หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]  (อ่าน 763867 ครั้ง)

ออฟไลน์ kikumaru

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
ครอบครัวนี้เค้าน่ารักดีชอบ ติดตามคนเขียนเรื่องนี้ทุกเรื่อง แม้ช่วงหลังๆจะหายตัวไปบ้าง ขอบคุณมากๆคะ

ออฟไลน์ noopukna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: สนุกมากค่ะไรท์

ออฟไลน์ kissings

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เพิ่งเข้ามาเจอเรื่องนี้ สนุกและน่าติดตามๆมากๆเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้สร้างผลงานดีๆแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะคะ :)

ออฟไลน์ winmania

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Atropos

  • ความตายยุติธรรมเสมอ~!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เรื่องนี้สนุกและน่ารักมากกกกกอะ
หลงรักกเลยยย
มารอด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ poochai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คิดถึงเสือน้องทั้งสองแล้ว รอคนแต่งมาต่อนะค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ zerea

  • แด่...คนที่หัวใจมีรัก...มั่นคง ยาวนาน ตลอดไป><
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35633.msg2204628#msg2204628
น่ารักมากกกกก แต่หายไปนานจังเลย :mew6:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
รออยู่น้า  :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 4life

  • R.I.P KT 5-5-13
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 995
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
หายไปนานมากเเล้วอ่าาา
ยังรอคนเขียนอยู่นะจ้าา :o12:

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
จงอัพ เห็นคนแนะนำเยอะ ดองไว้อ่านรวดเดียว :call:

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยังรออยู่นะคะ :katai5:

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :o12:  นี่แผน สร้างความประทับใจหรือเปล่า

รอๆๆตอนต่อไปนะครับ :impress3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :z13: เมื่อไหร่หนอที่เธอจะกลับมา คอยนับวันเวลาเธออัพตอนใหม่ :mew2:

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
รอมาตลอดเลยน๊าาา

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :m15:  คิดถึงสองแสบจังค่ะ
ไม่มาต่อแล้วเหรอคะ เค้ายังรออยู่น๊า  :hao5:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เอ้า หายไปไหนน้ออออออ คิดถึงคนเขียนแทบใจจะขาด อยากให้เธอกลับมาเสียที คิดถึงเธอทุกวินาที อยากจะพบเธอคนเดียว

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักกก

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
 :serius2: :serius2: :serius2:
หายไปนานเกินไปมั้ยคะ ตั้งแต่เดือน 3 ยันเดือน 8 จะห้าเดือนแล้วเน้อ
คิดถึงสองแสบ
คิดถึงน้องบัว คิดถึงนายเหมืองจุงงงง

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๑๘


      อากาศยามเช้ามืดของวันใหม่ค่อนข้างเย็นกว่าปกติ  บัวหยิบเสื้อถักแขนยาวที่แม่ทำให้ขึ้นมาสวม มองกลับไปบนเตียงก็เห็นนายเหมืองกับสองแสบยังนอนหลับสนิทกรนนิดๆกันอยู่เลยไม่อยากปลุก ได้ยินเสียงกุกกักๆอยู่ชั้นล่างก็รู้ได้เองโดยอัตโนมัติว่าป้าพุดคงจะตื่นมาเตรียมของเช้าเรียบร้อยแล้วตามปกติ

      บัวรีบล้างหน้าแปรงฟันให้เสร็จก่อนจะค่อยๆย่องลงไปข้างล่าง เสียงนกร้องยามเช้าคลอมากับกลิ่นดอกจำปีหอมอ่อนลอยตามลม บัวหยุดพักตรงระเบียงหน้าต่างระหว่างทางเดินแล้วสูดออกซิเจนสะอาดเข้าเต็มปอด พอสมองปลอดโปร่งก็เริ่มนึกย้อนถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานขึ้นมาชั่วขณะ คุณครูหนุ่มก้มลงมองดูมือที่เพิ่งได้ถือปืนเป็นครั้งแรก ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มีโอกาสมาจับอาวุธอันตรายอย่างนั้น

      แต่เอาเถอะ ครั้งหนึ่งในชีวิต...ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ แต่ก็คิดว่าดีแล้วที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ถึงอย่างนั้น...มันก็ทำให้เขาเห็นถึงความรักความผูกพันของชาวเหมือง ที่ทุกคนช่วยกันปกป้องดูแลเจ้านายด้วยใจ ไม่ใช่เพราะหน้าที่หรือน้ำเงิน ซึ่งคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้ก็คือนายสิงห์ ผู้ชายที่ขยันสร้างแต่เรื่องให้บัวประทับใจให้เพิ่มขึ้นได้อีกอย่างหนึ่งแล้ว

“ป้าพุด จะออกไปตลาดหรือครับ” บัวส่งเสียงทักเมื่อเห็นคุณป้าแม่บ้านเก่าแก่ในชุดเสื้อผ่าหน้าคอกลมกับผ้าถุงสีน้ำตาลส้มผืนเก่งกำลังสวมรองเท้าอยู่หน้าประตูบ้าน

      พุดฤทัยฉีกยิ้มกว้างให้กับคุณครูหนุ่มของสองแสบก่อนจะเอ่ยตอบไปว่า

“ใช่ค่ะ ครูอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะป้าจะได้ซื้อเข้ามาให้”

“บัวทานอะไรก็ได้ครับ ฝีมือป้าพุดอร่อยทุกอย่าง” เขาชมพร้อมตบด้วยมุกหยอดคนแก่ ป้าพุดกยิ้มแฉ่งกระชุ่มกระชวยขึ้นมาในทันที

“แหม ถ้าจะชมกันขนาดนี้ก็มาอยู่เป็นขวัญเรือนให้ป้าถาวรเลยได้มั้ยคะคุณครู” หยอดมาป้าแกก็หยอดกลับ เล่นกับแกได้ที่ไหนกันป้าพุดฤทัยคนงามแห่งเหมืองสิงห์คนนี้

      บัวไปไม่เป็นเลยทีเดียวกับคำหยอดของป้าแก ได้แต่เรียกชื่อแกกลับเสียงอ่อยแล้วเลี่ยงไปถามเรื่องอาหารเช้าวันนี้แทน พุดฤทัยอ่านท่าทางครูเขาออก แกพยายามหยอดไปวันละนิดวันละหน่อย ถ้าเป็นหอยหลอดโดนหยอดด้วยปูนขาวขนาดนี้มันก็ต้องยอมขึ้นมาเหนือน้ำเหนือทรายในสักวันหนึ่งแน่ๆ แล้วครูบัวผิวบางตัวน้อยขนาดนี้จะไม่ยอมโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเจอแสงสว่างบนสวรรค์แห่งเหมืองสิงห์ได้อย่างไรกัน

      บัวยืนส่งป้าพุดที่ขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์คนงานเหมืองคนหนึ่งที่มาจอดรอรับแกที่หน้าบ้านเพื่อไปตลาด เสร็จสรรพแล้วจึงหันเท้าเดินกลับไปทางครัว ป้าแกบอกว่ามื้อเช้าวันนี้จะต้มจับฉ่าย เด็กๆจะได้ทานผักเยอะๆ บัวเองก็ชอบผักมากกว่าเนื้อสัตว์ และเมนูจับฉ่ายก็เป็นอะไรที่ทานง่ายและดีต่อสุขภาพด้วย

      บัวมองวัตถุดิบที่อยู่บนโต๊ะเตรียมอาหาร เห็นว่ามีผักอยู่ครบกับหมูสามชั้นนิดหน่อย ก็เลยว่าจะต้มผักรอป้าพุดแกไปซื้อหมูมาเพิ่มพลาง คุณครูหนุ่มหยิบหม้อขึ้นตั้งไฟและเริ่มพิธีการต้มผักรอ ระหว่างนั้นคุณครูตาหวานก็เดินออกไปข้างบ้าน ฉีกใบตองออกมาหน่อยหนึ่งแล้วห่อเป็นกรวย ต้นจำปีที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนต้องได้รับการจัดการให้เหี้ยน คุณครูบัวเดินเข้าไปที่ใต้ต้น เขย่งๆกระโดดๆสองสามทีก็ได้ดอกจำปีมาเต็มกรวย กลิ่นหอมฟุ้งติดกายแบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม ว่าแล้วบัวก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ปิดแก๊สเสร็จก็เดินขึ้นไปชั้นสองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่พร้อมทำงานในตอนกลางวัน ส่วนกรวยดอกจำปีนั้นบัวเอาไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง พอลมพัดเข้าห้องมาก็จะพัดพาเอากลิ่นหอมๆให้ลอยไปถึงคนสามคนที่ยังนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมตื่น จนอาบน้ำเสร็จบัวก็กลับลงมาข้างล่าง และพบว่าที่หน้าเตานั้นมีป้าพุดมายืนแสตนด์บายรออยู่เรียบร้อยแล้ว

      คุณครูหนุ่มผู้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีก็เข้าไปยืนเป็นลูกมือช่วยป้าพุดอยู่ในครัวตามที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน บัวอยู่ช่วยทำอาหารเช้าอยู่จนกระทั่งเกือบแปดโมง เสียงตึงตังๆเหมือนมีคนวิ่งแข่งกันลงบันไดก็ทำให้บัวต้องหันหน้าไปมอง แม้จะยังไม่เห็นตัวแต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าของเสียงคงหนีไม่พ้นจอมแสบประจำบ้านแน่ๆ และก็เดาไม่ผิดเสียด้วยเมื่อแรงแขนเล็กๆสองคู่แย่งกันสวมกอดเข้ารอบเอวของคุณครู แต่ที่เห็นจะผิดคาดไปหน่อยก็คือเสียงทักที่มันไม่ใช่ครูตาหวานอย่างเคยนี่แหละ

“…หืม เมื่อกี้เรียกครูว่าอะไรนะ...” บัวถามย้ำ ไม่แน่ใจว่าเสียงฉู่ฉ่าของปลาทอดเมื่อครู่กลบเสียงเรียกของเด็กๆจนทำให้เขาหูเพี้ยนไปหรือเปล่า

“…แม่จ๋าาาาาา...” สองเสียงประสานกันราวนักร้องระดับดีว่า บัวตัวแข็งทื่อไปกะทันหันเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้นจึงไม่ทันได้ตอบอะไรเด็กๆออกไป มีเพียงเสียงหัวเราะชอบใจจากพุดฤทัยที่เอ่ยอธิบายให้ครูบัวฟังว่า...

“เมื่อก่อนแม่ของเด็กๆเขาก็จะมาเข้าครัวทำอาหารเช้ากับป้าแบบนี้นี่แหละค่ะ เด็กๆเขาคงชิน...” แล้วแกก็ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะสูงๆแบบมีความสุขนักหนา

“แม่บัวจ๋าาาา...ไทหิวววว” 

“เกอร์ก็หิวววว...แม่บัวจ๋าาาาา...”

      เสียงเรียกหวานหยดของเด็กๆสองแสบทำให้บัวไปไม่เป็น ดีใจมั้ย...ก็ใช่อยู่หรอก เพราะเขายอมรับว่าชอบพ่อของเด็กและเด็กๆก็เปิดใจให้ แต่อีกใจก็รู้สึกผิดกับแม่แท้ๆของเด็กๆ เพราะเขารู้สึกเหมือนไปแย่งที่แม่แท้ๆของเขา เพราะถึงต่างฝ่ายต่างบอกชอบกันแต่ก็ไม่เคยระบุสถานะระหว่างกันไว้ให้ชัดเจน ตอนนี้เขาเลยยังมีฐานะเป็นแค่ลูกจ้าง...เป็นครูของสองแสบอยู่เท่านั้น

“ไปลูกกินข้าว...ล้างหน้าแปรงฟันรึยัง”

“ล้างแล้วคร้าบครู!!” สองเสียงประสานกันอย่างร่าเริง บัวถอนหายใจโล่งอกเล็กๆเมื่อเด็กๆกลับมาเรียกเขาว่าครูเหมือนเดิม...เขาไม่กล้าปฏิเสธเด็กน้อยไปตรงๆเพราะกลัวเด็กๆเสียใจว่าอย่าเรียกเขาว่าแม่เลยเพราะเขาไม่ใช่ เรียกครูบัวหรือครูตาหวานเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว

      บัวบอกเด็กๆให้ไปหยิบจานแล้วไปคดข้าวด้วยตัวเอง ส่วนเขากับป้าพุดก็ช่วยทะยอยหยิบกับข้าวไปวางให้ที่โต๊ะ เขาบอกป้าพุดแล้วว่าหลังจากนี้ต้องให้เด็กๆบริการตัวเองเท่าที่จะทำได้ อย่ามัวต้องรอให้ป้าพุดหรือส้มเป็นคนทำให้ทุกอย่าง เพื่อที่ว่าโตขึ้นพวกเขาจะได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น ไม่ต้องมัวรอความช่วยเหลือจากคนอื่น เพราะตัวเองแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เพราะไม่เคยลงมือทำ

      บัวนั่งเฝ้าเด็กๆทานข้าวเช้าไปได้ไม่เท่าไหร่ เจ้าของบ้านร่างใหญ่ก็เดินคุยโทรศัพท์ลงมาจากชั้นบน กล้ามเนื้อสีแทนแน่นหนักถูกห่ออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้น เอาเสื้อใส่ไว้ในกางเกงพร้อมคาดเข็มขัดหนังเรียบร้อย ปากก็พูดตอบโต้กับโทรศัพท์ไป ส่วนสายตาก็มองมาทางบัว คุณครูหนุ่มรับรู้ได้ผ่านทางสายตานั้นว่าอีกฝ่ายกำลังเรียกให้ตนไปหา บัวจึงฝากฝังเด็กๆกับป้าพุดให้ดูให้ทานข้าวให้หมด เสร็จแล้วก็ให้ช่วยเก็บจานของตัวเองไปใส่อ่างให้เรียบร้อยด้วย จากนั้นจึงลุกไปหาเจ้าของบ้านซึ่งยืนรออยู่ตรงระเบียงชานพักบ้านคอยท่า

“มีธุระต้องออกไปเลยเหรอครับ ไม่ทานข้าวเช้ากับลูกๆก่อนหน่อยเหรอ” บัวออกปากถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายวางสายโทรศัพท์ไปเรียบร้อยแล้ว

“ไม่ล่ะ พี่ว่าจะออกไปโรงพัก ทางตำรวจโทรมาบอกว่าจับคนร้ายเมื่อคืนได้แล้ว บัวจะไปกับพี่มั้ย ไปชี้ตัวกับลงบันทึกประจำวันไว้ เผื่อเกิดอะไรขึ้นทางตำรวจจะได้มีข้อมูล” เมื่อคืนเขาจัดการแจ้งความไปเรียบร้อยแล้วแต่ก็เฉพาะชื่อตัวเอง เขาไม่อยากให้บัวมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จึงแอบเล่นเส้นให้มีแค่ชื่อของเขาในคดีความเท่านั้น ทว่าเมื่อเช้าเพื่อนเขากลับบอกให้บัวไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน เพราะเมื่อสืบสาวลึกไปถึงคนบงการแล้วดูท่าครูบัวจะพลอยไม่ปลอดภัยไปด้วย

“…ครับ บัวไปด้วย แล้วเด็กๆ...”

“ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่ออกไปนอกเขตเหมืองรับรองได้ว่าจะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับสองคนนั้นแน่นอน” ชายหนุ่มใหญ่ว่า บัวมองท่าทางเคร่งเครียดเล็กๆแล้วก็พอเข้าใจสถานการณ์ คุณครูหนุ่มขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อครู่เดียวก็กลับลงมา บอกเด็กๆว่าให้พักได้หนึ่งวันเพราะเขาจำต้องออกไปธุระกับนายเหมืองสิงห์ เด็กทั้งคู่มีอาการงอแงเล็กน้อยเมื่อทราบว่าจะไม่ได้อยู่กับครูตาหวานทั้งวัน แต่กระนั้นก็ยอมเข้าใจและหันไปหาอะไรเล่นกันสองคนตามปกติ

      บัวบอกป้าพุดว่าให้ตามส้มกับเม่นมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะหากเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยเจ้าส้มกับเม่นที่เป็นผู้ชายก็คงช่วยอะไรได้บ้าง ที่สำคัญจะได้ตามจับสองแสบทันเวลาซนมากๆจนเผลอออกนอกสถานที่

      นายเหมืองสิงห์ไปยืนรออยู่ในรถอีกพักใหญ่กว่าบัวจะตามมา ตอนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อก็ไม่เห็นจะนาน แต่พอเป็นเรื่องของลูกๆเขาแล้วล่ะก็บัวจะไม่ยอมปล่อยผ่านเลยทีเดียว

      เมื่อเรียบร้อยคนทั้งคู่ก็ออกจากเหมืองแล้วเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานตำรวจประจำอำเภอทันที

      ระยะทางจากเหมืองไปที่สำนักงานตำรวจใช้เวลาเดินทางประมาณสี่สิบห้านาทีก็ถึง ระหว่างทางนายเหมืองสิงห์บอกกับบัวเรียบร้อยแล้วว่าคนร้ายสองคนเมื่อคืนถูกใครจ้างวานมาและทำไมบัวถึงต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ตอนที่ไปถึง..ภากรและคมสันต์ เพื่อนตำรวจของนายเหมืองสิงห์ก็มายืนรออยู่ที่หน้า สน. แล้ว ทั้งคู่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งบัวและนายเหมืองไม่ต้องรอเรื่องเอกสารนาน และขึ้นไปนั่งรอชี้ตัวผู้ต้องหาในห้องรับรอง ระหว่างนั้นผู้กำกับ สน. ในพื้นที่นั้นก็ตามเข้ามาในห้องเพื่อพูดคุยกับนายเหมืองเป็นการส่วนตัวด้วย บัวที่นั่งรออยู่ในห้องรับรองก็เลยได้คุยกับภากรและคมสันต์ไปพลาง ซึ่งทั้งคู่ก็สอบถามบัวย้อนหลังไปถึงตอนที่เขากับไทกอนหลงป่าแล้วไปเจอกับพวกลักลอบตัดไม้เข้า เพราะทางตำรวจกำลังสงสัยว่าพวกที่มาเล่นงานบัวกับนายเหมืองนั้นมีส่วนเกี่ยวพันกับพวกลักลอบตัดไม้พวกนั้นด้วย แม้ว่าฝีมือของพวกนั้นจะดูเป็นมืออาชีพกว่าพวกเมื่อคืนก็เถอะ

“ครูพอจะจำได้มั้ยครับว่ามีพวกเมื่อคืน..เป็นหนึ่งในกลุ่มพวกตัดไม้เถื่อนด้วยหรือเปล่า” ภากรสอบถามข้อมูลจากบัว คุณครูตัวขาวคิ้วขมวดเค้นความคิดถึงเหตุการณ์ในครั้งก่อนที่เคยประสบ

“อืม...ตอนนั้นนอกจากสามคนที่ตามบัวมาแล้วบัวก็ไม่ทันได้เห็นคนอื่นอีกนะครับ เราสองคนได้ยินแต่เสียงเครื่องจักร ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเสียงรถก็เลยเดินตามไป แต่พอเจอช่วงที่เป็นป่าที่โดนตัดไปแล้วเราก็ตัดสินใจเดินกลับแล้วครับ...แต่ไม่รู้เลยว่าพวกนั้นเห็นพวกเราแล้วตามมาได้ยังไง” บัวพูดอธิบายซ้ำเหมือนเดิมอย่างที่เคยให้ปากคำกับตำรวจไปก่อนหน้านี้ ภากรพยักหน้ารับรู้ คมสันต์เดินอ้อมไปนั่งที่โซฟาข้างๆครูบัวแล้วเอ่ยปากถามต่อว่า

“แล้วตอนนั้นครูแน่ใจนะครับว่าไม่ได้ยินพวกมันพูดชื่ออะไรหรือใครอื่นอีก”

“อืม...ไม่นะครับ”

      ตำรวจสองนายถามบัวต่อในเรื่องอื่นอีกประมาณห้านาที นายเหมืองสิงห์ก็เดินออกมาจากห้องผู้กำกับ สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดบ่งบอกว่าเรื่องที่คุยกันคงเป็นเรื่องหนักใจไม่ใช่น้อย แต่กระนั้นพอเห็นหน้าบัวนายเหมืองสิงห์ก็คลี่ยิ้มให้ทันที ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อมองเห็นเพื่อนตำรวจสองคนนั่งขนาบซ้ายขวา แถมยังเอามือมาพาดพนักพิงเอาไว้ข้างหลังบัวด้วยท่าทางแสนกวนอวัยวะเบื้องล่างของเขาอีกต่างหาก ชายหนุ่มเดินอาดๆเข้าไปหากลุ่มเพื่อน แล้วฉุดแขนกระชากบัวขึ้นมาจากโซฟาแล้วเอามากอดไว้กลางห้องพัก ไม่มีแคร์เสียงเป่าปากและเสียงวี๊ดวิ้วของเพื่อนเลยสักนิด

“โอ่ย...แตะไม่ได้เลยนะ ‘ครูของลูกชาย’ เนี่ย...” ภากรเอ่ยนำร่องก่อน

“ลูกเขามีพ่อมีแม่ ไปฉุดกระชากลากถูเขาแบบนั้นผู้พิทักษ์สันราษฎร์อย่างผมมีสิทธิ์จับกุมคุณเข้าคุกนะครับ” คมสันต์ตามตบกลบร่องเสียมิด ใบหน้าคมกร้านของนายเหมืองขึ้นสีแดงเหรื่อ แต่เพราะมันคล้ำคนอื่นเลยไม่รู้นายเหมืองกำลังหน้าแดง แต่เพื่อนเก่าเพื่อนแก่สองคนรู้ดีว่านายเหมืองตัวโตกำลังเขิน เพราะท่าทางเกาจมูกนี่มันท่าประจำของเพื่อนตัวโตเวลาต้องการแก้เขินชัดๆ

“แฮ่ม...มัวแต่แซวกันแบบนี้ ขอโทษ...งานจะเดินมั้ย” ใบหน้าติดหนวดของผู้กำกับ สน. เดินผ่าเข้ามากลางวง ทำให้นายตำรวจสองนายต้องรีบเด้งตัวขึ้นมายืนตรง พร้อมกับที่นายเหมืองสิงห์ต้องรีบปล่อยตัวบัวออก เพราะยังสำนึกอยู่ว่าอะไรควรไม่ควรต่อหน้าเพื่อนเก่าของพ่อคนนี้

“งั้นลุงไปก่อนนะ ได้ความคืบหน้ายังไงแล้วลุงจะโทรประสานงานกับสิงห์อีกทีหนึ่ง” ผู้กำกับ สน. เอ่ยกล่าวอย่างเป็นการเป็นงาน บัวและนายเหมืองสิงห์ยกมือไหว้ พร้อมกับที่ภากรและคมสันต์รีบตะเบ๊ะมือเคารพผู้บังคับบัญชายามท่านเดินผ่านเพื่อออกจากห้องไป

“โอเค งั้นเราก็ไปกันเถอะ จะได้เสร็จเร็วๆ” คมสันต์เอ่ยบอกเมื่อสมาชิกครบ และเมื่อเอ่ยจบภากรกก็ออกเดินนำหน้าไปในทันที

      การชี้ตัวคนร้ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะทั้งบัวและนายเหมืองสิงห์จำหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พอเห็นบุคคลที่ยืนเรียงรายกันอยู่ในห้องกระจกแล้วทั้งบัวและนายเหมืองสิงห์จะชี้ตัวคนร้ายได้เหมือนกันเป๊ะ

      เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจที่สถานีตำรวจก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว นายเหมืองสิงห์จึงชักชวนครูบัวให้ไปหาอะไรทานกันในตัวเมือง บัวโทรเช็คที่บ้านแล้วก็ทราบว่าเจ้าส้มจัดการกับเด็กๆให้ทานข้าวและพาเล่นได้เรียบร้อยดีก็ตอบตกลง เพราะใจจริงอยากกลับไปทานข้าวที่บ้านพร้อมคนที่บ้านมากกว่า แต่ถ้าจะให้ตีรถกลับไปก็อีกกว่าครึ่งชั่วโมง เขาไม่อยากหิ้วท้องรอนานขนาดนั้นเช่นกัน

      สุดท้ายทั้งสองคนจึงไปลงเอยกันที่ร้านอาหารปักษ์ใต้ในห้างดังกลางเมืองเพราะอยู่ใกล้สถานีตำรวจที่สุดและหาที่จอดง่ายกว่าตามร้านข้างทาง ซึ่งตอนนี้จะค่อนข้างคับคั่งไปด้วยผู้คนที่ทะยอยออกมาหาอะไรทานเพราะเป็นเวลาพักของคนเมือง ทั้งคู่สั่งกับข้าวง่ายๆมาสองสามอย่าง โดยสองอย่างที่บัวสั่งไปนั้นเป็นกับข้าวรสจัดที่นายเหมืองชอบ ส่วนแกงจืดเต้าหู้ไข่ใส่ผักกาดขาวนั้นเป็นนายเหมืองที่สั่งมาให้ครูบัว เพราะรู้อยู่ว่าอีกฝ่ายทานเผ็ดมากไม่ค่อยได้ ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้บัวแอบประทับใจในความใส่ใจของผู้ชายตัวสูงผิวคล้ำคนนี้เป็นทวีคูณ เพราะแกงจืดนั้นเป็นสิ่งแรกที่นายเหมืองสั่งทันทีที่พนักงานมารับออเดอร์

“…แล้วก็ บัวอยากจะแวะไปร้านหนังสือสักหน่อยนะครับก่อนกลับ ว่าจะแวะไปดูแบบฝึกหัดคณิตที่เป็นภาษาอังกฤษเสียหน่อย ไลเกอร์ไวเรื่องภาษามาก ให้เขาได้เจอภาษาอังกฤษที่อยู่ในวิชาอื่นบ้างเขาจะได้คุ้นเคยมากขึ้น...” ในระหว่างที่อาหารกำลังทะยอยออกมาตั้งโต๊ะ บัวก็ชวนอีกฝ่ายคุยไปด้วยตามปกติ ทว่าอาการถามคำตอบคำพร้อมพยักหน้ารับสิ่งที่บัวถามของนายเหมือง ทำให้บัวรู้ว่านายเหมืองไม่ได้รู้สึกปกติไปกับบัวด้วย คุณครูหนุ่มอดไม่ได้จึงเอ่ยปากถามพร้อมยกมือตัวเองไปจับมืออีกฝ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะเป็นภาษากายที่บอกให้รู้ว่าตนเป็นห่วงไปด้วยว่า

“นายเหมืองเป็นอะไรรึเปล่า ตั้งแต่ออกมาจากโรงพักแล้ว...ทำท่าคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาเลย มีอะไรไม่สบายใจบอกบัวก็ได้นะ เผื่อบัวจะช่วยอะไรได้บ้าง”

      ชายหนุ่มตัวใหญ่พลิกฝ่ามือขึ้นเกาะเกี่ยวเรียวนิ้วของคุณครูบัวตาหวานเอาไว้ เขาเผยยิ้มน้อยๆให้กับความห่วงใยที่ชายหนุ่มตรงหน้ามีให้เขาเสมอมา บัวเป็นคนแรกที่ทำให้เขาประทับใจในความดี และความอดทน จนสามารถพาความรู้สึกดีนั้นก้าวข้ามผ่านเรื่องเพศ แล้วพัฒนาจนกลายมาเป็นความรักเหมือนอย่างทุกวันนี้ได้ ถ้าเป็นไปได้...เขาอยากจะเก็บคนคนนี้ไว้ใกล้ตัว อยากทะนุถนอม อยากดูแล อยากให้อยู่เป็นเพื่อนกันไปจนตลอดชีวิต

      แต่...

“…บัว พี่คิดว่า...ระหว่างนี้บัวคงต้องกลับไปอยู่กรุงเทพฯซักพักนะ” ชายหนุ่มตัดสินใจเอ่ยสิ่งที่คิดวนเวียนอยู่ในศีรษะออกมาให้อีกฝ่ายฟัง

      บัวชะงักนิ่ง  มองหน้าอีกฝ่ายอย่างต้องการค้นหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งได้รับฟัง ระยะเวลาแห่งการทำงานยังเหลืออีกกว่าหนึ่งเดือน  และที่ผ่านมาบัวก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรไม่ดีให้นายจ้างต้องลำบากใจจนถึงขั้นไล่ออกก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างงาน ถ้างั้นแล้วเพราะอะไรนายเหมืองสิงห์ถึงบอกให้เขากลับบ้านไปก่อนแบบนี้นะ

“เพราะเรื่องที่โรงพักเมื่อกี๊ใช่ไหมครับ...” บัวเดาใจอีกฝ่าย และมันก็คงจะถูกเพราะชายหนุ่มมีท่าทางหลบตาเขาทันทีที่ฟังจบ  ก่อนจะเสหันขึ้นมาสบตาเขาใหม่เมื่อคงตั้งตัวได้

“พี่เป็นห่วง ไม่อยากลากบัวเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้...อยู่ที่นี่มันอันตราย พี่ไม่อยากให้พวกมันหมายหัวบัวมากไปกว่านี้อีก”

“แล้วคุณกับเด็กๆจะอยู่กันยังไง ให้บัวไปอยู่อย่างปลอดภัยแล้วทิ้งคุณกับเด็กๆเอาไว้ที่นี่...คิดว่าบัวจะยอมเหรอนายเหมือง”

“…คิดไว้เหมือนกันว่าไม่น่าจะยอม   แต่ยังไงก็ยังอยากพูดอยู่ดี...ขอบคุณมากที่ยังคิดถึงพี่กับเด็กๆ แต่สองแสบ...”

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นครับ...นายเหมืองรู้ดีว่าเปลี่ยนใจบัวยาก เพราะงั้นทานข้าวกันดีกว่าครับ เดี๋ยวเย็นหมด” บัวตัดบทพร้อมกับดึงมือออกมาจากการเกาะกุมเพื่อตักข้าวทานตามปกติ ส่วนนายเหมืองผิวคล้ำก็ยอมถอนสายตาจากคนตรงข้ามแล้วหันมาจับจ้องจานข้าวของตัวเองบ้าง

      นายเหมืองสิงห์ยังคงตักกับข้าวใส่จานให้ครูบัว และครูบัวก็ยังเงยหน้าแล้วยิ้มน้อยๆให้เพื่อขอบคุณเหมือนที่เคยทำ...แม้เหตุการณ์ที่เป็นไปยังดูเหมือนจะปกติ แต่ในใจลึกๆของทั้งคู่ก็รู้ดีว่า...เวลาแห่งความสุขมันคงเริ่มต้นนับถอยหลังแล้ว...

——————————————————————————
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2015 18:50:50 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
      เย็นวันนั้นนายเหมืองสั่งจัดงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อขอบคุณคนงานที่อาสามาช่วยดูแลความปลอดภัยให้พวกเขาทั้งคืน งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่หน้าบ้านตรงแคร่หน้าบ้าน โต๊ะสามสี่ตัวถูกลากออกมาต่อกันแล้วปูด้วยผ้าขาวม้าอย่างง่ายๆ บรรดาคนงานเหมืองที่เป็นผู้หญิงต่างก็ช่วยกันหุงข้าวทำกับข้าวกับแกงคนละไม้คนละมือ ส่วนบัวก็ช่วยทำบัวลอยพร้อมกับเด็กๆเตรียมไว้เพื่อเป็นของหวาน พอได้เวลาประมาณหกโมงครึ่งตอนเย็น เด็กๆสองแสบก็ตัวเลอะมอมแมมไปด้วยผงแป้งเต็มที่ บัวจึงจับเด็กชายทั้งคู่ขึ้นไปอาบน้ำแล้วจับใส่ชุดนอน พอเวลาทุ่มกว่าๆเสียงเฮฮาที่หน้าบ้านก็ดังขึ้นไปถึงชั้นสอง เรียกความกะตือรือร้นจากสองเด็กแสบให้รีบแต่งตัวแล้วยืนยิ้มแป้นแล้นให้ครูบัวประแป้งเสียขาวจั๊วะเรียงทีละคน

       นายเหมืองสิงห์ขึ้นไปตามลูกๆกับครูบัวบนชั้นสอง หลังจากที่กลับมาจากเหมืองพร้อมคนงานแล้วไม่เจอคนของตัวอยู่ในบริเวณงาน

      สภาพของสองแสบตอนที่คนเป็นพ่อเข้าไปเห็นคือกำลังมะรุมมะตุ้มจับครูบัวคลุกฝุ่นแป้งไปด้วยกันกับตน เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความสุขใจของคนทั้งสามทำเอานายเหมืองต้องอมยิ้มกริ่ม ยอมนั่งยองๆให้ลูกชายสองคนจับเขาประแป้งลงสองข้างแก้มไปด้วยอีกคน

      นายเหมืองกับครูบัวจับจูงมือน้อยของไลเกอร์กับไทกอนกันคนละข้าง เสียงเฮต้อนรับก็ดังขึ้นทันทีที่คนทั้งสี่ปรากฏตัวตรงหน้าประตูบ้าน ลุงเกรียงกับนายเม่นที่แต่งตั้งตัวเองเป็นพ่องานก็รีบเข้ามาเชื้อเชิญนายของตัวเองพร้อมครอบครัวเข้าไปนั่งลงบนแคร่ ซึ่งถูกปูด้วยเบาะรองนั่งเตรียมไว้สองที่ ส่วนสองแสบผู้รู้หน้าที่ดีก็รีบเข้าไปนั่งตักคนเป็นพ่อและคนเป็นครูราวกับจะยึดเป็นที่ประจำ จากนั้นลุงเกรียงก็เชิญคนเฒ่าคนแก่ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกหมู่บ้านซึ่งเป็นที่นับหน้าถือตามาทำพิธีเรียกขวัญ ผูกข้อมือพันสายสิญจน์เพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของคนงานในเหมือง ที่อยากจะปัดเป่าความชั่วร้ายให้กับเจ้านายของตัวเอง ซึ่งทั้งตัวนายเหมืองสิงห์และครูบัวไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะคนงานแอบช่วยกันเตรียมอย่างลับๆ ซึ่งงานนี้ก็ทำเอานายเหมืองสิงห์เก๊กหน้าดุตามปกติใส่คนงานของตัวเองไม่ไหว ส่วนครูบัวเองพลอยน้ำตาซึม ซาบซึ้งกับความหวังดีที่เผื่อแผ่มาถึงตนด้วย คำอวยพรต่างๆที่บัวฟังออกบ้างฟังไม่ออกบ้างเพราะเป็นภาษาถิ่นทำให้บัวยิ้มไม่หุบ ข้อมือสองข้างเต็มไปด้วยด้ายสายสิญจน์มงคลที่นายเม่นโพนทะนาไปทั่วว่าผ่านการปลุกเสกมาอย่างโชกโชน

      เครื่องเสียงคาราโอเกะถูกยกมาเพื่อสร้างความสนุกสนาน อาหารการกินและเครื่องดื่มนายเหมืองสั่งเปิดแบบไม่อั้น เปิดโอกาสให้คนงานได้รื่นเริงกันอย่างเต็มที่ นายเหมืองสิงห์และครูบัวอยู่ร่วมงานเลี้ยงจนถึงสี่ทุ่มกว่าก็ขอตัวเข้านอน เพราะเด็กๆสองแสบคอพับคออ่อนคาตักของผู้เป็นพ่อและครูไปแล้วเรียบร้อย

      เสียงเฮฮาของวงน้ำเมากลุ่มสุดท้ายยังดังขึ้นมาให้คนในห้องนอนได้ยินแผ่วๆ สองแสบที่หลับไปแล้วถูกวางไว้คู่กันบนเตียงนอนลายแมวกาฟิลด์ บัวนั่งลงริมเตียงแล้วยกมือลูบหัวกล่อมเด็กน้อยสองคนให้หลับใหลอย่างมีความสุข จูบกระหม่อมบางของทั้งสองคนพร้อมกระซิบเบาๆว่าขอให้ทั้งคู่หลับฝันดี ไลเกอร์กับไทกอนส่งเสียงอืออาคล้ายตอบรับ บัวเกลี่ยนิ้วที่แก้มนุ่มของเด็กสองคนเบาๆ เกือบจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างไปด้วยเหมือนหลายๆคืนที่ผ่านมาแล้ว แต่ทว่าท่อนแขนกลมกลึงกลับถูกยึดจับเอาไว้โดยเจ้าของบ้าน นายสิงห์หน้าคมกระตุกมือครูบัวให้ออกจากห้องไปด้วยกัน เพราะคืนนี้เขาอยากนอนกอดครูบัวตัวขาวมากกว่า

      คืนนั้นอาจด้วยเพราะบรรยากาศพาไปหรืออะไรก็ตาม บัวไม่รู้ รู้แต่คืนนั้นนายเหมืองมีอิทธิพลเหนือตัวเขาทุกอย่าง เขาชี้นกบัวก็ว่านก เขาชี้ไม้บัวก็ว่าตามนั้น บัวยอมตามใจเขาตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำ จนกระทั่งมาจบลงที่เตียง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง พวกเขาแทบจะไม่ได้แยกจากกันเลย เสียงพร่ำบอกคำหวานดังออกมาไม่ขาดปาก บัวจำได้ว่าคืนนั้นบัวหลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม แม้จะเหนื่อยกาย แต่มีความสุขจนล้นใจ...

      ก่อนนอนบัวก็ยังแอบภาวนา ว่าขอให้ทุกคืนเป็นอย่างนี้เรื่อยไป...หลับไปในอ้อมกอดของคนที่รัก แล้วก็คงจะตื่นมา...ในอ้อมกอดเดียวกันไปทุกวัน

—————————————————-

      เสียงนกร้องยังคงดังปลุกเหมือนเช่นทุกวัน แต่บัวที่เพิ่งตื่นนอนกลับรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีแปลกๆ แต่มันก็เป็นแค่วูบเดียวสั้นๆบัวจึงทำเป็นไม่สนใจ แล้วแอบลุกขึ้นไปอาบน้ำคนเดียว รอบตัวบ้านยังคงเงียบสงัดเพราะยังเป็นเวลาเช้ามืด บัวรีบอาบน้ำจนเสร็จอย่างรวดเร็วเพราะตั้งใจจะแวะไปตลาดเช้าซื้อของมาทำบุญตักบาตรด้วยตัวเอง จนเมื่อเสร็จสรรพคุณครูหนุ่มก็คว้ากระเป๋าย่ามคู่ใจซึ่งมีใส่ทั้งกระเป๋าสตางค์และกุญแจบ้านพร้อมของสำคัญติดตัวลงไปข้างล่าง  ซึ่งดูเหมือนว่าป้าพุดคงยังไม่ตื่นแน่เพราะทั้งบ้านยังคงปิดไฟเงียบเชียบ นาฬิกาพรายน้ำริมฝาผนังบอกเวลาว่าเพิ่งจะตีสี่ บัวจึงตัดสินใจว่าจะยังไม่เปิดไฟดวงใหญ่ของบ้านก่อน แต่เลือกเดินไปเปิดโทรทัศน์ที่มีในห้องนั่งเล่นแล้วหรี่เสียงเบาแทนในตอนที่เขาเข้าไปดูของสดและจัดเตรียมอุปกรณ์ในห้องครัวก่อนออกไปจากบ้าน บัวยังคงรื้อของในตู้เย็นอยู่ตอนที่ได้ยินเสียงดนตรีบอกเวลาข่าวด่วนดังแว่วเข้ามาว่า...

“…เมื่อเวลาประมาณตี 2 ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณตลาด...ต้นเพลิงเกิดจากหม้อแปลงไฟระเบิด จึงทำให้เพลิงไหม้ลุกลามหลายหลัง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังช่วยกัน...”

“ไฟไหม้...ตลาด...มะ...แม่...”

      ผลไม้ในมือที่ถือเอาไว้ร่วงหล่นลงพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ตัวบางเอนพิงเคาเตอร์ทำอาหารเพราะเรี่ยวแรงเกิดอ่อนขึ้นมากะทันหัน เมื่อตลาดที่ว่านั่นเป็นที่อยู่ของบุพการีเพียงหนึ่งเดียวของเขา

“โทรศัพท์...โทร...” ความกังวลเริ่มตีตื้นขึ้นจนล้นอก มือไม้เริ่มสั่นจนหยิบจับอะไรไม่ค่อยถูก โทรศัพท์เครื่องเก่าถูกกดโทรออกเบอร์เดิมซ้ำ   ๆ แต่ปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้เลย ความกลัวและเป็นห่วงแม่ทำให้บัวคิดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ใหญ่ จนเมื่อหายใจเอาสติกลับมาส่วนหนึ่งได้แล้วจึงรีบเดินไปที่โต๊ะวางโทรศัพท์ ตรงนั้นจะมีกระดาษและปากกาเสียบไว้อยู่เสมอ บัวไม่รอช้ารีบเขียนข้อความบอกคนในบ้านไว้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นและบัวกำลังจะกลับไปที่ไหน ท้ายกระดาษยังมีเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ไว้ให้เผื่อนายเหมืองต้องการติดต่อเขาจะได้สามารถติดต่อได้

      เมื่อเขียนข้อความทิ้งไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วบัวก็ไม่รอช้า ไม่คิดจะกลับขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าหรือของอื่นอีกเพราะแค่ในกระเป๋าย่ามก็มีสิ่งจำเป็นครบเรียบร้อย บัวสวมรองเท้าอย่างรวดเร็ว แล้วก้าวข้ามผ่านศพจากกองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อคืนแล้วจึงออกวิ่งไปที่ถนนใหญ่ เวลาตอนนี้ยังเช้าอยู่มากเกินกว่าจะมีรถสองแถวรับจ้างผ่านทางมา แต่อย่างไรก็ตามบัวไม่อยากจะรอช้าอีกสักวินาที เพราะใจที่เป็นห่วงแม่มันนำหน้าตัวกลับบ้านที่กรุงเทพฯไปนานแล้ว

      บัวยืนหาทางไปอยู่ไม่นานก็โชคดีมีรถชาวบ้านแถวนั้นที่ผ่านมาหลังกลับจากไปกรีดยางยินดีรับบัวเข้าไปส่งที่ท่ารถในเมืองให้ เพราะจำครูบัวตัวขาวแห่งเหมืองสิงห์ สุตนันท์ได้ เวลาช่วงเช้าแบบนี้ที่ท่ารถยังมีรถเข้ามาไม่มาก คนจึงยังไม่พลุกพล่านมากนัก บัวรีบตรงเข้าไปจองตั๋วขึ้นกรุงเทพฯเที่ยวที่เร็วที่สุดซึ่งก็ไม่ต้องรอนานอย่างที่หวังเพราะไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมารถก็เข้าเทียบจอดที่ชานชาลาพอดี

      จนเมื่อบัวเข้าไปนั่งรอในรถได้แล้วจึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้สมควรแก่เวลาที่เขาจะโทรเข้าไปบอกนายเหมืองที่บ้านเผื่ออีกฝ่ายยังไม่เห็นโน๊ตที่เขาตั้งไว้จะได้ไม่ทันตกใจกังวลว่าเขาเป็นอะไรไป แต่ทว่าหน้าจอที่ดับสนิทก็ทำให้บัวต้องทอดถอนใจด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ เพราะโทรศัพท์เข้ากรรมดันมาเลือกแบตหมดได้ถูกเวลาเหลือเกิน

“ไม่เป็นไร...เดี๋ยวนายเหมืองก็คงจะเห็นโน๊ตเอง” บัวปลอบใจตัวเองด้วยการคิดในแง่ดี

      โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าที่เหมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ เพราะคล้อยหลังบัวไปไม่นาน ก็มีลมหอบหนึ่งพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง แล้วพัดกระดาษโน๊ตใบเล็กๆของบัวปลิวตกหายไปเพราะด้วยความที่เร่งรีบเลยทำให้เจ้าตัวลืมหาอะไรวางทับไว้ และตอนนี้เจ้าของเหมืองก็กำลังเริ่มก่อไฟปะทุ เพราะกำลังจะหาเมียรักของตัวเองไม่เจอ!

—————————————————-

หายหัวไปนาน...ข้าพเจ้าขออำภัยด้วย *คารวะ 3 จอก*   :call: :call: :call:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อ้าวว ตามหากันไปตามหากันมาอีกแล้ว โอ้ย ลุ้น นายเหมืองใจเย็นๆนะ อย่าวู่วามนะ

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33
ในที่สุดก็มา



มีพระจันทร์โผล่ไปชี้ตัวกับนายเหมืองด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-09-2015 16:48:18 โดย harumi »

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โห๋...ครูบัว นายเหมืองต้องคลั่งตายแน่ๆ



กระดาษเจ้ากรรมโดนลมพัดปลิวหาย



จะมีใใครเก็บกระดาษได้ใหมนะ

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ขอบคุณที่กลับมาต่อจ้าคิดถึงเรื่องนี้มาก ๆ 

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
แล้วลมก็ช่างเลือกพัดได้ไม่รู้เวล่ำเวลาเสียจริง~ นายเหมืองใจร่มๆ ไว้ก่อน.. ครูบัวไม่ได้ตั้งใจหนีหน้านายเหมืองนะคะ แต่ที่ออกมาแต่เช้ามืดแบบนี้เพราะความจำเป็นจริงๆ ถ้ายังไงลองถามที่อยู่ที่กรุงเทพฯ ของครูบัวเอาจากโมก็ได้ค่ะ ^^ อย่ามัวแต่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างเดียวเชียวล่ะ

ปล. ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ด้วยนะค้าา~ :กอด1:

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เย้   กลับมาแล้ววววว   

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด