SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (ปก+รายละเอียดหนังสือ / P.22 : 16.02.14) [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (ปก+รายละเอียดหนังสือ / P.22 : 16.02.14) [จบแล้ว]  (อ่าน 277914 ครั้ง)

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
Re: ► SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (CH.9 / P.8 : 14.02.14)
«ตอบ #240 เมื่อ16-02-2014 19:58:29 »

สู้ๆนะฟ้าคราม

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
Re: ► SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (CH.9 / P.8 : 14.02.14)
«ตอบ #241 เมื่อ16-02-2014 20:08:44 »

 :katai1:ถ้าผู้ใหญ่ไม่ชอบกินเด็ก เด็กก็กินผู้ใหญ่แทนเลยละกัน :laugh:

ออฟไลน์ The_Beggar

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ► SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (CH.9 / P.8 : 14.02.14)
«ตอบ #242 เมื่อ16-02-2014 22:41:04 »

หนุกค่า

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: ► SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (CH.9 / P.8 : 14.02.14)
«ตอบ #243 เมื่อ18-02-2014 09:22:03 »

เปิดตัวไปเลย ชัดเจนหน่อย ฟ้าคราม


ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: ► SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (CH.9 / P.8 : 14.02.14)
«ตอบ #244 เมื่อ19-02-2014 03:12:21 »

 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Linea-Lucifer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรี้ดดดด////เนื้อเรื่องใสๆกับน้องเพรช หนักหน่วงกัยอัคคี

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
อยากให้คุณปฐพีเป็น  เมีย  คนอื่นนะเนี่ยยย เพราะดูอ่อนแอ ไม่เด็ดขาดเลย   :oo1: :ling2:

ออฟไลน์ mahaki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
คุณปัฐพีเป็นคนที่ฝากอนาคตไว้ด้วยไม่ได้จริงๆ ทั้งเพลง พะพาย ทั้งเมียใหม่ แล้วก็คีอีก ดูเป็นผู้ชายที่...ชีวิตนี้ขออย่าให้ได้เจอแบบนี้เลยเหอะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ปฐพีไม่มีความเด็ดขาดเลย แต่ถ้ามีอัคคีอยู่คงช่วยให้พี่แกเด็ดขาดขึ้นนะ
(หวาน-ฟ้าครามเพชร หนักหน่วง-ปฐพีอัคคี ชอบเลยอ่ะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lolitar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เอิ่ม...คุณปฐพี  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

น้องฟ้าเอ้ยสู้ๆ o13 o13 เดี๋ยวพี่เพรชก็ใจอ่อน :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อ้าวววว คุณปฐพี ไม่ไหวนะ

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
นึกว่าจะแอกกิ๊กๆกักกับคุณเพชรของเราแต่คุณฐพีนี้มีคู่กิ๊กสะแล้วว แบบว่าน่าสนใจิอะ ดูเปนรักเศร้าๆไงไม่รู้

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ไม่ชอบคุณปฐพีตั้งแต่แรกแล้วอ่ะ ผู้ชายอะไรไม่แมนเลยอ่ะ  :ling1:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เชียร์ให้คุณปฐพีรับด้วยคนค่ะะ

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อะไรยังไงอ่ะ   ได้กันแล้วหรอ   

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4



CHAPTER 10
"บุก"




        “น้าเพชรขา ไปเล่นทะเลกับพระพายนะ น้าๆๆๆ”

        “ยังร้อนอยู่เลยนะคะ”

     หลานทำหน้ายู่เมื่อผมตอบเป็นเชิงห้ามแก ก่อนที่จะหันไปหาพ่อของตัวเอง “พ่อขา ตอนนี้เรายังลงทะเลไม่ได้อีกเหรอคะ”

     คุณปฐพีทำหน้ากระอักกระอ่วนเหมือนจะยอมใจอ่อนกับลูกจนผมต้องส่งสายตาเป็นเชิงปรามนิดหน่อยว่าอย่าเพิ่งยอมพระพาย สุดท้ายเขาก็ส่ายหน้านิดหน่อยจนพระพายหน้าเบ้หนักกว่าเก่าแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรต่อแม้แต่นิดเดียว

     หลานอยากลงทะเลมากครับ นี่รบเร้ามาตั้งแต่เราเข้าที่พักแต่เพราะว่าแดดยังแรงอยู่ผมเลยยังไม่อยากให้พระพายลงเล่นสักเท่าไหร่ กลัวหลานเสียโฉม ถ้าผิวขาวๆ ดำขึ้นมาผมคงเสียใจตาย ด้วยความที่พระพายเป็นเด็กที่ขาวมาก ไม่เหมือนพี่ของผมแต่เหมือนคุณปฐพีเสียมากกว่า ผมกลัวว่าจะเป็นพวกโดนแดดมากๆ แล้วแพ้น่ะสิ

     “อีกชั่วโมงก็ลงได้แล้วนะ” คนที่รู้วิธีรับมือกับเด็กเอ่ยปากออกมาก่อน “รออีกแป๊บนะคนเก่ง”

     “โอเคค่า”

     ผมกับคุณปฐพีตาขวางใส่พี่เลี้ยงเด็กพร้อมกันอีกครั้ง

     ...ทำไมต้องแย่งความรักไปจากหลานนนน!

     ชักหมั่นไส้เจ้าหมอนี่มากขึ้นทุกวันแล้วนะเว้ย คือผมหวงหลานอ่ะ เข้าใจความรู้สึกที่พ่อหวงลูกสาวเลย มันแบบ... ถึงหลานแค่สี่ขวบแต่ก็หวงอ่ะ! บรรยายไม่ถูก!

     ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้พูดอะไรนักหรอก แค่หยิบกระป๋องเบียร์ที่ซื้อมาไปนั่งชมวิวทำเอ็มวีที่ริมระเบียงซึ่งมีเก้าอี้สองตัวกับโต๊ะตั้งอยู่
   
     ที่นี่สวยมากจนผมไม่กล้าถามคุณปฐพีว่าค่าที่พักเท่าไหร่ ผมถามเขาแล้วแต่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะจ่ายเอง ถือว่าเป็นการพาลูกมาเที่ยว เพราะถึงผมไม่มาเขาก็จองที่นี่แล้วอยู่ดี ผมเกรงใจนะแต่พอเขายืนยันแบบนั้นผมก็ช่างมันไป ถือว่าเป็นการดีซะอีก

        ผมมองไปข้างนอก แดดเริ่มร่มขึ้นบ้างแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ช่วงเทศกาลคนเลยน้อย ผมเห็นแค่พวกต่างชาติอยู่ริมหาด ไม่เห็นว่ามีคนไทยเลยแม้แต่คนเดียว

     ที่นี่ตกแต่งเรียบๆ แต่ดูหรูหราตามแบบฉบับโรงแรมห้าดาว ห้องนี้เป็นห้องสวีทอยู่บนชั้นยี่สิบกว่า มีสองห้องนอน ห้องหนึ่งเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียง อีกห้องเป็นเตียงคู่เรายังไม่ได้ตกลงว่าใครจะนอนห้องไหนเนื่องจากผมและพ่อเด็กอยากนอนกับพระพายทั้งคู่ (ก็ไม่ค่อยหลงหลาน) ส่วนฟ้าครามก็ดูจะสนิทกับคุณปฐพีไปแล้ว เห็นชอบนั่งคุยกันเรื่องมหา’ ลัย เออดี... นอนด้วยกันไปเถอะ ผมจะได้หลานมานอนกอด

     “คุณเพชรครับ”

     ผมหันไปมองคนที่เอ่ยปากเรียกชื่อผมก่อนจะเลิกคิ้วเบาๆ “ว่าไง?”

     “...ดื่มเบียร์แต่หัววันเลยเหรอ” ฟ้าครามเหลือบตามองสิ่งที่อยู่ในมือของผม “ไม่ดีนะครับ”

     “ไม่ได้ทำบ่อยๆ น่า” ผมตอบปัด

     พี่เลี้ยงเด็กถอนหายใจนิดหน่อยก่อนที่จะหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่งและไม่ได้พูดอะไร

     ผมเริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อเขาเงียบแบบนี้ จะทำอะไรอีกวะ... บางทีก็รู้สึกกลัว ไม่สิ มันไม่ใช่ความรู้สึกกลัวหรืออะไรหรอก มันเป็นความรู้สึกกึ่งๆ หวาดผวามากกว่า ผมรู้จักเขาไม่นานและรู้จักเขาแต่ในโหมดที่ทำตัวเหมือนแม่บ้านวัยกลางคนกับโหมดหยอดผมนักๆ ไม่ใช่โหมดเงียบแบบนี้

     ...เออ รู้สึกแปลกๆ จริงๆ นั่นแหละ

     ผมเหลือบตามองเขานิดหน่อยก่อนที่จะผงะเมื่อพบว่าเขามองผมอยู่

     “มีอะไรเหรอครับ”

     “เปล่า” ผมตอบปัด “แค่คิดว่ามันแปลกๆ เท่านั้นเอง”

     “หมายถึง?”

     “ก็ที่คุณไม่พูดอะไรเลย”

     “...ผมรอให้คุณเพชรพูดกับผมก่อนต่างหาก”

     คำพูดของเขาทำให้ผมเลิกคิ้วนิดๆ ไหนจะรอยยิ้มเทวดาที่ถูกยกมาประดับบนใบหน้าอีกครั้งนั้นอีก

     ผมหันหน้าหนีแทบจะในทันทีเมื่อเจอสายตาที่เขามองผม มันเหมือน... เหมือนอยากจะกินหัวผมใจจะขาดประมาณนั้น!

     เห็นแล้วอดผวาไม่ได้จริงๆ

     “เดี๋ยวสักหนึ่งชั่วโมงผมจะพาพระพายไปเล่นน้ำ คุณเพชรจะไปด้วยมั้ยครับ”

     “ไป แต่ผมไม่ลง” ผมตอบไปเสียงเรียบพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง อีกหนึ่งชั่วโมงก็ประมาณสี่โมงครึ่งพอดี

     “กลัวดำเหรอครับ” ฟ้าครามถามด้วยสีหน้าแปลกใจนิดหน่อย

     “เปล่า ขี้เกียจน่ะ” ผมว่าตามจริง ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้ “...ให้ตายสิ” พึมพำเบาๆ อย่างหงุดหงิด

     “อะไรเหรอครับ”

     “ผมไม่ได้เอาครีมกันแดดมาให้พระพาย” ผมตอบอย่างหงุดหงิดใจ “อา ให้ตาย หลานจะดำมั้ยเนี่ย แถวนี้มีร้านห้างหรืออะไรบ้างมั้ยนะ อ๊ะ คุณมีรึเปล่า” เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฟ้าครามอาจจะมีก็ได้ เขาบอกว่าเกย์มักจะเป็นคนสำอางใช่มั้ยล่ะ ถ้าหมอนี่เป็นเกย์แล้วพกครีมกันแดดก็คงไม่แปลกหรอก

     “ผมไม่มีหรอกครับ ลองถามคุณพีดูมั้ย”

     “เดี๋ยวมานะ” ผมวางเบียร์ไว้บนโต๊ะก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในที่พักเห็นคุณปฐพีนั่งคุยกับลูกตัวเองอยู่ “คุณปฐพีครับ มีครีมกันแดดมั้ย”

     เขาทำหน้ากรุ่นคิดอยู่นิดหน่อย “เหมือนจะไม่นะครับ คุณไม่ได้พกมาเหรอ” ผมส่ายหน้า “แล้วคุณจะเอาไปทำไมน่ะ จะลงทะเลด้วยเหรอ”

     “เปล่า สำหรับพระพายต่างหาก”

     คุณปฐพีพึมพำว่า ‘อา จริงสิ’ เหมือนกับเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมส่ายหน้าเบาๆ นี่เขาไม่เป็นห่วงลูกรึยังไงกัน ผิวขาวๆ จะดำเชียวนะเว้ยยย นี่เรื่องจริงจังนะเฮ้ย!

     สุดท้ายพวกเราทั้งสามก็เริ่มค้นหาครีมกันแดดให้หลานโดยที่พระพายไม่รู้อะไรด้วยเลย เลือดรักลูกรักหลานนี่น่ากลัวจนพวกเราถึงขั้นติดต่อพนักงานว่าแถวนี้มีที่ขายครีมกันแดดบ้างมั้ย พนักงานสาวก็หัวเราะนิดหน่อยก่อนจะตอบกลับมาว่า

     [ ใกล้ๆ โรงแรมมีมินิมาร์ท หาซื้อจากที่นั่นได้ค่ะ ]

     “ขอบคุณมากครับ” ผมเอ่ยขอบคุณพนักงานทางปลายสายนิดหน่อยก่อนจะหันกลับมาหาคนอื่น “เดี๋ยวผมเดินไปซื้อให้พระพายละกัน”

     “ได้ครับ”

     คุณปฐพีพยักหน้ามองดูลูกที่งอแงอยากเล่นน้ำทะเลจนหลับไป มันก็ไม่แปลกหรอกในเมื่อพระพายตื่นเต้นที่ได้มาเที่ยวจนเมื่อคืนนอนไม่หลับ ถึงจะนอนมาตลอดทางแต่มันก็คงยังไม่พอ

     “ผมไปด้วยครับ”

     ผมหันขวับไปตามเสียงทุ้มของอีกคนในห้องที่เอ่ยปากออกมา “จะไปด้วยเหรอ”

     “ครับ” ฟ้าครามยิ้ม “ผมอยากซื้อของนิดหน่อย”

     “เอาอะไรล่ะ ฝากผมซื้อมั้ย”

     “ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรครับ แค่อยากซื้อ หรือว่าผมไปด้วยไม่ได้...”

     เจ้าพี่เลี้ยงเด็กพูดประโยคกวนบาทาก่อนจะตามมาด้วยการพูดเสียงอ่อย ทำหน้าตาหูลู่หางตกเหมือนกับหมาโดนทิ้ง

     ...ไอ้หมอนี่

     ผมกัดฟันกรอด นี่มันรู้ใช่มั้ยว่าผมเป็นคนใจอ่อนง่ายกับใบหน้าแบบนี้! ช่วงนี้เหมือนทำท่าแบบนี้บ่อยเหลือเกินนะ แล้วหนักกว่านั้นเวลามันทำหน้าแบบนี้มักมีคนเข้าข้าง ปกติจะเป็นพระพาย ส่วนตอนนี้เป็นคุณปฐพีแทน ดูพ่อหลานมองผมสิครับ ทำไมมองผมด้วยสายตาเหมือนผมเป็นคนใจร้ายแบบนั้น!

     สุดท้ายแล้วผมได้แต่สูดลมหายใจลึก “ก็ไม่ได้ว่าอะไร” ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์และมือถือของตัวเอง

     ปัง!

     ผมเผลอตบโต๊ะด้วยความหงุดหงิดออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

     เจ้าเด็กนี่มันยังไงกัน จะเอายังไงกันแน่ เดี๋ยวก็เข้ามาหาแบบไม่ทันตั้งตัว เดี๋ยวก็มาทำหน้าใสซื่อ คิดว่าตัวเองน่ารักมากรึยังไงกัน!

     ชักเดาไม่ออกแล้วนะว่าเจ้าหมอนี่มันเป็นคนประเภทไหน มองๆ ก็ดูน่ารัก เป็นคนดีอยู่หรอก แต่พอนานๆ เข้าทำไมเหมือนลายเริ่มออกแบบนี้วะ เป็นพวกแสบแต่ตีหน้าซื่อหรือยังไงกันแน่ แล้วที่สำคัญจะเอายังไงกับผมกันแน่วะ บอกให้ชัดๆ ไปเลยไม่ได้รึยังไงกัน
     
     ‘รู้ตัวแล้วเหรอครับ ที่ผมพยายาม ‘จีบ’ คุณเพชร’

     คำพูดที่เจ้าพี่เลี้ยงเด็กพูดเมื่อวานแวบเข้ามาในหัวสมองจนผมต้องกลืนน้ำลายอึก

     มันประกาศเจตนารมณ์ซะขนาดนี้แล้ว... จะรอดมั้ยกู

     คิดแล้วสยองตั้งแต่ก้านสมองยันไขสันหลัง ผมสะบัดหน้าเรียกสติตัวเองกลับคืน เอาวะ มากับมันสองคนซะเมื่อไหร่ มีพ่อลูกอีกตั้งคู่นึง!

     ถ้ามันกล้าบุกเข้ามาก็คงจะกล้าเกินไปแล้วล่ะ!

     
   
     “คุณเพชรครับ”
   
     ...ไม่มอง ไม่ฟัง ไม่ได้ยิน ไม่หัน
   
     ผมบอกตัวเองแบบนั้นเป็นสิบครั้งเพราะนับตั้งแต่เดินออกมาจากโรงแรมสองคนกับมันเพื่อเดินไปที่มินิมาร์ทเจ้าหมอนี่ยังไม่หยุดเรียก ‘คุณเพชร’ เลย แต่ผมก็ยังไม่หันอยู่ดี

        “คุณเพชรครับ หันมาหน่อยสิ”

        “...” ไม่หัน ไม่หัน ไม่หัน

        “อ๊ะ พระพาย!”

        ขวับ!

        ผมหันขวับไปเมื่อได้ยินเสียงพี่เลี้ยงเด็กเรียกพระพายเหมือนกับหลานตามมาด้วยแต่พอหันกลับมาดันเจอหน้ายิ้มแป้นของพี่เลี้ยงเด็กเท่านั้น

        ...ซวยละนายพชร

        ฟ้าครามยิ้มแป้น “พระพายไม่มาหรอกครับ”

        “คุณแกล้งผมนี่” ผมเอ่ยเสียงขุ่น

        “ก็คุณเพชรไม่หันมานี่ครับ... ใครแกล้งใครก่อนกันแน่” ร่างโปร่งตรงหน้าทำหน้าเบ้เล็กน้อย “ทำไมคุณเพชรถึงกันท่าผมขนาดนี้ล่ะครับ”

        ผมสูดลมหายใจลึก “พูดเรื่องอะไร” แอ๊บเนียนแล้วหันกลับไปจะเดินทางต่อ

     “เดี๋ยวก่อนสิครับ”

     ...นะ นี่คว้ามือเลยเรอะ!

     น้ำลายเหนียวๆ ถูกกลืนลงคอด้วยความยากลำบาก ปกติแม้ฟ้าครามจะทำเนียนแค่ไหนแต่ไม่เคยที่จะทำแบบนี้เลยสักครั้ง หมายถึง เอ่อ... กึ่งบังคับให้ผมคุยด้วยกลายๆ แบบนี้ ปกติแล้วเขาดูเป็นคนขี้เกรงอกเกรงใจคนอายุมากกว่าจะตายไป

     “มีอะไร” ผมพยายามทำเสียงแข็ง ไม่เผยไต๋ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตกใจให้เขาได้เห็น

     “ทำไมคุณเพชรต้องพยายามกันท่าผมขนาดนี้ด้วยครับ” คนตรงหน้าพูดเสียงจริงจัง ลงแรงบนมือที่กำลังบีบมือผมอยู่นิดหน่อย “ผมว่าคุณตีเนียนไม่รู้เรื่องได้แล้วนะ ทำไมคุณแกล้งทำซื่อบื้อได้ขนาดนี้ เนียนไปถึงไหนกัน”

     ...สงสัยกูมีมึงเป็นไอดอลมั้ง แหม เห็นเนียนอยู่บ่อยๆ

     เวลาแบบนี้ตอบไปแบบที่คิดได้ที่ไหนล่ะครับ ที่ทำได้ก็คือพยายามตีหน้าซื่อต่อไปเท่านั้น “แกล้งซื่อบื้ออะไร?”

     “คุณเพชร” เสียงของเขาเข้มขึ้นนิดหน่อย

     ผมมองหน้าเขา เขาเองก็มองหน้าผม ไม่มีใครคิดจะขยับเขยื้อนไปไหน สุดท้ายก็เป็นผมที่สะบัดมือออกและถอนหายใจออกมาเบาๆ เลิกตีหน้าซื่อและพูดตรงๆ

     “ผมกันท่าคุณแล้วผิดตรงไหน”

     ฟ้าครามพ่นลมหายใจมาเล็กน้อย “ว่าแล้วว่าคุณเพชรรู้”

     “...ก็คุณเนียนเหลือเกิน”

     อดไม่ได้ที่จะแขวะพลางคิดไปถึงความเนียนก่อนหน้านี้ของเจ้าพี่เลี้ยงเด็กตรงหน้า จะว่าไปกว่าจะมั่นใจผมเองก็เปลืองเนื้อเปลืองตัวไม่ใช่น้อยนะครับ ทั้งโดนลูบโดนหยอด... บรึ๋ย

     “ผมออกตัวแรงมากเลยเหรอ” เขาทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยเหมือนกับไม่รู้จริงๆ

     ผมไม่ตอบอะไรแค่ยกยิ้มแหยๆ ให้กับฟ้าคราม เหมือนเขาจะได้รับคำตอบไป

     ฟ้าครามทำหน้าลำบากใจ “ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ...”

     ...โอ้ นี่ขนาดไม่รู้จะทำยังไงยังล่อขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่ามันรู้ว่าไอ้การออกตัวควรจะทำยังไงแล้วมันจะออกตัวมาขนาดไหน

     “เดินไปมินิมาร์ทก่อนเถอะ” ผมเอ่ยตัดบท

     รอบนี้แตกต่างกับเมื่อกี้โดยสิ้นเชิงเมื่อคนที่เดินด้วยไม่เอ่ยปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ฟ้าครามไม่ได้เรียนคุณเพชรๆ จนน่าหงุดหงิดอีกแล้ว เขาเดินตามหลังผมและปิดปากเงียบจนผมนึกว่าเดินคนเดียวด้วยซ้ำไป

     “คุณเพชรครับ” ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากออกมา

     “หือ?” ผมหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่าย “มีอะไรเหรอ”

     “ผมออกตัวแรงจริงๆ เหรอ”

     ...มึงยังมีหน้ามาถาม!

     แม้ในใจคิดแบบนั้นแต่ผมเลือกใช้คำที่ถนอมน้ำใจเขามาที่สุดเท่าที่จะทำได้ “...ก็ผมรู้ตัว” ผมบอกไปตามตรง

     “ที่ผมจีบคุณเพชรน่ะเหรอ”
   
     คำถามตรงๆ นั้นทำให้บรรยากาศรอบข้างดูกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันตา สุดท้ายแล้วผมก็ต้องพยักหน้าอย่างจำใจ โธ่เว้ย ต้องมายอมรับว่าผมโดนผู้ชายจีบนี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ ไม่ตลกแม้แต่นิดเดียว!
   
     ฟ้าครามยิ้มเจื่อน “จริงเหรอ...”
   
     “อือ” ผมพยักหน้ายืนยันอีกครา
   
     “แล้วคุณเพชร...” เขาเว้นวรรคไปชั่วครู่จนทำให้ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย “คุณเพชรไม่รู้สึก เอ่อ”
   
     “รู้สึกอะไร”
   
     “แบบ... หวั่นไหวอะไรแบบนี้บ้างเลยเหรอ”
   
     ผมมองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจ
   
     ผู้ชายตัวสูงกว่าผมเล็กน้อย ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งอย่างกับสันปันเขื่อนกำลังเอ่ยปากถามว่าผมไม่รู้สึกหวั่นไหวกับเขาบ้างหรือไร ที่สำคัญมันอยู่ที่ใบหน้าของเขาเจื่อนสุดฤทธิ์เหมือนพร้อมจะร้องไห้อยู่รอมร่อ และหนักกว่านั้นคือหน้าเขาซับสีเหลือนิดหน่อย
        
     อย่างกับกระต่ายจะโดนเชือด...
   
     ผมไม่ตอบอะไรและหันหน้าเดินต่อ ส่วนเจ้าพี่เลี้ยงเด็กเองก็ไม่ถามอะไรต่อเหมือนกัน ถ้าให้ทายผมคิดว่าเขาคงจะกำลังทำหน้าเทวดาตกสวรรค์อยู่แน่ๆ
   
     ให้ตายสิ บอกตรงๆ นะว่าตอนที่เขาออกตัวจีบผม ผมไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย แต่พอเขาทำหน้าแบบเมื่อกี้มันกลับดูน่า ‘หวั่นไหว’ กว่าเดิมตั้งเยอะ
   
     ...มองผู้ชายว่าน่าหวั่นไหวด้วยแบบนี้ อาการหนักแล้วนายพชรเอ๊ย





-----------------------------------------------
อาการหนักจริงๆ แล้วค่ะคุณเพชร โถะ

่ว่าแล้วว่าทุกคนพร้อมใจกันรักคุณปฐพี...
ตั้งแต่แต่งนิยายมาไม่เคยมีตัวละครที่รู้สึกว่าสงสารขนาดนี้มาก่อน
ทุกคนเกลียดจนรู้สึกผิดที่สร้างคุณปฐพีมาเลยล่ะค่ะ 5555555555555

คุณเพชรจะใจอ่อนมั้ยหนอ? ติดตามกันต่อไป...

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ดีแล้วจ้า เนื้อเรื่องจะได้มีสีสัน  :mew3: :mew3:

Ma Lullaby

  • บุคคลทั่วไป
 :katai5:มาเมนต์เปนกำลังใจเจิมให้คนแต่งนะคะ

เมื่อไรคุณเพชรจะยอมใจอ่อนกะน้องฟ้าเสีย(ตัว)สีกที อิอิ :impress2:

น้องพระพายน่ารักมากเบยค่ะ><~ :mew1:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
หลงลูกหลงหลาน 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ฟ้าครามเอ้ย ลองแกล้งเย็นชาใส่ดิ ระวังเห็นผล

ออฟไลน์ Ra poo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อั๊ยยะ ทำไมเรารู้สึกว่าคุณปฐพีน่าสมเพชละเนี่ย มากกว่าน่าสงสารง่ะ งือออ

แต่เอาจริงๆแอบเชียร์คุณปฐพีมีสามีเหมือนกันนะ ดูเป็นฝ่ายที่ต้องการการปกป้องอย่างบอกไม่ถูก :z3:



..เพชรจะใจอ่อนยังหว่า ไม่มีวี่แววเบย :ruready

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
 “ผมออกตัวแรงจริงๆ เหรอ”>>> นี่ก็กล้าถามเนอะ ฮ่าาาาาาาาา

แอบเชียร์ฟ้าคราม

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
มองว่าน่าหวั่นไหว แสดงว่าเริ่มหวั่นไหวใช่เปล่าน้าเพชรร  :-[
ฟ้าครามสู้ สู้วววว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขำตั้งแต่คุณเพชรมีฟ้าเป็นไอดอลละ 5555

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จริงๆคุณเพชรก็เผลอหวั่นไหวไปหลายครั้งแล้วแหละ แต่ปากแข็งอ่าาาาา

ฟ้าครามสู้ๆๆๆๆๆ 55555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โธ่คุณเพชร ยอมๆฟ้าไปเห๊อะ
หวั่นไหวแล้วนี่นา กิ๊วๆ >\\\\\<

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เชียร์ฟ้าคราม
สู้ๆ

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4



CHAPTER 11
“ใจอ่อน”



        ผมนั่งอยู่ที่ชายหาดมองภาพตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์
   
     คนน้อยเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาล ถึงจะเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่เลือกมาเล่นทะเลแต่มันก็เหมือนกับหาดส่วนตัวอย่างไรอย่างนั้น พระพายเล่นน้ำโดยมีคุณปฐพีจับอยู่ไม่ห่าง ส่วนผมก็นั่งหล่อๆ อยู่แทน ไม่ได้ลงเล่นน้ำแต่อย่างใด ขี้เกียจน่ะครับ ปล่อยให้พ่อลูกและพี่เลี้ยงเด็กเล่นกันต่อไป
   
     “คุณเพชร”
   
     ผมเลิกคิ้วมองหน้าคนเรียกชื่อ ไม่รู้ว่าเดินขึ้นมาจากทะเลตอนไหน “มีอะไรเหรอ”
   
     “ไม่เล่นจริงๆ เหรอครับ” ฟ้าครามถามเสียงเรียบ
   
     “ขี้เกียจน่ะ” ผมเอ่ยไปตามจริง
   
     ...แล้วก็ไม่มีบทสนทนาอะไรต่อ
   
     ฟ้าครามดูเกร็งเมื่ออยู่กับผมมากกว่าเดิม จนผมนึกสงสัยว่าสรุปเจ้าเด็กนี่เป็นแบบไหน บางทีก็ดูกล้าจนเกินไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกขี้ประหม่า กล้าๆ กลัวๆ... ทำไมโลกนี้ไม่มีความพอดีวะ
   
     “จะไปไหนน่ะ” ผมเอ่ยปากถามขึ้นเมื่อเขาเดินไปอีกทางที่ไม่ใช่ทะเล
   
     “ล้างตัวครับ ผมเหนื่อยแล้ว พระพายแรงเยอะเป็นบ้า” เขาว่าอย่างติดขำนิดหน่อย “ทำไมเด็กตัวแค่นี้ถึงแรงเยอะแบบนี้ก็ไม่รู้”
   
     “หมอฟันอ่อนแอมากกว่า” ผมแย้งอย่างไม่จริงจังอะไรนัก “ก็วันๆ เอาแต่ดูฟันชาวบ้านนั่นแหละ”
   
     “คุณเพชรก็เอาแต่นั่งทำงานออฟฟิศเหมือนกันนั่นแหละ”
   
     ผมตวัดสายตาเมื่อเห็นเขาบ่นงึมงำ พอเจอสายตาแบบนั้นเข้าไปเขาก็ทำหน้าเลิกลั่กเป็นเชิงว่าไม่ได้บ่นอะไรนะ เห็นแล้วผมก็อดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้
   
     “งะ งั้นผมไปล้างตัวนะ”
   
     “อือ” ผมพยักหน้า
   
     ว่าแล้วฟ้าครามก็เดินออกไปเลย
   
     ผมหันกลับไปดูหลานที่ยังเล่นไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อยกับคุณปฐพีที่ดูท่าจะอึดพอกันเพราะขับรถมาทั้งวันแล้วยังสามารถเล่นกับลูกตัวเองได้
   
     คงเป็นเพราะลมเอื่อยๆ กับท้องฟ้าสีส้มเพราะว่าอยู่ในเวลาเย็นทำให้ผมรู้สึกสะลึมสะลือเล็กน้อย สุดท้ายผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

     ผมเป็นคนมีโซเชี่ยลแต่ไม่ได้ติด พวกอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊คหรือพวกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กดังๆ ผมก็มีหมด แต่ไม่ค่อยได้อัพอะไรหรอก มักจะเป็นการเปิดไปเรื่อยๆ คอยสำรวจชีวิตของคนอื่นมากกว่าแต่วันนี้เกิดนึกอย่างไรไม่รู้ ผมถ่ายรูปคุณปฐพีกับพระพายโดยมีทะเลและท้องฟ้าสีสวยเป็นฉากหลังก่อนจะอัพอินสตราแกรมไปก่อนจะเปิดดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสา

     ‘ไปเที่ยวเหรอเนี่ย หลานน่ารักจัง ชื่ออะไรนะ’

     ผ่านไปไม่นานไลน์ก็เด้งขึ้นมา เป็นปรายรุ้งที่ทักผมมาก่อน ปกติเราก็คุยกันบ้างแต่ไม่ได้คุยกันมากมาย แค่ไม่กี่ข้อความต่อวัน ยกเว้นวันไหนที่ทั้งผมและเธอเกิดทำตัวว่างขึ้นมาจริงๆ นั่นแหละ... ซึ่งมันก็ไม่ค่อยมีหรอก

     ‘ชื่อพระพาย เอาไว้จะซื้อของไปให้นะ’

     ‘ไม่ต้องหรอกๆ แล้วนั่นพ่อน้องเขาเหรอ’

     ‘อือ’


     ผมกำลังจะพิมพ์อะไรบางอย่างต่อไปแต่ก็ลังเลว่าจะส่งดีหรือไม่

     ‘มีพี่เลี้ยงเด็กด้วย’

     สุดท้ายผมก็ลบข้อความนั้นโดยไม่รู้ว่าทำไม จริงๆ บอกไปก็ได้ แต่ผมก็บอกตัวเองว่าเธอไม่ได้ถามนี่นาว่าผมมากับใครบ้าง... จะบอกไปทำไมล่ะ

     “คุณเพชรครับ” เสียงทุ้มของพี่เลี้ยงเด็กดังขึ้นใกล้ๆ พร้อมกับเงาที่ชะโงกหัวลงมา

     “อย่ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่สิ...” ผมตำหนินิดหน่อยอย่างไม่จริงจังอะไรมาก “ล้างตัวเสร็จแล้วเหรอ”
     
     “ครับ นี่กี่โมงแล้ว”

     ผมเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือตัวเอง “ห้าโมงสิบแล้ว” ก่อนจะตอบไปตามจริง “ให้ตายสิ พระพายเล่นทะเลมานานแล้วเหรอเนี่ย”

     “ให้เขาเล่นอีกแป๊บนึงก็ได้ น้องไม่เคยมานี่ครับ”

     ผมยักไหล่ ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่เรียกคุณปฐพีและเคาะนาฬิกาให้ดูเป็นเชิงเตือนเรื่องเวลา เขาเองก็พยักหน้าแต่ก็หันไปเล่นกับลูกของตนเองต่อ

     “ผมไม่ได้มาทะเลนานมากแล้ว” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบพลางหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ ผม “ขอบคุณนะครับที่อนุญาตให้ผมมา”
     
     “ไปขอบคุณคุณปฐพีเถอะ” ผมเอ่ยปัด “อีกอย่างหลานก็อยากให้คุณมาด้วยนี่”

     “...แต่คุณเพชรไม่อยากให้มานี่นา” น้ำเสียงอีกฝ่ายดูกึ่งๆ น้อยใจ

     ผมหันไปมองหน้าและเลิกคิ้วนิดหน่อย “ทำไมถึงคิดอย่างงั้นล่ะ”

     “ก็คุณเพชร... เอ่อ” เขาทำหน้าอ้ำอึ้ง “คุณเพชรรู้แล้วว่าผมพยายามทำอะไร ก็เลยไม่อยากให้ผมมาใช่มั้ยล่ะครับ”

     “ก็นิดหน่อย” ผมตอบไปตามจริง ไม่คิดจะปิดบังแม้แต่อย่างใด “แต่หลานอยากให้คุณมา คุณมาน่ะดีแล้ว ถ้าหลานสุข ผมก็สุขนะ” ว่าแล้วอมยิ้มน้อยๆ มองภาพพระพายที่กำลังยิ้มกว้างอยู่กับพ่อของเขาเพราะได้มาเล่นน้ำทะเลที่แกอยากเล่น

     ...ถึงพระพายไม่ใช่ลูกแต่ผมก็มองแกเหมือนลูก

     หลานเป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ ผมหมายถึงครอบครัวว่าด้วยสายเลือด... นั่นไม่แปลกว่าทำไมผมถึงรักแกมากขนาดนี้

     “ผมชอบคุณเพชรตอนนี้นะ” คำพูดของฟ้าครามทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเขาอย่างหวาดๆ จนเขาทำท่าเลิกลัก “ผมหมายถึง เอ่อ แบบ... ตอนคุณเพชรพูดถึงน้อง มันดูรักน้องดี ดูรักครอบครัว” ไม่รู้ว่าเขาพยายามแก้ตัวหรือเปล่า แต่ผมก็พยักหน้า

     “ขอบคุณ”

     “คุณเพชรอย่ามองผมอย่างงั้นสิครับ” ฟ้าครามเอ่ยเสียงอ่อย

     ผมหันขวับ “แบบไหน”

     “แบบนี้แหละ” เขาว่าด้วยใบหน้าเบ้เล็กน้อย “คุณเพชรดักทางผมจนผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว”

     ...กูก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันปะ!

     ผมนิ่วหน้าด้วยความหงุดหงิดกับสิ่งที่เจ้าฟ้าครามพูดออกมา แล้วไอ้คำว่าดักทางนี่คืออะไร... เออ กูก็ดักทางไม่ให้มึงจีบปะวะ สรุปจะเอาไงกันแน่วะเนี่ย!

     “ฟ้าคราม” ผมพูดออกมาเสียงเรียบก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ผมไม่รู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผมนะแต่เราเจอกันแป๊บเดียว มันจะชอบอะไรได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ”

     “...”

     ดูเหมือนคำพูดของผมจะแรงไปหน่อยเขาถึงได้เงียบแบบนั้นผมเลยพยายามใช้คำพูดที่นุ่มนวลกว่าเดิม

     “ผมมองคุณเหมือนเป็นน้องเป็นนุ่ง คุณช่วยผมตั้งเยอะ แต่ผมคงไม่มองคุณแบบนั้นหรอกนะ... ผมชอบผู้หญิง อย่าพยายามเลย” เขายังคงเงียบผมเลยพูดต่อ “เจอกันแป๊บๆ มันก็ชอบ แป๊บๆ เดี๋ยวก็เลิกชอบ นะ?”

     คำสุดท้ายผมพยายามจะทำให้มันนิ่มที่สุดเท่าที่จะนิ่มได้…

     แววตาของคนตรงหน้าดูวูบไหวขึ้นมาเล็กน้อย มันทำให้ผมเกือบจะใจอ่อน ขอบคุณที่ผมรู้ตัวก่อนเลยเบือนหน้าหนี เป็นจังหวะเดียวกันกับพ่อลูกขึ้นมาจากทะเลทำให้ไม่มีคนพูดอะไรต่อ

     “น้าเพชรขา” หลานสาวเดินเข้ามาเสียงอ่อน “เล่นต่อไม่ได้เหรอคะ”

     ผมย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับแก “ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง”

     “แต่...” หลานหน้างอ “พระพายยังไม่ได้เล่นกับน้าเพชรเลย...” แกทำเสียงอ่อน หน้าหงอยลงทันตาจนผมรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปเล่นกับแก “งั้นพรุ่งนี้มาเล่นกับพระพายนะคะ”

     ...เจอแบบนี้ใครจะใจแข็งไหว

     “โอเคค่ะ”

     “พี่ฟ้าด้วยนะคะ!”

     ผมผงะเมื่อพระพายหันไปชักชวนพี่เลี้ยงของแก ฟ้าครามสบตากับผมเล็กน้อย สีหน้าที่ดูเศร้าๆ ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีจนเบือนหน้าหนี

     “นะคะพี่ฟ้า...” หลานที่ไม่รู้อะไรก็เอ่ยออดอ้อนต่อ

     “พี่... ไม่เล่นดีกว่านะ” คำตอบของเขาทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย
   
     พระพายทำท่าจะร้องไห้ “ทำไมล่ะคะ ไม่อยากเล่นกับพระพายเหรอคะ” พูดเสียงหงอยจนผมต้องจับแกอุ้มขึ้นมาและเหลือบตามองสาเหตุ
   
     พี่เลี้ยงเด็กเองก็มองหน้าผมอยู่เหมือนกัน “อยู่ที่คุณเพชรนั่นแหละว่าจะให้พี่ฟ้าเล่นด้วยมั้ย”
   
     ...น้อยใจรึยังไง?
   
     ผมเกือบพลั้งปากถามพี่เลี้ยงเด็กที่ทำหน้าหงอยแบบนั้นแต่ก็ต้องกลืนคำถามลงไปเพราะเห็นหน้าหลาน แล้วไหนจะพ่อของหลานที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย
   
     “น้าเพชรค้า...”
   
     เจอน้ำเสียงแบบนี้จากพระพายสุดที่รักผมจะไปไหนรอด
   
     “เอาไว้พรุ่งนี้มาเล่นกันนะคะ” ผมก้มลงเอ่ยปากกับพระพายก่อนที่จะหันไปมองอีกคนที่ทำหน้าลุ้นอยู่ว่าผมจะพูดอะไรต่อ “คุณด้วยนะ ฟ้าคราม”

     ขืนยังทำใจแข็งก็โดนหลานบอกว่าใจร้ายพอดีสิ...

     

     แค่หลานดูมีความสุขกับการทานอาหารทะเลคุณปฐพีก็ยิ้มแป้น คุยกับลูกอย่างสนุกสนาน หลังจากกลับมานั่งพักที่ห้องได้สักพักเพื่อให้อาหารอิ่มท้องคุณปฐพีก็เสนอความคิดขึ้นมา

     “ที่นี่มีตลาดกลางคืน ไปด้วยกันมั้ยครับ”

     ผมลังเลนิดหน่อยก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม ถ้าหากจะไปตลาดกลางคืนจริงๆ มันน่าจะเป็นเวลาที่ดึกกว่านี้ผมเลยส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ

     “พระพายอยากไป!” แต่หลานกลับเอ่ยปากออกมาแบบนั้น “ตลาดกลางคืนเป็นยังไงเหรอคะ”

     “ก็เป็นเหมือนตลาดทั่วไปน่ะค่ะ” ผมตอบไปแบบนั้น “แต่มีอะไรให้เที่ยวเยอะเลย มีของกินด้วยนะ”

     อันที่จริงผมก็พูดไปเรื่อย ตลาดกลางคืนน่าจะสนุกสำหรับวัยรุ่น เด็กๆ อย่างพระพายก็น่าจะเจอแค่พวกของกิน หรืออย่างมากก็พวกของเล่นเท่านั้น

     “พระพายอยากไปค่ะ!” ยิ่งได้ยินแบบนั้นหลานยิ่งยืนยันเสียงแข็ง “คุณพ่อพาพระพายไปได้มั้ยคะ” แกถามอย่างตื่นเต้น

     คุณปฐพีหันไปยิ้มให้ลูก “ได้จ้ะ”

     “เย้!”

     “แล้วคุณเพชรกับฟ้าคราม จะไปด้วยกันมั้ยครับ” คุณพ่อลูกสองหันมาถามพวกผม

     ผมลังเลนิดหน่อยและเหลือบมองอีกคน เห็นได้ชัดว่าเขาก็มองผมอยู่ทำให้ผมเป็นฝ่ายหลบตามาก่อน

     ...ให้ตายสิ บอกแล้วว่าไม่ชอบให้มองแบบนั้น

     มองเหมือน... น้อยใจอะไรอยู่อย่างงั้นแหละ!

     “ผม... ไม่ไปดีกว่าครับ” ฟ้าครามเป็นคนที่ให้คำตอบคุณปฐพีก่อน “คุณปฐพีเที่ยวกับพระพายให้สนุกเถอะครับ” เขายิ้มก่อนจะหันมามองผม ทันทีที่มองผมรอยยิ้มมันก็เจื่อนลงทันที “คุณเพชรด้วยนะครับ”

     ผมรู้สึกใจกระตุกวูบกับรอยยิ้มนั้น

     ยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นคนที่ใจอ่อนง่ายมาก โดยเฉพาะกับคนอายุน้อยกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมรู้ตัวดีมาตลอด ถึงทำใจแข็งแค่ไหนผมก็มีความคิดว่าคนอายุมากกว่าไม่ควรทำให้คนอายุน้อยกว่าเจี๋ยมเจียม มันเหมือนพี่แกล้งน้อง... หรือว่าที่ผมคิดอย่างนี้อาจจะเป็นเพราะสมัยเด็กๆ ผมโดนแม่ของหลานแกล้งบ่อยๆ กันแน่ก็ไม่รู้เหมือนกัน
   
     สุดท้ายผมก็สูดลมหายใจลึกและเอ่ยปากให้คำตอบ

        “ผมไม่ไปล่ะกันนะ” ...อะไรดลใจให้ผมพูดแบบนี้เนี่ย ให้ตาย!
   
     พอได้ยินแบบนั้นคุณปฐพีก็ยกยิ้มเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร เขาบอกว่าจะพาหลานกลับมาก่อนสี่ทุ่มเนื่องจากตลาดกลางคืนอยู่ไม่ไกล อีกอย่างพระพายคงจะทนมากกว่านั้นไม่ไหวเพราะหลานเป็นเด็กที่นอนเร็ว (ผมกำชับเรื่องนี้มากเพราะผมกลัวแกไม่สูง)

        เชื่อมั้ย ตั้งแต่ผมบอกไปว่าผมจะอยู่ที่นี่... ผมยังไม่ได้เหลือบมองหน้าพี่เลี้ยงเด็กเลย

        แล้วเด็กมันจะคิดยังไงวะเนี่ย

        คุณปฐพีแทบไม่ได้ใช้เวลาอะไรเลย พระพายเองก็ยังอยู่ในชุดที่ออกไปข้างนอกได้ เมื่อตกลงกันเขาเลยออกจากห้องทันที

        “เดี๋ยวผมจะรีบกลับนะครับ”

     คุณปฐพีเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะอุ้มลูกตัวเองเดินออกจากห้องไป

        ปัง...

        เสียงประตูปิดดังขึ้นในความเงียบ ตอนนี้ไม่มีเสียงอะไรเลย มันเงียบจนน่าอึดอัด ท้ายที่สุดก็เป็นผมที่ลุกขึ้นเดินไปเปิดทีวี เจอรายการกีฬาฉายย้อนหลัง ผมก็ดูเรื่อยๆ ไปตามเรื่องเพราะไม่มีอะไรทำ

        “คุณเพชรครับ...”

        นานทีเดียวกว่าจะมีเสียงพูดดังขึ้นมา

        ผมทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียวว่าควรทำหน้าอย่างไร “หือ?” เลยส่งเสียงขานรับโดยไม่หันมามองหน้า

        “คุณเพชร... ไม่อยากไปเที่ยวกับพระพายเหรอครับ”

        “ผมไม่ชอบเที่ยว”

        “แล้วคุณเลยเลือกที่จะอยู่กับผมอย่างงั้นเหรอ”

        คำพูดของเขาทำให้ผมหันไปมองเจ้าของเสียง ฟ้าครามมองตรงมาที่ผม มองด้วยสายตาเหมือนจะคาดหวังอะไรเล็กน้อย ซึ่งผมไม่อยากคิดว่าเขาจะคาดหวังอะไร

        แต่ให้ตายเถอะ... สายตานั่นทำให้ผมรู้สึกหายใจไม่ออกยังไงไม่รู้

        ทั้งๆ ที่ผมนั่งอยู่ริมโซฟาและเขาอยู่ที่โซฟาอีกฝั่งหนึ่ง ทั้งที่ระยะห่างระหว่างเราก็มีมากแท้ๆ แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนเขาขยับเข้ามาใกล้โดยที่เขาไม่ได้ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว หรือบางทีเขาอาจจะมีพลังอะไรบางอย่างรึเปล่า...

     อา ผมเริ่มเพ้อเจ้อแล้ว
   
     ผมสูดลมหายใจลึกและมองหน้าเขาตรงๆ “ทำไม”
   
     “เปล่าครับ ผมแค่อยากถาม” พี่เลี้ยงเด็กตอบกลับมาตรงๆ “แล้วคำตอบคือ...”
   
     ผมถอนหายใจออกมาแผ่วเบา
   
     “ผมไม่ได้เลือกที่จะอยู่กับคุณ”
   
     ...
   
     “แต่การอยู่กับคุณ... ก็ไม่ได้แย่อะไรมาก”
   
     คำพูดของผมอาจจะดูแย่ไปเสียหน่อย ทั้งๆ ที่ตัวเองตั้งท่าไว้อยู่แล้วแต่พอเห็นอีกฝ่ายหน้าซึมหน้าหงอยแล้วมันพาลรู้สึกสงสาร ผมไม่ได้หมายความว่าผมจะเปิดโอกาสให้เขา แต่มันหมายความว่าผมจะปล่อยให้เขาทำตามที่อยากทำ
   
     ในเมื่อไม้แข็งไม่ได้ ผมจะลองเอาไม้อ่อนสู้
   
     ...ยังไงหมอนี่ก็ไม่ได้จริงจังกับผมหรอก สักพักเขาก็หยุดเองแหละ
   
     คิดแบบนี้แล้วผมก็ได้แค่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่ได้มองหน้าฟ้าครามสักนิดแต่คิดว่ารอยยิ้มคงไม่ใช่รอยยิ้มเจื่อนๆ เหมือนเดิม เอาล่ะ ในเมื่อลองใช้วิธีนี้ผมก็ต้องทำใจตัวเองให้ดีๆ
   
     จะพยายามไม่ใจอ่อน
   
     แต่มันจะทำได้มั้ยล่ะเนี่ย!




-----------------------
อ้อย! คุณเพชรอ้อย!

จริงๆ หลายคนก็คงจะจับทางคุณเพชรถูกแล้วแหละ
เพียงแต่ฟ้าครามจะจับทางถูกรึยังหนอ?

ปล. ขอโทษที่มาช้านะคะ T_T
[/color]

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด