♠ Special happiness 13(End) Happy family♠ [up 25/12/14]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♠ Special happiness 13(End) Happy family♠ [up 25/12/14]  (อ่าน 365488 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
แอร๊ยย มาตามด้วย พี่ธันแกน่ารัก ขี้อ้อนดี :o8:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เงียบๆอย่างเตย   :z2:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
มุ้งมิ้งดีตอนนี้ พี่ธันรอน้องปอต่อไปน้าา อดทนไว้ๆ  o13

เตยดูน่ากลัวจริงๆ

รอตอนต่อไปนะคะ หายป่วยเร็วๆน้าาา :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
โอ๊ยย ลำบากขั้นสุดค่ะ จะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้
เขินเหลือเกิน อ่านนิยายตอนมากส์หน้านี่ลำบากขั้นสุด อมยิ้มจนปวดแก้ม
แนะนำว่าห้ามอ่านนิยายพี่บิวเวลานี้เลย  :hao7: :hao7: :hao7:
เขินค่ะ คำเดียว
นังเตยหลบไป ชะนีห้ามเกี่ยว

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
สำหรับคนที่เป็นกลุ่มเพื่อนกันนะ ผู้ชายน่ารักแบบหมอปอนี่แหล่ะ

ที่เพื่อนหญิงแอบรัก มากที่สุด

คู่แข่งพี่ธันโผล่ออกมาแล้ว เห็นด้วยกับหมอนะ ค่อยไปค่อยไป มั่นคงที่สุด

Catnip

  • บุคคลทั่วไป
อยากบอกว่าเข้าใจชีวิตหมอปอมาก
นอกจากจะเรียนคณะเดียวกันแล้วยังปีเดียวกันอีก 5555
เรียนขี่ม้าสนุกมากค่ะ คนเขียนนี่แหล่งข้อมูลแน่นจริง ๆ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เมื่อไหร่ปอจะใจอ่อนน้า

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มาติดตามหมอปออีกเรื่อง
เราติดฟิคคุณ west ทุกเรื่องเลยจริงๆ
หมอปอน่าร๊ากกก พี่ธันหื่นมว๊ากกกก
ตอนในเรื่อง adore you ตอนที่พี่ธันหึงบุกไปคอนโดอิน พี่หมอปอไปเยี่ยม
ตอนนั่นเป็นแฟนกันรึยังน๊าาาา
แต่ เตยจะจีบปอใช่ม๊ายยย
อย่ามาร้ายน่ะเตย พี่ธันจะไม่ทนฮ่าๆๆๆ
เราก็อยากรู้น่ะ ถ้ามีคนมาจีบหมอปอ หมอปอจะทำไง
แล้วถ้าพี่ธันเจ็บหมอปอจะทนได้มั้ย
บางทีอาจจะเป็นสิ่งพิสูจน์ก็ได้ว่าหมอปอจะทำไงต่อไป
อัพๆต่อน้าาา

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เชียร์พี่ธันนะ แต่ให้เวลาน้องหน่อยละกันนะพี่ธัน

ไหนๆก็รอมาได้ตั้งขนาดนี้ละ น้องไม่หลุดมือไปไหนหรอกน่าาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
พี่ธันแกไต่ระกับความหื่นขึ้นทุกตอน
นี่ชอบมากบอกเลย 5555555555


ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
สารภาพว่าลืมแฟนเก่าหมอปอไปแล้วนะนี่ 5555555555
แต่เตยจะเข้ามามีบทบาทแทนเร๊อะ? แอร๊ยยยยยยยย
มาให้ไว้เลย เลาอยากให้คนแก่หึง พี่ธันต้องดิ้นตายแน่เลยย กิ้วๆๆ

 :laugh: :laugh: :laugh:

ตอนนี้น่ารักอบอุ่นมุ้งมิ้งมาก
อยากไปแทรกตรงกลาง กอดหมอปอ กอดพี่ธัน กอดนุ้งหมา
แต่แอบสงสารพี่ธันเบาๆ ถถถถถถถถถถ ทำได้แค่ตอดนิดตอดหน่อย
รู้สึกว่าช่วงหลังมานี้จะกามขึ้นด้วยนะคะ กร้ากกกกกกกกก

ออฟไลน์ evz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
มีหญิงสาวคนใหม่มาเพิ่ม แถมนางยังดูจะมีใจให้หมอปอกลายๆ
แต่ก็นะ หมอปอให้ใจพี่ธันไปบ้างละ สงสัยเตยจะเก้อนะครัชชช :z2:
แต่ก็อยากรู้ว่านางจะมามีบทบาทอย่างไรต่อไป
รอติดตามนะคะ ขอให้คนเขียนหายดีไวๆด้วยนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ M_April

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สงสารพี่ธันเบาๆ เอาใจช่วยน๊า

เมื่อไหร่หมอจะใจอ่อน  :mew2:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พระเอกคุณเวสต์เป็นฝ่ายรอเกือบทุกเรื่องเลยค่า
แซว555555555555555555
ที่มันท้อไม่ใช่ต้องรอถึงเมื่อไหร่เนอะพี่ธันเนอะ
รอบตัวปอก็ไม่ใช่เล่นๆอ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
สองคนนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะรู้จักกันมานาน ไม่ใช่พวก love at first sight
แต่เห็นท่าว่าพี่ธันจะมีคู่แข่งหัวใจด้วยล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2014 00:06:45 โดย malula »

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เหมือนนังเตยจะมีส่วนร่วมในตอนถัดๆไป

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สู้ๆ ทั้ง 2 คนเลยนะ!!

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
หมอปอก็มีใจให้พี่ธันอยู่แล้วละ ถ้าไม่มีเลยใครจะยอมให้จูบให้ลูบ ให้ล้วง อย่างนั้นเล่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเนอะ ไหนพี่ธันก็เลี้ยงต้อยมานานแล้วนิ อดทนอีกสักหน่อย คริ คริ ^^

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
พี่ธันต้องสกัดก้างอย่างนุ้งเตยด้วยนะคะ

 :katai5:

ชอบอารมณ์ตาเฒ่าหวังเคลมเด็กอย่างพี่ธันจุง~

 :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
จูบอีกแล้ว กอดอีกแล้ว เมื่อไหร่จะรุกเสียที พี่ธัน

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
บุรุษพยาบาล

แซ่บปะ?

555555

ออฟไลน์ mpp

  • malynn
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อะฮึาย คุณเตยหย่อนเบ็ดเหรอคะ
ไม่ได้ผลหรอกหน่า เบ็ดที่คุณหย่อนไว้น่ะ
โดนปลายักษ์พี่ธันคาบไปถุยทิ้งที่อื่นแล้วข่ะ!

