตัวแบบนี้ของกฤตเมธในแต่ละครั้ง ก็ทำให้เจ้าของงานฉุนขาดได้ทุกทีเช่นกัน

อารมณ์อยากทำงานของบดินทร์ขึ้นลงพรวดพราด เหมือนความดันเลือดของผู้ดูแลอย่างซอลย่าที่สูบฉีดปรื๊ดปร๊าดทุกครั้งที่ต้องมารับหน้างานให้

‘โดนด่าแทนบดินทร์อีกแล้วสินะคราวนี้...’


“เอาเป็นว่าคราวนี้ดินขอโทษพี่ด้วยแล้วกันนะ แต่ดินจำเป็นจริงๆ พี่ซอลเข้าใจดินนะ”

“อืมๆ ดินเล่นแบบนี้พี่ก็ไม่มีทางเลือกอ่ะ แต่ดินช่วยกลับมาให้ทันเทปหน้าด้วยแล้วกันนะ งานอื่นๆด้วย”

สุดท้ายการขอร้องที่จริงจังของบดินทร์ก็ทำให้ซอลย่าใจอ่อนจนได้

“เดี๋ยวพี่ไปคุยกับทางพวกผู้จัดก่อน จะได้รีบติดต่อไปที่คนนั้นด้วย”

“ขอบใจนะพี่ซอล ดินขอบใจพี่จริงๆ”

“ต้องรีบกลับมานะ อย่าเถลไถลเด็ดขาดเชียว”

“...อืม...ครับ ผมจะเคลียร์ทุกอย่างให้เร็วที่สุด”

บดินทร์ให้คำมั่น ที่ทำให้ซอลย่าค่อนข้างแปลกใจ เพราะโดยปกติชายหนุ่มไม่ค่อยจะแยแส เรื่องคราวนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆหรือนี่ ไม่ใช่ธุระเรื่อยเปื่อย หรือป่วยการเมืองอย่างที่ผ่านมาสินะ

“...พี่...รอผมด้วยนะ”

“รอ?”

“อืม...รอผมกลับมา”

ยิ่งพูดก็ยิ่งแปลกหู  เอาเข้าจริงซอลย่าเพิ่งจะสังเกตุว่าวันนี้สีหน้าท่าทางของบดินทร์ก็ไม่ค่อยจะเหมือนเดิม ท่าทางอีกฝ่ายดูกังวลจนน่าเป็นห่วง

“...วันนี้นายดูแปลกๆไปนะดิน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? มีเรื่องอะไรที่พี่พอจะช่วยได้มั้ย?”

“ไม่เป็นไรครับพี่...แค่พี่ทนอยู่เคียงข้างผมมาถึงตอนนี้ ผมก็ขอบคุณมากแล้ว”   บดินทร์ยิ้มน้อยๆ แทนคำขอบคุณที่ให้อีกฝ่าย

“...แล้วก็...ขอโทษด้วยนะพี่ ผมทำพี่ลำบากอีกแล้ว”  จากนั้นก็เอ่ยขอโทษเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งลงทุกที

แปลกไปจริงๆ วันนี้บดินทร์แปลกไปจนซอลพูดไม่ออก มันเป็นอะไรที่ติดอยู่ตรงปาก แต่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้ ทำได้เพียงกังวลใจ และมองอีกฝ่ายอย่างพินิจพิเคราะห์อีกครั้ง

“...ดิน?...”

“...ดินไปก่อนนะพี่ซอล แล้วเจอกัน”

“อ...อืม รีบกลับมาล่ะ”

บดินทร์เอ่ยลาแค่นั้น แล้วเดินจากไปทางโถงลิฟท์ ดวงไฟสีอำพันที่ส่องรายทางยิ่งช่วยขับสะท้อนให้แผ่นหลังของคนที่เดินจากไปดูหม่นแสง และอ้างว้าง เพียงแค่มองหัวในจองซอลย่าก็วูบไหว สังหรณ์ใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ เพราะคิดไปว่า ‘คงคิดมากไปเอง’



‘ขอบคุณนะพี่ซอล...ที่ดีกับผมมาตลอด  หลังจากวันนี้ไป ไม่รู้ผมจะยังได้กลับมาหาพี่ หรือได้กลับเข้าวงการได้ไหม หรือแม้แต่ลมหายใจผมก็ไม่แน่ใจว่าจะยังเหลืออยู่ถึงพรุ่งนี้มะรืนนี้หรือเปล่า.....’

‘ทุกการช่วยเหลือของพี่ที่ผ่านมาทั้งชีวิต...ผม...ขอบคุณพี่มากนะ...’

‘...แล้วก็...’

‘...ขอโทษนะครับ ที่ผมอาจจากพี่ไป...’

‘แบบไม่ได้ลา.......’



บดินทร์ได้แต่เอ่ยลาผู้จัดการคนดีอยู่ในใจ  เพราะแน่ใจอย่างยิ่งว่านับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ใบหน้าคมคายสูดลมหายใจลึกพร้อมขบเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นบาง  มือขวาที่ล้วงอยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กำบางสิ่งที่อยู่ในนั้นแน่น...

*
*
*
*
*

เวลาสามทุ่มตรง BMW X1 สีขาวก็แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าประตูตึกสูงสีฟ้าเด่น กลางเมืองใหญ่

ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกว่ากฤตเมธจะสามารถพาสดายุฝ่ารถติดเข้าตัวเมืองมาได้ แต่ก็ยังทันเวลานัดหมายที่นัดกันไว้กับบลูม่าพอดี

“ส่งแค่นี้ก็พอครับ คุณกลับไปก่อนเถอะ”

ทว่าทันทีที่ถึง ดายุก็ออกปากไล่คนหน้าตาบูดให้กลับไปก่อน  งานนี้เล่นเอากฤตเมธหน้าบู้บี้หนักขึ้นไปอีก

“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย หึหึ ผมไปก่อนนะ” สดายุว่า ก่อนจะทำท่าเปิดประตูลงจากรถ

“ให้ผมขึ้นไปส่งไหม?” เมื่อเห็นว่าทำหน้ายู่ให้คนง้อไม่สำเร็จ กฤตเมธก็กลับลำทำเป็นจะอ้อนตาม 

“ไม่ต้องร้องตามเลยคุณ  กลับบ้านไปซะ” แต่น่าสงสาร เพราะสุดท้าย คนแก่ใจน้อยอย่างกฤตเมธก็โดนแฟนเด็กปฏิเสธอย่างไร้เหยื่อใยอยูดี

“...แต่ผมอยากไปส่งนี่ อยากอยู่กับคุณ....อีกหน่อย.........” ก็อ้อนไปเรื่อยเผื่อคนรักจะเห็นใจ ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอก ว่าระยะอันตรายอย่างช่วงนี้ การที่เขากับสดายุจะตัวติดกันไปไหนมาไหน มันคงไม่ใช่เรื่องสมควร  โดยเฉพาะในแหล่งชุมนุมคนในวงการและคนในสื่อบันเทิงอย่างที่สำนักงานใหญ่แห่งนี้

เพราะฉะนั้น ในถ้อยคำสุดท้าย ปลายเสียงจึงแผ่วลง...



ฟอด...


“...!!!??”  เสียงสูดลมหายใจหนักๆ กับสัมผัสหน่วงๆที่ข้างแก้ม ทำเอากฤตเมธถึงกับนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองหน้าผู้กระทำตาโต

“...ของปลอบใจครับ” สดายุบอกกฤตเมธแค่นั้น ก่อนจะถอยตัวกลับมาที่นั่งตัวเอง

“...ยุ” กฤตเมธที่ยังคงอมยิ้มค้าง เอ่ยเรียกคนรักแผ่วเบา แอบตกใจเล็กๆที่จู่ก็ถูกโน้มคอลงไปหอมแก้ม  ‘ของปลอบใจ’ ที่สดายุหมายถึงนี่มันช่างทำหัวใจเขากระชุ่มกระชวยดีจริง

“หึหึ ไปนะ พรุ่งนี้เจอกันครับ”  เห็นกฤตเมธอมยิ้มกรุ้มกริ่ม  สดายุก็เริ่มเขินๆ  ชายหนุ่มจึงได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนใบหน้าแดงๆของตนออกมาเบาๆ แล้วคว้ากระเป๋าเปิดประตู (หนี) ลงไป ขืนอยู่ต่อ สงสัยคืนนี้จะไม่ได้แยกกันนอนตามที่ตั้งใจแน่ ดูจากสายตาของอีกฝ่ายแล้ว สดายุสามารถประเมินสถานการณ์ได้ทันที

ชิ่งตอนนี้ปลอดภัยที่สุด!

“เดี๋ยวคืนนี้ผมโทรหานะ!”  กฤตเมธรีบร้องบอกก่อนที่สดายุจะปิดประตูรถ ใบหน้าเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความสุข จนมุมปากที่ฉีกยิ้มกว้างอยู่นั้นแทบจะยาวไปจนถึงหู  ( ^ w ^ )

“....อื้ม” ( - ///// - ) สดายุตอบออกไปเพียงแค่นั้นก่อนจะรีบปิดประตูรถ แล้วรีบจ้ำหนีไปเพราะเริ่มทนตัวเองไม่ได้ ที่หน้าชักจะแดงหนักขึ้นทุกที

กฤตเมธเฝ้ามองคนรักจบลับเข้าตึกไปก่อนที่ตัวเองจะขับรถกลับออกมา ที่หมายวันนี้คือคอนโดร้างของตนที่ไม่ได้กลับไปหลายเดือน ไม่รู้ว่าป่านนี้โจรจะยกเค้าไปหมดหรือยัง

ดีนะ ที่สดายุกระโดดหนีลงจากรถไปเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องก่ออาชญากรรมลวงเด็กไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่รังรักของตัวเองเป็นแน่...

*
*
*
*
*
ในความวุ่นวาย หากเรายังคงมีกัน เราจะมองเห็นช่วงเวลาที่สุขสงบ

ในความมืดมิด หากเรายังจับมือกันไว้ เราจะพบกำแสงสว่างได้ แม้มันจะเพียงริบหรี่

แต่หากเมื่อไหร่ที่ต้องเดียวดาย

แม้ในแสงสว่างเจิดจ้า ทั้งร่างก็ราวหยุดนิ่งอยู่ในหลุมดำมืดมิด!

คนที่ไม่เคยยอมแพ้ แม้ยืนอยู่ตรงปากเหว ก็ไม่มีทางร่วงหล่น

แต่คนสิ้นหวัง แม้นอนอยู่ในที่ไร้ซึ่งอันตราย ก็ไม่วายต้องตายเพราะกัดลิ้นตัวเอง...



“ขอโทษที่รอนานนะยุ เดินไปรอที่รถก่อนเลย เดี๋ยวพี่แวะเอาขนมไปฝากน้อง รปภ. แป๊บนึง”

“...แอ่ะ จีบเด็กอยู่เหรอเจ๊?”

“บ้าแล้วคุณน้อง ป้าแม่บ้านเขาฝากพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อเย็น เพิ่งจะว่างเอามาให้เนี่ย”

“อ๋อ.......................”

“ไม่ต้องอ๋อยาวขนาดนั้นก็ได้ค่ะน้องยุ! ไปรอที่รถเลย ไม่เกิน 5 นาทีพี่ตามไป”

“คร๊าบๆ ไปก็ด๊ะ...”

สองพี่น้องคุยหยอกกันมาตามทางเดินออกลานจอดรถของตึก  แต่ระหว่างทางก่อนถึงประตูทางออก บลูม่าก็นึกขึ้นได้พอดีว่าคุณป้าแม่บ้านของชั้น high zone ฝากขนมมาให้ รปภ. กะดึก ที่เป็นหลานของป้าแกไว้ เกือบจะลืมสนิทออกจากหะว ดีว่านึกขึ้นได้เสียก่อน บลูม่าจึงไม่รอช้าที่จะขอไปทำหน้าที่ผู้ส่งส่วยที่ดี เลยให้สดายุไปรอที่รถก่อน

สดายุเองก็ไม่ได้แซวอะไรนัก แล้วพาตัวเองออกมารอที่ลานจอดรถอย่างที่บลูม่าบอก

วันนี้สองหนุ่มนัดไปทานอาหารเย็นกันที่บาร์เจ้าประจำ เพื่อนั่งคุยสารทุกข์สุกดิบ และเรื่องราวต่อจากนี้ว่าจะทำยังกันกันต่อ เพราะหลังจากที่กฤตเมธแถลงข่าวไปเมื่อเย็นวาน  มหากาพย์ก็เกิดขึ้นมากมายจนเล่าแทบไม่หวาดไม่ไหว และแน่นอนว่าบลูม่าจะไม่ยอมปล่อยผ่าน

ทว่า...ทั้งสดายุและบลูม่าไม่มีใครรู้ตัวเลยว่า

วันนี้พวกเขา...

คงยังไม่มีโอกาสได้คุยอะไรกันทั้งนั้น



‘รถเจ๊...คันไหนแล้ววะ จอดอยู่ตรงซอกไหนเนี่ย?’ สดายุบ่นอยู่ลำพัง ขณะเดินตามหารถของบลูม่าตรงลานจอด เพราะตัวเขาลืมถามพิกัดมาเมื่อครู่

“อ๊ะ! เจอแล้ว.....” ในที่สุดสดายุก็หาเจอ “จอดซะลึกเลยนะเจ๊” เลยจำต้องบ่นออกมานิดหน่อย เพราะบลูม่าผู้จัดการส่วนตัวคนดี เล่นเอารถมาจอดไว้ซะลึกลับ ไกลจากประตูทางออกโถงอาคารมาซะลิบตา

 เมื่อเห็นพิกัดที่ต้องการ สดายุก็ตั้งหน้าเดินไป โดยไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่า ในระยะไม่ไกลนักจากด้านหลัง มีใครอีกคนกำลังมุ่งเข้าหา

พรึ่บ!

“!!!!!!!!!!???”

สดายุสะดุ้งร่างสุดตัว เมื่อถูกจู่โจมจากด้านหลังแบบไม่ทันได้ระวัง เขาถูกกอดล็อคไว้ไม่ให้ดิ้นรน พร้อมถูกผ้ากลิ่นฉุนจัดกดปิดตรงจมูก

‘ยาสลบ!!?’  สดายุรู้แทบจะทันทีว่าสิ่งที่ปิดจมูกเขาไว้คืออะไร แต่แม้พยายามขัดขืนดิ้นรนก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้ ทั้งที่พยายามกลั้นหายใจแบบสุดกำลัง แต่เพราะมันนานเกินไป ทั้งยังออกแรงดิ้นรนจนใช้แรงเยอะ สุดท้ายสดายุก็เผลอสูดมันเข้าไปเต็มปอด

และวินาทีหลังจากนั้น....เขาก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย


***************************************************************


แกร่ก...แกร่ก

วี่.......วี่.............................วววว...


สองมือสั่นน้อยๆ ทั้งยังเย็นเป็นน้ำแข็งของบดินทร์  กำลังพยายามตั้งกล้อง ตรงข้างเตียงในมุมที่เห็นทุกอย่างชัดเจนที่สุด พร้อมทั้งเปิดบันทึกภาพในขั้นตอนสุดท้าย

ใบหน้าของชายหนุ่มเครียดขึง ทั้งยังหม่นหมองจนแทบไม่เหลือคราบดาราขายดีที่แสนทรนงอย่างที่ใครๆรู้จัก ไหล่ที่เคยตั้งตรงผึ่งผาย ตอนนี้ตกลู่ ราวกับคนอ่อนแอ ขาดความมั่นใจ หัวใจของเขาเต้นระส่ำกับสิ่งที่กำลังทำอยู่



"ทำไมครับคุณชิด! ทำไมต้องทำสดายุ? สดายุไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย!..."

"ใช่! มันไม่เกี่ยว แต่มันกล้าอวดดีกับฉัน สะเออะมายุ่งเรื่องของฉัน! คนอย่างมันต้องโดนสั่งสอนให้รู้สำนึก! ให้มันรู้ว่าใครเป็นใคร!!"

"...แต่"

"จะทำไม่ทำ! ถ้าไม่ ฉันจะได้เรียกใช้คนอื่น!!"

"...คุณจะให้ผมทำอะไร?..."

"...ฉันจะให้แก ข่มขืนมัน แล้วถ่ายคลิปให้นักข่าว!"

“ไม่! คุณชิด ผมทำไม่ได้!! ท...ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น!?”

“ถ้าแกไม่ทำฉันจะจ้างคนอื่น!!”

“...ได้โปรดเถอะครับคุณชิด...แบบนั้นมันมากเกินไป สดายุไปทำอะไรให้คุณ?”

“บอกให้ทำก็ทำเถอะน่า อย่าเรื่องมากนักจะได้ไหม? ไอ้สดายุก็ใช่จะไม่เคย มันกับพี่เมธ...หึ! ตกลงจะทำไหม!!?”

“........................................”

“ไอ้บดินทร์? แกจะหุบปากอีกนานมั้ย!?”

“แค่รูป.....แค่รูปใช่ไหม?”

“เออ! จะรูปหรือจะคลิปก็เอามา! แค่เป็นรูปที่มันโดนชำเราก็พอ! แกจะทำคนเดียวหรือจะเรียกพวกมารุมโทรมมันฉันก็ไม่ว่า!!”



“...เข้าใจแล้ว...”


ประโยคสนทนาในวันนั้นยังชัดเจนอยู่ในหัวราวกับมันกำลังเกิดอยู่ตรงหน้า น้ำเสียงน่ารังเกียจของชิดจันทร์ที่สั่งให้เขาทำงานสกปรกชั่วร้ายกับสดายุยังคงแว่วชัดก้องอยู่ในโสตประสาท

ชิงชังรังเกียจชิดจันทร์จนแทบบ้า แต่เหนืออื่นใดก็ชิงชังตัวเองยิ่งกว่าที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แถมตอนนี้....

เขา....คนอย่างเขา...

คงไม่สามารถเรียกว่ามนุษย์ได้อีกแล้วล่ะ

เพราะถ้าเขายังมีความเป็นคนเหลืออยู่บ้าง วันนี้เขาคงไม่ไปหาคนของชิดจันทร์ตามที่โดนโทรเรียก และคงไม่รับของที่พวกมันส่งให้...

ยาสลบ...ยาปลุก

รับมา...แล้วยัง ลงมือทำ

ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะลงมือ แต่พอเห็นสดายุอยู่คนเดียวลำพัง ในสถานที่ที่คาดไม่ถึง ลานจอดรถ เปลี่ยวผู้คน และ....ไม่ระวังตัว

ในจังหวะนั้น เขาไม่ตั้งใจ...ไม่ได้ตังใจที่จะเดินตาม ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปล็อคตัว ไม่ได้ตั้งใจจะโปะยาสลบ...

แต่...เขากลับทำมันลงไปด้วยสองมือนี้ทั้งสิ้น

แล้วตอนนี้ สดายุก็นอนสลบไสลอยู่บนเตียงของเขา

“...นี่เรา...ทำอะไรลงไป...”

น้ำเสียงของบดินทร์สั่นพร่า

“...ยุ...”

ร่างกายที่ผ่ายผอมลงไปมาก ค่อยๆขยับเข้าใกล้ร่างของคนที่ยังคงนอนนิ่ง ก่อนจะค่อยๆหย่อนกายลงนั่งข้างๆร่างนั้น  พร้อมเอ่ยคำพูดที่แสนเจ็บปวด...

“ยุ...เราขอโทษ...”



****************************************************
มาต่อค๊า
คนเขียนตื่นเต้นค่ะ ในที่สุดก็เข้าจุดไคลแม็กซ์แล้ว  และเป็นไคลแม็กซ์แบบหน่วงหนักบีบรัดหัวใจสิ้นดีซะด้วย
ไคลแม็กซ์ประมาณ 5 ตอน แบบหนักๆ และจะจบแบบ....ฟินเบาๆค่ะ หุหุ

ใครเบื่อชิดจันทร์อย่างเช่นคนเขียน โปรดกัดฟันทนนางอีกไม่กี่ตอนนะคะ บทนางใกล้หมดเต็มทีแล้วค๊า

ขอนอกเรื่องนี๊ด....
ขอโทษนะคะ ที่เก๊าเป็นนักเขียนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่งนิยายแบบตามใจข้า แถมไม่เคยตอบเม้นท์ใครเลย
แต่เก๊าอ่านทุกเม้นท์เลยน๊า ชอบทุกเม้นท์เลยด้วย รักนักอ่านทุกคนที่รักตัวละครของอนาคีค่ะ
รักกันต่อไปนานๆนะคะ (อุอิ วันนี้มาแนวซึ้ง)

ตอนต่อๆไปอีกประมาณ 5 ตอน...จะมีโศกนาฏกรรมเบาๆนะจ๊ะ...
แต่จะเกิดกับใครบ้างนั้น...ต้องไปติดตามกันต่อค่ะ

เขียนไปเขียนมา...
เรื่องนี้เป็นนิยายน้ำเน่านะคะ...คลุ้งเลย
ตัวละครมีปมทุกคน (ยกเว้นกฤตเมธ) อิอิ
ยิ่งใกล้จบ ยิ่งทวีความเน่ารุนแรง...หุหุ

แต่อย่าเพิ่งเลิกอ่านเรื่องนี้กันน๊า
อดทนกันไปจนจบเถอะนะคะ
คนเขียนจะจบให้อย่างสวยงาม
แน่นอนค่ะ...
Please!!

ปล. 1 ตอนหน้ามายาว...

ปล. 2 แว๊บไปปั่น น้องพจมานต่อ หุหุ นางกำลังจะโดนซ้อนแผนค่ะ!

 :ling3:

หายป่วยแล้วหรอครับ
รักษาสุขภาพด้วยนะ

หายแล้วค๊า ตัวลายตามระเบียบ อิอิ

ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ
เป็นอิสุกอิใสตอนแก่นี่มันทรมานโพดๆจริงๆค่ะ แถมคันแบบสุดแรงม้า
ตอนนี้ก็กลายเป็นป้าเนื้อลายค่ะ 555+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2014 21:33:30 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หยุดนะนายดิน  :angry2:  อย่าได้บังอาจแตะต้องน้องยุของช้านนนนนนน

 :beat: :z6:


ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
บดินทร์ T^T
ดราม่าจริงจัง

จะเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย
ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือจะยังไงดี

แต่เลือกสงสารละกัน
เห็นใจนาง เพราะยุยังมีเมธ
แต่บดินทร์นี่สิ แลดูจะไม่มีใครให้ปรึกษาเลย

ไม่อยากให้ดราม่าเกิดกับยุ เมธ และบดินทร์เลย
เฮ้อออออ รออ่านนะคะ

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
จริงๆอ่านเรื่องนี้รวดเดียวจบมาตั้งแต่สามวันก่อนแล้วแหละค่ะ
(แต่ขี้เกียจเลยดองเม้นไว้ก่อน ฮือ ขอโทษนะคะ T _____ T)
วันนี้ว่างๆเลยว่าจะเข้ามาเม้นยาวๆซะหน่อยเจอตอนใหม่พอดี โชคดีจังเลยค่ะ >____<

ขอแก้คำผิดให้ตอนนี้ก่อนแล้วกันนะคะ
กฤตเมะ - กฤตเมธ
ไห้ไอ้อิจฉา - ให้ได้
หะว - หัว
ตังใจ - ตั้งใจ

ก็ .. จริงๆเรื่องนี้ผ่านตามาซักพักแล้วค่ะ ในโหวตเซ็งเป็ดอวอร์ดก็เห็นบ่อยด้วย
แล้วพอดีพี่ที่สนิทกันแนะนำให้อ่าน เลยได้มีโอกาสเข้ามาเปิดๆดู พออ่านไปได้แค่ตอนสองตอนแรกเท่านั้นล่ะค่ะ
ติดหนึบเลย 555555555 หลงทั้งคุณกฤตเมธทั้งสดายุเลยค่ะ ออกจะเป็นนายเอกเฮ้วเอาเรื่องเชียว แถมยังนิสัยเสียอีกต่างหาก
แต่ไม่รู้ทำไมเรากลับหลงรักน้องตั้งแต่แรกเลย แล้วน้องก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆค่ะ น่ารักมาก ~~~ ยิ่งตอนรักกันแล้วนี่คือเขินละลายแทบตายแน่ะ
อิจฉาคุณกฤตเมธเลยที่ได้เห็นน้องมุมนั้นอยู่คนเดียว > ////////////// <

สำหรับตัวเนื้อเรื่อง .. ขอคอมเม้นท์นิดนึงนะคะ เราว่าเรื่องนี้ออกจะมีความเป็น 'นิยายดราม่า' ค่อนข้างสูงเลยค่ะ
แบบตัวละครจะชีวิตรันทดประหนึ่งนางเอกละครช่องสามช่องเจ็ดอะไรแบบนั้น แล้วก็เหมือนจะเป็นดราม่าทับซ้อนกันหลายตัวเลย 5555555555
แต่ก็โอเคนะคะ อ่านได้เรื่อยๆอยู่ดี ทั้งๆที่ปกติเราจะถูกเทสต์กับแนว Slice of life มากกว่า แต่เรื่องนี้ต้องยอมเลยค่ะ เพราะสนุกจริงๆ
ถึงบทจะละครยังไงก็จะติดตามนะคะ

รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่า อยากรู้แล้วว่าดินจะทำยังไงกับยุแล้วสิ ..
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะคะ สู้ๆค่ะ
ด้วยรัก <3

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
น้องดินนนนน สงสารน้องสุดใจ
นางชิดชั้นอยากฆ่าหล่อนมากกก  :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
อ๊ายยยยยยย น้องยุของเจ้ จะรอดมั้ยเนี่ย
จะมีใครมาช่วยมั้ยเนี่ย :katai1:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
บดินทร์อย่าทำนะ อย่าาาาาทำ
อย่างน้อยๆก็เคยเป็นเพื่อนรักกัน ถึงแม่สถานการณ์มันจัฝะบังคับขนาดนี้
โอ้ยยยยยนนนยจะไม่ไหวแล้วเนี่ยยยย. จะบ้าแล้วววววว  ใครก็ได้ช่วยทั้งบดินทร์ทั้งน้องยุที ฮรือออออ
ชิดจัยาร์หวังว่าสุดท้ายแล้วแกจะได้นับกรรมอย่างสามสม!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ item

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถ้าดินทำอย่างที่ชิดจันทร์ต้องการจริงจะไม่สงสารดินเลยนะ
เพราะคนเราย่อมมีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง และทางที่ดินกำลังจะเลือกก็ใช่ว่าจะมีทางเลือกแค่ทางนี้ทางเดียว
แทนที่จะโทษอะไรต่างๆนาๆ หรือสถานการณ์บังคับให้ทำแบบนี้ ก็ควรจะโทษตัวเองมากกว่าที่อ่อนแอ
ไม่กล้าเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง(ทั้งๆที่ก็รู้)
อารมณ์มาเต็ม 55
รออ่านอีก 5 ตอนที่เหลือจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ เอ้า ฮึบๆๆ :katai4:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
คิดใหม่ทำใหม่เถอะดิน

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
อย่าทำน้องยุเลยนะดิน
นายยังกลับตัวกลับใจได้ทัน
ถ้าน้องยุมีรอยแม้แต่นิดเดียว นายได้ไปนรกเร็วกว่าเดิมแน่

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ยุ.. อย่าเป็นอะไรนะ ภาวนาให้ดินเปลี่ยนใจ
 :hao5:

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
คนเคยโดนรุมข่มขืนมาก่อนน่าจะมีปมกะเรื่องนี้นะ คือถูกบีบให้เป็นหรือเลวโดยสันดานกันแน่... ตอนนี้นีชิดดูจะไม่ได้เน้นแก้แค้นแม่ แต่แค่เอาคืนยุเพื่อความสะใจมากกว่า

คือตอนแรกคิดว่านีชิดน่าจะแค่มีอดีตที่โหดร้าย เลยจะแก้แค้นแม่ที่นางคิดว่าเป็นต้นเหตุ แต่ตอนนี้นางทำเหมือนเป็นอาชญากรที่โฉดอยู่แต่เดิม คือโฉดเลวใส่ทุกคนมั่วซั่วไปหมด... โดยไม่เห็นทำไรกะอินังพ่อ แม่เลี้ยง และพี่น้องแม่เลี้ยงที่ทำร้ายเลย คืออะไร?? เลวกว่าแม่คือพ่อไม่ใช่รึ แล้วตอนนี้ทำร้ายยุมาก่อนทำร้ายแม่อีก คือนางมึนงงเป้าหมายตัวเองหนักไปล่ะ จะบอกว่านางลงทุนกะการทำร้ายยุมากสุด โดยแรงจูงใจอ่อนสุดอ่ะ ถึงจะโยงกลับไปว่าเอาคืนแม่ก็อ่อนอยู่ดี...

คือแค้นแม่ก็ส่งคนไปทำร้ายแม่ เอาแม่ออกมาขายสื่อสิคะ แค้นครอบครัวพ่อก็ส่งคนไปเอาคืนมันยกครัวสิคะ แล้วนี่เลือกมาลงกะยุ ขุ่นแม่ก็ดีใจแย่ไปสิ คือซ้อมเมธ ขุ่นแม่ยังมีเคืองบ้าง แต่ทำยุให้เมธเสียใจ ขุ่นแม่คงแฮปปี้เล็กๆ

นี่คือมาเน้นเอากะกฤตเมธกะยุรวมทั้งลากอิดินมาด้วยเพื่อ??? วางกาวในมือลงก่อนนะลูกนะ แล้วสาดมาม่าให้ถูกคน...  :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2014 02:12:44 โดย ppoi »

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ดินนน อย่าน้าาาาา คิดดี ๆ เถอะ

กลับตัวไม่สายนะ

Kanya97

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มากๆ ค่ะ ติดตามผลงานมาตลอด รีบๆ มาต่อให้จบนะคะ เป็นกำลังใจให้น้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ดินเอ้ยยยย

เป็นคนน่าสงสาร
ที่เราไม่อยากจะสงสารเลยยย

ดนัยมาอุ้มไปทำเมียเร็ววววววว

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ้ว ดราม่าห้าตอนรวดเลยเหรอคะ ฮ่าๆๆๆๆ
ท่าทางจะซดมาม่ากันจนท้องอืดเลยทีเดียว

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อนะคะ กอดสามที

 :กอด1:

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ยุจะรอดจากดินได้ยังไงเนีย
ยายคุณหนูชิดจันทร์ร้ายมาก

ออฟไลน์ JUzpETeR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชะนีมีปม... /me ทำหน้าระอากลอกตาแปดพันรอบ คิดในใจ นังบ้า...

ผู้ชายมีปม... โถ น่าสงสารจัง มาค่ะ เดี๋ยวเจ๊ปลอบเอง โอ๋น้าา

ฮือออออ อีกแค่ 5 ตอนเองหรอคะะะ ใจหาย ;___;

ดึงพ่อพจน์มากอด อ้าว คนละเรื่องเดียวกัน ยังไงก็จะติดตามผลงานของอนาคีต่อไปนะฮะ ❤️❤️❤️

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
มีเรื่องตลอดดด

ดินอย่าทำน้าาา  :hao5:

ออฟไลน์ Xhunters

  • 씨엘씨
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตัดได้ค้างมากค่ะ  :katai1:


ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
น้องดินคะ พี่ให้โอกาส กลับใจเหอะ
กราบบบบ

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ชิดจันทร์เธอจะรู้ตัวมั้ย ว่าความน่าสงสารของเธอไม่ได้ทำให้เกลียดเธอน้อยลงเลย :katai1:

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
กลัวใจคนเขียน

หวังว่าน้องยุคงจะไม่โดนกระทำชำเรานะคะ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
หายแล้วก็ดีค่ะ...แต่ตอนนี้สงสารสดายุมากกว่า...........

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด