•.*...♥ รักเรา(ไม่)เท่ากัน ♥...*.• ตอนพิเศษ [ 6-9-58 / P.64 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: •.*...♥ รักเรา(ไม่)เท่ากัน ♥...*.• ตอนพิเศษ [ 6-9-58 / P.64 ]  (อ่าน 836196 ครั้ง)

ออฟไลน์ ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบคำอวยพรของคุณพ่อคุณแม่จัง รักกันๆน้าาเดียวทิว  :กอด1:


ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
พี่เดียวคงเป็นกระต่าย(//อึ๊บบ่อย//)  วันๆคงไม่ทำอะไรนอกจากกินขี้ปี้นอน

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
อ่านตั้งแต่ลง แต่มาเม้นวันนี้เพราะจะอ่านอีกรอบ กีากกก
เดียวมันจริงๆเล้ยยยยย
คิดแต่เรื่องนั่นตลอด  แต่ก้นี่แหละถึงจะน่ารัก


Kanya97

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ เพิ่งมาอ่าน เป็นกำลังใจให้นะคะ
 :hao5: :hao5: :hao5:

Kanya97

  • บุคคลทั่วไป
อ่านบทลูกชายคนใหม่นี่ทำไมเรารู้สึกเหมือนทิวเพิ่งได้เจอพ่อแม่เดียวเลยอะ เคยเจอตั้งแต่ตอนทิวหนีไปแล้วไม่ใช่หรอ หรือเราอ่านอะไรตกหล่นหรือเปล่านะ >_< แบบรู้สึกน่าจะสนิทสนมกว่านี้เพราะแม่เดียวก็ไปทานโจ๊กบ่อยๆ เจอกันบ่อยอะไรอย่างนี้ แต่อารมณ์ในตอนนี้มันแปลกๆ (หรือเราคิดไปเอง 55555)

รอติดตามค่ะ ว่าเรื่องนี้จะจบด้วยฉากไหน -//-
เสียน้ำตาไปสิบลิตรแล้วสำหรับเรื่องนี้ อิอิ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ครอบครัวเดียงโอเคละ เหลือแต่ฝั่งทิว
โอ้ยเดียวกลับมาทะลึ่งอีกละ
ตลก555

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
มีความสุขซะที !!! ^^

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :hao5: วันนี้อ่านรวดเดียวตั้งแต่ตอนแรกจนตอนล่าสุดจนจบ หมดทิชชู่เป็นม้วนเลย สนุกมากค่ะ เห็นหลาย ๆ คนคอมเม้นท์แบบอินกันมากกกก เสียดายไม่ได้อ่านตั้งแต่แรก ไม่งั้นได้คอมเม้นท์สดไปด้วยแล้วววว

อยากเห็น ครอบครัวทิวรู้ว่าทิวได้เป็นสะไภ้เกียรตินาคิน จะว่ายังไงบ้างน้ออออ สะใจค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เหยย กลิ่นครอบครวมันอวลไปหมดเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mirin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
กว่าจะมีความสุขได้ น้ำตาท่วมไปหลายรอบมากกก
ดีใจด้วยนะเดียว-ทิวา :o8:

ออฟไลน์ StamPu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao7: เย่ ดีใจจัง สภาวะปกติเเล้วววววว

ซึ้งจนน้ำตาจิไหล :heaven

อ่านมันรวดเดียวตั้งเเต่ตอนที่ 1-28 เสียน้ำตาไปหลายเเม่ะมากกกกกก  สนุก

ไรต์จะมาต่อเมื่อไหร่เอ่ย?????
เรื่องบางเรื่อง ปล่อยวางมันไปบางอะไรบางก็ดีนะ ชีวิตจะได้ไม่ฟรุ้งซ่าน

ออฟไลน์ TR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เพิ่งได้อ่าน อ่านแล้วหยุดไม่ได้
รักพี่เดียว หลงน้องทิว
ซึ้งครอบครัวพี่เดียว ส่วนพ่อทิวนี่คงต้องใช้เวลาสินะ
แต่แค่ครอบครัวพี่เดียวเอ็นดูทิว แค่นี้ก็อบอุ่นแล้ว
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ^^

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกมากกกก ซึ้งจนนำตาไหลเลย  :m15:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เพิ่งมาตามอ่านตอนใกล้จะจบ ฮาาา
ชอบทั้งสองคนมากๆค่ะ
เรื่องดีๆกำลังะตามมาแล้วใช่มั้ย

ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 อ่านไปได้2ตอนเอิ่มพระเอกรัตติกาลค่ะตะโฉดไปไหมทำไมขู่ทิวาอย่างนั้นละค่ะทิวน่าสงสารน่ะ ขอนอนจนกว่าจะเบื่อเอิมพระเอกชั่วไปไหมอ่าสงสารนายเอกค่ะ :a5:

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อ่านถึงตอน6แล้วเดียวหลงทิวแล้วซินะว่าแต่เค้าความหน่วงมาแล้วสินะสงสารทิวเดียวก็ถนอมๆทิวบ้างเพลาๆเรื่องอย่างว่าบ้านเหาะ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ทิว...น่ารักแท้ อิๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
cH 20 น้ำตาไหลเลิกทั้งที่รักกันสงสารทิวาอุตสาห์เปิดหัวใจสงสารเดียวไม่เคยรักใครพอรักใครสีกคนกลับถูกีดกัน
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมกระซิกบีบหน่วงค่ะ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
รับไหว้ล่ะกีอ เข้าหอ

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
CHAPTER 29 ...ภูเขาที่มองไม่เห็น...





บรรยากาศร่มรื่นของสวนที่ปูด้วยผืนหญ้าสั้นๆสีเขียวอ่อนในบ้านหลังใหญ่กินอาณาบริเวณไปเกือบครึ่ง มีทั้งไม้ใหญ่ยืนต้นและพุ่มไม้ดอกนานาชนิดแข่งกันอวดสีสัน สองตารูปเหยี่ยวพยายามทอดใจไปกับอากาศสดชื่นยามเย็นที่แวดล้อมด้วยแมกไม้แต่เพราะคนเดินข้างเคียงไม่ใช่คนคุ้นเคยพอที่จะให้จิตใจสงบได้ขนาดนั้น

แม้ทิวาจะพบนายหญิงของบ้านเกียรตินาคินทร์หลายครั้งหลายหนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมานี้ แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าคุ้นเคยพอที่จะเดินพูดคุยเล่นกันไปให้คลายความเงียบ การที่อีกฝ่ายมาพบเขาพร้อมกับใบหน้าเศร้าหมองของคนพ่ายแพ้ กับเขาที่ได้แค่รับฟังแต่ไม่มีการโต้ตอบแม้สักประโยคเดียว จะเรียกว่าเป็นแค่คนแปลกหน้าก็คงไม่ผิดอะไรนัก

แต่สถานะภาพตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

ผู้หญิงคนนี้เรียกแทนตัวเองว่า ‘แม่’ และออกปากรับเขาเป็น ‘ลูก’ อีกคนต่อหน้าครอบครัว

ทิวาไม่แคลงใจสักนิดกับการยอมรับที่เกิดจากการรักลูกชายคนเดียวเหลือคณา ผู้หญิงที่พร้อมจะร้ายเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของลูกชาย ผู้หญิงที่เข้มแข็งพอจะยอมรับ ยอมอับอายเพื่อร้องขอ ทิวารู้ซึ้งเหลือเกินว่าคุณราตรีเป็นแม่ที่ยอมทุกอย่างเพื่อลูกจริงๆ เขาเลยไม่แปลกใจแม้แต่น้อยว่าทำไมรัตติกาลถึงได้เอาแต่ใจได้ขนาดนี้ เพราะมีแม่ที่พร้อมจะให้ได้เสมอนั่นเอง

แต่ลึกๆในใจเล่า...

แม่ผู้แสนดีคนนี้จะยอมรับเขาได้มากแค่ไหน

สองตาละจากภาพสีเขียวเป็นบางครั้งเพื่อลอบมองคนเดินข้างกายเพื่อเดาอารมณ์ แต่ตลอดทางจนมาถึงศาลาไม้ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นมะลิ ใบหน้าที่แม้จะมากอายุก็ไม่คลายความงามนั้นยังคงแตะแต้มรอยยิ้มไม่จาง จนกระทั่งเชื้อเชิญเขาให้เข้าไปนั่งศาลา รอยยิ้มนั้นก็ยังคงส่งตรงมาให้เขา

แม้จะไม่คาดคิดกับข้อเสนอที่ต้องการให้ค้างคืนเสียที่บ้านหลังนี้ แต่เขาก็ยินดีตอบรับข้อเสนอนั้นเพราะไม่อยากให้รัตติกาลต้องลำบากใจในเรื่องที่นับจากนี้คงไม่อาจหลีกหนีพ้น และเป็นคุณราตรีอีกนั่นแหละที่จัดแจงไล่ลูกชายตัวเองให้ไปนำข้าวของเสื้อผ้าสำหรับค้างคืนจากคอนโดมาโดยที่ทิ้งเขาไว้ที่นี่

จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากต้องการคุยกับเขาเพียงลำพัง

การชักชวนให้ออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนก็ดูจะยืนยันความคิดนั้นได้เป็นอย่างดี


“ขอบใจนะจ๊ะทิว...”

มันไม่ใช่ประโยคแรกที่คิดว่าจะได้ยินแต่ทิวาแค่เพียงเงียบและรับฟัง

“ขอบใจที่ยกโทษให้แม่นะ”   

“มันไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงพอที่จะทำให้คุณพูดคำนั้นหรอกครับ”

“มีสิ ที่กล่าวเธอไปโดยที่ไม่ได้รู้ความจริงว่าเป็นยังไง มันทำให้ฉันรู้สึกว่าขอโทษเท่าไหร่ก็ไม่พอ”

“คุณเคยบอกผมไปแล้วครับ อีกอย่างเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว”

คุณราตรียิ้มรับ ใบหน้าดูคล้ายจะผ่อนคลายมากขึ้นหากแววโรยรายังไม่ได้เลือนหายไป

“เกือบปีที่ผ่านมาฉันเห็นเธอบ่อยยิ่งกว่าลูกชายแท้ๆเสียอีก แต่วันนี้คงเป็นครั้งแรกที่เธอยอมคุยกับฉันแบบเต็มใจ”   ทิวามองดูผู้มากวัยกว่าเอื้อมคว้ามือของเขามากุมเอาไว้หลวมๆ มันอบอุ่นไม่แพ้กับฝ่ามือของลูกชายเลยสักนิด สายตาที่พอมองเห็นริ้วรอยแห่งกาลเวลาเอียงสบประสานกันกับตาเหยี่ยวคู่สวย   “จะเป็นลูกเขลูกสะใภ้หรือจะเรียกอะไรก็ช่าง เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะทิวา เพราะฉันไม่มีข้อกังขาใดเลยที่จะมาแย้งว่าเธอไม่ใช่คนที่ลูกชายฉันต้องการ พอไม่มีเธออยู่ลูกชายฉันก็เหมือนคนไร้ชีวิต”

ทิวาเพียงแค่ยิ้มตอบรับ หากแต่เป็นรอยยิ้มที่ปลอดโปล่งใจที่สุดเท่าที่จะรู้สึกได้ในตอนนี้

“อีกเรื่องที่ต้องขอบใจเธอ...เรื่องพวงมาลัย”   พูดจบคุณราตรีก็หลดหัวเราะออกมา   “ฉันเดาว่าเธอคงเป็นต้นคิด ไม่อย่างนั้นตาเดียวคงไม่ทำอะไรอย่างนั้นแน่ๆ”

“คือว่า ผมแค่...”   เขาไม่อยากให้คุณราตรีเข้าใจคลาดเคลื่อน ถึงทิวาจะเป็นคนเสนอแนะแต่มันจะไม่เป็นผลอะไรถ้ารัตติกาลไม่ทำ

“ฉันเลี้ยงลูกมา ฉันรู้ดีจ้ะ ไอ้เรื่องมาทำซึ้งกับพ่อกับแม่อย่างนี้น่ะไม่มีเอาซะหรอก นอกจากเวลาทำผิดเท่านั้นแหละที่จะยอมเสียงอ่อนเสียงหวาน”

“เฮ้อ...เวลาอยากจะได้อะไรก็ง้องแง้งเป็นเด็ก”   เสียงถอนหายใจดังควบคู่ไปกับการพูดแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทันที

“พอไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มหัวฟัดหัวเหวี่ยงจะเอาให้ได้”

“แล้วไอ้หน้าตาเจ้าเล่ห์เหมือนคิดแผนอะไรอยู่ตลอดเนี่ยผมเกลียดนักเชียว”

“ไอ้หน้าตาอย่างนั้นล่ะเป็นสัญญาณเตือนเชียวล่ะว่าเราต้องเตรียมปวดหัวได้เลย”

“แต่เรื่องระเบียบจัดนี่ผมยกให้เลย เป๊ะจนผมเวียนหัว”

“นั่นน่ะได้พ่อเขามาเต็มๆ เสื้อผ้าในตู้นี่แยกเป็นหมวดเป็นหมู่ไล่โทนสีซะดิบดี”

“ผมนี่ไม่ยุ่งกับตู้เสื้อผ้าของเดียวเลยครับ กลัวไปทำโทนสีเขาเพี้ยนเดี๋ยวจะโวยวายเอา”

“คิก คิก ดื้อก็เท่านั้น เอาแต่ใจก็เป็นที่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะ”   คุณราตรีอมยิ้ม ตบหลังมือเขาเบาๆสองสามที   “ทำไมเราถึงได้ยอมลงให้ทุกทีก็ไม่รู้”

“นั่นน่ะสิครับ...”

ทิวาได้แต่ปลงตก มีอีกหลายอย่างที่อยากจะระบายแต่ก็คร้านจะพูดบอกกับคนอื่น อย่างไอ้เรื่อง ลามก ชอบพูดสัปดนนั่นอีก แถมยังเป็นพวกไม่รู้จักอิ่มง่ายๆจนทำเขาเหนื่อยอ่อนไปด้วย แล้วยังไอ้โรคชอบนอนกอดนั่นอีก บางทีเขาเองก็ต้องการนอนสบายๆกางแขนกางขาได้เต็มที่แต่ไอ้วงแขนล่ำๆนั่นก็ชอบควานมารัดทุกทีไป เคยยื่นคำขาดไปแล้วครั้งถึงขนาดขู่ว่าจะไปนอนห้องที่ว่างอยู่ แต่ก็นั่นล่ะ... รัตติกาลคงทำเล่ห์กลอะไรใส่เขาสักอย่าง

เพราะไม่ว่าจะเอาแต่ใจเท่าไหร่
 เขาก็ ‘ยอม’ ตามใจเสมอ

“คิก คิก คงเพราะมีแต่คนตามใจอยู่อย่างนี้สินะ ถึงได้กลายเป็นไม่แก่ดัดยากอย่างทุกวันนี้”

“ฮะ ฮะ ก็คงงั้นแหละครับ จะบอกจะเตือนอะไรนี่เข้าหูซ้ายทะลุออกขวาตลอด”


เสียงหัวเราะนุ่มหูกังวานก้องราวกับกำลังเล่าเรื่องขำขันขั้นสุดยอด คุณราตรีอมยิ้มกับผู้ชายหน้าสวยปานสตรีที่นั่งเคียงข้าง ยิ่งพิศมองใกล้ๆยิ่งเข้าใจว่าทำไมลูกชายเธอถึงได้หลงใหลนัก เพราะยามยิ้ม ยามหัวเราะนั้นเปี่ยมเสน่ห์อย่างนี้นี่เอง แม้รูปร่างจะไม่ได้สะโอดสะองปานหญิงดังเช่นรูปหน้า แต่เมื่อยืนเทียบกับลูกชายเธอที่สูงหนาทิวาก็ดูบอบบางไปถนัดใจ ยิ่งช่วงหลังมานี้ที่รัตติกาลคร่ำเคร่งกับการออกกำลังกาย ร่างกายถึงจะผอมลงไปบ้างแต่กล้ามเนื้อกลับเด่นชัดขึ้น ผิดกับทิวาที่ถึงพอมีกล้ามเนื้อบ้างแต่ก็ดูจะนุ่มนิ่มไปทั้งตัว

เธอเห็นมาแล้วกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักของลูกชายยามที่มองคนๆนี้ ทุกท่วงท่า ทุกการกระทำของรัตติกาลราวกับหมุนวนโดยมีทิวาเป็นจุดศูนย์กลาง แม้ว่าเรื่องร้ายๆจะผ่านไปแล้ว แต่มันก็ยังทิ้งความกังวลให้คนเป็นแม่อย่างเธออยู่ รัตติกาลคล้ายจะรักมากเกินไป หลงมากเกินไป จนเธอกลัวว่าถ้าวันหนึ่งวันใดที่ทิวาพบคนที่ดีพร้อมกว่า...ลูกชายของเธอจะยังเป็นผู้เป็นคนได้อยู่ไหม

ในขณะที่ลูกเธอรักจนบ้าคลั่ง
อีกคนล่ะ...จะรักมากเท่านั้นไหม

“รักใช่ไหม?...”

“ครับ?”

คนที่ผ่านโลกมาหลายปีดีดักอย่างเธอ แม้จะมองคนไม่เก่งนักแต่เธอก็เชื่อในคำที่ใครสักตนบัญญัติขึ้นมาว่า ‘ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ’

“ถึงจะดื้อ จะเอาแต่ใจ จะเจ้าเล่ห์ หรือช่างบังคับขนาดไหน”

“...............”

“แต่ก็รัก...ใช่ไหม?”

นอกจากจะมีรูปตาที่สวยแล้ว แววตาคู่นี้ยังบ่งบอกอะไรได้มากพอๆกับใบหน้าที่เก้อเขินจนขึ้นสีระเรื่อ มันแวววับอ่อนหวานราวกับยิ้มได้

“ครับ”

ยามที่เอื้อนเอ่ยตอบรับแม้จะพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ แต่มันก็ยังเล็ดลอดให้ได้เห็นอยู่ดี

รัก...

มันเป็นความซื่อสัตย์ทางสีหน้าที่หาไม่ได้ง่ายๆนักจากคนสมัยนี้ ความขัดเขินมันสื่อออกมาจนเธอยังรู้สึกตามไปด้วย หากแววตาที่เธอมองสบอยู่นั้นกลับดูจริงใจคล้ายกับว่าเสียงกระซิบคำรักผะแผ่วนั้นมันดังก้องชัดเจน

ถ้าไร้ซึ่งอคติ ความเอ็นดูมันก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆอย่างนี้สินะ


...

..

.


อึ๊บ!  อึ๊บ!  อึ๊บ!

คนฟังได้แต่กรอกตากับเสียงที่ดังอยู่ข้างหู แถมเจ้าตัวยังยุกยิกไปมาจนน่ารำคาญตั้งแต่ออกจากห้องน้ำแล้วคว้าตัวเขาเข้าไปกอดแล้ว

“จะร้องอีกนานไหมไอ้คำเนี๊ย”

“ก็กำลังจัดที่จัดท่า จะได้นอนสบาย”   ไอ้คนต้นเสียงยังอุตส่าห์เถียงเสียงเข้ม แต่พอทิวาหันหน้าไปมองกลับเจอสีหน้ากรุ้มกริ่มกับแววตาระยับชวนขนลุก 

“คำอื่นมีตั้งเยอะแยะก็คิดมาใช้ซะบ้างเถอะ”

ด้วยเพราะใบหน้าที่ไม่ชอบมาพากลทำให้คนนอนอยู่ในอ้อมแขนพยายามจะกระเถิบตัวออกห่าง ไม่ว่าจะนอนหันหน้าหรือหันหลังให้ในระยะประชิดนั้น จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาพบว่ามันล้วนแต่อันตรายทั้งสิ้น ทิวาได้ยินเสียงขบขันเล็กน้อยจากเจ้าของอ้อมกอด วงแขนแข็งแรงก็ยอมให้เขาหลุดรอดออกมาอย่างง่ายดายแต่ไม่ยอมให้หนีรอดไปไกลเกินกว่าที่มือจะเอื้อมถึง

รัตติกาลนอนตะแคงข้างหนุนแขนไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างที่ว่างนั้นก็กำลังเล่นนิ้วของเขาอย่างสนุกสนาน ทิวามองมือตัวเองแล้วตัดสินใจให้มันกลายเป็นของเล่นชั่วคราวไปก่อน

“แล้วมีปัญหาอะไรกับไอ้คำว่าอึ๊บ”   

ทิวาอยากจะถอนหายใจใส่หน้าให้สุดลม คิดแล้วว่าคนอย่างรัตติกาลคงไม่ปล่อยให้เรื่องทะลึ่งรอดพ้นไปได้หรอก

“อ๊ะๆ หรือว่าคิดอะไรอยู่”   ไอ้การยักคิ้วหลิ่วตานี่มันกวนอารมณ์คนมองได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?

“จะให้คิดอะไร”

“ก็แบบว่าอยากถูกอึ๊บ โอ๊ย!!!”   

หลังจากชักปลายเท้ากลับเข้าที่อย่างรวดเร็วแล้ว ร่างโปร่งก็รีบกระเถิบกายออกห่างกว่าเดิม อยากจะยิ้มสะใจให้คนที่กำลังเอามือกุมท้องแต่ก็ได้แต่กลั้นเอาไว้แต่ก็แอบกลัวกับสายตาดุๆที่จ้องกลับมาอย่างคาดโทษ

“เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”

“ก็แล้วทำไมถึงได้ทะลึ่งตึงตังนักล่ะ”

“พี่เดียวพูดกับน้องทิวที่เป็นเมียนะครับ คิดมากไปแล้ว”   

เดียว!”   ทิวาพยายามนับหนึ่งถึงสิบไปมาเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอเอานิ้วไปจิ้มตาพราวระยับนั้นเสียให้บอด

“ไม่งั้นจะให้พูดคำไหนดีล่ะ เอากัน ซั่มกัน มีอะไรกัน หรือว่า....โอ๊ย!! อีกแล้วนะ”

ทิวารีบวาดขาไปสกัดคำที่ดูท่าจะร้ายแรง แต่แทนที่จะรอดพ้นไปได้อย่างคราวแรกกลับผิดคาดเพราะมือใหญ่คว้าข้อเท้าเขาไว้เต็มแรง แถมยังกระชากเข้าหาตัวแล้วโถมน้ำหนักทับเสียอีก เลยกลายเป็นว่าตอนนี้คนประทุษร้ายกำลังจะถูกลงโทษเสียแล้ว

“ปล่อยเลย ไม่เล่นแล้ว”   เสียงโวยวายของทิวาเหมือนเสียงจิ้งหรีดเรไรที่รัตติกาลหาได้สนใจไม่ และเมื่อริมฝีปากประทับที่ข้างแก้มจิ้งหรีดทั้งหลายก็แตกรังกระจายจนเงียบกริบ

“เป็นคนอื่นมาถีบอย่างนี้นะ โดนซัดคว่ำไปแล้ว”   คำพูดที่ทำเอาขนลุกช่างขัดกับใบหน้าเปื้อนยิ้มกับจูบหนักๆที่หน้าผาก   “แต่เพราะเป็นคนนี้หรอกนะถึงยอม...”

“งั้นจะถีบบ่อยๆ ต่อยเยอะๆ”

“ระวังเดียวเอาคืนจนลุกไม่ขึ้นนะครับ”   ไอ้คำเน้นเสียงทะแม่งๆนั่นแหละที่ทำเอาหวาดผวา ทิวารีบสั่นหน้าพึ่บพั่บจนรัตติกาลอดหัวเราะไม่ได้ ร่างหนาเคลื่อนกายมาล้มนอนด้านข้างแทน เหลือเพียงแขนกับขาที่ยังก่ายเกยร่างที่บางกว่าเอาไว้ราวกับเป็นหมอนข้าง

“ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า? แต่ดูทิวจะเข้ากับแม่ผมได้เร็วจัง”   

“ก็ตามประสาคนที่ต้องเจออะไรเหมือนกันล่ะมั้ง”

“อะไร? ยังไง?”

ก็อย่างที่นอนตัวเป็นๆข้างๆนี่ไง...

“แล้วไม่ดีเหรอ”

“เปล่าครับ... ดีมากด้วย”   รัตติกาลกระชับอ้อมกอดจนแน่น ซุกหน้าเข้ากับซอกคอแล้วฝังจมูกแน่นิ่ง   “เดียวแค่สบายใจ ไม่สิ มันโล่งโปร่งไปทั้งใจเลย”

อ้อมแขนที่ไร้กล้ามเนื้อหนั่นแน่นอย่างอีกฝ่ายตวัดโอบรอบร่างหนาเอาไว้ ฝ่ามือตบแผ่นหลังกว้างเบาๆแทนคำพูดให้กำลังใจ ทิวาเข้าใจดีว่าคนรักโล่กอกแค่ไหนที่ไม่ต้องเลือกระหว่างผู้ให้กำเนิดกับคนรัก แต่ไอ้ฝ่ามือร้อนๆที่เริ่มไล้เข้ามาในเสื้อนี่ล่ะที่คอยรั้งอารมณ์เขาไว้ให้หยุดที่ความรำคาญ ยิ่งไม่ทักไม่ท้วงก็ยิ่งลามไปทั่วหน้าอก แถมยังปัดผ่านยอดมันให้เขาต้องจั๊กจี๋ จนเริ่มหนักข้อขึ้นเมื่อเลื้อยเข้าขอบกางเกงนอนนั่นแหละฝ่ามือรุ่มร่ามถึงได้หยุดเพราะโดนตะปบ

“พอเลย”

“ชิ! ถ้าพรุ่งนี้ไม่ต้องตื่นไปใส่บาตรนะ”

“จะทำไม”

“จะ จุด จุด จุด ให้เสียน้ำตายกันไปข้างเลย”

ไม่ได้ต่างอะไรเลย...

ถึงไม่มีคำหยาบโลน แต่ข้อความมันก็สื่อออกมาได้ไม่ต่างกัน ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้นะ...เฮ้อ!

เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ รัตติกาลอมยิ้มแล้วแอบยกศีรษะขึ้นมองใบหน้าเจ้าของเสียง ทิวาทำหน้าสุดแสนจะเซ็งโลกทั้งๆที่ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อด้วยความอาย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทิวาผ่านโลกที่มีแต่สิ่งยั่วยุนี้มาได้ยังไง กับอีแค่เรื่องทะลึ่งตึงตังก็ทำให้เขินได้ขนาดนี้แล้ว ทำเป็นเบื่อ ทำเป็นโมโห แต่เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าสีหน้าทุกอย่างที่สื่อออกมามันออกมาบนผิวเนื้อที่ขึ้นสีระเรื่อแดงบนแก้มขาว เพราะมันน่ามองอย่างนี้ไงเล่า เขาถึงได้ชอบพูดชอบทำ

พอยิ่งเห็น ก็อยากจะให้แก้มนุ่มๆนั้นมันแดงกว่าเดิม

ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้แม่ของเขาออกปากชวนใส่บาตรด้วยกันทั้งครอบครัวล่ะก็ ค่ำคืนนี้ทิวาคงหนีไม่พ้นอยู่ใต้ร่างเขาแน่นอน--

รัตติกาลกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเมื่อคนที่ทำหน้าเบื่อพลิกตัวมาซุกหน้าลงกับอกเขาในท่วงท่าประจำก่อนนอน แต่เขาจำต้องลุกจากการกอดตอบแสนอบอุ่นนี้ก่อนเพื่อไปปิดไฟในห้องนอนให้มืดสนิทพร้อมเข้านิทรา แต่เมื่อเขากลับขึ้นมาบนเตียงนุ่มอีกครั้งทิวาก็ยังคงรอเขาอยู่พร้อมให้เขาแทรกตัวเข้าไปได้เหมือนก่อนจะจากไป รัตติกาลหลุดยิ้มให้กับความมืดอีกครั้งกับการโอบตอบแบบอัตโนมัติที่เจ้าตัวเองก็คงไม่ทันรู้ตัว

ขอบคุณนะครับ...

การที่ทิวากลับมาหาเขา กลับมาให้เขารัก กลับมาเติมเสี้ยวส่วนชีวิตและความรู้สึกของเขาให้เต็ม มันไม่มีคำไหนที่จะพูดบอกไปได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

“เรื่องอะไร?”

...ที่คุณเกิดมา...”   แรงกระชับกอดแน่นขึ้นใบหน้าซุกเข้ากับอกเขามากขึ้น   “...เพื่อผม

เขาคิดย้อนกลับไปกลับมาหลายร้อยตลบว่าถ้าพ่อกับแม่ไม่ยอมรับในความรักครั้งนี้ เขาจะทำอย่างไรถ้าจะต้องเลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดขึ้นมาจริงๆ และไม่ว่าจะกี่ครั้งคำตอบก็คงจะเหมือนเดิม เขาเลือกทิวาอย่างไม่ต้องคิดมากให้เสียเวลา เขารักพ่อกับแม่ แต่เมื่อถึงตอนนั้นคำว่าอกตัญญูก็คงรั้งเขาไว้ไม่ได้

ดังนั้นเมื่อเขากลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าแม่กำลังหยิบยกอัลบั้มรูปเก่าๆของเขามาคุยฟุ้งให้ทิวาฟัง นอกจากความอายที่พุ่งขึ้นสูงแล้ว ความรู้สึกหนักๆที่มันเกาะกินข้างในอยู่พลันสลายไป ยิ่งเห็นการพูดคุยด้วยรอยยิ้ม มีการหัวเราะชี้ชวนกันดู มันก็ไม่สำคัญเลยว่าเจ้าของรูปถ่ายอย่างเขาจะอับอายแค่ไหนเพราะตอนนี้จิตใจมันเบาจนคล้ายกับว่าต่อจากนี้อนาคตของเขาคงมีแต่ความสุข

...

..

.

การใส่บาตรในตอนเช้าตรู่ผ่านพ้นไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อคุณนายแม่ของเขาพยายามเจ้ากี้เจ้าการให้ทิวาหยิบของร่วมชิ้นกับเขา แถมยังเคยเตือนให้มือนั้นอยู่เหนือมือของเขาขึ้นไปอีก พ่อกับเขาได้แต่แอบขำ แต่คนโดนสั่งกลับทำหน้าไม่ถูกคล้ายว่าอยากจะต่างคนต่างใส่แต่ใจไม่กล้าปฏิเสธ ก็จำต้องเลยตามเลยจนจบกระบวนความ

ทิวาที่ตั้งใจว่าจะกลับไปนั่งทำงานเงียบๆที่คอนโดมีอันต้องพับเก็บไป เพราะคุณนายราตรีท่านอยากจะพาลูกชายคนใหม่เดินทัวร์ทั่วโรงแรม เมื่อพ่อก็ไม่ได้คัดด้านอะไร เขาก็ได้แต่เลยตามเลยแม้ยังงงอยู่ว่าแม่จะไปพูดแนะนำทิวากับคนอื่นด้วยสถานะใดก็เถอะ จนเที่ยงนั่นแหละทิวาถึงได้มาเคาะประตูห้องเขาแล้วเดินสะโหลสะเหลเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงาน

“ไม่ไหวแล้ว...ผมหิวข้าว”

แค่คำสั้นๆ แต่รัตติกาลก็รีบทิ้งเอกสารที่กำลังอ่านค้างแล้วพาคนหิวไปเติมอาหารลงกระเพาะทันทีก่อนจะพากลับไปหย่อนทิ้งไว้ที่คอนโดให้คนรักของเขาได้มีเวลาสงบเงียบตามที่ตั้งใจไว้แล้วกลับมาทำงานต่อด้วยความสบายใจ จนกระทั่งใกล้เลิกงานที่เขาเพิ่งจะสำนึกว่ามีแค่เพียงเขาคนเดียวรู้เปล่าที่ปลอดโปร่งใจเหมือนภูเขาทั้งลูกมันอันตรธานหายไป

“คุณรัตติกาลคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”   เลขาหน้าห้องของเขาเปิดประตูเข้ามาด้วยทีท่าสุภาพเพื่อแจ้งเรื่อง

“ใคร?”

“คุณเอกสิทธิ์จากอินโนวาร์ค่ะ”

ดวงตาคมเบิกกว้าง มีแววประหลาดใจไม่น้อยกับการมาเยือนของเอกสิทธิ์ และเมื่อเขาพยักหน้าอนุญาตเลขาสาวถึงได้หลีกทางให้ใครอีกคนเดินเข้ามา เอกสิทธิ์ยืนอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งแน่ใจว่าประตูห้องทำงานถูกเลขาปิดจนสนิทแน่นจึงได้เริ่มเดินมานั่งที่ชุดรับแขกตามที่เขาเชื้อเชิญ เลขาคนเดิมเปิดประตูเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับน้ำผลไม้เย็นๆสองแก้วแล้วออกไปอย่างเงียบเชียบ

หน้าตาของเอกสิทธิ์ไม่เหมือนกับที่เขาเคยเห็น มันมีแววหมองของคนคิดมากกระจายให้เห็น จะเป็นเพราะเรื่องงานถึงได้มาพบเขาก็คงไม่ใช่ ที่เหลือก็คงมีอยู่อย่างเดียว

“อยากจะคุยกับผมเรื่องของทิวหรือเปล่าครับ”

สิ้นคำถาม คนฟังตอบรับโดยการพยักหน้าก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพ่นออกมาสุดแรงเพื่อปลดปล่อยความอัดอั้น แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกมา คล้ายกับว่าไม่รู้จะสรรหาหัวข้อใดขึ้นมาเปิดประเด็น

“ผมรู้มาว่าพ่อของคุณโกรธทิวมากจนตัดขาด”   เขาจึงเลือกพูดในประเด็นที่มันติดค้างใจเขาก่อน

“ทิวเล่าให้ฟังหรือครับ”

“อย่างทิวคงไม่เล่าอะไรแบบนั้นหรอก ผมแค่ฟังๆจากที่พวกคุณคุยโทรศัพท์กันแล้วมาประติดประต่อเอาเอง พอถามตรงจุดก็อึกอักไปต่อไม่ได้ผมก็เลยเข้าใจว่าผมคิดถูก”

“ใช่ครับ”   การอธิบายท่าทางของน้องชายดูจะจุดรอยยิ้มให้คนเป็นพี่ได้เล็กน้อย   “มันก็ไม่เชิงว่าจะมีคำตัดขาดอะไรโพล่งออกมาจากปากพ่อผมหรอกนะ แต่ทุกคำพูดมันก็สื่อออกไปแบบนั้น”

“ผมดูแลทิวได้”

“ผมคงไม่ห่วงในเรื่องนั้นหรอก เพราะถึงคุณดูแลไม่ได้ น้องชายผมก็มีความสารถมากพอที่จะดูแลตัวเอง”   เอกสิทธิ์ถอนหายใจหนักๆอีกครั้งจึงเริ่มพูดต่อ   “ที่ผมห่วงที่สุดไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณรักกัน รักได้มันก็เลิกได้ไม่ว่าเพศไหนก็คงไม่ต่าง แต่ผมห่วงที่ฐานะคุณ ชื่อเสียงครอบครัวคุณ พ่อแม่ของคุณต่างหาก”

“บอกตรงๆว่าผมไม่แคร์อะไรสักนิด ผมไม่ใช่คนที่จะเอาขี้ปากชาวบ้านมานั่งวิตกอยู่แล้ว”

“แล้วพ่อกับแม่คุณล่ะ”

“คุณหนึ่งไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นแล้วครับ ตอนนี้แม่ผมก็ดูจะเอ็นดูทิวมาก เมื่อช่วงเช้าเพิ่งจะพาทิวเดินรอบโรงแรมไปหนึ่งยก”

“หึ จริงเหรอครับ”   รอยยิ้มเริ่มปรากฏให้เห็นบ้าง   “ถ้าอย่างนั้นผมก็เบาใจไปโขเลย”

“แต่ผมกลับยังเป็นห่วงเรื่องทางบ้านของคุณ”

“ผมคิดว่าต่างคนต่างอยู่ไปเลยก็ดีครับ ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเอ่ยชื่อทิวออกมา”   รอยยิ้มแห่งความโล่งใจเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นร่องรอยขมขื่น   “ผมว่าคุณก็พอจะรู้ว่าทิวไม่ได้เป็นที่ปลาบปลื้มเท่าไหร่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมต้องมองน้องตัวเองน้อยเนื้อต่ำใจในความรักที่มันเผื่อแผ่มาอย่างไม่เท่าเทียม ตอนที่เห็นทิวแอบไปร้องไห้ผมก็ได้แต่ยืนมองเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะปลอบยังไงดี ผมที่พยายามทำตัวเป็นพี่ชายที่ดีแต่สุดท้ายมันก็เหมือนหน้าฉากที่ผมสร้างขึ้นเท่านั้น เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรของทิวมากมายนัก มานึกย้อนดูให้ดีแล้วเรื่องที่ทิวจะหันมาปรึกษาผมก็แทบจะไม่มี ดังนั้นถ้าตอนนี้ทิวเลือกคุณแล้ว เลือกที่จะเริ่มต้นกับคุณ ผมก็อยากจะให้น้องตัดครอบครัวเก่าๆทิ้งไปซะ มันไม่มีค่าพออะไรเลยสำหรับความทรงจำ”

นี่คงเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสินะ เรื่องครอบครัว... เขารู้ว่าทิวาค่อนข้างจะมีปมในเรื่องนี้ แต่มันคงยังมีเรื่องราวอีกมากที่เขาไม่อาจเข้าไปสลายมันได้ด้วยความรักเพียงอย่างเดียว

“แต่ทิวรักและเคารพคุณมากนะครับ...เขาบอกว่าถ้าไม่มีคุณก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง”

“ทิวเกิดความคิดเชิงลบหลายๆครั้งครับ แต่ผมเชื่อว่าที่เขาผ่านมาได้เป็นเพราะความเข้มแข็งส่วนตัวต่างหาก”

รัตติกาลเม้มริมฝีปากแน่น เขาอยากจะถามว่าไอ้ความคิดเชิงลบที่ว่านั้นคืออะไร แต่อีกใจก็กลัวที่จะได้ยินเพราะคาดว่าเรื่องคงผ่านมานานมากแล้ว ถ้าได้ฟังคงไม่พ้นที่เขาพยายามจะถามเอากับเจ้าตัวแน่นอน

“ผมก็แค่หวังว่าทิวจะเจอคนที่ตามหาแล้วจริงๆ”   เอกสิทธิ์ตบเข่าตัวเองคล้ายถึงเวลาต้องสิ้นสุดการสนทนา   “ผมก็แค่อยากจะมาพบคุณเพื่อให้ตัวเองสบายใจเท่านั้น”

“ผมจะไปครับ”

“หืม? ไปไหนครับ”

“ไปพบพ่อของคุณเรื่องของทิว ผมจะไปคุยกับท่านแล้วจะตัดสินใจว่าผมควรจะกันทิวาออกให้ห่างดีหรือไม่”   ดวงตาเหยี่ยวที่ไม่ต่างจากของคนรักของเขาเบิกกว้าง   “คุณช่วยหาวันที่ครอบครัวคุณอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาให้ทีนะครับ”

“คือ...บอกตรงๆเลยนะว่าผมไม่อยากให้ทิวต้อง...”   ไม่ต้องรอให้เอกสิทธิ์อธิบาย เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะให้คนรักไปฟังเสียงแสลงหูคำพูดแสลงใจจากคนที่นั่นอยู่แล้ว

“ไม่แน่นอนครับ เพราะผมจะยังไม่ให้ทิวรู้เรื่องนี้ก่อนเด็ดขาด”

“ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะดีขึ้นได้หรอกนะ มันสะสมมามากเกินกว่าที่คุณคิด”

“ผมก็ไม่ได้คาดหวังอย่างนั้น แค่อยากจะทำทุกอย่างให้มันกระจ่าง ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆนะครับ น้องสาวคุณคอยแต่จะย้ำให้ทิวต้องเสียใจทุกครั้งที่เจอหน้า ผมแค่อยากจะไปบอกให้รู้ว่าครั้งหน้าที่คุณสองทำแบบนั้น...ผมจะไม่ยอม

“หึ หึ... ก็แล้วแต่คุณเลยครับ ผมเองก็จนปัญญาในเรื่องนี้มานานแล้ว”   เอกสิทธิ์ยักไหล่ไม่คิดต่อต้านแต่อย่างใด

“ผมรักทิวามากครับ และถ้าวันนั้นผมเสียมารยาทไปบ้างก็ต้องขอโทษคุณหนึ่งก่อนล่วงหน้า”

“ช่างมันเถอะครับ เพราะถึงยังไงซะคุณก็ทำเพื่อน้องผมนี่”

อย่างน้อยรัตติกาลก็พอจะสบายใจได้ล่วงหน้า ว่าปัญหากับเอกสิทธิ์คงจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเหตุการณ์ที่ยังมองไม่เห็นนั้นนำพาเอาความใจร้อนของตัวเองปะทุขึ้นมา เพราะถ้าเกิดเขามีปัญหากับพี่เมียแล้วล่ะก็ เขาคงได้โดนเมียตัวเองปั้นปึ่งไปหลายวันแน่




_____________________________________________________________ TBC. __________________



แหะ แหะ หายไปนานมาก (แต่เรื่องอื่นคงนานกว่านี้)

คอมเสียข้อมูลหายเกลี้ยง น้ำตาแทบจะไหลเป็นสายเลือด ทุกเรื่องที่พิมพ์ค้างเอาไว้มีอันต้องเริ่มกันใหม่ --ยกโทษให้กันนะคะ--

อ่านบทลูกชายคนใหม่นี่ทำไมเรารู้สึกเหมือนทิวเพิ่งได้เจอพ่อแม่เดียวเลยอะ เคยเจอตั้งแต่ตอนทิวหนีไปแล้วไม่ใช่หรอ หรือเราอ่านอะไรตกหล่นหรือเปล่านะ >_< แบบรู้สึกน่าจะสนิทสนมกว่านี้เพราะแม่เดียวก็ไปทานโจ๊กบ่อยๆ เจอกันบ่อยอะไรอย่างนี้ แต่อารมณ์ในตอนนี้มันแปลกๆ (หรือเราคิดไปเอง 55555)

คนเขียนงี้รีบกลับไปอ่านซ้ำเลยทีเดียว ขอบคุณที่บอกกันนะคะ จะลองปรับเปลี่ยนแก้ไขดู

แล้วที่ลืมไม่ได้

ขอบคุณทุกคะแนนโหวตนะคะ แค่เห็นว่าเรื่องนี้ติดอันดับกับเขาก็ปลาบปลื้มมากแล้วแถมยังลงคะแนนให้ชื่อคนเขียนพลอยติดสอยห้อยตามไปอีก สถานะตอนนี้ของตัวเองยังไม่มีสิทธิ์มีเสียงโหวตให้ใครค่ะเลยได้แต่อิจฉาคนอื่นๆ  ปีหน้าค่ะ ปีหน้าถึงทีเราบ้างแล้ว!!

ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคะแนนที่ได้ (#โบกมือน้ำตาปริ่ม)



รักคนอ่าน :กอด1: รักคนเม้น :กอด1:

Untill we meet agaiN




ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
จิ้มก่อน เดี๋ยวมาอ่าน

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ว๊าว ตอนหน้าบุกบ้านพ่อตา อิอิ
สู้ๆ พี่เดียวปกป้องน้องทิวซะ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
วางแผนดีๆนะคะคุณเดียว
บ้านแตกก็อย่าให้ทิวบาดเจ็บมากนัก
เอ๊ะหรือจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
สร้างความสำคัญให้ตัวเอง งเป็นที่รักไปเลย อิอิ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
หึย  อ่านตอนนี้แล้วทำไมรู้สึกว่า  มันมีเรื่องบางเรื่องในครอบครัวทิวที่ยังไม่รู้หว่า
มันยังจะมีเรื่องอะไรที่ร้ายแรงไปกว่าการไม่ได้รับการยอมรับ เหยียด กีดกัน อีกหรือเนี่ยะ
.... เดียวเป็นคนมั่นใจในตัวเอง เด็ดขาด จนบางครั้งเหมือนก้าวร้าว  แต่สำหรับครอบครัวทิว
เราคงเชียร์ให้เด็ดขาด  จะก้าวร้าวก็ต้องก้าวร้าวแหละฟระ 

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ตอนนี้เราเกาะขอบจอรอเลยค่ะ

เป็นเรื่องที่คาใจสุดๆ

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อ่า อ่านแล้วรู้สึกสงสารทั้ง ทิว ทั้ง เดียว สงสาร แม่เดียวด้วย คงรู้สึกผิดมากๆเลยซินะ :hao5:
อ่านแล้ว ซึ้งอ่ะ รอลุ้นว่า ทิวกับเดียวจะกลับมาเริ่มใหม่กันได้ไหมน่ะ :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด