ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1269054 ครั้ง)

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เอาจริงๆ นะ เราสงสารพิมานมากอ่ะ
ส่วนจันทร์ทั้งสองดวงรับกรรมไปละ 1
เหลืออีก 1 จะคิดได้หรือเปล่า

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เง้อออออ น้ำตาพรากกกกก

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
อิสารเลว ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่มาสาปแช่งมัน
หวังว่าสุดท้ายอิเสน่ห์จันทร์มันจะไม่เหลือใครนะ
ขอให้มันมีจุดจบที่น่าสมเพชที่สุด แต่ก็ไม่อยากให้มันตาย
เพราะเราว่ามันง่ายและสบายเกินไป ต้องให้มันอยู่ทรมานนานๆถึงจะสาสม
เอาตรงๆนะถ้าเราเป็นลูกของมันยิ่งมาเห็นมารู้เรื่องแบบนี้ยิ่งจะเกลียดแม่ตัวเองเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะเข้าใจ
คือแบบสงสารพิมานมาก ถ้าเป็นเราๆก็คงจะหาทางแก้แค้นเอาคืนแบบนี้หรืออาจมากกว่านี้ก็ได้
คนเลวๆขอให้มันต้องรับกรรมและเจ็บปวดอย่างทรมานด้วยเถอะ  :z6: :z6: :z6: :beat: :beat:

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
มีท่านผู้อ่านที่รักหลายท่านที่สามารถมองเสน่ห์จันทร์ได้ทะลุปรุโปร่งมาก อนาคีถึงกับปรบมือเกรียว ประทับใจมากค่ะ
แท้จริงแล้ว อนาคีตั้งใจให้คนที่ร้ายสุดในเรื่องคือ เสน่ห์จันทร์ค่ะ แต่บังเอิญยัยลูกสาวมันออกตัวแรงกว่า คนเลยเกลียดมันเยอะ หุหุ

ตั้งใจให้เสน่ห์จันทร์เป็นพวกร้ายลึก เบื้องหน้าเป็นผู้ใหญ่น่านับถือ แต่เบื้องหลังมีปม
เป็นคนที่คิดว่าพระเจ้าไม่เคยเข้าข้าง หลังผ่านเหตุการณ์หลายๆอย่างมา ทำให้เธอเลือกที่จะรักแค่รักตัวเอง
และคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ถูกกระทำตลอดเวลา
สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไว้คือลูก แต่ก็ดันเป็นลูกอย่างชิดจันทร์ซะงั้น...เอ้าก็ซวยไป...

ส่วนชิดจันทร์ เกลียดแม่ ที่ไม่เคยเหลียวแลตัวเองอยู่แล้ว
และยังมีส่วนของความเป็นเด็กขี้อิจฉา เนื่องจากถูกคุณย่าสปอลย์มาเยอะ
พออะไรไม่ได้ดั่งใจนางก็จะเหวี่ยง เหวี่ยง เหวี่ยง
ชิดจันทร์คิดอยู่ตลอดเวลา ว่าเหตุผลเดียวที่หล่อนต้องมีชีวิตบัดซบแบบนี้
ก็เพราะมีแม่อย่าง เสน่ห์จันทร์

ในฐานะคนเป็นแม่ เสน่ห์จันทร์รักชิดจันทร์อยู่แล้ว แต่เพราะไม่ได้เลี้ยงมากับมือ ทำให้ไม่อาจสนิทใจกับลูกได้
แต่ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อชดเชยให้ชิดจันทร์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

โชคร้ายหน่อยที่ชิดจันทร์ไม่รับรู้ในจุดนั้น ความรู้สึกที่มีให้กับเสน่ห์จันทร์
ก็แค่ผู้หญิงที่คลอดหล่อนออกมา มีค่าไม่ต่างกับคนอื่นคนไกลในสายตาหล่อน

การโคจรมาพบกันของสองแม่ลูกจึงกลายเป็น ปมปะทะปม
เสน่ห์จันทร์ : โลกรังแกฉัน
ชิดจันทร์ : แม่รังแกฉัน

เพราะฉะนั้นจึงเป็นเช่นฉะนี้...

ขอบคุณที่ร่วมเสพสมไปพร้อมกันนะคะ
อนาคี//Thearboo

ปล. เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยสำคัญ ดังนั้นเลยมาในนาม Thearboo จ๊า

 :hao7:

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
เราสงสารพิมานนะ เพราะ
ถ้าเสน่ห์จันทร์เข้าใจตัวเอง
ไม่เห็นพิมานเป็นแค่คนคลาย
เหงาเรื่องนี้ก็อาจไม่เกิด

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ Chrysan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พิมานนนนนนนนนนน ตายไปกับมันทำไม  :m15:
อินี่มันต้องยืนต้นเหี่ยวตายอย่างทรมาน

รอรักใส ๆ หัวใจสี่ดวงดีกว่า
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
         :heaven

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารพิมานมากๆ ส่วนเสน่ห์จันทร์ก็เห็นใจแต่ไม่สงสารว่ะ
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ก็เพราะทำตัวเองแท้ๆ

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
แม่ตายแบบนี้ ชิดจันทร์จะคิดได้บ้างป่าวเนี่ย

ปล. ไม่รู้สึกเศร้ากับการตายของสเน่ห์จันทร์เลยอ่ะ เพราะมันคงเป็นกรรมที่สร้างไว้กับพิมานจริงๆ
เราอ่านแล้วยังสงสารพิมานมากกว่าสเน่ห์จันทร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mook0007

