♠คำประกาศของความรู้สึกใหม่♠ - แจ้งข่าวรีปรินท์หน้า 64 ค่า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♠คำประกาศของความรู้สึกใหม่♠ - แจ้งข่าวรีปรินท์หน้า 64 ค่า  (อ่าน 784027 ครั้ง)

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อินทรีใจร้ายมากเลย
(รู้ว่าพี่ยูผิดยังจะเข้าข้าง  :hao5:)

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ยูครับ
เรื่องนี้ยูผิดเต็มประตูเลยนะครับ  !!!
 
โถ่ น้องอินนนนอย่าร้องนะ โอ๋ๆ  ( แม่ยก หัวใจสลาย )

ออฟไลน์ evz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ตอนนี้สงสารอินทรี จะร้องไห้ตามมม :hao5:
ครั้งนี้พี่ยูใจร้ายจริงๆ อนุญาตให้อินทรีโกรธได้
พี่ยูสับสนได้ แต่พี่ไม่ควรทำแบบนี้ :o12:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ถ้าพี่บิวจะทำร้ายกันแบบนี้  :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้ก็บอกได้เลยว่าเจ็บแทนทั้งคู่
แต่สงสารอินมากกว่านิดนึง
เพราะการสับสนของยูเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้ปะ

ออฟไลน์ jbook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 o13  ขอบคุณที่ทำให้เกิดผลงานดีๆเรื่องนี้นะคะ
^___^ยิ่งอ่านยิ่งชอบยิ่งชวนติดตาม เป็นกำลังใจให้นะคะ>< ตอนนี้ปักหลักรออ่านตอนถัดไปค่ะ =////=

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
โธ่ยูมันก็สับสนไปตามประสาล่ะวะ อย่าโกรธนานนักนะ
(แต่ก็น่าโกรธจริงๆแหละ)

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
อ่านตอนนี้แล้วอยากร้องไห้อะ สงสารพี่ยูก็สงสาร แต่สงสารน้องอินมาก ๆๆๆ อะ  :monkeysad:
จะแก้ตัวยังไงก็คงฟังไม่ขึ้น แค่ห่างสายตาน้องอินแป๊บเดียวก็เกิดเหตุซะแล้ว
ไม่อยากจะโทษว่าเพราะคำพูดของอั้ม แต่เพราะความไม่มั่นใจในตัวน้องอินของพี่ยูมากกว่า
แล้วคราวนี้ขนาดพี่ยูบอกขอโทษตั้งหลายครั้งน้องอินยังโกรธมากอยู่เลย
แบบนี้พี่ยูจะทำยังไงให้น้องอินรู้สึกดีขึ้น และให้อภัยล่ะ โกรธกันครั้งนี้ดูเรื่องใหญ่ซะด้วย
ขอแค่มาม่าหมูสับพอกรุบกริบได้ไหมค่ะ อย่าเศร้ากว่านี้อีกเลย
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปค๊า  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ง้ออินด่วนเลยนะพี่ยู  :beat: :beat: :beat: :beat:

ทำกับอินของเราอย่างนี้ได้เยี่ยงไร ??
อินร้องไห้เลย  :hao5:

ปล ถ้าตอนหน้าง้อไม่สำเร็จจะเอาพี่ยูออกจากนายเอกของดวงใจ 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nightsza

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว นึกว่าจะเคลียร์กันได้ ยูทำงี้ ถึงเราไม่ได้เป็นอินเราก็เสียใจนะ

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
โล่งใจ ที่ไม่ได้ดราม่าเรื่องนัท -.-

แต่พี่ยูทำอินร้องไห้!!!

ก็สมควร เจ๊ากันไปนะ ที่ทำพี่ยูคลางแคลงใจนะ (เช๊อะ!)

เดี๋ยวตอนหน้าก็ง้อ กลับมาคืนดีกัน เป็นแฟนกันอะดิ อย่าเพิ่งๆ เดี๋ยวจบเร็ว ขอแบบตามง้อซัก3ตอน ตกลงบนล่างอีก5ตอน (เพราะเหมือนถ้าได้กันปุ๊บเรื่องจะจบเลยทันที) ฮ่าๆๆ

ปล. 'โดนตบกลางสี่แยกไฟแดง' รู้สึกยังไง? มันต่างจากสามแยกมั้ย? โดนเด็กขายพวงมาลัยตบเอาเร๊อะ!

ออฟไลน์ riangkarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านมาเรื่อยๆตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนล่าสุด
กดเข้ามาอ่านเล่นๆไม่คิดเลยค่ะว่าจะสนุกจนกระทั่งหยุดอ่านไม่ได้ขนาดนี้
มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ได้เม้นสักทีน้ำตาจะไหลเพิ่งจำยูสเซอร์ได้  :mew4:
เรื่องสนุกมากเลยค่าาา อิอิ
เรื่องของอินกับยูนี่เป็นอะไรที่ลุ้นดี ค่อยเป็นค่อยไปไม่ตกลงใจเร็วๆ
ยูจังอยู่ในช่วงสับสนก็สงสารอินมันมั่งนะ  :hao7:

:pig4:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
17 Never let him go




สาม หรือสี่สัปดาห์แล้วนะที่ไม่ได้คุยกันเลย ขี้เกียจจะนับ ไม่รู้นับทำไม ยังไงอินทรีก็ไม่ได้กลับมาอยู่ดี

ผมเดินอยู่ในร้านของวัสดุที่ต้องใช้สำหรับทำโมเดลส่งอาจารย์ ที่จริงของพวกนี้ก็มีอยู่แล้วแต่ยังขาดนิดหน่อยเลยมาซื้อไว้ตุนกับไอ้พีท ตอนแรกออกจากมอมากันหลายคนแต่ไอ้อั้มกับคนอื่นแยกกันไปหลังกินข้าวเสร็จ มีก็แต่รุ่นน้องที่ไม่มีที่ไปเหมือนกันมาเดินเป็นเพื่อน เย็นนี้นัดกันไปทำที่สตูของคณะไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องเหมือนวันอื่น ๆ

ผมถอนหายใจ ยืนมองกรรไกรเหม่อ ๆ อันที่ใช้อยู่แม่งใครเอาไปตัดเทปกาวไม่รู้เหนียวหนึบเลย ซื้อใหม่ไปสักอันดีไหมนะ...


“ไหวปะวะพี่ยู”

เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้น มันตบบ่าผมด้วยความเคารพก่อนหยิบกรรไกรที่ถูกจ้องลงตะกร้าแล้วถอนหายใจยาวเหยียดเหมือนญาติใกล้เสีย “ยังไม่เคลียร์กันอีกเหรอ”

“เคลียร์อะไร”

“เรื่องวันนั้นน่ะ ที่จริงผมก็พอรู้อยู่ ไอ้มาร์ชเดินหัวเสียออกมาจากห้องน้ำ”

ผมจำชื่อมันได้ จำหน้าได้ด้วย แต่ไม่ได้นึกโทษอะไรมัน ถึงมาร์ชจะเป็นฝ่ายเข้าหาก่อนแต่ผมก็ผิดว่ะ ไม่รู้จะไปโยนความผิดให้คนอื่นสบายใจไปทำไม


“ไม่รู้จะเคลียร์อะไร”

“เป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”

ผมแค่นหัวเราะ แฟนเหี้ยอะไรล่ะ เปล่าสักหน่อย... ยังไม่ได้ตกลงอะไรกันทั้งนั้น แค่จำได้ว่าวันนั้นไอ้อินมันพูดว่าอะไรออกมา

รักงั้นเหรอ...
ไม่ใช่คำที่จะมาพูดพล่อย ๆ นะเว่ย


“ช่างเหอะ มึงเอาอะไรอีกไหม”

“หนม” พีทตอบแบบไม่ต้องคิด ผมเลยเอาของใช้ไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ก่อนพามันเข้าซุปเปอร์มาเก็ต เดินเข็นรถตามรุ่นน้องเนือย ๆ แบบไร้วิญญาณ ผมมีแต่เรื่องอินทรีในหัว ไม่รู้จะจัดการยังไงได้


“ไปขอโทษมันเสียก็จบ”

พีทเปรยขึ้นลอย ๆ ผมปรายหางตามองมันแต่ก็ยังกลุ้มใจ ไม่จบเว้ย กูแทบจะทำบายศรีไปขอขมามันอยู่แล้วแต่ทางนั้นมันบอกว่าไม่พอ ความรู้สึกของอินไม่สามารถเยียวยาด้วยคำ ๆ เดียวได้ มาถึงตรงนี้ก็คิดไม่ตก น้ำหน้าอย่างผมจะไปทำอะไรได้นอกเสียจากสำนึกผิดกับตัวเองไปวัน ๆ

วันนั้นที่ทะเลาะผมก็อารมณ์ขึ้นด้วย ไม่รู้ว่าเพราะหงุดหงิดจากที่คุยกับไอ้อั้มเมื่อตอนหัวค่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วหรือเปล่า แต่แย่ว่ะ บอกตรง ๆ เลย ไม่มีคำไหนนิยามได้นอกจากคำนี้แล้วจริง  ๆ


“มันน่าจะใจเย็นลงแล้วล่ะวันนี้ ผมว่าพี่ไปง้อใหม่เหอะ ไอ้อินก็คงไม่สบายใจเหมือนกันนั่นแหละ”

“มันเกลียดกูแล้วมั้ง”

“ถ้าคนรักกันมันเกลียดกันง่าย ๆ โลกนี้คงไม่มีคนอกหักแล้วว่ะพี่”

ผมถอนหายใจยาวแข่งกับไอ้พีทในทีแรก เดินช่วยมันเลือกขนมเป็นเสบียงตุนไปถึงพรุ่งนี้เช้า “ไว้จะลองใหม่ก็แล้วกัน”

 




BMW ทะเบียน 9898 โดดเด่นเสมอโดยเฉพาะในช่วงค่ำที่นักศึกษาส่วนใหญ่กลับบ้านไปแล้ว ผมออกมาเซเว่นคนเดียว ถือใบฝากซื้อของยาวเป็นหางว่าว พกมาแต่กระเป๋าตังค์ ไม่มีมือถือมาด้วย ของพวกนั้นวางไว้เถอะครับไม่หายหรอก แต่ถ้าเป็นดินสอสเกตซ์ล่ะก็เผลอเป็นโดนกวาดเรียบ ผมสงสัยมานานแล้วว่าใครมันชอบเอาไป เรียนตั้งแต่ปี 1 ยัน ปี 5 มีแต่คนโวยว่าดินสอ – ปากกาหาย ไม่เห็นใครพูดว่าเจอของคนอื่นกันเลยสักคน ถ้าจะถามว่าที่บ่น ๆ มามันเกี่ยวอะไรกับรถหรูคันคุ้นตาก็คงเป็นเพราะวันที่ผมอยู่ดึกเผางานโต้รุ่งแบบนี้ดันเจอมันถูกจอดทิ้งไว้ข้างเซเว่นของคณะเท่านั้นแหละ

โดยอัตโนมัติผมเผลอสอดส่องสายตาหาเจ้าของรถทันที แต่มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นวี่แวว สงสัยอยู่ติวสอบแล้วที่จอดแถวหอสมุดเต็มเลยมาแปะทิ้งไว้แถวนี้เฉย ๆ ตัวอาจจะไปอ่านหนังสือเตรียมสอบที่อื่น


“อ้าว พี่ยู ออกมาคนเดียวเหรอคะ”

ผมสะดุ้งเมื่อถูกเสียงเล็ก ๆ ทัก นักศึกษาปีสองยิ้มให้ผมตาปิด เด็กผู้หญิงตัวเท่าบ่าชื่อหงส์ เป็นหนึ่งในหลายคนที่นั่งโต๊ะเดียวกับมาร์ชเมื่อวันนั้น

“อืม หงส์มากับใครน่ะ”

“หงส์มารับมาร์ชน่ะ พอดีมันจะขอมาดูห้องสตูของถาปัตย์ เก็บข้อมูลไปทำหนังสั้นน่ะค่ะ”

ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนขอปลีกตัวออกมา แต่น้องหงส์เดินมาเกาะผมแจจนผมหันไปถาม  “แล้วเพื่อนเรายังไม่มาเหรอ”

“มาสักพักแล้วค่ะ หนีไปกินช้าวกับหนุ่มอยู่ อุ้ย...หงส์ขอโทษ”

“อืม ไม่เป็นไรหรอก พี่กับมาร์ชไม่ได้อะไรกัน” ผมตอบปัด ๆ แต่ใจยังระแวงถ้าขึ้นไปที่ห้องสตูแม่งก็ต้องเจอผมกับพวกไอ้พีทด้วยสิวะ ช่างแม่งเหอะ อยู่มุมใครมุมมันก็แล้วกัน

ผมไม่สนใจหงส์ต่อ เลือกซื้อขนมตามโพยที่ได้มา ส่วนมากก็ไม่พ้นเครื่องดื่มชูกำลังหรอก ส่วนน้ำแข็งที่สั่งกันเยอะ ๆ เนี่ยเดี๋ยวเอาใส่กระติกแช่ลิโพ นอกจากนี้ยังเป็นข้าวกล่อง ขนมปัง มีพลาสเตอร์ยาด้วย ดึก ๆ เหตุนองเลือดมันเยอะ คัตเตอร์บาดกันเป็นทิวแถว


“หงส์ อ้าว...พี่...”

เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ผมกับเจ้าของชื่อหันขวับกลับไป เด็กผู้ชายตัวเล็กในชุดสุภาพเหลือบมองผมกับเพื่อนแล้วหน้าซีดทันตาเห็น ส่วนหนุ่มที่หงส์อ้างว่าไปกินข้าวกับมาร์ชเดินตามกันมาหยุดอยู่ไม่ไกลกันนัก พอมันเห็นผมก็หมุนตัวเตรียมกลับไปที่รถทันที


 “เฮ้ย เดี๋ยว!”

ผมตะโกนเรียกอินทรีเอาไว้ซึ่งได้ผล ชายหนุ่มเอี้ยวตัวกลับมามองแล้วยืนนิ่ง มันไม่เดินมาหาแต่ก็ไม่ได้เดินหนี


“ช่วยถือตะกร้าหน่อย”

เชี่ยยูเอ๊ย... ทำห่าอะไรของมึงเนี่ย ง้อบ้านพ่อบ้านแม่ผมไม่ทำแบบนี้แน่ แต่จนปัญญาจะคิดทันจริง ๆ ใช้งานแม่งเลยแล้วกัน ผมยัดตะกร้าสีส้มของร้านสะดวกซื้อที่ของเต็มจนเกือบล้นใส่มือมัน อินทรีไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ยอมถือเอาไว้ขณะที่ผมไปหยิบตะกร้าใหม่


“อ่า... มาร์ชมาแล้ว งั้นเดี๋ยวหงส์พามาร์ชไปดูสตูก่อนดีกว่า จะได้กลับไม่ดึก เจอกันข้างบนนะคะพี่ยู”

เด็กสาวเพียงคนเดียวพูดกับผมให้ต้องพยักหน้าให้ส่ง ๆ แล้วเลือกหยิบของอื่น  ๆ ที่ยังไม่ครบใส่ตะกร้า เซเว่นตอนสองทุ่ม ไม่มีใครเลยนอกจากผม อินทรี และพนักงานคิดเงินแต่เรากลับไม่พูดอะไรกัน


“ไฟแช็กอันเท่าไรครับ”

“9 บาทค่ะ”

“คิดเงินรวมเลยครับ”

ประโยคแรกเป็นของอินทรี ส่วนประโยคท้ายเป็นของผมที่กวาดรวมไฟแช็กสีเขียวน้ำทะเลรวมกับของอื่น ๆ ไปด้วย พนักงานคิดเงินจัดการยัดทุกอย่างลงถุงเสร็จสรรพรวมแล้วได้สี่ถุงใหญ่จนผมแอบคิดว่าถ้ามาคนเดียวกลับไปแขนกูเดี้ยงแน่ งานเงินไม่ได้กันพอดี โชคดีแค่ไหนที่มีอินอยู่ด้วยมันเลยไปส่งให้ถึงหน้าตึก


 “ไม่ได้เจอกันนาน”

ระหว่างทางเดินที่มีเพียงไฟสีส้มจากหลอดริมถนนอินทรีเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน ผมถอนหายใจระบายความเครียดลงแล้วตอบมันด้วยคำถาม “อืม เป็นไงบ้าง”

“ก็ดี ใกล้สอบแล้ว”

“อยู่อ่านหนังสือเหรอ” ผมถาม แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้า “จะกลับแล้ว พอดีเจอไอ้นั่นเลยลากมันไปกินข้าวก่อน”

“แค่กินข้าว?”

อินทรีไม่ได้พยักหน้ารับ มันรวบถุงมาถือไว้มือเดียวแล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ที่จริงผมไม่เห็นมันสูบนานแล้ว ไม่รู้ว่าเลิกไปหรือแค่ไปสูบไกลหูไกลตาผมเฉย  ๆ

“แล้วก็เอามันไปเค้น เรื่องวันนั้น ที่จริงแปลกใจนิดหน่อยที่มันโผล่มาวอแวอะไรที่นี่ เห็นว่าเรียนมหา’ลัยอื่น”

ผมพยักหน้า แต่ก็ยังไม่มั่นใจ “...มึงไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้นใช่ไหม”

“อย่างเช่น?”

“เปล่า...” ผมเอ่ยเสียงเบา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า อากาศช่วงนี้เย็นลง แต่ยังมีฝนตกประปราย ดาวบนฟ้าเห็นชัดกว่าทุกฤดูกระนั้นก็ยังสังเกตได้ยากเพราะเป็นท้องฟ้าของเมืองหลวง ผมมองเหมือนมีอะไรน่าสนใจนักหนา ทั้งที่ความจริงแล้วในเวลานี้อยากมองหน้าอินมากกว่าเป็นไหน  ๆ


“กูขอโทษนะเว่ย...วันนั้น”

“ช่างมันเถอะ”

“เรา...” จะกลับมาคุยกันเหมือนเมื่อก่อนได้ไหมวะ?
ผมกลืนคำพูดพวกนั้นลงคอ กะพริบตาสองสามครั้งก่อนหันมายิ้มให้อิน ระยะทางระหว่างเซเว่นกับตึกคณะใกล้กันเกินไป ผมรู้สึกเหมือนยังไม่ได้คุยอะไรกับมันเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ไม่รู้เหมือนกันว่ายิ้มทำไม แต่มันคงเป็นยิ้มที่แห้งแล้งเต็มทน


“ถึงแล้ว ขึ้นไปเหอะ เดี๋ยวงานก็ไม่เสร็จ”

มันยื่นถุงพลาสติกในมือคืนให้ผม เรามองหน้ากันอยู่อย่างนั้นนาน ถึงผมจะถือของเอาไว้ทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังไม่ขยับไปไหน อินทรีนิ่งเงียบแบบนี้ ทำให้ผมหวั่นใจมากกว่ามันโวยวายเป็นเท่าตัว


“ผมไปละ”

“เดี๋ยว...”

เป็นครั้งที่สองของวันที่ผมรั้งอินไว้ ปลายคิ้วโก่งที่มักจะยกขึ้นกวนประสาทวันนี้มันลกขึ้นแทนคำถาม ของที่เพื่อนฝากซื้อพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือผมเลยแค่เดินเข้าไปให้ใกล้มันที่สุด ไม่มีมือข้างไหนว่างสำหรับกอดมัน ที่ทำได้ก็แค่วางหน้าผากซบลงบนไหล่ลาด กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดียวกันที่ผมฉีดมาเมื่อเช้าลอยขึ้นเด่นชัด อินทรียังคงเงียบอยู่ แต่โชคดีเหลือเกินแล้วที่มันไม่ได้ผลักไส

อันที่จริง... สำหรับในวันนี้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

“ฉีดน้ำหอมมาด้วยเหรอ”

ผมพยักหน้าทั้งที่ซบบ่ามันอยู่ทำให้เส้นผมถูไถกับเสื้อนักศึกษา อินทรียกมือขึ้นลูบหัวผมเบา ๆ แต่ไม่กอด มันอาจจะรู้ว่าผมโหยหาสัมผัสของมันแค่ไหนถึงได้ทำเพียงแค่นี้ราวกับจงใจจะขัดใจ


“คิดถึง”

ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่โรยแรงเต็มที มือที่ลูบหัวในทีแรกชะงักไป อินทรีทิ้งแขนลงข้างลำตัว นั่นคงหมายความว่าถึงเวลาแล้วที่ผมต้องกลับขึ้นไปทำงาน


“ขับรถดี ๆ ล่ะ”

“อืม.. ไว้เจอกัน”

 ผมยิ้มให้มันอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้รับรอยยิ้มตอบ หันหลังเดินจากมาแม้จะยังอยากอยู่ด้วยให้นานกว่านี้ ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ความรู้สึกของมันที่มีต่อผมหมดลงไปแล้วหรือยัง ถ้ายิ่งเซ้าซี้มันจะรำคาญมากแค่ไหน ผมไม่ใช่คนคิดมาก ไม่เคยเป็นคนวุ่นวายเวิ่นเว้อมากขนาดนี้ แต่อินทรีเป็นคนที่เข้ามาทำลายกฏของตัวเองลงทุกอย่าง



ประตูห้องสตูดิโอของภาควิชาสถาปัตยกรรมหลักเปิดออก อันที่จริงก็ไม่ใช่ของเมเจอร์ผมอย่างเดียวแต่ในช่วงที่งานเร่งแบบนี้ห้องเรียนที่ถูกใช้เป็นแหล่งกบดานจะถูกคุกคามโดยภาควิชานี้เป็นส่วนใหญ่ มีตั้งแต่ชั้นปี 1 ไปจนถึงปีแก่ พอเห็นผมถือถุงขนมเข้ามาก็ตาลุกวาวกันถ้วนหน้า


“เฮ้ย พี่ยู ไมไปเซเว่นไม่เรียกเลยวะ”

“พวกมึงเห็นในมือกูไหม ขนาดแอบไปแล้วยังต้องหิ้วมาขนาดนี้”

ผมหันไปบ่นเสียงเนือย แต่ไอ้พวกที่ตะโกนแซวกลับหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ห้องสตูนี้เต็มไปด้วยเศษกระดาษและโมเดลผุ ๆ โต๊ะสำหรับสเก๊ตซ์วางระเกะระกะและจะถูกเบียดไปรวมกันเมื่อนักศึกษาบางคนหมดแรง ต้องการพื้นที่สำหรับซุกตัวลงงีบบนพื้น
ผมเดินผ่านกลุ่มรุ่นน้อง มีมาร์ชนั่งอยู่ด้วยในนั้นแต่ไม่ได้คิดจะทักทายอะไรกัน ไอ้อั้มเห็นผมเดินมาก็ช่วยแบ่งถุงขนมมาถือเอง


“ได้ข่าวว่าเจอมัน”

“ข่าวไวเหี้ย  ๆ”

“น้องหงส์ขึ้นมาก็เมาท์แตก กูจะโทรไปถามก็เสือกทิ้งมือถือไว้นี่”

ผมพยักหน้า มองไอ้อั้มแจกจ่ายเสบียงให้คนอื่นแล้วมานั่งที่โต๊ะของตัวเองที่ตัดกระดาษคาไว้ “กูรู้สึกแย่ว่ะ”

“เอาน่า เดี๋ยวก็ดีขึ้น ทำงานให้ลืม ๆ ไปก่อน”

“งานกูคงเสร็จก่อนใครอะถ้างั้น”

ผมแค่นยิ้ม หยิบดินสอกับปากกาขึ้นมาควง “แย่ว่ะ โคตรแย่”

“แดกเหล้าปะ?”

“งานไม่เสร็จนี่ดิ”

ผมถอนหายใจยาว อยากจะร้องไห้เต็มแก่ ตุ๊ดเหี้ย ๆ เลยแต่มันเจียนจะทนไม่ไหวแล้วรอมร่อ ผมที่เคยรำคาญมันจะตาย ผมที่เคยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่อับอายในชีวิต แต่ในเวลานี้กลับเสียใจที่มันตีตัวออกห่าง


 “แม่งเข้ามาในชีวิตกู ทำกูป่วนไปหมด ไม่พอใจอะไรก็ทิ้งกันได้ง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอวะ มันคิดว่าตัวเองเป็นใคร”

อั้มส่ายหน้า มันยื่นขวดเครื่องดื่มชูกำลังเย็น ๆ ให้ผม เห็นแล้วนึกถึงกระทิงแดงอุ่น ๆ ของอินทรีชะมัด


“ไปร้องไห้ก่อนไหม”

ไอ้อั้มยังเป็นคนที่เข้าใจผมดีที่สุดตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ผมถอนหายใจออกมา เห็นบุหรี่ที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะอั้มแล้วฉวยมาถือไว้


“ทำเหี้ยอะไร ดูดเป็นเหรอไอ้สัด”

เจ้าของตบหน้าผากผมจนหงายแล้วยื้อกลับคืนไป มันโยนไปกองกับเศษกระดาษบนพื้นพลางส่ายหน้า “ดูดไม่เป็นแล้วอย่าสะเออะ เสียดายของ งานมีก็ทำไป ทนไม่ไหวก็ไปร้องไห้ในห้องน้ำ”

“กูไม่ร้องหรอก”

“แล้วมึงจะเอาไง” ไอ้อั้มกอดอกถาม ผมเม้มปากเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ไม่ใช่ง้อคนไม่เป็น แต่คนอย่างไอ้อินผมไม่รู้ว่าควรง้อยังไงต่างหาก เพื่อนสนิทหัวเราะขึ้นจมูก เดินมายีหัวผมแล้วยิ้ม

“เป็นเอามาก รู้ตัวไหม”
ผมถอนหายใจ ปัดมือมันออกจากหัว
ไม่ต้องย้ำไอ้เหี้ย ทำไมกูจะไม่รู้ตัว...

 



ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อที่ผมต้องมายืนหน้าคณะเศรษฐศาสตร์ด้วยความรู้สึกแบบนี้อีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปีเกือบจะถึงสองปีก่อนที่ผมถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่รอใครบางคนเลิกเรียน และหลังจากที่เห็นหน้านัทผมก็มือสั่นไปหมด แม้ความสัมพันธ์ของผมกับนัทในเวลานั้นจะเกินเลยกว่าจะมาเขินกันแล้ว แต่วันที่ตั้งใจจะขออีกฝ่ายคบอย่างเป็นทางการก็อดไม่ได้ที่จะประหม่า สายตานับสิบของคนรอบบริเวณนั้นที่มองมาไม่ได้ต่างจากเวลานี้ เพียงแต่ผมไม่ได้มาหานัท ไม่ได้มาขอไอ้อินเป็นแฟน และไม่ได้มีอะไรอยู่ในมือสักอย่าง


“พี่ยูมาหาใครคะ”

เด็กสาวหนึ่งในหลาย ๆ คนที่พอจะคุ้นหน้าอยู่บ้างเดินมาถาม ผมส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ เหลือบมองไปยังรถยุโรปทะเบียนคุ้นตาที่จอดหน้าตึกแทนคำตอบ ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะคิกคัก ก่อนพยักเพยิดไปด้านหลังที่กลุ่มไอ้อินนั่งอ่านหนังสือกันไม่เงยหน้าเงยตาสักคน


“ยังเคลียร์เรื่องนัทกันไม่จบเหรอคะ”

“อ่า...เปล่าครับ พอดีมีธุระอย่างอื่น”

ผมตอบอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้หญิงคนเดิมไม่ได้พูดอะไรต่อผมเลยเลี่ยงไปหาคนที่ตั้งใจมาเจอ เสียงคุยที่ล้งเล้งกันในทีแรกเงียบไปเมื่อหนึ่งในหลายคนของกลุ่มมันหันมาเห็นผมเสียก่อน


“พี่ยู หวัดดีครับ”

“อืม...” ผมตอบในลำคอ จ้องไอ้อินที่ใช้เวลานานเหลือเกินกว่าจะยอมละสายตาจากหนังสือขึ้นมามองผม

“มีธุระอะไร”

จี๊ดว่ะแม่ง คำพูดคำจา กูล่ะอยากเอาส้นตีนยันหน้า “ทำไมต้องมี มาหาเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ”

“เฮ้ย พี่ยู อย่ากวนมันเลย พักนี้มันอารมณ์ไม่ดี มีไรปะพี่ นั่ง ๆ มาหานัทเหรอ รอแป๊บนะมันไปขี้”

ผมส่ายหัว ไม่ได้หันไปคุยกับเพื่อนนัทที่เป็นเพื่อนอินด้วย ไอ้เวรนี่ชื่ออะไรผมยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ


“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย”

“พี่ยูคร้าบ ไปกับผมดีไหม อย่ายุ่งกับอินมันเลย จะเคลียร์อะไรกันเอาไว้นอกมหา’ลัยเหอะพี่ จะสอบแล้วเดี๋ยวได้โดนทัณฑ์บนกันหมด ผมเลี้ยงข้าวเลยก็ได้เอ้า”

ผมระบายลมหายใจออกมายาวเหยียดยังไม่ทันได้พูดอะไรไอ้คนพูดมากก็ลุกมาจับแขนผมไว้ ถูลู่ถูกังเดินออกมาจนอินทรีต้องเป็นฝ่ายปรามเพื่อนตัวเอง

“อย่าเสือก ไอ้หนุ่ม”

“เฮ้ย แต่...”

“เดี๋ยวกูมา” อินทรีพูดแล้วปิดหนังสือลงโดยมีกระดาษเอสี่คั่นเอาไว้ เพื่อนที่ชื่อหนุ่มของมันอ้าปากพะงาบ คงเข้าใจว่าผมกับอินทรีมีเรื่องกันอีก แหงล่ะครับ หน้าตาบุญไม่รับทั้งคู่เสียขนาดนี้ แต่ถ้าบอกว่ามางอนง้อกันอะไรทำนองนั้นคงเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับคนนอกเสียมากกว่า


“อย่ามีเรื่องกันนะโว้ยพรุ่งนีเช้าสอบ”

อินทรีพยักหน้าให้เพื่อนแล้วเดินล้วงกระเป๋านำมาที่รถ ผมเปิดประตูข้างคนขับเข้ามานั่ง ส่วนเจ้าของก็เข้าประจำที่ของมัน


“จะไปไหน”

“กินข้าว”

“นี่มาชวนผมไปกินข้าวจริง ๆ น่ะเหรอ”

ผมเงียบแทนคำตอบ กอดอกแล้วมองออกไปด้านนอก กลุ่มเพื่อนมันยังชะเง้อคอมองด้วยความเป็นห่วงไม่เลิก


“จะไปกินที่ไหน”

“แล้วแต่มึงเลย”

“ยูเป็นคนชวนผมนะเว้ย”

ประโยคหลังบ่งบอกอารมณ์ของคนพูดได้ดี ไอ้อินรำคาญที่จะต่อล้อต่อเถียง คงอยากรีบคุยให้มันจบ ๆ ไปมากกว่า
เพียงแต่ว่า.. ผมไม่ได้อยากจะจบกับมันสักหน่อย


“ร้านแถวนี้ก็ได้ ต้องกลับมาอ่านหนังสืออีกไม่ใช่เหรอ”

“ช่างแม่งเหอะ จะกินอะไรก็พูดมา อย่าทำตัวน่ารำคาญ แล้วทีหลังจะไปไหนก็โทร ไม่ต้องมาที่คณะ อยากเจอไอ้นัทมันนักหรือไง”

อยากเจอกับผีน่ะสิ มึงไม่รู้หรอกว่ากูทำใจขนาดไหนก่อนมาบุกรังเศรษฐศาสตร์ เจอนัทไม่ได้น่ากลัวเท่านัทถามว่าผมมาทำอะไรที่นี่ คิดว่าสนุกนักหรือไงกับการพูดอ้อมแอ้มว่ามาเพื่อที่จะเจอกับอดีตศัตรูหัวใจตัวฉกาจ

ผมถอนหายใจ ท้าวคางมองออกไปนอกรถ ไอ้อินขับออกจากมหาวิทยาลัยแล้วแต่ไม่ได้ไปไหนไกลนัก ก่อนแวะร้านอาหารตามสั่งที่ผู้คนไม่หนาตา


“กะเพราไก่ไม่เผ็ด ไข่ดาวมะตูมสอง”

อินทรีสั่งให้ผมเสร็จสรรพทันทีที่ถึงโต๊ะก่อนหันมาเปิดน้ำขวดเพราะไม่ยอมกินน้ำเติมจากเหยือกตามนิสัย


“มีอะไรจะพูดก็พูด”

“ไม่ได้มีอะไร ก็บอกไปแล้วว่ามาชวนไปกินข้าว”

“ยู อย่าเล่นลิ้น”

“มึงก็เลิกงอนเป็นสาว ๆ สักทีสิ” ไอ้อินเหลือบตาขึ้นมองผมแล้วยืดตัวนั่งพิงเก้าอี้ไม้

“นี่มาง้อเหรอ”

“ก็มึงบอกว่ารักกู”

“พี่ไม่จำเป็นต้องมาง้อคนที่บอกว่ารักพี่ทุกคนก็ได้นะ ลืมมันไปเหอะ เรื่องวันนั้น”

“แล้วมึงลืมเหมือนกูไหมล่ะ” ผมถามกลับทันที อินทรีแค่นหัวเราะแล้วหลบตา

“ยูพูดมาเลยดีกว่าว่าต้องการอะไรจากผม ไม่ชอบแบบนี้ อยากได้รับตัวเล็ก ๆ น่ารักผมก็ถอยให้แล้วไง เหนื่อยว่ะ ไม่รู้ว่าวิ่งตามอะไรอยู่”

“บทจะถอยมึงก็ถอยแบบนี้เลยน่ะเหรอ” ผมถามพลางจ้องหน้ามัน อินทรีเหลือบตาขึ้นสบผมนิดเดียวแล้วเบือนหนีไปทางอื่น


“อย่าทำเหมือนผมสำคัญนักได้ไหม ผมเอาใจยูไม่ถูก”

“ก็ไม่ต้องเอาใจ แค่ให้เหมือนเดิม กูผิด กูขอโทษ ทำยังไงให้มึงหายโกรธได้ แบบนี้กูไม่สบายใจเลยพูดตรง  ๆ”

ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวไม่สุกมาเสิร์ฟแล้ว อินทรีไม่ได้ตอบอะไร มีเพียงผมที่ยังเฝ้ารอว่าบทสนทนาของเราจะไม่สิ้นสุดลงแค่นั้น แต่จนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ยังไม่บอกว่าผมต้องทำยังไงมันถึงจะหายโกรธ

อินทรีเรียกเก็บเงิน เป็นมื้ออาหารที่สั้นที่สุดที่เราเคยกินด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่อึดอัดจนไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมาได้ยังไง ผมลุกเดินกลับไปที่รถ วางเงินค่าอาหารทิ้งไว้โดยออกส่วนของไอ้อินให้ด้วย อีกฝ่ายทำหน้าไม่พอใจ ยัดเงินคืนใส่มือผมลวก ๆ


“ไม่ต้องมาจ่ายให้”

“กูชวนมึงมา กูจะจ่ายให้ จะทำไม”

“เก็บเงินไว้เลี้ยงเด็กของยูเหอะ”

“มึงจะเอาจริง ๆ ใช่ไหม!”

ผมผลักอกมันจนถอยหลัง ไอ้อินมองผมด้วยแววตาดุดัน จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ชกกับมันไปนั่นเมื่อไร แต่ชะรอยแล้วจะได้มียกใหม่เร็ว ๆ นี้

“อย่ามาใช้กำลัง ผมไม่ชอบ”

“มึงก็ไม่ชอบกูแล้วนี่ ต้องแคร์อะไรด้วยวะ”

ผมผลักไหล่มันอีกรอบ อินทรีถอนหายใจทิ้งพลางยกมือขึ้นกุมขมับ พอผมเดินเข้าไปใกล้มันอีกครั้ง รอบนี้แขนใหญ่ไม่อยู่นิ่งเหมือนเดิมแล้ว อินทรียกมือขึ้นรวบผมเข้าหา เรายืนกันอยู่หน้าร้านข้าวที่ในทีแรกทำท่าจะมีเรื่องกันแต่ในตอนนี้กลับเป็นไอ้อินกอดผมไว้ด้วยแขนข้างเดียว

หมับ!


ช็อกสนิท...

ผมยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก พอจะถอยหลังกลับไอ้อินก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น แขนข้างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป มันยกมืออีกข้างขึ้นโอบรอบเอว ก้มหน้าลงใช้จมูกซุกลงบนบ่า ผมยืนกะพริบตาปริบอยู่ตรงนั้น ได้ยินเสียงหัวใจฃัดเจนแต่ไม่แน่ใจว่าดังมาจากฝั่งไหน อกด้านซ้ายของผมหรือมัน


“ไหนว่าเป็นคนใจเย็น กับผมแล้วทำไมอารมณ์ร้อนตลอด”

อินทรีพูดเสียงอู้อี้ สูดลมหายใจเข้าลึกจนได้ยินเป็นเสียงฟอด “ฉีดน้ำหอมที่ซื้อให้อีกแล้ว”

“เออ... ก็มันวางไว้ ไม่ได้ใช้ก็กลัวระเหย”

“คิดถึงผมก็พูดมาสิ ทำเป็นฟอร์มทำไม ยูง้อผมอยู่นะ”

ผมหลุดหัวเราะ เป็นการหัวเราะในรอบหลายวันที่ผ่านมา อินพูดถูก ผมคิดถึงมันเลยหยิบน้ำหอมที่เจ้าตัวซื้อไว้มาใช้ เป็นกลิ่นเดียวกับที่มันฉีดแต่ไม่ว่าจะยังไงความรู้สึกเวลาได้กลิ่นก็ไม่เคยเหมือนตอนที่ผมได้กอดมันอยู่อย่างนี้
ผมยกมือขึ้นกอดมันตอบ


“เลิกง้อแล้ว ง้อยากง้อเย็นฉิบหาย”

อินทรีกระชับแขนผมแน่นอีกครั้งก่อนคลายให้เบาแรงลงก่อนเฉลย “ผมแค่อยากให้ยูง้อเอง”

ผมยิ้มและยังคงกอดมันอยู่อย่างนั้น เกมนี้มันชนะ ผมยอมจริง ๆ หลอกให้คิดว่ายังโมโหอยู่ได้ตั้งนาน ง้อจนผมปวดกบาลแทบแยกว่าต้องทำยังไง มีทางไหนที่ทำให้มันหายโกรธได้บ้าง


“ผมน่ะใจอ่อนตั้งแต่ที่เจอวันนั้นแล้วรู้ไหม แค่ยูบอกว่าคิดถึง ผมก็โกรธไม่ลงแล้ว แย่ชะมัด”

“ไม่แย่หรอก” ผมบอกก่อนจะค่อย ๆ ผละออกมา “ถ้ามึงโกรธกูนานกว่านี้ กูต่างหากที่จะแย่”

ไอ้อินยักยิ้มที่มุมปาก เสยเส้นผมที่ปรกลงมาปกหน้าผากผมไปด้านหลังแล้วโน้มตัวลงมาจูบเร็ว ๆ มันก็เป็นเสียอย่างนี้ ทำเหมือนผมเป็นเด็ก ๆ ไปได้


“ทีหลังไม่เอาแล้วนะยู ผมแม่ง...เจ็บจนเหมือนจะตายเลย” พูดพลางจับมือผมเอาไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงเบา ๆ ที่หลังมือ
“ถึงไอ้เด็กนั่นจะสารภาพก็เหอะว่ามันเข้าหายูก่อน ผมก็ยังเจ็บอยู่ดี”

“อืม ไม่ทำแล้ว”

ผมรับปากมันใหม่ เข็ดครับ เข็ดจริง ๆ ง้อยากแบบนี้ใครจะเสี่ยง โมโหหึงรุนแรงอีกต่างหาก วันดีคืนดีแม่งฆ่าปาดคอผมหมกห้องน้ำขึ้นมาทำยังไง


“ผมถามจริง ๆ นะยู ที่ทำไปเพราะผมเองให้ยูได้ไม่มากพอหรือเปล่า” คนพูดสบตากับผม เม้มริมฝีปกจนเป็นเม้นตรง “ผม..ยังรักยูได้ไม่พอใช่ไหม?”

“....ไม่ใช่แบบนั้น”

“ยู” เสียงอินทรีพูดเบาและเต็มไปด้วยความสั่นไหว “ถ้าผมยังไม่ดีตรงไหน บอกผมได้ไหม ที่ผมบอกว่ารักยู ผมพูดจริง ๆ นะ ผมไม่อยากเสียยูไป”

ผมเงียบ พยายามมองหน้ามันที่เบือนสายตาลงต่ำ กระนั้น อินทรีก็ยังหลบหลีกการสบตากับผมสำเร็จ


“ถึงจะบอกว่าห้ามทำแบบนี้อีก แต่รู้ไหม ต่อให้ยูทำร้ายผมซ้ำ ๆ ผมก็ให้อภัยยูอยู่ดี ถ้ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น ถ้ายูหยุดไม่ได้จริง ๆ ผมขอร้อง ยูช่วยบอกผมว่าผมต้องทำยังไงให้ยูพอ”

“ทำยังไงยูถึงจะรักผม มีแค่ผมคนเดียว”

ผมไม่ได้ตอบ แต่เดินเข้าไปใกล้มันมากขึ้นจนปลายเท้าเราอยู่ชิดกัน และต่อจากนั้นคือผมเองที่เข้าไปกอดอินทรีเอาไว้ทั้งตัว

“กลัวเหี้ยอะไรของมึง”
ผมไม่รู้ว่าประโยคนั้นกำลังพูดกับมันหรือตัวเอง แต่อ้อมกอดของอีกฝ่ายที่รัดรึงจนแทบหายใจไม่ออกแสดงให้เห็นชัดว่ามันกำลังหวาดกลัวมาแค่ไหน ความอ่อนแอที่มันเผลอแสดงออกมา ความโกรธเกรี้ยวที่แลดูไร้สาระ

“ยูสำคัญกับผมมาก รู้ตัวหรือเปล่า”

“อืมรู้แล้ว”

“ยู...” ผมทำเสียงฮึดฮัด ไอ้บ้านี่ ง้อแล้วทำไมมันเวิ่นเว้อมากกว่าเดิมวะ คนฟอร์มเยอะฟอร์มจัดมันหายไปไหน


“อย่าทิ้งผมไปนะ”

นั่นเป็นอีกครั้ง ที่ผมเผลอพยักหน้ารับคำมัน..





TBC

วันพุธแล้วหรออ ไวจังงงง
วันนี้มาลงให้เป๊ะ ๆ เลย เพิ่งลุกออกจากวงไพ่มา วันหยุดยาวรวมญาติก็เงี้ย ไม่ได้เล่นสงกรานต์ไม่เป็นไร กินตังค์ญาติพี่น้องก็อิ่มเอมใจแล้วค่ะ  :hao6:
หยุดหลายวันเราไปส่องในกระทู้แนะนำนิยายมา มีหลายคนอุตส่าห์แนะนำเรื่องนี้ด้วย พับเพียบงาม ๆ แล้วกราบแนบตักขอบพระคุณค่ะ คนอ่านชอบเราก็ดีใจ มีมาม่าพอขลุกขลิกรสหมูสับเบา ๆ กันนิดหน่อย อย่างที่บางคอมเมนต์ว่า อินมันจะงอนได้ซักแค่ไหนเชียว พี่ยูของเราน่านักขนาดนี้ ใจแข็งนักก็เกินไปแล้ว
ไม่เคยแต่งนายเอกซึนขนาดนี้มาก่อนเลย บทจะง้อนี้ไม่รู้ว่าควรเขียนยังไงดีให้แลดูไม่เสียฟอร์ม ตอนนี้น่าจะพอถูไถกันไปได้เนอะ  :hao4:
วันหยุดยาวใกล้หมดแล้ว ชาร์จพลังเต็มที่สำหรับวันใหม่นะคะ สุขสันต์วันพุธ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ  :m1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2014 00:09:16 โดย -west- »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อินเอ้ยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
รออ่านก่อนนอน คนแต่งมาตรงเวลามากกกกอ่ะ อิอิ
เป็นการง้อที่เข้ากับความซึนสุดๆของพี่ยูจริงๆ ตอนแรกง้อดีๆ ตอนหลังจะตีกับเค้าซะงั้น 5555
มีฉีดน้ำหอมเพราะคิดถึงน้องด้วย พี่ยูนี่น่ารักจริงๆน้าาา อย่างงี้น้องอินจะโกรธนานได้ไง

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
นี่ อีตายู
ถ้าหล่อนยังไม่รวบรัดน้องอินเนี่ยะ
ชั้นจะเอาเองละนะ
ตอนนี้น้องอินมาวิน เอาใจพี่ไปทั้งดวง
น้องอินน่ารัก อ่อนไหว โดนมารยาพี่ยูแค่คำว่าคิดถึงก็อ่อนระทวย

พี่ยูก็นะ ตกลงเป็นแฟนเหอะ แค่นี้ก็ชัดเจนใความรู้สึกมากพอละนะ
ให้อินแสดงควมรู้สึกฝ่ายเดียว ถึงมันจะรู้ใจ แต่คำพูดมันก็สร้างความมั่นใจนะเว้ยยยยย // เสียงมาดามมด

อยากตื่นมาพรุ่งก็เป็นวันพุธอีกรอบเลยได้มั้ยอ่ะ อิอิ :mew4:

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
โถววววว งอนได้แค่นี้จริงๆสินะ พี่ยูน่ารักขนาดดดด

ออฟไลน์ schneesturm_fubuki

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ตบมือสามแปะ พี่ยูง้อได้น่ารัก ตามสไตล์เมะเก่า(หรอ???) 555

ชอบอ่ะ นิยายเวสต์เคะดูไม่สาวดี เรื่องนี้นิสัยอินทรีสาวกว่าพี่ยูอีก แต่ก็เข้าใจนะว่ายังเด็ก

อ่านตอนแรกๆของเรื่องรู้สึกว่าอินทรีร้าย ต่พออ่านไปเรื่อยๆได้ทำความรู้จักกับอินทรีพร้อมๆกับพี่ยู

รู้สึกว่า นางเป็นเมะที่น่าสงสารพอตัวเลย...ก็อย่างนี้ละนะ ความรัก ต้องใช้เวลากว่าจะเรียนรู้และเข้าใจ อร๊ากกกก อินอ่ะ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อุตะ ไม่ไหวแล้น บางทีอินก็นิสัยเด็กอย่างประหลาด น่ารักกกกก
แต่แบบนี้แหละ รักเด็กก็ต้องอย่าให้เด็กงอนนะจ้ะพี่ยู
รอบนี้เด็กหึงแรง แต่พี่ยูสภาวะจิตใจซบเซาอย่างเห็นได้ชัด คราวนี้มั่นใจกันได้ทั้งคู่แระชิมิ
จะมีดราม่าไรอีกมั้ย ><~~~~

ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย ในที่สุดเค้าก็ดีกันแล้นนนนนนน นึกว่าน้องอินจะไม่ให้อภัยพี่ยูซะแล้วอีก นี่ก็พลอยใจเสียไปกับยูด้วยเลย
ยูวววววววววววววววววจำไว้เลยนะ อย่าพลาดอีกนะรอบนี้อ๊ะะะะ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
โหยยย จะด่าเราไหมเนี่ยถ้าเราบอกว่า "ยังดราม่าไม่สะใจเลยอะค่ะ" 55555555
มันก็โอเคแหละที่พี่ยูไปง้อ แต่อินซึนขนาดนี้....แหม่ เค้ามาง้อหน่อยได้ใจใหญ่เลย เล่นตัวนะๆ
ถ้าเราเป็นพี่ยูคงแบบ...ด่าแล้วเลิกง้อไปละ (เราขี้รำคาญ ง้อยากนักก็งอนกลับเลยเถอะงั้น ฮ่าๆ)
แต่นะ ห่างกันเกือบเดือน คงนานพอพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองกันได้แล้วแหละ
มาม่าพอกรุบกริบ จากนี้แสดงว่าจะหวานกันแล้วใช่ไหมคะ? 5555

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
ว้ายหวาน อินใจดีจัง แค่ยูพูดคิดถึงแค่เนี่ย ยอมให้เลยอ่ะ :o8:
ง้อกันจนกระเพราะหวานเลยล่ะสิ เขินแทน

รอตอนต่อไปค่ะ+1 :mew1:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
อร๊ายยยเค้าดีกันแล้วววววว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เขาดีกันแล้วววววววววว
ในที่สุดอินก็ใจอ่อนให้พี่ยูจนได้
อินมันน่ารักแหะ
 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ต๊าย นึกว่าจะเคลียร์กันไม่ได้ซะแล้ว

อินเจ้าเล่ห์ว่ะ  แต่พี่ยูก็ยังฟอร์มอยู่ดี 555+

ออฟไลน์ modisvip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เห้ยอิน หายเร็วไปป่ะ  :angry2: ยูแม่งซึนได้อีกอ่ะรู้สึกแบบ  :katai1:

สำคัญเลยเนี่ยคือเมื่อไหร่จะได้กัน (อ้าวเลว) :hao7: อิอิ

ออฟไลน์ karmdodcom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
สุดท้ายนายอินก็งอนได้แค่นี้จริงๆสินะ...
เค้าดีกันแล้ววววววววววววว  :mc4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่ยูง้อไม่เก่งแต่ก็พยายามน่าดู

ถ้าสองคนนี้เปิดตัวเป็นแฟนเมื่อไหร่ คนอื่น ๆ ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางคงได้ช็อคกันบ้างล่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด