http://www.youtube.com/v/1BdHDBc_hlIตอนที่ 18ครืดดดดด...ครืดดดดดดดดดดดดดด...ครืดดดดดดดดดดดดดดด
เบอร์ไม่คุ้นเลย ไม่อยากรับด้วย เผื่อพี่โปรดโทรมาแล้วขึ้นรอสายจะกลายเป็นเรื่องอีก แต่โทรเข้ามาเกือบห้าสิบสายแล้ว ใครกันนะ มีธุระอะไรกับผมรึเปล่า? (โหะ โทรมาขนาดนี้ยังจะสงสัยอีกเหรอว่าเขามีธุระไหม -_- - ความในใจจากคนเขียน)
“สวัสดีครับ ปลื้มพูดสายครับ”
“ทำอะไรอยู่วะ! ทำไมเพิ่งรับ!”
ผมแทบจะหงายหลังตกเตียงเมื่อเสียงตะคอกที่ดังลอดมาตามสายคือเสียงของพี่โปรด
“พะ..พี่”
“ก็เออสิวะ! โทรหาตั้งสามชาติแล้ว ทำไร อยู่ที่ไหน กับใคร ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย”
คำถามที่ถูกรัวมาเป็นชุดทำให้ผมมึนงงเล็กน้อย เอาจริงๆ ก็ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี นึกหน้าพี่โปรดออกเลยว่าตอนนี้คงหัวฟัดหัวเหวี่ยงแค่ไหน
“พี่โปรด ใจเย็นๆ ก่อน”
“ไม่เย็นแล้ว!”
“โธ่ ก็เห็นเบอร์แปลกๆ ใครจะกล้ารับอ่ะ ปลื้มรอโทรศัพท์พี่อยู่ด้วย เลยคิดว่าไม่รับดีกว่า”
คงเพราะเหตุผลของผมฟังขึ้น พี่โปรดเลยเงียบไป หรือไม่ก็คงกำลังชั่งน้ำหนักในใจอยู่ว่าควรเชื่อผมดีมั้ย
“จริงๆ นะพี่ แล้วนี่เอาเบอร์ใครโทรมา มือถือพี่ล่ะ”
“ตกสระบัว” พี่โปรดตอบกลับมาด้วยเสียงที่พยายามควบคุมให้เป็นปกติ “ตอนนี้ส่งซ่อม พี่เลยยืมมือถือไอ้ซอลโทรหา”
“ไปทำยังไงให้ตก แล้วที่ว่าส่งซ่อมนี่พี่ดำลงไปเอาเหรอ บ้ารึเปล่า”
ผมไม่รู้หรอกว่าสระบัวที่ว่านี่ลึกแค่ไหน แต่แค่รู้ว่าพี่โปรดทำอะไรบ้าๆ ผมก็เป็นห่วงเขามากๆ แล้ว เห็นแบบนี้ก็เถอะ บทจะบ้าก็บ้าแบบไม่ฟังใครเลยนะ
“มือลื่น”
“น้ำลึกรึเปล่าเนี่ย พี่ลงไปเอาทำไม ซื้อใหม่ก็ได้นี่”
“ซื้อใหม่ก็ไม่เหมือนเครื่องเดิม”
“จะเครื่องใหม่หรือเครื่องเก่ามันก็ใช้โทรเข้าโทรออกได้ไม่ใช่ไง ต่างกันตรงไหน”
“ก็ในเครื่องเก่ามีรูปปลื้มอยู่ มันถึงต่าง”
ผมถึงกับพูดไม่ออก เล่นเอาความโกรธที่เขาไม่ยอมโทรมาหาหายไปเลย ทำไมเป็นคนแบบนี้นะพี่โปรด -*-
“ขอโทษที่ไม่ได้โทรหา พี่เป็นหวัดอ่ะ เจ็บคอด้วย กลัวปลื้มเป็นห่วง เลยไม่อยากให้ได้ยินเสียง”
“พี่โปรดบ้า รีบๆ กลับมาเลยนะ ถ้าไม่รีบกลับปลื้มโกรธจริงๆ ด้วย” จะว่าผมเอาแต่ใจก็ได้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกผมคืออยากเจอ อยากเห็นหน้า เป็นหวัดหายรึยัง ไปค่ายใครจะดูแลพี่ ข้าวปลาได้กินดีไหม แล้วยาใครเป็นคนหามาให้ มียาก็ใช่ว่าพี่โปรดจะยอมกิน เขากินยายากอย่างกับเด็กๆ ผมกังวลไปหมดเพราะผมมั่นใจว่าไม่มีใครดูแลพี่โปรดได้ดีเท่าผมหรอก
“อยู่หน้าประตู มาเปิดประตูให้หน่อย”
“ห้ะ!! O_O!”
ผมรีบวิ่งออกจากห้องนอนตรงไปที่ประตูทันที ก่อนจะกระชากบานประตูให้เปิดออก แล้วก็เจอจริงๆ พี่โปรดที่มี mask ปิดตั้งแต่จมูกลงไปยืนพิงผนังข้างประตู มีพี่ซอลเพื่อนสนิทในคณะของพี่เขาทำหน้าเอือมๆ อยู่ข้างๆ
“เหี้ยโปรดมีเมียเด็กนี่หว่า หึหึ” พี่ซอลพูดพลางยิ้มมุมปาก ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าพี่โปรดมาให้ผม ก่อนจะโบกมือลาจากไปอย่างเท่ๆ
“กินยารึยังครับ ปวดหัวมั้ย ตัวร้อนอ่ะ ไปหาหมอดีมั้ยครับพี่”
“หึหึ ดูทำหน้าเข้า พี่ไม่เป็นไร” พี่โปรดดึง mask ออกแล้วส่งยิ้มให้ผม แต่ใบหน้าเรียบเนียนของเขาขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างที่บอกให้รู้ว่าอุณหภูมิร่างกายคงไม่ปกติ
“จะไม่เป็นไรได้ไง เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เดี๋ยวปลื้มไปเช็ดตัวให้”
จริงๆ เลย ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย
“ปลื้ม...”
“ครับ”
พี่โปรดเดินเข้ามากอดผมจากทางด้านหลัง ศีรษะพิงกับศีรษะผม ก่อนริมฝีปากของเขาจะจูบลงเบาๆ
“คิดถึง...”
ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่พี่บอกว่าคิดถึงผม มันทำให้ผมยิ้มกว้างๆ ออกมาได้อย่างที่ไม่คิดว่าเมื่อสามสี่วันก่อนจะทำได้แบบนี้
“เหงามากมั้ย...พี่ขอโทษ”
“อือ...ไม่เป็นไรครับ ปลื้มอยู่ได้”
พี่โปรดจูบที่ขมับผมอีกครั้งก่อนจะกระซิบเบาๆ ว่า “เด็กดี...”
“อะ..อือ -///-“
ผมไม่ชินเลยเวลาที่พี่โปรดทำตัวน่ารักแบบนี้... แต่ไม่ใช่ไม่ชอบนะ...ผมชอบมากเลยต่างหาก
“พี่โปรด...”
“ครับ?” ถ้าผมระเบิดตัวเองตอนนี้ ใครจะรับผิดชอบ ทำไมพี่โปรดน่ารักอย่างนี้นะ -///-
“ปลื้มก็คิดถึงพี่โปรด”
นิ้วเรียวยาวของพี่โปรดคลึงเบาๆ ลงบนริมฝีปากผม แววตาที่บอกว่าเขาอยากทำอะไรทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
“ไม่บอกก็รู้... ตรงนี้..” นิ้วชี้ของพี่โปรดลากผ่านริมฝีปากผม ไปยังแก้ม ลงไปถึงซอกคอ และลากกลับขึ้นมาเกลี่ยที่ริมฝีปากผมอีกครั้ง ในขณะที่ริมฝีปากของเขาก็พึมพำว่า “พี่ติดไว้ก่อนนะ...ไว้หายป่วยแล้วจะมาทวงคืน”
“บ้า -///-“
แค่เพราะรอยยิ้มของพี่โปรด ผมก็สามารถมีความสุขไปได้อีกหลายวัน สำหรับในโลกของผมแล้ว...ขอแค่มีพี่โปรด ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกต่อไป...ขอบคุณนะครับพี่ที่เลือกผม
.
.
.
ปีสองสำหรับผมเริ่มต้นขึ้นอย่างคึกครื้น ไม่ว่าผมจะอยู่ส่วนไหนของมหาลัยก็ได้ยินเสียงกลอง เสียงร้องตะโกน เสียงกรี๊ดดังระงม มองไปทางไหนก็เห็นท่าเต้นตลกๆ ที่พวกรุ่นพี่สรรหามาให้น้องๆ ปีหนึ่งเต้น เพลงทำนองสนุกเนื้อร้องทะลึ่งชวนคิดดังขึ้นทุกครั้งที่มีผู้กล้าอาสาออกมาโชว์ความสามารถหน้าแถว
ตอนนี้พวกผมกำลังนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนใกล้ลานกิจกรรม มองรุ่นน้องปีหนึ่งกำลังแนะนำตัวกันทีละคน
“อื้มมมม ปีนี้แจ่มๆ เยอะเลยนะคณะมึงเนี่ย” แค่อ้าปากก็เห็นไปถึงม้ามว่าคุณติ๊กคิดอะไร น้องผู้หญิงที่กำลังแนะนำตัวอยู่ตอนนี้คงถึงคราวเคราะห์แล้วล่ะครับ
“เออ ถือว่าดีกว่ารุ่นกู แค่อีไก่คนเดียวก็ทำเอากูลืมความงามบนโลกไปจนหมดสิ้น” คุณกิมพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนอีไก่ที่พูดถึงคือสาวทึนทึกที่มากด้วยความสามารถ ทั้งสมอง ฝีปากและพละกำลังไม่เป็นรองชายใดในใต้หล้า ไก่ถูกยัดเยียดให้เป็นประธานชั้นปีรับหน้ากับพวกรุ่นพี่และอาจารย์มาตั้งแต่เริ่มเทอมสองของปีหนึ่ง หลังจากที่คุณเปรมถูกปลดจากตำแหน่งเพราะโดดประชุมบ่อย
“แล้วที่มึงมาแด๊ะแด๋อยู่นี่ คณะมึงเขาไม่ทำกิจกรรมกันรึไง” คุณเฟรนถามพลางยัดสาคูไส้หมูเข้าปาก
“ทำ แต่กูบอกพวกไอ้โอไว้แล้วว่าจะมาส่องสาวคณะมึง” คุณติ๊กตอบหน้าระรื่น
“เออ เจริญ แล้วนั่นมึงทำอะไรไอ้เปรม นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เปลี่ยนเมียอีกแล้วสิมึง” เมื่อเห็นว่าคุณติ๊กไม่สะทกสะท้านอะไร คุณเฟรนเลยหันไปเล่นงานคุณเปรมที่นั่งเงียบอยู่ข้างผม หันไปมองก็กำลังก้มหน้าดูมือถือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างที่คุณเฟรนว่าจริงๆ
“จิ๊ มงเมียอะไร กูยังไม่ได้พี่เขา แต่คืนนี้ก็ไม่แน่ หึหึ”
“สันดานเสียเหมือนเพื่อนมึงนะไอ้สัด เพศแม่มึงไม่ใช่ของเล่น”
“อ้าว ไอ้เฟรน พาลกูไอ้ห่า”
“กูว่าไอ้กิม ร้อนตัวทำเหี้ยไรไอ้ติ๊ก”
“แล้วเกี่ยวไรกับกูวะเนี่ย”
ผมเลิกสนใจกับบทสนทนาที่ไร้สาระยิ่ง หันมาดูรุ่นน้องหน้าใสต่อ ปีหนึ่งทุกคนก็อย่างนี้หมดละครับ หน้าละอ่อนแผ่ออร่าน่าเอ็นดู แต่พอสั่งสมประสบการณ์กันมากเข้า อัพเลเวลขึ้นมาจากชั้น newbie แล้วจะค้นพบตัวตนของแต่ละคนทันที ดูอย่างคุณเฟรนที่หน้าใสๆ ไม่มีพิษมีภัย เหมือนคนเรียบร้อยมากถ้ามองแว๊บแรก แต่ความจริงแม่งปากจัดอยู่ในระดับอันตราย ใครอย่าได้แหย่ พ่อเล่นด่าจนบรรพบุรุษในหลุมยังต้องสะดุ้ง
“มึงนั่งมืดมนอะไรอยู่คนเดียวไอ้ปลื้ม วันนี้ทั้งวันกูยังไม่ได้ยินเสียงมึงเลยนะ”
ผมไม่พูด ผมก็ผิดเหรอครับ -_-
“ผมไม่พูดพร่ำเพรื่อครับ ผมจะพูดเฉพาะที่จำเป็น”
คุณเฟรนทำหน้างงใส่ ผมเลยได้จังหวะส่งยิ้มให้เด็กรุ่นน้องที่หน้าตาน่าเอ็นดูทีเดียว
“ไอ้ปลื้มมันว่ามึงพูดมากไงไอ้ควายยยย นั่งเงียบๆ บ้าง สรรหาเรื่องมาพูดซะจริง”
“กูรู้เว้ยยย แล้วมึงกล้าด่ากูว่าควายเหรอห้ะไอ้กิม สำนึกซะบ้างที่มึงได้ร้องครางทุกคืนนี่เพราะใคร เดี๋ยวเหอะมึง กูไล่ไปนอนกับไอ้เจ้ยเลยไอ้สัด”
ผัวเมียคู่นี้ตีกันประจำ ตั้งแต่กลับจากค่ายก็ดูจะรักกันมากขึ้น แต่เรื่องปะทะริมฝีปากกันนี่ไม่เคยลดลงเลย ถ้าวันไหนไม่เถียงกันนั่นแหละถึงจะรู้ว่ามีเรื่องเคืองใจกันอยู่ ดำเนินชีวิตแปลกๆ นะครับสองคนนี้ -_-
“อะแฮ่ม! มองเพลินเลยนะมึง” คุณติ๊กมองตามสายตาผมไปจบอยู่ที่น้องผู้หญิงตัวเล็กๆ ผมยาว หน้าตาอย่างกะตุ๊กตา น่ารักโคตรรรรร!
“ผมว่าน่ารักดีนะ” ผมอาจจะเตี้ยสำหรับเพศเดียวกัน แต่ถ้าเป็นน้องหน้าตุ๊กตาคนนั้น ผมสูงกว่าเธอแน่นอน น่ารักน่ามองมากกกกผิวก็ขาว ปากก็อิ่ม อื้อหือออ น่ากินไปทั้งตัว
“ไม่ดูเด็กไปเหรอวะ ต้องคนนี้ไอ้ปลื้ม แจ่มมวากกกกก จะนอกใจสามีทั้งทีต้องคนนี้เว้ย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”
“นมใหญ่ไป ไม่โดน”
“นั่นๆ คนนั้น สวรรค์แม่งสร้างมาเพื่อเป็นอาหารตาผู้ชายจริงๆ มึงดูๆ จะนั่งจะยืนที พลิ้วซะ”
“อ่า...สะโพกแน่นน่าดูเลยนะครับ แต่ผมว่าน้องตุ๊กตานั่นยังชนะขาดอยู่”
ผมกับคุณติ๊กยังคงชี้ชวนกันดูคนนั้นทีคนนี้ทีเพื่อฆ่าเวลา ยังไงกิจกรรมวันนี้ก็เป็นกิจกรรมเบาๆ อยู่แล้ว แค่แนะนำตัว ให้น้องๆ ได้รู้จักรุ่นพี่ และเพื่อนร่วมคณะ ร่วมภาควิชา แต่หลังจากนั้นพวกผมที่ตอนนี้อยู่ปีสองกันแล้วรู้ซึ้งดีว่าต้องเจอกับอะไร คุณเปรมที่เป็นหัวหน้าพี่วินัยก็เพิ่งออกไปพูดคุยสบายๆ กับน้องๆ ก่อนจะกลับมานั่งคุยไลน์คิกคักกับกิ๊กรุ่นพี่ต่อ
“ถ้าเสี่ยรู้มึงจบไม่สวยแน่ไอ้ปลื้ม”คุณกิมว่าเสียงกลั้วหัวเราะ
“ก็อย่าให้รู้สิครับ ผมแค่มอง ไม่ได้คิดอยากครอบครองซะหน่อย ^^”
“แค่มองก็ไม่ได้!”
เอื้อกกกกกกกกกกกกกกกก!
เสียงนี้มัน T_T
“นั่น ไอ้ปลื้ม คนนั้น แม่จ้าววว บุญตาแล้ววววว ขยับตัวทีเด้งท้าแรงโน้มถ่วงโลกเลยไอ้สัด มึงดะ...โอ้ววววววววววว เสด็จมาจากสวรรค์ชั้นใด กราบสวัสดีสามทีครับเสี่ยครับ” คุณติ๊กที่กำลังจะหันมาชักจูงผมไปในทางที่มิชอบชะงักกึก เบิกตากว้าง แล้วยกมือไหว้ท่วมหัว ส่วนผมยังไม่กล้าหันไปมองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ตอนนี้ โบราณท่านว่า คนแบบนี้ตายยาก พูดถึงปุ๊บ ปรากฎตัวปั๊บอย่างกะมีใครจุดธูปเรียก
มือหนึ่งจับแน่นที่ไหล่ผม ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างที่รู้แน่ว่าตัวเองงานเข้า “ไง ห่างตากูหน่อย เป็นแบบนี้เหรอมึง”
“ไหนบอกวันนี้เลิกเย็น” ผมสงสัยจริงๆ นะ ไม่ได้เบี่ยงประเด็น เมื่อเช้าก่อนออกจากห้องพี่โปรดบอกให้ผมขับรถมาเรียนเองเพราะพี่โปรดแกเลิกช้ากว่าและไม่อยากให้รอ
“กูโดดมา โทรหาเป็นร้อยสายแล้วมั้ง ไป กลับ ไปคุยกันที่ห้อง”
บอกได้เลยว่าตอนนี้ไม่มีใครเข้าหน้าพี่โปรดติดซักคน แม้กระทั่งคุณเปรมที่เป็นน้องชายแท้ๆ ยังไม่กล้าทักพี่โปรดเลยเอาเถอะ ยังไงผมก็เดินตามแรงลากของเขามาโดยไม่โวยวายอะไรอยู่แล้ว ไม่หวังจะได้รับความช่วยเหลือหรอก แล้วไอ้เรื่องที่โทรหานี่มันอะไรกัน วันทั้งวันนี่ผมยังตรวจจับการสั่นของไอโฟนไม่ได้เลยนะ เอ๊ะ! ถุงย่ามที่ทนทุกสภาพอากาศของผมเหมือนมีไรผิดปกติ ...อื้อหืออออออ แม่จ้าววววววว ชัดเลยไอ้สัด นี่มันขาดตั้งแต่ตอนไหนวะ!
“พี่ ย่ามขาด มือถือหายง่ะ T_T”
พี่โปรดหันมาทำหน้าเอือมระอาใส่ ดูไม่ได้โกรธอย่างที่ผมหรือใครๆ คิด “หายไปตอนไหนอีกล่ะ แน่ใจนะว่าเมื่อเช้าเอาใส่กระเป๋ามาด้วย”
เอาจริงๆ ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเอาใส่มาตอนนี้มันก็หายล่ะครับ เล่นขาดเป็นทางยาวขนาดนี้ “ไม่รู้ แต่พี่ดูรอยนี่ เหมือนโดนคัตเตอร์กรีดเลย สงสัยแฟนคลับพี่อีกแหงๆ”
“เออ เรื่องไรก็ช่างมัน กลับห้อง หิวข้าว อยากนอน”
“ตกลงจะหิว หรือจะนอน”
“พี่นอนก็กินได้น่า ขับรถให้ด้วย เหนื่อย”
“แล้วรถพี่ล่ะ จะปล่อยทิ้งไว้ที่มอรึไง”
“ให้ลุงสนมาเอา รีบไป เดี๋ยวพี่รหัสพี่มาตามอีกจะยุ่ง”
“ก็พี่จะโดดเรียนทำไมล่ะ ใช่เรื่องที่ไหนล่ะเนี่ย”
“ถ้าพี่ไม่ดอดมานี่จะรู้เหรอว่าพอห่างตาแล้วปลื้มเป็นยังไง เกือบจะสมสู่ทางสายตาอยู่แล้ว เปลี่ยวไง”
“หาเรื่องว่ะพี่ ไปๆ กลับ”
ผมขับรถพาท่านมาโปรดกลับคอนโดฯ แวะซื้อกับข้าวขึ้นมากินด้วย เพราะดูท่าทางแล้วให้ไปนั่งกินที่ร้านเจอกับคนเยอะๆ คงได้แยกเขี้ยวใส่คนรอบข้างแน่ พี่โปรดในช่วงนี้ผมเดาอารมณ์ไม่ถูก เราเจอกันสัปดาห์หนึ่งมากสุดก็แค่สองวัน แต่ก็ไม่ใช่สองวันเต็มๆ หรอกครับ แค่ช่วงที่เข้านอนกับตื่นเช้าอีกนิดหน่อย
“เป็นไร เหนื่อย?” ผมตักน่องไก่ใส่จานพี่โปรดที่ตอนนี้นั่งเขี่ยข้าวเล่น แล้วใครมันบอกว่าหิว - -
“เบื่อๆ เซ็งๆ”
“พยาบาลสวยไม่ถูกใจเหรอ พี่อาร์มบอกว่าตอนราวน์วอร์ดรอบเช้าพี่โดนพยาบาลจีบ”
พี่อาร์มเป็นเพื่อนสนิทร่วมคณะกับพี่โปรดครับ กลุ่มที่พี่โปรดสนิทด้วยนอกจากพวกเพื่อนจากโรงเรียนเก่าอย่างพวกพี่เทพแล้วก็มีพี่อาร์ม พี่โจ พี่กุ๊งกิ๊ง แล้วก็พี่ซอล เป็นกลุ่มที่ผมเห็นอยู่กับพี่โปรดตอนที่ผมเจอพี่โปรดครั้งแรกที่ร้านอาหารใต้ตึกคณะแพทยฯ นั่นแหละ แต่ผมเพิ่งรู้จักก็ตอนที่เริ่มเทอมแรกของปีสองแล้วพี่โปรดพาไปทานข้าวกับพวกพี่เขาด้วย แต่ละคนนิสัยดีครับ พี่กุ๊งกิ๊งแกเป็นผู้หญิงก็จริงแต่แกไม่สนใจผู้ชาย แกบอกผมให้สบายใจได้เลยเพราะถึงยังไงก็ไม่ตาต่ำมาชอบพี่โปรดแน่นอน ฮ่าๆๆ เพิ่งจะมีผู้หญิงที่พูดถึงพี่โปรดแบบนี้ล่ะครับ
“คุยกับมันตอนไหน” พี่โปรดขมวดคิ้วมองผมอย่างสงสัย
“เมื่อเช้า แชทเฟซ”
“เออ ก็เรื่องปกติ ผัวปลื้มหล่อ ไม่แปลก”
เออ ปกติมากกก ขนาดควงกันออกนอกหน้า ผู้หญิงพวกนั้นก็ยังเห็นผมเป็นหัวหลักหัวตอ แล้วเดี๋ยวนี้ผู้ชายก็มี พอรู้ว่าพี่โปรดมีแฟนเป็นผู้ชายเข้าหน่อยก็ให้ท่ากันใหญ่ น่ารักและดูดีกว่าผมก็เยอะ แต่ก็เถอะ ผู้ชายอย่างพี่โปรดผมต้องระแวงผู้หญิงมากกว่าผู้ชายล่ะครับ-_-
“หล่อเหี้ยๆ”
“ปากเก่งใหญ่แล้วมึง แล้ววันนี้ไม่มีเรียนไง ไปแรดเฝ้าเด็กปีหนึ่งอย่างกะคนไม่มีผัว”
“ก็มันกิจกรรมของคณะ ปีสองก็ไปกันเกือบทุกคน”
“แต่พี่ไม่เห็นใครจะแรดอย่างปลื้ม”
“เออๆ ปลื้มมันไม่ดีหรอก แล้วนี่โดดมาจะดีเหรอ”
“ไม่รู้”
“เฮ้อ พี่ ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ จะแย่เอานะ เคยบอกแล้วไงว่าไม่ให้เสียการเรียนเพราะปลื้ม” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกครับ เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้ว พี่กุ๊งกิ๊งกับพี่โจเคยกระซิบบอกผมว่าพี่โปรดโดดเรียนบ่อย อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกไปคุยสองครั้งแล้วด้วย
“ถ้าพี่ไม่มีเวลาให้ เดี๋ยวปลื้มก็ไปมีคนอื่น พี่เห็นมาเยอะแล้ว แฟนไอ้โจไอ้ซอลแต่ละคนที่เลิกไปก็อ้างว่าพวกมันไม่มีเวลาให้ อย่างนี้สักวันปลื้มก็ต้องมาขอเลิกกับพี่” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพี่โปรดกลัว ผมรู้ตลอดเวลาว่าพี่โปรดกลัวเรื่องนี้ เพียงแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่พี่โปรดพูดมันออกมา ดูจะเหนื่อยและเสียศูนย์จริงๆ
“พี่เครียดมากไปแล้วนะช่วงนี้ อิ่มยัง? เดี๋ยวอาบน้ำให้”
พี่โปรดพยักหน้า ผมเลยจัดการเก็บจานเก็บถ้วยไปไว้ในอ่างล้างจาน เดินเข้าไปเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อคลุมอาบน้ำมาให้พี่โปรดที่ตอนนี้แก้ผ้าท้าลมอยู่หน้าห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นเรียบร้อยห้องนี้ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่ผมกับพี่โปรดจะเลือกใช้ที่อยู่ในห้องนอน แต่วันนี้พี่ท่านบอกว่าแค่เดินก็ยังขี้เกียจ
“ปลื้มยังโดนแกล้งอีกป้ะ” พี่โปรดที่นอนหลับตาพริ้มแช่น้ำในอ่างถามขึ้น
“ก็เรื่อยๆ เดี๋ยวเบื่อก็เลิกไปเองล่ะมั้ง ช่วยไม่ได้ เจ้าชายมารักกับยาจกย่อมไม่มีใครเห็นด้วย” ผมใช้แปรงเล็กๆ ขัดนิ้วเท้าขาวๆ ให้พี่โปรด ก่อนจะลงมือตัดเล็บเท้าที่ยาวเล็กน้อย
“ไว้พี่จัดการเอง ไอ้ซอลกับไอ้อาร์มมันไปเตือนให้แล้ว แต่คงจะไม่ฟังกัน”
“ช่างเถอะพี่ แล้วรอยแดงนี่ไปโดนอะไรมา” ผมถามพลางจิ้มลงไปที่รอยแดงตรงหลังเท้า
“ไม่รู้” พี่โปรดลืมตาขึ้นมองหน้าผม รอยคล้ำใต้ตาที่ปรากฎเล็กน้อยทำให้ผมสงสารอยู่เหมือนกัน “ยังรักอยู่มั้ย”
ผมเลิกคิ้วกับคำถาม ก่อนจะก้มหน้าลงตัดเล็บเท้านิ้วสุดท้ายให้เสร็จ “ไม่รักจะทำให้ขนาดนี้เหรอ ปลื้มสิต้องถาม ว่าพี่โปรดรักปลื้มอยู่รึเปล่า ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย”
“ถ้าอยากฟังแล้วทำไมไม่ถาม”
“ก็รู้อยู่แล้วทำไมต้องให้ถาม”
“ยอกย้อน เดี๋ยวโดน”
.
.
.
มีต่อด้านล่าง