ตอนที่ 8ชนนน “มึงรู้ตัวมั้ยเนี่ย ว่าทำสาวๆเค้าแทบจะดักฉุด แล้วฆ่าหมกส้วม”
ผมหยุดฮัมเพลง หยุดถูตัว และมองข้ามฉากกั้นระหว่างห้องอาบน้ำที่สูงระดับไหล่ เพื่อสบตากับไอ้พี่แหนม ใจจริงไม่อยากสนทนากับมันนักหรอกครับ คนยิ่งรีบๆอยู่ อยากไปเห็นหน้าสุดหล่อนักบาสของตัวเองจะแย่แล้ว
“ทำไมวะพี่ ผมว่าช่วงนี้ ผมทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อยจะตายไป” จริงๆนะครับ ผมไม่ข้องแวะกับสาวไหนเลย ตั้งแต่มุ่งมั่นเดินหน้าจีบเบสเข้าอาทิตย์ที่สอง
“มึงเทียวรับเทียวส่งใครอยู่ล่ะว้า นั่นน่ะขวัญใจคนทั้งโรงเรียน กูล่ะแปลกใจ ทำไมมันถึงยอมไปไหนมาไหนกับมึงวะไอ้นน” ไอ้พี่แหนมดูท่าจะสงสัยในประเด็นนี้มากเลยครับ ถึงกลับยื่นหน้ายื่นตาเกาะขอบที่กั้น จะเอาคำตอบจากผมให้ได้ แต่เรื่องอะไรผมต้องบอกมันวะครับ
ผมจึงได้แต่ลอยหน้าลอยตาส่งยิ้มกวนประสาทไปให้ ก่อนจะหันมาเร่งอาบน้ำของตัวเองต่อ แต่ไอ้พี่ขี้สงสัยคงไม่พอใจ เพราะมันถึงกับสาดน้ำเข้าใส่ผม พร้อมพึมพำด้วยหน้าบู้ๆ ผมเห็นแล้วถึงกับหลุดขำ
ส่วนคำตอบของสิ่งที่ไอ้พี่แหนมสงสัยนั้น เกิดมันรู้ความจริงขึ้นมา ปฏิกิริยาของแม่งต้องไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ มันคงได้เยาะเย้ยผมมากกว่าจะสงสัยแกมหมั่นไส้อยู่แบบนี้ เพราะภาพภายนอกที่คนทั้งโรงเรียนเห็นว่าผมตามรับตามส่งสุดหล่อ หรือแม้แต่การกินข้าวด้วยกันทุกกลางวันนั้น มันเกิดจากการทู่ซี้ดึงดันหน้ามึนของผมทั้งสิ้น
ส่วนสุดหล่อเองไม่ได้เต็มใจมากนักหรอกครับ แต่ด้วยนิสัยไม่ชอบโวยวายและเป็นคนขี้ใจอ่อนอยู่แล้ว ทำให้คนทั่วไปคิดอย่างไอ้พี่แหนม ซึ่งเป็นการดีกับผมที่สุด เพราะอย่างน้อยใครที่คิดจะเข้ามาจีบเบส ก็น่าจะเกรงใจว่าที่กัปตันรักบี้อย่างผมบ้าง ด้วยผมอุตส่าห์ตามติดสุดหล่อกัปตันทีมบาสด้วยตัวเองทั้งทีนี่ครับ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ยังคงตามตื๊อว่าที่แฟนผมไม่ห่าง จะเป็นใครถ้าไม่ใช่น้องไฝกกหูคนนั้น
ดูสิครับพูดถึงยังไม่ทันขาดคำ ข้างสนามบาสนั่น น้องฝ้ายเธอกำลังฉีกยิ้มหวานส่งสายตาระยิบระยับให้สุดหล่อของผม ที่กำลังกระดกน้ำเข้าปากด้วยแก้มแดงๆ ลูกกระเดือกงี้ขยับขึ้นลงเป็นระลอก แถมดันมีน้ำย้อยลงจากมุมปาก ระมาตามคอขาวๆชื้นเหงื่อเข้าไปอีก ‘เซ็กซี่โคตร งานนี้ใครไม่เคลิ้มกูเคลิ้มครับ’
แต่จะดีกว่านี้มั้ย ถ้าจะไม่มีสายตาร่วมสิบคู่จ้องภาพเดียวกับผมอยู่ เพราะนอกจากน้องฝ้ายที่พยายามจะช่วยซับเหงื่อตามใบหน้าเบสแล้ว ยังมีหนุ่มน้อยสาวน่ารักอีกเพียบที่แอบมองเบสด้วยหน้าแดงๆ ช้าไม่ได้แล้วครับต้องรีบสกัดดาวยั่ว ก่อนสุดหล่อจะหลงมนต์
ผมซอยเท้าเข้าหาคนทั้งคู่ ตั้งใจไว้ว่าถ้าถึงตัวเบสเมื่อไหร่ จะรวบตัวมากอดโชว์น้องไฝเธอเลยทีเดียว แต่ผมต้องเบรกตัวโก่ง เมื่อมีวัตถุตัวขาวๆวิ่งมาตัดหน้า
“เฮ้ยยย!...ฟู่ๆๆ... น้องมีไรกับพี่ครับ” เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
นี่ถ้าผมชนคนตรงหน้านะ มีหวังสิ่งมีชีวิตเพศผู้ตัวเล็กๆตาโตๆขาววิ้งตรงหน้าคงได้ไปกองกับพื้น ไม่มายืนยิ้มบิดไปบิดมาอยู่แบบนี้แน่ๆ ‘แน่ะ! ถามแล้วยังไม่ตอบอีก แก้มจะสุกแล้วนั่น ฮึๆ’
“เอ่อ คือ นี่ครับ...พี่นนช่วยรับไว้ด้วยนะครับ บิวทำเอง ถ้าชอบวันหลังบิวจะทำมาให้ทานอีก” ไอ้เด็กบิวยื่นโหลแก้วบรรจุคุกกี้ให้ผมแล้ว ก็เงยหน้ากระพริบตาปริบๆให้ผมนิด ส่งยิ้มเอียงอายให้อีกหน่อย ก่อนจะหมุนตัววิ่งไปหาน้องผู้หญิงที่ยืนรออยู่ไม่ห่าง มีแท็คมือปิดปากหัวเราะใส่กันด้วย และหันมองมาทางผมเหมือนจะดูปฏิกิริยา แต่เมื่อเห็นว่าผมมองอยู่ ไอ้เด็กบิวก็ยิ้มอายๆให้ ก่อนจะฉุดเพื่อนตัวเองวิ่งจากไปเฉยเลย
ผมมองโหลคุกกี้ในมือนิ่งๆ และได้แต่ส่ายหัวน้อยๆอมยิ้มไปตามเรื่อง ไม่อยากจะคุยว่า ‘ไอ้ล่ำดำถึก’ ที่ไอ้นลินชอบค่อนแคะแบบผมนั้น เคยมีผู้หญิงทั้งรุ่นน้องรุ่นเดียวกันหรือแม้แต่รุ่นพี่ เอาของแทนใจมาให้ไม่น้อย บางคนใจกล้าหน่อยมีบอกชอบผมแถมท้ายด้วย แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อยก็ตรงที่เป็นหนุ่มน้อยตัวเล็กหน้าตาน่าเอ็นดูก็เท่านั้น สงสัยข่าวลือของผมกับสุดหล่อจะไปกระตุ้นเก้งกวางน้อยๆให้ได้เผยตัว
‘อุต๊ะ! ทำไมเย็นนี้สุดหล่อของผมถึงดูน่าเกรงขามเป็นพิเศษวะ’ ผมมีอันชะงักกับดวงตาคมกริบที่หันไปสบด้วยชั่วแวบ ก่อนเจ้าของดวงตาคู่นั้นจะเบือนหลบไปอย่างช้าๆ
แค่นี้ก็ทำเอาไอ้นนลนลานพาลทำไรไม่ถูกแล้ว แต่อะไรก็ไม่เท่าน้องไฝหน้าสวยนี่สิครับ เธอจ้องมายังโหลคุกกี้ในมือผม ก่อนเงยหน้าขึ้นแสยะยิ้มใส่ตา แปลได้ว่าน้องไฝกำลังเยาะเย้ยว่าผมโดนเบสเมินเข้าให้แล้ว
‘แต่เดี๋ยวก่อน! เบสเมินผมเพราะเจ้าของโหลคุกกี้รึเปล่านะ’ ถ้าใช่ล่ะก็...
“เบส นนมารับแล้ว” แม้สุดหล่อจะไม่หันมาสนใจกัน ทั้งๆที่ผมเรียกเค้าประชิดตัวซะขนาดนี้
แต่คุณเชื่อมั้ยว่าผมกำลังฉีกยิ้มซะจนปากจะถึงรูหู จนน้องไฝที่ยืนเกาะแขนเบสไว้ ยังมองผมด้วยสีหน้างงปนอึ้ง แล้วคุณล่ะงงกับปฏิกิริยาของผมตอนนี้เหมือนน้องไฝมั้ย
ถ้างง!? ผมบอกเลยว่าที่ผมยิ้มได้ ทั้งๆที่โดนสุดหล่อเมิน เป็นเพราะภาพที่เห็นมิได้เป็นอย่างที่คิด ถ้าเบสไม่แคร์ผมหรือไม่คิดอะไรด้วยเลย เค้าคงทำตัวกับผมเหมือนเดิมสิ ไอ้อาการไม่แยแสผิดปกติอย่างที่เป็นอยู่ มันเกิดจากเบสแอบหวงผมจากไอ้เด็กบิวชัดๆ ‘ฮ่าๆ ดีใจอ่ะ’
“พี่เบสคะ กลับกันเถอะค่ะ”
‘หุบเลยครับหุบ ทั้งปากทั้งใจนั่นแหละ’ ผมสะบัดหน้าจากรอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษของน้องฝ้าย มาที่สุดหล่อหน้านิ่งทันควัน เมื่อได้ยินเสียงตอบรับไม่พ้นคอเข้า
“อืม” ผมพลาดอะไรไปวะ ‘ไหงกูเหมือนจะโดนชิ่งได้ล่ะเนี่ย’
ผมไม่ทันขยับตัว หนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวเดินเคียงข้างห่างขอบสนามบาสไปซะแล้ว
“เบส! เบสรอนนด้วย...อ้าว!? ไรวะ กูรีบ”
‘อย่าทำไรกูนะ บอกเลยกูสู้!’ ผมเลิกคิ้วใส่พวกแม่งเรียงตัว นักบาสทั้งนั้นที่ยืนล้อมผมไว้ ‘กูจะรอดกลับไปตามจีบกัปตันพวกมึงมั้ยเนี่ย’
“แรกๆพวกผมไม่ชอบพี่เลยว่ะ แต่ก็เพราะพี่ตั้งหน้าหาเรื่องกับกัปตันพวกผมก่อน แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป พวกผมเชียร์พี่มากกว่าว่ะ โชคดีนะครับพี่”
“เออ ขอบใจว่ะ เดี๋ยวว่างกูเลี้ยงยกทีม” ผมค่อยๆฉีกยิ้มแจกจ่ายน้องๆทีมบาสของสุดหล่อ ทั้งๆที่ใจมีคำถามว่าผมไปทำอะไรถูกใจไอ้พวกนี้ไว้วะ
‘กูไม่รู้ตัวเลย ให้ตายสิ!’ ผมจะถือว่าโชคช่วยแล้วกัน ไม่มีตัวขัดขวางแถมยังได้แรงสนับสนุนยกทีมอีก ผมจึงขอใจป๋าเอ่ยปากเลี้ยงพวกมันง่ายๆ ก่อนจะตบไหล่จับมือกันยกทีม และเดินจากมาทั้งๆที่ยังงงๆ ซึ่งผมก็มารู้ทีหลังว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ยิ่งสิ่งที่หวังจะได้มาครอบครองนั้นมีคุณค่ามากเพียงใด ความยากก็มากขึ้นเพียงนั้น
“ว้าย! พี่ทำไรเนี่ย พี่เบสรับปากว่าจะไปส่งฝ้ายแล้วด้วย”
หลังจากวิ่งตามทั้งคู่มาทัน ผมก็เดินมาดักหน้าเอาไว้ ก่อนจ้องตาเบสอย่างเว้าวอน และไม่สนเจ้าของน้ำเสียงโวยวายสักนิด เพราะไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงโดยไม่จำเป็น
“เบสกลับกับนน เดี๋ยวเราไปส่งน้องฝ้ายก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับบ้านพร้อมกัน นะครับ” สายตาดื้อดึงไม่ยอมใครง่ายๆของสุดหล่อ ทำให้ผมต้องยอมเอ่ยปากอย่างที่คุณได้ยินไป เพราะขืนไม่ยอมอ่อนให้ก่อน เราคงได้ยืนจ้องตากันจนน้ำค้างตกใส่หัวแน่ๆเหอะ แม้เบสจะใจดีดูโอนอ่อนกับผมในหลายๆครั้ง แต่บทจะดื้อจะใจแข็งก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
สุดท้ายสุดหล่อก็หันไปบอกน้องฝ้ายที่ยืนกระฟัดกระเฟียดว่าให้เดินตามเค้าไป และผมก็ยิ้มได้เมื่อเส้นทางที่เบสมุ่งหน้าไปนั้น เป็นทางที่ผมจอดรถไว้เมื่อเช้า ผมเดินตามคนทั้งคู่เงียบๆ แต่หูนี่คอยเงี่ยฟังว่าน้องไฝกกหูฉอเลาะอะไรกับว่าที่แฟนผมบ้าง ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากนอกจากคุยเรื่องตัวเอง หยิบยกมาแต่เรื่องดีๆยกยอตัวเองให้ฟังทั้งนั้น
หากมองแบบไม่มีอคติเลยนะ ผมว่าแฟนคนที่ผ่านๆมาของน้องฝ้ายคงชอบที่หน้าตาเด็กคนนี้มากกว่าสิ่งอื่นใดล่ะครับ และผมเชื่อในตัวกัปตันสุดหล่อสมองดีของผม ว่าคงไม่เห็นผิดเป็นชอบหรอก เพราะผมนั้นน่าสนใจกว่าเธอเยอะ
‘อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเบะปากใส่ผมเชียว’ อย่างน้อยไอ้ชนนนคนนี้ก็มีความจริงใจให้สุดหล่อมากกว่า สาวน้อยหน้าสวยที่คิดจะจีบสุดหล่อไว้ควงเล่นหรอกน่า
“ขอบคุณนะคะพี่เบส พรุ่งนี้เจอกันค่ะ” เหอะ! ผมเจ้าของรถแท้ๆไม่มีเหลือบแลหันมาขอบใจกันสักนิด แต่ก็ดีแล้วครับ ให้น้องไฝเธอได้ลงๆไปจากรถสักทีเถอะ แต่ยังมีอ้อยอิ่งให้ผมได้หมั่นไส้ ด้วยการเกาะกระจกรถยื่นหน้าส่งยิ้มหวานให้สุดหล่อข้างกายผม
หลังจากผมเคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านทาวน์โฮมหลังกะทัดรัดแล้ว ผมก็จงใจเปิดเพลงรักเบาๆกลบความเงียบที่ครอบคลุมภายในรถ ซึ่งผมยังรู้สึกดีมากกว่าเสียงเจื้อยแจ้วน่าปวดหูของน้องไฝ ที่ดังมาตลอดทางก่อนหน้านี้มากนัก เพราะนอกจากเธอจะมีความสามารถส่งเสียงต่อเนื่องตลอดเวลาแล้ว ยังทำตัวเป็นนินจาผลุบๆโผล่ๆมาจากตอนหลังของรถตลอดทาง ดีที่ผมมีสติพอที่จะประคองรถมาส่งน้องนางได้ถึงบ้าน
ส่วนสุดหล่อนามว่าเบสเองก็แค่อือออไปตามเรื่อง แต่เท่าที่ผมสังเกตเบสให้ความสนใจกับป้ายโฆษณาข้างทางมากกว่าน้องไฝเธอด้วยซ้ำ แค่นี้ก็ทำให้ผมฮัมเพลงคลอเบาๆไปกับเสียงนุ่มๆของนักร้องที่ดังขึ้นในรถได้แล้ว แถมบางจังหวะยังได้สบตาสุดหล่อเข้าอีก แค่นี้ก็ทำให้ความขุ่นใจของผมจางหาย แต่ดูท่าจะเป็นแค่กับผมเท่านั้น เพราะสุดหล่อกลับเมินใส่กันดื้อๆ
ระหว่างที่รถจอดติดไฟแดง ผมเหลือบตาสังเกตท่าทีของเบส ก็ยังเห็นว่าเค้าเมินหน้าหนีออกนอกหน้าต่าง แม้จะลองเรียกชื่อเบสเบาๆก็ไม่มีหัน ไอ้นนโดนงอนชัวร์ ส่วนเรื่องอะไรคงหนีไม่พ้นเจ้าของโหลคุกกี้ที่วางอยู่บนเบาะหลังรถนั่นแหละครับ ‘งานงอกแบบไม่ทันตั้งตัวเตรียมใจแท้ๆ’
ผมคิดวิธีง้อสุดหล่อไปต่างๆนานา จนได้ยินเสียงเพลงรักใสๆดังขึ้นมาในรถ ‘เอาวะ! ใช้วิธีนี้แล้วกัน ไม่เคยคิดจะใช้กับใครมาก่อนเลยเหอะ’
* ‘....ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ไม่รู้หรอกดอกไม้เริ่มผลิบาน อาจจะแค่เดินผ่านแต่วันหนึ่งมันสวยจนแปลกใจ
ทำไมฉันเพิ่งเห็น ในใจฉันเพิ่งได้รับรู้ที่เคยมองข้าม ทำไมโลกช่างงดงามเมื่อมันมีเธอไม่เข้าใจ
นี่ฉันหวั่นไหวเพราะอะไรรักเธอรึยังไง มันเริ่มขึ้นมาเมื่อไรไม่รู้ตัว....’ผมร้องคลอเพลงรักใสๆไปเบาๆ และลุ้นอยู่ทุกวินาทีให้คนที่ผมตั้งใจร้องให้ฟัง ได้หันมามองกันสักนิดก็ยังดี และในที่สุดความพยายามของผมก็เริ่มประสบผล เมื่อร่างข้างๆเกร็งตัวขึ้นมานิด
‘....รักได้เบ่งบานที่หัวใจของฉันใช่รึเปล่า ไม่เคยคิดรักใครเคยตั้งใจว่าต้องไม่ใช่เธอ
แต่วันนี้ดูเถอะเธอเข้ามาคอยรบกวนจิตใจ ความรักมาจากไหนในใจฉันมันปิดประตูให้ทุกๆอย่าง
สงสัยเข้าทางหน้าต่าง จะหนียังไงก็ไม่ทัน นี่ฉันหวั่นไหวเพราะอะไร ‘รัก’ เธอรึยังไง...’นั่นสิครับ! ผมหวั่นไหวและร้อนรนไปหมดเพียงแค่โดนเบสเมินใส่ หรือว่าเพราะผม ‘รัก’ เบสเข้าให้แล้ว!?
ผมจบท่อนสุดท้ายพอดีกับการได้สบตาเบสที่หันมามองกัน ดวงตาคู่คมจดจ้องผมนิ่งนาน แววตานั้นแม้จะเคลือบแคลงแฝงแววสงสัย แต่ไม่มีอณูของความรังเกียจให้จับได้สักนิด แค่นี้ผมก็มีกำลังใจมหาศาลแล้วครับ และเพิ่งรู้ตัวจริงๆก็ตอนนี้เอง ว่าผมได้ตกหลุมรักเจ้าชายรูปหล่อคนนี้เข้าเต็มหัวใจซะแล้ว
ผมลุ้นกับริมฝีปากสีสดที่เปิดเผยอขึ้นน้อยๆ ลุ้นว่าสุดหล่อจะพูดหรือตอบโต้ผมอย่างไร ในเมื่อเพลงที่ผมตั้งใจร้องให้เบสฟัง ได้ถ่ายทอดความรู้สึกในใจของผมได้ไม่ผิดเพี้ยนกับความจริงที่เป็นอยู่ขณะนี้
“นน.........ไฟเขียวแล้ว ออกรถสิ” อาการผมตอนนี้เหมือนคนตกมาจากที่สูงเลยครับ ด้วยตั้งความหวังไว้ไม่น้อยที่จะได้เห็นปฏิกิริยาของสุดหล่อบ้าง สักนิดก็ยังดี
‘แต่นี่อะไร!? มันวูบอ่ะ เหมือนคนจะเป็นลม’
“...เบสอ่ะ” หลังจากอึ้งไปนาน ผมจึงได้แต่ส่งสายตาตัดพ้อ พร้อมเรียกสุดหล่อด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ก่อนจะยอมเข้าเกียร์ออกรถตามคำสั่ง
“มองหน้ามีปัญหา!?....ฮึๆ” แม้จะงอนถึงขั้นสุด แต่ผมก็อยากเห็นหน้าสุดหล่อนี่ครับ ว่าหลังจากทำลายบรรยากาศแสนโรแมนติกที่ผมตั้งใจสร้างเพื่อเค้าแล้ว เบสจะทำหน้าแบบนั้น ผลก็คือผมโดนสุดหล่อหาเรื่องครับ แถมยังหัวเราะใส่ผมด้วย
ดีแล้วครับที่เบสหัวเราะได้ แม้จะดูเป็นการเยาะหยันผมซะมากกว่า แต่อย่างน้อยเค้าก็ดูมีความสุขไปกับการแกล้งให้ผมน้อยใจ ไอ้ผมเองแม้อยากจะงอน แต่รู้ไงว่าถึงงอนสุดหล่อก็คงไม่ง้อ บวกกับท่าทางผ่อนคลายผิดกับอาการเคร่งขรึมก่อนหน้าของเบส ทำให้ผมต้องลอบอมยิ้มให้กับป้ายหมู่บ้านของเจ้าตัวเค้าแทน
“เดี๋ยว อ่ะ....นนให้เบส” ผมรั้งท่อนแขนอุ่นของสุดหล่อที่เตรียมเปิดประตูลงจากรถทันที ที่ผมจอดรถหน้ารั้วต้นพวงชมพู ก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบโหลแก้วเจ้าปัญหามายื่นให้ เบสเองขมวดคิ้วมองหน้าผมสลับโหลแก้วในมือ
“เค้าให้นาย ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่เอา!” นี่ถ้าเบสใช้น้ำเสียงและท่าทางจริงจังปฏิเสธรักผมแบบนี้ล่ะก็ ไอ้นนได้ชักดิ้นชักงออยู่ตรงนี้แน่ๆเหอะ เพราะแค่นี้ผมยังถึงกลับน้ำลายติดคอ พาลเสียงสั่นไม่มั่นใจขึ้นมาดื้อๆ
“เอ่อ คือ...เดี๋ยวๆเบส เบสไม่เอาก็ไม่เอาเนอะ แหะๆ” ลนลานหมดท่าเลยกู แค่สุดหล่อกระชากแขนคืน แต่ดีที่ผมมือไวคว้ามืออุ่นๆมากุมไว้ได้แทน จึงถือโอกาสใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงหลังมือขาวภายใต้อุ้งมือ ให้เจ้าของได้ใจเย็นลง
“อย่าหาว่านนแก้ตัวเลย แต่เรื่องนี้นนไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆนะ อยู่ๆเด็กนั่นก็เอามาให้ ทั้งๆที่ก่อนนี้ก็ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อน เบสโกรธนนไม่ได้นะ จะโกรธก็ต้องโกรธตัวเองนั่นแหละ”
“ใครโกรธนายกัน ยิ่งเรื่องโกรธตัวเองยิ่งต้องตัดไปได้เลย นายอย่ากวนประสาทฉันให้มากนักนะ เดี๋ยวเจอดี!” ‘ชะอุ๊ย! ตาเขียวปัด’ ผมพูดไม่ผิดสักหน่อย
“แต่มันเรื่องจริง ก็เพราะเบสนั่นแหละที่ทำให้เด็กบิวนั่นเอาไอ้นี่มาให้นน แต่ก่อนนนเคยมีข่าวกับผู้ชายซะที่ไหนกัน พอมีข่าวกับเบสขึ้นมา คงไปกระตุ้นความกล้าของเด็กพวกนั้นให้เข้าหานนล่ะมั้ง แต่ใครจะไปรู้ได้ และนนก็ไม่สนด้วย! หากจะมีใครเข้ามาอีก เพราะคนที่นนสนตอนนี้มีแค่เบส เบสคนเดียว!!...นนชอบเบส ชอบมากด้วย!!”
ผมจบประโยคซะเสียงดังลั่นรถเลย ขนาดตัวเองยังตกใจ ส่วนสุดหล่อไม่ต้องพูดถึง เพราะนั่งอึ้งตาโตอ้าปากค้างไปแล้ว แหมมันยิ่งพูดก็ยิ่งอารมณ์ขึ้นนี่ครับ ด้วยผมกลัวว่าเบสจะเข้าใจผิด จนนึกอยากตีตัวออกห่าง ทั้งๆที่ผมเพิ่งรู้ใจตัวเอง บวกกับนึกเคืองไอ้เด็กบิวขึ้นมา ที่มันเป็นเหตุให้สุดหล่อไม่พอใจในตัวผมเข้าให้น่ะสิ
จากใบหน้าตกตะลึงคาดไม่ถึงของสุดหล่อหน้าคมตาโต กลับค่อยๆแปรเปลี่ยน ด้วยแก้มใสที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อน้อยๆ ตาคมสวยเริ่มเบือนหลบกันดื้อๆ บวกริมฝีปากที่เริ่มเม้มเข้าหากันจนแน่น แต่ดันมีเสียงถอนใจยาวๆตบท้าย มาขัดอาการดีใจอย่างออกนอกหน้าของผม จนรอยยิ้มที่มีค่อยๆหุบลง พร้อมอาการห่อเหี่ยวที่เกิดขึ้นมาฉับพลัน ตามมาด้วยความน้อยใจ เมื่อคิดไปว่าผมคงเป็นสิ่งน่ารำคาญสำหรับสุดหล่อเข้าให้แล้ว
แต่ในเวลาต่อมาผมกลับนึกโมโหเจ้าชายน้ำแข็งขึ้นมา เมื่อเบสกระตุกมือคืนและทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถ โดยที่ไม่พูดไม่จา ‘จะตอบรับหรือปฏิเสธก็น่าจะพูดกันให้รู้เรื่องสิวะ’ คิดได้ดังนั้น ผมปล่อยโหลแก้วทิ้งแบบไม่ใยดี ก่อนจะรั้งหัวไหล่ที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามในชุดนักบาสไว้ ทันได้เห็นแววตาไหววูบของเบสชั่วแวบ แต่นาทีนี้ไม่คิดจะสน ด้วยใจมุ่งมั่นกับสิ่งอื่นมากกว่า
ในเมื่อพูดดีๆแล้วไม่มีปฏิกิริยาให้ผมรู้ว่าเจ้าตัวคิดอย่างไร จึงคิดจะลองถามร่างกายของสุดหล่อดูซะหน่อย เพราะมันน่าจะซื่อสัตย์และเชื่อถือได้มากกว่า ขืนรอเจ้าชายน้ำแข็งแสดงความรู้สึก ไอ้นนได้ขาดใจตายไปซะก่อนน่ะสิ
แรกสัมผัสความหยุ่นนุ่มของริมฝีปากสีสดของเบส ก็ให้อุ่นวาบจนลามไปถึงอกข้างซ้าย ร่างกายนิ่งงันชาวาบไปทั้งร่าง บวกกับได้สบตาคู่ดำสนิทในระยะประชิด กลับพาให้หัวใจในอกเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆพาลสั่นไปทั้งตัว ก่อนน้ำลายจะแพร่ซ่านไปทั่วทั้งโพรงปาก จนผมต้องลอบกลืน เมื่อเปลือกตาบางใสค่อยๆปรือปิด ปิดบังดวงตาคู่สวยที่สะท้อนภาพใบหน้าของผม
ผมจูบใครมาก็เยอะ แต่ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นหายใจติดขัดเท่าครั้งนี้มาก่อน แม้แต่จูบแรกกับกิ๊กเบอร์แรกของตัวเองเมื่อตอนมอสาม ช่วงเวลานี้ถึงจะตื่นเต้นแต่ผมก็ไม่เงอะงะนะ เมื่อเห็นว่าสุดหล่อเต็มใจยอมเปิดทางให้ขนาดนี้ ไอ้นนไม่มีทางให้เสียเชิงชาย ส่งลิ้นไปแตะไล้กลีบปากนุ่มพร้อมขบเม้มไปจนทั่ว เอาให้คุ้มกับจินตนาการตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าหากผมได้จูบเบส ผมจะเคล้าคลึงริมฝีปากคู่นี้แบบไหน
ผมถึงกลับหัวใจพองโต เมื่อสุดหล่อครางเครือเบาๆติดปาก และเป็นโอกาสให้ผมสอดลิ้นแทรกผ่านปราการขาวสะอาด เพื่อไปแตะลิ้มชิมรสลิ้นนิ่มๆที่แสนหวาน พร้อมเพิ่มแรงกอดรัดร่างแน่นๆแนบไว้กับอก บวกกลิ่นเหงื่อและกลิ่นเนื้อหนุ่มหล่อเข้าไปอีก ทำเอาไอ้นนเคลิ้ม ตวัดลิ้นเต็มใจปรนเปรอส่งจูบหวานๆป้อนสุดหล่อสุดฝีมือเลยทีเดียว
“อืมมม...เฮือก!” หลังจากถอนจูบเพื่อปล่อยให้สุดหล่อได้มีโอกาสหายใจ ผมถึงกลับกระตุกยิ้มข้างแก้มขาวที่เจ้าของหอบเบาๆ พร้อมสูดกลิ่นหนุ่มหล่อไปด้วย
ผมนึกรักและเอ็นดูคนในอ้อมกอดขึ้นมาจับใจ กับความเงอะงะไร้เดียงสาของหนุ่มรูปหล่อผู้เป็นขวัญใจคนทั้งโรงเรียน พร้อมนึกลำพองใจขึ้นมาว่า ผมอาจจะเป็นคนแรกที่ได้จูบลึกซึ้งจากเบส ดูสิครับ! เบสตัวอ่อนหมดแรง ซบหน้าผากลงกับไหล่ผม เปิดโอกาสให้ผมซุนจมูกเข้าที่คอชื้นๆ สูดกลิ่นสุดหล่อซะชุ่มปอดเชียว ผมกระชับแผ่นหลังกว้างรั้งร่างแน่นๆเข้าหาอกตัวเองมากขึ้น อยู่ๆผมก็รู้สึกหวงเบสขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ถึงขั้นไม่ทันคิด และกัดเข้าที่ต้นแขนสุดหล่อแบบไม่เบานัก เล่นเอาคนที่ระทวยจูบนั้น สะดุ้งและร้องเสียงหลงเลยเชียว
“โอ๊ย!...[ผลัวะ!]...เจ็บนะโว้ย!” เสียงดังสนั่นลั่นไปทั้งหัวหู จากลูกตบมหาประลัยของสุดหล่อ ทำเอาผมถึงกลับน้ำตาซึม ยกมือคลำหัวตัวเองป้อยๆเลยทีเดียว
ส่วนเบสเองหลังจากประทุษร้ายและตะโกนใส่หน้าผมแล้ว เค้าก็ก้มมองรอยฟันที่ต้นแขนตัวเองใหญ่ มีส่งสายตาคาดโทษมาให้ผมเป็นระยะ แต่ไอ้แก้มแดงๆบวกปากเจ่อๆของเบสนี่สิ พาให้ผมมันเขี้ยวมากกว่าจะนึกกลัวกัน ทำให้ตอนนี้แม้ผมจะเจ็บหัวไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดจะสนใจนัก เพราะคนตรงหน้าน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ
แล้วดูสิครับนั่น เบสเริ่มรู้ตัวแล้วว่าโดนผมจ้องอยู่ไม่วางตา ทำให้ผมพยายามกลั้นขำสุดกำลัง จนต้องพลิกหน้าเข้าซุกท่อนแขนที่วางพาดไว้กับพวงมาลัย เมื่อสุดหล่อพยายามเก๊กหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่แก้มแดงก่ำ มือไม้ก็วุ่นอยู่กับกระเป๋านักเรียนและกระเป๋าเป้บนตัก เมื่อผมพลิกหน้ากลับมาอีกครั้ง รู้ตัวเลยว่าตัวเองหุบยิ้มไม่ลง และได้แต่เอียงหัวซบหน้าเข้ากับพวงมาลัยอยู่แบบนั้น เพราะไม่อาจละสายตาจากเบสไปได้
แต่สุดท้ายเวลาของสองเราก็ต้องหมดลง เมื่อคุณแม่ของเบสเดินมาเมียงๆมองๆจากในรั้วบ้าน ท่านคงสงสัยล่ะครับว่าเรามาถึงก็ตั้งนานแล้ว ทำไมลูกชายตัวเองถึงไม่เข้าบ้านสักที ผมจึงต้องตัดใจก่อนเปิดประตูตามลงมาส่งเบสกับว่าที่แม่ยาย และนึกเสียดายที่วันนี้ไม่ได้อยู่กินข้าวกับเบสเหมือนทุกวันที่ผ่านมา เพราะพ่อกับแม่ผมท่านนึกอยากทานข้าวกับลูกชายคนเล็กอย่างผมขึ้นมา ซึ่งท่านสั่งผมไว้ตั้งแต่เช้าแล้วว่าให้กลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน
“อุ๊ย! คุกกี้น่าทานจัง เบสซื้อมาเหรอลูก” ผมกับเบสสบตากันโดยมิได้นัดหมายทันทีที่สิ้นเสียงว่าที่แม่ยาย
ผมก็เพิ่งเห็นนี่แหละว่าเบสหยิบโหลคุกกี้ลงจากรถมาด้วย แต่ผมก็ต้องแปลกใจ เมื่อสายตาที่ผมได้สบด้วยนั้น ออกแนวหาเรื่องกันซะได้ เล่นเอางงไปชั่วแวบ แต่พอได้ยินประโยคต่อมาของเบสเข้า ผมก็พอเข้าใจ
“นนเอามาฝากแม่น่ะครับ ใช่มั้ย...นน!!” ขอสะดุ้งนิดครับกับเสียงเข้มๆของสุดหล่อ และผมก็ได้แต่พยักหน้าคอแทบหักให้เบส ก็ใครจะกล้าเถียงสุดหล่อตอนนี้ล่ะครับ แต่ใจผมนี่ฟูฟ่องจนคับอกไปแล้วเหอะ
‘ดีใจสุขใจโคตรๆ สุดหล่อของผมมีหวงเว้ยเฮ้ย’
ผมแปลจากการกระทำของเบสได้ว่า แม้แต่รสมือของคนอื่น เบสก็จะไม่ให้ผมได้ลิ้มลอง กลัวว่าผมจะติดใจเข้าล่ะเซ่ ฮึๆ แต่เบสจะรู้มั้ยว่าผมคงไปติดใจอะไร หรือใครที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เพราะรสจูบที่ผมเพิ่งได้ลิ้มลองกับเจ้าตัวนั้น มันยากที่จะลืม มีแต่จะยิ่งอยากได้อีก และอยากได้มากกว่าจูบด้วยนี่สิ!!
........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะคู่นี้เริ่มมีหวานมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กให้ได้อ่านแล้วใช่ม้า แต่งเองเขินเอง

แต่งตอนนี้จบบอกเลยว่าทั้งหมั่นไส้ทั้งสงสารนายนน
หมั่นไส้เพราะช่างเป็นคนหลงตัวเองอะไรอย่างงี้ๆๆ
แถมสุดหล่อก็ดูมีใจให้ไม่น้อยด้วย...อิจฉา!
ส่วนเรื่องสงสารมีนิดเดียว เพราะเอะอะไม่ได้ไม่ดีนนโดนเบส
ลงไม้ลงมือใส่ตลอดๆๆ (แต่จริงๆสมน้ำหน้ามากกว่า

)
และพฤติกรรมของเบสไม่ต้องบอกเนอะว่าเจ้าตัว
รู้สึกยังไงกับไอ้ล่ำดำถึก อาการหึงเงียบงี้ ไหนจะยอมให้เค้าจูบแบบไม่ขัดขืนอีกล่ะ
บอกเลยว่าเสียดายเบสมากกกก
ตอนหน้าเราจะตามชนนนไปรู้จักกับพี่สาว!? กับการเปิดใจครั้งแรกของนน
และอาการมุ้งมิ้งน่ารักของสุดหล่อกัน จะเกิดอะไรขึ้นบ้างติดตามได้วันอาทิตย์นะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.*เพลง “ต้นรักริมรั้ว” ศิลปิน “ลูกหว้า พิจิกา”
http://www.youtube.com/watch?v=rlcmnHzXDcs <<< เปิดฟังไปพร้อมเบสนะคะ^^
