หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]  (อ่าน 763840 ครั้ง)

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
 :mew2: เอ...อ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่าเนื้อเรื่องมันโดนตัดทอนแบบรู้สึกเหมือนว่ามันกระโดดๆ แบบรวบรัดไปนิดหนึ่งนะคะ (ต้องขออภัยนะคะถ้าทำให้คนเขียนรู้สึกไม่ดีหรือว่าใช้คำพูดที่รุณแรงไป ) แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอารมณ์ในการอ่านแต่อย่างไรยังคงเป็นกำลังใจให้คุณครูและนายเหมืองเหมือนเดิมนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ nnewy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่ดราม่านะะะ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
คุยกันดีๆนะ

ออฟไลน์ grimreaper

  • การอิจฉาคนอื่น คือการดูถูกตัวเอง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โทรศัพท์บ้านไม่มีเหรอ ขอคุณย่าโทรสักนาทีคงไม่เสียหายอะไรมั้ง -.-   :ling1: :ling1: :ling1:  หงุดหงิดค่าาาาาา   :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
คุณสิงห์ใจเย็นๆนะ ฟังบัวอธิบายก่อนนน

ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1:
โอ้ยยยยยยยยยจะขาดใจ!! มาต่อเร็วๆที่รักกกกก
 :hao5:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แล้วแม่ของบัวล่ะ? นี่กังวลจริงๆแล้วนะเนี่ย

แล้วก็นายเหมืองคะ ค่อยๆถาม ค่อยๆไถ่กันก่อนค่ะ ใจเย็นๆๆๆ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อิพี่สิงห์ ใจร่มๆ

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
นายเหมืองอย่าเข้าใจครูบัวผิดนะ ค่อยๆคุย ครูบัวมีเหตุผล

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
บัวมาแล้ว

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
ครูบัว นายเหมืองใจเย็นๆนะครับ ฟังครูบัวก่อน

ออฟไลน์ peeranatyaikaew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :katai1: :katai1: :katai5: :katai5:มารอค่ะ คข.สู้สู้ :really2:

ออฟไลน์ WiN2LoG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออยู่นะคะ >< สู้ๆนะคะคนเขียน :o8:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คิดถึงครูบัววววว  :hao5:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
มาต่ออีก!!!

ออฟไลน์ jajomjun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกกมากกกก มาต่อเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
มาต่อเร็วๆๆนะอ่านสนุกมาก :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
คิดถึงครูบัว  :ruready

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ้Sin.7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1:
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงง
 :z3: :hao5:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
บัวพยายามน้อยไปหรือเปล่าในการพยายามติดต่อสิงห์กับคู่แฝด

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ใจเย็นๆ อย่าพึ่งเดือด ฟังกันก่อนนนนน

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22

ออฟไลน์ Indy17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เขาคิดถึงนายเหมืองกับครูบัวแล้วววว  :กอด1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ SLEEPERINDY

  • I am a normal girl.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ครูบัวอยู่ไหนคะ คิดถึง 

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
คิดถึงแล้วจ้า

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๒๐



      เวลาผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวันโดยที่บัวก็ไม่ได้มีอะไรทำมากไปกว่าการเป็นพี่เลี้ยงหลานลูกครึ่งให้คุณย่า  เขาเพิ่งเอาเจ้า ‘ดอกปีบ’ เข้านอน  เจ้าเด็กตัวผอม ผิวซีด ดวงตาสีเขียว  ผู้มีศักดิ์เป็นน้าชายของบัวมีอาการติดเขาอย่างกับอะไรดี  แต่ไม่ดื้อไม่ซนเท่าสองแสบประจำเหมืองที่ใต้นั่น...

      …เฮ้อ...เผลอคิดถึงเด็กน้อยสองคนนั่นอีกแล้ว...ไม่รู้จะโกรธกันขนาดไหนนะที่จู่ๆบัวก็จากมาโดยไม่ได้ออกปากลากับเจ้าตัวเขาก่อน...ระหว่างเขากับเด็กๆกำลังไปกันได้ดีเชียว...

      …จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่เด็กหรอก  กับตัวพ่อก็...เหมือนจะ...ไปได้สวยล่ะมั้ง...ว่าแล้วก็รู้สึกคิดถึงจัง...ทั้งบรรยากาศในเหมืองแล้วก็ตัว ‘คนเหมือง’ ด้วย...

      บัวพยายามนึกเดาว่าตอนนี้ทั้งสามคนพ่อลูกนั่นจะกำลังทำอะไรอยู่  และพรุ่งนี้เขาจะต้องขอคุณย่าใหญ่เข้าเมืองให้ได้เพื่อจะไปหาซื้อสายชาร์จโทรศัพท์  ไม่ก็ยอมเสียเงินซื้อเครื่องใหม่ไปเลยถ้าหากหาซื้อไม่ได้เพราะรุ่นมันเก่ามากแล้ว  เมื่อมีเป้าหมายในชีวิตแล้วบัวก็รู้สึกค่อยมีกำลังใจที่จะตื่นนอนในเช้าวันรุ่งขึ้นหน่อย  ส่วนเรื่องคุณแม่นั่นในใจลึกๆบัวรู้สึกว่าแม่ยังปลอดภัย  แม่อาจจะออกไปอยู่บ้านเพื่อนหรือคนรู้จักก็ได้  คิดๆไว้ว่าอีกสองสามวันจะลงกลับไปที่กรุงเทพฯอีกครั้ง  เพื่อลุยหาแม่อีกครั้งด้วยตัวเอง

      บัวคิดวางแผนโน่นนี่จนเดินมาถึงหน้าห้องของตัวเอง  และเพราะมีอย่างอื่นในหัวอยู่เยอะจึงไม่ทันได้เอะใจว่าทำไมแม่กุญแจล็อกหน้าห้องถึงเปิดอยู่  คิดเอาง่ายๆว่าพี่จันสาคงจะเข้ามาจัดของในห้องเขาให้ล่ะมั้ง...คุณครูหนุ่มน้อยจึงผลักประตูเข้าไปแล้วเปิดไฟในห้องอย่างเคยชิน

      ทว่า...ทันทีที่แสงไฟเปิดขึ้น  รอบเอวก็ถูกโอบกอดพร้อมๆกับที่ปากก็ถูกมือปิด  บัวร้องตกใจอย่างอัตโนมัติแต่มันก็ดังติดอยู่แค่ในลำคอ  ปลายหางตาพยายามเหลือบมองดูว่าใครกันที่หาญกล้าเข้ามาทำกับเขาแบบนี้  แต่ผ้าที่คลุมศีรษะอีกฝ่ายอยู่ก็ทำให้บัวมองไม่เห็นว่าเขาเป็นใคร  รู้แต่ว่าเป็นผู้ชายที่มีกล้ามแขนใหญ่มาก  ช่วงไหล่ก็กว้าง  อีกทั้งช่วงหัวของเขาที่โน้มกายลงหาบัว  เพราะบัวสูงเพียงแค่อกของเขาเอง

“ชู่ว...อย่าร้องเสียงดังสิ...ครูบัว...ที่รัก” 

      เสียงทุ้มต่ำที่เจ้าโจรปิดหน้าเลื่อนลงมากระซิบข้างหูทำให้บัวเบิกตาโตกว้าง  ไม่ต้องหันไปเหลือบมองอีกบัวก็รู้ดีแก่ใจแล้วว่าเป็นใคร...เหลือแค่อาการตกใจว่าไม่รู้อีกฝ่ายขึ้นมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่  และทำไมถึงไม่เข้าตามตรอกออกตามประตูดีๆ!

“อื้อ...อื้อ!”  บัวพยายามเอ่ยปากเรียกชื่ออีกฝ่าย  แต่อีกฝ่ายเพียงก้มลงหัวเราะใส่หูบัวจนลูกระเดือกกระเพื่อม  ฝ่ามือหนาใหญ่ก็ยังคงปิดปากเอาไว้ไม่ให้เขาพูดอะไรอยู่ดี

“เอาน่า...เล่นบทโจรล่าสวาทแบบนี้ก็สนุกดี  อย่าพยายามร้องขัดขืนให้ผมต้องหาอะไรอย่างอื่นมาอุดปากคุณเลย...”  ชายหนุ่มพูด  พาลทำให้บัวขัดใจจนต้องร้องตอบโต้ในลำคอพร้อมพยายามกระทืบเท้าดิ้นหนี

      ใช่เขาพยายามจะร้องขัดขืนที่ไหน  แค่จะร้องเรียกชื่อเท่านั้น!  อะไรกันเนี่ย...ไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์  ทักทายกันด้วยการเล่นบทโจรปล้นสวาทเนี่ยนะ...!  นี่นายเหมืองคิดบ้าอะไรอยู่...!!

“…นี่  ใจเย็นๆสิให้ผมพูดก่อน  อย่าเพิ่งดิ้น...หยุด!  ถ้าไม่หยุดผม...”  ชายหนุ่มหยุดพูดไปชั่วคราว  แต่ใช้การกระทำช่วยในการเติมประโยคให้สมบูรณ์แทน  ด้วยการบดเบียดหน้าขาของตัวเองเข้ากับก้นนิ่มๆที่เขาจัดการฟัดมาแล้วหลายครั้ง  ลิ่มร้อนๆที่เพิ่งจะเริ่มตั้งดุนดันช่วงร่องก้นของอีกฝ่ายอย่างตรงเป้า  ประกอบกับนิสัยซึ่งบัวคิดว่ารู้จักอยู่พอสมควรทำให้เขาเข้าใจคำพูดที่ขาดหายไปได้อย่างชัดเจน

“นี่...ตอนนี้ผมมีเรื่องจะถามคุณเยอะแยะเลย  แต่ว่า...ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี  คุณรู้มั้ย...ว่าการที่จู่ๆคุณก็กลายสภาพจากคุณครูบัวของเด็กๆ มาเป็นหลานชายเจ้าทางเหนือเนี่ย...ทำให้ผมรู้สึก...ตกใจมาก  ทำไมล่ะ...อยู่บ้านผมมันลำบากมาก  แล้วผมก็โหดมากถึงขนาดต้องแอบหนีมาโดยไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำเลยเหรอ...รู้มั้ยว่าการกระทำของคุณมันทำให้ผมโกรธมาก  สัญญาจ้างคุณก็ยังไม่หมด...แต่ที่ผมโกรธที่สุดคือการที่คุณทำให้ลูกชายผมสองคนต้องร้องไห้  เพราะคิดถึงคุณ...”

      …บัวนิ่งเงียบและหยุดดิ้น...

      …เขาหยุดดิ้นเพราะคำพูดที่ว่า...เขาทำให้ลูกศิษย์สองคนต้องร้องไห้...เพราะคิดถึงเขา...

      บัวพยายามช้อนตามองคนที่กอดรัดเขาเอาไว้  สายตาวอนขอให้เอามือออกเพื่อที่เขาจะได้พูดตอบโต้อะไรบ้าง...อย่างน้อยก็เพื่อแก้ความเข้าใจผิด...ว่าเขาไม่ได้หนีมา  แต่เพราะมีความจำเป็นต่างหากก็เลยต้องมา...

“เอาล่ะ...ศาลยังให้จำเลยมีทนายแก้ต่าง  แต่โชคร้ายหน่อยที่ผมใจร้ายกว่าศาล  คุณครูคงต้องพูดแก้ต่างให้ตัวเองแล้ว...”

      ฝ่ามือใหญ่หนาค่อยๆคลายออกจากปากของบัว  มีแอบลูบปาดที่ริมฝีปากเขาแล้วเอาไปเลียด้วย  ท่าทางลามกไม่ต่างกับก้นที่พยายามบดเบียดเขานี่เลย

      เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ตอนที่ถูกปิดปากเขาอยากจะพูดอะไรตอบโต้คนตัวใหญ่กว่าเยอะแยะมากมาย  แต่พอตอนนี้เขากลับไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีเลย  ได้แต่กัดปาก...แล้วก็มองหน้าอีกคนด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย 

“จะให้พูดอะไร  คุณยัดเยียดข้อหามาให้ผมขนาดนี้  ผมพูดอะไรไป คุณก็คงคิดแค่ว่ามันเป็นการแก้ตัว...”

“ก็ลองแก้มาสักข้อสิ...เผื่อผมจะรับฟังแล้วพิจารณาว่ามันไม่ใช่ข้อแก้ตัว”

“…”  บัวเงียบ  มองจ้องสายตากับคนร่างสูงใหญ่แบบวัดใจกัน  นายเหมืองหรี่ตามองหาแววจริงใจของคนที่เขากำลังกอดรัดเอาไว้แน่น

“ข้อแรก...หนีมาทำไม...”

“…ไม่ได้หนี  แต่มีความจำเป็น  บ้านแม่บัวไฟไหม้...บัวเห็นในข่าวทีวี ตกใจมากก็เลยรีบออกมาไม่ทันได้ปลุกใคร  แต่ว่าเขียนใส่กระดาษบอกไว้แล้วนี่...” ...แต่ดูจากสถานการณ์คาดว่าคงไม่ได้อ่านแน่ๆสินะ...

“…ไฟไหม้? หรือว่า...ข่าวนั่น...อา...”  นายเหมืองเชิดปลายคางขึ้นเหมือนเข้าใจบางอย่าง...

“แล้วทำไมต้องหนีมาที่นี่...อย่าบอกนะว่า...”

“พ่อของบัวเป็นลูกชายเจ้าย่า...ผมก็เลยมีศักดิ์เป็นหลาน ‘แท้ๆ’ ของเจ้าย่าไปด้วย...”  บัวหันมองสบตาอีกฝ่ายราวท้าทายด้วยคำถามว่า ‘ผมผิดเหรอที่เกิดมาเป็นแบบนี้...'

“อา...”  มือที่โอบกอดอยู่รอบแขนค่อยๆคลายออก  บัวสำทับเพิ่มไปว่า

“…นี่คือบ้านที่บัวเคยอยู่ตอนเด็กๆ  แต่ปู่กับย่าไม่ชอบแม่  พ่อเลยพาเราไปอยู่กรุงเทพฯ” 

      มือที่กอดเอวครูบัวไว้คลายออกเกือบสุด  เหลือเพียงปลายนิ้วที่แตะแผ่วๆตรงราวเอว  นายเหมืองรู้สึกได้ว่าผิวครูนุ่มขึ้น  แถมยังขาวขึ้นด้วย  ไม่ได้ดูคล้ำเหมือนตอนอยู่เหมืองทางใต้กับเขา...

      …อา...นี่สินะ  ที่ที่ครูควรอยู่ตั้งแต่แรก...

      …ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนเหมือนที่ใต้...

      …ครูบัวไม่ได้หนี...เขาแค่กลับมาอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่ตั้งแต่แรกต่างหาก...

“นายเหมือง...กำลังคิดอะไรแปลกๆอีกแล้วใช่มั้ย”  คราวนี้คนที่หันกลับมาจับมือใหญ่หนาเอาไว้เองคือครูบัว  คุณครูหนุ่มคว้าจับมือใหญ่ทั้งสองเอาไว้แล้วเอามาโอบตัวเอง  เสร็จแล้วจึงเงยหน้าคุยกับอีกคน  “เคยคุยกันแล้วใช่มั้ย...ว่ามีอะไรให้ถาม  ให้คุยกัน  อย่าคิดเองเออเอง...บัวเป็นคนยังไงนายเหมืองไม่รู้เลยเหรอ...”

      ท่าทางหางลู่หูตกเหมือนหมาพันธ์โกลเด้นตัวใหญ่สลดทำให้บัวอดใจไม่ไหว  อยากจะลูบมือบนกลุ่มผมนั่นเหลือเกินถ้าไม่ติดว่า...บัวเตี้ยน่ะนะ

“เอาล่ะ...ทีนี้ตาบัวถามบ้าง  นายเหมืองรู้ได้ยังไงว่าบัวอยู่ที่นี่  แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง...”

“…พี่...ปีนเข้ามา  ตั้งใจจะมาจับกดแล้วก็ถามให้รู้เรื่อง...ว่าหนีพี่มาเสวยสุขที่นี่ทำไม”

“เสวยสุข! ดูยังไง...  นายเหมืองรู้มั้ย  ย่าตัดช่องทางการติดต่อของบัวหมดเลย  บัวจะโทรไปหาตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่ก็ไม่ได้เอาที่ชาร์จมา  เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามาสักชุด  นี่ยังจะเรียกหนีอีกเหรอ...”

“…แต่รู้มั้ยว่าการที่จู่ๆบัวก็หายตัวไปทำให้ชาวบ้านชาวช่องเขาเดือดร้อนกันขนาดไหน  พวกพี่คิดไปต่างๆนาๆว่าบัวอาจถูกจับไป  อาจถูกขังอยู่  ติดต่อก็ไม่ได้  พวกชาวบ้านรวมตัวกันเองช่วยพวกพี่ตามหาบัวไม่ได้หลับได้นอนอยู่เกือบอาทิตย์  สุดท้ายพี่ทนไม่ไหว...บุกฐานที่มั่นพ่อของยัยตีลังกาเสียเละ...แต่พี่ก็ไม่เจอบัว...”

“แล้วใครเป็นอะไรมั้ย...นายเหมือง  เด็กๆล่ะ  เด็กๆโอเคมั้ย...”

“ยังเป็นห่วงสองคนนั้นอยู่อีกเหรอบัว...”  ด้วยอารมณ์เขาเลยพูดสวนกลับทันควัน  แต่พอเห็นสีหน้าสลดลงของอีกฝ่ายแล้วความรู้สึกผิดก็แล่นจุกอก

“…บัวขอโทษ...”  ครูบัวเอ่ยเสียงเบา  นายเหมืองเอามือข้างหนึ่งลูบหน้า...ถ้ามันเป็นอย่างที่ครูบัวเล่าจริง  ครูเขาผิดที่ไหน...

“โอเค  พี่ก็ขอโทษ...บัวไม่ผิด  พี่แค่...เฮ้อ  กำลังสับสน...”

      เรื่องราวต่างๆมากมายมันโจมตีเข้ามาพร้อมกันในหัว  และหลายอย่างมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้แต่แรก  จึงทำให้สมองต้องใช้เวลาสักพักในการประมวลผลว่าอะไรคืออะไร  และอะไรเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน...

      …แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรพาลอารมณ์ใส่ครูบัว  ทั้งที่เพิ่งได้เจอหน้าสมใจอยากแล้วแท้ๆ  แถมเหตุการณ์ก็ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด  เขาควรจะแสดงความดีใจมากกว่าที่ครูบัวไม่เป็นอะไร...

“ไม่เป็นไร  บัวเข้าใจ...”  บัวยื่นมือไปลูบแก้มของชายตัวสูงกว่า  เขาคิดว่าเขาเข้าใจความสับสนนั้นของนายเหมืองสิงห์นะ...แต่สำหรับบัว  ความคิดถึงมันแทรกเข้ามาแทนความสับสนเสียแล้ว...  “ทีนี้ตาคุณบ้าง  ตอบมาสิ...ว่าคุณมาที่นี่ได้ยังไง  แล้วรู้ได้ยังไงว่าบัวอยู่ที่นี่...”

“คือ...มีคนของมันที่รอดจากการถูกจับกุมหนีขึ้นมาภาคเหนือนี่  พี่เลยตามมาเผื่อว่าจะมีเบาะแสของบัว...แล้ว  มันบังเอิญที่พี่ได้เจอบัวว่าอยู่ที่นี่  พี่เลย...แอบปีนขึ้นมา”

      …โกหกแน่ๆ  บ้านของเจ้าย่าไม่ใช่ที่ที่ใครจะบุกเข้ามาได้ง่ายๆ  แล้วนายเหมืองจะเจอบัวตอนไหน  บัวได้ออกจากบ้านก็แค่ตอนพาดอกปีบไปเที่ยวสวนผลไม้ข้างๆ...เอ๊ะ  หรือจะเป็นตอนนั้น...

“อืม...เชื่อก็ได้...แล้ว  พอเจอหน้าก็ตั้งใจจะปล้ำด้วยความโกรธ  ทำตัวเหมือนพระเอกพวกละครซาดิสม์แนวจำเลยรักเลยอย่างนี้เลยเหรอ” 

      นายเหมืองมองหน้าคนพูดแล้วคลายมือออกจากเอวที่ถูกครูบัวพาไปแปะไว้ในตอนแรก...ก่อนจะแบมือสองข้างยกขึ้นเหนือศีรษะเล็กน้อยเหมือนท่าผู้ร้ายโดนตำรวจจับ

“พี่ไม่กล้าหรอก  ตอนนี้สถานะบัวไม่เหมือนเมื่อก่อน  พี่จะไปกล้าทำให้หลานเจ้าย่าต้องแปดเปื้อน...อุ...อืม...”

      ไม่ทันได้พูดจนจบประโยคดี  หลานเจ้าย่าผู้ไม่สมควรแปดเปื้อนก็เป็นฝ่ายเขย่งเท้าเข้าหาแล้วประกบปากจูบลงไปก่อน  มีการเอานิ้วจับหูนายเหมืองเพื่อบังคับเปลี่ยนองศาหน้าให้พอเหมาะพอดีกับคนตัวเตี้ยอย่างบัวเองด้วย  และไม่นานก็สมดังใจ...เมื่อนายเหมืองให้ความร่วมมือดี  ยึดบทฝ่ายรุกกลับไปเป็นของตน  บดขยี้ริมฝีปากบัวเสียแรงจนเกือบเจ่อ  ตอนที่ถอนปากออกมายังมีอาการอาลัยอาวรณ์  และเล็มขอบปากและมุมปากไม่หยุดอีกด้วย...

“นายเหมือง...ขนาดนี้...แล้ว  ยังจะบอกว่า...ไม่กล้าอีกเหรอ...หน้าด้านมาก”

“…นั่นสินะ  ปู้ยี่ปู้ยำหลานเขาเสียจนพรุนขนาดนี้แล้ว...พี่ยังจะต้องมาเกรงใจอะไรอีก” 

      บัวหมุ่นคิ้วหลังฟังนายเหมืองพูดจบ  ยกมือตีแปะเบาๆบนอกแกร่งทิ้งน้ำหนักตัวไปข้างหลังเมื่อมันมีอ้อมแขนแข็งแรงกอดช้อนหลังอยู่  แล้วเงยหน้าสบตาคนที่เริ่มได้ใจเมื่อเห็นเขายอมโน้มใบลงไปให้ให้หมาวัดแทะเล่นเสียเอง

“เกรงใจหน่อยก็ได้...หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง  ปีนเข้าห้องหลานชายเขา  ตอนกลับออกไปไม่ถูกคนเขายิงทิ้งดิ้นกระแด่วๆก็แกร่งเกินคน”

“นี่ริอาจแช่งผัวเหรอบัว...อ๋อ  ได้เป็นเจ้าเป็นนายเข้าหน่อยคิดข่มผัวแล้วหรือไง”

“ไม่ได้แช่ง ไม่ได้ข่ม...แต่ขอให้โดนจริงๆเนี่ยแหละ  หึ...เข้ามาได้ขนาดนี้ขาออกก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอกมั้งนายเหมือง”  แถมยังพึมพำต่อท้ายเบาๆอีกแน่ะ  ว่าร้ายกาจเป็นบ้าเลยนายเหมือง...

“ก็ใช่...แต่กว่าจะผ่านแต่ละด่านมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน  งั้นไหนๆหลานเจ้าย่าก็โดนพี่ทำแปดเปื้อนไปแล้ว...พี่ก็ขอซ้ำอีกสักหนก็แล้วกัน  ถือว่าเป็นการลงโทษที่หนีหน้าผัวหายตัวกลับบ้าน  ปล่อยให้คนทางโน้นต้องพะว้าพะวงเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า...มา หันแก้มมาเลยคุณครู...”

“เดี๋ยวๆ เดี๋ยวก่อน...”  บัวเบรกกะทันหันเมื่อนายเหมืองคิดจะทำอย่างที่ว่าบนเรือนคุณย่าเข้าจริงๆ  เขาก็อยากจะยอมให้อยู่หรอกนะแต่ตอนนี้สภาพจิตใจยังไม่พร้อม  “...บัวยังเป็นห่วงแม่  ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวอะไรของแม่เลย  ไม่มีศพอยู่ในบ้าน  ไม่รู้ว่าแม่อยู่ไหน  ไม่มีใครเจอ...”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง  แม่บัวจะต้องปลอดภัย...พี่เคยให้แม่บัวติดต่อกับคนรู้จักของพี่ซึ่งเป็นตำรวจอยู่ที่กรุงเทพฯให้เขาช่วยดูแลสอดส่องให้  เพราะพี่รู้ว่าบัวอยู่กับแม่สองคน  ลูกไม่อยู่แม่คงลำบาก...พี่เลยให้เขาช่วยตามดูแลอยู่อีกทีหนึ่ง  ตอนนี้เขาอาจจะหาทางติดต่อเราไม่ได้ก็ได้  พี่เพิ่งเปลี่ยนเบอร์ใหม่  ส่วนบัวก็แบตหมด  ไม่เจอศพก็แสดงว่าแม่บัวคงไม่อยู่ที่บ้านช่วงไฟไหม้  ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีนะ  เพราะแสดงว่าแม่บัวปลอดภัย...”

“…นายเหมือง”  บัวอ้าปากแล้วก็หุบปาก  อย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกไปต่อดี...

      …ไม่คิดว่านายเหมืองจะเผื่อแผ่ความรักและการดูแลเอาใจใส่ไปให้ถึงแม่ของเขาด้วย...แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำของผู้ชายคนนี้  ก็ทำให้ความตึงเครียดในสมองของบัวที่มีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องขาดสะบั้นลง  ในใจรู้สึกโล่งเหมือนยกลังหนักๆออกไปจากอก 

      …ความรู้สึกลึกๆมันบอกว่าเขาเชื่อคำพูดผู้ชายคนนี้ได้...แม่เขาจะปลอดภัย...ผู้ชายคนนี้ช่วยปกป้องแม่ไว้...

“นายเหมือง...บัว...ขอบคุณ...”  น้ำเสียงตรงคำสุดท้ายสั่นเครือด้วยความรู้สึกมันอัดแน่น  รู้สึกขอบคุณจากใจจริง  รู้สึกอยากตอบแทนความมีน้ำใจของผู้ชายคนนี้ 

      บัวโผเข้ากอด สอดแขนรัดเอวของผู้ชายตัวสูงกว่าตรงหน้าแน่น...หลับตาเพราะน้ำตาแห่งความดีใจมันไหลออกมาเอง  ขอแค่รู้ว่าแม่ปลอดภัย  เขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงอีก...

“…บัวขอบคุณมากนะ  ขอบคุณจริงๆที่นายเหมืองช่วยแม่  ไม่รู้จะตอบแทนยังไงดีเลย...”

“บัวก็ตอบแทนด้วยการหนีพี่มาแล้วไง...”  น้ำเสียงเศร้าๆของนายเหมืองติดจะซ้ำเติมด้วยความฝังใจ...

      เขายังจำความรู้สึกตอนที่รู้ว่าบัวหายไปในเช้าวันนั้นได้แม่น...มันยิ่งกว่าตอนที่เมียคนแรกของเขาเสียเสียอีก  เพราะตอนนั้นยังได้พอมีเวลาทำใจล่วงหน้า  แต่นี่จู่ๆก็หายไปไม่มีปี่มีขลุ่ย  แถมยังเกิดเรื่องร้ายๆมาก่อนหน้านั้นอีกตอนพาเด็กๆไปเที่ยว...จนพาลให้เขาคิดไปแต่ในแง่ลบ  เสพข่าวอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับบัวแค่พอผ่านๆ  แล้วก็สานต่อความเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆเข้าด้วยตัวเอง...ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมันก็มีทั้งดีและไม่ดีน่ะนะ

      ผลลัพธ์ที่ดีก็คือเขาสามารถทลายแหล่งค้าไม้เถื่อนได้อย่างรวดเร็วทันควันแบบที่พวกมันไม่ทันได้ตั้งตัว  จับตัวการใหญ่ได้คาหนังคาเขา  แม้ว่าลูกสาวและคนของมันบางคนจะไหวตัวทันและหนีออกมาได้   ส่วนผลลัพธ์ที่ไม่ดีก็คือเขาเกิดฝังใจ  และไม่ไว้ใจครูบัวให้อยู่ห่างจากกายเพราะกลัวจะหายไปกะทันหันแบบนั้นอีกน่ะสิ...

“บัวขอโทษ...เหตุการณ์มันจำเป็นนี่นา  นั่นก็แม่...จะให้บัวเห็นข่าวแล้วก็นั่งเฉยๆไม่ทำอะไรอยู่ที่ใต้เหรอ...”

“โอเค...พี่ไม่ได้โทษบัว  แต่มันอดไม่ได้นี่...เมียหายทั้งคนนะ  พี่ตามหาบัวจนแผ่นดินทั้งจังหวัดแทบลุกเป็นไฟ  เกือบได้ประกาศกฎอัยการศึกเฉพาะที่แล้ว  เพราะพี่บุกค้นทุกที่ที่มีความเป็นไปได้ว่าบัวจะอยู่แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเลยรู้บ้างมั้ย...ไม่รู้ป่านนี้โดนชาวบ้านเขาแช่งด่าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...”

      เพราะคำว่าบุกคือบุกจริงๆ  ห้องพักคนงานทุกหลังโดนเรียบ  บ้านชาวบ้านรอบเหมืองก็ไม่เว้น  สถานที่ราชการ  ห้าง  ร้านค้า  โดนหมด...และแน่นอนว่าอารมณ์นั้นเขาคงไม่ได้มีกะจิตกะใจจะไปเคาะประตู  เอ่ยสวัสดีแล้วก็เอ่ยขอบคุณตอนจากลาหรอกนะ...

“…กลับไปหนนี้คงต้องซื้อกระเช้าดอกไม้ไปขอโทษยกใหญ่เลย...”  บัวเบ้หน้า...นึกภาพออกเลยว่าสถานการณ์นั้นนายเหมืองเป็นอย่างไร

“แต่ตอนนี้...พี่ว่าบัวควรยกขาขอโทษพี่ก่อนดีกว่ามั้ง...จะยกตรงไหนดี  ให้เลือกระหว่างผนังกับบนเตียง  ห้องน้ำไม่เอานะ...กำแพงบางอยู่ติดด้านนอก  บัวยิ่งเก็บเสียงไม่ค่อยอยู่เวลาพี่กระแทกแรงๆ...อุ๊บ”

“ไอ้คนหื่นกาม...!”  บัวกัดฟันด่ากรอดพร้อมยกมืออุดปาก   พูดเรื่องน่าบัดสีบัดเถลิงตอนกลางคืนบนบ้านเจ้าย่าได้อย่างไร  ผีบ้านผีเรือนที่นี่แรงนัก  หน้าหนาได้โล่จริงๆผู้ชายคนนี้  “อดทนหน่อยได้มั้ย...นี่อะไร  เจอหน้ากันก็กะฟันอย่างเดียวเลยเหรอ  นอนคุยกันโน่นนี่ไม่เป็นรึไง”

      นายเหมืองส่ายหน้าทั้งที่ปากยังโดนมือขาวๆปิดอยู่  เขาไม่คิดเอาออกหรอก  มือครูบัวถึงจะเค็มไปนิดแต่ก็หอมหวานๆดีเหมือนเมื่อก่อนเด๊ะ  เขาพูดตอบโต้อู้อี้กลับไปได้ใจความว่า

‘ก็เขาคิดถึงเมีย  เจอหน้าเมียแล้วก็อยากกอดเมีย  อดอยากปากแห้งมานาน’ 

      บัวแทบหงายหลัง  เพราะนอกจากคำพูดที่ได้ยินแม้จะอู้อี้  แต่หลักฐานอันแข็งแรงและทรงพลังที่ดุนดันต้นขาอยู่นั้นก็ฟันธงได้ฉับๆเลยเชียวล่ะ!!

      ‘ไม่รอดแน่คืนนี้...เจ้าบัวเอ๋ย...’

———————————————————

 :z13: :mew5: :mew2: :katai4:

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์



      ในคืนต่อมาบัวก็กลับเข้านอนตั้งแต่หนึ่งทุ่ม  คนอื่นๆคิดว่าบัวคงแค่อยากพักผ่อนแต่หัววัน  ใครจะรู้ว่าเป็นเพราะบัวแอบนัดผู้ชายให้ปีนหาตอนทุ่มครึ่งต่างหาก  นี่ถ้าคุณย่ารู้  ไม่รู้ว่าท่านจะอับอายแค่ไหน  หรือบัวจะโดนสั่งประหารชีวิตอย่างไร

      ถามว่าในใจลึกๆบัวรู้สึกผิดไหมกับการเปิดทางให้ผู้ชายลอบเข้าห้อง  เพื่อมาอยู่ด้วยกัน  เพื่อจะได้ใกล้ชิดกันในทางชู้สาวบนบ้านคุณย่า  บอกเลยว่ารู้สึกอายและรู้สึกผิดอยู่บ้าง  แต่เพราะบัวกับคุณย่านั้นห่างกันมาสิบกว่าปีแล้ว  ความผูกพันจึงไม่ได้มากเหมือนตอนเด็กๆ  ที่จะรู้สึกมากอยู่บ้างก็คงเป็นแค่ความรู้สึกผิดต่อท่านมากกว่า  เหตุก็เพราะสมัยรุ่นพ่อกับแม่นั่นเองที่ไม่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความรัก  และตอนนี้บัวก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังดำเนินรอยตามสิ่งที่พ่อกับแม่ทำไว้อีกครั้ง 

      และถ้าครั้งนี้ผลลัพธ์มันจะเป็นเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา...บัวคิดว่าก็คงมีทางแก้แค่ทางเลือกเดียว...

      …นั่นคือบัวต้องยอมรับมัน...

      …ยอมรับว่าตัวเองรักกับผู้ชาย...มีความรักที่เป็นแบบต้องห้ามในทัศนคติของคุณปู่และคุณย่า...

“…พรุ่งนี้พี่จะให้กฤษณ์พาพี่มาแนะนำตัวกับคุณย่า  บัวว่ายังไง”

      ระหว่างที่บัวกำลังจมจ่อมอยู่กับความนึกคิดของตัวเอง  เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นอนกอดบัวเอาไว้ในวงแขนก็พูดขึ้น 

      บัวที่นอนซบอกแข็งแรงบึกบึนเงยมองเจ้าของอกและขนอุยที่ตัวเองคุ้นชินด้วยสายตาแสดงความสงสัย

“นึกยังไงถึงจะไปแนะนำตัวกับคุณย่าครับ”  บัวถามงงๆ

“ก็พี่จะพาบัวกลับใต้กับพี่น่ะสิ  แต่จู่ๆจะให้พาไปเลยได้ยังไง  ต้องขออนุญาตญาติผู้ใหญ่ของบัวให้เรียบร้อยเสียก่อน”

      บัวกลั้นหายใจไปชั่วระยะเวลาหนึ่งหลังฟังคำตอบจบ  คิดวนในหัวว่าคุณย่าจะว่ายังไงก็ได้คำตอบออกมาแค่คำตอบเดียว...

      …ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่คุณย่าจะอนุญาต...

“นายเหมือง...บัวเคยเล่าเรื่องครอบครัวของบัวให้ฟังรึยัง”  นาทีนั้นเอง  บัวจึงตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวภูมิหลังของตัวเองให้นายเหมืองร่างใหญ่ยักษ์ฟัง  นายเหมืองขมวดคิ้ว  ตั้งใจฟังสิ่งที่คนเกยหน้าบนอกเขาเริ่มต้นเล่า

“อย่างที่นายเหมืองเห็น  ฝ่ายคุณปู่ของบัวสืบเชื้อสายตระกูลเก่าแก่ของที่นี่  คุณพ่อของบัวจึงเคยมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าน้อยของคุ้มแห่งนี้...แต่เพราะแม่ของบัวเป็นแค่ลูกแม่ค้าธรรมดาๆ...เรื่องราวของปัญหาภายในครอบครัวของบัวก็เลยเริ่มมาจากตรงนั้น...”

      บัวเล่าเรื่องราวทั้งหมดโดยไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจอะไรอีก  เหตุหนึ่งอาจเพราะตอนนี้เขากลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว  ความรู้สึกผิดที่จู่ๆก็ทอดทิ้งคุณย่ากับคุณปู่ไปกะทันหันจึงหมดไป  อีกเหตุผลหนึ่งก็คงเพราะคนที่ร่วมแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองนั้น  คือคนที่บัวรู้สึกได้ว่าเขาคือคนคนเดียวกันกับบัว  คือคนที่สามารถร่วมแชร์ชีวิตด้วยกันได้

      นายเหมืองสิงห์นิ่งฟังเรื่องราวของครอบครัวครูบัวเงียบๆ  ฝ่ามือหยาบ กร้าน หนา คอยแต่ลูบบนหัวไหล่มนเบาๆ  ไม่ได้พูดขัดหรือซักถามอะไร

      เรื่องที่ได้ยินนั้นสำหรับตัวร่างสูงใหญ่แล้วเขาไม่ได้คิดมากหรือหวั่นกลัวอะไร  แม้จะเข้าใจดีว่าบัวตัดสินใจเล่าความหลังให้ฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์  ไม่อยากให้เรื่องราวระหว่างเขาสองคนเป็นอย่างอดีตรักที่ไม่ได้รับการยอมรับเหมือนเรื่องของพ่อแม่บัว

“…แล้วตอนนี้  บัวก็ยังไม่แน่ใจ  ว่าคุณย่าจะให้อภัยเรื่องทั้งหมดได้จริงๆ  แม้คุณปู่กับคุณย่าจะดีกับบัวมาก  แต่บัวก็ไม่คิดว่า...ท่านจะยอมรับเรื่องของ...เรา”

      สิ่งที่ได้รับรู้ผ่านหูทำให้อกแข็งแรงตึงแน่นขยับขึ้นแล้วก็ลง  การถอนหายใจยาวใหญ่ของนายเหมืองทำให้บัวที่นอนฟังเสียงหัวใจเต้รของอีกคนรู้สึกเกร็งขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ  คิดไปว่านายเหมืองได้ฟังแล้วคงถอย  และคิดเปลี่ยนความตั้งใจแล้วแน่ๆ

      ทว่า...เสียงหัวเราะดัง หึหึ ที่ค่อยๆดังขึ้น  ทำให้บัวรีบเงยหน้ามองคนที่นอนกอดก่ายเขาอยู่  ชายหนุ่มส่งยิ้มพราวใส่ดวงตาเขา  พร้อมกับกอดร่างเขาแน่นขึ้น  ริมฝีปากอุ่นร้อนบดจูบที่ข้างขมับแล้วจึงเลยมาข้างแก้ม

“นายเหมือง...”  บัวเรียกอีกฝ่ายเสียงอ่อน

“…พี่ไม่ได้จะว่าพ่อกับแม่ของบัวทำไม่ถูกหรอกนะ...แต่พ่อกับแม่บัว  และเราสองคนเป็นคนละคนกัน...”  ชายหนุ่มคว้ามือน้อยขึ้นมาจูบลงบนนิ้วนาง  มองแววตาฉายแววไม่มั่นใจของอีกฝ่ายแล้วก็ยิ้มสร้างความมั่นใจให้กับอีกคน

“ความรู้สึกของพี่เป็นของจริง  ต่อให้คุณย่าของบัวจะไม่อนุญาตให้บัวไปอยู่กับพี่  แต่พี่ก็จะไม่ยอมแพ้  พี่จะทำทุกวิถีทางให้ท่านยอมใจอ่อน...” นัยน์ตาอ่อนแสงมองใบหน้าขาวใสแบบฉบับคนเหนือ  กล้ามเนื้อตึงแน่นพองาม  “ก็เพราะเจ้าน้อยบัวสวรรค์ หลานเจ้าย่าทั้งน่ารัก  นิสัยดีแบบนี้ไง...ท่านจะหวงก็ไม่แปลก...”

      …ของยิ่งมีค่า  ก็ยิ่งต้องทุ่มเทกว่าจะได้มา...

      นายเหมืองสิงห์มองคนที่เขานอนกอดอยู่อย่างมีความหมาย  หลังการแต่งงานครั้งแรกจบลงด้วยรอยน้ำตาแห่งความสูญเสียของทั้งเขาและลูกชาย  เขาก็ไม่คิดจะเปิดรับใครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอีก  สาเหตุแรกเลยเพราะลูกชาย...เพราะคงไม่มีใครจะรักลูกเขาได้มากเท่าที่เขารัก  สาเหตุที่สอง...เขาไม่เคยมีความคิดที่จะมองหาใครมาเป็นตัวแทนของภรรยาอีก  แม่ของลูกเขามีได้แค่คนเดียว...และจนตอนนี้ก็ยังคงมีแค่คนเดียว

      …บัวไม่ใช่แม่ของลูกเขา...บัวไม่ใช่ตัวแทนของภรรยา...
      
      ถ้าจะให้นิยาม...บัวเป็นแค่คนที่เขารักในตอนนี้  เป็นคนที่ลูกของเขารัก  และความดีของบัวก็ทำให้คนที่เหมืองรักบัวไปด้วยเหมือนกัน

      แล้วคนแบบนี้คิดว่ามันจะมีสักกี่คนกัน  แล้วเขาโชคดีแค่ไหนที่ตามหาจนเจอ...กับอุปสรรคแค่นี้  ถ้ายอมแพ้ก็ไม่ใช่นายเหมืองสิงห์  สุตนันท์ แห่งเหมืองสิงห์แล้ว

“นอนเถอะนะ...เป็นพี่เองที่อยากได้บัว  เป็นพี่เองที่ต้องการบัว...เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นหน้าที่ของพี่  ที่จะต้องทำทุกวิถีทาง..เพื่อให้ได้บัวมา” 

      ท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้น  เป็นบัวที่คิดทวนตามคำพูดนั้นแล้วเงยหน้ามองคนพูด...เพราะไม่ใช่แค่นายเหมืองคนเดียวหรอกนะ 

      ...ตัวเขาเอง...ก็รู้สึกได้ว่าต้องการอีกฝ่ายไม่แพ้กันหรอก...

“บัวไม่อยากให้เรื่องของเราซ้ำรอยกับพ่อแม่  บัวอยากอยู่กับนายเหมือง...แต่ก็ไม่อยากทำผิดกับคุณย่ามากไปกว่านี้...คุณพ่อเลือกที่จะทิ้งครอบครัวตัวเองเพื่อไปอยู่กับแม่มาหนหนึ่งแล้ว  บัวไม่อยากทิ้งคุณย่าไปอีกคน...เข้าใจบัวนะ”

“...”

      อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา  แต่อุณหภูมิและลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะใส่ผิวทำให้บัวรู้ดีว่าแม้จะไม่ตอบแต่นายเหมืองเข้าใจเขามากกว่าใครอยู่แล้ว

      …พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร  ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอนาคตเถอะ...



— — — — — — — — — — — — — — — — — — —



      เช้าวันนี้บัวตื่นตั้งแต่เช้ามืด  หนึ่งเพื่อมาส่งนายเหมืองให้กลับออกจากบ้านไปอย่างปลอดภัย  และสอง...เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดวันนี้มันทำให้เขานอนไม่หลับอีก

      บัวเดินไปปลุกน้าชายตัวน้อยที่ห้องนอน  ชื่อเล่นน่ารักที่คุณย่าใช้เรียกเจ้าตัวเล็กนี่คือ ‘ดอกปีบ’  เพราะเป็นความชอบส่วนตัวของคุณปู่และคุณย่าที่ชอบดอกไม้มาก  บรรดาลูกและหลานจึงมีแต่ชื่อดอกไม้  ตั้งแต่พ่อของบัว ที่ชื่อมีความหมายมงคลเป็นดอก ‘พู่จอมพล’ หรือที่ชาวเหนือมักเรียกว่า ‘สิงห์หงส์’  ตัวของบัวเองที่มีชื่อตรงตัวเป็นดอกไม้บูชาพระ  แล้วยังคุณน้าตัวน้อยที่คุณย่าให้ชื่อ ‘ดอกปีบ’  หรือชื่อจริงคือ ด.ช.กาสะลอง  ชื่อไทยเสียจนไม่เข้ากับหน้าตาลูกครึ่งของเจ้าตัวเอาเสียเลย...

      สองคนน้าหลานช่วยกันเตรียมของตักบาตรเช้า  พอประมาณหกโมงคุณย่าก็เดินนำช่อดอกไม้ที่ตัดจากข้างบ้านถือมาสมทบ  ครอบครัวเล็กๆกับคนงานอีกสองสามคนของบัวจึงได้ช่วยกันตักบาตรพระสงฆ์สามรูป  ซึ่งเดินบิณฑบาตผ่านหน้าคุ้มของคุณย่าทุกเช้าด้วยความสงบ
   
      หลังจากนั้นดอกปีบก็ชวนบัวลงไปดูคนงานตัดเก็บดอกไม้เตรียมส่งขาย  ดอกไม้หลักที่คุ้มคุณย่าปลูกคือดอกกล้วยไม้  มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกสรร  แถมยังมีการตั้งโรงเรือนเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเองอีกต่างหาก  ถัดมาก็เป็นพวกไม้ตัดดอกส่งขาย  อย่างดอกกุหลาบ  สะเก็ดดาว  บัททอน และสเตติส  พวกนี้ปลูกไว้สำหรับรับออเดอร์สั่งจัดดอกไม้ตามงานต่างๆ  ไฮเดรนเยียก็มีปลูกแต่ไม่ได้เยอะมาก  นอกจากนี้ยังมีพวกไม้ใบ  อย่างใบมอนสเตอร่าและเฟิร์นต่างๆด้วย

      บริเวณที่บัวชอบไปมากที่สุดตั้งแต่เด็กคือบริเวณฟาร์มกล้วยไม้  ที่นั่นจะมีมุมสงบๆอยู่มุมหนึ่งที่บัวเป็นคนขอพี่ๆเขาเอาเก้าอี้หวายกับโต๊ะไม้ไปวาง  เขาชอบหลบไปนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่บ่อยๆตอนเด็กๆ

      โต๊ะไม้ตัวนั้นยังเหมือนเดิม  แต่เก้าอี้หวายถูกเปลี่ยน  บัวเอานิ้วค่อยๆลูบไปตามรอยบากข้างโต๊ะ  มันเกิดจากการที่เขานิสัยเสีย  อ่านหนังสือแล้วชอบเอาดินสอไปกดกับโต๊ะ  รอยยิ้มผุดเบาบางบนริมฝีปากเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เขารับรู้ปัญหาของพวกผู้ใหญ่เพียงผิวเผิน  เขาจึงยังสามารถใช้ชีวิตตอนเด็กอยู่ที่คุ้มนี้ได้อย่างมีความสุข 

      ดอกปีบยืนเอียงคอมองคนเป็น ‘หลานชาย’ ที่ยืนยิ้มกับโต๊ะอย่างงงๆ  เด็กน้อยกระตุกมือคนที่จับจูงเขาเบาๆ  บัวก้มลงมองน้าชายตัวน้อยแล้วยิ้มให้พร้อมถาม

“…ครับ?”

“งั้น...ปีบไปตรงโน้นนะ”  น้าชายตัวน้อยบอกหลานตัวโตกว่า   ครูบัวตัวขาวพยักหน้าให้พร้อมกำชับว่าอย่าซนไปดึงไปเด็ดดอกไม้เล่นก่อนปล่อยมือ

      บัวทอดสายตามองกาสะลองดอกน้อยวิ่งหายไปทางฝั่งที่คนงานกำลังง่วนกับการแพ็คช่อดอกกล้วยไม้ลงกล่อง  ความคิดเหม่อลอยไปไกลถึงใครบางคนที่วางระเบิดทิ้งไว้ในก้อนความคิดของเขาเมื่อคืน 
   
‘…คิดอะไรของเขาอยู่นะ คนคนนั้น คิดจะจริงจังเรื่องของเขาถึงขนาดนี้เลยจริงๆน่ะหรือ’

   บัวคิดพลางมองจ้องไปที่ใจกลางเกสรดอกกล้วยไม้ดอกหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ  ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะลองใจหรือวัดใจอะไรกับผู้ชายคนนั้นในตอนนี้หรอกนะ  เขาเองก็เอาใจช่วยให้ชายหนุ่มผ่านด่านของคุณย่าได้ 

   …แม้ว่าตัวของบัวจะรู้ดี  ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลยก็ตาม...
   


— — — — — — — — — — — — — — — — — -

เดี๊ยวววว มาต่อจ้าาาาา  >_<  ขอโทษยาววววววไปค่ะ  หายหัวไปนานนนน :mew6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2016 10:03:41 โดย dek-zaal3 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด