Under the blue sky ใต้ผืนฟ้าสีคราม :: SP-HNY2016(31/12/58 p.12) +แจ้งข่าวหน้าแรกค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Under the blue sky ใต้ผืนฟ้าสีคราม :: SP-HNY2016(31/12/58 p.12) +แจ้งข่าวหน้าแรกค่ะ  (อ่าน 248738 ครั้ง)

ออฟไลน์ เกลียวคลื่น

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่มีมาม่า
น้องธาชีจะรับได้มั้ยนะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องธาโนดราม่าใช่ไหมคะ...

Linyu_ta

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ บอกได้เลยว่าน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก เราชอบสุดๆ :impress2:

ชอบทุกตัวละครที่โผล่มาเลย คือแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ของตัวเอง มีบทบาท มีจุดดึงดูดความสนใจ ถึงแม้บางตัวไม่ได้โผล่มาทุกตอน หรือโผล่มาน้อยแต่ก็ทำให้นึกภาพตัวละครนั้นออกอย่างชัดเจน  นับถือคนเขียนตรงนี้เลย เพราะปกตินิยายส่วนใหญ่ตัวละครเสริมจะมีลักษณะคล้ายๆกัน จนแยกไม่ออกแม้เห็นชื่อ แต่เรื่องนี้คือชัดเจนมากจริงๆ อยากมีเพื่อนแบบกลุ่มธีร์บ้างเหะ โดยเฉพาะพ่อหมีเนี่ย 55555

ขอพูดถึงพระนายสุดที่รักของเราก่อนนะ 5555 ธีร์น่ารักมาก ดูซื่อๆนิ่งๆ แต่ไม่ใสเกิน ชอบตรงนี้แล่ะ ยิ่งเวลาอยู่กับชายโชแล้วธีร์ดูน่ารัก น่าเอ็นดูเหลือเกิน ส่วนชายโชพ่อพระเอก พ่อเทพบุตรของบ่าว ช่างดีเหลือเกินพ่อคุณ หาแบบนี้ได้ที่ไหนหรอ เราอยากได้แบบนี้บ้าง  :-[ 5555555 ดีใจที่ทั้งคู่ได้เป็นแฟนกันแล้ว เป็นความสัมพันธ์ที่เรื่อยๆเรียบๆน่ารักมาก ไม่รู้ว่าต่อไปจะต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ไหนจะเรื่องครอบครัว เรื่องหลับจบการศึกษา การทำงานอะไรอีกมากมาย แต่เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ ผ่านไปได้โดยไม่มาม่านะจ๊ะ อิอิ

ส่วนเหล่าเพื่อนๆเราชอบทุกตัวละคนเลย แต่ตอนนี้แอบปลื้มพ่อหมี กับน้องซอลแล่ะ อิอิ พ่อหมีเป็นเพื่อนที่ดีและฮามาก โผล่มาทีไรต้องได้ขำนางทุกที อยากให้นางมีคู่จังค่ะคนเขียน จะจัดคู่ให้นางมั้ยอะ อิอิ ส่วนน้องซอลแล้วเอ็นดูนางมากกกกก อยากได้มาดูแลเอง จะถนอมฟูมฝักอย่างดีเลย 55555 ยังหวังว่าน้องซอลจะได้เจอคนดีๆนะจ๊ะ สู้ๆ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ สู้ๆค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ kaireaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่งได้แอบเข้ามาอ่านเรื่องนี้ อยากบอกว่าชอบมากกกกค่ะ คือแบบฮื้อออทำไมโชถึงได้หล่อแสนดีแบบเน้ แล้วทำไมธีร์ถึงได้น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ คืออ่านแล้วยิ้มตลอดเลยมันละมุนอะค่ะ เรื่องน้องธานี่แอบดราม่าแน่ๆเลย รวมถึงครวบครัวธีร์ด้วย แอบกลัว ฮือออ คือชอบการที่โชกับธีร์เรื่อยๆกันแบบนี้ จนอีกฝ่ายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของอีกฝ่าย ไม่อยากให้ดราม่าเลย ฮืออออแต่มันต้องมีมาอีกระลอกแน่ๆเลย เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :-[

ออฟไลน์ RinNam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอหมอโชหนึ่งที่แบบห่อกลับบ้านค่าาา  :กอด1:

อย่าดราม่าเลยน้าน้องธา มามะมาเป็นสาววายด้วยกันเตอะ รับรองฟินน

ออฟไลน์ velvetronica

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
23


“โอ้ยยยยยย!! ใครมันจะไปจำได้วะ!!!”


เสียงโวยวายดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมที่ทุกคนกำลังสุมหัวกันอยู่โถงใต้ตึกกลาง จนหลายคนอดจะพยักหน้าตามไปด้วยไม่ได้


“จริง...จู่ๆ ก็มาประกาศสอบก่อนส่งเปเปอร์ใครมันจะมีกะใจอ่าน” ใครสักคนบ่นอุบ

“แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้อ่ะน้า” เสียงยานคางดังมาจากจิรณัฐที่พลิกชีทสรุปไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย “เอาน่า ไหนๆ ซอลมันมาติวให้แล้วก็ยังมีทางรอดนะ”

“...งั้นพักแปปนึงแล้วกัน” คนถูกพาดพิงโคลงหัวเมื่อเห็นสภาพตายซากของคนเรียน แล้วจึงลุกขึ้น “ไปห้องน้ำนะ”


วิชาเรียนรวมปี4ของคณะมีอยู่ไม่กี่วิชาก็จริง แต่ตลอดทั้งปีก็แทบไม่มีคนเข้าเรียนเพราะมัวแต่ไปปั่นโปรเจค พอจู่ๆ อาจารย์นึกจะดัดหลังจัดสอบก่อนส่งเปเปอร์1สัปดาห์เลยเล่นเอาโกลาหลไปทั้งชั้นปี


“ซอลแม่ง...เข้าเรียนก็ไม่เห็นจะเข้าเท่าไร ทำไมมันทำสรุปซะเรียบร้อยเลยวะ” กฤษณ์บ่นเมื่อคนถูกพาดพิงเดินออกจากวงไปแล้ว

“นั่นใครจ๊ะ ว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของเราเลยนะหมี” พิชามณหันมาตอบยิ้มๆ “ถ้ารอดตัวนี้ได้ต้องมากราบไหว้ซอลจริงๆ มั้งเนี่ย”

“เสียดายนะ...อย่างซอลน่าจะต่อโทต่อเอกได้สบายๆ”

“คนมันเก่งอยู่ที่ไหนก็เก่ง เดี๋ยวทำงานไปก็ได้ทุนเรียนต่อเองแหละธีร์” เจ้าหนี้ของวีรินทร์ยักไหล่ “ว่าแต่...ได้ที่ทางกันหรือยัง?”

“แอมมีที่ติดต่อไว้แล้วล่ะ ของเจคงทำงานกับที่บ้านหรือเปล่า?” หญิงสาวถามกลับแต่อีกฝ่ายส่ายหัว

“ไม่ล่ะ...เราจะไปต่อโทที่อเมริกา”

“ห๊ะ!?” ทั้งวงหันมามองกันพรึบโดยมิได้นัดหมาย

“เฮ้ย ตกใจอะไรกัน”

“มึงไม่เห็นเคยบอก” คุณพ่อหันมาถามเสียงเครียด

“ก็กำลังบอกนี่ไง...เพิ่งยื่นขอทุนไป เรียนบริหาร” คุณชายแจกรอยยิ้มไม่รู้สึกรู้สา

“อะไรวะะะ โกอินเตอร์แบบเก็บเงียบเลยนะมึงอ่ะ!!!”


กันตธีร์รู้สึกว่าตัวเองยิ้มค้างอยู่ท่ามกลางเสียงของทุกคน จนกระทั่งจิรณัฐหันมาสบตา ใบหน้าหล่อก็ยิ้มให้แล้วเอื้อมมือเอากำปั้นมาเคาะที่หน้าผากเบาๆ


“ยังไงเจก็ต้องไปอยู่ดี ไม่เกี่ยวกันหรอก”


คำพูดแบบแฝงความนัยทำให้เพื่อนๆ พากันโห่แซวไปเรื่องอื่น มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังหมายความอย่างไร...ไม่ว่าตอนไหนจิรณัฐก็เอาแต่ทำแบบนี้ ชายหนุ่มถอนหายใจ


“แล้วธีร์ล่ะ ตัดสินใจได้หรือยัง” ประเด็นถูกย้ายมาแบบไม่ทันตั้งตัว คนตอบจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทแทน

“เรียนโทที่นี่แหละ อยู่แลบอาจารย์อิทธินนท์”

“เฮ้ยๆๆ ยังๆ” เจ้าของเรื่องสะดุ้ง

“ยังติดต่อเอกสารไม่เสร็จแค่นั้นแหละ อาจารย์เขารักมึงจะตายตัวเล็ก ได้เงินเดือนทีเอด้วยนะ” กระบวนการเพื่อนขายเพื่อนไม่จบลงแค่นี้กันตธีร์เลยได้แต่ส่ายหัวให้รูมเมท


เขาคงนั่งคุยเล่นกับเพื่อนไปเรื่อยจนวีรินทร์กลับมาถ้าไม่มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ ใบหน้าหล่อที่ถอดแบบมาจากใครอีกคนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกังวล

วีรภัทรเดินหน้านิ่งตรงมาเพียงลำพังแล้วหยุดยืนอยู่ข้างๆ


“พี่ธีร์” เสียงเรียกนั้นมาพร้อมกับการยกไหว้ “พี่สะดวกไหม ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

“เฮ้ย มึงมีเรื่องอะไรกับเพื่อนกูวะเชี่ยวี” กฤษณ์ออกปากนำทันที

“หมี...” เขารีบยกมือห้ามเมื่อเห็นสีหน้าของวีรภัทร “สะดวก ไปทางนู้นแล้วกัน”


เพื่อนสนิททำท่าจะห้ามแต่กันตธีร์ส่ายหัวแล้วรีบลุกขึ้น นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่ได้คาดการณ์หากแต่เตรียมใจไว้แล้ว แม้สัมผัสได้ถึงความกังวลของตัวเองแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องเผชิญ

วีรภัทรเดินเงียบๆ ไปที่ข้างตึกซึ่งไม่มีคน บรรยากาศหนักๆ ทำให้อดจะขมวดคิ้วตามไปด้วยไม่ได้


“พี่...ผมขอแบบไม่อ้อมไปอ้อมมาเลยนะ พี่เป็นอะไรกับพี่ผม” ตรงแบบตีแสกหน้าจนเริ่มไม่ถูกเลยได้แต่ถามกลับไป

“วีไปฟังอะไรมา” พยายามทำเสียงให้นิ่งสงบ

“...มันไม่สำคัญหรอกครับ เพราะแค่พี่เดินตามมาผมก็รู้คำตอบไปเกินครึ่งแล้ว”

“งั้นพี่ก็ไม่ต้องตอบวีแล้วดีกว่าไหม” ถึงเขาจะเป็นคนเงียบแต่ก็ไม่ใช่จะยอมให้เด็กที่ไหนมาพูดจาแบบนี้ใส่

“พี่ธีร์ ผมไม่ได้จะกวนตีนพี่นะ” คนตรงหน้ามีท่าทีอ่อนลงทันทีแต่กลับแทนที่ด้วยความร้อนรน “ผมอยากรู้จริงๆ”

“...แล้วทำไมไม่ไปถามโชเอง” เด็กหนุ่มฟังแล้วก็ทำเสียงเหอะ ก่อนจะหันมาตอบตรงๆ

“พี่คิดว่าง้างปากพี่ชายผมมันง่ายไหมล่ะ”

“...ก็ไม่...” กันตธีร์เอามือเสยผม รู้สึกปวดกบาลขึ้นมาตะหงิดๆ “เลยมาหวยออกที่กูใช่ไหม”

“ผมก็ไม่อยากมาวุ่นวายกับพี่หรอกถ้า...ถ้าพี่ผมมันไม่ทำตัวเป็นหอยกาบ”


กันตธีร์สำลักอากาศ บรรยากาศตึงๆ คลายลงทันที


“เอาตรงๆ นะพี่ ผมแค่อยากคุยกับพี่ให้แน่ใจ เพื่อนผมบอกว่าพี่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิง พี่...พี่ก็ไม่ได้เป็นเกย์ใช่ไหมล่ะ แล้วทำไมถึงมาคบกับพี่ผมได้วะ”

“เอ้อ...” ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว

“พี่ผมแม่งเป็นหอยกาบที่จริงจังที่สุดในโลก เอาไปต้มจนสุกยังไม่ยอมอ้าเปลือกเลย” คนเป็นน้องพาดพิงพี่ชายรัวๆ ด้วยเสียงจริงจัง “พี่...พี่จริงจังกับพี่ผมใช่ไหม เพื่อนผมบางคนก็บอกว่าคิดว่าพี่จะคบกับพี่หมีหรือพี่เจ”


ยิ่งฟังยิ่งอยากจะบ้าตายขึ้นมาแบบกระทันหัน แต่ก็เริ่มจะเข้าใจไอ้เด็กตรงหน้าที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่มันขึ้นมานิดหน่อย

...นี่พวกเด็กปี1มันเห็นเขามันเป็นคนยังไงกันวะ ว่างๆ เขาควรไปเค้นคอน้องรหัสดูบ้าง


“เอาเป็นว่า...กับไอ้สองตัวนั่นมันเป็นเพื่อนพี่แล้วกัน” เขาเลือกตอบประเด็นที่ดูพูดง่ายก่อน “ส่วนเรื่องโช...พี่นึกว่าวีจะ...เอ้อ ไม่พอใจเสียอีก”

“แล้วหน้าผมดูพอใจหรือไง” น้องชายของโชติภัทรชี้หน้าตัวเอง “ทำใจมาเป็นอาทิตย์เลยเหอะ แต่นี่มันก็พี่ชายผมไง”


เผลอพยักหน้ารับไปด้วย...ถ้ายัยธาเอาแฟนเลสเบี้ยนมาเปิดตัวเขาก็คงช็อคตาตั้งหลบไปทำใจเหมือนกัน


“แล้วสรุปว่ากับพี่ผมนี่ยังไง”

“...”

“...เอาเข้าไป นู่นก็ไม่พูดนี่ก็ไม่พูด แม่งเอ้ย!”

“ไหนว่าแค่เดินตามมาก็รู้แล้วไง” เขาไม่ได้ตั้งใจกวนตีนกลับแต่อย่างใดจริงๆ สาบานได้

“...”

“...”


บรรยากาศจริงจังมันปลิวหายไปนานแล้วตอนนี้ทั้งคู่เลยได้แต่มองหน้ากันแบบเก้อๆ


“...แม่ง พวกพี่แม่งพอกันเลย ให้ตายสิ” คนเด็กกว่าสบถงึมงำในลำคอก่อนจะหันบอก “ช่างมันแล้วกันครับ ผมยอมแล้ว ขอโทษที่รบกวนพี่นะ”

“เดี๋ยว...แล้วไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน”

“...ตอนแรกผมก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ” วีรภัทรเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรสักอย่าง “แต่อาทิตย์ก่อน ตอนคาบเรียนภาษาอังกฤษ...มีคนมาถามเรื่องพี่เท่านั้นเอง”


กันตธีร์มองตามรุ่นน้องที่ยกมือไหว้แล้วเดินจากไปอย่างครุ่นคิด


++++++


หลังจากสอบนรกแตกผ่านพ้นไปอย่างทุกลักทุเล ศพนักศึกษามากมายกระจายเกลื่อนเป็นโศกนาฎกรรมแต่ก็ต้องฟื้นคืนชีพอย่างจำยอมขึ้นมาปั่นโปรเจคต่อ...นับว่าเป็นจุดพีคครั้งหนึ่งในชีวิตของใครหลายคนกันเลยทีเดียว

สุดสัปดาห์นี้กันตธีร์กลับมานอนบ้านอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำแม้ตัวเปเปอร์จะยังไม่เรียบร้อยเสียที แต่เพราะบังเอิญพ่อแม่กลับมาพอดีและเขายังมีธุระต้องกลับมาจัดการ

หลังจากมื้อเย็นฝีมือสองสาวของบ้านผ่านไปอย่างอิ่มหนำสำราญ ชายหนุ่มก็โดนจิกตัวจากการนั่งอืดให้ลุกเข้าครัวไปช่วยล้างจานทำประโยชน์แก่ครอบครัว


“นี่! ถูอย่างนี้มันจะสะอาดได้ยังไง เป็นผู้ชายก็หัดใช้แรงหน่อยสิ” ว่าแล้วก็ฟาดเพี๊ยะลงมาที่หลังมือ

“โอ้ย! คุณนายครับผมเมื่อยหลัง อ่างล้างจานบ้านเรามันเตี้ยไปนะบางที” คนเป็นลูกบ่นงึมงำแต่ก็เพิ่มแรงที่ขัดกระทะ

“เขาก็ใช้ขนาดนี้กันทั้งโลกแหละตาธีร์! นี่หัดๆ ไว้บ้าง อย่าเอาแต่ให้ผู้หญิงเขามาดูแลเรานะรู้มั๊ย” ฝ่ายแม่ก็เริ่มร่ายยาวไม่ได้มองลูกที่ยิ้มค้างไปแล้ว “เราน่ะอะไรก็ดี แต่งานบ้านงานเรือนก็หัดไว้หน่อยรู้ไหม สาวๆ สมัยนี้เขาต้องการคนช่วยซักผ้ามากกว่าเปลี่ยนหลอดไฟนะ”

“เอ้อ...หรือครับ” ชายหนุ่มยิ้มแหย

“แม่คะ ธาว่าให้พี่ธีร์เปลี่ยนหลอดไฟไปน่ะดีแล้ว” กัลยธาที่เดินเข้ามากินน้ำในครัวหันมาบอก “ไม่งั้นเสื้อผ้าขาดวินาศสันตะโรแหงเลย”


คนเป็นแม่ส่ายหัวก่อนจะบ่นงึมงำเรื่องนู้นเรื่องนี้อีกสักพักก็ปล่อยตัวลูกชายออกมา กันตธีร์จึงเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน แต่แทนที่เขาจะเดินเข้าห้องนอนตัวเอง ชายหนุ่มกลับเคาะประตูห้องข้างๆ แทน


“ธา นี่พี่เอง เข้าไปนะ”


เสียงตอบรับจากในห้องทำให้เปิดเข้าไป ห้องของกัลยธาสะอาดเรียบร้อยสมกับเป็นเด็กผู้หญิง เพียงแต่ของที่มีจำนวนมากที่สุดในห้องนี้กลับเป็นหนังสือที่แน่นขนัดอยู่บนตู้มากกว่าจะเป็นเครื่องประดับน่ารัก


“ทำอะไรอยู่คะ” ชายหนุ่มเดินไปนั่งข้างเตียงที่เด็กสาวนอนกลิ้งอยู่ ทำให้อีกฝ่ายดันตัวขึ้นมานั่งข้างๆ

“ธาว่าจะอ่านหนังสือ พี่ชายมีอะไรหรือคะ”

“พี่มีเรื่องจะถาม...ธาว่างคุยกับพี่มั๊ยคะ”คนเป็นพี่ทอดเสียงอ่อนพลางมองหนังสือในมือเด็กสาว

“...ก็ว่างค่ะ...” กัลยธาตอบก่อนจะเม้มปากแน่น

“งั้น...ธาบอกพี่ตรงๆ ได้ไหมคะ เราไปคุยอะไรกับวีหรือเปล่า”


มือเล็กประสานเข้าหากันแล้วบีบกันแน่น กันตธีร์ท่าทีนั้นอย่างรู้ดี...กัลยธากำลังเครียด

 
“เรื่องอะไรหรือคะ ธากับหมอนั่นเรียนเซคอังกฤษเดียวกันน่ะค่ะ ก็เคยคุยตอนทำงานกลุ่มหลายเรื่องอยู่”

“เรื่องของพี่น่ะ ธาคุยเรื่องพี่กับวีว่าอะไร” เขาตัดสินใจที่จะไม่อ้อมค้อมให้เรื่องมันยากขึ้น

“...แล้วมันจริงหรือคะ” เสียงหวานสั่น “มันคงจริงใช่ไหมคะ...ไม่อย่างนั้นพี่ชายคงไม่มาถามธาแบบนี้”


พอว่าจบหยดน้ำตาก็กลิ้งลงมาจากขอบตาอาบวงหน้าสวยจนคนเป็นพี่ชายต้องร้องเฮ้ยคว้าตัวน้องสาวมากอดปลอบหลวมๆ

 
“ชู่ว...ไม่เอาสิคะคนดี ร้องไห้ทำไม พี่ชายยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ”

“ก็...ก็มันจริงใช่ไหมคะ” เด็กสาวระล่ำระลักออกมาไม่เป็นคำ

“...ไม่เอาๆ พอแล้ว ธาหยุดร้องไห้ก่อนแล้วเราค่อยคุยกันนะคะ”

 
กันตธีร์พูดปลอบน้องสาวแล้วโยกตัวเบาๆ แม้ตอนนี้ตัวเขาเองมากกว่าที่กำลังรู้สึกเหมือนถูกกรีดเข้ากลางอก ชายหนุ่มเตรียมพร้อมมารับการถูกโวยวายหรือแม้กระทั่งด่าทอ...แต่ไม่ใช่กับการร้องไห้แบบนี้ ในฐานะของคนเป็นพี่ชาย...เขาไม่สามารถทำใจกับภาพที่น้องสาวร้องไห้ได้จริงๆ ...โดยเฉพาะถ้าสาเหตุนั่นมาจากตัวเอง

ถ้าความสุขของเขามันนำมาซึ่งความเสียใจของคนรอบข้างแล้วล่ะก็...

คนเป็นพี่ลูบศีรษะซุกอยู่ตรงไหล่อย่างอ่อนโยน ผ่านไปสักพักกัลยธาก็ผละออกมาหันไปคว้ากระดาษทิชชู่มาเช็ดหน้าเช็ดตา ทั้งคู่นั่งอยู่ในความเงียบและความกดดันอย่างไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร


“ธา...พี่ขอโทษนะคะ” กันตธีร์คว้ามือน้องสาวมาบีบไว้เบาๆ เรียกให้เด็กสาวเงยหน้ามาสบตา “เราจะว่าพี่อะไรก็ได้ แต่ไม่ร้องนะคะ”

“พี่ชาย...” เด็กสาวครางในลำคอก่อนจะส่ายศีรษะ “ธา...ธาไม่ได้โกรธค่ะ”

“แล้วร้องไห้ทำไมล่ะหืม?”

“ก็...ก็” คนเป็นน้องสาวอึกอัก ก่อนจะตัดสินใจตอบออกมา “ธาคิดว่ามันเป็นเพราะตัวเองหรือเปล่า”

“หืม...”


นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่กันตธีร์ไม่ได้เตรียมตัวจะมาเจอ


“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรากัน”

“ก็ธา...เป็นสาววายนี่คะ” กัลยธาโพล่งออกมา “มันต้องเป็นเพราะธาเป็นสาววายแน่ๆ เลย!”

“ห๊ะ...”

“เพราะธาไปแอบจิ้นไปอวยอะไรใส่พี่ชายแน่ๆ เลย!” เด็กสาวเริ่มโวยวาย “ธาไม่ได้ตั้งใจนะคะ เรื่องพี่หมีหรือพี่เจก็แค่จิ้นไปเองทั้งนั้น ธาไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นจริงเลยนะคะ!!แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ธาก็ไม่รู้เหมือนกัน!”


กันตธีร์รู้สึกเหมือนสมองช็อตเฉียบพลัน เขาฟังที่น้องสาวตัวเองพูดไม่รู้เรื่องจนต้องแตะไหล่ให้หยุดสติแตกก่อน


“ธา...เอาใหม่ สาววายคืออะไร?”


กัลยธาสูดจมูก ก่อนจะค่อยๆ อธิบายแบบที่ฟังพอจะรู้เรื่องมากขึ้น แม้บางเรื่องจะเกินขอบเขตสามัญสำนึกของเขาไปเสียหน่อย...แต่ก็ยังพอจะเข้าใจได้ ชายหนุ่มพยายามมองข้ามคำศัพท์ที่เริ่มจะยากขึ้นอีกระดับไปแล้วเลือกถามเท่าที่จำเป็น


“เดี๋ยว...ธา พี่งง ถ้างั้นธาควรจะ...เอ้อ...ดีใจสิ ใช่ไหม?”

“จิ้นกับเรียลมันไม่เหมือนกันนะพี่ธีร์”

“...แล้วมันต่างกันยังไง”

“ก็ถ้าจิ้น...ยังไงมันก็มีแต่เรื่องดีๆ งอนกันบ้าง มุ้งมิ้งกันบ้าง ไม่ดราม่าไงคะ...แต่ถ้าเรียล ยังไงมันก็ดราม่า!”

“ธา...พี่ยังไม่เคยทะเลาะกันเลย”

“มันไม่เหมือนกัน!!” โวยวายขึ้นมาอีกรอบ “ธาไม่เคยเห็นเพื่อนหรือใครที่รู้จักที่เป็นแบบนี้เขาคบกันได้ยืดเลยนี่คะ ธาไม่อยากให้พี่ชายอยู่ในจุดนั้น ธาไม่อยากให้พี่ธีร์เสียใจ”


ว่าถึงตรงนี้ก็ทำท่าจะเป่าปี่อีกรอบจนพี่ชายต้องรีบหันมาปลอบ กันตธีร์รู้สึกคุ้นว่าเคยได้ยินประโยคทำนองนี้มาแล้วจากกฤษณ์ เขารู้สึกโล่งอกที่คนรอบตัวไม่มีใครรังเกียจ ซ้ำแล้วยังจะเป็นห่วงความรู้สึกของเขาขนาดนี้

...เขาเป็นคนโชคดีจริงๆ


“ธา ฟังพี่นะ” พูดพลางลูบหัวน้องสาวเบาๆ “พี่ชายดีใจนะที่เราเป็นห่วงพี่ ขอบคุณที่เข้าใจกันขนาดนี้


เด็กสาวสูดจมูก เอื้อมมือไปดึงชายเสื้อพี่ชายเอาไว้แน่น


“พี่ก็บอกไม่ได้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ธาเคยเจอโชนี่ จำได้ไหม ...พี่ยังไม่เคยเจอใครในโลกนี้นอกจากพ่อแม่กับธาที่จะรักพี่ได้ขนาดนี้มาก่อนเลย”


พูดเองเขาก็รู้สึกหวิวเองในอก ความรักมากมายของอีกฝ่ายทำไมคนที่ได้รับอย่างเขาจะไม่รู้


“ตอนนี้พี่มีความสุขมากนะธา”


กัลยธามองหน้าพี่ชายที่ยิ้มให้ ก่อนจะโผตัวเข้าไปกอดแน่นจนคนโดนรัดหัวเราะแล้วเตือนว่าตัวเองยังไม่ได้อาบน้ำ เด็กสาวอ้อนคนอายุเยอะกว่าอยู่สักพักก็สารภาพออกมาว่าตอนที่ไปเที่ยวตนผิดสังเกตเรื่องที่จู่ๆ พี่ชายก็ติดมือถือ หลังจากนั้นก็เลยแอบดูว่าคุยกับใครถึงจำได้ถึงตอนที่มีเรื่องกับวีรภัทร

คนที่ไปบอกน้องชายของโชติภัทรก็คือเธอเอง

กันตธีร์ปลอบน้องสาวว่าไม่ได้โกรธเคืองอะไร แถมกับวีรภัทรถึงจะงงๆ แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องกัน กัลยธาเลยนั่งซักไซ้ไล่เรียงเรื่องราวเป็นการใหญ่


“สรุปคือพี่ธีร์รู้อะไรบ้างคะ พี่โชเขาเริ่มจีบตอนไหนก็ไม่รู้ รู้อีกทีก็เป็นงี้แล้ว ส่วนไอ้น้ำเต้าหู้นั่นก็ไม่รู้คิดยังไงไปซื้อฝากเขา” เด็กสาวสรุปอย่างปวดหัว

“เฮ้ย...มันก็ไม่ขนาดนั้น”

“ขนาดนั้นเลยค่ะ พี่โชคิดผิดชัดๆ เจอแบบนี้เข้าไปยังไม่ถอดใจธาก็ยอมแล้วค่ะ”


คนเป็นพี่ชายเลยถึงคราวโวยวายเป็นการใหญ่ที่น้องสาวไม่เข้าข้าง แต่อีกฝ่ายก็ทำลอยหน้าลอยตาประกาศย้ายทีมแบบไม่สนใจพี่ตัวเองสักนิด

สองพี่น้องนั่งคุยเล่นกันไปอีกเกือบค่อนคืนจนคุณนายวิจักข์วัฒนาเดินมาเคาะห้องบอกให้ปิดบ้านด้วยเลยได้ฤกษ์ไล่คนที่ดองเค็มจนตัวเหม็นไปอาบน้ำ


ใช้เวลาไม่นานชายหนุ่มก็ย้ายตัวเองกลับมานอนกลิ้งบนเตียงในห้องนอน เขาเหลือบดูนาฬิกาบนจอมือถือก่อนจะชั่งใจเล็กน้อยแล้วกดโทรออก

เสียงรอสายดังอยู่ไม่กี่ครั้ง


“ธีร์ ยังไม่นอนหรือ”

“ยัง โชล่ะ”

“กำลังจะนอนพอดี นึกว่านอนไปแล้วเลยไม่ได้โทรหา” ปลายสายว่า “แล้วทำอะไรอยู่ทำไมยังไม่นอน”

“...คุยเล่นกับยัยธา” ชายหนุ่มตอบพลางพลิกตัวนอนคว่ำ “มีเรื่องจะเล่าให้ฟังเยอะเลย”

“จะเล่าเลยหรือไว้ก่อน?”

“ไว้ก่อนดีกว่า...อยากเล่าต่อหน้า”

“อื้ม งั้นรีบนอนได้แล้ว จะตีสองอยู่แล้ว”

“เดี๋ยว...” เรียกอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะกดหน้าตัวเองลงกับหมอนจนมีแต่เสียงอู้อี้ลอดออกมา


“คิดถึง...อยากเจอ”


ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ กันตธีร์รู้สึกว่าหน้าร้อนจนไหม้ แต่เพราะที่เขาเล่าเรื่องต่างๆ ให้น้องสาวฟัง มันเหมือนเล่าให้ตัวเองฟังซ้ำว่าอีกฝ่ายดียังไง...ซึ่งก็ดีมากจนรู้สึกอยากอ้อนขึ้นมา


“...ธีร์ง่วงแล้วใช่ไหม”

“ทำไม...บอกเฉยๆ ไม่ได้หรือ”

“เปล่า...ถ้าพูดจริงจะบอกให้พูดอีก แต่ละเมอจะได้อัดเสียงไว้ฟังซ้ำๆ”


เขารู้สึกเหมือนเห็นหน้าอีกฝ่ายกำลังยิ้มกว้างอย่างดีใจขึ้นมาจริงๆ จนยิ่งรู้สึกเขินไปกันใหญ่...ทั้งๆ ที่เป็นคนเริ่มแท้ๆ


“คิดถึงเหมือนกัน...”





กันตธีร์มีความสุขมาก...เขามีความสุขมากจริงๆ






TBC



::talk::

สวัสดีค่าาาาาา

กลับมาอีกครั้ง ...จริงๆว่าจะลงตั้งแต่เมื่อคืน  :katai4: แต่แบบ...คอมเราตอนนี้คงลาโลกอย่างถาวรแล้วล่ะค่ะ //ร้องไห้  :z3:

ตอนนี้ไม่ดราม่าเนอะ //โดนคนอ่านสกายคิก  :z6:

คือเรื่องนี้ไม่มีดราม่าระยะยาวค่ะ 5555555 หน้าหนาวแล้ว ท้องฟ้าสดใสน่าดูเชียว น้องธากับน้องวีจริงๆเป็นน้องที่ติดพี่ตัวเองมาก 5555 น้องวีเหมือนจะปากไม่ดี แต่รักพี่ชายมากนะคะ //ใครไม่รักน้องวีคนเขียนรักเอง //อุ้มกลับบ้าน ส่วนน้องธาก็...ผู้หญิงในนิยายวายก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวร้ายเนอะ

ส่วนเรื่องจิรณัฐ...โนดราม่าจริงๆนะคะ คือคนเขียนมองว่ายังไงเจก็ต้องไปเรียนต่อน่ะค่ะ ไม่ว่าจะมีเรื่องของธีร์หรือไม่ก็ตาม

สำหรับตอนต่อไปก็คงอาทิตย์หน้าเหมือนเดิมค่า ศุกร์เสาร์อาทิตย์ วันใดวันหนึ่ง คือคอมเดี้ยงต้องพึ่งใบบุญคนอื่น แง้  :sad4:

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านนะค้าาา กอดดดด  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ป.ล. ใกล้จบแล้ว...รู้สึกใจหายนิดๆเลยค่ะ


::comment::

mild-dy - ไม่มีอะไรสุดๆเลยค่ะ ชีเป็นสาววาย 555555
Zelsy - เขินด้วยยยย คู่นี้ผลัดกันทำให้อีกฝ่ายเขิน  :-[
malula - อร๊ายยย สองหนุ่มนั่นไม่มีอะไรค่ะ 555 บังเอิญพี่รหัสของน้องแบดบอย(เพื่อนสนิทเราเอง)มันเป็นสาววาย น้องมันเลยตั้งใจเซอร์วิสพี่ตัวเอง โคตรจะเป็นน้องที่ดี 555555
iceman555 - ก็หวานนะค้าาาาาาา แบบเรื่อยๆมาเรียงๆ 5555
GintoniC - เพื่อนโชสองคนนั้นน่ารักมากค่ะ[???] 55555555 ไว้จะเอามาเปิดตัวนะคะ ส่วนเรื่องน้องธาไม่มีอะไรจริงๆค่าา
quiicheh. - ทีมโชติภัทรเหมือนค่าาาา  :-[ [ตอนนี้บทน้อยมาก พระเอกค่าตัวแพง ฮา] โผล่มานิดๆ แต่เอาใจคนเขียนไปแล้วนะคะ 5555
BeeRY - ไม่มีอะไรค่าาาา น้องธาแกน่ารักน้าาา
kokoro - คราวนี้ธีร์เอาคืนค่ะ แอร้ ส่วนน้องธากับน้องวีก็ไม่ดราม่านะคะ
เกลียวคลื่น - ไม่มาม่าค่าาา น้องธาแกเป็นสาววายอ่ะ 5555
JustWait - ไม่ค่ะไม่ เรื่องนี้ดราม่าได้ไม่เกิดสามตอนแน่นอน ฮา
Linyu_ta - ขอบคุณค่าาาา คอมเมนท์ยาวมากๆ ขอบคุณนะคะ ชอบอ่าน แฮ่  :impress2: สำหรับเราตัวละครทุกตัวมีชีวิตเลยค่ะ ทุกคนมีตัวตนและเรื่องราวของตัวเองจริงๆ ดีใจมากที่ชอบนะคะ สำหรับพ่อพระเอกของเราเขาแสนดีจริงๆนั่นล่ะค่ะ #ทีมโชติภัทร ส่วนพ่อหมีนี่คนเขียนยังไม่มีคู่ให้อ่ะค่ะ แหะๆ ยังคิดอยู่ว่าควรจะเก็บคนดีไว้ให้สาวๆบ้าง [ฮา] ส่วนซอลนี่กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาหาคนมาดูแลอยู่เลยค่ะ แอร้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะะะ
kaireaw - ยินดีต้อนรับค่าาาา ไม่ดราม่านะคะไม่ดราม่าาา เรื่องนี้เรื่อยๆมาเรียงๆ 55555 ขอบคุณนะคะ ดีใจมากที่ชอบค่ะ  :-[
RinNam - โชติภัทรนี่มีแต่คนแย่งนะคะะะ 5555 น้องธาแกวายอยู่แล้วค่ะ ฮาาาาา

ขอบคุณทุกคอมเมนท์เลยนะคะะะะ //แจกกอดดดด  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องธาน่ารักอ่ะ แอบจิ้นกะวีนิดนึง :hao7:

ออฟไลน์ minjeez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่น้องคู่นี้น่ารักจัง เราชอบการพูดของธีร์กับธามาก
พูดจาภาษาดอกไม้ อ่านแล้วเขินแปลกๆ

ส่วนโชกับธีร์นี่ก็หวานกันตลอดเลย น่ารักที่สุด

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
หอยกาบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อ่านมาถึงตอนนี้ถึงกับขำ คิดได้น่ะวี  :hao3:
โล่งใจเรื่องน้องธา โธ่คิดว่าจะรับไม่ได้ ที่ไหนสาววายนี่เอง  :z2:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดีจังเลย มีน้องน่ารักทั้งสองคน
แบบรักพี่ ติดพี่ เป็นห่วงพี่ว่าจะโอเคไหม
ฝ่ายตรงข้ามจะจริงจังกับพี่เราหรือเปล่า น่าร๊าก...
แค่เขาบอกคิดถึงกัน คืนนี้ฉันคงนอนฝันดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Under the blue sky ใต้ผืนฟ้าสีคราม :: 23 [16/11/57 p.9]
« ตอบ #249 เมื่อ: 16-11-2014 22:33:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ตกใจกะน้องธามาก ตอนแรกก็กลัวอย่างว่าแหละ แต่ที่ไหนได้ โถๆน้องธา สาววายผู้น่ารัก :jul3:
ธีร์มีความสุขมาก เค้าก็อิจฉานะ  :-[

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
น้องธาเป็นสาววายซะงั้น ใจหายใจคว่ำหมด 5555

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
น้องๆของทั้งคู่ก็เข้าใจกันหมด
เหลือแต่ครอบครัวแล้วล่ะะ
โหยยยยยเจไปไกลเลยอ่ะ จะไปเจอคู่ที่นู้นเปล่า #ชง
ขนาดแค่ออกมาตอนคุยโทรศัพท์
ยังเขินโชแทนธีร์เล้ย555555555555
ธีร์นับวันยิ่งน่ารักขึ้น *_*

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เส้นทางเริ่มมีกุหลาบโปรยปรายบ้างแล้วนะคะน้องธีร์
มีความสุขไปกับน้องด้วยจริงๆ
คิดถึง ก็บอก คิดถึง อ่านแล้วกีสมากกกก
ในที่สุดโชของเรา(เหรอ??)ก็เป็นที่ยอมรับบ้างละ
ฝ่าฟันพิสูจน์รักกันต่อไปนะคะ o13
น้องธาและน้องวีจะได้เห็นความสุขของทั้งคู่

ปล.ธีร์ก็แอบกวนนะเนี่ย *กอดกลับ*  :กอด1:

ออฟไลน์ kaireaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กรี้ดๆๆๆๆๆจิกหมอนขาด ธีร์บอกคิดถึงโชน งี้ดดดมันน่ารักก
ตลกที่น้องธาเป็นสาววาย โฮหนูทำพี่เครียดเลยลูก คิดว่าจะก่อดราม่าเค้าเลิกคบงี้
ตั้งตารอตอนต่อไปนะคะ สู้ววว

ออฟไลน์ velvetronica

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
24



'สารบัญ'


กันตธีร์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะรู้สึกตื้นตันอะไรได้ขนาดนั้นกับคำง่ายๆ คำนี้ แต่เขาเชื่อว่าเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายร้อยชีวิตต้องคิดเหมือนกันแน่ๆ

เขานั่งใส่เลขหน้าทีละตัวอย่างเป็นสุขหลังจากที่ตรวตเชคครั้งสุดท้ายจนพอใจ ขณะนี้เขาเลยนั่งทำสีหน้าล่องลอยอยู่หน้าจอให้โชติภัทรที่อยู่ข้างๆ หัวเราะแซว


"โชไม่เข้าใจหรอกว่ามันฟินแค่ไหน...นี่ถ้าส่งพิมพ์ออกมาเป็นเล่มนะ รู้สึกเหมือนพ่อจะได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก"

"ครับๆ งั้นรีบทำพิธีลงเลขเด็ดแล้วไปกินข้าวกัน จะทุ่มแล้ว" คนนั่งรอว่ายิ้มๆ พร้อมกับช่วยจัดข้าวของที่กระจัดกระจายไปหมดให้เข้าที่


ชายหนุ่มเพ่งความเรียบร้อยโดยรวมตั้งแต่หน้าปกยันบรรณานุกรมใหม่อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจหยุดอาการย้ำคิดย้ำทำแล้วปิดโน้ตบุ๊คตรงหน้า

โชติภัทรดึงเก้าอี้สองตัวมาซ้อนกันก่อนจะยกไปเก็บ แต่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงกลับโวยวายขึ้น ทำให้กันตธีร์ดึงของจากมือเอาไปคืนที่ห้องพักเจ้าหน้าที่ให้แทน

หลังจากที่คบกันโชติภัทรก็ยอมเฉลยลายแทงในการหาเก้าอี้ เจ้าตัวออกตัวว่านี่เป็นความลับสุดยอดที่ไม่เคยบอกใครเลยพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์...นั่นทำให้เขายิ่งอยากให้มันเป็นความลับสุดๆ ขึ้นไปอีก เพราะมันเหมือนเป็นพื้นที่พิเศษสำหรับเราสองคนไปแล้ว

...เลยเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้หวงเอามากๆ ก็ตอนนี้


"ได้...ได้ โอเค...ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปเอง" โชติภัทรทำหน้ายุ่งยากใส่โทรศัพท์ในตอนที่เดินตามมา

"มีอะไรหรือเปล่า" เขาถามทันทีที่อีกฝ่ายวางสาย

"แม่แวะมาทำธุระแถวนี้แล้วรถเสียสตาร์ทไม่ติด ตอนแรกโทรตามวีไปช่วยขนของ แต่เห็นว่าตายคาlabไปแล้วเลยให้ฉันไปแทน" ชายหนุ่มอธิบาย "โทษทีนะ แต่วันนี้คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้แล้วล่ะ"

"อ้อ...แล้วนี่อยู่ที่ไหน"


กันตธีร์หยุดคิดเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายตอบชื่อห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะหันไปบอกคนข้างๆ


"งั้นไปด้วยกันนี่แหละ"

"เฮ้ย!" โชติภัทรสะดุ้ง "ไม่ต้องก็ได้"

"ก็รถเสียไม่ใช่หรือ โชไปช่วยขนของก็ต้องนั่งแท็กซี่ไปส่งถึงบ้านแล้วก็ต้องกลับมาหออีก จะได้เอารถฉันขับไปเลยไง" พูดพร้อมกับดึงแขนให้เดินตามไป

"แต่..."

"ไปๆ ไปกัน เดี๋ยวแม่โชรอ"


ว่าจบก็ลากให้ไปด้วยกันแบบไม่ฟังข้อค้าน จับลูกชายคนกลางยัดใส่รถตัวเองแล้วขับไปส่งให้แม่เขาอย่างรวดเร็ว ตอนที่กันตธีร์ถอยจอดที่ใกล้ๆ แล้วให้โชติภัทรลงไปหาแม่ก่อนเขาก็แอบชะโงกดูทิศทางลมไปด้วย หญิงวัยกลางคนร่างผอมบางที่กำลังคุยกับช่างซ่อมรถดูค่อนข้างกระวนกระวาย ก่อนจะมีท่าทีโล่งใจชัดเจนเมื่อพวกเขามาถึง


"สวัสดีครับ" กันตธีร์ยกมือไหว้นำ

"สวัสดีจ้ะ ลำบากเราเลย จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะ เดี๋ยวแม่กลับแท็กซี่ก็ได้จ้ะ" อีกฝ่ายรับไหว้เขาพร้อมกับพูดอย่างเกรงใจ

"ไม่เป็นไรครับ ผมว่างอยู่พอดี"

"แล้วเล่มโปรเจคล่ะ" โชติภัทรที่เปิดท้ายรถเอาของอยู่ร้องถาม

"ก็เพิ่งเคาะสารบัญไปเมื่อกี้ไง" เขาหันไปตอบกลับฉับไวแล้วหันมาว่าเสียงอ่อนกับคนที่อาวุโสกว่า "ให้ผมไปส่งนะครับคุณแม่ ขนของเยอะๆ ไปเรียกแท็กซี่ก็ลำบากอยู่นะครับ"


ช่างที่กำลังประเมิณสภาพรถหันมาจะคุยเรื่องรายละเอียด ซึ่งคนเป็นแม่ก็สะกิดลูกชายตัวเองให้ไปคุยแทน แต่เมื่อกันตธีร์เล็งเห็นแล้วว่าโชติภัทรดูจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเลยหันไปช่วยคุยจนเรียบร้อยรวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องมาลากรถไปที่อู่และค่าซ่อมค่าอะไหล่ต่างๆ

ใบหน้าของนักศึกษาแพทย์คนเก่งดูว่างเปล่าสิ้นดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเรื่องเครื่องยนต์...นั่นทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก

คนที่เก่งมากๆ ก็มีเรื่องที่ไม่ได้เรื่องอยู่เหมือนกัน


สองหนุ่มช่วยกันแบกของหลังรถขนไปยังเจ้าmazda2คันเก่งไม่นานก็เรียบร้อย แม่ของโชติภัทรเป็นหญิงร่างเล็กมากผอมบางราวกับจะปลิวไปตามลม ถ้าหากไม่มีคนช่วยคงลำบากมากทีเดียว

กันตธีร์จะเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับแต่อีกฝ่ายเอาตัวมาแทรกไว้ทันที


"ฉันขับเอง" เงยหน้าบอก

"ธีร์รู้จักบ้านฉันหรือ" ถามกลับมานิ่งๆ

"โชก็บอกทางไง"

"งั้นฉันขับเองดีกว่า"


เขาจ้องตาเจ้าของบ้านวัดใจอีกครู่หนึ่งจึงยอมแพ้เพราะเห็นว่าอีกคนที่รออยู่ดูรีบร้อน ชายหนุ่มเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ผู้อาวุโสแล้วจึงยัดตัวเองเข้าที่นั่งข้างคนขับอย่างจำใจ


"ม๊าทานข้าวหรือยังครับ" โชติภัทรเริ่มบทสนทนาทำลายความเงียบ

"ยังเลยจ้ะ นี่ป๊าเรารอม๊าไปทานด้วยอยู่ ป่านนี้หิวจนเป็นลมไปแล้ว" คำตอบนี้ทำให้ถึงบางอ้อเรื่องที่ดูร้อนใจกว่าปกติ

"รถดูไม่ค่อยติด คงไม่นานหรอกครับ"

"จ้ะ" คนเป็นแม่รับคำแล้วถึงถามกลับ "แล้วนี่โชกับธีร์กินข้าวหรือยังลูก"

"ยังเลยครับ"

"อุ๊ย แล้วนี่ไม่หิวกันแย่หรือเนี่ย"

"ไม่เป็นไรครับ ยังไม่หิวเท่าไร พอดีผมเพิ่งเสร็จงาน" กันตธีร์หันมาตอบแทน

"อ่อ นี่ธีร์เรียนวิศวะใช่ไหมลูก เห็นเจ้าวีมันพูดถึงเมื่อวันก่อน" ฟังแล้วอดจะสะดุ้งไม่ได้ จึงหันขวับไปมองหน้าคนขับรถที่กำลังยิ้มแหย เลยตอบไปแบบนิ่งๆ

"ครับ...เป็นรุ่นซีเนียร์วีพอดี"

"โลกเรานี่ก็กลมดีเนอะ แล้วโชกับธีร์นี่รู้จักกันได้ยังไงล่ะจ๊ะ"

"ตอนผมเข้าปี1พี่จิเป็นพี่ว้ากผมพอดีน่ะครับ แล้วก็บังเอิญเจอกันอยู่บ้างที่ห้องเรียนรวม" ตอบรวดเดียวราวกับเป็นบทที่ท่องมาจนขึ้นใจ

"เรารู้จักจิด้วย! แบบนี้ก็รู้จักทั้งบ้านเลยสิ" คุณนายบ้านรัตนพิบูลพรรณหัวเราะ "งั้นรู้จักพวกจีด้วยไหม"

"ก็เคยเจอกันอยู่บ้างครับ"


คนอาวุโสกว่าชวนคุยไปเรื่อย ถามถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ก็ตอบได้ตามปกติ...จะมีรู้สึกเหมือนชะงักติดหลังมันจะทำแผลเหวอะหวะเข้าหน่อยก็ยามที่คนเป็นแม่หันมาถามลูกชายว่าเพื่อนคนนี้ไม่เห็นเคยพูดถึงมาก่อน เล่นเอาน้ำลายหนืดกันไปถ้วนหน้าโดยมิได้นัดหมาย

ผ่านไปสี่สิบกว่านาทีรถคันเล็กก็แล่นมาถอยจอดเข้าบ้านสองชั้นหลังเล็ก คุณแม่ของโชติภัทรฝากลูกชายขนของแล้วรีบกุลีกุจิเข้าบ้านไปตั้งโต๊ะโดยไม่ลืมชวนคนที่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนลูกให้มากินด้วยกัน

กันตธีร์ตอบรับง่ายๆ แล้วหันไปช่วยลูกชายเจ้าของบ้านขนของ จนโชติภัทรต้องยืนเลิกคิ้วใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้คนมองหันไปดึงของที่ต้องขนมาถือไว้เอง


“สวัสดีครับ”


ฝ่ายผู้สูงอายุกว่าคราวนี้แค่พยักหน้ารับไหว้ทำเอาไปไม่เป็นจนโชติภัทรเดินมาดันหลังให้เข้าไปนั่งรอบนโต๊ะอาหารด้วย คุณพ่อของโชติภัทรดูเป็นผู้ชายร่างใหญ่แบบที่ลูกชายคนโตถอดแบบมา แต่สีหน้าดูเงียบขรึมไม่เห็นจะบ้าๆ บอๆ เหมือนจิรภัทรตรงไหน


“นี่ธีร์นะป๊า ที่วีมันพูดถึงวันก่อน” โชติภัทรแนะนำสั้นๆ “เป็นรุ่นน้องป๊าเหมือนกัน”


นับว่าคนเป็นลูกชายจับจุดพ่อตัวเองได้ตรงเป้า เพราะพอบอกแบบนั้นคนที่ดูเงียบขรึมก็ออกปากถามนู่นนี่บ้างซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นที่เกี่ยวกับการเรียนหรือคณะทำให้ตอบได้คล่องแคล่วไม่เกิดความอึดอัดเกินไป

ผ่านไปไม่นาน อาหารง่ายๆ ก็ถูกยกมาเรียงบนโต๊ะ บทสนทนาส่วนใหญ่มักจะมาจากผู้หญิงหนึ่งเดียวบนโต๊ะ กันตธีร์สังเกตว่าคุณแม่ของโชติภัทรจะเป็นฝ่ายหันไปถามไปพูดกับสามีมากกว่า แถมยังตีความคำตอบที่มาแค่การพยักหน้าหรือเสียงฮื่อในลำคอได้เป็นเรื่องเป็นราวจนดูแล้วน่ารักอย่างบอกไม่ถูก


“กินของหวานไหม” พอหมดของคาว พ่อของโชติภัทรก็ถามพร้อมกับลุกไปหยิบกล่องใส่ขนมไทยจำพวกทองหยอดทองหยิบฝอยทองจากตู้เย็นมาตั้งให้ตรงหน้า

“เอ้อ ขอบคุณครับ” กันตธีร์ไม่ชอบของหวานแสบลิ้นพวกนี้ แต่หมดทางจะปฏิเสธเลยคิดว่าจะจิ้มกินมันซักชิ้นสองชิ้นค่อยวางมือ แต่ลูกชายเจ้าของบ้านหันมาค้านเสียงแข็ง

“ป๊า อย่ากิน เดี๋ยวน้ำตาลขึ้น”

“เอามาให้เพื่อนแก”

“ธีร์ไม่ชอบของหวาน ป๊าอยากกินเองอย่าเอาธีร์มาอ้างดิ เอามานี่เลย”


โชติภัทรว่าจบก็เอื้อมมือมาคว้าไปปิดกล่องแล้วเดินไปเก็บเสร็จสรรพจนคนที่เป็นแขกปั้นหน้าไม่ถูก แต่คุณพ่อที่โดนลูกชายตัวเองดุกลับที่หน้าเข้มแล้วหันมาถามเรียบๆ


“ดูมัน...กับพ่อยังดุขนาดนี้ กับคนอื่นมันทำตัวเป็นพ่อเขาไปหมดเลยไหมธีร์”


คำถามโดนใจนั้นทำให้เผลอตัวพยักหน้าเห็นด้วยทันที แล้วพอพยักหน้ารับเสร็จก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังนินทาลูกชายเขาอยู่ แต่คนเป็นพ่อกลับหัวเราะหึขึ้นมาจนทำให้พากันหลุดขำออกมาทั้งคู่จนโชติภัทรที่เดินกลับออกมาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจอีกรอบ


“ไม่มีอะไร...มา ช่วยเก็บจาน”


เขาตอบสีหน้าสงสัยนั้นแล้วรวบจานเดินเข้าไปให้คุณนายของบ้านที่กำลังยืนอยู่หน้าอ่างล้างจาน แล้วอาสาช่วยล้างต่อ แต่คราวนี้กลับเป็นโชติภัทรเองที่ทนไม่ได้ต้องเข้าไปแทรก


“พอเลย เห็นท่าแล้วเสียวจานแตก” ว่าพลางดึงจากออกจากมือ

“อะไรยังไม่แตกเสียหน่อย”

“ไม่แตกก็ใกล้ละ มาฉันล้างเอง” กันตธีร์อ้าปากจะเถียงกลับถ้าไม่มีอีกเสียงค้านขึ้นมา

“จริงๆ ธีร์ไปนั่งรอสบายๆ เถอะจ้ะ ให้ตาโชล้างไป”


พอคุณแม่ของโชติภัทรออกปากเขาก็เลยล้างฟองออกมือแล้วถอยออกมาให้คนที่ดูจะหน่วยก้านดีกว่าจัดการแทน ทำเอาคำพูดของแม่ตัวเองเมื่อวันก่อนลอยมาหลอกหลอนชอบกล แต่พอจะเดินออกจากครัวก็สวนกับเจ้าของบ้านตัวจริงที่เดินเข้ามาพอดี


“ม๊า...เจ้าวีมันยังไม่เปลี่ยนหลอดไฟตรงระเบียงเลย”

“เอ๋...หลายวันแล้วนะ วีนี่จริงๆ เลย” คนเป็นแม่หันขวับพร้อมกับบ่นลูกชายอุบอิบไปอีกหลายคำ

“เดี๋ยวป๊าไปเปลี่ยนเองก็ได้ หลอดใหม่ที่ซื้อมาอยู่ไหนนะ” ว่าจบก็เดินไปเปิดตู้หา ทำให้คนที่กำลังล้างจานต้องรีบห้าม

“อย่าน่าป๊า...แก่แล้วนะ จะไปปีนบันไดแบบนั้นได้ยังไง”

“เอ้อ...งั้นผมช่วยไหมครับ” กันตธีร์ที่ยืนเคว้งอยู่รีบรับอาสา “ยังไงก็ต้องรอโชล้างจานอยู่แล้ว”

“อุ๊ย ไม่เอาลูก วันนี้รบกวนเราตั้งกี่เรื่องแล้วเนี่ย” เจ้าบ้านฝ่ายหญิงร้องห้ามแต่ชายหนุ่มกลับหันไปหาเจ้าบ้านอีกฝ่ายแทน

“แค่นี้เองครับ บันไดอยู่ไหนเดี๋ยวผมปีนให้เอง”


สุดท้ายแขกของบ้านก็พาตัวเองขึ้นมาไต่บันไดเปลี่ยนหลอดไฟให้เขาเสร็จสรรพโดยมีคุณพ่อของโชติภัทรช่วยจับบันไดให้ ในตอนที่จะกลับเข้าจริงๆ คุณนายรัตนพิบูลพรรณจึงขนเอาขนมหอบใหญ่มายัดๆ ให้แทนคำขอบคุณเสียมหาศาล

ชายหนุ่มสองคนไหว้ลาผู้ใหญ่แล้วจึงยัดตัวกลับเข้ามาในรถคันเล็กซึ่งโชติภัทรเป็นคนชนะในศึกแย่งเป็นคนขับครั้งนี้


“ทำไมวันนี้ถึงมาด้วยล่ะ” คำถามลอยๆ ดังขึ้นเมื่อรถแล่นออกมาได้สักพัก

“มาไม่ได้หรือไง” ถามกลับกลั้วเสียงหัวเราะ

“เปล่า...แปลกใจ คิดว่าจะไม่อยากมาเสียอีก” โชติภัทรจอดรอไฟแดงแล้วจึงหันมายิ้มให้ “เลยดีใจมากเลย”

“...อะไร จะได้เจ๊ากันไง โชเคยเจอที่บ้านฉันแล้วไง” กันตธีร์ทำท่ายักไหล่แบบไม่ใส่ใจแม้จะรู้สึกว่าหน้าร้อนแปลกๆ

“แต่ก็ดีใจอยู่ดี...” พอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ปนมา เลยต้องเอื้อมมือไปผลักไหล่คนย่ามใจสักที

“เดี๋ยวก่อน...ยังมีอีกเรื่อง ไอ้วีมันไปเผาอะไรฉันไว้” ถึงตรงนี้โชติภัทรก็เริ่มยิ้มแหยอีกครั้ง

“ก็หลังจากที่ธีร์เล่าว่าวีไปคุยด้วยใช่ไหม” คนเป็นพี่ชายเริ่มเสียงอ่อย “หลังจากนั้นบางทีมันก็ชอบพูดถึงธีร์ขึ้นมาในบ้าน แบบ...อ้างถึงเฉยๆ เช่น วันนี้เดินสวนกัน ไม่ก็ พูดถึงชีทสรุปของนาย แต่พอพูดบ่อยๆ แม่ฉันก็เลยถามถึง...แต่วีมันก็พูดแต่เรื่องดีนะๆ”

“...เฮ้ย พูดแต่เรื่องดีมากๆไปก็ไม่ดี คาดหวังสูงแล้วมันจะพังเอา” กันตธีร์รู้สึกเวียนหัวนิดๆ ขึ้นมาทันที “แต่ก็ดี...จะได้ไม่รู้สึกเป็นคนแปลกหน้ามาก”

 “พ่อแม่ฉันใจดีน่า”

“...แต่พ่อโชนิ่งชะมัด ตอนแรกเกือบช็อคแล้ว”

“ป๊าแค่เงียบ”

“ก็จริง พอคุยแล้วดูใจดีไปเลย”


พอเริ่มดึกปริมาณรถก็บางตาไปมาก เวลาที่ใช้ก็ลดตามไปด้วย โชติภัทรถอยจอดรถที่ไม่ใช่ของตัวเองอย่างชำนาญ ก่อนจะปิดแอร์ดับเครื่อง แต่ก่อนที่จะเปิดประตูคนที่นั่งข้างๆ ก็เอื้อมมือมาดึงแขนไว้ก่อน

กันตธีร์ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอี้ยวตัวไปพร้อมกับใช้มือรั้งคออีกฝ่ายลงมา ริมฝีปากที่แตะลงมาอย่างขลาดเขินทำให้ฝ่ายถูกจู่โจมนิ่งงันไปชั่วครู่ แต่พอตั้งสติได้ก็กลายเป็นเขาเองที่รุกไล่กลับไป กลีบเนื้ออ่อนถูกดูดซับจนช้ำไปหมด แล้วจึงขบเม้มเบาๆ เปิดช่องให้เรียวลิ้นที่สัมผัสกันในโพรงปาก

ฝ่ายคนเริ่มเผลอเอามือขยำไหล่อีกฝ่ายอย่างมึนงง รสจูบที่ดึงเอาความนึกคิดไปจนหมดสิ้นดำเนินไปจนรู้สึกราวกับจะขาดใจจึงถูกปล่อยมา กันตธีร์อ้าปากหอบน้อยๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายรั้งตัวมากอดแล้วใช้ปลายจมูกโด่งไล้ที่ข้างแก้มแล้วกดย้ำซ้ำอีกสองสามที


“จะทำอะไร” กันตธีร์หัวเราะเบาๆ กับคำถามนั้น...เขาเริ่มก็จริงแต่ใครทำกันแน่เขาก็เริ่มไม่แน่ใจ

“แค่อยากให้รู้...” เขาตอบช้าๆ แต่เน้นอย่างชัดเจนทุกคำ “ฉันเป็นคนไม่ชอบเจอคน ขี้เขินด้วย...รู้ตัว”


ชายหนุ่มปล่อยมือจากไหล่ที่ยึดไว้แล้วเปลี่ยนเป็นโอบรอบตัว


“แต่ที่คบกัน...ฉันจริงจังนะ ถ้าคิดว่าจะเลิกฉันไม่คบตั้งแต่แรกหรอก เพราะฉะนั้นโชไม่ต้องคิดจะทำอะไรให้ฉันฝ่ายเดียว ฉันเองก็อยากจะทำอะไรให้โชเหมือนกัน”

“...แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้มันก็ดีมากแล้ว”

“ก็ใช่...แต่มันเป็นเรื่องของเรา โชพยายามอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ฉันเองก็ต้องพยายามด้วยเหมือนกัน” กันตธีร์ซบหน้าลงกับไหล่ของอีกฝ่าย “ถึงฉันจะล้างจานไม่ได้เรื่อง แต่ความรู้เรื่องรถกับเปลี่ยนหลอดไฟฉันดีกว่าแน่ๆ”


โชติภัทรหัวเราะกับคำกล่าวนั้นพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มอีกฝ่ายเบาๆ


“ฉันถือเป็นคำสารภาพรักได้ไหม”

“ก็แล้วแต่”


กันตธีร์ยิ้มตาหยีใส่ คนมองอยู่เลยได้แต่กดจูบซ้ำๆ ให้กับคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่พองแน่นจนคับอก เสียงทุ้มกระซิบเบาที่ข้างหูก่อนจะได้คำตอบแผ่วเบากลับมา


“รัก...มาก”

“...เหมือนกัน”



บางทีเรื่องอื่นใดก็คงไม่สำคัญอีกต่อไป...เมื่อรู้ว่ามีใครอีกคนที่คอยรักกัน






บทส่งท้าย



   กันตธีร์ถ่ายรูปไปประมาณล้านรูปได้ในวันนี้ ชายหนุ่มโดนเรียกแล้วก็ลากตัวเข้าไปในเฟรมไม่หยุดหย่อน เพื่อนทุกคนที่ทั้งสนิททั้งไม่สนิทล้วนแต่ส่งรอยยิ้มและคำอวยพรให้แก่กันเพื่อเป็นความทรงจำดีๆ ครั้งสุดท้ายสำหรับการเรียนในคณะนี้ กฤษณ์กับจิรณัฐที่ป๊อปปูล่าสุดๆ ต่างถูกดึงตัวไว้จนเขากับวีรินทร์ขี้เกียจเข้าไปตามหา สุดท้ายสองคนเลยมายืนรอถ่ายรูปรวมกันอยู่ที่มุมห้องประชุม

วันนี้เป็นงานอำลาseniorอย่างเป็นทางการของคณะ บรรดารุ่นน้องที่รู้จักหรือน้องรหัสก็เอาของขวัญมาให้หรือมาขอถ่ายรูปรุ่นพี่ที่ตนหมายปอง ซึ่งวีรินทร์เองก็โดนคำขอร้องทำนองนี้ไปไม่น้อยทีเดียว

คำถามหลักที่มักจะถูกถามกันคือเรื่องอนาคต สำหรับเขาที่เพิ่งจัดการเรื่องเรียนต่อปริญญาโทที่มหาลัยเดิมเสร็จก็รู้สึกตอบได้คล่องปาก ส่วนวีรินทร์เองก็ได้งานที่บริษัทขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่นี่ ทั้งคู่เลยตัดสินใจว่าจะเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันในสองปีนี้ เพราะกฤษณ์ไปได้งานที่บริษัทก่อสร้างซึ่งอยู่ใกล้บ้านมากกว่า ทำให้เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมานานถึงคราวต้องแยกกัน...จนอดจะรู้สึกโหวงๆ ขึ้นมาบ้างไม่ได้


“แล้วซอลจะกลับระยองเย็นนี้เลยหรือ”

“อื้อ...เอกสารอะไรก็เรียบร้อยหมดแล้ว แถมไม่ได้กลับตั้งนานแล้วด้วย” เสียงแหบของเพื่อนตอบเรียบๆ

“งั้นจะมากรุงเทพฯเมื่อไรก็บอกแล้วกัน”


กฤษณ์กับจิรณัฐฝ่าฝูงชนออกมาได้ในที่สุด แถมยังมีการใช้อำนาจมืดของเดือนคณะลากเอาช่างกล้องของคณะมาให้ถ่ายรูปให้อีก ถึงตรงนี้พิชามณก็เหมือนมีเรดาห์จับกล้องคุณภาพดี คุณเธอจึงรีบวิ่งมาเข้าเฟรมอย่างรวดเร็ว หลังจากถ่ายไปไม่กี่รูปคนก็เริ่มเข้ามาแจมมากขึ้นจนเริ่มจะกลายเป็นรูปรวมขนาดใหญ่ให้ประธานชั้นปีตะโกนออกไมค์ว่างั้นถ่ายรูปรวมคณะกันเลยเหอะ

ภายหลังจากถ่ายรูปรวมคนกว่าหลายร้อยชีวิตเสร็จ กันตธีร์ก็แอบเดินไปบอกรุ่นน้องช่างกล้องคนนั้นให้ส่งรูปที่ถ่ายกับเพื่อนกันห้าคนให้ด้วย


ชายหนุ่มมองความวุ่นวายตรงหน้า เขาเป็นคนมีเพื่อนไม่เยอะ ยิ่งที่สนิทกันยิ่งไม่เยอะ แต่พอคิดว่าเพื่อนทุกคนกำลังจะก้าวเดินออกไปคนละทางตามความฝันของตนแล้วก็รุ้สึกหวงแหนเวลาแบบนี้ขึ้นกระทันหัน

เขาเคยคิดอยู่แล้วครั้งหนึ่ง...แต่ครั้งนี้ดูจะชัดเจนขึ้นกว่าเดิม เพราะมีแต่เพื่อนดีๆ แบบนี้ บางทีที่อยู่คนเดียว คนปลีกวิเวกอย่างกันตธีร์ก็เลยอดจะรู้สึกเหงาขึ้นมาบ้างไม่ได้เหมือนกัน

เคยมีคนกล่าวว่าช่วงชีวิตที่ดีที่สุดคือชีวิตมหาลัย...บางทีเขาก็คิดว่ามันจริง


ตอนท้ายงานกฤษณ์ดึงตัวเขาไปกอดแน่น แล้วบอกว่าต่อไปนี้ไม่มีคุณพ่อคอยคุมแล้ว อยู่กับซอลทำตัวดีๆ นะ ชายหนุ่มเลยอดจะเอากำปั้นฟาดไหล่กลับไปไม่ได้ว่าหาแม่ให้ลูกสักทีเหอะ

ผละจากฤษณ์ก็เป็นพิชามณ สาวสวยตรงหน้าทำท่าจะกระโดดใส่เขาทำเอาต้องรีบยกมือห้ามแต่สุดท้ายก็โดนกอดหมับเข้าอยู่ดี หญิงสาวแอบกระซิบเบาๆ ว่าต่อไปนี้กอดได้ไม่มีปัญหา เพราะกันตธีร์ใช้สายตาทั้งหมดไปมองหนุ่มหล่อจนไม่เหลือไว้มองผู้หญิงแล้ว

ทำเอาอยากเถียงใจจะขาดแต่พูดไม่ออกเลยสักคำ


ฝ่ายวีรินทร์ปฏิเสธที่จะแสดงอาการซึ้งอย่างชัดเจน แล้วก็บอกว่าต้องมองหน้ากันไปอีกสองปี แค่คิดก็เอียนล่วงหน้าแล้ว จึงมาถึงคนสุดท้าย...จิรณัฐมองหน้าเขานิ่ง ทำให้กันตธีร์เริ่มไม่แน่ใจว่าควรแสดงท่าทีอย่างไร

แต่สุดท้ายใบหน้าหล่อก็เปิดยิ้มกว้างแล้วกางแขนออก


“เจจะไม่อยู่แล้ว...มีความสุขมากๆ นะธีร์” เสียงนุ่มกระซิบอวยพร

“เออ ไปอยู่นู่นก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ อย่ามั่วให้มันมากนักรู้ไหม”

“ครับๆ เลิกแล้วๆ” จิรณัฐหัวเราะรับคำ


กันตธีร์กับเพื่อนเดินออกมาจากหอประชุมตอนเที่ยง ท้องฟ้าหน้าหนาวกระจ่างใสและเป็นสีฟ้าสวย ชายหนุ่มบอกลาเพื่อนแล้วหิ้วข้าวของที่ได้มาเดินไปที่หอสมุดกลาง ทุกก้าวเดินเขาแทบไม่ต้องคิด...เพราะมานับครั้งไม่ถ้วน

หัวใจในหน้าอกข้างซ้ายเต้นแรงแต่เป็นจังหวะช้าๆ เขาไม่ได้รีบร้อนเหมือนครั้งนั้นที่วิ่งขึ้นมาเพื่อตามใครสักคนอย่างไม่คิดชีวิต เพราตอนนี้ร่างสูงของโชติภัทรจะยืนรออยู่ตรงที่เดิมเสมอ รอยยิ้มอบอุ่มนั้นก็เหมือนเดิม สายตาที่ทอดมองมาก็ไม่เคยเปลี่ยนไป


“เหนื่อยไหม”

“ฉันต่างหากที่ต้องถาม”


ของในมือถูกวางไว้ลวกๆ เพราะแรงดึงดูดลี้ลับทำให้อยากสัมผัสอีกฝ่ายขึ้นมา อ้อมกอดของโชติภัทรอุ่น...ชวนให้รู้สึกสบายใจ


“ธีร์เรียนจบก่อนแบบนี้ฉันรู้สึกแย่เลย”

“ยังไงก็ต้องเรียนโทต่ออยู่...เริ่มทำงานพร้อมกันพอดี”

“แต่ฉันต้องไปใช้ทุนต่างจังหวัดนะ”

“ก็ไว้ค่อยคิด”


กันตธีร์กระชับแขนที่โอบรอบคออีกฝ่าย แล้วมองออกไปที่ท้องฟ้าสดใสนอกหน้าต่างบานใหญ่ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีกมากมาย ทั้งเรื่องครอบครัว การทำงาน การใช้ชีวิตและอะไรอีกหลายอย่าง...แต่ตอนนี้สิ่งที่เขารู้คือปัจจุบัน


ภายใต้ผืนฟ้าสีคราม...เราจะก้าวเดินไปด้วยกัน



END



::talk::

สวัสดีค่า

ทุกคนอาจจะตกใจว่าทำไมจู่ๆก็จบ คือจริงๆเราคิดอยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะให้จบในตอนจบการศึกษาน่ะค่ะ (แล้วก็จริงๆได้แอบบบอกไปแล้วในตอนก่อนๆว่าใกล้จบแล้วจริงๆ) เพราะด้วยสปีดดำเนินเรื่องประมาณนี้กว่าจะคบกันจนโชเรียนจบ...คิดว่าไม่คนเขียนก็คนอ่านคงเรียนจบก่อน ฮาาาาาาา

แล้วเราก็รู้สึกว่าประเด็นที่อยากพูดถึงก็ได้พูดไปหมดแล้ว เลยคิดว่าสำหรับโชธีร์มันคงถึงที่จะต้องปิดฉากแล้วล่ะค่ะ ไม่งั้นมันคงจะยืดเยื้อเกินไป

อ้อ แล้วก็ที่หายๆไปคือเรายังเขียนตอนจบที่ตัวเองถูกใจสุดๆไม่ได้สัก //กลุ้มใจ เลยหนีไปเขียนเรื่องของเจมา ก๊ากกกกกกกก //โดนเขวี้ยงของ //ขอโทษค่ะ แงงงง

ยังไงก็ตาม เราเขียนนิยายเรื่องนี้มาเกือบหนึ่งปีเต็มได้ ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆนะคะ เรามีความสุขมาก ช่วงที่ชีวิตเราย่ำแย่ถึงจุดที่มากที่สุด เราเคยเข้ามานั่งอ่านคอมเมนท์ของทุกคน มันมีพลังมากค่ะ  :mew6: เราดีใจมากที่มีคนบอกว่าชอบนิยายของเรา แล้วก็ดีใจมากที่นิยายของเราทำให้ทุกคนมีความสุขได้ เรื่องนี้เป็นนิยายยาวเรื่องแรกในชีวิตที่เราเขียนจบค่ะ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ขอบคุณทุกคนนะคะที่เป็นกำลังใจให้เราเขียนมาถึงตรงนี้ ทั้งคนเขียนและโชกับธีร์ขอบคุณทุกคนจากใจจริงค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หลังจากนี้เราวางแผนถึงตอนพิเศษไว้แล้วพอสมควร ก็จะเข้ามาลงเป็นระยะๆ นะคะ เพราะในหัวของเรา โชกับธีร์ก็ยังใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ

สำหรับใครที่รอคอยบทของเจอยู่ก็เชิญได้ที่ >>> In the hug of sunshine ในอ้อมกอดกรุ่นไอแดด http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44595.0

ตอนนี้ตอนจบแล้ว ใครมีอะไรจะบอกเรา บอกมาได้เลยนะคะ เรายินดีรับทุกความคิดเห็นค่ะ

อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องนึงค่ะ แอบกระซิบบอกว่าเราได้รับการติดต่อจากสนพ.มาค่ะ แต่ว่าเพิ่งเขียนจบเลยยังไม่ได้ส่งต้นฉบับไปให้พิจารณาจริงๆ ดังนั้นถ้าได้ข่าวอย่างไรจะมาแจ้งอีกทีนะคะ

ขอบคุณจริงๆนะคะ รักมาก จากคนเขียนและโชธีร์  :mew6:


::comment::

praewp - ฮาาาา คงเป็นเรื่องของอนาคตมั้งคะ
minjeez - เป้นพี่ชายที่น่ารักกับน้องสาวสุดๆเลยล่ะค่ะ
GintoniC - โชเป็นคนแบบนั้นจริงๆค่ะ ฮาาาาา
malula - เป็นน้องที่คิดพี่ทั้งคู่ค่ะ เขาบอกฝันดีกันคนเขียนก็ฝันดีด้วยค่ะ ฮาาา
BeeRY - เน้ออออออ น่าอิจฉาเนอะคะ 5555555
Zelsy - ก๊ากกกกกก น้องเขาน่ารักนะคะ แต่จริงๆคือก็เคยจิ้นพี่ตัวเอง 55555
quiicheh. - อุอิ เรื่องของเจ เชิญติดตามได้ในเรื่องต่อไปเลยค่า
kokoro - มีความสุขมากจริงๆค่ะ พอธีร์พูดตรงๆแล้วมันน่ารักเน้ออออออออ
kaireaw - ฮาาาา น้องแกก็เคยจิ้นพี่ชายตัวเองนะคะ บอกคิดถึงกันแบบนี้มันน่ารักเนอะคะะะ

ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ รู้สึกเต็มตื้นมาก ไม่มีคำพูดอะไรจะบอกมากกว่านี้ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ  :mew6:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ทางสะดวกมากมาย ดูจะราบรื่นไปหมดเลย อิอิ :impress2:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
จบซะแล้ววววว แอบอยากให้มีภาคต่อเบาๆ 5555
จะมีตอนพิเศษไหม คือพวกนางหวานกันนะ แต่เหมือนยังไม่สุดอะ ยังไม่ได้เสียกัน //โดนตบ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ได้โอกาสพาธีร์เข้าบ้านเลย แถมยังได้แสดงความสามารถให้ประทับใจอีก
ตอนนี้น้องธีร์เองก็พยายามทำหน้าที่แฟน น่ารักมากๆค่ะ
จบแบบนี้ก็คงต้องลุ้นอนาคตต่อกันเองซินะ
แต่ถ้าเขียนแอบแฝงมากับเรื่องเจบ้างก็จะดีค่ะ  :impress2:

เดี๋ยวจะตามไปอ่านอีกเรื่องต่อเน้อ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
จบได้อบอุ่นละมุนละไมดีจัง
แอบซึ้งกับธีร์และเพื่อน ๆ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ กะลังจะตามไปอ่านเรื่องใหม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ RinNam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่เห็นว่าอัพแล้วดีใจมากเลยค่าา แต่บทส่งท้ายคืออารายยยย

ไม่อยากให้จบเลยย เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆๆ อ่านแล้วมีความสุขสุดๆ

คนเขียนได้บุญนะเนี่ยทำให้คนมีความสุข 

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆน่ารักๆเรื่องนี้นะคะ

ปล.ยังอยากได้โชกลับบ้านไปนอนกอดอยู่เลยย 555

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
เป็นเรื่องที่้เรื่อยๆมาเรียงๆจริงๆ
แต่อ่านแล้วก็อมยิ้มได้ตลอด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรื่องนี้ตอนแรกอ่านแบบเรื่อยๆ
ดูไม่ดึงดู แต่อ่านไปอ่านมา วางไม่ลงเลย
ชอบจัง ขอบคุณค่าาาา

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

อารมร์เรื่องแบบว่า....

เรื่อยๆอ่ะขอรับ

ไม่หวือหวา แต่ก็ทำให้รู้สึกได้ว่า....

เรื่องราวแบบนี้มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้

คือมันไม่ดูไกลเกินจริง

มันสามารถพบเห็นหรือสัมผัสได้จริง

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ธีร์มีรุกโชก่อนด้วย น่าร้ากกก;_;
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
ชอบมากกกกกกมีครบอารมณ์เลย
ตอนเศร้าก็บีบใจแทนพระเอกมาก
แอบอยากอ่านตอนพิเศษจังอิอิ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
จบน่ารักมาก อนาคตข้างหน้า เราหวังให้เป็นเหมือนท้องฟ้านะหนุ่มๆ

ออฟไลน์ kaireaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โฮวจบแล้ว ต้องแอบคิดถึงธีร์กับโชแน่ๆเลยค่ะ คือจริงๆพอรู้ว่าใจตรงกันแล้วก็คิดว่าเรื่องนี้คงใกล้จบแล้วจริงๆ
ขอบคุณที่เขียนนิยายน่ารักๆมาให้อ่านนะคะ ^^

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เป็นเรื่องที่ชอบค่ะ อ่านแล้วอบอุ่นมีความสุข

ปล. เลิกอ่านไปกลางเรื่อง คอยให้มาต่อจนจบ คิดแล้วว่าอ่านรวดเดียวจะได้อรรถรสกว่า แล้วก็ไม่ผิดหวัง กับใต้ผืนฟ้า ณ ที่แห่งนี้จริงๆ

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เข้ามาอ่านรวดเดียว
เนื้อเรื่องเรื่อยๆ  อ่านแล้วสบายๆ   เบาเบา
สนุกมาก 

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
อ่านแล้วได้กลิ่นฝน
ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
สายลมเย็นๆ
 :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด