<< รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>  (อ่าน 94877 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อ่าาาาาาทำไมคราวนี้มันสั้นจัง

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove




                      รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                           บทที่ 19


ธีทัตผลักอธิศออกไปให้พ้นสิ่งที่พุ่งตรงมา ก่อนที่ตัวเขาจะถอยหลังหลบอย่างรวดเร็วเป็นการตั้งหลัก

สายตามองรอบตัวด้วยความชำนาญ นับแล้วชายฉกรรจ์จำนวน 5 คนยืนล้อมอยู่

คำนวณความสามารถของตนอาจจะพอสู้ได้ หนักใจก็คือคนที่รีบลุกจากพื้นมายืนอยู่ข้างๆ

อย่างน้อยก็ยังมั่นใจว่าฝั่งตรงข้ามต้องการจับเป็น แต่ก็ไม่อยากให้อธิศติดร่างแหไปด้วย

หนุ่มตาหวานกับหนุ่มตาชั้นเดียวหันหลังชนกัน

อธิศเองก็ตกใจไม่น้อย พยายามตั้งสติกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ขอแค่ไม่เป็นภาระกับคนที่เขาเป็นห่วง

“พี่ซัน”

ธีทัตกัดฟันกระซิบ

“หลบอย่างเดียวเลยนะครับ”

พูดจบธีทัตชิงเป็นฝ่ายลงมือปล่อยหมัดใส่คนที่อยู่ใกล้สุด

คนที่เหลืออีกสี่ มองหน้ากันแล้วเริ่มลงมือ

อธิศพยายามจะดึงเอวคนหนึ่งไว้ ผลที่ได้คือกำปั้นที่ลอยมาปะทะมุมปากจนเซ

แม้จะถูกฝึกมาเป็นอย่างดีแต่ด้วยจำนวนคู่ต่อสู้ที่มากกว่า ธีทัตเองก็โดนไปไม่ใช้น้อย

เขาเริ่มมึนศีรษะ ขาสั่นอ่อนแรงจนอยากจะทรุดตัวนั่งกับพื้น จัดการไปได้สองคนที่สลบไป

ยังเหลืออีกสาม

แขนแทบจะยกไม่ขึ้น ดวงตาล่องลอย มองเห็นกำปั้นที่ลอยมาเตรียมปะทะหน้าหวานแต่ป้องกันไม่ไหว

อธิศคว้ากิ่งไม้กิ่งใหญ่ใกล้มือได้เขารีบลุกขึ้นนำมันไปประเคนเต็มๆที่ท้ายทอยจนชายคนนั้นล้มลง

เสียงรถกระบะจอดลง เคนและกอ้งพุ่งตัวออกจากรถได้จังหวะ ทั้งคู่จับคู่ต่อสู้กับชายที่เหลือ เคนตะโกนบอก

อธิศ

“พานายน้อยหนีไปก่อน”

เขาจึงได้สติ รีบเข้าไปประคองธีทัตให้ลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปในเขตป่า

หนึ่งในสองคนที่สลบกองกับพื้นเริ่มได้สติ ลุกขี้นมานั่งสะบัดหัว ก่อนลุกขึ้นวิ่งตามสองหนุ่มไป




หนุ่มตาชั้นเดียวพยายามทั้งประคองและลากธีทัตด้วยความเป็นห่วง

“เร็ว กันดั้ม เดินเร็วอีกนิดไหวไหม ไปให้พ้นตรงนี้ก่อน”

เจ้าหนุ่มหน้าหวานโดนไปไม่ใช่น้อย

แก้มบางใสที่เขาเคยแอบลูบไล้บัดนี้แดงช้ำจากรอยกำปั้นมุมปากที่เขาเคยประทับอย่างอ่อนหวาน

ตอนนี้กลับแตกมีเลือดซึม

อธิศนึกเจ็บใจตนเองที่วินาทีแห่งความฉุกเฉินเช่นนี้ เขาช่วยอะไรไม่ได้

ซ้ำจะเป็นภาระตัวถ่วงให้คนที่เขาห่วงใยเป็นที่สุด

ชายที่วิ่งตามมาพุ่งมาจากด้านหลัง คว้าคอเสื้ออธิศแล้วกระชาก ชายหนุ่มเสียหลักล้มลง

ธีทัตหลุดมือจากการประคองเขารีบหันไปมองดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ

ชายคนนั้นคว้ามีดพกในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาสะบัดในมือ แล้วยิ้มอย่างเป็นต่อ

“ยอมไปกับผมเถอะ จะได้ไม่มีใครตาย”

มันพูดอย่างเหี้ยมโหด

ธีทัตยิ้มตอบที่มุมปาก ก่อนใช้ฝ่าเท้าประเคนวิชาเทควันโดไปที่ลิ้นปี่ เรื่องอะไรจะยอมสิ้นลายง่ายๆ

หมอนั่นเสียหลักเซไป ก่อนจะตะโกนสบถด้วยความโมโห

มันพุ่งตรงมาทางธีทัต พลางส่ายมีดพกในมืออย่างฉวัดเฉวียน จ้องเล่นงานหนุ่มหน้าหวาน

อย่างไม่คิดจะจับเป็นอย่างที่ได้รับคำลั่งมา

ธีทัตเดินถอยหลังหลบ ใช้สายตามองอย่างใช้สมาธิ ชายคนนั้นพุ่งปลายมีดเข้าใส่

โชคร้ายหนุ่มตาหวานสะดุดก้อนหินทำให้เสียหลักเซไปด้านหลัง ปลายมีดยังคงพุ่งตรงมาทางหน้าอก

ธีทัตใจหายวาบวินาทีแห่งชีวิตนั้น เขาคิดว่าปลายมีดได้มาเสียบพักอยู่ที่ร่างเขาแน่ๆ

อธิศพุ่งตรงมาจากมุมไหนธีทัตเองก็ไม่ทันมอง หนุ่มตาชั้นเดียวผลักเขาออกจากรัศมีมีด



“แคว่กก”


ธีทัตตกใจแทบสิ้นสติเมื่อได้ยินเสียงผ้าขาดและเห็นเลือดปรากฏอยู่บนไหล่ขวาของอธิศ

“พี่ซัน”

เขาตะโกนด้วยความเป็นห่วง แต่อธิศกลับใช้สองมือของเขาจับข้อมือศัตรูแล้วหักบิด

ได้ผล!! มีดร่วงจากมือตกลงบนพื้น อธิศเตะเข้าหว่างขาชายคนนั้นสุดแรง

ศัตรูร้องลั่นตัวงอด้วยความเจ็บปวด

หนุ่มตาชั้นเดียวรีบคว้ามีดที่อยู่บนพื้นแล้วเสียบไปที่ท้องชายคนนั้นมิดด้าม เลือดทะลักจากบาดแผลไหลนอง

ลงมา

ชายฉกรรจ์ร้องลั่นดังกว่าเดิม เขาดิ้นพลาดๆก่อนจะสลบไปเพราะเสียเลือดและเจ็บปวดจากบาดแผล



อธิศตาเหลือก เขาก้มหน้ามองสองมือของตนที่กล้าทำเช่นนั้นด้วยความตกใจ

ก่อนจะหันไปมองไหล่ขวาของตนที่เลือดยังคงไหลทะลัก เมื่อเหตุการณ์วิกฤตหมดลง ความรู้สึกเจ็บปวดเริ่ม

ตามมา

อาการของคนสุญเสียเลือดเกิดขึ้นกับอธิศ เขาเวียนหัว คลื่นไส้ ชีพจรเบาเร็ว แล้วขาสองข้างก็ยืนไม่ไหว

ธีทัตถลามาประคองร่างก่อนเขย่าตัวเขาแล้วตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่ง


นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยิน

ก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบลง






ออฟไลน์ bb_b

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :hao4: อะไรยังไง  :ruready

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
อย่าเป็นอะไรนะ T^T

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                           รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                               บทที่ 20


อธิศค่อยๆ กระพริบตา สมองยังไม่คลายจากความมึนงง รู้สึกได้ว่านอนอยู่บนที่นอนแข็งๆ

ภาพแรกที่เห็นคือ เพดานสีควันบุหรี่มอๆที่ไม่คุ้นตา เสาน้ำเกลือที่มีถุงน้ำเกลือห้อยอยู่

ปริมาณสารละลายหมดไปเกือบค่อน และถุงเลือดที่เกือบหมดอีกหนึ่งถุง

เขาพยายามทบทวนความทรงจำในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมานอนอยู่ตรงนี้

แล้วก็ต้องสะดุ้งในใจถึงชื่อที่สว่างวาบมาในสมอง

“กันดั้ม

ทันทีที่เขาพยายามจะลุกขึ้นนั่งก็รู้สึกปวดแปลบที่ไหล่ด้านขวา อธิศตั้งสติก่อนสำรวจตัวเอง


ไหล่ขวาของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล มันพันรอบลำตัวแล้วเฉียงกลับไปที่ไหล่เพื่อความแน่นหนา

มีรอยเลือดซึมอยู่เล็กน้อย มือซ้ายมีเข็มพลาสติกต่ออยู่กับสายน้ำเกลือและถุงเลือด

และด้านซ้ายนี่เองที่เขาเห็นภาพที่ต้องอมยิ้ม

เจ้าหนุ่มตาหวานนั่งฟุบหลับอยู่ตรงนี้ ตรงเตียงที่เขานอนอยู่ ใบหน้าเอียงมาทางเขา

ราวกับจะมองให้ตัวเขาอยู่ในสายตาตลอดเวลาเมื่อยังไม่ได้หลับ

อธิศมองภาพนั้นอย่างอ่อนโยน เจ้าหนุ่มตาหวานที่เคยเชิดหยิ่ง บัดนี้หลับสนิทราวกับเด็กน้อย

รอยหมัดบนใบหน้าตอนนี้บางจุดก็กลายเป็นสีเขียวช้ำ บางจุดก็เป็นสีม่วง

อธิศยกมือซ้ายขึ้นไปลูบที่มุมปากธีทัตเบาๆ รอยแตกยังปรากฏให้เห็น

ธีทัตผวาเฮือกขึ้นมาทันทีที่รับสัมผัสเบาบางนั้น

เขาลุกขึ้นยืนแล้วมองอธิศอย่างสำรวจ แล้วก็ต้องยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง

ในโรงพยาบาลชุมชนแห่งนี้ปลอดภัย

ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลแม้จะมีเตียงเล็กๆ ให้คนเฝ้านอนได้ แต่ธีทัตสมัครใจที่จะมานั่งเฝ้าตรงนี้

เฝ้ามองเพื่อให้เห็นชายตรงหน้าในสายตา เฝ้ามองความปลอดภัย แม้จะรู้ว่าพ้นขีดอันตราย

เพียงแต่เสียเลือดไปมากเขาก็ยังไม่ไว้ใจ

อธิศยังคงเอื้อมมือซ้ายมาที่ใบหน้าของเขาพลางลูบบริเวณที่ฟกช้ำเบาๆ

“เจ็บไหม

เขาเอ่ยถาม ธีทัตส่ายหน้า มันควรเป็นตัวเขาที่เอ่ยถามคำนี้เมื่อเห็นสภาพแผลที่ไหล่

ธีทัตเอื้อมมือไปกุมมือซ้ายของอธิศไว้ มองผู้ชายตรงหน้าอย่างขอบคุณ แล้วโน้มตัวลง

เป็นฝ่ายที่ประกบริมฝีปากที่มีรอยแผลลงไปทาบทับกับริมฝีปากชายคนที่นอนอยู่บนเตียง

ลืมไปแล้วว่าตัวเองยังไม่ได้พูดอะไรกับอธิศแม้แต่คำเดียว




"นายน้อยไม่ควรจะดื้อแบบนี้อีกแล้ว

คนต่อว่านายตัวเองเล็กน้อย เมื่อเข้ามานั่งรวมกัน

ในห้องพักของอธิศ

“คราวนี้รอดมาได้ แต่คราวต่อไปล่ะ มันจะยิ่งส่งคนมาเยอะกว่านี้

เคนคาดการ

“แล้วควรจะทำอย่างไรครับ

อธิศเอ่ยถาม เคนเงยหน้ามองเล็กน้อย ยังคงแปลกใจกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ผู้ชายบนเตียง

กล้าหาญเข้ามาช่วย และคนเป็นนายตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเขาคนนั้นได้รับบาดเจ็บ

แต่ด้วยความเป็นลูกน้อง แม้จะสนิทกันจะไม่อาจเอ่ยถาม

แต่เมื่อมาลงเรือลำเดียวกัน เคนต้องพักเรื่องที่สงสัยไว้ก่อน

“คงจะกลับกรุงเทพยังไม่ได้ภายในวันสองวันนี้ จะกลับไปที่รีสอร์ทที่นายน้อยไปพักก็ไม่ได้ เราคงต้องอยู่โคราช

ต่อแต่ย้ายที่พัก

เคนตัดสินใจ

“หมออนุญาตให้คุณออกจากโรงพยาบาลได้พรุ่งนี้ เราคงต้องไปอยู่โรงแรมเล็กๆ กันก่อน แล้วค่อย

หาทางให้ทางบ้านมารับ จะดีกว่ากลับกันเอง




อธิศก้าวนำธีทัตเข้ามาในห้อง กวาดสายตาไปมองรอบๆแล้วถอนหายใจ

ห้องเล็กๆ ในโรงแรมเล็กๆ สมใจเจ้าบอดี้การ์ดโกนหัวล่ะ

ห้องแคบเท่ารูหนู เตียงเล็กๆหนึ่งเตียงกับเก้าอี้หวายเก่าๆ 2 ตัว

ตัวเขานั้น ไม่เท่าไหร่ สงสารก็แต่คุณชายจอมหยิ่งนี่แหละ จะอยู่ไหวไหม รำพึงในใจก่อนหันไปมอง

ธีทัตเดินก้าวตามเข้ามา กวาดสายตามอง แล้วก็เลิกคิ้วอมยิ้ม

ชีวิตที่เคยอยู่แต่สถานที่ใหญ่โตต้องมาอยู่ในที่แคบและอึดอัดแบบนี้

แต่ทำไมกลับไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรเลย

“ไหวไหม กันดั้ม

หนุ่มตาชั้นเดียวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

อยากจะตอบออกไปว่า เขาอยู่ได้ทุกที่ ขอให้มีคนข้างหน้าอยู่ด้วย

แต่...ไม่หรอก เดี๋ยวจะได้ใจเปล่าๆ ธีทัตจึงตอบไปธรรมดาว่า

“ไหวสิครับ พี่ซัน









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2014 20:14:19 โดย Belove »

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ทำไมกันดั้มน่ารักขึ้นทุกๆตอน
พี่ซันก็แสนดี๊แสนดี
แอร้กกกกกกกผ่านพ้นวิกฤตไปเร็วๆนะทั้งสอง

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
แหม.....หวานไม่เลือกสถานการณ์เลยเนอะ อิอิ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove




                      รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                          บทที่ 21


อธิศวางตัวไม่ถูก เมื่อต้องมาอยู่ร่วมห้องกับหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ

สองคืนที่ผ่านมาแม้จะอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน แต่ก็อยู่กันคนละห้อง

และ..แม้จะยอมรับว่ามีความรู้สึกที่พิเศษอยู่ในใจ  ก็ยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของอีกฝ่าย

มันอาจจะเป็นแค่ความเหงา ขาดความอบอุ่นของเด็กน้อยที่อยู่ในร่างผู้ใหญ่

ที่ทำให้แสดงออกชัดเจนอย่างเช่นวันวาน

หนุ่มตาชั้นเดียวลอบถอนหายใจ

ธีทัตเองก็ยืนหันรีหันขวางอยู่กลางห้อง ทั้งๆที่ห้องก็เล็กนิดเดียว

แต่นั่นยิ่งทำให้เขาไม่รู้จะไปยืนมุมใด เพราะไม่ว่าตรงไหนเขาก็สามารถแลเห็นหนุ่มตาชั้นเดียวได้

ยอมรับว่าความรู้สึกที่มีนั้นมันพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีให้ใคร

ยิ่งนึกไปถึงเมื่อวันวานที่กล้าเสนอจุมพิตเป็นการขอบคุณนั้น นึกแล้วก็ให้รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า



อธิศหันตัวกลับมา พอดีกับที่ธีทัตจะก้าวเดินไปหา

ร่างสองร่างแทบชนกันที่กลางห้อง ทั้งคู่หยุดชะงัก

ใกล้กันแค่เพียงคืบ ตาต่อตาสบกัน ทั้งสองมองกันอย่างค้นคว้า ยังคงมีแต่ความเงียบเข้าปกคลุม

เป็นธีทัตที่ได้สติก่อน

“พี่ซัน ยังเจ็บแผลไหมครับ

พูดไปแล้วธีทัตก็แทบจะกัดปากตัวเอง ที่ไม่รู้จะพูดอะไรที่มันดีไปกว่านี้

ไม่เข้าใจตัวเองเลย ว่าทำไมต้องรู้สึกขัดเขินทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ราวกับผู้ชายตรงหน้ามีพลังพิเศษที่ดูดความ

มั่นใจในตัวตนของเขาออกไปจนหมดสิ้น

อธิศยิ้มกว้าง สัมผัสได้ถึงความขัดเขินที่หนุ่มน้อยตรงหน้าแสดงออก อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าไม่ได้มีความ

รังเกียจอยู่ในความรู้สึก

“นิดหน่อย

เขากล่าวตอบ


“ไม่มากแล้ว แค่เห็นคุณปลอดภัย ผมก็โอเคนะ”

“ขอบคุณนะ

ธีทัตเพิ่งได้เอ่ยคำนี้ออกมา

“ผมรู้ว่าพี่ซันไม่เคยต้องต่อสู้กับใคร ผมขอโทษที่พาพี่มาลำบาก

“ผมไม่เคยคิดว่าเป็นความลำบาก

อธิศรีบเอ่ย

“แค่เห็นว่าคุณปลอดภัย นั่นคือความสบายใจของผม

อธิศพูดเสียงหนักแน่น

“แต่ตอนนี้ ผมอยากให้คุณช่วยผมหน่อย” 

ธีทัตเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“หมอห้ามไม่ให้แผลเปียกน้ำ คุณช่วยเช็ดตัวให้ผมหน่อยได้ไหม เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว





อธิศนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวเล็กที่มุมห้อง ธีทัตยกกะละมังใบเล็กใส่น้ำมาวางบนพื้นใกล้ตัว

หนุ่มตาชั้นเดียวลอบมองท่าทางเก้ๆกังๆ ของหนุ่มน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

หนุ่มตาหวานหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ใส่มาในกะละมังน้ำขึ้นมาบิดแล้วคลี่ให้ผ้าขยาย ก่อนยื่นส่งให้อธิศ

หนุ่มตาชั้นเดียวมองเป็นเชิงถาม

“พี่ซันครับพี่เจ็บไหล่ขวาข้างเดียว ข้างซ้ายไม่ได้เป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่เอาไปเช็ดหน้าเองนะครับ

อธิศอดหัวเราะเบาๆไม่ได้

“คร้าบบ ได้ครับผมเช็ดหน้าเอง

หนุ่มตาชั้นเดียวรับผ้ามาเช็ดบนใบหน้าและต้นคอ ก่อนยื่นส่งให้ธีทัต

พลางจ้องเขม็งว่าธีทัตจะทำอะไรต่อ

ธีทัตหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่กล้าสบตาชายตรงหน้า เขานิ่งอยู่นานก่อนจะพูดเบาๆ

“พี่ซันถอดเสื้อสิครับ ผมจะเช็ดตัวให้

“อะไรนะ คุณพูดอะไรนะ ผมไม่ได้ยิน

อธิศทำหน้าเหรอหรา ยิ่งทำให้ธีทัตรู้สึกว่าเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงจนเริ่มมึนงงไปหมด

“พี่ซัน

เจ้าหนุ่มตาหวานเริ่มส่งเสียงดัง อธิศรีบยกมือซ้ายขึ้นห้ามเป็นทำนองว่ายอมแพ้

“โอเค ๆ ไม่ต้องเสียงดัง เข้าใจแล้ว

อธิศพยายามถอดกระดุมเสื้อเชิต แต่ด้วยยังเจ็บที่ไหล่ขวาทำให้เอื้อมมือมาช่วยแกะกระดุมได้ยากยิ่ง

ธีทัตถอนหายใจเมื่อเห็นความพยายามของอธิศ หนุ่มตาหวานอดรนทนไม่ได้จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ


ปลดกระดุมเรียบร้อย หนุ่มตาชั้นเดียวถอดเสื้อจากทางด้านซ้ายไม่ยากเย็นนัก แต่พอถึงด้านขวาเขาก็นิ่ว

หน้าด้วยความเจ็บ

ธีทัตรีบคุกเข่าแล้วยืดตัวตรงเพื่อให้ความสูงได้ระดับกับคนที่นั่งบนเก้าอี้หวายตัวเก่า ก่อนที่จะช่วยถอด

เสื้อจนสำเร็จ

บรรจงเช็ดตัวให้อธิศทางด้านหน้า และเอื้อมไปเช็ดที่แผ่นหลังจนสะอาดโดยระวังไม่ให้ผ้าพันแผลเปียก

ตลอดเวลาที่ธีทัตเช็ดตัวให้อย่างอ่อนโยน ภาพเหล่านั้นอยู่ในสายตาของอธิศโดยตลอด

เขามองทุกอิริยาบทของหนุ่มน้อยด้วยความเต็มตื้น เพราะรู้ดีว่าคนระดับธีทัตไม่เคยทำเช่นนี้ให้แก่ใคร

ธีทัตวางมือจากผ้าเช็ดตัวก่อนที่จะสบตากับอธิศ เขาก้มลงมองที่แผลของหนุ่มตาชั้นเดียว

เอื้อมมือไปแตะที่รอยแผลแผ่วเบา แล้วเงยหน้าถามคนตรงหน้า

“เจ็บไหม

อธิศส่ายหน้าน้อยๆ เขาเอื้อมมือซ้ายมากุมมือของธีทัตไว้ก่อนที่จะเอามาวางที่หน้าอกด้านซ้ายที่เป็นตำแหน่ง

หัวใจ

แขนขวาที่ยังพอยกได้ถูกส่งไปประคองที่ใบหน้าหวานนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบที่แก้มของเจ้าหนุ่มหน้าใส

มุมปากแม้จะไม่มีคราบเลือดแล้ว แต่ยังมีรอยช้ำปรากฏให้เห็นจางๆ อธิศค่อยๆใช้นิ้วหัวแม่มือไปลูบ

อย่างแผ่วเบา

โน้มตัวไปด้านหน้าก่อนกดริมฝีปากไปที่รอยช้ำนั้น ราวกับจะใช้เป็นเครื่องมือช่วยเยียวยาก่อนที่จะเลื่อนไปทาบ

ทับสนิทกับปากแดงเรื่อ

มือซ้ายของอธิศปล่อยมือของธีทัตให้เป็นอิสระ แต่กลับย้ายที่ไปโอบเอวของหนุ่มตาหวาน แล้วดึงให้เข้ามาชิด

ใกล้ มือขวาที่ประคองใบหน้าหวานนั้นก็เลื่อนไปกระชับที่ท้ายท้อยของธีทัตเพื่อให้ตอบรับกับริมฝีปากของเขา

ค่อยๆและเล็มความหวานเปิดทาง ธีทัตแทบหายใจไม่ออก ต้องอ้าปากเพื่อกอบโกยอากาศ อธิศรีบฉวยโอกาส

ส่งปลายลิ้นเข้าแทรกซึม จนธีทัตตกใจ



หัวใจของหนุ่มตาหวานเต้นระรัว แขนขาไร้สิ้นเรี่ยวแรงยากที่จะขัดขืน ยิ่งริมฝีปากของหนุ่มตาชั้นเดียวบดเบียด

คลุกเคล้า และเรียกร้องไม่จบสิ้นด้วยสัมผัสจากปลายลิ้นของอธิศ

จวบจนเขารู้สึกแทบขาดใจนั่นแหละ อธิศถึงยอมปลดปล่อย มอบอากาศให้หายใจอีกครั้ง

แต่หนุ่มตาชั้นเดียวก็ไม่ปล่อยให้เขารอดนานนัก เมื่อทำให้ธีทัตแทบขาดใจอีกครั้งด้วยคำพูด

อธิศกระซิบที่ข้างหู แต่มันสะท้อนไปทั่วทั้งร่างกายและหัวใจ


“ผมรักคุณ ขอให้ผมทำให้คุณรู้ว่าผมรักคุณแค่ไหน ได้ไหมกันดั้ม”




ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่ซันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
กันดั้มเขินตัวระเบิดไปแล้ว
ตอบเลยกันดั้มตอบเลยยยยย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                       บทที่ 22


ธีทัตหลับตาลงสั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อได้ยินคำบอกรักจากชายตรงหน้า

ความรู้สึกดั่งคนที่หลงทางอยู่กลางทะเลทราย ใกล้หมดลมหายใจ

แต่มีใครสักคนยื่นหยดน้ำทิพย์มาให้เพื่อต่อชีวิต มันช่างชุ่มชื่น สดใส และอ่อนหวานยิ่งนัก

หนุ่มตาหวานลืมตาขึ้นสบตากับอธิศ แล้วกระซิบตอบเบาๆเช่นกัน

“ลองดูสิ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคุณจะรักผมได้แค่ไหน

อธิศยิ้มให้หนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างอ่อนหวาน  มือขวาที่ยังคงประคองท้ายทอยดันให้ใบหน้านั้นเงยขึ้น

เล็กน้อย แล้วเขาก็ทำให้ธีทัตรู้จักความรักจากเขาด้วยบทเรียนแรก

อธิศก้มลงเรียกร้องคำหวานจากธีทัตอีกครั้ง เขาเริ่มต้นที่หน้าผากมน ประทับริมฝีปากของเขาลงมา

ตั้งแต่เปลือกตาแสนหวานของธีทัตไล่มาจนถึงริมฝีปากของหนุ่มน้อย คราวนี้เขาเรียกร้องเอาแต่ใจมากขึ้น

มือซ้ายที่โอบเอวไว้ดึงให้ธีทัตลุกขึ้นยืนตามเขา แล้วโอบกระชับตัวเข้ามาจนลำตัวแนบชิดติดกัน

ธีทัตแทบขาดใจ รู้สึกได้ถึงมือที่ร้อนผ่าวของอธิศที่ชอนไชเข้าไปภายในเสื้อยืด

ต้นขาแข็งแกร่งนั่นอีกเล่า ที่บดเบียดแนบชิดกับต้นขาของเขาราวกับจะหลอมละลายให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน

เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อบทเรียนต่อไปเริ่มตามมา อธิศฝังจมูกโด่งลงบนซอกคอก่อนใช้ริมฝีปากขบเนื้ออ่อน

ตรงนั้น แล้วตามต่อด้วยปลายลิ้นราวกับเขาเป็นไอศกรีมรสหวานที่น่าลิ้มลอง

ธีทัตอยากจะตะโกนก้องบอกให้หนุ่มตาชั้นเดียวหยุดการกระทำเช่นนี้ แต่ก็ต้องตกใจที่เสียงที่ตนส่งไป

กลับเป็นเสียงครางเบาๆอย่างสุขสม

อธิศยิ้มอย่างพอใจ เขาโจมตีต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใช้โอกาสที่ธีทัตยังคงหลงทางให้เป็น

ประโยชน์ ลอบถอดเสื้อยืดตัวบางผ่านศีรษะของหนุ่มน้อยโดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึก

เขาก้มตัวลงเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีเม็ดบัวเม็ดน้อย ธีทัตผวาเฮือก แอ่นตัวยืดขึ้นก่อนใช้สองแขนกอดรัด

แน่นรอบตัวของหนุ่มตาชั้นเดียว

อธิศนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อปลายนิ้วของหนุ่มหน้าหวานเฉี่ยวไปที่แผลของเขา

เอื้อมมือไปจัดการกางเกงตัวหลวมของธีทัตให้พ้นไปจากพันธนาการของร่างกายเป็นชิ้นสุดท้าย

แล้วจึงใช้มือไปเกาะกุมแกนกลางของร่างกายหนุ่มหน้าหวาน

ธีทัตถึงกับสะดุ้งเมื่อมือร้อนผ่าวนั้นตรงเข้าจู่โจมจุดสำคัญ เหมือนสมองว่างเปล่าไร้ซึ่งความคิด

หรือสติสัมปชัญญะใดๆที่จะสามารถประคองตัวอยู่ได้ จนไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็เร่งจัดการกำจัด

พันธนาการออกจากส่วนล่างจากร่างกายเช่นกัน

เหลือเพียงกายแนบกาย เนื้อแนบเนื้อที่เสียดสี ร้อนแรงราวกับสามารถจุดประกายไฟขึ้นมาได้

อธิศครางเสียงแผ่วเบาเมื่อเขาดึงมือของหนุ่มน้อยจากการโอบรัดให้เป็นฝ่ายมาเกาะกุมแกนกลางของ

เขาบ้าง

ธีทัตร้อนวูบไปทั่วร่างเมื่อรู้สึกว่าชิ้นกล้ามเนื้อที่อธิศบังคับให้ตนเกาะกุมนั้นขยายตัวขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

หนุ่มตาชั้นเดียวกลับมาวนเวียนแสวงหาความหวานจากริมฝีปากของเขาอีกครั้ง โดยที่ยังไม่ยอมปล่อยมือ

ที่บังคับให้ธีทัตเกาะกุมอยู่ อธิศค่อยๆประคองกึ่งควบคุมให้ธีทัตเดินถอยหลังไปจนแผ่นหลังของหนุ่ม

ตาหวานประชิดผนังห้อง                                         

อธิศหยุดซุกไซ้หาความหวานจากใบหน้าของเขาชั่วครู่ แล้วเอ่ยเสียงสั่น

“ผมจะบอกรักคุณแล้วนะ

โดยไม่รอคำตอบอธิศจับตัวธีทัตหันหน้าเข้าหากำแพง และจับมือของหนุ่มตาหวานให้ดันกำแพงนั้นไว้

มือขวาของคนอยู่เบื้องหลังเอื้อมไปโอบกอดรัดรอบตัวคนด้านหน้า ก่อนใช้มือซ้ายไปประคองใบหน้าของ

ธีทัตให้หันมาทางด้านข้าง

ต้นขาแกร่งของคนเบื้องหลังบดเบียดทับทาบใช้ความแข็งแรงดันขาของธีทัตให้แยกจากกันแล้วเบียดอัด

ลำตัวของเขาแนบแน่น ก่อนที่จะดันแกนกลางของเขาเข้าไปในรวมในร่างของหนุ่มน้อยตาหวาน

ธีทัตเบิกตากว้างกับความรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างกายที่แทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง เขาแทบจะตะโกน

ร้อง แต่เสียงนั้นก็หายไปเพียงเพราะมันถูกปิดด้วยริมฝีปากของชายเบื้องหลัง

อธิศสอนบทเรียนที่สำคัญที่สุดอย่างโหยหาเรียกร้อง เขาขยับเอวเป็นจังหวะนุ่มนวล มือที่โอบกายหนุ่ม

น้อยไว้เลื่อนไปกุมจุดสำคัญด้านหน้าอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากที่บดเคล้าที่รุนแรงขึ้น

ธีทัตแทบจะยืนไม่อยู่กล้ามเนื้อทุกส่วนสั่นสะท้านความเจ็บปวดช่วงแรกหายไป กลับกลายเป็นความรู้สึก

แปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส

อธิศเกร็งช่วงล่าง ค่อยๆผ่อนลมหายใจเข้าออก เขาหยุดพักชั่วขณะ ในขณะที่ธีทัตเองก็ผวาเมื่อเขาหยุด

หนุ่มตาหวานเป็นฝ่ายเกร็งกล้ามเนื้อภายในอย่างเรียกร้อง

อธิศปล่อยใบหน้าของธีทัตให้เป็นอิสระ ก่อนกระซิบว่า

“ใจเย็นนะ อย่าเพิ่งรีบ

เขาใช้แขนโอบรัดรอบลำตัวของคนเบื้องหน้าจนแน่นก่อนยกตัวธีทัตลอยจากพื้นโดยที่ไม่ยอมให้ร่างแยกจาก

กัน  เดินถอยหลังเพียงสองก้าวก็ถึงเตียงเล็ก

อธิศทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงแล้วให้ธนทัตนั่งอยู่บนต้นขาของเขา สองแขนที่โอบรอบลำตัวขยับสอนให้

ธีทัตขยับยกสะโพกเป็นจังหวะ

พร้อมกันกับเขา

ราวกับดนตรีที่บรรเลงเข้าคู่กัน ธีทัตเกร็งตัวบิดเร่า รู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อส่วนนั้นที่เขม็งเกลียวแน่นไม่อาจบังคับ

ได้

อธิศเองก็บังคับแกนกลางอย่างที่สุดเมื่อรู้สึกถึงการรัดรึงที่ส่งผ่าน จวบจนกระทั่งธีทัตระเบิดเสียงคราง

ไม่เป็นภาษาและกล้ามเนื้อเกร็งแน่นยาวนานสั่นสะท้านทั้งร่าง อธิศจึงปล่อยตัวตนให้ระเบิดตามมา

ธีทัตที่อยู่เบื้องบนขณะนี้ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับความสุขที่อธิศสอนและมอบให้ ร่างกายยังไม่หยุด

สั่น ก่อนที่เขารำพึงออกมาอย่างบังคับใจไม่ได้

“พี่ซัน ผมรักพี่




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                                   บทที่ 23




ธีทัตลืมตามองเพดานอย่างทำใจไม่ถูกเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป

มันเป็นไปแล้ว มันเกิดขึ้นไปแล้ว มันหวนกลับมาไม่ได้อีก

แต่ถ้าย้อนเวลากลับไป เขาก็คงตัดสินใจเช่นเดิม

เขาลอบถอนหายใจแผ่วๆ ไม่อยากให้คนที่นอนหลับใหลอยู่ข้างๆรู้สึกถึงความว้าวุ่นเมื่อคิดไปถึงเหตุการณ์

ในอนาคต

ความผูกพันมักเป็นดาบสองคมเสมอ อาจทำให้เรามีความสุขกับคนที่เรารัก หรืออาจนำมาซึ่งอันตราย

รู้สึกถึงอ้อมแขนของคนข้างๆ ย้ายที่มาวางพาดรอบกาย ก่อนที่จมูกโด่งนั้นจะมาวนเวียนอยู่แถวใบหน้า

“นอนไม่หลับหรือ คิดเรื่องอะไร”

 อธิศเอ่ยถามเบาๆ ก่อนจะฝังจมูกไว้ที่ซอกคอให้ขนลุกเล่น

“คิดถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรครับ พี่ซัน”

ธีทัตตอบกลับเสียงเบา จนอธิศผงกหัวมาสบตา

“อย่าคิดถึงหรือเป็นห่วงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย เครียดเปล่าๆ ปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

อธิศใช้นิ้วมือเกลี่ยปลายผมที่ปรกหน้าผากของหนุ่มตาหวานก่อนก้มไปหอมเบาๆ

“แล้วตอนนี้ ปัจจุบันนี้ ผมดีใจมากนะที่มีคุณอยู่ข้างๆ”

ธีทัตรู้สึกถึงความอบอุ่นได้จากรอยยิ้มและคำพูด

อธิศก้มลงและเล็มที่กลีบปากหวานเนิ่นนานก่อนจะกระซิบข้างๆหู


“ว่าแต่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ คุณจะยอมให้ผมบอกรักคุณอีกสักครั้งได้ไหม กันดั้ม”




 
 
เสียงทุบประตูดังขึ้นถี่ๆ ทำให้ทั้งอธิศและธีทัตสะดุ้งสุดตัว ในตอนเช้า

ธีทัตทะลึ่งพรวดลุกขึ้นแล้วกระโดดไปที่ประตู เขาจับลูกบิดในท่าระวังแล้วตะโกนถาม

“ใคร”

เสียงภายนอกเงียบไปชั่วครู่ก่อนคำตอบที่ได้กลับมาจะทำอธิศที่อยู่ภายในห้องหนาวยะเยือก

“ฉันเอง”

 เสียงของบิดาธีทัตดังขึ้นภายนอกทำให้ผู้เป็นบุตรชายยืนหน้าซีด เขาหันมามองหน้าอธิศอีกครั้ง

ก่อนตัดสินใจเปิดประตู

นายธนาก้าวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วรวมทั้งคนสนิทอีกสองคน  ก่อนที่จะมายืนอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่ม

ทั้งสอง อธิศมองเห็นเคนและก้องยืนหน้าขรึมอยู่ด้านนอก

นายธนามองหน้าธีทัตและอธิศสลับกันอย่างเดือดดาลก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะลอยละลิ่วมาปะทะ

ใบหน้าหวานของบุตรชายจนหันตามแรงฝ่ามือ และปรากฏเป็นรอยมือรอยใหญ่

อธิศผวาเข้าหาแต่กลับถูกลูกน้องนายธนาตรงเข้าจับตัว เขาพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผลจึงได้แต่มองไปที่

ธีทัตด้วยความห่วงใย

“แกทำอะไรของแก”

 ธนาตวาดลั่น ธีทัตหันกลับมามองหน้าผู้เป็นบิดาด้วยความผิดหวัง

“ฉันก็หลงเป็นห่วงแก อุตส่าห์ให้คนตามหา ทั้งๆที่แกไม่เคยคิดจะเป็นห่วงตัวเองเลย แล้วนี่อะไร”

เขาชี้หน้าอธิศ

 “แกมัวแต่มายุ่งอยู่กับไอ้คนที่เพิ่งรู้จัก ฉันถามแกจริงๆ แกเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า”

ธีทัตมองหน้าผู้เป็นบิดา ความรู้สึกเจ็บปวดที่โดนตบหน้ายังไม่เท่าความเจ็บใจที่คนตรงหน้าด่าทอ

ตาที่เคยหวานบัดนี้แดงกล่ำ เขากัดฟันกลั้นน้ำตาไว้

“แล้วถ้าผมเป็นจริงๆ พ่อจะทำอะไรครับ”

ธีทัตเงยหน้ามองคนเป็นบิดาด้วยหางตา

 “เกิดจะมาสนใจเอาตอนนี้ ช้าไปไหมครับพ่อ”

 ธีทัตเน้นตรงคำท้ายยิ่งเป็นการยั่วนายธนาให้เกิดโทสะ

“ไอ้กัน”

 นายธนาเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง ธีทัตเกร็งกล้ามเนื้อใบหน้าขึ้นรอรับ

อธิศอาศัยทีเผลอสะบัดหลุดจากการเกาะกุมถลันเข้าไปขวางกั้นระหว่างพ่อกับลูก มือใหญ่ที่เงื้อแล้วสะบัดนั้น

จึงกระทบกับใบหน้าของเขาเต็มๆ

นายธนาเองก็ยืนอึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้า เขาสบตากับอธิศที่ยังคงยืนกั้นกลางระหว่างเขาและบุตรชาย

ไม่ยอมขยับ

“อย่าทำกันดั้มเลยครับ ผมขอร้อง”

หนุ่มตาชั้นเดียวยกมือไหว้

“กันดั้มน่าสงสารมาก คุณอย่าดุแกงส้มเลย”

 เสียงนั้นอ่อนโยนและวอนขอไม่มีทีท่าโกรธเคืองกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

เป็นนายธนาที่นิ่งไปด้วยความคาดไม่ถึง ผู้ชายคนนี้กล้าดีอย่างไรถึงได้มาขอเช่นนี้ ทั้งๆที่เขาก็ลงมือขนาดนี้

ผู้เป็นบิดาออกคำสั่งกับลูกน้อง

“เอาตัวเจ้ากันกลับไป “

 ธีทัตผวา

“ไม่นะพ่อ ผมไม่กลับ”

ลูกน้องคนสนิทตรงดิ่งมายึดแขนผู้เป็นนายน้อยไว้ แม้ธีทัตจะดื้อดึงดันแค่ไหน ก็ไม่สามารถสลัดหลุดได้

อธิศพยายามจะเข้ามาช่วย ก็ถูกอีกคนหนึ่งมาจับตัวไว้

“นายครับ แล้วเจ้านี่เอาไง”

คนที่จับตัวเขาไว้ถามขึ้น

“ปล่อยไว้ที่นี่แหละ มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน”

นายธนาสั่ง แล้วหันมามองหน้าคนเป็นบุตรชาย

ธีทัตหยุดดิ้น เพราะรู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ เขามองผู้เป็นบิดาอย่างโกรธแค้น ชิงชัง

ธนาถอนใจกับสายตาที่ธีทัตมองมา ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความรู้สึกที่ส่งตรงมานั้น ได้แต่เบือนหน้าหนี

แล้วออกคำสั่ง

“กลับ”

ธีทัตผวาอีกรอบนึกเป็นห่วงอธิศ

 “พี่ซัน”

เขาตะโกนออกไป ก่อนที่จะถูกลากไปด้วยลูกน้องผู้เป็นบิดา

ชายที่ยึดตัวอธิศไว้เหวี่ยงตัวเขาไปกลางห้อง ชายหนุ่มรีบหมุนตัวกลับหมายจะวิ่งไปช่วยธีทัต

             ผลั่กกก..


ชายคนที่เพิ่งเหวี่ยงตัวเขาต่อยเข้าที่รอยแผลที่ยังคงไม่หายดี อธิศร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดราวกับแผล 

นั้นจะแยกตัวเขาให้เป็นชิ้นๆ ความเจ็บปวดทำให้ต้องทรุดตัวลง แล้วชายคนนั้นก็รีบเดินตามผู้เป็นนาย

ออกไป

อธิศกัดฟันประคองตัวลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งตามบุคคลทั้งหมดไป จนถึงถนนหน้าโรงแรม

สิ่งที่เห็นมีเพียงท้ายรถหรูที่ขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาตะโกนเรียกหนุ่มน้อยตาหวานดังลั่น

แต่สิ่งที่ทำให้ก็มีเพียงคุกเข่าลงนั่งอยู่กลางถนน มองขบวนรถที่แล่นไปลับตา...






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2014 19:46:15 โดย Belove »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ซันไปเอากันดั้มกลับมานะ :sad4:

แล้วฝากตัวเป็นลูกเขยมาเฟียยึดเอาอำนาจซะ  :hao7:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ลุ้นๆ

พ่อหนุ่มตาชั้นเดียวจะเป็นยังไงต่อไปน๊าาาา  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Elizabeth_TonnY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กันดั้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :hao5: :ling1: :angry2: :serius2: :o12: :sad4:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ทำไมคุณพ่อไม่มีเหตุผลเอาซะเลยนะ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ใครทำพี่ซันนนนนนนนนนน ฆ่ามานนนนนนมาทำพี่ซันเราได้อย่างไงงงงงงง
คุณพ่อใจร้ายมากจริงๆนะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                        รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                           บทที่ 24


ธีทัตถูกดันและผลักให้เข้าไปในห้องของเขา ชายหนุ่มฮึดฮัดก่อนหันไปคว้าแจกันแก้วใบใหญ่ขว้างไปที่

ลูกน้องของผู้เป็นบิดาเพื่อระบายอารมณ์ ชายคนนั้นหลบฉากแจกันแก้วจึงลอยไปกระทบกับฝาผนังแตก

กระจาย

“ไอ้กัน”

นายธนาเดินเข้ามาคว้าคอเสื้อผู้เป็นบุตรชายแล้วส่งเสียงดัง

“หยุดบ้าได้แล้ว ฉันไม่เคยสอนให้แกทำตัวอย่างนี้”

ธีทัตดึงมือผู้เป็นบิดาออกจากคอเสื้อพลางสบตาคนเป็นพ่อ

ธนาได้แต่นึกสะท้อนอยู่ในหัวอก เมื่อเห็นแววตาของลูกชายคนเดียวนั้นแดงก่ำ มีแต่ความเจ็บช้ำตัดพ้อ

และโกรธเคืองส่งผ่านมา เขาเองได้แต่หวังว่าเมื่อเหตุการณ์ร้ายๆผ่านไปธีทัตจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องทำ

“ใช่ครับ พ่อไม่เคยสอน แต่ทุกสิ่งที่พ่อทำลงไปบีบให้ผมต้องทำตัวอย่างนี้”

ธีทัตอดทนไม่ไหวที่จะเก็บงำความรู้สึก การที่บิดาของตนได้กันอธิศไปจากชีวิตนั้น

เหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความรู้สึกเก็บกดต่อผู้เป็นบิดาขาดสะบั้น และเขาก็ไม่เห็นความจำเป็น

ที่จะต้องเก็บมันไว้อีกต่อไป

“ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อบังคับให้ผมทำตามใจพ่อมาตลอด ทั้งเรื่องเรียนเรื่องเที่ยว ชีวิตส่วนตัว ไม่เคยมีสักครั้งที่

ผมได้เป็นตัวของตัวเอง “

ธีทัตระเบิดคำพูดที่อยู่ในใจพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่มันหลั่งไหลออกมาราวทำนบแตก

“แล้วมันไม่ดีตรงไหน เจ้ากัน”

นายธนาเสียงดังตอบ

“ที่ฉันพยายามทำทุกวันนี้ก็เพื่อให้แกมีเงินใช้ สุขสบายจะได้ไม่ลำบากเหมือนในอดีต ฉันทูนหัวทูนเกล้า

ให้แกทุกอย่างที่จะหาได้ในโลก แกยังไม่พอใจหรือ”

“ไม่”

ธีทัตตะโกนก้อง

“ผมไม่ได้ต้องการแก้วแหวนเงินทองของพ่อ สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือความอบอุ่นจากพ่อ

อยากให้พ่อมากอดผมบ้างเวลาผมไม่สบายใจ อยากได้ยินพ่อปลอบผมเวลาผมทุกข์ พ่อให้ผมได้ไหม “

นายธนายืนอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากคนเป็นบุตร นี่เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า

“ผมแสวงหาและรอคอยแค่สิ่งเหล่านี้จากพ่อ รอว่าเมื่อไหร่ที่พ่อจะมีให้ผมได้บ้าง แต่ก็ไม่มี ในขณะที่ผู้ชาย

คนนั้น คนที่พ่อบอกว่าไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้านั่นแหละเค้ามีสิ่งเหล่านี้ให้ผม เค้ามีให้ในสิ่งที่ผมต้องการ

แล้วอย่างนี้ พ่อจะไม่ให้ผมรักเขาได้อย่างไร”

ธีทัตหันหลังให้คนเป็นพ่อพยายามกลั้นสะอื้นไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ สิ่งที่นายธนาเห็นนั้นจึงเป็นแผ่นหลังสูงใหญ่

ของคนเป็นลูกชายที่สั่นสะท้านจากการร้องไห้ เขาเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้น เอื้อมมือจะไปวางลงบนบ่าของ

ธีทัต แต่ก็ยังไม่กล้า มือใหญ่นั้นจึงตกลงมาข้างตัว

ธีทัตจึงไม่ได้เห็นชายที่มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจมืดต้องเดินคอตกออกไปจากห้องของผู้เป็นบุตรชาย





อธิศเบียดตัวเข้าแทรกกับฝูงชนบนรถไฟฟ้าในเย็นวันจันทร์เพื่อกลับคอนโด ยังคงเสียวแปลบที่ไหล่ขวา

กับแผลที่ยังไม่หายสนิท

กลับมาทำงานเป็นปกติหลังจากที่ลางานไป 3 วัน พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ นับรวมไปถึง เสาร์และอาทิตย์ที่เรื่อง

ทั้งหมดเกิดขึ้น

เมื่อเช้าวานนี้เองที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่นครราชสีมา ก่อนที่จะหาทางซมซานกลับมาถึงกรุงเทพได้เมื่อบ่าย

แล้ว

กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้สงสัยที่เขาลาป่วยไปสามวัน

มีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ รู้ว่าทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว มันเหมือนมีอะไรที่ได้มาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ในชีวิต แล้วสิ่งเหล่านั้นก็ลอยหายไป   เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 5 วันเท่านั้น แต่เป็น 5 วันที่เขาต้อง

จดจำไปตลอดชีวิต

เขาเดินทอดน่องอย่างไร้อารมณ์ไปเรื่อยๆ ในทางเข้าคอนโดของเขา เหมือนอย่างคืนนั้นวันนั้นที่เป็นต้นเหตุ

ของเรื่องทั้งหมด แล้วก็ต้องหยุดชะงัก

เสียงเครื่องยนต์จากรถยี่ห้อแพงแล่นมาจอดดักทาง ชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งกรูกันลงจากรถ

อธิศสะดุ้งวาบเมื่อเห็น หนึ่งในนั้นคือหนึ่งในห้าที่เขาและธีทัตมีเรื่องด้วยที่น้ำตกแน่นอน

หันกลับเตรียมใส่เกียร์นักวิ่งทีมชาติ แต่ก็ไม่ทัน

เขาโดนจับและถูกผลักเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังทำอะไรไม่ทันแม้แต่ตะโกนขอความช่วยเหลือ





อธิศถูกบังคับให้นั่งลงในห้องเล็กของบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง เขากวาดสายตาไปทั่วๆ ก็แทบจะหยุดหายใจ

นอกจากคนที่มีเรื่องกันที่น้ำตกแล้ว คนที่เขาเห็นหน้าสองคนในคืนวันเกิดเหตุก็อยู่ในห้องหลังนี้ด้วย

เขาหยุดสายตาที่ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งตรงข้าม เหมือนจะเคยเห็นตามข่าวสังคม เขานึกแปลกใจที่คนๆนี้จะเป็น

หัวหน้ากลุ่มที่มีปัญหากับคนเป็นบิดาของธีทัต

ชายคนนั้นเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจเมื่อเห็นหน้าของเขา ก่อนหันกลับไปถามคนจับตัวมาเพื่อความแน่ใจ

ว่าไม่ผิดตัว เขาจึงหันกลับมาแล้วเริ่มต้นพูด

“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ คุณไม่เจ็บตรงไหนนะ”

เขาเอ่ยถาม

“คุณจับตัวผมมาทำไม ผมทำอะไรให้คุณ”

อธิศทำใจดีสู้เสือถาม ชายผู้เป็นหัวหน้ากระตุกยิ้มก่อนตอบ

“อ้อ..คุณไม่ได้ทำอะไรผมหรอก นอกจากเอามีดเสียบพุงลูกน้องผมไปหนึ่งคน และนอกจากนั้น ผมได้ข่าว

มา...” 

คนเป็นหัวหน้า โน้มตัวมาพูดจริงจัง 

“ข่าวว่า คุณเป็นคนสำคัญของลูกนายธนา จริงหรือเปล่า”

อธิศเสียววาบเมื่อเดาความคิดของอีกฝ่ายได้ เขารีบปฏิเสธปากสั่น

แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะเชื่อมั่นในเรื่องที่รู้มา จึงหัวเราะอย่างเป็นต่อ

“คุณจะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงผมก็ต้องให้คุณอยู่กับผมก่อน จนกว่าผมจะได้ตัวลูกชายเจ้าธนามา”


อธิศตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วินาทีนี้ได้แต่ภาวนาให้นายธนาคุมตัวธีทัตไว้ให้สำเร็จ




ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่ซันแย่อีกละ
ถ้าพ่อกันดั้มไม่ช่วยก็ใจดำมากๆอะ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ซวยแล้วพี่ซันนน  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :katai1: อ้าว แย่แล้ว
สรุปว่า กันดั้มต้องมาช่วยพี่ซันเหรอเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                         รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                            บทที่ 25


ธีทัตนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากผู้เป็นบิดาสั่งกักบริเวณไม่ให้ไปไหน

เขานอนมองเพดานราวกับจะให้มันเป็นจอภาพยนตร์ที่ฉายเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเขากับอธิศซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ใจก็นึกเป็นห่วงหนุ่มตาชั้นเดียวเพราะรู้ดีว่าอาการบาดเจ็บนั้นยังไม่หายสนิท ธีทัตได้แต่ยก

สองมือขึ้นลูบหน้าอย่างกลัดกลุ้ม

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นธีทัตยกขึ้นดูก็เห็นเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นตา เขากดปุ่มตอบรับแล้วยกขึ้นแนบหูอย่างเซ็งๆ

“คุณธีทัต”

เสียงไม่คุ้นหูแว่วมาจากในโทรศัพท์

“ตอนนี้คุณอธิศอยู่กับผม”

จบประโยคนั้นนั่นเองที่ทำให้หนุ่มตาหวานลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ

“ว่าอะไรนะ”

เขาตะโกนถาม

“จริงๆก็ไม่อยากให้เขามาเดือดร้อนด้วยหรอก แต่บังเอิญว่าอยากจะเชิญคุณมาเป็นแขกสักหน่อย ก็เลยต้องให้

คุณคนนั้นเขามารอก่อน”

เสียงนั้นยังพูดมาเรื่อยๆ แต่มันกลับทำให้ธีทัตแทบจะลุกเป็นไฟ

“เอาเป็นว่าถ้าอยากจะมาเยี่ยมเยียนกันก็มาที่…”

เสียงตามสายนั้นบอกสถานที่มาก่อนที่จะตัดไปโดยที่ไม่ปล่อยให้ธีทัตซักถามมากไปกว่านั้น

ธีทัตตั้งสติ เขายกมือขึ้นนวดขมับด้วยความกลุ้ม พยายามข่มความร้อนใจและคิดหาหนทางก่อนที่จะตัดสินใจ

กดโทรศัพท์หาก้อง คนสนิท

ก้องก้าวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วทันใจคนเป็นเจ้านาย ธีทัตสบตาก้องเพื่อหยั่งความรู้สึก

“ก้อง ฉันกับแกก็เป็นเพื่อนเล่นกันมานานนะ”

คนเป็นนายเริ่มเอ่ยกับคนที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้อง

“ฉันคิดอะไร เป็นยังไง แกน่าจะเดาออก เมื่อตะกี้มีโทรศัพท์มาหาฉัน บอกว่าเขาจับพี่ซันไว้”

ธีทัตเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าก้องพลางสบตาขอร้อง

“พี่ซันคือคนสำคัญของฉัน ถ้าฉันอยากจะขอร้องแกให้ช่วย”

ก้องสบตาคนเป็นนาย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แปลกใจที่ธีทัตพูดคำนั้นออกมา

“ถ้าคนๆนั้นเป็นคนสำคัญของนาย ผมก็ตกลง”

คนเป็นลูกน้องเอ่ยขึ้น ธีทัตยิ้มและตบไหล่ก้องอย่างยินดี

“แล้วเราจะออกไปกันอย่างไรล่ะนาย นายใหญ่สั่งกักบริเวณขนาดนี้”

ก้องคิดไม่ตกแต่ธีทัตก็ยังยิ้มได้

“ไม่มีอะไรขัดขวางได้หรอก ถ้าจะไปจริงๆ จำทางที่พวกเราแอบหนีไปตอนเด็กๆไม่ได้หรือ”

ก้องตกใจ

“ไอ้ทางหมาลอดนั่นน่ะนะ นายเอาจริงดิ”

ก้องถามย้ำ ธีทัตพยักหน้า

“ทางนั้นแหละ มีแค่เราสองคนที่รู้นะก้อง”





พุ่มไม้เลื้อยที่ปกคลุมหนาแน่นบดบังช่องเล็กๆที่แตกเป็นช่องโหว่พอให้คนลอดได้ของกำแพงหนาหลังบ้าน

เริ่มชยับสั่นไหว ก้องใช้มือค่อยๆ ดึงกิ่งไม้ที่รกเรื้อออก เนื่องจากเขาและธีทัตผู้เป็นนายไม่ได้ใช้เส้นทางนี้

นานแล้วพุ่มไม้นี้จึงขึ้นรกยิ่งกว่าเดิมจนแทบไม่มีใครรู้

เป็นการดียิ่งสำหรับงานนี้ที่สองหนุ่มเจ้านายและลูกน้องจะแอบหนีไปด้วยกันอีกเหมือนสมัยวัยเยาว์

ก้องเองก็นึกสนุกไม่น้อย จัดการกับพุ่มไม้ได้พอตัวผ่าน เขาก็คลานมุดลอดช่องกำแพงไปไม่ยากนัก

แต่ติดตรงคนตามทีหลัง เพราะธีทัตตัวสูงใหญ่กว่าก้อง ช่องทางที่เคยมุดตัวออกไปได้ดูจะแคบลง

ธีทัตมองซ้ายขวา ก่อนคว้าเอาเศษอิฐมาถือและส่งให้ก้องที่ไปรออีกฝั่งช่วยกันค่อยกะเทาะกำแพงออกให้

ช่องกว้างขึ้น จนเริ่มได้เหงื่อกำแพงก็กว้างพอสมใจ

หนุ่มตาหวานค่อยๆมุดตัวออกไปภายนอก ก่อนที่จะพ้นหมดตัว เขาหันกลับมามองลอดช่องกำแพง เพื่อ

มองบ้านที่คุ้นเคยอีกครั้ง

ไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อชีวิต แต่จะร้ายหรือดี เขาได้ตัดสินใจแล้วที่จะทำตามที่ใจ

เรียกร้องเป็นครั้งแรก

และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย..

นึกถึงคนเป็นบิดาอย่างอาลัย ถึงแม้ความสัมพันธ์จะไม่ลงรอยกันนัก แต่เขาก็รักคนเป็นบิดาเช่นกัน

ธีทัตถอนหายใจ ก่อนจะมุดลอดช่องกำแพงออกไปจนหมดตัว แล้วยืนขึ้นยืดตัวตรงโดยมีก้องยืนข้างกาย

ลูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับว่านี่คือลมหายใจแห่งอิสรภาพที่เขาได้สัมผัสมันเป็นครั้งแรก

ใจคิดไปถึงหนุ่มตาชั้นเดียวที่เขาเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ ก่อนหันไปสบตากับคนเป็นลูกน้อง

มีกันแค่สองคน ... แต่ก็ต้องไป

รอก่อนนะครับพี่ซัน ผมจะไปหาพี่เดี๋ยวนี้





หลายมื้อแล้วที่คนเป็นนายน้อยรับประทานอาหารไม่หมด นายบุญ พ่อบ้านเก่าแก่ของนายธนานึกในใจ

อย่างเป็นห่วง

คราวนี้นายน้อยทะเลาะกับผู้เป็นบิดารุนแรงจนมีคำสั่งให้อยู่แต่ภายในรั้วบ้าน แต่นายน้อยเองก็หมกตัวอยู่

แต่ในห้องไม่ยอมออกมาภายนอกห้องเช่นกัน จนนายบุญต้องเป็นฝ่ายยกอาหารมาให้ทุกมื้อ

มื้อนี้ก็เช่นกัน เขาเคาะประตูห้องเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนเปิดประตูเข้าไปและมองหาผู้เป็นนาย

โดยปกตินายน้อยจะชอบนั่งที่ริมหน้าต่าง แต่วันนี้ไม่มีแม้แต่เงา เขาจึงรีบวางถาดอาหารแล้วหาคนเป็นนาย

ทุกซอกมุม

สายตาเหลือบไปเห็นเศษกระดาษแผ่นเล็กที่ตกอยู่บนเตียง นายบุญหยิบขึ้นมาดูเห็นลายมือคนเป็นนายจด

ที่อยู่ที่ไหนสักแห่งไว้

เพ่งมองแล้วคิดตามถึงที่อยู่นี้ พลันเดาเหตุการณ์ทุกอย่างปะติดปะต่อ ก่อนจะตกใจจนแทบสิ้นสติ

เขาวิ่งออกไปนอกห้องแล้วตะโกนโวยวาย

“นายใหญ่ แย่แล้ว นายน้อยไปหาพวกมันแล้ว”











ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :katai1: ลุ้นๆๆๆ รีบๆไปช่วยพี่ซันเร็ว

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อ๊ากกกกก นายใหญ่จะไปช่วยกันดั้มไหม

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ขอให้ไปหาและะกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้งคู่นะ  :ruready

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                     บทที่ 26



อธิศเดินไปมาเหมือนหนูติดจั่น ไม่ได้ถูกมัดหรือพันธนาการใดๆอย่างที่คิด

แต่ก็ถูกกักขังให้อยู่แต่ในห้องเล็กๆไปไหนไม่ได้

นึกแปลกใจในความขัดแย้งของนักธุรกิจใหญ่สองคนที่ลงทุนถึงขั้นมีการฆาตกรรม  และจนถึงขั้นใช้เขาเป็น

ตัวล่อให้คนเป็นลูกของอีกฝ่ายเข้ามาในวงล้อม

นึกเป็นห่วงก็แต่เจ้าหนุ่มตาหวานที่อารมณ์ร้อนจนยากที่ห้ามได้

คิด คิด คิด ถึงวิธีที่จะแก้ไขสถานการณ์ จนตัดสินใจล้วงโทรศัพท์เครื่องเก่าที่แอบอยู่ในกระเป๋ากางเกง

รอดจากการถูกยึดมาได้เนื่องจากเป็นมือถือจอขาวดำเก่าแก่แถมหน้าจอเป็นรอยร้าว

จนอาจไม่เป็นที่คาดคิดว่ามันจะยังคงใช้งานได้อีก

กดเปิดเครื่องรอให้การค้นหาสัญญาณโทรศัพท์เรียบร้อย อธิศกดเบอร์ที่คุ้นอยู่ในใจ แล้วรอให้ปลายทาง

รับสาย

“ป๊าเหรอ ซันเองครับ”





ทันทีที่ธีทัตและเจนหยุดยืนที่ประตูรั้ว ประตูนั้นก็ถูกเปิดออก

ธีทัตยืดตัวตรง หลังตรงหน้าเชิด ดวงตายโส ราวกับไม่มีใครอยู่ในสายตาได้กลับคืนมาหาอีกครั้ง

เขาก้าวเดินอย่างสง่าผ่านเข้าไปด้านใน ผ่านบรรดาสมุนนับสิบเข้าไปกับก้องเพียงสองคนจนถึงเก้าอี้รับแขก

ที่มีเจ้าของถิ่นนั่งรออยู่

ธีทัตเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนตรงหน้า

“ไม่นึกว่าจะเป็นคุณ”

ธีทัตเอ่ยทักคำแรก 

“คุณอาบดินทร์” 

ชายหนุ่มเอ่ยชื่อ ส.ส.ชื่อดังฝั่งรัฐบาลที่มีแนวโน้มว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีสมัยหน้า ไม่แปลกใจที่คนระดับนี้กลับมี

เบื้องหลังอยู่ในเงามืดเพียงแต่สงสัยที่คนๆนี้มามีปัญหากับผู้เป็นบิดาของเขาต่างหาก

“กล้าหาญใช้ได้นะ ที่มากันแค่สองคน แสดงว่าข่าวที่ได้มาเป็นความจริง”

คนสูงวัยกว่ายิ้มที่มุมปาก

“คนที่ผมเชิญมาคงมีอิทธิพลต่อคุณจริงๆ”

ปลายเสียงส่งมาเป็นเชิงเยาะ จุดประกายโทสะไหววูบในดวงตาคนอ่อนวัยกว่าก่อนจะจางหายไปด้วยการ

ควบคุมอารมณ์ที่ได้รับการสั่งสอนมาแต่เด็ก

ธีทัตเป็นฝ่ายกระตุกยิ้มให้คนอาวุโสบ้าง

“ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ว่าคุณมีปัญหากับพ่อถึงกับต้องไปจับตัวคนที่คุณเองก็ไม่รู้จักมาเป็นเหยื่อล่อ

เพื่อให้ผมมาติดกับ ช่างเป็นวิธีที่กล้าหาญเช่นกัน”

ได้ผล ว่าที่รัฐมนตรีมีใบหน้าโกรธจัดกับคำต่อว่าแสบๆ ของเด็กรุ่นลูก เขาทำท่าจะชักปืนออกจากเอว

แต่ช้ากว่าธีทัตและก้อง ที่คว้าปืนจากเอวมาเล็งตรงหน้าคนเป็นหัวหน้า ในขณะที่ลูกน้องของบดินทร์ก็เล็ง

ปืนมาที่สองหนุ่ม

“ไหนคุณบอกว่าเชิญผมมาคุย นี่ยังไม่ได้เริ่มคุย ก็จะใช้ไม้แข็งเลยหรือ”

ธีทัตส่งยิ้มกวนๆให้บดินทร์

“บอกลูกน้องคุณเก็บปืนดีกว่า คุณคงไม่อยากลองฝีมือของอดีตแชมป์เยาวชนยิงปืนทีมชาติอย่างผมหรอก

ใช่ไหม”

บดินทร์ชักสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องเก็บปืน ธีทัตและก้องเห็นว่าทุกคนเก็บปืนเรียบร้อย

จึงเก็บปืนไว้ที่เดิม

“เขาอยู่ที่ไหน”

ธีทัตเอ่ยถามเสียงเครียด

“รบกวนคุณช่วยพามาด้วย ไม่อย่างนั้นที่คุณให้ผมมาถึงที่นี่ก็ไม่เกิดประโยชน์”

บดินทร์หัวเราะในลำคอก่อนสั่งให้ลูกน้องนำตัวหนุ่มตาชั้นเดียวมา



อธิศถูกนำตัวมาที่ห้องเจรจา เขาสบตากับธีทัตอย่างเป็นห่วง คาดไว้ไม่มีผิดว่าเจ้าหนุ่มตาหวานคง

หาทางหนีออกมาจากบ้านไม่ยากด้วยความดื้อรั้นที่มีอยู่เต็มตัว ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้การแก้ไขปัญหาของ

เขาสำเร็จลุล่วงทันเวลา

ธีทัตสบตากับอธิศอย่างคลายกังวลไปได้เรื่องหนึ่งที่เห็นหนุ่มตาชั้นเดียวปลอดภัย ไม่มีถูกทำร้าย

หนุ่มตาหวานหันหน้ามาเจรจากับบดินทร์ต่อ

“คุณต้องการอะไรจากพ่อผม” 

บดินทร์โน้มตัวมาคุยกับเด็กรุ่นลูกอย่างจริงจัง

“ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มอีกสัก สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่อาต้องการจากพ่อของคุณ”

ธีทัตแทบจะยกมือกุมขมับ

แม้จะยังไม่ได้ลงไปช่วยคนเป็นบิดาอย่างเต็มตัวแต่เขาก็รู้ดีว่าที่บดินทร์ขอนั้น ไม่มีทางที่ธนาผู้เป็นพ่อ

จะยอมได้

“คุณอาก็ทราบว่าพ่อคงตัดสินใจเองไม่ได้”

เขาเริ่มเจรจา

“มันต้องแล้วแต่นายระดับสูงสุดไม่ใช่หรือ”

บดินทร์ชักสีหน้า เนื่องจากเหตุผลนี่แหละที่ทำให้เขาจัดการอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ในเมื่อเขาทราบดีว่า เหนือ

จากเขา และธนา รวมถึงอีกหลายๆกลุ่ม ก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับของนายระดับสูงสุดอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้

ควบคุมการค้าทั้งหมดตั้งแต่ประเทศไทย กินอาณาเขตไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน นายระดับสูงคนนี้เองจะ

เป็นคนจัดการส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด



“แต่ถึงนายใหญ่จะสั่งมา ฉันก็ไม่ยอมแกหรอก ไอ้บดินทร์

ธีทัตและอธิศแทบจะหงายหลังเมื่อได้ยินเสียงนั้น บดินทร์ทะลึ่งพรวดขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นคนที่บุกเข้ามาในบ้าน

พร้อมสมุนจำนวนไม่น้อย

“ไอ้ธนา!!”

บดินทร์ขบกรามกรอดเมื่อเห็นศัตรูทางการค้าบุกมาเยือนถึงถิ่น ธนาเดินเข้ามาประจันหน้า

“ทำไม ไอ้ขี้ขลาดที่ชอบเล่นสกปรก ทำได้แม้กระทั่งจับตัวคนไม่มีทางสู้มาเป็นตัวประกัน ถุย..”

ไม่ทันจบประโยค บดินทร์ก็ตรงเข้าชกหน้าผู้เป็นบิดาของธีทัต และทันทีที่คนเป็นนายของทั้งสองฝั่งเริ่มลง

มือ ลูกน้องก็พลอยตะลุมบอนกันไปด้วย

อธิศถือโอกาสพุ่งตัวเข้ามาดึงแขนของธีทัตให้มายืนหลบที่มุมห้องแม้เจ้าหนุ่มตาหวานจะสะบัดแขน

เพื่อจะเข้าไปช่วยผู้เป็นบิดา

“พี่ซัน ปล่อยผม ผมจะไปช่วยพ่อ”

ธีทัตพยายามดึงแขนของตนให้หลุดจากการดึงรั้งของอธิศ

“กันดั้ม มันอันตรายนะเชื่อผมเถอะ”

อธิศเพียรพยายามขอร้อง ธีทัตหันไปมองธนาอย่างละล้าละลังบดินทร์ใช้ช่วงชุลมุน

และธนาเสียหลักเข้าขัดขาจนธนาล้มลง ก่อนจะควักปืนจากเอวแล้วเล็งไปที่ธนา

“กันท่ากูนัก ก็อย่าอยู่ให้หนักโลกเลยมึง”

บดินทร์ง้างไกธีทัตใจหายวูบ เขาตัดสินใจใช้มือข้างที่เหลือจากการดึงผลักอธิศอย่างแรงจนเสียหลัก

แล้วพุ่งตัวเข้าผลักคนเป็นบิดาอย่างรวดเร็ว พอดีกับที่เสียงปืนดังขึ้น
“เปรี้ยง!!!”
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2014 12:20:01 โดย Belove »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ตัวหนังสือมันเล็กไป เล็กมากๆ
 :ruready

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
โว๊ะ ค้างอย่างแรง ลุ้นๆ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao5: แง ตัดฉับเลยอ่ะ

ออฟไลน์ FahFon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
คะ คะ ค้างงงงงงง

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                        รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                             บทที่ 27


ทันทีที่เสียงปืนนัดแรกเงียบลง ทุกคนจึงได้สติ

ธีทัตที่ล้มตัวเพราะพุ่งเข้าผลักคนเป็นบิดายืนอึ้ง ความเจ็บปวดเริ่มส่งจากปลายประสาทเข้าสู่การทำงาน

ของสมอง เขาก้มหน้ามองสีข้างตัวเองก่อนใช้มือซ้ายจับกดแผลที่ชายโครงซ้าย โลหิตทะลักทลายไม่หยุด

หย่อน

ใบหน้าที่ขาวเนียนอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งซีดไม่มีสีเลือด เขาพยายามตั้งสติ แต่ไม่เป็นผล อาการมึนงงเริ่มมาเยือน

ก่อนที่สติจะขาดหาย

ธนาตกใจแทบสิ้นสติ วินาทีนั้นเขารีบคว้าตัวธีทัตเข้ามาประคองตะโกนเรียกชื่อผู้เป็นบุตรชาย โดยไม่

สนใจคนเป็นศัตรู

บดินทร์ย่ามใจ เขาเล็งปืนไปที่พ่อลูกคู่นั้นอีกครั้ง ก่อนจะง้างไกเป็นรอบที่สอง


อธิศเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ธีทัตพุ่งตัวเข้าผลักผู้เป็นบิดา และคนที่มีความหมายต่อชีวิตถูกยิงล้มลง

เหมือนใจจะขาดวิ่นออกจากร่าง ยิ่งเห็นบดินทร์ง้างไกอีกครั้ง       

อธิศเลือดเข้าตา

เขาตรงเข้าใช้สองมือประสานทุบที่กลางหลังของบดินทร์จนเสียหลัก ก่อนที่จะตามไปซ้ำด้วยหมัดจาก

กำปั้นของเขาอีกหลายหมัด

บดินทร์สะบัดหน้าอย่างมึนงงเมื่อโดนโจมตีจากบุคคลที่เขาคิดว่าไม่มีพิษสง เมื่อหายมึนบ้างแล้ว

โทสะจึงเข้าครอบงำเต็มที่

ไอ้ห่ะ..รักกันดีนักก็ตายกันซะให้หมด อย่าอยู่เลยมึง”

เขาทำท่าจะเล็งปืนมาทางอธิศ แต่หนุ่มตาชั้นเดียวไวกว่า เขาตรงเข้าแย่งปืนจากบดินทร์ ใช้สองมือจับข้อมือ

ของบดินทร์แล้วพยายามบิดหัก

ปืนทำท่าจะหลุดจากมือ แต่บดินทร์ก็เหนียวพอตัวเขากดนิ้วชี้จนปืนลั่น

โอ้ยย..”

ลูกปืนถากต้นแขนข้างซ้ายของอธิศ ชายหนุ่มใช้แรงแขนเฮือกสุดท้ายบิดจนปืนหลุดจากมือบดินทร์ หนุ่มตาชั้น

เดียวรีบเตะปืนไปให้พ้นทาง

บดินทร์ทุบเข้าที่แผลที่ต้นแขนซ้ายของอธิศ จนเขาร้องลั่นก่อนจะใช้มือขวามากุมที่แผลต้น แขนซ้าย

บดินทร์ยังไม่หยุด เขาชกเข้าที่ลิ้นปี่ของอธิศจนจุก ต้องทรุดตัวลงนั่ง

แต่ก่อนที่บดินทร์จะทำร้ายอธิศมากไปกว่านี้ เสียงปืนนัดที่สามก็ดังขึ้น พร้อมกับกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่ง

ที่กรูเข้ามา ด้วยการนำของชายชราที่ยังดูแข็งแร็งและน่าเกรงขาม

ทุกคนหันไปมองไม่เว้นแม้แต่นายธนาที่ประคองธีทัตอย่างเป็นห่วง บดินทร์หน้าซีดก่อนพึมพำเบาๆ

นายใหญ่”

คนที่ได้ชื่อว่านายใหญ่กวาดสายตาไปมองความเละเทะของเหตุการณ์โดยรอบห้อง ก่อนที่จะมาหยุด

สายตาที่หนุ่มตาชั้นเดียว

เมื่อเห็นสภาพอธิศ สายตาของชายชราเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว ดุดัน เขาระเบิดเสียงออกมาอย่างไม่ไว้

หน้าใคร

ใคร ใครมันบังอาจทำร้ายลูกกู”





ธนายืนมองคนเป็นบุตรชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงในห้องผู้ป่วยอาการหนักในโรงพยาบาลเอกชนอย่างเป็น

ห่วง

แผลที่ชายโครงซ้ายได้รับการผ่าตัดนำกระสุนออก แต่หนุ่มตาหวานเสียเลือดไปมาก ตอนนี้รอบตัวจึงเต็มไป

ด้วยถุงน้ำเกลือและถุงเลือด

คนเป็นบิดาเอื้อมมือไปลูบศีรษะบุตรชายเบาๆ ก่อนที่จะรำพึงเสียงเศร้าๆ

พ่อเคยบอกกันแล้วใช่ไหมว่าเราไม่ควรมีความรัก เพราะความรักจะทำให้เกิดความห่วง มันคือสิ่งที่เป็น

อันตรายต่อชีวิต เหมือนอย่างที่พ่อห่วงกัน รักกัน กลัวจะเกิดเหตุอย่างวันนี้ แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้

คนเป็นบิดาพยายามกลั้นสะอื้นเมื่อนึกถึงความรู้สึกกลัวที่ต้องสูญเสีย

ถ้ากันเป็นอะไรไป พ่อจะอยู่อย่างไรในเมื่อพ่อขาดแม่ไปคนหนึ่งแล้ว อย่าทิ้งพ่อไปเลยนะ”

เขามองหนุ่มน้อยที่นอนอยู่ตรงหน้าอย่างรักใคร่อีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง

ธีทัตค่อยๆ ลืมตาก่อนมองตามหลังคนเป็นบิดาที่เดินออกไปแล้วยิ้ม

ขอบคุณครับพ่อที่รักผม ผมก็รักพ่อเหมือนกัน”


หนุ่มตาหวานพึมพำตามหลังคนเป็นบิดา ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งอย่างเป็นสุข




ตกลงลื้อจะเอายังไง อาซัน”

ชายชราน่าเกรงขามที่ทุกคนให้ความเคารพยำเกรง บัดนี้นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟารับแขก

หนุ่มตาชั้นเดียวผู้ซึ่งทุกคนเพิ่งรู้ว่าเป็นบุตรชายของผู้เป็นนายใหญ่ที่สุด กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

แผลที่ต้นแขนซ้ายได้รับการตกแต่งแล้ว รวมทั้งแผลที่ไหล่ขวาที่ปริแยกจากการต่อสู้ก็ถูกทำให้ใหม่เช่นกัน

โธ่ ป๊าก็”

เขาพูดคุยกับชายชราเหมือนเป็นเพื่อนเล่น

“ก็อย่างที่เล่าให้ฟังนั่นแหละ ป๊าจะถามสักกี่รอบคำตอบก็เหมือนเดิม”

ที่ป๊าถามเพราะจะให้ลื้อถามใจตัวเอง ตกลงว่าลื้อจะมาทางนี้แน่ใช่ไหม ชอบเจ้าหนุ่มนั่นแน่ๆใช่ไหม”

ก็ถ้า ผมรักเค้าจริงๆ ป๊าจะว่าไงล่ะ”

อธิศถามผู้เป็นบิดาอย่างกริ่งเกรงอยู่บ้าง กลัวผู้เป็นบิดาจะไม่เข้าใจ

อาซัน ตั้งแต่เด็กจนโตลื้อเคยเห็นป๊าขัดใจลูกสักคนไหม”

คนเป็นพ่อถาม

“ลูกคนไหนอยากทำอะไร ป๊าไม่เคยขัด ป๊ารู้ว่าสิ่งที่ป๊าทำมันไม่ดีแต่ในเมื่อมันถอนตัวไม่ได้ สิ่งที่ป๊าจะชดเชยให้

คือลูกทุกคนมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ตามใจ

ผู้เป็นบิดาพูดเป็นงานเป็นการ

อย่างลื้อไม่ชอบงานธุรกิจของป๊า ลื้ออยากมาใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา เรียนอย่างคนธรรมดา ป๊าก็ไม่เคย

ห้าม บอกให้ไปเรียนเมืองนอกก็ไม่ไป ป๊าก็ไม่ว่า ถ้าลื้อจะรักเจ้าหนุ่มลูกนั่น แล้วมีความสุข ป๊าจะห้าม ได้ยังไง

อธิศประคองตัวเดินมาหาผู้เป็นบิดาอย่างรักใคร่ เขายกมือขึ้นไหว้อย่างเคารพและกอดรอบเอวบิดาไว้

ป๊า ผมรักป๊าจัง ขอบคุณมากนะที่เข้าใจผม”

หนุ่มตาชั้นเดียวยิ้มอย่างดีใจที่คนเป็นบิดาเข้าใจ แต่เมื่อคิดไปถึงบิดาของหนุ่มตาหวาน อิสริยะ ก็ต้องถอนใจ

อยากให้ คุณธนาเข้าใจอย่างป๊าบ้างจัง”

ชายชราโบกมืออย่างรำคาญ

ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ป๊าจะคุยกะอีเอง อีเชื่อฟังป๊าอยู่แล้ว ดีเหมือนกันป๊าจะได้ฝากฝังลื้อให้ไปฝึกฝีมือกะอี

ลื้อจะได้เก่งๆขึ้นมาหน่อย











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2014 22:34:37 โดย Belove »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด