ห้องน้ำบ้านคุณกิมอยู่ห่างจากห้องครัวพอประมาณ ผมเดินผ่านห้องรับแขกมาจนสุดทางเดิน เลี้ยวขวาก็จ้ะเอ๋กับพี่โปรดที่กำลังเดินมาทางนี้เช่นกัน ผมหลีกทางให้แต่ทว่าพี่โปรดไม่ยอมเดินผ่านไป ก่อนจะได้ถามอะไรผมก็ถูกตรึงไว้กับผนัง ริมฝีปากคู่สวยที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าและกลิ่นบุหรี่กำลังทาบทับอยู่บนริมฝีปากผม
“เดี๋ยวคนอื่นก็มาเห็นเข้าหรอกครับ” ผมกระซิบบอก แต่พี่โปรดไม่สนใจ เขาจูบเท่าที่ต้องการ แถมยังซุกไซ้ไปทั่ว มือก็สอดเข้าไปในเสื้อผมอย่างเอาแต่ใจ
“เมาแล้วเหรอ?” เสียงของผมสั่นเล็กน้อย เพราะทั้งมือทั้งปากที่ไม่ละไปไหนทำให้สติผมเริ่มเลือนหายไปทุกที
พี่โปรดไม่ตอบ แต่กลับถามผมว่า “คุยอะไรกับไอ้เขม หืมมม บอกพี่ซิครับ”
“แค่ทักทาย อ๊ะ ไม่เอา คนอยู่กันเต็มบ้าน”
“ไม่เห็นเป็นไร”
ผมถูกพี่โปรดลากเข้ามาในห้องน้ำที่พอเปิดประตูเข้ามาก็มีห้องอาบน้ำกับห้องส้วมแยกกันคนละห้อง พี่โปรดจับผมยัดเข้ามาในห้องอาบน้ำ เบียดตัวผมให้ชิดกับผนังห้อง พี่โปรดอมยิ้ม ตาเป็นประกายน่ามองแต่ดูอันตราย
“โปรดเอาแต่ใจอีกแล้วนะ” ผมว่าพลางปลดเข็มขัดให้พี่โปรดในเมื่อยังไงก็ขัดไม่ได้ ผมว่ารีบทำให้เสร็จๆ ไปเถอะครับ
“แต่ปลื้มก็ตามใจทุกทีไม่ใช่เหรอ หืมมม หรือไม่จริง” พี่โปรดยิ้มร้าย ซุกไซ้หน้ากับซอกคอผม มือก็ลูบไล้ไปทั่ว ผมบิดตัวเล็กน้อยเมื่อยอดอกถูกเล่นงาน ไม่กล้าส่งเสียงใดออกมาเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน ต่อให้มันจะอยู่ห่างจากห้องครัวและสนามหญ้าหน้าบ้านมากก็เถอะ
เราจูบกันตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เสียงของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดังลอดออกไป แต่เสียงเนื้อกระทบกันกลับดังแทนที่ พี่โปรดเหมือนไม่ได้สนใจว่าจะมีใครได้ยินเพราะใส่เต็มแม็กซ์ตั้งแต่ต้น แผ่นหลังผมที่ถึงจะมีมือของพี่โปรดกันไม่ให้กระแทกโดนผนังห้องก็ยังรู้สึกชาไปทุกขณะ เป็นท่าที่ไม่สบายแต่ก็รู้สึกดีสุดๆ
“อาาาาาา...ปลื้มมมมม” พี่โปรดที่ละจูบออกไปไม่กี่นาที ครางเสียงต่ำอยู่ข้างหูผม จังหวะที่เอวก็เพิ่มขึ้นจนผมไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้ พี่โปรดกระแทกหนักๆ อีกสองสามครั้งหายใจหอบถี่แล้วเปลี่ยนเป็นจังหวะเนิบนาบ ริมฝีปากก็ระดมจูบไปทั่วใบหน้าผมในขณะที่ผมกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางไว้แน่น แทบหยุดหายใจไปกับจังหวะเมื่อกี้ ในหัวมันโล่ง เรี่ยวแรงก็หายแทบประคองตัวยืนไม่อยู่พี่โปรดซี๊ดปากเบาๆ ริมฝีปากแดงเม้มเข้าหากัน อีกทั้งสายตาที่มองหน้าผมก็ทำให้ภูมิคุ้มกันความอายของผมบกพร่องไป
“มองทำไมครับ..บ” ผมตัดสินใจถาม ก่อนจะพบว่าเสียงเครือไปเล็กน้อยเพราะแรงกระแทกช่วงล่างที่กระหน่ำมาไม่หยุด
พี่โปรดอมยิ้มไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้ง ผมตอบรับสัมผัสจนหน้าหล่อเหลาของพี่โปรดบิดเพี้ยนไปด้วยแรงอารมณ์ เชิดหน้าครางในลำคอ ก่อนจะก้มมาจูบผมที่ตอนนี้คอแทบตั้งตรงไม่ได้
“โปรด..ด เบาๆ” ผมกระซิบบอกเมื่อริมฝีปากพี่โปรดเปลี่ยนเป้าหมายไปคลอเคลียที่ตำแหน่งอื่น พยายามทำให้เสียงไม่ขาดห้วงแต่ก็ทำได้ยาก อีกทั้งพี่โปรดก็ไม่เบาตามที่ผมบอกเลยสักนิด เสียงแหบพร่ากระซิบเรียกชื่อผมไม่ขาด ทั้งความแรงและความเร็วก็พุ่งขึ้นจนตอนนี้ผมคิดว่าผมคงใกล้บ้าเข้าไปทุกที ในที่สุดห้วงคิดผมก็ว่างเปล่า พี่โปรดกระตุกไปทั้งร่าง เสียงครางอย่างสุขสมก้องไปทั้งหู ผมซบหน้าลงกับไหล่พี่โปรดที่ยังไม่ยอมถอยทัพออกไป หน้าหล่อเหลาที่แดงก่ำเริ่มกลับสู่ปกติอีกครั้งก่อนริมฝีปากสวยจะคลี่ยิ้ม
“อยากได้ยินเสียงก็ไม่ยอมร้องเลยนะ” พี่โปรดเสียงพร่าเล็กน้อย ประคองตัวผมไว้แล้วนั่งลงบนขอบอ่าง ผมผวาเฮือกเพราะรู้สึกได้ว่ามันเข้าไปลึกกว่าที่ควรจะเป็น
“โปรด...เสร็จแล้วก็เอาออกไป อ๊ะ! อื้มมมม ปลื้มไม่ไหวแล้วนะ ไม่มีแรงแล้ว” ผมบอกไปตามจริง พี่โปรดหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลงลิ้นที่ติ่งหูผม งับเล่นจนพอใจ แล้วกระซิบว่า “งั้นก็อย่ารัดสิ เพราะพี่จะทรมานถ้าไม่ได้ขยับ”
“ก็แล้วจะเอามาแช่ค้างไว้ทำไม ปลื้มบอกให้เอาออกก็ไม่เชื่อ อื้ออออ ห้ามขยับสิ โปรดเสร็จตั้งสองรอบแล้วนะ ดื่มเหล้าแล้วเป็นอย่างนี้ทุกที”
“ก็ปลื้มน่าเอา...”
“ปลื้มผิดอีก -*-”
พี่โปรดก็ยังคงไม่ฟังคำทัดทานใดๆ จากผมอยู่ดี และครั้งนี้กว่าพี่ท่านจะถึงฝั่ง กระดูกสันหลังผมก็แทบจะใช้การไม่ได้ ต่อให้ฟ้าถล่มลงตรงหน้าก็ไม่มีอะไรมาขัดความต้องการของผู้ชายคนนี้ได้หรอกครับ ผมคิดว่างั้น -_-
จัดการล้างคราบนั่นคราบนี่ออกและใส่เสื้อผ้าของตัวเองกับพี่โปรดจนเรียบร้อย ผมก็ถูกพี่โปรดจูงมือออกมาจากห้องน้ำ บอกพี่นิ้งไว้ก็จริงว่าจะมาห้องน้ำแต่จุดประสงค์ผมจะมาเอาแอมโมเนียออกจากร่างกาย ไม่ใช่อย่างอื่น - - ไม่รู้ว่าผมหายมานานแค่ไหนแต่ที่ห้องครัวไม่มีใครอยู่เลย พี่โปรดเลยพาผมออกมาที่สนามหน้าบ้านซึ่งตอนนี้กำลังเอะอะเสียงดังกันอยู่ จะปัดมือที่กอดคออยู่ออกก็ไม่ทันซะแล้วเพราะพี่นิ้งกับพี่เทพหันมาเจอพอดี
“ปลื้มหายไปไหนมา บอกพี่จะไปเข้าห้องน้ำ แต่นานมากกกกก” พี่นิ้งถามยิ้มๆ ตาเป็นประกายเหมือนรู้ทัน
“อ่า...พอดีผมเข้าห้องน้ำเสร็จก็งีบหลับอยู่ที่ห้องรับแขกน่ะครับ” ผมไม่ถนัดพูดโกหกเลยรู้สึกว่าน้ำเสียงตัวเองมันฟังตลกสิ้นดี
จากนั้นก็ไม่ใช่แค่พี่นิ้งที่ถาม ผมโดนคนอื่นๆถามอีกหลายคำถามแต่พี่โปรดไม่โดนสักคำถามเดียว นั่งดื่มเหล้าสบายใจเฉิบอยู่กับพี่เทพเป็นที่เรียบร้อย -*- ทำไมโลกมนุษย์มันช่างลำเอียงนัก
หลังจากที่ไม่ได้คำตอบอะไรจากผมทุกคนก็หันไปสนใจกับของกินตรงหน้าต่อ ผมนั่งเงียบๆซบไหล่พี่โปรด อ้าปากรับอะไรก็ตามที่พี่โปรดเอามาป้อนให้โดยไม่สนใจเสียงหัวเราะคิกคักของพี่นิ้งเพราะตอนนี้ผมไม่ไหวจริงๆ ถ้าไม่เอนมาทางพี่โปรดผมอาจจะเอนไปทางคุณเปรมที่นั่งอยู่อีกข้าง แล้วนั่นล่ะที่มันจะเป็นเรื่องขึ้นมา
“ไม่สบายรึเปล่ามึง หน้าแดงเชียว” คุณติ๊กที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามถามขึ้น“อ่ะ กินนี่ซะหน่อยเผื่อดีขึ้น”
ผมมองแก้วเหล้าในมือคุณติ๊กก่อนจะรับมา “ผมแค่ง่วง แล้วถ้าไม่สบายจริงไอ้นี่คงทำผมทรุดล่ะครับ -*-”
“แหมๆ เดี๋ยวนี้มีผัวเป็นว่าที่หมอแล้วฉลาดขึ้นนะมึง”
“ไม่เกี่ยวว่าผัวผมเขาจะทำอาชีพอะไรนี่ครับ -_- ของอย่างนี้มันอยู่ที่รอยหยักที่คุณติ๊กไม่ค่อยมี”
คุณติ๊กปาถั่วลิสงมาทางผมทันที แต่เพราะผมซบไหล่พี่โปรดอยู่และประกอบกับแอลกอฮอล์ในเลือดของคุณติ๊กมีพอประมาณทำให้ถั่วพลาดไปโดนหน้าผากของสามีว่าที่คุณหมอของผม พี่โปรดที่กำลังคุยกับพี่เทพหยุดการสนทนาทันที
“มีปัญหาอะไรกับกูไอ้ติ๊ก”
ผมหัวเราะคุณติ๊กที่ส่ายหน้าเป็นพัลวัน ยกมือขึ้นแล้วแทบจะก้มกราบลงกับโต๊ะ “ขอโทษครับเสี่ย ผมกะเล็งให้โดนไอ้ปลื้มอ่ะ มันว่าผมก่อนนะ”
ผมแลบลิ้นให้คุณติ๊กก่อนจะคลอเคลียกับแขนของพี่โปรด “คุณติ๊กเริ่มก่อนอ่ะพี่ บอกว่าตั้งแต่ปลื้มมีผัวเป็นว่าที่หมอก็โง่ลงทุกวัน”
“ไอ้ปลื้มมม ไอ้มารยา เสี่ยอย่าไปเชื่อมัน” คุณติ๊กรีบพูดพร้อมกับปาถั่วใส่ผมอีกครั้ง
“พวกมึงนี่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ แล้วนี่ไอ้เจ้าภาพสองคนมันไปไหน” พี่โปรดพูดขึ้นมาผมเลยเพิ่งสังเกตเห็นว่าคุณกิมกับคุณเฟรนไม่อยู่ แถมไอ้เจ้ยยังนั่งหน้าเป็นอยู่บนตักของมิ้มอีกต่างหาก ไอ้หมูขี้หลีอยู่บนตักสาวแล้วนิ่งเชียวนะ -*-
“ไปเอาเค้กร้านพี่แขอ่ะเสี่ย อันเดิมถูกเท้าไอ้เจ้ยเหยียบจนเละ”
ผมมองไอ้เจ้ยแล้วอยากจะเขกมะเหงกให้มันสักที พี่โปรดพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะก้มหน้าลงมาถามผมว่า “อิ่มยัง? เอาไรอีกมั้ย?”
“เอาพี่”ผมตอบพลางยักคิ้วให้ พี่โปรดเลยดึงแก้มผมจนยืดติดมือ
“ปากดี เดี๋ยวได้กินจนสำลัก หึหึ”
ผมยืดตัวขึ้นกระซิบที่ข้างหูพี่โปรดว่า “เคยเห็นปลื้มสำลักเหรอครับ ถ้าเป็นของโปรดก็กินหมดอยู่แล้ว” ผมเน้นคำว่าของโปรดแล้วก็ใช้ลิ้นเลียใบหูพี่โปรดเบาๆ
พี่โปรดยิ้มเหี้ยม ก่อนจะกระซิบเสียงลอดไรฟัน “อย่าแกล้งให้มาก เดี๋ยวจบไม่สวยนะที่รัก”
ผมหัวเราะเสียงแห้ง ขยับห่างจากพี่โปรดเล็กน้อยแต่ก็ถูกแขนของเขาโอบรอบเอวไว้
“อะแฮ่ม! เสี่ยคร้าบบบบ เกรงใจพวกผมบ้างงงงอุ้ยยยย อ้ะ ตัวเอง เอาไรอีกมั้ยจ้ะ นี่จ่ะ ของโปรดของตัวเอง มามะเค้าป้อนให้ อ้ามมมมม” คุณติ๊กตะโกนข้ามโต๊ะมาพร้อมกับทำหน้ากระมิดกระเมี้ยนคุยคนเดียวเป็นวรรคเป็นเวร (ผมเคยบอกแล้วว่าเขาไม่ค่อยเต็ม) พี่นิ้งที่นั่งอยู่ข้างคุณติ๊กก็ตบไหล่พี่เทพแก้เขินเสียงดังพลั่กจนหน้าตี๋ๆ ของพี่เทพแทบจูบกับจานลูกชิ้น
“อิจฉาเหรอครับคุณติ๊ก ^^” ผมยิ้มถามหน้าซื่อ
“หน็อยยยยยยย ไอ้ปลื้มมมมม เกทับกูเหรอออออออ อีกสามวันรอดูหน้าแฟนกูได้เลย!!!”
ผมยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดดังๆ “หวังว่าคงจะไม่แอบฉุดไอ้เจ้ยนะครับ ^^”
“ไอ้สัดดดดดดดดดดปลื้มมมมม!!!”
ทุกคนหัวเราะคุณติ๊กที่กำลังหงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยง มีไอ้เจ้ยร้อง “อู้ดดดด” ปลอบใจอยู่ตัวเดียว ฮ่าๆๆๆ
“นี่ไม่ได้ตัวแม่มึงกะเล่นลูกเลยเหรอวะ หึหึหึ” คุณเปรมผสมโรงเข้าอีกคน คุณติ๊กได้แต่สบถเสียงดัง ขว้างถั่วใส่ผมกับคุณเปรมหลายเม็ด จนพลาดไปโดนพี่โปรดนั่นแหละถึงได้หยุดแล้วยกมือไหว้ท่วมหัว
ระหว่างนั่งรอเจ้าภาพ ไอ้เจ้ยก็ถูกเปลี่ยนจากตักของมิ้มมาอยู่ที่ตักของคุณติ๊กตามความเข้าใจของนางว่าคุณติ๊กรักชอบไอ้เจ้ยจากใจเลยอยากเปิดโอกาสให้ แต่ความจริงผมว่ามิ้มแค่เมื่อยขาอ่ะครับ ฮ่าๆๆ คุณติ๊กถึงจะบ่นนั่นบ่นนี่แต่มือก็ลูบหัวไอ้เจ้ยไม่ห่าง แถมยังบ่นเบาๆ แต่ดังไปทั่วโต๊ะอีกว่า “มึงไม่น่าเป็นตัวผู้เลยไอ้เจ้ย”
ผมกับคุณเปรมหันมาสบตากันอย่างห่วงสวัสดิภาพตูดไอ้เจ้ยอย่างเหลือแสน ก่อนคุณเปรมจะพูดอย่างปลอบใจตัวเองว่า “มันคงเมาน่ะ อีกอย่างไอ้เจ้ยมันก็ไม่สมยอมหรอก ไม่ต้องห่วง”
กว่าเจ้าภาพจะกลับมา พี่นิ้งกับพี่โขงก็ยกธงขาวยอมแพ้ไปแล้ว คุณติ๊กที่คุยกับไอ้เจ้ยเป็นวรรคเป็นเวรมาร่วมชั่วโมงก็เหมือนจะใกล้ลาไปอีกคน ส่วนคุณเปรมยังนั่งชนแก้วกับพี่เขมโดยมีมิ้มป้อนกับแกล้มให้ แต่ผมว่าพี่เขมไม่นานก็คงจอดแล้วเพราะขนาดคุณเปรมเรียกว่าที่พี่เขยยังไม่โวยวายสักคำ เหลือแค่สองคนที่ยังคงปกติดีทั้งๆ ที่ก็กินมากกว่าคนอื่นเขา พี่เทพที่เทพสมชื่อกำลังคุยสบายๆ กับพี่โปรดที่ถึงหน้าหล่อๆ จะขึ้นสีนิดๆ แต่ก็ยังคงพูดจารู้เรื่อง เมื่อเห็นสภาพของแต่ละคนแล้วคุณกิมจึงบอกว่าไว้เที่ยงคืนค่อยเป่าเค้กแล้วเดินตามคุณเฟรนที่พาไอ้เจ้ยไปนอนเข้าไปในบ้าน
“คบกันเมื่อไหร่วะ?” จู่ๆ คำถามของพี่เทพก็เรียกความสนใจจากผมที่กำลังฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ผมไม่ได้เมาแค่หมดแรงเพราะกิจกรรมเข้าจังหวะเลยง่วงมาก
“ใครจะมานั่งจำ” พี่โปรดตอบเสียงกลั้วหัวเราะ พี่เทพเลยเปลี่ยนคำถามเป็นว่า “นานรึยัง? ตอนที่พาไปกินเหล้าด้วยครั้งนั้น?”
“ตอนนั้นยัง แต่ก็คบมาสักพักใหญ่ ส่วนเรื่องได้ก็ได้นานแล้ว หึหึ” พี่เทพเขาไม่ได้ถามถึงเรื่องได้ไม่ได้สักหน่อย ไม่รู้จะบอกเขาทำไม -*-
“กูคงไม่ต้องถามหรอกใช่มั้ยว่ามึงจริงจังขนาดไหน”
ผมแสร้งหลับตาลงทันทีที่มือของพี่โปรดวางลงบนแก้มแล้วลูบเบาๆ
“จริงจัง? ไม่รู้ว่ะ ก็คบไปเรื่อยๆ”
“หึ ไอ้ปากแข็ง กูเป็นเพื่อนกับมึงมาตั้งแต่สมัยอนุบาล แค่อ้าปากกูก็เห็นไปถึงลำไส้ใหญ่มึงแล้ว คนแรกไม่ใช่เหรอที่มึงกล้าเรียกเต็มปากว่าแฟนน่ะ ถึงกูจะแปลกใจที่ไม่ใช่ผู้หญิงก็เถอะ ใครจะคิดว่าคนเจ้าชู้ตั้งแต่เอาสาวไม่เป็นอย่างมึงจะมาหยุดที่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ หน้าหวานๆ อย่างนี้วะ เห็นที่ร้านเหล้าตอนนั้นไม่ชัดเท่าไหร่เพราะนมบังหน้า แต่มาเห็นวันนี้กูก็เข้าใจละ น้องมันน่ารักจริงๆ ว่ะ ไม่ติดว่ากูมีแฟนก็อยากลองจีบเหมือนกัน”
“ต่อให้มึงไม่มีแฟน บุญวาสนามึงก็ไม่ถึง โชคดีแค่ไหนที่นิ้งยอมลงจากคานมาเป็นแฟนกับมึง”
“มึงเรียกมันว่าโชคดีเหรอวะ?” น้ำเสียงของพี่เทพทำให้ผมรีบกลั้นหัวเราะ “เออ คงงั้น ฮ่าฮ่า แม่กูบอกว่าผ่าน กูก็ว่าตามนั้น อีกปีก็จะจบแล้ว รีบแต่งไปเลยก็ดีเหมือนกัน แม่กูได้ฤกษ์ดีมาแล้วว่ะ แต่งๆ ไปแม่จะได้เลิกบ่น”
“มึงก็ปากแข็งไอ้สัด อยากแต่งงานกับเขาจนตัวสั่นแล้วยังมาอ้างแม่”
“ทำมารู้ดี แล้วมึงอ่ะ? จะคบๆ เลิกๆ อย่างที่ผ่านมาอีกมะ?”
“กูไม่รู้อนาคต แต่ยังไงมันก็หนีกูไปไหนไม่รอดหรอก”
“ไอ้ห่านี่ตอบไม่ตรงประเด็น แต่จากที่ฟังมึงก็ไม่คิดจะเลิกกับน้องนั่นแหละ พูดท่ามากอยู่ได้”
“เออ กูแม่งใกล้บ้าเข้าไปทุกที นี่ไม่กี่วันก่อนยังปากดีขู่จะเลิกกับกู คนแรกในชีวิตกูเลยไอ้สัดที่กล้าพูดอย่างนั้น ไม่เข้าใจความคิดมัน มีผัวทั้งหล่อทั้งดีขนาดนี้มันยังคิดจะไปไหนอีกวะ”
“อ๋อออออออออ งั้นกูก็รู้ละว่าวันนั้นมึงเป็นอะไร มาถึงก็เหวี่ยงใส่ แดกเหล้าอย่างกะอาบ ไอ้วีไอ้นิวนี่สะกิดตีนกูให้ถามมึงใหญ่ ที่แท้ก็เรื่องแค่เนี้ยยยยยย”
“เหอะ เรื่องแค่นี้เหรอวะ เล่นสงครามประสาทกับกูเกือบสิบวัน กูกอดทีก็ทำหน้าจะร้องไห้ กูแทบคลั่งตาย”
“แล้วพวกมึงทะเลาะอะไรกัน?”
“ไม่รู้ ถ้ากูรู้คงไม่ปล่อยให้มันโกรธกูตั้งหลายวันหรอก ตอนแรกก็คงหงุดหงิดเรื่องพี่ผึ้ง แต่หลังๆ มากูชักจะงง มันคิดอะไรอยู่กูไม่รู้ แถมแม่งชอบคิดเพ้อเจ้อไปไกล มันคงคิดว่าสิ่งมีชีวิตอย่างกูจะตรัสรู้ทุกเรื่องมั้ง พูดแล้วยังหงุดหงิดไม่หาย”
“กูก็แนะนำอะไรมึงไม่ได้ว่ะ เพราะกูก็บื้อเหมือนกันเวลาที่นิ้งมันโกรธ”
“พวกแม่งชอบงี่เง่า ตั้งแต่คบกับมันกูก็ไม่มีใคร ถ้ามันยังเป็นอย่างนี้ได้อกแตกตายเข้าสักวันเพราะยังมีผู้หญิงที่ตามตื้อกูอีกเป็นสิบ”
“มึงลองเอาหน้าไถกับพื้นสักชั่วโมงสิ เผื่ออะไรจะดีขึ้น”
“ลดความหล่อกูไม่ได้หรอกไอ้สัด คนอย่างกูหล่อที่ใจ”
“ถุยยยยยยยยย!” ผมเกือบจะถุยออกมาพร้อมพี่เทพ แต่ก็สำนึกได้ว่าตัวเองอยู่ในบทของคนที่หลับไปแล้ว พี่โปรดหัวเราะหึหึ มือก็ดึงผมผมเล่นอย่างคนมืออยู่ไม่สุข
“มึง...แล้วน้องมัน...เก่งมั้ยวะ”
“ที่กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นนี่มึงยังไม่รู้คำตอบอีกเหรอ?”
บทสนทนามันชักจะทะแม่งๆ เข้าไปทุกที พี่เทพหัวเราะแล้วพูดต่ออย่างกวนตีนว่า “ขอลองบ้างดิ”
“พ่องงงงง!” เป็นอันจบบทสนทนา
ผมเริ่มรู้สึกถึงแรงดึงที่แก้มทีละนิด จากนั้นก็เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น พร้อมๆ กับที่มีใครสักคนก้มลงมาจูบที่ปากผมแล้วผละออกไปอย่างรวดเร็ว ผมลืมตาอย่างไม่ต้องสร้างจังหวะให้สมจริงแต่อย่างใดเพราะตอนนี้แก้มที่ถูกดึงมันเจ็บจนอยากกัดนิ้วผู้ชายหน้าหล่อข้างๆ ที่บังอาจเหลือเกิน
“เจ็บบบบบบบบบบ พี่เป็นซาดิสม์รึไงเนี่ย หาาาาาาาาาาา!!”
“มากินเหล้า ใครใช้ให้มาหลับ”
ผมกำลังตั้งท่าจะโต้กลับไปเจ็บๆ แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของคุณกิม “อ้าว ไอ้ปลื้ม ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะมึง แก้มเป็นไรวะ แดงเชียว” คุณกิมถือกล่องเค้กเดินมาพร้อมกับคุณเฟรน ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับมาจากข้างนอกหรอกครับ กลับมานานแล้วแต่พาไอ้เจ้ยไปเข้านอนต่างหากถึงเพิ่งออกมากัน
“โดนหมากัด”
พี่โปรดดีดหน้าผากผมก่อนจะกระซิบเสียงดุ “ได้โดนท่าหมายันเช้าแน่”
ผมค้อนใส่พี่โปรดหนึ่งที ก่อนจะถามคุณเฟรนที่นั่งกินแตงโมอยู่ข้างคุณกิม “ถ้าไอ้เจ้ยหลับแล้วใครจะเป่าเทียนอ่ะครับ”
“กูไง” คุณเฟรนตอบพลางยิ้มกริ่ม ปากก็พ่นเมล็ดแตงโมใส่คุณกิม
“อ้าว แต่วันนี้เป็นวันของไอ้เจ้ย”
“มึงคงไม่คิดว่าหมูมันจะเป่าเทียนเป็นหรอกนะไอ้ปลื้ม”คุณเฟรนว่าพลางหลบมะเหงกจากคุณกิม แล้วหันมายิ้มให้ผมราวกับว่าผมเป็นเด็กสองขวบที่จินตนาการเพ้อเจ้อถึงหมูที่สามารถทำอะไรๆ ได้เหมือนคน
ไม่อยากได้รับรอยยิ้มนี้จากคนที่เลี้ยงไอ้เจ้ยประหนึ่งลูกในไส้เลยนะครับเนี่ย -*-
“ความจริงนอกจากจัดงานให้ลูกเจ้ยกูแล้ว พวกกูจัดเลี้ยงส่งตัวเองก่อนออกค่ายด้วย ค่ายที่ในกลุ่มเรามีแต่มึงคนเดียวที่ไม่ไปเพราะติดผัวนั่นแหละ ไม่ต้องมาย้อนกู ดีเหมือนกัน มึงจะได้อยู่ช่วยไอ้ติ๊กเลี้ยงลูกเจ้ยให้กู ไม่ค่อยไว้ใจมันเท่าไหร่ แต่เอาไปให้ไอ้ฟีนลูกกูคงเหลือแต่กระดูก ไอ้กิม ไปปักเทียนซิมึง ใกล้ได้เวลาละ”
ผมเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจ ผมไม่ได้ติดผัวอะไรอย่างที่คุณเฟรนว่าซะหน่อยนะครับ พี่โปรดไม่ให้ไปผมก็แค่ไม่อยากขัดใจเขาเท่านั้นเอง ครอบครัวสุขสันต์ดีที่สุดไม่ใช่เหรอครับ ทะเลาะกับพี่โปรดไม่ใช่เรื่องสนุกในชีวิตหรอกนะจะบอกให้ -*-
..................................................................To be continue.....................................................
หึหึหึหึ
เม้นเดียวไม่พอ พากันเวิ่นอีกแล้ว 
ใครไม่ชอบฉากแบบ... ข้ามได้นะคะ (นางมาบอกท้ายตอนนี่นะ? เพื่อ?
)
ทำไมมีแต่คิดล่ะคะว่าอีกสี่ตอนเสี่ยจะโดนเอาคืน

รักน้องปลื้มอ่ะะะะ รักน้องปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม รักมากเลยยยย เด็กเจ้ 
แต่เพราะเจ้รักหนูนะ ถึงอยากให้เจอแต่สิ่งดีๆ 
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ
ปล. ยังไม่หายไปง่ายๆ ค่ะ จนกว่าจะหมดสต๊อก // เฮ้ยยยย! 
กว่าจะได้แต่ละตอน...ต้องบิ้วอารมณ์นานมาก ยิ่งช่วงนี้มีเด็กซนๆ สิบสองคนมารบกวนอีก 
ก็ไม่รู้สินะ 
ด้วยรักและห่วงใย ดูแลตัวเองด้วยค่ะนักอ่านทุกคน อย่าป่วยนะคะ จะได้มาตามอ่านกันอีก 