ตอนที่ 11 (หลากหลายอารมณ์)
(ครูบอล)
ผมตื่นขึ้นมาด้วยแรงกอดรัดตัวผม เมื่อลืมตามาก็เห็นใบหน้าของอีกคนที่ดูก็รู้ว่าตื่นก่อนนานแล้ว
กำลังมองมายังผมด้วยสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนๆทั่วทั้งใบหน้า
“มองไรเหล่า แล้วจะกอดอีกนานไหม”แค่ผมพูดออกไปเท่านั้น อีกคนที่นอนกอดผมก็ได้โอกาส
จนทำให้ผมรู้สึกว่าโง่จริงๆกู ไปเปิดทางให้มันทำมันกันวะ
“มองเมีย กอดเมียแล้วรู้สึกดีก็เลยอยากกอดอีกนานๆ”ผมก็เลยจัดให้ดอกนึงครับสำหรับเมียสองคำ
จนทำให้คิดถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อวานตอนเย็น มันมีความผิดมหันต์มันต้องโดนลงโทษ
หึหึต้องเจอกบาลพิฆาตเสยเข้าไปที่ปลายคาง มันคงทั้งตกใจและก็เจ็บจึงปล่อยตัวผมออกจากอ้อมแขน
ผมเลยได้โอกาสรีบตะเกียกตะกายพยายามจะลงจากเตียงขนาดคิงไซส์ ผมรู้สึกสะใจที่ทำให้มันเจ็บได้ทีนึง
เพราะตั้งแต่เจอมันเนี้ยผมแพ้มันมาตลอด แต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อมีมือใหญ่แข็งแรงจับข้อเท้าแล้วกระชากอย่างแรง
จนร่างของผมถอยหลังนอนคว่ำ ยังโชคดีที่มีเตียงนอนนุ่มทำให้การกระแทกครั้งนี้ไม่ทำให้ผมเจ็บมากนัก
พอกลับตัวไปมองก็ปะทะกลับสายตามวาวโรจน์ของอีกคน
“บอลเล่นอะไรนะฮะพี่เจ็บนะครับ”มันเข้ามาทาบทับ ใช้มือทั้งสองข้างตรึงแขนของผมเอาไว้ก่อน
จะถามถึงการกระทำของผม
“ก็....บอลตกใจไง”ผมไม่กล้าสบตากับมันจนต้องเลี่ยงมองด้านข้างแทน แล้วผมยิ่งตกใจเมื่อทุกส่วน
มันแนบชิดกันสนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง ก็ตรงที่แนบกับน้องบอลน้อยมันแข็งผ่านกางเกงนอนจนยิ่งทำ
ให้นึกถึงเหตุการณ์ห้องน้ำอีกครั้ง
“หึหึ เขินก็บอกมาเถอะน่า”มันหัวเราะก่อนจะพูดถ้อยคำที่ทำให้ผมต้องโวยวายขึ้นมา
“ใครเขิน อ่ะ”ผมรีบเถียงมันแต่ก็ต้องตกใจเมื่อมันก้มลงมาจูบปากผมเร็วๆหนึ่งที
“หึหึ ฟอด..ฟอด..”ตามมาติดๆด้วยการหอมแก้มของผมแรงทั้งสองข้าง
“เฮ้ย...พี่ทำไรอ่ะไอ้ช่วงล่างนะไม่ต้องขยับก็ได้ อ่ะ”ผมต้องตกใจอีกครั้งเมื่อมันขยับช่วงกึ่งกลาง
ที่แนบชิดให้มันเสียดสีกัน จนทำให้อะไรๆที่มีเสียดสีกันมากจากที่มันก็แสดงอารมณ์ตอนเช้าอยู่แล้ว
มันยิ่งขยายขนาดเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“ไอ้อ่ะ หมอนข้างจอมหื่น อ่ะ หยุดนะเว้ย อ่ะ วุ้ย ซี๊ด...สีไปสีมาเลขมัน อ่ะ ซี๊ด...ก็ไม่ออกมาหรอกเว้ย..”
ผมต้องบอกมันให้หยุดการขยับของมัน แถมมันยังมีการซุกไซ้ลำคอผมอีกต่างหาก
“อืม...ใช่เลขไม่ออก แต่อย่างอื่นนะมันออกแน่ ซี๊ดดดดดดดดดดดด แล้วพี่บอกว่าให้เรียกพี่ว่าไง
ต้องทำโทษจุ๊บ..”มันเงยหน้าขึ้นมาบอก ก่อนจะจับผมจูบอีกแล้วครับ มันใช้วิชาชิวหากระชากวิญญาณ
แล้วผมจะทำอะไรได้ครับก่อนที่ระทวยไปกับส่วนบนและส่วนล่างที่ยังคงขยับไปมา
“อืมมมมมม.....ฮ่า...อ่ะ..”มันยอมปล่อยให้ผมหายใจหายคอโดยที่มันไล่ริมฝีปากลงหาลำคอเรื่อยมา
ถึงหน้าอกที่ถูกปลดกระดุมเสื้อทั้งหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไม่ได้การณ์แล้วหากผมยังไม่ทำอะไรซักอย่างละก็
จะต้องแพ้พนันสามสาวแล้วคงจะต้องยอมอยู่ในฐานะเมียมันอย่างสงบปากสงบคำแน่ๆ
“อืม พี่วุฒิ พอก่อนนะ บอลยังไม่พร้อม นะครับพี่วุฒิ”ผมกลั้นใจอ้อนวอนขอมันใช้ทั้งน้ำเสียง และสายตา
ไอ้ปีศาจหมอนข้างเงยหน้าและหยุดขยับทุกส่วน มองผมด้วยดวงตาที่เบิกกว้างรวมทั้งปากที่อ้าค้าง
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดวงตาที่หวานช่ำแฝงแววรู้ทันความคิดของผม ริมฝีปากที่แย้มยิ้มอีก มันค่อยๆก้มลงมา
เพื่อจูบปากผมด้วยอารมณ์อ้อยอิ่งจนพอใจ
“จุ๊บ ตกลงครับบอล พี่จะยอมเราก่อน อะไปเข้าห้องน้ำครับนับหนึ่งถึงสิบถ้ายังไม่ถึงห้องน้ำละก็.....”
มันยอมปล่อยมือและพลิกตัวออกจากตัวผมพร้อมกับขู่นับเลขหนึ่งถึงสิบยังไม่ถึงสามผมก็ลงถึงพื้นแล้วครับ
จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาของผมบอกให้รู้ว่ามันเอาจริงแน่ รีบฉวยเอาผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำได้เท่านั้นครับ
ถ้ามัวมาหาเสื้อผ้าอยู่นับถึงร้อยผมก็ยังเตรียมไม่เสร็จแน่ๆแต่ผมนะจะเสร็จมันเอง
เข้ามาภายในห้องน้ำได้ผมก็รีบล็อคห้องน้ำก่อนอื่นเลยครับประสบการณ์เมื่อวานยังอยู่ในความจำของผม
ผมเริ่มจากแปรงฝันก่อนระหว่างทำความสะอาดช่องปากผมก็คิดว่าเมื่อกี่ไอ้ปีศาจมันจูบผม
แบบแทบจะหลอมรวมลิ้นเข้าด้วยกันมันไม่เหม็นปากรึไงแต่เมื่อคิดอีกทางผมก็ถูกมันจูบด้วยปากที่ไม่แปรง
เหมือนกันนิหว่าผมยังไม่เหม็นเลยรึเพราะอารมณ์มันพาไปกันแน่ แต่แล้วผมก็ต้องสะบัดหน้าเพื่อเลิกคิดฟุ้งซ่าน
และสายตาผมก็สะดุดกับภาพในกระจกตรงหน้า เมื่อภาพที่ผมสวมเสื้อนอนที่ถูกปลดกระดุมทุกเม็ดออกจากกัน
ปากที่แดงช้ำ ผมผ้ายุ่งเหยิง แต่ที่หนักกว่านั้นคือไอ้รอยแดงเป็นจ้ำๆตั้งแต่ลาดไหล่ลงมาจนถึงหน้าท้อง
ไม่ต้องสงสัยเลยฝีมือมันที่ทั้งจูบ ดูด ขบเม้ม กัด โว้ย.....
“แกร๊ก..แกร๊ก..บอลล็อคประตูทำไมครับ”ผมสะดุ้งเมื่อมีเสียงขยับลูกบิดประตูห้องน้ำตามมาด้วย
คำถามของไอ้หมอนข้างหื่น ถามมาได้ก็ล็อคเอาไว้ป้องกันพวกบ้ากามทำประตูตัวเองดิวะ
“บอลจะทำธุระส่วนตัวก่อนครับ พี่วุฒิรอแป๊ปนึงนะครับ”ผมต้องทำเสียงอ้อนมันออกไปก่อน
“หึหึ...ครับ เร็วๆพี่อยากจัดการกับอาวุธประจำกายที่มันพร้อมรบแต่คู่ต่อสู้เค้าไม่ยอมรบกับพี่”โอ้ว..ดูมันพูดมาครับ
ผมค่อยๆทำความสะอาดร่างกายของผมจนเสร็จสิ้น ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูห่อตัวเองช่วงเอวแล้ว
ค่อยๆแง้มประตูออกดูว่ามันยังอยู่ไหม เมื่อดูจนแน่ใจแล้วจึงรีบออกไปแต่งตัวเองให้เรียบร้อย
มันคงจะไปอาบน้ำห้องอื่นแล้ว ก็ชั้นนี้มันเป็นของมันทั้งชั้นนิครับ จะมีห้องน้ำแค่ห้องเดียวได้ไง
ผมออกมาจากห้องนอนใหญ่ก่อนจะเดินไปยังห้องครัวที่ไอ้ปีศาจกำลังนั่งจิบน้ำส้มคอยผม
บนโต๊ะมีชามโจ๊กหมูหอมกรุ่นโรยด้วยขิงซอยละเอียดไม่มีผักชีที่ผมเกลียดให้เห็นก็จะมีได้ไงเมื่อคราวที่แล้ว
ผมเขี่ยผักชีต้นหอมต่างๆทิ้งจนหมด ผมเดินยิ้มนั่งประจำที่เริ่มตักโจ๊กเข้าปาก อร่อยจริงๆครับ ผมหันไป
มองผู้ร่วมโต๊ะอีกคนที่กำลังตักโจ๊กเข้าปากเหมือนกัน แต่ตามันไม่ได้อยู่ที่ชามตัวเองเลยมันกลับจ้องผมแล้ว
ก็อมยิ้มตลอดเวลา อย่าได้ถามมันรึโวยวายครับเดี๋ยวเข้าตัวเอง
“บอลครับพี่เตรียมโต๊ะทำงานให้บอลไว้ในห้องทำงานของพี่นะ”มันเงยหน้าบอกให้ผมรู้
ว่ามันเตรียมที่ทำงานให้ผมเรียบร้อยแล้ว ผมจึงพยักหน้าเพื่อให้มันรู้ว่าเข้าใจแล้ว ผมชอบโจ๊กหมูใส่ขิงซอยมากเป็นพิเศษ
จนเติมอีกชามนึงเต็มๆ แต่อีกคนนะเติมสองรอบแล้วครับ เมื่ออิ่มแล้วผมก็จัดการเอาชามต่างๆไปวางไว้ในอ่างล้างจาน
เพื่อคอยให้แม่บ้านมาทำความสะอาด เสร็จแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์เพื่อโทรหาแม่กับน้องน้ำฟ้า
โดยที่มีมันเดินตามผมมานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก
‘สวัสดีค่ะ’เสียงแม่ผมตอบกลับมา มือนึงถือโทรศัพท์ส่วนอีกมือก็ต้องคอยดันไอ้หมอนข้างที่
พยายามจะนั่งเบียดกับผมทั้งๆที่โซฟามันใหญ่มาก
“สวัสดีครับแม่ สบายดีไหมครับแม่ทานข้าวรึยังครับ”ผมทักแม่ก่อนจะถามคำถามกลับไป
ส่วนอีกคนผมก็ปล่อยมันครับสู้มันไม่ไหว อยากโอบก็โอบไป
‘เรียบร้อยแล้ว แล้วเราละกินรึยัง’เสียงของแม่ที่ตอบคำถามแถมยังยิงคำถามกลับมาหาผม
เสียงของแม่แฝงด้วยความอ่อนโยนตลอดเวลา
“เรียบร้อยแล้วครับแม่ น้ำฟ้าละครับแม่ บอลอยากคุยด้วย”รายงานแม่เสร็จก็ถามหานางฟ้าของผมเลยครับ
‘เดี๋ยวนะแม่เรียกก่อน กำลังท่องสีภาษาอังกฤษอยู่นะ’ผมถึงกับยิ้มออกมา
“ครับแม่”ผมรอเพียงครู่เสียงลูกสาวตัวน้อยก็ดังขึ้น
‘สวัสดีค่ะพ่อบอล น้ำฟ้าคิดถึงพ่อบอลค่ะ’ลูกสาวผมมาถึงก็ออดก็อ้อนก่อนเลยครับ
“ครับ พ่อก็คิดถึงน้องน้ำฟ้าเหมือนกันลูก หนูทำอะไรอยู่ค่ะ”ผมทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบลูกสาวของผม
“จุ๊บ...อ่ะ”ผมโดนจุ๊บแก้มจากไอ้ปีศาจข้างตัว จนผมตกใจก่อนหันไปมองหน้ามันซึ่งมันก็ส่งยิ้ม
ก่อนจะทำปากขึ้นลงซึ่งผมอ่านคำได้ว่า ‘น่ารัก’ ไอ้บ้าไม่ได้น่ารักเว้ย แล้วไอ้หน้าเนี้ยจะรู้สึกร้อนๆทำไม
‘พ่อบอลเป็นอะไรค่ะ ทำไมทำเสียงอย่างนั้น’เอาแล้วครับ เด็กฉลาดมักเป็นเด็กช่างสงสัย
ซึ่งลูกผมฉลาดมากครับ ยิงคำถามมาหาผมแล้วซึ่งไอ้หมอนข้างมันเอาหูของมันแนบไว้ข้างโทรศัพท์
ไม่มีมารยาทจริงๆ ผมพยายามจะเอาหนีแล้วนะครับแต่มันเอานิ้วของมันแตะปากของมันแล้วมาแตะปากของผม
ซึ่งมีความหมายว่าถ้าไม่ยอมให้มันเสียมารยาทซึ่งแถวบ้านผมเรียกว่าเสือกมันจะจูบผมครับ เลยต้องอยู่นิ่งๆ
ให้มันฟังการสนทนาของผมด้วย พอมันได้ยินคำถามของน้องน้ำฟ้ามันก็หัวเราะไม่มีเสียง
“อ๋อ...หมามันเลียหน้าพ่อนะค่ะลูก”ผมตอบกลับไป ผมละอยากหัวเราะออกมาดังๆด้วยใบหน้าเง้างอ
ของไอ้ปีศาจหมอนข้าง แต๋วแตกกันเลย 555
‘อ้าวแล้วคุณพ่อไปทำยังให้หมามันเลียค่ะ ระวังเชื้อโรคนะค่ะแม่อ้อบอกว่ามันมีเชื้อโรค’ตอนนี้
มันหน้างอหนักแล้วครับ อ่านปากมันงึมงำได้ว่าแสบทั้งพ่อทั้งลูก
“ค่ะพ่อจะระวังค่ะ จริงๆเลยนะหมามาเลียพ่อได้ยังกันเป็นหมานิสัยไม่ดีเลยเนอะน้องน้ำฟ้า”ผมรีบ
จัดการย้ำมันหนักๆเลยครับ สะใจจริงครับ
‘ค่ะ แต่คุณพ่อก็เหมือนกันถ้าคุณพ่อไม่ไปเล่นด้วยน้องหมาจะเล่นกับคุณพ่อจนเลียหน้าได้ยังไงค่ะ’
โอ๊ยโดนลูกสวนกลับ ส่วนอีกคนตอนนี้จากหน้างอๆกลายเป็นหัวเราะกลิ้งอยู่บนโซฟาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
น้องน้ำฟ้าหนูจะรู้มากเกินไปแล้วลูก
“จ้า...คนเก่งของพ่อ”ผมรับปากลูกสาวของตัวเอง
‘พ่อบอลค่ะเมื่อไหร่งานแม่อ้อมจะเสร็จซักทีค่ะน้องน้ำฟ้าคิดถึงแม่อ้อมจังค่ะ’พอได้ฟังคำถาม
ของลูกสาวตัวน้อยที่ดูเศร้าและเหงาของผมก็ทำให้ผมเศร้า ผมไม่ได้ห้ามให้อ้อมมาเจอน้องน้ำฟ้าแต่
เป็นเพราะเธอเองที่เลือกจะตัดขาดจากผมและลูกเอง เธอเลือกผู้ชายอีกคนที่มีเงินมากกว่าตามใจเธอมากกว่าผม
วันนั้นเธอจดทะเบียนหย่ากับผมที่เป็นเพียงข้าราชการครูเงินเดือนไม่มาก แล้วเธอก็จดทะเบียนสมรส
กับสมาชิกเทศบาลอีกจังหวัดหนึ่งแทน ถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว
โชคดีที่ไอ้หมอนข้างมันได้ยินคำถามมันก็ผละออกไปยังห้องครัวแทน ไม่อย่างนั้น
มันคงจะเห็นความอ่อนแอของผมอีกแน่ ๆ
“คุณแม่ยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ แต่แม่อ้อมก็คิดถึงน้องน้ำฟ้ามากนะค่ะ เดี๋ยวแม่อ้อมก็จะกลับมาเองค่ะ
ไม่เป็นไรนะค่ะเดี๋ยวพ่อบอลกลับไปอาทิตย์หน้าพ่อบอลจะพาน้องน้ำฟ้าไปหาคุณช้างตัวใหญ่ดีไหมค่ะ”
ผมอธิบายให้ลูกสาวฟังทั้งๆที่มันคงไม่มีวันเป็นจริงที่แม่อ้อมของเธอจะกลับมาอีก จนผมต้องเอาคุณช้าง
ที่น้องน้ำฟ้าชอบเป็นพิเศษเบี่ยงประเด็นความสนใจ
‘จริงนะค่ะพ่อบอล สัญญากับน้องน้ำฟ้าแล้วนะ รักพ่อบอลที่สุดเลย’และมันก็ประสบความสำเร็จ
ด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจ
“ค่ะ พ่อต้องไปทำงานแล้วนะค่ะ พ่อรักหนูนะค่ะน้องน้ำฟ้า จุ๊บ..”ผมบอกลูกก่อนจะส่งจุ๊บผ่านไป
‘ค่ะ น้องน้ำฟ้าก็รักพ่อบอลค่ะ จุ๊บ...’สิ้นเสียงจุ๊บเล็กจากลูกสาวตัวน้อยผมก็กดตัดสัญญาณ
ผมปิดตาเอนหลังไปกับโซฟา คิดถึงสิ่งต่างๆที่เข้ามาในช่วงเวลาที่รวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
ก่อนต้องลืมตามองคนที่เข้ามากอดผมเอาไว้
“ไม่ต้องคิดมากนะ พี่จะไม่ปล่อยให้บอลจมอยู่กับความทุกข์คนเดียว”แรงกระชับตัวของผม
ทำให้ผมกอดตอบไป ทั้งๆที่ผมยังสับสนว่าผู้ชายที่ดูดีเพียบพร้อมคนนี้จะจริงใจกับตัวเองขนาดไหนกัน
“พี่ไม่ยกบอลให้ใครทั้งนั้น ไม่งั้นได้รู้ฤทธิ์นายศาสตราคนนี้แน่ๆ หึหึหึ”พอฟังประโยคนี้
ก็ต้องรีบเอามือออกจากหลังของมันทันที ไอ้ที่ทำอยู่นี่ยังไม่เรียกว่าฤทธิ์พ่อคุณอีกเหรอ
ยังมีอะไรทำได้มากกว่านี้อีกเหรอ
“ปล่อยบอลได้แล้วจะไปเตรียมแผนการสอน แล้วยังสรุปเรื่องคอมอีก”พอผมพูดออกไปมันก็ยอมปล่อยผม
ผมเดินไปหยิบเป้โน๊ตบุ๊คสะพายหลังก่อนจะรวบงานทุกอย่างที่ผมหอบมาจากโรงเรียนและ
สมุดโน๊ตแผ่นพับต่างๆเอามาไว้ในอ้อมแขน และหันไปหาไอ้หมอนข้าง
“พี่วุฒิครับห้องทำงานอยู่ไหน บอกบอลหน่อย”พอผมถามเสร็จมันก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินนำ
“ไปเดี๋ยวพี่จะเข้าไปทำงานเหมือนกัน”มันบอกผม
มันพาผมเดินไปยังห้องนึงอยู่ระหว่างห้องนอนและมีห้องต่อไปอีกสองห้อง มันบอกว่าสองห้องนั้น
เป็นห้องนอนสำหรับเพื่อนรึคนในครอบครัวของมัน มันเปิดเข้ามาในห้องที่มันบอกว่าเป็นห้องทำงานของมัน
และตอนนี้ก็เป็นห้องทำงานของผมด้วย ภายในห้องทาสีและฝ้าสีขาว ปูพื้นด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่สีดำ
ติดกระจกใสสองด้านเพื่อให้มองเห็นด้านนอก มีชั้นสำหรับใส่แฟ้มเอกสารและหนังสือหลังใหญ่หนึ่งหลัง
และหลังขนาดกลางๆอีกหนึ่งหลัง มีโต๊ะทำงานสองชุด มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะพร้อมใช้ทั้งเครื่องปริ๊นเครื่องแฟกซ์
เครื่องอำนวยความสะดวกทั้งโทรทัศน์ เครื่องเล่นแผ่น ตู้เย็นก็มีครับมันบอกว่าเผื่อติดพันกับงานแล้วไม่อยากออกจากห้อง
ผมเอาของทุกอย่างไปวางยังโต๊ะมันบอกว่ามันให้ลูกน้องเตรียมเอาไว้ให้ผม และชั้นหนังสือขนาดกลาง
เป็นของผมครับเอาไว้วางพวกแฟ้มงานต่างๆของผม ผมนั่งทำแผนการสอนของทั้งอาทิตย์ จากเดิมผมมีคาบสอนถึงยี่สิบคาบ
ไม่รวมงานอื่นที่ได้รับมอบหมายนอกจากงานสอน แต่ตอนนี้ผมเหลือคาบสอนสิบห้าคาบ แต่การเขียนแผนการสอน
ก็ยังเหนื่อยอยู่ดี ผมเริ่มพิมพ์ก็เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นสายตาอีกคนที่นั่งอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามมองและยิ้มอยู่
“มองอยู่ได้ ไหนว่าพี่วุฒิจะทำงานไง ถ้าบอลนั่งทำงานตรงนี้แล้วพี่ไม่ทำงาน บอลจะไปนั่งทำงาน
ตรงห้องรับแขกแทนก็ได้นะ มองอยู่ได้แปลกนักรึไงไม่เอาผ้าสามสีมาผูกเลยเหล่า”ผมบอกไอ้หมอนข้าง
ก่อนจะบ่นกับตัวเอง ผมคงลืมไปว่ามันนะปีศาจ หูปีศาจชัดๆ
“จะเอาผ้าสามสีมาผูกทำไม เป็นพี่นะจะถอดอยากเดียวไม่เอามาผูกเพิ่มหรอก”จบครับเงียบเลยดีกว่า
มันหื่นได้ตลอดเวลาจริงๆ โอ๊ยเครียด ก้มหน้าทำงานต่อดีกว่า
“บอล บอลครับ”มันเรียกผมอีกแล้วครับพึ่งเขียนแผนเสร็จไปแค่สามคาบเองนะเว้ย ผมเลยไม่ตอบ
แต่หันไปมองมันแทนคำถาม
“พี่จะถามว่าจะกินข้าวกลางวันที่ไหนดีรึว่าจะกินที่นี่”มันถามถึงมื้อเที่ยง พอผมหันไปมองนาฬิกา
ที่ติดอยู่บนผนังห้องซึ่งแสดงเวลาว่าใกล้เที่ยงแล้ว
“บอลไม่อยากออกไปกินข้างนอก บอลยังเขียนแผนการสอนไปไม่ถึงไหนเลยแล้วยังสื่อการสอนอีก”
ผมบอกออกไปเมื่อผมยังต้องการนั่งทำงานต่อมากกว่าจะเลือกไปกินข้างนอกให้เปลืองเวลาทำงาน
“แล้วบอลจะกินอะไรดีครับ พี่จะได้ให้ต้นไปจัดการให้”มันถามความเห็นของผม
“เอาพิซซ่าแล้วกันครับ ง่ายดีสั่งเค้าเอาแล้วเวลากินก็ไม่ยุ่งยากด้วย”ผมบอกเมนูที่ไม่ต้องใช้เวลาในการกิน
และไม่ยุ่งยาก
“อืม ก็ดีครับเดี๋ยวพี่ไปสั่งต้นก่อนนะ”มันเดินออกไปซักพักก็เดินกลับไปนั่งประจำโต๊ะทำงานของตัวเอง
ผมนั่งทำงานไปเรื่อยๆจนได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมเสียงของอนุญาตเข้าห้อง ตามมาด้วยกลิ่นหอมๆที่ลอยเข้ามา
ต้นถือถาดพิซซ่าสองถาดกลางเข้ามาโดยมีทศถือถาดที่มีจาน ซ้อมมีด ขวดซอสต่างตามต้นเข้ามา
ก่อนจะวางทุกอย่างบนโต๊ะรับแขกที่อยู่ทางซ้ายมือที่นั่งของผม จัดเป็นชุดๆ เดินไปเปิดตู้เย็นที่อยู่ให้ห้องทำงาน
หยิบแก้วน้ำที่มีพร้อมออกมาจัดเตรียมให้ผมและไอ้หมอนข้าง
“นายครับ คุณบอลครับ พิซซ่าพร้อมแล้วครับ”ต้นบอกเจ้านายของตนเองและครูหนุ่ม
“อืม...”ดูมันตอบคนที่หาของกินมาให้มันซิครับ
“ขอบคุณครับต้นแล้วก็ทศด้วย”ผมหันไปขอบคุณคนทั้งสองพร้อมกับส่งยิ้มขอบคุณแถมไปให้ด้วย
“บอลพี่บอกว่าอย่ายิ้มให้ใครนอกจากพี่”ดูมันพูดโอ๊ย...หน้าด้านจริงพ่อคุณเอ้ย
“ชิ...”ผมส่งเสียงได้เท่านี้จริงๆครับ
ผมเริ่มหยิบพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนที่เนื้อแป้งบางกรอบ ผมค่อยๆกัดลงไปขอบอกว่าอร่อยมากครับ
ดูก็รู้เลยว่าไม่ใช่มาจากร้านทั่วไปแน่ๆ มันคงสั่งมาจากร้านอิตาเลี่ยนแน่ๆ ผมกินไปหลายชิ้นเพราะเนื้อแป้งที่กรอบ
หนักเครื่อง ชีสที่เยอะ ผมว่าผมกินเยอะแล้วนะครับแต่ไอ้หมอนข้างมันฟาดเรียบหมดเลยครับ ถาดกว่าเลยนะนั้นนะ
เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยแล้วต้นกับทศก็จัดการซากสิ่งอารยธรรมจนเรียบร้อย ผมก็นั่งทำงานต่อจนผ่านไปได้ซักพักใหญ่
ก็จัดการแผนการสอนและสื่อการสอนเรียบร้อย เงยหน้ามาก็เห็นอีกคนที่นั่งทำงานด้วยสีหน้าท่าทางจริงๆจัง
แหมธุรกิจเค้ามันมีมูลค่าสูงนินา ผมจึงหยิบสมุดโน๊ตกับแผ่นเสนอราคาเพื่อเอามาสรุป
เมื่อเสร็จแล้วผมก็ทำสรุปให้ละเอียดเพื่อให้ไอ้หมอนข้างมันดู
ผมตัดสินใจจะซื้อชิ้นส่วนมาประกอบเองเพราะในราคาเดียวกันประสิทธิภาพในการใช้งานแบบประกอบจะดีกว่า
ส่วนประกันก็จะให้เป็นชิ้นๆนั้นไป เมื่อผมสรุปเสร็จก็ยื่นแฟ้มให้กับไอ้หมอนข้าง มันเงยหน้าขึ้นมองผม
ก่อนจะยิ้มให้แล้วรับแฟ้มไปจากมือผมโดยสัมผัสมือของผมด้วย ผมขี้เกียจโวยวายแล้วครับ นิดๆหน่อยๆมันก็เอา
มันเปิดแฟ้มอ่านก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
“ตกลงครับ เดี๋ยวพี่ให้ทศจัดทีมประกอบให้นะ”มันตอบตกลงก่อนจะบอกว่าจะจ้างทีมงาน
สำหรับประกอบคอมให้ผม
“ไม่ต้องหรอกครับ บอลทำเองได้มันเป็นงานของบอล”ผมพยายามจะแย้งมัน
“ไม่ได้ครับ บอลเป็นคนประสานงานครับ แล้วพี่ไม่ยอมให้เมียพี่เหนื่อยหรอก”เอาครับจะเองไงก็เอา
เปลืองพลังงานของผมเหลือเกิน
“บอลเสร็จแล้วใช่ไหมครับ พี่ก็เคลียร์งานเสร็จแล้วเหมือนกัน กินข้าวที่ห้องดีกว่านะครับ
บอลยังดูเหนื่อยๆอยู่เลย”มันบอลด้วยความหวังดีกับผม
“ครับ ขอเป็นสลัดผักได้ไหม พิซซ่ามื้อกลางวันแล้ว”ผมบอกออกไป
“ได้ครับ ไปกันดีกว่า”มันเดินออกไปจากห้องก่อนจะสั่งให้ทางคอนโดเตรียมชุดสลัดผักให้ผมและตัวมันเอง
เพียงครู่ต้นก็เปิดประตูให้พนักงานของคอนโดเข็นรถอาหารเข้ามาจัดให้ยังห้องอาหาร
ก่อนที่มันจะให้ทิปไป ห้าร้อยบาท พอเห็นแล้วอยากจะด่ามันว่าไอ้รวยเอ้ย... พอเดินเข้ามาดูก็พบกับ
สเต็กปลาแซลมอน สลัดผักสดๆ ผลไม้สด น้ำส้ม
“กินแต่สลัดผักมันไม่อิ่มหรอกครับ พี่เลยสั่งสเต็กปลา ผลไม้”มันบอกพร้อมกับนั่งลงประจำที่ของตัวเอง
ผมจึงนั่งตาม เริ่มด้วยสเต็กปลาแซลมอนที่อร่อยจัดการจนหมด ก็มาถึงสลัดผักสดลาดด้วยน้ำสลัดน้ำข้นที่ผมชอบ
ผักที่สดกรอบเข้าได้ดีกับน้ำสลัดจึงไม่ยากที่ผมจะกินจนหมด และล้างปากด้วยผลไม้ น้ำส้ม มือค่ำจึงสิ้นสุดลง
นั่งย่อยอาหารด้วยการนั่งดูข่าวภาคค่ำจนจบผมก็เข้าห้องเพื่ออาบน้ำและเหมือนเคยครับเตรียมทุกสิ่งให้พร้อม
ล็อคประตูห้องน้ำให้เรียบร้อย เมื่อจัดการทุกอย่างผมก็เข้านอนในเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ ผมนอนลงห่มผ้านวม
โดยที่ไอ้หมอนข้างก็ตามขึ้นมาบนเตียงปิดไฟจนมืดทั้งห้อง ก่อนจะดึงผมเข้าอ้อมกอดโดยที่ผมอยากจะขัดขืน
แต่ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับประตูหลังของผมจึงต้องยอมให้มันกอด จนผมเริ่มจะหลับก็รู้สึก
เหมือนกับสองคืนก่อนหน้าทั้งสัมผัสอันแผ่วเบา และถ้อยคำที่ดังแว่วมาจากที่ไกล
“จุ๊บ..ฝันดีนะครับครูบอลของพี่วุฒิ
วันนี้ผมมาทำงานด้วยรถเบ็นซ์ที่มีทศขับต้นนั่งคู่กับคนขับ และผมนั่งคู่กับไอ้หมอนข้างด้านหลัง
เมื่อถึงที่หมายผมก็เตรียมตัวเปิดประตูก็ถูกจับมือก่อนที่จะทันได้เปิดประตู
“อืมมมมม ฮ่า ฮ่า”พอผมหันกลับไปเพื่อถามมัน ก็ถูกปิดปากด้วยปากของมัน เล่นวิ่งไล่จับ
ระหว่างผมและมันอยู่นาน จนมันพอใจจึงยอมปล่อยให้ผมหายใจได้
“ตั้งใจทำงานนะครับ แล้วเย็นนี้พี่จะมารับ”มันพูดออกมา ดีนะครับที่รถมันเป็นติดฟิล์มดำไม่งั้น
ไม่รู้จะมีคนเห็นบ้างไหม แค่ต้นกับทศผมก็อายจะตายอยู่แล้ว
ผมรีบเดินลงรถเดินเข้าไปเซ็นชื่อ ก่อนจะเข้าไปหาพี่สุหัวหน้าฝ่ายวิชาการเพื่อรับตารางสอนใหม่ของผม
“สวัสดีครับพี่สุ บอลมาเอาตางสอนใหม่นะครับ”ผมบอกออกไปเมื่อเข้าไปยังห้องวิชาการ
“อ้าว บอลมาแล้วเหรอ อะนี่พี่ว่าจะฝากให้เต้เอาไปให้แล้วเชียว”ครูหัวหน้าฝ่ายวิชาการกว่าออกมา
“ไม่เป็นไรครับพี่บอลมาเอาเองดีกว่า เต้สอนแทนบอลเยอะเลยลำบากเต้มันเปล่านะพี่”ผมอธิบาย
และเกรงใจน้องชายอีกด้วยที่ต้องมารับงานของตนเอง
“อืม เป็นไงบ้างบอลที่พักคุณชายหมอของยายปลาดีไหม แล้วดูแลดีไหม”พี่สุถามว่าที่พักของผมดีไหม
แล้วการต้อนรับดีไหมนะเหรอครับ ผมอยากจะบอกว่าดีมากครับเตียงเดียวกันเลย ดูแลดีไหมอันนี้ถึงขั้น
ส่งคนสนิทเฝ้าเนี่ยดูแลดีพอไหมครับ
“บอลช่วงนี้รู้สึกเราจะดูเปล่งปลั่งนะ ปากอิ่มแดง ใบหน้าสดใสมีเลือดฝาดถ้าเป็นสาวๆเนี่ย
เค้าต้องเป็นช่วงเข้าหอใหม่ๆเลยนะเนี่ย”โหฟังพี่สุพูดแล้วผมไปต่อไม่เป็นกันเลย จนต้องชิ่งออกมาก่อน
“เหรอครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมการสอนคาบต่อไปก่อนนะครับ”ผมรีบพูดแล้วรีบเดินออกจากห้องวิชาการทันที
“เดี๋ยวสิบอล”เสียงพี่สุตะโกนตามออกมาจากในห้อง
แค่ฟังคำพูดของพี่สุผมก็อยากจะเอาหน้ามุดดินหนีอยู่แล้ว แล้วยิ่งคำพูดของไอ้หมอนข้างลอยเข้ามา
‘ก็พี่คิดถึงนินา แล้วก็จูบต้อนรับสู่เรือนหอของเราไงครับ หึหึหึ’ ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ผมจะหลากหลายอารมณ์เหลือเกิน
แต่ตอนนี้มีแต่อารมณ์ “อาย” อย่างเดียว อ่ะอายเหรอ อายเนี่ยนะ....ม่าย.....นะ
ขอบคุณนะค่ะสำหรับกำลังใจทุกคุร

ทีเพื่อเติมพลัง
อย่าหายกันไปไหนนะ

เค้าขอร้อง หวังว่าจะยังรักกันอยู่นะค่ะ
แล้วพบกันอีกทีวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน นะค่ะ
