หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]  (อ่าน 763880 ครั้ง)

ออฟไลน์ Vavaviz

  • oONaMMOo
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-4

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๖


   ป้าพุดแกกำลังยืนส่งเด็กสองคนกับคุณครูตาหวานอยู่ที่ชานหน้าบ้าน...เมื่อกี๊หล่อนกับครูบัวช่วยกันสอนเด็กๆทำข้าวกล่องกัน เด็กๆตื่นเต้นกันยกใหญ่ หยิบนู่นจับนี่ผสมกันเสียมันส์มือ ดีหน่อยที่ได้ครูบัวช่วยปราม หล่อนจึงพอมั่นใจได้ว่าข้าวกล่องของสองแสบคงน่าจะยังทานได้อยู่ ส่วนหล่อนเองก็ไม่ได้อยู่ในบรรยากาศสนุกสนานแบบนี้มานานแล้ว ได้เป็นลูกมือช่วยครูบัวสอนเด็กๆเรื่องอาหารหลักห้าหมู่มันก็เหมือนได้ลดอายุดีเหมือนกัน ตอนนี้หล่อนจึงเลื่อนขั้นครูบัวจากแค่ครูจ้างสอนพิเศษ มาเป็นคนดูแลสองแสบ ผู้มีสิทธิ์ขาดรองจากนายเหมืองไปเรียบร้อยแล้ว

“ปั่นกันดีๆนะคะ สองแสบอย่าปั่นเร็วนักล่ะ...รอครูบัวด้วยนะ...” พุดฤทัยอดไม่ได้ที่จะต้องตะโกนบอก เมื่อเห็นสองแสบเริ่มทำการยกล้อจักรยานแข่งกันตั้งแต่ยังไม่ได้พ้นหน้าบ้าน ในขณะที่ครูบัวยังคงยักแย่ยักยันอยู่กับจักรยานคันโตของพ่อเลี้ยงอยู่เลย

“จ้า...ป้าพุดก็รีบตามมานะจ๊ะ” ไลเกอร์ยังมีน้ำใจตะโกนบอกแม่บ้านเก่าแก่ของพ่อด้วยสีหน้าระรื่น

   พุดฤทัยมองตามร่างของทั้งสามคนที่ค่อยๆไกลออกไปบนทางดินแคบๆบริเวณหลังบ้านแล้วก็ให้กังวลใจนัก ถึงแม้อาการของสองแสบจะแสดงออกกับครูบัวไปในทางบวก แต่หล่อนไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะฉายาสองแสบสะท้านเหมืองสิงห์นั้นไม่ใช่ฉายาที่ตั้งกันมาพล่อยๆ มันมีปูมหลังและหลักฐานที่ไม่สามารถจดบันทึกไว้ได้หมด...เพียบ...เพราะฉะนั้นหล่อนจึงค่อนข้างจะเป็นห่วงเพื่อนใหม่ต่างวัยอยู่ไม่น้อย ว่าจะเอาเจ้าสองแสบ ‘อยู่’ ได้อีกนานเท่าไหร่

   ...ปี๊น...ปี๊น...

   เสียงแตรรถที่ดังมาพร้อมเสียงล้อรถบดถนนค่อยข้างคุ้น ปลายเท้าของแม่บ้านนายเหมืองที่กำลังจะเดินกลับไปที่ครัวจึงหยุดอยู่กับที่ แล้วหันไปมองทางต้นเสียงว่าเจ้าของมันคือใคร ทำไมเสียงมันถึงดังได้แสบแก้วหูขนาดนี้

‘อุ๊ยตาย...รถสีแบบนี้ มีคันเดียวในโลก...’

“สวัสดีค่ะคุณป้าพุด...นายเหมืองอยู่มั้ยคะ...”

   ประโยคทักทายประจำของเจ้าหล่อนที่มาพร้อมการลงมายืนยกมือไหว้ย่อเข่าจนกระโปรงแทบฉีกข้างๆรถเต่าสีชมพูแปร๋น เป็นอะไรที่ค่อนข้างทำให้พุดฤทัยเหนื่อยใจอย่างไรก็ไม่ทราบ...วันก่อนหล่อนก็เพิ่งมา...วันนี้ก็มาอีกแล้ว...

“นายเหมืองไม่อยู่หรอก...แล้ววันนี้เอาอะไรมาฝากอีกล่ะ วันก่อนโน้นก็ลิ้นจี่ วันนี้มีมะม่วง ‘แรด’ มาฝากเหรอจ๊ะ...แหมดีจัง อิฉันจะได้ไปทำน้ำปลาหวานเตรียมไว้...” คำพูดถูกส่งไปพร้อมรอยยิ้มหวานเจี๊ยบ พุดฤทัยจงใจเมินไม่เชิญหล่อนขึ้นมาบนบ้าน เพราะขี้เกียจเอาน้ำร้อนมาสาดเช็ดทำความสะอาด ปล่อยให้ยืนบนส้นสูงห้านิ้วของหล่อนอยู่ข้างๆรถเต่าสีเจ็บทรวงไปนั่นแหละดีแล้ว

“อุ๊ย...เปล่าหรอกค่ะ วันนี้บิวตี้ไม่มีอะไรมาฝาก ต้องขอโทษด้วยนะคะ...แต่คือว่า คุณป้าพุดขา...เมื่อวานบิวตี้ไปเดินตลาดมา...แล้วมันมีข่าวลือเกี่ยวกับนายเหมืองหลุดออกมาหนาหูมาก แต่ว่าบิวตี้ไม่เชื่อ ก็เลยว่าจะมาถามเจ้าตัวเขาตรงๆ ไม่ทราบว่านายเหมืองจะกลับมากี่โมงเหรอคะคุณป้าพุด” หญิงสาวรูปร่างอวบอั๋นวัยยี่สิบกว่าๆ ในชุดเสื้อรัดรูปกับกระโปรงยาวเหนือเข่าแต่ผ่าข้างสูงเกือบถึงก้นทำท่าจีบปากจีบคอถาม พุดฤทัยขัดลูกกะตากับเสื้อผ้าหน้าผมของเจ้าหล่อนเป็นที่สุด หล่อนยังเป็นคนแก่ที่พอใจกับการแต่งตัวแบบถูกกาลเทศะมากกว่า...มาเจอแบบนี้แล้วมันเกินจะรับไหวจริงๆ

“นายเหมืองไม่อยู่หรอกค่ะคุณตีลังกา...เอ๊ย ติรกา...แต่มีอะไรก็ถามป้าได้นะคะ ป้ารู้ทุกเรื่องของนายเหมืองนั่นแหละค๊า...” เห็นอีกฝ่ายใส่จริตมาในคำพูดขนาดนั้นแล้วพุดฤทัยก็อดไม่ได้ ต้องเล่นกลับกับเจ้าหล่อนเสียหน่อย

   แม่บ้านสาวใหญ่มองท่าทางหญิงสาวรุ่นลูกเอามือเกาปากแล้วก็รู้ในเจตนาทันทีว่าคงอยากเม้าท์มอยกับแกเต็มแก่แล้วแน่ๆ สาวใหญ่ประจำบ้านของนายเหมืองสิงห์จึงรีบออกปากแหย่นำคำพูดให้นางเปิดปากเสียก่อน เพราะหล่อนต้องการรู้เรื่องราวที่หญิงสาวนามตีลังกาจะเอามาให้นายเหมืองของหล่อนต้องปวดหัวในอนาคตกาล

“เอ่อ...จริงๆแล้วเนี่ย มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะคะ คือว่า...” เจ้าหล่อนยังมีท่าทางไม่อยากจะพูด แต่ทว่ารองเท้าส้นสูงสีส้มสดกลับขยับเข้ามาใกล้พุดฤทัยขึ้นเรื่อยๆ พร้อมมือที่ทาเล็บสีเดียวกับรองเท้าก็ยกขึ้นมาป้องข้างปาก เตรียมพร้อมที่จะเม้าท์มอยกับหล่อนเสียเต็มที่ แลดูขัดกับท่าทางเจ้าหล่อนเสียจนพุดฤทัยอดไม่ได้ที่จะต้องแอบหันไปเบะปากไม่ให้เจ้าหล่อนเห็น ก่อนจะหันกลับมาทำท่ายิ้มเยื้อนเชื้อเชิญให้แม่ตีลังกามากระซิบกับหล่อนใกล้ๆได้

“...คือ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ คนที่ตลาดน่ะค่ะเขาลือกันว่า...นายเหมืองหาแม่ใหม่ให้น้องไลเกอร์กับน้องไทกอนได้แล้ว ข่าวว่านายเหมืองพาออกไปซื้อของที่ตลาดด้วยตัวเองเลยเชียวนะคะ...ยัยนุกนิกที่ขายของอยู่ร้านกิ๊ฟช็อพบอกว่านายเหมืองไปยืนอยู่หน้าร้าน ยืนเลือกระหว่างที่คาดผมกับยางมัดผมอยู่ตั้งนานแน่ะค่ะ แล้วไอ้เด็กสองแสบ เอ๊ย...น้องสองแสบก็ติดแม่ใหม่แจ ข่าวว่าแม่นั่น...เอ๊ย คุณคนนั้นน่ะค่ะ เขามาเป็นคุณครูคนใหม่ของน้องสองแสบด้วยใช่มั้ยคะ...จริงๆหนูก็ไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องของคนอื่นมากนักหรอกนะคะ แต่เผอิญว่ามันลอยมาเข้าหูหนูเองอ่ะค่ะ...”

   พุดฤทัยมองคนบอกว่าไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่น แต่พูดออกมาเสียยืดยาวแถมยังละเอียดยิบเสียราวกับเจ้าตัวไปสืบมาจากคนทั้งตลาดแล้วอัดเสียงเอาไว้มาย้อนฟังทีหลังซักยี่สิบรอบด้วยอารมณ์หมั่นไส้

   ...แหม แล้วบรรยายมาเสียละเอียดยิบอย่างกับไปอยู่ในเหตุการณ์จริงเสียเอง...หื้ม! เกิดมาจนหัวสองสีขนาดนี้ไม่เคยพบไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้เลยให้ตายสิ...

   ...เอ...ว่าแต่เมื่อกี๊หล่อนบอกว่านายเหมืองไปยืนดูที่คาดผมกับยางรัดผมงั้นเหรอ...จะใช่ที่ครูบัวกับสองแสบมัดอยู่วันนี้รึเปล่าเนี่ย...

“อุ๊ยตาย...งั้นเหรอคะ ข่าวไวนะคะเนี่ย...”

“ใช่ค่ะ...ข่าวไว๊ไว...เอ๊ะ เมื่อกี๊คุณป้าพุดบอกว่าข่าว...มัน...ไม่ใช่...เรื่องจริงใช่มั้ยคะ” คนถามออกอาการชะงักกึกเล็กน้อย แต่พุดฤทัยกลับยิ้มแฉ่งแล้วตอบกลับด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งเป็นครั้งแรกว่า

“...ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ เรื่องจริงแท้แน่นอนเลยค่ะ...ไม่ต้องทำหน้างงหรอกนะคะคุณตีลังกา เอ๊ย...คุณติรกา ถ้าไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอกค่า...แหม เรื่องมันน่ายินดีนะคะ ว่ามั้ยคะ...” พูดแล้วนางก็ป้องปากหัวเราะแบบอารมณ์ดีเสียเต็มประดา แล้วหยอดต่อด้วยหลักฐานที่ทำให้คุณตีลังกาของหล่อนอยากจะตีลังกาขึ้นมาจริงๆว่า “...นี่นะคะ นายเหมืองยังยกจักรยานตัวเองให้ครูบัวเขาไปเลย นี่สองแสบก็พา ‘แม่คนใหม่’ ไปนั่งเล่นที่ฐานทัพลับด้วยนะคะ เมื่อวานก็พาไปเปิดตัวกับพวกคนงานมาแล้ว...อีกซักพักถ้ามีงานมงคลตามมาป้าจะส่งการ์ดเชิญไปให้ด้วยนะคะ...ไม่ลืมแน่ค่ะ ไม่ต้องห่วง...ฮิฮิ”

   พูดจบแล้วพุดฤทัยก็ยังตลท้ายด้วยเสียงหัวเราะร่า เมื่อได้เห็นสีหน้าตกตะลึงนิ่งงันของแม่ชะนีสาว ที่วิ่งเร่หาตัวผู้มานานแรมปี แต่สุดท้ายก็ได้แต่แห้วไปรับประทานอย่างสะใจยิ่งนัก...แม่คนนี้ถ้าไม่เจอไม้นี้คงไม่เข็ด เอาให้มันรู้ไปสิว่าถ้าหล่อนรู้แล้วว่านายเหมืองของเธอมีเจ้าของแล้วยังจะตามอยู่อีกก็ให้ได้เห็นกันไปเลยว่าหน้าแม่ตีลังกานี่ มันราดด้วยคอนกรีตหรือทับด้วยยางมะตอยไปแล้วกันแน่

   ติรกามองตามร่างอวบท้วมของแม่บ้านสาวใหญ่ของผู้ชายที่หล่อนมองปองแล้วอาการกัดปาก หล่อมาเทียวไล้เทียวขื่อบ้านนี้อยู่นาน ได้เจอนายเหมืองบ้างไม่ได้เจอบ้างก็เพราะสาวใหญ่นางนี้นี่แหละ ทำไมจะไม่รู้ว่าแม่สาวอวบนั่นไม่ค่อยชอบขี้หน้าหล่อน...แต่ที่ต้องทำเป็นดีด้วยนี่ก็เพราะเจ้านายของแม่พุดฤทัยนี่หรอก คอยดูเถ๊อะ...วันไหนที่นายเหมืองยอมรับหล่อนเป็นเมียล่ะก็ แม่นี่จะได้มาก้มกราบกรานอยู่แทบเท้าหล่อนนี่แหละ

“เอ๊ะ...เมื่อกี๊ยัยป้านั่นบอกว่าแม่คนนั้นเล่นกับไอ้เด็กแสบอยู่ที่ฐานทัพลับใช่มั้ย...งั้นก็ขอดูหน้าหน่อยเถ๊อะ...จะได้รู้ว่าไอ้ที่บอกน่ารักนักน่ารักหนานี่มันจริงหรือมั่วกันแน่...เพราะทั้งตำบลเนี่ย...ใคร๊จะมาสวยเกินฉัน...หึ ไม่มีทาง เดี๋ยวเธอได้เจอฉันแน่...อินังบัวเน่า!”

   หญิงสาวยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะกระแทกเท้าเดินกลับไปที่รถเต่าสีแสบตา เพื่อมุ่งหน้าไปยังฐานทัพลับที่ว่าตามต้องการ

------------------------------------------------------------------

“ครูตาหวาน...แล้วไอ้นี่เกอร์จะเอาตรงไหนเป็นส่วนสูงของมันอ่ะ...เส้นนี้หรือเส้นนี้อ่ะครู” ไลเกอร์ขยับหัวที่นอนหนุนตักครูตาหวานของแกให้ดีๆ ก่อนจะเอียงสมุดจดที่ครูตาหวานเพิ่งให้โจทย์คณิตศาสตร์มาให้ครูดู บัวก้มดูสมุดจดเด็กก่อนจะถามกลับว่า

“แล้วเกอร์คิดว่าเส้นไหน...”

“เกอร์ว่าเกอร์ต้องวาดเส้นสมมติแล้วล่ะครู เพราะสองเส้นนี้มันเอียงทั้งคู่...ก็ครูตาหวานบอกว่าเส้นที่บ่งบอกส่วนสูงจะต้องตั้งฉากกับฐานด้วยใช่มั้ย...” ไลเกอร์ว่า มีน้องชายนายไทกอนที่นอนอยู่บนตักอีกด้านพยักหน้าหงึกหงักตาม

“เก่งมาครับ เอ้าไหนลองวาดแล้วหาพื้นที่ดูซิ...ใครทำข้อนี้เสร็จก่อนเดี๋ยวให้กินข้าวก่อน...” บัวว่า สองแสบจึงรีบพลิกตัวกลับไปนอนคว่ำที่เสื่อซึ่งปูลาดอยู่บนพื้นหญ้าแล้วก้มหน้าก้มตาขีดเขียนกันใหญ่

   บัวอมยิ้ม มองภาพเด็กสองคนที่นั่งขนาบข้าง ก่อนจะเอนตัวเท้าแขนไปข้างหลังแล้วเงยขึ้น...แม้พระอาทิตย์จะกำลังส่องอยู่ตรงหัว แต่บัวก็ไม่รู้สึกร้อนเลยซักนิด เพราะเหนือหัวบัวคือต้นปีบที่ยังไม่ออกดอกแต่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมากว้างมาก แต่ตรงนี้กลับไม่ได้มีแค่ต้นปีบต้นเดียว ข้างๆกันยังมีต้นตะแบกกับต้นราชพฤกษ์ขึ้นประกบอยู่ทั้งสองข้าง สองแสบบอกว่าเวลาที่มันบานพร้อมกันทั้งสามต้นนั้นเป็นอะไรที่สวยที่สุด ดอกไม้สามสีที่มาพร้อมกลิ่นหอมๆของดอกปีบที่ขึ้นอยู่ตรงกลาง เป็นช่วงเวลาที่สองแสบคิดถึงเป็นที่สุด นอกจากนี้ไลเกอร์ยังบอกอีกว่า เมื่อก่อนนั้นมีแค่ต้นปีบต้นเดียวที่ขึ้นอยู่ที่นี่ แต่พอไลเกอร์กับไทกอนเกิด พ่อก็เอาต้นตะแบกกับราชพฤกษ์มาลงไว้ให้เพิ่ม เพราะมันเป็นต้นไม้ประจำราศีเกิดของทั้งสองคน ในขณะที่ต้นปีบซึ่งอยู่ตรงกลางนั้นเป็นต้นไม้ประจำราศีเกิดของคุณแม่ของเด็กแสบทั้งสองนั่นเอง...แล้วพอบัวถามว่า แล้วไม่มีต้นไม้ของนายเหมืองเหรอ เห็นมีแค่สามต้น สองแสบก็บอกว่าต้นไม้ประจำราศีเกิดของพ่อนั้นคือต้นสัก ซึ่งต้นสักก็มีอยู่ที่นี่ แต่พ่อไม่ได้ปลูกเป็นต้น แต่ปลูกเป็น ‘บ้านต้นไม้’ หลังเตี้ยๆที่โอบล้อมต้นปีบและตะแบกกับราชพฤกษ์อยู่ข้างหลังนี่เอง...

   บัวเอี้ยวตัวหันไปมองบ้านต้นไม้หลังที่ว่า มันเป็นบ้านเตี้ยๆชั้นเดียว ที่มีบันไดวนขึ้นไปไม่กี่ขั้นก็ถึงตัวบ้านแล้ว เมื่อกี๊ตอนมาถึงสองแสบพาบัวเดินเข้าไปดู ข้างในก็มีแค่ของเล่นเด็ก ฟูกเก่าๆ โต๊ะญี่ปุ่นสองตัว กับกองหมอนสี่ห้าใบซึ่งตอนนี้มันถูกขนลงมากองอยู่บนเสื่อนี่หมดแล้ว...ไทกอนเล่าว่าตอนพ่อสร้างบ้านต้นไม้ขึ้นนั้นพวกเขาอายุเพิ่งจะสี่ขวบกว่า พวกเขาไม่ค่อยมีความรู้สึกผูกพันธ์กับแม่มากนักเพราะแม่เสียไปเร็วตั้งแต่ไทกอนเพิ่งได้ขวบครึ่ง จะยกเว้นก็แต่บ้านต้นไม้กับต้นปีบนี่แหละ ที่พ่อเล่าให้ฟังว่า ในเมื่อแม่นั้นเป็นต้นปีบที่ให้ร่มเงาแล้ว พ่อก็จะเป็นบ้านไม้สักเอาไว้ให้พวกเขาพักพิงควบคู่กันไป...แม่เป็นคนใจเย็น เหมือนต้นไม้ที่คอยให้ร่มเงากับทั้งพ่อและพวกเขา ตั้งแต่เด็กพวกเขาสองคนเลยยึดต้นปีบต้นนี้เป็นเสมือนตัวแทนของแม่ และเอาบ้านต้นไม้มาทำเป็นฐานทัพลับ ที่พวกเขาชอบหลบพ่อมานั่งเล่นอยู่ที่นี่บ่อยๆ...

   ...ต้นปีบกับบ้านต้นไม้ จึงเป็นสมบัติชิ้นสำคัญของพวกเขาทั้งสองคนที่สุดในชีวิต...

“ไททำเสร็จแล้ว!!! ไทกินข้าวได้แล้วใช่มั้ยครับครู” ไทกอนลุกพรวดพร้อมยกมือขึ้นเริงร่า บัวรับสมุดเด็กมาดูก่อนจะมองดูคำตอบแล้วขมวดคิ้ว...

“แน่ใจนะไทว่าคำตอบคือ 26...” บัวดัก เด็กเริ่มมีท่าทางไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมาทันที

“เอ๊ะ...แต่เกอร์ได้ 21 อ่ะ...เกอร์ผิดเหรอ...” ไลเกอร์ยื่นสมุดเอามาเทียบกับน้องชาย...รูปครูก็วาดเหมือนกันนี่หว่า ส่วนสูงคิดออกมาแล้วก็ใช่...แล้วทำไมคำตอบมันต่างกันอ่ะ...

“ฮ่ะๆ...ไม่ต้องทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเลยเด็กๆ คำตอบน่ะถูกทั้งคู่ครับ...ครูให้เลขฐานไม่เท่ากันเห็นรึเปล่า เพราะฉะนั้น...พักกินข้าวได้!” บัวเฉลยพร้อมยิ้มแก้มปริ ใครบอกว่าเด็กแสบเป็นอย่างเดียว คนอย่างครูบัวก็แกล้งเด็กเป็นนะเออ

“โหยยยย...ครูอ่ะ” สองแสบบ่นกันขรม เพราะนึกว่าตัวเองคิดผิดทั้งๆที่คิดกันอย่างดีแล้วแท้ๆ

   บัวลูบหัวสองแสบปลอบใจไปคนละที ก่อนจะหยิบข้าวกล่องออกมาแจกจ่ายแล้วเปิดพร้อมกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2014 03:01:49 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
“โห...! ของครูตาหวานน่ากินจัง” ไทกอนชะโงกหน้าออกมาดู

“นั่นดิ ของเกอร์มันปนกันมั่วเลยอ่ะครู” ไลเกอร์ก็ผสมโรงทำด้อมๆมองๆกล่องข้าวในมือครูตาหวาน

“หืม จะแย่งข้าวครูกินเหรอ” บัวแกล้งทำเป็นพูด เด็กสองคนมีอาการเสียดายแต่ก็ส่ายหน้าให้ว่าไม่แย่งหรอก ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองข้าวกล่องของตัวเองแล้วเตรียมจะจ้วงกิน

“งั้น...จะกินกับครูมั้ยล่ะ เดี๋ยวครูป้อนให้...” บัวว่าอย่างใจดี สองแสบหันขวับ พร้อมทำประกายตาวิบวับ เด็กสองคนลุกนั่งพับเพียบพร้อมยื่นกล่องข้าวของตัวเองให้ครูตาหวานแล้วอ้าปากรออย่างใจจดใจจ่อ

“โตจนจะขึ้นป.6 กันอยู่แล้วนะ...ยังชอบให้คนอื่นป้อนให้อยู่อีกนะสองแสบ...” คนเป็นครูถึงปากจะบ่นแต่มือก็เอื้อมไปหยิบกระติกน้ำเปล่าออกมาเทล้างมือ วันนี้กับข้าวมีแค่ปลาทู ไข่ต้มแล้วผักชุบแป้งทอดกับข้าว แต่แค่นั้นมันก็เยอะแยะเหลือเฟือแล้วกับคนทั้งสาม

   บัวเช็ดมือกับกระดาษทิชชู่จนแห้ง ก่อนจะใช้มือตัวเองนี่แหละ แกะเนื้อปลาคลุกกับข้าว เหยาะน้ำปลาใส่ผักกับไข่อย่างละนิดหน่อย ก่อนจะใช้นิ้วปั้นข้าวเป็นคำๆแล้วเอาป้อนใส่ปากให้เด็ก...สองแสบกินข้าวจากมือครูบัวกันอย่างอร่อยปาก กินข้าวกับปลาทูด้วยช้อนมันจะอร่อยได้ยังไง...ขนาดบัวเองโตจนป่านนี้แล้วก็ยังชอบให้แม่ใช้มือแกะปลาเอาคลุกข้าวป้อนให้ด้วยมืออยู่เลย...มันอร่อยกว่าใช้ช้อนเยอะ...

“ครูตาหวานนนน เกอร์เอาปลาเยอะๆ...จะได้ฉลาดๆ” ไลเกอร์ร้องขอ ก่อนจะอ้าปากรับข้าวคำต่อไปจากมือครูบัว

“ครูตาหวานนนน ไทก็เอาผักเยอะๆ...จะได้ฉลาดกว่าเกอร์” ไทกอนว่าบ้าง...คนพี่ได้ยินก็ค้อนขวับ ยื่นหน้ามาแย่งคำข้าวของคนเป็นน้องไปกินเองสบายใจเฉิบ...

“ง่ะ!!!! ครูบัวดูมันทำดิ!! ไลเกอร์นิสัยไม่ดี...เป็นพี่ไม่แบ่งปันน้อง!!” ไทกอนฟ้องงอแง

“ไม่เอาลูก ไลเกอร์เป็นน้อง ไม่เรียกพี่ว่ามันนะครับ...ส่วนไลเกอร์ คราวหลังไม่ทำแล้วนะลูก ข้าวน้องห้ามแย่ง...ไม่งั้นครูจะให้เกอร์อดขนมหวาน...”

“ง่ะ!!!! ครูบัวอ่า...ไม่เอาดิ อ่ะก็ได้...เกอร์ไม่แกล้งน้องก็ได้ งั้นตัวเอานี่ไป...เขาให้ผัก!!!” พร้อมกับที่พูดไลเกอร์ก็หยิบผักทอดในกล่องข้าวตัวเองที่วางอยู่บนตักครูบัวใส่ลงไปในกล่องข้าวน้อง ไทกอนยังมีอาการหน้าบึ้งแต่ก็แอบเหล่ตามองพี่ชายน้อยๆ

“เวลากินข้าวห้ามกัดกันสิลูก...คราวนี้ถ้าใครเริ่มทะเลาะก่อนอีกครูบัวจะงดของหวานกันทั้งคู่เลย” บัวว่าทีเล่นทีจริง เด็กมันก็รู้จึงแสร้งทำหน้าสลดกันอยู่แค่ครู่เดียวแล้วก็กลับมาเริงร่ากันใหม่อีกครั้งเมื่อบัวเริ่มป้อนคำต่อไปให้ใส่ปาก

   ในระหว่างที่เด็กสองคนร่าเริงอยู่กับการแย่งกันกินข้าวจากมือครูบัวอย่างสนุกสนาน เสียงเยียบเย็นแหลมเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากทางถนนเส้นๆที่ทอดยาวมาถึงบ้านต้นไม้ทางด้านหลังว่า

“แหม...สนุกสนานกันดีจังเลยนะคะ ขอน้าบิวตี้ร่วมด้วยอีกคนได้มั้ยคะ น้องไลเกอร์ น้องไทกอน” ติรกาที่เดินเข้ามาตามเสียงหัวเราะของเด็กเอ่ยขึ้นด้วยความชิงชัง เมื่อมองภาพคนสามคนกำลังหัวเราะสนุกสนานเฮฮา มันเป็นภาพที่หล่อนใฝ่ฝันหาว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้นสักครั้ง...แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสเลย

   ...แล้วแม่นี่เป็นใครกัน มาจากไหน จู่จะโผล่มาเป็นแม่ของไอ้เด็กแสบสองตัวนี่ได้ยังไง ทำไมหล่อนไม่เคยรู้เรื่องเลย...

“อ้าว...น้าตีลังกา มาได้ยังไงฮะ” ไทกอนหันมองคนต้นเสียงที่เข้ามาใหม่ตาขวาง แม่นี่อีกแล้ว...โผล่มาแต่ละทีไม่แคล้วต้องมีเรื่องให้เขาและไลเกอร์ต้องออกโรงทุกทีสิน่า

“แหม...เรียกน้าเสียเสียหายเลยนะคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกน้าไม่โกรธ...ก็เด็กไม่มีแม่คอยสั่งสอนนี่นะคะ จะก้าวร้าวและไม่รู้จักมารยาทก็เป็นเรื่องปกติ...” ติรกาเอ่ยพลางปรายสายตามองครูบัวที่นั่งอยู่กลางวงล้อมของเด็กๆ สายตาไม่เป็นมิตรถูกส่งให้ไปแบบค่อนข้างจะเปิดเผย ไลเกอร์ฟังแล้วก็รีบเขยิบมานั่งขวางอยู่หน้าครูบัว เพราะถึงตัวเองจะเป็นแค่เด็กป.6 แต่ใช่ว่าพวกเขาสองคนจะไม่เข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น สำหรับพวกเขาสองคนนั้นค่อนข้างชินไปเสียแล้วกับการโดนว่ากระทบกระเทียบของผู้หญิงคนนี้ คงเห็นพวกเขาเป็นเด็กล่ะสิเลยไม่คิดว่าพวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ ‘พ่น’ ออกมา...

ทว่าไลเกอร์ที่ตั้งท่าว่าจะปกป้องไม่ให้ครูบัวต้องมารับรู้หรือยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ไปด้วยอีกคนก็ต้องตกใจ...เมื่อจู่ๆครูตาหวานของแกที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังก็วางกล่องข้าว เอามือเช็ดกับกระดาษทิชชู่ที่อยู่ข้างๆลวกๆแล้วก็เอามือมาสอดเข้าใต้รักแร้ไลเกอร์ แล้วยกออกไปวางไว้ข้างหลังตัวเอง พร้อมกับเอาอีกมือไปลากไทกอนให้ขยับไปนั่งรวมอยู่กับพี่ โดยที่เอาตัวเองมาบังเด็กสองคนไว้แล้วเงยหน้าไปยิ้มให้กับผู้มาใหม่ แล้วถามกลับอย่างสุภาพว่า

“จริงๆแล้วเด็กจะเกิดการเรียนรู้ปฏิกริยาตอบสนองจากผู้ใหญ่ที่อยู่รอบตัวนะครับ ใครมาดี...พวกแกก็จะดีตอบ แต่ถ้าใครมาไม่ดี เด็กจะโต้ตอบด้วยพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าไม่พอใจเพื่อปกป้องตัวเอง ก็เป็นเรื่องปกตินะครับ...” บัวบอก ก่อนจะยิ้มแย้มให้อย่างมีอัธยาศัย ในขณะที่ผู้มาใหม่เริ่มขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อได้ยินคำลงท้ายว่า ‘ครับ’ แถมยังตัดผมเสียสั้นเต่อ แล้วยังแต่งตัวปอนๆอีก

                  ...นี่เมียใหม่นายเหมืองเป็นทอมเหรอเนี่ย! แถมยังกล้ามาต่อปากต่อคำกับหล่อนอีก...

...เห็นท่าทางหงิมๆไม่คิดว่าจะร้ายใช่เล่น...หนอย ไม่รู้ฤทธิ์เธอเสียแล้ว...

“พูดได้ดีนะคะ...แต่ถ้าไม่รู้จริง ก็กรุณาอย่าสอด...ดิฉันมั่นใจว่าดิฉันรู้จักครอบครัวนี้มานานกว่าคุณ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครเหรอคะ คนงานใหม่...ที่นายเหมืองจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงดูแลสองแสบนี่รึเปล่า ถ้าใช่...ก็กรุณารู้จักเจียมตัวเองอยู่ในขอบเขตเสียบ้าง...ไม่งั้นอนาคตมันจะลำบาก” ติรกาจงใจเอ่ยใส่หน้าใสๆของคนที่นั่งขวางอยู่ตรงกลางระหว่างหล่อนกับเด็กสองคน ความชิงชังปรากฏให้บัวเห็นอย่างเด่นชัด

   แม้บัวจะไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้และไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เจ้าหล่อนมาก่อน..แต่จากคำพูดจาส่อเสียดใส่ลูกศิษย์ของเขาเมื่อครู่นี้ก็ทำให้บัวเริ่มตั้งตนเป็นปรปักษ์นิดๆกับคนตรงหน้าได้ไม่ยาก

“ครับ...ผมเป็นคนงานใหม่ เป็นครูสอนพิเศษของเด็กน่ารักสองคนนี้...” บัวหยุดเว้นวรรคไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำเป็นป้องปากแล้วหันไปทำท่าอาเจียนอยู่ข้างๆ “เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามาพูดจาว่าลูกศิษย์ของผมว่าไม่มีใครสั่งสอนอีก...ถ้าจะด่า ก็ด่าครูอย่างผมโดยตรงเลยดีกว่า...อย่ามาพูดจาเอาเรื่องพ่อแม่ของเด็กมาเล่นแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างคุณไม่ควรจะทำ...”

   บัวจ้องอีกฝ่ายที่มีอาการมองเขานิ่งค้างด้วยแววตาคมปราบ ปกติเขาไม่ค่อยจะมองใครหรือพูดจาอวดดีแบบนี้กับใครบ่อยนัก แต่กับผู้หญิงคนนี้ สัญญาณเตือนภัยมันดังก้องอยู่ในหัว ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มาดีทั้งกับเขาและสองแสบ เพราะฉะนั้นในฐานะครู ตัวเขาจะโดนว่าโดนด่าอะไรนั้นไม่เป็นไรเลย แต่อย่ามาแหยมกับลูกศิษย์ของบัวเด็ดขาด บัวรักของบัว บัวดูแลเด็กเหมือนลูกของบัวเองเหมือนที่แม่สอน เพราะฉะนั้นถ้าหวังจะมาทำอะไรลูกของบัว บัวไม่มีทางยอมแน่...     

“แก...! ปากกล้านักนะ...!!! จะทำไม ก็แม่มันตายไปแล้ว...เด็กสองคนนี้มันก็เลยเป็นเด็กแม่ไม่สั่งสอนจริงๆนี่ ครูกี่คนๆก็เอามันไม่อยู่ ไม่มีใครเขาอยากทนอยากอยู่ใกล้ อยากสอนเด็กดื้อเด็กไม่ดีอย่างพวกแกสองคนหรอก รู้เอาไว้ด้วย...กรี๊ดดดด”

   สิ้นประโยคที่คนพูดพูดพลางชี้หน้าคนฟังพลางก็เกิดเหตุการณ์ชลมุนขึ้นมาเล็กๆ เมื่อจู่ๆก็มีก้อนดินก้อนหนึ่งลอยข้ามหัวบัวไปชนเข้าดั้งจมูกคนทาปากชมพูแป๊ดเข้าอย่างจัง ก่อนที่มันจะตามมาด้วยระเบิดลูกดินอีกหลายระลอก พร้อมเสียงเล็กๆสองเสียงที่ดังประสานกันให้จังหวะโยนดินไม่มีติดขัด

“ไทๆ เอาตรงหน้าผากเลยๆ” ไลเกอร์เชียร์น้อง เขาปาไม่แม่นเท่าไหร่ เมื่อกี๊กะให้เข้าตรงรูจมูกแต่ดันปาไปเข้าปากซะงั้น

“โธ่เกอร์!! ทำปาไปลงคอเสื้ออ่ะ บอกว่าให้เข้าตรงคางไง ยายพุดบอกว่าเขาทำคางมาด้วย เอาให้เบี้ยวเลยเกอร์!!” ไทกอนก็เสริมพี่...

   บัวมองอาการเข้าขากันดีของสองพี่น้องแล้วก็ได้แต่อึ้งในคราแรก ก่อนจะรีบวิ่งไปตะปบลูกปูสองตัวที่เริ่มวิ่งวุ่นหากระสุนก้อนดินพร้อมหนีครูบัวไปทั่วเสื่ออย่างสนุกสนาน ส่วนข้าศึกที่มารุกรานก็ร้องกรี๊ดวี๊ดว้ายยกใหญ่ ก่อนจะพ่ายศึกกระสุนก้อนดินไปอย่างราบคาบ เมื่อโดนกระสุนพุ่งยิ่งเข้าใส่ดั้งจมูกไปอีกสองนัดซ้อน...

“กรี๊ดดดดด ฝากไว้ก่อนเถอะพวกแก๊...ถ้าฉันเจอนายเหมืองเมื่อไหร่พวกแกไม่รอดแน่...กรี๊ดดดดด สกปรก! ไอ้เด็กบ้า...ไอ้...กรี๊ดดดดด”

“ฝากไว้หลายทีแล้วนะป้า...แล้วอย่าลืมมาเอาคืนเร็วๆน้า...” ไทกอนมีการโบกไม้โบกมือให้หญิงสาวในชุดสีแสบตาที่รีบวิ่งกระหย่องกระแหย่งจากไปพร้อมหิ้วรองเท้าส้นสูงเปื้อนดินไปอย่างร่าเริง ไลเกอร์วิ่งเข้ามาใกล้น้องชายพร้อมเอามือป้องปากตะโกนบอกออกไปอีกคน

“ฝากไว้นาน ระวังมันเน่านะป้า...อย่าลืมล่ะ!”

“ไลเกอร์! ไทกอน! ไม่เอาลูก...! ไม่ทำอย่างนี้...หนูเป็นเด็ก ทำร้ายผู้ใหญ่แบบนี้ไม่ดีรู้มั้ยครับ...” บัวรีบเข้ามาปราม กว่าจะวิ่งต้อนสองนายให้มารวมกันอยู่ในอ้อมแขนนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่าเมื่อเห็นสองแสบหันกลับมามองเขาพร้อมพนมมือขึ้นแล้วยกขึ้นไหว้เขาอย่างนอบน้อมแล้วบัวก็โกรธไม่ลง

“ไลเกอร์ขอโทษครับ! / ไทกอนขอโทษครับ!” คำขอโทษเสียงดังฟังชัดดังมาจากสองหนุ่มน้อย บัวขมวดคิ้วมองอาการเด็กอย่างงงเล็กๆ ก่อนจะกางแขนออกกว้างแล้วพาโอบทั้งสองคนเข้ามากอดไว้แน่น

“ถ้ารู้ว่าไม่ดีก็ดีแล้ว...แต่อย่าทำแบบนี้อีกรู้มั้ยครับ คราวหลังถ้าเขามาอีกก็ให้รีบมาบอกครู บอกคุณพ่อ ไม่ก็ยายพุด...แต่เราอย่าใช้กำลังทำแบบนี้ มันเป็นอาการของเด็กเกเร รู้รึเปล่าครับ” บัวปลอบพลางสอน สองมือลูบหลังลูบไหล่เด็กน้อยสองคนที่กอดยึดเขาเอาไว้แน่น

“เกอร์รู้ครับว่ามันไม่ดี...แต่เกอร์ไม่ชอบที่ผู้หญิงคนนี้มาพูดว่าครูตาหวาน ครูตาหวานยังไม่ได้ทำอะไรเขาเสียหน่อย” ไลเกอร์พูดขึ้น

“ใช่ๆ ไทก็ไม่ชอบ...เขาว่าไทกับเกอร์น่ะไม่เป็นไรหรอก พวกผมชินแล้ว...แต่ไทไม่ชอบให้เขามาว่าครูตาหวานว่าครูไม่อยากทนสอนเด็กดื้ออย่างไทกับเกอร์...” คนเป็นน้องพูดบ้าง บัวจับแขนเด็กสองคนออกห่างจากตัวเพื่อจะได้มองตาเด็กได้ชัดๆ สองคนทำหน้าตูมพร้อมก้มหน้าเล็กน้อย ถ้าจะให้เปรียบเป็นสัตว์ ตอนนี้เด็กสองคนข้างหน้าเขานี่คงเปรียบเหมือนลูกหมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวโตๆสองตัว กำลังทำท่าหูลู่หางตก เหมือนเวลาโดนเจ้าของดุไม่ให้กินข้าวอย่างไรอย่างนั้นเลย

“ใครว่าครูไม่อยากทนไม่อยากสอนไทกอนกับไลเกอร์...อย่าพูดแบบนี้อีกนะครูก็น้อยใจเป็น...ครูหลงรักไทกอนกับไลเกอร์ตั้งแต่แรกพบ...เพราะฉะนั้นอย่าไปหวั่นไหวกับคำพูดของผู้หญิงคนเมื่อกี๊นี้อีก...เลือกเอาว่าจะเชื่อคำครูหรือคนเมื่อครู่ ถ้าเชื่อครูหนูสองคนก็ต้องอดทน...เอาชนะความโกรธของตัวหนูเองให้ได้...แล้วตอนนั้นแหละที่หนูจะชนะเขาได้อย่างแท้จริง” บัวบอก เห็นเด็กทำหน้างงๆอยู่บ้างแต่บัวก็ยิ้มให้ เด็กอย่างสองคนนี้ต้องอาศัยการย้ำทำย้ำพูด เด็กถึงจะจดจำและทำตามไปเอง

   บัวเอามือปัดเศษดินเศษหญ้าที่เปื้อนตามชุดตามหน้าของลูกศิษย์ตัวเองออกให้ ก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องชวนคุยเรื่องอื่นไปว่า
 
“จริงๆแล้วครูก็ไม่ค่อยชอบเขาเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไรมาว่าลูกศิษย์ครูแบบนี้ ครูรักของครูของครูนะ...เจอกันคราวหน้าครูจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องนายเหมืองเลยคอยดู” ถึงจะเตือนเด็กไปว่าให้เอาชนะความโกรธของตัวเองให้ได้ แต่พอบัวคิดย้อนคำพูดพวกนั้นอีกทีแล้วมันก็ยังอดรู้สึกเคืองอยู่นิดๆอยู่เหมือนกัน...การต้องเป็นลูกกำพร้าพ่อตั้งแต่เก้าขวบ ทำให้บัวเข้าใจความรู้สึกเด็กดี...ว่าการโดนว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องขำๆเลยซักนิด

“เอ้ยครูอย่าไปฟ้องพ่อเลยนะ...พวกเราไม่อยากให้พ่อเครียดเพิ่ม ตอนนี้พ่อก็เครียดเรื่องงานเหมืองจะแย่อยู่แล้ว” ไลเกอร์รีบยกมือขึ้นโบกปฏิเสธคำพูดครูตาหวาน ส่วนไทกอนพยักหน้าหงึกหงักรับคำพูดพี่

“ใช่ๆ จริงๆแล้วป้าคนเมื่อกี๊เขาชอบมาหาพ่อบ่อยๆ...บางทีมาไม่เจอพ่อ เจอกับพวกผมแทน เขาก็จะพ่นๆคำพูดพวกนั้นสองสามนาทีก็ไปแล้ว...ไทนะ เคยเอาหินไปกรีดรถ ให้พี่เม่นไปปล่อยลมยาง เอาร้องเท้าป้าแกไปซ่อน เอามดแดงไปใส่ที่ประตูรถ โหย...ครูรู้มะ ป้าแกอึดเหนือคนจริงๆ ยังย้อนกลับมาหาพ่ออยู่ได้...” ไทกอนว่า

“ช่ายๆ ตอนนี้พวกเกอร์ก็เลยเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรป้าแกดีแล้ว ก็เลยเฉยๆทนฟังป้าแกพ่นไม่กี่ประโยค แล้วค่อยเอาไว้ทบต้นทบดอกทีเดียวเวลามีโอกาสเหมาะๆดีกว่า...ฮี่ๆ”

“หา??” บัวเรียกชื่อเด็กสองคนนั้นแบบงงแตกเต็มขั้น รู้สึกตะลึงงันไม่น้อยกับวีรกรรมสุดแสบที่สองคนนี้หลุดบอกตัวเองออกมา ซึ่งมันทำให้ตอนนี้บัวรู้สึกว่าพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ที่แสดงออกกับสองแสบมันก็สมเหตุสมผลอยู่ ก็โดนไปเสียขนาดนั้นนี่นะ... “เอ่อ...สาบานนะว่าที่พูดมาน่ะพวกหนูทำลงไปจริงๆ”

“โหยยย สาบานเลยครู...จริงๆแล้วเรื่องนั้นน่ะแค่จิ๊บๆนะ ที่จริงแล้วยังมีมากกว่านี้อีกเยอะเลยล่ะครูตาหวาน...ตอนนั้นนะไทก็ยังเคย...”

“พอๆแล้วไทกอน...หนูทำหัวใจครูจะวาย...ทำไมซนได้ขนาดนั้นครับสองแสบ แล้วนี่...ไม่โดนคุณพ่อตีเอาเหรอครับ” บัวถาม สายตาจ้องมองสำรวจเด็กสองคนเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก...ที่ยังไม่เคยเจอฤทธิ์เด็กแสบกับตัวเองแบบนั้นเลย

“เรื่องนั้นครูไม่ต้องกังวลเลยครับ...” ไทกอนตอบกลับตาใส

“หมายความว่า...ไม่เคยโดนพ่อตีเลยเหรอ”

“โดนทู๊กกก...วัน ไม่เว้นวันหยุดราชการเลยต่างหากล่ะครับ” ไลเกอร์ตอบแทนน้องชาย พร้อมรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้าที่ทำเอาครูบัวงงแตกรอบสอง...

“เด็กประหลาด...! โดนพ่อตีแล้วดีใจเนี่ยนะ” บัวเย้าสองแสบ เด็กสองคนยักไหล่ บอกการโดนพ่อตีคือกิจวัตประจำวันที่เมื่อก่อนจะขาดไปไม่ได้ เพราะไม่งั้นมันจะนอนไม่หลับ ตดไม่ออก...

   เด็กสองคนหัวเราะขำกับท่าทางอึ้งกิมกี่ของครูตาหวาน ไลเกอร์หัวเราะเอิ๊กอ๊ากก่อนจะเอาหัวมุดท้องครูบัว ส่วนไทกอนคลานงุ้งงิ้งมานอนตักให้ครูบัวเกาคางให้ สองลูกเสือที่กลายเป็นลูกหมายิ้มหัวเราะสนุกสนานเคล้าเคลียคลอครูตาหวานกันอย่างร่าเริง...สิงห์ สุตนันท์ เจ้าของเหมืองหนุ่มที่ยืนแอบฟังอยู่เงียบๆข้างหลังบ้านต้นไม้อยู่พักใหญ่ยกมือขึ้นกอดอก เมื่อกี๊มีอยู่แว่บหนึ่งที่เขามองภาพลูกชายของเขากับครูบัวในตอนนี้ซ้อนทับกับภาพในอดีต เมื่อตอนที่ลูกชายคนเล็กอายุเพิ่งจะครบขวบ จำได้ว่าช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาที่เขามีความสุขมากที่สุด ครอบครัวพวกเขาสี่คนพ่อแม่ลูกชอบมานั่งที่ใต้ต้นปีบนี่ เขาจะชอบนอนบนเสื่อเงียบๆ มองดูภรรยาเล่นกับลูกสองคนไปเรื่อยๆอย่างมีความสุข...ซึ่งภาพนั้นก็ไม่ต่างไปจากภาพในตอนนี้เลย เพียงแต่ว่ามันไม่มีเขานอนอยู่ใกล้ๆบนเสื่อ มองสามคนนั้นเล่นด้วยกันเท่านั้นเอง...

   ชายหนุ่มยืนคิดสะระตะอยู่อีกครู่หนึ่งแล้วจึงตัดสินใจหมุนตัวกลับหลังจากไปเงียบ...ทิ้งเสียงหัวเราะร่าเริงเอาไว้ด้านหลัง...พร้อมกับความคิดบางอย่างที่มันเริ่มชัดเจนขึ้นมาในห้วงจิตสำนึก...

----------------------------------------------------------------------------

to be continue...

ตอนนี้ได้ข่าวเมืองไทยอากาศหนาว...อีกไม่นานหิมะคงตก...แล้วอย่าลืมเอามาฝากกันด้วยนะจ๊ะ จุ๊บุ  :mew1:

ปล.รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจาก...แพทตี้ เด็ดสะระตี่ อิอิ

ออฟไลน์ jilantern

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
เมื่อไรพ่อสิงห์กับครูบัวจะรักกันน๊าาาาาา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ครูบัวกับสองแสบน่าร๊ากกกก ><

ออฟไลน์ woradach

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
น่ารักจริงๆเลยสองแสบ แต่ครูตาหวานก็ตะล่อมเด็ก เก่งจริงๆ อิอิ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ครูบัวออกจะแสนดีขนาดนี้ พ่อสิงห์จีบเลยเหอะ

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
พ่อสิงห์จะทำอะไรน้าาาาา

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
แหม นายเหมืองก็มาอยู่ด้วยกันให้ครบสี่คนพ่อแม่ลูกสิ อิอิ :-[

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
ยัยป้าตีลังกา 55555 สมน้ำหน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
สมกับเป็นลูกสิงห์  วีรกรรมแสบๆโดนๆ ทั้งนั้นเลยน่ะ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
สิงห์บัวคือคู่ที่ดีของนาย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
มีแววว่าหวาน
สิงห์บัว สิงห์บัว

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หลงรักเด็ก 2 คนนี้ไปพร้อมๆ กับครูตาหวานเลย

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
>< สองแสนน่ารักอะ ปกป้องว่าที่คุณแม่ด้วย

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
นายเหมืองตัดสินใจจะทำอะไรนะ
เรื่องที่จะเก็บครูบัวไว้เป็นนายหญิงใช่มะ อิอิ
ชะนีนางนั้นก็ปากไม่มีหูรูดจริงๆ
สองแสบน่าจะเอาดินไปยัดปากซะให้เข็ด ฮึ

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
สิงห์คิดอะไรอ่ะ

ครูบัวน่ารัก

ออฟไลน์ coraline

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ phana_qbz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
สองแสบ นี่มันแสบจริงๆ

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
นายสิงห์รีบรวดรัดจีบครูบัวเลยเถอะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
พ่อสิงห์ว่าไง ลูกโอเคแล้ว

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ครูบัวน่ารักมากกก เหมาะสมที่จะเป็นแม่ เอ้ยยย เป็นครูมากค่ะ


ส่วนเจ้าสองแสบก็แสบเหลือเชื่อ ซึ่งมันก็มองได้สองแง่คือ นังชะนีป่านั่น ก็ร้ายเหลือเกินเด็กๆตอบโต้กลับไปบ้างก็สมน้ำสมเนื้อ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมากไปจนดูก้าวร้าวนะคะ

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ยุให้พ่อเสือจีบครูบัว 55555555555555 :hao6:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
สองแสบนี่สุดยอดเลย ยัยตีลังกานี่ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เลยนะ นายเหมืองเห็นภาพน่ารักขนาดนี้แล้วก็รีบ ๆ รุกครูบัวให้มาเป็นแม่ของลูกได้แล้ว

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
แน่ะ ทำงานไม่ทันไร คุณครูบัว ได้รับการเลื่อนขั้น จากป้าพุดแล้วเหรอเนี่ย
ตอนนี้กลายมาเป็น ผู้ดูแลสองแสบ ผู้มีสิทธิ์ขาดรองจากนายเหมืองซะแล้ว อีกไม่นาน
คงได้เลื่อนขั้น เป็นคุณแม่คนใหม่ ที่ไม่ใช่แค่มีสิทธิ์ในการดูแล ลูกชายสุดแสบสองคน
แต่มีสิทธิ์ขาด ในการครอบครองหัวใจนายเหมืองสิงห์สุดเท่ห์ แสบคนพ่อด้วยสินะ

ยัยตีลังกา ผู้ใหญ่ซะเปล่า ไล่ตามตื้อผู้ชายยังไม่พอ ยังมาพูดใส่เด็ก ๆ ด้วยคำพูดแย่ ๆ อีก
คิดจะเอาชนะใจพ่อ แต่มารังเกียจลูก ๆ เขา แล้วใครเค้าจะเอาไปเป็นแม่ของลูกนะ เฮ้อ
แต่ตอนนี้ เด็ก ๆ น่ารักจังเลยนะ ถึงจะตัวเล็กแค่นี้ ก็คิดที่จะปกป้องคุณครูบัวกันแล้ว ยอดมากๆ
คุณครูบัวของเรา ก็ไม่ใช่ย่อย ๆ ไม่ต้องโหวกเหวกโวยวาย ใช่แค่คำพูดตรง ๆ เชือดเฉือนนิ่ง ๆ
เข้าต่อกร ก็ทำให้ยัยตีลังกาปี๊ดแตกได้ซะงั้น แหม่ แต่ไม่ทันไร สองแสบก็นิ่งไม่อยู่ซะแล้วสินะ
เล่นงานซะยัยตีลังกา แตกกระเจิงเลยทีเดียว แต่พอฟังสองแสบเล่าถึงวีรกรรมกับยัยตีลังกา
จะว่าสองแสบ แสบสันจริง ๆ ก็ถูก แต่ยัยตีลังกา โดนไปขนาดนั้น ยังไม่เลิกรา ทนทายาดจริง ๆ

เรื่องที่มาของต้นไม้ทั้งสามและฐานทัพลับของสองแสบ อ่านแล้วให้ความรู้สึกซาบซึ้งและโรแมนติกดีจัง
บอกให้รู้เลยว่า นายเหมืองสิงห์ ยังคงรักและผูกพันธ์กับภรรยาเก่ามาก ๆ ดังนั้นการจะเปิดใจรับใครเข้ามา
และเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ซะแล้ว นายเหมืองสิงห์ จะมีใจรักให้ครูบัวได้มากน้อยแค่ไหนนะ
แล้วยังทิ้งท้ายไว้ด้วย ความคิดบางอย่างที่ชัดเจนขึ้นของนายเหมือง คืออะไร หรือว่า นายเหมืองสิงห์ จะกลัวว่า
ถ้าเปิดใจยอมรับ ว่ารักคุณครูบัวแล้ว จะกลายเป็นการทรยศภรรยา ทำให้ปิดกั้นความรู้สึกต่อครูบัวหรือเปล่า
กลัวดราม่ายังไงชอบกลแฮะ  :ling3:  แหะ ๆ คิดเอง กังวลเองอีกแล้ว รอเฉลยตอนต่อไปดีกว่า
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อ๊ากกกก สองแสบน่ารัก

ครูบัวก็น่ารักน่ากอด หลงเลยอะครูบัว

ชอบบบน้า

นายเหมืองรู้ใจตัวเองแล้วชิมิค่ะ อ๊ากกกกก อ่านไปยิ้มไปมีความสุขอะ

ออฟไลน์ ่jjay

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
สองแสบอยู่กับครูบัวแล้วน่ารักจัง :กอด1:

ออฟไลน์ bennnyyy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 791
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
น่ารักทั้งครูทั้งศิษย์

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด