•.*...♥ รักเรา(ไม่)เท่ากัน ♥...*.• ตอนพิเศษ [ 6-9-58 / P.64 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: •.*...♥ รักเรา(ไม่)เท่ากัน ♥...*.• ตอนพิเศษ [ 6-9-58 / P.64 ]  (อ่าน 836276 ครั้ง)

ออฟไลน์ mirin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
โงยยยย
สงสารทิวามาก ดีแล้วที่ไม่มา
ไม่ต้องมาฟังอะไรที่คนบ้านนี้พูด
กอดดดดดด

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
ยังรักและรออยู่น้าาาา อยากจะเห็นหึงกันรักกันหวานๆ

ออฟไลน์ L@DYMELLOW

  • กำลังงงๆ เพราะหาทางลงจาก “คาน” ไม่เจอ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +826/-4
    • facebook
CHAPTER 31 ...ยังไงก็รัก...





ความเงียบภายในห้องโดยสารยังดำเนินต่อไปแม้จะผ่านเลยจุดที่ก่อให้เกิดความหม่นมาแล้ว รัตติกาลไม่รู้ว่านอกจากความสงสารที่พ่อแม่มีให้ทิวานั้นจะมีความรู้สึกอื่นเจือปนมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนนับจากนี้คือทิวาจะเป็นของเขาคนเดียว เพียงแค่คิดเท่านั้น ความรู้สึกหวงแหนก็ดูจะมากยิ่งกว่าเดิม

“นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร แม่กลัวนะเดียว”

คนเป็นลูกชายเหลือบสายตามองทางกระจกหลังไปทางมารดาที่ทำหน้าเคลือบแคลงคล้ายกับว่าเขากำลังเสียสติ แต่คุณราตรีนั้นนั่งอยู่ด้านหลังจะรู้สึกตัวได้อย่างไรว่าเขายิ้มตอนไหนหรือไม่ แต่พอหันไปมองด้านข้างก็พบกับสายตาอีกคู่ที่เหลือบแลมา

อ้อ...คุณสามีคงชี้ชวนให้ดูสินะ

“เปล่าครับ”   รัตติกาลแทรกปฏิเสธเพื่อจะได้ไม่ต้องต่อความยาว แต่เขาลืมไปว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคุณราตรีที่ไม่ยอมปล่อยเรื่องใดใดให้ผ่านไปแม้ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม

“ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยนะเจ้าเดียว อย่ามาทำเฉไฉด้วยคำนั้นดีกว่า”

คนเป็นลูกถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง เอาเถอะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ออกอาการหน่ายใจกับความอยากรู้ไปเสียทุกเรื่องของคนในครอบครัวของคุณนายราตรี ขนาดสามีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายังแอบส่ายหน้าแบบไม่ให้ถูกจับได้อยู่เงียบๆ

“ก็แค่คิดถึงทิวา”

แล้วคำตอบที่ออกมาจากใจของเขาก็เรียกเสียงร้องอย่างหมั่นไส้ให้ดังขึ้นจากคนอยากรู้ จนคนได้ยินอดที่จะนึกขำไม่ได้ แต่เสียงขบขันนั้นก็ดำเนินไปได้ไม่นาน เพราะความหม่นในหัวใจพานจะกลับมาเคลือบในความรู้สึก

“แม่ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังครอบครัวนั้นจะซับซ้อนถึงขนาดนี้”   พูดจบคุณราตรีก็ตามต่อด้วยการถอนหายใจอีกหนึ่งเฮือก รัตติกาลเหลือบสายตาผ่านกระจกเพื่อลอบมองสีหน้ามารดาด้วยรอยยิ้มบางๆ   “แม่ไม่เคยคิดว่าจะมีพ่อแม่ที่ไหนเลือกที่รักมักที่ชังกับลูกตัวเองได้ขนาดนี้ คนเป็นพ่อกับแม่ก็ควรจะรักลูกสิ ต่อให้ลูกจะเหลวแหลกหรือไปฆ่าใครตาย แต่ลูกก็เป็นคนที่เราควรรักควรจะเข้าข้างไม่ใช่เหรอ แต่นี่...ทิวาออกจะเป็นเด็กดีปานนี้”

“คุณตรี...”   เสียงของพ่อเขาดังขึ้น แค่เพียงคำเรียกชื่อสั้นๆ แต่คนเป็นรู้กลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกรักระคนเอ็นดูที่คนเป็นสามีมีต่อคู่ชีวิต ทำเอาคนขับรถอย่างเขาแทบจะตบไฟกระพริบแวะจอดข้างทางด้วยความเขินที่มันล้นอก   “โลกเรามันมีความรักสีเทาอยู่เยอะแยะมากมาย เราอาจจะเห็นว่าบางสิ่งมันไม่ถูกไม่ควร แต่ก็ต้องปล่อยให้มันผ่านไปถ้ามันถึงจุดที่ยากจะเปลี่ยนแปลง เราไม่อาจไปจำกัดความคิดหรือเปลี่ยนจิตสำนึกของใครได้ รู้ไว้แค่ว่าตัวคุณ ‘รัก’ ได้แบบไหนเท่านั้นก็พอ”

มันฟังดูคล้ายจะเป็นคำชื่นชมที่ผสมกับการชี้แนะที่ทำเอาแม่เขายิ้มเอียงอาย รัตติกาลอมยิ้มกับบรรยากาศอมชมพูที่ไม่ค่อยจะได้เปิดเผยต่อหน้าลูกชายนัก แม่รักเขาอย่างที่ว่าแม้จะทำผิดแค่ไหนแม่ก็ยังลูบหัวแล้วให้อภัยได้ พ่อเองก็เช่นเดียวกัน...รักแม่แบบที่พร้อมจะให้อภัยและเข้าใจได้เสมอไม่ว่าเรื่องจะเบาหรือหนักแค่ไหน


เขาอยากจะรักได้อย่างนั้น แต่เขาเองก็มีนิยามรักในแบบของตัวเอง


“จริงสิ พ่อว่าจะหาตำแหน่งให้ทิวาในโรงแรม แกเห็นว่าไง”

“อืม...ผมก็อยากจะให้ทำงานที่เดียวกันหรอกครับจะได้เห็นกันตลอดเวลา แต่คงต้องกลับไปถามก่อน ถ้าเขาอยากทำอะไรผมก็คงไม่กล้าขัดใจ”

“.........อืม...เหรอ...”   พ่อจบการซักถามด้วยการเบือนสายตาออกไปนอกกระจกด้านตัวเองทันทีหลังจากจ้องมองเขาด้วยสายตาแปลกๆสักพัก

“แล้วนี่แกขับไปไหนกัน ทางกลับบ้านมันต้องเลี้ยวซ้ายแยกเมื่อกี้นะ”  คุณนายราตรีโวยเบาๆ

“อ๋อ...มันมีร้านเกาเหลาเจ้าเด็ดอยู่แถวนี้น่ะครับ ทิวบ่นอยากินมาหลายวันแล้ว ผมจะซื้อเข้าไปให้ซะหน่อย”

“............อืม...เหรอยะ...”   แล้วแม่ก็เบือนหน้าหนีเขาไปอีกทาง

เป็นอะไรกันนะผัวเมียคู่นี้??   





หลังจากรีบส่งแม่กับพ่อที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย เขาก็รีบขับรถกลับคอนโดอย่างรวดเร็วเพื่อนำเกาเหลารวมมิตรสูตรเด็ดไปฝากคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แทบทุกวันอย่างขยันขันแข็ง เป็นงานออกแบบฟรีแลนซ์ที่คนรู้จักส่งมาให้อย่างสม่ำเสมอ บางงานทำเอาคนรักของเขาโต้รุ่งมาแล้ว เพราะเป็นรุ่นพี่เป็นความหวังดีที่หยิบยื่นมาให้ ทิวาจึงตั้งใจทำงานชนิดที่ว่าทุ่มเทจนเขาไม่กล้ารบกวน

ถ้าทิวาเป็นผู้หญิง

เขาจะไม่รีรอที่จะบอกให้คนรักอยู่กับบ้านในคราบคุณนาย คอยส่งเขาไปทำงาน ยิ้มรับตอนเขากลับบ้าน ดูแลเขาให้ชื่นใจไปทุกวัน แต่มันก็เป็นแค่ฝันเพ้อๆที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ เขาจะไม่มีวันได้เป็นสามีที่โชคดีขนาดนั้น แม้ว่าฐานะทางการเงินจะเพียบพร้อมในการเลี้ยงดูใครสักคนให้สุขสบาย แต่ทิวาของเขาไม่ใช่คนที่จะงอมืองอเท้าเล่นเป็นคุณนายให้เขาเชยชม

จนถึงทุกวันนี้ทิวาก็ไม่เคยแบมือขอเงินจากเขาแม้แต่สตางค์แดงเดียว ถ้าเขาออกเงินไปในส่วนไหน ทิวาก็จะออกเงินในส่วนที่เหลือ ถ้าเขาเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารมื้อไหน มื้อต่อไปทิวาก็จะไม่ยอมให้เขาเลี้ยงซ้ำซ้อน ทิวาไม่เคยแตะต้องสถานะทางการเงินของเขาแม้แต่น้อย ไม่อยากรู้ว่าเขามีรายรับเท่าไหร่ หรือรายจ่ายในเรื่องยิบย่อยใดบ้าง มันคงจะดีสำหรับผู้ชายหลายคนที่หวังจะแยกกระเป๋าเงินกับภรรยา แต่บางครั้งมันก็น่าอึดอัดเกินไปกับความต้องการที่จะให้ทิวาอยู่อย่างสุขสบายอย่างที่เขาต้องการ

คอนโดฯของทิวาที่แทบจะกลายเป็นห้องร้างยังคงสร้างรายจ่ายให้ทิวาอยู่ทุกเดือน แม้เจ้าตัวจะบอกว่าเงินค่าผ่อนนั้นถูกแสนถูกเมื่อเทียบกับขนาดห้องและจะจ่ายช้าสักแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา แต่เพราะรายได้ที่ลดลงครึ่งต่อครึ่งหลังออกจาก INNOVAR ทิวาของเขาก็ต้องทำงานชนิดตัวเป็นเกรียวหัวเป็นน็อต เขาเคยเสนอเรื่องการชำระเงินทั้งหมดแทน แต่กลับจบลงด้วยการเคืองขุ่นจากตาเหยี่ยวที่ตวัดฉับมาจ้องเขาเสียจนไม่กล้าเอ่ยปากอีกเป็นครั้งที่สอง

การให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ และบำรุงบำเรอด้วยอาหารการกิน...เขาทำได้แค่เท่านี้จริงๆ

เขามักจะลืมไปว่าทิวาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง คำว่ารักมันทำให้เขามองข้ามเรื่องเพศจนลืมถึงความจริงข้อนี้  จนหลายๆครั้งเขาปฏิบัติกับทิวาราวกับเป็นหญิงสาวอ่อนแอ ทั้งที่จริงแล้ว ทิวาแข็งแรง และมีเรี่ยวแรงอย่างที่ผู้ชายควรมี ไม่ชอบออดอ้อน และไม่ได้ทำตัวน่ารักตลอดเวลา เขารู้ว่าทิวาฉลาดพอที่จะดูแลตัวเองและเอาตัวรอดได้ เหมือนอย่างที่เคยผ่านมา...แม้ไม่มีเขา...ทิวาก็ก้าวเดินต่อไปได้...

เขาแค่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น...ที่หวง ที่ตามติด...ที่คอยดูแลเอาใจสารพัด...เขาทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น
เพราะรู้แล้วว่าเมื่อไม่มีทิวาอยู่ด้วยตัวเขาจะเป็นยังไง



ทันทีที่เปิดเข้ามาในห้องเสียงจากโทรทัศน์ก็แว่วมาให้ได้ยิน นับเป็นเสียงต้อนรับที่ดี เพราะทิวาอาจจะทำงานเสร็จเรียบร้อยหรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในช่วงพัก นั่นหมายความว่านี่เป็นช่วงนาทีทองของเขาเลยทีเดียว

รอยยิ้มกริ่มแตะแต้มใบหน้าคมเข้มให้ดูดียิ่งขึ้น หากพอเดินมาถึงส่วนนั่งเล่นรอยยิ้มนั้นก็ยิ่งแผ่กว้างกว่าเดิมเมื่อพบกับศีรษะด้านหลังของคนคุ้นเคยเอนพิงกับพนักโซฟา รัตติกาลเลือกเดินไปวางข้าวของก่อนที่จะย่องเบาๆเข้าไปหาคนที่ยังนอนดูทีวีสบาย ฝ่าเท้าใหญ่ไม่ได้มีผลอะไรกับเสียงเดินที่พยายามทำให้เงียบเชียบที่สุด เป้าหมายอยู่ตรงหน้าหากความเงียบผิดปกติทำให้เขาชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมออกไปหากลุ่มผมนุ่มๆตรงหน้า

รัตติกาลค่อยๆชะโงกหน้าข้ามพนักไปมอง ดวงตาคมอุ่นวาบกับภาพที่เห็นพลอยให้ริมฝีปากยกยิ้มอย่างอัตโนมัติ เขาเปลี่ยนจุดมุ่งหมายโดยการเดินอ้อมเพื่อหย่อนกายลงนั่งข้างเคียง ร่างหนาบิดตัวพร้อมกับพาดขาข้างหนึ่งพับขึ้นบนเบาะเพื่อที่จะจ้องมองคนหลับได้อย่างถนัดถนี่ ศีรษะเอนซบพนักพิงเพื่อจะได้มองคนสวยในระดับสายตาเดียวกัน

จะเรียกสิ่งที่เขาเป็นว่าอย่างไรก็ช่าง
ลุ่มหลง...คลั่งไคล้...หรืออะไรก็ตามในทางที่ดีหรือเลวร้ายยิ่งกว่า
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เกิดขึ้นแค่กับคนๆเดียว

ทิวากำลังหลับสบายโดยมีโทรทัศน์จับจ้องอยู่ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่มานอนอย่างนี้ แต่ถ้าไม่ปลุกเสียตอนนี้ไม่แคล้วตื่นมาคงได้ปวดคอแน่ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงหากำไรกับการนวดคอนวดไหล่ได้ ก็ไม่ว่าจะจับตรงไหนก็นุ่มมือไปเสียทุกส่วน แค่คิดก็ทำเขาหัวเราะได้แล้ว

“ขำอะไร...”   เสียงงัวเงียดังขึ้นเบาๆจากคนตรงหน้า ทิวากระพริบตาถี่ๆไล่ความมึนงงออกจากหัวแม้ว่าดวงตาจะยังลืมไม่เต็มที่ ใบหน้าดูคล้ายคนไม่พร้อมจะตื่นขึ้นมาแต่คงเพราะเสียงขบขันของเขาไปดังอยู่ใกล้ๆกระมัง

“หิวไหม? เหนื่อยรึเปล่า?”   รัตติกาลปัดคำถามทิ้งด้วยคำถามใหม่ที่เต็มไปด้วยความห่วงใย มือหนายื่นออกไปเพื่อจับมืออีกฝ่ายมากุมไว้หลวมๆ จุดรอยยิ้มอ่อนหวานของข้าวของมือให้ผุดผาดขึ้นบนใบหน้าสวย ทิวาไม่ได้ตอบคำถาม แต่ปรับเปลี่ยนอิริยาบถให้หันมาเผชิญหน้ากัน ฝ่ามือนุ่มก็ไม่ได้ยอมให้เขาลูบไล้แต่ฝ่ายเดียว ปลายนิ้วเกี่ยวกระหวัดกันไปมา แตะแต้มผิวเนื้อแลกเปลี่ยนรอยอุ่นร้อนจากไอเนื้อ

เขาสามารถนั่งอยู่แบบนี้ได้ทั้งวัน ถ้าสายตาของเขาจะได้จับจ้องทิวาไปตลอด

“ผมซื้อเกาเหลาเจ้านั้นมาฝากด้วย”

“จริงเหรอ”   น้ำเสียงทุ้มหวานร่าเริงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาคนฟังหน้าบาน คุ้มค่ากับการที่ต้องอดทนเข้าคิวซื้อจนแม่กับพ่อบ่นกันไปตามๆกัน เพราะเป็นเจ้าดังในย่านนั้นและรสชาติก็อร่อยสมคำคุย คนมากมายเลยแวะเวียนกันมาซื้อมาชิมจนหมดก่อนเวลาบ่อยๆ ทิวาเองก็ดั้นด้นไปอยู่สองสามครั้งแต่ก็ไม่ได้กินสมดั่งใจอยาก

“ผมไปอุ่นให้ รอก่อนนะ”   รัตติการทำท่าจะลุกขึ้นไป แต่ปลายนิ้วกลับถูกรั้งไว้จากสิ่งที่เกาะเกี่ยวกันอยู่   “ทำไม?”

“ผมทำเอง กลับมาเหนื่อยๆก็พักเถอะ”

“ไม่เหนื่อย อยากทำให้”

“...งั้นก็ตามใจ ผมอยากกินร้อนๆนะ”   น้ำเสียงที่เข้ากันได้ดีกับคำสั่งมันให้เขาอยากจะรีบเอาอกเอาใจเสียให้เยอะๆ แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าเริ่มจะติดการถูกบริการเข้าไปทุกที

รัตติกาลลุกขึ้นไปอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟ ปล่อยให้คนอยากอาหารนั่งดูโทรทัศน์รอไปพลางๆ และเมื่อเสียงครบรอบเวลาดังขึ้นร่างโปร่งก็ถลามานั่งรอที่โต๊ะอาหารโดยไม่ต้องให้ส่งเสียงเรียก ดวงตาเหยี่ยวจับจ้องชามที่ขึ้นควันร้อนๆไม่วางตาจนเขานำมาวางเสิร์ฟตรงหน้าจึงได้รางวัลเป็นรอยยิ้มหวานๆ

“แล้วของเดียวล่ะ?”

“ผมกินที่ร้านมาแล้ว”

“โหย~ ผมก็อยากไปกินที่ร้านบ้าง อะไรมันจะขายดีปานนี้ก็ไม่รู้”  บ่นจบก็ตักน้ำแกงเข้าปาก มีการเหลือบมองตาเขาอย่างเขินอายแค่ชั่วแว่บเดียว แล้วหลังจากนั้นตัวเขาที่นั่งมองอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของคนรักอีกเลยจนกระทั่งเกาเหลาเจ้าเด็ดหมดชาม

“อิ่มไหม ผมซื้อเจลลี่ผลไม้ร้านเบเกอรี่ใกล้ๆกันมาด้วย”  รัตติกาลเอ่ยถามเมื่อแก้วน้ำเย็นที่เขาเอามาให้ ถูกวางลงบนโต๊ะด้วยความว่างเปล่า

“ร้านนั้นก็อร่อยหลายอย่างนะ ร้านเล็กๆราคาก็ไม่แพง แต่ตอนนี้อิ่มมาก เอาไว้ก่อนดีกว่า”   ทิวาเตรียมลุกขึ้นเก็บชามแต่คนไวกว่ากลับฉวยทุกอย่างไปถือไว้เสียเองแล้วรีบเดินตรงไปยังอ่างล้างจานชนิดที่คนมองตั้งตัวไม่ทัน

ทิวาถอนหายใจกับเหตุการณ์ซ้ำๆที่แทบจะทำให้เขาเคยตัว ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดของรัตติกาลคือการเอาใจที่อยู่ในระดับห้าดาว ไม่ว่าเขาอยากจะกินอะไร อยากจะได้สิ่งไหน เพียงแค่บ่นเปรยออกมาไม่กี่วันสิ่งๆนั้นก็จะมากองอยู่ตรงหน้า

เขานึกถึงรัตติกาลเมื่อปีก่อนไม่ออก ไอ้เรื่องจะไปต่อคิวซื้อเกาเหลาแค่ถุงเดียวให้เขายิ่งไม่ต้องหวัง รัตติกาลคนนั้นไม่เคยเก็บจานชามด้วยความไวแสงอย่างนี้ ไม่เคยตามใจใครในสิ่งที่ตัวเองไม่เห็นด้วย รัตติกาลคนนั้นหายไปไหนแล้วนะ...

เก้าอี้เคลื่อนออกจากจุดเดิมก่อนที่ร่างโปร่งจะก้าวเท้าเดินไปตามทาง จนกระทั่งเห็นแผ่นหลังกว้างของคนที่ยืนหันหลังให้นั้นใกล้เข้ามาทุกที ทิวาเพิ่งรู้ตัวว่าหลงใหลแผ่นหลังนี้เมื่อตอนที่มีเวลาสังเกตสังกาได้ถ้วนถี่ รัตติกาลมีแผ่นหลังกว้างดูแข็งแรง มัดกล้ามเนื้อที่มีสมส่วนเหมาะเจาะกับโครงร่าง อย่างที่ไม่ว่าจะสวมเสื้อแบบใดก็ออกมาดูดีได้อย่างวิเศษ อันที่จริงแล้วไม่มีส่วนใดบนร่างกายนั้นที่จะดูไม่ดี มันสมบูรณ์แบบจนน่าอิจฉา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เขาหลงใหลได้ไม่ยาก

สองมือเอื้อมออกไปโอบรอบเอวสอบ ดวงตาเหยี่ยวช้อนเงยขึ้นสบกับดวงตาคู่คมที่หันกลับมา รอยยิ้มจุดขึ้นบนริมฝีปากกันและกัน ประทับแลกเปลี่ยนความสุขกันแผ่วเบา ก่อนพากันมานั่งยังโซฟาที่มักจะเป็นสถานที่สนทนากันยามเย็น รัตติกาลยังคงกอดคอเขา รั้งเบาๆเพื่อให้เอนซบกับอกซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดจะขัดขืนอะไรในเมื่อที่แห่งนี้คือสถานที่ของสองเรา

ทีวียังคงเปิดค้างอยู่ที่ช่องสารคดีชีวิตสัตว์อันเป็นต้นเหตุให้เขาง่วงงุนหลังจากจบการทำงาน หากแต่ไม่ได้มีใครใส่ใจจะรับชมเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานในทะเลทราย เพราะจูบหวานๆที่กำลังลุกไล่กันอยู่นี้น่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ

“พอก่อน...”   ทิวาพยายามเค้นเสียงออกมาหลังจากพักสูดอากาศ แต่อีกฝ่ายก็ยังดื้อดึงจะยื่นหน้ายื่นปากให้เขาต้องเบี่ยงหน้าหลบ จนต้องห้ามปรามโดยการดันหน้าไว้ด้วยสองมือ แต่แทนที่จะสำนึกรัตติกาลกลับหัวเราะร่วนราวกับว่ากลั่นแกล้งเขาได้สำเร็จ

“งานเสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม...พรุ่งนี้ว่าจะเข้าไปออฟฟิศเพื่อแก้แบบให้จบน่ะ เพราะคงไม่รับงานจากพี่เขาแล้ว”

“ทำไมล่ะ??”   รัตติกาลเด้งตัวขึ้นจากพนักพิง ขยับท่าทางเพื่อหันมาเผชิญหน้าเขาอย่างสนใจในหัวข้อสนทนา   

“ผมได้งานแล้วเป็นเลขา”   ทิวาหลุดยิ้มกับสีหน้ากังวลของคนตรงหน้า   “เพื่อนกันน่ะ เลขาคนเก่าขอลาออกไปเลี้ยงลูก มันเห็นผมตกงานก็เลยชวนไปเป็นขี้ข้าส่วนตัว”

“บริษัทอะไร ผมรู้จักรึเปล่า?”

“เอสพีไอครับ บริษัทรักษาความปลอดภัยน่ะ”

“อ๋อ...ที่โรงแรมก็จ้างคนจากที่นี่ แต่...ทิวจะทำได้หรือ? มันไม่ใช่หน้าที่ที่คุ้นเคยเลยนะ”

“ก็ต้องเรียนรู้กันไปครับ อย่างน้อยก็เป็นคนกันเองคงไม่เกร็งเท่าไหร่”

รัตติกาลถอนหายใจออกมา ร่างหนาพลิกลงเอนนอนหนุนตักเขาพอดิบพอดี แล้วไม่ลืมที่จะคว้าท่อนแขนของเขาให้โอบผ่านลำคอราวกับเป็นผ้าพันคอเนื้ออุ่น ผมหนาที่กองอยู่ที่น่าตักกับใบหน้าด้านข้างที่ดูอย่างไรก็รู้ว่าไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับงานใหม่ของเขาสักเท่าไหร่

“มีอะไรรึเปล่า?”

“...ที่จริงอยากให้ไปทำงานด้วยกัน แต่ถ้าทิวตัดสินใจอย่างนั้นก็ไม่ได้ขัดอะไร”

“ไม่เบื่อหน้ากันบ้างรึไง ที่บ้านก็เจอ ที่ทำงานก็ยังเห็น”   มันเป็นแค่คำหยอกล้อก็เท่านั้น แต่คนฟังกลับพลิกตัวมาจ้องหน้าเขาอย่างกับว่าเพิ่งฟังเรื่องน่ากลัวไป

“คุณเบื่อเหรอ...”

“ผมแค่พูดเล่น นี่คิดเป็นจริงเป็นจังไปได้”

“แต่ผมถามจริง...คุณเบื่อผมรึเปล่า?”   น้ำเสียงจริงจังกับแววตาที่เฝ้ารอคำตอบ มันทำให้เขาพอจะมองเห็นความจริงที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆของผู้ชายคนนี้ คนที่แสนจะมั่นใจในทุกเรื่อง คิดเข้าข้างตัวเองได้อย่างไม่แคร์อะไร

ผู้ชายคนนี้ก็แค่กำลัง ‘กลัว’

“สิ่งที่ผมเคยขอ คุณยังจำได้ไหม?”   ทิวาถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ปลายนิ้วค่อยๆบรรจงเกลี่ยไรผมยุ่งเหยิงของคนรักให้เป็นระเบียบหากแต่สายตานั้นยังจับจ้องกันและกันมิวาง

“จะรักแค่ผม...จะยอมให้ผมเป็นลมหายใจ”

“...........”

“คุณจะยังทำมันได้อยู่หรือเปล่า?”   ปลายนิ้วที่กำลังสางเส้นผมอย่างเผลอไผลสะดุดนิ่งเพราะฝ่ามือใหญ่รวบกำไว้ ความอบอุ่นเทถ่ายผ่านกันทางแรงบีบแน่นคล้ายจะย้ำถึงสัญญา รัตติกาลรวบมือเขาไปแนบอกจนรับรู้ได้ถึงแรงเต้นของหัวใจผ่านทางเนื้อผ้า หนักแน่น...และสม่ำเสมอ

“ผมไม่เคยโกหกความรู้สึกของตัวเอง ผมทำได้และจะทำ เชื่อใจผมนะ”

ทิวายิ้มกับคำตอบที่ไม่ได้มีหลักประกันอื่นใดเลยนอกจากเวลา แต่เขาก็ยินดีที่จะเชื่อหากมันมาจากถ้อยคำของผู้ชายคนนี้ คนที่ทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ คนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองจนไม่คิดถึงหัวอกใคร

และต่อให้อะไรๆมันไม่เหมือนเดิมในวันข้างหน้า...รัตติกาลก็คงจะเป็นฝ่ายบอกเขาด้วยตัวเอง

...แต่ในวันนี้

ตอนนี้...

ใบหน้าสวยก้มต่ำลงจนริมฝีปากแนบเนากับหน้าผากกว้าง จรดค้างอ้อยอิ่งราวกับจะย้ำเตือนถึงความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายรับรู้ ใบหน้ายังคงพร่างพรายไปด้วยรอยยิ้มแม้จะเลื่อนกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม

“ไม่เบื่อเลย ไม่เคยคิดด้วย”   

รัตติกาลยิ้มกว้างจนตาหยี รวบมือเขาขึ้นไปแนบริมฝีปาก จูบหนักๆจนเขานึกขำ และก็ดูจะไม่สาแก่ใจเท่าไหร่เพราะวงแขนแกร่งโน้มลำคอของเขาให้ต่ำลงจนกระทั่งริมฝีปากสัมผัสกันอย่างสมใจ

“ผมรักคุณ...”

คำรักเดิมๆที่ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็ยังออกฤทธิ์รุนแรงต่อหัวใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงชาชินที่ได้ยินแทบจะทุกวัน แต่เขาชอบที่จะฟัง ชอบที่จะได้รับการยืนยันว่าตัวเขายังคงเป็นที่รัก

“ทิวก็รักพี่เดียวครับ”

รัตติกาลหลุดขำ

ทิวาแอบเขิน

และเพื่อไม่ให้คนขี้แกล้งล้อเลียนเขาได้ ริมฝีปากบางจึงรีบประกบแน่นเพื่อหยุดยั้งถ้อยคำที่จะทำให้เขาต้องอายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ กลีบปากขยับอย่างชำนิชำนาญจากการฝึกซ้อมกับอย่างโชกโชน ทิวารู้ว่าจะต้องลุกไล้ตรงไหน งับเบาๆที่ริมฝีปากล่าง หรือว่าดูดดึงลิ้นอย่างไรให้รัตติกาลครางเครือได้

และมันก็ได้ผลอย่างที่คิด... อย่างน้อยๆ ก็สักสองสามชั่วโมงต่อจากนี้ล่ะนะ



_____________________________________________________________ TBC. __________________


เหลืออีกตอน หรือ สองตอน เท่านั้น!! พี่กลางคืนน้องกลางวันก็จะลาจอแล้ว
แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้หายไปนาน!!...ขออภัยจริงๆค่ะ  :m13: :m13:



รักคนอ่าน :กอด1: รักคนเม้น :กอด1:

Untill we meet agaiN

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หวานน้ำตาลขึ้นจอ

โอ้ยยย คู่นี้จะจบแล้ว TvT คิดถึงน่าดู

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
รู้สึกว่า  ทุกอย่างมันลงตัวแล้วจริง ๆ อ่านแล้วอิ่มใจไปด้วย

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ยิ้มหวานไปกับทั้งคู่จริงๆ  :-[

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7

ออฟไลน์ nine_ne

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หวานเวอร์ ละมุนละไม  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
กว่าจะมีวันนี้

ดีใจด้วยนะ พี่กลางคืนน้องกลางวัน ปริ่มมากค่ะ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
กุบกิบ กิ๊วก๊าวมากกกกเลย
ชอบๆ พี่เดียว อ๊ายยย ฟินแทน ทิวเรียกบ่อยๆน่าาา
จะจบแล้วเรอะ ยังไม่อยากให้ลาจอเลยยยย :ling1:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อบอุ่นด้วยไอรัก  ปลึ้มค่ะ  เขารักกันจริงรักกันจัง  คนอ่านทั้งฟินทั้งปลึ้ม  :กอด1:

ว่าแต่พ่อกับแม่เดียวปลึ้ม, ฟิน หรือว่าเขินที่เดียวรักเมียขนาดนั้นตอนที่อยู่ในรถนะ?

กรี๊ดไปทำงานกับพี่แท่งเทียนล่ะสินี่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2014 22:52:15 โดย Kano Jou »

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อิจฉาทิวมีคนรักดีๆ  o13

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0



รู้สึกอบอุ่น และดีใจแทนเดียวจังเลย ได้เจอคนที่เป็นดั่งลมหายใจ ตื้นต้นค่ะ #อิจฉา  :mew3:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ทิวาเริ่มก่อนด้วยอ่ะ
เดียวหลงหัวปักหัวปำ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อยากมีพี่เดียวเป็นของตัวเองบ้างงงงง

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mirin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ทิวาน่ารักอ่ะ ไม่แปลกใจเลยที่เดียวจะหลงขนาดนี้ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
น้ำตาลเกาะจอแล้ว   :o8:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
งื้อออออ หวานเว่อร์  เดียวอาการหนักมาก คนอ่านงี้เขินบิด อะไรจะรักจะหลงขนาดนั้น  งื้ออออออ  :hao7: 

ทิวก็รักพี่เดียว   แอ่ก!  :z3:   หนูทิวน่ารักกก 

เดี๋ยวนี้งับก่อนด้วย  ทันกันแล้วสิ   :haun4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
อยากให้ทิวไปทำงานกับพี่เดียว
มันคงน่ารักมุ้งมิ้งน่าดูอ่ะ

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :mew1:
ว้าวในที่สุดนิยายที่รอคอยก็มา
ตอนนี้หวานจ๋อยเลยค่ะ
ว่าแต่อีกตอนสองตอนก็จบแล้วหรือค่ะ
ว้า เรื่องนี้มีแนวโน้มจะรวมเล่มไหมเอ่ย ชอบๆมากเลยค่ะ :hao3:

ออฟไลน์ ployyuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หวานเว่อร์ๆ ค่ะ มดตอมจอแล้ววววว

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หวานแหว๋ว กิ๊บกิ้ววว~

ออฟไลน์ ronlbb

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
หวานจนฟิน  ^^

ออฟไลน์ TR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พี่เดียวรับตำแหน่งสามียอดเยี่ยมไปเลยค่ะ
กว่าจะมาถึงจุดนี้ กว่าจะหวานได้ขนาดนี้
รักกัน ดูแลกันไปนานๆนะน้องทิวพี่เดียว ;)

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
หายไปนานจุงค่ะ
ปล. พี่เดียวน่ารัก ทิวาก็น่ารัก เขินนนนนนนนนนนนน
ปล.2 มาทวงพี่จันทร์กับน้องต่ายด้วยน้าาาาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด