หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]  (อ่าน 763873 ครั้ง)

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

SummerValentine

  • บุคคลทั่วไป
มาแค่นี้ก็ชื่นใจ

นายเหมืองขี้หึง อิอิ

ครูบัวน่ารัก


ปูเสื่อรอตอนต่อไป

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
รับรับนายเมืองเหอะนะบัว

ออฟไลน์ AoMSiN555

  • กรูบ้า.....อย่าทักกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รอติดตามอยู่นะ ให้กำลังใจนักเขียนนะกัฟ  นักอ่านก็ตั้งตารอนะ สู้ๆนะ :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

Kathe

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ inuyacha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เรื่อง สนุกนะ  แต่มัน น่าจะไม่สั้น ละนี่ แถม นานๆ ทีมาต่อ อีกต่างหาก

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
เรื่องนี้มีลุ้นด้วยนะครับ พอไม่ให้เรียบเกินไป เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๑๔


“ลูกบ่าวพ่อแอบดูอะไรอยู่ ทำไมยังไม่เข้านอนอีก หืม?” นายเหมืองสะบัดเสื้อขึ้นสวมหัว พลางเอ่ยถามลูกน้อยสองคนที่ยืนทำลับล่ออยู่หน้าห้องครูตาหวานของพวกเขาด้วยท่าทีมีพิรุธ

“ก็ไทกับเกอร์จะมาให้ครูตาหวานจุ๊บหม่อมก่อนนอนให้ แต่ว่าครูคุยโทร’สับกับใครอยู่ก็ไม่รู้แหละพ่อ” ไทเกอร์เอามือป้องปากกระซิบกระซาบกับคนเป็นพ่อด้วยท่าทางคล้ายเจ้านักสืบตัวน้อยที่กำลังแอบสืบคดีแสนซนอยู่

“นั่นน่ะสิพ่อ แถมยังคุยกันตั้งนานสองนาน เกอร์เห็นครูตาหวานยิ้มๆด้วยแหละพ่อ” ไลเกอร์ไม่ยอมแพ้น้อง เขาบอกข้อมูลที่เขาเก็บได้ให้พ่อบ้าง ซึ่งทั้งสองคำให้การทำให้นายเหมืองสิงห์คิ้วขมวดแน่น

“คุยกันตั้งนานสองนาน? แถมยังยิ้มด้วยเหรอเกอร์...” นายเหมืองถามย้ำ ลูกน้อยสองคนพยักหน้าพร้อมกันพรึ่บพรั่บ แถมยังดึงเสื้อพ่อให้เข้าไปแอบส่องที่ช่องประตูแทนที่พวกเขาอีกต่างหาก

   สิ่งที่นายเหมืองสิงห์มองเห็นผ่านทางช่องแง้มที่ประตูคือเบื้องหลังของครูบัวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือข้างหนึ่งยกอยู่แนบหู เสียงพูดคุยแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ขำขันดังลอดมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มทนฟังอยู่ได้ครู่เดียวก็รีบหันกลับไปต้อนลูกๆให้กลับเข้าห้อง กำชับอย่างดีก่อนปล่อยลูกๆไปนอนว่าให้ห่มผ้าหนาๆพร้อมจุ๊บหม่อมให้คนละทีแทนคุณครูตาหวาน เมื่อเสร็จสรรพแล้วตัวเองก็จึงกลับไปอยู่หน้าห้องของคุณครูตาหวานอีกครั้ง แล้วถือวิสาสะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องของคุณครูตาหวานแล้วสืบเท้าแผ่วเบาเข้าไปยืนซ้อนหลังครูบัว ก่อนจะค่อยๆสอดมือเข้าไปที่ราวเอวของคนคุยโทรศัพท์ติดลมบนแล้วดึงเข้ามากอดแน่นไว้แนบอกอย่างหวงแหน ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าคนถูกกอดสะดุ้งตัวขึ้นเบาๆตอนถูกเขากอด แต่กระนั้นเมื่อหันมามองแล้วพบว่าเป็นเขาคุณครูบัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ยอมให้เขากอดนิ่งๆอยู่ในอ้อมอกของสิงห์หนุ่มด้วยท่าทางวางใจ

“...งั้นเท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ ไว้ค่อยคุยกันใหม่...ครับ...เรื่องน้ำตกไม่ต้องห่วง พี่หาเวลาว่างมาให้ได้เถอะ ฮ่ะๆ ครับๆ...แค่นี้นะบัวจะวางแล้ว...ราตรีสวัสดิ์ครับ” น้ำเสียงร่าเริงบอกลาปลายสายก่อนจะวางนิ้วเตรียมตัดสายทิ้ง ที่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะดับไปปรากฏชื่อ ‘ฉัตรฟ้า’ ตามคาด ยิ่งเห็นดังนั้นอ้อมแขนแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น ตั้งใจจะให้มันแข็งแรงทนทานดั่งกรงเหล็กที่เอาไว้ใช้กักขังตัวคุณครูบัวให้อยู่กับเขาคนเดียวโดยเฉพาะ ไม่อยากให้ใครคนอื่นได้พบหน้าคนตัวหอมนี้อีก

“นายเหมืองจะรัดให้บัวขาดอากาศหายใจไปเลยรึไงกันครับ ปล่อยได้แล้ว...” หลังจากยืนนิ่งให้จอมฉวยโอกาสกอดซุกอยู่ข้างหลังเขามาเกือบนาทีบัวจึงได้โอกาสพูดขึ้น

“ไม่ปล่อย จะหาว่าหน้าด้านก็ยอม...แต่คืนนี้ไปนอนห้องพี่นะบัว พี่สงบใจไม่ลงจริงๆถ้าบัวไม่อยู่ใกล้ๆพี่คืนนี้”

“...หืม? จะชวนบัวขึ้นเตียงทั้งทีไม่มีคำที่หวานกว่านี้แล้วเหรอ” บัวเอ่ยเย้า แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งซุกตอเคราเข้าซอกคอบัวแล้วลามมาที่แก้ม ก่อนจะส่ายหน้าชิดแก้มบัวก่อนเอ่ย

“พี่ไม่ชอบที่บัวคุยกับคนอื่น”

“...แต่พี่ฉัตรเป็น ‘แค่’ พี่ของบัว”

“...แค่ ‘พี่’ พี่ก็หึง...ขนาดบัวอยู่กับวัวตัวผู้พี่ยังหึงเลย” 

“นายเหมือง...ตลกแล้ว...”

“ไม่ตลก” ชายหนุ่มเอ่ยหยุดบัวเอาไว้แค่นั้น ฝ่ามือใหญ่ก็ยึดโทรศัพท์บัวมากดเปิดดู โทรศัพท์รุ่นเก่ากึกไม่มีรหัสล็อกหน้าจอเปิดเผยข้อมูลออกมาหมดว่านอกจากสายเมื่อสักครู่แล้วช่วงเวลาหลังอาหารเย็นทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีก แถมระยะเวลาที่คุยก็ค่อนข้างนานด้วย แน่นอนว่านั่นยิ่งมาช่วยโหมกระพือความร้อนที่มันคุกรุ่นอยู่ในใจนายเหมืองให้มันเริ่มลุกโชนจนเกือบควบคุมไม่อยู่

“...มีเรื่องอะไรต้องคุยกันนักหนาวะ”  และแน่นอนว่านายเหมืองไม่เคยเก็บอะไรเอาไว้ในใจได้นาน คิดอะไรอยู่ก็พูดออกมาหมด

“นายเหมืองพูดไม่เพราะ...นายเหมืองเป็นพ่อนะ ทำอะไรออกไปไลเกอร์กับไทกอนที่เป็นลูกเขาจะดูแล้วก็จำเป็นแบบอย่างหมด ถึงพูดไม่เพราะนิดๆหน่อยๆก็ห้ามเด็ดขา...อุ...อื้ม!...”

   เขาอยากได้บัวมาเป็นแม่ของลูก ไม่ใช่แม่ของเขา เพราะฉะนั้นคำพูดสั่งสอนพวกนั้นเขาอยากให้บัวกลับไปสอนลูกๆของเขามากกว่า ส่วนตอนนี้น่ะ...มันไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาเล่นบทแม่ลูกกับเขา บทบาทเดียวที่บัวสมควรจะแสดงกับเขาก็คือ...แม่เมียไม่รักดีที่แอบไปคุยโทรศัพท์กับชู้ลับที่แอบซุกเอาไว้โดยไม่ยอมบอกให้ผัวผู้แสนดีอย่างเขารับรู้...

“อึ้ก...นะ...นายเหมือง บัว...บัวหายใจ...ม..ไม่ทัน...”

“...บอกพี่มาสิคนดี ว่าบัวจะไม่คุยกับเขาอีก...” พูดพลางริมฝีปากคนบังคับจูบก็เฝ้าคลอเคลียชิดริมฝีปากคนถูกฝืนบังคับจูบ แค่หายใจทางจมูกตามปกติยังยากอยู่แล้วเพราะคนมันไม่เคยชิน ยิ่งหวังจะหายใจทางปากเพื่อต่อลมหายใจอีกทางยิ่งหมดสิทธิ์ ตอนนี้บัวรู้สึกทั้งอึดอัดทั้งเสียววาบในช่องท้องอย่างไรก็ไม่รู้

“บัว...บัวทำไม่ได้...”

“ถ้าบัวทำไม่ได้...พี่ก็จะยืนจูบบัวอยู่อย่างนี้...ทั้งคืน”

“ฮื้อ...” บัวร้องครางในลำคอ ดวงตากลมโตกลบน้ำมองช้อนใบหน้ารกตอเครานิดๆที่ปลายคางและข้างจอนด้วยความเว้าวอนกึ่งร้องขอ แต่ความปราณีที่วาดหวังกลับไม่มีปรากฏให้เห็นเลยสักนิด บัวจึงพยายามเบือนหน้าหนีเขาแล้วซุกเข้าอกแทนเมื่อไม่รู้จะหลบไปที่ไหนดี หลังจากนั้นบัวก็รู้สึกว่ามีมือหยาบกร้านข้างหนึ่งพยายามที่จะดันศีรษะเขาออก แต่ทว่าเมื่อเขาไม่ยอมที่จะเงยหน้าขึ้นไปสู้กับชายหนุ่มอีกฝ่ามือข้างนั้นก็กลับกลายมาเป็นค่อยๆลูบผมเขาเบาๆแล้วก็จับเขากอดเอาไว้แน่นๆแทน

“เฮ้อ...ถ้ายังทำตัวน่ารักแล้วก็อ้อนพี่แบบนี้อีกครั้งนะ พี่จะเอาบัวขังไว้ในห้องแล้วโทรศัพท์ไปบอกแม่บัวว่า ‘แม่ครับ ผมขอเก็บลูกชายแม่มาใส่แจกันบ้านผมนะครับ รับรองว่าจะดูแลอย่างดี น้ำไม่ให้ขุ่น บัวไม่ให้ช้ำแน่นอน’...แบบนี้คิดว่า แม่บัวจะอนุญาตไหม”

“แม่จะไม่อนุญาต เพราะเห็นบัวช้ำจากการถูกสิงห์หนุ่มขย้ำกอดอยู่แบบนี้นี่แหละ...” เสียงหวานครางงุดมุดอยู่ตรงอก ตอนนั้นนายเหมืองถึงเพิ่งรู้ตัว ว่าริมฝีปากมันแอบเผลอยิ้มออกมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้


บัวขาว เปรียบล้ำ สำลี

ให้พี่ หวงหอม ดอมดม

จรุงจิต กลิ่นเจ้า เคล้าลม

อภิรมย์ ชิดไว้ ใกล้กาย

กลีบบัว บอบบาง ลางรุม

สิงห์หนุ่ม ผยองเร่ง เร้นหมาย

คืบคืบ หมายตัด กลัดกลาย

ปักไว้ แจกัน รัญจวน


----------------------------------------------------


“ไลเกอร์ครับ เวลาหนูถอนต้นกระสังนะลูกต้องเอาให้ติดรากมันมาด้วยครับ ถ้าถอนมาแต่ใบแล้วใส่น้ำมันก็ไม่เห็นอะไรสิ...แบบนั้นเลยครับไทกอน ดึงขึ้นมาช้าๆลูก...” บัวช้อนมือเด็กค่อยๆพาให้ดึงต้นกระสังขึ้นมาจากดินช้า ระวังไม่ให้รากขาด รวบรวมพอให้ได้สี่ห้าต้นก็บอกให้เด็กๆถือดีๆจะได้เอาไปล้างที่บ้าน

   วันนี้แดดร่มลมตก บัวจึงพาเด็กๆออกมาเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมนอกบ้านบ้าง วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะสอนเรื่องเกี่ยวกับพืช ก่อนหน้านี้บัวให้เด็กๆแข่งกันจดรายชื่อต้นไม้ที่ตนรู้จักรอบๆบ้านมาคนละสิบต้น แล้วก็มอบรางวัลให้กับผู้ชนะซึ่งก็คือทั้งคู่ไปแล้วเพราะวิ่งกลับมาหาเขาพร้อมกัน ที่สำคัญผลงานของทั้งไลเกอร์และไทกอนก็ทำให้บัวประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะรายชื่อต้นไม้ที่ทั้งคู่ส่งมาให้ดูมีเกินสิบอย่าง แถมแต่ละอย่างก็แทบจะไม่ได้ซ้ำกันเลยด้วย เห็นแบบนี้แล้วก็คงต้องยกความดีความชอบให้กับคนรอบข้างของเด็กๆ ที่ช่วยสอนให้พวกแกรู้จักธรรมชาติมากขนาดนี้ ผิดกับเด็กในเมือง ที่ในหัวคงจำได้แค่ชื่อห้าง ชื่อแบรนด์เสื้อผ้า หรือชื่อยี่ห้อโทรศัพท์มือถือกระมัง บัวยิ้มมองความร่าเริงสดใสของเด็กๆสองคนแล้วก็พาลให้นึกเปรียบเทียบกับเด็กๆที่บัวเคยสอนสมัยที่ต้องไปเป็นนิสิตฝึกสอนขึ้นมา จำได้ว่าบัวเคยถามเด็กคนหนึ่งว่าต้นไม้ต้นใหญ่ที่ขึ้นอยู่หน้าตึกเรียนคือต้นอะไร จากสิบคนเห็นจะมีแค่สักคนกระมังที่รู้ ทั้งๆที่เห็นอยู่ทุกวันที่มาเรียนแท้ๆ

   บัวจัดวางแก้วพลาสติกใสที่หยดสีผสมอาหารจากครัวของป้าพุดลงที่ชานบ้าน กลิ่นดอกโมกหอมอ่อนลอยมาตามลมยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศของการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติให้เป็นไปอย่างราบรื่น น้ำเสียงเจื้อยแจ้วที่กำลังอธิบายเรื่องท่อลำเลียงน้ำและอาหารของต้นกระสังพร้อมเสียงหวีดหวิวผิวปากของเด็กปนเสียงปรบมืออย่างตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นต้นกระสังในแต่ละจานเปลี่ยนสีลำต้นได้ฟังดูเพลิน

   นายเหมืองสิงห์ พุฒธา  เหนือ กร กับสันต์ที่เดินเลียบข้างบ้านมาหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แอบฟังเสียงเจื้อยแจ้วของคนบนชานบ้านเงียบๆ สักพักก็มีเสียงแหลมๆสำเนียงถิ่นใต้โผล่เข้ามาร่วมแจม เหมือนคนหลังจะเอาของกินเล่นอะไรมาให้สักอย่าง เสียงบนบ้านฟังดูสนุกสนานเสียจนนายเหมืองสิงห์ยังต้องแอบอมยิ้ม เพื่อนร่วมงานและพุฒธาเหลือบเห็นภาพนั้นแล้วยังขนลุกเป็นเกลียววาบๆ

“เฮ้ย รู้ว่าหลงเด็กมาก...นะ แต่เก็บอาการบ้างก็ได้ บอกตามตรง...เลี่ยนว่ะเพื่อน” กร นายตำรวจหนุ่มที่ตามมาขอสอบปากคำครูบัวเพื่อนเติมเอาขาเตะหลังเข่าเพื่อนพลางเอ่ยขึ้น นายเหมืองยกเท้าเตะกลับไปทันควันแต่กระนั้นก็โดนเพื่อนแค่เฉี่ยวๆ

   ทันใดนั้นเองในตอนที่ทั้งห้าหนุ่มกำลังจะเดินอ้อมไปทางข้างหน้าตัวบ้าน เสียงล้อรถบดถนนที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้น มันดังเอี๊ยดก่อนที่ตัวรถจะมากระแทกกับบันไดทางขึ้นบ้านนิดเดียว นายเหมืองสิงห์เกือบจะพุ่งตัวออกไปดูแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ทว่าเสียงเจ้าส้มที่ดังแหวขึ้นมาก่อนก็ทำให้ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่กับที่  แล้วแอบมองลอดใต้ระแนงไม้ที่เขาทำเอาไว้บังตาด้วยเถาไม้เลื้อย ทั้งห้าคนหยุดยืนมองเจ้าส้มกับครูบัวที่เอาไลเกอร์กับไทกอนไปแอบไว้อยู่ข้างหลัง เมื่อจู่ๆร่างผอมบางของใครบางคนก็ก้าวเท้าขึ้นไปบนบ้านของเขาอย่างถือวิสาสะ

“คุณติรกา  คุณมาที่นี่ทำไม” เจ้าส้มออกโรงนำหน้าเพราะรู้ฤทธิ์ของสาวเจ้าดี ตั้งแต่สมัยแม่ของเจ้าสองแสบยังอยู่ แล้ว ที่หล่อนมักจะทำตัวน่ารำคาญ เพราะอยากจะแทรกกลางระหว่างเจ้านายทั้งสองของเจ้าส้มอยู่เสมอ

“ไม่เห็นต้องถาม ฉันก็มาหานายเหมืองน่ะสิ แล้วก็ไม่ต้องโกหกฉันด้วยเหตุผลโง่ๆเหมือนเดิมอีกนะว่านายเหมืองไม่อยู่ เพราะเมื่อกี๊ฉันไปถามคนที่เหมืองมาแล้ว...แล้วเขาก็บอกว่านายเหมืองเพิ่งกลับมาที่บ้าน เพราะฉะนั้นถอยไป ฉันจะเข้าไปหานายเหมือง...”

“ขอโทษนะครับแต่คงให้เข้าไปไม่ได้ เพราะตอนนี้นายเหมืองไม่อยู่จริงๆ” บัวยึดมือเด็กน้อยที่ซ่อนอยู่ข้างหลังให้กอดเอวตัวเองไว้แน่นๆ

“เฮอะ...ให้เข้าไม่ได้ สั่งเสียอย่างกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเองงั้นล่ะ...หน้าไม่อาย” สายตาที่คนพูดมองกราดมาที่บัวนั้นพิจารณากวาดมองไปทั่วตั้งแต่ปลายเส้นผมจรดปลายเท้า ซึ่งสายตาเหยียดหยามแบบนั้นทั้งส้มไลเกอร์ และไทกอนรู้สึกไม่ชอบเอาเสียเลย

“อย่ามองครูตาหวานแบบนั้นนะ!! ยัยป้าตีลังกา!!” ไทกอนที่ปากกล้ากว่าพี่ชายตะโกนขึ้นมาดังลั่นก่อนจะโดนเจ้าส้มเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้พูดอะไรต่อ

“ไอ้เด็กเปรตนี่! ปากเสียแบบนี้เพราะไม่มีแม่สั่งสอนล่ะสินะ...เอาเถอะ ฉันจะไม่ถือโทษโกรธอะไร เพราะเห็นแก่ความสงสารของเด็กไม่มี ‘แม่’ ก็แล้วกัน...”

“คุณติรกา! ทำไมคุณพูดแบบเนี้ย...ไม่คิดเลยนะว่าผู้หญิงหน้าตาดีๆอย่างคุณจะพูดว่าเด็กแบบนี้ได้ลงคอ!” ส้มผู้มีขีดความอดทนต่ำรีบเอามือปิดหูเด็ก ก่อนจะตะโกนถามอีกฝ่ายเสียงดังด้วยความไม่พอใจ     

“แล้วจะทำไม ก็ฉันพูดเรื่องจริง เด็กมันก็รู้นี่...ว่าแม่มันตาย เพราะต้องปกป้องพวกมัน” ดวงตากลมโตที่แต่งแต้มสีม่วงเข้มม่วงอ่อนไว้อย่างลงตัวเบิ่งขึ้นโต แพขนตาปลอมกระพือพึ่บพั่บเชื่องช้ายามที่เรียวปากกรีดรอยยิ้มสาสมใจที่เห็นเด็กน้อยสองคนยืนน้ำตาคลอเบ้าเกาะเอวส้มกับบัวเอาไว้แน่น

“หยุดพูดแบบนี้นะคุณติรกา  แล้วก็ออกไปจากบ้านนี้เดี๋ยวนี้...ไม่รู้นายเหมืองคิดอะไรอยู่ ถึงได้ยังญาติดีกับผู้หญิงแบบคุณอยู่ได้” ส้มเอ่ยอย่างไม่พอใจ แน่นอนว่าไม่พอใจทั้งผู้หญิงคนนี้และเจ้านายตัวเองด้วยนั่นแหละ

“หึ เขาก็คงจะเบื่อ...ที่ต้องมาทนอยู่ดูแลมรดกกลางไร่กลางนา แล้วยังจะต้องมีภาระเป็นเด็กนรกสองคนนี้อีก ไม่รู้ว่านายเหมืองของฉันเขาทนอยู่ได้ยังไงตั้งหลายปี นี่ก็บอกไปหลายครั้งแล้วนะว่าถ้า เขายอมแต่งงานไปกับฉันก็คงจะสบายไปแล้ว ไม่ต้องมา...”

“หยุดพูดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้สักทีเถอะคุณติรกา! นี่ครูบัวครับ! ช่วยพูดอะไรบ้างสิ...อ๊ะ” ส้มที่เส้นอารมณ์แทบขาดผึงหันไปหาตัวช่วยที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จามาตั้งแต่เมื่อครู่แล้วก็ต้องยอมหุบปากเงียบกริบ เมื่อตอนนี้คนที่ยืนเงียบมาตลอดและไม่ยอมช่วยต่อปากต่อคำกับผู้หญิงใจร้ายนั้นยืนกำมือแน่น ส่วนสายตาที่ก้มมองพื้นในตอนแรกนั้นมองตวัดกลับไปที่คนขอความร่วมมือก่อนจะหันไปมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเดียวกันกับที่ทำให้เจ้าส้มต้องหุบปาก

“...ผมคิดว่าไม่ควรจะเสียเวลาพูดอะไรกับคนน่าสงสาร...ที่มีแม่...แต่แม่กลับไม่ยอมสั่งสอน...” บัวไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าความโกรธมากมายที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่มีทางออกจะถูกส่งผ่านไปทางสายตาจนหมด ความโกรธเกรี้ยวถูกขังเอาไว้ไม่ให้แสดงออกด้วยความรุนแรง เนื่องเพราะคนตรงหน้าเป็นสตรี...

   ...จะหาว่าหน้าตัวเมียก็ได้ แต่หากคนตรงหน้านี้เป็นผู้ชาย...เขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าอาจจะต้องยอมถูกปรับเป็นจำนวนเงินห้าร้อยบาท ข้อหาทะเลาะวิวาทเป็นครั้งแรกในชีวิตรึเปล่า...

“ไปลูก...เข้าบ้าน...ส้ม ปิดประตูด้วยนะ บ้านนี้ ไม่ ต้อน รับ คน แปลก หน้า...” บัวเอ่ย น้ำเสียงเย็นเยือกเสียจนส้มยังต้องรีบทำตามคำสั่งแบบไม่มีบิดพลิ้ว บัวคว้าแขนไทกอนกับไลเกอร์ไว้คนละข้าง ก่อนจะลากพาทั้งสองหนุ่มน้อยเข้าไปในบ้าน ก่อนจะตามด้วยส้มที่ปิดประตูกระจกหน้าบ้านดังปัง พร้อมทั้งแลบลิ้นยิงฟันใส่สาวคนงามนามติรกาด้วยความสะใจ

   ทางฝ่ายห้าหนุ่มที่ยืนแอบมองและแอบฟังเรื่องทั้งหมดอยู่ใต้ระแนงไม้พากันหันไปมองนายเหมืองสิงห์กันเป็นตาเดียว ใบหน้าคมหล่อแต่ครึ้มไปด้วยรอยเคราสากที่ประดับข้างแก้มไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม หัวคิ้วก็ย่นเข้าหากัน แต่นัยน์ตาที่เพื่อนๆเห็นนั้นกลับมีแววสาแก่ใจนัก และหากมีใครสักคนได้ก้มลงมองดูที่ปลายท่อนแขนใหญ่  ก็จะได้พบรอยเส้นเลือดที่ปูดโปนไปตามลำแขน เนื่องเพราะฝ่ามือนั้นกำแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว

“ครูบัวแกนี่...ใจเด็ดดีว่ะ พูดซะคุณตีลังกาเธอหงายหลังไม่ออกเลย” เหนือพูดขึ้นพร้อมกับตบไหล่เพื่อนดังปุๆ

“นั่นดิ เห็นหงิมๆนะ ไม่คิดว่าจะกล้าพูดอะไรแบบนั้นด้วย” สันต์นายตำรวจหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อน

“แต่ก็สมควร ยัยนั่นอยากปากเสียว่าลูกแกเสียๆหายๆทำไม” กรสำทับเพิ่ม พร้อมกับเอามือไปตบไหล่นายเหมืองสิงห์เอาไว้อีกข้าง แต่ทว่าเพื่อนตัวสูงกลับสะบัดไหล่เพื่อเอามือของเพื่อนทั้งสองออกเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนแต่ละคนด้วยแววตาลุ่มลึกอ่านความคิดไม่ออก แต่สำหรับเพื่อนที่รู้จักกันมานานอย่างพวกเขารู้ดี ว่าเมื่อไหร่ที่นายเหมืองสิงห์มีแววตาแบบนี้ นั่นคือในหัวสมองของชายหนุ่มกำลังวางแผนทำอะไรบางอย่าง

“เรื่องที่คุยกันวันนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาด แม้แต่ไอ้ส้มเมียแกก็ห้ามบอกนะพุฒ” เจ้าของบ้านหนุ่มหันไปมองหน้ามือขวาของตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง

“ครับนาย...” พุฒธารับคำสั้นๆ

“ส่วนพวกนาย เรื่องสอบปากคำเพิ่มเติมจากครูบัวขอเป็นวันอื่นได้มั้ยวะ วันนี้กูไม่อนุญาตให้พวกมึงพบเขา” คนยังทำหน้าเครียดบอกด้วยน้ำเสียงที่สมกับสีหน้า ในขณะที่เพื่อนตำรวจสองคนหัวเราะหึกับคำพูดนั้น

“โอ้โห...เป็นเจ้าข้าวเข้าของกันไปเรียบร้อยแล้วเว้ย” กรยังสนุกที่ได้แซวเพื่อน

“เต็มเว้ย มาเต็ม...ฮ่าๆ” เหนือหัวเราะ นายเหมืองสิงห์เพียงยกมือขึ้นเสยผมไปด้านบน แล้วกรอกตามองไปทางติรกาที่เดินลงส้นไปที่รถของตัวเอง

“ฉันจะเริ่มเกมส์แล้วนะเว้ย...ส่วนที่เหลือฝากพวกแกด้วยนะ ฉันอยากให้เรื่องนี้จบให้เร็วที่สุด ฉันจะได้...เตรียมตัวสู่ขอครูบัวเขาเอามาไว้ที่บ้านอย่างเป็นทางการสักที” สิ้นสุดคำเอ่ย คนพูดก็หยิบหมวกปีกกว้างที่เอาไว้ใช้สวมกันแดดยามเข้าไปทำงานกลางแจ้งขึ้นมาสวม แล้วออกเดินไปทางหญิงสาวนามติรกา ที่รีบลงมาจากรถทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของนายเหมืองผู้ที่เธอปรารถนาจนสุดชีวิตเดินผ่านเข้ามาในครรลองสายตา ทิ้งเพื่อนอีกสี่คนที่ยังยืนอยู่ที่เดิมให้มองตามด้วยความช็อกนิดๆกับสิ่งที่เพื่อนพูดทิ้งท้าย

   ...ท่าทางมันคงกู่ไม่กลับ เพราะไปหลงรักเจ้าบัวช่องามเข้าเต็มเปาเสียแล้วสินะเพื่อน...

   ข้างฝ่ายติรกา ความสูงและแหลมของส้นรองเท้าที่ปักลงดินไม่เป็นปัญหาเลยสักนิดกับการรีบเดินจ้ำอ้าวไปหาคนที่เธอหมายปอง  หนุ่มหล่อ ตัวสูง หุ่นบึ้ก แน่นกล้ามแข็งปั๋งแบบนี้ใช่จะหาได้ง่ายๆ แถมชายคนนี้ยังไม่ธรรมดา เพราะโปรไฟล์ยังดีเลิศ หน้าที่การงานก็สมฐานะของหล่อน พ่อเองยังย้ำนักย้ำหนาว่า ว่าอยากได้นายเหมืองสิงห์ไปเป็นเขยจนตัวสั่น เพราะเมื่อไหร่ที่ทั้งสองครอบครัวดองกันได้ นายเหมืองจะเป็นทั้งสะพานเชื่อมและผู้อำนวยความสะดวกให้กับอะไรหลายๆอย่างที่พ่อของหล่อนต้องการ

   แต่ผู้ชายคนนี้ก็กินยากกินเย็นเสียเหลือเกิน...หล่อนพยายามมาหลายปีแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่คนอย่างติรกาไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆหรอก...ยิ่งรู้ว่าอะไรที่มันได้มายากๆเนี่ยหล่อนยิ่งชอบ เพราะมันมักจะมีคุณค่ามากกว่าอะไรที่ได้มาง่ายๆเสมอ...

“นายเหมืองคะ เมื่อกี๊บิวตี้จะมาหาคุณ แต่ไอ้...เอ่อ ครูของลูกชายคุณน่ะค่ะ เขาทำท่าวางอำนาจเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน มาสั่งโน่นสั่งนี่ไม่ให้บิวตี้เข้าบ้านด้วย นายเหมืองจะต้องรีบจัดการมันนะคะ บิวตี้สงสารหลาน ไม่รู้ว่าจะโดนมันขู่อะไรบ้าง...” หญิงสาวแสร้งทำเป็นน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะทำเป็นมองเข้าไปในบ้านแล้วยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะเลื่อนมือนั้นไปเกาะแขนชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อย่างถือวิสาสะ เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังมองหล่อนออกมาจากในตัวบ้าน

“ครับ...แล้วผมจะจัดการให้นะ” น้ำเสียงไม่หือไม่อือแต่กลับตอบรับคำของหล่อนทำให้ติรกาพอใจอยู่ลึกๆ “ว่าแต่...มาหาผมวันนี้มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”

“ก็...เรื่องเดิมนั่นแหละค่ะ ที่คุณบอกพ่อบิวตี้ไว้คราวก่อนว่าขอคิดดูก่อนไง พ่อฝากมาถามน่ะค่ะว่าคิดออกรึยัง...จะตกลงหรือไม่ตกลงคะ”

   ชายหนุ่มเหลือบมองคนที่พูดจาเสียงหวานออดอ้อนเขาแล้วหรี่ตา ในใจรู้สึกแขยงกับผู้หญิงคนนี้เกินทน คำพูดว่าร้ายที่พ่นใส่ลูกเขายังติดอยู่ในหู...แต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องท่องไว้ว่า...อดทน

“...เรื่องที่พ่อของคุณต้องการให้ผมร่วมทุนด้วย ผมสนใจนะครับ...”

“เอ๊ะ! จริงเหรอคะ...บิวตี้ดีใจมากเลยค่ะ! งั้น...เอ่อ บิวตี้จะรีบไปบอกพ่อนะคะ เราจะได้รีบตกลงแล้วก็เซ็นสัญญานะคะ”

“ครับ...สะดวกตอนไหนก็ค่อยให้พ่อคุณติดต่อผมมาอีกทีก็แล้วกัน...”

“ได้เลยค่ะนายเหมือง! แหม...บิวตี้ตื่นเต้นจังเลยค่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่าเย็นนี้มีงานเลี้ยงฉลองของเพื่อนคุณพ่อล่ะก็ บิวตี้จะชวนคุณไปทานอาหารเย็นเป็นการเลี้ยงฉลองการร่วมทุนของพวกเราเสียหน่อย...แหม เสียดายจังเลย”

   นายเหมืองสิงห์ไม่พูดอะไรตอบเธอ แต่กระนั้นก็ทนไม่ยอมสะบัดแขนออก จนติรกาเริ่มรู้สึกได้ใจ เขย่งปลายเท้าขึ้นไปจรดจมูกลงบนแก้มสาก กลิ่นเหงื่อผสมฟีโรโมนชายหนุ่มหอมขึ้นจมูก ชายหนุ่มร่างสูงชะงักเล็กน้อยตอนที่หันไปมองเจ้าหล่อนโบกมือลา ก่อนจะส่งสายตาให้อย่างยั่วยวนแล้วเดินขึ้นรถไป

   ...หวังว่าฉากเมื่อกี๊คงมีแค่เพื่อนเขาสี่คนที่เห็นนะ แต่ทำไมคิ้วขวาของเขาถึงได้กระตุกถี่จริงๆ...

----------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์



“ครูครับ...ไทไม่มีแม่ ไทเป็นเด็กไม่ดีเหรอครับ” คนพูดเอ่ยขึ้นพร้อมหน่วยตาแดงๆที่เกิดมาจากการเอามือไปขยี้ตามาก่อนหน้านี้

“...เกอร์คิดถึงแม่...ฮึก...” พอไทกอนเอ่ยขึ้น ไลเกอร์ก็เอ่ยตาม เด็กสองคนยืนจับมือกันแน่น ดูจากท่าทางพยายามจะกลั้นร้องไห้แล้วบัวอยากจะร้องตาม

“ไม่เอาลูก ไม่ต้องไปฟังผู้หญิงคนนั้นพูดนะครับ ไทกับเกอร์เป็นเด็กดีที่สุด และคุณแม่ของหนูก็ภูมิใจในตัวหนูมากด้วย”

“ฮึก...แต่เกอร์คิดถึงแม่...” ไลเกอร์ยังคงพูดย้ำคำเดิม บัวยื่นมือออกไปหา  เด็กสองคนก็ค่อยๆเดินเตาะแตะเข้าไปกอด บัวทั้งหอมทั้งจูบเด็กทั้งคู่ที่ร้องไห้อยู่กับอกตัวเองด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ...ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่คนหนึ่งถึงทำร้ายจิตใจเด็กได้แบบนี้...

“บัวรู้สึกแย่มากเลยส้ม บัวไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นมาบ้านนี้อีก...”

“ส้มก็ไม่อยาก ส้มสงสารหลาน” ส้มเองก็เห็นด้วยกับบัว

“...บัวจะไปคุยกับนายเหมือง เขาไม่เคยรู้เลยรึไงว่าผู้หญิงคนนั้นทำร้ายจิตใจลูกเขายังไงบ้าง” บัวมองหน้าส้มอย่างแน่วแน่ เขาค่อยๆดึงเด็กน้อยทั้งสองลงไปนั่งที่เตียง ฝากฝังให้ส้มช่วยอยู่ปลอบเด็กๆแทนเขาก่อน ส่วนตัวเองก็จูบหน้าผากเด็กน้อยทั้งคู่แล้วบอกเดี๋ยวจะกลับมา

“ครูตาหวาน...ไม่เอา...” ไลเกอร์กับไทกอนมีอาการงอแงเล็กน้อย แต่กระนั้นเจ้าส้มก็เอาอยู่ พอสบโอกาสบัวจึงรีบลงมาด้านล่างของบ้าน และพบเจอกับภาพบาดใจนอกบ้านเมื่อหญิงสาวใจร้ายคนนั้นเอาหน้าอกไปเบียดชายหนุ่มร่างสูงผู้เป็นเจ้าของบ้าน ซ้ำยังเมื่อรู้ว่าเขามองอยู่ก็ยังอาจหาญยื่นหน้าขึ้นไปจูบแก้มเข้าอีก บัวกัดปาก ยอมรับว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ดี แล้วยิ่งมาเห็นภาพนี้บัวก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก

               ...แต่ที่อารมณ์ไม่ดีมากที่สุด ก็ตรงที่ชายหนุ่มไม่ยอมมีอาการปัดป้อง แต่กลับยินยอมให้หล่อนหอมแก้มเอาง่ายๆนี่ล่ะ...

               ...แล้วไหนบอกว่าชอบเรา...แต่ทำไมถึงทำอย่างนี้ล่ะ...



               บัวยืนกอดอกอยู่ตรงครัวเพียงลำพัง  ใบหน้าหวานมีอารมณ์โกรธเคลือบฉาบไว้อยู่  ทว่าคนที่เข้ามาใหม่มองเห็นแต่เบื้องหลัง  จึงทำให้กล้าเข้าไปสวมกอดร่างคุณครูตัวบางเข้ามาเต็มรัก  ทว่าร่างผอมบางกลับเอามือผลักแขนหนาออกไม่ยอมให้กอดเหมือนทุกที

“นายเหมืองอย่ากอด...บัวไม่ให้กอด...”

“...บัว เป็นอะไรไปครับคนดี หรือว่า...บัวเหม็นเหงื่อพี่...” พร้อมกับที่พูด นายเหมืองก็หยิบเสื้อตัวเองตรงคอปกขึ้นมาดม งานของเขาไม่มีความจำเป็นให้ต้องใส่น้ำหอม เพราะใส่ไปก็ไม่รู้ว่าจะให้อิฐหินดินทรายมันช่วยกันดมได้ยังไง วันๆเนื้อตัวเขาจึงมีแต่กลิ่นกายกลิ่นเหงื่อ  ครูตาหวานของเขาอาจจะไม่ชอบก็ได้

“เปล่า  บัวแค่เหม็นกลิ่นน้ำหอม...ของผู้หญิงคนนั้น” เสียงแหลมอ่อนเอ่ยขึ้นแฝงความเย็นชาแผ่วเบา

“น้ำหอมผู้หญิง?...” สีหน้าคมเข้มมีท่าทางครุ่นคิด “หรือว่า...บัวเห็น...?”

“ตั้งใจจะปิดเหรอครับ?  บัวไม่เห็นก็ได้นะ” น้ำเสียงบ่งชัดว่าเจ้าตัวไม่พอใจมากกับสิ่งที่เห็น  ชายหนุ่มตัวสูงจุดยิ้มมุมปากก่อนจะโถมกายสวมกอดร่างคุณครูบัวเอาไว้เต็มอก  คราวนี้คุณครูบัวยังคงมีท่าทีขัดขืนแต่ดิ้นไม่หลุด เพราะท่อนแขนหนักกอดเอาไว้แน่นไม่มีการออมมือให้อีกเหมือนครั้งก่อน

“ปล่อยเลย...ปล่อย” คุณครูหนุ่มพยายามจะอุทธรณ์ แต่ศาลที่เคารพไม่รับฟัง

“ไม่ปล่อย...หึงพี่เหรอ...บอกเลยนะกับคนอื่นน่ะพี่อนุญาตให้หึงได้ แต่กับผู้หญิงคนนั้นน่ะยกเว้นได้เลย...เขาไม่มีค่าคู่ควรให้บัวต้องมาหึงเลยสักนิด”

“ทีพี่ยังหึงบัวกับพี่ฉัตรได้เลย...นั่นเขาก็เป็นแค่พี่ ไม่มีความจำเป็นต้องมาหึงกันเลยสักนิดเหมือนกัน” คุณครูหนุ่มช้อนตามองคนร่างสูงด้วยหางตา ก่อนจะก้มหลบมองไปทางอื่นเพราะยังไม่อยากมองใบหน้าคมปราบนั้นให้เต็มตาในตอนนี้ “หึ...ปากก็บอกว่ารักเรา แต่ก็ไปยืนล่อสาวให้เขามาหอมแก้ม ไม่มีปัดป้องเลยสักนิด”

“อ้อ ที่ปั้นปึ่งอยู่นี่เพราะโกรธแทนร่างกายพี่ที่ต้องยอมเปลืองตัวหรอกเหรอ โอเค...เรื่องนี้ยอมรับก็ได้ว่าผิดจริง แต่พี่มีความจำเป็นหรอกนะบัว อีกอย่างแม่คุณเธอก็ไวอย่างกับจรวด พี่เลยหลบไม่ทัน...”

“ความจำเป็นอะไรบัวไม่สนหรอก แต่ที่บัวโกรธแล้วก็ปั้นปึ่งใส่อย่างที่พี่บอก...ก็เพราะบัวไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่เพราะหึงพี่อย่างเดียวนะ แต่บัวไม่ชอบให้เขามายืนว่าลูกของบัวแบบวันนี้อีก พี่รู้มั้ยว่าเขาพูดกับเด็กๆยังไงบ้าง ขนาดบัวเป็นผู้ใหญ่บัวยังรับไม่ได้เลย...คราวหลังน่ะนะถ้าจะพบจะเจอกันก็ไปเจอกันที่อื่น อย่าพาเขามาที่บ้านนี้อีก อย่าให้เขามาเข้าใกล้ลูกบัว เพราะบัวไม่รับประกันหรอกนะ ว่าถ้ามีครั้งหน้าบัวจะไม่กลายเป็นไอ้หน้าตัวเมียที่ทำร้ายผู้หญิง...”

                สีหน้าขู่ฟ่อราวสิงโตตัวเมียหวงลูกได้ใจนายเหมืองไปเต็มๆ ชายหนุ่มฉกริมฝีปากวูบลงข้างแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะมาจบลงที่ริมฝีปากนุ่มหยุ่นหอมหวาน แม้ขนาดตอนโกรธแล้วเม้มริมฝีปากแน่นไม่ยอมให้เขาฉกลิ้นเข้าไปด้านในได้ แต่แค่และเล็มภายนอกก็ยังชื่นใจไม่สร่าง...คนคนนี้ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ

“...เอ๊ นายเหมือง! บัวกำลังโกรธอยู่นะ!!” พอเห็นอีกฝ่ายมองอารมณ์โกรธของเขาเสมือนเรื่องไม่เป็นเรื่องบัวก็ชักจะเริ่มโกรธขึ้นมาอย่างจริงจังจนถึงขั้นแอบขึ้นเสียง ทว่าคนยิ้มกริ่มยังคงยิ้มลอยหน้าต่อไปไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลยสักนิด

“รู้ครับว่าโกรธ โกรธแทนลูกพี่ด้วยใช่มั้ย เอาน่า...เดี๋ยวเราขึ้นไปปลอบลูกพร้อมกัน สองคนนั้นไม่ใช่เด็กคิดเล็กคิดน้อย รับรองว่าคงเก็บเรื่องนั้นไปคิดไม่นานหรอก”

“อย่าไปคิดแทนเด็กหน่อยเลย ตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้นด้วยแท้ๆก็พูดได้สิ”

“ครับ โอเคพี่ผิด พี่ขอโทษ...พี่ยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาแม้ว่ามันจะยังไม่กระจ่างและมีหลักฐานมัดแน่นเพียงพอก็ตาม พอใจรึยังคนดี”

“อ๋อ...ถ้าพูดแบบนี้แสดงว่าให้บัวไปยืนจูบกับพี่ฉัตรต่อหน้าแล้วกลับมาขอโทษกันก็หายแล้วงั้นสิ”

“เอาล่ะ พี่ว่าบัวเริ่มโกรธซ้ำซ้อนแล้วนะ...เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันไม่เหมือนกันนะครับ เอางี้...พี่จะยอมให้บัวลงโทษพี่เลย ดีมั้ย...อ่ะ ให้สองแก้มเลย แรงๆ...”

“ได้...ให้บัวต่อยได้ใช่มั้ย” ครูบัวยกมือบางขึ้นเตรียมจะต่อย ความจริงไม่ได้คิดจะต่อยหรอก หวังเอาแค่ตบให้พอมันส์มือเท่านั้น ทว่าอีกคนกลับยังเอียงหน้าแล้วหลิ่วตาให้อย่างไม่กลัวที่จะโดนทำร้าย

“ไม่ได้ให้ต่อย...แต่ให้ตบแทนได้มั้ย...”

“ตะ...ตบ...บัวจะ...ตบจริงๆนะ”

“เอาเลยครับ...แต่ว่าถ้าตบ...บัวก็ต้องยอมรับกฎของฉากแบบนี้นะ ว่าถ้าตบ...ก็ต้องโดน...จูบ” นายเหมืองไม่ยอมรอให้ต้องโดนตบก็เลยก้มลงไปบดจูบเสียก่อน บัวตาโตหาจุดโฟกัสบนใบหน้านายเหมืองไม่เจอเพราะมันใกล้มากเกินไป จนเมื่อเขาถอนจูบออกไปแล้วบัวก็ยังมองใบหน้าหล่อคมนั่นไม่ชัดเหมือนเดิม ทว่าด้วยอาการเขินอายก็เลยเผลอยกมือขึ้นไปตบแก้มเขาเบาๆทั้งสองข้างทีหนึ่ง

“บ้า...นายเหมือง! บัวยัง..ไม่ได้ตบเลยนะ”

“ไม่เป็นไรพี่แถมให้ นี่...ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ...อึ๊บ!”

“หวะ...หวา...” บัวร้องเสียงหลง เมื่อจู่ๆร่างเขาก็ถูกช้อนใต้ข้อพับขาขึ้นอุ้ม คนอุ้มเขาราวกับอุ้มนุ่นมองลงมาด้วยสายตาแวววาวบ่งบอกความต้องการอย่างไม่ต้องการปิดบัง และทางที่เขาอุ้มพาบัวเดินตรงไปนั้นก็ช่างน่าหวาดเสียวเสียเหลือเกินเมื่อมันคือห้องน้ำรวมของบ้านที่อยู่ใต้บันได

“ดะ...เดี๋ยว นายเหมือง...บัว  คือ..เด็กๆยังรออยู่ข้างบน...ละ...แล้วบัวก็ยัง..ไม่หายโกรธ”

“ก็กำลังจะทำให้หายอยู่นี่ไง...ฟอด” ใบหน้ารกตอเคราครึ้มบางๆฉกวูบเข้าที่ข้างแก้มนุ่มๆ กลิ่นเหงื่อเขาแทบไม่มีผลเลยเมื่อกลิ่นหอมเนื้อนุ่มของครูบัวกลบเสียหมด หอมแล้วหอมอีกเท่าไหร่ก็ไม่พอสักที

“มะ...ไม่เอา...ไม่เอาที่นี่...นะ”

“แต่พี่ไม่ไหวแล้วนี่ครับ...นะ ไม่นานหรอก...”

                 พูดมาได้ว่าไม่นานหรอก...ตัวเองน่ะอึดออกจะตายไป อย่าหวังเลยว่าถ้าเอวเขาไม่หักคงไม่ได้ออกไปจากห้องน้ำนี้แน่

“ตะ...แต่เด็กๆ...”

“ส้มอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ ไม่เป็นไรหรอก...” เสียงพูดทุ้มหูเอ่ยชวนเชิญให้เขาคล้อยตาม มือก็เริ่มสาละวนอยู่กับขอบเสื้อและขอบกางเกง ซึ่งไม่นานมันก็หลุดลงไปกองที่ขาได้อย่างง่ายดาย บัวพยายามจะรั้งแล้วนะแต่สู้แรงเขาไม่ได้จริงๆ

“ที่รัก แยกขาหน่อยสิครับ...” ถึงเสียงทุ้มจะบอกบัวอย่างนั้น แต่บัวกลับไม่ต้องทำอะไรเลยเมื่อคนพูดกลับเป็นฝ่ายพลิกตัวบัวให้ไปเท้าแขนอยู่กับอ่างล้างหน้า แล้วจับขาบัวแยกออกจากกันด้วยตัวเอง

               บัวพยายามเหลือบมองไปด้านหลังเพื่อจะได้รู้ว่าร่างกายตัวเองกำลังจะโดนอะไรบ้าง ทว่ากล้ามไหล่บวกกับใบหน้าหล่อเหลากลับเข้ามาปิดบังไว้ไม่ให้บัวเห็น ปลายคางถูกจับเอียงให้ยอมรับจูบจากคนคุมเกมส์ อารมณ์ที่มันบิดเบี้ยวเพราะทั้งโกรธทั้งงอนเขาก่อนหน้านี้เริ่มผสมปนเปกันไปหมด แล้วมันก็ค่อยๆถูกเป่าให้หายไปช้าๆเมื่อความอายและความซ่านเสียวค่อยๆก่อตัวขึ้น จากปลายนิ้วและปลายลิ้นที่พลิกพลิ้วไปทั่วทั้งร่างอย่างคึกคะนองในอารมณ์

“นะ...นายเหมือง ไป...คึกมาจากไหนเนี่ย”

“ก็พี่เพิ่งทำงานเสร็จ กลับมาเจอเมียงอนอยู่ในบ้านก็ต้องเอาใจกันหน่อยสิครับ...”

“แต่ขนาดนี้...ไม่ไหว บัวไม่ไหว...ไหนบอกว่า..จะแป๊บเดียวไง” คำพูดต่อกันไม่ติดเป็นประโยคเดียว เนื่องเพราะอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจนหายใจติดขัด บัวรู้สึกว่าบทเล้าโลมของนายเหมืองในวันนี้ค่อนข้างรุนแรงและเน้นหนักในทุกๆสัมผัส จนบัวเริ่มที่จะยืนเท้าแขนตัวเองกับขอบอ่างล้างหน้าไม่ไหว

“บัว ถ้ายืนไม่ไหวก็เกาะแขนพี่ไว้นะ” คนได้กำไรทั้งขึ้นทั้งล่องเอาสองแขนค้ำยันกับผนังคร่อมร่างคนที่ต้องรองรับเขาเอาไว้  มือเล็กๆของบัวพอเห็นหลักยึดก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปจับ พันแขนตัวเองเอาไว้กับท่อนใหญ่แล้วสอดนิ้วมือประสานเข้าหา พิงศีรษะลงกับซอกคอที่กรุ่นกลิ่นเหงื่อและฟีโรโมนของเพศผู้ที่เข้มข้นจนแทบสำลักของคนทำงานกลางแจ้ง

               นาทีนี้ไม่ยอมก็ต้องยอมแล้วล่ะ...เพราะห้ามก็คงไม่ไหว  เมื่อตอนนี้ร่างกายหนุ่มแน่นของคนยืนซ้อนหลังกำลังสอดกายตัวเองเข้าหาบัวอย่างดุดัน  แม้บัวจะร้องบอกว่าให้ช่วยผ่อนแรงลงหน่อยเขาก็ทำเพียงยืนนิ่งๆ พอได้จังหวะบัวหายใจออกเพื่อพยายามผ่อนคลายตัวเองชายหนุ่มก็ใช้จังหวะนั้นดันตัวเองเข้ามาอีก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้บัวคุ้นเคยอย่างเพียงพอ กระนั้นเขาก็ยังพยายามเดินหน้าไม่มีถอยหลังเพื่อถนอมก้นบัวเลยสักนิด

“...อ๊า...อยะ...อย่า...ฮ่ะ...ฮึ้ก...หนะ..นายเหมือง  ไม่ไหว...บัวไม่ไหว..จริงๆ หยะ...”

“ที่รัก...เก่งมากเลยคนดี  รับพี่เข้าไปหมดแล้วนะ  ไม่เป็นไรครับพี่ยังไม่ขยับนะ  อ่า...แต่..อย่าตอดแรงนักสิ  ชู่ว...ไม่เอานะคนดี  เงียบก่อนนะครับ  มีคนเดินลงมาแน่ะ” 

                ในระหว่างที่บัวกำลังพยายามจะขยับเอวเพื่อให้การสอดประสานมันเข้าจุดที่ลดอารมณ์ของบัวได้ต่ำที่สุดนั้น ฝ่ามือสองข้างของบัวก็ถูกรวบเอามาจับเอาไว้ด้วยมือใหญ่ข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างคนพละกำลังเหนือกว่ากลับเอามาทาบนิ้วชี้เข้าที่ปากของบัว  แล้วพยายามจะดุนดันมันให้เข้ามาให้ปาก  คุณครูหนุ่มน้อยที่แพ้ทางเขาไปเสียทุกอย่างเริ่มยอมจำนนอย่างจริงจัง  ยอมอ้าปากให้ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาหยอกกับลิ้นเขา  ในขณะที่ด้านหลังสะโพกสอบก็เริ่มขยับหมุนวนเป็นวงกลม

“อ๊ะ..ฮึ้ก....อุก”

“ชู่ว...พี่บอกให้เก็บเสียงหน่อยไงคนดี  เดี๋ยวก็มีคนรู้หรอกว่าเราสองคนอยู่ในนี้...”  คนร่างสูงใหญ่กว่าเอ่ยซ้ำในขณะที่สะโพกก็ขยับวนไม่หยุด ...ทำกันแบบนี้ยอมให้บัวกัดลิ้นกลั้นใจตายไปเลยเถอะ จะให้บัวเงียบก็ช่วยหยุดขยับเอวก่อนได้มั้ย  ทำแบบนี้นี่มันแกล้งกันชัดๆ

                ...ตึก...ตึก...ตึก...   
 
                เสียงคนลงบันไดมาจากชั้นบนดังชัดเมื่อเสียงมันดังขึ้นแถวๆด้านบนศีรษะของบัวเอง  คุณครูหนุ่มพยายามหยุดชะงักการเคลื่อนไหวทุกอย่างรวมทั้งเสียงของตัวเอง แต่คนสั่งให้เขาเงียบตั้งแต่แรกกลับไม่มีการให้ความร่วมมือด้วยใดๆทั้งสิ้น  แม้บัวจะพยายามตอดรัดเจ้าท่อนใหญ่ยักษ์ในกายเพื่อให้มันหยุดขยับมากแค่ไหน ก็เหมือนจะกลายเป็นการกระตุ้นพ่อตัวดีมากขึ้นเท่านั้น  สุดท้ายบัวจึงทำได้เพียงมองไปหาคนด้านหลังด้วยแววตาเว้าวอนให้สงสาร

‘เอ...หายไปไหนเนี่ย  ไหนบอกจะลงมาแป๊บเดียวไง  นี่นายเหมืองก็ไม่อยู่อีก  ไปไหนกันวะ...’  เสียงเจ้าส้มดังแว่วมาจากหน้าประตู  ...แย่แล้ว! ใกล้ขนาดนี้  ส้มคงจะได้ยินเสียงแปลกๆจากในห้องน้ำนี้แน่...

                  บัวหลับตาปี๋  นิ้วมือจิกลงบนมือใหญ่โตของนายเหมืองกะให้ได้เลือด  แกล้งเขาดีนักก็ควรจะต้องโดนเอาคืนเสียบ้าง  แต่ปลายลิ้นแผ่วเบาที่แตะแล่บลงที่หลังใบหูก็ทำให้บัวสะดุ้งเฮือกจนตัวสั่นไปหมด  อย่าเชียวนะ...อย่าให้บัวหลุดออกไปได้เชียว  คราวนี้ต่อให้ทำธูปแพเทียนแพมากราบบัวก็จะไม่ยอมยกโทษให้แน่ๆ!...

‘หรือว่าออกไปข้างนอกกันเนี่ย...โทรถามพี่พุฒดีกว่า’  เสียงเจ้าส้มยังคงลอยเข้ามาให้ได้ยิน  ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตึงตังเหมือนคนกำลังเดินกลับขึ้นบันไดไปเหมือนเดิม

                สายน้ำลายย้อยยืดยาวออกมาจากปลายนิ้วของนายเหมืองสิงห์ที่สอดเอาไว้ในปากนุ่มหวานของครูบัว  น้ำตาสายเล็กๆที่ล้นปริ่มทำให้นายเหมืองอดไม่ได้ที่จะรองรับมันไว้ด้วยปากของตัวเอง...เขาทำครูตาหวานร้องไห้อีกแล้ว  ถ้าเป็นสถานการณ์อื่นเขาคงอยากฆ่าตัวเองแน่ที่ทำให้อีกฝ่ายเสียน้ำตา...แต่ถ้าร้องเพราะสถานการณ์แบบนี้ใต้ร่างเขาทุกคืนก็เห็นจะไม่เลวแฮะ...

“ฮึก..อ๊ะ...ฮ่า...ลึก...ลึกไป อยะ...อย่า..อย่าขยับ ฮึก...อย่านะ”

“อีกนิดนะครับ...นิดเดียวนะ”  เสียงทุ้มบอกปฏิเสธความต้องการของคนที่ดูท่าจะรับเขาไว้ไม่ไหวโดยสิ้นเชิง

“มะ...ไม่เอา  นายเหมือง...มัน...กระตุก..ฮึก  ในท้อง...อ๊ะ...มัน”

“ฮ่าห์...พี่ขอ..ปล่อยข้างในนะบัว อ่ะ...”

               ถึงปากจะถามคล้ายต้องการขออนุญาต แต่คนปวารณาตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเรือนร่างน้อยขาวผ่องนี่ไปแล้วก็ลงมือทำทันที  อารมณ์หวามที่มันอัดแน่นอยู่เต็มกายส่งให้เอวเขากดมังกรคอมมานโดยักษ์ของตัวเองเข้าออกลึกๆ ก่อนจะกดแช่เอาไว้แน่นๆเมื่ออารมณ์มันมาถึงขีดสุด  คุณครูตัวบางน่ะเสร็จไปก่อนเขาแล้วตอนที่ร้องไห้  ตอนนี้ก็เลยต้องมายืนขาสั่นเขย่งเท้าขึ้นเพื่อให้ก้นอยู่ตรงกับเอวเขา  มือบอบบางพยายามที่จับมือเขาเอาไว้ให้แน่น  ลำคอระหงก็เอนซบเข้าหา  แผ่นหลังแอ่นโค้ง  คงเพราะครูบัวคงรู้สึกยืนได้ไม่มั่นคงนักถึงได้มีท่าทางที่ทรมานแบบนี้

“อ๊ะ...ฮ่าห์...”

               เสียงทุ้มแหบพร่าเมื่อได้ปลดปล่อยทุกหยาดหยดลงไปในตัวคนรัก  ความรู้สึกเป็นผู้เหนือกว่าที่ได้เป็นผู้ครอบครองเอ่อท้น  ชายหนุ่มฝังรอยจูบเอาไว้ที่หลังคอและตามแนวลาดไหล่แบบไม่กลัวครูบัวจะต้องอายเมื่อต้องใส่เสื้อเลยสักนิด  กลิ่นลมหายใจปนกลิ่นน้ำคาวคละคลุ้งเต็มห้อง  บัวเริ่มสะอึกสะอื้นออกมาเล็กๆตอนที่นายเหมืองสิงห์ถอดถอนท่อนลำใหญ่ยักษ์ของตัวเองออกมา  ข้อเข่างอพับลงทันทีเมื่อร่างกายขาดที่ค้ำยัน  กระนั้นคนที่เพิ่งได้ปลดปล่อยความเป็นเจ้าของเข้าไปในเรือนร่างขาวผ่องไปหมาดๆก็ไม่ยอมปล่อยให้บัวต้องลงไปนั่งคลุกพื้นห้องน้ำแน่  ท้องแขนข้างที่ไม่ได้จับยึดมือบัวไว้ช้อนเข้าที่ใต้ท้อง  ก่อนจะดึงรั้งให้ลำขาเพรียวบางเดินไปทางชักโครก  ก่อนจะช่วยอีกคนทำความสะอาดเบื้องล่างให้อย่างคร่าวๆ  ครูบัวยังคงไม่สามารถทำอารมณ์ให้สงบลงได้  เมื่อนายเหมืองสิงห์สวมกางเกงคืนให้เรือนร่างหอมนวลเสร็จสรรพแล้วจึงได้ช้อนแขนเข้าใต้ขา  ตัดสินใจอุ้มพาครูบัวออกจากห้องน้ำเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อพาไปนอนพักให้ถึงเตียง

              จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปที่ห้องลูก  เห็นเจ้าส้มกำลังพัดวีลมไม่ให้ยุงมาไต่ลูกชายเขาที่คงโยเยจนหลับอยู่บนเตียงก็ตัดสินใจอุ้มเจ้าลูกชายขึ้นทีละคน  เพื่อพาไปนอนที่ห้องคุณครูตาหวานของเด็กๆเพราะเขาเปิดแอร์ไว้ที่ห้องโน้นเรียบร้อยแล้ว  เจ้าส้มมองเขาก็ไม่ได้ถามอะไรมากนอกจากช่วยเก็บเตียงของเด็กๆให้เมื่อเขาอุ้มเจ้าแสบสองออกจากห้องไปนอนบนเตียงเดียวกับคุณครูของแกที่กำลังสลึมสลือใกล้จมลงสู่นิทราเต็มที

“ส้ม ถ้าจะออกจากบ้านก็ฝากล็อกบ้านด้วยนะ  ป้าแหม่มมีกุญแจอยู่แล้วเข้าบ้านได้...เดี๋ยวฉันจะขอนอนกับเมียกับลูกสักแป๊บ  เดี๋ยวมื้อเย็นค่อยขึ้นมากินที่นี่พร้อมไอ้พุฒก็แล้วกัน”

“แหมนาย...เรียกเมียกับลูกชัดเจนเชียวนะ”  ส้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเบ้ปาก  แต่คนถูกแซวกลับทำเพียงยักไหล่  แล้วคว้าผ้าขนหนูพร้อมกางเกงเพื่อเข้าไปอาบน้ำล้างตัวในห้องน้ำ  ก่อนจะกลับออกมาด้วยกางเกงผ้าฝ้ายตัวเดียว

              เจ้าส้มแอบเผลอหน้าแดงเล็กๆเมื่อได้เห็นรูปร่างกล้ามปึ้กแบบนั้นของเจ้านาย  แม้จะเคยชินกับสามีของตัวเองที่มีไม่ต่างกันนักอยู่แล้วก็เถอะ  แต่พอได้มาเห็นของคนอื่นแบบนี้แล้วมันก็อดที่จะเขินขึ้นมาไม่ได้นี่นา

“มองอะไร...ออกไปได้แล้วไอ้ส้ม  อ้อ  ก่อนออกไปฝากปิดไฟด้วยนะ  ขอบใจมาก”

“โอ้โห...นี่ใช้งานไม่เกรงใจกันเลยนะนาย...ก็ได้ๆ”  เจ้าส้มแม้จะหงุดหงิดกับท่าทางไม่แคร์สื่อแบบนั้นของนายเหมืองสิงห์  กระนั้นก็ยอมปิดไฟให้ตามคำขอ  แล้วจุดยิ้มมุมปากขึ้นมาน้อยๆเมื่อมองภาพนายเหมืองวาดมือโอบกอดคนทั้งสามเอาไว้ใต้อ้อมแขนใหญ่  ทำราวกับตัวเองกำลังแผ่ปีกออกกางเพื่อปกป้องครอบครัวที่รักเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น...

                ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไปทีเถิ๊ดดด...ส้มล่ะไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายใดๆกับครอบครัวนี้อีกเลย...เฮ้อ

------------------------------------------

ค่อยยังชั่วที่ยังลงได้จนจบ  นึกว่าจะเกินเหมือนน้องจันทร์ซะละ  เดี๋ยวได้มีต่อแบบค้างๆ  20%  แน่ๆ  ห้าห้าห้า   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2014 20:11:27 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:มาต่อแล้ววววววววววว :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
โอ๊ยยยยยยย รอมานานนนนนนนนน #น้ำตาไหลพราก

แต่เค้าค้างอ่าาาาาาา
มาต่อที่เหลือเร็วๆนะ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
มาแล้ว ครูบัวน่ารักตลอดอ่ะ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
นายเหมืองจะทดสอบอะไรก็ให้มันน้อยๆ หน่อย

อยากรู้อะไรดูยาวๆ ประเภทมาสร้างสถานการณ์เพราะอยากรู้ว่าครูจะทำอะไร
ไม่ต้องแล้วมั้งที่แบกลูกหนีออกจากป่ายังไม่พออีกเรอะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ครูบัวเห็นช็อตเด็ด
ตายแน่นายเหมือง 55555

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
มาแล้ววววววววว

นางเหมืองหลบหน่อยก็ได้มั้ง

โดนครูบัวโกรธแน่งานนี้

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao7: เตรียมหัวแตกไว้ได้เลยนายเหมืองงานเข้าชัวร์

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ขอให้เรื่องเรียบร้อยเร็วๆจะได้อธิบายให้บัวฟัง

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โดนแน่ๆนายเหมืองสิงห์ คราวนี้ละภานาให้ครูบัวหอบผ้าผ่อนหนีไปเลย

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ครูบัวเห็นแน่นอนนายเหมือง  :hao3:

ออฟไลน์ PhInNoI

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
 :mc4:
เย้ๆๆๆๆๆ มาต่อแล้วๆๆ
 :3123:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด