SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (ปก+รายละเอียดหนังสือ / P.22 : 16.02.14) [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (ปก+รายละเอียดหนังสือ / P.22 : 16.02.14) [จบแล้ว]  (อ่าน 277328 ครั้ง)

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
อ้าว!!พระพายหาย........หายไปไหน สาวน้อย

ว่าแต่คุณเพชรไม่ต้องหาสัตว์มาเลี้ยงหรอก ก็มีน้องหมาแล้ว ก็เอาน้องหมาเข้าบ้านสิคะ จะได้ไม่เหงา คึคึ

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
น้องหมา..หงอยแย่เลย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

พระพายลูกหายไปไหนนนน  :ruready :ruready :ruready

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4



CHAPTER 26
“ผู้ชายมั่นหน้า”



   ผมไม่เคยนึกหวาดกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน หมายถึงเคย... แต่นั่นมันนานมากแล้ว

   ทันทีที่ผมรับรู้ว่าพระพายหายผมรีบเดินเข้าไปถามเจ้าของร้านทันที “เห็นหลานของผมมั้ยครับ!”

   เจ้าของร้านทำหน้าตกใจ ก่อนที่จะส่ายหน้า

   เพียงเท่านั้นผมก็พุ่งตัวออกจากร้านทันที ในหัวกำลังคิดว่าแถวนี้มีสถานที่ใดที่พระพายจะไป มองซ้ายมองขวาก็เห็นแต่ร้านขายสัตว์เลี้ยงจำพวกสัตว์น้ำ ไม่ใช่สิ่งที่หลานชอบเสียหน่อย

   โธ่เว้ย พชร คิดสิ คิด!

   ผมรู้สึกว่าเหงื่อเริ่มซึมออกตามกาย มองซ้ายมองขวา ไม่มีที่ใดเลยที่ผมคิดว่าเป็นสถานที่ที่หลานจะไป แถมหลานไม่เคยจะไปไหนไม่บอกผม ผมกำชับแกตลอดว่าเวลาไปไหนให้บอกผมก่อน

   กรามของผมขบเข้ากันแน่น พระพายไม่มีโทรศัพท์มือถือ ผมไม่มีทางติดต่อหลานได้แน่ๆ

   พอคิดเช่นนั้นผมก็รีบเดินไปในทางที่เดินผ่านมา ถามใครว่าเห็นเด็กวัยประมาณสี่ขวบเดินผ่านมาทางนี้บ้างมั้ย แต่ผลที่ได้เหมือนกันหมดคือการส่ายหน้า

   ผมรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ พระพายไปไหน พระพายอยู่ที่ไหนและ...เกิดอะไรขึ้น...

   ความกลัวเข้าเกาะกุมทุกอณูของหัวใจ ผมกำหมัดแน่น น้ำตาแทบไหลออกมาเป็นสาย แต่สิ่งเดียวที่ต้องทำตอนนี้คือการหาตัวพระพายก่อน

   บ้าเอ๊ย.. ทำไมตอนนั้นผมไม่จับมือแกไว้แน่นๆ

   ถ้าพระพายเป็นอะไรไปจะทำยังไง!

   ผมวิ่งไปถามผู้คนตลอดสองข้างทาง ไม่มีใครให้คำตอบที่ทำให้ผมใจชื้นได้เลยแม้แต่น้อยจนกลับมาที่ร้านเดินซึ่งผมหลงกับพระพาย

“หลานผ่านมามั้ยครับ”

เจ้าของร้านส่ายหน้าอีกครั้งด้วยแววตาเสียใจ “เอาเบอร์ติดต่อมาครับ ถ้าผมเห็นผมจะโทรไปบอก”

“ขอบคุณมากครับ”

ผมให้เบอร์เขาไปก่อนที่จะถามเขาว่าการติดต่อประชาสัมพันธ์ติดต่อได้ที่ใด เขาบอกว่าให้ไปหาป้อมยามเพื่อที่จะให้ติดต่อ ผมไม่รีรอ ถามทางแล้ววิ่งไปที่นั่นทันที

ผ่านไปราวสิบนาทีตั้งแต่ที่ผมรู้ตัวว่าพระพายหลงไป แต่ผมรู้สึกเหมือนเป็นสิบชั่วโมง ในหัวคิดไปต่างๆ นานาว่าถ้าเกิด...เกิดเหตุร้ายกับหลาน... ผมจะเอาอะไรไปสู้หน้าคุณปฐพี สู้หน้าพี่เพลงบนสวรรค์ ผมรู้สึกกลัวมากจริงๆ เหนือสิ่งอื่นใดผมขอให้หลานปลอดภัย

ราวๆ ห้านาทีเพราะผมวิ่งมาที่ป้อมยาม หลังผมชุ่มเหงื่อเพราะความเหนื่อยและความหวาดกลัวปะปนกันไป

“พี่ครับ...” ผมกำลังจะเอ่ยปากทักพี่ยาม แต่ได้ยินเสียงประกาศเสียก่อน

‘คุณพชร คุณน้าของน้องพระพาย น้องพระพายรออยู่บริเวณ...’

“น้าเพชร!”

เสียงที่คุ้นหูของเด็กน้อยตะโกนขึ้นเสียงดัง

“พระพาย...” ผมเอ่ยเสียงอ่อนเมื่อเห็นหลานโผล่มาจากด้านหลังของพี่ยาม “โอ๊ย ไปไหนมาคะ น้าตกใจ...ฮึก”

น้ำตาผมรื้นขึ้นมานิดหน่อยเมื่อได้กอดหลาน

เมื่อกี้ผมกลัวจริงๆ นะว่าถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับพระพายผมจะอยู่ยังไง ถ้าหากผมไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้กอดแกแล้ว ใจผมจะสลายถึงเพียงไหน

“คุณพชรเหรอครับ” พี่ยามถามผมด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ

“ใช่ค่า นี่หน้าเพชรของหนู” คนตอบคำถามกลับเป็นหลานด้วยซ้ำ

ผมอุ้มพระพายขึ้นมากอดแน่นด้วยความหวาดกลัวกับเหตุการณ์เมื่อกี้ พี่ยามยังทำหน้างุนงงอยู่นิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ได้แค่เอ่ยปากเตือน

“คราวหลังระวังด้วยนะครับ”

“ครับ ขอบคุณพี่มากๆ นะครับ” ผมพูดคำขอบคุณไม่ขาดปาก รู้สึกขอบคุณจริงๆ

“ผมไม่ได้ทำอะไรเลย น้องฉลาด วิ่งมาหาผมเอง”

พอได้ยินแบบนั้นผมก็ดันพระพายมามองหน้า หลานส่งยิ้มกว้างให้ผม พูดคำที่ทำให้ผมน้ำตาคลอ

“ก็น้าเพชรเคยบอกพระพายไงว่าถ้าหาน้าเพชรไม่เจอให้มาหาพี่ยาม”

“...โอ๊ย ให้ตาย”

ผมพึมพำเบาๆ กับคำพูดของแก ขอบคุณที่พระพายเป็นเด็กฉลาด วันนี้ผมไม่ได้พูดคำนี้ด้วยซ้ำ ความรู้สึกผิดยิ่งเกาะกุมผมมากกว่าเก่าเสียอีก

หลานอายุเท่านี้ยังมีสติมากกว่าผมเสียอีก ผมรึวิ่งวนเป็นคนบ้า ทำไมไม่คิดให้ได้เร็วกว่านี้

“ไปไหนมาลูก น้าตกใจหมด” ผมถามด้วยความเป็นกังวล

หลานทำหน้าบึ้ง “พระพายไปทิ้งไม้ไอติมแป๊บเดียวน้าเพชรก็หายไปแล้ว!” พูดจบผมก็เขกกะบาลแกไปทีหนึ่ง

“ทำไม่บอกน้าล่ะ”

“...”

“พระพาย”  ผมเรียกชื่อหลานเสียงเข้ม

สุดท้ายหลานก็ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด พูดออกมาเบาๆ แต่ดังพอที่จะทำให้ผมได้ยิน “พระพายขอโทษค่ะ” พอได้ยินเช่นนั้นผมก็ลูบหัวแกเบาๆ

พระพายเล่าต่อว่าแกเห็นว่าผมดูปลาอยู่เลยเดินออกมาทิ้งขยะ แต่หาถังขยะไม่เจอเลยเดินไปถามคนอื่นว่าถังขยะอยู่ไหน พอเดินไปทิ้งปุ๊บกลับมาก็ไม่เจอผมแล้ว เราคงคลาดกัน หลังจากนั้นแกก็เดินออกมาจากร้านเดิม (ผมไม่ซื้อปลาแม่งล่ะ ไหนบอกไม่เจอหลานวะ) เดินถามหาพี่ยาม แล้วมีคนใจดีช่วยพามาส่งที่นี่ให้

“เก่งมากลูก” ผมเอ่ยปากชม “แต่คราวหน้าจะไปไหนบอกนะ ถ้าหากันไม่เจออีกจะทำยังไง” ผมตำหนิแกเสียงอ่อน หลานพยักหน้า ผมพ่นลมหายใจ ต้องขอบคุณพี่เพลงที่สอนพระพายมาดีจริงๆ นั่นแหละ “เอาล่ะ... กลับบ้านกันมั้ยคะ”

หลานเอียงคอ “น้าเพชรไม่เอาปลาแล้วเหรอ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ”

“แต่พระพายอยากดูอีกอ่า...” แกอ้อนแบบนั้น

แล้วคนอย่างผมจะทำอะไรได้ นอกจากพยักหน้ายอมให้แกไปเดินดูสัตว์เลี้ยงที่ผมคงไม่คิดจะซื้อในวันนี้ไปเรื่อยๆ โดยจับมือแกไว้ตลอดทาง

เมื่อกี้ผมกลัวจริงๆ นะ

กลัวว่าจะไม่ได้จับมือของพระพายอีกครั้ง

...ผมกลัวมากจริงๆ



สุดท้ายพวกเราก็เดินไป หาอะไรกินไปในจัตุจักรอีกราวๆ ชั่วโมงเศษๆ ก่อนที่พวกเรากลับบ้าน โดยที่ผมไม่ได้ปลาใดๆ มาเลี้ยง แต่เป็นหลานที่ได้ชุดนอนกับชุดเอี๊ยมมาหนึ่งตัว หลานไม่ได้อยากได้หรอกนะ แต่ไอ้ผมเองนี่แหละที่คิดว่ามันน่ารักดีเลยซื้อให้แก (แต่พระพายเองก็ดูดีใจนะครับ)

ผมเองก็ตระหนักแล้วว่าบางทีผมควรจะพักเรื่องเลี้ยงสัตว์ไปก่อน แม้ไอ้สัตว์ที่ว่าจะเลี้ยงเป็นแค่ปลาก็เถอะ เอาไว้พระพายไปอยู่บ้านนู้นค่อยว่ากันดีกว่า

อีกแป๊บเดียวสินะ...

ไอ้เราก็รู้อยู่หรอก แต่มันใช่ทำใจง่ายๆ เสียเมื่อไหร่เล่า

กลับบ้านแล้วผมก็ไปอาบน้ำก่อน พอดีเห็นพระพายนั่งเล่นเหมือนกับมีพลังงานมากมายนี่นึกอิจฉาเป็นบ้า ยิ่งแก่ยิ่งไม่อยากจะขยับตัวไปไหนเลย

ผมอาบน้ำสระผมเสร็จแล้วก็มานั่งให้พัดลมจ่อหน้าในเสื้อย้วยๆ กับกางเกงบ๊อกเซอร์สภาพแบบบอกให้ใครต่อใครรู้ว่ากูกลับบ้านแล้วเว้ย

ขณะที่นั่งผมก็คิดเรื่องไปเรื่อยๆ ว่าตัวเองต้องจัดการอะไรบ้าง ทั้งเรื่องพระพาย ถ้าแกไปอยู่ที่นู่นแล้ว ผมก็คงต้องหาโอกาสไปเจอแกบ่อยๆ คุณปฐพีคงจะไม่ค่อยมีเวลาดูแลหลานเท่าไหร่ตามประสานักธุรกิจใหญ่ แต่อย่างน้อยก็เห็นว่ามีพวกแม่นม พี่เลี้ยงเด็กช่วยอยู่ อันที่จริงถ้าไม่มีเรื่องคุณลดาผมก็คงให้แกอยู่กับพ่อแกอย่างสบายๆ ไปแล้ว

...คุณปฐพีจะดูแลแกดีมั้ย

ผมพ่นลมหายใจและส่ายหน้า ทำอย่างกับวันนี้ผมดูแลแกดีตาย

ครืด

โทรศัพท์ผมสั่นเบาๆ ทำให้ผมคว้ามันขึ้นมาดู ก็มีอยู่คนเดียวแหละครับ เจ้าเก่าเลย... พอเปิดโอกาสให้แล้วก็ชวนหาเรื่องนั้นนี้คุยตลอด

‘กลับยังครับ?’

เมื่อยังไม่ได้เปิดอ่านแต่ข้อความก็ขึ้นเป็นสัญญาณเตือนที่หน้าจอ ผมอมยิ้มจางๆ รอดูว่าอีกฝ่ายจะพิมพ์อะไรต่อมาอีก

ผ่านไปราวๆ สองนาทีเขาก็พิมพ์เพิ่มมาแบบที่คิด ‘แดดแรงนะ เดินเที่ยวใส่หมวกด้วย’ ผมหัวเราะพรืดกับคำพูดนั้น คิดว่านายพชรเป็นเด็กสาวที่ไหนรึยังไงฮึฟ้าคราม

แต่พอคำที่มันพิมพ์กลับมาอีกรอบผมถึงกับต้องกดเข้าไปอ่าน

‘อย่าไปหลงลูกหมาที่ไหนอีกนะครับ...’

นี่ก็ย้ำจริ๊งงงงง!

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ มั่นใจมากสินะว่าตัวเองเหมือนลูกหมา ก่อนที่จะพิมพ์ตอบกลับไป ‘ยุ่งอะไรด้วย’

ฟ้าครามส่งสติ๊กเกอร์กลับมาเป็นรูปไอ้หัวเหลืองร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม เห็นแล้วก็ได้แต่หัวเราะ ก่อนที่เขาจะตอบกลับมา

‘แล้วได้ซื้อมั้ยครับ’

‘ไม่อ่ะ’ เขาส่งสติ๊กเกอร์รูปไอ้หัวเหลืองนั่นชูนิ้วโป้งขึ้นมาจนผมต้องขมวดคิ้ว ‘อะไรของคุณ’

‘เลี้ยงผมไว้คนเดียวก็พอแล้วครับ’

…ไอ้เด็กคนนี้!

ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเอาหน้าซุกหมอนไปกลั้นยิ้มไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ขอบคุณที่มันไม่มาพูดจาแบบนี้อยู่ตรงหน้า ไม่งั้นผมคงเมื่อยปากตายที่ต้องเก๊กฟอร์มให้ฟ้าครามเห็น

‘มั่นหน้า’ ผมตอบไปสั้นๆ

‘ก็ผมมั่นใจ’

‘เหรอ? มั่นใจแค่ไหนล่ะ’

อีกฝ่ายเงียบเมื่อโดนผมถามแบบนี้กลับไปบ้าง ทั้งๆ ที่ขึ้นให้เห็นชัดเจนว่าฟ้าครามอ่านคำถามของผมแล้ว ผมสิที่รอว่าเขาจะพูดอะไร อันที่จริงนี่ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบขนาดนั้นหรอก แต่คิดไปคิดมา... เขาอาจจะนั่งหาคำตอบให้ผมก็ได้

สุดท้ายเขาก็พิมพ์กลับมา เป็นคำตอบสั้นๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกดี

‘มั่นใจเท่าที่คุณเพชรมั่นใจในตัวผมเลยล่ะครับ (:’

แปลว่ามั่นใจมากพอดูเลยนะ... ฟ้าคราม



   แล้วชีวิตของพวกเราก็เข้าสู่ความปกติอีกครั้ง ผมยังไม่ได้บอกเรื่องที่พระพายหายไปคราวนั้นกับคุณปฐพี บอกตรงๆ ว่ารู้สึกละอายใจ อีกอย่างผมมองว่าเรื่องนี้จริงจัง จะขอโทษเขาก็คงจะรอให้เจอหน้าเขาเห็นทีจะดีกว่า
   
ฟ้าครามเองก็กลับมาทำงานแบบปกติ แล้วยังมาทำหน้าที่เดิมคือการไปรับผมจากที่ทำงาน วันๆ ก็เอาแต่มองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม จากนั้นก็มองหน้าผมใหม่ แล้วก็ยิ้มใหม่...

ชีวิตดูมีความสุขไปแล้วนะ ได้ข่าวว่ากูจ้างมาดูแลหลาน!
   
“ไปหาอะไรทานกันมั้ย” วันนี้ฟ้าครามเองก็มารับผมเหมือนเดิมพร้อมกับพระพาย
   
ผมพยักหน้า “เอาสิ” เข้าใจฟิลล์ผู้ชายโสดที่ต้องไปนั่งทำอาหารเองมั้ยครับ... คือหลายครั้งมากที่รู้สึกขี้เกียจ เหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ก็ต้องกลับมาทำอาหารกินเอง ทั้งๆ ที่อาหารที่ทำได้มันก็มีอยู่แค่ไม่กี่เมนูมั้ยครับ เพราะงั้นการเลือกทานอาหารข้างนอกจะดีที่สุด
   
พวกเราเลือกร้านอาหารราคากลางๆ แถวๆ บ้านของผมร้านหนึ่ง ผมเคยพาพระพายกับคุณปฐพีมากินแล้ว หลานเองก็ไม่มีปัญหาอะไร จริงๆ พระพายก็เป็นเด็กกินง่ายอยู่ง่ายมานานแล้ว
   
“กินไรคะ” ผมถามหลานที่นั่งข้างๆ
   
“พระพายเอาชุดนี้ๆๆ” หลานก็จิ้มเมนู บอกบริกรไปตามประสา
   
พวกผมก็สั่งอาหารไปบ้างเป็นจานเดี่ยวกันทั้งนั้นเพราะกลัวว่าจะทานกันไม่หมด ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟฟ้าครามก็เอ่ยปากคุยกับพระพายไปด้วย
   
“เคยมากินแล้วเหรอคะ”
   
“ค่า”
   
“อย่าลืมเอาของวันนี้ให้น้าเพชรดูนะ” ผมเลิกคิ้วกับคำพูดนั้น แต่ฟ้าครามกลับเอานิ้วชี้ตัวเองจรดริมฝีปากและเอ่ยพูดกับพระพาย “ความลับ”
   
“ความลับค่า!”
   
“ความลับเยอะ...” ผมแกล้งดึงแก้มหลานด้วยความหมั่นไส้
   
พวกเรากินอาหารกันจนเสร็จและฟ้าครามขับรถมาส่งผมกับพระพายที่บ้าน ปกติเขาจะกลับบ้านเลยแต่วันนี้มาแปลกไปเสียหน่อย
   
“ผมหิวน้ำจังเลย”
   
คนฟังอย่างผมได้แต่หรี่ตา “อยากจะเข้าบ้านก็บอก ไม่ต้องอ้อมค้อม”
   
“คุณเพชรนี่ฉลาดจังนะครับ” ฟ้าครามไม่ทำหน้าแปลกใจ ยิ้มรับด้วยรอยยิ้มเทวดาแบบที่ผมเห็นแล้วได้แต่เบ้ปาก ถึงอย่างงั้นก็ยอมเปิดประตูให้เขาเข้ามาง่ายๆ
   
...ผมก็อยากรู้เหมือนกันแหละว่าไอ้ ‘ความลับ’ ของเขากับพระพายมันจะเป็นอะไร
   
หลานวิ่งรี่เข้าบ้านเป็นคนแรกจนผมต้องเอ่ยเตือน “พระพาย อย่าวิ่งสิคะ เดี๋ยวล้ม!” ถึงพูดแบบนั้นก็ได้ยินเสียงหลานหัวเราะคิกคัก ผมได้แต่ค่อยๆ ถอดรองเท้าและเดินขึ้นตามไป โดยมีฟ้าครามเดินตามอยู่ข้างหลัง“เตรียมอะไรไว้ล่ะ” ผมหันไปถามพี่เลี้ยงเด็ก
   
อีกฝ่ายยักไหล่ “มันก็ง่ายๆ แหละครับ เห็นพระพายน่าจะชอบเลยเอามาให้เล่น”
   
ผมพึมพำว่าเล่นอะไรวะแต่ก็ไม่คิดจะถามต่อ มั่นใจว่าเดินตามหลานไปก็จะรู้
   
พอเดินขึ้นไปก็ตามที่คิด พระพายยิ้มกริ่มถืออะไรสักอย่างไว้ด้านหลัง “อะไรเอ่ย?” หลานถามเสียงรื่น
   
ผมแกล้งทำซื่อ “เอ... อะไรน้า...”  แกล้งลากเสียงยาวเหมือนกับพระพายบ้าง
   
หลานไม่ปล่อยให้ผมรอนาน แกทำเสียงแต่นแต๊นแต๊นนนนน.... ก่อนที่จะชูสิ่งที่แกเตรียมไว้ให้ผมดู
   
ผมแปลกใจไม่น้อยกับสิ่งที่เห็น มันเป็นจิ๊กซอว์แบบที่ฟ้าครามพูดว่าหลานชอบเล่น มองจากขนาดคงจะมีประมาณร้อยชิ้น เล็กๆ แต่ประเด็นคือภาพที่ใช้เป็นจิ๊กซอว์ต่างหาก
   
...ภาพของผม... กับพระพาย...
   
ผมหันไปมองคนข้างๆ กายทันที “ตั้งแต่ตอนไหนน่ะ” หรี่ตาถาม สภาพผมในรูปมองก็รู้ว่าเป็นทีเผลอ ไม่ใช่เผลอธรรมดาแต่เป็นตาปรือจะหลับ น่าจะแถวๆ โซฟา ส่วนพระพายก็นั่งตักผมอยู่ คงเป็นช่วงเวลาตอนเย็นที่ผมนั่งกับหลานที่ดูการ์ตูนเป็นแน่แท้
   
ประเด็นคือมึงแอบถ่ายตอนไหน...
   
“แฮะๆ” ฟ้าครามหัวเราะเจื่อนๆ
   
“น้าเพชรชอบมั้ยๆๆๆ” หลานถามเสียงตื่นเต้น “พระพายต่อกับพี่ฟ้าทั้งวันเลย”
   
“ชอบค่ะ” ผมตอบไปตามจริง
   
“อันนี้พระพายขอให้พี่ฟ้าทำให้” คำพูดของหลานทำให้ผมเลิกคิ้ว “เดี๋ยวพระพายไปอยู่กับพ่อ น้าเพชรก็เอารูปนี้วางไว้ไง” หลานพูดเสียงเจื้อยแจ้ว แต่ผมน่ะนิ่งไปแล้ว “น่ารักใช่มั้ยล่ะ คิกๆๆ” แถมยังหัวเราะอีกต่างหาก
   
“พระพาย” ผมเรียกชื่อแก “มานี่มา” เอามือกวักเรียกแกด้วยรอยยิ้มจางๆ

ผมไม่ได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านั้นเมื่อพระพายเดินเข้ามา สิ่งที่ผมทำคือกอดแกไว้แน่นๆ... แน่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมอยากจะจำว่าเด็กน้อยคนนี้อยู่ในอ้อมกอดของผม ก่อนที่จะเหลือบตาขึ้น สบตากับพี่เลี้ยงเด็กที่ยืนยิ้มอยู่ตรงกันข้าม

“ขอบคุณนะคะคนเก่ง”



---------------------
มาแล้วค่ะ  :katai5:
ขอโทษที่มาช้ามากนะคะ
โน๊ตบุ๊คพัง... อีกแล้ว คราวก่อนซอร์ฟแวร์ รอบนี้ฮาร์ดแวร์
เรียนหนักด้วยค่ะ ปิดเทอมนี่มันหนักกว่าเปิดเทอมอีกอ่ะ T___T

เอาไว้จะมาตอบคอมเม้นนะคะ อาจจะเป็นพรุ่งนี้ รอหน่อยนะคะ <3

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
พระพายฉลาดจัง เก่งมากๆๆๆ
สงสารเพชรอ่ะ ถ้าพระพายไปอยู่กะพ่อคงเศร้าน่าดู
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ฟ้าคราม ต้องมาดูแลเพชรดีๆๆๆ
รอตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ซึ้งงงงงงงงงงงงง พระพายน่ารักมากกกกกก :hao5:
ฟ้าครามก็น่าารักกกกกกก
รอตอนต่อไปน้าาาาา

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
น่ารักอ่ะ
 :m3: :m3: :m18: :m18:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
พระพายน่ารักและฉลาดมาก   :กอด1:
แต่ก็ยังเศร้า เดี๋ยวพระพายต้องกลับไปอยู่กับพ่อแล้ว เฮ้อออ

ออฟไลน์ Fuzz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
พระพายเป็นเด็กฉลาดมาก ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงนั่งร้องไห้โดนเขาอุ้มไปแล้วมั้ง  :hao7:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โชดดีจริงๆ พระพายเป็นเด็กฉลาดมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
พระพายไปอยู่กะพ่อ เหงาเลยทีนี้

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4




CHAPTER 27
“โลกของเราสองคน”



[วันเสาร์นี้ไปเที่ยวครับ?]

ผมขมวดคิ้ว เอาโทรศัพท์ห่างจากหูแล้วดู ไม่ผิดจริงๆ... เบอร์ที่ผมเมมไว้ว่าฟ้าคราม ก็ยังเป็นชื่ออีกฝ่ายอยู่วันยันค่ำ ‘เมารึเปล่า’

[เปล่าครับ] ปลายสายหัวเราะ [ก็วันเสาร์คุณเพชรว่างไม่ใช่หรือ...] ยังมีการทำเสียงอ่อนลง ชวนใจผมอ่อนยวบไปด้วย

‘ก็... ว่าง...’ ผมอ้อมแอ้มตอบ รู้สึกตัวเองมีจริตเกินชายไปนิดนับตั้งแต่มีไอ้พี่เลี้ยงเด็กผู้มีดีกรีว่าที่คุณหมอ (ฟัน) มาพัวพัน ‘จะไปไหนเหรอ’

[ไม่รู้สิครับ]

“แล้วชวนทำไม”

[ก็แค่อยากไปด้วย ไม่ได้หรือครับ]

รู้สึกเหมือนมีหมัดลอยจากโทรศัพท์มาชกกันจนหน้าหันเลยทีเดียว ผมกระแอมไอเล็กน้อย ‘ถ้าคุณปฐพีมาลากหลานไปไหนแล้วผมว่างจะลองคิดดูแล้วกัน...’ ได้ยินเสียงตะโกนแบบอู้อี้ๆ ดังมาจากปลายสาย ไม่รู้ว่าหมอนั่นอยากจะตะโกนแต่กัดหมอนไว้รึเปล่า คิดๆ ภาพแล้วก็ขำไม่น้อย

ซึ่งผมมีอะไรจะสารภาพ... จริงๆ ตอนฟ้าครามโทรมา ผมเพิ่งได้รับข้อความจากคุณปฐพีว่าจะชวนหลานไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ในวันเสาร์เรียบร้อยแล้ว

...แม่งเอ๊ย เก๊กฟอร์มจริงกู



   “หล่อเชียวนะครับ จะไปไหนเหรอ” พอวันเสาร์ประมาณสิบโมง คุณปฐพีมารับหลานไปเลือกเฟอร์นิเจอร์มาเพิ่ม พี่แกก็เอ่ยปากยิ้มๆ ตามด้วยประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีหอกปักกลางใจแบบบอกไม่ถูก “เดทสาวหรือครับ”
   
...อูย จะตอบไปว่าเดทหนุ่มก็ไม่กล้า เลยยิ้มให้เจื่อนๆ แทน
   
ผมไม่ได้แต่งหล่ออะไรหรอกครับ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขายาวตามปกติ แต่คุณปฐพีเคยเห็นผมสภาพอยู่บ้านแล้ว มองผมแต่งตัวแบบนี้ก็คงรู้ว่ายังไงผมก็ออกไปข้างนอกแน่ๆ
   
“ถ้าอยากรู้จักใคร... บอกผมได้นะ”
   
“นอกจากเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แล้วยังเป็นพ่อสื่อด้วยหรือครับ”

ผมจิกกัดเบาๆ อย่างว่าแหละ... อีกฝ่ายเคยรู้ตัวเสียเมื่อไหร่ว่าผมไม่ชอบขี้หน้าเขา คุยกันสองสามประโยคก่อนที่จะพาหลานขึ้นรถไป แต่ไม่ลืมที่จะทิ้งคำเตือนให้ผมไว้

“สัปดาห์หน้าพระพายจะย้ายแล้วนะครับ”

ผมยิ้ม “ครับ” เอ่ยเสียงแผ่ว “จำได้แหละครับ”

“อาจจะเป็นวันเสาร์ไม่ก็อาทิตย์” คุณปฐพีว่าอย่างงั้น “ถ้ายังไง คุณเพชรก็ไปด้วยสิครับ เห็นป้าแก้วแกก็ชวน ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ทานข้าวอะไรบ้านผมเลยนี่นา”

“ถ้าผมว่างนะครับ”

“ถือว่าไปเลี้ยงให้พระพายด้วย?”

ผมยิ้มนิดๆ ไม่ได้ปฏิเสธอะไร คิดว่าสุดท้ายก็คงต้องไปอยู่ดีนั่นแหละ

“ต้องมานะครับ”

คุณปฐพีว่าอย่างงั้นก่อนที่จะขึ้นรถตำแหน่งคนขับและสตาร์ทรถออกไป โดนพระพายที่นั่งข้างๆ คนขับหันมาโบกมือให้ผมจนลับสายตา

ไม่ทันที่ผมจะเข้าบ้าน รถคันคุ้นตาก็ขับมาจากอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนที่จะมาจอดที่หน้าบ้านของผมซึ่งผมยืนอยู่ หน้าต่างตำแหน่งคนขับค่อยๆ เลื่อนลง หน้าหล่อๆ ของพี่เลี้ยงเด็กก็ยิ้มกว้างโชว์ทันที

“คุณปฐพีเพิ่งไปเหรอครับ”

“อื้อ”

“อ๋อใช่สิ... ผมต้องรอเขาไปก่อนผมถึงจะมาได้สินะ” ฟ้าครามแกล้งทำเสียงสั่นจนน่าถีบ “ผมนี่เหมือนชายชู้จริงๆ”

“ประสาท” อดไม่ได้ที่จะด่าเขาเบาๆ “ขอไปหยิบของก่อน รอแป๊บนึง” เพราะตอนนี้ลงมาส่งพระพาย ไม่คิดว่าฟ้าครามจะมาเร็วขนาดนี้เลยไม่ได้หยิบอะไรมาด้วยสักอย่าง ทั้งมือถือทั้งโทรศัพท์ “คุณมาเร็วไปหน่อยนะ”

“ก็สิบโมงครึ่ง...” เขาตอบอ้อมแอ้ม

“ตอนนี้เพิ่งสิบโมง!”

ผมเถียง ก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนัดช้าไปหน่อยเพราะไม่อยากให้เขามาเจอกับคุณปฐพี เออนะ เหมือนเมียไปทำงานแล้วแอบเอาอีหนูขึ้นบ้านอะไรแบบนี้เลยแฮะ

หลังจากไปหยิบโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์และเช็กความเรียบร้อยของบ้านแล้วผมก็ลงมา เดินขึ้นที่นั่งข้างๆ คนขับ

“สรุปจะไปไหนล่ะ” ผมเอ่ยปากถาม “ห้างอะไรพวกนี้เหรอ?”

ฟ้าครามยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะส่ายหน้า “เปล่าครับ”

“แล้วไปไหน” ผมขมวดคิ้วมุ่น

สุดท้ายเขาก็เอ่ยปากเฉลยออกมา “ไปน้ำตกกันเถอะครับ”



“คุณเพชรอย่าหน้างอสิครับบบบบ”

ผมหันขวับไปมองเจ้าพี่เลี้ยงเด็กก่อนที่จะเลิกคิ้ว “บอกแล้วใช่มั้ยว่าจะไปไหนบอกก่อน ให้ผมใส่กางเกงขายาวไปน้ำตกนี่ตลกนะ” ตอนแรกก็บอกว่าจะลงไปหยิบกางเกงขาสั้นมาเพิ่ม ไอ้เจ้าพี่เลี้ยงเด็กหมาน้อยนี่เคยฟังที่ไหน ออกรถไปทันทีเลยด้วยซ้ำ

“ไม่เล่นก็ได้นี่นา” เขาทำหน้าหงอย “ผมแค่เห็นคุณเพชรเครียดๆ เลยชวนไปเฉยๆ”

เหตุผลดี... ใจผมอ่อนยวบอีกแล้ว

ฟ้าครามใช้จังหวะไฟแดงหันมายิ้มให้ผม เอียงคอแบบน่ารักจนผมแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ ใช้วิธีกัดปากมองเขา ก่อนที่จะเอาสันมือฟาดเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้

“อย่าเยอะ”

“ถ้าผมเยอะจริงป่านนี้ผมฟัดคุณเพชรไปแล้วล่ะครับ”

ผมหันขวับ “พูดอะไรนะ?”

“อุ๊ย ไฟเขียวแล้ว” ...หลบเลี่ยงไปอย่างเนียนๆ เลยนะเอ็ง!

ผมกลอกตาไปมาก่อนที่จะถอนหายใจ โวยวายไปงั้นแหละ จริงๆ ผมก็ตั้งใจจะไปอยู่ดี เราเลือกจังหวัดที่ไม่ไกลมาก (อันที่จริงคนเลือกคือฟ้าครามคนเดียว) ไปเช้าเย็นกลับ... แหงล่ะ ถ้าค้างผมคงไม่ยอมมา ด้วยความที่ไม่ใช่หน้าเทศกาลเลยไม่ค่อยมีรถออกจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่นัก

“หิวมั้ยครับ” ฟ้าครามเอ่ยปากถามออกมาแบบนั้น ตอนนี้สิบเอ็ดโมงเศษๆ ขับรถเลยเขตกรุงเทพฯ มาแล้วด้วย

“คุณหิวเหรอ”

“นิดหน่อยน่ะครับ”

“ผมกินเลยก็ได้” ผมตอบไปตามจริง “หาร้านเข้าสักร้านสิ”

ฟ้าครามถามว่าผมอยากกินอะไรและผมก็ตอบไปว่าอะไรก็ได้ แบบอะไรก็ได้จริงๆ สุดท้ายเขาก็เลี้ยวเข้าร้านที่เขียนไว้ว่าผัดไทเจ้าเด็ด มองจากลักษณะคนที่ไม่น้อยทั้งๆ ที่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอาหารก็น่าจะเด็ดจริงตามที่ว่า แถมยังเป็นผัดไทแบบจานใหญ่ สั่งมาจานเดียวต้องแบ่งกันกินสองคน

“ทำไมถึงอยากมาน้ำตกล่ะ” ผมเอ่ยปากขึ้นขณะที่เรากินกันอยู่

“ก็บอกแล้วไงว่าอยากให้คุณเพชรผ่อนคลาย”

“ผมไม่เห็นตัวเองจะเครียดขนาดนั้นเลย”

ฟ้าครามเอื้อมมือมาแตะหน้าผากของผมเบาๆ “คิ้วขมวดแล้วนะครับ” ยิ้มบางๆ จนผมต้องจิ๊ปากอย่างเสียไม่ได้ โดนเด็กรู้ทันไปเสียหมด “เดี๋ยวตีนกาขึ้นหรอก”

“ขอโทษนะที่แก่”

“เปล่าว่านะครับ” อีกฝ่ายหัวเราะ “เราห่างกันไม่เยอะหรอก เอ่อ... ห้า หก เจ็ด?”

“ฟ้าคราม!”

พี่เลี้ยงเด็กหัวเราะ ผมไม่อยากจะยอมรับแต่รู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า เราห่างกันเจ็ดปีจริงๆ นะ ตอนผมอยู่ป. สองเขาเพิ่งจะเกิดมาเอง เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าตัวเองแก่ขนาดนี้

...ก็นะ ปกติผมนิยมคนอายุใกล้ๆ กันมากกว่า ใครจะคิดว่าเราจะไปสนใจคนที่อายุห่างกันเกือบสิบปีขนาดนี้เล่า

“เครียดเรื่องนี้เหรอครับ” เขายักคิ้วลิ่วตา “ไม่เป็นไรหรอกครับ อายุเป็นเพียงตัวเลข”

“ประเจิดประเจ้อ” ผมพึมพำว่าเขาเบาๆ พูดแก้เขินไปงั้น... ใครจะไปสนใจเราล่ะ ร้านอาหารมีเสียงพูดคุย เสียงกระทะกระทบตะหลิวดังจะตายไป

“เดี๋ยวนะ” ผมร้องเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ “จะกลับไปกี่โมงเนี่ย”

“คงสัก... สี่โมงเป็นอย่างต่ำละมั้งครับ?”

“ผมขอบอกคุณปฐพีแป๊บนึง” นั่นแหละครับที่กังวล กลัวว่าหลานกลับมาแล้วผมไม่ถึงบ้าน

ผมส่งข้อความไปบอกคุณปฐพีว่าให้หลานไปอยู่บ้านแกก่อนได้มั้ยเพราะตัวเองอาจจะกลับช้า เขาก็คงชอบอยู่แล้วแหละ ได้อยู่กับลูกนานๆ แต่กลับส่งข้อความตอบกลับมาว่า

‘เที่ยวให้สนุกนะ จริงๆ จะค้างเลยก็ไม่ว่า’

ไอ้ข้อศอกหมา!

ผมก่นด่าในใจก่อนที่จะคิดขึ้นมาได้ว่า เออ จะด่าคุณปฐพีไปทำไมวะ เขาแซวเพราะนึกว่าเราไปเดทกับสาวที่ไหนเฉยๆ ก็นะ สาวมากเลย... หน้าคมคิ้วเข้ม จมูกโด่งปากอิ่ม เป็นผู้ชายซะด้วย!

คิดไปคิดมาก็ได้แต่ถอนหายใจ ปล่อยให้คุณปฐพีเข้าใจผิดไปก่อนยังไม่สายหรอก ผมเองก็ไม่พร้อมที่จะพูดเสียหน่อย

“อ๊ะ มาแล้ว” ฟ้าครามร้องขึ้นเบาๆ เมื่อพนักงานถือผัดไทกุ้งสดกระทะร้อนจานใหญ่มาวางตรงหน้า “ทานเถอะครับคุณเพชร จะได้ไปลัลล้ากันต่อ”

“ลัลล้าอะไรล่ะนั่น” ผมหัวเราะเขาเบาๆ ก่อนที่จะยิ้มบางๆ

ที่เป็นอยู่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก...

แต่ถ้าชัดเจนกว่านี้หน่อย... อาจจะดีกว่านี้ก็ได้นะ?
   


   “คนน้อยนะ” ผมเอ่ยปากพึมพำเบาๆ เมื่อรถของฟ้าครามมาจอดอยู่ที่หน้าน้ำตก คนไม่เยอะเท่าไหร่ ที่เห็นๆ ก็มีพวกฝรั่งมังค่ากับชาวจีนเล็กน้อย (สังเกตจากภาษาและเสียงที่พูดกัน) “ก็นะ... น้ำตกไม่ดังอะไรนี่นา”

ที่นี่ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวเหมือนน้ำตกไทรโยคที่พูดไปใครก็รู้จัก แต่คนไปเช้าเย็นกลับอาจจะสนใจกันเยอะ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก เดินทางแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงแล้ว แต่ผมชอบนะ... ดูเงียบสงบดี แม้จะมีคนเล่นน้ำกันอยู่นิดหน่อย แต่นับๆ ดูก็ไม่มีทางเกินยี่สิบคนแหง

ผมเดินลงมาจากรถพร้อมๆ กับฟ้าคราม ไปนั่งบริเวณโขดหินที่คนน้อยๆ แล้วถอดรองเท้าเอาเท้าจุ่มลงไป น้ำไม่ได้เย็นมาก กำลังสบายๆ

“ไม่ลงน้ำเหรอครับ”

“ไม่ล่ะ” ผมส่ายหน้า “อยากลงก็ลงสิ เด็กน้อย” แกล้งย้ำคำสุดท้ายแล้วยักคิ้วหลิ่วตาเสียหน่อย

ฟ้าครามทำหน้าเบ้แต่ก็ยังเดินลงไปในน้ำ สูงประมาณครึ่งแข้งของเขา วันนี้ฟ้าครามใส่กางเกงขาสั้นประมาณเข่าด้วยเลยไม่ได้กลัวกางเกงเปียกอย่างผม

“เด็กกว่าแล้วยังไง...” บ่นเบาๆ แต่ผมได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ว่าเปล่า เจ้าเด็กนั่นยังเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมพอดีอีกต่างหาก “เด็กกว่าก็ดูแลคุณเพชรได้นะ”

คำพูดของเขาเหมือนลมเบาๆ พัดให้ใจผมแกว่งไหว

เหมือนโดนหมัดแย๊ปรัวๆ เลยวันนี้... ให้ตายสิ!

“ลมเย็นดีนะ” ผมแกล้งเฉไฉพูดเรื่องอื่น เบือนหน้าหนีเขาแทน

“คุณเพชรอ่ะ!” เสียงพี่เลี้ยงเด็กครางอ่อยดังขึ้น “หันมาหน่อยสิครับ”

“...”

“คุณเพชรครับ...” สุดท้ายผมก็ใจอ่อน หันกลับไปตามคำขอของเขา ก่อนที่จะผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าใกล้กันมากกว่าที่คิด ใกล้เสียจนจมูกของผมกับเขาห่างกันแค่ไม่ถึงสิบเซนติเมตรด้วยซ้ำ “หันมาแล้ว” ฟ้าครามยิ้ม

มีใครเคยบอกมั้ยว่ารอยยิ้มเทวดาน่ะ มองใกล้ๆ แล้วมีอิทธิพลทำลายล้างมากกว่าเดิมอีก!

“อะไรเล่า” ผมแกล้งทำเสียงแข็ง ตั้งใจจะขยับตัวเสียหน่อยแต่ปรากฏว่าแขนโดนมือของอีกฝ่ายเลื้อยมาจับถึงข้อมืออย่างเนียนๆ บ้าเอ๊ย...สกิลนี้แต่ใดมาน่ะฮึ!

“ยิ้มบ้างสิครับ” ฟ้าครามเลื่อนมืออีกข้างมาแตะมุมปากผมเบาๆ “ยิ้มนะ”

...โดนเด็กมาทำแบบนี้ด้วยใครจะกลั้นยิ้มไหวกัน

“ก็เปล่าเครียดอะไรสักหน่อย” ผมเปรยเสียงแผ่ว

“เหรอครับ?” เขาเลิกคิ้ว “ผมเห็นคุณเพชรทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมาตั้งนานแล้วนะ” เขาว่าแบบนั้นพลางเลื่อนนิ้วมาที่หว่างคิ้วของผม “ผูกกันเป็นโบว์ตลอดเลย”

“แก่แล้วก็มีเรื่องต้องคิดบ้าง” ผมแก้ตัว

“ตอนนั้นยังบอกว่าไม่แก่อยู่เลย” ผมขมวดคิ้วอีกรอบจนฟ้าครามหัวเราะ “นี่ไงครับ ตีนกาจะขึ้นจริงๆ แล้วนะ”

“ฟ้า!”

“…ชอบจัง” ผมเงียบเมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยปากเช่นนั้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ฟ้าครามกลับย้ำอีกที “เรียกอีกได้มั้ยครับ”

“เรียก... อะ” ผมสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อคนตรงหน้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ “เรียกอะไรเล่า” เสียงผมสั่นนิดๆ

“เรียกว่า ‘ฟ้า’ น่ะครับ”

“...”

“เรียกอีกได้มั้ยครับ”

ผมสูดลมหายใจลึก “...ฟ้า”

“อีก...”

“ฟ้า” ผมเรียกเสียงแผ่ว “...ฟ้า”

“อีกได้มั้ยครับ”

“จะให้เรียกอะไรเยอะแยะฮะ!”
   
โครม!
   
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อกี้ตัวเองโดนแกล้งจนหน้าร้อนแล้วเท้าจะไปเร็วกว่าหัวสมอง รู้ตัวอีกทีคือตอนที่ตัวเองโวยวายออกมาแล้วเท้าถีบเขาเต็มแรง สรุปคือฟ้าครามหงายหลังล้มลงกับพื้น บ้าเอ๊ย! มีหนักตีนหนักจริง! “เป็นอะไรรึเปล่า” ผมรีบเดินลงไปใกล้ๆ เขาโดยไม่กลัวกางเกงเปียก
   
“อูย... ดุจังเลย” ฟ้าครามครางเสียงอ่อย
   
ผมถลึงตาใส่เขาด้วยความหงุดหงิด เจ้าพี่เลี้ยงเด็กก้มหน้างุดโดยที่ผมยังไม่ทันพูดอะไรสักคำ เขาพึมพำว่าจะไม่ทำอีกแล้วครับ
   
“ก็ชอบให้คุณเพชรเรียกนี่นา” ฟ้าครามว่าเสียงแผ่ว
   
ผมกัดริมฝีปากแน่นก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ “จะเรียกให้หนำใจเลย อยู่ฟังด้วยแล้วกัน”
   
ฟ้าครามนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเบิกตาโต ผมไม่เห็นเหตุการณ์หลังจากนั้นเพราะผมไม่กล้ามองหน้าเขาและเดินกลับไปนั่งที่เดิม ได้ยินเพียงเสียงเหมือนอะไรหนักๆ ถูกทิ้งลงน้ำ
   
“ไชโย!”
   
ผมกลอกตาไปมา เห็นภาพฟ้าครามทิ้งตัวลงน้ำตะโกนออกมาด้วยความดีใจแล้วอดยิ้มไม่ได้จริงๆ
   
...ไหนใครบอกว่ากินเด็กเป็นอมตะ จะคอยดูว่าจริงมั้ย











------------------------------------------
วรั้ยยยยยยย ลองชิมสักทีสิคะ!

ขอโทษที่มาช้านะคะ /ก้มลงกราบขอโทษ
พรุ่งนี้จะเรียนพิเศษเป็นวันสุดท้ายแล้วค่ะ เย้ (ตั้งแต่ปิดเทอมยังไม่ได้หยุดสักวัน)
วันนี้เลยมาอัพคุณเพชรให้ก่อน คึๆ :katai5:

พร้อมประกาศสอบถามเรื่องการรวมเล่ม
เพราะว่ายังไงเรื่องนี้ก็ใกล้จบแล้ว (อีกราวๆ ห้าตอน)
รบกวนตอบด้วยนะคะ ._.

[สอบถาม] การรวมเล่ม SINGLE PAPA
[/size]
สอบถามเรื่องการรวมเล่มนิยายเรื่อง 'SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด'
แต่งโดย : เอ็นเอ็น (NINEWNN)
เนื้อเรื่อง :
- เล้าเป็ด http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39650.0
- เด็กดี http://writer.dek-d.com/nnsone/writer/view.php?id=1036326

ราคา : ประมาณ 400 - 450 บาท (ไม่รวมค่าส่ง)
จำนวนหน้า : ประมาณ 420 - 480 หน้า
ตอนพิเศษ :
- ตอนพิเศษของฟ้าคราม & คุณเพชร 3 ตอน
- ตอนพิเศษ เรื่องตลกของไอ้ธาม
- ตอนพิเศษ คำให้การจากพระพาย
- เรื่องของคุณปฐพี & หมออัคคี 8 ตอน
*หมายเหตุ ตอนพิเศษราว 100 - 130 หน้า


ตอบแบบสอบถามได้ที่นี่ ---> https://docs.google.com/forms/d/1woUt9Hq9eE4MDfaPEVNcEkgW8g-6shZG7wlBS2-kmA0/viewform

สอบถามเรื่องนี้จนกว่าจะลงนิยายเรื่อง SINGLE PAPA จบ ถ้าหากจำนวนไม่มากพอที่จะติดต่อกับโรงพิมพ์ก็ไม่สามารถพิมพ์ได้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2014 22:04:33 โดย NINEWNN »

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เริ่มออกตัวละเพชร

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
น่าจะโดนเด็กกินซะมากกว่า  :hao6:

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :ling1: :ling1: :ling1:

เอาอีก  เอาอีก  ๕๕๕
ชอบอ่ะ  ตกลงใคร เป็นเคะ  เป็นเมะ เนี๊ยะะะะ

numilddy

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย มันใช่
แต่ว่าใครจะกินใครเนี้ย ฟ้าครามนิสัยมุ้งมิ้งมากเวลาอยู่กับเพชร
ฟ้ารุกเน้อะ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ใครจะกินใครกันแน่คะคุณพี่!!!!  :katai1:
แต่กินแล้วเป็นอมตะก็จัดมาเลยยยย :katai3:

ออฟไลน์ 1bigmie1

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หนาวแล้วนะคุนเพชร รีบๆหาคนมากอดได้แล้ว อ๊ากๆๆ ชอบๆ ติดตามตลอดมา ฮี่ๆๆๆ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ชอบปรโยคสุดท้ายค่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4


CHAPTER 28
“ขอมือเธอหน่อย”



   “เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำแป๊บนะ” ผมเอ่ยปากพลางลุกขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองคอแห้ง ว่าจะไปซื้อกาแฟมาสักกระป๋อง ใกล้ๆ นี้มีร้านขายของที่คนแทบจะร้างอยู่ข้างๆ ร้านขายของที่ระลึก “เอาอะไรมั้ย” ไม่ลืมที่จะหันไปถามพี่เลี้ยงเด็กที่ตอนนี้หย่อนครึ่งตัวลงในน้ำเย็นๆ ขณะที่พิงกับก้อนหินใหญ่

   “ไม่ล่ะครับ”

   ผมพยักหน้า ลุกขึ้นและเดินออกมาจากบริเวณน้ำตก

   ที่นี่เงียบ... เงียบจนผมอยากจะลืมทุกอย่าง เหลือแค่ตัวเองกับคนที่พาผมมาสัมผัสอะไรแบบนี้

ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองเครียดมั้ย แต่แน่นอน ตอนนี้ผมดูแลพระพาย กำลังจะส่งหลานไปอยู่กับพ่อของแก ส่วนงาน มันก็ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ยังไงผมก็มนุษย์เงินเดือน อ๋อ... แล้วผมก็กำลังคิดจะซื้อรถสักคัน แอบมีมองๆ ไว้แล้วแต่ว่าจะพูดเปรยๆ กับคุณปฐพีเสียหน่อย เขาเคยบอกผมว่ามีคนรู้จักเป็นคนนำเข้ารถอยู่
   
ชีวิตผมเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ไทย
   
...และอาจจะเปลี่ยนไปมากกว่าเดิมเมื่อจบวันนี้
   
“เอาอะไรจ๊ะ” ป้าที่นั่งอยู่บริเวณร้านขายของยิ้มหวาน
   
ผมเหลือบมองตู้หลังป้าแก ไม่มีกาแฟยี่ห้อที่ผมกินประจำ แต่ผมเพิ่งเห็นว่ามีการชงโอเลี้ยงสดผมเลยสั่งแกไปแก้วนึง “โอเลี้ยงเย็นครับ”
   
ป้าแกยิ้มรับ จัดการทำให้ในเวลาอันรวดเร็ว ผมรับมาดูดแล้วจ่ายเงินให้แกก่อนที่จะเดินกลับมา อูย... หวานจัง ผมไม่ค่อยชอบหวานๆ แบบนี้เท่าไหร่
   
ผมเดินไปนั่งใกล้ๆ ฟ้าครามที่หลับตาพิงหินก้อนเดิม “เอามั้ย”
   
ฟ้าครามหันมาก่อนจะส่ายหน้า “ไม่ครับ ผมไม่ชอบ”
   
“อื้อหึ” ผมพยักหน้า เดินไปนั่งใกล้ๆ กับเขาแล้วหย่อนเท้าลงไปแช่ในน้ำตกเหมือนเดิม “ไม่ชอบอะไรอีกมั้ยล่ะ”
   
“อืม...” เจ้าเด็กนั่นทำหน้ากรุ่นคิด ผมเหลือบตามองเวลาที่ปากใต้จมูกโด่งๆ นั้นเม้มเข้าหากันเหมือนกำลังหาคำตอบ ฟ้าครามเอียงคอนิดหน่อยก่อนที่จะเอ่ยปากตอบ “ผมไม่ชอบเปลือกมะเขือเทศด้วย”
   
“ฮะ?”

   “ก็แบบ... มันเป็นแผ่นๆ เหมือนแผ่นพลาสติกที่ดึ๋ยๆ น่ะครับ” เขาเกาแก้ม “เหมือนเด็กเลยนะ”

   ผมเลิกคิ้ว “รู้ตัวด้วยหรือ”

   “คุณเพชรไม่ชอบกินอะไรบ้างล่ะครับ”

   คำถามของอีกฝ่ายทำให้ผมขมวดคิ้ว “แอ๊ปเปิ้ลล่ะมั้ง” ผมตอบไปตามจริง

   “ทำไมล่ะครับ” ฟ้าครามยื่นหน้ามาใกล้ “ผมว่ามันโคตรซิมเปิ้ลเลย ประมาณว่าทุกคนต้องกิน”

   “ก็ไม่ได้กินไม่ได้หรอก แค่ไม่ชอบเฉยๆ” ผมยักไหล่ไปตามจริง

   พวกเราคุยกันต่ออย่างราบเรียบ ถามถึงสิ่งที่ชอบกับไม่ชอบ เหมือนกับคนเพิ่งรู้จักกัน อันที่จริง ตั้งแต่ความสัมพันธ์ของเราขยับเข้ามา เราต่างรู้จักกันมากขึ้น แต่มักจะเป็นสิ่งที่ต้องสังเกตเอง ยกตัวอย่างเช่น ฟ้าครามติดนาฬิกา แต่เขากลับมีนาฬิกาใส่ตั้งสี่เรือน ซึ่งปกติแล้วคนที่ติดนาฬิกาจะใส่เรือนประจำมากกว่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ผมไม่รู้หรอกว่าฟ้าครามสังเกตอะไรในตัวผมบ้าง แต่เราไม่เคยพูดคุยกันตรงๆ แบบนี้ ไม่เคยตั้งคำถามกันว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราต่างสังเกตกัน

   ผมรู้สึกเราใกล้กันมากขึ้น... ในโลกที่เงียบสงบแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าทั้งโลกมีแค่เราสองคน

   บทสนทนาตรงๆ ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น เช่นเรื่องที่ว่าฟ้าครามเกลียดอีกามาก หรือเขาชอบสัตว์จำพวกกระรอกมาก ส่วนเขาเองก็รับรู้เรื่องของผมที่ว่าผมเกลียดลิ้นของตัวเงินตัวทองมากแค่ไหน (สาบานว่าผมเกลียดแค่ลิ้น ถ้ามันไม่แลบลิ้นออกมาผมก็ไม่รู้สักอะไร แต่ผมเกลียดลิ้นมันจริงๆ)

   “ตอนนี้คุณเพชรทำงานตำแหน่งอะไรเหรอครับ”

   “คล้ายๆ แผนกบริหาร” ผมว่าไปตามจริง งานของผมเรียบง่าย อาจจะมีต้องออกไปติดต่อกับคนบ้างเพราะผมเก่งภาษา “เราล่ะ ทำไมถึงเรียนทันตะฯ”

   “ผมไม่คิดอะไรมากหรอกครับ แค่เห็นคนอื่นเขาก็ชอบ เราเองก็ไม่ได้เกลียดเลยเรียนๆ ไป” คำตอบของเขาทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ “ทำไมเหรอครับ”

   “เปล่าหรอก... ผมแค่คิดว่าคุณน่าจะมีสาเหตุมากกว่านี้”

   “ผมอาจจะไม่เหมือนคนที่คุณเพชรคิดก็ได้” เขาคลี่ยิ้ม “ผมว่าผมมีด้านที่แย่ๆ เยอะ”

   “แล้วทำไมไม่แสดงออกมา” ผมเอ่ยปาก

   ฟ้าครามชะงัก ผมเงียบ เราต่างจ้องตากันเหมือนแข่งกันว่าใครเปิดปากพูดก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้ ผมได้ยินเสียงน้ำไหลและใบไม้ของต้นไม้ที่เป็นสาเหตุของร่มเงาที่เรานั่งอยู่เสียดสีกัน

   “อยากให้ผมพูดจริงๆ เหรอครับ” ฟ้าครามเอ่ยปากเสียงแผ่วเบาคล้ายกระซิบ

   ผมเหมือนโดนมนต์สะกดยามสบสายตาของเขา เจ้าเด็กนี่... ผมได้แต่นั่งก่นด่าในใจแต่สิ่งที่กระทำออกไปจริงๆ กลับเป็นการพยักหน้า

   “ผมกำลังคิดอะไรแย่ๆ...”

“...”

   “อย่างเช่นถ้าผมจูบคุณเพชรตอนนี้จะเป็นยังไง”

“...”

   “คุณเพชรไม่มีทางรู้หรอกว่าผมพยายามแค่ไหนที่จะไม่ทำอะไรคุณ ทำเหมือนตัวเองเป็นเด็กใสซื่อ หรือพยายามไม่คิดอะไรแย่ๆ ในหัวสมอง โดยเฉพาะเวลาน่าหวาดเสียว อย่างเข่นตอนคุณเพชรเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ” ฟ้าครามพูดถ้อยคำที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ยิน

   ลมหายใจผมติดขัดอย่างน่าเหลือเชื่อ

   เหมือนอะไรบางอย่างแล่นไปทั่วใบหน้า ความร้อนวูบวาบและเลือดสูบฉีดทั่วร่างกายแม้ว่าอากาศตอนนี้จะเย็นมากแค่ไหน ปกติผมคงจะตวาดใส่หน้าเขา ด่ากราด บอกว่าคิดอะไรอกุศลแต่ผมรู้สึกเหมือนร่างกายผมชาไปชั่วขณะ ยิ่งกว่าเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงเสียอีก

   “ผม...” นานทีเดียวกว่าผมจะคลำหาเสียงตัวเองเจอ พูดได้แค่คำเดียวก็เงียบใหม่ “ผม...”

   ฟ้าครามถอนหายใจเฮือกใหญ่ “อย่าเป็นแบบนี้สิครับ” เขาหัวเราะแห้งๆ “ไม่เอานะครับ เลิกพูดแล้ว ไม่เอาๆๆๆ” อีกฝ่ายสะบัดหน้าไปมาพร้อมกับตีขา

   “ฟ้าคราม!” ผมเรียกชื่อเขาเสียงดังเมื่อเขาตีขาในน้ำเสียแรงจนกระเด็นโดนหน้าผม

   “ถ้าคุณเพชรพูดอะไรออกมา...” เขาเปลี่ยนมาพูดเสียงเรียบโดยไม่มองหน้าผมแม้แต่นิดเดียว “ผมสาบานว่าผมจะแสดงด้าน ‘แย่ๆ’ ของผมมาให้คุณเพชรเห็นแน่ๆ”

   ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก แม้เห็นแค่หลังผมเองก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน ชัดเจนเสียจนผมเลือกที่จะเงียบ ฟ้าครามไม่ใช่ลูกหมาน้อย... ไม่ใช่แค่แกะน้อย เขาก็แค่ผู้ชายที่สวมหนังแกะคลุมความเป็นหมาป่าของตัวเองไว้

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ตอนนี้ผมกำลังจะโดนไอ้หมาป่านั่นตะครุบแล้วฉีกเป็นชิ้นๆ
   


   พวกเราออกจากน้ำตกราวๆ บ่ายสามโมง อย่างต่ำๆ เราก็คงจะไปถึงบ้านตอนห้าโมง แน่นอนว่าขากลับต้องใช้เวลามากกว่าขาไป ช่วงเวลาที่เราน่าจะเข้ากรุงเทพฯ เป็นช่วงเวลาที่คนเลิกงานกันพอดี รถคงจะติดพอสมควร เราซื้อของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ ไปบนรถพร้อมกับน้ำอีกสองขวด

   “จะกินเมื่อไหร่บอกล่ะ”

   “ครับ”

   พวกเราเงียบกันและปล่อยให้เสียงเพลงเป็นเสียงเดียวที่ดังในรถ

   ผมไม่รู้จะพูดอะไร... อันที่จริงต้องใช้คำว่าไม่รู้จะทำตัวอย่างไรมากกว่า ไม่ใช่กระอักกระอ่วน มันประหม่าแบบที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมารู้สึกเช่นนี้ในวัยสามสิบ

   ผมเหลือบตามองคนข้างกาย ฟ้าครามขับรถด้วยมือข้างเดียว มือขวาเอาวางไว้บริเวณขอบหน้าต่าง เขาขับรถนิ่มๆ ไม่มองมาทางผมเลย... ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี หากฟ้าครามมองผมทุกครั้งที่มีโอกาส ผมสาบานว่าตัวเองต้องเป็นบ้าแน่ๆ

   “เดี๋ยวถ้าเจอปั๊มผมแวะเติมน้ำมันแป๊บนะครับ”

   “อืม...” ผมพยักหน้ารับ

   “หิวน้ำจังครับ” ผมรีบคว้าขวดน้ำเปล่าที่ซื้อมาให้ฟ้าคราม แต่ฟ้าครามมกลับพูดถ้อยคำที่ทำให้ผมกัดริมฝีปากตัวเองอย่าลืมตัว “ป้อนให้ทีได้มั้ยครับ ผมไม่ถนัด”

   ไอ้เด็กนี่!

   ผมถลึงตา รู้ดีว่าด่าไปก็ไร้ผลจึงหยิบหลอดขึ้นมาใส่ลงไปในขวด แล้วจับปลายหลอดจรดบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ฟ้าครามเผยอปากออก จังหวะนั้นริมฝีปากของเขากับปลายนิ้วของผมสัมผัสกันนิดหน่อย เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงหัวใจเต้นในอกตัวเอง

   “ขอบคุณครับ” ฟ้าครามว่าแบบนั้นก่อนที่จะหันไปตั้งใจขับรถใหม่ ส่วนผมก็ได้แต่ปิดฝาขวดให้เรียบร้อยก่อนที่จะหลับตาลง

   “ถ้าถึงกรุงเทพฯ แล้วปลุกด้วยนะ”

   บางทีนั่นอาจจะเป็นวิธีแก้อาการประหม่าของผมได้ดีที่สุด

   “ครับ” ฟ้าครามรับคำ

   ผมหลับตาลง พยายามสูดลมหายใจลึกกลบอาการมวนๆ ในท้อง ผมรู้สึกถึงคำพูดของพี่เพลงที่เธอพูดตอนเธอมีรักครั้งแรกแล้วเล่าให้ผมฟัง

   ‘เวลาคนมีความรัก มันก็เหมือนมีผีเสื้อบินในท้อง’

   ตอนนั้นผมตอบพี่ไปว่าปัญญาอ่อน! และผมก็รู้หลังจากนั้นเมื่อเริ่มมีแฟน ผมรักแฟนของผมมากจนบางทีก็มีอาการเหมือน ‘ผีเสื้อบินในท้อง’ แบบที่พี่เพลงบอก เพียงแต่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามันเกิดกับผู้ชาย ซ้ำยังเป็นเด็กผู้ชายที่อายุน้อยกว่าผมเกือบสิบปี!

   ถ้าพี่เพลงมารู้เรื่องนี้พี่จะทำยังไงนะ... หล่อนต้องตกใจมากแน่ๆ อันที่จริงแม้แต่ผมยังรู้สึกตกใจเลย ผมไม่เคยมองผู้ชายมาก่อน ไม่ว่าจะตอนที่มีเพื่อนเป็นเกย์อย่างไอ้ธาม มันควงหนุ่มน้อยหน้าไหนมาผมก็ไม่เคยรู้สึกใดๆ ว่าผู้ชายน่ารัก ผู้ชายหน้ารักสำหรับผมมีแค่เด็กทารกจนถึงช่วงสามสี่ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นมันก็จะพ่นคำหยาบๆ มากขึ้นเมื่อโตขึ้น ความน่ารักเหล่านั้นก็หายไป

   ฟ้าครามต่างออกไป ผมไม่ได้บอกว่าเขายังน่ารักอยู่... โอเค เขาแสดงออกแบบนั้น แต่มันไม่ใช่ ยังไงเจ้าเด็กนั่นก็ไม่ใส่เหมือนเด็กน้อยที่ยังไม่ผ่านอะไรเลยหรอก เพียงแต่ฟ้าครามต่างออกไป เขาทำให้ผมชอบทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นแบบที่ผมชอบ

   ...นั่นแหละที่ต่าง

   ผมส่ายหัวเบาๆ พยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ ผมคาดหวังให้ตัวเองหลับไปจริงๆ บางทีผมก็ยังไม่อยากยอมรับเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นระรัว และความร้อนที่ยังติดอยู่บริเวณปลายนิ้ว


   
   “คุณเพชรครับ”

   “...อื้อ” ผมได้ยินเสียงเรียกตัวเองดังมาจากไกลๆ จนตัวเองหันหน้าไปทางอื่น

   “คุณเพชรครับ” รอบนี้เสียงนั้นดังขึ้นพร้อมๆ กับอะไรสักอย่างอุ่นๆ วางไว้บนแก้ม “ถึงกรุงเทพฯ แล้วนะครับ” ผมรู้สึกว่าไอ้ของอุ่นๆ นั้นไล้ลงมาเรื่อยๆ จนถึงบริเวณริมฝีปาก

   ...ริมฝีปาก!

   ผมลืมตาโพล่งขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ หน้าของฟ้าครามลอยเด่นขึ้นมาจนผมผงะนิดหน่อย เขายังนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ ผมเองที่นอนเอียงหน้าไปทางนั้น เพียงแต่ใบหน้าเขาใกล้เกินไปหน่อย ยิ่งกว่านั้นคือไอ้ของอุ่นๆ ที่ไล้หน้าผมเมื่อกี้คือมือกับนิ้วของฟ้าคราม

   “ตื่นแล้ว” ผมพึมพำออกมา

   ฟ้าครามยกยิ้ม “ถึงกรุงเทพฯ... อันที่จริงใกล้ถึงบ้านคุณเพชรแล้วแหละ”

   “อือ” ผมพยักหน้า มองรอบข้าง ตอนนี้เรากลับมาสู่นครแห่งความรถติดอย่างเต็มรูปแบบ  คงถึงมาสักพักแล้วเพราะตอนนี้ใกล้ถึงบ้านผมจริงๆ แต่รถยังเต็มท้องถนน ผมเหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้ห้าโมงแล้ว ช่วงเวลารถติดพอดี

   “หิวมั้ยครับ”

   “ไม่ล่ะ”

   “คุณปฐพีโทรมา แต่ผมไม่ได้รับนะ ปล่อยให้มันตัดไปเอง” เขาชี้มาทางโทรศัพท์ที่ผมถือไว้ในมือ

   ผมพยักหน้า หยิบมันมากดโทรหาคุณปฐพี แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่รับ สงสัยเล่นกับพระพายเพลินเสียละมั้ง ผมเลยปล่อยไปตามเรื่อง

   “รถติดเนอะ” ผมพูดออกมาอย่างโง่ๆ พลางเหลือบมองไปรอบกาย มองลักษณะแล้วคงติดอีกสักพัก แต่ถ้าผ่านอีกสองแยกไปรถก็จะไม่ค่อยติดแล้ว

   “แต่ก็ดีนะครับ” ฟ้าครามว่าแบบนั้น “เราจะได้อยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย”

   หยอดอีกแล้ว... ผมพ่นลมหายใจ มองไปนอกหน้าต่างแทน พวกเราคุยกันอีกนิดๆ หน่อยๆ ตลอดระยะเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนที่ฟ้าครามจะมาส่งผมที่บ้านตอนที่ฟ้าเริ่มมืดพอดี

   “สัปดาห์หน้าก็สัปดาห์สุดท้ายแล้วนะ” ผมเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนจะลงรถ

   “เหรอครับ” ฟ้าครามยิ้มเจื่อน “พระพายจะไปแล้วเหรอ”

   “แล้วคุณเพชรไม่เหงาเหรอครับ...?”

   คำถามของเขาทำให้ผมเงียบ ก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมา “พูดอย่างกับจะไปไหนอีกคน” ผมว่าติดขำเล็กน้อยแม้ในใจจะรู้ดีว่าถ้าคำตอบคือคำว่า ‘ใช่’ ผมคงขำไม่ออก

   และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจได้

   “ขอมือหน่อยได้มั้ย” ผมเอ่ยปากขึ้น พลางหงายมือไปวางตรงหน้าเขา เลิกความคิดที่จะออกจากรถไปในทันทีแม้ว่าจะมาถึงรถแล้ว

   “ทำไมครับ?” ฟ้าครามเอียงคออย่างงุนงงแต่ก็แบบมือมาวางลงบนมือผมแต่โดยดี

   ฟ้าครามเป็นผู้ชาย มือเขาก็เป็นมือของผู้ชาย ไม่ได้นุ่มเหมือนกับมือของผู้หญิงคนไหน มีกระดูกปูดโปนออกมาในแบบที่ไม่สวยเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่ลังเลใจ อันที่จริงผมคิดว่าตัวเองลังเลใจมานานแล้ว ไอ้ธามเองก็เคยพูดอยู่

   ถ้าฟ้าครามทำให้ผมหลุดออกจากกรอบมากขนาดนี้... ผมจะปล่อยเขาไปไปอีกเหรอ?

   ผมกระชับมืออีกฝ่ายแน่น สูดลมหายใจลึก ก่อนที่จะพูดมันออกมา

   “ผม... รักคุณ”

   ผมจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร?
   
...ไม่มีวันเสียหรอก




-------------------------------------------
เบื่อคนแก่ขี้เก๊ก!

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านค่ะ
ว่าจะอัพส่วนของคุณเพชรไปก่อน
ส่วนคุณปฐพี... เป็นลูกเมียน้อยอ่ะเนอะ Orz ไว้จบส่วนนี้ค่อยอัพนาง

อย่าลืมตอบแบบสอบถามเรื่องรวมเล่มนะคะ
https://docs.google.com/forms/d/1woUt9Hq9eE4MDfaPEVNcEkgW8g-6shZG7wlBS2-kmA0/viewform

 :katai5:
[/color]

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
มัดแน่นขนาดนี้ ฟ้าครามไปไหนไม่รอดแล้วจ้า

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ Ra poo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
คุณเพชร!! พูดแบบนี้ระวังเจ็บตัวนะคะ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
่เจอประโยคนี้เข้าไป นอกจากฟ้าครามจะไปไหนไม่รอดแล้ว

คาดว่าจะไม่มีแรงขับรถด้วยล่ะมั้ง 5555

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ตายยยยยย ฟ้าครามช็อคตาตั้งแน่ๆ 5555555

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เอาล่ะสิ พอคุณเพชรพูดมาอย่างนี้ นายฟ้าไม่ดีใจตายเลยเหรอ อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด