Porsche Cayenne คันหรูวิ่งห้อไปบนถนนสายหลัก ดึกสงัด มีแต่เหล่ารถพ่วง รถบรรทุกขนส่งสินค้าแล่นกันเร็วจี๋ ดนัยขับแซงสิงห์รถบรรทุกไปเรื่อยๆอย่างใจเย็น เหลือบมองคนที่เอนกายเหม่อมองข้างทางอยู่ข้างๆ ร่างสมส่วนกอดตัวเองไว้หลวมๆ ดูเหมือนต้นแขนขาวที่โผล่พ้นเสื้อยืดสีดำตัวบางจะหนาวแอร์อยู่ไม่น้อย ดนัยหักรถเลี้ยวเข้าปั้มน้ำมันโดยไม่ต้องคิด
“เอาอะไรรองท้องหน่อยไหมคุณ?” หาที่จอดรถได้ ดนัยก็ถามขึ้นด้วยความห่วงใย แต่บดินทร์ยังคงนั่งนิ่ง ดนัยจึงไม่เซ้าซี้ เขาลงไปซื้อกาแฟกระป๋อง มากระดกรวดเดียวหมด แล้วรีบกลับเข้ามาในรถ ที่มีบดินทร์นั่งเหม่ออยู่
“คุณแน่ใจนะ ว่าไม่อยากแวะอาบน้ำก่อน?” ดนัยอดถามต่อไม่ได้ เพราะหลังจากมีเซ็กส์กันเสร็จ บดินทร์ก็รีบแต่งตัวเข้าที่เข้าทางโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แม้จังหวะที่ลุกขึ้นแล้วสิ่งที่ดนัยปล่อยเอาไว้ด้านในเกิดทะลักไหลออกมา เจ้าตัวก็ไม่คิดแยแส เพียงแค่ดึงทิชชู่ไปกดซับเองจนมันหยุดไหลเท่านั้น ถึงดนัยอยากยื่นมือเข้าช่วยก็ไม่ยอม เสร็จแล้วก็รีบแต่งตัวแล้วนั่งประจำที่ เรียกร้องเพียงอย่างเดียวคือกลับบ้าน ดนัยจึงจำใจพากลับออกมาในที่สุด
“ถ้าคุณไม่สบายตัว ให้ผมแวะโรงแรม...”
“ผมอยากกลับบ้าน...ช่วยพาผมกลับบ้านที” ตบท้ายด้วยคำว่า ‘ขอร้อง’ เล่นแบบนี้ดนัยก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะดูเหมือนบดินทร์จะไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร สิ่งเดียวที่เขาต้องการตอนนี้คือการกลับไปหาครอบครัว
ดนัยจึงไม่ถามหาความอะไรอีก เขาเพียงเอื้อมไปหยิบเสื้อสูทที่แขวนอยู่ด้านหลังมาคลุมร่างของบดินทร์ไว้เท่านั้น ยังดีที่บดินทร์ไม่ทิฐิกับเขาขนาดปัดเสื้อของเขาทิ้ง แม้จะไม่มีคำขอบคุณตอบมาก็ตาม
แต่ก็ใช่ว่าบดินทร์จะสิ้นฤทธิ์เสียทีเดียว “ผมคงไม่ต้องตอบแทนค่าเสื้อคลุมใช่ไหม?” เพราะยังอุตส่าห์มีคำค่อนขอดตอบกลับมาด้วย
เจอแบบนี้เข้าไปดนัยก็ได้แต่ส่ายหน้า ปากแบบนี้มันน่าโดนอีกสักรอบจริงๆ!
“สบายใจเถอะคุณ ผมไม่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้นหรอก” ดนัยตอบออกไปอย่างเซ็งๆ คำว่า ‘เดี๋ยวก็จัดอีกรอบเสียหรอก’ ลอยฟ่องเต็มสมองไปหมด บดินทร์จะรู้ไหมนะ ว่าตัวเองทำให้ดนัยต้องอดทนมากแค่ไหน...
ไม่มีใครพูดอะไรอีกหลังจากนั้น ดนัยทำหน้าที่สารถีไปเงียบๆ
บดินทร์เองก็ได้เพียงนั่งเหม่อ...ตลอดการเดินทาง
*
*
*
*
*
กลิ่นโจ๊กหมูสับหอมฉุย พร้อมปาท่องโก๋อีก 3 คู่เป็นเครื่องเคียง ถูกเสิร์ฟให้ถึงเตียงคนป่วย อำนวยความพร้อมทั้งช้อน ทิชชู่ แก้วน้ำ แต่ยังมิวาย คนป่วยยังต้องขออ้อนต่อ
“ป้อนหน่อยสิยุ พี่ยังเจ็บแขนอยู่เลย” กฤตเมธออเซาะแต่เช้า พอมีพยาบาลดี คนป่วยจึงถือโอกาสอ้อนไม่เลิก
“อะไรกันลุง? ลุงถนัดขวาไม่ใช่เหรอ อย่าบอกว่าโดนยิงข้างซ้าย แต่มันลามมาถึงข้างขวาด้วย?” สดายุแขวะกลับไปพร้อมรอยยิ้ม รู้แกวคนแก่อยู่หรอก สงสารนะ แต่ไม่อยากตามใจมาก
“ก็มันระบม...”
“อย่ามาสำออย”
มาทางไหน ก็โดนดักหมด เล่นเอากฤตเมธหน้าหงอย ยอมรับสถานภาพของตนแต่โดยดี บ่นออกไปเบาๆว่า ‘เมียดุ’ ก่อนตักโจ๊กขึ้นมาเป่ากินเอง ด้วยท่าทางน่าสงสาร
โดนแบบนั้นเข้าไปสดายุก็ได้แต่ส่ายหน้า นี่เขาคงตามใจกฤตเมธมากไปหน่อยจริงๆสินะ
“...มานี่ ผมป้อนให้ก็ได้” และในที่สุดสดายุก็ใจอ่อน ทั้งเป่าทั้งป้อนให้คนรักที่นั่งหน้าระรื่นอ้าปากรับโจ๊กอย่างเอร็ดอร่อย
ป้อนหมดจนหยดสุดท้าย ไม่เหลือไว้ให้เสียน้ำใจกระทั่งน้ำ
สดายุยิ้มพราว อืม...แบบนี้ก็น่าดูแลอยู่เหมือนกัน
จัดการให้กินโจ๊ก กินยาตามหมอสั่งเสร็จสรรพ ก็จัดแจงพาคนป่วยเช็ดตัว เพิ่งถูกยิงมาได้วันที่สอง แผลย่อมยังระบมอย่างที่กฤตเมธบอก ดีที่ชายหนุ่มเป็นคนแข็งแรง และหมอที่นี่ฝีมือดี แผลที่ได้รับการรักษาจึงดูจะหายเร็วกว่าที่ควร อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องให้ยาทางสายน้ำเกลือแล้ว เหลือแค่สายระบายเลือดที่หมอสัญญาว่าจะถอดออกวันนี้ กับยังอาบน้ำโดยตรงไม่ได้ ก็เท่านั้น
สดายุเตรียมน้ำอุ่นพร้อมผ้าสะอาดมาวางข้างเตียงเพื่อเตรียมพร้อม กฤตเมธก็ขยับมานั่งห้อยขาที่ข้างเตียงอย่างรู้งาน
สดายุหันมาช่วยถอดเสื้อคนป่วยให้ ...แล้วลอบมองที่แผลของกฤตเมธด้วยความสงสาร
ที่กฤตเมธต้องเจ็บขนาดนี้...ก็เพราะเขาสะเพร่าเองแท้ๆ
เพราะเขามันรนหาที่...
แปะ... ฝ่ามืออุ่นสัมผัสที่ข้างแก้มทำเอาสดายุสะดุ้งเล็กๆ เพิ่งรู้ตัวว่าเขาคงเหม่อไปหน่อย กฤตเมธถึงได้เรียกสติเขา ทว่าสิ่งที่กฤตเมธเอ่ยออกมา กลับทำให้หัวใจของสดายุสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิยุ พี่ภูมิใจกับแผลนี้นะ เพราะมันเป็นเครื่องหมายว่าพี่ปกป้องยุได้” กฤตเมธยิ้ม พลางจดจ้องดวงตาฉายแววสำนึกผิดของสดายุด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“มันคือเหรียญตราที่พี่ได้ปกป้อง...คนที่พี่รักสุดหัวใจ” “...พี่เมธ” สิ้นคำปลอบประโลมแสนหวานล้ำ สดายุก็จนด้วยคำพูดใดๆ ในอกอุ่นเอ่อไปด้วยคำว่ารัก หัวใจพองโตจนไม่อาจห้ามน้ำตาที่รื้นฉ่ำเกาะขอบตาล่างอยู่หมิ่นเหม่ ถูกรักถึงขนาดนี้ ในชีวิตยี่สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาสดายุไม่เคยคิดคาดหวัง ว่าจะมีใครรักตนได้มากกว่าที่ตัวเองรัก รู้ดีว่าทุกคนรอบกายมีคนที่ต้องแบ่งหัวใจให้รักมากมาย แค่เศษเสี้ยวหัวใจ แค่เศษความห่วงหาอาลัยที่เจียดมามอบให้ แค่เท่านั้นสดายุก็พึงใจมากแล้วแท้ๆ
แต่นี่...กฤตเมธมอบให้เขาหมดทั้งใจ ยอมเสี่ยงแม้กระทั่งชีวิต ให้กับคนอย่างเขา
ยกความรักมากมายให้ผู้ชายมักง่ายอย่างเขา คนอย่างสดายุที่มีอดีตไม่สวยงาม แถมยังดูท่าทางจะไร้ซึ่งอนาคตที่รุ่งโรจน์ จับจดลอยไปลอยมา คนอย่างเขาคนนี้ กฤตเมธยังอุตส่าห์มารัก อุตส่าห์ยอมเจ็บแทน มอบร่างกายเข้าปกป้อง
ให้กับคนไร้ค่าพรรค์นี้...
หยาดน้ำตาหล่นร่วงจากดวงตาในที่สุด สดายุเอื้อมมือโอบรอบท้ายทอยของกฤตเมธไว้ แล้วรั้งเข้าซบกับอกตนเบาๆ เกยแก้มใสถูไปมาบนศีรษะของคนรักผู้สูงวัยกว่าด้วยความรู้สึกรักใคร่เต็มล้น
รักเหลือเกิน รักจนหวาดหวั่นสุดหัวใจ ว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้
จากคนที่ไม่เคยยี่หระในเรื่องความรัก ไม่เคยคิดไขว่คว้าหรือครอบครอง
พอมีกฤตเมธเข้ามาในชีวิต ทุกสิ่งในความคิดก็เปลี่ยนไป
ทั้งรัก ทั้งห่วง และแสนจะหวงแหน ไม่อยากสูญเสียคนคนนี้ไป แม้แต่ในความคิด
นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า....
เขาคงมีชีวิตอยู่ไม่ได้อีกแล้ว หากต้องเสียกฤตเมธไป
ฝ่ายกฤตเมธเองก็ใช้แขนขวาข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บโอบรอบเอวสดายุไว้ ซบศีรษะแนบฟังเสียงหัวใจเป็นจังหวะของคนรักด้วยความเสน่หา ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน ที่กฤตเมธรู้จักที่จะให้ความรักกับคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวได้มากขนาดไม่เสียดายชีวิต
นอกจากครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวคือมารดา เขาก็ไม่เคยคิดสร้างครอบครัวกับใคร หรือแม้จะเคยมีแอบคิดไปว่าอาจไปด้วยกันได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่สามารถรั้งใจของเขาไว้ได้สักคน กฤตเมธยิ้มน้อยๆ ที่เป็นแบบนั้น คงเพราะเขาเป็นเกย์หลบในแน่ๆ เลยคบผู้หญิงแล้วไปไม่รอดสักราย สุดท้ายพอมาคบผู้ชายด้วยกัน ดันหลงรักแบบสุดใจ จนถอนตัวไม่ขึ้น
ดีเหลือเกิน...ที่เก็บถนอมรักษาหัวใจของตนไว้จนแก่
ดีเหลือเกินที่สุดท้ายก็ได้ยกมันให้กับคนที่คู่ควรที่สุด
ดีเหลือเกินที่ได้รัก...สดายุ
คนขี้เหงาแสนเปราะบาง ที่น่ารักที่สุด...
กฤตเมธผละออกจากอ้อมกอดของสดายุเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็ได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาอย่างน่าสงสารของสดายุ แดงไปหมดทั้งตา แก้มใส ปลายจมูก กระทั่งริมฝีปากที่เม้มแน่นกลั้นก้อนสะอื้น ยังแดงก่ำ เสียจนกฤตเมธอดเอื้อมมือขึ้นไปลูบไล้ไม่ไหว ลูบปาก พลางช่วยปาดหยาดน้ำตาที่ข้างแก้ม
ดวงตาสบประสานสายตา
กฤตเมธยิ้ม เช่นเดียวกับสดายุ
มือแกร่งที่ลูบอยู่ข้างแก้ม เปลี่ยนเป็นโน้มท้ายทอยของสดายุให้ก้มลงมารับจุมพิตปลอบขวัญ
จูบที่เป็นเพียงการประทับริมฝีปากเข้าหากัน ช่างอ่อนหวาน อ่อนโยน และลึกซึ้ง
จุ๊บ...
เสียงจุ๊บเล็กๆเล็ดรอด เมื่อริมฝีปากผละห่าง ทว่าเพียงครู่เดียวก็ถูกดึงดูดเข้าหากันใหม่
กฤตเมธเอื้อมกอดเอวคอดของสดายุไว้ เพื่อรั้งให้ร่างบอบบางเข้าแนบชิด สดายุเองก็ก็ใช้สองมือของตนประคองใบหน้าของกฤตเมธเอาไว้ พลางก้มประทับจูบนิ่งเนิ่นนาน
นานจนลืมที่จะสนใจไปเลยว่ารอบข้างเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แฮ่ม...แม้เสียงกระแอมสองสามครั้ง พวกเขาก็ไม่ได้ยิน
แฮ่ม...จนกระทั่งเสียงกระแอมครั้งสุดท้ายนั่นแหละ ที่สดายุได้ยินเข้าพอดี เล่นเอารีบผละจากร่างของกฤตเมธแทบไม่ทัน
สองหนุ่มหันตามกันไป เพื่อพบว่าผู้มาเยือนคือใคร
"แม่..." สดายุแทบลมจับ ทันทีที่กฤตเมธขานเรียกหญิงสูงวัยที่ยืนส่งยิ้มหวานอยู่ข้างเตียง
*
*
*
*
*
ร่างสูงโปร่งหมอบกรานบนพื้นปูนโดยไม่ยี่หระว่าจะเปรอะเปื้อน สองมือพนมก้มกราบแนบหลังเท้าเปลือยพร้อมน้ำตาที่ถะถั่งออกมาอย่างยากระงับ
คำขอโทษแผ่วระโหยด้วยเพราะมีก้อนสะอื้นเข้าขัดขวาง
ร่างคุดคู้สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีฝ่ามืออุ่นหนาบรรจงลูบลงที่ศีรษะอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ทั้งร่างจะถูกประคองขึ้นมาสวมกอด
"ดิน...ดินลูกพ่อ"
บดีครางเรียกชื่อลูกชายคนเดียวด้วยความคิดถึง นานเหลือเกินแล้วที่ไม่ได้โอบกอด ความโหยหาถูกเติมเต็มจนเอ่อล้นเป็นหยาดน้ำตาหลั่งริน
สองพ่อลูกประคับประคอง สวมกอดกันด้วยความคิดถึง น้ำตาที่ผสมหลากหลายความรู้สึกรินหลั่ง รู้สึกผิด เศร้า เหงา เสียดาย รัก คิดถึง ดีใจ ไม่อายแล้วว่ายังมีใครคนอื่นเห็นความน่าสมเพชเหล่านี้หรือไม่ ความตื้นตันผลักดันให้รู้สึกอิ่มเอมเสียยิ่งกว่าความอับอาย
"ผมขอโทษครับพ่อ ผมมันเป็นลูกเลว ผมทำให้พ่อต้องลำบาก ผมมันทรพี..." บดินทร์สะอื้นฮั่ก พร่ำเอ่ยขอโทษบิดาของตนไม่ขาดปาก ความรู้สึกผิดถาโถมจนหัวใจเจ็บร้าว
"ไม่เป็นไรลูก...ไม่เป็นไร พ่อเองต่างหากที่ผิด ที่ไม่ฟังลูก พ่อสิต้องขอโทษเจ้า ดินเอ้ย พ่อขอโทษ...ทั้งหมดเป็นเพราะพ่อคนนี้ทั้งนั้น พ่อขอโทษนะลูก..." ฝ่ายบิดาก็ไม่ได้คิดจะทำร้ายต่อว่าตอกย้ำซ้ำเติม แต่กลับสวมกอดลูกชายแน่น ลูบแผ่นหลังสั่นระริกปลอบประโลม แล้วยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นมาเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว
"ฮือ...พ่อครับ ดิน...ขอโทษ.....ดิน...คิดถึงพ่อครับ คิดถึงพ่อ..." บดินทร์กอดร่างเล็กกว่าของบิดาแน่น ซุกใบหน้าเปื้อนน้ำตาลงบนไหล่ที่เล็กลงกว่าความทรงจำ พ่อผอมลงมาก แค่เห็นน้ำตาของบดินทร์ก็ถะถั่งออกมาอีกรอบ พูดออกไปไม่ไหว ทั้งที่ในหัวใจรู้สึกผิดกับบิดาเหลือเกิน
เนิ่นนานกว่าสองพ่อลูกจะกลับมามีสติ กว่าจะหยุดร้องไห้กันได้ ก็เล่นเอาหน้าตาแดงช้ำกันไปหมดทั้งพ่อลูก ในที่สุดทั้งหมดก็ได้เคลื่อนตัวจากหน้าบ้าน เข้ามานั่งคุยกันในห้องรับแขกได้เสียที
เพราะลูกน้องของดนัยโทรมาแจ้งเมื่อคืนว่า ดนัยและบดินทร์จะยังไม่ตรงกลับมาที่เซฟเฮ้าส์เมื่อคืน ทำให้ผู้รอคอยอีกคนอย่างซอลย่าต้องขอตัวกลับไปก่อน โดยรับปากว่าจะรีบกลับมาที่นี่อีกครั้งในตอนเช้า ซึ่งตอนนี้ก็เพิ่งแปดโมง คาดว่าอีกไม่นานซอลย่าคงจะมาถึง
ดนัยนั่งมองอยู่ห่างๆ ในฐานะเจ้าบ้านเขายังไม่มีสิทธิ์ผละจากที่ที่มีแขกเหรื่ออยู่กันเต็มบ้าน แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาแสดงตัว เพราะดูเหมือนตอนนี้ยังเป็นเวลาของครอบครัว
บดินทร์ยังคงสะอื้นเล็กๆ แต่ใบหน้าอิ่มเอมขึ้นจากตอนแรกมาก วันนี้อาจเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุดในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ ได้กอดพ่อ ได้กราบขอโทษแม่เลี้ยง และได้ปรับความเข้าใจ ได้เอ่ยขอโทษน้องเลี้ยงอย่างเพียงดาว
เพียงดาวอุ้มลูกสาวหน้าตาน่ารัก ผิวขาวดวงตาสีน้ำข้าวเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเหมือนผู้เป็นพ่อ หล่อนนั่งส่งยิ้มให้พี่ชายต่างสายเลือดที่ไม่ได้เจอกันนานไม่ขาด ไม่ว่าหล่อนกับบดินทร์จะเคยมีเรื่องอะไรระหว่างกันมา ตอนนี้หล่อนอภัยให้ได้หมดแล้ว
ผิดกับบดินทร์ที่ยังคงรู้สึกผิดกับเพียงดาวมากมาย วัยเยาว์ผ่านไปไวนัก เผลอเพียงนิดเดียว ตอนนี้พวกเขาก็เลยมาจนถึงจุดที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
บดินทร์รู้สึกผิดต่อเพียงดาวมากมายเสียจนแทบไม่กล้ามองหน้า
เขาเป็นเกย์...
แม้ไม่ได้แน่ใจนัก แต่บดินทร์ชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ถึงแม้จะยังไม่เคยปรารถนาที่จะมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้ชายคนไหนนอกเหนือจากสดายุ แต่ก็ไม่นึกอยากนอนกับผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเช่นกัน
เขาคงเป็นเกย์...ที่สามารถนอนกับผู้หญิงได้อย่างไม่นึกรังเกียจ แต่เป็นแค่การมีความสัมพันธ์ทางกายบังหน้า เพียงเพื่อรักษาภาพพจน์ตอนที่ยังเป็นนักแสดง เพราะนิสัยเพลย์บอยนิดๆจะสามารถทำให้อนาคตในวงการไปได้ไกลกว่าการเป็นดาราชายที่รักนวลสงวนตัว ดังนั้นบดินทร์จึงจะต้องเลือกขึ้นเตียงกับดารานางแบบบางคน เพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองไว้
เขาไม่สามารถเผยตัวตนได้ไม่ว่ากับใครก็ตาม และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งหัวใจของตัวเอง ในเมื่อเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ สิ่งเดียวที่เขามีจึงเป็นเพียงความเงียบเฉยเย็นชา ซึ่งมันกลายเป็นสันดานดิบติดตัวมาจนถึงตอนนี้
และเพราะเขาอาจเป็นเกย์นี่แหละ เขาจึงรู้สึกผิดต่อเพียงดาวเหลือเกิน
ในโลกที่แสนเย็นชา มีเพียงสดายุคนเดียวเท่านั้นที่บดินทร์รักและเปิดใจให้ ขนาดรู้ทั้งรู้ว่าสดายุเป็นชายแท้ที่ชอบผู้หญิง แต่บดินทร์ก็ยังคงรู้สึกรัก แม้ได้อยู่ข้างกันในฐานะเพื่อน ก็สุดแสนจะยินดีแล้ว
ทว่าในวันที่สดายุตกลงเป็นแฟนกับเพียงดาว ภายใต้การแนะนำจอมปลอมของตน บดินทร์ใจแทบขาด ในวันนั้นเขาโกรธเกลียดเพียงดาวเหลือเกิน ที่มาคว้าสิ่งสำคัญของเขาไปซึ่งๆหน้า
เพียงดาวยังเด็กเกินไป หล่อนยังมีความสุขในการบริหารเสน่ห์วัยใส ดังนั้นจึงไม่ยากเลยที่บดินทร์จะใช้เสน่ห์ของตนยั่วเย้าให้เพียงดาวขึ้นเตียงกับตน เพื่อที่บดินทร์จะสามารถใช้ความผิดของเพียงดาวในข้อนี้ กีดกันเพียงดาวให้ออกจากสดายุได้
แผนชั่วของเขา มันคงสำเร็จไปได้ด้วยดี ถ้าแม้เพียงดาวจะไม่ท้องขึ้นเสียก่อน จนเกิดเรื่องราวมากมายตามมาในที่สุด...
เรื่องนี้บดินทร์ยังไม่กล้าเอ่ยปากกับใคร แม้แต่กับสดายุ
บดินทร์ได้แต่เกลียดตัวเองเหลือเกินที่มักหันหลังหนีปัญหา เกลียดตัวเองที่ไม่เคยคิดเผชิญหน้าแม้กระทั่งตอนนี้
"...ดาว...พี่...ขอโทษ" แต่ถึงอย่างไรวันนี้เขาควรกล่าวขอโทษเพียงดาว ขอโทษในสิ่งชั่วช้าที่เขาเคยกระทำ หากจะถูกก่นด่าตอบโต้กลับมาอย่างไร เขาก็ยินยอมรับมันทั้งนั้น…
และสิ่งที่บดินทร์ได้รับกลับมา คืออุ้งมืออุ่นของเพียงดาวที่ขยับมาจับกุมมือของเขาไว้ด้วยความเอื้ออารี หล่อนยิ้ม เฉกเช่นวันเก่าก่อนในความทรงจำ ยิ้มให้กับบดินทร์ที่กำลังมีน้ำตาคลอหน่วย พร้อมเอ่ยถ้อยคำที่ราวกับน้ำผึ้งชโลมใจ
“เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไปเถอะพี่ดิน ดาวไม่คิดติดใจอะไรพี่ดินหรอกค่ะ มันก็แค่ความผิดพลาด เราทั้งคู่ก็แค่ยังเด็ก ที่ดาวมาวันนี้ดาวไม่ได้มาเพื่อฟังคำขอโทษหรอกนะคะ ดาวมาเพราะคิดถึง มาเพราะอยากเจอพี่ชายของดาวอีกครั้ง ก็เท่านั้นเอง”เพียงดาวเอ่ยทุกถ้อยคำออกมาด้วยความจริงใจ กระชับมือของบดินทร์ไว้มั่น แล้วเอนซบในอ้อมกอดของพี่ชายด้วยความรัก บดินทร์กอดเพียงดาวแน่น ไม่ได้กล่าวคำใดมากไปกว่าคำว่าขอโทษ ทั้งที่ยังมีสิ่งติดค้าง แต่เพียงดาวยืนยันกับชายหนุ่มทางสายตา ว่าไม่ต้องการให้บดินทร์เอ่ยสิ่งใดอีก หล่อนกระซิบบางเบา… “เก็บมันไว้เป็นอดีตเถอะค่ะ” หลังผละจากกันเพียงดาวก็แนะนำลูกสาวให้คุณลุงอย่างบดินทร์ได้รู้จัก สาวน้อยวัยขวบเศษ ลูกครึ่งสวีเดน ตามสัญชาติของผู้เป็นพ่อ น่ารักจนบดินทร์ต้องขออุ้มมากอด เด็กน้อยยิ้มร่า จนเพียงดาวยังแซวว่า ปกติไม่ยอมให้ใครอุ้มง่ายๆแท้ๆ แต่ดูเหมือนจะติดลุงแจเสียแล้ว
ทุกอย่างผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับที่บดินทร์เล็งเห็นแล้วว่า เขาควรพูดเรื่องสำคัญกับบิดาของตนได้เสียที
เรื่องที่ดิน กับหนี้สินสิบล้าน
ทว่า…ทันทีที่ถามออกไป คำตอบที่ได้ กลับทำให้บดินทร์ถึงกับมึนทื่อไปทั้งท้ายทอย ใบหน้าเนียนชาวาบราวกับเพิ่งถูกสาดด้วยน้ำเย็นจัด
“พ่อยังไม่ได้ขายที่หรอกดิน เพราะคุณดนัยเพื่อนลูก เขาช่วยใช้หนี้สิบล้านแทนให้ลูกทั้งหมดแล้ว”*******************************************************
ขอโทษที่ต้องทำให้ค้างเติ่งนะเจ้าคะ
ขอเก็บความตื่นเต้นไว้ตอนหน้าบ้าง เดี๋ยวไม่มีอะไรดึงดูด อิอิ
**ความในใจ...เงียบๆ ของอนาคี...
ฉากอย่างว่า...ที่ไม่ได้เขียนมานาน
พอเริ่มเขียนปุ๊บ...เวรละ พลังจินตนาการมันดรอปลง!!!
บทสังวาส 8 หน้าเล่นเอาตาค้าง (เพราะไม่ได้นอน)
หุหุ ขาดๆเกินๆไปหน่อย เอาเป็นว่าเน้นเนื้อหา ไม่เน้นฉากแล้วกันเนอะ...
ภาระใหญ่ที่ยังรออยู่คือ...ฉากฮันนีมูนอันน่าอัศจรรย์ใจของ เมธ&ยุ สินะ (=.,=")>
(ไหนจะคู่เจ๊บลู คู่นุ้งพอร์ช แล้วยังมีติ่งคู่เฮียอ๊อดอีก!!)
นี่ข้าพเจ้าต้องใช้พลังจินตนาการอีกมากแค่ไหนเนี่ย...ฮี่ฮี่
จากความในใจด้านบน มันช่างชัดเจนเหลือเกินว่าไอ้อนาคีมันหื่นขนาดไหน ฮ่าฮ่า
เพี๊ยะ!! //ตบเรียกสติตัวเอง//เอ้าๆ เขียนเนื้อหาอื่นๆต่อ!!
ปล. ในเรื่องนี้ จากตอนนี้ไป ดินกับดนัย เหลือโผล่มาให้เห็นอีกแค่สองครั้ง คือตอนหน้ากับก่อนจบนะจ๊ะ
รอเจอพวกมันอีกที ก็ตอนเปิดเรื่องของตัวเองเลยจ๊า 'ตัวร้ายในกรงรัก'
(เดี๋ยวมันจะเด่นเกินหน้าเจ้าของเรื่องเกิน…)
ตามไปแซ่บกันต่อที่นั่นนะจ๊ะ...(แต่ยังบอกไม่ได้เน่อ ว่าจะเปิดเมื่อไหร่ หุหุ)
สารภาพเบาๆว่า ดินกะดนัยจะยังไม่ปิ๊ง ไม่สปาร์คกันในเรื่องนี้นะจ๊ะ
ยังคงยืนยันการจบที่ไม่ได้กันเช่นเดิม
แต่! เปลี่ยนจากจบแบบหันหลังคนละทาง
เป็น.........อะไรน๊า...
หากพวกตะเองกำลังรอฉากมุ้มมิ้งดินดนัยล่ะก็...ต้องอดทนรอกันหน่อยนะจ๊ะ
รอข้ามเรื่องกันเลยทีเดียว
กัดชายผ้าเช็ดหน้าขัดใจเล็กๆ ไปพลางนะทูนหัวของเก๊า จุ๊บๆๆๆ
บดินทร์นี่...เลวมาเยอะเหมือนกันเนอะ
นางจะแอ๊บแบ๊วก็เฉพาะต่อหน้าน้องยุเท่านั้นสินะ...
ทายสิ…ตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้น
ทั้งกับน้องยุที่เผลอเลิฟซีนต่อหน้าแม่พี่เมธ
และน้องดินที่ดันมีหนี้บุญคุณเพิ่มซะแล้ว…
สปอยล์ :
“คุณบอกสินะ ว่าสิ่งที่ผมทำให้ คือหนี้บุญคุณที่คุณไม่ต้องการ…
ผมก็อยากบอกเหมือนกันว่า สิ่งที่คุณมอบให้ผมมาโดยข้ออ้างว่าคือการชดใช้…
ผมเอง…ก็ไม่ได้ต้องการเหมือนกัน”
ขอจบการเวิ้นเว้อแต่เพียงเท่านี้…
ขอบคุณที่อุตส่าห์แวะมาอ่านนะคะ
จุ๊บๆๆๆ
อนาคี99 / Thearboo