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
สงสารพิมานอ่ะ รักเขาจนหมดใจถึงถูกหลอกกี่ครั้งก็ยังเชื่อ
ฮีร้ายเพราะชีวิตรันทดจริงๆ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
 :o12:

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อนะคะ
ตอนนี้ไม่รู้จะพูดยังไงเลยจริงๆ

ออฟไลน์ JUzpETeR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เมนท์รวด

ดนัยเป็นคนตลก 555555555 ก็จริงนะ หมดเรื่องแล้ว ช่วยยุได้แล้ว จะอยู่ทำไมวะ กลับดิเฮ้ย

แต่ยุก็นะคนดีของสังคม... ไม่เข็ด แต่ถ้านี่อยู่กับดนัย คงแบบ เดี๋ยวมึง กลับไปเสือ..กก่อน ถถถถถถถถถถถถถถ

ไม่ได้มีความคิดจะช่วยเลอ แค่อยากรู้อยากเห็น

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนองเนอะ

ถึงจะบอกเกลียดชิดจันทร์ยังไงก็อดสงสารนางไม่ได้อะ

สังคมและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เด็ก มันถูกปลูกฝังมาจนแก้ไขไรไม่ได้แล้ว

เชิญบำบัดจิตค่ะ

ส่วนเจ๊เสน่ห์จันทร์... RIP ค่า~ อ้อ พิมานด้วยนะ .____.

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
โฮกกก อารมแบบพูดไม่ออก  :hao5:
มาต่อไวๆนะฮะรอออ   :')

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ่านมาจนถึงตอนนี้ เหมือนละครสำท้อนสังคมยังไงไม่รู้
น้ำงี้ไหลพรากกก
อารมณ์แบบความรักของเสน่ห์จันทร์ต่อชิดจันทร์
ที่มารู้เอาตอนตายจากกัน

ส่วนพิมาน อืม ความรักมันทำร้ายคนได้หลายรูปแบบ
น่าสงสารนะ โดนหักหลังจากคนที่ตัวเองรัก

เป็นการลงเอยที่สะเทือนใจ แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
อุ้ย แผ่นดินสูงขึ้นมาทันทีเลย
ดีใจที่นางตายไปเสียที

ออฟไลน์ toshiba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารพิมานอ่ะ ร้องไห้เลยอ่ะ พอเจอปมของพิมาน เพราะรักมาก รักจนไม่สนว่าอะไรถูกหรือผิด

RIP.พิมาน // ป.ล.ถ้าเราเจอคนที่รักเราได้มากเท่าพิมานน่ะ จะกอดเขาไห้แน่นๆเลย

และสมน้ำหน้าน่ะค่ะ!! คุณเสน่ห์จันทร์ เลววว!! คำนี้เท่านั้นที่ให้หล่อนได้ เมื่อก่อนสงสารน่ะ
แต่พอมารู้เรื่องคือนางทำตัวเองทั้งนั้น ทั้งเรื่องลูก เรื่องพิมาน ความคิดนางไม่เหมาะจะเป็น
ประธานบริษัทเลย คิดอะไรง่ายๆ บ่งบอกถึงนิสัยมักง่าย ฉาบฉวย คิดถึงแต่ตัวเอง
และประโยชน์ที่ตนจะได้ โดยไม่สนว่าต้องเหยียบหัวใคร ต้องทำลายความรู้สึกใคร
และคนแบบนางมีเยอะเลยน่ะ ในสังคมสมัยนี้ แต่พูดจริงๆอย่าได้มารู้จักกันน่ะค่ะ จะจิกหัวตบให้

ป.ล. ยังห่วงชิดจันทร์น่ะว่าต่อแต่นี้ไปชีวิตหล่อนจะเดินไปในทางใด ก็อย่างที่สดายุบอกแหละ
        อย่าใช้ความลำบากและน่าสงสารของตัวเองมาเพื่อใช้เป็นเหตุผลในการกระทำความผิด
        เรื่องต่างๆ เพราะถ้าหล่อนยังคิดอยู่แบบนั้นแล้วเมื่อไหร่ชีวิตหล่อนจะหลุดพ้นล่ะค่ะ เอาหล่ะ
        เอาเรื่องนี้เป็นบทเรียนและหลังจากนี้ก็ปรับปรุงตัวซะใหม่ ฉันรู้ใจจริงหล่อนไม่ได้ร้ายหรอกน่ะย่ะ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณค้าาา ที่แต่งเรื่องดี ทำให้เค้าอินได้ขนาดนี้ ติดมากกก555  o13

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ticha.wrr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
‘ปลายฝนต้นหนาว’
(ครึ่งแรก)



หยาดน้ำฟ้ารินร่วงเป็นรวงฝน
ไหลหลากล้นหล่นลู่สู่สังขาร
ให้เปียกปอนอ่อนไหวในดวงมาลย์
ให้สะท้านปานนกตกจากรัง

หนาวฝนเหน็บเจ็บเนื้อเถือใจนัก
หนาวฝนรักหลั่งนองต้องมนต์ขลัง
หนาวฝนร้ายฝนลวงหน่วงใจพัง
เจ็บเจียนคลั่งคมฝนคมยิ่งคมใด

หลังฝนผ่านลานฟ้ากว้างสว่างยิ่ง
ฟ้าหลังฝนงามจริงยิ่งสิ่งไหน
รอยฝนเปื้อนไม่นานเลือนระเหยไป
ดวงตะวันฉายแสงใหม่ให้เห็นทาง

เหมันต์เคลื่อนเยือนถิ่นสิ้นวสันต์
ลมสวรรค์พัดเป่าเข้าสะสาง
เป่าเปียกฉ่ำช้ำใจให้เบาบาง
คลายทุกข์สร่างแม้ยังหนาวเหน็บเจ็บตรม

หนาวเนื้อพอห่มเนื้อห่อก็คลายหนาว
หนาวทรวงร้าวใจห่มใจได้สุขสม
เมื่ออุ่นพอเจ็บก็หายคลายระบม
มีแรงให้เดินต้านลม...จนสุดทาง.



นาฬิกาตีบอกเวลาแปดโมงเช้าภายในห้องพักฟื้นสีขาวสะอาดร่างสูงใหญ่ที่นอนหลับใหลมาเนิ่นนานเพราะฤทธิ์ยาสลบผสมรวมกับความอ่อนเพลียจากการที่เสียเลือดมากในที่สุดก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นเสียที

และแรงขยับกายเพียงนิดก็ทำให้คนที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงได้ลืมตาตื่นขึ้นมาได้เช่นกัน

"พี่เมธ..." คือคำแรกที่กฤตเมธได้ยินจากคนข้างกายแต่ด้วยเพราะสมองยังคงไม่หายมึนงงเลยยังจับใจความไม่ได้เท่าไหร่ว่าคำคำนั้นแสนหวานขนาดไหน

"เป็นไงบ้างยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?" เห็นว่าคนที่ห่วงหาฟื้นลืมตาเสียทีสดายุก็ไม่อาจเก็บงำความตื่นเต้นเอาไว้ได้ในที่สุดกฤตเมธก็ฟื้นแล้ว
มือแกร่งด้านขวาถูกตระกองขึ้นมาแนบแก้มด้วยความอาวรณ์ดวงตาทอประกายยิ้มเอ่อท้นไปด้วยหยาดน้ำอุ่นแห่งความปรีดาทว่าเรียวปากอิ่มกลับเม้มแน่นด้วยกลัวว่าหากเอ่ยอะไรออกมาแม้เพียงเสี้ยวคำในตอนนี้จะกลั้นก้อนสะอื้นที่ขึ้นมาจ่อรออยู่ตรงคอไม่ไหวไม่อยากร้องไห้เดี๋ยวคนเจ็บจะเสียขวัญเพราะมันไม่ใช่แค่เพียงความเสียใจที่เห็นกฤตเมธเจ็บ

มันยังมีเรื่องที่ทำให้คนเจ็บต้องเจ็บยิ่งกว่านั้น...

กฤตเมธตื่นเต็มตาได้ในที่สุดเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ข้างฝ่ามือที่ถูกเกาะกุมแน่นหนาพอหันมองก็เห็นว่าคนสำคัญของเขาที่ยังนั่งหน้านิ่ง แต่กลับมีหยดน้ำตาหยดเผาะแผะ

"นี่...อย่ามาร้องไห้ตอนผมกอดปลอบไม่ได้สิผมใจไม่ดีนะ"  กฤตเมธกระเซ้าพลางใช้มือขวาที่ยังใช้การได้ช่วยปาดน้ำตาหยาดเล็กหยาดน้อยบนใบหน้าเขียวช้ำ “ผมนี่แย่จริง ปกป้องคนรักก็ไม่ได้ แถมยัง...ทำให้ร้องไห้อีก”  กฤตเมธต่อว่าตัวเอง ก่อนจะพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง เขาอยากจะกอดสดายุแน่นๆ

“ใช่ ลุงอ่ะไม่ได้เรื่อง เห็นในหนังในละคร บู้ระห่ำ คนร้ายตายเป็นเบือ ช่วยนางเอกได้อย่างหล่อ พอเป็นเรื่องจริง โดนยิงคนแรกเลยนะ” สดายุแกล้งแซว ขณะช่วยพยุงร่างหนาให้ลุกขึ้นนั่งได้อย่างสะดวก พร้อมช่วยกดสวิชต์ยกเตียงข้างผนังเพื่อให้กฤตเมธได้เอนพิงสบายขึ้น

ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเล่นแรงนักหรอกนะแค่ทำไปเพื่อปูทางสู่เรื่องที่แรงกว่า ไม่รู้สิ สดายุไม่รู้ว่าควรจะเริ่มยังไง นอกจากบ่นเป็นหมีเพื่อคลายบรรยากาศ ระหว่างพาตัวเองขึ้นไปนั่งปักหลังบนริมขอบเตียง เพื่อจดจ้องใบหน้าคมคายนั้น แล้วใช้ความคิด

เมื่อคืน ตอนที่พวกเขาย้ายไปปักหลักหลบซ่อนเพื่อดูเหตุการณ์  ที่เผื่อว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉินอาจพอยื่นมือเข้าช่วยได้ทัน ทว่าเพราะอาการบาดเจ็บของกฤตเมธ  จึงทำให้ไม่อาจอยู่ต่อไปได้นานกว่านั้นได้ เพียงครู่หลังเจอกันกับดนัยที่ย้อนกลับมา กฤตเมธก็หมดสติไปเพราะเสียเลือดมาก ดนัยจึงตัดสินใจพาทุกคนกลับทันที โดยไม่อยู่รอว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ สั่งเพียงลูกน้องให้คอยสังเกตุการณ์และส่งข่าวเพียงแค่นั้น

ดนัยไม่ใคร่ช่วยใครอื่นนอกเหนือจากสดายุและกฤตเมธ สดายุก็ไม่อาจสนใจอย่างอื่นนอกเหนือจากอาการบาดเจ็บของคนรัก

ดังนั้น...จึงไม่มีใครรู้ตอนจบของเรื่องราวต่อจากนั้น

กระทั่ง...ลูกน้องที่สังเกตุการณ์อยู่ของดนัยโทรมาแจ้ง

ว่าไอ้พิมานตัวหัวหน้าโจรร้ายนั้น อัตวิบากกรรมตัวเองสิ้นใจไปแล้ว...

ตายไปพร้อมกับเสน่ห์จันทร์

แน่นอนว่าทุกคนรู้สึกเสียใจ ต่อให้เคยมีปัญหากันบ้าง หรืออาจไม่ได้สนิทสนมจริงจัง แต่อย่างน้อยๆ เสน่ห์จันทร์ก็เป็นเจ้านายที่พอมีความน่าเคารพอยู่บ้าง โดยเฉพาะกับสดายุและบดินทร์ ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า  เสน่ห์จันทร์คือ ‘ผู้มีพระคุณ’

แต่แน่นอนว่า คำว่าผู้มีพระคุณของสดายุและบดินทร์ ไม่มีทางเทียบได้เลย กับคำว่าผู้มีพระคุณของ ‘กฤตเมธ’

แล้วอย่างนี้ สดายุจะเริ่มเปิดปากบอกกับกฤตเมธอย่างไร...

“หึหึ ก็ทักษะผมมันน้อยนี่นา อาศัยลูกบ้าเข้าท้าชนอย่างเดียวเลยเนี่ย” กฤตเมธหัวเราะร่า ทันทีที่ได้ยินคำค่อนขอดของคนรัก พลางเกาหัวตอบมาด้วยความเขินเล็กๆ แม้ตอนสดายุสำทับไปว่า ‘แก่แล้วล่ะสิ’ กฤตเมธยังได้แต่หัวเราะเก้อแล้วตอบกลับแค่ว่า ‘หมดกัน มาดพระเอก กลายเป็นตัวประกอบตอนสำคัญไปเสียได้’ ก่อนจะหัวเราะแหะๆ อย่างน่าสงสารที่ถูกคนรักค่อนแคะไม่เลิก

สดายุไม่ตั้งใจว่าร้าย แต่ไม่รู้จะทำยังไง ยิ่งเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของกฤตเมธ สดายุยิ่งตื้อ

เรื่องแบบนี้มัน...ยากเกินไป

อยากเจ็บเองมากกว่า

...ขอเจ็บเองได้ไหม?


“...แค่ตัวประกอบ ก็รักจะแย่อยู่แล้ว ให้เป็นถึงพระเอก เดี๋ยวผมก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นกันพอดี...” สดายุพูดกับกฤตเมธเบาๆ ราวกับกำลังเพ้อ พลางวางศีรษะหนักๆของตนลงบนไหล่ขวาของคนที่กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่นอยู่บนเตียงคนป่วยยิ่งรู้สึกอยากร้องไห้หนักขึ้นไปอีก เมื่อถูกมืออุ่นหนา บรรจงลูบเบาที่ท้ายทอยอ่อนไหว

“ผมต่างหาก ที่เป็นฝ่ายหลงยุ หัวปักหัวปำจะแย่แล้วเนี่ย” กฤตเมธเองก็ตอบกลับด้วยถ้อยคำแสนหวาน ก่อนก้มลงจูบแผ่วเบาที่เส้นผมของสดายุ แท้จริงกฤตเมธยังคงมีเรื่องคาใจเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนอยู่ไม่น้อย เขาหมดสติไปก่อนที่จะได้รู้ว่าสุดท้ายผลมันเป็นอย่างไร แต่พอตื่นมาแล้วเจอสีหน้ากังวลของสดายุ กฤตเมก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม

เพราะ ณ ตอนนี้ เขาอยากมีแค่เรื่องสดายุคนเดียวเท่านั้น

“...พี่เมธ...”

“ครับ?”

“ท่านประธาน...ตายแล้ว”

เสียงของสดายุสั่นพร่า ตอนที่เอื้อนเอ่ย ทว่าก็มั่นคงพอที่จะสื่อให้กฤตเมธได้รับรู้ได้ทุกคำอย่างชัดเจน สดายุรู้สึกได้ว่าร่างแกร่งที่เขาใช้เป็นที่พักพิงอยู่ ลมหายใจสะดุดไปในทันทีที่เขาบอกกล่าวเรื่องเลวร้าย

สดายุไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำปลอบใจ ไม่แม้แต่คิดจะพูดคำใดๆ แค่เพียงซบหน้านิ่งอยู่กับไหล่กว้างเท่านั้น

เพราะสดายุรู้ดี

ว่าสิ่งเดียวที่สามารถปลอบใจกฤตเมธได้ดีที่สุดในตอนนี้

ก็คือความเงียบ...

ปล่อยให้เวลาได้ไหลผ่านร่างของเขาทั้งคู่ไปอย่างช้าๆ

จนกว่าหัวใจที่เจ็บยอก จะค่อยทุเลาลงบ้าง

“ขอโทษนะยุ...ไม่มีเขา ก็คงไม่มีผม...ขอเวลาผมหน่อยนะ”

“.......”

กฤตเมธขอเวลาด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งกว่าที่เคย และคำตอบของสดายุก็คือความเงียบ และอ้อมกอดที่ค่อยกระชับเอวสอบแทนการปลอบขวัญ

ถึงจะเสียใจ แต่กฤตเมธก็ไม่ได้ร้องไห้ เพียงแค่รู้สึก...

ใจหาย

*
*
*
*
*

หลังคนเจ็บฟื้นคืนสติ แพทย์เจ้าของไข้ก็เข้ามาให้การดูแล กระสุนถูกผ่าออกไปด้วยดี แม้ไม่โดนจุดจำคัญให้ต้องบาดเจ็บหนัก แต่ก็ทำให้แขนซ้ายของกฤตเมธใช้การไม่ได้ไปพักใหญ่ๆ คนเจ็บซึมลงเล็กน้อยนับจากตอนตื่น แม้กระทั่งคนเฝ้าก็เงื่องหงอยตาม สดายุยังไม่ได้คุยอะไรกับกฤตเมธมากนัก เพราะต้องหมอต้องการให้กฤตเมธพักผ่อนมากกว่า เพราะถึงจะไม่ต้องให้เลือดแล้ว แต่ด้วยความอ่อนเพลียเพราะระบมแผล เลยยังจำเป็นต้องให้น้ำเกลือและยาแก้ปวดเพื่อบรรเทา

กระทั่งเกือบจะเที่ยงตรง กว่ากฤตเมธจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พอดีกับที่อาหารเที่ยงของโรงพยาบาลมาเสริฟถึงเตียง และดูเหมือนจะไม่ได้มาแค่ข้าวเที่ยง ยังมีมนุษย์อีกโขยงหนึ่งตามหลังพยาบาลเสริฟข้าวเข้ามาด้วย โดยมีบลูม่านำหน้าดิ่งมาแต่ไกล ตามด้วยอ๊อด รุจน์ พอร์ช ซอลย่า และสุริยาวดี ผู้เป็นเลขาคนสนิทของเสน่ห์จันทร์

“ไงไอ้เสือ!สิ้นสภาพเทพบุตรเลยเว้ยเมธเอ้ย อ้าวไอ้ยุ...ไอ๋หยา หน้าเยินเชียวเอ็ง”  พี่อ๊อดพอชะโงกหน้ามาเห็น ขนาดอยู่เกือบหลังแถว ยังอุตส่าห์ตะโกนทักมาตั้งแต่ระยะไกล ให้คนเจ็บน้อยเจ็บมากที่ถูกเอ่ยถึงต้องยิ้มรับเจื่อนๆ

"คุณเมธเป็นยังไงบ้างครับท่าทางเจ็บมากเลยนะนั่นเฮ้อเดชะบุญจริงๆที่ไม่โดนจุดสำคัญคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะครับ" บลูม่าเองก็แสดงความเป็นห่วงต่อกฤตเมธอย่างสุดซึ้งก่อนจะถลาเข้าหาน้องรักพร้อมตระกองกอดอย่างเบามือ

"โถน้องยุทำไมถึงซนขนาดนี้ล่ะคะคุณน้องทำไมถึงเป็นคนที่ชอบหาเรื่องใส่ตัวขนาดนี้หืม? สกิลการใช้ชีวิตถือว่าติดลบนะคะคุณน้องฮืออ...ดูสิหน้าเน่อเยินหมดแล้วเจ็บมากไหมคะ..."  กอดไปบ่นไปประคองหน้าดูซ้ายแลขวาจับตามเนื้อตัวเขียวเป็นจ้ำด้วยความสงสารเอ็นดูยิ่งเห็นใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดเวลาโดนแตะรอยช้ำบลูม่ายิ่งอยากจะร้องไห้สงสารน้องชายคนนี้เหลือเกินฝ่ายสดายุเองพอโดนโอ๋จากพี่สาวคนสนิทกับโดนโอบกระชับด้วยอ้อมแขนทีคุ้นเคยสดายุก็พาลจะปล่อยโฮออกมาอ้อนเสียให้ได้ไม่ติดว่าอยู่กลางฝูงชนเขาคงร้องไห้ออกมาจริงๆ

"...เอ่อหายเร็วๆนะครับคุณกฤตเมธคุณสดายุ" ซอลย่าที่ยืนแอบหลังอยู่ค่อยๆสืบเท้าเข้าใกล้เล็กน้อยพลางยื่นกระเช้าเยี่ยมไข้มอบให้เพื่อเป็นกำลังใจแด่คนป่วยสดายุผละจากอกบลูม่าแล้วยิ้มรับกระเช้าเยี่ยมไข้นั้นด้วยความยินดีกฤตเมธที่นั่งอยู่บนเตียงก็เอ่ยขอบคุณน้ำใจของซอลย่าด้วย

"พี่ยุ...ฉากบู้ของพี่ในกล้องวงจรปิดอ่ะโคตรเจ๋งไปเลยว่างๆสอนผมมั่งนะผมอยากทำได้อย่างพี่มั่งอ่ะฮีโร่สุดๆ" พอเห็นว่าบลูม่ากับสดายุฟัดกันจนหอมปากหอมคอแล้วและกฤตเมธเองก็กำลังคุยกับอ๊อดพอร์ชและสุริยวดีอยู่รุจน์ที่ยืนเงียบอยู่นานก็เขยิบเข้ามาแจมที่ฝั่งสดายุแล้วเอ่ยปากชมเปาะเขารู้สึกทึ่งในตัวพี่ชายตัวบางของเขาคนนี้เป็นที่สุด

"สอนให้ก็ได้แต่อย่าผลีผลามใช้อย่างพี่เลยเจอลูกปืนเข้าก็เกือบไม่รอดเหมือนกันแหละ" สดายุตอบรับพลางหัวเราะขำที่รุจน์ให้ความสนใจในเรื่องศิลปะป้องกันตัวข้างถนนของตนด้วย

สิ้นคำสดายุทั้งสี่คน บลู ซอนยุ รุจน์ ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก

หัวใจของสดายุอุ่นวาบความสุขณตอนนี้ทำให้รู้สึกราวกับว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นเป็นแค่ฝันตื่นหนึ่งแค่ฝันร้ายตื่นเดียวเท่านั้นไม่ได้มีความหมายอะไรกับชีวิตในเมื่อตอนนี้เขาเองก็ยังมีลมหายใจอยู่ สดายุยิ้มย่องให้กับสิ่งที่อยู่รอบกาย สมัยยังโด่งดัง หยิ่งยโส ไม่เคยเห็นใครในสายตา ยามตกอับขึ้นมา รอบกายก็แทบไม่เหลือใคร มิตรแท้ หายากราวงมเข็มในมหาสมุทร ช่างเหน็บหนาว จนถึงขนาดต้องกอดตัวเองทุกวัน เพื่อให้พอข่มตาหลับลงได้

ทว่าตอนนี้ รอบกายที่เคยอ้างว้างกลับอบอุ่น ถูกคนรุมรัก รุมห่วงใย มันมีความหมายกับหัวใจของคนที่เคยโดดเดี่ยวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ดีจังที่กลับตัว ดีจังที่เปิดใจ

สดายุหันมองทางกฤตเมธ ซึ่งทางนั้นเองก็กำลังมองมาด้วยสายตาที่สื่อความหมาย...ว่ารัก ว่าเอ็นดู ว่าห่วงใย

สดายุยิ้ม เช่นเดียวกับที่กฤตเมธยิ้ม

ดีเหลือเกินที่ถูกคนคนนี้รัก

ดีเหลือเกินที่รักคนคนนี้...

ในห้องพักฟื้นพิเศษ ของโรงพยาบาลในเครือข่ายของดนัยนั้น ตอนนี้คึกคักเสียจนนึกว่าไม่ใช่โรงพยาบาล หลายชีวิตที่โหวกเหวกอยู่ในห้องสร้างบรรยากาศให้ห้องผู้ป่วยเปลี่ยนไป สิ่งขัดตาตอนนี้จึงไม่ใช่คนมากมายที่ยืนกันสลอน แต่เป็นกฤตเมธที่เป็นคนป่วยต่างหาก เล่นเอาเจ้าตัวรู้สึกอยู่ผิดที่ผิดทางชอบกล

ทว่าความครื้นเครง ก็ไม่ได้อยู่นาน

จริงอยู่ว่ากฤตเมธและสดายุยังบาดเจ็บ เป็นไปได้เหล่าคนเยี่ยมก็ไม่อยากให้อะไรกระทบใจ ทว่า พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ในโลกของตัวเองได้นานนัก

เพราะความโหดร้ายในโลกของความเป็นจริงกำลังยืนอยู่หน้าบ้านเตรียมเปิดประตูทักทาย พวกเขาจึงจำเป็นต้องรีบแจ้งให้เจ้าบ้านได้ระวังตัว



“เออใช่ พี่อ๊อด เรื่องถ่ายหนังซีนสุดท้าย จะเอายังไงดีครับ”  คุยกันไปกันมาอยู่ครู่ใหญ่ๆ สดายุก็เข้าไปกระแซะถามพี่อ๊อด ผู้กับกับของตนด้วยความรู้สึกผิด หากเขาไม่บุ่มบ่ามทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง เรื่องคงไม่ลงเอยแบบนี้

กฤตเมธคงไม่เจ็บ

หนังก็คงได้ถ่ายต่อแบบไม่สะดุด และ...

ไม่แน่ว่า ตอนจบของเรื่อง

อาจไม่มีคนตาย


“ของเมธกับยุ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ส่วนที่ต้องถ่ายวันนี้ ก็แค่ถ่ายแก้ ไม่ต้องถ่ายหรอก เดี๋ยวพี่ไปแก้ในฟิล์มเอาก็ได้ ไม่ต้องกังวล มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก” อ๊อดตอบ พลางตบบ่าของสดายุเบาๆแทนการให้กำลังใจ ว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเสียขวัญ

“งั้นก็หมายความว่า...”

“อืม ปิดกล้องแล้ว เสร็จ จบ ครบครัน”

คำตอบของอ๊อด เรียกเสียงร้อง ‘เยส’ เบาๆ จากสดายุ ก่อนจะถามตามมารยาทกลับไปว่า มันโอเคแน่เหรอ เพื่อขอคำยืนยัน และทันทีที่อ๊อดพยักหน้า แล้วบอกว่าที่จริงซีนที่จะถ่ายวันนี้ก็ไม่ได้จริงจัง เพียงแค่อยากนัดมาสังสรรค์หลังถ่ายจบก็เท่านั้น แต่พอดีมีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน เลยต้องเลื่อนวันนัดกินดื่มก็แค่นั้นเอง

“เฮ้อ...ยุเอ้ย สิ่งที่เอ็งต้องกังวลน่ะ ไม่ใช่เรื่องการถ่ายทำหรอกนะ”

อ๊อดกล่าวขึ้นในที่สุด ไหนๆ สดายุก็เป็นคนเริ่มแล้ว ทันทีที่อ๊อดเอ่ยประโยคนี้ ทั้งหมดในห้องก็พากันเงียบกริบ ‘ไม่ใช่เรื่องดีแน่’ สดายุรู้สึกได้ทันที และประโยคต่อมาของอ๊อด ก็ทำให้เขากับกฤตเมธถึงกับตัวชาจริงๆ

“นักข่าวรู้เรื่องเมื่อคืนแล้ว และกำลังขุดคุ้ยกันอย่างหนัก ว่าทำไม กฤตเมธถึงต้องเสี่ยงชีวิตช่วยสดายุแบบไม่กลัวตายขนาดนั้น...”

‘กะอยู่แล้ว’ นั่นคือความคิดของทั้งคู่ทันทีที่ได้ฟัง ก็นะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็ควรทำให้เรื่องของพวกเขาแดงอยู่

“ถึงตอนแรกพวกมันจะพุ่งประเด็นไปที่รักสามเส้า ว่าทั้งยุและเมธบุกไปช่วยชิดจันทร์ทั้งคู่ก็เถอะ แต่พอไอ้พวกคนร้ายที่ถูกจับได้ มันสารภาพ พร้อมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟังเท่านั้นแหละ ประเด็นเปลี่ยนเลย ‘กฤตเมธบุกเดี่ยวเพื่อช่วยสดายุ โดยไม่ชายตาแลแฟนสาวคนเก่าแม้แต่น้อย’ พี่ไม่รู้หรอกนะ ว่าไอ้คนร้ายพวกนั้นมันเล่าว่าอะไรบ้าง แต่ประเด็นนี้น่ะ ไอ้พวกนักข่าวหัวกรวย มันไปตีความเอาจากตอนที่กฤตเมธเข้าไปช่วยแค่สดายุออกมาแล้วโดนยิง...เฮ้อ ข่าวการตายของท่านประธานก็ดังอยู่ แต่ข่าวของพวกเอ็งก็สูสีนะ พี่ว่าเตรียมใจไว้ได้เลย พวกมันต้องขุดไม่หยุดแน่...”

อ๊อดร่ายยาว เพราะเขาคือตัวแทนในการบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดแก่สดายุและกฤตเมธ เล่าจบ ผู้กับกับวัยกลางคนก็ถึงกับถอนหายใจพรู หนักใจแทนน้องทั้งสองคนของตนเหลือเกิน

“ด้วยเหตุนี้แหละค่ะ วันนี้นอกจากการมาเยี่ยมพวกคุณแล้ว เรายังมาเพื่อถามความเห็นจากพวกคุณ ว่าจะเก็บตัวสักพักก่อนไหมคะ ระหว่างนั้น เดี๋ยวดิฉันจัดการเรื่องเลื่อนงานเปิดตัวหนังได้ เอาให้เรื่องมันซาลงก่อน...คุณกฤตเมธ และคุณสดายุคิดว่ายังไงคะ?”

สุริยาวดี เอ่ยขึ้นต่อท้ายประโยคของอ๊อดแทบจะในทันทันที หล่อนเป็นเลขาของเสน่ห์จันทร์ แม้ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ ใช่ว่าหล่อนจะไม่เสียใจเลยในการจากไปของท่านประธานที่ชุบเลี้ยงหล่อนมา ทว่าที่ยังคงสติ และยังคงจัดการทุกอย่างได้ยังเยือกเย็น ก็เพราะหล่อนตั้งปนิธานแล้วว่า จะรักษา และสานต่อสิ่งที่ท่านประธานของเธอทำเอาไว้ให้ดีที่สุด สุริยาวดีรู้ดี ว่าเสน่ห์จันทร์รักบริษัทนี้มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นสุริยาวดีจึงจะสานต่อมันให้ดีที่สุด ทุกอย่างจะต้องเหมือนเดิม ดังเช่นตอนที่เสน่ห์จันทร์ยังมีชีวิต

ทุกอย่างจากนี้ไป หล่อนจะจัดการเอง จนกว่าทายาทเพียงคนเดียวของเสน่ห์จันทร์จำพร้อมเข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งสุริยาวดีเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า หล่อนต้องรออีกนานแค่ไหน กว่าเด็กคนนั้นจะพร้อม

จบข้อเสนอของสุริยาวดี กฤตเมธกับสดายุก็ได้แต่นิ่งอึ้ง ก่อนจะหันไปสบตากันแทนการปรึกษา ไม่แปลกใจหรอกที่สุริยาวดี จะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งคู่ เพราะถึงอย่างไร เธอคนนี้ก็เป็นถึงเลขาคนสนิทของเสน่ห์จันทร์ เรื่องความเป็นไปของดาราในบริษัทนั้น คงจะแปลกกว่าถ้าหล่อนจะไม่รู้

สบตากันได้เพียงครู่ ทั้งคู่ก็ได้แต่ถอนหายใจบางๆ แม้จะนึกเอาไว้อยู่แล้วว่ามันจะต้องออกมาในรูปแบบนี้ แต่ไม่ว่ายังไง สดายุก็ยังคงเครียดหนัก ยังคงคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องเดิมๆ ว่าลำพังตัวเขาน่ะ ไม่มีปัญหาหรอก แต่สำหรับกฤตเมธแล้ว สดายุไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้ทำลายกฤตเมธเลย

ไม่อยากให้กฤตเมธต้องด่างพร้อยไปด้วยเลย

ถึงตอนนี้กฤตเมธยังคงนิ่งเงียบ พลางจ้องมองสดายุ ที่ใบหน้าหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด เห็นสีหน้าแบบนั้นของคนรัก กฤตเมธก็รู้ได้ในทันทีว่าสดายุคิดอะไรอยู่ ความรู้สึกอิ่มเอมเอ่อวาบไปทั้งทรวงอก พร้อมกับความเจ็บยอกที่ลามเลียใจอยู่ไม่แพ้กัน

กฤตเมธรู้ว่าสดายุไม่ต้องการให้เขาเป็นข่าว ไม่ต้องการดึงเขาลงไปตกต่ำด้วย อยากให้กฤตเมธคนนี้เป็นดาวค้างฟ้า เป็นเทพบุตรแห่งวงการจนวาระสุดท้าย ให้วงการมายาแห่งนี้ได้จารึกชื่อพระเอกตลอดกาลคนนี้เอาไว้

กฤตเมธรู้ดี ว่าสดายุคิดแบบนี้วนไปเวียนมาในหัวใจเป็นแสนเป็นล้านรอบ แม้กระทั่งในขณะที่กกกอดกัน

กฤตเมธรู้ว่าทั้งหมดนี้ เป็นเพราะสดายุรัก และให้ความสำคัญกับเขามากขนาดไหน ความอิ่มเอมนั้น ทำให้หัวใจของเขาพอโต มานักต่อนัก

แต่เพราะเขาเองก็รักสดายุไม่น้อยไปกว่ากัน ดังนั้นกฤตเมธจึงไม่มีทางเอาตัวรอดแต่เพียงคนเดียว แล้วทิ้งสดายุไว้เบื้องหลังได้ลงคอหรอก สิ่งนี้แหละที่ทำให้กฤตเมธเจ็บยอกในใจ ทำไมกันนะ สดายุถึงได้เอาแต่เสียสละ และปกป้องเขา ตกลงเป็นคนรักกัน ก็จะเกือบปีแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมให้เขาคนนี้ปกป้องบ้าง

ทำไมไม่ลองออดอ้อนความรักของกฤตเมธคนนี้บ้าง...

นี่คือสิ่งที่กฤตเมธคิดเอาไว้ในหัวทั้งหมด

ขอโทษนะยุ...ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว

 “ไม่ต้องเลื่อนหรอกครับ คุณสุริยาวดี นัดพวกนักข่าวได้เลยครับ ผมออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ จะเปิดแถลงข่าวทันที”

“เมธ!?” สดายุถึงกับตกใจเล็กน้อย ที่กฤตเมธตัดสินใจแบบนี้ ยิ่งพอได้ยินประโยคต่อมา ก็ยิ่งลมจะจับ

“ผมจะบอกพวกเขา ว่าผมกับยุคบกัน”

******************************************

ครึ่งต่อไปยาวหน่อย น่าจะมาลงได้วันอังคารหน้านะคะ
ครึ่งหลังจากนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของทางบ้านดินค่ะ เลยขอแยกไว้หน่อย อิอิ
อ่อ...มีเปิดตัวคุณแม่พี่เมธด้วยจ๊า
จะมีดราม่าแม่ผัวลูกสะใภ้หรือไม่
หรือขุ่นแม่ของพี่เมธจะหลงรักยุตั้งแต่แรกเห็น อันนี้ไปลุ้นเอาครึ่งหลังนะจ๊ะ

ปล.อย่าได้ใส่ใจกลอนง่อยๆเลยนะคะ มั่วทั้งบทเลยค่ะ 555+
ปล.2 เนื่องจากวินโดวของคอมไม่ค่อยเสถียร ทำให้การเข้าเว็ปเล้าฯค่อนข้างมีปัญหา
ดังนั้น ระเบียบนิยายอาจเป๋ไปหน่อย ค่อยตามมาแก้ให้นะคะ
 :katai4:
ขอบคุณค๊า
อนาคี99 / Thearboo


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2015 13:24:28 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
พี่เมธ ออกสื่อเลยค่ะ เด๋วชูป้ายไฟ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
หึยยย จะประกาศ จะเปิดตัวเเล้วววว

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ปกติ ไม่ค่อยอยากรู้ความเป็นไปของผู้หญิงในนิยายวาย
แต่แหม๋ อันนี้อยากรู้จริงว่าคุณน้องลูกชิดเป็นจะใดต่อ เป้าหมายความแค้นทั้งชีวิตหายไปแล้ว นางจะเคว้งไหม จะอยู่กับความรู้สึกแบบไหน

เค้าจะรอ น้องดินๆๆๆ

ออฟไลน์ SOO2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แอบกังวลกับผลที่จะตามมาแทนเลย

ว่าแต่ฝากบริษัทไว้กับชิดจันทร์เนี่ยจะไหวรึป่าว

เอาเป็นว่ารอวันที่พี่เมธแถลงการละกันนะคะ

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
พี่เมธตอบได้ถูกใจมากจ้า

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ไม่ค่อยสงสัยเสน่ห์จันทร์ สงสารพิมานมากกว่า

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ้อยยยย!! แมนฝุดๆ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ทำป้ายไฟแปบ อิอิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด