||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน [ประกาศรวมเล่ม หน้า 23 :D]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน [ประกาศรวมเล่ม หน้า 23 :D]  (อ่าน 365101 ครั้ง)

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
น่าสนุกดีน้าาา แต่ขอจิ้มไว้ก่อน เสร็จงานแล้วจะมาอ่านตอนล่าสุด แหะๆๆๆ

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
ท่าจะมันอีกคนซึนอีกคนมึน

ปล.กินเหล้ามันขมกินนมดีกั่ววววว

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
สนุกอะะะะ  เข้ามาสมัครเป็นแฟนคลับซินเดอเรล่ากะเจ้าชายบีม  :-[

ออฟไลน์ phana_qbz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อร๊างงงง สนุก 55555555 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่หมอบีมมาหลงรักน้องซินคนซื่อหรือป่าว
พี่หมอบีมชอบทำไรเพี้ยนๆ แต่ฮาดี

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
#3 และเจ้าชายก็เป็นเกย์?


“อ่ะ กูให้”

ในคาบเรียนตอนเช้าวันนึงแว่นอ้วนออมยื่นของบางอย่างให้เพื่อน พ่อคนดังเลิกคิ้วก่อนจะเพ่งดูของที่ว่าชัดๆ

"ไปเอามาจากไหน"

"กะ...กูซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดมึง

"กูเกิดกลางปี" 

ไอ้ออมเอ็งมันโกหกได้แย่สุดๆเลยให้ตาย นี่มันพึ่งจะต้นปี

"กูก็เห็นมึงชอบไง เห็นว่ามันหายไปด้วยเลยซื้อให้"

ตาเรียวชั้นเดียวเหล่มองเพื่อนอย่างไม่วางใจ ก่อนจะรับมาง่ายๆ พร้อมกับเปิดกล่องที่ว่า

"นี่มันเบอร์ 48 กูใส่เบอร์ 46"

เท่านั้นเองอ้วนออมผู้ทราบถึงมวลความโกรธของเพื่อนจึงสารภาพแบบไม่หมดเปลือก

"พี่เขาให้เอามาให้" เสียงมึงอ่อยมากเลยออม

 "แล้วทำไมมึงต้องทำ"

 "ก็กูเป็นมหาดเล็ก"

 "!?" 

แผนมหาดเล็กของไอ้บีมโรคจิตไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นแว่นออมผู้โชคร้ายนี่เอง เมื่อเช้าอ้วนออมตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเปิดประตูให้ใครสักคนตอนหกโมงเช้า  ตอนแรกคิดว่าเป็นไอ้ซินเพื่อนยากที่ชอบมาขออาศัยอาบน้ำหรือนอนแหมะก่อนไปเรียนยามเช้าหลังจากกลับมาจากทัวร์ต่างจังหวัด แต่วันนี้กลับเป็นใครบางคนที่ไม่คุ้นตา

"ออมใช่ไหม?"

กำลังจะบอกว่าเคาะผิดห้องอยู่แล้วเชียวคนตรงหน้าดันโพล่งชื่อออกมาก่อน

"อ่า ใช่"

แว่นออมมองอีกแว่นอย่างงงวย พี่ยามปล่อยให้เด็กม.ปลายเข้ามาได้ไงวะ

 "โย่ว....สบายดีไหม"

ไอ้ประโยคนี้มันคุ้นๆนะ เหมือนอ้วนออมเคยได้ยินที่ไหนซักที่เมื่อเดือนที่แล้ว พอพิจารณาใบหน้าคนข้างหน้าดีๆแล้ว มันถึงกับผงะนี่มันเจ้าชายสเตฟานชัดๆ เกิดการออสโมซิสชื่อระหว่างพระเอกนิทานปรัมปราและรุ่นรองเท้าเล็กน้อย

"น้องมีอะไรหรือเปล่า"

ออมพูดเบาๆเพราะมันยังไม่ได้แปรงฟัน

"กูเป็นรุ่นพี่มึง"

รุ่นพี่ที่ว่าแทรกตัวเข้ามาในห้องนอนของอ้วนแว่นอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้เพียงตัวเดียวในห้อง

"เอ่อ...คือ"

เป็นใครเขาก็งงกับท่าทีของหมอเพี้ยนกันทั้งนั้น

"กูมีเรื่องขอร้อง"

 เอาเถอะการขอร้องพร้อมกับการนั่งไขว่ห้างกระดิกตีนคงเป็นคำขอร้องที่พิลึกน่าดู

"อ่า...ครับ"

“มึงกินข้าวยัง?"

นั่นไม่ใช่คำขอร้องแต่อย่างใด ‘คงกินแล้วมั้ง ตอนหกโมงเนี่ย แถวบ้านกูเรียกพึ่งตื่น’ ไอ้อ้วนลอบด่าในใจก่อนจะตอบกลับไปเบาๆว่า

"ยังครับ"

"งั้นไปอาบน้ำจะพาไปกินข้าว กูมีเรื่องจะคุยด้วย"

ออมจำใจต้องทำตามเพราะท่าทางเจ้าชายคนนี้ค่อนข้างเอาแต่ใจเลยทีเดียว และโลเคชั่นการฟังคำขอร้องคือตลาดเช้าไม่ใกล้ไม่ไกลกับหอนั่นเอง
   
"พี่ถึงกับต้องซื้อรองเท้ามาคืนเลยเหรอ"

อ้วนออมเอ่ยถามเมื่อพวกเขากำลังรอต้มเลือดหมูจากอาแปะเจ้าของร้านอยู่

"ก็กูทำของมันหาย"

จะอย่างไรหมอแว่นก็ไม่บอกว่าตนเป็นต้นเหตุความซวยทั้งหมดอยู่ดี มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำชาวบ้านเดือดร้อน แว่นออมเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย ก็ซินมันบอกว่าเขาตีกันแล้วมันวิ่งหนีรองเท้าถึงหลุดไม่ใช่รึ? หรือไอ้ซินมันเล่าไม่หมด?เพราะคนอย่างนายซินโกหกกับเขาเป็นที่ไหนกัน แต่จนแล้วจนรอดมันก็กลืนก้อนสงสัยลงคอไป

"ทำไมพี่ไม่เอาไปคืนมันเอง"

หมอบ้าจะบอกว่า ‘เพื่อนน้องคิดว่าพี่เป็นเกย์มันเลยไม่ยอมรับของจากพี่' ก็กระไรอยู่เอาเป็นว่าตอนนี้ฝั่งญาตินายซินและเจ้าชายกำลังเจรจาแบบประเมินกำลังสินสอด...ประเมินกำลังคู่ต่อสู้อยู่ ทำให้บรรยากาศพูดคุยกันดูตะกุกตะกักเพราะต่างฝ่ายต่างกำลังคิดก่อนพูดแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต

"เพื่อนน้องไม่ยอมรับ"

 "ไอ้ซินมันไม่ค่อยชอบรับของจากใครหรอกพี่"

"ของฟรีเลยนะเว้ย"

ปากหมอมันน่าจูบด้วยสันมือจริงๆให้ตายเถอะ อ้วนออมพยักหน้าน้อยๆแบบตอบรับว่าต่อให้ตัวพี่ฟรีๆมันก็ไม่เอา ในตอนนั้นต้มเลือดหมูชามใหญ่ก็มาเสริฟพอดีอ้วนออมไม่พูดอะไรต่อนอกจากโซ้ยแล้วนั่งพิจารณาคนตรงหน้าไป พอมองจริงๆคนๆนี้กลับดูมีคุณวุฒิมากกว่าตนแม้จะติดกวนตีนหน่อยก็ตาม คงเป็นเพราะรูปร่างที่ไม่เหมือนเขาที่อ้วนหรือไอ้ซินที่ตัวหนาปึ๊กจึงทำให้ไม่ชินตาตากระมัง แต่แขนดูเล็กๆแบนๆเหมือนพวกเด็กแว่นติดเกมส์ม.ปลายตรงข้ามบ้านไม่มีผิด   แขน...เหมือนอ้วนออมจะนึกอะไรออกมันดึงสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋า แสร้งเป็นเล่นเกมส์เรื่อยเปื่อยแล้วรื้อภาพที่มันเซฟไว้ พร้อมนำภาพที่ผ่านการคำนวนสี แสง ที่แท้จริงออกมาจากโฟลเดอร์ลับ ท่าทางสาวตัวสูงผมสั้นผิวขาวที่ไอ้ออมมันมโนว่าได้กอดซุกนมไอ้ซินคนดังจะไม่ใช่อย่างที่คิดเสียแล้ว ในภาพถึงแม้จะเห็นแค่ไรผมฝั่งขวาและแขนของคนที่ถูกกอดไว้ก็ตาม แว่นอ้วนมั่นใจว่าความต่างของสีตรงหูนั่นมันขาแว่นชัดๆ เป็นเวลาเดียวกับที่คนตรงหน้ายกแขนขวาขึ้นดูนาฬิกา ไทม์เม็กซ์สีกรมท่า เป๊ะกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! พี่ซินของน้องๆกอดผู้ชายเลยเว้ยเฮ้ย ออมกระยิ่มกระย่องอยากผู้กำความลับของมนุษย์ชาติไว้ ตอนแรกมันกะจะไม่ขอยุ่งกับมิสชั่นรองเท้าแก้วสีดำมินท์ แต่คิดไปคิดมาความสนุกมันน่าติดตามยิ่งกว่าเกมส์ไตรมาสแรกของปีนี้เสียอีก มันจึงตอบรับกลายๆ ว่า

"ผมจะพยายามนะพี่"


พอได้คุยกันจริงๆระหว่างที่หมอเพี้ยนลงทุนบึ่งรถกลับมาส่งรุ่นน้องที่คณะเพื่อเรียนในตอนเช้า รุ่นพี่ที่ไอ้ออมนึกรังเกียจเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วกลับคุยง่ายกว่าที่คิด จะว่ายังไงดี...บางทีพี่แกก็คงไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำสันดานถ่อยๆอันตรงข้ามกับหน้าตาออกมาบ่อยๆ เจ้าตัวคงไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ ไหนจะนิสัยย้ำคิดย้ำทำที่คอยเตือนแต่ให้เขาเอาของส่งให้ไอ้ซินเพื่อนยากอีก พอไตร่ถามว่าทำไมพี่แกถึงตามหามันเจอพี่แกก็บอกง่ายๆว่าไล่ถามเด็กที่คณะมันมาสองสามวันแล้ว ออมมันนับถือในความพยายามของเจ้าชายคนนี้เหลือเกิน แต่ที่มากกว่านั้นคือมันต้องรู้ให้ได้ว่าพี่คนนี้เป็นอะไรกับเพื่อนของตนกันแน่ ระหว่างนายซินที่แม้ง้างปากมันก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำไอ้อ้วนออมจึงเลือกที่จะสืบจากเจ้าชายเพี้ยนๆคนนี้แทน

"เอาไปคืน"

นายซินบอกเพื่อนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอย่างสำนึกผิดแบบจอมปลอมอยู่

"ทำไมวะ"

"กูไม่เอา"

“แต่...”

แค่ไอ้ซินมันชายหางตามองไอ้ออมก็ขนลุกพรึ่บพรั่บ แลดูว่าถ้ามันยังตื้ออยู่อย่างนี้พ่อคนที่สองต้องยกตีนขึ้นมาแนบหน้าแน่ มันจึงยุติแผนการในวันแรกแล้วโทรรายงานผลรุ่นพี่หน้ามึน รุ่นพี่ที่ว่าพึ่งจบจากการตรวจเคสไข้เลือดออกของเด็กหกขวบต้องรีบตาลีตาเหลือกวิ่งมารับโทรศัพท์ที่ห้องพัก พอได้ความว่าฝ่ายซินเดอเรลาไม่ยอมสวมรองเท้า...เอาเป็นว่าไม่ยอมรับเสียด้วยซ้ำมันจึงต้องคิดแผนใหม่ แผนใหม่ก็คือการเสนอหน้าเอาของไปยัดเยียดให้ในวันพุธที่นายซินมีเรียนเช้าไม่รบกวนการเข้างานของตน ส่วนวันอื่นก็ให้อ้วนออมทำหน้าที่ให้ รางวัลคือการเลี้ยงข้าวตอนโคตรเช้านั่นเอง แผนเอ็งช่างสร้างสรรค์จริงนะคุณหมอ

หมอเพี้ยนมันถือคติว่าน้ำหยดลงหินทุกวันมันยังกร่อนไฉนใจคนเล่า ก็ว่าไปนั่น...แค่วันพุธแรกที่หมอเพี้ยนเสนอหน้าไปยืนดักหน้าคณะ ไอ้ซินก็ใจอ่อนยวบอ่อนแบบเหนื่อยใจสุดๆ เมื่อใจอ่อนแล้วไอ้ซินจึงตีเบลอเดินอ้อมเข้าหลังคณะแทน แผนหมอบีมเลยเจ๊งไม่เป็นท่าไปอีกวัน นายซินจะดีใจไหมนะที่ได้มาอยู่ในสารระบบของว่าที่นายแพทย์บีมที่สกิลการเอาใจใส่จิตใจมนุษย์ติดลบ แต่มุ่งมั่นคิดแผนจะคืนรองเท้าเยี่ยงการอ่านหนังสือสอบทำแลปเลยทีเดียว วันนี้ก็เป็นอีกวันที่บัมมันใช้แผนมหาดเล็กดำเนินการ

"อ่ะ....พี่เขาให้เอามาให้"

อ้วนออมก็ยังทำหน้าที่เช่นเดิม

"กูไม่เอา "

ซินก็ยังตอบเช่นเดิมเหมือนกัน

"เอาอย่างนี้นะ...ถ้ามึงไม่อยากได้มึงเอาไปคืนเองเพราะไม่อย่างนั้นเขาจะเอามายัดเยียดผ่านกูอีก กูไม่อยากยุ่ง"

ทีอย่างนี้มึงลื่นไหลเชียวไอ้แว่นออม ปากบอกไม่อยากยุ่งแต่ตามันวาวระยับอย่างคนเจออัลกอลึทึ่มยากๆแล้วกำลังจะแก้ออกยังไงอย่างนั้น นายซินที่ดูหัวเสียยอมพยักหน้าอย่างจำใจเพียงเพราะไม่อยากให้เพื่อนยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของตน

"งั้นเอามานี่"

ไอ้ซินดึงถุงต้นเรื่องมาไว้ในมือ

"มึงยอมรับแล้วสินะ"

ไอ้ออมเหยียดยิ้มอย่างคนรู้ทัน

"กูจะเอาไปคืนเอง" 

ถามว่านานไหมที่แผนดำเนินมาจนไอ้ซินมันทนไม่ได้ ตอบได้ว่าแค่ถัดมาจากวันพุธที่ซินมันหลบหน้าหมอเพี้ยนเดินเข้าหลังคณะนั่นแหละ เรียกได้ว่าน้ำยังหยดไม่กี่หยดหินทั้งไม่กร่อนแถมเริ่มรำคาญกับการสะกิดเสียแล้ว

"ใครคะพี่"

หมอเอ้เดินออกมาหาอะไรกินตอนเย็นก็พบแผ่นหลังของใครบางคนที่ดูคุ้นตากำลังคุยกับพยาบาลเวรอยู่

"น้องเขาบอกว่ามาพบหมอบีมค่ะ"

"บีมมันออกเวรไปแล้ว"

เมื่อได้ฟังดังนั้น ร่างสูงจึงหันหลังกลับมาตามเสียง

"อะ...อ้าว น้องซิน"

แพทย์หญิงเถื่อนเห็นแล้วแทบเข่าอ่อน ผู้ชายลุคแบดกายส์นี่สุดยอด! จากคำบอกเล่าอันตะกุกตะกักและใบหน้าแดงแจ๋ของหมอหญิงเถื่อนเอ้ นายซินก็ทราบความว่าไอ้หมอโรคจิตพึ่งจะเดินไปที่ลานจอดรถเพื่อบึ่งกลับหอ หลังจากที่สอบถามว่าลานจอดรถอยู่ที่ไหน ซินมันก็ไหว้ขอบคุณเอ้งามๆก่อนจะสาวเท้าให้ทันไอ้แว่นเพี้ยนอีกคน ปล่อยให้เจ้เอ้ยืนมองตามหลังด้วยสายตากระลิ้มกระเหลี่ยจนซินหวิดจะเสียตัวทางสายตาอยู่รอมร่อ ลานจอดรถที่ว่าหาไม่ยากนัก มันเห็นใครบางคนที่ดูคุ้นตากำลังก้มๆเงยๆปลดล็อคกุญแจที่ติดอยู่กับล้อรถจักรยานยนต์สีส้มแปร๊ด ไม่ทันไรก็วาดขาขึ้นคร่อมก่อนจะสตาร์ทรถพร้อมจะทะยานสู่หอพักด้านหลังโรงพยาบาลหากไม่มีซินเดอเรลายักษ์มายืนจังก้าขวางทางอยู่ก่อน

“ผมเอาของมาคืน”

มันใช่การทักทายของคนปกติหรือ? หมอเพี้ยนทำหน้าเหรอหราก่อนจะเอามือสองข้างไถหัวทุยๆของตนอย่างหมดความคิดพร้อมแหกปาก

“โอ้ย มันใช่เวลาไหม!”

“...”

“มึงหลบไปก่อน กูรีบ”

“ผมเอาของมาคืน”

นายซินยื่นของที่ว่าให้หมอเพี้ยนที่บิดแฮนด์เร่งเครื่องอย่างคล้ายจะขู่ว่า กูหยียบมึงแน่ถ้ามึงไม่หลบ

“ไม่รับคืนโว้ยยยย หลีกไป”

ถ้าไอ้บีมด้านอย่างไอ้ซินก็เรียกว่าดื้อ เรื่องอะไรจะยอมให้เป้าหมายที่ถ่อมาหาหนีไปดื้อๆวะ อย่างน้อยก็ต้องคืนของให้เรียบร้อยแล้วก็ทำสัญญาการไม่ต้องพบเจอกันตลอดชีวิตก่อนสิซินมันถึงจะโล่งใจ นายซินมันไม่ตอบแต่วางถุงที่ว่าไว้ที่ตระกร้าหน้ารถแทนก่อนจะยกมือไหว้แล้วเดินออกไปแค่นั้นก็ทำเอาไอ้หมอฉุนกึก! กล้าดียังไงถึงไม่รับสินน้ำใจฟรีๆของคนที่ดั้นด้นไปซื้อหามาให้วะ! หมอเพี้ยนวาดขาลงจากรถคนเล็กแล้วใช้เท้าตบขาตั้งดัง ‘ปึ๊ก’ …เจ็บไหมละนั่น

“กูไม่รับคืนเอาไปเลยนะ!”

หมอโรคจิตตะโกนตามหลังไอ้ซินที่ยังเดินห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว

“ผมว่าเรามาคุยกันดีๆได้ไหมพี่”

ความอดทนของคนหน้านิ่งเริ่มจะหมดลงแล้ว มันถึงยื่นการประณีประนอมเข้าไว้ก่อน ต่อให้เป็นถึงเจ้าชายก็เจ้าชายเถอะ ซินเดอเรลามันอุตสาห์เอารองเท้ามาคืนดีๆแล้วถ้ายังหน้าด้านกวนตีนเกินลิมิตอารมณ์ของมันแล้วดีไม่ดีมันจะปาใส่หน้าคืนด้วยซ้ำ 

“Trrrrrrrrrr”

ขอบคุณเสียงโทรศัพท์อีกครั้งที่ช่วยเบรกเรื่องราวมาคุของนิยายปรัมปราเรื่องนี้

“กูกำลังไปบอกไอ้ปลามันอั้นไว้ก่อน”

หมอรับโทรศัพท์ด้วยจิตงุดเงี้ยวพอวางโทรศัพท์ปุ๊บพี่แกก็รีบกระโจนขึ้นรถปั๊บ

“มึงอยากคืนรองเท้ากากๆนี่ใช่ไหม”

ปากหมอมันน่าตบด้วยเข่าและศอกเสียจริง

“ครับ”

อีกคนตอบรับอย่างข่มใจ

“งั้นมึงขึ้นมา”

พี่แกไม่พูดเปล่าแต่ดึงแขนนายซินให้รีบกระโดดขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันจิ๋ว แม้นายซินจะงงอยู่บ้างมันก็ยอมขึ้นมาด้วยแต่โดยดี และไม่ลืมที่จะสะบัดแขนออกจากมือของอีกคนแทบจะในทันที หมอเพี้ยนบรรทุกใครซักคนที่ไอ้โจ้ไม่เคยเห็นมาก่อนมาที่ด้านหลังของหอพักก่อนจะรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาที่ชั้นห้าของตึก โดยมีคนข้างหลังวิ่งตามมาติดๆ

“ไอ้ปลาเป็นไงบ้างวะ”

“ปลอดภัยแล้ว กูไปเข้าเวรก่อนนะ”

วันนี้ไอ้โจ้มันรีบจึงยังไม่มีเวลาซักไซร้ไล่เลียงถึงคนที่ยืนหอบแดกอยู่ข้างหลัง ทำได้แค่มองแล้วยกมือรับไหว้พ่อคนดังที่มารยาทงามก่อนจะคว้าเอากุญแจรถจากมือเพื่อนแล้วรีบวิ่งออกไป

“ปลาพี่เป็นอะไร”

ก็ว่าจะถามว่า ‘ปลามึงออกลูกเป็นแมวรึไงไอ้โรคจิตถึงลากกูมาด้วย!?’ มันก็คงไม่ค่อยเพราะเท่าไหร่ ซินถึงจำใจเรียกพี่เพราะเกรงใจในวัยวุฒิและอาชีพของคนข้างๆ

“ปลา พ่อกลับมาแล้วลูก”

หมอเพี้ยนไม่ตอบแต่ถอดรองเท้าแล้วเดินไปที่ระเบียงของห้องแทน

“เมี้ยวววววววววว”

ให้มันได้อย่างนี้สิ…ไอ้ซินถอนหายใจเฮือกกับเซนส์การตั้งชื่อสุดประหลาดของไอ้หมอโรคจิต มันมองดูแมวสีขาวลายน้ำตาลตัวปุ้มปุ้ยตากลมบ๊อก ที่รอบๆข้างมีลูกแมวพึ่งเกิดอยู่ห้าตัว คนเป็นเจ้าของนั่งขัดสมาธิลูบหัวเกาคางปลาที่เป็นแมว แล้วพูดอยู่ซ้ำๆว่า ‘เก่งๆ เด็กดีๆ’  ซินไม่รู้ว่าเวลานี้ควรจะทำอะไรดีนอกเสียจากนั่งยองๆลงข้างๆหมอเพี้ยนแล้วมองหน้าไอ้ปลาแบบขออนุญาตจับ ไอ้ปลาจ้องตาแป๋วแล้วเลียมือซินอย่างออดอ้อน

“ไอ้ปลาไหงมึงทรยศพ่อวะ ทีตอนแรกเอ็งข่วนพ่อตั้งหลายแผล”

ซินไม่ได้ใส่ใจเสียงบ่นหงุงหงิงกวนประสาท  มันลูบหัวเกาคางเกาคอไอ้ปลาอย่างหมั่นเขี้ยวลูกเหมียวน้อยขนาดเท่าฝ่ามือตะเกียกตะกายดูดนมแม่อย่างน่าชัง

“หึ หึ”

เสียงหัวเราะน้อยๆของมันดังอยู่ในคอ พลางทอดสายตาอันอบอุ่นมองเจ้าเหมียวน้อยทั้งหลายพร้อมกับยิ้มจนลักยิ้มที่แก้มสองข้างบุ๋มลงไป เพียงแค่เห็นรอยยิ้มน้อยๆทอดความเอ็นดูและอบอุ่นออกมาก็ทำเอาคนที่บ่นไอ้ปลาในตอนแรกหุบปากฉับ ละสายตาจากคนข้างๆมาเป็นก้มหน้าก้มตาแทน หากซินมันจะสังเกตสักนิดมันคงเห็นหูแดงๆของหมอเพี้ยนเป็นแน่

"ซิน..."

เป็นครั้งแรกที่ซินได้ยินคนข้างๆเรียกชื่อตน พอหันไปมองกลับพบว่าเจ้าของเสียงก้มหน้าชิดอกท่าทางดูค่อนข้างแปลกประหลาด

"ครับ?"

คนสุภาพ อย่างไรก็สุภาพอยู่ดี มันเลิกคิ้วที่มีจิวสีวาวแปะอยู่มองคนข้างๆ

"มึงว่ากูเป็นเกย์ไหมวะ"

"หือ?"

คราวนี้ไอ้ซินงงจริงจัง แม้คนข้างหน้าจะบ้า ขี้ตื้อ ประสาท น่าโมโหหรือโรคจิตแค่ไหน ซินก็ไม่เคยนึกว่าพี่แกจะเพี้ยนไปในทางนี้ มันเปลี่ยนจากนั่งยองๆเป็นขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาอีกคนแล้วใช้มือแตะไหล่คนที่นั่งก้มหน้างุดอยู่เบาๆ อย่างเห็นใจในความบ้า

"อย่าแตะ!!"

ทำเป็นตวาดทีกระชากแขนคนอื่นเอ็งไม่เคยคิดเลยไอ้หมอเพี้ยน

"ตอบกูมาก่อนว่ากูเป็นเกย์เหรอ?"

เวร...ใครจะไปรู้กับเอ็งวะ ไอ้ซินถดมือเข้าหาตัวแล้วจับจ้องอีกคนอย่างพินิจ

"ทำไมพี่ถึงคิดว่าตัวเองเป็นเกย์ล่ะ?"

"กูไม่ได้คิดเว้ย!!!"

พี่แกสะบัดหน้าขึ้นมาตวาด ทำให้ซินเห็นใบหน้าแดงแจ๋ชัดเจนมันทำแค่ยิ้มบางๆแล้วหันกลับไปเกาคอไอ้ปลาดังเดิมอย่างหมดคำพูด แต่ใครคนนั้นกลับดูอยากได้คำตอบมากมายเหลือเกิน

"ตอบมาก่อนเลยมึง"

ซินลอบถอนหายใจก่อนจะตอบคำถามประหลาดๆนั่นพร้อมๆกับการเงยหน้าสบตาอีกคนด้วยคำตอบอันแปลกประหลาดเช่นเดียวกัน

"แล้วพี่ชอบผมหรือไงล่ะ?"


_________________________________________________________________________________

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2015 16:00:51 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
สนุกมากเลยคะ
มาต่อบ่อยๆนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่า

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เอาแล้วๆ ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
เออเว้ยชักใจอ่อน



รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ซินใจอ่อนแล้วล่ะสิ :z1:
พี่หมอบีมก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ ลองดูๆ (ลองอะไรล่ะ :jul3:)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ซินเริ่มใจอ่อนแล้ว


ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ผิดที่เบอร์รองเท้าใช่ป่าว อิอิ

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ฮาอ่ะ

ใครบางคนเริ่มใจอ่อนแล้วสิเนี่ย ลุ้นๆ  :hao4:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ซินใจอ่อนแล้ว เอ๊ะ รึอ่อนมาตั้งนานแล้วหว่า?

ว่าแต่หมอบีมต้องไปซื้อรองเท้ามาใหม่ใช่ไหมเนี๊ยซินถึงจะยอมรับอะ   :laugh:

 :L2: :กอด1: :pig4: :L2:


ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
คิคิใจอ่อนแล้วววววววววว
หมอแว่นปกป้องซินด้วยอ่า

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
สนุกดีค่ะ แต่เพิ่งมาอ่าน

โอ๊ะ!! พี่หมอแว่นบีมเป็นพวกซึนหรือเนี่ย แต่น่ารักเนอะมีโกรธแทนกันด้วย ซินยอมรับรองเท้าแล้ว แต่ถ้าพี่หมอแว่นจะคืนคงต้องซื้อรองเท้าใหม่อีกคู่แน่ ตอนหลังแอบนอยด์แหะ

พี่หมอแว่นบีมค่ะ เหมือนพี่จะเคะแตกขึ้นทุกที ว่าแต่เรื่องนี้ใครจะกดใครล่ะ  :hao6:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
โอ้  เจ้าชาย ๆ ค่อยสมเป็นเจ้าชายแล้ว ปกป้องนายซินสุดหล่อของเราด้วย เย้ ๆ
แหม๊ แต่มันยังไม่สะใจเลย ยังหมั่นไส้ยัยป้าแอ๊บแบ้วนั่นอยู่อ่ะ มีตาหามีแววไม่
มาว่านายซินสุดเท่ห์ของเราได้ไง ชิชิ  :m16: แต่พี่หมอบีม ตอนนี้น่ารักที่สุดเลย
น่ารักจนให้อภัยปากเสีย ๆ ตอนต้นได้เลยเนี่ย น่ารักจนนายซินของเราใจเริ่มอ่อนแล้ววว :m3:
แต่ปิดท้ายให้มีหวังอย่างนี้ พี่หมอคงไม่ปากเสียทำให้ซินโมโหเหมือนตอนที่แล้วอีกนะ
เจอด่าพ่อเข้าไป เป็นใครก็รับไม่ได้นะพี่หมอ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เหอะ แถมคุณพ่อออกจะน่ารัก
ในเมื่อนายซินให้โอกาสอีกครั้ง ก็ช่วยรักษา ๆ ไว้หน่อยเน้อ คนอ่านอยากฟินเต็มทนแล้วจ้า
เจ้าชายหมอบีม ถึงจะเพี้ยนไปนิด บ้าไปหน่อย ปากเสียมาก ๆ แต่นิสัยไม่ได้เลวร้ายนะเนี่ย
เรียกว่าเป็นพวกแสดงความรู้สึกจริง ๆ ไม่เก่งใช่มั้ย แต่คงไม่ต้องกังวล เพราะนายซิน
ที่แสนอ่อนโยนของเรา ต้องรับรู้ความรู้สึกจริง ๆ พี่หมอได้แน่ ๆ รอลุ้น ๆ
รอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :mew1:

ปล. ชักสนใจพี่ฟ้ากับเอเดนอ่ะ คู่นี้มีอะไร ๆ รึเปล่าน้า

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ลั้นล้าาาา.... รองเท้าแก้วก็ไม่มี แต่หารองเท้าเบอร์46ให้ได้นะ สู้ๆ

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เบอร์ 46 นะหมอ ส่งไปเปลี่ยนก่อนเอามาให้น้องซินดิ  :katai2-1:

ออฟไลน์ dragonassist

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อร็าาาาาาาาาาาาาา

เขินนนน  :ling1:




ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ที่แท้ที่น้องซินไม่รับรองเท้าเพราะว่า....
มันใหญ่เกิดไปใช่ไหม

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน[rewrite#4]
«ตอบ #53 เมื่อ14-11-2013 22:45:01 »

#4 รองเท้าแก้วผิดเบอร์

เขาว่ากันว่าคนที่เงียบมีข้อดีกว่าคนที่พูดคือ คนจำพวกเขานี้มีโอกาสได้คิด สังเกตบรรยากาศรอบข้างและจับความรู้สึกของสิ่งต่างๆได้มากกว่าคนปกติ  จะว่าไปก็คงเหมือนกับสัตว์บางชนิดที่สายตาฟ่าฟางแต่การดมกลิ่นและการได้ยินดีเยี่ยม แม้ซินไม่ได้ลักษณะใกล้เคียงกับตัวสล็อธแต่มันก็พอจะมองปฎิกิริยาของหมอเพี้ยนออกอยู่บ้าง  มันไม่ได้คิดจริงหรอกว่าบีมจะชอบมัน เพียงแต่มันคิดว่าหมอคงกำลังเรียกร้องความสนใจ เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วไม่ยอมขอโทษ แต่กลับอวดเก่ง แล้วใช้วาจาเสียๆกลบเกลื่อนการกระทำ มันเริ่มสังเกตตั้งแต่ที่หมอยืนจังก้าคะยั้นคะยอให้มันรับรองเท้าเพียงคู่เดียว แตะตัวมันอย่างคนรู้จักกันมานาน พร้อมใช้ปากเสียๆแทนคำพูดลื่นหู
เมื่อวานนี้เพียงแค่มันให้คำตอบรวนๆที่ว่า

"แล้วพี่ชอบผมหรือไงล่ะ?"

ปฏิกิริยาแว่นบีมกลับรุนแรงกว่าที่มันคาดไว้มากโข

"พ่อมึงสิ!!!"

นั่นคือคำตอบที่ว่า เอาเป็นว่ามันทำให้นายซินเคืองสุดๆ จะปากเสียด่าหรือทำอะไรมันก็ได้มันยอม ขอแค่อย่างยุ่งกับบุพการีก็พอ   ถ้าถามว่าหมอบีมในสายตาไอ้ซินเป็นอย่างไร จากที่แย่อยู่แล้วตอนนี้ถือว่าติดลบร้อย ในตอนนั้นไอ้ซินกลับมาตีหน้านิ่งตามเดิม แล้วรีบลุกพรวดพราดออกมาจากห้องของคนๆนั้น ก่อนที่ขีดจำกัดจะทะลุ แล้วเผลอประเคนกำปั้นหนักๆลงบนกรอบแว่นเหลี่ยม
คล้อยหลังไปเพียงไม่กี่วินาที ไอ้เพี้ยนสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่อีกคนลุกออกไป กลับมานั่งก้มหน้าก้มตา เอามือสองข้างยีหัวอย่างคนเสียสติ แล้วพึมพำกับเจ้าเหมียวที่ตนสถาปณาเป็นลูก

"ไอ้ปลา...พ่อทำอะไรอยู่กันแน่วะ"

แน่นอนว่าคนที่พอรู้ว่าหมอโรคจิตกำลังทำอะไรอยู่ไม่ใช่ตัวมันเองที่ความรู้สึกช้าอย่างแน่นอน  แต่เป็นเพื่อนโจ้ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดเกือบหกปีต่างหาก หมอโจ้สังเกตว่าเพื่อนของตนเริ่มเพี้ยนมาเมื่อสองเดือนที่แล้ว มันนั่งซึมๆมึนๆมาตั้งแต่วันที่ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน  ตอนแรกโจ้คิดว่ามันคงโดนพี่ยักษ์ซัดสักหมัดสองหมัดเพราะความหมั่นไส้  แต่พอตามหากันเจอกลับพบว่ามันนั่งยิ้มแป้นสบายดีอยู่ข้างลำธาร แต่เป็นยิ้มแหยๆ ราวกับคนที่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น  แต่ก็ตามฟอร์ม  มันไม่เอ่ยคำว่าขอโทษออกมาแต่อย่างใด โจ้ที่ชินกับนิสัยของมันก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปแม้แต่เอ้ที่เห็นว่ามันแสร้งทำตัวสนุกบ้าบอก็คิดเหมือนกันว่ามันคงรู้สึกเสียใจที่เป็นจอมก่อเรื่อง ทำให้พวกเพื่อนที่นานๆว่างมาเที่ยวเสียบรรยากาศจึงไม่ได้คาดคั้นว่ามันไปเจออะไรมาบ้าง พอกลับมาถึงหอก็เห็นมันเป็นเด็กติดคอมฯอยู่เกือบอาทิตย์ พอโจ้ลองถาม มันก็บอกแค่ว่ากำลังดูรองเท้า หลังจากนั้นไม่ถึงเดือนก็มีพัสดุสินค้ายี่ห้อหนึ่งมาจากต่างประเทศ โจ้ที่เป็นผู้เซ็นต์รับในตอนนั้นแอบฉงนกับราคาสินค้าที่มากเกินควรแต่ดูเหมือนเพื่อนมันจะดีใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นสินค้าชิ้นนั้น แต่หมอโจ้กลับไม่เคยเห็นมันใส่รองเท้าคู่ที่ว่าเลย

"กูไปหาอาจารย์นะ"

หมอเพี้ยนยิ้มร่า ก่อนจะคว้าถุงผ้าที่อิมพอร์ตมาจากนอกพลางฮัมเพลงอย่างคนอารมณ์ดีแล้วเดินออกจากห้องคล้ายคนเสียสติ  ช่วงหลังเขาเห็นมันกระตือรือร้นกับการตื่นโคตรเช้าแล้วหิ้วถุงรองเท้าแพงหูฉี่เพื่อไปทำอะไรบางอย่าง แต่โจ้ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปตามเคย ยกเว้นแต่ที่เขาได้ยินมันคุยโทรศัพท์กับใครซักคนในทำนองว่า ‘ของที่มันฝากเอาไปให้...อีกคนรับแล้วหรือยัง’ และหน้ามันจะจ๋อยทุกครั้งที่วางสายไป แค่นั้นหมอโจ้ก็รู้แล้วว่ามันกำลัง ‘ขอโทษ’ ใครซักคนในแบบของมันอยู่ และได้แต่หวังว่าเขาคนนั้นจะเห็นในความพยายามบ้าๆของมัน

              วันเสาร์แห่งชาติแต่ไอ้ซินพึ่งเรียนเสร็จตอนเที่ยงแวะมาหาพี่ฟ้ากับเอเดนที่นัดไว้ตอนบ่ายพร้อมกับลากไอ้ออมมาด้วย เหตุเพราะดนตรีเพลงใหม่ของวงที่จะเอาไปเล่นเปิดตัวที่งานเทศกาลดนตรีแถบยุโรปเสร็จแล้ว สถานที่ไม่ใช่ที่อื่นไกลแต่เป็นตลาดนัดที่ร้อนเป็นอันดับหนึ่งของโลก นั่นเป็นคำบอกเล่าจากไอ้ออม เอาใหม่...ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจตุจักรนั่นเอง เหตุที่ต้องลากไอ้ออมมามันมีเหตุผลอยู่
"เหวอ...กลองพี่เปิดแฉจนเหมือนร็อคญี่ปุ่นเลยแม่งไม่เข้ากับไลน์กีตาร์ของเอเดนว่ะพี่"
แค่พี่มือกลองให้ฟังดนตรีแค่ท่อนแรก ผู้เสพดนตรีตั้งแต่เคป๊อปขาสวยยันเมทัลใต้ดินอย่างไอ้ออมก็เริ่มองค์ลง เขาเรียกว่าเอามันมาวิจารณ์ในฐานะผู้บริโภค ไอ้พี่ฟ้าที่ช่วงนี้แอบเสพวงร็อคญี่ปุ่นอย่างบ้าคลั่ง เกาคอแก้เก้อเพราะน้องมันดันรู้ทัน พวกศิลปินมักชอบใส่อารมณ์ตัวเองลงในงานเสมอ ถ้าเป็นงานเดี่ยวคงไม่แปลกแต่นี่มันหมายถึงหน้าตาและทิศทางของวงด้วย

"กีตาร์เอเดนผมว่ามันเก่าไป เหมือนพวกกีตาร์ฮีโร่ยุค 90"

เป็นฝรั่งหัวทองที่นั่งสลดอีกราย และอะไรอีกมากมายที่อ้วนออมพูดและติติงจนชักจะมีความรู้เกินการเป็นตัวละครในนิยายปรัมปราเสียแล้ว

"เป็นไรวะ"

เป็นฟ้าที่ทักเมื่อเห็นว่านายซินนั่งนิ่งๆเหมือนคนสติหลุดมาตั้งแต่ต้น

"เปล่าพี่"

คำปฏิเสธอันเรียบเฉยของมันใช้ได้กับทุกคนยกเว้นพ่อมัน และท่านหัวหน้าวงคนนี้

"บอกกูมาเลย ไม่อย่างนั้นมึงอย่าหวังว่ามึงจะได้เห็นเนื้อเพลงใหม่"

"เฮ้ย เสร็จแล้วเหรอ?"

ปลายประโยคมันหันไปถามฝรั่งรุ่นน้องสุดในวง ผู้ที่รับหน้าที่เป็นคนเขียนคำร้อง

“ครับ”

ฝรั่งหัวทองตอบรับด้วยคำควบกล้ำชัดเจน

“ทีนี้ก็บอกกูมา ว่ามีเรื่องอะไร”

“เบื่อๆครับพี่...ผมหมายถึงเบื่อคน”

กว่าจะตอบปลายประโยคได้ก็ต้องเจอสายตากดดันจากท่านหัวหน้าวงก่อน

"มึงก็อย่าไปยุ่งกับเขาสิ ถ้าจะแย่ขนาดนั้น"

"แต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่นิสันดานหรอก แค่การแสดงออกแย่ๆ"

ซินตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับถอนหายใจ

"มีปกป้องด้วย มึงหมายถึงใครวะ...นี่มึงมีแฟนแล้วเหรอ?"

"เขาตามจีบไอ้ซินอยู่พี่"

อ้วนออมแทรกขึ้นมา ทำเอาเอเดนที่นั่งเงียบๆอยู่ถึงกับหูผึ่งเอาจริงๆคือแอบพนันกับไอ้พี่ฟ้าไว้ว่า ผู้ชายอย่างไอ้ซินจะขึ้นคานหรือมีคนสอยลงเพราะทั้งคู่นึกภาพไม่ออกว่านายซินมันจะไปจีบคนอื่นก่อนยังไง

"มึงก็พูดไป"

ไอ้ซินบอกปัดก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะกลัวงานงอก พอเจ้าของหัวข้อลุกจากวงสนทนาไปไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เอเดนที่พึ่งเรียนพุทธศาสนสุภาษิตมาให้คำจำกัดความของสถานการณ์นี้ว่า 'ผู้ที่ไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก'

"ไอ้ซินมันเป็นอะไรของมันวะ"

เขาเรียกคำพูดนี้ว่าการโปรยหัวเรื่อง

"คนที่ตามตื้อแม่งเป็นคนเดียวกับในรูปด้วยนะพี่"

แต่ไอ้ออมไม่เล่นตามแผนมันขายความลับเพื่อนแบบง่ายๆแบบไม่ต้องเกริ่นแม้แต่น้อย

"น่ารักไหม"

และผู้ที่พนันว่าซินจะโดยสอยลงจากคานอย่างเอเดน ก็ถามอย่างไม่อ้อมค้อมเช่นกัน

"สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ก็...น่ารักดีนะ"

แว่นอ้วนหมายถึงหน้าตาหมอบีมสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่คงมองว่าน่ารักมากกว่าหล่อ ไม่ได้หมายความว่าหมอบีมน่ารักกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่อย่างที่ไอ้นักร้องของวงเข้าใจ

“แต่ผมไม่เข้าใจก็คนในรูปมัน...ช่างมันเถอะ”

อ้วนออมจะพูดต่อว่าเป็นผู้ชายแต่กลัวว่าความลับที่มันกุมไว้คนเดียวจะรั่วไหล มันดูดน้ำมะพร้าวไปด้วยทำหน้ากระหยิ่มอย่างผู้กำความลับทั้งหมดของเพื่อนรักไปด้วย ไอ้พี่ฟ้ามองดูกริยานั้นด้วยความระอาถ้านับข้อมูลที่ออมให้มาว่าคนในรูปมาตื้อนายซินมือเบสของวง คนที่กำความลับทั้งหมดของตัวเอกของนิยายเรื่องนี้ไม่ใช่มหาดเล็กแต่เป็นนางฟ้าหรือไอ้ฟ้าหัวหน้าวงคนนี้ต่างหาก! ไอ้ออมไม่ต้องเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยซ้ำว่าคนที่ไอ้ซินมันกอดจนจมอกลักษณะเป็นเช่นไร ไอ้ฟ้าก็พนันได้ว่าเป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็น เพราะสิ่งที่อ้วนแว่นไม่เข้าใจไอ้มือกลองอย่างไอ้พี่ฟ้าเข้าใจแจ่มแจ้ง  คงเพราะ...พี่ฟ้ากับไอ้ซินมันเป็นพวกรสนิยมเดียวกันละมั้ง ผีย่อมเห็นผีโว้ย! เอเดนผู้เอาหนังยางมัดจุดผมตรงหน้าผากอย่างน่ารักส่ายหัวอย่างเหนื่อใจให้กับไอ้บ้าทั้งสองที่ทำหน้าตาของผู้เหนือกว่าราวกับคนบ้าเพราะอากาศร้อนเป็นเหตุ

           หมอเพี้ยนที่มีความเชื่อว่าความบังเอิญไม่มีในโลกกำลังคิดว่าจะทำยังไงดีให้อีกคนเห็นว่าเป็นความบังเอิญ ในเมื่อมันก็กำลังมายืนร้อนเหงื่อหยดติ๋งอยู่ที่ตลาดนัดที่โคตรร้อนเหมือนกัน ไอ้หมอโรคจิตได้แต่ท่องให้ขึ้นใจว่า ‘กูมาซื้อหญ้าขนให้ไอ้ปลาและหลานทั้งหลาย ไม่ได้มาทำอะไรเลย’ เมื่อเช้าหมอที่พึ่งรู้ว่าตัวเองมีวันหยุดในรอบสองเดือนต่อสายถึงไอ้ออมแต่เช้าเพื่อดูลาดเลา ได้ความว่าวันนี้มีเรียนแลปแล้วตอนบ่ายจะแวะไปจตุจักร อ้วนออมที่พอรู้อยู่แล้วว่าแผนมหาดเล็กของพี่แกล่มไม่เป็นท่าได้แต่สงสัยว่าไอ้รุ่นพี่บ้ามันจะทำอย่างไรต่อไป รุ่นพี่ที่ว่าทำเสียงเนือยๆก่อนจะบอกว่า ‘กูก็จะไปซื้อหญ้าออแกนิกให้ลูกกูเหมือนกัน’ แม้ไอ้รุ่นพี่จะเหลือบไปเห็นถุงหญ้าขนาดยักษ์ที่มีอยู่ก็ตามมันใหญ่ขนาดถ้าปลูกหมดถุงไอ้ปลากับลูกคงมีทุ่งสะวันน่าส่วนตัวไว้วิ่งเล่นเลยทีเดียว อ้วนออมที่กำลังจะสถาปนาตนเป็นทาสแมวพอรู้ว่าหมอเพี้ยนเลี้ยงเจ้าเหมียวอยู่ก็ขอฝากตัวเป็นศิษย์ทันที นั่นเป็นเหตุว่าทำไมแว่นออมและแว่นบีมคุยกันได้เรื่อยๆแม้จะไม่ใช่เรื่องพ่อคนดังอย่างไอ้ซินก็ตาม

แม้ตลาดที่นี่จะใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกแต่หมอบีมเมื่อวัยมัธยมมันเป็นเจ้าถิ่นเดินมันทุกอาทิตย์...เดินแม่นยิ่งกว่าแผนที่ตรงประชาสัมพันธ์เสียอีก ฉะนั้นไอ้การจะหาร้านที่นั่งเต๊ะจุ๊ยคุยงานได้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งคู่ปรับมันพร้อมพรรคพวกเป็นพวกที่เป็นที่จับจ้องของเหล่าวัยรุ่นอยู่แล้วเรื่องอย่างนี้หมูมาก หมอที่เดินลับๆล่อที่ร้านตรงข้ามร้านของเป้าหมายมาร่วมครึ่งชั่วโมง พอเห็นว่านายซินลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปอีกทางหมอก็สาวเท้าตามทันที แต่ดูเหมือนไม่ใช่หมอคนเดียวที่เดินตามพ่อคนดัง เพราะบีมแว่นแอบเห็นว่ามีวัยรุ่นหลายๆคนก็สาวเท้าตามไอ้ซินเช่นกันแต่ไม่มีใครกล้าเรียกมือเบสที่โคตรเท่ห์สักคน ด้วยเพราะวันนี้หน้านิ่งๆของนายซินแผ่รังสีความไม่เป็นมิตรออกมา ต้นเหตุก็เพราะไว้แว่นตัวขาวที่เดินต่อส้นตามหลังเยี่ยงแฟนคลับตัวยงนั่นแหละ เอ็งเดินใกล้เกินไปไหมบีมห่างไม่ถึงเมตรด้วยซ้ำ   

“มีอะไร”

นายซินเบรกกะทันหันพร้อมๆกับการหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับไอ้เพี้ยนน่ารำคาญ ทำให้ไอ้รุ่นพี่บ้าที่เบรกไม่ทันเอาหน้าผากแนบกับคางอีกคนดัง ‘ป๊อก!!!’โอย...อายแทนเอ็งว่ะหมอ หมอก้มหน้าชิดอกเอามือลูบหัวตัวเองป้อยๆ เจ็บที่หัวแต่แดงลามไปทั่วหน้าและหูเลยทีเดียว

“มาทำอะไร”

ไอ้ซินถามอีกคนอย่างเวทนาในอาการ

“มาซื้อหญ้าให้ไอ้ปลา บะ...บังเอิญจังนะ”

โถ...หมดคำพูดเลยหมอ

“พี่ตามผมมาทำไม”

เสียงไอ้ซินเย็นฉียบราวกับน้ำแข็งที่เทือกเขาอาร์กติค ทำเอาหลายๆคนที่แอบๆเนียนเดินตามสะดุ้งกันเป็นแถว มือแสร้งจับเสื้อผ้าที่ขายอยู่ที่ร้านใกล้ๆอย่างสนใจแต่หูผึ่งรอฟังพี่ซินสุดเท่ห์ดราม่ากับแฟนคลับแว่น โดยหารู้ไม่ว่าไอ้แว่นเป็นมากกว่านั้น...เป็นคนที่ไอ้ซินมันเบื่อขี้หน้ายังไงล่ะ

“กูมาซื้อของให้ไอ้ปลา แล้วเห็นว่ามึงเดินอยู่เลยตามมา”

ไอ้เพี้ยนไม่กล้าบอกแน่ๆว่า ‘กูเป็นสโตรกเกอร์ตามมึงมาตั้งนานแล้ว’

“แล้ว? ”

“แล้วก็เอารองเท้ามาให้ด้วย”

บังเอิญมากเอ็ง...เอารองเท้ามาด้วยเนี่ยนะ

“พี่กำลังทำอะไรอยู่!?”

นั่นเป็นคำถามที่หมอถามตัวเองมาเกือบสองเดือนแล้วเหมือนกัน แม้มันจะเพี้ยน ความรู้สึกช้าหรืออะไรก็ตามแต่ที่มันมาตามอยู่ทุกวี่ทุกวันมันแค่หวังให้คนตรงหน้าคุยกับมันดีๆ เหมือนกับว่ามันเป็นคนๆนึงที่ได้รับการยกโทษจากความผิดในวันนั้นแล้ว ไม่ต้องพูดดีกับมันก็ได้แค่อย่ามองมันนิ่งๆแล้วทำเสียงเย็นยะเยือกแบบไม่พอใจตลอดเวลาก็พอ  แต่ก็โทษใครไม่ได้เพราะหมอก็รู้ตัวดีว่ามันทำตัวไม่ดีเองแต่ถ้าจะให้พูดว่า ‘เพื่อขอให้มึงยกโทษให้ยังไงล่ะ’ หรือ ‘ขอโทษนะ’ ไอ้เพี้ยนมันก็ขอบายดีกว่าบางทีอีโก้ที่สูงเกินไปก็ทำให้ตัวหมอบีมเองปวดตับอยู่เหมือนกัน

"อะไรคะลูก?"

ขอบคุณท่านป้าปากแดงใส่มินิสเกิร์ต ที่ดึงสติไอ้แว่นเพี้ยนขึ้นมาจากความหม่นหมอง 

"หนูอยากถ่ายรูปกับพี่ซิน"

เป็นเด็กสาวที่จูงกึ่งลากแม่ตัวเองเข้ามาในวงสนทนาของหนุ่มทั้งสอง

"ใครคะ"

"นักดนตรีค่ะ"

ป้าชายตามองมายังคนทั้งคู่ที่ดูท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับสถานการณ์ตรงหน้า

“คนไหนคะ”

เธอถามลูกสาวพลางจ้องมายังหนุ่มแว่นพลางยิ้มหวาน  ลูกสาวเธอทำท่าเอียงอายก่อนจะชี้นิ้วเรียวสวยมาที่อีกคนข้างๆหมอเพี้ยนฉับพลันดวงหน้าและแววตาคนเป็นแม่ก็เปลี่ยนไปในทันที ไอ้เพี้ยนรู้สึกว่าตัวเองมุมปากกระตุกเล็กน้อย

"เนี่ยนะนักดนตรี เด็กสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด ทำตัวตามค่านิยมผิดๆหน้าตาก็ดีแต่สักอะไรเยอะแยะ เจาะปากเจาะคิ้วอย่างกับพวกกุ๊ยติดยา"
หมอหันมองคนข้างๆที่หน้าซีดเผือดและกำหมัดอย่างกำลังอดทน...เหมือนที่ทนไอ้หมอบ้าเองมาโดยตลอด แต่หมอบ้าไม่เคยทนครับ!

"แล้วป้าล่ะครับ แก่แล้วแต่งตัวอย่างกับเด็กม.ต้น นั่นปากทาอุทัยทิพย์หรือกินเลือดสดมา"

พอพูดจบไอ้บ้าก็ลากแขนอีกคนออกมาอย่างไม่รอฟังคำปรามาสต่อ คนที่โกรธจนตาแดงก่ำไม่ใช่คนที่โดนว่าแต่เป็นอีกคนที่ยืนจับแขนไอ้ซินไว้แน่น หลายคนที่อยู่บริเวณนั้นจับจ้องมายังพวกมันที่ยืนอยู่ในตรอกขายเสื้อผ้าแคบๆ จนกลายเป็นเหมือนไทยมุงขนาดย่อม

"พี่..."

ซินเรียกเบาๆ เพราะเห็นว่าอีกคนกำลังปรับระดับการหายใจให้เป็นปกติอยู่

"ลืมไป...ไม่ชอบนี่นะ"

อีกคนว่าพร้อมกับปล่อยแขนไอ้ซินที่ตนยืนบีบมาตั้งนาน ก่อนจะสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เอามือขวาถอดแว่นทรงเหลี่ยมออกแล้วใช้อีกมือขยี้ตากลมๆอย่างไม่กลัวว่ามันจะช้ำ หมอเพี้ยนก้มหน้าก้มตาเอ่ยคำบางคำออกมาอย่างเบาหวิวก่อนที่จะเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

"ไม่มากวนอีกแล้วล่ะ"

บีมเดินก้มหน้าก้มตาแหวกฝูงชนออกมา เขารู้สึกปวดหนึบตรงอกโชคดีที่เรียนหมอมามันถึงไม่ได้เพี้ยนพอที่จะคิดว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ มันคิดว่านี่เหมือนกับตอนอกหักมากกว่า

"เดี๋ยว!"

สิ่งที่มาพร้อมกับเสียงคือมือหนาที่คว้าไหล่เขาไว้หมอไม่กล้าหันไปมองเพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร เสียงทุ้มติดเย็นชาเมื่อมากระซิบอยู่ข้างๆใบหู กลับฟังดูอบอุ่นเสียจนดวงหน้ามันร้อนขึ้นมาเฉยๆ

"ถ้าคราวหน้าจะเอารองเท้ามาคืน ผมไม่เคยบอกพี่เหรอว่าผมใส่เบอร์ 46"

_____________________________________________________________________________________

TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2015 16:07:32 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
ในที่สุดก็มีเวลา
อยากตอบคอมเมนท์มากที่สุดครับ แฮ่  :hao6:


________________________________________________________

@วัวพันปี
ผมเห็นดิสเพลย์คุณเมานมอยู่นะ........หลอกกันไม่ได้ผลหรอก :hao3:

@Lonelyนู๋โรนลี่
ถ้าคุณใส่รองเท้าที่ยาวอย่างเรือเยี่ยงนั้นได้ ผมก็จะส่งให้ เอาที่อยู่มา #ผิด

@Palmpalm
ขอบคุณที่อุตสาห์ชอบมันครับ

@QueenPedGabGab
กีซซซซซซซซ มาต่อแล้วนะมาอ่านเลย (บังคับ 555)

@melody
น่ารักกับเกรียนนี่มันเหมือนกันไหมครับ  :hao4:

@MJirawan
ขอบคุณที่ชอบครับ  ตามมาเสพดราม่าต่อเลย.... :hao7:

@pipraely
คุณต้องแอบเป็นสาวถึกเหมือนเจ๊เอ๋แน่ๆ o22
ขอบคุณที่อ่านมันฮะ

@ReiSei
รวบกอดแฟนคลับคนใหม่  :กอด1:

@phana_qbz
ขอบคุณมากฮะ

@maemix
ขอบคุณมากๆครับ ซาบซึ้ง  :hao5: :hao5:

@fannan
ใจอ่อนตรงหนาย......มันแค่สงสารหรอก :hao3:

@BeeRY
หมอมันแย่กว่าที่คุณคิด จริงจริ๊งงงง (เสียงสูง)

@Palmpalm
ผิดที่ไอ้บีมเป็นคนให้นั่นแหละ....... :mew5:

@nevergoodbye
คุณรู้ได้ไงว่าผมปั่นขนาดนั้น - -  :katai4: :katai4:

@greenapple
ฮากับปัญญาอ่อนมันคล้ายๆกันนะว่ามั้ย  :ruready

@kongxinya
มันสมเพชในความพยายามต่างหาก   :laugh:

@quiicheh.
เง้อ......ในที่สุดก็เห็นความดีของหมอสินะ
หมอมันปกป้องเต็มกำลังปากมันเลยหล่ะ

@De_cimo
ซึน <---- เป็นคำที่ผมไม่พิมพ์แต่พยายามสื่อมาโดยตลอด :laugh:
เคะ <---- ใครจะไปรู้....บางทีซินมันอาจจะให้กดก็ได้

@TIKA_n
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ผมตอบแทนสุดยอดคอมเมนท์ของคุณด้วยอะไรไปมากกว่าคำขอบคุณไม่ได้เลย
ซาบซึ้งจริงจัง
(เปล่ากวนตีนด้วยอีโมจริงๆนะ  :hao5:)

@spy4869
บางทีซินมันก็เรื่องมาก กะอีแค่รองเท้า เบอร์อะไรก็ใส่ๆไปเถอะ!? :เฮ้อ:

@cattydoggy
ขอบคุณค้าบบบบ :pig4: :pig4: :pig4:

@route rover
ติงหรือเรือก็ไม่รู้ โคตรยาว 555

@dragonassist
อ้ากกกกกกกก ดีใจมีคนเขิน :o8:

@bun
ไม่รับเพราะรำคาญมากกว่าฮะ  :เฮ้อ:

@The prince
ซินโดนด่าว่ากุ๊ยเรารับมิได้  แต่หมอโดนด่าว่ากุ๊ยนี่แม่มสะใจดีจริงๆ :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2013 23:20:21 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
อ่านตอนพิเศษแล้ว... แล้วคิดในใจว่าจะเศร้าไหมเนี่ย!!

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
แง่งงงงงงงงงงงง ค้างมากค่ะ

ตอนนี้ต่อภาคพิเศษก่อนได้มั้ยค่ะ ส่วนภาคปกติขอถัดไปอีกที
อ่านตอนนี้แล้วสงสารหมอสุดพลัง เป็นภาวะยื้อแล้วหลอกตัวเองไม่ยอมเผชิญหน้าความจริงที่กดดันมาก
สะเทือนใจแต่ก็สะใจคนอ่านมาก

ออฟไลน์ mira

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เอ่อ ปลา นี่ตัวผู้หรือตัวเมียคะ ? ตอนที่ 3 เข้าใจว่า ปลาคลอดลูกแมวนะคะ  แต่ตอนพิเศษ ปลากลายเป็นลูกชายของบีม แล้วบีมเป็นปู่ของฉลามซึ่งเป็นลูกปลา ซะงั้น  ถ้าปลาเป็นตัวเมีย ควรเป็นลูกสาวแล้ว บีมเป็นตาของฉลามนะคะ   แต่ถ้าปลาเป็นตัวผู้ ตอนที่ 3 ก็ควรจะกล่าวถึง
แฟนของปลาซักหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ชอบตอนพิเศษ มาต่อให้จบนะ อย่าปล่อยค้าง กำลังอิน
ทั้งสองคนต่างเดินตามความฝัน เวลาทำให้คนสองคนต้องห่างกัน
แต่ใจไม่ห่าง ถ้าได้กลับมาอยู่ด้วยกันคงดี

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อ่า ช่างเป็นตอนพิเศษที่  :ling1:

มาต่อไวๆนะมันค้างมากอะ ซินนนนนนนนนนน  :m16:

 :L2: :กอด1: :pig4: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด