ตอนที่ 43ภูธิป “ไม่ได้จริงๆเหรอครับ ถ้าเบสยอมประกวด ต้องคว้าเดือนมหา’ลัยมาให้คณะเราได้แน่ๆ” ผมมองหน้าเจ้าของคำถามที่เป็นถึงเดือนคณะควบเดือนมหาวิทยาลัยปีที่แล้วด้วยความหนักใจ ยิ่งได้เห็นแววตาออดอ้อนขอร้องด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความลำบากใจให้แก่ผม แต่ขืนผมยอมตกปากรับคำคงได้มีเรื่องยุ่งยากตามมาอย่างแน่นอน
“นั่นสิคะ น้องเบสไม่เปลี่ยนใจจริงๆเหรอ พี่นุ่นล่ะเสียดายหน้าตาระดับนายแบบอย่างน้องจริงๆนะ” เสียงหวานๆของดาวคณะอย่างพี่นุ่มมาพร้อมมือนุ่มที่แตะเข้ากับท่อนแขนของผม พาลให้ผมอึกอักปฏิเสธไม่ออกยิ่งกว่าเดิม
“คือผม...” แต่ก่อนที่ผมจะตกบันไดพลอยโจน ตอบรับคำยอมประกวดเดือนมหาวิทยาลัยอย่างเสียไม่ได้ กลับมีสัมผัสอุ่นที่บ่าทั้งสองข้าง และตามมาด้วยเสียงสดใสที่ลอยมาจากด้านหลัง จนผมต้องแหงนหน้าขึ้นมองและก็ให้นึกโล่งใจ
หากผมยอมเป็นตัวแทนคณะเข้าประกวดเดือนมหาวิทยาลัย ไอ้คนนี้นี่แหละที่จะเป็นสาเหตุของเรื่องยุ่งๆที่จะตามมา ด้วยเจ้าตัวย้ำนักย้ำหนาไม่ให้ผมเข้าประกวดใดๆก็แล้วแต่ในมหาวิทยาลัย ถามว่าเดี๋ยวนี้ผมกลัวไอ้ดำตูดหมึกไปแล้วเหรอ จึงดูเชื่อฟังคำพูดนนขนาดนั้น ผมคงตอบได้แต่ว่าไม่ได้กลัวแต่ออกแนวรำคาญซะมากกว่า ด้วยไอ้ตัวแสบเวลางอนเหมือนใครซะที่ไหน แทนที่จะงอนและรอผมง้ออย่างสงบ แต่นนกลับทำตัวกระเง้ากระงอดตีหน้าน่าสงสาร พอผมทำเฉยดันเข้ามาเร้าหรือกับผมจะเอาให้ได้ดังใจเหมือนเด็กสามขวบ จนผมทนไม่ไหวต้องยอมตามใจนั่นแหละ
แต่ไม่เท่านั้นสุดท้ายผมกลับต้องจบการง้อเด็กโข่งด้วยร่างกายนี่สิ ที่สำคัญทุกครั้งไอ้ตัวดีดันสูบพลังผมซะไม่มีเหลือ ผมจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องยุ่งๆ ทำให้ไอ้ดำตูดหมึกนี่มันอ้างเอามางอนกับผมได้อย่างไรล่ะครับ เพราะแค่สถานการณ์ปกติไอ้ตัวดีมักหาโอกาสดีเนียนเข้าหาผมมากพออยู่แล้ว
“เบส นนมารับแล้ว กลับบ้านกันครับ” ผมยังไม่ทันตอบรับเจ้าของแววตาอบอุ่นที่กำลังส่งยิ้มกว้างขวางมาให้ พี่นุ่นที่นั่งข้างๆผมกลับกรีดร้องออกมาไม่เบานัก ทำให้ทั้งผมและนนตกใจจนต้องหันไปมอง
“กรี๊ดดด น้องนน!...พี่นุ่นล่ะคิดถึง” พี่นุ่นกรี๊ดกร๊าดและหันไปให้ความสนใจนนอย่างออกนอกหน้า ถึงขั้นลุกจากม้านั่งข้างตัวผม เพื่อไปเกาะแขนนนและออดอ้อนด้วยเสียงหวานๆ ซึ่งไอ้ดำตูดหมึกเองก็ดันยิ้มกว้างตอบรับไมตรีไม่มีปฏิเสธ
ผมได้แต่ลอบถอนใจที่มีนนมาช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของพี่นุ่นไปจากตัวเอง ด้วยสาวสวยคนนี้มาดักรอผมเรียนที่หน้าตึก และนั่งตื๊อผมให้ช่วยลงประกวดเดือนมหาวิทยาลัยอยู่นานสองนาน พร้อมกับพี่ร่วมคณะอีกคนชื่อพี่นิค ที่กำลังนั่งตีหน้าขรึมจ้องนนด้วยความไม่พอใจ
การที่พี่นิคมีทีท่าแบบนั้น ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ คงเป็นเพราะหึงนนกับพี่นุ่นอยู่น่ะครับ ผมได้ข่าวว่าพี่นิคตามจีบพี่นุ่มมาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง จนผ่านมาหนึ่งปีพี่นุ่นก็ยังไม่ตกลงด้วย พอได้มาเห็นคนที่ตัวเองชอบมาปลื้มผู้ชายอื่นต่อหน้าต่อตา จึงไม่พอใจเป็นเรื่องธรรมดา
ตั้งแต่เราถ่ายแบบเซตวินเทอร์ออฟเลิฟให้ห้องเสื้อของพี่อ๋อมแอ๋มด้วยกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าเราได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลักของพี่อ๋อมแอ๋มอย่างล้นหลาม จนเกิดกระแส ‘เบส & นน’ ฟีเวอร์ขึ้นมา ทำให้ห้องเสื้อของพี่อ๋อมแอ๋มเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น พร้อมยอดขายที่พุ่งกระฉูด อาจจะด้วยคอนเซ็ปคู่รักชายชายที่ไม่เคยมีใครคิดเสี่ยงเล่นคอนเซ็ปเรื่องนี้มาก่อนก็ได้
กระทั่งเริ่มมีสื่อให้ความสนใจอยากรู้ความเป็นไประหว่างเรา ว่าคู่เรานั้นเป็นคู่จริงหรือคู่จิ้น เพื่อสร้างกระแสให้ห้องเสื้อของพี่อ๋อมแอ๋มกันแน่ และพยายามขอสัมภาษณ์ผ่านมาทางพี่อ๋อมแอ๋ม แต่ผมเอ่ยปฏิเสธไปเนื่องจากไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะไม่ว่าจะไปไหนเราก็จะได้รับความสนใจจากผู้คนรอบข้างเสมอ
ในหลายๆครั้งไอ้คนที่กำลังยิ้มหน้าระรื่นนั่นก็มักจะหัวเสีย ยามที่มีคนพยายามใกล้ชิดผมเกินจำเป็นพาลงอนผมซะทุกครั้ง ผมจึงตัดปัญหางดให้สัมภาษณ์ไป แต่กลับเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนรอบข้างอยากรู้เรื่องของเรามากขึ้น จนไปสืบเสาะขุดค้นประวัติเราจากเด็กในโรงเรียน จนเจอเว็บเพจของแฟนคลับเราที่ทำไว้ ทำให้คู่เราได้รับความสนใจยิ่งกว่าเดิม
จนกระทั่งผมเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ผมจึงพยายามจะทำตัวไม่ให้โดดเด่นมากนัก อย่างการหาแว่นกรอบดำหนาๆมาใส่ และทำผมยุ่งๆเพื่อปกปิดใบหน้า และพยายามปลีกตัวอยู่เงียบๆคนเดียว แต่สิ่งที่ผมทำไปกลับไร้ผลและล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อไอ้ดำตูดหมึกที่ทำตัวไม่รู้เรื่องรู้ราว โผล่พรวดมารับผมทั้งชุดนักเรียนหัวเกรียนโดยไม่บอกกล่าวถึงหน้าคณะ แถมวันนั้นยังเป็นวันรับน้องใหญ่ที่รุ่นพี่ทุกชั้นปีมารวมตัวกัน ความเลยแตกและจากปากต่อปาก ทำให้คนรู้กันทั่วว่าผมเรียนที่นี่
หลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดความวุ่นวายขนาดไหน เรียกได้ว่าผมเดินไปไหนในมหาวิทยาลัยมีแต่คนให้ความสนใจ กล้าหน่อยก็จะเข้ามาทักเพราะอยากทำความรู้จักด้วย จนไอ้ดำตูดหมึกโอดครวญง้องแง้งใส่ผมประจำ ยิ่งมีเบอร์แปลกๆโทรหาผมบ่อยเข้า นนก็ชักจะอารมณ์บูดพาลงอนหนักข้อ แต่จะโทษใครก็ต้องโทษตัวเองนั่นแหละ ที่ทำแผนที่ผมวางไว้ดิบดีพังไม่เป็นท่า
ไอ้ตัวดีจึงแก้ปัญหาด้วยการมาแสดงตัวที่มหาวิทยาลัยผมเป็นประจำหากมันมีคาบว่าง และเท่าที่เห็นดูท่าจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ นอกจากคนที่เข้าหาผมจะไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มความนิยมในตัวไอ้ดำตูดหมึกจากเด็กมหาวิทยาลัยมากขึ้นสิไม่ว่า ดูจากภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี่สิครับ ทั้งเพื่อนและรุ่นพี่สาวสวยเข้ากลุ้มรุมไอ้เด็กหัวเกรียนหน้าเข้มของผมกันให้วุ่น
“ตกลงเบสไม่ลงประกวดให้คณะจริงๆใช่มั้ย แต่พี่ก็พอเข้าใจอ่ะนะ นั่นน่ะ...ตามมาแสดงตัวถึงที่นี่ถี่ขนาดนั้น ทั้งที่มหา’ลัยกับโรงเรียนก็อยู่คนละฟาก ดูท่าเรากับเด็กนั่นจะรักกันมาก...น่าอิจฉา” พี่นิคพูดด้วยน้ำเสียงอิจฉาอย่างปากว่าครับ แต่แววตาที่มองไปทางกลุ่มคนตรงหน้า กลับแสดงแววตาตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด
ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าพี่นิคตัดพ้อใครอยู่ ถ้าไม่ใช่พี่นุ่นคนสวย ผมระบายยิ้มบางเบาใส่ตาพี่นิคอย่างให้กำลังใจ ยามที่พี่นิคหันมายิ้มเศร้าๆกับผม
“ความรักของพี่ก็น่านับถือมากนะครับ ทั้งๆที่พี่ก็มีโอกาสอีกมากมาย แต่พี่ยังมั่นคงกับพี่นุ่นไม่เปลี่ยน พี่นุ่นจึงน่าอิจฉาในสายตาผมเหมือนกัน” หลังคำพูดผมนั้น พี่นิคระบายยิ้มเต็มหน้าทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูดียิ่งขึ้นไปอีก
“เบส คุยไรกัน...พี่! ทำไมต้องยิ้มให้แฟนผมขนาดนั้นด้วยวะ คิดอะไรกับแฟนผมป่ะเนี่ย ขนาดพี่นุ่นอยู่ตรงนี้แท้ๆนะเพ่!” มาเรื่องแล้วครับไอ้ดำตูดหมึก หาเรื่องให้คะแนนนิยมของพี่นิคในสายตาพี่นุ่นลดฮวบซะแล้ว
“นน!” ผมกดเสียงต่ำเรียกชื่อนน ก่อนจะหรี่ตาจ้องหน้าไอ้เด็กขี้อิจฉา
แต่สิ่งที่ผมทำไปก็เท่านั้นครับ เพราะนอกจากไอ้เด็กโข่งขี้อิจฉาจะไม่กลัวผมแล้ว นนยังสะบัดค้อนเข้าใส่และหันไปเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่พี่นิคอีก ทั้งๆที่พี่นิคหน้าเสียไปแล้ว ตั้งแต่ที่พี่นุ่นตวัดสายตามองอย่างสำรวจ หลังจากเสียงนนดังขึ้นก่อนหน้า
“นุ่น! คือ...เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น ตามที่ไอ้เด็กนี่มันพูดเลยนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด...นายนี่มันเพ้อเจ้อชะมัด! ไปเลย พาแฟนนายกลับไปเลย มาแต่ละทีนี่มีแต่เรื่องปวดหัว” ดูท่าที่ผ่านมาการมาของนนจะทำให้พี่นิคอัดอั้นน่าดู วันนี้ผู้ชายที่ดูสุภาพถึงกลับระเบิดออกปากไล่ได้ขนาดนี้
ส่วนไอ้คนโดนไล่กลับไม่แยแส ที่หนักกว่านั้นคือไอ้ดำตูดหมึกมันยิ้มร่าอย่างยียวน ก่อนจะตรงเข้ามารวบของๆผมบนโต๊ะ และกระตุกข้อมือให้ผมลุกขึ้น แม้ผมจะเพียรส่งสายตาดุๆแค่ไหนก็ดูไร้ผล เมื่อคนที่ได้รับดันทำเป็นทองไม่รู้ร้อน และทำเหมือนถูกใจหนักหนาที่ถูกเอ่ยปากไล่ หรือไอ้ดำตูดหมึกมันจะเพี้ยนไปแล้ว แต่การกระทำเพี้ยนๆของนนกลับสร้างความถูกใจให้แก่นักศึกษาสาวๆรอบตัวเรา ด้วยผมได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆตั้งแต่มันเข้าประชิดตัวผมแล้ว
“พี่พูดแบบนี้ผมก็สบายใจ เพราะคนของผมผมก็ต้องหวงเป็นธรรมดา ถึงแม้ผมจะไว้ใจคนของผม แต่ผมไม่เคยไว้ใจใครหน้าไหนที่มาทำตัวสนิทกับเบสทั้งนั้น...ผมไปล่ะ อ้อ! เรื่องประกวดเดือนไรนั่น ผมไม่อนุญาตให้แฟนผมเข้าประกวดนะคร้าบ เพราะเดี๋ยวจะมีปัญหากับต้นสังกัดเรื่องสัญญา”
นนพูดจบก็หันไปยกมือไหว้รอบตัวพร้อมรอยยิ้มกระชากใจ เรียกได้ว่าเพิ่มความนิยมของไอ้ตัวดีจากบรรดาพี่สาวทั้งหลายอีกมาก วัดได้จากเสียงกรีดร้องถูกใจที่ดังขึ้น ก่อนนนจะหันมาดันหลังผมที่กำลังมึนงงกับคำพูดเจ้าตัว ให้ออกมาจากความวุ่นวาย ต้นสังกัดและสัญญาที่นนพูดคืออะไร ซึ่งผมก็ได้คำตอบ เมื่อเราเข้ามานั่งในรถกันเรียบร้อยแล้ว
“นนก็พูดไปงั้นแหละ พูดให้มันดูเป็นเรื่องใหญ่เข้าไว้ พี่ๆพวกนั้นจะได้ไม่ต้องมาคะยั้นคะยอทำให้เบสลำบากใจอีก” ไอ้คนเจ้าเล่ห์หันมายักคิ้วใส่ผมอย่างกวน แต่ก็อดยอมรับในความคิดนี้ไม่ได้ ถือว่าเป็นการบอกปัดที่นิ่มนวลที่สุดแม้จะเป็นการโกหกก็ตาม
“หึ! เจ้าเล่ห์นักนะครับนน เบสชักกังวลแล้วสิ...” ผมทิ้งคำพูดไว้และแกล้งจ้องนนอย่างเคลือบแคลง เพื่อให้ไอ้ดำตูดหมึกมันเกิดความสงสัย
จนนนค่อยๆหุบยิ้มลงก่อนมีทีท่าร้อนรนแกมหวาดระแวง พร้อมถามผมอย่างไม่เต็มเสียงนักว่าผมกังวลเรื่องอะไร ทำเอาผมเกือบหลุดขำในอาการร้อนตัวของไอ้ดำตูดหมึก
“เบสหวังว่านนคงไม่ใช้ไอ้นิสัยเจ้าเล่ห์พวกนี้ มาหลอกลวงให้เบสตายใจหรอกนะ รู้ใช่มั้ยครับว่าถ้าคิดจะโกหกหรือปิดบัง นนจะต้องเจอกับอะไร” อาการหลบตาของนนทำผมสะกิดใจ
ผมไม่คิดว่าจะเจอกับปฏิกิริยาแบบนี้ หากนนไม่มีความผิดติดตัวอย่างที่ผมพูด คนอย่างไอ้ดำตูดหมึกต้องทำหน้าทะเล้นและอ้อนใส่ผมแล้วล่ะ
หลังจากนั้นนนมันเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะหันมาตียิ้มระรื่นใส่ตาผม แต่มันดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย ผมว่างานนี้ไอ้ตัวดีนี่ต้องมีเรื่องอะไรปิดบังผมสักเรื่องแล้วล่ะ แต่จะเป็นเรื่องอะไร ผมคงต้องสืบจากสายข่าวของผมที่อยู่ในโรงเรียน อย่างเด็กบิวที่กลายมาน้องชายนอกไส้ของผมดูซะแล้ว ผมจึงไม่คิดจะเซ้าซี้ถามเอาความกับไอ้ตัวดี และยอมเออออตอบคำถามที่นนส่งมาให้ยามนี้ไปก่อน
แต่ผมหวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น จนกระทบถึงความสัมพันธ์ของเราหรอกนะครับ เพราะไม่ใช่แค่นนหรอกที่แอบหวั่นไหวกับระยะห่างระหว่างเรา ซึ่งผมเองยอมรับว่าก็มีบ้าง แต่เพราะพฤติกรรมเอาใจใส่ผมอย่างเสมอต้นเสมอปลายของนน ทำให้ผมมั่นใจในตัวมันอยู่ไม่น้อย แต่พอได้เห็นอาการหลบตาในวันนี้แล้ว ผมชักไม่สบายใจแล้วสิ มันต้องมีอะไรปิดบังผมอยู่อย่างแน่นอน
ไม่เช่นนั้นคนที่มีนิสัยเปิดเผยโผงผางอย่างชนนน จะไม่มีทางทำตัวมีพิรุธแบบนี้แน่ ไอ้ดำตูดหมึกมีเสน่ห์น้อยซะที่ไหนกัน โดยเฉพาะรอยยิ้มจริงใจที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของนน อาจจะชักนำความยุ่งยากเข้ามาก็ได้
“...ครับ ขอบใจบิวมากที่ยอมผิดคำพูด และยอมบอกพี่...ครับ แต่ยังไงบิวอย่าเพิ่งบอกนนนะ ว่าพี่รู้เรื่องแล้ว...แค่นี้นะครับ แล้วเจอกัน” หลังจากได้คุยกับสายสืบประจำตัว ยอมรับเลยว่าผมโล่งใจ แม้ไอ้ตัวดีจะมีเรื่องปิดบังผมอยู่ตามที่เดาไว้แต่แรกก็ตาม
ส่วนเรื่องที่นนปิดบังไว้ มันไม่ได้เลวร้ายไปอย่างที่ผมกังวล อย่างการที่ไอ้ดำตูดหมึกแอบมีกิ๊ก หรือแอบนอกใจผมไปมีคนอื่นอะไรแบบนั้น แต่กลับเป็นเรื่องที่สร้างความน่าเอ็นดู ในตัวคนรักร่างถึกให้แก่ผมมากยิ่งขึ้นมากกว่า อย่างการที่นนพยายามทำเซอร์ไพรส์วันเกิดของผมในอีกสามวันที่จะถึงนี้ ด้วยการหัดเล่นกีต้าร์โดยมีคทาชายนายแหนมเป็นอาจารย์ให้ เพื่อจะมาเล่นกีต้าร์และร้องเพลงเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ผม ผมจึงไม่ผิดหวังที่เลือกโทรหาบิว เพราะได้รู้ความจริงแบบไม่ต้องเสียเวลา
รายนั้นเองก็ต้องผิดคำพูดที่ให้ไว้กับแฟนตัวเอง ว่าจะไม่แพร่งพรายความลับนี้แก่ผม แต่จะโทษน้องมันก็ไม่ได้เพราะผมนั้นกดดันให้น้องบิวคายความลับนี้ออกมาเองแหละ เพราะแค่ได้ยินเสียงอึกอักส่อพิรุธของบิวหลังจากที่ผมถามเรื่องนนนั้น ผมก็รู้แล้วว่าบิวต้องรู้อะไรดีๆอย่างแน่นอน
หากให้ผมหาเหตุผลว่าทำไมนนถึงคิดจะหัดเล่นกีต้าร์มาทำเซอร์ไพรส์ผม แทนที่จะไปสรรหาของขวัญอย่างอื่นมาให้ ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่มีพื้นฐานเรื่องนี้สักนิด ถ้าให้ผมเดาสาเหตุคงมาจากเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ที่นนมาส่งผมที่มหาวิทยาลัย และเจอพี่นิคกำลังเล่นกีต้าร์ง้อพี่นุ่นอยู่ท่ามกลางพี่น้องร่วมคณะ เรื่องมันคงจะไม่มีอะไร หากผมจะไม่หลุดปากชมว่าพี่นิคเล่นกีต้าร์เก่งและร้องเพลงเพราะ
ผมจำได้ว่าตอนนั้นไอ้ดำตูดหมึกเงียบไปเลย และมองพี่นิคเขม็งอย่างใช้ความคิด ก่อนหันมาจ้องผมอย่างค้นหาอยู่นาน สุดท้ายก็ถามผมว่าผมชอบคนเล่นกีต้าร์เป็นเหรอ ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรจึงเออออตอบรับไป ก่อนจะรีบปลีกตัวเข้าเรียน เพราะนนเองก็ต้องขับรถไปเรียนเหมือนกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกเลย
คิดมาถึงตรงนี้ผมอดที่จะยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูวิธีคิดของไอ้ดำตูดหมึกไม่ได้ ‘ชนนนนี่โตแต่ตัวจริงๆ’ ไอ้เด็กโข่งคงคิดเพียงแค่ว่า ไม่อยากให้ผมสนใจใครหรือเห็นใครดีไปนอกจากตัวมันน่ะครับ ถึงพยายามทำทุกวิถีทางเพียงแค่รู้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผมชอบ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน ไอ้ดำตูดหมึกยังคงมีความกระตือรือร้นหา เรื่องให้ตัวเองเป็นที่สนใจสำหรับผมเสมอ ผมจึงเชื่อว่าทั้งสายตาและความคิดของนน ไม่เคยให้ความสนใจใครนอกจากผมคนนี้ และเพราะว่านนเป็นชนนนอยู่แบบนี้นี่แหละ ถึงทำให้ผมรักมันเต็มหัวใจ แต่จะว่าไปมันคนละเรื่องกับการที่ไอ้ตัวดี มันบังอาจมีความลับต่อผมนี่ครับ แบบนี้ต้องมีบทลงโทษสักหน่อยแล้วว่ามั้ย ฮึๆ
“เบส~ มานั่งทำไรตรงนี้ นนเดินหาซะทั่วบ้าน” มาแล้วครับไอ้เด็กโข่งของผม เสียงนี่อ้อนมาเชียว นี่ขนาดผมหลบมันมาคุยโทรศัพท์ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีเลยนะ อะไรจะติดผมขนาดนั้น
นนเดินฉีกยิ้มกว้างเข้าหาผม มาถึงได้ก็นั่งซ้อนหลังและคว้าเอวผมดึงเข้าหาตัว ก่อนจะวางคางเกยไหล่ แถมยังดึงมือผมข้างที่ถือโทรศัพท์ไปคลึงเล่น แต่ผมรู้จุดประสงค์ไอ้ตัวดีมันหรอกว่ามันคงอยากรู้ว่าผมคุยกับใคร และผิดซะที่ไหนเพราะพอโทรศัพท์ผมตกอยู่ในมือมันเท่านั้น นนก็กดดูประวัติโทรออกทันที และพอเห็นว่าเป็นชื่อเด็กบิว มันก็ถอนใจเบาๆออกมา ก่อนจะชะงักเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ มีเหลือบตาขึ้นมองผม แต่พอเห็นว่าผมมองอยู่ ไอ้ตัวดีก็แสร้งฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะยื่นหน้าใช้ริมฝีปากแตะเข้าที่ข้างแก้มผมเร็วๆ ส่อพิรุธชัดๆ
ผมจึงแกล้งหรี่ตามองอย่างจับผิด แต่ไอ้ตัวดีไม่มีสลดยังมีหน้ามาทำตาใสใส่ผมอีก จนผมเกือบหลุดยิ้มออกไปนั่นแหละ ดีที่เมินหนีสายตาแพรวพราวคู่นี้ได้ทัน
“เบสคุยอะไรกับบิวเหรอ” ผมกระตุกยิ้มทันทีที่ได้ยินคำถามนี้
“ก็เรื่องทั่วไป ทำไม...นนมีอะไรปิดบังเบสรึเปล่า ถึงดู...” สุดท้ายผมก็เลือกที่จะแกล้งไซโคไอ้เด็กโข่งเล่น จากการตอบคำถามด้วยเสียงนิ่งๆ และทิ้งประโยคที่พูดไว้ไม่ต่อให้จบ ก่อนจะหันไปจ้องตานนอย่างค้นหา
นนถึงกลับสะดุ้งมีเบิกตาโต ก่อนจะโบกไม้โบกมือปฏิเสธผมเสียงหลง นี่ดีนะที่ผมรู้ความจริงแล้ว ไม่เช่นนั้นไอ้เจ้าของท่าทีส่อพิรุธคนนี้ มันคงโดนผมโกรธอย่างแน่นอน และเพราะผมรู้ถึงความตั้งใจดีที่จะเซอร์ไพรส์ผมนี่แหละ ผมจึงเลือกที่จะแค่แกล้งขู่เด็กโข่งที่แสนน่าเอ็นดูของผมเท่านั้น
“ไม่มี้ ไม่มีครับ...นนไม่กล้าปิดบังเบสหรอก เนอะ...เบสอ่ะ” ท้ายประโยคนี่เสียงอ่อยหน้าหงอยผิดตาเลยครับ แถมยังหลบตาผม ก่อนทำเนียนซบหน้าลงกับไหล่และเรียกผมด้วยเสียงอ้อนๆอีกแน่ะ คิดว่าทำแล้วน่ารักรึยังไงกัน ฮึๆ
“ไม่มีก็ไม่มี ไปเถอะไปช่วยเบสปิดบ้าน พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย...อ้อ! ไม่ต้องไปส่งเลยนะ เดี๋ยวไปเอง” พูดจบผมก็ปลดมือกาวออกจากเอว และเดินไล่ปิดหน้าต่างปิดไฟ
“เบสอ่ะ ขัดใจนนอยู่เรื่อย งั้นเบสเอารถไป แค่แวะส่งนนที่โรงเรียนก็พอ เรื่องนี้อย่าขัดใจนนเลยนะ นนไม่อยากให้เบสไปเบียดกับใครบนรถเมล์อ่ะ มหา’ลัยไกลก็ไกลกว่าจะถึงอีกล่ะ...แต่ตอนเย็นพี่เบสต้องมารับน้องนนด้วยนะคร้าบ” ผมไม่อยากจะเถียงไอ้คนเอาแต่ใจ จึงเลือกที่จะเงียบเดี๋ยวจะไม่จบ และรอฟังเด็กโข่งมันบ่นงุ้งงิ้งปนอ้อนไปตามเรื่อง แต่ในความช่างจ้อกลับทำให้ผมยิ้มได้ ในเมื่อทุกคำมันสื่อถึงความห่วงใยที่ไอ้ดำตูดหมึกมีให้แก่ผม
จนเราเข้ามาให้ห้องนอนผมแล้วนั่นแหละ ไอ้ตัวดีก็พูดจบพอดี ผมจึงรีบตัดบทด้วยการหนีเข้าห้องน้ำ แต่ระหว่างที่ผมถอดเสื้อผ้า ผมก็คิดบทลงโทษไอ้คนที่ริอาจมีความลับกับผมได้ แม้จะเป็นความลับที่สร้างสรรค์อย่างการทำเซอร์ไพรส์ผมก็เถอะ ซึ่งบทลงโทษที่ผมคิดออก ไม่ใช่การลงไม้ลงมือหรือแกล้งกดดันให้อีกคนรู้สึกผิดเหมือนที่เคยทำหรอก ซึ่งวิธีนี้ออกจะเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผมไม่น้อย แต่น่าจะสร้างความทรงจำและเป็นบทเรียนแก่ไอ้ดำตูดหมึกได้เป็นอย่างดี ว่าอย่าได้คิดจะปิดบังอะไรผมอีก
อารมณ์กล้าบ้าบิ่นทำให้ผมเดินไปปลดล็อกและแง้มประตูห้องน้ำไว้ จนได้ยินเสียงเพลงที่นนเปิดเบาๆลอยเข้ามา ก่อนที่ผมจะเดินไปเปิดน้ำจากฝักบัว และพยายามเงี่ยหูฟังเสียงนอกห้องน้ำไปด้วย พร้อมๆกับหมุนก๊อกน้ำให้แรงขึ้นให้เสียงน้ำกระทบกับกระเบื้อง หวังเรียกร้องความสนใจของคนที่อยู่ในห้องนอน และผมก็สมหวังเมื่อเสียงเพลงที่เคยดังค่อยๆลดระดับความดังลง ก่อนจะได้ยินเสียงดังกุกกักและเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนหยุดที่หน้าประตูห้องน้ำ ผมจึงเทสบู่เหลวลงฝ่ามือก่อนจะเริ่มสัมผัสตัวเอง ด้วยการลูบฝ่ามือไปทั่วแขน ลำคอ ก่อนจะลามมาที่แผ่นอก
ผมรู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจับจ้องมา จนชักอยากจะยกเลิกแผนบ้าๆที่ตัวเองคิดขึ้น แม้สมองจะคิดแบบนั้น แต่ร่างกายที่ไม่ได้ปลดปล่อยมาร่วมสัปดาห์กลับทรยศ บวกกับภาพในหัวที่จินตนาการถึงสายตาหลงใหลของไอ้ตัวดีที่อยู่นอกห้องมันใช้มองผม ยามที่เราหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเข้าไปอีก ทำให้ส่วนที่ไวต่อความรู้สึกในร่างกายผมมันตื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องอาศัยความพยายามมากนัก
“อ่าๆ ซี้ดดด อืมมม....อึก อ๊าๆๆๆ” ไม่นานทุกอย่างก็พังทลายคามือ ผมแทบเข่าอ่อนจนต้องอาศัยผนังเย็นๆพิงกายไว้
ท่ามกลางสายน้ำเย็นและผิวกายที่ซาบซ่านอาบไร้ไปด้วยความสุข ผมแอบเห็นดวงตาแวววาวที่ซอกหลืบของประตู ทำให้ผมได้สติว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่อดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกเขินต่อสายตาคู่นั้น แผนดำเนินมาเกือบถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ผมจะมามัวอายจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ไม่ได้ จึงแกล้งหมุนตัวเข้าหาฝักบัวและล้างตัวอย่างเชื่องช้า ทั้งๆที่ตัวกำลังสั่นน้อยๆ ระหว่างที่ผมหันหลังอยู่นั้น ผมรู้เลยว่าดวงตาคู่คมที่มีอิทธิพลกับผม ทั้งร่างกายและจิตใจยังคงจ้องมายังผมไม่วางตา
“หืม!?...จะอาบต่อใช่มั้ยครับ เบสเสร็จแล้ว นนอาบได้เลย” ผมแสร้งทำสีหน้าประหลาดใจ ยามเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วพบว่า นนยืนหน้าแดงก่ำจ้องผมตาไม่กระพริบ ก่อนนนจะใช้สายตาแวววาวกวาดไปทั่วแผ่นอกเปลือยเปล่าของผมที่มีหยดน้ำเกาะพราว
ผมจึงแกล้งเปรยออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะเดินเลี่ยงร่างหนาออกมาด้านข้าง เพื่อเปิดทางให้นนใช้ห้องน้ำตามที่พูดไป แต่รู้แหละครับว่านาทีนี้ไอ้หมาป่าจอมหื่นมันคงไม่มีแก่ใจอาบน้ำแล้วล่ะ ยืนยันได้จากเป้าตุงๆที่ผมแอบเห็นชั่วแวบนั่นไง ผมเริ่มตื่นเต้นไปกับบทลงโทษที่ตัวเองคิดขึ้นแล้วสิ อีกนิดเดียวเท่านั้นหมาป่าจอมหื่นจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน
“เบส~ เบสกำลังยั่วนนอยู่รึเปล่า” ไม่ได้มาแค่คำถามนะครับ แต่มันมาพร้อมสัมผัสบางเบาของลมหายใจอุ่นที่หลังคอ พาให้ขนอ่อนๆทั่วกายของผมแข่งกันลุกเชียวล่ะ
ผมสบตากับนนผ่านทางกระจกของตู้เสื้อผ้า ด้วยก่อนหน้าผมทำทีเป็นหาชุดนอนในตู้ ทั้งๆที่ปกติผมจะเปลี่ยนชุดในห้องน้ำเลย ซึ่งไอ้ตัวดีคงรับรู้ถึงความผิดปกตินี้ จึงได้ส่งคำถามแทงใจมาแบบนั้น ผมจึงค่อยๆยกยิ้มใส่ตาแพรวพราว ทำเอาดวงตาคู่ที่กำลังสะท้อนอยู่ในกระจก ค่อยๆทอประกายเจิดจ้าเต็มไปด้วยความหวังและความต้องการ
“สุดหล่อของนน~” เสียงแผ่วหวิวดังขึ้นชิดริมใบหูของผม ก่อนจมูกโด่งจะฝังลงที่ซอกคอ พร้อมมืออุ่นที่วางลงเข้าที่ข้างเอวผมอย่างนุ่มนวล
นนดึงตัวผมจนแผ่นหลังแนบไปกับแผ่นอกแน่นสนิท และสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนดุนดันเข้ามาที่สะโพก จนผมเผลอกลืนน้ำลายช้าๆ และเริ่มหวั่นไหวไปกับการปลุกเร้าของหมาป่าจอมหื่น ด้วยปลายจมูกและลิ้นชื้นที่ละเลียดสัมผัสผิวกายผม จากลาดไหล่ขึ้นมาที่ลำคอ จนผมเผลอไผลที่จะเอียงคอเปิดทางรับสัมผัสสยิว ไหนจะฝ่ามืออุ่นที่ลูบวนอยู่แถวหน้าท้อง ทำท่าจะปลดปมผ้าเช็ดตัวด้านหน้าอยู่รอมร่อ งานนี้ไม่รู้จะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเอง แทนการยื่นบทลงโทษให้ไอ้ดำตูดหมึกรึเปล่านี่สิ
“เบส ได้มั้ย...ขอนนรักเบสได้มั้ยครับ” สายตาออดอ้อนวาวหวานที่สะท้อนผ่านกระจก พร้อมเสียงนุ่มเบาหวิวที่ข้างหู แถมด้วยสัมผัสอ่อนโยนที่ข้างแก้ม ซึ่งมาจากเจ้าของกิริยานุ่มนวลวอนขอที่ไม่คิดจะหักหาญน้ำใจของผม และทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นคนๆเดียวกับคนที่ผมรักด้วยแล้ว ลองเดาสิว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
“...อึก นน~ ระ เร็วอีก ใช่ ซี้ดดด เบสจะไม่ไหวแล้ว อ่าๆๆๆ” สมองผมขาวโพลนและพรั่งพรูความอุ่นร้อนออกมาท่วมท้นหลังมือคร้ามแดด แม้จะเหนื่อยอ่อนแต่ผมก็รับรู้ถึงแรงกระแทกที่ถาโถมเข้าใส่ และฝ่ามือหนาที่กอบกุมสะโพกผมอย่างแน่นหนาที่ด้านหลัง
“ซี้ดดด สุดหล่อ สุดหล่อของนน อ๊าๆๆๆ” เสียงครางกระหึ่มสุดท้ายมาพร้อมสายธารรักอุ่นร้อนที่ฉีดเข้าร่างผมอย่างแรง ก่อนร่างหนาจะฟุบตามลงมากอดก่ายตัวผม
ผมคงไม่ต้องบอกแล้วนะครับ ว่าผลของการหยิบยื่นบทลงโทษให้ไอ้หมาป่าจอมหื่นออกมาเป็นเช่นไร ผมไม่น่าคิดอะไรพิเรนทร์เกินกำลังของตัวเองเลย ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องมานอนหมดแรง เพราะทอดกายให้ไอ้ดำตูดหมึกมันชื่นชมอยู่แบบนี้ แทนที่จะได้สะใจไปกับอาการทุรนทุรายกระหายอยากแต่ทำอะไรไม่ได้ของนน แต่คิดได้ตอนนี้ก็สายไปซะแล้ว และหากจะโทษก็คงต้องโทษตัวเองนี่แหละ ที่ใจอ่อนไปกับสายตาออดอ้อนเว้าวอนของคนที่ตัวเองรัก
“เบสจะทำให้นนหลงไปถึงไหนกัน หืม แต่นนชอบนะ ครึๆ...รักนะครับ สุดหล่อของนน”
เอาน่ะ อย่างน้อยการกระทำน่าอายในคืนนี้ก็ทำให้ไอ้ดำตูดหมึกมันหลงผมจนโง่หัวไม่ขึ้น และถือเป็นการตอบแทนล่วงหน้าในความเอาใจใส่ความตั้งใจจริง ที่นนจะมอบของขวัญเซอร์ไพร์สวันเกิดผมล่ะน้า
.............................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะได้แต่ปิดปากหัวเราะสุดหล่อจะเรียกว่าสมน้ำหน้าก็ได้

วิธีเอาคืนไอ้ดำตูดหมึกมีตั้งมากมาย แต่เลือกใช้การยั่วยวนแบบนั้น
ลูกแกะไม่โดนหมาป่าจับกินก็แปลกล่ะ เอ๊ะ! หรือว่าเบสตั้งใจกันแน่

ตอนหน้าอย่าลืมมาอวยพรวันเกิดให้สุดหล่อกันนะคะ
และตามดูด้วยว่าที่นนอุตส่าลงทุนลงแรงเตรียมของขวัญเซอร์ไพร์ส
ให้เมียรักจะประทับใจเพียงใด เจอกันวันพุธค่ะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตาม
mooping-7 มาแต่เช้าเลยน้า
