||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน [ประกาศรวมเล่ม หน้า 23 :D]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน [ประกาศรวมเล่ม หน้า 23 :D]  (อ่าน 365453 ครั้ง)

ออฟไลน์ mikaza

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ติด!!!!!ติดเรื่องนี้งอมแงม ถ้าจะน่ารักแบบนี้นะหมอ ยืมมาเล่นที่บ้านหน่อยดิ
(โดน ซินตบ!!!!)

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
หมอบีมเขินแล้วเถื่อนอ่ะ...ชอบ

 :o8:

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
แย่ หมอกับซินเป็นแฟนกันแล้วววววว
สนใจเอเดนฟ้าเป็นอย่างมาก อยากอ่านจริงๆเลย
ส่วนอีกคู่เราไม่ได้เมนไว้เลย...//ประมาณไม่ได้อยู่ในสายตา//หนีย์


หนีไปไหน กลับมานี่!!!    //กอดขาแล้วร่ำไห้   :dont2:

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ยิ่งอ่านยิ่งติด ตอนนี้จากที่เพื่อนไม่ติดนิยายวาย  ทำให้มันติดนิยายวายได้เพราะเรื่องนี้ 555555 สะใจ!
 :a2:
ชอบหมอตอนเถื่อนๆจัง เท่ห์สลัด!! :-[

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ดีใจเป็นแฟนกันแล้ว

ฮาเอเดน กวนพี่ฟ้าได้โล่อ่ะ


ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เจ้าหญิงๆๆๆ 555
ชอบ เอเดน อ่าาา น่ารักจัง ^^

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
พี่หมอบีม โมโหทีน่ากลัวจริง ซินสุดหล่อของเราน่วมไปหมดแล้ว  :mew4:
แต่แลกกับการได้แฟนเป็นคุณหมอเพี้ยน ๆ แต่น่ารักมาทั้งคน มันก็คุ้มเกินคุ้มเนอะซินเนอะ อิอิ
อย่างนี้สิถึงจะน่ารัก คิดอะไร รู้สึกยังไง ก็พูดออกไปตรง ๆ ชอบก็บอกว่าชอบ อยากเป็นแฟนก็ขอคบ ก็แค่เนี้ย
พออารมณ์เย็นลง ก็เริ่มรู้สึกผิดสินะพี่หมอบีม ทำที่รักซะเยินขนาดนั้น คราวหลังก็ยั้ง ๆ มือบ้างนะจ้ะพี่หมอ
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ววววว :m1: เรียกชื่อกันเพราะ ๆ นี่น่ารักจังเลย แต่จะให้พี่หมอโจ้เรียกคุณแฟนว่าเจ้าหญิงจริงอ่ะ  :laugh:

พี่ฟ้า เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับไอ่เจ้าบิ๊กซะทีน้า ไม่เห็นความน่ารักของเอเดนซะบ้างเลย ระวังเหอะจะเสียใจ
เอเดน น่ารักจัง ยิ่งเวลาพูดไทยแบบเพี้ยน ๆ เนี่ย แถมยังอุตส่าห์ต่อท้ายด้วย จุงเบย อีกนะ  :pigha2:
แล้วท้าทายพี่ฟ้าไปเนี่ย จะทำอะไรพี่ฟ้า จะจับพี่ฟ้ากดเหรอจ้ะเอเดน อิอิ แต่จริง ๆ นะ คู่นี้ อ่านไปอ่านมา
ทำไมรู้สึกตะหงิด ๆ เหมือนพี่ฟ้าจะถูกเอเดนจับกดเข้าซักวันยังไงไม่รู้ (รึเราเพ้อเจ้อไปเอง)

รอตอนต่อไปจ้า ค่อยยังชั่วหน่อย คิดว่าสิบห้าตอนจะจบซะแล้ว อย่างนี้ ขอคู่รักคู่เพี้ยน เจ้าชายบีมกับเจ้าหญิงซิน
มาปล่อยความหวานโชว์เยอะ ๆ หน่อยน้า ลุ้นเอเดนน้อยจับพี่ฟ้ากดด้วย ฮุฮุ  แล้วก็ที่รอคอย พายโจ้ โจ้พาย
จะมาแบบไหน จะลงเอยกันได้ยังไงน้อ ท่าจะมันส์นะเนี่ย รอติดตามจ้า
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L1:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
คิดถึง o18
จะจบแร๊วววว
อย่าแกล้งกันน้าาาาาา :z2:
รออยู่
 :L2: :L2: :L2:
 :pig4:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เรื่องนี้น่ารักดีมาขออ่านด้วยคนล

รอตอนต่อไปจ๊ะ

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
เข้ามาติดตามจ้า เพราะคำว่า Hardcore Cinderella จริง ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
รอซินกับเจ้าชายอยู่นะ
 :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน[rewrite#15]
«ตอบ #311 เมื่อ19-12-2013 23:03:41 »

#15 เหนื่อย

 “ใจนะโจ้”

หมอหันไปขอบคุณเพื่อนที่เป็นธุระมาส่งให้แม้จะรู้ว่าจริงๆแล้วเพื่อนมันไม่ได้มาส่งฟรีๆ ที่โจ้ต้องลำบากลำบนมาส่งก็เพราะแว่นย้ายกลับมาอยู่บ้านได้เกือบเดือนแล้วด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่มันเองก็รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นเพราะอะไร

“ไร้สาระ กูจะมากินข้าวฟรี”

แว่นส่ายหน้าให้กับความงกของเพื่อนแต่ก็ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงออกไปตามวิสัยปกติ ซึ่งโจ้ก็รู้เหตุผลที่เพื่อนตัวเองเป็นแบบนี้ดี มันเดินตามเพื่อนแว่นเข้าไปในบ้านเจอคุณนายแม่กำลังง่วนกับการจัดโต๊ะพร้อมกับใครสองคนที่มันไม่เคยเห็นหน้า หนึ่งในนั่นหน้าตาเหมือนไอ้แว่นเพื่อนตนไม่มีผิด ถ้าให้เดานี่คงเป็นพ่อกับน้องชายที่โจ้เคยได้ยินไอ้บีมเล่าให้ฟังแค่ครั้งเดียวตอนที่เมาหนักตั้งแต่หลายปีที่แล้ว ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่โจ้เห็นเพื่อนตัวเองร้องไห้...

“อ้าวโจ้ มากับบีมเหรอลูก”

แม่เอ่ยทักเมื่อเห็นแขกที่ไม่ได้เห็นมานาน

“สวัสดีครับ”

“จ้า นั่นพ่อกับน้องเบสท์”

เธอแนะนำชายอีกสองคนที่นั่งอยู่ก่อนให้เพื่อนของลูกชาย โจ้พยักหน้ารับและหันไปไหว้ตามมารยาทที่ควรทำ

“สวัสดีครับ”

สองคนนั้นมองมันอย่างกำลังพิจารณา โดยเฉพาะคนเป็นพ่อเรียกได้ว่ามองตั้งแต่หัวจรดตีน เหมือนชายแก่กำลังจะพุดอะไรบางอย่างออกมาแต่โชคดีที่คนเป็นแม่แนะนำตัวเขาให้ก่อน

“เพื่อนที่คณะค่ะคุณ คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง”

พ่อคนนั้นนิ่งไปอีกพักเดียวก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆออกมาได้อย่างกำลังพึงใจอะไรสักอย่างพลางเอ่ยบางคำออกมา

“ลูกคุณไพศาลสินะ”

ถ้าโจ้จำไม่ผิดนั่นชื่อพ่อมันเองนี่หว่า ปกติเรียกแต่ป๊า...สมองมันเลยรวนไปนิดหน่อย

“อ่า...ครับ”

“เรียนจบแล้วจะไปรับช่วงต่อโรงพยาบาลที่บ้านเลยไหมเรา”

เพื่อนโจ้นิ่งไปอีกพักใหญ่ มันกำลังคิดว่า...ลุงคนนี้น่ากลัวเป็นบ้า

“ครับ”

“ให้มันได้แบนี้สิ ได้ดั่งใจจริงๆ”

คนเป็นพ่อปรายตาไปหาลูกชายคนโตที่กำลังรินน้ำใส่แก้ว น้องเบสท์พอจะรู้ว่าจริงๆแล้วพ่อก็แค่อยากเริ่มบทสนทนาด้วย ไม่ได้ตั้งใจประชดประชันแต่อย่างใด ส่วนไอ้โจ้กำลังประเมินพฤติกรรมของพ่อลูกคู่นี้อยู่ในใจ

“มากินข้าวกันก่อน”

คนเป็นแม่เรียกเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มจะแย่ลง ตลอดเกือบเดือนที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลยที่สองพ่อลูกจะคุยกันดีๆอย่างที่เธอหวังมาตลอด หรือบางทีเธออาจจะหวังมากไปก็ได้...

“ผมไม่หิวครับ”

แว่นตอบปัดพลางยกแก้วน้ำของตัวเองไปเก็บ น้ำเสียงมันราบเรียบอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

“บีม...”

แม่เรียกเสียงอ่อยเมื่อมองเห็นแผ่นหลังที่เล็กลงทุกวัน ใบหน้าที่เคยสดใสดูไม่เหมือนเคย เธอกำลังให้เหตุผลว่าเพราะช่วงนี้เป็นช่วงสอบและใกล้จบ แต่จริงๆแล้วเธอรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร...และทุกๆคน ณ.ที่นี้ก็รู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร

“ขอโทษครับแม่ ผมเหนื่อยมากจริงๆ”

แว่นรวบหนังสือที่วางไว้บนโต๊ะก่อนจะไหว้แม่อีกครั้งแล้วเดินขึ้นไปข้างบน เหมือนพ่อและแม่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เป็นโจ้ที่พูดออกมาก่อน

“มันเข้าเวรมาสองคืนครับ เมื่อกี้ในรถผมให้มันกินแซนวิชมาแล้วให้มันไปพักก่อนดีกว่า”

คนพูดหันมายิ้มกว้างให้ชายแก่หน้าดุ เรื่องเข้าหน้ากับผู้ใหญ่ไฮโซเป็นเรื่องถนัดไอ้โจ้อยู่แล้ว มันนี่เซียนตั้งแต่เด็กเรื่องตีสองหน้าเข้างานสังคมอะไรนี่

“บีมมันเป็นยังไงบ้างโจ้”

แม่เริ่มบทสนทนาเมื่อทุกคนยกเว้นลูกชายของตนพร้อมหน้าอยู่บนโต๊ะอาหาร เป็นโต๊ะอาหารที่มีแต่ของโปรดลูกชายเธอเอง คนถูกถามตักนู่นนี่วุ่นวายแต่ก็ตอบไปด้วย

“ถ้าเมื่อก่อนก็มีความสุขดี แต่ตอนนี้ผมว่าไม่ แม่พอจะรู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น?”

มันตอบด้วยท่าทางสบายๆแล้วหันไปหาพ่อที แม่ที น้องชายของแว่นทีเหมือนอยากรู้เหตุผลเสียเต็มประดา

“ฉันมีเรื่องจะถามเธอ”

ในที่สุดคนเป็นพ่อก็เริ่มพูดอะไรออกมา โจ้ซดน้ำซุปกระดูกหมูพลางตั้งใจฟังไปด้วย...ท่าทางมันน่าหมั่นไส้จริงๆนะ

“ครับ?”

“เธอรู้เรื่องสองคนนั้นไหม”

หมอโจ้ทำท่าคิดอยู่สักพักทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก

“พอรู้ครับ”

ความจริงโจ้น่าจะพูดว่ารู้ดีเลยน่าจะเหมาะกว่า มันนี่แหละเป็นคนยุให้แว่นจีบไอ้น้องซินเอง

“เธอเป็นเพื่อนกันยังไงถึงปล่อยให้เพื่อนกลายเป็นแบบนั้น”

เพื่อนโจ้ลอบยิ้มในใจเพราะคำถามที่ได้รับมาไม่ต่างจากที่คิดไว้เลย ดีที่มันลองคิดคำตอบไว้ก่อนหน้านี้แล้ว มันเงยหน้ามองพ่อของเพื่อนให้เต็มตาก่อนจะเริ่มตอบด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ

“ตอนแรกผมไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่บีมมันไม่ค่อยดูแลตัวเอง ทำงานไม่ค่อยพัก กินแต่อาหารแช่แข็ง อืม...”

หมอทำท่าเหมือนนึกอยู่หน่อยเพื่อดูปฏิกิริยาของครอบครัวไอ้เพื่อนยาก แล้วค่อยพูดต่อ

“ขี้ใจร้อน เหมือนคนเก็บกดอะไรไว้ตลอดเวลาดูล้นๆ แต่พอมีน้องคนนั้นเหมือนมันเปลี่ยนไปเยอะครับ ผมเห็นมันมีความสุขก็เลยไม่ได้ห้ามอะไร”

พูดเสร็จโจ้ก็ตักข้าวเข้าปากราวกับเรื่องทุกอย่างมันปกติและสามารถทำได้ง่ายดาย เพียงแต่พ่อผู้นั้นกลับดูหัวเสียขึ้นมานิดหน่อย มันต้องพยายามตอบให้ดูไม่เหมือนสั่งสอนผู้ใหญ่หัวดื้อมากกว่านี้สินะ...

“เด็กสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด ถ้าคุณไพศาลรู้เข้าว่าเธอมีเพื่อนแบบนี้เขาจะว่ายังไง”

คำพูดของคนเป็นพ่อคนนี้แลดูราบเรียบแต่แฝงความเย้ยหยันเอาไว้มากทีเดียว

“พ่อผมรู้อยู่แล้วครับ ผมเคยเอาไปปรึกษาพ่อด้วยซ้ำ”

หมออดไม่ได้ที่จะแอบกระแทกเสียงนิดๆเหมือนกัน

“แล้วเขาว่าไง”

น้ำเสียงนั่นบ่งบอกว่าอยากรู้อย่างชัดเจน ให้โจ้เดาคนตรงหน้านี้คงเป็นคนที่ถือหน้าตาเป็นใหญ่ เจ้ายศเจ้าอย่าง และสนใจแค่ว่าคนอื่นจะมองตัวเองยังไง

“พ่อผมบอกว่า...แค่เพื่อนมีความสุขก็ดีแล้ว”

พ่อมันพูดแบบนั้นจริงๆ โจ้ตักข้าวเข้าปากอีกคำพลางมองชายแก่ตรงหน้า หมอแปลกใจอยู่มากที่ใครคนนั้นเพียงแต่ก้มหน้าลงกับจานตัวเองและไม่ได้ถามอะไรต่อ


******************************


“ฉันได้ยินว่าเธอจะไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลชุมชนแออัด?”

แว่นที่กำลังก้มๆเงยๆหาของอยู่ในห้องนั่งเล่นเงียบไปสักครู่ ก่อนจะตอบออกมา

“อ่า...ครับ”

วันนี้มันกะจะกลับบ้านให้เร็วหน่อยเพื่ออ่านเท็กซ์บุ๊คที่อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัว แต่มันกะเวลาผิดไปหน่อยเพราะน้องเบสท์กับคุณนายแม่ออกไปซื้อของข้างนอกกัน เหลือให้พ่อคนนั้นอยู่กับมันเพียงแค่สองคน แว่นว่าแปลกที่ตัวเองสามารถหยิบจับของหรือแม้แต่ตอบคำถามคนเป็นพ่อได้แม้มันจะเกร็งมากก็ตาม เพราะอะไรรู้ไหม...แว่นว่าไม่มีอะไรแย่ไปกว่าวันนั้นแล้ว วันที่มันปล่อยให้คนๆนึงเดินออกไป

“จงใจจะหนีฉันใช่ไหม”

“เปล่าครับ”

ถึงแว่นจะอยากหนีไปแต่ความจริงแล้วเป็นเพราะไม่มีใครเลือกที่นั่นต่างหาก...หมอจึงอาสาไปเพื่อให้เพื่อนคนอื่นได้ที่ดีกว่านั้น แล้วหมอเพี้ยนก็เหนื่อยเกินไปที่จะไปวิ่งเต้นหาโรงพยาบาลใกล้บ้านด้วย

“หรือไม่เธอก็อยากไปหาไอ้เด็กนั่น”

หมอดึงกล่องปากกาออกมาจากด้านในของตู้บริเวณนั้นโดยไม่ได้ตอบคำถามข้างต้น แต่แล้วคำถามที่ไม่ต่างกันนักก็ถูกส่งออกมา

“พวกเธอไปรู้จักกันได้ยังไง”

แว่นปัดฝุ่นออกจากกล่องปากกาเล็กน้อยก่อนจะหันมาตอบชายอีกคน

“มันไม่สำคัญแล้วครับ”

“อย่ามายอกย้อน!”

เหมือนมันเห็นอารมณ์ของพ่อเป็นแบบนี้อยู่ปกติ มันพึ่งนึกได้ไม่นานว่าบางทีมันควรจะชินได้แล้ว...แต่ก็ยังทำไม่ได้เสียที มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ...

“เจอกันที่เขาใหญ่ เขาช่วยผมไว้ตอนโดนกระทืบ”

“แล้วเขามายุ่งกับเธออีกทำไม”

ไม่รู้ทำไมชายคนตรงหน้าถึงอยากรู้อะไรนักหนา ทั้งๆที่แว่นว่าคนๆนี้น่าจะสืบมาหมดแล้วด้วยซ้ำ

“ผมไปยุ่งกับเขาก่อนเอง”

มันแอบยิ้มให้ตัวเองแค่ครู่เดียวเมื่อนึกถึงหน้าไอ้หล่อ เพราะถ้าเป็นซินก็คงตอบไม่ต่างกัน...แว่นว่าบางทีโกหกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้

“อย่ามาประชดฉัน!”

แต่กลับกลายเป็นว่าการพูดความจริงกลายเป็นคำประชดประชันไปเสียแล้ว มันนั่งลงที่เก้าอี้นุ่มตรงข้ามกับคนเป็นพ่อ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองนิ่งแล้วแต่มือที่กำแน่นจนเล็บจิกกับฝ่ามือของตัวเองกำลังบอกว่า มันยังไม่ชินเสียที...

“แล้วแค่จะร่วมโต๊ะกับฉันแต่ละวันมันจะตายหรือไง”

เป็นครั้งแรกที่มันกล้ามองคนเป็นพ่ออย่างเต็มตา พ่อคนนั้นโรยราไปเยอะ พ่อคนนั้นไม่ได้ดูดีเหมือนแต่ก่อน เหมือนกับมันที่ไม่ใช่เด็กแล้ว...เรื่องราวของพ่อกับมันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน มันอ้าปากตอบอย่างกำลังบังคับเสียงไม่ให้สั่น

“ผมกินมาจากโรงพยาบาลแล้ว”

“อย่ามาโกหก ฉันให้คนจับตาดูเธอมาทั้งวัน!”

บางทีมันควรจะถึงเวลาแล้วที่ควรจะพูดอะไรออกไปเสียที แว่นเคยดิดว่าจะพูดมันออกไปหลายครั้ง เพียงแต่ที่มันไม่กล้าพูดเพราะมันยังหวัง...หวังว่ามันกับพ่อจะปรับความเข้าใจกันได้และเป็นพ่อลูกกันเหมือนคนอื่นจริงๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้ชอบพ่อคนนี้นักแต่ก็ปฏิเสธมันไม่ได้ว่ามันไม่ได้อยากตัดขาดความสัมพันธุ์อันระหองระแหง เพราะในส่วนลึกจากใจจริงๆพ่อของมันก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น มันก็แค่อยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์บ้าง...แต่เรื่องบางเรื่องมันสะสมมานานจนตะกอนมันกัดกินหัวใจไป ถึงไม่ใช่เพราะเรื่องนายซินก็ตาม สักวันมันก็ต้องพูดออกไปอยู่ดี แว่นสูดหายใจเข้าไปให้ลึกที่สุดก่อนจะเริ่มพูด

“ผมไม่รู้จริงๆว่าที่ผมดื้อ นิสัยไม่ดี หรือที่ทำให้คุณไม่พอใจมันมีอะไรบ้าง...”

หมอพยายามหยัดหลังให้ตรงแต่มันก็ทำไม่ได้ มันทำได้แค่ห่อไหล่อย่างคนหมดหนทาง อย่างเดียวที่มันพอจะทำได้ในตอนนี้คือพูดให้เสียงดังมากที่สุดแม้เสียงที่หลุดออกมาจะเบามากก็ตาม...

“ผมขอโทษครับ”

มันขอโทษออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจตัวเอง นั่นเป็นสิ่งเดียวที่มันสามารถทำได้ หมอค่อยๆเค้นเสียงออกมาจากลำคอที่แห้งผาก

“ผมไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไงต่อไป ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องชาติที่แล้วหรือชาติหน้าเท่าไหร่”

ในที่สุดมันก็ก้มหน้าลงกับอกตัวเองแบบที่ทำเป็นประจำ หมอปล่อยให้มือสองข้างกำแน่นโดยไม่ได้ใส่ใจว่าฝ่ามือสองข้างนั้นจะเป็นแผล พร้อมกับปล่อยให้น้ำตาไหลลงบนแว่นจนพร่ามัว

“แต่ผมเหนื่อยจริงๆ”

เสียงมันขาดห้วงไป หมอรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงมาก...เหมือนกับว่าในโลกนี้ตัวเองไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เหมือนปล่อยให้ความสัมพันธ์เล็กๆของตนกับพ่อหลุดลอยไป มันเสียดายที่ตัวมันเองไม่สามารถซ่อมความสัมพันธ์ผุพังนั่นได้...แต่มันเหนื่อยเกินไปจริงๆ แว่นมองฝ่ามือตัวเองที่เต็มไปด้วยแผลของเล็บ ก้มมองอยู่นานราวกับว่ารอยแผลใหม่ๆและรอยแผลเป็นเก่าๆพวกนั้นจะหายไป มันยกมือที่สั่นเทาสองข้างขึ้นมาไหว้ชายตรงหน้าแม้มือที่ประนมขึ้นมารูปร่างจะบิดเบี้ยวไปก็ตาม แต่ตอนนี้มันทำได้แค่นี้จริงๆ หมอไม่ได้ยินเสียงตัวเองด้วยซ้ำตอนที่พูดบางอย่างออกมา

.

.

.

“อะไรที่ผมล่วงเกินคุณไป อโหสิกรรมให้ผมนะครับ ผมขอร้อง...”

มันรู้แค่ว่าตัวเองกำลังสะอื้นหนัก รู้แค่ว่าน้ำตามันไหลแบบที่ไม่เคยไหลมาก่อนในชีวิต มันหวังว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไรกับมันบ้างจะรับรู้ความรู้สึกของมันบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา...และหลังม่านน้ำตาที่พร่ามัวของตัวเองมันก็ไม่รู้ว่าการที่น้ำตาของคนตรงข้ามไหลมันหมายความว่ายังไง หรือบางทีมันอาจจะแค่ตาฝาดไป


***************************************


“ไอ้หมอ”

แม่เดินขึ้นมาเรียกลูกชายเมื่อเห็นว่าลูกมาถึงบ้านเร็วกว่าปกติ เธอเปิดประตูเข้ามาในห้องพบวีดีโอเพลงร็อคสากลที่ถูกเปิดดังจนก้องทั่วทั้งห้อง แม่ยืนอยู่อย่างนั้นจวบจนเพลงใกล้จบคนในห้องน้ำก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมา เธอใช้สายตาสำรวจห้องของลูกชายที่รกอยู่หน่อยตามประสาผู้ชาย บนหัวเตียงมีหมวกกันน็อคใบโตสีดำขลับวางอยู่ เธอพอจะรู้มาบ้างว่าหมวกใบนั้นราคาแพงกว่าค่าแชร์ยี่สิบเดือนของเธอ เพลงจบแล้วแต่เสียงที่ดังออกมาจากคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างไว้ดึงดูดให้เธอเดินเข้าไปหา...มันไม่ใช่เสียงเพลงเหมือนที่ผ่านมา


“ฉลามมม อย่ากัดตาเอ็งสิ”

แว่นผู้พยายามแหย่ลูกแมวน้อยถูกงับเอาที่มือจนร้องโวยวายเหมือนคนบ้า ไม่ทันไรก็มีอีกเสียงนึงที่แม่จำได้ดีพูดขึ้นมาก่อน

“ฉลามกัดแรงๆเลย”

เธอเดาว่าคงเป็นเด็กคนนั้นที่เป็นคนถ่ายวีดีโอนี้ขึ้นมา

“โว๊ะ! เดี๋ยวมึงโดนกูอัด”

แว่นผู้กำลังนั่งขัดสมาธิเล่นกับลูกแมวเงยหน้าขึ้นมาหากล้อง

“เดี๋ยวอัดคืนเลยแว่น”

พอโดนว่าคืนแบบนั้น แว่นที่นั่งมองกล้องอยู่ก็แยกเขี้ยวแล้วกระโจนใส่คนถือกล้องแทบจะทันที

“เมื่อกี้มึงพูดกับใคร!? ปีกกล้าขาแข็งเหรอ ห๋า...”

เธอได้ยินเสียงตุบตับ พร้อมกับหัวเราะดังก้องออกมา

“โอ๊ย...ผมขอโทษ ฮ่าๆๆ”

“สมน้ำหน้า”

ไอ้หมอว่าอย่างนั้นก่อนจะกลับไปเล่นกับลูกแมวต่อ มันก้มหน้าก้มตาลูบหัวลูบหางลูกแมวจนน่ารำคาญ แม่เห็นมือใหญ่ที่มีรอยสักอยู่ตรงข้อมือวางบนหัวของลูกชายตัวเองแล้วลูบไปมา ไม่ทันไรเจ้าของกลุ่มผมสีเข้มก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วแยกเขี้ยวใส่อีกรอบ

“นี่คนไม่ใช่แมว”

“อ้าว...ผมนึกว่าขนแมว”

“ไอ้มั่ว...”

แว่นยิ้มกว้างจนตาปิดให้ใครอีกคนที่อยู่หลังกล้อง วีดีโอนั้นจบไปแล้วแต่คนเป็นแม่ยืนนิ่งแล้วคิดทบทวนบางอย่างไปด้วยอย่างวุ่นวายใจ ไม่ทันไรเสียงของลูกชายก็แทรกออกมาอีกรอบ


“วันนี้นะครับเรามาพบกับมือกีตาร์ที่หล่อที่สุดในห้องนี้ครับ ซินอย่ามาบังกล้องดิ”

ในวีดีโอนั้นลูกชายเธอกำลังนั่งอุ้มกีตาร์ตัวใหญ่ราวกับกำลังจะเล่นมัน เธอรู้ว่าลูกชายเธอไม่ได้มีความสามารถด้านนั้นแม้แต่นิด

“นี่คอร์ด F ใช่ไหม”

แว่นหันไปถามคนข้างๆ เด็กหนุ่มอีกคนพยักหน้ารับแล้วจับมือของไอ้หมอที่วางทาบอยู่บนคอร์ดให้ถูกตำแหน่ง

“เอานิ้วชี้กดสายหกแน่นๆ เดี๋ยวเสียงมันบอด”

ลูกชายเธอทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะส่งเสียงประท้วงออกมา

“ซิน...นิ้วกูสั้นไป”

เพียงแค่นั้นเด็กหนุ่มอีกคนก็หัวเราะจนตาหยี ก่อนจะบอกออกมาใหม่

“บีมลองขยับข้อมือขึ้นมาสูงๆดู”

“เอาแล้วนะ ซินหลบออกไปจากกล้องเร็วๆ”

แว่นออกปากไล่อีกคนให้หลบออกไปจากกล้องด้วยกลัวว่าตัวเองจะไม่ใช่คนที่หล่อที่สุดในเฟรม แม่ยืนยิ้มมองความตั้งใจบางอย่างของมัน แล้วก็ได้แต่ยิ้มเมื่อลูกชายเธอพูดบางอย่างออกมา

“เพลงนี้ผมมอบให้แก่คุณนายแม่ครับ เอาล่ะเริ่ม!”

เธอมองท่าทางเก้ๆกังๆของไอ้หมอแล้วหลุดหัวเราะออกมา แต่ก็ตั้งใจฟังสิ่งที่แว่นกำลังจะบอก

“ความรักของเธอ…มีมากกว่าใคร เธอ..”

ตากลมบ๊อกของลูกชายตัวเองจ้องที่กล้องนิ่งๆแล้วก็หันไปหาอีกคนที่อยู่นอกเฟรม

“บีมครับ ตรงนั้นต้องเปลี่ยนเป็นคอร์ด Em”

“มือมันแข็งอ่ะซิน กูเปลี่ยนไม่ได้”

แว่นเบะปากท่าทางหน้าสงสาร เธอหลุดหัวเราะออกมาพร้อมๆกับเสียงของเด็กอีกคนในวีดีโอ แม่ยืนมองวีดีโอที่เล่นจบจนกลายเป็นวีดีโอเพลงสากลเพลงใหม่อีกรอบ ที่จริงเรื่องพวกมันสองคนแม่ระแคะระคายตั้งแต่เห็นรูปลูกตัวเองกอดกับผู้ชายตอนที่ไปเขาใหญ่จากหนังสือดาราที่ร้านเสริมสวยเมื่อปีที่แล้ว มาจับต้นชนปลายถูกเพราะอีกคนมาส่งถึงบ้านนั่นแหละ เอาเป็นว่าอาซิ่มแกรู้ก่อนที่พวกมันจะรู้ตัวเสียอีก แต่ไม่ใช่ว่าป้าแกจะเป็นสาววายรับได้ในทันทีคุณนายแม่แกพึ่งตั้งแต่จิตแพทย์ยันหมอดูท้ายหมู่บ้านเลยทีเดียว กว่าจะเริ่มทำใจได้ก็ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่เอง เพราะอะไรรู้ไหม...แม่เห็นไอ้หมอของเธอยิ้มได้มีความสุขที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต ซึ่งพอมานั่งนึกดูแล้วรอยยิ้มกว้างอบอุ่นแบบนั้นมาจากเด็กหัวเกรียนที่แวะมารับมาส่งบ่อยๆนี่เอง ก็จริงอยู่ว่าเธอออกปากให้พวกเขาเลิกกันไปแต่นั่นเป็นเพียงเพราะเธออยากจะดูอะไรหลายๆอย่าง คนที่เคยล้มเหลวในความรักเพราะคนอื่นขัดขวางอย่างเธอเข้าใจลูกในตอนนี้ดีทีเดียว เมื่อแว่นมันทำเพื่อแม่ได้ขนาดนี้แล้วเธอเคยทำอะไรให้ลูกได้บ้าง...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2015 21:40:13 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
||*Hardcore Cinderella*||เจ้าชายและนายซิน[rewrite#15]
«ตอบ #312 เมื่อ19-12-2013 23:08:23 »


 “อ้าว...แม่”

แว่นที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำและสวมเพียงกางเกงขายาวเอ่ยทัก เธอมองลูกชายที่ผอมจนเกินควรก่อนจะถามไถ่

“ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?”

“ใกล้จบแล้วครับ”

“เอ็งคิดว่าแม่ถามถึงเรื่องนั้นเหรอหมอ?”

นางนั่งลงบนเตียงของลูกชาย แว่นเดินไปปิดเพลงส่งผลให้ทั้งห้องเงียบงัน คนเป็นแม่ถอนหายใจหนักๆแล้วมองหน้าลูกชายไม่วางตา

“ถ้าเหนื่อยก็บอกแม่บ้าง แม่ยังเป็นแม่อยู่หรือเปล่า”

เอาจริงๆเธอไม่ได้สนใจนักว่าลูกชายจะเป็นอะไร แต่เธอน้อยใจมากกว่าที่ลูกไม่ยอมบอกอะไรเลย มันเหมือนกับว่าลูกกำลังมองข้ามเธอไป

“ผมกลัวแม่เสียใจ ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ”

แว่นนั่งลงบนพื้นแล้วเอาหน้าซบกับตักคุณนายแม่ของมัน เธอลูบผมลูกชายเพียงคนเดียวซ้ำไปมา อีกไม่กี่วันไอ้หมอของเธอก็จะเรียนจบแล้วแต่เธอกลับรู้สึกว่าลูกพึ่งจะห้าขวบเท่านั้นเอง

“ถามคำเดียว เอ็งไปยุ่งกับไอ้น้องซินก่อนจริงๆเหรอวะ”

แว่นเงยหน้ามามองแม่ระคนตกใจ มันอ้าปากหวอแต่ไวเท่าความคิดหน้ามันก็แดงขึ้นเรื่อยๆจนคุณนายแม่อดขำไม่ได้

“ไอ้หล่อนั่นมันเสน่ห์แรงขนาดนั้นเลย”

มันเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบและแว่นก็รู้ดีมันจึงซุกหน้าลงที่ตักแม่อย่างเคย

“แล้วถามอีกคำ”

หมอเพี้ยนบ่นอู้อี้ว่า ‘ไหนแม่บอกคำเดียวไง’ แต่ก็ปล่อยให้ถามอยู่ดี

“ทำไมถึงรักเขา”

มันยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะตอบแม่ไปอย่างชัดเจน

“ไม่รู้ครับ”

ไม่รู้ เป็นคำเดียวกับที่แม่ของแว่นเคยบอกคุณยายเมื่อท่านถามว่าทำไมต้องเลือกพ่อของหมอบีม เธอก็ไม่ค่อยรู้นักหรอกว่ามันจะเกิดอะไรบ้าง เหมาะสมกันหรือเปล่า เธอรู้แค่ว่าเธอรัก...และตอนนี้เธอรู้ว่าควรจะทำอะไรบ้างได้แล้ว



***********************************



หลังจากทัวร์ไหว้พระกันตอนเช้าเสร็จแม่ก็บอกที่อยู่น้องเบสท์ให้ขับรถให้โดยอ้างว่าจะมาหาเพื่อน ผู้เป็นพ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปเรื่อยๆอย่างไม่ได้สนใจนัก จนกระทั่งรถคันยาววิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งแถบชานเมือง พ่อจึงวางหนังสือพิมพ์แล้วลงจากรถเพื่อมองไปรอบๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สีขาวขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ด้านหน้ามีสวนกล้วยย่อมๆปลูกไว้ ในเวลานั้นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับเขาก็เดินออกมา เขาคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของภรรยาอย่างที่บอก แต่เขาก็คิดผิด...

“สวัสดีจ้า มาหาใครคะ?”

ผู้หญิงคนตรงหน้าเอ่ยทักทาย ด้วยผมตรงประบ่าและรอยยิ้มทำให้เธอดูใจดี

“มาหาพ่อแม่น้องซินค่ะ”

เขาเบิกตากว้างพอๆกับผู้หญิงคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของรั้ว ผู้หญิงคนนั้นชี้มือเข้าหาตัวเอง พร้อมกับเขาที่หันไปถามคนข้างๆ

“มาที่นี่ทำไม”

ภรรยาของเขาก็แค่ยิ้ม แต่เขารู้ดีวาเมื่อไหร่ที่เธอยิ้มแบบนี้เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธอะไรได้แน่นอน และเขาก็เหนื่อยที่จะปฏิเสธแล้ว บางทีเขาก็ควรที่จะทำอะไรบ้าง...

“น้องซินอยู่ไหมคะ”

เธอเอ่ยถามผู้หญิงอีกคนที่อีกฝั่งของรั้ว ผู้หญิงคนนั้นดูงุนงงแต่ก็ตอบแต่โดยดี

“ไม่อยู่ค่ะ ไปทัวร์ต่างจังหวัด”

“ฉันเป็นแม่บีม น้องซินเป็นยังไงบ้าง”

พอภรรยาเขาพูดไปแบบนั้นอีกคนก็มีท่าทีแข็งกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาบีบมือภรรยาแน่น รู้สึกแย่...ด้วยไม่อยากให้คนบ้านนี้นึกเกลียดลูกชายของตัวเองที่พาเด็กอีกคนเป็นไปในทางนั้น หากแต่เขาไม่รู้ว่าเขาคิดผิดมาโดยตลอด พร้อมกันนั้นภรรยาเขาถึงอ้อนวอนเธอคนนั้นอีกครั้ง

“ขอโทษนะคะ แต่ฉันอยากมาคุยด้วย”

ผู้หญิงที่น่าจะเป็นแม่ของเด็กชายอีกคนเดินนำเขาและภรรยาเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่มีตาแก่วัยน่าจะมากกว่าเขาอยู่ห้าถึงสิบปีกันนั่งเช็ดปืนอยู่ นับด้วยสายตาคร่าวๆ ปืนทั้งหมดนั่นมีมากกว่าสามสิบกระบอก

“พ่อซินเขาค่ะ”

เธอบอกด้วยน้ำเสียงไม่ต้อนรับขับสู้นัก ชายคนนั้นหยิบจับปืนพลางมองมาทางพวกเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

“นี่พ่อแม่หมอบีมนะพ่อ”

เธอแนะนำให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป ชายคนตรงหน้าพยักหน้ารับไหว้ภรรยาเขาอย่างเดาอารมณ์ไม่ออก

“ฉันอยากมาคุยด้วยค่ะ”

เธอพูดออกไปในอย่างที่เธออยากพูด เขาได้แต่บีบมือภรรยาตัวเองแน่นกว่าเดิม

“ว่ามาเลยครับ ผมฟังอยู่”

ใครคนนั้นตอบรับพลางเช็ดถูปืนพวกนั้นไปด้วยราวกับไม่ได้ใส่ใจกับการมาของพวกเขานัก หรือไม่ก็รู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องมาในสักวันหนึ่ง ภรรยาเขาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เป็นเขาเองที่ทนไม่ได้จึงถามออกไปก่อน

“คุณรู้เรื่องลูกคุณทั้งหมดไหม?”

ผู้ชายตรงหน้ายิ้มกลั้วหัวเราะแล้วใช้นัยตาไม่เป็นมิตรจ้องที่เขานิ่ง

“รู้สิ ถามอะไรแปลกๆ ว่าแต่คุณเถอะ...เคยรู้อะไรเกี่ยวกับลูกบ้าง?”

เขานิ่งไปอย่างกับว่าคำถามนั่นเขาไม่สามารถตอบมันได้โดยสิ้นเชิง หลังจากวันที่ลูกชายคนโตขออโหสิกรรมให้ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรกับลูกอีกแม้แต่คำเดียว เหมือนมันเป็นหนามที่คอยตำหัวใจเขาอยู่ตลอดเวลา อะไรคือสิ่งที่ลูกชายผู้ดื้อรั้นกลัวและยอมถอยไปจนมุม...คำตอบคือตัวเขาเอง ดูเหมือนเขาจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยนานเกินไป ผู้ชายคนตรงหน้าถึงเริ่มพูดใหม่อีกครั้ง

“ไอ้ซินเริ่มสักตอนอายุ15 สักรูปเถาไม้ตรงไหล่ก่อนเลย ผมนี่เลือกลายให้มันเอง มันชอบเงียบแล้วเอาแต่ใจ ยิ่งเรื่องเครื่องดนตรีกับเรื่องของกินนี่เรื่องมากสุดๆ ถ้าไม่ได้ดั่งใจนี่ไม่กิน ส่วนเบสตัวแรกของมันนะ อื้อหือ...แพงลากเลือด แต่ผมจำที่มันบอกได้ว่ามันจะคืนค่าเบสผมร้อยเท่าตอนนี้ได้มาพันเท่าละ ตัดสินใจถูกจริงๆที่ให้มันยืมเงินซื้อเบส”

ผู้ชายคนนั้นหัวเราะปากกว้างเมื่อร่ายยาวถึงลูกชายของตน การพูดครั้งนี้ของคนตรงหน้าดูผ่อนคลายลงมันก็เหมือนกับเขาที่เวลาเล่าเรื่องพี่ให้น้องเบสท์ฟัง แต่เขากลับรู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่ต่างออกไป บางอย่างที่เขาไม่เคยได้สัมผัส...บางทีอาจจะเป็นความเป็นพ่อที่ควรจะเป็นก็ได้

 “แล้วคุณเห็นหน้ามันไหม...หล่อเหมือนผมตอนหนุ่มๆเลย เล่นดนตรีก็เก่ง พูดจาก็เพราะ สาวๆนี่ติดตรึมเห็นว่าจะได้ไปโกอินเตอร์ด้วยนะ ซินมันบอกว่าเซนต์สัญญาแล้วที่อเมริกาหรือที่ไหนเนี่ยแหละ มันเท่ห์เหมือนพ่อมันไม่มีผิด”

ผู้ชายคนนั้นวางปืนในมือลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองพวกเขาก่อนจะพูดด้วยท่าทางจริงจัง

“เรื่องไอ้ซินคบกับหมอบีมนี่ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ไอ้หมอมันห่ามแต่นิสัยดี...ก็เหมือนได้ลูกชายเพิ่มมาอีกคน”

เขานั่งนิ่งไปราวกับว่าทุกอย่างที่เล่ามามันไม่ใช่เรื่องจริง คนที่นี่รู้ทุกอย่างดีอยู่แล้ว...หรือจะเป็นเขาเองที่ทำทุกอย่างพลาดไป...นี่เขาทำพลาดไปกี่ครั้งแล้วนะ

 “ขอโทษด้วยนะคะที่บีมชอบมารบกวน”

ภรรยาเขาเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับบีบมือเขาแน่น บางทีเธอคงเข้าใจทุกอย่างมากกว่าเขา อาจจะเป็นเพราะเธอรู้จักลูกจริงๆก็ได้ ไม่เหมือนเขาที่คิดว่าตนเองรู้แต่ไม่ได้รู้อะไรเลย...

“รบกวนอะไร นี่ผมขาดลูกมือช่วยเช็ดปืนไปเลย สองอันนี้ของหมอบีมนะ”

ชายตรงหน้าชี้มือไปที่ปืนไม้สีขาวและสีน้ำตาลอย่างละกระบอก ก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางที่อ่อนลงไป

“แกว่าจะมาเอาแต่ยังไม่เห็นกลับมาซะที”

เสียงของชายคนตรงหน้าเศร้าสร้อยลงอย่างชัดเจน

“จะให้เอาไปทำอะไร”

เป็นเขาที่อดถามไม่ได้ ชายคนนั้นเบิกตานิดหน่อยแล้วค่อยๆบอกแต่ชัดเจนในน้ำเสียง

“ยิงหัวนัดเดียวกระจุยเลยคุณ”

ใครคนนั้นว่าพลางหัวเราะ ซึ่งเขาไม่ได้ตลกไปด้วย ผู้ชายคนตรงหน้ายิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางสบาย

“ผมสะสมเพราะชอบแต่ให้ไปแล้วจะไปทำอะไรก็ช่างเขา หมอมันร่ำๆอยู่ว่าจะแอบเอาของผมไปขาย ขายหมดนี่ผมได้ตังค์ซื้อบ้านอีกยี่สิบหลัง”

ผู้ชายคนนั้นพูดถึงลูกชายเขาอย่างกับว่ารู้จักกันดี...น่าจะดีมากกว่าเขาด้วยซ้ำไป เขาเหลือบมองไปรอบๆห้องสีขาวโพลนเห็นใบประกาศการยิงปืนรวมถึงรูปถ่ายต่างๆถึงได้รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นตำรวจ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงพูดจาได้น่าเชื่อถือ ชักจูงและน่ากลัวไปในเวลาเดียวกัน

“คุณไม่ว่าอะไรเหรอคะ ถ้าพวกเขา”

พ่อของเด็กคนนั้นเอนตัวลงกับเบาะนุ่มพลางกวาดสายตามองของสะสมของตัวเองก่อนจะพูดบางอย่างที่ไม่ได้เกี่ยวกับคำถามนักออกมา

 “ผมเป็นตำรวจสายบู้ ผมเข้าใกล้ความตายบ่อย...แล้วผมก็ทำให้คนตายบ่อยด้วย”

ท้ายประโยคนั่นพ่อของนายซินยิ้มแห้งๆ ปล่อยให้ทุกอย่างนิ่งเงียบอยู่พักนึงแล้วถึงเริ่มพูดต่อ

“ทุกๆครั้งที่ผมเสี่ยงผมจะคิดถึงครอบครัวคิดถึงลูก และทุกๆครั้งผมจะเสียดายถ้าผมทำให้เขามีความสุขไม่ได้”

เสียงนั่นเงียบลงอีกครั้งราวกับเพียงเพื่อให้สองคนที่นั่งฟังอยู่ได้มีเวลาคิดตามบ้าง

“แค่มันมีความสุขผมก็ตายตาหลับแล้ว หมดห่วง...ชีวิตคนมันไม่ยาวนักหรอก แก่ๆอย่างผมอย่างคุณจะอยู่อีกกี่วันกัน ยังมาทำให้ลูกหลานปวดหัวอีก”

ท้ายประโยคนั่นกลั้วหัวเราะไปด้วย เขาพอจะนึกออกว่ารอยยิ้มจนตาปิดนี่เขาเคยเห็นที่ไหน จากเด็กคนนั้นและส่งมาถึงลูกชายเขา แม้ลูกจะไม่เคยยิ้มให้เขาก็ตามที

“แล้วไอ้หมอเป็นไงบ้าง ไม่โหมงานจนผอมแล้วเหรอลูกผมอุตส่าห์ขุนอยู่เป็นปี”

แต่บางทีก็น่าหมั่นไส้ที่คนๆนี้รู้ทุกอย่างราวกับเป็นผู้คุมเกมส์ แต่เขาไม่คิดจะเล่นเกมส์แบบนี้อีกแล้ว เขาสงสารตัวเอง สงสารลูก... เขาอยากจะมีความสุขบ้างก็เท่านั้นเอง

“ก็...ค่ะ”

ภรรยาเขาตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้ ในตอนเดียวกันพ่อของเด็กชายอีกคนก็เอ่ยทักคนที่พึ่งเดินเข้ามา

“อ้าวหมอ มานี่”

ลูกชายของเขาดูเหนื่อยแต่ก็ยิ้มให้ชายคนตรงหน้า และหันมาไหว้เขาซึ่งเขาไม่ได้ยกมือรับไหว้เหมือนทุกที ลูกชายคนนั้นนั่งลงที่ตรงข้ามเขาด้วยท่าทางเกร็งอย่างเห็นได้ชัด หรือจริงๆแล้วลูกชายเขาเป็นแบบนี้ทุกครั้งกันนะ

“หายไปนานเลยเอ็ง ลืมหน้าที่หรือไง”

ชายคนนั้นเอ่ยทักซึ่งหมอหัวเราะน้อยๆก่อนจะตอบ

“ผมอู้นิดหน่อยเอง”

ชายคนนั้นทำหน้าตาไม่ค่อยพอใจอยู่พักเดียวก่อนจะชี้มือไปที่ลูกชายคนเล็กของเขา

“นั่นแฝดเอ็งเหรอ”

หมอรีบปัดมือเป็นพัลวันก่อนจะตอบ

“น้องชายผม น้องเบสท์”

เขาสังเกตุมาหลายครั้งแล้วว่าเมื่อใดที่พี่น้องเขาคุยกันเขาจะเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านไปไม่ได้ทำให้พวกเขาห่างกันเลย จะมีแต่เขากับลูกชายคนโตที่ไม่สามารถเข้าหน้ากันได้เสียที เขารู้แล้วว่ามันคงเป็นเพราะตัวเขาเอง... เขาไม่ได้อยากจะทำพลาดอีกแล้ว

“พ่อว่าไอ้ซินน่าจะชอบแบบคนน้องมากกว่านะ”

หมอยู่หน้าเมื่อชายคนนั้นดูท่าจะชอบน้องชายตนมากกว่า แต่ก็ตบมุขไปตามเรื่องตามราว

“พ่อพูดแบบนี้เอาปืนมายิงผมเลยดีกว่า”

เขาพึ่งสังเกตุอีกคราว่าลูกชายคนโตเขาเป็นคนที่ร่าเริง...ยกเว้นแต่เมื่ออยู่กับเขา ลูกชายคนนั้นเรียกคนตรงหน้าว่าพ่อได้อย่างกับมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ลูกไม่เคยเรียกเขาแบบนั้น แต่จะว่าอะไรได้เขาเองก็ไม่เคยเรียกชื่อลูกเหมือนกัน...
ชายคนนั้นนั่งตัวตรงแล้วหันไปหาลูกชายคนโตของเขาแล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง

“หมอ มีอะไรจะพูดไหม”

วันนี้ลูกชายเขามองเขาเต็มตาอีกครั้งโดยไม่ได้ร้องไห้

“ผมขอโทษครับ...”

น้ำเสียงนั่นชัดเจนกว่าวันนั้นเยอะ แต่เขาก็รู้ว่าความตั้งใจไม่ได้ต่างกัน

“แม่ก็ขอโทษนะ”

ภรรยาเขาเอ่ยออกไปในที่สุดทั้งๆที่เธอไม่ต้องพูดแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ เป็นเขาต่างหากที่ต้องพูดอะไรออกไปเสียที

“ฉันขอโทษ...”

น้องเบสท์ที่ยืนนิ่งมาตั้งแต่ต้นคิดว่าความสัมพันธ์ของลูกชายกับพ่อคงต้องให้เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ และเวลาคือตัวช่วยเยียวยาต่อไป แต่คงจะไม่ยากเกินไปแล้ว...


*****************************


“มาทำไม”

นายซินถามคนที่เคาะประตูห้องตัวเองเป็นทำนองเพลงลอยกระทงในคืนวันที่มันพึ่งกลับจากต่างจังหวัด ตอนแรกมันกะว่าจะออกมาด่าเพราะคิดว่าเป็นเด็กเกรียนที่ไหนหลุดมา แต่ไอ้แว่นคนนี้ก็คงเกรียนไม่ต่างกัน

“มีเจ้าหญิงขี้แงอยู่แถวนี้เลยมาปลอบ”

ซินทำหน้านิ่งๆแล้วเดินนำเข้ามาในห้องแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป เช่นเดียวกันกับไอ้เพี้ยนที่มองเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เทคตัวเขามากอดหมับ นายซินมองลูกพี่ของไอ้ฉลามกับไอ้ปลาที่ซุกหัวทุยๆของตัวเองเข้ากับไหล่ของมัน

“คิดถึง”

แว่นพูดอู้อี้อยู่กับคอของอีกคน ซินก้มลงว่าจะกดจมูกเข้ากับข้างแก้มของอีกคนแต่แล้วก็ไม่ได้ทำ ได้แต่ยืนนิ่งๆแล้วพูดบางอย่างออกไป

“ทิ้งผมแล้วไม่ใช่เหรอ”

พูดแค่นั้นอีกคนก็ผละออกทันที ซินเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของอีกคนอย่างชัดเจน ตากลมของหมอเริ่มแดงและมือคู่นั้นเริ่มกำเข้าหากัน...จนกลัวว่าถ้ากำเข้าไปแน่นกว่านั้นคงได้แผล

“ขอโทษ...”

ไอ้หมอก้มหน้าแล้วพูดออกมาเบาๆ มือเบสที่สกิลการแกล้งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวว่าจะแกล้งแว่นต่อไปอีกหน่อยแต่ก็ทำไม่ลง มันรีบคว้าตัวคนข้างหน้ามากอดไว้แน่นอย่างกับกำลังจะบอกว่าเป็นมันเองที่ คิดถึง มากกว่า

 “ผมทำอะไรไม่ได้เลย ขอโทษนะ”

ในที่สุดพ่อคนหล่อก็เลิกแกล้งเขาเสียที แว่นส่ายหน้าไปมาแต่ยังไม่ยอมเอาหน้าออกจากซอกคอชาวบ้านชาวช่อง มันยิ้มให้ตัวเองสักพักก่อนจะตอบออกไป

“แซนวิชอร่อยดีนะ”

ความจริงไม่ใช่แค่แซนวิชหรอก ตลอดเดือนที่พวกมันห่างกันไปคุณเจ้าหญิงเล่นโทรสั่งอาหารเช้า กลางวัน เย็นให้ไปส่งที่โรงพยาบาลทุกวัน เริ่มตั้งแต่แซนวิชยันหูฉลามเดลิเวอรี แรกๆแว่นก็งงคิดว่าไอ้เพื่อนโจ้เลี้ยงแก้อกหักแต่มานึกขึ้นได้ว่าไม่มีทาง...ไอ้โจ้มันงกจะตาย

“แล้วทำไมถึงก้างอีกแล้วเนี่ย”

นายซินไล้มือไปตามแผ่นหลังของหมอบ้า แว่นดึงตัวออกเล็กน้อยแต่มือเบสก็กอดเข้ามาใหม่

“เอ้มันแย่งกิน”

แว่นโทษเพื่อนทั้งๆที่ความจริงแล้วตัวเองเครียดจนกินไม่ลงต่างหาก

“แล้วกล้ามคุณเจ้าหญิงหายไปไหนแล้ว”

“บีมหัวเหม็น”

“ไปทัวร์มาเหนื่อยไหม”

“แล้วคุณเจ้าชายสอบเป็นไงบ้าง”

“ไอ้ซิน อย่าเลื้อย!”

พวกมันคุยกันสะเปะสะปะไปคนละทิศละทาง แต่ก็แปลกที่ทั้งหมดนั่นสามารถเข้าใจกันได้เอง มีอะไรมากมายที่พวกมันทั้งคู่จะพูดกันเช่น คิดจะไปจากกันจริงๆเหรอ? หรืออะไรทำนองนั้นแต่กลับไม่พูดออกไป เพราะต่างคนต่างก็รู้ว่าไม่มีทาง...ไม่รู้ว่าคนทั้งคู่ไปเอาความคิดแบบนั้นมาจากไหน อาจจะเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเชื่อใจมากก็ได้ ตอนนี้พวกมันจึงทำเพียงยืนกอดกันแน่นๆอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งนายซินมือปลาหมึกกอดอีกคนหนุบหนับแล้วก็ถามไปด้วย

“จบแล้วสินะ”

“อือ”

แว่นตอบเป็นเวลาเดียวกับที่ใครอีกคนวางมือไว้บนเอวแค่หลวมๆ หมอมองหน้าคนข้างหน้าอย่างกับว่าไม่ได้เห็นมานานแต่ก็ทำได้ไม่เท่าไหร่มันก็เขินจนต้องก้มหน้าลงไปชิดอกตัวเองอยู่ดี

“ผมขอทวงสัญญานะ”

ไอ้หมอนึกอยู่สักพักว่าสัญญาอะไร แต่ก็ไม่ทันเวลาเพราะอีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วก็ฉวยแว่นของมันออกไปเสียแล้ว

“เฮ้ยยยยยย”

มันร้องได้แค่นั้นริมฝีปากบางก็จรดลงมาที่ตรงจมูกของมันก่อนจะทาบลงที่ปาก หมอเขินจนตัวจะสุกแต่ก็ปล่อยให้อีกคนทำตามใจ เขาว่ากันว่าจูบที่สุดยอดต้องหลับตาแต่แว่นขอเถียง!!! มาลองลืมตามองไอ้หล่อจูบนี่ก็ทำเอาแทบจะตายเหมือนกัน ยิ่งคนข้างหน้าลืมตาเอาตาคมๆมาสบตาด้วยแว่นแทบจะละลายติดกับอกมัน

“อื้อ..”

หมอบ้าดันอีกคนออก นายซินก็ผละออกไปง่ายๆ แต่แค่ครู่เดียวก็ยื่นหน้าเข้ามาใหม่ ซินอ้าปากงับริมฝีปากล่างของแว่นก่อนจะดูดแรงๆแก้หมั่นเขี้ยวแล้วค่อยประกบปากลงไปใหม่ แต่แค่ไม่นานก็ต้องจำใจผละออกเมื่ออีกคนเริ่มประเคนกำปั้นให้ มันมองหน้าไอ้เพี้ยนที่บัดนี้ไร้ทางสู้อย่างสิ้นเชิง แว่นหอบอย่างกับคนวิ่งหลายร้อยเมตร ใบหน้าที่เคยขาวซีดซับสีเลือดโดยเฉพาะริมฝีปากที่แดงจัด...มันน่างับอีกทีจริงๆ แต่แค่โน้มหน้าเข้าไปอีกรอบไอ้หล่อก็โดนฝ่ามือแปะเข้าที่แก้มทั้งสองข้าง

“ใจเย็นสิวะ”

ซินว่ามันก็ไม่ได้ใจร้อนนะ แค่รู้สึกว่ามันลนลานกว่าปกตินิดเดียวเอง แต่เป็นนิดเดียวที่ไอ้หมอแทบจะตาย...เวลาเห็นคนนิ่งๆหลุดนี่มันทำร้ายหัวใจจริงๆ เมื่อไม่ให้จูบซินมันก็จัดการฟัดแก้ม ใบหู ซอกคอขาวๆจนอีกคนละลายติดไปกับเตียงเรียบร้อย มือเบสหัวเราะเมื่อเห็นอีกคนแยกเขี้ยวให้ ก่อนจะดึงแว่นที่ตัวอ่อนเหมือนโดนขี้ผึ้งลนขึ้นมาจากเตียงแล้วจัดแจงให้อีกคนนั่งลงบนตักหันหน้าเข้าหาตัวเองโดยที่ตัวมันเองนั่งพิงหัวเตียงท่าทางสบาย

“ตลอดเดือนกูคิดมาตลอดเลยนะว่ากูเป็นเกย์จริงไหม”

ไอ้คำถามเกย์ไม่เกย์วนมาเป็นรอบที่ร้อย นายซินหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอีกคนดูเก้กังราวกับไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน มันเลยจับฝ่ามือสองข้างมาจูบหนักๆแล้ววางไว้ที่ไหล่ตัวเอง แว่นมองการกระทำทั้งหมดของคนข้างหน้าก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง

“กูเป็นเพราะมึงนี่แหละ”

ริมฝีปากบางนั่นผุดยิ้มขึ้นราวกับกำลังพอใจ หมอเสหน้าออกไปข้างๆเมื่ออีกคนยื่นหน้าเข้ามาหาเลยกลายเป็นว่ามือเบสต้องซุกลงที่ซอกคอของมันแทนพร้อมกับเริ่มไล้มือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตที่แว่นใส่ทำงานทั้งวัน ไม่นานนักเสื้อตัวนั้นก็ลงไปนอนกองที่พื้น ผิวของแว่นขาวจนเวลาขบกัดหรือเผลอใช้มือขยำจะขึ้นรอยสีแดงๆเต็มไปหมด นายซินที่แพ้ผู้ชายลักษณะนี้ถึงกับหื่นขึ้นตา หลังจากกัดคนอื่นไปทั้งตัวแล้วพ่อคนหล่อวนขึ้นมาจูบอีกรอบก่อนจะถอดเสื้อยืดตัวใหญ่ของตัวเองออก

“ซิน เดี๋ยวพ่อแม่...”

ไอ้หล่อที่หื่นมากในตอนนี้กอดอีกคนที่เปลือยท่อนบนเหมือนกันเข้าหาตัวแน่นก่อนจะจูบเล็มที่สันกรามของแว่นพร้อมกับตอบไปด้วย

“ห้องผมมันห้องเก็บเสียง”

อันข้อนั้นไอ้หมอมันรู้อยู่แล้วแต่ก็...

“ซิน เดี๋ยว...”

คนที่โดนเดี๋ยวเป็นรอบที่สองใช้ตาเรียวๆมองไอ้หมอที่บัดนี้โดนลวนลามจนแดงไปทั้งตัวก่อนจะพูด

“สงสารผมบ้างนะครับ”

แว่นมองใบหน้าคมๆที่ชื้นผุดพรายอยู่เต็มพื้นที่ ริมฝีปากบางสีแดงจัดขบเม้ม ดวงตาคมนั่นจับจ้องใบหน้าของแว่นอยู่ไม่วางตา...เพียงแค่นั้นแว่นก็ยอมให้เขาลวนลามต่อ มือใหญ่ของนายซินจับอยู่ตรงสะโพกของหมอก่อนจะค่อยๆไล้มาข้างหน้าเพื่อปลดตะขอกางเกงสแล็คของอีกคนออก แว่นผู้ปกติหน้าด้านแต่ตอนแบบนี้หน้าบางเกินไปหลับตาปี๋ซุกหน้าเข้ากับไหล่อีกคนแทน

 “บีมครับ...”

อีกคนเรียกแล้วจูบอีกครั้ง...และอีกครั้ง ราวกับกำลังสูบวิญญาณอีกคนก็ไม่ปาน นายซินลำบากเล็กน้อยที่ต้องถอดกางเกงอีกคนที่นั่งทับอยู่บนตักจึงทำแค่เพียงรูดซิปนั่นลง คุณมือเบสไล้มือมาตั้งแต่ริมฝีปากของอีกคนจนมาถึงยอดอกสีสดลามไปถึงชั้นในสีขาวที่บัดนี้ชุ่มจนเป็นวงกว้าง เพียงซินล้วงมือเข้าไปในนั้นอีกคนก็สะดุ้งเฮือก แว่นเหลือบมองอีกคนหวาดๆ ใครคนนั้นจับมือมันไปวางที่บางอย่างที่พองจนดันกางเกงผ้าบางออกมา

“นะครับ...”

หมอบ้าไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ไล้มือเขาไปในนั้นแล้วจัดการใช้อีกมือดึงกางเกงที่เกะกะของอีกคนลง


                           ในมวลอากาศที่เย็นจัดเพราะเครื่องปรับอากาศ หมอกลับรู้สึกว่าริมฝีปากที่เกี่ยวกระหวัดกันอยู่และฝ่ามือของคนทั้งสองที่รูดรั้งความปรารถนาให้กันกลับร้อนระอุจนเหงื่อซึมออกมาราวกับอาบน้ำ ไม่นานนักอีกคนก็ถอนใบหน้าออก นัยตาเรียวที่วาววับจ้องมาที่ตัวหมอราวกับว่าเป็นของกิน... นายซินซุกหน้าลงบนคอของแว่น ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่กับซอกคอพร้อมกับส่งเสียงครางต่ำๆไม่นานนักฟันขาวก็กัดลงที่ตรงซอกคอตรงนั้นแรงๆก่อนที่ร่างกายจะกระตุกพร้อมกัน หมอที่กำลังหายใจหอบรัวซบหน้าลงบนไหล่ของอีกคนเช่นกัน ในเวลาแค่ชั่วครู่นายซินดันตัวหมอลงพร้อมถอดกางเกงตัวตัวมันและอีกคนให้เป็นชีเปลือยแล้วแทรกตัวเองลงมา ก่อนที่อีกคนจะพูดอะไรคนที่อยู่ข้างบนเอื้อมมือไปหยิบของจากโต๊ะข้างเตียง เจลสีใสที่หมอรู้ดีว่าคืออะไรถูกเทลงบนปลายนิ้วของอีกคนจนกระทั่งปลายนิ้วเข็งแร็งนั่น...

“ซิน...เจ็บ”

หมอผู้ซ่อนใบหน้าตัวเองไว้ใต้ฝ่ามือสองข้างประท้วงออกมา นายซินก้มลงไปจูบเบาๆที่หลังมือของอีกคน จนในที่สุดใครคนนั้นยอมเปิดหน้าให้เห็นแต่ก็ยังหลับตาปี๋ มือเบสหัวเราะในลำคออย่างถูกใจก่อนจะก้มลงไปจูบเปลือกตาสองข้างนั่นเบาๆ

“บีมมองผมนะ...”

ใครคนนั้นใช้ตาที่แดงก่ำมองเข้ามาในตาของมัน

“อย่าเกร็งนะครับ มันไม่เจ็บหรอก...เชื่อผมนะ”

แว่นมองตาเรียวของอีกคนนิ่งอย่างกับว่าแค่คำพูดนั่นจะช่วยให้หายเจ็บจริงๆ พร้อมกันนั้นนิ้วมือของอีกคนก็สอดแทรกเข้ามาอีกครั้ง...และอีกครั้งซ้ำๆ ความเย็นจากเจลสีใสทำเอาหมอผวาอยู่สองถึงสามรอบ ซึ่งเมื่อมองจากหน้าตาพึงพอใจและรอยยิ้มมุมปากของอีกคนแล้วหมอก็พอรู้ว่าความรู้สึกแปลกๆในร่างกายที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ใช่แค่ความเย็นจากเจลเสียแล้ว...

ในหระว่างที่ริมฝีปากอิ่มของของหมอถูกนายซินขบและแลบเลียอยู่ซ้ำๆ เรียวขาของคนที่อยู่ด้านล่างก็ถูกแยกออกให้กว้างกว่าเดิม นายซินค่อยๆกดบางสิ่งลงในตัวของอีกคน มันกดเสียงครางต่ำไว้ในลำคอเมื่อการสอดแทรกไปถึงสุดทาง ซินไม่รู้ว่าเล็บของอีกคนที่จิกบนบ่าเจ็บแค่ไหน ไม่ได้รู้ว่าตัวเองทำหน้าตายังไงออกไปในตอนนี้ มันรู้แต่เพียงว่าสัญชาตญาณของมันในยามนี้...อยาก...จนน่ากลัว

   หมอผู้หายใจได้ไม่ทั่วท้องนักเมื่อรับบางสิ่งในตัว...มันคับแน่นและจุกเสียดในเวลาเดียวกัน แว่นค่อยๆกวาดมองใบหน้าอีกคนที่หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น เพียงไม่นานหมอก็ต้องเบือนหน้าหลบตาเมื่อใครคนนั้นเริ่มขยับตัวจากเชื่องช้าจนค่อยๆเร็วขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อจากร่างกายคนข้างบนหยดลงบนร่างกายมันหยดแล้วหยดเล่า แขนข้างที่มีรอยสักอยู่เต็มลูบหน้าผากมันเบาๆก่อนที่เจ้าของแขนข้างนั้นจะก้มลงมาใช้ลิ้นแลบเลียยอดอกสองข้างของมัน หมอหลุดเสียงครางอย่างช่วยไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะมันไม่เคยสังเกตุหรือไม่รอยสักตรงหลังใบหูนั่นอีกคนคงพึ่งไปสักมา มันจึงเผลอใช้มือลูบรอยนั้นอยู่ซ้ำๆรอยสักที่เป็นชื่อจริงของมันเอง... บีมพอเข้าใจเอ้ขึ้นมานิดหน่อยว่าทำไมผู้ชายลุคแบดกายส์ถึงทำร้ายใจได้มากมายนัก...

“ไอ้บ้า...”

แว่นโพล่งออกมาไม่เต็มเสียงเพราะมัวแต่หลุดเสียงน่าอายออกมา ใครคนนั้นหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะสบตามันนิ่ง...แล้วก็ทำแค่ยิ้มกว้างให้ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาจูบพร้อมกับแรงขยับที่มากขึ้น หมอบิดกายและพยายามผลักอีกคนนออกเมื่อแรงอารมณ์ของตัวเองกำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุด แต่ไอ้หล่อกลับตรึงมือของหมอไว้ด้วยมือของตัวเองแล้วขยับตัวเองให้เร็วขึ้นอีกจนร่างของอีกคนกระตุกหลายๆครั้งเป็นเวลาเดียวกับที่นายซินก้มลงกัดที่แผลเก่าของอีกคนพร้อมกับปลดปล่อยอารมณ์ความต้องการของตัวเองลงไปในร่างของคนด้านล่างโดยไม่ยอมปล่อยมือของอีกคนออกมาด้วยซ้ำ... แว่นผู้หายใจไม่ทันนอนหอบให้อีกคนนอนทับอยู่นิ่งๆจนเมื่อสติกลับมาสมบูรณ์แล้วถึงรู้สึกเจ็บที่คอของตนเอง แว่นตวัดตามองไอ้หมาบ้าหน้าหล่อที่ยิ้มจนตาหยีอยู่ตรงหน้า แต่กลับเหมือนมันไม่รู้จักไอ้หื่นขี้แกล้งคนนี้แม้แต่น้อย

“นี่ใครวะ คายไอ้ซินออกมานะเว้ย”

แว่นจับไหล่ไอ้คนข้างหน้าเขย่าแก้เจ็บและแก้เขิน บอกไว้เลยว่าเมื่อกี้ที่โดนกัด...มันโกรธไม่ลงแม้แต่น้อย มันแพ้ไอ้ซินจริงๆให้ตายเถอะ! เพราะนายซินคงรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยเลยจับอีกคนฟัดทั้งตัวอีกรอบ? แว่นเลยทั้งเตะทั้งถีบแบบไม่ค่อยมีแรงดูวุ่นวายไปหมด

 “ฮ่าๆ”

นายซินหัวเราะร่าเมื่อจับแว่นให้อยู่นิ่งๆได้ ใช้กำลังกับไอ้หมอเพี้ยนไร้ทางสู้นี่ความถนัดพิเศษของไอ้หล่อเลยทีเดียว

“มองทำไม”

แว่นถามเมื่ออีกคนเอาแต่มองมันไม่วางตา รวมถึงมองรอยกัดที่เริ่มแดงบนซอกคอด้วย

“รู้ไหม ผมมีความสุขจนจะตายอยู่แล้ว”

หมอแยกเขี้ยวให้ทั้งที่หน้าแดงก่อนจะพูดบ้าง

“วันนี้มึงเป็นอะไรวะ ดูแปลกๆ”

แว่นจะบอกว่าหื่นแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ส่วนนายซินก็ตอบแบบหน้ามึนๆเช่นเดิม

“ทดเวลาที่หายไปไง”

พอว่าเสร็จก็กดจูบลงกับซอกคอของหมอที่ตัวเองกัดไว้พร้อมกับใช้ลิ้นร้อนๆแลบเลียไปด้วย หมออ้าปากค้างกว้างอย่างนึกเหตุผลจะด่าไม่ออก ก่อนอีกคนจะรวบตัวเข้าไปกอดทั้งตัว

“บีมเป็นโรคหัวใจเหรอ”

ไอ้หล่อแซวเมื่อเสียงหัวใจอีกคนดังจนกลับเสียงเครื่องปรับอากาศในห้อง โดยไม่ได้สำนึกว่าเป็นเพราะมันตัวเอง

“กูจะหัวใจวายตายแล้ว เต้นจังไอ้หัวใจเหี้ยนี่...”

ว่าแล้วพี่แกก็ซุกลงไปตรงอกชาวบ้านชาวช่องแล้วไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาอีกเลย แต่ก็พาลส่งเสียงออกมาอีกเมื่ออีกคนยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดหัวเราะ

“มึงก็หยุดขำสักที”

นายซินพยายามแล้วนะแต่มันทำไม่ได้ ก็หมอมันจี้เองนี่หว่า


____________________________________________________________________

TBC.


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2015 21:40:38 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ arty136

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบอ่ะ

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
น่ารักอ่ะตอนนี้
บ้านซินน่ารักทุกคนเลย

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อุกรี๊ดดดด

ทนได้ไงเนี่ย อร็อค ตายสนิท ฟินนะ แต่ไม่สุด :o12:
 :z3: :sad4: :fire:
ทำเราค้าง มาต่อเร็วๆเลยนะ 5555 :haun4:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
5555555555555555555555

โอ๊ย ครึ่งแรกเครียด แต่ครึ่งหลังขำเกิ๊นนน
ป๊าม๊าน่ารักจัง แต่ก็นะ รู้ว่าลูกชอบแนวไหนมานาน แค่พาแฟนมาบ้านไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เปิดตัวสุดแรงมากเลย
ไม้เดียวจบว่าสะใภ้

แต่หมอบีมหน้าเด็กมากเลยสิเนี่ย ขนาดว่ามองเป็นเด็กมัธยม เวลาใส่เสื้อกาวน์คงดูน่ารักมาก อิอิ

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
หาไม้มาช่วยสอยนายซิน สงสัยค้างน่าดู :z1:
หมอบีมทำใจเร็วหน่อยนะ
ครอยครัวซินน่ารักดี ยอมรับในสื่งที่ลูกเป็น o13

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ฮิ้วๆๆๆ ซินค้างเลยยยยย

แต่คนอ่านก้ค้างนะ 55555


 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :ling1:อ๊ากกกกกกก อีกนิดเดียวเอง!!!!

 :laugh: ไม่ค่อยหื่นเลย เอิ๊บส์!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
แง้แว่นอ่ะ ยอมๆซินเหอะ
สงสารซินอ่าาา

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ครอบครัวน่ารักดีนะ เข้าใจลูก

บีมเกือบได้เป็นสะใภ้เต็มตัวแล้ว
ไม่น่าถีบซินเลย ทำซินค้าง
น่าสงสารจังเลย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
สงสารซินมากอ่ะตอนนี้  :m20:
หมออย่าให้ซินรอนานนะ เดี๋ยวโดนหนักกว่าเก่าอีก จะหาว่าไม่เตือน :laugh:
มีความสุขอะ ที่บ้านซินก็น่ารักทุกคนเลย หมอบีมมีความสุขมากๆนะ อวยพรล่วงหน้า :impress2:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
บอกเลยยยยยโครตสงสารซินนนนน  :angry2: :angry2: ไอ้หมอบ้า ทำตรูอารมณ์ค้างไปด้วย

ซินครบสองเดือนเมื่อไหร่จัดหรัดจัดเต็ม ฟ้าเหลืองแผ่นดินสะเทือนไปเลยลูก

คึคึ


ว่าแต่ขอ  :beat: ตบกะบาลไอ้ซินอีกที คือไม่รู้คุณมึงจะทำตัวมีปัญหาทำไม คือพ่อแม่พี่ รักมึงมาก ไอ้เด็กบ้าาาา

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
บร๊ะ
จะวันนี้ หรือวันไหน  ปลายทางมันก็เหมือนกันนะหมอ
ดังนั้นนนนน    :haun4:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
บ้านน้องซินน่ารักทั้งบ้านเลย
พี่หมอเกือบโดนกินละ ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ฮ่าๆๆๆๆ บีมยังฮาเหมือนเดิมและก็ยังน่ารักเหมือนเดิม

ดีใจนะที่ซินจบเรื่องของบิ๊กได้ มิเช่นนั้นแล้วคงยุ่งกว่านี้

รอตอนต่อไปค่ะ เอ๊ะหรือตอนหน้าจะเป็นสองเดือนต่อจากนี้ หุหุ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
หึหึหึ

อีกไม่นาน

คนอ่านรอได้ ก๊ากกกกกกกกกกกกกก :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่หมอป๊อดว่ะๆๆๆๆแบร่ๆๆๆๆ
อีกสองเดือนโดนจัดหนักแน่

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
 o9 o9

หมอบีมขอเวลานานไปป่ะ...อกจะแตกแทนน้องซิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด