หยดเลือดสีแดงตรงมีดแหลมไหลเลื่อนไปตามด้านคมและหยดไหลลงสู่พื้น มือที่สั่นระริกค่อยๆปล่อยมีดนั้นหล่นร่วงตามลงไป เสียงตกกระทบดังสะท้อนไปในความเงียบงัน
มันก็เหมือนฉากฆาตกรรมในนิยายสยองขวัญสั่นประสาททั่วไป ที่จะเห็นร่างๆหนึ่งทรุดฮวบลงไปกับพื้นด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวดจากบาดแผลซึ่งเขาเป็นผู้กระทำ
ใบหน้านั้นเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย ดวงตากลมโตจ้องตรงมองมาด้วยความสับสน สงสัย ปนเจ็บปวด
คงจะสงสัยว่าทำไมเขาถึงทำร้าย.. และแผลนั้นคงจะเจ็บปวดที่สุดเพราะมันเป็นแผลลึกที่ทำให้เลือดสีสดไหลซึมเป็นวงกว้างอยู่บนอกข้างซ้าย
ร่างน้อยทรุดฮวบลงกองกับพื้น ดวงตาเบิกโพลง แต่เหมือนจะมองไม่เห็นผู้กระทำ..เพราะดวงตานั้นลอยคว้างไม่จับจดกับสิ่งใด ปากสีชมพูสดที่เคยยิ้มให้เขาอยู่เสมอกำลังอ้าตะครุบอากาศเฮือกยาว แล้วค่อยๆ ..สั้นลง... สั้นลง จนหยุดนิ่ง..
“นัท..”
เสียงที่ร้องเรียกคือเสียงที่เจ้าตัวตั้งใจจะตะโกนออกไป
ทว่า..คล้ายกับมันอยู่แค่ในลำคอ เสียงนั้นกลืนหายไปในความมืดมิด ร่างสูงใหญ่ของมกรซวนเซ ในอกบีบคั้นจนเจ็บปวด
“นัท!”
เสียงร้องยังคงดังก้องไปทั่วห้องกว้าง ร่างที่ทะลึ่งพรวดขึ้นนั่งมีเหงื่อไหลโทรมกาย แผ่นอกเปลือยเปล่าสะท้อนขึ้นลง ดวงตาเบิกกว้างจับจ้องอยู่ที่มือขวาของตนเอง มันสั่นระริก...แต่ไม่มีเลือด..
ฝันหรือ?.. มกรถามตัวเองอย่างมึนงง
เขายกมือทั้งสองขึ้นลูบที่หน้าตัวเองหวังจะช่วยให้ตื่นจากฝันร้าย
ทว่า.. ความรู้สึกเหนียวมือและกลิ่นแปลกๆทำให้ต้องแบมือออกมาดูให้ถนัดตา
ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆมือซ้ายกลับเต็มไปด้วยเลือด
“ว๊าก!!”
มกรร้องออกมาอย่างสุดเสียงเขาตวัดขาก้าวลงจากเตียงแล้วจึงพบว่าเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างที่เปียกชื้นและข้นคลั่ก พอสายตาละจากมือลงไปมองเขาก็พบร่างนั้น..
ดวงตากลมโตที่ถลึงกว้าง เคียดแค้นและชิงชัง เลือดสีแดงฉานกระจายล้อมรอบวงหน้า ศีรษะคงโดนจับกระแทกพื้นเพราะเลือดออกมาจากบริเวณนั้น
มกรใช้มือซ้ายที่เปื้อนเลือดเอื้อมออกไปคว้าร่างนั้น
“นัท!!”
เป็นการตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง สุดกำลังเท่าที่คนผวาตื่นจากฝันร้ายจะเรียกได้
ฝันร้ายซ้อนด้วยฝันที่ร้ายแรงกว่า..
มกรรู้สึกราวกับเลือดในกายจะเหือดหาย เขากระชากตัวเองลุกขึ้นจากเตียงมองมือทั้งสองข้างแล้วตาลีตาเหลือกเหลียวไปมองกระจกเพื่อให้เห็นว่าใบหน้าของเขาซีดขาวไร้สีเลือด ไม่มีเลือดใครติดอยู่..ขนาดเลือดตัวเองยังไม่มีอยู่เลย
มกรหมุนตัวมองไปรอบๆห่วงว่าอาจมีร่างของใครกองอยู่ที่พื้น..ก็ไม่เห็น
เจ้าตัวยังไม่วางใจ เขากระชากเอาผ้าห่มออกเพื่อจะมองให้แน่ใจว่าไม่มีใครนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงจริงๆ แล้วถึงได้พบว่าเตียงนั้นยับย่น มีร่องรอยรัก..ทว่าว่างเปล่า
ณัฐวีร์ไม่ได้อยู่บนเตียง.. ไม่อยู่ที่ใดเลยในห้อง
มกรใจหายวาบ..นี่มันคือฝันร้ายของจริงเลยต่างหาก
ณัฐวีร์หนีเขาไปแล้ว..
“นัท!”
มกรร้องเรียกเสียงดังลั่น เมื่อคืนวานคนทั้งคู่อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน บางที ..เมื่อตื่นมาในเช้าอีกวัน ณัฐวีร์อาจเสียใจกับการกระทำนั้นจนคิดหนีหายไปจากเขาก็เป็นได้
“นัท!!” มกรร้องขณะคว้าเอาเสื้อคลุมมาใส่ทำท่าจะวิ่งไปที่ประตูห้องนอน
แต่กลับมีเสียงตอบรับเบาๆดังมาจากในห้องน้ำ ชายหนุ่มชะงักเท้าแล้วหันไปมอง..
แสงไฟลอดออกมาเล็กน้อย..
น่าจะเป็นเพราะเขารีบรนเกินไปจึงไม่ได้ยินเสียงน้ำในห้องอาบน้ำ ใบหน้าของคนที่เขากำลังค้นหาโผล่มาระหว่างช่องว่างของประตู มองเขาด้วยดวงตาตกใจ
“ร้องเรียกเสียงดังขนาดนั้นมีอะไรครับ นัทอาบน้ำอยู่”
“เปล่า..” มกรยิ้มอย่างโล่งอก เขาส่ายหน้าไปด้วยขณะมองอีกฝ่ายขมวดคิ้วงงๆแล้วปิดประตูไป
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้า มันเป็นฝันร้ายที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็กลัวว่าจะเกิดขึ้น
เลือดที่หลั่งออกมาไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำของเขาหรือของใคร.. มันมักทำให้เกิดความสูญเสียเสมอ
มกรถอยตัวลงมานั่งอยู่ที่เตียง เขาเลื่อนมือลูบไปบนพื้นผ้าปูที่ยับย่น ร่องรอยรักบนเตียงทำให้เขารู้สึกอุ่นขึ้นมาในอก มันซ่านขึ้นมาจนถึงใบหน้า แล้วสร้างรอยยิ้มบางๆฉาบไว้
บางทีฝันร้ายนั่นอาจจบลงแล้วเมื่อเขาตื่นขึ้นและพบว่า..ณัฐวีร์ยังอยู่ในห้องนี้ไม่ได้จากเขาไปไหน
ฝันนั่นอาจเป็นความกลัวสุดท้ายที่จะเกิดขึ้น.. นับจากนี้ฝันร้ายแบบนั้นจะไม่หลอกหลอนเขาอีก
มกรยิ้มกว้างเมื่อคิดมาถึงตรงนี้
แกร้ก..
ณัฐวีร์เปิดประตูห้องน้ำออกมาพบว่าเจ้าของห้องนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเตียง สายตาก็มองตรงจุดที่...นั่นแหละ .. เด็กหนุ่มเห็นท่าทางแบบนั้นแล้วก็หน้าร้อนขึ้นมาบ้าง เขาเบือนสายตาหนีภาพก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกข่มความอาย แล้วเดินตรงเข้าไปหามกร
“พี่แมนไปอาบน้ำสิครับ สายแล้วเดี๋ยวนัทต้องไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านก่อนเข้าบริษัทนะ”
มกรหันกลับมายิ้มหวานให้ “ลาพักสักวันไม่ได้เหรอ ดูนัทสิ เดินไม่สะดวกนี่นา”
เห็นได้ชัดว่าเรื่องเมื่อคืนส่งผลกับท่าทางการเดินของณัฐวีร์พอสมควร เขาเดินช้าลงกว่าเดิมเพราะมีอาการปวดบั้นเอว และยังรู้สึกขัดๆตรงด้านหลัง
มกรนั่งอ้าขากว้างแล้วคว้าร่างที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเข้ามากอด มืออุ่นก็ไล่บีบนวดไปที่บั้นเอวเล็กเบาๆ
“เมื่อวานเราก็ออกกันมาตั้งแต่สายๆนะครับ.. ไม่รู้ที่นั่นจะวุ่นวายกันไปถึงไหนแล้ว”
ณัฐวีร์ยกมือทั้งสองขึ้นวางไว้บนบ่ากว้าง เพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายบีบๆนวดๆได้สะดวกขึ้นเขายอมรับว่าตัวเองรู้สึกไม่สบายตัวจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธการดูแลนั้น
“ก็ไม่เห็นจะโทรมาเรียกให้กลับไปนี่นา” มกรบอกเช่นนั้นจึงทำให้ณัฐวีร์เปลี่ยนที่วางมือจากไหล่เป็นหน้าอีกฝ่าย เขาบังคับใบหน้านั้นให้แหงนขึ้นจนดวงตาของคนสองคนสบกัน
“ไหนเมื่อวานเราคุยกันแล้วไงครับ..”
มกรเม้มปาก ไม่ถนัดนักหรอกเพราะณัฐวีร์บีบแก้มเขาจนบู้ แถมยังหนักมือขยี้เล่นจนหน้าเบี้ยวอีกด้วย
“รู้อยู่..น่า.. ไปก็ไป” ชายหนุ่มขมุบขมิบบอก ทำให้ณัฐวีร์เผยรอยยิ้มกว้างละมือจากแก้มมาลูบผมที่ยุ่งเหยิงให้
“เนอะ..ไปทำงานกัน..อาบน้ำเร็วครับ..”
มกรพยักหน้าแล้วคว้าร่างนั้นมากอดแน่นอีกหนึ่งหนก่อนจะปล่อยมือเพื่อให้อีกฝ่ายไปแต่งตัว เขาเองลุกจากเตียงเตรียมจะไปอาบน้ำ ขณะที่ณัฐวีร์เอ่ยขึ้นลอยๆ
“เดี๋ยวนัทยืมมือถือโทรหาที่บ้านหน่อยนะครับ แม่ไก่จะได้ไม่ห่วง”
“ครับผม” ชายหนุ่มร้องบอกแล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำ พอปิดประตูไปแล้วก็เริ่มบีบยาลงบนแปรงสีฟัน ก่อนจะนึกได้ว่าโทรศัพท์ตัวเองเป็นแบบสแกนนิ้วมือและใส่รหัสผ่าน ซึ่งถ้าไม่รู้รหัสก็จะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้
แต่.. ไว้อีกสักเดี๋ยวค่อยออกไปปลดล็อคให้น้องโทรแล้วกัน เพราะตอนนี้แปรงฟันติดพันอยู่
มกรออกมาจากห้องอาบน้ำก็พบว่าณัฐวีร์ยืนหล่ออยู่ตรงหน้ากระจกเสียแล้ว ขนาดไม่มีครีมทา ไม่มีแป้งฝุ่นให้หรือไม่มีแว็กซ์เซ็ทผม ณัฐวีร์ยังหล่อขนาดนี้ เขานี่โชคดีจริงๆที่ได้น้องกลับมาอีกครั้ง
และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยมืออีกเป็นอันขาด
มกรเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวเองมาใส่ เป็นเสื้อยืดตัวเก่าที่เหลือติดตู้เสื้อผ้าอยู่แต่ก็ยังพอใส่ได้ เดี๋ยวก่อนเข้าบริษัทเขาไปส่งน้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอาจจะแวะที่ห้างสรรพสินค้าสักที่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ชายหนุ่มวางแผนไว้เช่นนั้น
การจะกลับเข้าบ้านตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาทำงาน.. ถ้าไม่เจอใครก็ดีไป แต่ถ้าเจอตา.. วันดีๆอาจกลายเป็นวันไม่ดีไปได้
เขาเคยรู้ประวัติตามาบ้าง แต่ไม่เคยรู้ว่าก่อนหน้าจะแต่งงานกับยายน่ะ ตาเป็นยังไงมาก่อน.. รู้แต่ว่าพอแต่งงานเข้าบ้านยายแล้วตาก็เข้มงวดกับทุกอย่าง ทุกคน.. จนตอนนี้ก็ยังไม่เลิกเข้มงวด
จริงๆเขาจะไม่เข้าไปที่ออฟฟิศเลยก็ได้.. ถ้าเป็นเขาคนเมื่อก่อนคงไม่เข้าไป แต่ตอนนี้..เขาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น.. การหนีปัญหาไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกต้อง เขามีแต่ต้องเผชิญกับมันให้ได้เท่านั้น
มกรวางเสื้อคลุมลงบนเก้าอี้ กลัดกระดุมกางเกง ขณะกำลังเอี้ยวตัวมองว่าณัฐวีร์อยู่ตรงไหนมือก็เอื้อมไปหยิบเสื้อยืดมาสวม
ณัฐวีร์นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก ห่างจากเขาไปพอสมควร และกำลังมองมาทางนี้ด้วยดวงตาใสๆคู่นั้น
"มองคนหล่อทำไมครับ" มกรถามยิ้มๆขณะดึงเสื้อใส่อย่างเรียบร้อย
ณัฐวีร์ย่นจมูกใส่ "ไม่รู้จะมองอะไร ก็เลยมองไปงั้นล่ะครับ รออยู่เนี่ย จะแต่งให้หล่ออีกนานไหม"
มกรก้มลงมองตัวเองแล้วก็พยักหน้า "หล่ออยู่แล้วใส่อะไรก็หล่อ.."
เด็กหนุ่มเบือนหน้าเบ้ปากหนี "งั้นไปกันเถอะครับเดี๋ยวจะหล่อไม่เสร็จกันสักที"
"ใจร้าย.." มกรขมุบขมิบบ่นแล้วมองดูอีกฝ่ายค่อยๆลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ "ปวดเอวมากเหรอ" เขาเดินเข้าไปหา
ณัฐวีร์ก้มหน้านิดๆ ใบหูนั้นแดงหน่อยๆขณะพูดว่า "ก็น่าจะปวดไหมล่ะครับ.."
คนฟังยิ้มกว้างเอื้อมมือไปดึงณัฐวีร์เข้ามากอดแน่น "พี่ขอโทษนะ อดใจไม่ไหวจริงๆ หนักมือไปหน่อย คราวหน้าจะขอไถ่โทษด้วยการทำให้นัทมีความสุขสุดๆ"
ชายหนุ่มเอาคางเกยไปบนศีรษะที่แนบอยู่กับอกเขาแล้วหลับตารับสัมผัสจากอ้อมกอดของน้องที่เกาะอยู่ตรงบั้นเอวตัวเอง
"ถ้านัทเป็นคนใจร้าย พี่แมนก็ขี้โกงสุดๆล่ะครับ" ณัฐวีร์พูดขณะฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายด้วยใบหน้าร้อนผ่าว
จะมีคราวหน้า จะมีครั้งต่อไป.. พวกเขาจะไม่จบกันเพียงเท่านี้
มกรยิ้มอย่างมีความสุข "พี่ไม่อยากลืมตา ไม่อยากออกไปจากห้องนี้ ไม่อยากปล่อยนัทจากกอดอุ่นๆของพี่เลย"
"โหย.. คนหล่อครับ.. เลิกหยอดได้แล้วครับ..ยอมแล้ว" ณัฐวีร์พูดด้วยเสียงหัวเราะ เขาส่ายหน้าน้อยๆ บางทีก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองว่าช่วงเวลานี้จะมาถึงแล้ว "มันหวานจนนัทร้อนหน้าไปหมดแล้วพี่แมน ไม่ไหวแล้วจริงๆ พอเหอะครับ"
ณัฐวีร์ว่าแล้วยันตัวออกจากอ้อมแขนอีกฝ่าย เหมือนจะเบาหวานขึ้น ความดันโลหิตพุ่งจริงๆนะเนี่ย เด็กหนุ่มยังรู้สึกไม่ชินก็เลยขอพักรบไว้ชั่วคราวผละออกมาจากอ้อมกอดอีกฝ่ายแล้วเดินหนีไปที่ประตูเอาดื้อๆ
"อย่าเพิ่งสินะ.." มกรเดินตามมาอ้อน เขาอ้อมแขนกอดณัฐวีร์จากเบื้องหลัง ดึงน้องไว้ไม่ให้ก้าวออกจากห้องนอนไปก่อน
"เดี๋ยวก็สาย.."
"ขออีกนิด..ไม่อยากออกไปรับรู้เรื่องราวข้างนอกนั่นจริงๆ ขอกำลังใจอีกหน่อย" มกรกระซิบบอก
เสียงอ้อนนั่นเล่นเอาณัฐวีร์ใจอ่อน.. นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่าเสือผู้หญิงไม่ทิ้งลายน่ะ เด็กหนุ่มทำปากขมุบขมิบแล้วยกมือตัวเองวางกดลงไปที่มืออีกฝ่ายซึ่งอยู่ตรงเอว เขาเลื่อนมือลูบแขนแกร่งที่กอดตัวเองไว้เพื่อปลอบโยน เพื่อให้กำลังใจ และเคลื่อนปลายนิ้วสอดประสานเข้าไปในนิ้วของอีกฝ่าย บีบกระชับเพื่อให้อีกฝ่ายจับมือเขาไว้ ส่งผ่านกำลังใจไปให้
"สู้ๆนะครับ.. เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป" ณัฐวีร์กระซิบบอก "พี่แมนยังมีนัทนะครับ จำที่นัทบอกได้ไหมครับ เรื่องในอดีตคุณแม่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นหรอก มันก็แค่การทำผิดพลาดของช่วงวัยรุ่น.. พี่แมนต้องเข้าใจคุณแม่นะครับ"
"..."
มกรไม่ตอบ เขาแค่บีบมือณัฐวีร์เอาไว้แล้วดึงร่างเด็กหนุ่มเข้าใกล้กอดกระชับมากขึ้น
ณัฐวีร์สัมผัสถึงความไม่สบายใจนั้น..
จริงอยู่ว่าเขาสามารถดึงความมีเหตุผลของมกรขึ้นมาได้บ้างแล้ว.. แต่มกรอยู่กับเรื่องนี้มานาน นานตั้งแต่เขายังเด็ก เวลามันเป็นสิบปี.. การพูดประโยคเดียวจากใครก็ไม่รู้ หมอก็ไม่ใช่.. การจะให้ยอมรับเรื่องต่างๆในคืนเดียว เปลี่ยนความคิดคนที่ฝังหัวมานานเป็นเรื่องยากจนบางทีอาจเป็นไปไม่ได้เลย ..ต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆ
ณัฐวีร์คิดเช่นนั้นแล้วยกมือขึ้น เลื่อนไล้ไปจับใบหน้าคมสันของคนที่อยู่เบื้องหลัง ก่อนจะเอี้ยวตัวเองเขย่งปลายเท้าขึ้น โน้มคออีกฝ่ายลง แล้วทาบริมฝีปากไปหาริมฝีปากอุ่น
"ลืมหรือยังครับ.. เมื่อคืนนัทบอกว่ายังไง"
มกรจ้องตาอีกฝ่าย จ้องอยู่ชั่วครู่ก็พยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง..เอนใบหน้าคมสันของตัวเองซุกซบลงตรงไหล่ของน้อง
"ไม่ลืม.." เขากระซิบแล้วโยกตัวเบาๆอย่างมีความสุข "ไม่มีทางลืม.."
"ดีครับ.. จำไว้นะครับ.." ณัฐวีร์หลับตา เอนหลังพิงร่างกับอกกว้างอบอุ่น “ไม่ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น.. ขอให้พี่แมนจำคำที่นัทบอกเมื่อคืนเอาไว้.. รับรองผ่านฉลุยครับ”
มกรยิ้มบางๆพยักหน้าน้อยๆ ..คำเมื่อคืน.. ครับ..พี่จะจำไว้
ชายหนุ่มมาดหมายคำนั้นในใจ ก่อนจะส่งริมฝีปากร้อนทาบลงที่ต้นคอ แล้วค่อยๆไล่มาที่สันกราม จูบเบาๆที่ใบหูและขมับ แล้วซบหน้าลงที่ข้างแก้มน้อง
"เก็บเพลงรักนี้..ไว้ให้เธอ.. เมื่อวันใดที่เจอะเจอฉันก็พร้อมและยินยอมมอบความรัก และจิตใจ ชั่วนิรันดร์" ชายหนุ่มฮัมเพลงรักคุณเข้าแล้วเบาๆ "เก็บใจของฉัน ไว้ให้นาน และจะนานจวบจนกาลเวลาล่มสลาย ก็เพราะฉันนั้นมีเธอ ใจฉันนั้นมีเธอและตัวฉันนั้น จะรักเธอเท่านั้น"
เสียงเพลงทุ้มต่ำที่ข้างหูทำให้ณัฐวีร์หลับตาฟังด้วยใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกรอบ เขายิ้มและรู้สึกได้ถึงความสุขที่เอ่อล้นหัวใจ
มกรจรดริมฝีปากที่ขมับน้องแล้วบ่น "โอย.. อยากพาไปที่เตียง ขออีกสักทีจะเป็นพระคุณ"
"พี่แมน!..." ณัฐวีร์ขึ้นเสียงแล้วถองศอกเข้าที่พุงไขมันต่ำไปหนึ่งที "หมดกันเลย อุตส่าห์จะพยายามซึ้ง.."
"อูย.. นี่ก็อายเหมือนกันครับผม อยากซึ้งต่ออีกนิดเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนัทไม่ซึ้งด้วย" มกรขยิบตามือคลำท้องป้อยๆ ยอมปล่อยน้องให้ไปยืนห่างตัวจนได้
"ไม่สนใจพี่แล้ว กลับบ้านเร็วครับ" ณัฐวีร์เดินหนีไปด้วยความว่องไว
"อ๊ะ อย่าเดินเร็วครับ เดี๋ยวเอวเจ็บนาน พี่จะรอเหี่ยว"
เสียงสวดจากคนที่เดินพ้นประตูห้องไปแล้วดังขรม ทำให้มกรรีบก้าวตามออกไปทันที
คนทั้งคู่ออกจากชั้นที่พักอยู่ลงมายังชั้นที่เป็นลานจอดรถ คุยกันมาตลอดทาง อารมณ์หวามหวานที่ต่อเนื่องจากเมื่อคืนทำให้มกรรู้สึกว่าตัวเองอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ส่วนณัฐวีร์เองก็โดนหยอกจนจะกลายเป็นตัวนิ่มไปอยู่แล้ว ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้นานๆเข้า คงกลายเป็นณัฐวีร์เชื่อม.. น้ำตาลเกาะตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้าแน่ๆ
“อ้าว.." มกรร้องขึ้นขณะลิฟต์เปิดที่ชั้นลานจอดรถแล้ว
"มีอะไรครับ?" ณัฐวีร์ถามเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นตบกระเป๋ากางเกงตัวเอง
"สงสัยพี่จะทำกระเป๋าเงินหล่นไว้ข้างบน" มกรจำได้ว่าใส่กระเป๋าเงินไว้ในกางเกง ตอนที่หยิบมาใส่อาจจะร่วงไปก็เป็นได้ "เอางี้ เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปดู นัทเดินไม่ไหวใช่ไหม เดี๋ยวนั่งรอพี่อยู่ตรงนี้แล้วกันนะ พี่ขึ้นไปดูแป้บนึง ก่อนเข้าบ้านจะได้แวะซื้อยาทาด้วย”
ณัฐวีร์พยักหน้าหงึกๆแล้วมองหาเก้าอี้นั่ง เขาภาวนาให้มีเบาะนุ่มๆ แต่เก้าอี้ที่เห็นเป็นเก้าอี้พลาสติกธรรมดาที่ต้องประคองตัวนั่งพอสมควร สงสารตัวเองจริงๆ
เห็นท่าทางลังเลจะนั่งแบบนั้นแล้วมกรก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขานึกถึงเมื่อสองปีก่อน ช่วงแรกๆที่เขาจัดน้องหนักๆ ณัฐวีร์ก็มักจะมีอาการปวดเอว เจ็บสะโพกบ่อยๆ ตอนนี้ก็อาการเดิม แค่เขาดูแลน้องได้ดีขึ้น.. เขาไม่เคยหายาทาให้น้อง นี่เขาคิดจะแวะซื้อยาเลยนะ
มกร..แกก็พัฒนาแล้วเหมือนกันนะเนี่ย..
ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจตัวเองแล้วยิ้มกว้างขึ้นอีก
"ยิ้มอยู่ได้ ขึ้นไปเอาของได้แล้วครับ"
"ก็คนมันปลื้มใจ.." มกรพูดแล้วเข้ามาช่วยพาเด็กหนุ่มไปนั่ง "รออยู่นี่แป้บนึงนะ เดี๋ยวมาครับ"
ชายหนุ่มเดินไปกดลิฟต์แล้วก็นึกขึ้นได้ เมื่อกี้เขายังไม่ได้ปลดล็อคโทรศัพท์ให้ณัฐวีร์เลยนี่นา นี่ก็คงยังไม่ได้คุยกับที่บ้านน่ะสิ
"นัทเอาโทรศัพท์ไปคุยไหม.." เขาเอ่ยถามขณะปลดล็อคไปด้วย
"ไม่เป็นไรครับ นัทคุยแล้ว" ณัฐวีร์บอกทำให้มกรพยักหน้าอย่างงงๆ
“ลิฟต์มาแล้วพี่แมน.. รีบไปรีบมานะ”
“ครับ..” มกรก้าวเข้าลิฟต์และปล่อยความสงสัยไปเมื่อลิฟต์ปิดประตู เขาขึ้นไปถึงห้องพักแล้วตรวจหากระเป๋าเงิน จึงได้พบว่ามันหล่นอยู่ที่ปลายเตียง คงเป็นตอนที่เขาหยิบกางเกงมาใส่แล้วไม่ทันระวังนั่นเอง
ชายหนุ่มออกจากห้องกลับลงไปที่ชั้นจอดรถอีกครั้ง เขารีบเดินออกจากลิฟต์และหวังว่าจะพบกับณัฐวีร์ที่นั่งรออยู่
..แต่.. ตรงนั้นกลับว่างเปล่า
***************************
เห็นแววต้มมาม่ามาไวๆ