ตอนที่ ๑๖“ลูกบ่าวพ่อแอบดูอะไรอยู่ ทำไมยังไม่เข้านอนอีก หืม?” นายเหมืองสะบัดเสื้อขึ้นสวมหัว พลางเอ่ยถามลูกน้อยสองคนที่ยืนทำลับล่ออยู่หน้าห้องครูตาหวานของพวกเขาด้วยท่าทีมีพิรุธ
“ก็ไทกับเกอร์จะมาให้ครูตาหวานจุ๊บหม่อมก่อนนอนให้ แต่ว่าครูคุยโทร’สับกับใครอยู่ก็ไม่รู้แหละพ่อ” ไทเกอร์เอามือป้องปากกระซิบกระซาบกับคนเป็นพ่อด้วยท่าทางคล้ายเจ้านักสืบตัวน้อยที่กำลังแอบสืบคดีแสนซนอยู่
“นั่นน่ะสิพ่อ แถมยังคุยกันตั้งนานสองนาน เกอร์เห็นครูตาหวานยิ้มๆด้วยแหละพ่อ” ไลเกอร์ไม่ยอมแพ้น้อง เขาบอกข้อมูลที่เขาเก็บได้ให้พ่อบ้าง ซึ่งทั้งสองคำให้การทำให้นายเหมืองสิงห์คิ้วขมวดแน่น
“คุยกันตั้งนานสองนาน? แถมยังยิ้มด้วยเหรอเกอร์...” นายเหมืองถามย้ำ ลูกน้อยสองคนพยักหน้าพร้อมกันพรึ่บพรั่บ แถมยังดึงเสื้อพ่อให้เข้าไปแอบส่องที่ช่องประตูแทนที่พวกเขาอีกต่างหาก
สิ่งที่นายเหมืองสิงห์มองเห็นผ่านทางช่องแง้มที่ประตูคือเบื้องหลังของครูบัวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือข้างหนึ่งยกอยู่แนบหู เสียงพูดคุยแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ขำขันดังลอดมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มทนฟังอยู่ได้ครู่เดียวก็รีบหันกลับไปต้อนลูกๆให้กลับเข้าห้อง กำชับอย่างดีก่อนปล่อยลูกๆไปนอนว่าให้ห่มผ้าหนาๆพร้อมจุ๊บหม่อมให้คนละทีแทนคุณครูตาหวาน เมื่อเสร็จสรรพแล้วตัวเองก็จึงกลับไปอยู่หน้าห้องของคุณครูตาหวานอีกครั้ง แล้วถือวิสาสะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องของคุณครูตาหวานแล้วสืบเท้าแผ่วเบาเข้าไปยืนซ้อนหลังครูบัว ก่อนจะค่อยๆสอดมือเข้าไปที่ราวเอวของคนคุยโทรศัพท์ติดลมบนแล้วดึงเข้ามากอดแน่นไว้แนบอกอย่างหวงแหน ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าคนถูกกอดสะดุ้งตัวขึ้นเบาๆตอนถูกเขากอด แต่กระนั้นเมื่อหันมามองแล้วพบว่าเป็นเขาคุณครูบัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ยอมให้เขากอดนิ่งๆอยู่ในอ้อมอกของสิงห์หนุ่มด้วยท่าทางวางใจ
“...งั้นเท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ ไว้ค่อยคุยกันใหม่...ครับ...เรื่องน้ำตกไม่ต้องห่วง พี่หาเวลาว่างมาให้ได้เถอะ ฮ่ะๆ ครับๆ...แค่นี้นะบัวจะวางแล้ว...ราตรีสวัสดิ์ครับ” น้ำเสียงร่าเริงบอกลาปลายสายก่อนจะวางนิ้วเตรียมตัดสายทิ้ง ที่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะดับไปปรากฏชื่อ ‘ฉัตรฟ้า’ ตามคาด ยิ่งเห็นดังนั้นอ้อมแขนแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น ตั้งใจจะให้มันแข็งแรงทนทานดั่งกรงเหล็กที่เอาไว้ใช้กักขังตัวคุณครูบัวให้อยู่กับเขาคนเดียวโดยเฉพาะ ไม่อยากให้ใครคนอื่นได้พบหน้าคนตัวหอมนี้อีก
“นายเหมืองจะรัดให้บัวขาดอากาศหายใจไปเลยรึไงกันครับ ปล่อยได้แล้ว...” หลังจากยืนนิ่งให้จอมฉวยโอกาสกอดซุกอยู่ข้างหลังเขามาเกือบนาทีบัวจึงได้โอกาสพูดขึ้น
“ไม่ปล่อย จะหาว่าหน้าด้านก็ยอม...แต่คืนนี้ไปนอนห้องพี่นะบัว พี่สงบใจไม่ลงจริงๆถ้าบัวไม่อยู่ใกล้ๆพี่คืนนี้”
“...หืม? จะชวนบัวขึ้นเตียงทั้งทีไม่มีคำที่หวานกว่านี้แล้วเหรอ” บัวเอ่ยเย้า แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งซุกตอเคราเข้าซอกคอบัวแล้วลามมาที่แก้ม ก่อนจะส่ายหน้าชิดแก้มบัวก่อนเอ่ย
“พี่ไม่ชอบที่บัวคุยกับคนอื่น”
“...แต่พี่ฉัตรเป็น ‘แค่’ พี่ของบัว”
“...แค่ ‘พี่’ พี่ก็หึง...ขนาดบัวอยู่กับวัวตัวผู้พี่ยังหึงเลย”
“นายเหมือง...ตลกแล้ว...”
“ไม่ตลก” ชายหนุ่มเอ่ยหยุดบัวเอาไว้แค่นั้น ฝ่ามือใหญ่ก็ยึดโทรศัพท์บัวมากดเปิดดู โทรศัพท์รุ่นเก่ากึกไม่มีรหัสล็อกหน้าจอเปิดเผยข้อมูลออกมาหมดว่านอกจากสายเมื่อสักครู่แล้วช่วงเวลาหลังอาหารเย็นทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีก แถมระยะเวลาที่คุยก็ค่อนข้างนานด้วย แน่นอนว่านั่นยิ่งมาช่วยโหมกระพือความร้อนที่มันคุกรุ่นอยู่ในใจนายเหมืองให้มันเริ่มลุกโชนจนเกือบควบคุมไม่อยู่
“...มีเรื่องอะไรต้องคุยกันนักหนาวะ” และแน่นอนว่านายเหมืองไม่เคยเก็บอะไรเอาไว้ในใจได้นาน คิดอะไรอยู่ก็พูดออกมาหมด
“นายเหมืองพูดไม่เพราะ...นายเหมืองเป็นพ่อนะ ทำอะไรออกไปไลเกอร์กับไทกอนที่เป็นลูกเขาจะดูแล้วก็จำเป็นแบบอย่างหมด ถึงพูดไม่เพราะนิดๆหน่อยๆก็ห้ามเด็ดขา...อุ...อื้ม!...”
เขาอยากได้บัวมาเป็นแม่ของลูก ไม่ใช่แม่ของเขา เพราะฉะนั้นคำพูดสั่งสอนพวกนั้นเขาอยากให้บัวกลับไปสอนลูกๆของเขามากกว่า ส่วนตอนนี้น่ะ...มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาเล่นบทแม่ลูกกับเขา บทบาทเดียวที่บัวสมควรจะแสดงกับเขาก็คือ...แม่เมียไม่รักดีที่แอบไปคุยโทรศัพท์กับชู้ลับที่แอบซุกเอาไว้โดยไม่ยอมบอกให้ผัวผู้แสนดีอย่างเขารับรู้...
“อึ้ก...นะ...นายเหมือง บัว...บัวหายใจ...ม..ไม่ทัน...”
“...บอกพี่มาสิคนดี ว่าบัวจะไม่คุยกับเขาอีก...” พูดพลางริมฝีปากคนบังคับจูบก็เฝ้าคลอเคลียชิดริมฝีปากคนถูกฝืนบังคับจูบ แค่หายใจทางจมูกตามปกติยังยากอยู่แล้วเพราะคนมันไม่เคยชิน ยิ่งหวังจะหายใจทางปากเพื่อต่อลมหายใจอีกทางยิ่งหมดสิทธิ์ ตอนนี้บัวรู้สึกทั้งอึดอัดทั้งเสียววาบในช่องท้องอย่างไรก็ไม่รู้
“บัว...บัวทำไม่ได้...”
“ถ้าบัวทำไม่ได้...พี่ก็จะยืนจูบบัวอยู่อย่างนี้...ทั้งคืน”
“ฮื้อ...” บัวร้องครางในลำคอ ดวงตากลมโตกลบน้ำมองช้อนใบหน้ารกตอเครานิดๆที่ปลายคางและข้างจอนด้วยความเว้าวอนกึ่งร้องขอ แต่ความปราณีที่วาดหวังกลับไม่มีปรากฏให้เห็นเลยสักนิด บัวจึงพยายามเบือนหน้าหนีเขาแล้วซุกเข้าอกแทนเมื่อไม่รู้จะหลบไปที่ไหนดี หลังจากนั้นบัวก็รู้สึกว่ามีมือหยาบกร้านข้างหนึ่งพยายามที่จะดันศีรษะเขาออก แต่ทว่าเมื่อเขาไม่ยอมที่จะเงยหน้าขึ้นไปสู้กับชายหนุ่มอีกฝ่ามือข้างนั้นก็กลับกลายมาเป็นค่อยๆลูบผมเขาเบาๆแล้วก็จับเขากอดเอาไว้แน่นๆแทน
“เฮ้อ...ถ้ายังทำตัวน่ารักแล้วก็อ้อนพี่แบบนี้อีกครั้งนะ พี่จะเอาบัวขังไว้ในห้องแล้วโทรศัพท์ไปบอกแม่บัวว่า ‘แม่ครับ ผมขอเก็บลูกชายแม่มาใส่แจกันบ้านผมนะครับ รับรองว่าจะดูแลอย่างดี น้ำไม่ให้ขุ่น บัวไม่ให้ช้ำแน่นอน’...แบบนี้คิดว่า แม่บัวจะอนุญาตไหม”
“แม่จะไม่อนุญาต เพราะเห็นบัวช้ำเพราะถูกสิงห์หนุ่มขย้ำกอดอยู่แบบนี้นี่แหละ...” เสียงหวานครางงุดมุดอยู่ตรงอก ตอนนั้นนายเหมืองถึงเพิ่งรู้ตัว ว่าริมฝีปากมันแอบเผลอยิ้มออกมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
บัวขาว เปรียบล้ำ สำลี
ให้พี่ หวงหอม ดอมดม
จรุงจิต กลิ่นเจ้า เคล้าลม
อภิรมย์ ชิดไว้ ใกล้กาย
กลีบบัว บอบบาง ลางรุม
สิงห์หนุ่ม ผยองเร่ง เร้นหมาย
คืบคืบ หมายตัด กลัดกลาย
ปักไว้ แจกัน รัญจวน