
CHAPTER 13
“ล้วงตับ”
“เอ่อ... ผมคงต้องกลับ” คำพูดของฟ้าครามทำให้ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยคำนี้ออกมา “คุณเพชรดื่มตามสบายเถอะครับ”
“ผมบอกแล้วเหรอว่าจะดื่ม” ผมท้วง เฮ้ย รู้สึกเหมือนตัวเองท้วงผิดประเด็น
พี่เลี้ยงเด็กยิ้มเจื่อน “ไม่บอกก็รู้ครับ” ก่อนที่จะหันไปหาไอ้ธาม “ดื่มให้สนุกนะครับ”
ธามท ำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง ประมาณว่า ‘คงจะไม่สนุกถ้ากูไม่ได้ล้วงความลับ’ อะไรอย่างงี้ มันเลยเอ่ยปากพูดชวนอีกครั้งหนึ่ง
“จะไม่อยู่กินข้าวจริงๆ เหรอ” มันทำหน้าแปลกใจ “เพชร ทำไมเป็นคนงี้วะ คนเขาช่วยมึงตั้งเยอะนี่ใจคอไม่คิดแม้แต่จะเลี้ยงข้าวเขาเลยเหรอ มึงนี่ใจจืดใจดำ...”
ผมลอยหน้าลอยตาอย่างไม่สนใจ
“พระพายมารู้ว่าน้าเป็นคนอย่างงี้คงเสียใจ” มันพูดต่อ ผมเริ่มหูกระดิกนิดหน่อยเมื่อมันเอ่ยชื่อพระพาย “เดี๋ยวกูจะเล่าให้หลานมึงฟังหมดเลยว่าน้าโดนผู้ชายจีบ”
“ฟ้าคราม อย่าเพิ่งกลับ เดี๋ยวผมเลี้ยง”
เจอคำขู่เกี่ยวกับหลาน... กลับคำแทบไม่ทันเลยทีเดียว
พี่เลี้ยงเด็กหันมาทำหน้าแปลกใจ แบบแปลกใจมากๆ ที่ผมพูดออกมาแบบนั้น แปลว่ามันคงไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของธาม
“แต่ว่า...” คนตรงหน้าทำท่าจะแย้ง
“ไม่เอาน่า เห็นมั้ย ไอ้เพชรเป็นคนดีขึ้นมาแล้ว เข้าบ้านเถอะ”
ไอ้ธามชิงพูดขึ้นมาก่อนที่ฟ้าจะพูดจบด้วยซ้ำ สงสัยกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจขึ้นมาอีก สุดท้ายฟ้าครามก็จัดการเก็บกุญแจรถเรียบร้อย ก่อนที่ไอ้ธามจะเดินดันหลังพี่เลี้ยงเด็กให้กลับเข้าไปในบ้าน
เดี๋ยวนะ นี่บ้านใครกันแน่วะธาม บ้านกูหรือมึง? ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะกินหัวไอ้ธามเข้าไปเลย ทำไมไอ้ธามมันเนียนจังวะ... เออดี บางทีฟ้าครามกับไอ้ธามอาจจะเป็นพี่น้องที่พลัดพรากจากกันเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนก็ได้นะครับ ทักษะในการทำตัวเนียนนี่เก่งเหมือนกันเป๊ะ!
ฟ้าครามทำหน้างุนงงนิดหน่อย ก่อนที่จะหันมามองผม ส่วนผมก็ทำได้แค่ยักไหล่เป็นเชิงว่าปล่อยมันไป
ผมเดินตามหลังไอ้สองคนเข้ามาในบ้าน (คือตอนนี้ไอ้ธามทำตัวเป็นเจ้าบ้านแล้วครับ) เห็นพระพายกำลังเขี่ยข้าวเล่นอยู่ผมจึงอดที่จะเอ่ยเตือนไม่ได้
“พระพาย กินข้าวสิคะ”
“ค่ะ” หลานพยักหน้าหงอๆ ก่อนที่จะหันมามองไอ้ธามด้วยสีหน้างุนงงแต่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรออกมา
“น้องพระพายคะ น้ามีของมาให้ด้วยนะครับ”
พอเห็นพระพายทำหน้าไม่เป็นมิตรใส่มันก็ยิ้ม พูดจาระรื่นหูขึ้นมาทันตาและส่งถุงที่มันถืออยู่มาให้ตรงหน้าพระพายถุงหนึ่ง เห็นโลโก้ก็รู้แล้วว่าของเล่นเด็กอย่างแพง
แต่พระพายสะบัดหน้าหนี
“คุณแม่บอกพระพายว่าไม่ให้รับของจากคนหน้าแปลก” ผมรู้สึกว่าตอนนี้ มีจุดสามจุดอยู่บนหัวไอ้ธาม แล้วก็ตามมาด้วยเสียงการ้องอะไรประมาณนั้น
...โอ๊ยยยยย ขำ หลานกูบอกมึงหน้าแปลกอ่ะธาม!
แต่ ณ จุดนี้จะขำมากไม่ได้ครับ ขนาดไอ้ฟ้าครามยังรีบยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นขำเลยทีเดียวเชียว ส่วนไอ้ธามทำหน้าเหวอไปแล้ว
ผมหันไปเอ่ยแก้กับพระพาย “คุณแม่ไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้ารึเปล่าเอ่ย”
“แม่บอกห้ามทั้งหน้าแปลกแล้วก็แปลกหน้าค่ะ”
“อุ๊บ...” หลานตอบเสียงฉะฉานจนผมขำกว่าเก่า
คือพระพายจัดเกณฑ์ไอ้ธามอยู่ในหมวด ‘หน้าแปลก’ แทนที่จะเป็น ‘แปลกหน้า’ ไงครับ อะไรวะ ไอ้ธามก็หน้าตาไม่ได้แปลกอะไรนะครับ มีสองตา หนึ่งจมูก หนึ่งปากเหมือนคนปกติทั่วไป แต่แค่มันไว้หนวดเอง ทีหน้าแบบพี่เลี้ยงเด็กหลานนี่ติดได้ติดดี โธ่... หลานกู
“พระพายคะ” หลังจากพยายามกลั้นขำได้ผมก็อธิบาย “คนนี้เพื่อนน้าเพชรเองค่ะ ถึงมันจะหน้าแปลกก็ตาม ฮ่ะๆ” อดไม่ได้ที่จ ะแซว
“ไอ้เพชร มึง...” พระพายเอาตัวเข้ามากันผมโดนอัตโนมัติเมื่อไอ้ธามเอามือชี้หน้า
...โธ่หลานรัก ตัวแค่นี้ทำเก่ง
ผมลูบหัวแกเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “ไม่ต้องหรอกค่ะ มันไม่ทำอะไรหรอก”
พระพายทำหน้างง “เขาไม่ใช่คนไม่ดีเหรอคะ”
“เอ๊ะ ทำไมถึงคิดงั้นเอ่ย?”
เจอแบบนี้ผมเองก็แปลกใจไม่ใช่น้อยนะครับ พระพายทำหน้างุนงงมากจนผมนึกสงสัยว่าอะไรทำให้พระพายคิดอย่างงั้น
“ก็คุณน้าคนนี้ไว้หนวด” “กูเกลียดหลานมึงแล้วเพชร อะไรวะ แค่กูไว้หนวดก็บอกว่ากูเป็นคนไม่ดีล่ะ เสียใจ!”
ไอ้ธามก็บ่นเรื่องเดิมมาเป็นสิบนาทีหลังจากพวกเราขำกันจนไม่มีอากาศหายใจ เพียงเพราะคำตอบของพระพายที่บอกว่า ‘น้าคนนี้ไว้หนวด แปลว่าเป็นคนไม่ดี’ ตอนนั้นระเบิดหัวเราะเลยครับ ไม่มีกลั้น แทบจะตาย ขำจริงๆ...
เด็กๆ มันก็ซื่อเนอะ ไว้หนวดเป็นคนไม่ดี ใส่แว่นเป็นคนเรียนเก่งอะไรอย่างงี้ ว่าแล้วก็ขำ
ตอนนี้พระพายกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วและหลานก็กลับไปนั่งดูการ์ตูนต่อ ไม่ได้สนใจของที่ธามซื้อให้แม้แต่น้อย ก็ไอ้ธามดันซื้อบ้านตุ๊กตาให้หลานครับ คือหลานผมไม่สนใจอะไรพวกนี้เลย อีกอย่างเด็กสมัยนี้มันก็เล่นแต่พวกไอแพดกันแล้วปะวะ ถึงพระพายจะถูกเลี้ยงมากับคนหัวเก่าอย่างพี่สาวผมก็เถอะ
ผมดีใจมากที่ไอ้ธามยังน้อยใจหลานผมไม่หาย เพราะมันลืมไปแล้วว่ามีฟ้าครามนั่งอยู่ด้วย ถ้าเป็นปกติมันคงซักกันจนขาวแล้วแหละครับ
“คุณเพชรกินเยอะๆ นะครับ”
ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเมื่อจู่ๆ ฟ้าครามก็เอ่ยปากออกมาแบบนั้น
เห็นนั่งเงียบๆ มานานไม่นึกว่าจู่ๆ จะทำให้ไอ้ธามนึกขึ้นได้นะว่ามันจะซักฟ้าคราม... ไอ้บ้าเอ๊ย แล้วคนซวยน่ะใคร ผมไง
“อ้าวเพชร มึงก็กินสิ พี่เลี้ยงเด็กอุตส่าห์ตักให้”
เชี่ยธาม เกลียดมึง ไอ้นี่ก็เล่นอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้ นิสัยยียวนกวนเบื้องล่างคงจะเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายทั้งๆ ที่ตอนนี้มันอายุล่อเข้าไปตั้งสามสิบแล้ว ว่าแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ทำไมกูถึงยังคบมันเป็นเพื่อนได้วะ
“เดี๋ยวฟ้ารีบกลับมั้ย” มันเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้พี่เลี้ยงเด็ก “ที่บ้านเคร่งรึเปล่าเนี่ย”
...อืม ยิ้มมากๆ เลย สปาร์กกับมันเลยก็ดีนะ ไหนๆ ก็ชอบผู้ชายกันทั้งคู่แล้ว กูจะได้รอดสักที
“ก็ไม่เคร่งหรอกครับ”
“อยู่ดื่มด้วยกันมั้ยล่ะ”
“แค่กๆๆ!” ผมถึงขั้นสำลักเลยทีเดียว
ฟ้าครามยิ้มแหย “ไม่ดีหรอกมั้งครับ”
“บ้าเหรอ คนแก่ชวนจะปฏิเสธได้ไง จริงมั้ยไอ้เพชร” ไอ้ธามพยายามหาแนวร่วมทั้งๆ ที่มันก็รู้ว่าผมไม่มีทางเป็นแนวร่วมให้มันแหงๆ “อีกอย่างถ้าพวกเราเมาแล้วใครจะดูแลหลานวะ ยังไงก็ต้องหาคนดูแลไม่ใช่เหรอ”
...เออก็จริง
ที่ไอ้ธามพูดมามันก็ใช่ครับ แต่ที่พูดงี้แปลว่าใจคอคิดจะเมาอย่างเดียวเลยใช่มั้ย อันที่จริงประเด็นถัดจากการที่ดูแลหลาน ที่เครียดกว่าคือการทำความสะอาดนี่แหละ ถึงพรุ่งนี้จะเป็นวันเสาร์แต่ผมก็ต้องพาพระพายไปเจอพ่อแกด้วย
แต่จะให้ฟ้าครามมาทำอะไรแบบนี้ ผมว่าหมอนี่ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กแล้วแหละ แม่บ้านชัดๆ
“แต่คุณเพชร...” ฟ้าครามเหลือบตามองผมเล็กน้อย
ผมถอนหายใจ “อยู่ช่วยเก็บศพพวกเราด้วยล่ะกัน” สุดท้ายก็ยอมให้จนได้
เพียง แค่นั้นเจ้าพี่เลี้ยงเด็กก็คลี่ยิ้มกว้างจนผมต้องชะงักนิดหน่อยเพราะแสบตา แววตานี่วิบวับขึ้นมาทันทีเชียว บางทีไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้นะ... หรือถ้าดีใจก็ช่วยปิดๆ นิดนึง!
ผมกับไอ้ธามเริ่มตั้งวงหลังจากผมพาหลานขึ้นห้องนอนเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านั้นไอ้ธามก็พยายามจะชวนพระพายคุยครับ มันทำตัวเหมือนนางสาวไทย สงสัยฝังใจกับการที่พระพายบอกว่ามันเป็นคนไม่ดีเพราะมีหนวดไปแล้ว ส่วนพระพายก็ยังทำหน้าไม่ชอบไอ้ธามเหมือนเคย เออดีเว้ย... เพื่อนโดนหลานรักเกลียดขี้หน้า โดนเด็กๆ เกลียดขี้หน้านี่ควรพิจารณาตัวเองได้แล้วนะธาม แถมเด็กคนนั้นคือหลานกูเลยนะ หลานกูนี่มนุษย์สัมพันธ์ดีสุดๆ ฮึ...
“ชงเหล้าเป็นมั้ย” ผมเอ่ยถามพี่เลี้ยงเด็ก
“เลวว่ะเพชร ทำไมให้น้องเขาชง” ไอ้ธามเอ่ยขัดขึ้นมาแทนคนที่ผมถามเสียอย่างงั้น “นี่แขกนะเว้ย ทำไมมึงไม่ชงให้น้องเขากิน”
‘น้องเขา’ เรียกอย่างกับเด็กผู้หญิง ถุย... ผมกลอกตา “งั้นมึงชงเองเลยกูรอกิน” พูดมากดีนัก รำคาญ
“ฟ้าครามช่วยพี่หน่อยนะ”
สุดท้ายไอ้ธามก็หันไปหาพี่เลี้ยงเด็กอยู่ดี โด่ ทำมาด่ากู... ฟ้าครามหัวเราะนิดๆ และพยักหน้าก่อนที่จะเริ่มจัดการชงเหล้าท่ามกลางความสุขอุราของผม
นานวันยิ่งทำตัวเหมือนคุณชายเกินไปจริงๆ ว่ะ ขนาดเหล้ายังมีคนชงให้เลย
“ฟ้าครามมีแฟนยัง”
...เริ่มแล้วไง ผมกลืนน้ำลายอึกเมื่อจู่ๆ ไอ้ธามก็เอ่ยปากถามออกมาแบบนั้น ทำไมคำถามนี้ต้องถามกันทุกคนเลยวะ คำถามยอดฮิตเหรอ แล้วทำไมมึงต้องมองกูแบบนั้นธาม
ฟ้าครามยิ้มเจื่อน “ไม่มีครับ”
“จริงเหรอ โห ใครปล่อยให้เด็กคนนี้หลุดมือไป” เสียงเพื่อนผมมันตอแหลจริงๆ
...ธาม มึงเพื่อนกู มึงอย่ามองกูแบบนั้น!
ผมแกล้งลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปหยิบจานมาจากห้องครัวเพื่อที่จะจัดแจงกับแกล้มที่ไอ้ธามซื้อมาให้พร้อม ที่บ้านผมไม่มีอะไรแบบนี้หรอกครับ ทุกอย่างต้องปลอดภัย ผมไม่ดื่ม นานๆ ทีถึงจะตั้งวง เรียกได้ว่าพอเป็นกระษัยเท่านั้น เรื่องบุหรี่ผมก็ไม่ดูด สมัยมหา’ ลัยเคยลองอยู่นะ แต่พอจบมหา’ ลัยก็เลิกทันที
“อ๋อเหรอ ตามจีบคนใจแข็งอยู่เหรอ” ไอ้ธามมมมม!
ผมเกลียดไอ้ธามมากที่จู่ๆ มันทำเสียงดังเหมือนกับจะแหกปากขึ้นมากะทันหัน ไม่รู้ว่าพี่เลี้ยงเด็กพูดอะไร ไอ้ธามถึงได้พูดมาแบบนั้น
ผมเอาจานพลาสติกตบหัวมันเบาๆ “เดี๋ยวหลานตื่น” ณ จุดนี้มีอะไรอ้างหลานไว้ก่อน
“อูยย มึงรู้จักคนใจแข็งของน้องเขารึเปล่าเพชร” ด้วยความที่ตอนนี้ผมหันหลังให้พี่เลี้ยงเด็กอยู่ผมเลยเหลือกตาใส่มันทันที “ไม่ถามก็ได้จ้ะ อีหนูอย่าดุเสี่ยสิ”
“ไอ้ธาม!” ผมพูดชื่อมันเสียงต่ำ “แล้วไง คุยอะไรกันอยู่” ว่าพลางหันไปถามพี่เลี้ยงเด็ก
เจอผมเล่นตรงๆ แบบนี้ฟ้าครามก็ยังไม่กล้าพูดอะไรตรงๆ อยู่ร่ำไป เด็กมันก็คลี่ยิ้มเจื่อน บอกว่าเรื่องสัพเพเหระทั่วไปเท่านั้น
“ฟ้าครามเป็นเกย์รึเปล่า”
ผมผงะกับคำถามโต้งๆ ของไอ้ธามเลย อยู่ๆ มันก็ถามออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ขนาดคนอยู่ในเหตุการณ์อย่างผมยังผงะ เอาอะไรกับคนโดนถามล่ะครับ เจ้าฟ้าครามหน้าเหวอไปเลยด้วยซ้ำที่โดนคำถามแบบนี้จากคนที่เพิ่งเจอกัน
แต่บอกตรงๆ ว่าผมเองก็อยากรู้คำตอบเหมือนกันว่าพี่เลี้ยงเด็กจะตอบอย่างไร รอบนี้ผมเลยไม่ได้เอ่ยปากขัด
ฟ้าครามมองที่ผมนิดๆ ก่อนที่จะเอ่ยถาม “รังเกียจรึเปล่าครับ...” ไม่รู้ว่ามันถามผมหรือถามไอ้ธาม
แต่ผมคิดว่าเป็นผม ให้ตายสิ ผมได้ยินคำถามเชิงนี้จากเขาบ่อยแล้วนะ ไอ้พวก ‘รังเกียจ’ มั้ยอะไรทำนองนั้น... ถึงผมบอกว่าไม่รังเกียจแต่ผมก็ดักทางมันไว้หมดแล้วเหมือนกันนี่นา
“โหย ไอ้เพชรเนี่ยนะจะรังเกียจ ไม่หรอก พี่ก็เป็น... มั้ง” ธามชิงเอ่ยปากมาก่อนเมื่อเห็นว่าผมเงียบ ดูเหมือนมันจะพยายามแก้สถานการณ์อยู่
“เหรอครับ...” ฟ้าครามยิ้มเจื่อน พูดเสียงอ่อย “แต่พี่ธามถามแบบนี้ผมก็ตกใจนะครับ”
“โทษที พี่เป็นคนตรงๆ” มันหัวเราะร่า จังหวะเดียวกันที่ฟ้าครามยื่นเหล้าที่ชงแล้วให้มันพอดี “ไม่ถือกันนะ” พี่เลี้ยงเด็กก็ได้แค่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“ฟ้า ขอไม่จัดมากนะ” ผมเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน
“ครับ”
“แล้วไง ไปชอบชายแท้เข้าเหรอถึงได้เจอคนใจแข็ง”
ไอ้ธามมมม กูจะพ่นไฟแล้วนะ แสรดดด
ผมสูดหายใจลึก นับหนึ่งถึงร้อยในใจ ขณะเดียวกันก็รอให้คนถูกถามตอบออกมาด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องรอให้มันตอบ... ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย
ฟ้าครามเหลือบตามองผม เราสบตากันนิดหน่อยก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหันหนีเอง
“ว่าไง?” ไอ้ธามย้ำอีก
ฟ้าครามหัวเราะออกมาเบาๆ “ก็ประมาณนั้นแหละครับ”
“เหรอ...” ผมได้ยินเสียงเพื่อนตัวเองหัวเราะเบาๆ ในขณะที่ตัวเองพยายามทำเป็นเหมือนไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สนใจ ปฏิเสธหมดอ่ะตอนนี้ “รู้อะไรมั้ย บางคนมันไม่ได้แข็งจริงหรอก”
“ครับ?”
“แข็งแค่เปลือก กะเทาะนิดๆ หน่อยๆ ก็ออกแล้ว ใจอ่อนจะตาย”
ไอ้ธามกลั้วหัวเราะนิดๆ ส่วนผมก็ยังแกล้งทำเป็นไม่มองต่อไป บอกตัวเองว่าไม่รู้ไม่เห็น ตอนนี้อยู่คนเดียว อย่าฟังเสียงมัน
“ดูดิ ตอนนี้ก็หน้าแดงแล้ว” ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นต่อไปจนไม่ได้เอามือแตะหน้าตัวเองว่าแดงจริงตามที่เพื่อนครหารึเปล่า
...สงสัยเมากลิ่นเหล้ามากกว่ามั้ง
--------------------------------------------
น้อมรับผิดค่ะ T___T
แต่เค้าไม่ผิดนะ ไม่ได้จงใจมาอัพช้า คอมพัง เพิ่งซ่อมเสร็จ แงงง!
เอาคุณเพชรมาเสิร์ฟพร้อมกับการคืบหน้านิดๆ หน่อยๆ
มันค่อยเป็นค่อยไป... (จนบางทีมันค่อยไปสินะ...)
ปล. มีเรื่องสั้น 15 ย่อหน้ามาให้อ่าน ชื่อเรื่อง "ผมชอบ..." ซึ่งเกิดขึ้นมาจากความคิดที่ว่า 'คนเราชอบสิ่งที่มาจากคนที่เรารักได้มากสุดกี่อย่าง' ลองอ่านดูนะคะ
✤ เรื่องสั้น - ผมชอบ... ✤