ผมคือ...นางเอก‘เลือดชโลมใจ’(ติ่งจบ)“เหอะ! ลืมแล้วรึไง ว่าใครทำชีวิตกูพัง!!”“โครงการบ้านเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะมึงถอนหุ้น ทั้งยังถอนสัญญาของงานกูทั้งหมด! ขนาดงานสุดท้าย ที่กูอุตส่าห์พยายามหามาจนได้ อุตส่าห์จะได้เล่นเป็นพระเอก ถึงจะเป็นแค่หนังตลกทุนต่ำ กูก็ดีใจมากแล้ว อย่างน้อยกูก็ยังมีงาน ยังหาเงินได้ แต่มึง...มึงก็ยังตามราวีจนกูโดนถอดจากบท มึงอยากกำจัดกูออกจากชีวิตขนาดนั้นเลยเหรอ อยากทำลายกูขนาดนั้นเลยสินะ กูไม่มีงาน ไม่มีเงิน แถมมีแต่หนี้ล้นหัว ชีวิตพังป่นปี้ไม่มีดี ทั้งหมดนี่ก็เพราะมึง! แล้วมึงยังหน้าด้านบอกว่าไม่เกี่ยวเหรอ!? กูทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่าง คลานเข้าไปของานจากมึง กูบอกแล้วไง ว่าพ่อแม่กูป่วยหนัก กูต้องการเงิน...แล้วสิ่งที่มึงทำกับกูคืออะไร? ไล่กูเหมือนหมูเหมือนหมา...เฮอะ” พิมานเปิดเผยความอัดอั้นตันใจทั้งหมดที่ตนมี โดยไม่เปิดโอกาสให้เสน่ห์จันทร์ได้สอดปากเข้าแทรก
ความจริงอันโหดร้าย ที่เขาได้เผชิญมา เพียงเพราะแค่หลงรักผู้หญิงตรงหน้า
“สาแก่ใจมึงแล้วหรือยัง...ที่ตอนนี้พ่อกับแม่กูตายหมดแล้ว ตายตามยถากรรม เพราะกูมันไม่มีปัญญารักษาชีวิตท่าน...กูไม่เหลือใครแล้ว พี่หวาน...กูคนนี้ไม่เหลือใครแล้ว”
พิมานตะคอกลั่นทั้งน้ำตา มองไม่เห็น แต่เสน่ห์จันทร์รู้ ว่าเสียงนั้นของพิมาน คือเสียงสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา
ไม่เหลือใครแล้ว...
พ่อกับแม่ของพิมาน...ตายแล้ว
เสน่ห์จันทร์นึกขึ้นได้ทันที ถึงวันที่พิมานเข้ามาของานจากหล่อน
'ท่านประธานครับ ผมขอร้องจริงๆ งานอะไรก็ได้ เล็กน้อยก็เอา ขอให้ผมได้กลับมาทำเถอะนะครับ ผมไม่มีเงินเลย ครอบครัวผมตอนนี้ก็ลำบากมากครับ ซ้ำพ่อกับแม่ยังป่วยอีก ผมสิ้นไร้ไม้ตอกแล้วจริงๆ ครับท่านประธาน เห็นใจผมด้วยเถอะครับ ได้โปรด ผมขอร้อง…'เป็นเรื่องจริงหรอกหรือ ในสิ่งที่พิมานพูดมา
หัวใจที่คั่งแค้น ยอกขึ้นในทันทีที่ได้รับฟัง เจ็บจุกราวกับ ถูกซัดหนักๆเข้าที่ลิ้นปี่ วันนั้นหล่อนเลือกที่จะไม่เชื่อพิมาน เพราะสันดานเสเพล ปากบอกว่ามีหล่อนคนเดียว แต่ก็เที่ยวไปควงคนโน้นคนนี้ ด้วยข้ออ้างแค่ว่า จะได้ไม่มีใครจับตาความสัมพันธ์เกินเลยระหว่างหล่อนกับมัน
จริงหรือเท็จ เสน่ห์จันทร์ไม่คิดจะสืบ แม้จะยังนอนกอดก่ายกันเร่าร้อน หัวใจหล่อนก็ด้านชาไปแล้ว คำว่ารักภักดี ที่พิมานพร่ำเพ้อไม่ขาด ไม่เคยประทับอยู่ในหัวใจเสน่ห์จันทร์แม้เพียงเสี้ยว
ดังนั้น ถึงจะไม่พอใจเวลาพิมานมีข่าวกับใครๆ แต่เสน่ห์จันทร์ก็ไม่ได้คิดจะทวงถาม กลับคิดว่าดีเสียอีก จะได้ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการลาขาดจากกัน และมันก็ได้ผล ประจวบเหมาะกับที่พิมานเริ่มมีหนี้สิน เข้าบ่อน เสเพล จนเสียงาน สัญญาที่เคยมีก็เลยถูกยกเลิก โอกาสอย่างงามที่จะตัดความสัมพันธ์ให้เด็ดขาด หล่อนจึงคว้าเอาไว้ทันทีแบบไม่มีการฟังคำอุทธรณ์
แม้ตอนนั้นพิมานจะพร่ำขอโทษ และบอกรักหล่อนมากเท่าไหร่ เสน่ห์จันทร์ก็ตัดสินโทษของพิมานไปแล้วว่าเป็นแค่คนสามานย์อย่างตัวผู้ทั่วไป ที่มีแต่มารยาสาไถ หลอกเกาะเป็นแมงดา ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่หล่อนเลือกที่จะมองคนคนนี้ในแง่ลบถึงขนาดนั้น ชีวิตนี้ผู้ชายที่หล่อนรักมีเพียงคนเดียว ดังนั้นคำรักจากชายใดไม่เคยซึมซาบเข้าสู่หัวใจของหล่อนได้ พอรับชิดจันทร์เข้ามาอยู่ด้วย หล่อนจึงหาโอกาสกำจัดพิมานในทันที แต่หล่อนไม่ได้ต้องการทำลายชีวิตของพิมาน เพียงแค่ต้องการให้เลิกยุ่งเกี่ยวกันเท่านั้น...
ไม่อยากให้ชิดจันทร์เห็น
ไม่อยากให้ชิดจันทร์ได้รับรู้
หล่อนก็แค่อยากเป็นแม่ที่ดี
แม่...ที่ไม่มีมลทิน
ผิดนักหรือไง?“ฉันเคยบอกเธอแล้วไง พิมาน ว่าโครงการบ้านตรงนี้มันขายไม่ได้หรอก ฉันบอกเธอแล้วให้เลิกทำ เพราะมีแต่เสียกับเสีย เธอก็ไม่เชื่อ ฉันเลยต้องถอนหุ้นไป...แต่เธอก็ยังไปกู้หนี้ยืมสินเขาอีก สุดท้ายมันก็ไปไม่รอดอย่างที่ฉันบอกจริงๆใช่ไหม?”
พอได้ฟังว่าอีกฝ่ายผ่านพบอะไรมา เสน่ห์จันทร์ก็ลดทิฐิโกรธแค้นลงได้ระดับหนึ่ง แล้วค่อยๆอธิบายเหตุผลให้พิมานฟังทีละข้อ ตราบใดชิดจันทร์ยังอยู่ในกำมือมัน หากหล่อนรุนแรงใส่ ผลที่ออกมาอาจร้ายแรงเกินกว่าจะจินตนาการถึง
หากพิมานเคยรักหล่อนจริง และยังรักถึงตอนนี้ ชายหนุ่มอาจยอมฟังหล่อนบ้าง
“แล้วดาราที่หมดความนิยมไปแล้ว มันก็ไม่มีงานจ้างเป็นธรรมดาใช่หรือเปล่า ฉันแค่ไม่มีสัญญาในมือต่อให้ ไม่ใช่ไปยกเลิกของเธอ แล้วไอ้หนังที่เขาให้เธอเล่นน่ะ เขาขอปลดเธอเองเพราะอยากได้ดาราที่เด็กกว่ามาแสดงแทน ฉันไม่ได้เกี่ยวด้วยเลยสักนิด อย่ามาโทษกันสิว่ามันเป็นเพราะฉันน่ะ เธอก็รู้อยู่แก่ใจนี่ว่าเธอเป็นยังไง แล้วฉันเป็นคนยังไง? ...ฉันขอโทษเรื่องพ่อกับแม่เธอ หากตอนนั้น ฉันเอะใจว่าเรื่องที่พ่อแม่เธอป่วยเป็นเรื่องจริง ฉันคงให้เธอยืมเงินก่อน แต่ฉันถามหน่อยเถอะ ใครจะไปเชื่อผีพนันได้ลงกัน พิมาน!?”
“ใช่...เราเคยมีความสัมพันธ์กัน แต่เราตกลงกันแล้วนี่ว่าจะเป็นแค่คนคลายเหงา ฉันจำได้ว่าบอกเธอไปแล้ว ว่าฉันรักใครไม่ได้ ฉันมีลูกแล้ว และถ้าวันไหนลูกมาอยู่กับฉัน ฉันก็จะมีแค่ลูก ฉันจะไม่มีใครอีก ฉันเคยบอกเธอไปแล้วไง .....”
“เธอลองไตร่ตรองดูอีกทีเถอะพิมาน ว่าสิ่งที่เธอทำมันถูกต้องหรือเปล่า การที่เธอกล่าวโทษฉัน มันยุติธรรมหรือไม่ จริงอยู่ว่าฉันเป็นฝ่ายตีตัวออกห่างจากเธอ แต่ฉันก็ไม่ได้มีใครอื่น ที่ฉันไป ก็แค่ต้องการอยู่กับลูก...มันผิดถึงขนาดที่ให้อภัยไม่ได้กันเลยเชียวหรือ?”
เสน่ห์จันทร์พยายามชักแม่น้ำทั้งห้า ร้อยเอ็ดเจ็ดเหตุผล เท่าที่จะมี พยายามโน้มน้าวใจให้ชายหนุ่มเชื่อ
“พิมาน...พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้ พี่ขอโทษที่หลบหน้าเธอ แต่ตอนนั้นพี่ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ตอนนั้นพี่รับลูกมาอยู่ด้วยแล้ว พี่แค่ไม่ต้องการให้ลูกรู้ พี่พยายามจะคุยกับเธอนะ แต่เธอกลับพยายามจะเปิดโปงความสัมพันธ์ของเรา พี่ก็เลยยิ่งกลัว...”
ทั้งยังพยายามขอร้องอ้อนวอน โดยเสน่ห์จันทร์ เลือกใช้ถ้อยคำ ที่เคยใช้แทนตัวตนในอดีตระหว่างที่ยังเป็นคู่ขากันกับพิมาน
“พี่ก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีเรื่องให้สับสน ให้กังวล เหมือนกัน เธอ...จะอภัยให้พี่ได้ไหม?...”
ดูเหมือนวิธีการกล่อมของเสน่ห์จันทร์จะได้ผล พิมานดูอ่อนลงจนรู้สึกได้ แสงฟ้าแลบถี่ ยังผลให้เสน่ห์จันทร์มองเห็น ว่าใบหน้าผู้ร้ายที่จับลูกของหล่อนเอาไว้นั้น กลับเป็นพิมานของหล่อนคนเดิม
“...จริงเหรอ?...พี่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายผม...จริงๆเหรอ?...”
พิมานเด็กดีคนเดิม คนที่ว่านอนสอนง่าย และเชื่อฟังหล่อนที่สุด พิมานคนนั้น...กลับมาแล้ว
เห็นแบบนั้น เสน่ห์จันทร์ก็เริ่มใจชื้น ทำให้หล่อนกล้าที่จะค่อยๆขยับกายสืบเท้าเข้าหาพิมานช้าๆ รอคอยจังหวะที่เหมาะสมที่สุด ในการขอตัวชิดจันทร์คืน
“จริงสิ...พี่เคยหลอกเธอเหรอ? เชื่อพี่สิพิมาน พี่ไม่เคยคิดร้ายกับเธอนะ ขอโทษจริงๆกับเรื่องที่ผ่านมา พิมานได้โปรด...พี่ไม่อยากให้เธอทำผิดไปมากกว่านี้อีกแล้ว กลับตัวตอนนี้ยังทันนะ...ปล่อยชิดจันทร์ ปล่อยลูกพี่เถอะ พี่สัญญาจะไม่เอาเรื่อง สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างเธอ...เหมือนเดิม”
“พี่หวาน...”
ในที่สุด เสน่ห์จันทร์ก็เข้าประชิดตัวของพิมานได้สำเร็จ หล่อนค่อยๆแตะปลายนิ้ว ลงบนมือที่ยังคงกำปืนไว้อย่างแน่นหนาของพิมานแผ่วเบา พลางเอ่ยปากอ้อนวอนอีกหน ซึ่งหล่อนมั่นใจอย่างที่สุดว่าในที่สุดแล้วพิมานจะต้องยินยอม... “ปล่อยลูกของพี่เถิด พิมาน...ชิดจันทร์ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้าอยากทำอะไร ก็ทำกับตัวพี่เองเลยเถอะนะ...พี่ยอมทุกอย่างแล้ว...”
“พี่หวาน...พี่ยังรักผมไหม? พี่จะอยู่กับผมหรือเปล่า ไหนๆลูกพี่ก็รู้เรื่องผมแล้ว เรากลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมได้ใช่ไหม...” พอถูกมือนิ่มที่แสนคิดถึงแตะต้องสัมผัสอีกครั้ง ความคลั่งแค้นที่มีต้นตอจากความน้อยเนื้อต่ำใจ ดูคล้ายจะสลายไปเสียดื้อๆ จะเหลือก็เพียงความหวาดระแวงเพียงเล็กน้อย เพราะมันไม่มั่นใจเอาเสียเลย ว่าเสน่ห์จันทร์จะยอมให้มันถึงเพียงนี้จริงๆ
แต่ว่ายิ่งใกล้ หัวใจก็ยิ่งเพรียกหา
คนที่ถูกหักหลัง อยู่อย่างไร้ความหวัง พอวันหนึ่งที่คนที่มันเคยคิดว่าไม่มีทางได้ใกล้ชิด กลับมาสัมผัสกันอีกครั้ง หัวใจเท่ากำปั้นก็สั่นระรัวด้วยความปรีดา พิมานรู้ตัวเองดี ว่ามันก็เป็นแค่ผู้ชายโง่ๆคนหนึ่ง คนที่มีแต่ตัว และหัวใจที่มั่นรักในเสน่ห์จันทร์เพียงคนเดียว
ดวงตาสบสายตา ความหลังครั้งเก่าก่อนฉายชัด วันคืนแสนหวานที่ยังมีกันและกัน
คนหนึ่งอยู่ด้วยเพราะรักแสนรัก
แต่อีกคนกลับอยู่เพราะความเหงา
แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกหวานล้ำเจือจาง รังรักในคอนโดเล็กๆ อ้อมกอดของกันและกัน ทุกภาพอดีตฉายซ้ำอยู่ในใจของทั้งคู่ราวหนังม้วนเก่า ทุกฉากทุกตอนเต็มไปด้วยความรู้สึก
ดวงตาสองคู่สบกันในความมืด เสน่ห์จันทร์ส่งยิ้มน้อยๆให้พิมาน พร้อมกับคำตอบที่ทำให้คนร้าย กลับเป็นอดีตคนเคยรักอีกครั้ง
“ใช่...พี่ยังรักเธอ...” มอบความหวัง ให้อีกฝ่ายมาดหมายจะสานต่ออย่างเต็มที่
พิมานยิ้ม แม้ในความมืดยังรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มนั้นช่างดูปิติยินดีเสียจนน่าสงสาร พร่ำบอกขอโทษที่ทำอะไรเกินกว่าเหตุ พร่ำขอคำสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันอีก จะทำตัวเป็นคนดีให้เสน่ห์จันทร์กลับมารักตนให้ได้เหมือนเดิม
เสน่ห์จันทร์ยิ้มให้ พร้อมพยักหน้ารับทุกคำ ไม่มีบ่ายเบี่ยง โดยมีชิดจันทร์ ที่ยังคงถูกล็อคตัวไว้ ยืนเป็นพยานให้ทั้งที่ไม่ได้ต้องการ
ขยะแขยง...คืออีกความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับชิดจันทร์นอกเหนือจากความรู้สึกกลัว ไม่ว่าคนที่ได้ชื่อว่าแม่ตอนนี้จะต้องการทำอะไร หรือทำไปเพื่ออะไร ก็ไม่สามารถทำให้คนเป็นลูกคนนี้รู้สึกดีขึ้นมาได้ ชายโฉดที่จับเธอมาคือคนที่มีค่าไม่ต่างจากชู้รักในสายตาของชิดจันทร์ แม่เคยนอนกับคนคนนี้ เป็นผัวเมียลับที่ต้องแอบกิน ลักลอบอำพราง น่าสมเพช!
ในขณะที่ทิ้งเธออยู่ในนรก เพียงลำพัง แม่คนนี้คงไม่รู้สึกรู้สาอะไร
การไม่มีลูกคนนี้ในชีวิต แม่คงมีความสุขสำราญใจมาก ถึงได้ระเริงผู้ชายได้อย่างไม่นึกละอาย แค่คิด ชิดจันทร์ยิ่งรู้สึกรังเกียจหนัก จากที่เกลียดเป็นยิ่งเกลียด แม่ต้องชดใช้!
ระหว่างฟังแม่ตน มารยาสาไถใส่อดีตหนุ่มคนรัก ชิดจันทร์ก็ได้แต่คิดเคืองแค้น พร้อมแช่งชักหักกระดูกทั้งคู่อยู่ในที
‘ถ้ารักกันมากขนาดนั้น ก็ไปอยู่ด้วยกันให้รู้แล้วรู้รอดไปซะสิ! แล้วช่วยไปไหนก็ไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเสียที!!’“ปล่อยลูกพี่เถอะนะ...จบเรื่องวันนี้ แล้วเราค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่ ดีไหมพิมาน”
เสน่ห์จันทร์ยังคงเอ่ยคำหวานขับกล่อม เรียวนิ้วซีดขาวเพราะชื้นฝน บรรจงแตะลงบนผิวแก้มสากเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ มือที่คลายจากคอของชิดจันทร์เป็นสัญญาณว่า พิมานหลงไปตามคำพี่หวานของมันเรียบร้อยแล้ว
พิมานยิ้มจนแทบจะเห็นฟันครบทุกซี่ ดูกระดี้กระด๊าปรีดาอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อความชิงชังสลายไปจากใจ ความรักซื่อๆก็ปรากฏสู่สายตาของเสน่ห์จันทร์ มันเจิดจ้า มันชัดเจนจนหล่อนต้องหลบตา เบือนหน้าหนี
มันสายไปแล้ว...
สายมากเหลือเกิน...
เสน่ห์จันทร์สูดลมหายใจระริก กระบอกตาร้อนผ่าว น้ำตาที่หลังไหลในความมืด ไม่มีใครสามารถมองเห็น
กลับหลังไปไม่ได้แล้ว...
.......พิมาน พี่ขอโทษ พิมานยิ้มแย้มและยอมปล่อยตัวชิดจันทร์ในที่สุด ปล่อยมือจากร่างลูก เพื่อจะโผเข้ากอดร่างแม่ แต่ทว่าเสน่ห์จันทร์กลับเบี่ยงกายหลบ ก่อนหันไปประคองกายชิดจันทร์เร็วรี่ “ขอบใจนะพิมาน ขอบใจที่เธอยอมฟังพี่” เสน่ห์จันทร์รีบเอ่ยปากขอบคุณพิมาน พลางเร่งพาชิดจันทร์ห่างออกจากร่างสูง “ขอพี่แก้มัดลูกก่อนนะ” หล่อนอธิบาย ถึงเหตุผลที่ยังไม่ยอมให้กอด และพิมานก็เข้าใจ ไม่เป็นไร
มันรอได้เจ็บตรงไหนหรือเปล่าลูก...หนูกลัวมากหรือไหม...โถ คนดีของแม่ แม่อยู่นี่แล้วลูก แม่อยู่กับหนูแล้ว... ระหว่างประคองตัวชิดจันทร์ให้ออกห่างจากพิมาน เสน่ห์จันทร์กระซิบถามเสียงสั่นพร่าตลอดทาง ร่างหล่อนเองก็สั่นระริก จนชิดจันทร์รู้สึกได้ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนหันมองหน้าแม่ตัวเองด้วยความสงสัย ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว นี่เป็นครั้งแรกที่แม่ ใช้ถ้อยคำหวานหูขนาดนี้ถ้อยคำที่ทำให้หัวใจของชิดจันทร์อุ่นวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ นี่น่ะหรือ...ความรัก ความห่วงใย?
ไม่ต้องกลัวนะลูก แม่จะไม่ให้อภัยคนที่ทำร้ายลูกเด็ดขาด...
...แม่!? “จับมันเลยค่ะ คุณตำรวจ!!”เสน่ห์จันทร์ตะโกนสุดเสียง พร้อมรวบชิดจันทร์เข้ามากอดแน่น แต่ด้วยความที่ขาชิดจันทร์ยังคงถูกมัด สองแม่ลูกจึงเสียหลักล้มลงทันที
วางอาวุธลงซะ!!!พร้อมกันกับที่ตำรวจร่วมห้านาย ถลาออกจากที่ซุกซ่อนด้วยอาวุธครบมือ จ่อเล็งไปทางคนร้ายที่ยังคงยืนยิ้มค้าง
“...พี่หวาน?...” มันครางชื่อหญิงอันเป็นที่รักขึ้นแผ่วเบา ด้วยใบหน้าสับสน
ก่อนตัดสินใจเดินเข้าใกล้ร่างนั้นช้าๆ
“พี่ให้ตำรวจมาจับผมทำไม?...บอกเขาสิ เราตกลงกันแล้ว...”
ปัง!นัดแรกเข้าที่ต้นขาขวา ทันทีที่พิมานตั้งท่าจะถลาเข้าหาเสน่ห์จันทร์
เสียงปืนทำให้สองแม่ลูกสะดุ้ง โดยเฉพาะเสน่ห์จันทร์ที่กำลังกอดลูกของตนแน่น ป้องร่างตนปิดร่างชิดจันทร์เอาไว้ หากแม้จะเกิดอะไรขึ้น หล่อนขอเจ็บเสียเอง
“......พี่หวาน?...”ยอมมอบตัวเสียดีๆ วางอาวุธลงซะ! อย่าให้ต้องเตือนซ้ำ!!“...พี่หวาน?...”สายฝนยังคงกระหน่ำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหยุดคนร้ายให้ได้ โดยไม่ต้องการให้ถึงชีวิต ทว่าจนถึงตอนนี้ พิมานก็ยังไม่ยอมหยุด แม้โดนยิงไปที่ต้นขาไปแล้วหนึ่งนัด ร่างนั้นก็ยังคงยืนหยัด ไม่ยอมล้ม ปากยังคงพร่ำเรียกเพียงชื่อของเสน่ห์จันทร์ ทั้งยังพยายามย่างกรายเข้าใกล้
ปัง!!นัดที่สองที่ลั่นออกมา เฉียดแขนขวาที่กำปืนอยู่ ทว่าพิมานยังคงไม่หยุดเดิน
“...หลอกกัน...สินะ...ที่ว่าจะอยู่ด้วยกัน..พี่...หลอกผม...สินะ”เสียงครางเครือ สะอึกสะอื้นรวดร้าว ดังกระท่อนกระแท่นมาจนถึงด้านหลัง เสน่ห์จันทร์ยิ่งกอดชิดจันทร์แน่นขึ้น ด้วยกลัวว่าพิมานจะหลุดมาทำอะไรลูกหล่อนได้ กลัวเหลือเกิน หล่อนไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว ไม่อยากให้ใครทำร้ายลูกของหล่อนอีกแล้ว
“รีบจัดการมันซะทีสิ!!” เสน่ห์จันทร์ตะโกนขึ้นสุดเสียง หวังให้ตำรวจช่วยรวบตัวพิมานไปเสียที
ทว่าทันทีที่สิ้นคำ พิมานก็ตะโกนลั่นออกมาเช่นกัน
“นังอสรพิษ!!”ปัง! ปัง! ปัง!!!!กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเสียงปืนสามนัดดังขึ้น พร้อมกับที่ร่างของพิมานทรุดลง
เพราะบันดาลโทสะที่ถูกเสน่ห์จันทร์หลอก พิมานเลยจ่อปืนเล็งร่างหญิงสาวพร้อมวิ่งกะโผลกกะเผลกเข้าหา เป็นการจงใจขัดขืนต่อสู้ ตำรวจจึงจำเป็นต้องยิงสกัดไว้ โดยพยายามหลีกเลี่ยงจุดตายให้ได้มากที่สุด แขนและขาจึงเป็นเป้าที่ดี
ทว่าเพราะความมืด และคนร้ายเคลื่อนไหว กระสุนนัดหนึ่งจึงพลาดไปถูกเข้าตรงท้องน้อยของพิมานแทน
ชิดจันทร์กรีดร้องในลำคอด้วยความตกใจ ด้วยเพราะยังถูกปิดปากไว้ หล่อนจึงไม่อาจเตือนแม่ได้ทัน ว่าพิมานถลามาจนถึงด้านหลังแล้ว และทันทีที่ถูกคมกระสุน ร่างสูงใหญ่นั้นก็ล้มทับเสน่ห์จันทร์เข้าเต็มรัก
ตำรวจทั้งห้านายกรูกันเข้ามา แต่ทว่าก็ช้าไปกว่าอ้อมแขนของพิมานที่สวมกอดล็อคเสน่ห์จันทร์เข้าหาตัวได้ในที่สุด เสน่ห์จันทร์ไม่ได้ดิ้นรน หรือทำอะไรมากไปกว่าการร้องไห้ หล่อนยอมอยู่ในอ้อมกอดเปื้อนเลือดของพิมานแต่โดยดี สิ่งเดียวเท่านั้นที่หล่อนอ้อนวอนต่อเจ้าของอ้อมแขน
“ปล่อยลูกพี่ไปนะ...พิมาน...พี่ยอมทุกอย่างแล้ว...” ชิดจันทร์เบิกตาโพลงทันทีที่ได้ยินคำตอบจากไอ้ชั่วช้าด้านหลังคนเป็นแม่
“อยู่กับผม...ตลอดไปนะ...ผมรักพี่”มันพูดพร้อมแนบใบหน้าเข้าหาเสน่ห์จันทร์จากทางด้านหลัง กระทั่งแก้มแนบแก้ม ก่อนจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลือ กดปืนเข้าที่ขมับของตัวมันเอง
เสน่ห์จันทร์สบสายตาลูกรักครั้งสุดท้าย...ปัง!! เสียงกัมปนาทดังขึ้น ส่งสองร่างทรุดฮวบลงไปนอนเคียงกัน
พร้อมกับเสียงร้องไห้ดังลั่น ของผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว หนึ่งภาพสุดท้ายตราตรึงอยู่ในดวงตา สามคำสุดท้ายดังก้องอยู่ในโสตประสาท รอยยิ้มสุดท้ายฝังลึงลงสู่ในวิญญาณ
...ชิด นางฟ้าคนดีของแม่
แม่รักหนูนะ
แม่ขอโทษ.....****************************************************************
จากใจคนเขียนคนนี้ถึงเสน่ห์จันทร์...
ขอโทษด้วย ในความเห็นแก่ตัวของฉันนะ
ฉันเสียใจ... ที่ฉันสร้างเธอขึ้นมาให้อยู่แต่กับเรื่องที่แสนโหดร้าย ขอโทษจริงๆ...
แต่จากนี้ไปเธอจะไม่ต้องหลงทาง ไม่ต้องอยู่กับความหวาดหวั่นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
ในที่สุดเธอก็ได้อยู่อย่างสงบเสียที อภัยให้ฉันเถิดนะ
สัญญา ว่าเธอจะอยู่ในใจฉันตลอดไป
หลับให้สบาย...ลาก่อน
*
*
*
ความรู้สึกตอนนี้...
กรี๊ดดด!! จบตอนได้เสียที! จากนี้จะเขียนแต่ฉากรักใสๆหัวใจสี่ดวงบ้างแล้ววว!!!!
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ตะเตือนใต ทั้งนั้น TT^TT
(เก๊าเพิ่งจะฆ่าคนที่เก๊าสร้างขึ้นมากับมือตายไปถึงสองคนแน่ะ...ฮรือออ)

พล็อตนิยายน้ำเน่าเจ้าค่ะ แม้แต่คนแต่งเองยังหาเหตุผลไม่ได้เลย
อย่าเอาสาระกับนิยายเรื่องนี้เลยนะค่ะ อะฮึ่ก อะฮึ่ก

ขอบคุณที่ติดตามค๊า
อนาคี // Thearboo 