มึงน่ะเมียกู ตอนที่ 6 - Part Tin -
“ทำไมวันนี้เข้าเรียนสายวะ” ไอ้คิมถามผมหลังจากหมดคาบเรียนช่วงเช้า ตอนนี้พวกผมกำลังเดินลงมาจากอาคารเรียน มีเรียนอีกทีบ่ายสองครับ
“ตื่นสายว่ะ” ผมตอบมันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ตามปกติ
“อย่ามาโกหก ไอ้เหี้ยตินณ์ ตื่นสายหรือไปกกสาวที่ไหนกันแน่ อย่างมึงไม่เคยมาเรียนสาย” ไอ้อาร์มสอดขึ้นมาทันที แต่ผมไม่ตอบหันไปยักคิ้วให้มันหนึ่งทีครับ
“หึหึ” หัวเราะอีกสองหึ กวนตีนมันไปครับ
“ เดี๋ยวไปกินข้าวที่ไหนดีวะ” ไอ้นัทถามขึ้นมาบ้าง
“ ร้านเดิมแล้วกันเร็วดีขี้เกียจขับรถ” ไอ้โฟมตอบคู่หูมันหลังจากหุบปากมานาน
“ เดี๋ยวกูไปทำธุระก่อน คงไม่กินข้าวด้วย เจอกันในห้อง” ผมบอกพวกมันตอนที่เดินลงมาถึงหน้าตึกแล้ว
“อ้าว” ไอ้นัทกับไอ้อาร์มอุทานออกมาพร้อมกัน ไอ้คิมหันมามองนิ่งๆ ส่วนไอ้โฟมมันเดินไปยืนมองผมใกล้ๆกับไอ้นัทแต่ไม่พูดอะไรเช่นกัน
“มึงนี่มีพิรุธนะ” ไอ้คิมว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งตามสไตล์มัน แต่มันไม่ค่อยถามครับรอผมบอกเอง
“หึหึ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน แล้วเดินออกมาเลยครับ ขับรถออกมาได้แค่นิดเดียวรถก็ติด ปกติ 15 นาทีจากม.ต้องถึงคอนโดผม แต่นี่จะครึ่งชม.แล้วครับเพิ่งถึง แวะซื้อข้าวจากร้านข้าวใต้หอได้แล้วเดินขึ้นมาหามันที่ห้องบอกว่าจะโทรหามันแต่ลืมครับ มาหามันเลยดีกว่าอยากมาดูมันด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เปิดประตูเข้ามาห้องเงียบมาก เหมือนไม่มีคนอยู่ ดูในห้องนอนเห็นมันนอนอยู่ที่เดิมเลยครับ แต่มันคงอาบน้ำกินข้าวแล้วเพราะก่อนเข้ามาผมมองไปที่ห้องครัวไม่เห็นโจ๊กที่ซื้อมาให้มันเมื่อเช้า
ผมเดินเข้าไปใกล้มันแล้วนั่งลงบนเตียง ก้มหน้าลงไปหอมแก้มหนึ่งฟอดเน้นๆ แก้มมันหอมดีได้กลิ่นเหมือนแป้งเด็กเลยครับ ใกล้มันทีไรหมั่นเขี้ยวอยากหอม
“อื้ม” มันร้องคราง เหมือนรำคาญที่ผมไปกวนการนอนหลับของมัน
“ ตื่นก่อนเร็วมากินข้าวกลางวัน จะได้กินยา เดี๋ยวกูต้องไปเรียนตอนบ่ายต่อ”
“อิ่มแล้ว”
“แค่โจ๊กมันจะอิ่มได้ไงวะ ลุกเลย” ผมพูดเสร็จดึงมันลุกขึ้นเลยครับ
“อื้อ... ชอบบังคับกูนะมึง” มันว่าแค่นั้น แล้วยอมลุกขึ้นเดินตามแรงดึงของผมเข้ามานั่งในครัว
ผมซื้อข้าวมันไก่มาให้มันกินของผมเป็นกระเพราะไก่ แล้วขนมหวานนิดหน่อย ผมแกะกล่องแล้วเอาใส่จานให้มันที่นั่งเป็นคุณชายรออยู่ที่โต๊ะเลยครับ ผมลงมือกินได้สองคำก็จ้องหน้ามัน ว่าทำไมมันไม่กินซะที
“ทำไมไม่กินล่ะ”
“ ...” เงียบ
“ ถ้าไม่กินเดี๋ยวกูจับป้อนนะมึง” ผมขู่มันเช่นเคย
“ กูบอกว่ากูไม่กินผักชี” กูลืมบ้างไงครับ มันเคยบอกผมแล้วแต่ผมลืม เลยเอาช้อนตักผักชีออกจากจานข้าวมันมาใส่จานตัวเอง มันไม่ยอมตักออกเองด้วยนะครับ
“ทีนี้ก็กินซะ” มันเริ่มลงมือกินเงียบๆ
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยผมก็เก็บจานทั้งสองใบไปล้าง แล้วเอายากับน้ำเปล่ามาให้ไอ้พรต ตอนแรกมันจะไม่กินต้องขู่มันครับ มันกินยายากเหมือนกัน ต้องกินน้ำก่อนแล้วอมไว้จากนั้นค่อยกินยาตามไปไม่ให้ยาโดนลิ้น แปลกดีครับ
“บ่ายมึงมีเรียนไหม ถ้ามีก็โทรไปบอกไอ้นาวลาให้ซะ” ผมบอกมันไปเพื่อให้มันได้พักผ่อน ดูสภาพแล้วคงยังไปเรียนไม่ไหวครับ
“ ไม่มี” มันบอกผมด้วยเสียงเบาและแหบๆเหมือนคนจะไม่สบาย
“งั้นมึงนอนต่อนะ จะนอนในห้องหรือข้างนอก
“ข้างนอก” มันบอกผมพร้อมกับขยับลุกจะเดินออกไปจากห้องครัวแต่ก็เซล้มลงบนเก้าอี้อีกครั้ง พอมันทิ้งน้ำหนักลงมาบนเก้าอี้มันก็สะดุ้งครับ
“เหี้ย!” มันอุทานออกมา คงเจ็บน่าดูครับหน้ามันนี่บ่งบอกว่าเจ็บมาก ผมเลยเดินเข้าไปพยุงมันออกมานั่งที่โซฟา
“เจ็บมากเลยเหรอ” ผมลองถามมันดูครับ ผมก็ไม่เคยไม่รู้เจ็บแค่ไหน
“ สัส! เพราะใครหล่ะ มาลองให้กูเอาดูมั่งไหม” มันหันมามองตาเขียวเลยครับแล้วก็ด่าผมออกมา ยังมีการจะให้ผมลองอีกนะ แต่ไม่เอาครับอย่างนี้ดีแล้วเดี๋ยวสับสนใครผัวใครเมีย ผมได้แต่ยิ้มๆตอบมันไป อย่าเถียงครับ คนเถียงเมียเดี๋ยวไม่เจริญ หึหึ
“เดี๋ยวกูไปเอาผ้านวม หมอนกับผ้าห่มมาให้มึงปูนอนหน้าทีวีนะ” พูดเสร็จผมก็เข้ามาหยิบจากในห้องผ้านวมผืนใหญ่อยู่ในตู้ครับเอาไว้ใช้หน้าหนาว ผมหยิบมาปูหน้าทีวี มันก็ลงมานอนแล้วหยิบรีโมททีวีกดเปิด ไล่ดูไปทีละช่อง
“กูกลับไปเรียนก่อนนะ เดี๋ยวโทรมาหา”
“ไม่ต้องโทร”
“ ...” ผมได้ยินไม่ชัดเลยเงียบรอฟังมันพูดใหม่
“กูบอกว่าไม่ต้องโทร ขี้เกียจรับ” ที่นี้ชัดเจนครับ
“ แต่กูเป็นห่วงมึง เดี๋ยวโทรหา รับด้วยนะครับ” พูดดีกับมันหน่อย
“...” มันไม่ตอบ ผมเลยก้มไปหอมมันก่อนเดินออกมาคว้ากุญแจรถ แล้วไปเรียนต่อช่วงบ่ายครับ
..................................................................................
มาถึงมอเจอพวกมันนั่งรอเข้าเรียนอยู่ที่โต๊ะประจำครับ ผมเลยเดินเข้าไปนั่งด้วย
“มาไว เว้ย” ไอ้อาร์มเริ่มก่อนเลย
“มึงไม่มาช้ากว่านี้หน่อยวะ กูพนันกับไอ้นัทว่ามึงจะมาสายแต่มันบอกว่ามึงจะมาไว กูเลยเสียตังค์เลยเนี๊ยะ” ไอ้โฟมพูดขึ้นมาบ้าง
“ ไอ้พวกเหี้ยนี่เอากูไปพนันนะมึง” มันชอบพนันอะไรกันเล่นๆ เสมอ แต่เวลาจ่ายนี่ไม่เล่นนะครับ จ่ายจริงหมดตัวจริงกันมาแล้ว กำลังคุยกันเพลินๆ ผมมองเห็นวิวเดินเข้ามาถึงโต๊ะแล้วครับ
“ ตินณ์ค่ะ ช่วงนี้ไม่โทรมาหาวิวเลยนะ” วิวโวยวายผมทันที
“ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างครับวิว” ผมตอบวิวด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ไอ้คิมมันมองหน้าผมแล้วยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้
“แต่วิวคิดถึงตินณ์นะคะ โทรไปก็ไม่ค่อยรับ” วิวตัดพ้อผมต่อ
“เอ่อ...วิวครับ ผมขอคุยด้วยสักครู่ รีบไปไหนหรือป่าวครับ” ผมถามวิวก่อนเผื่อวิวมีธุระที่ไหน
“ ไม่มีค่ะ สำหรับตินณ์วิวว่างเสมอ”
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ แล้วเดินนำวิวออกมาจากกลุ่ม ห่างพอประมาณที่พวกมันจะไม่ได้ยินที่ผมคุยกันมองไปมีแต่สายตาอยากรู้จากพวกมันครับแต่วิวหันหลังให้เลยไม่รู้
“ มีอะไรเหรอคะตินณ์ดูลึกลับจังต้องแยกออกมาคุยกันแค่สองคนด้วย” วิวถามผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ เอ่อ... คือผมจะบอกวิวว่า ผมอยากให้เรื่องของผมกับวิวยุติลงแค่นี้”
“ตินณ์ หมายความว่าอย่างไรคะ” น้ำเสียงของวิวเริ่มสั่น
จริงๆแล้วผมไม่จำเป็นต้องมาบอกวิวอย่างนี้ก็ได้เพราะเราตกลงกันแล้วว่าเราไม่ได้คบกัน แค่ควงกันเฉยๆใครเบื่อก็ไปไม่ผูกพันใดๆต่อกัน แต่ที่ผมต้องบอกวิวเพราะผมคิดว่าผมตัดสินใจแล้วว่าจะจีบไอ้พรตผมก็ควรชัดเจน ตัดปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นให้หมด
“ ผมอยากให้เราเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม” ผมบอกอีกครั้งคราวนี้น้ำตาของวิวไหลแล้วครับ ตัววิวเริ่มสั่นมากกว่าเดิม
“ ทำไมค่ะตินณ์ วิวไม่ดีตรงไหน”
“มันไม่ใช่ว่าดี หรือไม่ดี แต่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราจะไม่ผูกมัดกัน”
“ตินณ์มีคนใหม่ใช่ไหมคะ ถึงทิ้งวิวอย่างนี้”
ผมสงสารวิวนะครับเพราะปกติผมไม่บอกเลิกใครก่อน ส่วนมากจะทำตัวเงียบๆไม่ติดต่อกันแล้วก็ห่างกันไปเลย คือผู้หญิงเบื่อทนไม่ได้ก็ไปเองประมาณนี้ครับ แต่กลับวิวรอเวลาไม่ได้เดี๋ยวไอ้พรตเข้าใจผิดครับต้องรีบเคลียร์ตัวเอง
“ ไม่เกี่ยวว่าผมจะมีคนใหม่หรือไม่ แต่ถ้ามันไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่ ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องตั้งแต่แรกแล้ว” ผมไม่อยากว่าผู้หญิง แต่วิวก็ไม่ได้คบผมคนเดียวไม่ใช่ไม่รู้แค่ไม่พูด
“วิวไม่เลิก ยังไงวิวก็ไม่ยอมให้เรื่องจบแบบนี้แน่”
“ไม่ว่าอย่างไร เรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้ ตินณ์ว่าอย่ายื้อเวลาเลยดีกว่า” ผมตอบกลับไป
เพี๊ยะ!!! เสียงมือกระทบแก้มผมเต็มๆครับ หน้าชาเลยทีเดียว
“แล้วตินณ์จะต้องเสียใจที่ทำอย่างนี้” วิวว่าแล้วก็ก้าวจากไปทางคณะของวิว ผมเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วหยิบสมุดเตรียมตัวเข้าเรียน
“ คุยอะไรกันวะท่าทางเคร่งเครียด” ไอ้อาร์มถามผมก่อนเพื่อนเช่นเคย ถึงมันจะพูดมาก เฮฮา บ้าบอตามเรื่อง แต่มันก็รักเพื่อน ถ้าใครในกลุ่มมีเรื่องมันจะลุยก่อนเลย
“ กูบอกเลิกสาวครั้งแรกว่ะ” ผมบอกมันด้วยหน้าตาเคร่งเครียดไม่คลาย
“ห๊ะ! มึงน่ะนะ บอกเลิก”
“เออ ทำไมกูจะบอกไม่ได้”
“ มึงแปลกๆว่ะไอ้เหี้ยตินณ์ช่วงนี้ ทำอะไรที่กูคิดไม่ถึง” ไอ้อาร์มมันว่า ด้วยท่าทางงงๆ
“แล้วเป็นไงจบกันด้วยดีไหม” ไอ้คิมถามขึ้นมาบ้าง
“ดี มือหนักดี” ว่าแค่นั้นรู้กันครับ
“มึงเป็นเหี้ยอะไร อยู่ๆถึงไปบอกเลิกวิว ปกติไม่เคยเดือดร้อนใครจะไปจะมา”
“...” ผมไม่ตอบ จะให้ตอบได้ไงครับว่ากูกำลังจะเป็นเกย์ พวกมันคงช็อคน่าดู ปล่อยให้มันสังเกตแล้วรู้กันเองดีกว่าครับ
“เออ เรื่องของมึงแล้วกัน กูไม่อยากยุ่งด้วย แต่ถ้าต้องการให้พวกกูช่วยอะไรก็บอกนะเว้ย” ไอ้โฟมบอกผมพร้อมกับเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ มองไปทุกคนจ้องผม และส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ ผมยิ้มให้พวกมันอย่างจริงใจ แม้ว่าจะไม่พูดแต่เข้าใจกันครับแล้วพวกเราก็เดินขึ้นไปเรียนด้วยกัน…
..........................................................................
“เป็นไงบ้างวะ ดีขึ้นยัง” ผมถามไอ้พรต หลังจากที่เรียนเสร็จก็รีบบึ่งรถกลับมาหามันทันที สงสัยจะติดมันมากอยากเห็นหน้ามันตลอดเวลา
“อื้ม” มันตอบแค่นั้น ผมเปิดประตูเข้ามายังเห็นมันนอนดูทีวีอยู่เหมือนเดิมครับ
“ เย็นนี้ออกไปกินข้าวข้างนอกนะ” เมื่อผมเห็นมันอาการดีขึ้นเยอะแล้วหลังจากได้กินยาและพักผ่อนทั้งวัน ผมคิดว่าจะไปซื้อของสดเข้าห้องด้วย นอนดูทีวีกับมันจน 6 โมงเย็นแล้วค่อยแต่งตัวออกไปกินข้าวข้างนอก
“กูไม่อยากอยู่ที่นี่กูจะกลับห้อง” พอขึ้นรถได้เท่านั้นมันเริ่มหาเรื่องอีกแล้วครับ
“มึงต้องอยู่กับกู อย่าให้กูต้องทำอะไรที่กูไม่อยากทำ” ผมหยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดรูปให้มันดู
“ไอ้เหี้ย!!! มึงมันโรคจิต” มันว่า พร้อมกับกดลบรูปในโทรศัพท์ ผมก็ไม่ห้าม เป็นรูปที่ผมถ่ายมันไว้หลังจากที่มีอะไรกันเมื่อเช้า พอดีลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วเห็นมันนอนหลับน่ารักดีเลยถ่ายไว้ มีทั้งรูปเดี่ยวมัน และรูปคู่ผม ใครดูก็รู้ว่าเพิ่งผ่านอะไรมา รอยตามตัวเยอะมาก ตอนแรกว่าจะเก็บไว้ดูเล่น แต่ตอนนี้ขอเอามาขู่มันหน่อยครับ
“ถึงมึงลบไป กูก็มีสำรองไว้ที่อื่นอีก”
“สัส!” มันด่ากลับมารู้สึกว่ามันจะด่าผมบ่อยไปแล้วนะ มันเลิกสนใจโทรศัพท์ของผมแล้วโยนมาไว้ที่วางของข้างเกียร์รถ ผมก็ขับรถมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแล้วเปิดประตูเดินนำมันออกมานอกรถ
“มึงจะแดกไหมข้าวน่ะ”
ผมถามแต่มันไม่ตอบเปิดประตูแล้วปิดกระแทกอย่างแรง ไม่กลัว MBW ของกูพังเลยนะเป็นคนอื่นกูด่าไปแล้ว จากนั้นก็เดินเข้ามาผ่านแผนกเสื้อผ้ามีแต่คนมองมันแล้วยกมือไหว้ ตอนแรกผมก็สงสัย แต่มานึกขึ้นได้ ตอนมีคนเข้ามาทักแล้วเรียกมันว่านายน้อยเท่านั้นแหละ จำได้เลยว่านี่เป็นห้างในเครือบริษัทของครอบครัวมัน ถึงว่าลีลาไม่ยอมลงมากินข้าว คงกลัวใครจะรู้ว่ามากับผม แต่ความจริงไม่เห็นต้องกลัวเพราะไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นใครและเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร แต่คนมันเหมือนกังวลทำอะไรก็กลัวไปหมด มีพิรุธให้จับได้ครับ
มันคุยกับเขานิดหน่อยแล้วขอตัวไปกินข้าว เรามากินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นครับกินยาโยอิ ทางร้านเขามีเป็นชุดให้จะได้ไม่ต้องคิดนาน กินไปก็ไม่ได้คุยกันมากพอกินเสร็จผมก็เดินไปจ่ายเงินแล้วพามันมาซื้อของเข้าห้องรู้สึกเหมือนคนที่แต่งงานใหม่ครับ จากที่เคยซื้อของชิ้นเดียวก็ต้องซื้อสองชิ้น คอยถามมันด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร มันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างตามอารมณ์มัน แต่ยังดีที่มันยอมเดินด้วยผมต้องบังคับเล็กน้อยถึงมา เสร็จแล้วผมก็เอาของมาเก็บที่รถ แล้วขับออกจากห้างมุ่งหน้ากลับคอนโด…..
--------------To be Con.----------------------
อัพให้อ่านเล่นๆในวันหยุดนะจ๊ะ
อ่านแล้วช่วยคอมเม้นกันด้วยน้า
จะได้รู้ว่า ต้องพัฒนาตรงไหนบ้าง
ถ้ามีคนคอมเม้นอาจจะมาต่อให้ไวๆเน้อ...