เค้าจีบของเค้ามาตั้งนาน พี่ธันไม่ปล่อยให้คุณหมอคนน่าย้ากกกหลุดมือไปแน่ๆ
แอร้ยยยยยยยย น้องหมอปอใจอ่อนเย็วๆน้า >0<

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
พี่ธันเซ็งไปเลย แต่บอกว่าจะรอนี่นะ หมอก็อย่าไปหวั่นไหวกับใครเข้าละกัน โดยเฉพาะเพื่อนสนิทดูท่าจะคิดไม่ซื่อ ไม่อยากกินมาม่า  :mew5:

ออฟไลน์ Shadownights

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ธันอดทนมาตั้งนาน มาเจอน้องสารภาพแบบนี้จะอดใจไม่ไหวเอาง่ายๆนะ

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
จริงๆ ก็เริ่มจะเบื่อปอแล้วเหมือนกันนะ
ทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้ง นั่นล่ะ กันไปตั้งขนาดนั้น
ยังจะไม่แน่ใจความรู้สึกตัวเองอีก
ถ้าคิดว่าจะเป็นแค่พี่น้อง หรือไม่มีทางชอบพี่ธันมากไปกว่านี้
แล้วยอมทำไม ที่ผ่านมาก็เหมือนคนมีใจ
พอจะคบกันจริงๆ ก็กลัวโน่นกลัวนี่
มันน่าจะเลิกกลัวตั้งแต่จูบกันหรือช่วยกันแล้วมั้ง

ความรู้สึกนะ ปอเยอะเกิน เยอะไปก็ดูน่ารำคาญนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2014 12:41:12 โดย Aoya »

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
น่ารักอ่ะ ขนาดป่วยยังมาอัพ ขอบคุณนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
เข้าใจหมอปอนะะะะะะะ

คือถ้าก้าวผ่านจุดนี้ไปแล้ว มันอาจจะย้อนกลับมาเป็นพี่ชายน้องชายไม่ได้อีกแล้ว

สถานะตอนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก ไม่ใช่เจ้าเข้าเจ้าของกันร้อยเปอร์เซนต์

แต่ก็เข้าใจพี่ธันแหละ คือตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นคนรักกันเต็มที่ จะมาวางใจไม่ได้อยู่ดี
จะออกตัวอะไรก็ทำได้ไม่เต็มที่อีกนั่นแหละ

รอให้หมอปอพร้อมละกันเนอะ รอมาขนาดนี้แล้ว อิอิ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
♠ Special happiness 08 ปลาหนีน้ำ ♠ [up 29/07/14]
«ตอบ #298 เมื่อ29-07-2014 00:26:19 »

08 ปลาหนีน้ำ


ต้นตำรับการรับน้องเดิมมาจากประเทศอังกฤษ เป็นที่นิยมในยุโรปแต่พักหลัง ๆ มีไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ยังคงประเพณีนี้อยู่ สำหรับตัวผมเองตอนเรียนอยู่สวิซไม่ได้รับน้องครับ ที่มหาลัยไม่ได้จัด ไม่อนุญาตให้จัดด้วยเนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างทางสังคม ผมไม่ได้มองว่าผิดหรือถูก เหมาะหรือไม่เหมาะ ไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง ตอนหมอปอรับน้อง ปี 1 มันก็ดูเฮฮาดี ตัวเปื้อนสีซกมกไปหมด ไม่เคยถามว่ามันชอบหรือไม่ชอบ แต่ดูท่าทางแล้วน่าจะไปในแนวโน้มที่ถูกอกถูกใจเสียมากกว่า


“พี่ธัน วันนี้ผมกลับดึกนะ” เจ้าของเสียงทุ้มนั่งเช็ดหัวให้สุนัขพันธุ์เล็กอย่างชิสุห์พลางหันมางับป๊อกกี้ที่ผมส่งให้เป็นระยะ ฝนเริ่มซาเม็ดลงแล้วเมื่อเข้าสู่ปลายเดือนกรกฏาคม แต่ก็ยังมีบ้างประปราย ช่วงนี้ผมขังหมาไว้แต่ในบ้าน ระวังเรื่องเห็บหมัดเป็นพิเศษ จะได้ออกไปข้างนอกตอนเช้า ๆ ที่วิ่งจ๊อกกิ้งทั่วหมู่บ้านเท่านั้น


“เตรียมงานรับน้องเหรอ”

“ครับ ใกล้วันแล้ว”

“แล้วกลับยังไง” ถามพลางเลื้อยตัวลงบ้าง แบ่งเสี้ยวตักที่หมานอนเต็มพื้นที่ไว้เกยหัว นักศึกษาสัตวแพทย์ไม่ปฏิเสธอะไรยังคงเช็ดขนสลับกับใช้หวีซี่เล็กแสกขนยาว ๆ ของหมาเพื่อเป่าให้แห้งหลังอาบน้ำอย่างใจเย็น


“แท็กซี่ครับ”

“เดี๋ยวพี่ไปรับ”

พูดคล้ายสั่งมากกว่าขอร้อง ปกติหมอปอไม่ค่อยชอบให้ผมโผล่ไปที่มหาวิทยาลัยเท่าไร ขับออดี้สีเหลืองสดไปเทียบหน้าคณะแล้วเป็นจุดสนใจ ปอบอกว่าเหนื่อยจะตอบคำถามเพื่อน ๆ ว่าทำไมต้องมีคนคอยรับคอยส่ง ผมพอจะเข้าใจเลยไม่เคยเซ้าซี้เรื่องนี้ แต่นี่มหาวิทยาลัยยังไม่เปิดก็ไม่น่าเป็นไรมั้ง


“ไม่รู้ว่าเสร็จกี่โมงน่ะสิครับ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวหนึ่งทุ่มพี่ไปรอ จะได้ซื้อขนมไปฝากเพื่อน ๆ เราด้วย ทำงานกันเหนื่อยแย่”

หมอปอไม่ตอบ แต่เปลี่ยนจากที่หวีขนมาเป็นมาหวีผมผมแทน เหลือบตามองดุอีกฝ่ายก็แค่ยิ้มยวนกลับมาเท่านั้น


“กวนเรอะ”

“อ้าว นึกว่าหมานี่ครับ เนียนเชียว”

ผมยืดตัวขึ้นมานั่ง โน้มตัวเข้าหาใช้จมูกไล้แก้มนวลอีกฝ่ายผะแผ่ว “เล่นกับหมา ระวังหมาเลียปากนะหมอ หึหึ”





หนึ่งทุ่มพอดิบพอดี ผมขับออดีสีเหลืองสดคันเก่งมาจอดเทียบในลานกิจกรรมกว้างที่ผันมาเป็นลานจอดชั่วคราวเมื่อไม่มีคนใช้ บรรยากาศของมหาวิทยาลัยปอค่อนข้างสงบกว่าวันเปิดเทอมปกติ แต่ก็ไม่ได้เงียบสงัดจนวังเวง เสียงรัวกลองกับแสงไฟถูกจุดเป็นระยะตลอดทางตั้งแต่เข้ารั้วมาจนผ่านแต่ละคณะ
คณะของปอถูกจัดแยกจากส่วนอื่น ประตูด้านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเปิดเป็นโรงพยาบาลสัตว์ 24 ชั่วโมงเพื่อบริการประชาชน
ตึกเรียนของหมอปอปีแรก ๆ ยังรวมกับคนอื่นในคณะวิทยาศาสตร์ แต่เริ่มขึ้นปี 2 ก็ขลุกอยู่แต่ในคณะของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ผมมาที่นี่สาม–สี่ครั้ง พอจะจำได้ว่าโซนไหนที่เด็ก ๆ ใช้สำหรับจัดกิจกรรมกันจึงเดินหิ้วของจากรถมาเต็มไม้เต็มมือด้วยความมั่นใจ เสียงร้องเพลงสันทนาการดูครึกครื้น นักศึกษาในชุดไปรเวทเกือบ ๆ สิบคนลุกขึ้นเต้นท่าทางประหลาด ๆ ชวนขบขันแต่ก็น่ามอง


“พี่ธัน”

ปรเมศวร์เรียกเมื่อผมก้าวขึ้นตัวตึก ยังไม่ทันจะหาเจอเสียงก็ดังขึ้นมาก่อน เกิดความเงียบชั่วขณะเมื่อหมอลุกจากกองเชือกฟางมาช่วยรับขนมจากมือทั้งสอง หมอปอแจกจ่ายให้เพื่อนก่อนทุกอย่างจะกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง


“อีกนานเลยว่ะพี่ ของขาด เพิ่งซื้อมาได้ตอนเย็น ๆ พี่ธันกลับก่อนป่าว”

“อะไร เพิ่งมาถึงก็ไล่แล้ว ใจร้ายว่ะ” ผมส่ายหัวแล้วนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นข้าง ๆ มัน เพื่อน ๆ หมอปอหันมาไหว้ตามระเบียบก่อนจะหันไปซุบซิบหรือยักคิ้วหลิ่วตาให้กันเองในเชิงสัญลักษณ์ ผมแกะขนมที่ซื้อมาฝากน้อง ๆ ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ


“ปกติรับน้องเขาทำอะไรกันบ้างวะ”

“ก่อนเปิดเทอมก็เฮฮาครับ ให้เจอ ให้รู้จักกันก่อน อย่างงานพรุ่งนี้ก็จะเป็นอะไรเลอะ ๆ เละ ๆ กันมากกว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไร เล่นสีเล่นแป้งไปเรื่อย ละลายพฤติกรรมน่ะครับ”

“แล้วปอทำอะไร” ถามพลางกวาดตามอง นักศึกษาส่วนหนึ่งยังคงซ้อมเต้นกันเอาเป็นเอาตาย เพลงเหี้ยอะไรวะนั่น ใครคือมะหมี่ขูดมะพร้าว เกี่ยวกับสัตวแพทย์ยังไงวะ


“ผมอยู่หน่วยบริการครับ ส่งน้ำส่งยา ตำแหน่งนี้ให้คนหน้าตาดีทำเด็ก ๆ ที่เหนื่อยจะได้มีแรง”

หมอหมาตัวเล็กพูดพลางยักคิ้วกวน ผมหัวเราะร่วนพลางลูบคางวิเคราะห์ท่าเต้นทะลึ่งตึงตังแล้ว ถ้าหมอปอทำท่าแบบนั้นคงเซ็กซี่ไม่หยอก


“แล้วหมอไม่ไปขูดมะพร้าวกับมะหมี่บ้างเรอะ”

“เรื่องนั้นปล่อยทีมสันทนาการไปเถอะครับ ผมแค่ยืนหลบมุมไม่ให้ถูกเรียกออกไปโชว์สปิริตก็พอแล้ว” ปรเมศวร์หัวเราะในลำคอแล้วก้มลงฉีกเชือกฟางต่อ ผมยิ้มที่มุมปาก ก้มลงกระซิบให้ได้ยินกันสองคน


“เอาไว้เต้นตอนอยู่กับผมแค่สองคนก็พอนะ ท่าถู ๆ ไถ ๆ น่ะ อย่าโชว์เลย ผมหวง”

ไอ้หมอมองค้อนขวัก ปาเศษเชือกใส่ผมหน้าเป็นตูด ผมหัวเราะร่วนแล้วยื้อเชือกบางส่วนมาฉีกบ้าง ไม่รู้เอาไปทำอะไร เห็นมันทำก็ช่วย ๆ ไปจะได้รีบกลับ พรุ่งนี้วันรับน้องจริงเดี๋ยวก็ต้องออกมาตั้งแต่เช้าอีก


“พรุ่งนี้มากี่โมงอะหมอ”

“เพื่อนนัดกันหกโมงเช้าครับ น้องมาประมาณเก้าโมง ต้องเตรียมสถานที่ให้เรียบร้อยก่อน”

“เดี๋ยวผมมาส่งอีกนะ” หมอปอเงยหน้าขึ้นเตรียมจะปฏิเสธ แต่โดนแย้งเอาไว้ก่อน “เช้าปานนั้นไม่มีใครทันสังเกตหรอก”

อารมณ์เหมือนเมียน้อยหลบเมียหลวงชะมัดเลยเฮ้ย ไอ้หมอปอพยักหน้ายอมอย่างขอไปทีก่อนก้มลงจัดการกับเชือกฟางบนหน้าตัก สักพักก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนนึงมานั่งข้าง ๆ ยื่นเหยือกน้ำเย็น ๆ ให้หมอก่อนหันมายิ้มหวานให้ผม


“พี่ธันหรือเปล่าคะ”

“อ้อ...ครับ”

ไม่ยักจะคิดไว้ก่อนว่าจะมีคนมาทัก ปกติแล้วผมมากับหมอปอทีไรจะถูกกันออกจากโลกของมันมาอยู่กับผมแค่สองคน เพื่อนไอ้เปี๊ยกไม่ค่อยสุงสิงกับผมหรอกครับ ปอเคยบอกว่าเพราะผมทำหน้าตาไม่ดี หน้าไม่ดียังไงวะ อย่างกูนี่หล่อจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าหล่อยังไงแล้วเฮ้ย

“นี่เตย เพื่อนผม” หมอปอแนะนำ หญิงสาวยกมือไหว้ผมให้ต้องรีบรับไหว้แทบไม่ทัน “คนที่ไปเยี่ยมไข้เดือนก่อนน่ะ”

ผมพยักหน้ารับรู้ ชื่อนี้เคยได้ยินนานแล้วแต่ไม่บ่อย หมอปอไม่พูดถึงเรื่องเพื่อนที่มหาวิทยาลัยนัก พออยู่กับผมก็คุยแต่เรื่องหมาหรือไม่ก็เรื่องที่บ้านกันตลอด


“ใช่คนที่ไปเรียนขี่ม้าด้วยกันหรือเปล่า”

“ค่ะ ปอเล่าให้พี่ธันฟังด้วยเหรอ”

“ก็พูดถึงนิดหน่อยน่ะ ไม่ได้เล่าอะไรไม่ดีหรอก ไม่ต้องทำหน้าย่นเลย” ผมมองเด็กหนุ่มหันไปยิ้มให้เพื่อนตัวเองพลางหยิกจมูกเล็กไปด้วย เตยหัวเราะเสียงใสเบี่ยงตัวหลบปรเมศวร์พัลวัน ไม่รู้ดิ แต่ผมว่าภาพแบบนี้มันบาดตาแปลก ๆ ว่ะ

“ปอเล่าอะไรให้พี่ธันฟังก็อย่าไปเชื่อมากนะคะ รายนี้ล่ะเวอร์ตลอด”

“ไม่เคยเวอร์เลยนะ”

“ไม่เวอร์อะไร รอบแรกที่ตกม้านี่บ่นจนเราคิดว่าตัวเองต้องหลังหักไปแล้วแน่ ๆ ด้วยซ้ำ อยู่กับพี่ธันขี้บ่นแบบนี้หรือเปล่า หืม?”

ผมกระแอมไอนิด ๆ เพื่อดึงบรรยากาศสีชมพูระเรื่อให้กลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง เหมือนปอจะรู้เลยหันมายิ้มเจื่อนแล้วขยับตัวหนีจากเพื่อนสาวออกมาเล็กน้อย ผมไม่ได้ชวนน้องเตยคุยต่อ แต่เปลี่ยนมาเป็นก้มหน้าก้มตาฉีกเชือกฟางให้เสร็จ ๆ ไปแทน

ที่พูดตอนนั้น หมายถึงคนนี้หรือเปล่าวะ...
ที่ปอบอกว่า ตัวเองก็ยังชอบผู้หญิงอยู่

“เฮ้ย ๆ เขาให้มาทำงาน ไม่ใช่ให้จีบกัน” เสียงตะโกนแซวจากเพื่อนทำให้ผมเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เตยยิ้มตาปิดขณะที่ปรเมศวร์แก้มแดงจัด ปอไม่ด่าเพื่อนที่แซวอย่างหยาบคายนั่นเลย ไม่แม้แต่จะปฏิเสธอะไรด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นกำลังทำให้ผมเริ่มนับหนึ่งถึงร้อยในใจ

“ฉีกเชือกตรงนี้เสร็จแล้วมีอะไรอีกหรือเปล่าปอ”

“กะ...ก็รอพวกทำคัทเอาท์น่ะครับ ถ้าเสร็จแล้วจะได้ช่วยกันยกไปตั้งทำซุ้ม”

หมอปอตอบเสียงตะกุกตะกัก เหลือบตาขึ้นมองผมด้วยความหวาดระแวงที่ซ่อนอยู่เบื้องลึก อะไรคือสิ่งที่ปอปิดบัง อะไร... คือความจริงที่ปอไม่อยากให้ผมรู้


“งั้นก็รีบทำ จะได้รีบกลับ”

หมอปอพยักหน้าก่อนจะเงียบเสียงตลอดการทำงาน




สี่ทุ่มเศษ ๆ ผมตระเวณส่งเพื่อนปอที่อยู่รายทางระหว่างจากมหาวิทยาลัยมาจนถึงบ้านเสร็จ ตุ๊กตาหน้ารถของผมยังคงนิ่งเงียบ ตอบคำถามเพื่อน ๆ เท่าที่จำเป็นเท่านั้นจากนั้นก็เงียบไปใหม่ เมื่อกลับมาอยู่กันตามลำพังอีกครั้งความอึดอัดก็เข้าจู่โจม คลื่นความกดดันแผ่กระจายโดยไม่ต้องให้ผมพูดอะไรออกมา

โทรศัพท์ของหมอปอดังขึ้นขณะที่ผมเคลื่อนรถออกจากแยกไฟแดงช้า ๆ ปลายสายเป็นรูปหญิงสาวที่เป็นประเด็นเดือดให้ถูกแซวเป็นระยะขณะทำงานโดยไม่ต้องสงสัย ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนค่อย ๆ ปิดเสียงแล้วซ่อนเครื่องมือสื่อสารลงในกระเป๋ากางเกงนั่นเป็นสิ่งยืนยันว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ

ปอเคยมีแฟนโดยที่ผมไม่รู้ ส่วนหนึ่งอาจเพราะตัวเองวางใจว่าอีกฝ่ายยังเด็กเกินไปจะมีความคิดความอ่านในเรื่องพรรค์นี้แม้อายุจะถึงขั้นเลือกตั้งได้แล้วก็ตาม หากแต่เวลานี้ผมรู้แล้วว่าปอโตมากพอที่จะคิดเรื่องชีวิตคู่เลยสังเกตพฤติกรรมแปลก ๆ หรือกระทั่งสีหน้าที่ราวจะเรียบเฉยของอีกฝ่ายได้ไม่ยากนัก


“ทำไมไม่รับล่ะ”

“เดี๋ยวไว้ถึงบ้านค่อยโทรไปบอกก็ได้ครับ เตยโทรมาถามเฉย ๆ ว่าถึงไหนแล้ว”

“รู้ดีจังเลยนะ” ท้ายที่สุดก็อดค่อนแคะไม่ได้ เด็กหนุ่มเงียบเสียงไปไม่ต่อล้อต่อเถียง “ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร”

“ก็... หลังจากที่เตยป่วยตอนนั้นก็คุยกันบ่อยขึ้นครับ”

“เราชอบแบบนั้นเหรอ” ผมถามเสียงเรียบ แต่ยังคงไว้ซึ่งน้ำเสียงเครียดขึง ตุ๊กตาหน้ารถผมไม่ปฎิเสธ ซึ่งนั่นก็เหมือนเป็นคำตอบกลาย ๆ แล้วว่าทางฝั่งนี้เองก็มีใจให้ไม่มากก็น้อย


“เขาจีบปอเหรอ”

“เปล่าครับ เพื่อนกันเฉย ๆ”

“เพื่อนกันก็รับโทรศัพท์ตอนอยู่ต่อหน้าพี่ เปิดลำโพงด้วย”

ผมตบไฟเข้าข้างทางโดยอัตโนมัติ ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่จากคนข้าง ๆ ปอเม้มปากเข้าหากัน เสียงสั่นครืดของโทรศัพท์ปิดเสียงยังคงดังท่ามกลางความเงียบ สุดท้ายเด็กหนุ่มจึงหยิบขึ้นมารับอย่างเลี่ยงไม่ได้


“ฮัลโหล เตย”

“อื้ม... ถึงบ้านหรือยังปอ”

“ยังหรอก อยู่บนรถน่ะ”

ปอตอบเกร็ง ๆ ขณะที่ปลายสายยังคงไม่รู้สึกถึงความกดดันที่แผ่เข้าไปตามสัญญาณ “วันนี้ขอบคุณนะที่เลี้ยงข้าว”

“อืม ไม่เป็นไรหรอก เตยจะนอนหรือยัง”

“ใกล้แล้วล่ะ” ปรเมศวร์ผ่อนลมหายใจเล็กน้อยคลายกังวลที่บทสนทนาใกล้สิ้นสุดลงทุกที ก่อนเตยจะเป็นฝ่ายชวนคุยต่อในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน “วันนี้พวกแอ้มถามอีกแล้วว่าเรากับปอจีบกันอยู่หรือเปล่า”

“งะ...งั้นเหรอ”

“อืม... แต่เราบอกไปว่าเปล่านะ แค่สนิทกันเฉย ๆ”

ปรเมศวร์เหลือบตาขึ้นมองผมแล้วหลุบลงต่ำเมื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกจ้องมองอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ปลายสายแผ่วเสียงลงหากแต่ยังพูดต่อด้วยประโยคสั้น ๆ “เราจะรอให้ปอเป็นคนพูดเอง ถ้าพร้อมก็บอกนะ”

“อืม...เตย... เราถึงบ้านแล้ว แค่นี้ก่อนนะ”

“อื้ม รีบอาบน้ำนอนนะ พรุ่งนี้ต้องมาตั้งแต่เช้าอีก ฝันดีนะคะ ไว้เจอกัน”

หมอปอทิ้งท้ายด้วยเสียงตอบรับแบบสุภาพ ๆ ก่อนปลายสายจะตัดไป ผมนั่งอยู่ที่เดิม มองเด็กหนุ่มด้วยสายตาตัดพ้อก่อนเหลือบมามองเส้นทางที่ทอดยาวข้างหน้าด้วยหัวใจที่เต้นแผ่ว ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร เสียใจ น้อยใจ ผิดหวัง หรืออกหัก


“พี่ธัน”

“ขอพี่อยู่เงียบ ๆ แป๊บหนึ่ง” ผมเอ่ยเสียงเรียบแล้วปลดเบลท์ เดินลงจากรถด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น มันอธิบายยากว่ะ อาจเหมือนกลับบ้านแล้วไม่เจอหมา หรือไม่เรียกหมามาหาแล้วมันเมิน ผมไม่ชอบ ไม่พอใจ มีแต่ความรู้สึก กร่อนในความรู้สึก หมอปอไม่ได้ทำอะไรผิด เขาไม่ได้เป็นแฟนผม เราไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วที่ตอบมานั่นก็ไม่ได้โกหกอะไร

ไม่ได้จีบกัน... แต่สนิทสนมกันในนัยยะที่เรียกว่าคุย ๆ กันอยู่น่าจะถูกกว่า

กลัว...

นั่นอาจเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายความรู้สึกของผมในตอนนี้ได้


ผมทิ้งเวลาไม่นานนักเสียงปิดประตูรถก็ดังขึ้นอีกครั้ง ตัวต้นเรื่องเดินเข้ามาหาช้า ๆ จับมือผมไว้อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ใบหน้าหล่อเหลาได้รูปก้มลงต่ำจนคางชิด

“กลับบ้านกันเถอะพี่ธัน เดี๋ยวคืนนี้ผมไปนอนด้วย” ปรเมศวร์เอ่ยเสียงสั่นและทำอย่างที่ถนัดเพื่อให้ผมอารมณ์ดี หากแต่ตอนนี้ เวลานี้มันกลับทำร้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่ทำแบบนี้กับพี่ จับมือพี่ที่บอกว่าชอบปอ จะรอวันที่ปอพร้อมทุกอย่างก็คุยกับคนอื่นด้วยนี่นะ... ใจร้ายเกินไปหน่อยไหม

“ปอกลับไปนอนบ้านเถอะ จะได้นอนเต็มที่ ดึก ๆ พี่ต้องลุกมาเปิดประตูให้หมาออกมาฉี่อีก”

“แล้วพรุ่งนี้...” หมอปอเอ่ยเบาจนแทบจะกระซิบ แต่เมื่ออยู่กันแค่สองคนแบบนี้ผมก็ยังได้ยินชัดเจน “...พี่ธันจะไปส่งผมไหม”

“เดี๋ยวดูอีกทีแล้วกัน” ผมตอบเสียงนิ่ง พลางเดินนำกลับขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรอีกนับจากนั้นจนส่งอีกฝ่ายกลับเข้ารั้วบ้านโดยสวัสดิภาพ


(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
(ต่อค่ะ)


ตีห้าของวันถัดมาผมปิดหนังสือการ์ตูนที่อ่านซ้ำ ๆ ลงแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง เมื่อคืนผมนอนไม่หลับอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นปัญหาคาใจที่ไม่รู้จะเริ่มสะสางที่อะไรก่อนดี ถึงจะบอกว่าไม่ยอมแพ้แน่ แต่พอเอาเข้าจริงกลับคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไร ซึ่งถ้าปอไม่มีใจให้ฝ่ายหญิงเลยผมก็คงตัดสินใจได้ง่ายกว่านี้ หรือไม่ หากทางนั้นเป็นผู้ชาย ผมก็คงวิ่งเข้าชนแบบไม่ต้องสืบ
เหมือนกับเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาขณะหนึ่ง ถ้าปอกับเตยรักกันจริงทั้งสองคนก็ดูมีอนาคต เปิดคลินิกรักษาสัตว์ด้วยกันกระจุ๋มกระจิ๋ม เรียกพ่อจ๊ะ แม่จ๋า มีลูกเล็ก ๆ ที่เกิดจากความรักและความเหมาะสมไปเสียทุกระเบียดนิ้ว แน่นอนว่าในมุมหนึ่งของคนที่ปรารถนาดีกับคนรักย่อมรู้สึกอย่างนั้น หากแต่ปีศาจเบื้องลึกในใจกลับแย้งว่าผมไม่ควรปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไป
เสียงเห่าโฮ่งของหมาทั้งห้าตัวเตือนสติว่าถ้าบั้นปลายชีวิตผมไม่มีปอแล้วไอ้หมาพวกนี้แหละที่จะรับกรรม ไม่ใช่ผมเห็นมันเป็นเครื่องมือไว้หม้อเด็กอย่างเดียวนะโว้ย เอาเข้าจริงผมก็ทั้งรักทั้งผูกพันกับสัตว์ที่เลี้ยงอย่างกับอะไรดี กินนอนด้วยกันจนเกือบจะเป็นผัวเมียกันทุกฤดูติดสัดกันรอมร่อ แต่กระนั้นด้วยนิสัยมักง่ายและไม่ค่อยใส่ใจอย่างผมนี่แหละที่จะทำหมา  ๆ เดือดร้อน ความรู้ไม่มี ใส่ใจไม่มาก รักอย่างเดียวก็ทำหมาป่วยตายได้ครับขอบอก นั่นเป็นเหตุผลหลัก ๆ เลยที่ย้ำกับผมว่าชีวิตผมขาดปอไม่ได้

โฮ่ง โฮ่ง
ร็อตไวเลอร์สีดำเมี่ยมตัวมหึมาเห่าคล้ายเตือนสติให้เลิกยกหมาเป็นข้ออ้าง ผมจิ๊ปากขัดใจที่ไอ้พวกสี่ขาทั้งห้าตัวมันจะรู้ทันเกินไปก่อนเดินไปหยิบเชือกจูงมาคล้องปลอกคอให้หมาทีละตัว ถึงเวลาก็หยิบเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นมาสวม เช้า ๆ แบบนี้อากาศดี แต่จิตใจผมหม่นฉิบหาย นอนอ่านการ์ตูนจนมึนจนเบลอมาตลอดทั้งคืนแต่เช้าก็ต้องทำหน้าที่ป๊ะป๋าที่ดีเลี้ยงลูก ๆ ระหว่างจีบแม่มันไปก่อน พาออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้าเพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์มทั่วเรือนร่างให้หมอมันอิจฉา เรื่องสุขภาพนี่เรื่องรองครับ สมองอย่างผมคิดไม่เยอะหรอก รู้แค่ว่าพอมีกล้ามเนื้อแล้วหมอปอชอบเผลอมองอย่างชื่นชมก็ใส่ใจเรือนร่างยกใหญ่ เห็นไหม ไม่ใช่เพราะผมไปดับฝันคลินิกคู่รักอะไรนั่นหรอก หมอมันมีแนวโน้มเบี่ยงเบนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต่างหาก

ตีห้าครึ่งผมกลับมาที่บ้าน อาบน้ำอาบท่าเตรียมพร้อม สตาร์ทรถมารอหน้าบ้านหมอปอพอตีห้าสี่สิบห้าเป๊ะคนตัวเล็กก็เดินหน้าหงอยออกมาจากรั้วด้วยความหมดหวัง ก่อนเปลี่ยนเป็นสดชื่นทันทีเมื่อเห็นว่าราชรถมาเกยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว


“พี่ธัน... ผมนึกว่า...”

“กินข้าวหรือยัง”

“ยังครับ” ปอตอบเสียงนุ่ม เปิดประตูข้างคนขับมานั่งสงบเสงี่ยม

“เดี๋ยวพี่แวะแมคฯ จะได้กินอะไรรองท้องระหว่างทาง เย็นนี้เลิกกี่โมง เดี๋ยวมารับ”

ปรเมศวร์เหลือบตามามองผมแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกลับเองได้ รบกวนพี่ธันมาหลายรอบติด ๆ แล้ว”

“เกรงใจหรือกลัวพี่จะขัดจังหวะ” ผมสบตาอีกฝ่ายในกระจก เจ้าของดวงตากลมเบือนหนีไปอีกทางราวกับไม่อยากเห็นหน้ากันเสียเต็มประดา “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมไม่รู้ว่าเลิกกี่โมง”

“หกโมงเย็นจะมารอหน้าคณะ ถ้าเลิกเร็วกว่านั้นก็โทรมา”

ไอ้หมอหมาก้มหน้าลงมองมือที่บิดกันอยู่บนหน้าตักก่อนเหลือบมองผมขลาด ๆ ทุกครั้งที่ผมโกรธปอก็จะกลัวแบบนี้ตลอด ไม่ชอบ ไม่อยากให้โกรธ แล้วทำไมขยันทำเรื่องให้โมโหนักวะ ผมล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ

“ปอที่พี่บอกว่าไม่ยอมแพ้น่ะ พี่พูดจริงนะ” ผมยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบสม่ำเสมอ ระหว่างเราเหลือเพียงความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่ในรถแคบ ๆ อีกครั้ง กับความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ค่อยถูก



หลังจากส่งหมอปอถึงคณะผมก็กลับออกมาข้างนอก ร้านกาแฟใกล้มหาวิทยาลัยปอเปิดแล้ว ผมหอบคอมมาด้วยเดี๋ยวถือโอกาสนั่งทำงานไปพลาง ๆ เลยแล้วกัน กะไว้ว่าถ้าหมอมันเรียกเมื่อไรจะรีบไปปรากฏกายไม่ให้มีเวลาชิ่งไปไหน เอาเข้าจริงก็อยากไปเฝ้าถึงคณะด้วยซ้ำ แต่โตแล้ว ทำแบบนั้นจะเหมือนเด็ก ๆ พูดจาไม่รู้เรื่องเสียมากกว่าเลยยอมต่อให้ไอ้เด็กเตยอะไรนั่นแค่ช่วงทำกิจกรรม เสร็จธุระเมื่อไรอย่าหวังว่าจะได้โอกาสอี๋อ๋อกันต่อเลย เมื่อวานแค่สตั๊นท์ วันนี้ตั้งหลักได้แล้วเดี๋ยวจะปัดกวาดริ้นไรที่มาตอมไอ้หมอออกให้หมดเลยเชียว

เข็มนาฬิกาหมุนไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่เช้ายันบ่าย ดีที่ร้านมีทั้งอาหารเมนูหลักและของกินเล่นผมเลยนั่งอยู่นาน ซึ่งแต่ละเมนูก็ดูดเงินผมไปได้มากพอสมควร แถบมหาวิทยาลัยเปิดเป็นร้านกาแฟสำหรับนักศึกษาอ่านหนังสือกันเยอะ ผมเห็นหลายที่แล้ว เคยคิดเหมือนกันว่าอยากเปิดเล่น ๆ แต่ก็ติดตรงที่ว่าขี้เกียจ ผมมันเป็นพวกสันหลังยาว ไม่ค่อยคิดการไกลเท่าไร ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้เกิดในครอบครัวที่ต้องดิ้นรนตั้งแต่แรก มีสมบัติพอใช้ตลอดชีวิต ที่ทำงานทุกวันนี้ก็แค่เพื่อเติมไม่ให้มันร่อยหรอ ไม่ได้หวังจะรวยยันชาติหน้าเลยไม่เหมาะกับการเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง งานของผมทุกวันนี้ก็สบายดี สลับ ๆ กันกับเล่นหุ้นแค่นี้ก็เลี้ยงตัวเองกับบ้านครอบครัวปอได้ไม่ขัดสน

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่ใช่ปอแน่เพราะตอนนี้ยังเพิ่งจะบ่ายแก่ ๆ คนโทรเข้าเป็นชื่อที่ผมไม่เห็นมาพักใหญ่ ๆ แล้วตั้งแต่วันเกิดมี่ตอนนั้น ไอ้กรหายหน้าไป ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจมันขนาดที่โทรไปถามสารทุกข์สุขดิบ ทางมันเองพอพักหลัง ๆ ชวนผมไปกินเหล้าด้วยไม่ได้ก็ห่างกันไปเหมือนกัน ที่โทรมานี่อย่าบอกนะโว้ยว่าจะทวงงาน เดธไลน์มันสัปดาห์หน้าไม่ใช่เหรอวะ


“ว่าไง”

“มึงอยู่ไหนวะ”

“ทำงานอยู่ร้านกาแฟหน้ามหา’ลัยปอ มีไร” ผมถามพร้อมทำน้ำเสียงเหมือนยุ่งเสียเต็มประดา ไอ้กรถอนหายใจยาวเหยียด “กูโดดงานไปนั่งด้วยได้ไหม”

ไม่ทันให้คิดมากปากผมก็บอกพิกัดมันไปเสร็จสรรพ เสียงไอ้กรดูไม่ดีเท่าไร เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเกิดเรื่อง พักเดียวเจ้าของน้ำเสียงนอยด์ระดับพระกาฬก็ปรากฏตัวในชุดทำงานเต็มรูปแบบ ปลดกระดุมบนสองสามเม็ดให้รับกับสีหน้าอิดโรยกับขอบตาคล้ำขึ้นถนัด มันลากเก้าอี้มานั่ง สั่งคาปูชิโน่เพิ่มช็อตแล้วถอนหายใจยาวเหยียดแทนคำอธิบายเป็นอย่างแรก


“มึงไม่ได้นอนเหรอวะไอ้ธัน”

ผมเลิกคิ้วขึ้น สภาพผมแม่งดูแย่ก็จริงแต่ไม่เท่ามันว่ะ “มึงไม่หลับมาแล้วกี่คืน”

“สาม” กรตอบเสียงเนือย ๆ แล้วยีหัวตัวเองจนยุ่ง ผมสั่งอาหารให้มันอีกไม่กี่อย่างก่อนยักคิ้วถาม

“เป็นอะไรล่ะ”

“มึงจำไอ้เต้ได้ไหม เต้การตลาด”

“เออ ทำไม สูง ๆ คล้ำ ๆ หุ่นนักกีฬาใช่ไหม มีเรื่องกันเหรอ”

“มันจีบมี่ว่ะ เหมือนมี่จะโอเคด้วย” ผมเงียบไปชั่วอึดใจหนึ่ง มองเสี้ยวหน้าของเพื่อนที่เบนออกไปนอกร้านแล้วถอนหายใจแผ่ว

“ตอนแรกมี่ก็ไม่เล่าให้กูฟังหรอก จนไปเจอที่เซ็นทรัลวันก่อน เดินจับมือกันแล้วอะมึง”

“มึงถามมี่ยัง”

“ถาม มี่บอกก็คุย ๆ มาสักพักหลังจากที่ตัดใจจากมึงน่ะ แม่งโคตรแย่ กูกำลังตะล่อมบอกมี่ว่าคิดยังไง มึงนึกออกไหมวะ แล้วจู่ ๆ ...ไอ้เหี้ย หมาคาบไปแดก”

ผมว่าผมเข้าใจมันว่ะ ไม่รู้จะปลอบใจยังไงด้วย กูก็กำลังจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับมึงอะกร โชคดีหน่อยตรงกูแสดงออกชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าคิดยังไงกับหมอ ไม่เหมือนไอ้กรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในตอนนี้


“แล้วมึงทำไง”

“ก็ทำใจอยู่นี่ไง ทำเหี้ยอะไรได้วะ คนอย่างกู กว่าจะรู้เรื่องมันก็แก้ไม่ทันแล้วปะ ให้กูไปแย่งเหรอ อี๋อ๋อกันขนาดนั้นโผล่ไปมีแต่โดนเกลียด”

“เออ ใจเย็นแล้วกัน” ผมบอกแบบขอไปที เวลานี้ไอ้กรเองก็คงไม่อยากได้คำตอบ ที่มาหาเพราะทนเก็บไว้คนเดียวไม่ไหวแล้วมากกว่า กรถอนหายใจยาวยกกาแฟขึ้นดื่มอึก ๆ แล้ววางแก้วอย่างคนเครียด ผมตบบ่ามันปลอบใจเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้ดีกว่านี้ หากแต่คนถูกปลอบเองก็คงรู้สึกอะไรบางอย่างจากผมเลยเงยหน้าขึ้นถามสารทุกข์สุขดิบกลับมาบ้าง

“แล้วมึงเป็นไร เครียดอะไรนอนไม่หลับ แถมยังมานั่งร้านแบบนี้ เวลานี้มึงควรจะนอนกลางวันกับบรรดาฝูงหมามึงไม่ใช่เหรอ”

“อืม มารอปอน่ะ ช่วงนี้ปอก็มีคนคุยว่ะ”

“ชีวิตบัดซบ ไอ้เด็กเวรนั่นหลอกให้มึงรอแล้วชิ่งน่ะนะ โอ๊ย ไอ้ธันเอ๋ย มึงไม่เหมาะกับบทพระเอกหรอกว่ะ กลับมาเล่นบทหื่นเหมือนเดิมเถอะ อย่ากระแดะเป็นสุภาพบุรุษหน่อยเลย”

ผมส่ายหัวขำ ๆ รู้ว่าไอ้กรมันพูดเล่นเพราะยังมีร่องรอยของยิ้มเยาะจาง ๆ อยู่ “ทำไมวะ น้องมันก็ดูโอเคกับมึงนะ”

“สับสนล่ะมั้ง อีกคนเป็นผู้หญิง เรียนด้วยกัน สวยด้วย”

“แล้วมึงจะทำไง” ผมเหลือบตามองเพื่อนสนิทแล้วถอนหายใจปลง ๆ ตอบ “ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดล่ะวะ ถ้าสุดท้ายแล้วปอให้กูเป็นแค่พี่ชาย ก็คงทำได้แค่นั้น”

กรพยักหน้าเข้าใจความหมายที่ผมสื่อ




หกโมงตรงผมกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัยโดยมีเพื่อนรักติดสอยห้อยตามมาด้วย คืนนี้มันจะมานอนที่บ้านผมเผื่อเปลี่ยนบรรยากาศแล้วจะหลับ ไม่ก็นั่งดวลเหล้ากันยันสว่างให้น็อคกันไปข้าง พอลงจากรถเลยมีสัมภเวสีเดินตามมาขอส่วนบุญติด ๆ จนแทบจะสิงร่าง ปรเมศวร์กำลังช่วยเพื่อนเก็บของ มีรุ่นน้องอีกคนอยู่ไม่ห่าง รอบนี้เป็นผู้ชาย ตัวสูงกว่าปอแต่เล็กกว่าผม

“เด็กมึงฮอตเวอร์” ไอ้กรกระซิบ ผมยังไม่ทันทักเตยก็เดินเอาทิชชู่มาให้หมอปอแล้วหันไปยิ้มให้รุ่นน้อง ไอ้ปีหนึ่งทำหน้าแหย ๆ ส่วนปอก็ยังมึนอยู่อย่างนั้น พอเห็นผมก็ยกมือไหว้กันเกรียว

“เสร็จหรือยัง”

“ใกล้แล้วครับ สวัสดีครับพี่กร” ไอ้หมอบอกพลางทักคนข้างหลัง ไอ้กรพยักหน้ายิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร

“เดี๋ยววันนี้กรจะไปนอนที่บ้านน่ะ พี่คงแวะไปส่งเพื่อนปอไม่สะดวกนะ”

“อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะพี่ธัน เดี๋ยวเตยกลับพร้อมเพื่อนคนอื่นได้ ปอรีบกลับน่ะดีแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันจะได้อาบน้ำอาบท่า เดี๋ยวยังไงเตยจะโทรหาอีกทีนะ”

ไอ้หมอพยักหน้าแล้วยัดของชิ้นสุดท้ายลงกล่อง หันไปคว้าเป้แล้วสั่งเสียหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน “ฝากไปส่งไอ้เจ้าโจด้วยนะเตย เดี๋ยวเรากลับแล้ว เตยก็กลับบ้านดี ๆ นะ”

สิ้นเสียงสั่งลาผมก็กระแอมไอขึ้นขัดจังหวะ เดินไปยื้อกระเป๋าเป้ของหมอตัวเล็กพลางยกมือขึ้นพาดไหล่ลู่ หมอปอเหลือบมองผมหน้าซีดขาว


“ใจดีแบบนี้ถ้าคนที่คุยกับปออยู่ตอนนี้รู้เขาจะเสียใจแย่ รู้ไหม”

“ปอ... มีคนที่คุยอยู่เหรอคะ” เตยถามแทบจะในทันที แววตาใสนั่นไหววูบเล็กน้อยเหลือบมองผมแล้วจ้องมองคนตัวเล็กอย่างขอคำตอบ หมอปออึกอักอย่างสังเกตได้ชัดจนคนรอเริ่มใจเสีย


“หมายถึงยังไงเหรอปอ”

“บอกเตยไปสิว่ามีคนที่ดู ๆ กันอยู่แล้ว คุยกันมานานแล้วด้วย ทำแบบนี้ไม่สุภาพบุรุษเลยนะ ถ้าคิดจะคุยควบก็ควรบอกผู้หญิงให้เขาเผื่อใจไว้ รู้หรือเปล่า” ผมพูดยิ้ม ๆ แล้วกระชับไหล่เล็กเข้าหา ไอ้เด็กปีหนึ่งที่น่าจะชื่อโจอะไรนั่นมองผมเหมือนเข้าใจความหมายแล้วหลบสายตาลง ขณะที่เตยยังรอคำยืนยันจากไอ้หมอปอเพียงคนเดียวเท่านั้น


“ที่จริง...ก็มีคนที่คุยอยู่น่ะ”

“แต่ยังไม่ใช่แฟนใช่ไหมปอ”

“ไม่ใช่หรอก” ผมตอบแทนพลางกลั้วหัวเราะแม้ในใจจะกรุ่นไปด้วยควันตลบ เตยกับปอมีสีหน้าโล่งอกวูบหนึ่งก่อนได้ยินประโยคถัดมา “คนแถวบ้านปอน่ะ แต่พี่เคยเห็นเขาจูบกันนะ ถึงแบบนั้นก็ยังปากหนักบอกไม่ใช่แฟนอยู่ได้”

“พี่ธัน!”

“พี่แค่พูดความจริง หรือปอจะเถียง” ผมเอ่ยเสียงราบเรียบขณะส่งสายตาเชือดเฉือน ไอ้หมอตัวเล็กหลุบตาลงต่ำแล้วเม้มปากเข้าหากันไม่โต้แย้งใด ๆ “บอกเพื่อนสิปอ... ว่าเรากับเขาคนนั้นเป็นยังไง อย่าให้ความหวังเขาไปทั่ว”

“ผมไม่ได้จะให้ความหวัง...” ปรเมศวร์เอ่ยเสียงแผ่ว ก้มหน้าจนชิดอกก่อนยอมสบตากับคู่กรณีในเวลาถัดมา “...เรามีคนคุยอยู่แล้วจริง ๆ แหละเตย”

“เหรอ... แล้วปอ...”

“ถ้าน้องเตยอยากรอก็รอไปเถอะครับ แต่พี่ว่าอย่าเลย ความสัมพันธ์ของเจ้าปอกับฝ่ายนั้นน่ะลึกซึ้งกว่าที่คนอื่นจะเข้าใจเยอะ” ผมคลายแรงที่กอดบ่าอีกฝ่าย แต่ยังคงรอยยิ้มไว้เหมือนเดิม เตยมองปอน้ำตาคลอเบ้าหากแต่ยังไม่หยดไหลลงมา ความผิดหวังและเศษซากของการตัดพ้อที่ไม่อาจปิดได้มิดเอ่อคลออยู่เต็มหน่วย


“แม้แต่ปอ พี่ว่าเขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับอีกคนน่ะเป็นยังไง...เตยอย่าเสียเวลาเลยครับ พี่เตือนด้วยความหวังดีนะ เอาล่ะ คงต้องไปจริง ๆ แล้ว พี่ไปก่อนนะครับ กลับบ้านกันดี ๆ ล่ะ”

ผมทิ้งเสียงสุดท้ายไว้ก่อนเดินจูงข้อศอกคนตัวเล็กเดินออกมาจากบริเวณนั้น ไอ้กรหยุดมองเตยนิด ๆ แล้วตามมานั่งเบาะหลัง ได้ยินเสียงนินทางุบงิบอยู่ในปากมันว่าผมร้ายอย่างนั้นอย่างนี้
แน่นอนคนที่รู้ถึงจุดประสงค์ของผมอย่างมันต้องพูดแบบนั้น และผมไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ทันทีที่กลับเข้าออดี้ของตัวเองแล้วหมอปอจะผลักอกผมเต็มแรง


“ทำไมพูดแบบนั้นวะครับ!”

ผมกระตุกยิ้มที่มุมปาก มองคนตัวเล็กกว่าด้วยสายตาร้อนแรงไม่ต่างกัน “พี่ว่าปอรู้อยู่แล้วว่าทำไมพี่ถึงพูดอย่างนั้น ปอนั่นแหละ ที่ไม่เถียงเพื่อนเพราะอะไร เข้าใจตัวเองขึ้นมาบ้างหรือยัง”

“พี่ธันจะพูดอะไร”

“ปอแคร์พี่มากกว่าผู้หญิงคนนั้น เลิกหนีหัวใจตัวเองเหอะ ทำแบบนี้ไม่เหนื่อยหรือไง”

คู่สนทนาผมเงียบเสียง เปลี่ยนเป็นเม้มปากเข้าหากันแน่น ผมเอื้อมมือมาจับอีกฝ่ายแล้วผ่อนอารมณ์ในน้ำเสียงลงอ่อน “พี่ว่าได้เวลาเรียนรู้ที่จะรับมือกับความรู้สึกของตัวเองแล้วล่ะ...เชื่อพี่เหอะนะปอ”

ปรเมศวร์ยังคงไม่สบตา ภาพที่ผมเห็นในกระจกคือเด็กหนุ่มตัวเล็กคนเดิมที่เต็มไปด้วยความสับสนในหน่วยตา ผมจะไม่เร่งรัด จะไม่รีบร้อน หากแต่พื้นที่ระหว่างที่ปอบอกว่าขอเวลาก็จะไม่ยกให้ใคร
ค่อย ๆ คิดก็ได้หมอ

ปลาหนีน้ำไม่พ้นยังไง ใจก็หนีความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ไม่ได้เหมือนกัน





อิพี่ธันนี่ขี้หวงกว่าพลังหมาทั้ง 5 ที่นางเลี้ยงอยู่อีกนะคะ ดิฉันคอนเฟิร์ม
สวัสดี วันภาษาไทยค่ะ ถ้าตอนนี้มีศัพท์อะไรผิดพลาดชี้แนะกันด้วยนะคะ บางทีก็ไม่รู้จริง ๆ /ฮือออ
เดือนนี้มาต่อ 2 รอบเพราะอู้เมื่อเดือนก่อนค่ะ TvT ให้อภัยข้าน้อยด้วย
อย่าโกรธหมอปอเลยนะ นางแค่กลัวประตูรั้วสีม่วงเท่านั้นเอง
ปล. แอบแปะนิดนึง คำประกาศของความรู้สึกใหม่อีก 2 วันปิดจองนะคะ ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดใจเพจได้เน้อ

เจอกันวันแม่ค่าาาา /ลากพี่ธันมาร้องเพลงค่าน้ำนม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด