ตอนที่ 24ภูธิป “ฟิ้วววว...ฟุ้บ!...กรี๊ดดดด!!! ลงแบบไร้ห่วง พี่เบสเท่มาก” เสียงกรีดร้องเสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั้งสนาม หลังจากที่ผมชู้ตบาสในเขตโทษลงห่วงทำคะแนนให้ทีมของโรงเรียน โดยที่ลูกไม่โดนขอบห่วงเลยสักนิด
ท่ามกลางเสียงเชียร์มากมาย กลับมีเสียงหนึ่งที่ทะลุเข้าโสตประสาทผม แบบที่เจ้าของมันไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก แต่ข้อความที่ผมได้ยินนี่สิ ให้ตาย! มันช่างไม่เข้ากับสถานการณ์แห่งความน่ายินดีขณะนี้เลย
“ไอ้แปง! มึงรีบปล่อยแฟนกูเลยนะ ดีใจเว่อร์ไปป่ะมึง”
ดีนะครับที่ไอ้แปงรองกัปตันทีมผม มันวิ่งเข้ามากอดแสดงความยินดีด้วย ในขณะที่ผมวิ่งกลับมายังกองเชียร์ฝั่งโรงเรียนของเรา ไม่เช่นนั้นไอ้คำพูดไม่คิดของคนหน้าไม่อาย คงทำให้ผมทำหน้าไม่ถูกมากกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ เพราะแค่นี้กองเชียร์ที่มีเหล่าบรรดาแฟนคลับ ‘เบส & นน LOVER’ ก็กรี๊ดกร๊าดจนทีมต่างโรงเรียนเริ่มให้ความสนใจในพฤติกรรมแปลกๆนี้เข้าแล้ว
ส่วนไอ้แปงหลังโดนไอ้ดำตูดหมึกตะโกนใส่ มันยู่ปากมีขมวดคิ้วและมองหน้าผมนิด ก่อนจะปล่อยแขนออกจากรอบคอผม และหันไปตอบโต้กับไอ้คนน่าไม่อาย ที่อยู่ขอบสนามรวมกับลูกทีมบาสคนอื่นๆของโรงเรียนเรา
“โห! ไอ้เฮียแม่งขี้หวง พี่เบสน่ะกัปตันทีมพวกผมนะโว้ย!” ฟังสิครับ น่าอายน้อยที่ไหนกัน
“แปง! ไม่เข้าเรื่อง รักษาหน้าพี่บ้าง ไปแย่งบอลกลางสนามไป!” ไอ้ลูกทีมน่ะไม่เท่าไหร่ แค่ผมดุด้วยเสียงแข็งๆพร้อมทำหน้าจริงจังใส่ มันก็หัวหดและรีบปฏิบัติตามคำสั่งแล้วครับ
แต่สำหรับอีกคนที่อยู่ขอบสนามนี่สิ ไม่มีสำนึกสักนิด แถมยังหน้าเป็นฉีกยิ้มโบกมือให้ผมอีก ผมล่ะไม่ไหวจะเคลียร์กับมัน คนอะไรหน้าด้านเป็นที่หนึ่ง แถมพ่วงด้วยตำแหน่งขี้หวงอย่างไม่มีใครเกิน แต่แล้วทำไมผมต้องแอบยิ้มอยู่คนเดียวด้วยเนี่ย
หลังจากนั้นเกมครึ่งแรกก็ผ่านไปโดยที่ทีมโรงเรียนเรานำอยู่เกือบยี่สิบแต้ม เพราะทีมที่แข่งด้วยเป็นทีมที่อ่อนที่สุดในบรรดาทุกโรงเรียน ทำให้การแข่งนัดแรกดูไม่สาหัสนักสำหรับทีมเรา และสามารถสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกทีมผม ด้วยการชนะเป็นนัดแรกของการแข่งในปีนี้
“ปรี๊ดดดด!!” เสียงเป่านกหวีดจบเกมในครึ่งหลัง พร้อมชัยชนะจากการทำแต้มแบบทิ้งห่าง และเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีจากบรรดากองเชียร์ เมื่อทีมโรงเรียนของเราเป็นฝ่ายกำชัยชนะ
นักกีฬาทั้งสองฝ่ายวิ่งไปที่ขอบสนามฝั่งของโรงเรียนตัวเอง และพร้อมใจก้มหัวให้กองเชียร์ เรียกเสียงปรบมือเสียงกรี๊ดดังไม่แพ้ตอนจบเกม ก่อนนักกีฬาสองทีมจะวิ่งเข้าจับมือกัน เพื่อแสดงถึงน้ำใจนักกีฬาที่มีให้กันหลังจบเกม มีแพ้ก็ต้องมีชนะเป็นเรื่องธรรมดา มันสำคัญที่เราได้เรียนรู้กับเกมกีฬานั้นๆมั้ย เรียนรู้จุดบกพร่องเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขในเกมต่อไป และเรียนรู้ที่จะรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัยต่อกัน
“ยินดีด้วยนะคะพี่ๆสำหรับชัยชนะนัดแรก...ยินดีกับพี่ๆด้วยนะครับ...พี่เบสสุดยอด นัดนี้ถือว่าเป็นฮีโร่เลย...” ถ้อยคำแสดงความยินดีมากมายหลั่งไหลมาสู่ผมและลูกทีม สร้างความสุขและรอยยิ้มให้นักกีฬาทีมบาสได้ไม่น้อย
เวลาผ่านไปนานกว่าพวกเราจะหลุดออกมาจากวงล้อมของเหล่าแฟนๆทีมบาสได้ ซึ่งทำเอาเหงือกแห้งเมื่อยหน้าไปตามๆกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าระดับความสุขจากชัยชนะก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
ส่วนผมที่เดินรั้งท้ายตามหลังบรรดาลูกทีมออกมาด้วยความอิ่มใจนั้น ต้องเบรกตัวโก่ง เมื่ออยู่ๆมีสิ่งมีชีวิตสีดำขนาดใหญ่ตัดหน้าในระยะประชิด แต่จากกลิ่นกายที่คุ้นเคยและเสื้อสีเทาเข้มตัวโปรดของผมบนร่างหนา ไม่ต้องเห็นหน้าผมก็รู้ว่าคือใคร นนยืนฉีกยิ้มกว้างเจิดจ้ามีแววตาระยับชื่นชมเปิดเผยมองตรงมายังผม ก่อนจะยื่นขวดน้ำเกลือแร่ที่มีไอเย็นเกาะพราวมาให้
“เบสดื่มน้ำก่อน เหนื่อยมั้ย วันนี้เบสของนนเก่งที่สุด...มา นนเช็ดเหงื่อให้เนอะ” หลังจากผมรับขวดเกลือแร่มาไว้ในมือแล้ว ผมก็ต้องรีบเบือนหน้าหนีผ้าขนหนูที่ถูกยื่นมาตรงหน้า
ถึงแม้ผมจะรู้ว่านนทำไปเพราะหวังดี แต่ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นมากมาย ผมจะปล่อยให้นนทำตามใจตัวเองไม่ได้ แต่ผมยังไม่ทันจัดการคนของตัวเอง กลับมีมือปริศนาเข้ามาคล้องแขนและออกแรงดึงจนผมเซ ซึ่งผมทันเห็นด้วยว่านนมันทำหน้าเหวออ้าปากค้างตาโต แต่กลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งเครียดแววตาดุดันขึ้นมาในพริบตา
“พี่เบส ฝ้ายยินดีด้วยนะคะ เกมวันนี้พี่เบสทำได้สุดยอดเลย ถ้าทีมเราไม่มีพี่ ลำพังนักบาสคนอื่น คงไม่มีทางทำให้ทีมเราชนะวันนี้หรอก” น้องฝ้ายส่งยิ้มหน้าแฉล้มพร้อมทำท่าน่ารักใส่ตาผม ด้วยการกระพริบตาปริบๆโชว์บิ๊กอายสีน้ำเงินวิ้งๆพร้อมแกว่งแขนผมไปมา
ดูเผินๆท่าทางของน้องฝ้ายก็น่ารักอยู่หรอก แต่คำพูดคำจาของน้องสิครับ กลับไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย และระดับเสียงที่น้องใช้ก็ไม่ได้เบานัก ซึ่งผลก็คือเกิดเสียงโห่ฮาดังขึ้นรอบตัวทันที
“บาสต้องเล่นเป็นทีมครับ และวันนี้ที่ชนะไม่ใช่เพราะพี่คนเดียว คนอื่นๆก็มีส่วนร่วมทั้งนั้น ครั้งหน้าฝ้ายอย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ ไม่น่ารักเลย” แม้จะขุ่นใจมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงด้วยคำพูด
ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ผมคุ้นคุ้นตามาแต่เด็ก และผมนับเป็นน้องสาวด้วยแล้ว ผมยิ่งไม่อยากทำ จึงทำเพียงดึงแขนตัวเองออกมาอย่างนุ่มนวล แต่ดูท่าการกระทำของผมจะไม่ทันใจคนข้างตัวนัก
“กรี๊ดดด!!...พี่นน! เล่นอะไรเนี่ย มันเย็นนะ แล้วดูสิหน้าฝ้ายเลอะหมดแล้ว! ไอ้ขวดน้ำนั่นใครจับมาบ้างก็ไม่รู้ สกปรก ยี้ๆๆ!” เสียงกรีดร้องโหยหวนตามมาด้วยเสียงโวยวายดังขึ้นจากน้องฝ้าย พาให้ผมและคนรอบข้างตกใจ ทุกสายตาจึงจับจ้องมายังเราสามคน
หลังจากที่ไอ้ดำขี้แกล้งเอาขวดน้ำดื่มเย็นเฉียบไปแตะแก้มจนน้องฝ้ายโวยวายนั้น นนก็ยืนกลั้นหัวเราะตัวเกร็งด้วยดวงตาวิบวับอย่างถูกใจ และมีปฏิเสธด้วยเสียงสั่นๆว่าไม่ได้แกล้ง แต่หวังดีเอาน้ำมาให้ดื่ม ซึ่งใครๆก็ดูออกว่าเป็นข้ออ้างชัดๆ เพราะตอนนี้ทั้งลูกทีมและกองเชียร์ที่ยืนล้อมวงอยู่ต่างส่งเสียงหัวเราะคิกคักกันใหญ่
ผมเองแม้จะนึกขำไปกับท่าทางของน้องฝ้ายในขณะนี้แค่ไหน แต่ก็ต้องพยายามระงับใจไว้ และหันไปถลึงตาดุใส่คนก่อเรื่อง ซึ่งก็เท่านั้นเพราะคนของผมมันไม่ใส่ใจอยู่แล้วครับ
นนทำแค่ยักคิ้วให้ผมและหันไปพยักพเยิดกับลูกคู่อย่างไอ้แปง ซึ่งลูกน้องตัวแสบของไอ้ดำตูดหมึกเองก็แอบยกนิ้วชื่นชมลูกพี่ลับหลังผม แต่พอเห็นผมมองอยู่ดันส่งยิ้มแหยๆให้ก่อนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ‘พอกันทั้งคู่!’ ส่วนน้องฝ้ายก็ยังโวยวายดิ้นเร่าๆกระทืบเท้าอยู่กับที่ แถมทำหน้าบูดจ้องนนตาเขียวอย่างอาฆาต กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งสนามอย่างไม่รู้ตัว และผมคงเคลียร์สถานการณ์น่าปวดหัวได้ไม่ยาก หากจะไม่มีตัวป่วนที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามายุ่ง ทำให้อะไรๆมันยิ่งดูเลวร้ายขึ้นไปอีก
“เอ่อ ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ” อยู่ๆก็มีเสียงทุ้มออกแววเกรงใจดังแทรกความวุ่นวายขึ้นมา และผมก็ต้องแปลกใจ เมื่อดูเหมือนว่าเจ้าของเสียงนั้น เจาะจงพูดกับผมโดยเฉพาะ และจำได้ว่าคนตรงหน้าคือกัปตันทีมของโรงเรียนที่เป็นคู่แข่งของเราวันนี้
“นายชื่อเบสใช่มั้ย เราชื่อ ‘โชค’ น่าจะพอจำเราได้นะ วันนี้ทีมพวกนายเล่นได้ดีเข้าขากันมาก เราขอชื่นชมเลย เอ่อ...ยังไงเราขอเบอร์นายหน่อยได้มั้ย ผะ...เผื่อขอคำปรึกษา เอามาปรับปรุงการเล่นของทีมเรา” ผมที่กำลังระบายยิ้มอารมณ์ดีกับ
ถ้อยคำชื่นชมของอีกฝ่ายก็ให้หุบยิ้มแทบไม่ทัน เพราะคำขอและเหตุผลทะแม่งๆที่ได้ยินท้ายประโยคของนายโชค ที่ฟังดูเหมือนว่างานจะเข้าแบบไม่รู้ตัว
ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้นที่อยู่ในอาการประหลาดใจ แม้แต่น้องฝ้ายที่ส่งเสียงกรี๊ดๆเมื่อครู่ยังเงียบกริบ ไม่ต้องพูดถึงไอ้ดำตูดหมึกว่าจะมีอาการอย่างไร เพราะตอนนี้ผมรับรู้ถึงรังสีทะมึนที่แผ่ปกคลุมอยู่รอบตัว เมื่อผมเหลือบตามองก็ให้ลอบถอนใจเบาๆกับสีหน้าเคร่งเครียดของนน ที่ตอนนี้กำลังจดจ้องนายโชคไม่วางตา บวกเข้ากับกิริยาไม่ชอบมาพากลของนายโชคด้วยแล้ว ได้เห็นผมยิ่งหนักใจว่าจะเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้น เพราะขณะนี้นายโชคไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผม มียกมือขึ้นเกาหัวอย่างเขินๆ พร้อมแก้มที่กำลังขึ้นสีระเรื่อ ขัดกับรูปร่างสูงเก้งก้างและหน้าตาคมคายมากนัก แต่ก่อนที่ผมจะทำอะไร และก่อนที่ไอ้ดำตูดหมึกของผมจะเข้าไปเอาเรื่องคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้านั้น
“เอามานี่...อ่ะ เรียบร้อยแล้ว นั่นเบอร์เรา ไม่ใช่ของพี่เบส เราเองก็เป็นรองกัปตันทีม นายมีปัญหาอะไรก็โทรมาแล้วกัน ช่วงนี้กัปตันทีมเรายุ่งๆด้วย แถมแฟนก็โคตรดุ ขืนนายโทรไปสุ่มสี่สุ่มห้าจะทำให้คนรักทะเลาะกันเปล่าๆ...นายคงไม่อยากมีปัญหาใช่มั้ย” หลังจากที่ไอ้แปงยื่นโทรศัพท์คืนโชคไปแล้ว รองกัปตันอย่างมันก็พูดประโยคยาวๆนั่น ด้วยท่าทางจริงจังแกมหาเรื่อง
ผมเองก็ได้แต่มองไอ้แปงอย่างทึ่งๆที่มันทำสีหน้าจริงจังแบบนั้นเป็นด้วย ปกติเห็นยิ้มร่าบ้าบอไปตามเรื่องแท้ๆ และผมก็อดหมั่นไส้ไอ้ดำตูดหมึกไม่ได้ เพราะนนมันกระตุกยิ้มพอใจทันทีที่ได้ยินลูกน้องโอ่ถึงตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง
“เราจะว่าอะไรได้ แต่ไม่ยักรู้ว่าเบสมีแฟนแล้ว...หรือจะเป็นน้องผู้หญิงคนนี้” นายโชคยังไม่จบครับ แต่กลับหาเรื่องให้ผม ด้วยการโมเมว่าน้องฝ้ายนั้นคือแฟนของผม ทำให้ฝ้ายยิ้มร่าอารมณ์ดีขึ้นทันตา และทำท่าจะเข้ามาคล้องแขนผมโชว์ต่อหน้าคนอื่น จนนนคิ้วกระตุกจ้องเธออย่างเอาเรื่อง ทำให้ผมต้องขยับห่าง และเลือกที่จะขยับเข้าไปชิดคนของตัวเอง
“ฝ้ายน่ะเป็นรุ่นน้องของเรา...ขอบใจนายมากนะโชคที่เข้ามาชื่นชมทีมเรา และช่วยทำตามที่รองกัปตันทีมเราว่าไว้แล้วกัน วันนี้เราขอตัวพาลูกทีมไปเลี้ยงฉลองก่อนนะ...พี่ขอตัวก่อนนะฝ้าย...นนไปครับ” ผมตัดบทกับตัวปัญหาทั้งคู่ ก่อนหันมาจ้องตาคนของตัวเองอย่างจริงจัง ให้รู้ว่าอย่าก่อเรื่องเพราะอย่างไรซะผมก็ได้เลือกแล้ว และยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจตอนนี้ด้วย
นนเองก็ถอนใจพรืดใหญ่ ก่อนพยักหน้าให้ผมอย่างอย่างจำนน ทำท่าก้าวตามหลังผมเมื่อผมออกเดิน ผมที่เบาใจว่าจะไม่มีเรื่องแล้ว จึงพยักหน้าเรียกบรรดาลูกทีมให้ออกจากสนาม แต่ยังไปไม่ถึงไหนกลับได้ยินเสียงแว่วๆดังตามหลัง
“ถ้าเป็น ‘คนนี้’ เราไม่ยอมแพ้หรอกนะ...เบส!” นายโชคจะดื้อด้านเกินไปแล้วว่ามั้ย แล้วฟังคำพูดพวกนั้นสิครับ เพราะมันส่งผลให้ไอ้ดำตูดหมึกหันขวับกลับไปเตรียมกระโจนเข้าใส่ จนผมต้องถลาเข้าไปรั้งท่อนแขนนนไว้
“นน! ไม่เอา ไปเถอะ” แต่ดูท่าไอ้คนใจร้อนมันจะไม่อยากฟังครับ เพราะมีฮึดฮัดกัดฟันกรอดจนหน้าแดงและจ้องนายโชคตาเขม็ง แต่ยังดีที่ไม่ถึงขั้นสะบัดผมออก ไม่งั้นผมคงกระเด็นไปอยู่ขอบสนาม ด้วยแรงนักบาสรึจะสู้แรงนักรักบี้ได้
ผมจึงเอาใจพ่อกระทิงเปลี่ยว ด้วยการลูบท่อนแขนในอุ้งมือเบาๆ แต่นนก็ยังไม่มีทีท่าที่จะเย็นลง ยังดีที่มีน้องธันว์และน้องนลินเดินเข้ามาสมทบ ซึ่งผมก็ได้น้องธันว์เข้าไปพูดเกลี้ยกล่อมนนให้ ลำพังหากมีเพียงน้องนลิน ผมว่านายโชคคงได้เละเป็นโจ๊กอยู่ตรงนี้ เพราะสองเพื่อนซี้คงร่วมแรงกันรุมสกรัมคนที่พูดผิดหูแน่ๆ
“นลินมึงนะ แทนที่จะห้ามมัน ดันเออออไปด้วย...นนใจเย็นๆ กลับเหอะอย่ามีเรื่อง ขืนมึงดื้อด้านคนที่จะเดือดร้อนคือแฟนมึงนะ” เอาน่ะมาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่มีใครไม่รู้แล้วล่ะมั้งนะ ว่าไอ้ล่ำดำถึกขี้งอนคนนี้มันเป็นแฟนผม หากจะมีคนไม่รู้ก็คงได้รู้จากคนตัวเล็กแก้มใสตรงหน้านี้แล้วล่ะ ก็น้องธันว์พูดซะดังขนาดนั้น
จากหางตาผมก็เห็นอยู่หรอกว่าน้องฝ้ายทำหน้าบูดบึ้งส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ และนายโชคเองก็หน้าสลดทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของน้องธันว์ ส่วนคนที่โดนเพื่อนสนิทช่วยประกาศความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเจ้าตัว ก็คลายสีหน้าเครียดๆลง แต่ก็ยังจ้องนายโชคไม่วางตาเช่นเดิม ผมจึงกระซิบปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนๆแถมไปอีกนิด
“นนกลับกันนะครับ เบสเหนื่อย อยากพัก...พวกเรากลับไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดี๋ยวเย็นนี้ไปเจอกันที่ร้านเดิมเลย เชิญน้องธันว์กับน้องนลินด้วยนะครับ” เมื่อหันไปบอกเหล่ารุ่นน้องตัวแสบที่มีทีท่าพร้อมลุย หากไอ้ลูกพี่ตัวดีสั่งออกมาสักคำแล้ว
ผมก็หันมาพูดกับเพื่อนสนิทของนน ก่อนจะลากแขนไอ้ตัวแสบออกมาจากสนาม ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ แต่ก็ไม่พ้นมีเสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าแฟนคลับดังตามหลังมาให้ได้ยินจนได้
“อ๊ายยย พี่เบสเสน่ห์แรงอ่ะ เกือบมีเรื่องแล้วสิ ฉันใจหายหมด นึกว่าพี่นนจะต่อยนายนั่นซะแล้ว พี่ธันว์ไม่น่าห้ามเลยเนอะ ฉันจะได้ช่วยซ้ำ” ผมชักไม่แน่ใจว่าคนพูดอยากให้มีหรือไม่มีเรื่องชกต่อยกันแน่
“ฉันล่ะหนักใจแทนพี่นน มีทั้งผู้หญิงผู้ชายมาให้ความสนใจแฟนตัวเอง ฉันว่าเราหาวิธีกีดกันพวกนั้นมั้ยแก” ประโยคนี้คงถูกใจไอ้ดำตูดหมึกแหละครับ ผมเห็นหรอกว่ามันแอบกระตุกยิ้ม
“กรี๊ดดด แกๆ คืนนี้เวปล่มอีกแน่ พี่เบสจูงมือนนด้วย” ผมว่าผมลากไอ้กระทิงเปลี่ยวออกมามากกว่าจะจูงมือหวานแหววเหมือนที่น้องผู้หญิงคนนี้พูดนะ
“คิกๆ แต่ฉันได้รูปพี่เบสปลอบพี่นนด้วย ดูสิๆ ปากงี้แทบจะแตะโดนแก้มแล้ว” จริงรึเปล่า! ตอนนั้นผมว่าผมยื่นหน้าไปกระซิบเฉยๆนะ ปากห่างจากแก้มนนเป็นคืบ
เอ๊ะ!...แต่ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนั้นจดจ่อกับการปลอบให้ไอ้ดำตูดหมึกใจเย็นลงแค่นั้นซะด้วยสิ
........................................
“นนเป็นอะไร เงียบมาตั้งแต่ที่สนามแล้วนะครับ” ผมรู้แต่ก็เลือกที่จะถาม เพราะอย่างน้อยหากไอ้คนหน้าบูดได้ระบายออกมา คงทำให้บรรยากาศแสนอึดอัดตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี้บรรเทาลงมาได้บ้าง
“หึ!” คำตอบของผมคือค้อนน้อยๆที่ถูกส่งมาให้ พร้อมเสียงพ่นอากาศผ่านจมูกด้วยสีหน้างอนขั้นสุดของนน ก่อนเจ้าตัวจะหมุนเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือหันหลังให้กัน
แทนที่ผมจะโกรธ แต่เชิ่อมั้ยว่าผมกลับอารมณ์ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างน้อยไอ้ดำตูดหมึกก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง ไม่ใช่เอาแต่เงียบเหมือนตอนที่เราอยู่ในรถด้วยกัน ในระหว่างทางที่นนขับรถกลับบ้านพร้อมผม
“เบสไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่านนเป็นอะไร” หลังจากผมแกล้งยืนกอดอกและยิ้มเงียบๆคนเดียว อยู่ด้านหลังของคนขี้งอนได้ไม่นาน ผมก็สมใจเมื่อสุดท้ายคนที่เงียบมาตลอด ก็เป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวและหมุนเก้าอี้กลับมาเผชิญหน้า ก่อนส่งคำถามเมื่อครู่ออกมา แถมหน้าตานนก็มู่ทู่ได้อย่างน่าเกลียด
ผมถึงกลับหลุดหัวเราะ ทำให้คนตัวโตยิ่งงอนหนักเข้าไปใหญ่ แต่อะไรก็ไม่เลวร้ายเท่ากับแววตาน้อยอกน้อยใจที่ผมได้เห็น ซึ่งมันคงถึงเวลาแล้วที่เราต้องเคลียร์กันอย่างจริงจัง ผมจึงจงใจระบายยิ้มอ่อนโยนใส่ดวงตาอ่อนแสงคู่ตรงหน้า ก่อนวางมือลงบนไหล่หนาอย่างนุ่มนวล และก้มหน้าจ้องเข้าไปในดวงตาคมเข้มคู่นั้น
“เบสรู้สิว่านนกำลังเป็นอะไร แต่ไม่เข้าใจมากกว่า ว่านนจะอารมณ์เสียเพราะคนอื่นทำไมกัน นนก็เห็นว่าเบสไม่เคยให้ความหวังคนเหล่านั้นสักนิด...เบสก็มีแค่นน” แววตาน้อยอกน้อยใจของนนค่อยๆจางหาย ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความรู้สึกผิด แฝงแววออดอ้อนได้อย่างน่าหมั่นไส้ พร้อมกับที่นนคว้ามือผมที่วางอยู่บนไหล่เจ้าตัวมาแนบแก้ม
“เบส~...นนขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า แต่มันอดหึงไม่ได้นี่ ทำไมใครๆถึงต้องมาสนใจสุดหล่อของนนด้วย ไม่รู้รึไงว่าเจ้าของโคตรหวง” ทีแบบนี้ล่ะอ้อนได้อ้อนดี
ทันทีที่ไอ้ดำตูดหมึกพูดด้วยเสียงง้องแง้งจบลง มันก็คล้องแขนเข้ากับเอวผม และดึงตัวผมเข้าไปอยู่ระหว่างขาอย่างช้าๆ ทั้งๆที่ใช้สายตาอ่อนเชื่อมจ้องผมไม่วางตา ก่อนนนจะแนบใบหน้าซุกลงกับหน้าท้องของผม พร้อมกับที่ผมรู้สึกว่าริมฝีปากนุ่มนั้น แตะลงที่หน้าท้องผ่านเสื้อที่ผมสวมอยู่เนิ่นนาน
ตอนแรกผมถึงกับเกร็งตัวกับการแสดงออกของนน ทั้งๆที่ทั้งตัวผมก็มีแต่เหงื่อ เพราะถึงบ้านก็ยังไม่มีเวลาไปอาบน้ำเลย ไม่รู้ไอ้ดำตูดหมึกมันไม่เหม็นบ้างรึไงกัน แต่จะให้ผมผลักไสก็ใช่ที่ ในเมื่อเจ้าตัวมันยังไม่เดือดร้อนก็ปล่อยให้มันดมกลิ่นเหงื่อของผมไปก็แล้วกัน ผมรู้หรอกว่านนกำลังรู้สึกผิดที่ทำตัวหึงพร่ำเพรื่อ แต่ผมเองก็ออกจะดีใจในคำพูดตรงๆไม่มีอ้อมของนน
‘งี่เง่าเพราะความหึงหวง รักก็บอกว่ารัก ถ้าไม่รักก็คงไม่หึงไม่หวงล่ะน้า’ คิดได้แบบนั้นผมถึงกลับหลุดยิ้มออกมา และยกมือลูบหัวเกรียนๆนั้นอย่างเบามือ แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือหนาที่สอดเข้าชายเสื้อ และเพียงเสี้ยววินาทีชายเสื้อด้านหน้าผมก็ถูกถลกขึ้น ก่อนริมฝีปากชื้นๆจะประทับลงบนหน้าท้องของผมอย่างผ่านๆ จะเหลือเหรอที่ผมจะไม่โวยวาย แต่ก็เท่านั้นเมื่อหมาป่าเจ้าเล่ห์คืนร่าง เพราะเพียงแค่ผมหลุดชื่อไอ้ดำตูดหมึกออกมา ริมฝีปากผมก็ถูกประกบและโดนลิ้นร้อนรุกรานเข้ามาในโพรงปาก ขโมยลมหายใจผมไปในเสี้ยววินาที
จนท้ายที่สุดผมได้แต่ระทวยเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่น และไม่รู้ตัวสักนิดว่าซบหน้ากับไหล่หนา พร้อมนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักแกร่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมมารู้ตัวก็ต่อเมื่อ ถูกถอดเสื้อกล้ามที่ใช้แข่งออกจากตัวผ่านทางศีรษะไปแล้วเรียบร้อย
“นนอาบน้ำให้เองนะครับ เบสบอกว่าเหนื่อยนี่เนอะ...ห้ามปฏิเสธนนล่ะ!”
ผมที่เตรียมเอ่ยปฏิเสธก็ให้ปิดปากแทบไม่ทัน เพราะแววตาจริงจังที่จ้องเขม็งมายังผม อ่านได้ว่าขืนผมไม่ยอมตามใจ ผมคงต้องเหนื่อยมาง้อไอ้ล่ำดำถึกขี้งอนมากกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นแน่
เมื่อนนเห็นผมเงียบ เจ้าตัวก็ยิ้มร่าปากฉีกด้วยท่าทางรื่นเริง และท่าทางจะพาผมเข้าห้องน้ำ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรที่มันมากกว่าการอาบน้ำเป็นแน่ ผมจึงกุมทับข้อมือนนข้างที่จูงมือผมไว้ จนนนหันมามองตากัน
“นนรู้ใช่มั้ยว่าช่วงนี้เบสมีแข่งอีกหลายเกม” การห้ามปรามใช้ไม่ได้กับไอ้ดำตูดหมึก ผมจึงเลือกที่จะเตือนให้เจ้าตัวได้คิดเอง และดูท่าจะได้ผล เมื่อนนทำหน้าบูดนิดถอนใจอีกหน่อย ก่อนจะพยักหน้าให้ผม
“ครับ แต่ถ้าทำอะไรที่ไม่มีผลต่อการแข่งของเบส นน ‘ทำ’ ได้ใช่มั้ย” ดวงตาวิบวับที่ฉายแววแห่งความคาดหวัง ทำให้ผมได้แต่ถอนใจก่อนจะพยักหน้าเบาๆออกไป ขืนห้ามไปซะหมดหมาป่าคงกลายเป็นกระทิงเปลี่ยว เที่ยวขวิดใครต่อใครไปทั่วแน่ๆ
“เยส! เรารีบอาบน้ำกันเนอะ เดี๋ยวไอ้พวกนั้นรอแย่” ยังดีที่ไอ้ดำตูดหมึกจำได้ว่าเย็นนี้เรานัดลูกทีมของผมไว้
สุดท้ายผมก็โดนนนอาบน้ำให้ซะตัวเบา ก็ไอ้ตัวดีเล่นดูดพิษผมเกือบหมดตัว แต่อะไรก็ไม่เท่าที่ผมใจอ่อนตามใจดูดพิษมันเป็นการตอบแทนด้วยนี่สิ ซึ่งผมยังจำสีหน้าและแววตาของนนที่ก้มมองผมขณะนั้นได้อยู่เลย
‘ทั้งรักทั้งหลงจนไม่อาจถอนตัวถอนใจ!’
......................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะชนนนฉลาดเป็นกรดทั้งหึงทั้งอ้อนจนสุดหล่อต้องยอมจนได้

เบสก็โคตรตามใจ รู้ทั้งรู้ว่าคนของตัวเองโคตรหื่น แต่คู่นี้ก็เหมาะสมกันล่ะน้า
ส่วนตัวป่วนหน้าใหม่บอกเลยไม่จบเท่านี้ จะมีบทมาป่วนอีกแน่นอน
จะมากจะน้อยต้องคอยติดตามค่ะ
ตอนหน้าเข็มกลัดตัวน้อยที่ซ่อนไว้เริ่มแผลงฤทธิ์ล่ะ เบสนนจะเจ็บๆคันๆแค่ไหน
ต้องตามลุ้นค่ะ คนหลงเมียเว่อร์ๆมันก็มีจุดบอดอ่ะนะ
แล้วเจอกันวันอาทิตย์นะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
