回 " จ้ า ว ธ า ร า " 回 » » » » » » » » [ Sample ! ตอนพิเศษ! P.101 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 回 " จ้ า ว ธ า ร า " 回 » » » » » » » » [ Sample ! ตอนพิเศษ! P.101 ]  (อ่าน 897687 ครั้ง)

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
อ่านสามตอนรรวด ทำให้รู้ว่า
ความคิดถึงมันฆ่าคนได้จริงๆ/me อ่านไปร้องไห้ไป

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ

ไกรสู้ๆนะ เป็นกำลังใจอยู่เคียงข้างพี่วันนะ

ออฟไลน์ Feporchz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ปมเยอะจัง..
คนอ่านจะเป็นโคนันเเล้วนะ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
วรรณนาทำไมอะ พาลุ้นอีกละ อยากรู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ Nattiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่ชอบมาม่าเลยข้ามตอนของอาพันวังไปปป ทำไมเหมือนมีตอนไหนที่บอกว่าวรรณนาเป็นลูกของพันวังอ้ะะะ
งงงงต่อไปปปปป ตามต่อนะคร้าบบบบ :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ ozaka

  • ตัว "โอ" เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1818/-38
    • ozaka's blog





ครั้งนั้น
เจ้าจอมกุมภาผู้รักษา
เฝ้าบำเพียรเพ็ญจิตเป็นนิจมา
ฝึกคาถาฝึกกายาฝึกอาคม





ละกิเลสซึ่งทางโลกตั้งดวงจิต
จึงจักคิดมีชีวิตให้สุขสม
ดั่งมนุษย์โลดแล่นบนสายลม



นึกชื่นชมจึงร่ายกาย..คลายร่างเป็น










-๓๓-










   กลางดึกสงัด..


   ผมนั่งจ้องมือถือที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วยในมือ  เหยียดกายไปกับเก้าอี้เอนหลังที่ระเบียงห้องพัก  โชคดีที่มือถือเครื่องนี้ของผมทนทายาดพอสมควร  ถึงสามารถเก็บเศษชิ้นส่วนขึ้นมาประกอบใช้งานใหม่ได้ด้วยตัวเองแบบนี้
   ก็ไม่ได้คิดว่า ‘เขา’ จะโทรมาภายในคืนเดียวหรอก  แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวัง  ช่วงเวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆที่ได้อยู่ด้วยกันทำให้ผมคลุ้มคลั่ง  เมื่อเทียบกับเวลาที่แยกจากกันตั้งสองเดือน!



   ถ้าจำไม่ผิด…วรรณนาเป็นลูกของท่านอาพันวัง


   ที่จริงผมก็ไม่ต้องการอะไรมายืนยันหรอกครับ  เพราะสีหน้าไอ้พี่วันก็ดูราวกับจะย้ำความจริงข้อนั้นได้ครบถ้วนกระบวนความอยู่แล้ว
   การที่เขาหายไปก็ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร  สำหรับผมนะ  เพราะเราคงไม่ชอบใจนักเมื่อต้องติดต่อกับคนที่..เอ่อ..ฆ่าพ่อของตัวเอง  แต่ถ้าถามว่าไอ้พี่วันผิดรึเปล่าที่กังวลเรื่องนั้น  ก็คงไม่…เป็นธรรมดาของคนในครอบครัวที่จะเป็นห่วง  พี่น้อง  นายกำนัล  หรือจะเรียกอะไรก็ช่างเถอะ

   อย่างไรก็ตาม  ด้วยเวลาที่ล่วงเลยมามากแล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจกลับก่อน  ไม่เพียงจะกลัวว่าพวกโป๊ยจะเป็นห่วงแล้ว  ยังมีอีกกรณีสำคัญก็คือถ้ามัวแต่นั่งเอ้อระเหยอยู่ในนี้  ไม่ช้านานจระเข้สักตัวคงมาเจอเข้าเป็นแน่


   ผมให้เบอร์มือถือกับเขาไป  บอกเขาว่าถ้ายังไงก็อยากให้โทรมา…เพราะไม่อยากคาดคั้นกับคนที่ไม่มีเหตุผลที่จะกลับไปให้มากความ




   “ไกร”
   “หืม?”

   “อย่ามาที่นี่อีกนะ..” เขาบอกผม “พี่ขอร้อง”



   ผมควรจะตีความประโยคสุดท้ายนั่นยังไงดี?

   วูบหนึ่งนั้นผมรู้สึกเสียใจไม่น้อย  นึกโทษตัวเองหลายร้อยหลายพันรอบว่ายังจะโง่ตามเขามาถึงนี่ทำไม  ในเมื่อเขาก็ทำท่าเหมือนไม่ได้สนใจอะไรผมเท่าไหร่  ทั้งที่ความจริงมันก็มีเหตุผลอะไรอีกนับร้อยนับพันประการว่าเขาไม่อยากให้ผมมา  เขาไม่อยากให้ผมพัวพันกับเรื่องแบบนี้  เขาไม่อยากให้จระเข้ตัวอื่นเจอผม  เขาไม่อยากให้ผมเป็นอันตราย 
   และให้ตายเถอะ…เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนั่นผมรู้ดี…


   …รู้ยิ่งกว่ารู้

   แต่ใจเจ้ากรรมมันรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่…



   ไอ้พี่วันมาส่งผมถึงหน้าถ้ำ  และยืนอยู่ตรงนั้นจนผมเป็นฝ่ายเดินจากไปเอง  ผมเดินข้ามสะพาน  ย้อนกลับไปทางอิฐสีแดง  นึกถึงเรื่องบังเอิญที่ผมจู่ๆก็มาจู่ๆก็เจอกับเขา  ทั้งที่พิจิตรก็เป็นจังหวัดที่ไม่ได้มีขนาดเล็กอะไร
   สิ่งนั้นทำให้ผมเริ่มศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา
   และคิดอย่างเข้าข้างตัวเองไปว่ามันเป็นพรหมลิขิต  เหมือนที่ใครต่อใครพูดกันว่าเป็นคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอก  ไม่ว่าจะพลัดพรากกันไปเท่าไหร่

   ความจริงก็คือ…เรื่องของผมกับเขามันไม่ได้โรแมนติกขนาดนั้น




   ระหว่างเราคืออะไร?

   …แค่คำตอบของคำถามนั้นผมยังหามาไม่ได้ด้วยซ้ำ





   ผมผ่อนลมหายใจรอบที่ร้อยในชั่วโมงนั้น  สายตายังคงจับจ้องกับเจ้าเครื่องมือสื่อสารในมือไม่วางตา  ทั้งๆที่ผมรู้ว่าต่อให้จ้องขนาดไหนก็ไม่มีกระแสจิตใดจะทำให้มันดังขึ้นได้หรอก
   ‘ไม่เป็นไรหรอก’
   ‘พี่ชอบไกร…จริงๆด้วย…’

   ผมนึกถึงคำพูดหวานๆคารมคมคายพวกนั้น  นึกถึงรอยยิ้มเจ้าสเน่ห์ที่ทำให้ผมใจเต้นแรงแบบนั้น  นึกถึงดวงตาสีอำพันที่มักจะทอดมองผมอย่างอ่อนโยนพวกนั้น  ทุกอย่างมันหลั่งไหลกลับมาเข้าจนคล้ายกับว่า..เราได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในช่วงก่อนจะเกิดเหตุขึ้น

   เขายังเป็นเหมือนเดิม  เป็นผู้ชายแสนร้ายที่ชอบล้อเล่นกับอารมณ์อ่อนไหวของมนุษย์  และชอบหัวเราะมีความสุขกับการที่ได้เห็นผมร้อนรนจากความรู้สึกในอกแบบนี้


   “เจ็บบ่อยๆค่อยๆชิน..”

   ผมรำพันอยู่คนเดียว  บทเพลงเก่าๆเพลงหนึ่งลอยเข้ามาในหัว

   “..อยากจะทิ้งหรือจะกลับมา…ก็คง..ต้องแล้วแต่เธอ…”




   “ร้องห่าอะไร?  เสียงหลงชิบหาย”


   คำทักนั้นทำเอาผมสะดุ้งเฮือกแทบทำมือถือตก  แล้วรีบหันไป
   “เปล่า!”
   “แหน่ะ” มันหรี่ตามอง  วางกระป๋องโค้กลงกับโต๊ะแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม “มีเรื่องเหี้ยอะไรไม่บอกเพื่อนอีกแล้วนะครับคุณ”
   “ไม่มีอะไรนี่”
   “แหน่ะ”
   “ก็บอกว่าไม่มีไง”
   “แหน่ะ”
   “มึงจะแหน่ะอีกนานมั้ย?”
   “ตอนขามาก็นั่งเงียบกริบท่าทางครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียว  พอหลังจากไปเดินเล่นในอุทยาน..ท่าทางจะรื่นรมมากนะมึง  กลับมาดูอารมณ์ดีขึ้นมาเชียว”
   “อารมณ์ดีห่าไร  เมื่อกี้กูยังฮัมเพลงเศร้าอยู่เลย”
   “อย่างน้อยก็ไม่ทำตัวประหลาด  เอาแต่ร้องหาไอ้พี่วันๆอยู่จนถึงเมื่อกี้ก็แล้วกัน”


   คำนั้นทำให้ผมเงียบไป
   ส่วนมันก็นั่งจิ๊บโค้กชมบรรยากาศ  ประหนึ่งจิบเหล้าเคล้าแสงจันทร์ก็มิปาน


   น่าประหลาดมากที่ไอ้โป๊ยไม่ถามอะไรเซ้าซี้ต่อ  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่กล้ามองหน้ามันอยู่ดี  บางทีมันอาจจะคิดบางอย่างอยู่..แต่ตัดสินใจไม่พูดออกมา  เหมือนเช่นที่มันเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่ามันจะไม่ถามอะไรในเรื่องที่ผมไม่อยากบอก
   ถ้าผมเป็นมัน..บางทีอาจถึงจุดที่อยากจะเลิกคบไปเลยก็ได้…หากเพื่อนมันจะมีความลับมากมายกับเราขนาดนี้ =_=
   สรุปก็คือ..ผมคงเป็นเพื่อนที่ไม่ดีสักเท่าไหร่กระมัง


   ยังไม่ทันที่เราจะต่อบทสนทนากันต่อ  ด้วยเวลาที่ล่วงเลยไปเกือบๆห้าทุ่มแล้ว  ในที่สุดไอ้โป๊ยก็ขยับตัวลุกขึ้นหลังจากที่มันกระดกโค้กจนหมด

   “งั้นกูไปนอนก่อนละกัน  พรุ่งนี้ไปเที่ยวบึงสีไฟกันใช่ป่ะ?”
   “อะ-อื้อ”
   “…แล้วเราต้องกลับไปวัดนครชุมอีกรึเปล่า?”
   ผมชะงัก “เดี๋ยวกูบอกพรุ่งนี้ละกัน  ยังไม่ได้เช็คเลย”
   “เอ้อ”
   “พี่วันบอกว่าเราไปขอแบบจากกรมศิลป์ฯได้แน่ะ  คงช่วยได้เยอะ”
   “อย่างนั้นเหรอ…”
   “เดี๋ยวกลับกรุงเทพฯแล้วลองถามดูแล้วกัน”
   “ไกร”
   “หืม?”

   “มึงไปคุยเรื่องนั้นกับไอ้พี่วันตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ”

   ..ชะงัก..
   “อ้อ…” ผมกลอกตา  รู้สึกลมหายใจตัวเองติดขัดขึ้นมาอย่างเสียมิได้ “สักพักแล้วล่ะ  กูเพิ่งนึกได้”
   มันขมวดคิ้วจ้องหน้าผม “เจรงงงอ่ะ?”
   “จริ๊ง”
   “เสียงสูงเชียวนะมึง”
   “น่าๆ”
   “เออ  งั้น…กูนอนก่อนจริงๆละ” มันว่า  ก้าวเท้าแล้วข้ามธรณีประตูไป..แต่ยังไม่วายหันมาแซว “รีบนอนด้วยนะมึง  อย่ามัวแต่เฝ้าเพ้อถึงผัวอยู่”
   ..ว้อยไอ้สัสนี่ก็แซวจัง..
   แรกทีเดียวผมอยากจะหันไปหยิบอะไรเขวี้ยงมันสักทีสองที  แต่พอหันไปสบตากับมันชั่ววูบนึง  มันยกยิ้มมุมปาก  กลับหลังหันเตรียมจะปิดประตูระเบียงห้อง

   “โป๊ย”

   ไม่รู้ว่าไปเอาน้ำเสียงหงอหงอยแบบนั้นมาจากส่วนไหน  ผมถึงกล้าเรียกมันออกไปแบบนั้น
   แต่อย่างน้อยเจ้าของนามก็หยุด  เพื่อหันมาถาม

   “..มี’ไร?”

   คำพูดของมันทำให้ผมอึกอักไม่น้อย  ด้วยเพราะตัวผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเรียกอีกคนแบบนั้นเพื่ออะไร  แต่เพราะความเงียบและเข็มวินาทีที่เหมือนจะหยุดลงตรงนั้น  ต่างสร้างความกดดันให้ผมต้องเผยอริมฝีปาก  และถามคำถามที่ไม่นึกไม่ฝันที่สุดออกไปก่อน




   “มึงเชื่อเรื่อง…คาถาอาคมรึเปล่าวะ?”





   ..คำถามห่าอะไรวะเนี่ย..
   อย่าว่าแต่มันที่จะงงเต้กเลยครับ  ขนาดผมที่เป็นคนพูดก็ยังงงไม่แพ้กันเลย  ให้ตายเถอะ!

   และปฏิกิริยาที่มันแสดงออกมา…ก็เป็นรูปแบบของคนธรรมดาที่สุดเลยครับ  คือกระพริบตาปริบๆ  มุมปากกระตุกยิ้มช้าๆแล้วค่อยระเบิดหัวเราะคล้ายกับว่าไอ้เรื่องที่ผมเพิ่งพูดไปนั้นเป็นไทยโจ๊กที่ตลกที่สุดในโลก
   “ไอ้สัส!  มึงพูดอะไรอยู่วะเนี่ย!  กูก็หลงคิดไปว่าเรื่องซีเรียส”
   “เออน่า!  แล้วมึงเชื่อป่ะล่ะ?”
   “กูเหรอ?”
   “เออ  มึงนั่นแหละ”
   มันกลอกตา  แสร้งทำเป็นคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง “…กูว่ากูเชื่อนะ”
   “หืมม??”
   “แปลกใจห่าอะไร  ก็ตอบแล้วไงว่ากูเชื่อ”
   “เฮ้ยมึง” ผมขยับตัว  หันไปมองมันดีๆ “กูเอาจริงๆนะ  มึงเชื่อเหรอ?”
   มันพยักหน้าอีกครั้ง “กูเชื่อ”
   “…ทำไม?”
   “บอกว่าเชื่อก็เชื่อสิวะ  ยังจะถามหาเหตุผลห่าอะไรอีก  หรือว่ามึงไม่เชื่อ?” คำถามเชิงหยอกล้อทีเล่นทีจริงแบบนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบที่ชัดเจนหรอกครับ  และมันก็พล่ามต่อ “ไม่รู้ดิ  ถึงเรื่องแบบนั้นกูเคยเห็นแค่ในหนังในนิยายก็เหอะ  แต่ถ้ามันไม่มีเค้าความจริงอยู่บ้าง…คนมันจะอาศัยจินตนาการอย่างเดียวแล้วผลิตมันออกมาได้เหรอ?”
   “…มึงพูดซะเหมือนคนฉลาดเลย”
   “อ้าวไอ้เวร  หลอกด่ากูเหรอเนี่ย?”
   “เปล่าเว้ย”
   “แล้วถามทำไมวะ?”
   “ไม่รู้ดิ” ผมไหวไหล่ “แค่อยากถามมั้ง…”
   มันเงียบไปแปปนึง “หรือว่ามึง..เป็นพ่อมด?”
   “พ่องงงง”
   “นี่กูแค่ถาม  ด่าล่อไปถึงพ่อกูเลยเหรอครับ!?”
   “ไอ้สัส  กูแค่ถามเฉยๆเว้ย” ผมรีบอ้าง “ตอนแรกกูก็คิดว่ากูไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้หรอก  แบบ..มันดูไกลตัวใช่มั้ยล่ะ?  แล้วก็ยังไม่เคยมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์เรื่องพวกนั้นด้วย”
   “ไม่มีหลักฐานก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริงป่ะวะ”
   “…ก็ถูกของมึง”
   “แล้วนี่เราจะถกประเด็นวิชาการตอนห้าทุ่มกันทำอ้อยอะไรวะเนี่ย…”
   “เออๆ  ความผิดกูเองแหละครับ” ผมยกมือ “ไปนอนไปไอ้สัส”
   “ครับๆ  ฝันดีครับคุณ”
   “เออออ”
   “แต่ขอกูหล่อปิดท้ายหน่อย  นิดเดียว”
   มันไม่จบ  และผมเดาะลิ้น  เหลือกตามองหน้ามัน “ว่า?”


   “…โลกเรา…ยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกหลายอย่างที่เราไม่รู้นะ”


   มันว่า  ยักคิ้วกวนส้นตีนหนึ่งที

   “กูเชื่อแบบนั้นว่ะ”




   …ครับ  หล่อเหลือเกินครับไอ้สัส!










+++++++++++++++++++










   “ห๊าววว”
   “แมลงวันบินเข้าได้ทั้งฝูงเลยนะสัส”
   “…ก็กูง่วง”
   “สมน้ำหน้า  กูบอกให้รีบนอนไม่นอนเอง  เอาแต่เพ้อถึงสวามีอยู่นั่นแหละ”
   “ใครบอกว่ากูเพ้อวะ!!”
   “ตอนมึงหลับ  กูได้ยินมึงละเมอเรียก ‘พี่วัน’ ‘พี่วัน’ ‘ไอ้พี่วัน’”

   ฟังดังนั้นผมเกือบหน้าแดงแล้วครับ  หรือว่าตูจะเพ้อคิดถึงมันจริงๆดั่งที่เพื่อนแม่งชอบแซว  ถ้าไม่ติดว่าไอ้โป๊ยเสือกทำหน้าแบบ ‘อุฮิ’ ออกมาซะก่อน

   เลยผลักหัวมันไปที “พ่อง  ตลกเหรอ?”
   “ด่าพ่อกูอีกละ  หยาบคายจริงครับคุณเกรียงไกร”
   “เออ  กูมันหยาบคาย  ชั้นต่ำ  ตูดดำตัวเหม็น”
   “…มึงพูดเองเออเองแล้วนะครับนั่นน่ะ”
   “หุบปากแล้วแดกไปเหอะน่า”


   ผมวางมือถือไว้บนโต๊ะโชว์หรา  เมื่อคืนก็แทบจะเอาแนบติดหูติดเตียงอย่างผิดวิสัย  ได้ยินว่ามือถือจะปล่อยคลื่นรังสิอะไรสักอย่างออกมาที่ไม่ค่อยดีกับร่างกายเท่าไหร่  แต่เมื่อคืนผมก็ยังเอามันวางไว้ข้างๆหมอน  ด้วยคิดว่าถ้า ‘ใครบางคน’ โทรมา…จะได้รับสายได้อย่างทันท่วงที

   และถึงมันจะผิดปกติแค่ไหน  แต่ไอ้เรื่องติดมือถือนี่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่โป๊ยมันไม่ได้ทักอะไร  มันเนี่ยแหละตัวติดมือถือเลยให้ตาย  นั่งจิ้มเกมตลอดเวลาด้วยซ้ำไป


   “เออนี่  ว่าแต่สาวๆเค้าไปไหนวะ?”

   ผมถามพลางหยิบไส้กรอกมาจิ้มซอสมายองเนส  พอเอาเข้าปากปุ๊บเนื้อไส้กรอกก็ดีดปั๊บ  ฉ่ำเนื้อเน้นๆไร้แป้ง  ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยว่าผมกำลังรื่นเริงกับอาหารมื้อเช้าของทางที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้แค่ไหน
   ที่จริงแล้วที่พักที่เราอยู่นั้นไม่มีบริการอาหารมื้อเช้าสำหรับนักท่องเที่ยวหรอกครับ  แต่เพราะที่นี่ไม่ใช่เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาบ่อยนัก  แล้วไอ้โป๊ยมันทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ไปคุยกับป้าเจ้าของโรงแรมจนเราได้รับสิทธิพิเศษ  ต้องขอบคุณอัธยาศรัยของมันสักหน่อยล่ะ(ถึงแม้ว่ามันจะปากเสียไปบ้างก็เหอะ)

   โป๊ยยังกดมือถืออยู่ “ไม่รู้ว่ะ  สาวๆก็งี้ป่ะ…ช้าเป็นพิเศษ”
   “มึงพูดเหมือนรู้จักสาวๆดีนักอย่างงั้นอ่ะ”
   “แม่กูก็เป็น  โอเคยัง?”
   “มุขนั้นกูให้ผ่าน”
   “ไอ้เวรนี่  ไม่ใช่มุข”
   “แต่นี่จะแปดโมงแล้วนะ  เรานัดแปดครึ่งที่รถเลยไม่ใช่เรอะ?”
   คำทักนั้นของผมทำให้โป๊ยเงยหน้าขึ้นมาจนได้  มันหันไปมองรอบๆห้องอาหารครั้งหนึ่ง  แล้วหันกลับมา “เลทนิดเลทหน่อยไม่เป็นไรมั้ง  มากันเอง  สบายๆน่า”
   “เลทน่ะกูไม่ว่าหรอก  กูกลัวมีแอคซิเดนท์”
   “แอคซิเดนท์อะไร?”
   “จะไปรู้เหรอ”
   “อย่ากังวลไป  เดี๋ยวก็มาน่า”
   “ไม่ได้กังวลอะไรว้อย  แค่ถามๆ”
   อีกฝ่ายโบกไม้โบกมือ “แดกได้แล้วมึง  ขนมปังเย็นหมดแล้ว”
   “มึงก็เอาแต่สไลด์มือถืออ่ะ  แดกได้แล้ว”
   “วัยสะรุ่นว้อย”

   ผมจิ๊ปาก  นึกอยากจะหาคำด่าอะไรสักคำออกมาพ่นใส่หน้าอีกคนสักตั้ง  แต่จังหวะนั้นเองที่ใครสักคนวิ่งเข้าห้องอาหารมาอย่างกระหืดกระหอบ  เรียกให้สายตาผมจับจ้องอยู่นานก่อนจะโบกมือเรียกคนๆนั้นให้เดินเข้ามาที่โต๊ะ


   “โม  โม!  ทางนี้”

   เจ้าของนามโคลงศีรษะไปรอบๆร้านจนเจอผม  เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาอย่างโซซัดโซเซ  มันทำให้ผมเอะใจไม่น้อยทีเดียว
   และโป๊ยที่นั่งหันหลังให้ประตู  ถึงได้ตัดสินใจหันกลับไป
   “..?  อะไรวะโม?  หน้าซีดเป็นไก่ต้มเชียว”

   “ไกร…โป๊ย…”
   แตงโมมองหน้าผม  มือเล็กๆของเธอที่กำมือถือตัวเองแน่นอยู่นั้นสั่นระริก..พร้อมๆกับประกายไหววูบในดวงตา  ที่คล้ายกับความรู้สึกที่มากกว่าความกลัว
   มันทำให้พวกผมมองหน้ากัน  ก่อนที่อีกฝ่ายจะระล่ำระลัก
   “แก้ว…แก้ว…”
   ผมจับมือสั่นเทาคู่นั้น  ก่อนที่ตัวเองเนี่ยแหละจะตกใจไปด้วยกัน “ใจเย็นๆสิแตงโม”
   “คือแก้ว…”
   “แก้วทำไม?  แก้วเป็นอะไร?”



   “เรา--เราไม่รู้เหมือนกัน  ตื่นมาเราก็ไม่เจอแล้ว…โทรศัพท์กระเป๋าตังค์ก็ไม่ได้เอาไป  เราเดินหาแถวนี้แล้วก็ยังไม่เจอ…”

   เธอเว้นจังหวะ  หอบหายใจ





   “แก้วหายไป”










+++++++++++++++++++










   ที่จริงพวกเราก็เรียนกว่าเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
   แต่ตอนที่ทราบเรื่องดังกล่าว  บอกได้เลยว่าผมไม่รู้เลย  ว่าคนที่เขาบรรลุนิตภาวะแล้วจริงๆเขาจะทำอะไรในตอนนี้


   “แจ้งความมั้ย?”
   “จะได้เหรอ  ยังไม่ถึง24ชั่วโมงเลยนะ”
   “ช่างหัวกฏมันเถอะ  นี่เรามาต่างบ้านต่างเมืองนะ..เค้าต้องยกเว้นให้บ้างแหละ”
   “แล้ว..แล้วถ้าตำรวจไม่รับล่ะ?”
   “ก็ลองถามคนแถวนี้ดูก่อน”
   “เราวิ่งไปถามมาหมดแล้วแก  เราหาไม่เจอเลย”
   “แม่งเอ้ย”
   “ฮือ..บ้าจริง  แก้วไปไหนของแก้วนะ  ถ้าเจอเราจะตีให้ตาย”
   “อย่าเพิ่งร้องสิวะโม”
   “เราเครียดอ่ะแก  โอ้ย” เธอยกมือเช็ดข้างแก้มตัวเอง “ทำไงดีอ่ะ?  หรือแก้วจะไปไหนแล้วไม่บอกเรา  พวกเราจะทำยังไงดีอ่ะโป๊ย”
   “แกก็อย่าร้องสิวะ  ใจเย็นๆ  เพื่อนพ่อฉันเป็นนายตำรวจใหญ่..น่าจะพอทำอะไรได้….”


   “เดี๋ยว!”
   ผมรีบขัดขึ้นก่อนที่ไอ้โป๊ยมันจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก  นึกไม่ถึงเลยว่าเพื่อนรักคนนี้จะเป็นพวกใจเร็วด่วนได้ขนาดนี้

   “พวกมึง…ก่อนอื่นตั้งสติกันไว้ก่อนนะ  อย่าลนลานเกินกว่าเหตุ”



   “ก็กำลังตั้งสติอยู่นี่ไงวะ  แล้วเอาไงอ่ะ”
   “ถ้าแก้วเป็นอะไรไปล่ะ?  ถ้าโดนจับไปล่ะ?  ถ้าโดน…โอ้ย  ยัยนั่นยิ่งหน้าตาดีๆตัวเล็กๆอยู่  จะมีเรี่ยวแรงไปสู่กับโจรที่ไหนได้”

   “มึงไปกันใหญ่แล้วแตงโม  พวกมึงอย่าพากันแพนิคดิวะ” ผมลุกขึ้น  เข็นเก้าอี้ให้แตงโมมานั่งข้างๆฝั่งตัวเอง “คลามดาวน์ครับเพื่อนๆ  เราต้องไม่มองโลกในแง่ร้าย  รวบรวมสติสักแปปนะ  ทำตามกู…สูดลมหายใจเข้า  ผ่อนลมหายใจออก..”

   แตงโมทิ้งตัวลงนั่ง  แล้วทำตามที่ผมบอก
   ในขณะที่โป๊ยหน้าแหย “มึงทำเหี้ยไรเนี่ย  เพื่อนหายไปทั้งคนนะเว้ย”
   “กูก็กำลังทำสิ่งที่คนสติดีๆเค้าทำกันยังไงวะ  เอ้าไอ้สัสนี่  คิดว่ากูไม่ห่วงแก้วรึไง…เพื่อนกูเหมือนกันว้อย”
   นั่นเป็นความจริงที่โป๊ยปฏิเสธไม่ได้
   และเมื่อมันไม่เถียง  ผมเลยตีโต๊ะสองครั้ง  จ้องหน้าไอ้โป๊ยนิ่งจนมันยอมหลบตา  แล้วสูดลมหายใจเข้าออกแบบที่ผมเพิ่งบอกไปเมื่อครู่  ถึงค่อยหันมาหาแตงโม
   “โม  ใจเย็นๆแล้วตอบคำถามกูก่อนนะ  แก้วหายไปตอนไหนรู้มั้ย?”
   อีกฝ่ายส่ายหน้า “เราไม่รู้  ตื่นมาเราก็ไม่เจอแล้ว…เราก็นึกว่าแก้วไปเดินเล่น”
   “แล้วไงต่อ?”
   “เราก็อาบน้ำ  ออกมาก็ยังไม่เห็นแก้วกลับมา…เลยลองโทรหาว่าจะฝากซื้อขนม  ปรากฏว่า…” เสียงโมขาดหายไปนิดหน่อย  เธอพยายามกลั้นน้ำตาจนจมูกแดง “มือถือแก้วอยู่ในกระเป๋า  แถมยังไม่ได้เอากระเป๋าเงินไปอีก  ตอนแรกเราก็นึกว่าไปห้องพวกแก..ก็เลยไปหา  แต่พวกแกลงมากินข้าวกันแล้ว  เราก็เลยลองวิ่งหาดูรอบๆแถวนี้…ก็ยัง…ไม่เจอ…จนถึงตอนนี้”
   “มองโลกในแง่บวกไว้ก่อน…” ผมพยักหน้า “บางทีแก้วอาจจะไปเดินเล่นไกลหน่อยก็ได้”
   “แล้วไม่ได้เอากระเป๋าตังค์ไปเนี่ยนะ!?”
   “อาจจะแค่เดินเล่นไง”
   “ต่อไปให้เดินเล่นก็เหอะ  อย่างน้อยก็น่าจะบอกเราไว้ก่อนป่ะ?  แบบนี้มันไม่ใช่อ่ะ”
   “นั่นดิ  แล้วป่านนี้ยังไม่กลับ…ถึงยังไงก็น่าจะรู้นะว่าพวกเราจะเป็นห่วง”
   “ใช่  โตๆกันแล้วนะเว้ย”

   “โอ้ยพวกมึง  ยิ่งพูดยิ่งแย่ว่ะ  พวกมึงสงบสติอารมณ์ลงก่อนแปปนึงได้ป่ะเนี่ย” ผมขมวดคิ้ว  ในอกก็ร้อนรนไม่ต่างกันมากนัก “เอางี้  เดี๋ยวกูกับโป๊ยจะออกไปหาอีกรอบ  แกนั่งรอนี่ก่อน  ถ้าแก้วกลับเข้ามาก็โทรหาพวกกู”


   พวกมันมองหน้ากัน  และไม่มีใครเถียงผม
   ..โคตรโชคดีเลยครับ..


   ผมนึกขอบคุณสันดานที่แก้ไม่หายนี้ของตัวเอง  ไอ้เรื่องที่ว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็สามารถยอมรับมันได้อย่างสบายๆเนี่ยแหละ
   ที่จริงผมก็แอบคิดตามที่โป๊ยกับแตงโมมันใส่ไฟกันเข้ามาเหมือนกันครับ  แก้วเป็นเด็กสาวหน้าตาดี(ชนิดที่ว่าผมเคยแอบชอบก็แล้วกัน)  แถมยังตัวเล็กบอบบาง  เป็นสไตล์ที่พวกอาชญากรชอบนักแล  แต่ผมพยายามไม่คิดแบบนั้น
   ..น่าแปลกนะ..ทั้งที่ตอนเป็นเรื่องไอ้พี่วัน…ผมกลับกระวนกระวายแทบเป็นแทบตาย..
   อย่างน้อยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นนี้ก็ยังไม่เรียกว่า ‘คอขาดบาดตาย’ แบบตอนเห็นจระเข้สู้กันในแม่น้ำเจ้าพระยาก็แล้วกัน


   เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นที่ผมวิ่งออกไปด้านนอกที่พักแล้วกลับมามือเปล่า
   ด้วยบริเวณนี้อยู่ในอำเภอเมือง  ทั้งตึกแถวตลาดนัดผู้คนจึงคราคร่ำกว่านอกเมืองมาก  แต่ก็ไม่ได้แออัดเหมือนในกรุงเทพ  รถราก็ยังสามารถวิ่งได้ฉิวๆ  แต่ร้านรวงก็ยังเปิดให้บริการ  ไม่จัดว่าเป็นพื้นที่เปลี่ยวเลยสักนิด

   ผมหยิบมือถือเปิดรูปแก้วแล้วคอยถามไปตลอดทาง  และแม้ว่าแก้วจะหน้าตาดี  ก็ไม่ได้หมายความว่าใครต่อใครจะจำเธอได้  พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ


   ผมกลับไปหาแตงโมก่อนไอ้โป๊ยราวๆสิบนาที
   เพื่อนรักผมกลับมาทั้งเหงื่อชุ่มหลัง  ท่าทางมันกระวนกระวายกว่าผมมากจนผิดสังเกต  มันหอบใหญ่  เดินกลับไปคุยกับคุณป้าเจ้าของที่พักโดยไม่หยุดพักสักนิด
   พอผมหันมามองหน้าแตงโม  เธอทำท่าคล้ายจะร้องไห้อีกรอบแต่กลั้นมันไว้
   “ใจเย็นๆโม” ผมบอก “แก้วไม่เป็นอะไรหรอก”
    ..ทั้งที่ใจตัวเองก็ร้อนรนไม่น้อยทีเดียว..
   อีกคนพยักหน้า  เธอดูพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเชื่อคำพูดของผม

   พวกเรากลับมานั่งเงียบๆกันสามคนอีกครั้ง  และรอเวลา


   คุณป้าเจ้าของที่พักก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ครับ  เธอโทรหานายตำรวจที่รู้จักให้คอยดูให้หน่อย  แถมยังชงโกโก้ร้อนมาให้พวกผมสามคนกินอีก  ซึ่งมีผมเนี่ยแหละที่จิบไปจิบเดียว  คนที่เหลือเอาแต่นั่งสั่นขามองไปมองมาราวกับจะเสกให้แก้วงอกขึ้นมาจากกำแพงได้ก็มิปาน



   จนกระทั่งนาฬิกาเหนือชั้นลอยบอกเวลาเก้าโมงตรง  โป๊ยถึงได้ลุกอีกครั้ง
   “เดี๋ยวกูออกไปดูอีกรอบ  จะรีบกลับมา”

   ผมอยากจะคัดค้านมัน  แต่ท่าทางมันเหมือนมีใครเอาหินร้อนมายัดใส่กางเกงใน  ให้ต้องขยับกายผุดลุกผุดนั่งตลอดเวลา  เลยต้องปล่อยๆมันไปให้ทำอะไรที่มันต้องการ

   “ไกร..”
   “หืม?”
   “ถ้าแก้วไม่กลับมา…เรา…เราจะทำยังไงกันดี..?”
   “ไม่โม  อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นสิ”
   “เราจะบอกพ่อแม่แก้วยังไง…?”
   ผมสูดลมหายใจ  รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวตามเธออย่างช่วยไม่ได้ “อย่าคิดแบบนั้น  อย่า  เราต้องเชื่อก่อนสิว่าแก้วจะกลับมาน่ะ”
   “ไกรคิดแบบนั้นเหรอ?”
   “ใช่”

   “คิด…จริงๆเหรอ?”


   คำถามนั้นเหมือนจะคาดคั้นหาเหตุผล  บางทีแตงโมคงอยากรู้ว่าทำไมผมถึงใจเย็นได้มากขนาดนี้เสียมากกว่า  ทั้งที่จริงผมเองก็ใจเสียกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อย  หนึ่งคือแก้วหายไปโดยไม่บอกใคร  และสองคือเราติดต่อกับแก้วไม่ได้


   “ใช่  เราเชื่อแบบนั้น”
   ผมตอบ  ไม่คิดว่ามันเป็นคำตอบที่สวยงามอะไรเท่าไหร่
   “แก้วต้องปลอดภัย”

   และไม่ว่าจะยังไง  แตงโมก็พยักหน้าให้ผมในท้ายที่สุด  แล้วยกแก้วโกโก้ที่เย็นชืดแล้วแก้วนั้นขึ้นมาดื่มจนหมดรวดเดียวเหมือนฝืนใจ



   ครึ่งชั่วโมงถัดมา  โป๊ยก็เดินเข้ามา

   มันเดินตรงมาหาพวกเรา  ลากเก้าอี้แล้วทิ้งตัวลงนั่งด้วยท่าทางหมดแรงอย่างถึงที่สุด  ผมเอื้อมมือไปตบไหล่มัน  อยากจะพูดปลอบอะไรสักอย่างเหมือนที่พูดกับแตงโม
   แต่อีกคนดันชิงพูดขึ้นมาก่อน
   “กูพอเข้าใจความรู้สึกของมึง…ตอนที่พี่วันเค้าหายไปแล้วว่ะ”
   พอเห็นท่าทางของมันเช่นนั้นผมก็พูดไม่ออก  เพราะผมรู้ว่าตอนที่ผมเป็นมันคงแย่กว่านั้นมาก




   …เวลาที่คนสำคัญของเรา…หายไป….






   ทันใดนั้นเองมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็แผดร้องลั่นขึ้นมา  พวกเราสะดุ้งด้วยกันทั้งหมด  มันเป็นมือถือของผม..ที่ขึ้นโชว์เบอร์แปลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
   ผมมองหน้าพวกเขาทั้งสอง  และตัดสินใจหยิบมันขึ้นมากดรับ
   ปิ๊บ
   “ฮัลโหล  สวัสดีครับ”
   ((ครับ  สวัสดีครับ))


   ปลายสายส่งคำทักทายกลับมานุ่มละมุน  ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้อะไรบางอย่างในอกผลิบานออก  คล้ายกับว่าทำนบความแข็งแกร่งและใจเย็นที่ผมมีมาตลอดชั่วโมงกว่านี้ได้ระเบิดตูมพังทลายลง  ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเขา…

   ผมกลืนน้ำลาย  รู้สึกหายใจไม่ค่อยออกเท่าไหร่นัก





   “ไอ้พี่วัน…”









TBC




======================





โค้งสุดท้ายยยยยยยยยย  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
จะจบแล้วค่าาา(ถ้าไม่ดอง....) ออกมาอวยพรกันหน่อยเรเร้ววววว



ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ


ozakaoxygenz*






 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:



ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
กรี๊ดคะะะะ
แวะเข้ามาส่อง ได้อ่านพอดี
อร๊ายๆๆ เป็นกำลังใจให้คะ!

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
อ๊ากกกกก อะไรกันเนี่ยยยย

ออฟไลน์ Grouy

  • “I Will Protect You”
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
กรี๊ดดดดดดด ระทึก :katai1: :katai1:...แก้วอยู่กับพี่วันรึเปล่า  :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
แก้วไปไหนนนน  ต้องมีซัมติงรองสำหรับที่พี่วันโทรมาแน่ๆ =_=

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
แก้วอยู่กับพี่วันแน่ๆเลย...

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แก้วคงไปหาพี่วันเหมือนกันสินะ
แล้วจะจบยังไงหนอ หนี้แค้นของเหล่าจระเข้จะจบลงหรือเปล่า

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ใกล้จะเข้าเส้นชัยแล้วววว
นักกีฬา ozaka สู้ๆๆๆ
เหรียญทองใกล้จะได้มาแล้วววววว
พยายามเพื่อประเทศไทยของเรา
อ้าวไม่ใช่ ช่วงนี้เชียร์ติดพันไปหน่อย

จะเฝ้ารอตอนต่อไปอย่างใจจรดใจจ่อค่ะ
กระหน้่าบวกไม่ยั้ง  :กอด1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พอรู้ว่าแก้วหายไป เบนคิดถึงพี่วันเป็นคนแรกเลยนะ หรือว่าไปหาพี่วัน แล้วแก้วจะรู้ได้ยังไง แต่มันก็เหมือนหายไปเฉยๆปะ แล้วยิ่งพี่วันโทรมาอีกยิ่งสงสัย เป็นห่วงแก้วนะ แต่ห่วงไกร มากกว่า ไม่รู้สิ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไม่ใช่ทำเรื่องอีกนะยายแก้วเนี่ย

ออฟไลน์ jungjiyoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ยังไม่ให้โจบบบบบบกร๊ากกกกกกกกก
อยากเห็นน้องไกรมีอาคมอ้ะ อยากเห็นไซดฺสตอรี่มาลาด้วยยยยยย รักคนเขียนจุ๊บบบบ

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
แก้วไปไหน ไปหาพี่วันรึเปล่า

ออฟไลน์ 28016

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ประเด็นวรรณายังไม่เคลียร์ก็มีเรื่องแก้วหายมาต่อเลย
มันจะเกี่ยวอะไรกันมั้ยน่ะ :katai1:
แต่ทำไมแก้วหาย หายเองหรือโดนฉุด หรือไปบุกรังจระเข้ตามไกร
พี่วันโทรมาถูกจังหวะมาก มันชวนให้สงสัยว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวกับจระเข้...
ปล. โค้งสุดท้ายแล้ว ถ้ารวมเล่มจะรอเก็บนะคะ

ออฟไลน์ AvvyLady

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
วรรณาก็ไม่รู้อยู่ไหน แก้วก็หายไปอีก .__.
หมั่นไส้ไอ้พี่วัน ไม่เข้าใจอารมณ์มนุษย์บ้างเลย
แก้วคงไม่ได้อยู่กับพี่แกหรอกนะ ใช่มั้ยยยย

ออฟไลน์ zvonek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่วันมาช่วยน้องไกรแก้ปัญหาที โฮก

แก้วมีเงื่ินงำตลอดเลย เรื่องที่เกิดนี่น่าจะเกี่ยวกับวรรณาที่หายไปหรือเปล่านะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
โอยยยยยยแม่เจ้า ลุ้นระทึกแท้ล่าาาา
ค้างงงงงอย่างแรงงงงงงง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หายไปหาไอ้พี่วันหรือเปล่า

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
บีบหัวใจกับประโยคสุดท้าย"ไอ้พี่วัน"


รอ รอ รอ

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
ไอ้พี่วันกลับมาแล้ว...แล้วแก้วหายไปไหนเนี่ย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กรี๊ดดดดดดดด จะให้เค้าหวีดให้พ้นตอนก็ไม่ดร๊ายยยยยย :katai1:
งานงอกอะเกนนนนนน รึวรรณาจับไป เจ๊แกไปปราบจระเข้เอง...
อืมมม รอออออออออ :z3:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เย่ๆๆ จะจบแล้วๆ

ออฟไลน์ Buppha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
    • https://m.facebook.com/buppha.manisaeng?refid=13
 :mew1: อวยพรให้มาต่อไวๆ ขอให้จบแบบแฮ๊ปปี้ ขอเอ็นซีเริ่ดๆตอนท้าย อยากให้ไกรพาพี่วันไปเปิดตัวกับที่บ้าน และให้พี่วันพาไกรไปเปิดตัวกับปู่ด้วย ขอฉากพี่ไกร กับคุณพี่วันที่กลายร่างเป็นจระเข้ด้วย ขอให้วรรณาตาย 55555  (ถ้ามึงจะขอเยอะแบบนี้ไปแต่งเองดีมั้ย เอิิกๆๆๆๆ) ชอบมากๆเลยค่ะเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอตอนพิเศษเยอะๆนะค๊าาาาาา :impress2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ความวรรณายังไม่ทันหาย
ความแก้วเข้ามาแทรก
อะไรจะมีแต่เรื่องงงงง โอ๊ยพี่วันกว่าจะโทรมาได้นะ

ออฟไลน์ dear77

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :z3: จะจบแล้วเหรอออออ TT จะลงเอ่ยยังไง โอ๊ยเครียด

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
เมื่อไหร่จะคลี่คลายและได้อยู่ด้วยกันสักทีนะ  :ling1: แต่ไม่ได้อยากให้จบเร็วนะ อยากให้หวานๆๆๆๆกันอีกหลายๆตอนบ้าง ชดเชยเวลาที่ผ่านมา :กอด1:  มีปมมาให้ลุ้นอีกแล้ว แอบคิดว่า ท่านอาพันวัง ยังอยู่นะ ไม่น่าตายง่ายๆ ยังไม่ได้เฉลยปมเลยได้ยังไง อาจจะเป็นวรรณาที่ช่วยไว้ เดาไว้ก่อน  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด