หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]  (อ่าน 763869 ครั้ง)

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ขุ่นแม่หายยย แต่บัวคะ
ที่เหมืองลุกเป็นไฟแล้ววววววว ติดต่อ รีบติดต่อไปเถอะลูกก

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: :katai1:
โอ้ยยยยยยทรมานนนนนน เขาอยากอ่านต่ออีกซัก10หน้า โอ้ยยยยยยมาต่อไวๆเถอะที่รัก

ออฟไลน์ jajomjun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบบๆๆๆๆๆๆๆ :ling1:

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากจะฝากความคิดของฉันเอาไว้เผื่อวันไหนเธอผ่านมา~ ฉันที่เข้ามาดูทุก6โมงอยากอ่านตอนต่อไป~~~~~ /เพ้อเจ้อเป็นเพลง มาต่อไวๆนะที่รักกกกก
 :hao5: อยากอ่านตอนต่อไปจังเลย พี่ลุ้นเหลือเกิน โอ้ยยยยย ในเหมืองจะเป็นยังไงบ้าง
อยากจะตะโกนบอกบัว 'ชาร์ตแบตแล้วโทรหาได้แล้วโว้ยยยยยยยยยยคนดีโทรซะที!!!!!!'

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้วววววววววววววววววววววววว     o18 o18 o18

คิดถึงเรื่องนี้มากเลย    เกือบจะลืมแล้วนะ  ดีที่เห็น    :sad11:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ขยี้ตารัวๆ.. เย้มาแล้วววววววว

ออฟไลน์ Yysll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Hypnos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :sad4:  ดีใจที่มาต่อ

 :o8: :o8:


ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
 :ling1: :ling1: ค้างอ่ะ มาต่อเร็วๆน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หายไปนานมากเลยคะ :hao5:

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1:
ฉันคิดถึงเธอตั้งแต่หัวค่ำยันอุษาสาง~
โอ้ยมาต่อทีค่ะ พลีสสสสสสสสสสสส
อึดอัดหัวใจเหลือเกินนนน บอกน้องเปิดโทรสับแล้วโทรหานายเหมืองทีค่ะ!

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
อึดอัดหัวใจ ตอนต่อไปจะมาเมื่อไหร่น้าาาา  :hao5:


ออฟไลน์ anabell

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เราชอบเรื่องนี้ มาต่อไวๆๆๆนะคะ มันค้างงอ่ะ

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ดีใจจจ มาต่อแล้ว ไม่รู้ตอนนี้ที่เหมืองจะเป็นยังไงบ้างนะคะ เพราะสถานการณ์ระหว่างบัวกับนายเหมืองมันก็โอเคขึ้นแล้ว
แถมบัวยังใจเด็ดเดี่ยวซะขนาดนั้น ไม่มีทางกลัวจนทิ้งสองแสบไปแน่ๆ หวังว่านายเหมืองจะมีสติพอคิดถึงข้อนี้ได้นะ
อย่ามัวแต่โกรธเลือดขึ้นหน้าล่ะ

ส่วนแม่บัว หายไปไหน T ____ T .. ปกติเป็นคนแก่ก็ไม่น่าไปไหนนานๆรึเปล่าคะ หรือว่ากลับมาเจอบ้านตัวเองโดนไฟไหม้แล้ว
แล้วค่อยออกไปอีกรอบกันแน่ ? ฮืออออ สงสารหนูบัว เลยต้องอยู่ตัวคนเดียวเลย ป่านนี้ไทกับเกอร์ไม่ร้องหาแย่แล้วหรอ
บัวเองก็น่าจะคิดถึงเด็กๆกับคุณพ่อน่าดู .. จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ กลับมาต่อนะะะะ รออยู่ . _ .

เป็นกำลังใจให้เสมอค่า  :L2:

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
 :mew1: มาต่อแล้ว

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
โอ้ววววว หม่ามี้ไปไหนล่ะทีนี้

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ข้าพเจ้าลืมเว้นที่ไว้สำหรับลงทีเหลือ  จึงขอขึ้นตอนใหม่ในหน้านี้นะครัช



ขอบพระคุณมากๆครัช... :call:

----------------------------------------------

      เหมืองสิงห์ สุตนันท์ ที่เคยหลบซ่อนตัวเองอยู่ในภายใต้ธรรมชาติและขุนเขาอันงดงามในภาคใต้เริ่มกลายสภาพเป็นปล่องภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดเข้าไปทุกขณะ
   
      เช้าวันที่ครูตาหวานของเด็กๆหายตัวไป ไม่ใช่แค่คนในเหมืองเท่านั้นที่เดือดร้อน  ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็รวมตัวกันร่วมระดมค้นหา  เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนรู้ดีเรื่องที่ครูบัวเผลอไปเจอพวกลักลอบตัดไม้เข้า  ไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะหมายหัวครูบัวแล้วมาลักพาตัวไปก็ได้  ซึ่งนายเหมืองสิงห์เองในคราแรกก็คิดไม่ต่างกัน  ถึงได้โมโหพวกบ้านั่นจนหัวปั่น ร่ำจะถือปืนลุยเดี่ยวขึ้นเขาไปจัดการให้ถึงต้นตอ ดีที่พุดฤทัยไหวตัวทันโทรหาเพื่อนเจ้านายที่เป็นตำรวจเสียก่อน ถึงได้พอมีคนช่วยฉุดรั้งไว้ได้อยู่ แต่ทว่าก็ได้แค่ชั่วคราว เมื่อนายเหมืองหนุ่มไม่คิดที่จะรอทำตามแผนการณ์ของตำรวจอีกต่อไป แต่เริ่มมีความคิดที่จะบุกไปถึงรังของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ค้าไม้เถื่อนรายใหญ่ของจังหวัดด้วยกำลังของตัวเองแทน

      แต่กระนั้นด้วยเพราะเป็นเพื่อนกันมานาน ทั้งคมสันต์และภากรจึงพอจะดูออกว่าเพื่อนเจ้าของเหมืองกำลังคิดอะไรอยู่  จึงพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้นายเหมืองหนุ่มหัดรอคอยให้เป็น  เพราะแทนที่งานจะสำเร็จอาจจะกลายเป็นล่มไม่เป็นท่า  และครูบัวที่พวกเขาคาดว่าน่าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมันก็อาจจะไม่ปลอดภัยไปด้วย

      คำว่าครูบัวอาจจะไม่ปลอดภัย...ทำให้นายเหมืองหนุ่มต้องมานั่งกุมขมับอยู่บนเตียงในตอนนี้...

      ของใช้ทุกอย่าง เสื้อผ้าทุกชิ้นยังคงอยู่ที่เดิม  ยกเว้นกระเป๋าสตางค์และย่ามที่เจ้าตัวชอบพกอยู่เสมอ  เป็นไปได้ว่าบัวคงจะออกไปข้างนอก  และพวกชั่วนั่นคงถือโอกาสนั้นลักพาตัวไปแน่...หรือถ้าแย่ไปกว่านั้นคือพวกมันกล้าบุกเข้ามาถึงถ้ำเสือ  แล้วฉกเอาบัวออกไปจากใต้ปีกของเขา  ถ้าเป็นกรณีหลัง...เขาสาบานเลยว่าจำเหยียบพวกมันให้เละ!  กล้าดียังไงมายื่นมือแตะคนของเขา...

      ในสมองของนายเหมืองคิดอะไรออกไปอีกสะระตะ...ความไม่รู้...ทำร้ายเขามากกว่าที่คิด  แว่บแรกที่รู้ว่าคนรักหายไปแน่นอน  เขารู้สึกเหมือนไฟช็อตไปทั้งร่าง อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงกะทันหันจนรู้สึกได้เลยว่ามือเขาเย็นเฉียบไปหมด  ถ้าไม่ได้อุณหภูมิอุ่นๆของลูกชายเขาทั้งสองคนที่วิ่งเข้ามากอด  เขาคงรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นก้อนน้ำแข็งแน่ๆ

      …เขาเกลียดความรู้สึกนี้...ความรู้สึกสูญเสีย...

      …ครั้งแรกก็เจ็บจนชา...แต่มันก็แค่ชั่วคราว...

      ...แต่คราวนี้มันเจ็บจนไร้ความรู้สึก...จนถึงตอนนี้เขายังหาความรู้สึกของมือตัวเองไม่เจอ

      เขาโทษตัวเอง...ถ้าหากเมื่อคืนเขากอดบัวเอาไว้แน่นพอ...ตอนนี้ก็อาจจะยังมีคนผิวขาวตัวหอมเอาไว้ให้กอดพักพิงใจอยู่...

“พ่อ...”  เสียงเรียกเขาเบาๆดังมาจากหน้าประตู  ชายหนุ่มเงยมองลูกชายทั้งคู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู 

“…นอนไม่หลับ...ลูกคิดถึงครูตาหวาน”  เป็นไลเกอร์ที่เดินเข้ามาก่อน  สองแขนยกขึ้นปาดน้ำตาเหมือนพยายามจะเข้มแข็ง จะไม่ร้องไห้  ไทกอนที่เดินตามหลังพี่ชายเข้ามา  ตรงเข้ามาเกาะเข่าเขาข้างซ้าย  ส่วนไลเกอร์กอดเข่าเขาที่ข้างขวา

      ชายหนุ่มวางมือลงบนหลังของลูกชายที่นั่งอยู่บนพื้น  แล้วจึงไถลตัวเองลงมานั่งบนพื้นตรงกลางระหว่างลูกชายทั้งสองคน  ท่อนแขนกว้างใหญ่โอบรัดทั้งไลเกอร์และไทกอนเข้ามาก่อน...มันอุ่น...แต่มันยังอุ่นไม่พอ  มันยังเหมือนอะไรสักอย่างขาดหายไป...

      ที่ว่างตรงกลางที่มันหายไปในครอบครัวเขา...ตอนนี้ยอมรับได้อย่างเต็มใจ...

      …ครอบครัวของเขาขาดครูบัวไปไม่ได้จริงๆ...

———————————————————————

      ถึงจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดของประเทศไทย  แต่ในเขตบริเวณบ้านไม้ที่บัวอาศัยอยู่นั้นก็ยังคงร่มรื่น  ดอกไม้หน้าร้อนเริ่มผลิบาน  และบัวก็ชอบช่วงเวลาแบบนี้ที่สุดในอดีต

      คุณครูหนุ่มนั่งทอดถอนใจอยู่บนตั่งเล็กๆตรงชานพักนอกห้องนอน...ตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวเท้ากลับมาที่บ้านหลังนี้ก็ผ่านไปได้สี่วันแล้ว...คุณย่าของเขาไม่ยอมให้เขาออกไปจากบ้าน  และเรื่องไฟไหม้บ้านเขาและเรื่องของแม่  คุณย่าก็บอกว่าจะเป็นคนดำเนินการให้เองทั้งหมด

      บัวหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดอีกเป็นครั้งที่ร้อย  เขาพลาดจริงๆที่คิดว่าจะแว่บออกมาแค่ครู่เดียวจึงไม่ทันได้หยิบสายชาร์จแบตเตอรี่ติดมาด้วย  โทรศัพท์ของเขาจึงใช้การไม่ได้ตั้งแต่เย็นวันแรกที่มาถึง  และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถซื้อสายชาร์จใหม่มาให้เขาได้ด้วย  และพอเขาเอ่ยปากขอยืมโทรศัพท์เครื่องอื่น ก็ไม่มีใครสามารถเอาให้เขายืมได้เลย...วิธีสุดท้าย  เมื่อวานตอนบ่ายเขาเลยนั่งเขียนเป็นจดหมายถามกลับไปที่ใต้  ขึ้นต้นด้วยคำขอโทษที่จู่ๆก็รีบกลับมากรุงเทพฯกะทันหัน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยเพราะเหตุที่จำเป็นมากจริงๆคนทางนั้นคงจะเข้าใจ...

      บัวเพิ่งฝากให้ จันสา พี่เลี้ยงที่เคยดูแลเขาเมื่อวัยเยาว์เอาไปส่งให้ในเมือง  คิดว่าถ้าส่งด่วนอย่างช้าก็คงอีกประมาณสามถึงสี่วัน...

      …เวลานานขนาดนั้นเขาคงจะเหงาแย่...จะขอคุณย่ากลับไปก็ไม่ได้  เพราะคำสุดท้ายที่คุณย่าบอกเขาไว้ก่อนที่พวกเขาจะจบเรื่องที่คุยกันก็คือ...

      …ถ้าหากอยากจะชดใช้ให้กับสิ่งที่พ่อกับแม่เขาเคยทำไว้กับบ้านหลังนี้ ก็จงอยู่ที่นี่...อย่าไปไหน...

      ซึ่งนั่นกลับกลายเป็นพันธนาการให้เขาไม่กล้าที่จะออกไปไหนเกินกว่ารั้วบ้านหลังนี้ไปเลย...

“เจ้าบัว...เจ้าย่าให้ไปพบที่ลานหลวงเจ้า...”  จันสา  สาวชาวเหนือวัยเกือบสามสิบปีเอ่ยบอกบัวหลังจากที่หล่อนเคาะประตูอยู่พักหนึ่งแล้วแต่ไม่มีคนตอบ

      ใบหน้าขาวเบือนหันมองคนมาตาม  ความรู้สึกเหนื่อยล้าและความเหงาเข้ามาโจมตีเขาถี่ขึ้นวันนี้  เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กแสบที่เขามักจะได้ยินอยู่ทุกวันหายไป  แถมยังคนเจ้ากี้เจ้าการตัวใหญ่ที่มักจะชอบมาวนเวียนอยู่กับเขาทุกครั้งที่ว่าง...พอนึกถึงแล้วก็เผลออดยิ้มออกมาไม่ได้...รู้สึกอยากกอด อยากหอม  ความทรงจำที่มีถูกดึงมาใช้เพื่อปลอบประโลมความเหงาที่เขามี  ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งรู้สึกเหงาจนทนไม่ค่อยไหว  จากปกติที่เขาเป็นคนไม่ติดหมอนข้าง  ก็ต้องหาอะไรมากอดเอาไว้ทั้งซ้ายทั้งขวา  ผ้าห่มก็ต้องหนาๆไม่งั้นเขาจะรู้สึกไม่สบายตัวไม่สบายใจ แล้วก็นอนพลิกไปพลิกมาทั้งคืนเพราะนอนไม่หลับ

      บริเวณลานหลวงมีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน  และมีหนึ่งคนที่บัวไม่รู้จัก  เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง  มีกล้ามเนื้อพองาม  ผิวขาวเหลืองลักษณะเหมือนคนเมือง  เขากำลังนั่งอยู่บนตั่งและหันหลังมาให้เขา  บัวค่อยๆเข้าไปนั่งใกล้ๆกับย่า  บัวกับชายแปลกหน้าจึงได้นั่งหันหน้าชนกันไปโดยปริยาย 

“เจ้าบัว  ย่าจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนบ้านของเรา...”  เจ้าย่าใหญ่ หรือชื่อจริงของหล่อนคือ บัวคำ  เอามือวางลงบนหลังมือหลานชาย  แล้วถึงผายมือไปทางชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งพิงหมอนสามเหลี่ยม  เขายิ้มมาให้ก่อนอย่างมีไมตรีจิต  บัวจึงยิ้มกลับไปให้ตามมารยาท

“เขาชื่อคุณกฤษณ์  เป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่อยู่ติดกับสวนของย่าทางทิศตะวันออกน่ะ”  คุณย่าบัวคำบอกหลานชาย  “กฤษณ์  นี่หลานชายของย่า  ชื่อบัวสวรรค์  เขาเพิ่งกลับมาอยู่บ้านกับย่าเมื่อเร็วๆนี้เอง...”

      เมื่อได้รับการแนะนำตัวอย่างนั้นบัวจึงต้องเอ่ยสวัสดีเขา  ชายหนุ่มที่ชื่อ กฤษณ์ รับไหว้  บัวจ้องสบตาเขาแล้วถึงได้เห็นแววแห่งความสงสัยเกิดขึ้นชั่วขณะ  เขารู้ว่าตระกูลฝั่งคุณปู่คุณย่าเป็นตระกูลใหญ่ในอำเภอนี้  การที่จู่ๆหลานชายอย่างเขาที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่ที่นี่เลยตลอดลายปีกลับมา  จะมีคนในพื้นสงสัยก็ไม่แปลก  แต่ผู้ชายคนนี้ก็เก็บอาการสงสัยได้ดี  เพราะหลังจากนั้นมันก็หายไป  เหลือไว้แค่รอยยิ้มไมตรีจิตที่เขาพยายามจะส่งมาให้บัว

“เผื่ออนาคตได้ฝากผีฝากไข้กัน  ไหนๆกฤษณ์ก็แวะมาแล้ว  ย่าว่าให้รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย...”  คนเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในที่นั้นเอ่ยบอกเมื่อคนทั้งคู่ยังดูเหมือนไม่มีจุดเริ่มต้นบทสนทนาซึ่งกันและกัน

“คุณบัวสวรรค์จะมาอยู่ช่วยงานเจ้าย่าที่นี่เหรอครับ”  กฤษณ์  หนุ่มเจ้าของสวนผลไม้เริ่มเอ่ยบทสนทนาขึ้นมาก่อน  บัวไม่รู้จะตอบอย่างไรจึงได้แต่ยิ้มให้แล้วเบี่ยงประเด็นไปถามเรื่องของเขาบ้างเพื่อไม่ให้บรรยากาศรู้สึกกระอักกระอ่วน

“แล้วคุณกฤษณ์ดูแลสวนผลไม้ที่นี่มานานแล้วเหรอครับ”  คำถามของบัวทำให้ชายหนุ่มเจ้าของสวนเปลี่ยนท่านั่งอย่างดูผ่อนคลายมากขึ้น  และเขาก็หันมาตอบบัวอย่างจริงจังว่า

“ครับ เกือบเจ็ดปีได้แล้ว  ตรงนั้นเป็นที่ดินเก่าของพ่อแม่ผม  ตอนนี้พวกท่านย้ายไปอยู่ที่ใต้กับน้องสาว  ผมก็เลยต้องรับช่วงต่อสวนไปโดยปริยาย...”  กฤษณ์เล่าเหมือนเปิดใจให้กับเพื่อนใหม่  บัวเลยพลอยหายใจคล่องคอขึ้นมากและเริ่มเปิดใจรู้จักกับพ่อเลี้ยงหนุ่ม

“อ๋อ...ก่อนหน้านี้ตอนเด็กๆจำได้ว่ามันเป็นสวนส้ม...” 

      กฤษณ์พยักหน้ารับ  ยิ้มให้กับเพื่อนใหม่ที่ดูเหมือนเริ่มมีจุดเชื่อมโยงให้มีเรื่องได้พูดกัน

“แต่ตอนนี้ผมเพิ่มพวกสตรอเบอร์รี่  เชอร์รี่  แล้วก็องุ่นด้วย  ว่างๆเชิญได้นะครับ  ตอนนี้สตรอเบอร์รี่กำลังน่าทานเชียว” 

      และหัวข้อผลไม้ก็เป็นตัวย่นระยะห่างระหว่างคนสองคนให้เข้ามาใกล้กันอีก 

      ในระหว่างที่การสนทนากำลังเริ่มต้นอยู่ที่เรื่องพันธุ์ขององุ่น  โทรศัพท์ของกฤษณ์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ  ชายหนุ่มขอตัวออกจากวงสนทนาเพราะเพื่อนสนิทเขาที่ไม่ได้เจอกันมาพักใหญ่เป็นคนโทรมาหา  ซึ่งทั้งย่าหลานก็ไม่ได้ว่าอะไร

      โทรศัพท์ทางไกลเป็นของเพื่อนเขาที่ปัจจุบันทำอาชีพเป็นเจ้าของเหมือง...ชื่อเหมืองสิงห์  สุตนันท์

“ว่าไง...นายสิงห์แห่งปักษ์ใต้  คิดยังไงถึงโทรมาหาเพื่อนที่เหนือได้”  กฤษณ์ทักเพื่อนไปก่อนด้วยอารมณ์สุนทรีย์เล็กๆ  เขาเองก็เป็นหนึ่งในแก๊งค์หล่อเถื่อนประจำโรงเรียนสมัยมัธยมฯ

‘…มีเรื่องเกิดขึ้นที่นี่ และคนร้ายกำลังหนีไปทางพื้นที่ของมึง...คิดว่ามึงควรจะรู้ไว้’  คนโทรมาไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่พูดเข้าเรื่องในทันทีโดยละการทักทายเอาไว้  ซึ่งนั่นทำให้กฤษณ์ต้องรีบขยับตัวนั่งให้ดีและหนีบโทรศัพท์ไว้ให้ติดหูมากขึ้น

“ใคร เกิดอะไรขึ้น...”  กฤษณ์ถามเพื่อนกลับ  บัวเห็นว่ามันเริ่มเป็นเรื่องส่วนตัว  เขาไม่ควรที่จะอยู่รับฟังจึงหันไปขอตัวกับคุณย่า  ว่าเดี๋ยวเขาจะเข้าไปยกของว่างออกมาให้

“ย่าเอาน้ำไม่เย็นเหมือนเดิมนะเจ้าบัว...” 

      เสียงเรียกชื่อในตอนท้ายของเสียงผู้หญิงมีอายุซึ่งดังลอดผ่านโทรศัพท์มาเป็นแบ็คกราวน์  ทำให้นายเหมืองหยุดพูดชะงักไปชั่วครู่  เพื่อรอฟังเสียงที่อาจจะลอดผ่านเข้ามาอีกครั้งเพื่อหวังว่าสิ่งที่ได้ยินคงไม่ได้เพี้ยนไป  แต่กระนั้นก็กลับมีแค่เสียงถามกลับของเพื่อนเขาว่าทำไมจู่ๆเขาถึงหยุดพูดแทน...

‘…เปล่า...เห็นพูดเสียเพราะ  นี่ไม่ได้อยู่ที่บ้านใช่มั้ย’

“...อยู่ที่สวนดอกไม้ใกล้ๆสวนฉันที่เคยเล่าให้ฟังไง...”  กฤษณ์ตอบเพื่อน  ปลายสายครางรับอ๋อในลำคอแล้วเงียบไป  เพื่อนเขาชักจะแปลกๆแฮะ...ก็พอได้ยินข่าวมาบ้างจากในไลน์กลุ่มว่าช่วงนี้นายเหมืองสิงห์แกอกหัก  เพราะจู่ๆเมียใหม่แกก็หายตัวไป  มันคงจะเครียดล่ะสิ  “แน่ใจนะว่านายโอเค...”

‘โอเคดี...แต่อีกประมาณสามสี่วันกูจะขึ้นไปที่นั่น  คงต้องอาศัยไปพักที่บ้านมึงซักพัก  คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย’

“เฮ้ย...จะให้หาเมียใหม่ให้ด้วยยังได้เลย”  คนตอบพูดหวังให้เพื่อนได้หัวเราะ  แต่ในเมื่อปลายสายเงียบไปอีกกฤษณ์ก็เริ่มรู้ตัวว่าคงไปแตะโดนเรื่องที่มันคงไม่อยากให้เขาเข้าไปยุ่ง  “...ขอโทษๆ โอเคมาเมื่อไหร่ก็โทรหา เดี๋ยวไปรับที่สนามบิน...”

      ปลายสายไม่พูดตอบอะไรเขาแต่เป็นอันรู้กันทั้งสองฝ่ายว่าทั้งคู่เข้าใจตรงกัน  แล้วเมื่อกฤษณ์วางสาย  สละลอยแก้วก็ถูกยกมาเสิร์ฟให้ตรงหน้า  และการสนทนาระหว่างเขากับคุณบัวสวรรค์ก็เริ่มดำเนินต่อไปอีกครั้ง

—————————————————-

      สามวันต่อมาผ่านไปด้วยการที่บัวใช้เวลาว่างไปกับเด็กน้อยในอุปการะของคุณย่า  เด็กน้อยอายุหกขวบกว่าวัยกำลังซน  เป็นลูกของอดีตแม่บ้านของคุณย่า  เธอแอบไปมีความสัมพันธ์กับชายชาวต่างชาติคนหนึ่งเข้า  และเป็นไปตามสูตร  คือชายชาวต่างชาติคนนั้นกลับประเทศไป  โดยไม่ได้รับผิดชอบอะไร  ส่วนแม่บ้านของคุณย่าก็ยอมอุ้มท้องนานแปดเดือนแล้วให้กำเนิดเด็กคนนี้  ก่อนจะเสียชีวิตลงไปอีกหนึ่งเดือนต่อไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลว  หลังจากนั้นไม่รู้ต้นตอข่าวลือมาจากไหน  ว่าชายชาวต่างชาติคนนั้นน่าจะติดเชื้อ HIV เลยพลอยทำให้คนเป็นลูกที่แม่เพิ่งเสียชีวิตโดนทอดทิ้งเพราะไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือให้การอุปการะเลี้ยงดู  คุณย่าท่านสงสาร  เลยรับมาเป็นบุตรบุญธรรม  เพราะท่านเองก็เพิ่งเสียหลานชายอย่างบัวไปเมื่อสองสามปีก่อนหน้านั้น
 
      บัวมอง ‘น้าชาย’ บุญธรรมวัยหกขวบวิ่งปุเลงๆมาทางตนแล้วก็ย่อเข่าก้มรับร่างเด็กน้อยผมน้ำตาลบลอนด์เข้ม  ตาสีเขียวเข้ามาในอ้อมแขน  การวิ่งไปเก็บดอกกาสะลองจนได้มาเป็นช่อใหญ่คงทำให้เจ้าตัวน้อยของเขาร้อนจนเหงื่อออกเต็มหน้า  บัวใช้นิ้วเกลี่ยแก้มเด็กเบาๆเป็นการเช็ดเหงื่อให้  เด็กน้อยยิ้มสวยส่งให้เขา  ก่อนจะยื่นช่อดอกกาสะลองให้กับเขาแล้วบอกว่า...

“…ให้” 

“ให้เหรอ...ขอบคุณครับ”  บัวรับดอกกาสะลองมาก่อนจะเอามือยีผมน้าชายของเขาเบาๆ 

“ไปสวนสตรอเบอร์รี่กันได้มั้ย...”  เด็กน้อยชวนเขาต่อ  เมื่อดูเหมือนพลังงานในการเล่นสนุกของเจ้าตัวกวนยังไม่สิ้นสุด

“สวนสตรอเบอร์รี่...อยากไปเหรอครับ”  บัวถามย้ำ  เด็กน้อยพยักหน้าซ้ำๆจนผมกระเด้ง

      เขาอยู่ที่นี่มาเกือบอาทิตย์  และได้แวะไปเที่ยวที่สวนผลไม้ของคุณกฤษณ์มาบ้างแล้วสองสามหน  ซึ่งเจ้าของสวนก็ช่วยอำนวยความสะดวกถึงขนาดที่ในบางครั้งยังเป็นคนนำเขาเข้าไปชมสวนด้วยตัวเอง  และทุกครั้งเขาก็มักจะได้ของฝากติดไม้ติดมือมาเสมอด้วย...ซึ่งนั่นทำให้บัวรู้ว่าเพื่อนใหม่ของเขาเป็นคนใจดีไม่ใช่น้อย  การที่จะพาเจ้าตัวแสบเข้าไปชมสวนสตรอเบอร์รี่ของอีกฝ่ายจึงไม่ใช่เรื่องน่าลำบากใจสำหรับเขาเท่าไหร่

      บัวจับเด็กน้อยไปล้างหน้าล้างตาในบ้าน  บอกขออนุญาตคุณย่าว่าจะพาเด็กไปเที่ยว  เสร็จสรรพก็จูงมือกันสองคนเดินไปที่สวนข้างบ้าน  คุณลุงที่คอยเฝ้าสวนผลไม้ของคุณกฤษณ์จำหน้าของบัวและเด็กน้อยผมสีน้ำตาลบลอนด์ได้ดี  เลยให้พวกเขาเข้าไปในสวนได้อย่างสบาย  มีการจะช่วยนำทางให้ด้วยแต่เด็กน้อยของบัวผู้คุ้นเคยกับสวนนี้เป็นอย่างดีไม่ต้องการผู้ติดตาม  คนทั้งคู่จึงสามารถเดินเข้าไปในบริเวณของสวนสตรอเบอร์รี่ได้อย่างสบายอารมณ์

      บัวปล่อยให้เด็กน้อยเดินเที่ยวอยู่ในแปลงสตรอเบอร์รี่ได้ตามสบาย  เพราะปกติเด็กน้อยของเขาไม่ใช่เด็กที่ซนแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้อย่างเด็กคนอื่น  แถมคนงานในไร่สตรอเบอร์รี่ยังคอยช่วยดูกันอยู่  บัวจึงมีเวลาได้เหม่ออยู่กับตัวเองและคิดเรื่องอะไรต่างๆ  ทั้งเรื่องที่ใต้และเรื่องของแม่...ที่จนป่านนี้คุณย่าก็บอกว่ายังไม่มีข่าวคราวอะไรคืบหน้า และไม่รู้ว่าแม่เขาไปอยู่ที่ไหน  เพราะทางตำรวจยืนยันแล้วว่าไม่มีศพคนตายอยู่ในบ้านที่ไหม้ไฟของเขา

      และคงเพราะเด็กน้อยของเขาเห็น ‘หลานชาย’ อย่างบัวกำลังยืนเหม่อ...เจ้าตัวเล็กจึงวิ่งมาหาแล้วดึงกางเกงเขาเพื่อจะยื่นช่อดอกสตรอเบอร์รี่ที่ไปแอบเก็บมาให้กับบัว...เด็กคนนี้ติดนิสัยนี้มาจากไหนก็ไม่รู้  แต่ทุกครั้งที่เขาได้อะไรสักอย่างมาจากน้าชายตัวน้อย...คือทุกครั้งที่เขามีอาการเหม่อหรือจมอยู่กับตัวเอง...

      ท่าทางที่คนตัวขาวก้มลงรับของจากเด็กน้อยผมน้ำตาลบลอนด์แล้วก็สวมกอดเด็กคนนั้นเอาไว้ทำให้ร่างตัวสูงของใครบางคนที่หลบอยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่เผลอกำมือแน่น...

      …เขาตาไม่ฝาด...คนที่ยืนอยู่ท่ามกลางใบเขียวผลแดงของผลไม้เมืองเหนือนั่น  คือคนที่เขาแทบพลิกแผ่นดินตามหา  ด้วยความเชื่อที่ว่าอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอันตราย  ซึ่งทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับมาเป็นอาทิตย์...

      …แต่ที่เห็นยืนอยู่นั่น...! ด้วยท่าทางสบายดีและแถมยังมี...เด็ก...ที่ไหนก็ไม่รู้อยู่ด้วย...มันเรื่องอะไรกัน! ถ้าเจ้าตัวแต่อยากกลับบ้าน  อยากหนีกลับมาก่อนก็น่าจะบอกกันสักคำ  เขาใช่จะกักขังหน่วงเหนี่ยวอีกฝ่ายเอาไว้ที่บ้านเขาเสียเมื่อไหร่...แล้วการที่บัวหายตัวไป  ไม่ใช่แค่เขาที่ต้องเดือดร้อน  แต่ทั้งกรมตำรวจและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ต่างก็เป็นห่วงและช่วยกันออกตามหา  อีกทั้งยังช่วยกันสืบจนไล่ต้อนพวกมันให้หนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทางเมื่อเจ้านายพวกมันถูกจัดการ  แต่เมื่อเข้าไปค้นในรังของพวกมันแล้วไม่เจอตัว  เขาจึงคิดจะติดตามตัวไอ้พวกลูกน้องที่หลบหนีหายมาที่นี่  เพราะเผื่อจะได้เจอเบาะแสอะไรก็ตามที่ทำให้เขาสามารถตามหาคนของเขาได้ 

      …และเขาก็ไม่ผิดหวัง  เพราะเขาได้เจอจริงๆ...

      …แม้จะเจอในแบบที่เขาไม่คิดว่าจะเจอก็เถอะ...แต่อย่างน้อยก็ยังดี...ที่คนคนนั้นยังดูท่าทางว่าจะสบายดี ไม่เป็นอะไร...

“เฮ้ย มายืนหลบทำอะไรอยู่ตรงนี้วะ”  กฤษณ์ที่ยืนมองเพื่อนหนุ่มของเขาอยู่เกือบนาทีทักขึ้น  อีกฝ่ายแอบมีท่าทางสะดุ้งเล็กๆแสดงให้เห็นว่าจิตใจคงไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว

“ไม่มีอะไร...”

“แอบดูใคร...”  กฤษณ์มองตามสายตาของเพื่อน  ก็พบว่าไปหยุดอยู่ที่แขกผู้ได้รับเชิญโดยไม่ต้องใช้บัตรให้เข้าชมสวนของเขาได้แบบไม่จำกัดเวลา  ซึ่งดูท่าทางว่าคงจะกำลังเพลินกับสตรอเบอร์รี่สดๆจากสวนของเขาอยู่พอสมควร  “มีอะไรอยากถามฉันมั้ย...”

      สิงห์มองสบตากับเพื่อน  ปลายหางตายังคงเห็นร่างผิวขาวๆคุยเล่นอยู่กับเด็กฝรั่งคนนั้นอย่างสนิทสนม  แล้วจึงเอ่ยกับเพื่อนเขาว่า...

“มีแน่...เพราะผู้ชายคนนั้น...เป็นเมียฉันเอง”

———————————————————

แห่ะๆ  กว่าจะครบ...สมกับฉายา นิยายดองข้ามปีจริงๆ  :mew6: :mew4: :mew5: 
ข้าน้อยสมควรตาย...ข้าน้อยขออำภัยจริงๆ!!!  :call: :call: :call:
ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงอีกคำรบ  :call: :call: :call:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling2:


เข้าใจผิดกันแล้ววววววววว

ปรับความเข้าใจด่วนน้องบัว o13

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อย่าดราม่านะ ขอหวานๆ
นายสิงห์ห้ามโกรธบัวนะ  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจอกันแล้วยังจะดราม่าอีกเหรอ

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
แม่ของบัวไปอยู่ไหน?

นายสิงห์เข้าไปหาเลยสิ  :z3:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณย่าจะกักตัวบัวไว้ได้นานสักแค่ไหนกันเชียวคะเนี่ย ในเมื่อตอนนี้นายสิงห์เจ้าของบัวตัวจริงเขาตามมาเจอแล้วน่ะค่ะ

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
ใช้เหตุผลนะนายสิงห์ :mew2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่สิงห์อย่าพึ่งกริ้วน้องบัว น้องไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ ต้องฟังน้องอธิบายก่อนนะคะ :L2:

ออฟไลน์ Noonnaja

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ้ายยยยยยยยยย  ดีใจ  มาต่อแล้ว
รอมานาน
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เป็นเรื่องจนได้สินะ กระดาษหายแผ่นเดียว ชีวิตเปลี่ยน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด