<< รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>  (อ่าน 94893 ครั้ง)

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
หนีไปอยู่ด้วยกันสองคนเลยสบายใจดี
แต่คุณพ่อก็คงมีเหตุผลนั้นแหละ

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จะไปอยู่ไหนกันล่ะนั่น

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove



                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา


                        บทที่ 13


รถสปอร์ตคันหรูที่ใครๆต้องเหลียวมองขับเคลื่อนมาด้วยความเร็วสูง

ในช่วงบ่ายที่ใครๆก็ต้องนำยานยนต์มาวิ่งบนท้องถนน

นวัตกรรมความเร็วขับเคลื่อนลัดเลาะปาดซ้ายขวาโดยไม่เกรงกลัวจะพุ่งเข้าชนใครทั้งสิ้น

ราวกับคนในนั้นก็ไม่ได้ห่วงชีวิต

แต่ภายในรถกลับมีเสียงตะโกนอยู่ดังลั่น มันเป็นเสียงของหนุ่มตาชั้นเดียวที่โหวกเหวกโวยวายด้วยความตกใจ

“เฮ้ย ๆๆๆ เบาๆๆ กันดั้ม เบา โอ๊ยๆๆ จะชนแล้ว เฮ้ย”

อธิศนั่งตัวเกร็งและหลับตาแน่นทุกครั้งที่เจ้าหนุ่มตาหวานเหยียบคันเร่งปาดรถคันอื่น

ธีทัตขมวดคิ้วด้วยความรำคาญใจ เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวที่นั่งข้างๆ ไม่เคยรู้จักสมรรถนะ ความเร็วระดับนี้บ้างหรือ

อย่างไรนะ รู้ไหมว่ามาตะโกนข้างๆกันอย่างนี้มันเสียสมาธิแค่ไหน

ธีทัตปรายตามองคนที่นั่งมาด้วยแวบหนึ่ง และเมื่อเขาหันกลับไปมองเบื้องหน้าก็ต้องตกใจสุดขีด

เบื้องหน้าเป็นสี่แยกที่ไม่มีไฟสัญญาณจราจร แล้วตอนนี้มีรถบรรทุกคันใหญ่ ขับพุ่งตรงมาจากด้านขวา

ธีทัตขับรถมาเร็ว และใกล้เกินกว่าที่จะเหยียบเบรก เขาตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวไปทางซ้าย

รถเสียหลักเกือบพุ่งลงข้างทางแต่ธีทัตพยายามประคองไปได้อีกช่วงหนึ่ง ก่อนที่รถจะหยุดลงที่ริมถนน

ศีรษะของอธิศพุ่งไปชนกระจกรถด้านหน้าดังตุ๊บ เขาร้องดังลั่น พลางใช้มือนวดคลำหน้าผาก

ธีทัตนิ่งอึ้ง เขาเองก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน มือสองข้างกำพวงมาลัยรถแน่น เหลือบตามองเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียว

อย่างขอลุแก่โทษ

อธิศสบถดังลั่นด้วยความโมโห ก่อนจะหันหน้ามาต่อว่าคนขับเสียงดัง

“เล่นบ้าอะไรเนี่ย กันดั้ม อยากตายนักหรือไง เห็นหรือเปล่าว่ามันอันตราย”

ธีทัตเงียบเสียงไปไม่ตอบโต้ จนอธิศเองก็แปลกใจ

“ผมขอโทษนะ”

ธีทัตเอ่ยมาอย่างแผ่วเบา หน้าเสียจนคนต่อว่าเองก็สงสาร

“ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี”

อธิศอดรนทนไม่ได้ จึงถอนหายใจแรงๆมาเสียหนึ่งที ก่อนพยายามทำจิตใจให้เป็นปกติ แล้วจึงพูดขึ้น

“แต่การทำอย่างนี้ไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้น ซ้ำร้ายยังทำให้แย่ลงไปอีก ถ้าเกิดเมื่อครู่เบรกไม่อยู่จะเกิดอะไรขึ้น

พ่อคุณก็ต้องเสียลูกชายไปหนึ่งคน...”

“หยุดพูดถึงคนคนนั้น”

ธีทัตตะโกนสวนตั้งแต่อธิศพูดยังไม่จบประโยค ธีทัตพิงศีรษะกับเบาะรถ และใช้สองมือปิดหน้า

“เค้าไม่เคยรักผมหรอก ไม่เคยใยดี เค้าไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเค้า”

ไหล่ที่เคยผึ่งผายบัดนี้ลู่ลงและสั่นไหวเหมือนกับไม่สามารถที่จะแบกรับอะไรได้อีกแล้ว

อธิศมองภาพตรงหน้าด้วยความสะท้อนใจ นี่เองคือตะกอนที่อยู่ในใจผู้ชายตรงหน้า

ตะกอนที่เหมือนนอนนิ่งที่ก้นหลุม วันใดถูกกวนให้ฟุ้งขึ้นมาก็พร้อมที่จะทำให้น้ำใสนั้นขุ่นมัว

เขาเอื้อมมือไปบีบที่ไหล่ของธีทัตอย่างเห็นใจ ธีทัตปล่อยมือที่ปิดหน้าออกแล้วหันมาสบตา

เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ตรงคอ พูดอะไรไม่ออกเมื่อได้เห็นแววตาที่เห็นใจ เข้าใจจากหนุ่มตาชั้นเดียว

น้ำที่อดทนกักเก็บอยู่ในใจ ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก อธิศคว้าตัวเจ้าหนุ่มหน้าหวานมากอด

ธีทัตสะอื้นเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เขาร้องไห้อยู่ภายใต้การปลอบใจของผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก

แม้หัวนอนปลายเท้า

ร้องอยู่พักใหญ่จนไม่มีน้ำตาอธิศก็ดันตัวเขาออกมาจากอ้อมกอด พลางใช้มือลูบที่ท้ายทอยของธีทัต

“ดีขึ้นไหม”

หนุ่มตาชั้นเดียวเอ่ยถามเสียงอบอุ่น ธีทัตพยักหน้าน้อย ๆ ก้มลงใช้คอเสื้อของตนเป็นที่เช็ดคราบน้ำตา

“แล้วคราวนี้จะสงบสติอารมณ์เล่าให้ฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

อธิศเอ่ยถาม

“เค้าจะส่งผมไปอเมริกา ผมไม่อยากไป”

ธีทัตกล่าวโดยสรุป

“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ”

อธิศพึมพำ

“ผมยังไม่อยากกลับบ้าน อยากไปไหนไกลๆสักพัก”

ธีทัตเอ่ยขึ้น อธิศไม่รู้จะห้ามอย่างไรเพราะรู้ว่าน้ำเชี่ยวไม่ควรเคลื่อนเรือไปขวาง เขานิ่งคิดก่อนตัดสินใจ

“งั้นเอาอย่างนี้ ไหนๆ คุณก็มั่วขับมาถึงตรงนี้แล้ว เดี๋ยวผมจะพาคุณไปเองรับรองคุณต้องชอบ”

หนุ่มตาชั้นเดียวเอ่ยเสียงสดใส ธีทัตมองเป็นเชิงถาม

“น่า เดี๋ยวก็รู้เอง แต่ผมไม่ให้คุณขับรถแล้ว อันตรายสำหรับชีวิตผมมาก เดี๋ยวคุณมานั่งฝั่งนี้”

อธิศจัดแจงเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาฝั่งคนขับ

เขาเปิดประตูแล้วดึงธีทัตออกมา พลางโบกมือไล่ให้หนุ่มหน้าหวานเดิมอ้อมไปนั่งแทนที่เขา

ธีทัตทำตามอย่างงงๆ

อธิศเข้านั่งประจำที่คนขับ  ถูมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันเป็นทำนองว่าพร้อมแล้ว

“พร้อมที่จะออกเดินทางไปกับกัปตันอธิศแล้วก็ไปกันเลย”

ชายหนุ่มตาชั้นเดียวยิ้มอีกครั้งแล้วนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหันไปหา ธีทัต



“ว่าแต่รถของคุณสตาร์ทยังไงเหรอ”





ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
อธิศเท่ห์ได้ไม่นาน มาตกม้าตายซะงั้น
รึว่ามันเป็นมุกชวนขำ เหอๆๆ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
5555จะไปกันรอดมั้ยเนี่ย กันเอ้ยพ่อเค้าคงมีเหตุผลแหละ อย่าคิดมากๆ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
นี่จะรอดถึงที่หมายมั้ย555555555555555555555555

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
เกือบล่ะ เกือบจะเท่ห์แล้ว  555555555

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove





                        รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                            บทที่ 14


ดวงไฟดวงใหญ่กำลังจะตกจากท้องฟ้า ความมืดเริ่มเข้ามายึดพื้นที่ ยังคงมีแสงสีแดงเรื่อจางๆอยู่ริมขอบฟ้า

ทิศตะวันตก แสงดาวระยิบระยับเริ่มโผล่พ้นความมืดเข้ามาอวดแสงเรียงราย และอากาศเริ่มเย็นลงแม้จะเป็น

ช่วงปลายฝนต้นหนาว

รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนที่มาอย่างช้าๆ เข้ามาจอดตรงหน้าบ้านสองชั้นหลังใหญ่ที่บริเวณชั้นล่าง

เปิดโล่งและมีเคาน์เตอร์ยกสูงอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ราว

5-6โต๊ะ


ธีทัตเอียงหน้าไปมองคนขับจำเป็นที่กำลังทำท่าภาคภูมิใจที่สามารถบังคับรถมาถึงที่หมาย

ได้อย่างปลอดภัยแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้

จากหัวเราะน้อยๆ ธีทัตเริ่มส่งเสียงดังขึ้นจนถึงขั้นเอากุมท้อง อธิศเหล่ตามอง

“ขำอะไรขนาดนั้น ผมไม่ใช่เท่ง เถิดเทิงนะคุณ”

“คุณขับรถผมมาเขาใหญ่ ด้วยกำลังรถขนาดนี้ ผมเคยขับชั่วโมงเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณ...”

ธีทัตชี้หน้าอธิศ

“คุณใช้เวลาขับสามชั่วโมงกว่า ด้วยความเร็วไม่เกิน80กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณทำลายสถิติความช้ามาก พี่ซัน”

อธิศเหล่มองเจ้าหนุ่มตาหวานอีกครั้ง ก่อนทำเสียงค่อนขอดอยู่ในลำคอ

“เฮอะ..แล้วมันปลอดภัยไหมล่ะ ถ้าให้คุณขับ ป่านนี้ไม่ถึงหรอกเขาใหญ่น่ะ คุณได้ไปเที่ยวเขาไกรลาศแน่

ไป ลงรถคืนนี้เราจะพักกันที่นี่แหละ”

ว่าแล้วอธิศก็เปิดประตูรถเดินนำเจ้าหนุ่มหน้าหวานเข้าไปที่เคาน์เตอร์ชั้นล่างของตัวบ้าน

“ป้าสมบูรณ์สวัสดีคร้าบ”

ชายหนุ่มตาชั้นเดียวส่งเสียงดังเอ่ยทักหญิงกลางคนตัวท้วมที่ยืนคุมเคาน์เตอร์แต่ไกล

หญิงร่างท้วมเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อเห็นว่าเป็นอธิศ

“ต๊าย พ่อซัน ลมบ้าหมูหอบมาถึงนี่เลยนะ สบายดีหรือเปล่า”

ป้าสมบูรณ์เจ้าของรีสอร์ทเอ่ยตอบเสียงดังอย่างคุ้นเคย

“ป้าครับ ไม่ต้องถึงขั้นลมบ้าหมูมั้งครับ แค่ลมคิดถึงก็พอ”

อธิศสวมกอดสาวร่างท้วมอย่างสนิทสนม

“แล้วมากันกี่คนล่ะนี่ ป้าจะได้เตรียมบ้านให้ถูก”

ป้าสมบูรณ์เอ่ยถาม

“มากันแค่สองครับ กัน มานี่สิ”

เขากวักมือเรียกเจ้าหนุ่มตาหวานแล้วเอ่ยแนะนำ

“นี่ คนนี้เลย ป้าสมบูรณ์เจ้าของรีสอร์ทแสนสวยที่นี่ แล้วก็นี่ ป้าครับคนนี้ชื่อกันดั้ม”

ธีทัตยกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัยอย่างเก้ๆ กังๆ เนื่องด้วยตลอดชีวิต ไม่เคยต้องยกมือไหว้ใคร

ป้าสมบูรณ์รับไหว้ด้วยความเอ็นดู

“งั้นเดี๋ยวจัดหลังบนเขาให้นะ”

หญิงร่างท้วมหันกลับมาเอ่ยกับหนุ่มตาชั้นเดียว

“โอ๊ย..หรูไปไหมครับป้า หลังนั้นน่ะ”

ชายหนุ่มท้วงขึ้น ป้าสมบูรณ์รีบยกมือห้าม

“ช่วงนี้มันปลายฝนยังไม่มีแขกมากเท่าไหร่ ซันไปอยู่เถอะ นานๆมาที”

อธิศยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะเอ่ยอีกเรื่อง

“ป้าครับ ถ้าไม่รบกวนเกินไป วันนี้มากะทันหันจริงๆ ผมกับกันดั้มไม่มีอะไรมาเลย รบกวนป้าเรื่องนี้ได้ไหม”

“ได้สิลูก เดี๋ยวป้าจะเอาเสื้อผ้าของลุงไปให้นะ แล้วซันก็เอาชุดเก่ามาให้ป้าซักให้”

เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้ง ป้าสมบูรณ์จึงได้เรียกเด็กมาพาสองหนุ่มไปที่พัก





ธีทัตเดินสำรวจรอบบ้านพักหลังเล็กกะทัดรัดที่อยู่บนเนินเขาอย่างพอใจ

ตัวบ้านแต่งแบบคาวบอย และมีระเบียงอยู่ด้านนอกเพื่อให้แขกที่มาพักออกมานั่งชมบรรยากาศฟาร์มกว้าง

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทได้  ตัวบ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกันพอควรทำให้ดูเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ

ธีทัตเอียงหน้าไปมองอธิศที่กำลังรับเสื้อผ้ามาจากเด็กที่ป้าสมบูรณ์ส่งมาก่อนที่จะปิดประตูบ้าน

“พี่ซันมาที่นี่บ่อยหรือ”

ธีทัตเอ่ยถาม

“ตอนสมัยเรียนมาตลอดแหละ มาจนสนิทกับเจ้าของ”

อธิศตอบกลับก่อนมองมาทางเจ้าหนุ่มตาหวาน

“อยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าจะสบายใจแล้วกลับไปเผชิญหน้าความจริง”

ธีทัตสีหน้าสลดลงเมื่อต้องกลับมาคิดถึงปัญหาของตน

อธิศจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“คุณเข้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ ที่นี่กลางคืนอากาศเย็นเดี๋ยวจะเป็นหวัด”





พระจันทร์ข้างขึ้นลอยส่องแสงสว่างอยู่กลางผืนพรมสีดำ ล้อมรอบไปด้วยเกล็ดระยิบจากดวงดาว ราวกับเพชร

เม็ดเล็กประดับประดาให้ผืนผ้าสีดำแห่งรัตติกาลงดงามอย่างที่ธีทัตไม่เคยได้เห็นชิดใกล้แบบนี้

หนุ่มตาหวานยืนเกาะระเบียงไม้ที่ยื่นออกมานอกตัวบ้านมองบรรยากาศอย่างหลงใหล

เขาไม่เคยได้มาเที่ยวในสถานที่แบบนี้มาก่อน

ตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กจนเป็นวัยรุ่น เขาเดินทางไปต่างประเทศทั่วโลกชั้นนำมาเกือบทุกที่

แต่ไม่มีที่ไหนที่ทำให้เขารู้สึกสงบลง และอยากที่จะอยู่นิ่งพักเรื่องทุกอย่างได้อย่างที่นี่

ใกล้เมืองหลวงแค่นี้ เหมือนปากกับจมูก ชายหนุ่มอมยิ้ม

ใจลอยไปถึงเรื่องที่เกิดเมื่อตอนบ่าย รอยยิ้มที่ตนเองเป็นคนจุดขึ้นมาก็ดับลง

เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์อันเลวร้ายลงเรื่อยๆ ระหว่างตนกับผู้เป็นบิดา



สายลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่าน อากาศกลางหุบเขาเริ่มทำให้รู้สึกเย็นชื้น

ธีทัตยืนห่อไหล่ด้วยความหนาวเพราะใส่เพียงเสื้อยึดตัวบาง



ผ้าคลุมผืนบางถูกนำมาวางไว้ให้บนไหล่ทั้งสองข้าง

ธีทัตรู้สึกอุ่นวูบแปลกๆ เหมือนคนที่นำมาให้จะส่งผ่านความอบอุ่นมาทางผืนผ้าผืนนั้น






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2014 13:24:41 โดย Belove »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :ling1:รอ :katai5:

ออฟไลน์ bb_b

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
รอจ๊า  น้องกัน คุณพ่อรักหนูนะ ท่านแค่แสดงออกไม่เก่งเอง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สนุกมากเลยคะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่ซันอบอุ่น อิอิ

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ชอบๆ มาต่อเร็วๆนะคร้าบ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่ซันดูแลดี๊ดี

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove




                  รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา


                       บทที่ 15


ธีทัตมองตามผ้าคลุมผืนนั้นไปจนถึงมือเรียวที่จับชายผ้า ความรู้สึกอบอุ่นส่งผ่าน

ราวกับคนที่เขยิบมายืนเกาะระเบียงอยู่ข้างๆจะเป็นตัวนำไฟฟ้า

แปลกที่รู้สึกสั่นไหวไปกับการกระทำเพียงแค่เล็กๆน้อยๆของผู้ชายคนนี้

ผู้ชายธรรมดาที่ดูจะเซ่อซ่าไม่น้อย

แต่เมื่อต้องอยู่ด้วยกัน กลับทำให้เขายิ้มและหัวเราะได้อย่างไม่ขัดเขิน

“เห็นมายืนชมวิวยามดึกอยู่นานแล้ว น้ำค้างลงเดี๋ยวจะเป็นหวัด

อธิศเอ่ยขึ้น เขาไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันที่มีเจ้าหนุ่มตาหวานอยู่ในสายตาตลอดเวลา

คิดไปถึงเหตุการณ์ที่ต้องตกกระไดพลอยโจนให้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เพียงแค่ไม่กี่วัน

ที่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง

จริงๆจะกลับไปอยู่คอนโดตนเองก็ได้ อธิศมั่นใจว่าจะไม่มีอันตราย เพราะคนที่มีเรื่องคราวนั้น

ไม่ได้เห็นใบหน้าของเขา

แต่ก็ตัดใจออกจากบ้านหลังใหญ่ไม่ได้ก็เพราะหนุ่มน้อยคนนี้ต่างหาก

เด็กที่ถูกบังคับโตก่อนวัย ราวกับมะม่วงบ่มแก๊สให้สุกเร็วขึ้น ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ

มันเกิดความรู้สึกอยากปกป้องอยากดูแลอย่างที่ไม่เคยเกิดกับใคร

ทำได้แม้กระทั่งพาเจ้าหนุ่มนี่หนีพ่อกันมาถึงกลางขุนเขา

“ที่นี่สวยดี และสงบมาก

ธีทัตเอ่ยทำลายความเงียบ 

“ผมไม่เคยเห็นดวงจันทร์ที่ไหนสวยเท่าที่นี่มาก่อนดาวที่นี่ก็ดูดวงใหญ่มาก มันขัดเจนไปหมด

เหมือนกับผมสามารถเอื้อมมือไปจับมันลงมาได้

ธีทัตเงยหน้ามองไปที่ดวงจันทร์แล้วรำพึงเบาๆ  อธิศหันตัวกลับและใช้ระเบียงไม้เป็นที่พิง

เพื่อหันหน้ามาสบตากับธีทัต

“คุณอยากขออะไรจากดวงจันทร์ไหม

อธิศเอ่ยถาม  เจ้าหนุ่มตาหวานอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะแค่นยิ้ม

“พี่ซันว่าผมควรจะขออะไรล่ะ ควรจะขอแก้วแหวนเงินทอง หรือขอช้างขอม้า

ธีทัตกลืนก้อนสะอื้นลงคอ

“เงินทองผมก็มีเหลือเฟือ ไม่มีช้างไม่มีม้า แต่ผมมีรถสปอร์ต

เจ้าหนุ่มตาหวานพูดราวกับประชดตัวเอง

เขาแหงนหน้ามองดวงจันทร์อีกครั้ง 

“ถ้าดวงจันทร์ให้ได้จริง ผมแค่ต้องการใครสักคน ที่พร้อมจะให้ความรักกับผมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

คนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างเวลาที่ผมล้ม ก็แค่นั้นเอง ดวงจันทร์จะให้ได้หรือเปล่า

ธีทัตหันมาสบตาอธิศ

“คุณก็ลองอธิษฐานดูสิ ความจริงอาจจะส่งมาแล้วแต่คุณไม่รู้ตัวก็ได้

อธิศยิ้มให้ตาหวานๆคู่นั้น

“คุณเชื่อเรื่อง soulmate ไหม”

หนุ่มตาชั้นเดียวตั้งคำถามขึ้นมาอีก




“คนที่คุณคุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกันและกันไปทุกๆชาติ คนที่คุณรู้ว่าเขาเกิดมาเพื่อคุณ

ผมเชื่อนะว่ามันมีจริงแล้วผมก็เชื่อว่าคุณจะพบคนๆนั้นจนได้

ทำไมจะไม่เชื่อ ...ธีทัตตะโกนในใจ เขาหลับตาลงเหมือนจะไม่อยากให้คนตรงหน้ามองเห็นความจริง

ในแววตาและความรู้สึกที่ลึกล้ำ


ก็ไม่ใช่เพียงแค่แวบแรกที่สบตาในคืนวันนั้น แล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกหรือ ที่ทำให้เขาและอธิศ

ได้มายืนอยู่ตรงนี้

เพียงแต่อธิศ เป็นผู้ชาย เช่นเดียวกันกับเขา ความรู้สึกผิดธรรมชาติคอยย้ำเตือนตัวตนมาตลอดหลายวันว่ามัน

ไม่ใช่ ธีทัตไม่อยากจะยอมรับความจริง

ถึงแม้บิดาจะมีเบื้องหลังอยู่ในอิทธิพลมืด แต่เบื้องหน้าครอบครัวก็มีธุรกิจอื่นๆ

เขาเองก็เป็นหนุ่มน้อยเนื้อหอม เซเลปในวงสังคมที่ผู้หญิงต่างก็วิ่งเข้าหา

แต่หากไม่เคยมีใครในนั้นที่คิดจะผูกพัน หรือคิดว่าใช่คนที่เขาตามหา


ความรู้สึกนั้น ดันมาเกิดกับคนๆนี้ เขาอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเสียตรงนี้

ยิ่งอุบัติเหตุที่ทำให้ได้ชิดใกล้ในคืนแห่งพายุฝนยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ ว่าตัวธนทัตเองไม่ได้รังเกียจ

ซ้ำยังโหยหาอย่างแปลกประหลาด

“ดึกแล้ว น้ำค้างลงหนักคุณควรเข้าไปพักผ่อน

อธิศเอ่ยก่อนขยับตัวยืนตรงเต็มความสูง เขาเอื้อมมือไปจับกระชับชายผ้าคลุมที่พาดผ่านไหล่สองข้าง

ของธีทัตให้กระชับแน่น แล้วหยุดนิ่งอยู่ท่านั้น

เขายังไม่อยากปล่อยมือจากหนุ่มน้อยที่ยืนเผชิญหน้า มือเรียวที่จับกระชับผ้าผืนนั้นค่อยๆเลื่อนไปจับ

ที่ต้นแขนทั้งสองข้างก่อนดึงเข้ามาชิดใกล้

สบตากับธีทัตแล้วก่อให้เกิดความรู้สึกมากมาย อยากจะใกล้ชิดแนบสนิทอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร

ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปัดปอยผมที่ตกมาระหน้าผาก เพียงแค่นี้ก็เกิดแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างกัน

ยิ่งดึงหนุ่มตาหวานมาใกล้ชิดมากขึ้น จนใบหน้าระหว่างกันลดช่องว่างเหลือไม่ถึงคืบ

อดใจไม่ไหวที่จะโน้มใบหน้าไปที่ธีทัต หวังที่จะทำตามอำเภอใจ

ธีทัตเอียงหน้าหลบอย่างไม่ทราบสาเหตุ ริมฝีปากของเขาจึงประทับได้แค่ขมับและไรผมนุ่ม

แต่แค่เพียงเท่านี้ อธิศก็อยากจะอยู่อย่างนี้ไปตลอดคืน





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่ซันธรรมดาสะทีไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
หุหุ ถึงกับอดใจไม่ไหวเลยเหรอพี่ซันนน

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
หวานมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
อยากลงไปดีดดิ้น กรี๊ดดดดดดดดด
หวานมากกกก
มีจูบขม่งจูบขมับ ฟินนนนอ่า (บ้าไปแระ)
ก็ธีทัตน่าร๊ากกกก..นี่นา

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                      บทที่ 16


มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นอย่างยากที่จะอธิบายได้ แม้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความขัดเขิน

และโมโหตัวตนที่ไม่อาจยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น

ธีทัตไม่อยากจะยอมรับว่า เขาเองรู้สึกดีกับการกระทำของอธิศ

และก็ยังทำใจลำบากที่จะยอมรับว่า เขารู้สึกอย่างไรกับผู้ชายตรงหน้า

อธิศปล่อยมือออกจากต้นแขนของธีทัต ตัวเขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่กล้าหาญทำสิ่งนี้ลงไป

เพียงแค่ปล่อยอารมณ์ตามใจ นี่เขาปรารถนาจะใกล้ชิดหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ขนาดนี้เชียวหรือ

“ผมขอโทษ”

อธิศกล่าว

“คุณควรไปพักผ่อนได้แล้ว วันนี้คุณเจออะไรมาเยอะแล้ว”

หนุ่มตาชั้นเดียวเปลี่ยนเรื่อง

“เดี๋ยวคุณไปนอนห้องด้านในนะ มันมีห้องน้ำอยู่ในห้องด้วย”

ธีทัตชะงักเมื่อคิดถึงเรื่องที่นอน ก่อนหันไปมองหน้าเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวเป็นเชิงถาม

อธิศยิ้มแป้น

“มันมีสองห้อง ไม่ต้องเป็นห่วงน่า ผมไม่บุกไปหาคุณหรอก”




เขาเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องที่ยังมืดมิด พยายามปรับสายตาให้คุ้นชินแล้วจึงตรงไปที่เตียงนอน

เตียงที่มีคนๆนั้นนอนหลับใหล คนๆนั้นที่จะรู้ตัวหรือไม่ว่าได้เข้าไปวิ่งเล่นในความฝันของเขาตลอดทั้งคืน

เขานั่งลงหมิ่นๆที่ขอบเตียง เจ้าหนุ่มตาหวานนอนหลับตาพริ้มท่าทางมีความสุข

อยากจะรู้นัก ว่าฝันอะไร ได้ฝันอย่างเดียวกันกับเขาบ้างหรือไม่

เห็นแก้มที่ดูนุ่มน่าสัมผัส อยากจะรู้จริงๆว่ามันนุ่มอย่างที่ตาเห็นหรือเปล่า

อดที่จะใช้ปลายนิ้วไล้เพียงแผ่วเบาที่แก้มนุ่มนั้น

แต่ก็ต้องชะงักเพราะเจ้าของดูเหมือนจะรำคาญพลิกตะแคงหน้าหนี

อธิศถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อปรับอารมณ์ ก่อนที่จะเขย่าตัวธีทัต

“กันดั้ม  ตื่นได้แล้ว”

ธีทัตงัวเงียขึ้นมา แล้วเพ่งมองชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าพลางคิดว่านี่อยู่ในความฝันหรือเปล่า

ฝันเลือนลางจับใจความไม่ได้ แต่จำได้ว่ามีคนๆหนึ่งอยู่ด้วยทุกฉากตอน

คนๆนั้นเข้ามาโลดแล่นอยู่ในความฝันราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ เขากระพริบตาถี่ๆ

“กี่โมงแล้ว พี่ซัน”

ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ตีห้า”

เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวตอบกลับ เล่นเอาธีทัตตาเหลือก ก่อนจะมุดศีรษะกลับเข้าไปอยู่ในผ้าห่มอุ่น

“ตื่นเถอะ อย่ามัวนอนเดี๋ยวพลาดโอกาส”

อธิศยื้อแย่งผ้าห่มออกจากตัวหนุ่มน้อย

“โอกาสอะไร พี่ซัน ยังไม่สว่างเลย”

ธีทัตทำเสียงอู้อี้ในลำคอ

“มาถึงนี่แล้ว ต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ฟาร์มนี่มีจุดชมวิวสวยมากเลยนะ จะพาไปไง”

นั่นเองถึงได้เรียกร้องความสนใจจากหนุ่มน้อยให้ลุกสะลึมสะลือมาแต่งตัวได้

อธิศรีบลากแขนธีทัตมานอกบ้านอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวเจ้าหนุ่มตาหวานจะเปลี่ยนใจ

“ไกลไหม พี่ซัน แล้วเราจะไปอย่างไรล่ะ”

ธีทัตปิดปากหาว ก่อนจะถามอย่างงัวเงีย

“จากจุดนี้ไปสักกิโลหนึ่งจะมีหน้าผาชื่อผาดวงแก้วเป็นจุดชมวิวของที่นี่ เราจะไปตรงนั้นโดยเจ้านี่”

อธิศผายมือไปให้ธีทัตเห็นพาหนะ ธีทัตตาถึงกับตาเหลือก

“จักรยานเก่าคันนี้นี่นะ”

หนุ่มตาหวานถาม อธิศมองอย่างภาคภูมิใจ

“โธ่คุณ เก่าแต่ยังแข็งแรงนะ ผมไปยืมป้าสมบูรณ์มาเพื่อพาคุณไปโดยเฉพาะ ผมขี่เองคุณซ้อนไป เดี๋ยวไม่ทัน”

ว่าแล้วอธิศก็คว้าจักรยานคันเก่งมาแล้วตั้งท่า พลางพยักเพยิดให้ธีทัตมาซ้อนท้าย

หนุ่มตาหวานซ้อนท้ายจักรยานอย่างเก้ๆกังๆ อธิศเริ่มปั่นอย่างรวดเร็ว ธีทัตเกือบหงายหลัง

“ คุณ เกาะเอวผมไว้สิ เดี๋ยวก็ได้หงายหลังลงไปนอนวัดพื้นหรอก”

ชายหนุ่มตะโกนบอกคนซ้อนท้าย ธีทัตรีบใช้สองมือเกาะที่เอวหนุ่มตาชั้นเดียว

อธิศยิ้มกริ่ม ปั่นจักรยานพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี





ท่ามกลางความมืดมิด ที่แสงดาวยังคงส่องแสงพร่างพราวกันในปลายแห่งราตรี

แม้จะยังไม่ใช่ฤดูหนาวแต่ด้วยความสูงของพื้นที่ทำให้หมอกจางเริ่มเกาะตัวหนาแน่น

อธิศขี่จักรยานมาจอดที่ซุ้มเล็กซุ้มหนึ่งมีป้ายชื่อบอกสถานที่ตั้งอยู่หน้าซุ้ม

ธีทัตเดินไปอย่างตื่นเต้นแม้จะยังมีเพียงความมืดปกคลุม

ลานกว้างเบื้องหน้าที่ต่ำลงไปมีทะเลหมอกน้อยๆ มาเฉิดฉายเรียกร้องความสนใจ

ปลายฟ้าเบื้องหน้าเริ่มเปิดเป็นสีน้ำเงินเข้ม ราวกับม่านในโรงละครกำลังจะเริ่มเปิดการแสดง

อธิศเดินหอบมายืนข้างๆ

“เฮ้อ เกือบไม่ทัน”

เขามองค้อนๆไปที่คนที่ยืนข้างๆ

“เดินตัวปลิวมาเชียวนะ”

“ก็ผมขี่จักรยานไม่เป็นนี่ แล้วพี่ซันนก็เป็นคนเสนอตัวขี่มาเองไม่ใช่หรือครับ”

ธีทัตอมยิ้มเมื่อมองเห็นสภาพของเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียว

“ก็ไม่นึกว่าคุณจะตัวหนักนี่ เมื่อก่อนขี่มาคนเดียว เดี๋ยวนี้มีคุณมาด้วย”

อธิศพูดยิ้มๆ

“เดี๋ยวจะสอนขี่จักรยานนะ มาอีกเมื่อไหร่จะได้เปลี่ยนกันบ้าง”

ธีทัตรู้สึกร้อนซู่ตลอดใบหน้าเมื่ออธิศพูด เขาหันหน้าหนีกลัวอธิศจับได้

“ไปยืนตรงริมหน้าผากัน”

อธิศถือโอกาสลากแขนคนข้างๆให้เดินตาม





แสงอรุณแรกของวันค่อยๆโผล่พ้นริมขอบฟ้าทางทิศตะวันออกที่อยู่เบื้องหน้า

รัศมีของลูกไฟดวงโตค่อยๆฉายฉานเป็นสีส้มแดง สะท้อนแสงกับสายหมอกที่เริ่มเกาะตัวหนา

ธีทัตอึ้งเมื่อเห็นภาพนี้ เขามองอย่างหลงใหลราวกับภาพตรงหน้ามีเวทมนต์สะกดไว้

อธิศยิ้มเมื่อเห็นธีทัตชอบภาพตรงหน้า อยากจะให้ภาพนี้ประทับอยู่ในความทรงจำของหนุ่มน้อยไปไม่รู้เลือน

อากาศย่ำรุ่งหนาวและชื้น อธิศถอดเสื้อคลุมออก เมื่อสักครู่ออกกำลังโดยขี่จักรยานจึงไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่

เขาใช้เสื้อคลุมของเขาวางบนบ่าสองข้างของธีทัต เจ้าหนุ่มตาหวานละสายตาจากภาพอรุณแรกแย้มตรงหน้า

หันมามองอย่างขอบคุณ

อธิศมองใบหน้านั้นในช่วงแสงแรกแห่งวันที่มีความสุกสว่างพาดผ่าน ราวกันต้องมนต์เช่นกัน

เอื้อมมือไปประคองใบหน้านั้นอย่างเผลอไผล แล้วเอียงหน้าไปใกล้

ส่งริมฝีปากของตนไปจุมพิตประทับไว้บนริมฝีปากแดงเรื่อของอีกคน

ไม่มีคำเอ่ยห้ามหรือปฏิกิริยาขัดขืนใดๆจากอีกฝั่ง นอกจากการตอบรับอย่างเต็มใจ

อธิศ อยากจะหยุดเวลาอยู่ตรงนี้ไว้ ให้นานเท่านาน









ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :o12:เค้าจูบกันแล้ว

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ว้าว จูบกันแล้ว

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                        บทที่ 17


รถสปอร์ตคันหรูขับมาโฉบเฉี่ยวแถวห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง

ธีทัตตัดสินใจใช้ชีวิตที่รีสอร์ทต่อ จึงได้ชวนอธิศมาซื้อของใช้ส่วนตัว

เดินเลือกของอย่างเพลิดเพลินทำให้หนุ่มตาหวานขาดความระมัดระวังอย่างที่เคยทำมาตลอดชีวิต

เขาจึงไม่ทันได้สังเกตชายใส่เสื้อคลุมสีดำที่เห็นธีทัตตั้งแต่รถหรูขับผ่าน

ชายชุดดำแอบตามจนมั่นใจ หยิบเครื่องมือสื่อสารมากดถ่ายรูป แล้วจึงกดโทรออกไปยังปลายทาง






“ห่วยที่สุด!”

นายธนาตบโต๊ะด่ากราดลูกน้อง ที่ยืนเรียงรายอยู่ตรงหน้า

“แค่คนๆเดียว พวกเอ็งยังหาไม่ได้แล้วอย่างอื่นจะไว้ใจได้ไหม เจ้ากันมันหายวันหนึ่งแล้ว ยังตามกลิ่นไม่ได้

แย่มาก”

นายธนาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวนุ่มอย่างอารมณ์เสีย

“นายครับ”

ลูกน้องมือดีอีกโผล่หน้ามาจากนอกห้อง ก่อนส่งเสียงตื่นเต้น

“เจอร่องรอยการใช้บัตรเครดิตแล้วครับ”

นายธนารีบหันไปมองอย่างสนใจ ลูกน้องจึงรีบกล่าวต่อ

“นายน้อยใช้บัตรเครดิตซื้อของที่โคราช”

ผู้เป็นบิดานึกโล่งอกที่ร่องรอยยังอยู่ไม่ไกลนัก เขารีบสั่งการ

“อายัดบัตรเครดิตของเจ้ากันทุกใบ ดูสิว่าถ้ามันไม่มีเงินมันจะทำอะไรได้ แล้วก็พวกแก”

ธนาชี้ไปที่ลูกน้องที่ยืนรอรับคำสั่ง

“พลิกแผ่นดินตามหาเจ้ากันมาให้ได้ และต้องกลับมาอย่างปลอดภัยด้วย ไป!”

ทันทีที่จบคำสั่ง บรรดาลูกน้องรีบสลายตัวไปทำงาน ธนาทิ้งน้ำหนักตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน

ธนาเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปเล็กๆที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาดูอย่างสะท้อนใจ มันตั้งอยู่ตรงนี้เป็นสิบปีแต่เขาก็ไม่คิดจะ

เคลื่อนย้ายไปไหน และมักจะหยิบขึ้นมาดูเวลาที่เขาเครียดและท้อ

ภาพที่ปรากฏเป็นภาพของเขาในวัยหนุ่มกว่านี้ นั่งเคียงข้างด้วยหญิงสาวที่สวยสง่า ตรงกลางคือเด็กชายคน

หนึ่งตัวอ้วนกลมที่ยิ้มอย่างสดใส เขาเอื้อมมือไปแตะบนใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น

“ทัศนีย์ ผมขอโทษที่เลี้ยงลูกได้ไม่ดี ผมไม่รู้จะทำอย่างไร”

ธนากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“เจ้ากันมันคิดว่าผมไม่รัก แต่มันไม่รู้หรอกว่าผมรักมันที่สุด แต่ก็จำเป็นที่ต้องเลี้ยงให้มันแกร่งด้วยตัวมันเองให้

เร็วที่สุด”

ชายผู้เป็นบิดาของหนุ่มตาหวานยังรำพันกับภาพถ่ายนั้น

“ตอนนี้เจ้ากันตกอยู่ในอันตราย คุณช่วยดูแลลูกชายเราด้วยนะ อย่าให้เขาเป็นอะไร”

ธนาใช้หลังมือเช็ดหยดน้ำตา

“ผมเสียคุณไปคนหนึ่งแล้ว ผมจะไม่ยอมสูญเสียลูกชายเราไปเป็นอันขาด ถ้าผมเสียเจ้ากันไปอีกคนผมคงขาด

ใจ”






“หึหึ”

อธิศกระหยิ่มยิ้มย่อง พลางทำตาเจ้าเล่ห์

“หนีอย่างไรก็ไม่พ้นหรอก รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ มาให้พี่กินซะโดยดี”

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางย่างสามขุมเข้าหา

ธีทัตมองด้วยใจระทึก

“แล้วก็ไม่ต้องคิดจะต่อสู้ด้วย เพราะพี่ไม่ไว้ชีวิตแน่ๆ ว้ากกกก”

อธิศกระโจนหนี เมื่อทอดปลาทูแล้ว น้ำมันกระเด็นใส่ ธีทัตถึงกับหัวเราะลั่น ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาหัวเราะ

ได้ตลอดเวลาจริงๆ

“พี่ซันนครับ ถ้าพี่ซันจะหาเรื่องได้แม้กระทั่งปลาทูขนาดนี้”

หนุ่มตาหวานยกมือกุมท้องด้วยความขำขัน

“ปลาทูมันยังไม่กลัวเลยครับพี่ซัน”

อธิศค้อนขวับ แต่มันดูเหมือนเขาสะบัดมากกว่า ปากก็บ่นไปพลางทอดปลาทูไปด้วยก่อนจะตักใส่จาน

“มา กันดั้มทานข้าวกันเถอะ ผมทอดสุดฝีมือเลยนะ”

อธิศกวักมือเรียกให้ธีทัตตามออกมาเมื่อเขาตั้งอาหารที่ระเบียงนอกบ้านเรียบร้อย



ลูกไฟดวงโตดวงเดียวกับเมื่อยามเช้าทำงานตลอดวันขับเคลื่อนจากฝั่งฟ้าด้านหนึ่งมาจนถึงอีกด้านหนึ่ง

และเตรียมที่ปิดฉากของตนในวันนี้เพื่อให้ตัวละครอื่นๆได้ทำหน้าที่ของตนบ้าง

อธิศใช้ช้อนตักแบ่งปลาทูแล้วเขี่ยก้างออก ก่อนนำไปวางบนจานข้าวของธีทัต

หนุ่มหน้าหวานนั่งมองการกระทำของอธิศ สลับกับมองกับข้าวที่อยู่ตรงหน้า

ไม่มีอาหารวิเศษเลิศหรูจากภัตตาคารใดๆ นอกจากไข่เจียวหนึ่งจานและปลาทูทอดเกรียมๆ

และก็คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

ธีทัตตักข้าวใส่ปากพร้อมกับรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ข้าวคำนี้รสชาติช่างอร่อยยิ่งกว่าร้านอาหารชั้นนำทั่ว

ทุกมุมโลก

หยดน้ำหยดหนึ่งกลิ้งจากดวงตาผ่านแก้ม อธิศเงยหน้ามอง เขาตกใจ

เอื้อมมือมากุมมือของธีทัตแล้วเอ่ยถาม

“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”

ธีทัตอมยิ้ม สั่นหน้าพลางเอื้อมอีกมือที่เหลือมาวางบนมือของอธิศอีกชั้น

“ขอบคุณนะ พี่ซัน ขอบคุณที่พี่ก้าวเข้ามาในชีวิตผม”







ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กำลังมีความสุขอยู่ อย่าพึ่งมีเรื่องเลยนะ :ling3:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่ซันก็อบอุ่น ._.
กันดั้มชีวิตน่าสงสาร ถ้าคุณพ่อทั้งห่วงทั้งรักทำไมไม่แสดงให้เห็น
ร้อยทั้งร้อยทำงี้ก็เหมือนการบังคับอยู่ดี

ออฟไลน์ minjeez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                      บทที่ 18


ธีทัตยกสองมือพนมจรดหน้าผากเมื่อพระภิกษุเดินจากไป

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยได้มาใส่บาตรในตอนเช้าอย่างนี้

ยิ่งได้มากับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่กำลังเบิกบานเต็มที่ หนุ่มตาหวานก็ได้แต่แอบยิ้ม ไม่รู้จะร่าเริงอะไรนักหนา

อธิศใช้ไหล่มาชนไหล่ของเขาก่อนเอ่ยถาม

คุณอธิษฐานอะไร บอกหน่อยสิ”

บอกไม่ได้หรอกครับ พี่ซัน ความลับ”

เขาแกล้งยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่หนุ่มตาชั้นเดียวบ้าง

โธ่..กันดั้ม...”

อธิศลากเสียงท้ายยาวๆ ธีทัตบอกไม่ถูกเลยว่าเขารู้สึกดีแค่ไหนที่คนตรงหน้าทำเสียงอย่างนี้

บอกหน่อยสิ ว่าอธิษฐานให้เจอกันอีกหรือเปล่า”

อธิศเอ่ยถามเบาๆหนุ่มตาหวานหน้าแดงก่ำ อธิศถึงกับหัวเราะออกมา

ไม่ล้อแล้วก็ได้ กลับกันเถอะเดี๋ยววันนี้ผมจะพาไปเที่ยวน้ำตก”

หนุ่มตาชั้นเดียวคว้ามอเตอร์ไซค์คันเก่าของรีสอร์ทที่ขี่มาใส่บาตร มาสตาร์ทรถแล้วเร่งให้ธีทัตมาซ้อนท้าย

สายลมที่พัดผ่านใบหน้ายามจักรยานยนต์ขับเคลื่อน อ่อนโยนยิ่งกว่าที่คิด

ธ๊ทัตใช้สองมือโอบรอบเอวของอธิศ

หนุ่มตาชั้นเดียวอมยิ้ม เขาใช้แขนซ้ายของเขามาวางทาบไปกับแขนซ้ายของธีทัต

อยากจะให้ถนนสายนี้ยาวไกลออกไปไม่มีวันจบสิ้น






เมื่อมอเตอร์ไซค์คันเก่าแล่นมาจอดหน้าบ้านพัก  อธิศและธีทัตก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถกระบะ

กลางเก่ากลางใหม่จอดอยู่หน้าบ้าน

ความสดใสร่าเริงบนใบหน้าของหนุ่มหน้าหวานเริ่มหายไปกลายเป็นความเคร่งเครียด หน้าเชิดหลังตรงอีกครั้ง

ไม่ทันได้ให้โอกาสแปลกใจนานกว่านั้น บอดี้การ์ดวัยรุ่นคู่ใจของธีทัตก็รีบก้าวลงมาจากรถ

นายน้อย”

เคนเรียก

ตามเร็วใช้ได้เหมือนกันนะ”

ธีทัตแค่นยิ้ม กล่าวประชด

กลับบ้านเถอะครับ นายใหญ่เป็นห่วงมาก”


ก้องช่วยพูดอีกคน ธีทัตมองด้วยหางตา

ไม่กลับ”

ธีทัตกระชากเสียงตอบ

แต่ตอนนี้นายน้อยอยู่ในอันตรายจริงๆนะครับ ฝั่งโน้นอาจจะส่งคนมาแล้ว”

เคนรีบพูดเพื่อให้เจ้านายเปลี่ยนใจ

ธีทัตลอบถอนหายใจ ก็แค่นี้สินะแค่ไม่ต้องการตกเป็นเบี้ยล่างอีกฝ่าย ช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายสิ้นดี

หนุ่มหน้าหวานหันไปทางอธิศ

พี่ซัน บอกว่าจะพาไปเที่ยวน้ำตกไม่ใช่หรือครับ ไปกันเลยดีกว่า” 

อธิศทำหน้าเหรอหรา

ผมว่า ถ้ามันจะเป็นอันตรายจริง กลับก่อนดีกว่าไหม...”

พี่ซันครับ!”


ธีทัตเสียงดังแทรกก่อนที่หนุ่มตาชั้นเดียวจะพูดจบประโยค ทำให้อธิศต้องรีบกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมลงคอ

พี่จะไปกับผมไหม ถ้าไม่..ผมจะไปคนเดียว”

ธีทัตกล่าวเสียงเข้ม

อธิศมองหน้าธีทัต สลับกับเคนและก้องไปมา ก่อนที่จะตัดสินใจตามน้ำไปก่อน

โอเคๆ เราไปกัน”


อธิศสบตาเคนและเจน ก่อนจะเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ โดยมีธีทัตเดินตาม

มอเตอร์ไซค์คันเก่าเคลื่อนที่ไปแล้ว เคนและก้องมองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะขับรถกระบะตามไปห่างๆ





รถมอเตอร์ไซค์เคลื่อนผ่านป้ายบอกชื่อน้ำตก อธิศจอดรถ แล้วหันไปมองเจ้าหนุ่มหน้าหวานพลางเลิกคิ้ว

ถึงแล้วครับ นายน้อย จะเอาอย่างไรต่อก็โปรดบัญชา”

ธีทัตถอนหายใจก่อนมองอธิศด้วยหางตา

ก็เรามาเที่ยวกันไม่ใช่หรือครับ พี่ซัน เดี๋ยวเราก็ไปเดินดูน้ำตกกัน”

อธิศตัดสินใจดึงไหล่ทั้งสองข้างของธีทัตให้หันมาเผชิญหน้ากัน

กันดั้ม มีเหตุผลหน่อย ผมรู้ว่าคุณโกรธพ่อคุณ แต่ผมไม่อยากให้คุณเอาความโกรธมาทำให้ตัวคุณ

เป็นอันตราย


อธิศพยายามเตือนสติหนุ่มน้อยตรงหน้า

ผมรู้ที่ผ่านมาคุณอาจจะไม่ห่วงตัวเอง เพราะคุณดูแลตัวเองได้ แต่ตอนนี้เท่าที่ฟังมันดูน่ากลัวนะ

อย่างน้อย คุณก็ไม่ควรที่จะทำให้ผมเป็นห่วง” 

ธีทัตสบตาอธิศ

พี่ซันห่วงผมด้วยหรือครับ”

มากด้วย”

อธิศเน้นคำพูด


“ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณอาจจะไม่มีใคร แต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ผมอยากให้คุณรู้ ว่าคุณมีผม”

ธีทัตมองลึกเข้าไปในดวงตาของอธิศอีกครั้ง ความจริงใจและห่วงใยอย่างแท้จริงนั้นแทบจะทำให้ความโกรธ

ทั้งหมดบรรเทาไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ยังไม่ทันที่ธีทัตจะตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด เงาบางอย่างที่ไหววูบมาทางด้านข้างก็ทำให้ธีทัตตกใจแทบสิ้น

สติ

พี่ซัน ระวัง!!”






ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
อ้ากกกกกกกกกกกพวกเลววววววววววววว
ถ้าพี่ซันเป็นอะไรนะแกกกกกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด