ตอนพิเศษ 6ปิดเทอมคือสวรรค์ ได้นอนอ่านการ์ตูนทั้งวันคือนิพพาน ~.~
แต่มีบางคนหมั่นไส้และแอบอิจฉาในความสุขสบายของผม เขาถึงได้หางานให้ผมทำ ตอนนี้ผมก็เลยต้องมานั่งกรอกน้ำใส่ตู้เย็นอยู่นี่ไงล่ะ แล้วเดี๋ยวก็ต้องซักผ้า ดูดฝุ่น ล้างห้องน้ำ ล้างจาน ทำความสะอาดห้องนอน เก็บข้าวของที่มันรกๆ ในห้องนั่งเล่นให้เป็นระเบียบ นี่ยังไม่รวมบลาๆๆๆๆ ที่คนขี้อิจฉาคนนั้นว่ามานะครับ
=_=; เป็นวันอาทิตย์ที่ไม่แจ่มใสเอาซะเลย
“เดี๋ยวพี่แม่บ้านก็ไม่มีอะไรทำหรอก ทำไมต้องแบกหน้าไปรับปลื้มที่บ้านตั้งแต่เช้าเพื่อให้มาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย”
ปิดเทอมพ่อก็ให้กลับไปอยู่บ้าน ผมก็ไม่ได้ขัดอะไร มีแต่พี่โปรดนั่นแหละที่โวยวาย เอาจริงๆ เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้หรอกเพราะยังไงถึงเขาจะให้ผมมาอยู่ด้วย เขาก็ไม่มีเวลาให้อยู่ดี แล้วผมก็ไม่อยากต้องมานอนเฝ้าห้องให้เขาด้วย ไว้เราว่างๆ ค่อยเจอกันคงดีกว่า
แต่วันนี้ผมไม่ได้ว่างสักนิดเลยนะ ยังมีการ์ตูนอีกเกือบยี่สิบเล่มที่ต้องอ่านให้จบก่อนไปค่าย ผมไม่ได้ไม่คิดถึงเขานะ แต่อารมณ์อยากอ่านการ์ตูนมีมากกว่า -O-;
“บ่นๆ ฝึกไว้ไง มาอยู่ด้วยกันจริงๆ จะได้ทำเป็น” พี่โปรดอมยิ้ม ทั้งเนื้อทั้งตัวใส่แค่กางเกงบอลตัวเดียว เห็นแล้วใจหวิวชอบกล แถมตอนนี้เขายังมานั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ อีก
“พี่ไม่คิดจะจ้างแม่บ้านเลยใช่มั้ย -*-”
“จ้างทำไมให้เปลือง มีเมียก็ใช้เมียดิวะ”
ไอ้...
ผมคิดแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา เลยได้แต่ก้มหน้ากรอกน้ำใส่ตู้เย็นไปตามเวรตามกรรม แถมน้ำที่พี่โปรดกินนี่ไม่ธรรมดานะครับ ต้องผ่านการกรองและต้มด้วยอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสแล้วเท่านั้น คือเรื่องมากโคตรๆ อ่ะ ปกติก็เห็นกินน้ำแร่ของร้านค้าได้นี่หว่า แล้วทำไมน้ำที่อยู่ในตู้เย็นห้องตัวเองถึงได้เรื่องเยอะขนาดนี้ก็ไม่รู้
กรอกน้ำใส่ตู้เย็นเสร็จ ผมก็ต้องหอบตะกร้าผ้ามาซักในห้องน้ำ พี่โปรดเขาก็ตามมานั่งอ่านหนังสือที่หน้าประตูด้วย
ถ้าพี่จะตามมาให้กำลังใจกันขนาดนี้ ทำไมไม่มาช่วยกันบ้างล่ะครับ -*-
ผ้าที่ซักก็ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เสื้อผ้าแบรนด์ไฮเอ็นของเขาจะส่งร้านซักโดยเฉพาะอยู่แล้วครับ ที่ผมซักก็แค่กางเกงในกับกางเกงบอลไม่กี่ตัว แถมบ็อกเซอร์อีกยกโหล =_=;
“ปกติใครซักให้พี่ครับ”
“พ่อบ้านสิ”
“นี่พี่ให้เขาทำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย =_=; ของของตัวเองทำไมไม่ซักเองล่ะครับ”
“แพ้ผงซักฟอก”
“โถ บอบบางจริงๆ ทั้งๆ ที่หน้าหนาขนาดนี้”
พี่โปรดยิ้มเหี้ยมกับคำพูดของผม ก่อนจะพูดด้วยหน้านิ่งๆ ว่า “เดี๋ยวน้องจะโดนดี”
หึ คิดว่าผมกลัวเหรอ!!
“พูดเล่นครับ แหะๆ”
กลัวสิครับ -O-; แรงตบของเขาคงเท่ากับแรงหมีตะบบที่หน้าเลยนะครับ โดนไปทีเดียวคงเดี้ยงอ่ะ
ผมยอมจำนนต่อหน้านิ่งๆ ของพี่โปรดแล้วตั้งอกตั้งใจขยี้กางเกงในต่อ ต้องซักดีๆ หน่อยครับ เพราะแม้แต่ราคากางเกงในของเขาก็ยังแพงกว่าราคาเสื้อที่ผมกำลังใส่อยู่มาก
อ่า...ถ้าพูดกันตามจริงผมมีปัญญาซื้อใส่ แต่มันไม่โอเคเลยเมื่อเห็นราคาที่ต้องจ่ายไป เห็นทีไรเป็นต้องเหงื่อตก ร้องโอดครวญกับตัวเองเบาๆ แล้วรีบวางของกลับที่เดิมทุกที แต่ถ้าวันไหนเห็นผมใส่รองเท้าของ Gucci เสื้อและกางเกงของ Chrome heart หรือกระเป๋าของ MCM ก็ไม่ต้องแปลกใจไปนะครับ ผมไม่ได้ซื้อเองหรอก เสี่ยซื้อให้ -_-;
อันที่จริงพี่โปรดเขาไม่ได้เว่อหรือติดแบรนด์หรอกนะครับ เขาบอกว่าเพราะมันดีและคุ้มกับราคาที่จ่ายไป อย่างเสื้อบางตัวเขาใส่มานาน ซักกี่ทีผ้าก็ไม่หด ถ้าต้องเทียบกับเสื้อที่เคยซื้อตามตลาดนัดแล้วมันคุ้มกว่ากันเยอะ ซึ่งตอนนี้เสื้อตัวแรกและตัวเดียวที่โนแบรนด์ของพี่โปรดได้กลายเป็นตำนานผ้าขี้ริ้วไปแล้วเรียบร้อย
“กางเกงในเลอะอะไรครับพี่” มันน่าอายนะ แต่ผมก็อยากถาม แค่สงสัยว่าคราบสีขาวๆ นี่มันคืออะไร
“ดมดูสิ”
“-*- ปลื้มไม่ใช่โรคจิตนะ”
“เอ้า เห็นทำหน้าซะเหมือนเลย”
“พี่โปรด!!”
“ฮ่าๆๆ”
ผมขว้างกางเกงในลงไปในกะละมังแรงๆ จนฟองผงซักฟอกกระเด็นมาโดนหน้า ก่อนจะยืนขึ้นใช้เท้าเหยียบซ้ำๆ ด้วยความหมั่นไส้เจ้าของมันเต็มพิกัด
“ดูๆ กางเกงในพี่ทำไรผิด”
“มันผิดเพราะเป็นของพี่ไง”
“อ๋อเหรอ ^^”
พี่โปรดทำตัวได้น่าถีบมาก บอกเลยว่าถ้าเขายังกวนตีนอีกผมจะไม่ทน!! จะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านจริงๆ ด้วย -*-
“ปลื้ม”
“....”
“ปลื้มครับ”
“....”
“งอนจริงๆ เหรอ”
“....”
“เดี๋ยวไม่รักนะ”
“-*-”
“เอ้า! หน้าบึ้งใหญ่เลย”
“-*-!”
“ถ้าเป็นเด็กดีพี่มีรางวัลให้ด้วยนะ”
รางวัลอะไรก็ไม่สนหรอก ผมไม่ใช่คนประเภทเอาอะไรมาล่อแล้วจะอารมณ์ดีง่ายๆ นะ
“เอ...เด็กที่ไหนบอกว่าอยากได้กล้อง? มีรึเปล่าครับแถวนี้”
หูววววววววววว!! O_O!! พี่โปรดจำได้ด้วยอ่ะ!!!
“มี!! \(' ')/”
“หึหึ”
“แต่...ก็ไม่ได้อยากได้เท่าไหร่หรอกนะครับ อืม...ไม่เลยดีกว่า ปลื้มใช้กล้องดิจิตอลของคุณเฟรนก็ได้” เห็นรอยยิ้มของพี่โปรดแล้วก็ต้องกลับลำ อยากได้ก็จริงนะแต่ไม่อยากเสียฟอร์ม -*-
“Nikon D4 พี่สั่งไว้ให้แล้ว...งั้นก็ต้องยกเลิกใช่ไหม”
อั่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! นั่น...นั่น... นั่นคือกล้องที่ผมดูไว้เลยนะครับ เป็นกล้อง DSLR ที่สปีดชัตเตอร์อยู่ที่ 10 fps แถมพิกเซลใช้งานจริงได้ถึง 16.2 ล้าน ตัว CPU ยังเป็น EXPEED 3 เรียกได้ว่ากล้องดิจิตอลกระจอกที่ผมเคยเก็บตังค์ซื้อเมื่อตอนปีหนึ่งเทอมสองนั้นง่อยไปเลย ...โอเคล่ะครับที่กล้อง compact มันเทียบ DSLR ไม่ได้ แต่ภาพของพี่โปรดทุกภาพจากกล้องตัวนั้นก็หล่อวิ้งอย่างกับมืออาชีพถ่ายเองเลยนะครับ ><
“ไม่...ไม่นะพี่ ปลื้มอยากได้”
พี่โปรดยิ้มกริ่ม กระดิกนิ้วเรียกผมที่รีบเดินเข้าไปหาโดยเร็ว ก่อนนิ้วเรียวยาวจะดีดเข้าที่หน้าผากผมหนึ่งที
“งั้นก็ทำตัวดีๆ ห้ามดื้อ พี่ว่าอะไรก็ห้ามเถียง โอเคมั้ยครับ”
“โอเคครับ ^^”
“ราคามันไม่ใช่ถูกๆ เพราะฉะนั้นพี่จะไม่ซื้อให้ฟรีๆ แต่ปลื้มต้องทำงานแลกด้วย ตั้งแต่พรุ่งนี้ มาอยู่กับพี่จนกว่าจะไปค่าย”
“ก็ได้ แต่พี่โปรดต้องไปขอพ่อเองนะ ปลื้มยังไงก็ได้อยู่แล้ว”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ถ้าตกลงกันได้แล้วก็กลับไปซักผ้า ยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ”
“-O-; อีกเยอะเลยเหรอ”
“หึหึ ไปได้แล้ว ไม่ต้องทำแก้มป่อง”
“ก็ได้ๆ แต่บางอย่างพี่ต้องช่วยปลื้มทำนะ ทำคนเดียวไม่ไหวหรอก”
พี่โปรดส่ายหน้ายิ้มๆ เขาผลักหัวผมเบาๆ ก่อนจะล็อคคอผมจากด้านหลังแล้วฝังจมูกลงมาที่ขมับ
“จริงๆ เลยเด็กคนนี้ อันไหนทำคนเดียวไม่ไหวก็ค่อยมาว่ากัน”
“เยสสส!! พี่โปรดใจดีจัง”
“^^ ก็แค่กับปลื้มเท่านั้นแหละ”
เหมือนโดนอัพเปอร์คัทเข้าเต็มๆ คาง เพราะเสียงทุ้มที่กระซิบประโยคน่าฟังเมื่อกี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัว
อ่า...อ่านการ์ตูนทั้งวันคงไม่ใช่นิพพานสำหรับผมต่อไปแล้วสินะ... พี่โปรดต่างหากคือนิพพาน ><
“เย็นนี้ทำกับข้าวด้วยนะ”
“ได้ครับ แล้วพี่โปรดอยากกินอะไรอ่ะ”
“แกงเขียวหวาน”
“กินกับขนมจีนดีมั้ย”
“ยังไงก็ได้”
ยิ้มหล่อปิดท้ายก่อนเขาจะหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ ผมก็เนรเทศตัวเองมาทำงานล่ะครับ ความจริงเขาไม่ต้องเอาอะไรมาตั้งเป็นรางวัลก็ได้ ผมน่ะเต็มใจทำให้อยู่แล้ว ที่บ่นที่ทำเหมือนไม่เต็มใจก็ทำฟอร์มไปอย่างนั้นเอง
กว่าผมจะทำอะไรๆ เสร็จก็ปาเข้าไปเกือบสี่โมงครึ่ง เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ แต่พอเห็นผลงานตัวเองแล้วก็แอบภูมิใจอยู่ลึกๆ สะอาดเอี่ยมไร้ที่ติ เยี่ยมครับเยี่ยม
“พี่โปรด ปลื้มไปตลาดก่อนนะ พี่จะเอากาแฟรึเปล่า จะได้ซื้อมาให้”
“ให้พี่ไปด้วยมั้ย”
“ไม่ต้องครับ พี่โปรดอ่านหนังสือไปเถอะ ปลื้มไปแถวๆ นี้ เดี๋ยวกลับ”
“ครับ งั้นก็ระวังรถนะ แวะซื้อกาแฟมาให้พี่ด้วย”
“รับทราบ”
หยิบตะกร้าหวายใบใหญ่ที่คราวก่อนเอาใส่เค้กกล้วยหอมมาให้พี่โปรดติดมือมาด้วย ซื้อของจะได้ไม่ต้องเปลืองถุงครับ ช่วยกันลดโลกร้อน
ตลาดสดในเวลานี้ไม่ค่อยมีคนครับ ผมก็เลยเลือกซื้อของได้ตามสบาย ไม่ต้องเดินเบียดกับใคร ซื้อของเตรียมทำแกงเขียวหวานเสร็จแล้วก็มาเดินหาซื้อขนมจีน ได้มาหนึ่งตะกร้าใหญ่ กินกันสองคนคงจะพอ ก่อนกลับห้องก็แวะซื้อกาแฟให้พี่โปรด ไม่ลืมซื้อเค้กติดมือมาด้วย เพราะร้านที่คอนโดพี่โปรดเขาทำอร่อยครับ ผมชอบกิน
กลับห้องมาก็เห็นพี่โปรดกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ผมเลยเดินเอาของมาเก็บที่เคาท์เตอร์ในส่วนของห้องครัว จัดแจงแยกของสดใส่ตู้เย็น เพราะอีกหลายชั่วโมงกว่าที่จะเริ่มทำ ไม่ใส่ไว้เดี๋ยวเสียหมดครับ
“ปลื้ม เมื่อกี้เพื่อนโทรมา” พี่โปรดเดินมานั่งที่โต๊ะทานข้าว วางไอโฟนลงแล้วท้าวคางมองมาทางผม
“ใครครับ”
“ปาล์ม”
“อ๋อ” ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะยื่นกาแฟไปให้พี่โปรด “ปลื้มซื้อเค้กมาด้วยนะ พี่จะกินเลยมั้ย”
“ยังก่อน”
“ครับ งั้นเดี๋ยวปลื้มโทรหาคุณปาล์ม...” ผมกำลังยื่นมือไปหยิบไอโฟนตรงหน้าพี่โปรด แต่ก็ถูกเขาจับมือไว้
“ทำไมต้องคุยกันทุกวัน” เขาขมวดคิ้ว ดูก็รู้แล้วว่าไม่ชอบใจเอาซะเลย
“ก็...” ผมกำลังจะบอกเหตุผล แต่แค่มองหน้าพี่โปรดก็เล่นเอาพูดไม่ออก ไม่ใช่แค่คุณปาล์มหรอกที่เป็นเพื่อนคุย คุณเฟรนผมก็คุยกับเขาตลอด แต่เพราะเราเจอกันบ้างเลยไม่ต้องโทรหากัน
ปิดเทอมให้อยู่เฉยๆ ผมก็เบื่อนะ ผมอยากไปพะเยา ไปเยี่ยมป้าเนียมกับลุงชิด แต่พี่โปรดก็บอกให้รอก่อน ให้รอทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะว่างเมื่อไหร่ ผมเข้าใจพี่โปรด แต่คนที่อยู่ว่างๆ อย่างผมก็เหงาเป็นเหมือนกัน
“ปลื้มแค่คุยกับเพื่อน”
พี่โปรดยังคงขมวดคิ้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้หรอกว่าคุณปาล์มเป็นใคร หน้าของคุณปาล์มพี่โปรดก็เคยเห็นจากรูปที่ผมให้ดู แต่พี่โปรดก็ยังคงเป็นพี่โปรด ถ้าเขาตั้งคำถามขึ้นมาแล้ว แสดงว่าผมคงกำลังล้ำเส้นที่เขาขีดไว้
“พี่ไม่ว่านะถ้าคุยกัน แต่ไม่เข้าใจทำไมต้องทุกวัน เป็นชั่วโมงสองชั่วโมง มันควรแล้วเหรอ พี่โทรหาบางทีก็ต้องรอสาย ตั้งแต่ปิดเทอมมาก็เป็นอย่างนี้ตลอด จะไม่ให้พี่ถามได้ยังไง”
“คุณปาล์มเป็นเพื่อน ไม่มีอะไรเลยนะพี่”
“พี่รู้ว่าไม่มีอะไร แต่ถ้าต้องเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่ปลื้มก็ปาล์มนั่นแหละที่จะชอบกันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว”
“.....”
“เอาไปคิดทบทวนให้ดี ว่าที่ปลื้มทำอยู่ มันดีสำหรับเราหรือเปล่า”
พี่โปรดพูดจบก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขาพร้อมกับกาแฟที่ผมซื้อมาให้ ส่วนผม...ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าระหว่างผมกับคุณปาล์มไม่ได้มีอะไร แค่คุยกัน เล่าชีวิตประจำวันให้ฟังเหมือนเพื่อนทั่วๆ ไปแค่นั้น แต่ก็ยังอดรู้สึกผิดไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของพี่โปรด
ผมหยิบไอโฟน เดินเลี่ยงออกมาที่ระเบียงก่อนจะกดโทรหาคุณปาล์ม
(ฮัลโหล ปลื้ม กลับมาแล้วเหรอ เร็วจัง เมื่อกี้แฟนปลื้มยังบอกผมว่าปลื้มไปตลาด)
“ครับ เพิ่งกลับมาครับ”
(เสียงหงอยๆ แฮะ เป็นอะไร ทะเลาะกับพี่มาโปรดเหรอ)
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ”
(เขาหึงปลื้มกับผมล่ะสิ เมื่อกี้ตอนคุยกับเขา เขาถามผมด้วยนะว่าผมชอบปลื้มรึเปล่า)
“อ่า...อย่างนั้นเหรอครับ คุณปาล์มอย่าไปถือสาพี่โปรดเลยนะ แล้วก็ไว้ยังไงผมกลับจากค่ายแล้ว จะโทรบอกคุณปาล์มอีกทีนะครับ ที่ติดไว้ว่าจะพาเที่ยวอ่ะ ยังไม่ได้ไปกันเลย”
(โอเคๆ งั้นผมวางก่อนนะ ปลื้มอยู่กับแฟน คงหายเหงาแล้ว อิอิ)
“อย่าแซวผมสิครับ ผมไม่ได้เหงาอะไรขนาดนั้นหรอก แค่ว่างๆ ก็อยากมีเพื่อนคุยด้วยบ้าง ปิดเทอมมันก็น่าเบื่อเป็นธรรมดา ยังไงผมวางก่อนนะครับ ฝากไปเยี่ยมป้าเนียมให้ผมด้วย”
(โอเค แล้วเจอกันนะปลื้ม)
“ครับ”
ผมวางสายจากคุณปาล์มแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้กลับเข้าข้างใน ยังคงยืนมองท้องฟ้าสีสวยอยู่อย่างนี้ นึกถึงตอนที่อยู่พะเยาที่ได้ยืนมองท้องฟ้าอยู่ข้างๆ พี่เท็น ระบายความในใจให้เขาฟัง แล้วก็ได้รับคำตอบที่ทั้งตรงและแทงใจมาจากเขา แต่ตอนนี้ ผมยืนอยู่เพียงลำพัง กำลังหาคำตอบให้กับตัวเอง และทบทวนในสิ่งที่พี่โปรดพูดทิ้งท้ายไว้
เฮ้อ...ความรักว่าเข้าใจยากแล้ว แต่คนรักน่ะ...เข้าใจยากมากยิ่งกว่า เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้คิดอะไร ผมถึงสบายใจและไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องขึ้นมา แต่เพราะเขาไม่รู้ในสิ่งที่ผมคิดนั่นแหละ เขาถึงได้คิดมากแบบนั้น
“ปลื้ม...” เสียงของพี่โปรดดังมาจากข้างหลัง แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมอง
“โกรธพี่เหรอ”
ผมถูกสวมกอดจากข้างหลัง พี่โปรดวางคางไว้บนหัวผม คำถามของเขาทำให้ผมต้องลูบแขนที่กอดผมไว้เบาๆ
“เปล่าครับ”
“แน่ใจ”
ผมพยักหน้า ก่อนจะคลายแขนพี่โปรดออกแล้วหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขา เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นแต่ความกังวลใจบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ผมเลยยกมือขึ้นลูบที่แก้มเขาเบาๆ
“ปลื้มไม่ได้โกรธ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พี่ไม่สบายใจ”
“อืม”
“พี่โปรดไม่ชอบคุณปาล์มเหรอ”
“เปล่า แต่พี่ไม่รู้จักเหมือนที่รู้จักไอ้เฟรน ไม่รู้ว่านิสัยใจคอเป็นยังไง เลยไม่รู้ว่าเพื่อนที่ปลื้มพูดถึงจะจริงใจแค่ไหน”
“คุณปาล์มเขาดีกับปลื้มมากเลยตอนปลื้มอยู่พะเยา เขาชอบพี่เท็นนะ ปลื้มยังไม่บอกพี่โปรดเหรอ”
“ยัง =_= แต่คนที่ชอบไอ้เท็นลงก็ไม่ใช่คนที่น่าไว้ใจ”
“พี่โปรดรวมพี่เมลด้วยใช่มั้ย”
“ไอ้เมลข้อยกเว้น”
“ฮ่าๆๆ ลำเอียงอ่ะ”
“แน่นอน ก็ญาติปลื้ม”
“ชัดเจนดีจริงๆ ว่าแต่พี่โปรดได้ข่าวพี่เท็นบ้างป่ะ”
“ไม่เลย =_=; ของที่สั่งพี่ไว้อีกชิ้นก็ยังไม่กลับมาเอา”
“อะไรเหรอครับ”
“ไม่บอก”
“พี่โปรดดดดดดดด”
“หึหึ กลับเข้าข้างในเถอะ ร้อน”
ผมหยิกแขนพี่โปรดแรงๆ ก่อนจะหนีเข้าข้างในห้อง พี่โปรดไม่โวยวายอะไรหรอกครับ เขาถึกมาก แรงหยิกแค่นั้นไม่สะเทือนผิวกายแน่ๆ
ตอนหกโมงกว่าๆ ผมก็เริ่มลงมือทำแกงเขียวหวาน ปล่อยให้พี่โปรดอ่านหนังสือของเขาต่อไป เย็นวันนั้นเราเลยได้กินขนมจีนกับแกงเขียวหวานด้วยกันอย่างไม่เสียความตั้งใจที่คิดกันไว้ แถมยังเป็นแกงเขียวหวานที่หวานกว่าปกติด้วยนะ อิ่มท้อง อิ่มใจมากเลย
เพราะผมน่ะชอบ...ตอนที่พี่โปรดยิ้มและมีความสุขมากที่สุดแล้ว ^^
..........................................End Special........................................................
หายไปนาน ยังจะมีใครจำพี่โปรดได้มั้ยคะเนี่ยยยยยยยยยยยย ^_____________^
ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ทุกคนที่เข้ามาทำความรู้จักกับผู้ชายที่ชื่อ 'มาโปรด' นะคะ มีความคิดเห็นยาวๆ ที่อ่านแล้วคนเขียนปลื้มอกปลื้มใจ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ
ดูแลตัวเองด้วยนะคะทุกคน
