[ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep28-END] 30/3/57
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep28-END] 30/3/57  (อ่าน 67211 ครั้ง)

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2014 00:14:35 โดย candynosugar+ »

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil
«ตอบ #1 เมื่อ07-01-2014 23:16:57 »

1

            “ป่านหรือเปล่า?”
            เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลังของผม ผมวางโทรศัพท์พลางหันไปมองผู้ชายร่างสูงที่คุ้นหน้าด้านหลัง ดวงตาสีดำสนิท กลุ่มผมสีดำสนิท ริมฝีปากที่ออกคล้ำบ่งบอกถึงการสูบบุหรี่จัดอย่างหนัก แถมยังผิวที่ขาวในระดับหนึ่ง มองใกล้ๆยอมรับว่ามันมีเสน่ห์ … ใช่
            มีเสน่ห์จนใครๆก็อยากเข้าใกล้
            แต่มองอีกมุมก็มีแต่ความมืดดำ
            “อืม”
            “ผมนาที … ขอพูดมึงกูจะว่าอะไรมั้ย?”
            ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
            “อยากพูดไรก็พูดเหอะ”
            “โอเค”
            นาทีเดินนำหน้าผมไปยังร้านอาหารชื่อดังภายในห้างแห่งหนึ่ง พร้อมกับจัดการทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเองเหมือนจะบ่งบอกว่ามันเป็นคนมีอำนาจในย่านนี้ ผมไม่แปลกใจ กลับนิ่งและดูท่าทีของมันไปเรื่อยๆ
            “นั่งก่อนสิ” ร่างสูงผายมืออย่างสุภาพ แต่ผมรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่สิ่งเสแสร้ง ผมนั่งลงที่โซฟาด้านใน ก่อนนาทีจะนั่งลงตรงกันข้าม
            “ตอนแรกนึกว่าพวกไอ้พีทจะนัดคนน่ารักๆมาให้ซะอีก” ไอ้นาทีพึมพำ ผมยิ้มเจื่อนๆ
            “ถ้าไม่พอใจผมไปก็ได้นะ”
            ผมว่าก่อนจะพาตัวเองลุกขึ้นเล็กน้อย มือของมันตะปบลงที่แขนของผมเพื่อห้าม ก่อนจะส่ายหน้าส่งสายตาดุๆมาให้ ผมร้องหึในลำคอพลางทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม
            “ขี้น้อยใจเหรอครับ?”
            “ก็พอตัว” หึ เวรล่ะ อยากจะอ้วกกับคำพูดของตัวเองจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่คำพูดแค่นี้จะทำให้ไอ้เวรนาทีถึงกับยกยิ้มมุมปากอย่างหยั่งเชิง มือของมันถูกสวมเข้าหากันพลางยกขึ้นมาท้าวคาง สายตาที่สอดส่องไปทั่วร่างกายผมราวกับพวกเหยี่ยวที่จ้องเหยื่อของมันทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัว
            การโดนเพศเดียวกันมาจ้อง แล้วจ้องแบบจะเขมือบกูเข้าไปทั้งตัวแบบนี้
            แม่งไม่ใช่ความคิดที่ดีจริงๆ
            แต่ข่มใจไว้ไอ้ป่าน … มีทางนี้ทางเดียวที่จะเข้าหามันได้ …
            ใช่…
            ผมนัดบอดกับไอ้นาที นัดผ่านเพื่อนของมันที่ชื่อพีท มันไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร ผมอยู่คนละโรงเรียนกับมัน ผมเป็นเพียงคนธรรมดาในโรงเรียน ในขณะที่มันเป็นถึงเพลย์บอยตัวพ่อที่ใครๆต่างก็รู้จัก
            แต่ก็ยากที่จะจับตัว
            ไอ้นาทีมันไม่ใช่คนเปิดกว้างเหมือนคนอื่น มันไม่เข้าหาใคร รอแต่คนเข้าหา มันยอมรับตั้งแต่ตอนมัธยมต้นว่ามันเป็นไบ คั่วได้ทั้งหญิงและชาย และในเมื่อมันยอมรับสถานะนั้น ในสถานะเพลย์บอยตัวพ่อที่เข้าหายากเป็นที่หนึ่ง
            มันเลยมีพ่อสื่อที่ชื่อว่า พีท
            ไอ้พีทเป็นคนที่คอยนัดคนที่น่าสนใจ หรือคนที่ต้องการขายร่างกายให้ไอ้นาที
            น่าขยะแขยงชะมัด
            และที่ผมจำเป็นต้องทำเรื่องน่าขยะแขยงพวกนี้ …
            ก็เพราะ…
 
            สองอาทิตย์ที่แล้ว
            “ป่านน”
            สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มวิ่งขึ้นมานั่งบนเตียงนอนภายในห้องผม เธอชื่อน้องหญิง อายุ 17 ปี เธอเป็นสาวน้อยน่ารักที่ได้ชื่อว่าเป็นตุ๊กตาของใครหลายๆคน แต่ผมเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เข้าใกล้เธอแบบถึงเนื้อถึงตัว หลายๆคนอิจฉาผมและจั่วหัวว่าผมเป็นศัตรู
            น้องหญิงขึ้นมานั่งคร่อมตัวผมเหมือนทุกครั้ง ผมละสายตาออกจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ก่อนจะผลักตัวร่างเล็กให้นั่งดีๆ เป็นสาวเป็นนางมานั่งคร่อมตัวผู้ชายมันไม่ดี
            “หืม ว่าไง?”
            “หืม ว่าไง! ป่านนะป่าน หญิงอุตส่าห์รีบกลับจากโรงเรียนมาหาเลยนะ!” เจ้าตัวยิ้มร่า อมลมพองจนแก้มป่อง ผมหัวเราะกับความไร้เดียงสานั้น ก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้หัวยุ่งๆของเธอเล็กน้อย
            หญิงยิ้มแก้มปริแล้วยื่นกระดาษบางอย่างให้ผม เธอดูลุกลี้ลุกลนมากเป็นพิเศษ ผมลากเก้าอี้มานั่งที่ปลายเตียงก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู แค่เพียงเห็นรูปที่อยู่บนกระดาษนั่น
            ผมก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน…
            “ป่านรู้จักใช่มั้ย อยู่ข้างโรงเรียนป่านอ่ะ!!” น้องหญิงกระโดดโหยงเหยงไปมา แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเลย
            ผมใส่ใจว่า … เธอเอารูปภาพพวกนี้มาทำไม
            “ไม่นี่ … ใครเหรอ?” ผมแกล้งถามออกไปแบบนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าใครคือคนที่อยู่ในรูป
            “อ้าว! ป่านไม่รู้จักเหรอ? นาทีไงนาที เขาบอกว่ากำลังฮอตสุดๆเลยนะตอนนี้!”
            … ผมได้แต่นั่งนิ่ง
            “หญิงชอบเหรอ…”
หวังว่าคำตอบจะออกมาเป็น ไม่…
            “ใช่ หญิงอยากเป็นเจ้าหญิงของเขา! ป่านช่วยหญิงหน่อยได้มั้ย!!!” ผมเบิกตากว้างกับสิ่งที่ร่างเล็กพูดออกมา ก่อนจะมองน้องหญิงอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
            “ทำไมถึงชอบมันล่ะ…”
            “ไม่รู้ดิ … แต่เขาน่ารักดีนะ หล่อด้วย! หญิงชอบผู้ชายลุคแบบนี้แหละ…”
            ไม่หรอก …
            ไม่ …
            แล้วความรักที่ผมมอบให้เธอมาตลอดสิบกว่าปีล่ะ ความรักระหว่างเพื่อนที่ผมสร้างขึ้นมา ความรักที่คอยปกป้องไม่ให้ร่างเล็กเจอกับอันตราย … แต่ทำไม ทำไมกัน
            “มันเป็นคนไม่ดีนะหญิง” ผมพูดขึ้น น้องหญิงเลิกคิ้วสงสัย
            “ไหนป่านบอกไม่รู้จักเขาไง”
            “!!!”
            ผมกรอกตาไปมา ก่อนจะบีบกระดาษในมือแน่น
            “ป่านพึ่งนึกออกตอนหญิงบอกชื่อน่ะ…”
            “อ่อ ทำไมถึงไม่ดีล่ะ เพื่อนๆหญิงยังบอกเลยว่าเขาเนี่ยสุภาพบุรุษสุดๆเลยนะ!”
            สุภาพบุรุษงั้นเหรอ … ไร้สาระสิ้นดี
            มันก็แค่สร้างภาพ
            “ป่านว่าหญิงอย่าไปยุ่งกับมันเลย”
            “ทำไมป่านพูดแบบนั้นล่ะ! ป่านไม่รักหญิงเหรอ!!!” ผมสะอึกกับสิ่งที่น้องหญิงพูดออกมา จากมือที่กำลังจะขยำกระดาษในมือ ถูกเปลี่ยนเป็นคลายออก
            “รักสิ…”
            “งั้นป่านก็ช่วยหญิงสิ!!! ทำให้นาทีเป็นของหญิง!!!!”
            “ขอร้องนะป่านนะ หญิงชอบเขาจริงๆ…”
 
            มือสากๆเลื่อนมาจับมือของผมเอาไว้ ในฐานะผู้แสดงละครที่ดีผมจำต้องนั่งนิ่งให้มันจับต่อไป แม้สีหน้าจะไม่ได้แสดงความรังเกียจออกไปมากมาย แต่ในใจผมกลับอยากจะอ้วกออกมาให้รู้แล้วรู้รอด
            “แปลกนะ … ปกติกูจะเจอแต่คนที่คลั่งไคล้กู … ไม่มีสักคนหรอกที่ครั้งแรกจะพาเข้าร้านอาหารแบบนี้” ผมชะงักกึกกับคำพูดของไอ้นาที พลางเงยหน้าสบตามองดวงตาที่กำลังจับผิดของมัน
            ผมพลาดอะไรไปงั้นเหรอ
            “แล้วปกติไปที่ไหนกันล่ะ?”
            “ม่านรูด”
            “!!!!!”
            “เวลาจะอยู่กับกูน่ะมันมีน้อย … รู้ใช่มั้ยว่ากูเป็นคนขี้เบื่อ … ถ้ากูเบื่อ มึงก็ไร้ค่า” ไอ้นาทีพูดออกมาอย่างไม่อายปาก ผมกัดฟันกรอดก่อนจะมองหน้ามัน
            “แย่หน่อยนะ … ที่กูจะเป็นคนแรกที่มึงจะไม่มีวันเบื่อ”
            มึงจะต้องอยู่กับกูไปอีกนานเชียวล่ะ
            นาที!!!!


           *

            “ป่าน!! ทางนี้เว้ย!”
            ผมวิ่งไปหาเจ้าของมือที่โชว์ขึ้นเหนือหัว ไอ้ฟ้านั่งอยู่กับเพื่อนๆใต้ต้นไม้ของโรงเรียน ผมลดความเร็วกลายเป็นวิ่งเหยาะๆก่อนจะวางกระเป๋าลงที่ม้าหินที่ประจำ
            “ไง”
            “มึงชอบทักเพื่อนแบบนี้ตลอดเลยนะไอ้ห่า ไม่มีคำอื่นที่ดีกว่านี้แล้วหรือไงวะ” ไอ้ฟ้าบ่นอุบ แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร
            ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับสิ่งรอบตัวมากนัก ช่วงนี้ผมกำลังเครียดๆเรื่องน้องหญิง เพราะพอน้องหญิงย้ายโรงเรียนไป ปกติจากที่เธอเป็นคนเรียบร้อย เธอดูเปิดเผยขึ้นมากช่วงนี้
            “เฮ้ยป่าน” ไอ้ฟ้าเรียกผม ก่อนจะกระเถิบเข้ามานั่งซะชิด ผมหันไปทำหน้าเอือมใส่มัน
            “มาแย่งอากาศกูหายใจทำไม ที่มีเยอะแยะ”
            “โหยไอ้แมว กูจะถามมึงว่า มึงเอาจริงเหรอวะเรื่องไอ้นาที” ไอ้ฟ้าเปลี่ยนวอลุ่มเป็นกระซิบกับผมเมื่อพูดถึงชื่อไอ้นาที แม้จะอยู่คนละโรงเรียน แต่ขอบอกเลยว่าไอ้นาทีมันก็ไม่ชอบให้ใครซุบซิบนินทามันเท่าไร
            สายมันก็เยอะอยู่นะ
            “เอาจริง เมื่อวานกูไปเจอมันมาแล้ว…”
            “เฮ้ย!!!”
            “จะเสียงดังทำซากไรวะ อยากให้คนรู้หรือไงว่ากูเป็นคู่นัดบอดของมันน่ะ”
            “จริงเหรอวะ? ไมมึงไม่บอกกู” ไอ้ฟ้าทำหน้าเสียดาย ผมเลยซัดมันไปหมัด
            “เรื่องของกู บอกมึงเพื่อ?”
            “มึงคิดว่าทำแบบนี้แล้วน้องหญิงจะหันมาสนใจมึงเหรอวะ?” สิ่งที่ไอ้ฟ้าพูดทำให้ผมชะงักกึก ผมวางโทรศัพท์ในมือลง ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ฟ้าที่กอดคอผมไว้อยู่
            “ไม่ว่ะ”
            ใช่ … ต่อให้ผมตายแทนหญิง หญิงก็ไม่แม้แต่จะชายตามองผม
            “แล้วมึงจะยอมเสี่ยงเหรอวะไอ้ป่าน มึงก็รู้ไอ้นาทีมัน…”
            “ถ้ามันจะทำให้น้องหญิงรู้ว่าไอ้เวรนั่นมันสารเลวขนาดไหนล่ะก็ … ต่อให้ไอ้นาทีเป็นฆาตกรฆ่าคนร้อยศพ กูก็ยอมเสี่ยง”
            แล้วก็ใช่อีก … เพราะต่อให้น้องหญิงไม่สนใจ แต่ผมก็มีหน้าที่ต้องปกป้อง
            “มึงลงทุนเกินไปแล้วป่าน กูเป็นห่วงนะไอ้สัด” ไอ้ฟ้าตบหัวผมเบาๆ
            “ขนลุกว่ะ” ผมพูดเชิงเล่นๆออกไป ก่อนจะหันไปหัวเราะปกติกับไอ้ฟ้า ทั้งๆที่ในใจผมไม่ได้หัวเราะไปด้วยเลย
            เมื่อวานหลังจากที่กินข้าวกับไอ้นาทีเสร็จ ผมก็ต้องแกล้งว่ามีธุระต่อ ไม่งั้นป่านนี้แม่งเสียประตูให้มันไปแล้ว ใครจะไปนึกล่ะว่าทุกคนที่เคยนัดบอร์ดกับไอ้นาที เสร็จมันแล้วทั้งนั้น แล้วพอแม่งเบื่อ ไอ้เวรนั่นก็เขี่ยทิ้งเหมือนขยะ
            โคตรเลว
            “แล้วมึงจะเอาไงต่อ?”
            “นี่ไง…” ผมยื่นโทรศัพท์ให้ไอ้ฟ้าดู ข้อความที่ไอ้นาทีส่งมา
            ‘เลิกเรียนเจอกันที่เดิมครับ’
            “เวรล่ะ ขนลุกสัด มีค้งมีครับ” ไอ้ฟ้าทำท่าลูบแขนตัวเองก่อนจะผลักมือถือคืนผม ผมหัวเราะหึในลำคออย่างอนาถในชะตาชีวิตของตัวเอง
            “กูไม่ขนลุกเลยมั้ง”
            “มึงมีวิธีเอาตัวรอดจากไอ้เวรนั่นใช่มั้ยป่าน … หวังว่าเพื่อนกูคงฉลาด”
            วิธีเอาตัวรอดเหรอ…
            “กูยังไม่ได้คิดเลยว่ะ”
            นั่นสิ …
            ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะขุดสันดารหมาๆของไอ้นาทีออกมาให้น้องหญิงได้เห็น แต่ผมไม่ได้นึกเลยว่าไอ้นาทีมันเป็นเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ แม้ส่วนสูงผมกับมันจะต่างกันเพียงแค่เซนสองเซนก็เหอะ แถมผมยังตัวพอๆกับมัน มันยังมองผมซะอย่างกะจะฝังเขี้ยวลงบนทุกอณูของร่างกายผมขนาดนั้น
            เหอะ สงสัยว่าถ้าแม่งจับผมกดจริงๆ งานนี้คงต้องมีเฮล่ะวะ
 
            *
 
            หลังเลิกเรียนผมก็เดินเข้าห้าง ที่เดิมที่เคยเจอกับมันเมื่อวาน เมื่อไปถึงก็เห็นไอ้นาทียืนรออยู่แล้ว มันไม่ได้ยิ้มร่าอะไร แต่กลับกัน มือหนากลับโชว์ตั๋วหนังในมือสองใบขึ้นแล้วโบกไปมา
            ใครอยากดูหนังกับมึงวะ
            เหอะ
            ผมถอนหายใจแล้วปั้นหน้ายิ้มๆเดินเข้าไปหามัน
            “ดูหนังเหรอ?”
            “อือ” มันตอบแค่นั้นแล้วลากแขนผมเข้าไปที่โรงหนังทันที ไอ้เวรนาทีไม่แม้แต่จะสละเวลาเพื่อซื้อ   ป๊อปคอร์นอะไรทั้งนั้น มันเพียงแค่ลากผมเข้าโรงหนัง แล้วดันให้ผมนั่งลงที่ที่มันจองเอาไว้
            เวรล่ะ มัวแต่ขยะแขยงมือมัน เลยไม่ทันมองหน้าโรงเลยว่านี่จะมาดูเรื่องอะไร
            “เรื่องอะไร?” ผมถามขึ้น ไอ้นาทีนั่งเงียบไม่ตอบอะไร
            ทีงี้ทำมาเป็นใบ้นะมึง
            หนังถูกฉายขึ้นมาพร้อมกับคนที่ทยอยเข้ามานั่งในโรงหนัง แปลกมาก ที่ในโรงหนังแม่งมีไม่ถึงสิบคน แถมไฟแม่งยังมืดผิดปกติ อันที่จริงผมไม่ค่อยเข้าโรงหนังหรอกนะ ชอบดูที่บ้านซะมากกว่า สายตาเลยไม่ค่อยชินกับความมืดแบบนี้ซักเท่าไร
            ถามจริง…
            ไอ้นาทีแม่งคิดจะดูหนังจริงๆเหรอวะ?
            ไม่ยักจะคิดว่าไอ้เวรนี่จะมีอารมณ์สุนทรีย์ถึงขนาดเข้าโรงหนังตอนที่กำลังจับเหยื่ออยู่
            แต่ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็รู้คำตอบของคำถาม
            มือหนาของไอ้นาทีไล้อยู่บนมือผม ทีนี้ผมรู้แล้วว่ามันไม่ได้หลับ แล้วก็รู้จุดประสงค์ของการเข้าโรงหนังของมันแล้วล่ะ นิ้วของมันค่อยๆไล้ขึ้นมาที่คอของผม ก่อนลมหายใจอุ่นๆที่ไม่รู้ว่ามันเคลื่อนหน้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรจะจรดลงบนแก้มของผม ผมเบิกตากว้างอย่างคนช็อค
            เกิดมา ขนาดเพื่อนยังไม่เคยได้เข้าใกล้ตัวผมขนาดนี้เลย!!
            ผมออกแรงดันตัวไอ้นาทีออกไปนิดๆ พอให้แม่งรู้ว่ากูขัดขืน แต่กลับกัน ยังไม่ทันที่ไอ้นาทีจะถอนตัวออก ริมฝีปากสีซีดของมันก็ประกบลงบนริมฝีปากผมอย่างรวดเร็ว!!!! ดวงตาสีดำสนิทของมันจ้องมองดวงตาที่เบิกกว้างของผม ราวกับว่ามันกำลังลองเชิงอะไรบางอย่าง!
            เวรละ ผมอยากจะอ้วก!!
            ร่างของไอ้นาทีถอนออกไปเมื่อมันสมดั่งใจต้องการเล่นเอาลมหายใจของผมสลับสำลักกับอาหารที่เพิ่งกินลงไป ผมพยายามกดอกตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไอ้สิ่งพวกนั้นมันไหลย้อนออกมา แต่ไม่ไหว
            “เข้าห้องน้ำแปบนะ” ผมหันไปบอกไอ้นาทีก่อนจะวิ่งออกมาจากโรงหนังทันที!
            ‘อ้วก!!’
            แหวะ
            ผมเปิดน้ำก๊อกแล้วล้างปากอย่างเอาเป็นเอาตาย เวรเวร!
            เมื่อกี้แม่ง … ลิ้น
            เวรเอ้ย!!!!
            ถ้าไม่ติดว่าแม่งเข้าหาตัวยากล่ะก็ กูไม่ทนนั่งนิ่งให้มึงแบบนั้นแน่!!
            “ถึงกับอ้วกเลยเหรอ?” เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลัง ผมสะดุ้งเฮือก ใบหน้านิ่งๆของนาทีมันลอยขึ้นมาเป็นอันดับแรก ก่อนที่ขายาวๆของมันจะพาร่างนั้นเข้ามาในห้องน้ำแล้วปิดประตู
            ล็อค…!!!
            งานเข้าแล้วไงไอ้ป่าน!
            “เอ่อ … กูไม่ค่อยสบายน่ะ โทษที…” ผมแถออกไป พลางยกแขนเสื้อปาดริมฝีปากของตัวเอง ดวงตาสีดำสนิทของไอ้นาทีจ้องมองผมอย่างไม่ละสายตา
            “ไม่ใช่ว่า … ขยะแขยงจนอ้วกเหรอ?”
            “!!!”
            ไอ้นาทียิ้มมุมปากพลางเดินเข้ามาใกล้ผม มือหนาตะปบลงบนกำแพงด้านข้างใบหน้าของผมอย่างแรงจนห้องน้ำสะเทือน ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
            “ว่าไงล่ะ … ป่าน”
            “กูไม่สบายจริงๆ อาหารเป็นพิษ จะเค้นทำซากไรวะ!” ผมสบถ ทำให้แม่งรู้ว่ากูไม่สบายจริงๆนะ
            ทั้งๆที่ใจน่ะ ลอยออกไปจากห้องน้ำตั้งนานแล้ว!
            “ถ้างั้น … อีกรอบคงไม่เป็นไร!”
            ‘อุ่ก!’
            รวดเร็ว ไม่ทันได้ตั้งตัว ไอ้นาทีประกบจูบผมอีกครั้ง แรงจนผมได้กลิ่นคาวเลือดที่ริมฝีปาก ผมหลับตาปี๋ พยายามท่องในใจว่าก็แค่จูบป่าน ก็แค่จูบ คิดซะว่าไอ้นาทีเป็นน้องหญิงก็ได้นี่!!!
            เวร…
            กูทำไม่ได้!!
            ถ้าไอ้นาทีมันหน้าตาน่ารักผมอาจจะยอมทน แต่ไอ้เหี้ยนี่ ไม่ได้มีอะไรต่างจากกูเลย!
            แม่ง
            ทำไงดีวะป่าน คิดดิวะ คิด!
            ‘ปังๆ!!!’
            “เฮ้ย! ล็อคทำซากไรวะเนี่ย ปวดเยี่ยว!!!” เสียงวัยรุ่นดังขึ้นด้านนอกห้องน้ำพร้อมกับเท้าที่เตะประตูปึงปัง เสียงนั่นแม่งอย่างสวรรค์ ไอ้นาทีละออกจากตัวผม ก่อนจะใช้นิ้วปาดริมฝีปากของผมแล้วยกมันขึ้นมาให้ผมดู
            เลือด
            กูว่าละ
            “อยากรู้มั้ยว่าอะไรที่ทำให้มึงน่าสนใจกว่าคนอื่นๆ” นาทีพูดขึ้นแล้วเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้า ผมขยับตัวเพื่อที่จะเดินไปเปิดประตู เกรงว่าถ้ายังอยู่แบบนี้ ดีไม่ดีจะโดนมากกว่านี้ได้
            “อะไร?” ผมเลิกคิ้ว
            “เพราะมึง … ดูมีอะไรให้น่าเล่นเยอะดี” มันว่าแล้วยิ้มผ่านกระจกให้ผม รอยยิ้มแสยะของมันแม่งโคตรน่าขนลุก ผมขยี้หัวเหมือนประสาทจะเสีย
            “ชอบพูดอะไรกำกวมจังนะ”
            นาทียักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินตามผมออกมาจากห้องน้ำ ผมไม่คิดจะเข้าไปที่โรงหนังบ้านั่นอีกแล้ว พอๆกับไอ้นาทีที่คงไม่คิดจะเข้าไปถ้าไม่มีผม
            มันเป็นงี้นี่เอง…
            หลอกให้เหยื่อตายใจว่าใจดี แล้วก็ขย้ำซะจนไม่เหลือซาก
            ผมทำท่าจะเดินลงบันไดเลื่อนเพื่อกลับบ้าน แต่ไม่ทันไรมือหนาของนาทีก็คว้าหมับเข้าที่แขนของผม ผมหันขวับกลับไป ดวงตาคู่เดิมกำลังจ้องใบหน้าของผมอยู่
            “รีบไปไหนล่ะ อยู่กับกูไม่ใช่เรื่องง่ายนะ ไม่คิดจะตักตวงเวลาหน่อยหรือไง ป่าน…”
            “แปลกนะ … คนอื่นแม่งเรียกร้องขอเวลาเพิ่ม … แต่มึงกลับอยากให้มันหมดเร็วๆ”
            “!!!!”





TBC.
เรื่องนี้ผู้แต่งไม่ใช่ candynosugar+ นะคะ แต่เป็นพี่ jiwinil
ซึ่งเราก็ได้ขออนุญาติเจ้าของเรื่อง (พี่ jiwinil) เพื่อมาลงที่นี่เรียบร้อยแล้วนะคะ

Ps. คอมเม้นท์กันด้วยนะจุ้บ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2014 18:00:24 โดย candynosugar+ »

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [01] 7/1/57 -P.1
«ตอบ #2 เมื่อ08-01-2014 06:47:56 »

มีเฮ? งานเข้า? ชอบๆ :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [02] 8/1/57 -P.1
«ตอบ #3 เมื่อ08-01-2014 15:00:33 »

2

            ผมลีดกีต้าร์ไปเรื่อยเปื่อย ปล่อยอารมณ์ไปตามเพลงที่ไม่รู้ว่ามันเป็นเพลงอะไร ก่อนจะมองพวกนักเรียนที่ค่อยๆทยอยออกเดินกันไปที่ประตูหน้าโรงเรียน ในขณะที่ผมนั่งอยู่บนระเบียงห้อง
            “ไม่กลับบ้านเหรอวะป่าน?” ไอ้ฟ้าเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับตบบ่า ผมเงยหน้ามองมัน
            “ไม่ว่ะ” ผมว่า
            “อ่อ … รอน้องหญิง”
            หึ รู้มากจริงมึง
            “เออๆ งั้นกูกลับก่อนว่ะ ไอ้ฝนแม่งดื้อด้านจะให้กูไปส่งบ้านเพื่อน บายมึง”
            “อือบาย” ผมโบกมือแบบขอไปทีให้เพื่อนแล้วหันมานั่งลีดกีต้าร์เหมือนเดิม ร่างของไอ้ฟ้าลับจากสายตาไป เผยเป็นภาพใหม่ของร่างเล็กพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักที่ยืนอยู่ด้านล่าง
            น้องหญิงอยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนตรงข้ามกับผม เธอดูสดใส น่ารักเหมือนทุกครั้ง
            ยกเว้นก็แต่ … กระโปรงที่สั้นขึ้นมากโขกว่าแต่ก่อน
            ตอนนี้มันเลยเข่าขึ้นมาเป็นศอกได้แล้ว
            ผมลุกขึ้นจากระเบียงแล้วคว้ากระเป๋าขึ้นถือ ก่อนจะเอากีต้าร์เข้าไปเก็บในห้องแล้ววิ่งลงไปด้านล่าง น้องหญิงวิ่งปราดเข้ามาหาผมทันทีที่ผมลงจากบันได ร่างเล็กยิ้มร่าอย่างมีความสุข
            “ทำไมวันนี้มาเร็วจัง” ผมถามขึ้น น้องหญิงได้แต่ยิ้ม
            “ไปหาอะไรกินกัน!”
            ร่างเล็กคล้องแขนแล้วออกแรงลากผมไปที่หน้าโรงเรียน ก่อนจะไปหยุดที่ร้านขายไอศกรีมที่หนึ่ง น้องหญิงจัดการสั่งไอศกรีมที่ผมชอบและที่ตัวเองชอบ ก่อนจะนั่งท้าวคางลงตรงหน้าผม
            “มีคนบอกว่าเมื่อวานป่านไปห้างกับนาทีมาเหรอ” ผมชะงักกึกกับคำถามของน้องหญิง พลางเงยหน้าจากนมปั่นในมือ
            “เอ่อ …”
            ตอบไม่ถูกว่ะ
            แค่คิดถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมา ก็อยากจะอ้วกออกมาอีกครั้ง
            เวรเอ้ย! ไอ้พวกหูตาสับปะรดนี่มันจริงๆ!
            “ป่านน่ารักจังเลย” น้องหญิงเกี่ยวนิ้วก้อยลงบนนิ้วก้อยของผม ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ
            อะไรกัน?
            “หญิงรู้นะว่าป่านกำลังติดต่อนาทีให้หญิงอยู่ใช่มั้ยล่ะ”
            “ห่ะ…”
            มือเล็กๆของหญิงเอื้อมมือหยิกแก้มผมอย่างน่ารัก ก่อนจะหัวเราะ
            “หญิงรักป่านที่สุดเลย”
            รักผมงั้นเหรอ …
            ถึงมันจะเป็นคำพูดที่ผมต้องการมากที่สุดก็เถอะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้เลย ทำไมเธอถึงเข้าใจว่าผมกำลังติดต่อไอ้สารเลวนั่นให้กับเธอกัน เธอไม่รู้เรื่องราวอะไรบ้างเลยเหรอทั้งๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกัน ขนาดเด็กต่างโรงเรียนยังรู้กิตติศัพท์ของไอ้นาทีมันเลย
            หรือเป็นเพราะว่า น้องหญิง เป็นผู้หญิง
            ผู้หญิงมักจะถูกกล่อมได้ง่ายๆหรือเปล่านะ
            ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ
            หลังจากกินไอศกรีมเสร็จ น้องหญิงก็เผอิญเจอเพื่อนที่ผ่านมาที่ร้านพอดี พวกเธอไปต่อกินอะไร    จุ้กจิ้กกันอีกที่ เป็นผมเองที่อาสาขอตัวกลับก่อนเพราะกลัวตัวเองจะลำบากใจและกลัวว่าน้องหญิงจะต้องมาห่วงเพราะว่าผมเป็นภาระที่เป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม
            แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งผมนักนะ
            “ไง”
            คำทักทายที่ปกติผมมักจะใช้ กลับถูกไอ้เวรตรงหน้ายืมไปใช้เฉย ไอ้นาทียืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ มันอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เหมือนไม่ได้ไปเรียนมาอย่างไงอย่างงั้น
            “วันนี้ไม่ใช่วันนัดกันนี่” ผมถามขึ้น
            ผมกับไอ้นาทีมีวันนัดกัน อันที่จริงนัดกันทุกๆวันจันทร์อังคาร เนื่องจากแม่งป๊อปไง ไอ้ห่านี่เลยมีคิวเยอะ สลับรางกันให้วุ่น แต่อย่าหวังนะว่ามันจะแคร์หรือจะรับผิดชอบ ไอ้เวรนี่มันไม่มีความรักกับใครจริงหรอก เลยไม่ต้องกังวลเรื่องหึงหวงตบตีกันบ้านแตก เพราะทุกคน ต่างก็ยอมลดตัวไปเป็นของเล่นของมันทั้งหมด
            ยกเว้นกูไว้คนละกัน
            “ไม่เห็นต้องนัดกันนี่ โรงเรียนกูกับมึงก็อยู่ตรงข้ามกัน เจอกันบังเอิญไม่เห็นแปลก”
            เหอะ ผมหัวเราะในลำคออย่างหน่ายใจ
            เจอกันบังเอิญ
            บังเอิญป้ามึงสิ
            ปกติก่อนที่จะนัดบอดไม่เห็นจะเคยเสนอหน้ามาให้เห็น ขนาดไปเยือนโรงเรียนยังไม่เคยจะเห็นหัว แล้วทีนี้มาบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญเนี่ยนะ คนหล่ออยากอ้วกว่ะครับ
            “เออ งั้นกูกลับละ”
            ผมล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินเลยไอ้นาทีไป ไม่ทันไรก็ต้องหันหลังกลับมาเมื่อมือของมันปราดเข้ามากระชากแขนผมเอาไว้ ผมสะบัดอย่างเสียอารมณ์
            “อะไรวะ?”
            “หึ อารมณ์เสียมาจากไหนกันวะมึงเนี่ย แค่จะชวนไปดริ้งค์ สนมั้ย? ฟรีนะมึง” ไอ้นาทีเลิกคิ้ว
            “เหอะ วันนี้มึงมีคู่นัดของมึงไม่ใช่หรือไง กูไม่อยากแย่งวันคนอื่นว่ะ เดี๋ยวจะโดนหาว่าเป็นคนพิเศษ” ผมตอกใส่หน้ามันกลับไป ดวงตาสีดำสนิทหยีลงเล็กน้อยอย่างสนอกสนใจ
            “หืม … ” ไอ้นาทีทิ้งบุหรี่ลงที่พื้นก่อนจะเดินเหยียบมันแล้วปราดเข้ามาประชิดตัวผม
            “สถานะนั้นน่ะ ใครๆก็อยากได้ ว่าแต่มึง ไม่อยากได้เหรอ?” ผมกลืนน้ำลายพลางสะอึกไปเล็กน้อย
            เวร กูลืมไปเลยว่าต้องเล่นละครว่าคลั่งไคล้ไอ้เวรนี่ ไม่งั้นจะนัดบอดทำไมแค่เข้าไปตั้นหน้ามันแล้วให้มันสารภาพว่ามันใช้แล้วทิ้งไปกี่คนงั้นเหรอ!? โง่จริงๆไอ้ป่าน!
            “ตกลงมึงชอบกู  หรือต้องการเข้าหากูเพราะอะไรกันแน่ ” นิ้วเรียวของไอ้นาทีลากจากลำคอของผมลงไปอยู่ที่ท้อง ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ
            ทำไมไอ้เวรนี่พูดเหมือนรู้ไปซะทุกเรื่องแบบนี้ล่ะวะ
            “หึ … ถ้าไม่ชอบกูจะหาเรื่องใส่ตัวเองทำไมวะ?”
            “แล้วทำไม … มึงถึงไม่มีทีท่าว่าจะชอบกูอะไรทำนองนั้นเลยล่ะ”
            “ก็ …” ก็อะไรดีวะ…
            “ก็?...”
            “มึงจะได้รู้ไงไอ้สัด ว่ากูมีค่า ไม่ใช่มึงใช้จนพอใจแล้วก็เขี่ยทิ้งเหมือนคนอื่น!”
            อื้อหือ นางเอกโคตรไอ้ป่าน มึงพูดแบบนี้ก็เท่ากับปิดตายตัวมึงเองลงจริงๆ แล้วจะมีหน้าไปทำให้มันไม่เขี่ยทิ้งยังไงวะ ในเมื่อกูก็ไม่ได้สวย ไม่ได้ยอมนอนกับมันง่ายๆ แถมยังทำท่ารังเกียจมันในบางครั้งอีก
            ปากไม่ตรงกับการกระทำจริงๆเลยกู!!
            “มึงมีค่าพอที่จะพูดแบบนั้นด้วยเหรอ?” เสียงทุ้มๆของไอ้นาทีดังขึ้น มันทำหน้าตาเหยียดหยามใส่ซะจนผมรู้สึกหมดค่า ผมเหมือนโดนแสกหน้า ไปไม่เป็นเลยทีนี้
            นิ้วของมันช้อนคางผมขึ้นเล็กน้อย แต่ผมใช้มือปัดมันออกไป
            “ขนาดแตะตัว กูยังแตะไม่ได้ แล้วมึงจะมีค่าอะไร”
            “!!!”
            นาทีมันยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินออกไป ความหวังที่ผมจะได้แฉว่ามันเลวขนาดไหนเริ่มริบหรี่แปลกๆ พลันส่วนหนึ่งของสมองก็สั่งให้ผมวิ่งไปคว้าแขนมัน ไอ้นาทีชะงักกึก
            “กูไปด้วย”
            หวังว่าการตัดสินใจของผม คงไม่ผิดหรอกนะ!
 
            *
 
            เสียงเพลงดังกระหึ่มพร้อมกับกลิ่นเหล้าคละคลุ้งทำเอาผมอยากจะอาเจียน แต่ติดที่ว่าโดนดันเข้ามานั่งด้านในสุดของกลุ่มเพื่อนของไอ้นาที เลยกลายเป็นว่าจากที่ไม่อยากมา จำเป็นต้องนั่งยาว
            “มึงชอบไอ้ทีเหรอวะ?” เพื่อนคนหนึ่งของไอ้นาทีถามผมขึ้น มันพยายามตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงเพลงบีทหนัก ผมหัวเราะเหอๆในลำคอ เท่าที่จำไม่ผิดไอ้นี่น่าจะชื่อ ริค
            “ถ้าไม่ชอบคงไม่นัดบอดกับมันหรอก” ผมตอบไปตามการแสดง ก่อนจะกระดกวอดก้าเพียวๆล้างปากกับคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้ คำพูดน่ะกระดากปาก เหล้าคงช่วยได้
            “หืม ก็ไม่เห็นมีไรน่าสนใจ ปกติไอ้ทีมันไม่สนแบบมึงหรอก”
            “เหรอ”
            “เออดิวะ ทีมันชอบแบบตัวเล็กน่ารัก พามาทีนี่น้ำลายสออยากจะแย่ง แต่พอเห็นมึงเข้ามากูกับไอ้กาฬยังช็อค ว่าไอ้ทีแม่งคิดอะไรวะ ไปสรรหาพวกเดียวกันมาเป็นเมีย”
            ‘พรวด!!!’
            ผมพ่นวอดก้าออกไปด้านหน้าเมื่อได้ยินคำว่าเมีย แม่งออกไปเป็นสายเลยไอ้ห่า!! ก่อนจะไอสำลักค่อกแค่กอย่างเอาเป็นเอาตาย
            เวรละ กูไม่ได้จะมาเป็นเมียว่ะ
            “เฮ้ย ถึงกับสำลักเลยเหรอวะ ใจเย็นๆ” ไอ้ริคยื่นทิชชู่ให้ผมเช็ดปาก ก่อนจะยกแขนมากอดคอผมไว้ อันที่จริงการอยู่กับเพื่อนไอ้นาทีก็ไม่แย่ซักเท่าไร เป็นกันเองดี แล้วผมเองก็ไม่ใช่คนดื่มไม่เป็น
            ออกจะเก่งซะด้วยซ้ำ
            แต่ที่ดีก็เพราะว่าไม่ต้องทนนั่งกดดันอยู่กับไอ้เวรที่นั่งสูบแต่บุหรี่จนจะเป็นมะเร็งตายห่าอยู่ตรงมุมโต๊ะ สายตาของไอ้นาทีจับจ้องมาที่ผมเป็นระยะๆ สลับกับจ้องสาวสวยที่เต้นยั่วยวนอยู่ที่ฟลอร์
            ขนาดนั่งไกลๆยังรู้สึกได้เลยว่าไอ้เวรนั่นจ้องผมอย่างมีเลศนัยเหลือเกิน คิดว่ากูจะเมาแล้วมึงจะได้ลากขึ้นห้องว่างั้น? ฝันไปเถอะ คนอย่างกูไม่เมาง่ายๆเว้ย
            “มึงก็ว่าไปไอ้ริค ดูแม่งซะก่อน ไอ้เชี่ยป่านแม่งขาวอย่างกะสำลี น่ากัดชิบ” ไอ้พีทหน้าหื่นมันแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างน่าเกลียดแล้วมองผม ผมยกนิ้วกลางชูใส่มันอย่างเป็นกันเอง
            “โทษทีว่ะ”
            “อูววว” กิริยาที่ผมแสดงออกทำให้เพื่อนๆไอ้นาทีต่างก็ร้องหูวหากันเป็นแถบ แถมยังยื่นมือมาแทคกันอย่างเป็นกันเองอีกด้วย
            “เจ๋งว่ะเจ๋ง ซักแก้วๆ”
            วอดก้าแก้วที่เท่าไรไม่รู้ที่ผมกระดกเข้าปาก รู้เพียงแค่เสียงเพลงกับเสียงบีทมันจังหวะเพี้ยนๆ แถมโต๊ะแม่งยังรางๆ สงสัยเริ่มจะเมา แต่ไอ้พวกเพื่อนๆของไอ้นาทีกลับคอพับกันไปเป็นแถบ ขนาดไอ้เจ้าตัวที่ชวนผมมา จากที่แม่งนั่งจ้องผมเป็นชั่วโมงๆ มันยังนอนฟุบลงไปที่โต๊ะเลย
            นี่กูอึดสุดสินะ
            “มึงต้องการอะไรจากไอ้ที” เสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นด้านข้างทำให้ผมสะอึก พลางยกสายตาสะลึมสะลือขึ้นมองเจ้าของเสียงที่หน้าแม่งแยกออกเป็นสองหน้า
            ไอ้นี่มัน ไอ้พระกาฬเพื่อนไอ้นาทีนี่หว่า
            ทำไมแม่งไม่ตายอีกวะ? อดล้มแชมป์ดื่มเก่งสุดเลยกู
            “มึงว่าไงนะ?” ผมควานหาแก้วน้ำเปล่าแถวๆโต๊ะพลางยกกระดกเพื่อล้างคอและล้างกลิ่นวอดก้าในคอให้จางลง เผื่อว่าจะสื่อสารกับใครเขารู้เรื่องบ้าง เพราะไหนๆไอ้นาทีมันก็สลบไปแล้ว
            คงไม่มีอะไรอันตรายแล้วล่ะ ผมจะได้กลับบ้านซะที
            “ลุกมานี่!” มือของไอ้กาฬกระชากผมให้ลุกขึ้น แต่ขอโทษ ไอ้ห่าริคแม่งนอนขวางอยู่ด้านขวากู จะเดินไงวะ! คำตอบคือ ไอ้เวรกาฬมันลากผมให้ทับตัวไอ้ริคไป โคตรอุบาทว์เลยสัด
            ผมเดินโซเซออกมาตามแรงลาก ก่อนจะมาหยุดยืนเมาๆที่หน้าผับ ไอ้กาฬผลักผมไปชนกำแพงดังอั่กก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ผมโคตรเกลียดกลิ่นบุหรี่เลยให้ตาย
            ขอยอมตายเพราะตับแข็งดีกว่าปอดดำ
            ‘ปัง!!!!’
            มือหนาฟาดหนักๆลงข้างหูผมอย่างแรงจนสะดุ้ง เท่านั้นแหละ ตากูสว่างทันที ผมมองใบหน้าโหดๆของไอ้พระกาฬอย่างไม่เข้าใจ จนกระทั่งมันพูดออกมา
            “หน้าตาอย่างมึงก็ไม่น่าจะใช่คนที่จะมาชอบไอ้ที กูถามจริงๆเถอะว่ะ มึงต้องการอะไรจากเพื่อนกู!”
            “…” ผมชะงักไปพลางกระพริบตาปริบๆ งงๆเหมือนกันว่ามันต้องการอะไร ก่อนจะพยายามรวบรวมการสื่อสารทั้งหมดให้อยู่ในช่องเดียวกัน
            “ก็กูชอบเพื่อนมึง ถามแปลกๆ” ผมว่าผมยังเมาแน่นอน-
            “มึงอาจจะโกหกเพื่อนกูได้ พวกไอ้ริค ไอ้พีท แต่โกหกกูไม่ได้” มือของไอ้พระกาฬบีบลงที่ไหล่ของผมอย่างแรงจนผมชักจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ
            “แล้วมันกงการอะไรของมึง กูไม่ได้นั่งชอบไอ้นาทีบนหัวมึงนี่หว่า”
            “มึงอย่ามากวนตีน!!!” ไอ้กาฬกระชากคอเสื้อผมอย่างแรงเล่นเอาผมคุมอารมณ์ไม่อยู่ ผมเองก็ผลักมันออกไปอย่างแรงเหมือนกัน
            “มึงเป็นหมอดูเหรอ มึงรู้ได้ไงว่ากูไม่ชอบไอ้นาที ใครมั่งวะจะบ้าเอาตัวเองมาเสนอให้คนที่ไม่ชอบ!” ผมตะคอกด้วยอารมณ์เหลืออด เออกูตอแหล แต่ไม่ต้องฉลาดมารู้เว้ย!
            “เฮ้ย มีไรกันวะไอ้กาฬ” เสียงไอ้พีทที่ดังขึ้นด้านหลังเรียกความสนใจของไอ้กาฬไป แต่ไม่ใช่ผม ผมยังคงจ้องหน้าไอ้พระกาฬอย่างโมโห
            ยุ่งชะมัด ขืนความแตก น้องหญิงต้องไม่ฟังผมแน่ๆ
            แผนเผินกูก็ไม่มีในหัวซะด้วยสิ
            ไอ้พีท ไอ้ริคเดินออกมาพร้อมกับหิ้วปีกไอ้นาทีมาด้วย ใจจริงผมก็อยากจะหัวเราะกับสภาพมันนะ เมาเหมือนหมาก็คราวนี้แหละ แต่เพราะต้องเนียนไว้ก่อน ผมเลยทำท่านิ่งๆเอาไว้
            “ไม่มี มันแค่พากูออกมาอ้วก” ผมว่า ไอ้พระกาฬหันมามองผมตาขวาง
            “เออๆ เฮ้ยไอ้กาฬ มึงไม่เมาอ่ะ ไปส่งไอ้ทีที่คอนโดทีดิวะ เดี๋ยวกูกับไอ้ห่าริคกลับแท็กซี่” ไอ้พีทพูดขึ้นพลางพยายามดันเพื่อนมันให้ยืนตรงๆ ก่อนที่ร่างของไอ้นาทีจะโดนผลักมาหาผม
            “ดูแลมันด้วย ไอ้เวรเนี่ยพอเมาก็เงี๊ยะแหละ เห็นโหดๆแต่แม่งคออ่อนชิบ”
            ผมพยักหน้าพลางยกแขนไอ้นาทีคล้องไว้ที่คอของตัวเอง ไอ้พระกาฬรับกุญแจรถจากไอ้พีทก่อนจะเดินไปที่รถบีเอ็ม รุ่นห่าเหวไรไม่รู้แหละ สี่ประตู ผมไม่ใช่เซียนรถ บอกรุ่นไม่ถูก ดูตราออกก็บุญละ
            “มึงไม่ต้องไป กูไปส่งเพื่อนกูเองได้” ไอ้พระกาฬหันมาทำหน้าโหด ผมยกนิ้วกลางใส่
            “กูจะไปส่งคนที่กูชอบ ทำไมจะไม่ได้” ผมเถียง ก่อนจะดันตัวไอ้นาทีเข้าไปในรถแล้วมุดตัวนั่งตามทันที เหมือนไอ้พระกาฬจะหงุดหงิดนะ มันตามมานั่งที่คนขับ ก่อนจะปิดประตูรถดังปัง
            “รถแพง ปิดซะแรงเจ้าของรถมันไม่ว่าเหรอ”
            “เสือก”
            มึงสิเสือก
            รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากผับ จากความเร็วปานกลาง กลายเป็นความเร็วระดับเทพที่ทำให้แม้แต่คนที่นั่งด้านหลังอย่างผมถึงกับคลื่นไส้ ไอ้เวรนาทีแม่งก็ไหลมานอนเอาหัวทับตักตลอด ตอนแรกผมก็ผลักมันให้นั่งดีๆแล้วนะ แต่แม่งก็ไหลลงมานอนทับตักกูตลอด!!! กลิ่นบุหรี่ก็หึ่งไปหมด
            เวร
            นรก
            “ขับช้าๆก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ” ผมสบถเบาๆ ไอ้พระกาฬหันมาทำตาคมกริบใส่ผ่านกระจกมองหลัง
            “กลัวตายหรือไง”
            “เปล่า แต่เพื่อนมึงตายด้วยนะ ไม่เป็นไรเหรอ?” กวนประสาทไปงั้นแหละ เห็นเส้นเลือดบนหัวไอ้กาฬนี่ปูดเชียว ไม่มีใครเคยบอกเหรอว่าผมกวนประสาทเก่ง ยิ่งโมโห ยิ่งกวนมากกว่าเดิม
            ดูเหมือนไอ้กาฬจะลดความเร็วลงนะ จากที่ผมเห็นเสาไฟฟ้าเป็นเปรต ก็พอเห็นว่ามันกลับมาเป็นเสาแล้วล่ะ
            “ป่าน…” เสียงทุ้มๆดังขึ้นขัดอารมณ์สุนทรีย์ของผม ผมมองผ่านกระจกมองหลัง
            “ไร”
            “ถ้ามึงชอบไอ้นาทีจริง จูบมันสิ” ผมชะงักกึกไปกับคำพูดนั้น ก่อนจะเบิกตามองดวงตาคมๆของไอ้พระกาฬอย่างชั่งใจ
            “จูบสิ ไอ้ทีมันไม่ลุกมาต่อยมึงหรอก กูแค่อยากเห็นว่ามึงไม่ได้ตอแหล”
            ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก
            งานเข้าแล้วไอ้ป่าน
            ผมก้มลงมองใบหน้าของไอ้นาที ผมที่เคยถูกปิดหน้าถูกเลิกขึ้นมาเพราะเหงื่อแตก แถมเมาเหมือนหมา ดวงตาของมันปิดสนิท ริมฝีปากสีซีดออกคล้ำเผยอขึ้นเล็กน้อย
            ผมเงยหน้ามองไอ้พระกาฬอีกครั้ง มันจอดรถข้างทางแล้วมองผ่านกระจกมาอย่างเค้นๆเหมือนต้องการจะรู้ว่าผมไม่ได้โกหกมันจริงๆ
            ครั้งที่แล้วผมอ้วกเพราะจูบไอ้เวรนี่
            แล้วครั้งนี้ ไอ้ที่อยากอ้วกอยู่แล้วมันจะไม่พุ่งเหรอวะ!?
            เชี่ยนี่แม่งร้าย
            “กูนับถึงสาม”
            “1”
            “2”
            “สะ…”
            ผมไม่รอให้ไอ้กาฬนับถึงสามก็ก้มตัวลงไปประกบริมฝีปากลงบนปากสีซีดของไอ้นาที แค่ประกบธรรมดาสินะ เออ กูทำได้ ไม่ต้องมีลิ้นกูก็ไม่อ้วก แต่จู่ๆสัมผัสชื้นๆที่ริมฝีปากก็ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก มือหนาๆกดท้ายทอยผมเองไว้อย่างแรงจนถอนออกไม่ได้ ลิ้นร้อนๆแทรกเข้ามาในโพรงปากแทบจะทันทีที่จะอ้าปากร้อง ผมมองปลายคางของไอ้เจ้าตัวที่แม่งตื่นขึ้นมาจับกูจูบ!
แม่งตื่นตอนไหนวะ!!!
            ผมจับมือของไอ้นาทีออกพลางกระเด้งตัวขึ้นมานั่งแล้วมองใบหน้าที่ยิ้มทะเล้นที่กำลังนอนทับตักผมอยู่
            “หวานจังว่ะ” ไอ้นาทีแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างหื่นจิต แต่ผมนี่สิ อาการคลื่นไส้แม่งพุ่งพรวดอีกแล้ว
            ‘อุบ!!!’
            “แหวะ!!!!!!”







TBC.

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [02] 8/1/57 -P.1
«ตอบ #4 เมื่อ08-01-2014 15:25:45 »

แหะๆ  แค่จูบยังขนาดนี้  อย่างอื่นไม่ต้องถามหาเลยใช่มั้ย   :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [03] 9/1/57 -P.1
«ตอบ #5 เมื่อ09-01-2014 16:06:00 »

3

            “โว้ยยย สกปรก เหม็น โสโครก!!!”
            ตั้งแต่ลงจากรถผมก็ได้ยินเสียงบ่นของไอ้นาทีไม่ขาดปาก ไม่นึกเลยว่ามันจะขี้บ่นขนาดนี้ เห็นมันเป็นคนเงียบๆมาตลอดนะเนี่ย ผมมองเนื้อตัวอันมอมแมมของคนตรงหน้าที่เปรอะไปด้วย … เอ่อ สิ่งปฏิกูลจากหลอดอาหารของผม เห็นแล้วก็ได้แต่เดินเขี่ยพื้นเอามือล้วงกระเป๋าเงียบปากเป็นใบ้
            ขอโทษว่ะ ก็มึงเสือกมานอนตรงที่กูอยากจะอ้วกพอดี ซอรี่นะเว้ย แต่กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไอ้ครั้นจะเปิดประตูออกไปก็ไม่ทันเพราะไอ้กาฬมันล็อคเอาไว้ ไอ้จะให้อ้วกใส่หน้ามึงมันก็อาจจะเสียมารยาทเกินไป
            นี่มึงต้องขอบใจนะที่กูอุตส่าห์เบี่ยงเป้าหมายลงบนตัวมึงแทนน่ะ
            “โว้ย!!!!”
            ไอ้พระกาฬหันมามองหน้าผมหลังจากที่ไอ้นาทีแหกปากโวยวายเตะประตูคอนโดมันเข้าไป ผมเม้มปากแล้วเกาหัวแกรกๆกับสายตาเหยียดๆที่ไอ้กาฬมองมา
            กูไม่ผิดนะเว้ย มึงแหละผิดที่ล็อคประตู!
            “โง่” ไอ้พระกาฬมันด่าผม ก่อนจะเดินตามเพื่อนมันเข้าไปในห้อง ผมหัวเราะเหอะๆอยู่ในลำคอ
            กลายเป็นว่าจากที่กูจะมาหาหลักฐานว่าไอ้นาทีแม่งเป็นสารเลว
            กูกลับกลายเป็นสารเลวเฉย
            ผมเดินเอื่อยๆไปยืนที่ประตูหน้าห้อง ไอ้นาทีมันยังบ่นอยู่เลยครับ ยังบ่นงุ๊งงิ๊งเหมือนหมาตัวเล็กๆเห่า ไอ้มือของมันก็ไม่กล้าถอดเสื้อ ขยะแขยงกับอ้วกผมเหลือเกิน ผมก็ได้แต่ยืนเกาหัวแก้เก้ออยู่ตรงประตูนั่นแหละ ไม่อยากจะบอกนะว่าอ้วกกูสะอาดกว่าของพวกมึงเป็นร้อยเท่า!
            ไอ้พระกาฬก็อยากช่วยเพื่อนมัน ยืนมองซ้ายมองขวา แต่ด้วยความที่เป็นคุณชาย มือมันเองก็ไม่กล้าแตะเสื้อ แถมไอ้นาทียังโวยวายเป็นบ้าเป็นหลังไล่เพื่อนมันออกมาจากห้องด้วยการทุ่มเครื่องขยายเสียงสุดแสนจะแพงนั่นใส่
            อูย … ไม่ใช้ก็บอก เอามาให้กูสิ
            “โว้ยยยยยยยย!!!!” เสียงโวยวายพร้อมกับข้าวของที่ถูกปาลงพื้นดังลั่นไปหมด
            ผมเปล่าผิดนะ ผมเปล่า
            ไอ้พระกาฬเดินออกมาจากห้องพร้อมกับใบหน้าเหมือนตูด ก่อนจะเดินชนไหล่ผมอย่างแรงอย่างไม่พอใจแล้วหายเข้าไปในลิฟท์ ผมทำท่าจะวิ่งไปต่อยมันแต่ไม่ทัน แหม ถ้าแม่งเดินช้ากว่านี้อีกนิดนะ
            ไม่รอดแล้ว
            “โว้ย!!!” เสียงร้องของไอ้นาทีดังลั่นมาจากในห้อง ผมกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย
            กะอีแค่อ้วก ร้องอย่างกับโดนขี้ปาใส่
            “มานี่เลยไอ้สัดมา” ผมปราดเข้าไปหาไอ้นาทีก่อนจะกระชากมันเข้าหาตัว ไม่ลืมปิดประตูห้องให้มันด้วย เดี๋ยวข้างห้องจะหาว่าเจ้าของห้องนี้ผีเข้า ผมดึงเสื้อไอ้นาทีให้เข้าหาตัว มันทำหน้าหยะแหยงแบบโลกแม่งจะถล่ม
            “เพราะมึงเลยไอ้เวร!!!”
            “โทษกูไปอ้วกกูก็ไม่ได้กลับเข้าไปอยู่ในปากหรอกนะ ยืนนิ่งๆหน่อยดิ จะถอดเสื้อ!”
            “ไม่!!! ไปตายไป!!!!”
            “โหยยยย งั้นมึงถอดเองเลยไป ถอดไป!!!” ผมสะบัดหนีอย่างเสียอารมณ์ คนจะถอดให้เสือกสะดิ้ง
            ควาย
            “เดี๋ยว!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเดินไปไหน มือของไอ้นาทีก็คว้าหมับเข้าที่แขนของผม ผมหันหน้าไปเผชิญมันอย่างเซ็งหน้ามันมาก
            “จะเอาไง? ชักเยอะเดี๋ยวกูก็ปล่อยให้แม่งนอนจมกองอ้วก”
            “ถอดเดี๋ยวนี้เลยไอ้สัด ถอด!” ไอ้นาทีตะคอกสั่ง ผมหัวเราะเหอๆแล้วจับปลายเสื้อยืดสีดำของไอ้นาทีเลิกขึ้น ขนาดจะถอดให้แม่งยังบ่นอุบอิบเป็นหมีกินผึ้ง
            ผมดึงเสื้อพรวดเดียวออกจากหัวไอ้นาที ก่อนจะโยนใส่ถังขยะ คาดว่ามันคงไม่อยากได้แล้วล่ะ แต่พอหันมาเจอะกับใบหน้าที่เข้มๆดุๆนั่น ผมก็แทบจะหัวเราะพรวดออกมา
            ลืมไป …
            มันมีผม ใช่ เส้นผมสีดำๆบนหัวมันนั่นแหละ
            “มองหน้ากูแบบนั้นหมายความว่าไง?” ไอ้นาทีเลิกคิ้ว ผมมองหน้ามันอย่างกวนโอ้ย
            “คือเมื่อกี้ … กูถอดเสื้อออกทางหัวมึงอ่ะ แล้วมึงก็มีผม … แล้วมันก็…” ผมใช้นิ้วชี้ๆที่ผมตัวเองเป็นกระจกให้กับคนตรงหน้า ไอ้นาทีหน้าซีด ก่อนจะยกมือแตะที่หัวของมัน
            “อี๋!!!!”
            สาบานได้ว่าเสียงมัน
            ไอ้นาทีมันแขยงมือของมันมากก่อนจะรีบวิ่งไปล้างน้ำในห้องน้ำ ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงดังลั่นก็ดังขึ้น!!!
            “ไอ้ป่าน!!!!!!”
            ไม่ต้องรักกูขนาดเรียกชื่อเสียงดังขนาดนั้นก็ได้ว่ะ
            ผมเดินเข้าไปที่ห้องนอนมัน พลางหันไปที่ห้องน้ำ มองสารรูปของไอ้คนมาดหล่อเพลย์บอยเจ้าชู้ที่สารเลวเป็นอันดับหนึ่งผ่านกระจก สภาพตอนนี้เหมือนเด็กกินข้าวโอ๊ตเลอะจมูกปากคางหัว แย่ว่ะ
            “มึงทำอะไร!!! มึงทำเชี่ยไรเนี่ย!!!”
            “อ้าว ก็มึงบอกให้ถอดเสื้อ”
            “ถอดเวรอะไรอ้วกติดบนหน้ากูเนี่ย!!! ล้างออกให้กูเลย อาบน้ำให้กูเลยไอ้สัด!!!”
            ผมเบิกตากว้างแล้วชะงักถอยหลัง
            “มึงมีมือมีตีนก็อาบเองดิวะ!!! กูไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่มึงนา!”
            “ระหว่างให้กูปล้ำกับมึงอาบน้ำให้กูจะเอาอะไร เลือกมา!!!!”
           
             *


            ผมก็ต้องเลือกข้อที่ปลอดภัยกับตัวเองสุดๆอยู่แล้ว นั่นก็คือข้อสอง ซึ่งตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำ ในขณะที่ไอ้นาทีนั่งอยู่ในอ่างแล้วหันหลังพิงอ่างอย่างสบายอารมณ์ มือสองข้างผมก็ขยี้หัวให้มันเหมือนกำลังอาบน้ำหมา
            ซึ่งหมาแม่งหลับไปแล้ว
            อาเมน
            ผมใช้มือสองข้างขยี้หัวไอ้นาทีไปอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะคิดอะไรใจลอยไปเรื่อยเปื่อย
            พลันก็คิดไปถึงเรื่องน้องหญิง จากที่เงยหน้าขึ้นมองฝ้าเพดานสีขาวที่เปลี่ยนเป็นสีส้มจากสีไฟ กลับต้องก้มลงมามองไอ้คนที่เมาจนน็อคคาอ่างน้ำไปแล้ว
            อันที่จริงในมุมถ้าจะคบมันเป็นเพื่อน ไอ้นาทีก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่สำหรับคนที่อยากจะผูกมัดมัน คงจะยากหน่อย เพราะผมเห็นมานักต่อนักแล้ว ไอ้พวกที่ขู่จะฆ่าตัวตายเพราะว่าถูกไอ้นาทีมันทิ้ง แต่คิดเหรอว่าคนอย่างนาทีมันจะสน
            อยากตายก็ตาย อยากโง่เองช่วยไม่ได้
            คตินั้นผมก็เป็น
            แต่ผมไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดกับคนที่ผมรัก โดยเฉพาะน้องหญิงที่บอบบางนั่น
            ผมเปิดฝักบัวพลางล้างแชมพูออกจากหัวไอ้เวรนาที ก่อนจะลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วล้างตัวเองให้สะอาด ผมถอดกางเกงของตัวเองไว้ด้านนอกห้องน้ำ เหลือแต่บ็อกเซอร์ บ็อกเซอร์แม่งก็เฉอะแฉะไปหมด
            ทำไงดีวะ
            พลันสมองอันชาญฉลาดและแยบยลของไอ้ป่านมันก็วิ้งขึ้นมา!
            แมวหลับ หนูก็ร่าเริงดิวะ
            ผมก้มลงไปมองหน้าไอ้นาทีที่คอหักคาอ่างอาบน้ำ พลางตบหน้ามันแรงๆสองสามทีเพื่อพิสูจน์ว่ามันเมาหลับไปจริงๆ ว่าแล้วก็วาดฝ่ามือหนาๆของตัวเองตบป้าบเข้าที่หน้าของไอ้นาทีดังผลั่วะ!
            สาบานได้ว่าตบ คอแม่งหันเลยว่ะ ไม่ตื่นด้วย
            แม่งคออ่อนจริง
            ผมเดินนิ่มๆออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเปิดดูตู้เสื้อผ้าสุดหรูของไอ้คุณชายเพลย์บอยมันอย่างสอดรู้ และสอดเสือกสายตาไปทั่ว ทันใดนั้น! ผมก็ได้พบกับ … กางเกงในใหม่เอี่ยมภายในกล่องพลาสติกหรูที่เรียงกันเป็นตับ
            แล้วเงยหน้ามองสภาพตัวเองในกระจก บ็อกเซอร์แฉะๆเปียกๆลายหัวกะโหลกไขว้ กับ ความโปร่งใสที่เห็นไปถึงไส้ใน ถ้ามีสภาพแบบนี้ภายใต้กางเกงล่ะก็ ขึ้นราแน่ๆ
            สะโพกผมกับสะโพกไอ้นาทีมันไซส์เดียวกันป่ะวะ?
            ไม่ว่าเปล่า มือก็คว้ากางเกงในกล่องนั้นมาลองทันที …
            ใส่ได้ว่ะ! แหล่มเลย
            ผมคว้ากางเกงสีดำที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นพรมขึ้นมาสวม ก่อนจะเดินวนไปรอบๆห้อง
            กิตติศัพท์ที่เหลื่อมล้นและน่าเลื่อมใสของไอ้นาทีมันล้นเหลือ ผมแค่อยากจะขอยืมของซักสองสามอย่าง ไม่ก็สิ่งที่พอจะสามารถบอกได้ว่าไอ้นาทีมันก็คือสารเลวที่ฟันแล้วทิ้ง
            พลันสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่โน้ตบุ๊คไฮโซตราแอปเปิ้ล ผมพุ่งตัวเข้าไปนั่งลงที่เก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะค่อยๆเปิดหน้าจอของโน้ตบุ๊คสุดแพงขึ้นอย่างเบามือ มันต้องมีบ้างแหละ ถ่ายคลิปเก็บบ้าง รูปแบล็กเมล์บ้างอะไรบ้าง ต้องมีบ้าง
            เอาล่ะ ตายเป็นตายว่ะป่าน
            “ไอ้ป่าน!!!!” ยังไม่ทันที่จะได้สอดแนมอะไร เสียงทุ้มๆก็ตะโกนดังลั่นออกมาจากห้องน้ำ! ผมสะบัดมือตบฝาโน้ตบุ๊คราคาสุดแพงนั่นลงดังปั่กก่อนจะรีบย้ายตัวไปนั่งที่ปลายเตียงประจวบเหมาะพอดีกับตอนที่ไอ้นาทีพันผ้าขนหนูสีขาวแล้วเดินดุ่มๆออกมาจากห้องน้ำ
            เกือบไปแล้วไงล่ะ
            “หน้ากู!!!!” ไอ้นาทีตะโกนลั่นพลางใช้นิ้วชี้ไปที่ใบหน้าหล่อๆของมันที่ขึ้นรอยแดงเป็นปื้ด แต่ผมไม่บอกมันหรอกว่ามันคือรอยฝ่ามือของผม ตบอย่างแรงซะด้วยนะนั่น
            “ก็หน้ามึงไง บอกกูไมวะ?” ผมถามอย่างกวนๆ เล่นเอาไอ้นาทีกำหมัดแน่นแล้วปราดเข้ามากระชากเสื้อผม
            “แล้วทำไม มันถึงปวดแบบนี้ล่ะวะหา!!!”
            ก็กูต่อยมึงไงล่ะเว้ย!
            “กูจะรู้เหรอ เมื่อกี้ตอนมึงนอนมึงเผลอเอาหน้าไปกระแทกกับขอบอ่างหรือเปล่า” ผมแถเรื่อยพลางกอดอกทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้นาทีกำหมัดแน่น
            “กระแทกกับผีมึงสิ แล้วใครใช้ให้มึงออกมาจากห้องน้ำตอนที่กูหลับ” เสียงตะคอกกลายเป็นเสียงทุ้มต่ำที่ถูกกดลงในลำคอของคนตรงหน้า ผมเลิกคิ้ว
            “ก็กูร้อน เลยออกมาตากแอร์”
แถไปเรื่อยครับ เพื่อความปลอดภัยของใบหน้าหล่อๆของกู หวังว่ามันคงไม่ฟาดหมัดลงมาหรอกนะ กลัวจะรับไม่ทัน
            “เหรอ … แล้วนี่อะไร!?” ไอ้นาทีมันเอื้อมตัวข้ามผมไปหยิบกล่องพลาสติกที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของมัน ผมเบิกตากว้างเมื่อมันชูกล่องนั่นขึ้นตรงหน้า!
            กล่องกางเกงลิง
            กรรม เวร ลืมได้ไงวะ
            “ก็บ็อกเซอร์กูมันแฉะ เลยขอยืมใช้ก่อน ทำงกนะมึงน่ะ”
            “ใครอนุญาต …”
            “กูเอง”
            “มึงไม่ใช่เพื่อนกูนะไอ้สัด!!!” ไอ้นาทีตะคอกลั่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะโน้มตัวลงมาแล้วตะปบมือสองข้างนั่นลงข้างๆระหว่างตัวของผมจนตัวผมกระเด้งจากเตียง ผมมองหน้าไอ้นาทีนิ่งๆ
            “มึงก็ไม่ใช่เพื่อนกู”
            “มึงไม่ต้องมาย้อน! มึงเป็นแค่คนที่ ‘ขาย’ ให้กับกูเท่านั้น อย่าคิดว่ามึงพิเศษกว่าใคร!!” ผมชะงักกึกกับสิ่งที่ไอ้นาทีพูด ก็พอจะเข้าใจอยู่นะ เข้าใจแจ่มแจ้งด้วยล่ะ
            นี่แหละคือสิ่งที่ผมกำลังรอเลย
            สันดานแท้ๆของมันยังไงล่ะ
            “แล้วคนอย่างมึง ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ของของกู ถอดออกมา!!!!”
            “หา!!!!” ว่าไงนะ!!!?
            ไม่ทันขาดคำมือของไอ้นาทีก็ตะปบที่ขอบกางเกงของผมก่อนจะพยายามปลดตะขอ ผมเบิกตากว้างก่อนจะพยายามสู้สุดฤทธิ์!! มือของมันสะเปะสะปะไปทั่ว จนผมต้องใช้เท้าถีบท้องมันจนร่างของไอ้นาทีกระเด้งลงไปนอนกระอักที่พื้น!
            ผมไม่รอให้มันได้ลุกขึ้นมา จัดการวิ่งปราดเข้าไปคร่อมตัวของมันทันทีแล้วใช้ขาล็อคไว้!
            “หึ มึงไม่ได้นัดบอดกับกูเพราะว่าชอบกูจริงๆด้วย” ไอ้นาทีหอบหายใจเหนื่อยจากการที่ผมฟัดกับมันเมื่อกี้ ผมเองก็หอบแฮ่กตัวโยนเหมือนกัน แต่ไอ้ที่น่าตกใจคือ มันจับได้
            แล้วเรื่องอะไรจะให้มันจับได้มากกว่าเดิมล่ะ
            “ใครบอกล่ะว่ากูไม่ได้ชอบมึง”
            “!?” ไอ้นาทีเลิกคิ้ว ทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราะในใจ
            “หือ รู้ได้ไงวะว่ากูไม่ได้ชอบมึง” ผมว่าพลางยิ้มอย่างกวนองค์อารมณ์ ก่อนจะไล่นิ้วไปตามลำคอของไอ้นาที ในใจก็รู้สึกขนลุกซู่ที่ต้องมาทำกับเพศเดียวกันแถมยังไม่น่ากดแบบนี้ แต่ไหนๆก็ไหนๆเหอะ
            มึงงกนักใช่มั้ย กูขอเอาคืนหน่อยเถอะว่ะ
            ผมโน้มหน้าลงไปชิดข้างหูของไอ้นาที ก่อนจะกระซิบเบาๆ
            “กูชอบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ล่างให้มึงนี่หว่า”
            “ไอ้ป่าน!!!”
            ‘ควับ!!!’
            “ไว้เจอกันนะจ๊ะที่รัก” ผมกระชากผ้าเช็ดตัวของไอ้นาทีอย่างแรงจนหลุดติดมือก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว อยู่ให้แม่งเอาตีนกระทืบผมน่ะสิ
            ผมวิ่งจนถึงลิฟต์ พลางใช้ฝ่ามือตบปากตัวเองสามทีแล้วโยนออกไปไกลๆเพื่อแก้เคล็ด นิ้วก็กดลิฟต์รัวๆเพื่อให้ลงไปที่ชั้นหนึ่ง เมื่อถึงชั้นล่างผมก็ได้แต่ยืนหอบเอาอากาศเข้าปอดที่หน้าคอนโดเฮือกใหญ่ก่อนจะยื่นมือไปโบกแท็กซี่ที่ผ่านมาพอดีแล้วขึ้นรถไป
            ใครจะนึกล่ะ ว่าการจะทำให้น้องหญิงเปลี่ยนใจที่จะเข้าหานาที
            มันจะทำให้ตัวผมรู้สึกลำบากใจขนาดนี้


             *
            ผมล้มตัวลงนอนที่เตียงของตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน ปกติผมไม่ค่อยชอบมีเรื่องหรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับใครเป็นพิเศษหรอก ขนาดเพื่อนยังมีเพื่อนสนิทคนเดียว แล้วก็มีน้องหญิงที่คอยคุยเล่น การจะให้เข้าไปคลุกคลีกับพวกไอ้นาทีมันเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับผม
            ผมยกแขนก่ายหน้าผาก ก่อนจะนึกได้ว่าต้องโทรหาน้องหญิงก่อนเข้านอน
            มือตะปบไปที่กางเกงของตัวเองสองสามครั้ง พลันต้องอ้าปากหวอออกมาเมื่อพบว่ามือถือไม่ได้อยู่ที่ตัว!!!
            อยู่ที่ห้องไอ้นาที!!!
            แย่ล่ะ ถ้าน้องหญิงโทรไป!
            ‘กริ๊งๆ’ ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ผมรีบลุกออกจากเตียงก่อนจะวิ่งปราดลงไปชั้นล่างแล้วยกหูขึ้นมาแทบจะทันที
            “หญิง!”
            (หญิงอะไร กูนาที) เสียงทุ้มๆที่ดังออกมาจากปลายสายทำให้ผมชะงักกึก ผมพยายามตีเสียงให้ราบเรียบเหมือนอย่างเคย
            “เออ มีไร”
            (โทรศัพท์มึงอยู่กับกู)
            “อ่อ มึงทิ้งไปเลยก็ได้นะ กูหาซื้อใหม่ได้”
            (ไม่ได้อยากมาเอาที่ห้องกูหรอกเหรอ หืม ป่าน…) เสียงของไอ้นาทีดูเย็นชาและโหดเหี้ยมจนผมขนลุก ผมพยายามกลืนก้อนสะอึกที่จุกอยู่ที่คอลงไป
            สงบสติอารมณ์หน่อยป่าน … ไอ้นาทีมันไม่รู้หรอกว่าหญิงเป็นใคร … มันคงไม่อยากรู้อยากเห็นถึงขนาดเปิดโทรศัพท์ดูรูปหรอกมั้ง หรือไม่ก็น้องหญิง … น้องหญิงคงไม่โทรหาผม
            ใช่ น้องหญิงไม่โทรแน่ๆ
            “ไม่ว่ะ”
            ผมว่าพลางวางสายอย่างไม่สนใจปลายสายเลย ในใจก็วิ่งวุ่นอย่างกับหนูติดจั่น ผมเดินซ้ายเดินขวาไปมาพลางหยิบกุญแจบ้านที่วางอยู่ที่โต๊ะน้ำชา ก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านไป
            ‘ติ๊งหน่อง!’
            ผมกดออดที่บ้านหลังใหญ่สไตล์ยุโรปที่ปิดไฟหมดทั้งหลัง ไม่ทันไรไฟก็ถูกเปิดจนสว่างขึ้น ร่างเล็กๆของผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มสุนัขพันธุ์ปอมวิ่งออกมาจากตัวบ้าน น้องหญิงดูมีท่าทีตกใจ ก่อนจะรีบเปิดรั้วให้ผม
            “ป่าน … ทำไมแต่งตัวแบบนี้!” น้องหญิงร้องแหว พลางมองร่างของผมที่โชกเหงื่อภายใต้เสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงบ็อกเซอร์ธรรมดา ผมเป็นห่วง เป็นห่วงหญิงมากๆ
            ไม่ทันที่สมองสั่งการผมก็พุ่งตัวเข้าไปกอดร่างเล็กอย่างแรงจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง ผมหอบหายใจเหนื่อยจากการที่วิ่งมาจากบ้านโดยไม่คำนึงว่าตัวเองใส่ชุดบ้าอะไรเลย
            “หญิง ไม่เป็นไรนะ”
            มือเล็กๆกอดตอบผมนิดๆก่อนจะลูบหลังผมเบาๆ
            “อะไรกันป่าน เข้าบ้านก่อนเถอะ เหงื่อโชกไปหมดแล้ว”
            น้องหญิงพาผมเข้ามาในบ้าน ผมคาดว่าพ่อกับแม่ของเธอยังไม่ตื่น ไม่งั้นมีหวังผมโดนด่าป่าราบแน่ๆ น้องหญิงขมวดคิ้วพลางวางน้ำเย็นให้ผม ผมไม่ละสายตาออกจากใบหน้าหวานนั่นเลย
            “ป่าน เป็นอะไร นี่มันตีสามกว่าแล้วนะ ไม่เกรงใจพ่อแม่หญิงเลยเหรอ?”
            “หญิงไม่ได้โทรเข้ามือถือป่านใช่มั้ย…”
            “หา?”
“ไม่ได้โทรใช่มั้ยหญิง” ผมเผลอบีบแขนน้องหญิงอย่างแรงจนเจ้าตัวร้องออกมา เมื่อเห็นแบบนั้นผมเลยรีบกระถดตัวออกห่างจากร่างเล็กแล้วขยี้หัวตัวเองอย่างแรง
            “ป่านทำหญิงกลัวนะ!!”
            “ขอโทษ…” ผมว่า พลางลูบใบหน้าของตัวเอง
            “หญิงยังไม่ได้โทรหาป่านตั้งแต่เช้านั่นแหละ ทำไมเหรอ?” น้องหญิงถามขึ้น พลางเดินเข้ามานั่งข้างผมแล้วลูบหลังผมแผ่วๆ ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยให้ตายสิ
            “เปล่าหรอก มีคนขโมยโทรศัพท์ไปน่ะ เลยกลัวว่าเดี๋ยวมันจะมาทำร้ายหญิง”
            “ขโมยเหรอ?!” น้องหญิงทำท่าทางตกใจ ผมส่ายหน้านิดๆ
            “ช่างมันเหอะ … ป่านตั้งใจจะซื้อเครื่องใหม่อยู่แล้ว”
            ผมว่า ก่อนมือเล็กๆของน้องหญิงจะดันหัวผมให้นอนลงบนตักนุ่มๆของเธอ ผมมองใบหน้าหวาน ดวงตากลมโตนั่นอย่างหลงใหล เพราะแบบนี้ไง เพราะความอ่อนโยนของเธอทำให้ผมถอนตัวไม่ขึ้น
            “ใจเย็นๆป่าน ป่านทำหญิงตกอกตกใจตลอดเลย นิสัยไม่ดีนะรู้มั้ย!” ร่างเล็กดีดนิ้วลงบนหน้าผากผม ก่อนจะลูบหัวผมอย่างปลอบประโลม
            ให้ตายสิ
            ผมไม่คิดเลยว่าทั้งชีวิตจะได้มาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
            อยากจะพูดออกไปเหลือเกิน
            อยากจะพูดออกไป
            …
            ป่านรักหญิงนะ
 
            *
 
            “เฮ้ยป่าน!! ตายยังวะ?!!” เสียงไอ้ฟ้าดังขึ้นด้านหลังของผมพร้อมกับมือที่ฟาดผลั่วะอย่างแรง ผมหันกลับไปทำตาค้อนๆใส่มัน ไอ้ฟ้าได้ทีรีบล้อเลียนขอบตาผมใหญ่
            เพราะเมื่อคืนผมไม่ได้นอน เลยทำให้ตามันคล้ำเป็นหมีแพนด้าขนาดหนัก แถมวันนี้ก็เรียนบ้าบออะไรก็ไม่รู้ทั้งวี่ทั้งวัน ไม่ได้ออกไปยืดเส้นยืดสายนอกห้องเลยให้ตาย
            “หึ ตายแล้วก็คงไม่นั่งอยู่นี่ว่ะ” ผมว่า ก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะเรียนแล้วเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนจังวะ ฝนจะตกอีกแล้วสินะ
            พลันสายตาผมก็ไปกระทบกับร่างสูงๆของใครซักคนที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียน ท่ามกลางนักเรียนนับร้อยที่ค่อยๆทยอยเดินออกจากประตูโรงเรียน ใบหน้าคมเด่นสะดุดตาของหมอนั่นทำให้มันกลายเป็นจุดสนใจขนาดย่อมๆ ก่อนสายตาคู่นั้นจะปราดขึ้นมามองที่ห้องของผม
            และสบตากับผม
            “ใครวะ?” ไอ้ฟ้าถามขึ้น พลางเกาหัวแกรกๆ
            “คนรู้จักว่ะ ถ้าหญิงมาฝากบอกหญิงทีนะว่ากูมีธุระ” ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋าสะพายอย่างลวกๆพลางตบบ่าไอ้ฟ้าเบาๆว่าจะไปแล้ว ก่อนจะรีบเดินปราดออกมาจากห้องด้วยความรวดเร็ว
            “เฮ้ย อย่าลืมทำการบ้านนะเว้ยป่าน!!” เสียงสุดท้ายของไอ้ฟ้าเล็ดลอดออกมาจากห้อง แต่ผมไม่ได้สนใจเลย
            ไอ้เวรนั่น มาทำไมวะ!!
            ‘หมับ’
            เมื่อลงมาถึงด้านล่างสิ่งแรกที่ผมทำคือปราดเข้าไปคว้าแขนคนต่างโรงเรียนเอาไว้ก่อนจะลากมันออกไปจากโรงเรียนอย่างร้อนรน สายตาที่มองมารอบๆทำให้ผมอยากจะเอาหมัดกระแทกหน้าพวกนั้น แต่ที่ทำได้คือลากคนที่กลายเป็นจุดสนใจออกไปจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด!
            แม้ไอ้ฟ้าจะไม่รู้ว่าไอ้เวรนี่เป็นใคร แต่ผมว่าจะต้องมีใครในโรงเรียนที่รู้ว่ามันเป็นใครแน่นอน แล้วถ้าผมเกิดเข้าไปคลุกคลี หรือมันสอบถามอะไรที่เกี่ยวกับตัวผมจากคนในโรงเรียนล่ะก็ ผมเบื่อที่จะเป็นขี้ปากของใครหลายๆคน
            “มึงมาทำไม” ผมถามคนตรงหน้า มันดูมีสีหน้าไม่ค่อยยี่หระกับสิ่งใดๆ
            “ทำไมล่ะ เพื่อนอยากมาเยี่ยมเพื่อน ไม่ได้เหรอ?”
            ‘ผลั่ก!!’ ผมผลักไอ้เวรตรงหน้าไปชิดกำแพงแล้วกัดฟันกรอด
            “มึงเป็นเพื่อนกับกูตอนไหน”
            “อ้าว ลืมกูไปแล้วเหรอ ให้เตือนความจำหน่อยดีมั้ย …” ยังไม่ทันไรผมก็โดนผลักกลับอย่างแรงจนร่างไปกระแทกกับกำแพงแทน แถมมากไปกว่านั้น ยังไม่ทันที่จะได้หลบพ้นจากฝ่ามือหนาๆนั่น กลับโดนกระชากเข้ามาชิดกำแพงอีกครั้ง
            “กูพระกาฬเพื่อนไอ้นาทีไง ลืมแล้วเหรอ”
            “ไม่ว่ะ แค่ไม่อยากสนทนากับไอ้พวกไร้สมอง”
            “หึ” ใช่ คนตรงหน้าผมคือไอ้พระกาฬเพื่อนของนาที ไอ้เวรที่สั่งให้ผมจูบกับเพื่อนมันในรถจนทำให้ผมผะอืดผะอมจนอ้วกแตก แต่โชคดีที่มันจับไม่ได้ว่าผมคลื่นไส้เพราะจูบของเพื่อนมัน
            มันเข้าใจว่าผมเมาจนอ้วกต่างหาก
            “ไม่มีอะไรก็กลับไปเหอะว่ะ กูไม่อยากเป็นขี้ปากใครว่าคบกับพวกไอ้กุ๊ย” ผมว่าพลางสะบัดตัวออกจากการเกาะกุม ไอ้พระกาฬหัวเราะในลำคอแล้วดึงแขนผมอย่างแรงจนแขนแทบหลุด
            ‘ผลั่วะ!!!!’
            ก่อนใบหน้าด้านซ้ายผมจะชาไปทั้งแถบเพราะแรงต่อยของมัน ผมเบิกตากว้าง
            “ทำบ้าไรวะ!!!”
            “สำหรับหน้าไอ้นาทีที่เป็นรอยมือ” พลันทันใดนั้น ประสาทสมองของผมก็เกิดสปาร์คอะไรบางอย่างขึ้น สิ่งที่ไอ้พระกาฬกำลังทำ สิ่งที่มันกำลังแสดงออกทั้งเมื่อวานและวันนี้ ทำให้ผมคิดอะไรบ้าๆขึ้นมา …
            “อย่าบอกนะว่า …”
            “มึงชอบไอ้นาทีเหรอวะ?”
            ผมโพล่งออกไป ไอ้พระกาฬไม่มีสีหน้าหรือแสดงสีหน้าใดๆออกมา มันแค่ชะงักหมัดที่กำลังจะเงื้อฟาดลงที่แก้มของผมกลับไปไว้ที่ที่ควรจะอยู่ ก่อนดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นจะปราดมองผมอย่างน่ากลัว
            “กูแค่ทำหน้าที่ที่เพื่อนต้องทำ”
            ไอ้พระกาฬว่าแค่นั้น ก่อนจะเดินหันหลังออกไปจากซอยทันที …
            โว้ยย … นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี่ย?!





TBC

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [03] 9/1/57 -P.1
«ตอบ #6 เมื่อ12-01-2014 23:06:16 »

4


 
            ผมวิ่งดุ่มๆตามไอ้พระกาฬออกมาจากซอย ให้เชื่อเถอะว่าขาผมก็ไม่ได้สั้นไปกว่ามันซักเท่าไรแต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันเดินเร็วมากๆอย่างไงอย่างงั้นแหละ ผมพยายามคว้าแขนของพระกาฬเอาไว้ แต่พอคว้าได้ทีไรก็โดนสะบัดออกตลอด
            ว่าไอ้นาทีแรงเยอะแล้วนะ ไอ้นี่แม่งเยอะแบบถึกมาก
            “หยุดก่อนได้มั้ยโว้ย!” ผมแหกปากพลางหอบหายใจแฮ่กๆ เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ไม่ยักจะเห็นว่าเจ้าของแผ่นหลังตรงหน้าจะสนใจแม้แต่นิด
            “ไอ้พระกาฬ! มึงหยุด!!”
            ไม่ว่าผมจะวิ่งตามซักกี่รอบ ก็โดนผลักให้ล้มลงหน้าจิ้มดิน ก้นจ้ำเบ้าทุกครั้ง
            ชักจะโมโหแล้วนะไอ้ปลวก
            “ไอ้เชี่ยกาฬถ้ามึงไม่หยุดกูจับไอ้นาทีปล้ำจริงๆนะไอ้สัด!!” เลยต้องเล่นไม้ตายกันซักหน่อย ซึ่งก็ได้ผล แผ่นหลังหนาๆที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวมันเล่นกล้ามถูกพลิกกลับไปด้านหลังเผยให้เห็นใบหน้าคมๆกับสายตาน่ากลัวเสียวสันหลังที่ถูกส่งมาให้
            “มึงว่าไงนะ”
            “กูบอกว่า ถ้ามึงไม่หันมาคุยกับกูดีๆ ปล่อยให้กูวิ่งเป็นไอ้โง่ กูจะจับเพื่อนมึงปล้ำ” ผมพูดเสียงเรียบพลางยักไหล่อย่างชิวๆ ไอ้พระกาฬเลิกคิ้วสูงพลางทำหน้าครุ่นคิด
            “มึงคิดเหรอวะ ว่านาทีมันจะยอม?”
            “กูไม่ได้จะรอให้มันยอมนี่”
            “…”
            ไอ้พระกาฬเงียบไปก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของมันแล้วยืนมองผมนิ่งๆ
            “กูให้เวลา 1 นาที”
            “มึงชอบนาทีเหรอ?!” ผมไม่รอให้นาทีนั้นหมดไปเลยรีบสวนถามขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย “มึงชอบใช่มั้ยวะ ถ้ามึงไม่ชอบมึงจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนมึงทำไม”
            “หึ” พระกาฬหัวเราะในลำคอแล้วหันหลังกลับ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับทิ้งข้อความไว้เป็นปริศนาให้ผมถอดโค้ดลับไว้เล่นๆ
            “มึงรู้มั้ย ปกติไอ้นาทีมันไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครซักเท่าไหร่”
ถามกูเหรอ?
            กูไม่รู้เหมือนกัน
            ไม่ตอบแถมยังมาถามย้อนอีกนะไอ้เวร กรรมจริงๆ
            “เหอะ พวกประสาท” ผมสบถแล้วเดินหันหลังกลับ ก่อนจะเดินไปตามทาง
            ไอ้นาทีเนี่ยนะไม่สุงสิงกับใคร ไม่อยากจะเชื่อ ก็ไหนใครบอกว่ามันเป็นเพลย์บอยจอมเจ้าชู้ แค่มองตาก็หลงไปในมนต์สะกดที่พร้อมจะดูดสิ่งมีชีวิตอ่อนแอเข้าไปใกล้ๆ ขย้ำ แล้วปล่อยให้ตายอย่างทรมานช้าๆ
            น่าจะเป็นคนเข้าสังคมเก่งนะ
            “ไม่บอกก็รู้ว่ามึงกำลังนินทากูอยู่ในใจ”
            แถมยังตายยากอีกด้วย
            ผมเงยหน้ามองสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าปลวกที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้า ไอ้นาทีมันพิงหลังกับกำแพงก่อนจะมองท้องฟ้าเหมือนกำลังเพลิดเพลินกับการกินควันบุหรี่กับชมบรรยากาศ
            “มึงไม่ใช่โปเกมอน อย่ามาทำเป็นสู่รู้” ผมว่า พลางเดินผ่านไอ้นาทีไปเลย
            “มึงไปถามไอ้กาฬแบบนั้นทำไม”
            แหนะ มึงแอบดูอยู่ล่ะสิ กูว่าละ
            “กูสงสัย ก็ต้องถามสิ”
            ผมเดินจ้ำๆไปตามทางที่จะกลับบ้าน ไม่สนหรอกว่าคนข้างหลังจะเดินตามมาหรือเปล่า แต่ตอนนี้เจ็บปากมาก รู้สึกได้ถึงรสเลือดที่ปลายลิ้น กลิ่นอย่างกับสนิมเหล็ก ว่าแล้วก็จะถุยมันลงที่พื้น แต่เหลือบไปเห็นป้ายว่า
            ‘ห้ามถุยน้ำลาย’
            กรรม
            กลืนกลับเข้าไปก็ได้
            ผมเป็นพลเมืองดีครับ
            “มึงหูหนวกเหรอป่าน กูถามว่ามึงไปถามไอ้กาฬแบบนั้นทำไม” เสียงแมลงง๊องแง๊งดังอยู่ข้างหูผม น่ารำคาญ อยากจะตบให้แบนติดมือ ผมหันกลับไปหาเจ้าตัวที่เดินตามผม แล้วยกนิ้วกลางใส่
            “เห็นนี่มั้ย? กูรำคาญ ไปถามเพื่อนมึงดิ ทำตัวให้คนสงสัยแล้วยังจะมาทำร้ายร่างกายคนอื่นอีก”
            “สมควร” ไอ้นาทีว่า ผมร้องในลำคออย่างเข้าใจ
            “มึงสั่งมันล่ะสิ”
            “เปล่านี่”
            “เออ กูก็เลยถามมันไงว่ามันชอบมึงเปล่า” ผมหันหลังกลับแล้วออกเดินอีกครั้ง “ขนาดเพื่อนกูโดนรถทับเท้า กูยังไม่เอาเท้าไปตบหน้าคนขับรถเลย”
            “มันเหมือนกันเหรอ?”
            “ก็ไม่ได้ต่างกันนัก”
            ผมว่าแล้วยักไหล่ ไม่ทันจะเดินต่อมือหนาๆก็คว้าที่ไหล่ของผมอย่างแรงจนต้องหันกลับไปมองหน้าเจ้าของมือ
            “มีไรอีก วันนี้ไม่ใช่วันนัด กลับไปเหอะ ง่วง”
            ‘จุ๊บ’
            ไม่ทันได้ตั้งตัว ริมฝีปากของไอ้นาทีก็แตะลงบนริมฝีปากผมแผ่วเบาก่อนจะถอนออก ผมเบิกตา กว้างช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะรู้สึกได้ว่าตัวเองหน้าซีดเผือด
            ไอ้นาทียืนหัวเราะหึหึอยู่ตรงหน้า ผมกำหมัดแน่นก่อนจะพยายามข่มใจไว้
            ยุบหนอ พองหนอ
            แล้วผมก็ค่อยๆคลายมือออก
            ใจเย็นไอ้ป่าน ยังมีเรื่องที่ต้องรู้อีกเยอะ
            “วันนี้ไม่อ้วกเหรอ”
            “จะอ้วกทำไม ไม่ได้ไม่สบาย แล้วก็ไม่ได้เมา”
            “หืม…”
 “งั้นขออีกทีนะ” มือของไอ้นาทีลากผมเข้าไปที่หลังตู้โทรศัพท์ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรงจนผมตั้งรับไม่ทัน! ผมพยายามผลักมันออกไป แต่ไม่เท่าไรก็ต้องขนลุกซู่เพราะความรู้สึกแฉะๆที่ริมฝีปากของตัวเอง รวมไปถึงกลิ่นฝาดๆของบุหรี่
            อาการคลื่นไส้กลับมาอีกครั้ง
            จะทนไม่ไหวแล้ว!!!
            ผมพยายามแล้วพยายามอีกที่จะกลืนก้อนขมๆอะไรบางอย่างที่อยู่ในลำคอลงไป อย่าทำให้แผนแตกป่าน น้องหญิงยังไม่เลิกความคิดเกี่ยวกับไอ้นาที น้องหญิงอาจจะไม่ปลอดภัย
            ผมทนอยู่นานกว่าไอ้นาทีจะถอนริมฝีปากออก มันถอยตัวไปนิดพลางยิ้มมุมปาก
            “หึ” ก่อนที่มือของมันจะหยิบอะไรซักอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้ผม
            “กินซะ ก่อนที่จะอ้วกใส่กูอีกรอบ”
            มันคือหมากฝรั่งนั่นเอง
            ผมรีบแกะหมากฝรั่งนั่นออกอย่างไวแล้วเคี้ยวหงับๆ รสชาติสตรอว์เบอร์รี่หวานๆทำให้คลายความขนลุกลงได้เล็กน้อย เหมือนกับหลังสูบบุหรี่ต้องเคี้ยวหมากฝรั่งนั่นแหละ
            แม่ง ทำไมไอ้เวรนี่ถึงได้ทำท่าเหมือนรู้ไปซะทุกเรื่องจังวะ
            “กูขอถามอะไรอย่างได้ไหม?” ผมถามขึ้นพร้อมมองใบหน้าของคนตรงหน้าที่ใกล้เกินกว่าที่ควรจะเป็น ผมไม่ข้องใจหรือผลักไสมันออก ผมกับไอ้ฟ้าก็เคยเข้าใกล้หรือจ้องหน้ากันแบบนี้
            “ว่ามา…”
            “มึงไม่ชอบเข้าสังคมเหรอ?” ไอ้นาทีเลิกคิ้วนิดๆ
            “อือ ไอ้กาฬบอกมึงอ่ะดิ”
            “อืม…”
            “แล้วอย่างนี้ ถ้าคนที่ชอบมึงแล้วไม่ได้อยากมีอะไรกับมึง จะเข้าหามึงทางไหนวะ นัดบอดเหรอ ในเมื่อไอ้พีทมันบอกเองว่านัดบอดยังไงก็ต้องเสียตัวให้มึง”
            ไอ้นาทีนิ่งไป เหมือนมันจะสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้
            “ที่กูถามเพราะว่ากูเองก็เพิ่งชอบผู้ชายแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าชอบมึง แต่กูไม่อยากเสียตัว…” ผมพูดขึ้น รู้สึกแขยงปากตัวเองพิลึก เหมือนกำลังออกตัวปกป้องเวอร์จิ้นของตัวเองอะไรอย่างไงอย่างงั้น ไม่ใช่สาวน้อยตุ้งติ้งนะไอ้ป่าน
            “มึงเข้าใจใช่มั้ยวะ?”
            นี่ผมตอแหลเก่งหรือเปล่า
            มันจะเชื่อผมป่ะวะ
            “มึงตายยังวะนาที” ผมเห็นไอ้นาทีเงียบนานเกินเหตุเลยตบๆหน้ามันเบาๆ มันมีสีหน้าครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัด คิ้วที่ขมวดกับริมฝีปากที่เม้มเข้าหากัน
            “เอ่อ มึงยังไม่ต้องบอกก็ได้นะ กูเองก็พูดไม่ค่อยเก่ง เก่งแต่กวนส้นตีนว่ะ”
            “ก็เห็นอยู่”
            เหอะ ทีเรื่องแบบนี้ล่ะไวเชียวนะมึง
            “แถมกูไม่ได้น่ารักแอ๊บแบ๊วน่าจุดจุดจุดด้วยอะไรขนาดนั้นหรอก ใช่ไหม?”
            ไอ้นาทีเลิกคิ้วอีกครั้ง เป็นครั้งที่ร้อยแล้วได้มั้ง ก่อนที่มันจะหัวเราะในลำคอเบาๆเหมือนว่ากำลังเยาะเย้ยในความอ่อนด๋อยของผม
            “ตกลงมึงจะถามอย่าง หรือหลายอย่าง?”
            เออว่ะ แม่งก็พูดถูก
            ผมถามมันมากกว่าสองอย่างแล้วมั้งนั่น
            “เออ มึงก็ตอบให้หมดดิ กูเป็นคนขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็น วัยกำลังโต”
            “หึ กูขอตอบสองข้อพอแล้วกัน”
            “อือ”
            ผมตั้งใจฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ไอ้นาทีมองหน้าผมเหมือนขยะแขยง ครั้งแรกในรอบที่ได้เจอกัน ปกติบนหน้ามันจะมีแต่คำว่าหื่นกับวีนแปะอยู่ ในมุมมองของผมน่ะนะ
            “ข้อแรก นัดบอดคือทางเดียวที่จะได้คุยกับกู เหมือนอย่างที่มึงทำอยู่ ถ้าไม่นัดบอด ต่อให้มึงมีเรื่องแค่กูทำเงินหล่นแล้วมึงอยากคืน มึงก็ไม่มีทางได้เจอหรือคุยกับกู”
            เวร ...
            อย่างนี้ผมก็ต้องทนทรมานต่อไปน่ะสิ
            หรือว่าจะรวบยอดเลยวะป่าน แค่เสียตัวให้ผู้ชายแล้วร้องไห้ไปฟ้องหญิง บอกน้องหญิงว่าขนาดผู้ชายอย่างผมไอ้นาทีมันยังไม่เว้นเลย แล้วน้องหญิงจะเป็นยังไง หรือว่าจะขู่ฆ่าตัวตายหลังจากนั้นดีล่ะ
            …
            มึงบ้าไปแล้วป่าน
            มึงบ้า
            เสียตัวให้ผู้ชาย
            มึงบ้าแน่ๆ!
            “ทำหน้าอย่างกับขี้ไม่ออก” ไอ้นาทีปลุกผมให้หลุดจากมโนภาพกากๆที่เกิดขึ้น ผมสะบัดหัวเล็กน้อย
            “เออ รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”
            “เชี่ย”
            “ข้อสองล่ะ” ผมถามอะไรไปวะ ลืมไปแล้วช่างเถอะ
            “ถ้ามึงอยากรู้ว่ามึงแอ๊บแบ๊วน่ารักน่าจุดจุดจุดหรือเปล่า ก็ลองมาที่โรงเรียนกูห้อง 4-4 แล้วถามหากูดูสิ มึงจะได้รู้ไง ว่ามึง … น่ารักพอที่จะทำให้กูไม่รำคาญจนต้องเอาตีนยันหนังหน้าหรือเปล่า”
           
             *
            ประสาท
            ผมว่าผมต้องเป็นบ้าแน่ๆ
            ใช่ ผมเป็นบ้า
            ว่าแล้วก็ก้าวเท้าเดินออกจากบริเวณอันตราย แต่ไม่ทันไรก็มีเสียงทุ้มๆเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง ผมชะงักกึกแล้วมีสีหน้าที่ซีดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองผ่านกระจก ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับไอ้ริค … เพื่อนสุดหล่อของไอ้นาที
            “ไอ้ป่านเว้ยเฮ้ย!” ไอ้ริคปราดเข้ามาตบบ่าผมอย่างเป็นกันเองรวมไปถึงไอ้พีทที่ตามเข้ามาสมทบ ผมอยากจะละลายหายไปจากตรงนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด
            ผมสงสัย
            ผมเคยบอกไปแล้วไงว่าผมมันขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็นอยากไปหมดซะทุกเรื่อง
            ผมเลยมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง 4-4 … ที่โรงเรียนฝั่งตรงข้ามของตัวเอง ตอนเวลาพักเที่ยง ผมเช็คตารางดีแล้วล่ะ ผมเช็คแล้วว่าน้องหญิงเรียนห้องคอมอีกตึกหนึ่ง ผมแค่มาพิสูจน์เฉยๆแล้วก็จะกลับออกไปอย่างเนียนๆโดยที่น้องหญิงไม่เห็น
            “มาหาไอ้นาทีเหรอวะ!?” เสียงของไอ้พีทดังพอๆที่จะทำให้คนทั้งชั้นสี่หันมามองผมเป็นตาเดียว ทั้งหญิงทั้งชายปนเปกันไปหมด ผมถอนหายใจเนือยๆ
            อยากเข้ามาแบบเงียบๆแล้วออกไปแบบเงียบๆ แต่คงไม่ได้ซะแล้วล่ะ
            “ไง” ไอ้นาทีแบกหน้าหล่อๆของตัวเองออกมาจากห้อง ผมค้อนตาขวับใส่มัน
            “กูแค่มาเอาคำตอบ”
            ไอ้พีทกับไอ้ริคมีสีหน้าฉงน ผิดกับไอ้พระกาฬที่นั่งกอดอกอยู่ในห้องทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่สายตางี้จ้องเขม็ง รวมไปถึงไอ้ตัวต้นเหตุอย่างไอ้นาที ที่ยืนยิ้มเหยียดๆอยู่ตรงหน้า ก่อนที่มันจะเดินเข้ามาหาผมแล้วกดจมูกโด่งๆลงบนแก้มของผมโดยไม่ทันตั้งตัว!!!
            “มึง!”
            “นู่นไงคำตอบ” นาทีมันพยักพเยิดหน้าไปด้านหลังของผม แค่หันไป ความรู้สึกเสียวสันหลังก็วูบวาบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
            ทำหน้าแบบนั้น จะฆ่ากูเหรอวะ?!
            “หนีเหอะว่ะป่าน กูว่าอีกไม่นานโรงเรียนจะต้องกลายเป็นสมรภูมิรบแน่เลย!” ไอ้ริคโอบไหล่ผมอย่างเป็นกันเอง พอๆกับไอ้พีทที่ยืนยิ้มร่า
            “ไม่เคยเห็นเลยน๊า นานๆทีไอ้นาทีจะสัมผัสแก้มใครซักคน”
            ว่าไงนะ
            กูควรจะดีใจเหรอที่เป็นคนแรกที่ถูกมันหอมแก้มน่ะ
            อี๋ ขนลุก ถ้ามือว่างนี่จะถูแก้มแล้วนะเนี่ย
            “มานี่” ไอ้นาทีลากผมเข้าไปในห้อง ก่อนจะกดล็อคประตูหน้า มันหันไปส่งสายตาอาฆาตให้ไอ้พระกาฬ ไม่กี่วิต่อมาไอ้พระกาฬก็ลุกขึ้นพลางส่งเสียงเย็นๆออกมาจากปาก
            “ออกไปให้หมด”
            เท่านั้นแหละ วิ่งกันป่าราบ นักเรียนที่อยู่ในห้องหายออกไปจากประตูหลังภายในพริบตา
            แม่ง ทรงอิทธิพลจริงๆ
            “อ้าว มึงไปไหน?” ผมถามไอ้พระกาฬที่กำลังจะเดินออกจากห้อง มันหันมาทำหน้าตาเย็นชาใส่แล้วสะบัดตูดหนีออกไปจากห้องทันทีโดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูห้อง ผมงี้อ้าปากหวอ
            ใครกันแน่วะที่ต้องทำท่าแบบนี้
            กูโดนมึงต่อยนะเว้ย
            “ถอดเสื้อ” ไอ้นาทีพูดขึ้นอย่างหน้าด้าน ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ
            “อย่าบอกนะว่ามึงสมองหนาไม่เข้าใจที่กูพูดเมื่อวานน่ะ”
            “ถ้าไม่อยากตายก็ถอดเสื้อซะป่าน!”
            “มันเกี่ยวกันซะที่ไหนล่ะวะ!” ไอ้นาทีพยายามเลิกเสื้อนักเรียนของผมขึ้น ผมกระถดถอยหลังแล้วพยายามจะถีบไอ้นาทีออกไป แต่มันกลับไปกว่า มือของมันเลิกเสื้อของผมจนเห็นหน้าท้อง ผมรู้สึกเหมือนกับโดนหักหลัง
            มึงมัน!
            เลวจริงๆ
            ‘ปัง!!!’
            ประตูถูกกระแทกเปิดด้วยฝีมือของใครหลายๆคนประจวบเหมาะกับที่ริมฝีปากของนาทีจรดลงบนไหปลาร้าของผม ผมเบิกตาโพลงอย่างไม่เข้าใจ!
            พวกนักเรียนที่ยืนออกันอยู่หน้าห้องถือเก้าอี้โต๊ะกันทุ่มจนประตูพังเข้ามา ผมเคยรู้ประวัติของโรงเรียนไอ้นาทีก็จริง มันเคยเป็นโรงเรียนกุ๊ยมาก่อน แต่พึ่งมีการปฏิวัติล้างโรงเรียนเมื่อไม่นานมานี้ทำให้โรงเรียนไต่ขึ้นไปอยู่แถวหน้าๆของโรงเรียนดัง
            แต่การกระทำของคนยังไม่เปลี่ยนไปเลย พวกนั้นจ้องผมราวกับจะฆ่าให้ตายไปซะ
            “โอ้ย”
            ความรู้สึกเจ็บแล่นเข้ามาเมื่อฟันขาวๆของไอ้นาทีกัดลงที่เนื้อส่วนแขนของผม ผมงงเป็นไก่ตาแตก!
            “เงียบๆไว้” นาทีมันกระซิบข้างหูผมแล้วหันไปมองพวกผู้หญิงที่พังประตูเข้ามาอย่างนิ่งๆ ไอ้พีทกับไอ้ริคที่ยืนอยู่ตรงประตูกำลังยิ้มและยืนกอดอก ไม่คิดที่จะทำอะไรทั้งนั้น
            นี่มันบ้าอะไรวะ?
            “ใครใช้ให้พวกมึงมาขัดจังหวะ”
            เสียงของนาทีดูน่ากลัวกว่าทุกครั้ง ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ พวกนักเรียนคนอื่นดูมีท่าทีหงอลงไปถนัดตา
            “นาทีทำแบบนี้ทำไม”
            “ใช่ จะนัดบอดก็นัดบอด แต่ละวันก็ช่างมัน แต่ไม่ควรทำแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น!”
            “นาทีก็รู้ว่ามันต้องตาย!”
            หา?
            ความคิดบ้าอะไรของพวกเธอน่ะ ทำไมผมต้องตาย?
            “ตาย? ใครกันแน่ที่ต้องตาย” นาทีสาวเท้าเข้าไปหาผู้หญิงตรงหน้า ผมรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต
            “หมอนั่นไง! มันก็ควรได้รับสิทธิ์เหมือนๆกับเราไม่ใช่เหรอ!!!”
            “ไม่ใช่”
            “หมายความว่ายังไง หรือว่านาทีรักมัน!”
            ‘เพี๊ยะ!!!’
            ฝ่ามือของนาทีฟาดลงไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นจนเธอร่วงลงไปนอนกุมใบหน้าที่พื้น! ทุกเสียงซุบซิบเงียบลงถนัดตา ผมที่มีความเป็นสุภาพบุรุษพอรีบวิ่งไปคว้าแขนของไอ้พวกชอบทำร้ายร่างกายคนอื่นเอาไว้ นาทีหันมามองผมนิดๆ
            “ใจเย็น”
            “…”
            “เป็นไรหรือเปล่าเธอ” ผมโน้มตัวลงไปดูสภาพของผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่พื้น ด้วยความหวังดีผมค่อยๆจับแขนเธอเบาๆ แต่กลับถูกฝ่ามือเรียวนั่นฟาดอย่างแรง แถมยังตบซ้ำลงที่หน้าอีก
            อะไรวะ คนจะช่วยนะเว้ย
            “ตายซะ” จู่ๆเรื่องที่ผมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นก็ทำให้ผมแทบจะร้องออกมา ไอ้นาทีมันปราดเข้ามาจะใช้เท้างามๆของมันกระทืบผู้หญิง เท้ากระทืบเชียวนะ! ผมเอื้อมมือไปดึงขานาทีเอาไว้พลางกอดไว้แน่น
            “นาที!!! พอ!!!”
            นาทีชะงักขากึกแล้วมองหน้าผม ก่อนจะวางเท้าลงที่เดิม เสียงซุบซิบนินทาเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมหันไปมองสีหน้าของริคและพีทที่ดูมีท่าทีตกใจเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
            เท่าที่ผมจับใจความได้คือ
        “นาทีฟังหมอนั่น…”
         “ให้ตายเขาทำได้ไงน่ะ”
            ผมชักจะทนไม่ไหวกับคำนินทาประสาทเสียนั่น
            “มานี่” เลยยื่นมือไปจับแล้วกระชากตัวของไอ้นาทีเดินออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว ผมไม่ชอบเสียงนินทา ผมเกลียดสายตาพวกนั้น
            ก่อนจะชะงักกึกเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างด้านหน้า
            ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเบิกตากว้าง
            “หญิง…”






TBC.

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [04] 12/1/57 -P.1
«ตอบ #7 เมื่อ12-01-2014 23:38:32 »

มารออ่านต่อจ้า~

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [04] 12/1/57 -P.1
«ตอบ #8 เมื่อ13-01-2014 13:47:32 »

สลัดมือสองข้างที่จับมือชาและผึ้ง ถลานย้าไผขี่คอนาทีทันควัน..
เอ่อ ไม่ได้ทรยศนะ เรื่องนั้นยังอยู่ในใจเสมอ แต่แบบ... อุ๊ต๊ะ!  แบดได้ใจเลย 555

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [04] 12/1/57 -P.1
«ตอบ #9 เมื่อ13-01-2014 15:27:18 »

เหอๆๆ กระทืบ ญ ว่ะ   o22 o22  แต่สงสัยว่าป่านจะงานเข้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [04] 12/1/57 -P.1
« ตอบ #9 เมื่อ: 13-01-2014 15:27:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [05] 13/1/57
«ตอบ #10 เมื่อ13-01-2014 18:11:30 »

สลัดมือสองข้างที่จับมือชาและผึ้ง ถลานย้าไผขี่คอนาทีทันควัน..
เอ่อ ไม่ได้ทรยศนะ เรื่องนั้นยังอยู่ในใจเสมอ แต่แบบ... อุ๊ต๊ะ!  แบดได้ใจเลย 555

.... อะไรรร นี่คืออะไร หมายความว่าเยี่ยงไรรร โฮฮฮ 555555555 น้อยใจ 83 วินาที :hao5:
โอเคหายละ 555 ไม่ต้องจับมือราชากับผึ้งไว้ตลอดก็ได้ แค่พื้นที่เล็กๆในใจไม่ลืมกันก็พอแล้ว.. #มาดนางเอก

เอาล่ะ คนโพสต์เวิ่นพอแล้ว มาดูตอนต่อไปกันดีกว่าค่ะ ~

----------------------------------------

5

            “ป่าน…” น้องหญิงเรียกผมเสียงแผ่ว ดวงตากลมๆนั่นเลื่อนลงมาจ้องที่มือของผมที่กำลังจับอย่างเหนียวแน่นกับมือของไอ้นาทีอยู่ ผมรีบสะบัดออกอย่างรวดเร็ว
            “เอ่อ คือ…”
            ผมรู้สึกอึดอัด เกิดมาไม่เคยรู้สึกแย่อะไรขนาดนี้ ทั้งที่พยายามจะปิดไม่ให้น้องหญิงรู้ว่าผมกำลังทำอะไร ทั้งที่พยายามจะปกป้องน้องหญิงจากนาที ทั้งๆที่อยากช่วยเธอแท้ๆ
            แต่พอเจอสายตาที่คาดคั้นและสงสัยของน้องหญิงตอนนี้ กลับทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก
            “รีบไปเหอะ” เป็นไอ้นาทีที่ขัดบรรยากาศแย่ๆนั่นขึ้น มือของมันลากผมออกไปจากโรงเรียน ดวงตาสีดำสนิทนั่นปราดมองน้องหญิงเล็กน้อย พอๆกับดวงตากลมของน้องหญิงที่มองตามไอ้นาที แถมพ่วงด้วยแววตาไม่เข้าใจมาให้ผม
            “เดี๋ยวป่านโทรหานะ…” ผมว่าก่อนจะวิ่งออกไปจากโรงเรียนทันที
            ในใจตอนนี้ของผม เตรียมตั้งรับทุกสิ่งทุกอย่าง
            หวังว่าถ้าผมโกหกเพื่อให้ใครสบายใจ ผมคงไม่ตกนรกหรอกนะ
            “แฮ่กๆ” ผมหอบหายใจจนตัวโยนพลางนั่งลงในรถแท็กซี่ ไอ้นาทีนั่งอยู่ข้างๆ มันเองก็เหนื่อยหอบจนตัวโยนเหมือนกัน เราวิ่งกันมาไกลพอสมควร
            แล้วก็สมควรที่เราควรจะพักด้วย
            เหนื่อยว่ะ แม่ง
            ผมไถลตัวไปกับเบาะรถแท็กซี่ ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของคนข้างๆ
            “ตกลงมึงเข้าใจที่กูพูดมั้ยเนี่ย”
            ไอ้นาทีทำหน้างงๆ ผมขยี้หัวอย่างเหนื่อยใจ
            “เรื่องที่กูบอกว่ากูไม่ได้อยาก …” ผมเว้นคำหลังไว้พลางทำท่าอธิบายให้มันเข้าใจ พูดกันตรงๆในรถแท็กซี่เดี๋ยวจะได้เป็นขี้ปากนินทาของใครอีก ไม่เอา ไม่ชอบ
            “อือ เข้าใจ” ไอ้นาทีว่า
            เข้าใจเตี่ยมึงสิ
            “เข้าใจแล้วกัดกูแบบนี้น่ะนะ?” ผมดึงปกเสื้อลงมาก่อนจะชี้ไปที่บริเวณที่โดนกัด ใจหนึ่งก็อยากจะต่อยไอ้นาทีแม่งให้หน้าหัน ชอบเหลือเกิ๊นหาเศษหาเลยกับร่างกายคนอื่นเนี่ย ขนาดจะประชดคนหนึ่งยังไม่วายฝังเขี้ยวลงบนเนื้อผม อยากจะตั้นหน้านัก ถ้าไม่ติดว่าผู้หญิงพวกนั้นพังประตูเข้ามาล่ะก็นะ
            “กูช่วยมึงต่างหาก” นาทีพูดแค่นั้น แล้วนั่งเงียบไปตลอดทาง ในขณะที่ผมได้แต่เขย่าเสื้อถามมันว่า
            “ช่วยอะไรวะ?”
            รถแท็กซี่มาจอดลงตรงหน้าคอนโดที่คุ้นตา ไอ้นาทีเป็นคนบอกแท็กซี่ไปเองว่าจะไปคอนโดมัน ผมเดินตามร่างหนาๆนั่นเข้าไปในลิฟต์ ในใจก็คิดวุ่นวายหลายๆอย่างจนมันตีกันไปหมด
            ทั้งเรื่องน้องหญิงและเรื่องไอ้นาที
            คีย์การ์ดถูกเสียบลงช่องประตูก่อนที่ประตูจะเปิดออก นาทีมันเดินเข้าไปในห้อง ผมเลยเดินตามต้อยๆ เห็นมันนั่งที่โซฟา ผมก็เลยนั่งลงที่โซฟาบ้าง เอาจริงๆเวลานี้ผมเองก็ไม่อยากจะซักไซ้อะไรมากความ เพราะกลัวจะโดนซักกลับเหมือนกัน
            “ผู้หญิงคนนั้น แฟนเหรอ?” นาทีถามขึ้น ผมหันไปมองหน้ามันแล้วหันกลับมาที่เดิม
            ก็อยากให้เป็นอยู่
            “แค่เพื่อนว่ะ…กูชอบมึงนะเว้ย จะมีแฟนได้ไง
            “มึงโกหกไม่เก่งว่ะป่าน”
            “มึงก็เดาไม่เก่งเหมือนกัน” ผมกลิ้งตัวหันหลังให้ไอ้นาทีแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เครียดว่ะ เกิดมาไอ้ป่านไม่เคยมีเรื่องเครียดอะไรในชีวิตมากขนาดนี้เลย
            ป่านนี้น้องหญิงจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นอะไรกับไอ้นาทีมันหรือเปล่า
            “เออจริงสิ ในห้องนั่น มึงตั้งใจจะกระทืบผู้หญิงจริงๆเหรอวะ?” ผมอดสงสัยไม่ได้เลยถามออกไป นาทีหันมามองหน้าผมเล็กน้อย ใบหน้านั่นนิ่งสนิทเหมือนอย่างเคย
            ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายจะกล้าทำแบบนั้นจริงๆ
            “อือ”
            “…”
            “กูเคยกระทืบผู้หญิงจนเข้าไอซียูที่โรงเรียนเก่า” ผมหันขวับไปมองหน้าไอ้นาทีอย่างตกใจ
            โหดไปมั้ง…
            “ทำไมวะ นั่นผู้หญิงนะเว้ย”
            “ผู้หญิงแล้วไงวะ บางครั้งมันก็มากเกินจนทนไม่ไหวเหมือนกัน” ไอ้นาทีว่าก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องนอนเฉยเลย ผมอ้าปากพะงาบๆ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าตัวเองจะได้เจอเรื่องอะไรแบบนี้ในเมื่อผมอยู่ลัทธิสุภาพบุรุษที่คอยเป็นฮีโร่ปกป้องเพศที่อ่อนแอกว่า…
            “แต่เขาไม่ได้ถึกเหมือนผู้ชายนี่หว่า” ผมเดินตามเข้าไปในห้องพลางมองไอ้นาทีที่นอนฟุบอยู่ที่เตียง
            “มึงก็ทำเกินไป”
            “กูไม่สน”
            “มึงไม่สนไม่ได้นะเว้ย กะอีแค่เขาว่ามึงนิดหน่อยมึงก็กระทืบเขา มันไม่ใช่นิสัยของลูกผู้ชาย”
            “มึงไม่ใช่เพื่อนกู มึงไม่รู้หรอกป่าน”
            เออดิวะ กูมันก็แค่คนแปลกหน้าที่ต้องการปกป้องหญิงสาว
            ปลวกจริง
            “แต่กูชอบมึง แล้วพวกนั้นก็บอกว่ามึงฟังที่กูพูด” ใช่ ผมได้ยิน ที่ผมออกปากห้ามนาทีไม่ให้ใช้เท้ากระทืบผู้หญิงคนนั้น แล้วมันก็ยอมฟัง
            นี่อาจจะเป็นลางลิขิตที่ดีก็ได้
            “มันก็แค่การแสดง”
            “…”
            “แล้วมึง ป่าน … มึงอย่าย้ำคำว่าชอบกับกูมากๆ แล้ววันหนึ่ง มึงจะเสียใจที่รู้สึกชอบกู” ไอ้นาทีบ่นเสียงแผ่ว ก่อนจะหันหน้าหนีผมไปอีกทาง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
            กูตอแหลว่ะ
            ผมนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนจะโยกขาไปมาด้วยความสนุก ไม่ทันไรเสียงร้องของริงโทนที่คุ้นเคยทำให้ผมกระเด้งตัวขึ้นนั่ง โทรศัพท์ของผมถูกวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือภายในห้องนอน ผมหันกลับไปมองไอ้นาทีที่ยังคงนอนแบนติดไปกับเตียง
            เสร็จกู!
            ผมคว้าโทรศัพท์มาไว้กับตัว ก่อนจะกดรับอย่างรวดเร็ว
            “ฮัลโหล”
            (… ป่าน) เสียงน้องหญิงดังลอดมาจากปลายสาย ผมชะงักกึกตัวชาไปทั้งร่างก่อนจะค่อยๆถอนโทรศัพท์ออกจากหูแล้วมองรายชื่อโทรเข้า
            น้องหญิง
            (ป่านใช่มั้ย!? ไหนบอกว่าโทรศัพท์หายยังไงล่ะ!?)
            แย่ล่ะสิ
            “เอ่อ ป่านเจอแล้วอ่ะ พอดีมีคนเก็บไว้ให้”
            (ไหนป่านบอกว่ามือถือโดนขโมย) ผมค้างเติ่งไปชั่วขณะ น้องหญิงจับไต๋ผมได้อีกแล้ว
            “อ่อ คือป่านนึกว่าโดนขโมยน่ะ แต่มีคนเก็บได้ก็เลยเอามาคืน”
            (…) น้องหญิงเงียบไป ผมรู้สึกเหมือนโลกมันเคว้งๆ
            (ป่านเป็นอะไรกับนาที ป่านกำลังทำอะไรทำไมไม่บอกหญิง ทำไมจับมือนาทีเหมือนสนิทกันขนาดนั้น ไปรู้จักกันมากขนาดนั้นตั้งแต่ตอนไหน) ร่างเล็กตั้งคำถามรัวใส่ผมเป็นชุด ผมได้แต่อึ้งพลางหันไปมองร่างของไอ้นาทีที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิม
            ผมเปลี่ยนสถานที่ไปเป็นที่ระเบียงก่อนจะปิดประตูกระจกให้แน่นสนิทเพื่อให้มั่นใจว่าเสียงจะไม่เล็ดลอดเข้าไปในโสตประสาทการได้ยินของไอ้นาที
            หายใจลึกๆไอ้ป่าน แถไว้ก่อนแม่สอนไว้
            “ป่านก็กำลังติดต่อนาทีให้หญิงไง แต่หญิงก็รู้ว่านาทีมันมีกิ๊กเยอะแถมยังเข้าหายากมากๆ”
            (กิ๊กเหรอ?)
            “ใช่ กิ๊กอ่ะ ป่านก็เลยต้องช่วยมันกำจัดกิ๊ก เกือบจะโดนโต๊ะทุ่มใส่ด้วย…” ไม่อยากจะบอกว่าผมก็เป็นหนึ่งในกิ๊กของไอ้นาทีเหมือนกันนั่นแหละ
            (ขนาดนั้นเลย)
            “อือ … หญิงใจเย็นๆนะ เดี๋ยวถ้าพร้อมเมื่อไร ป่านเบิกตัวเจ้าบ่าวใส่พานให้หญิงแน่นอน” ผมว่า แต่ในใจคิดกลับกันคนละแบบเลย เพราะถ้าพร้อมเมื่อไร ผมกับหญิงจะใส่ชุดดำไปไว้อาลัยไอ้นาทีแน่นอน
            แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะอำมหิตโหดเหี้ยมฆ่าหมกป่าไอ้นาทีหรอกนะ
            แค่ให้หญิงตัดใจให้ได้ก็พอ
            เพราะดูมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร นอกจากพฤติกรรมแย่ๆของมัน
            ‘ปึงๆ!!!’
            เสียงทุบกระจกด้านหลังทำให้ผมสะดุ้งเฮือก ผมหันไปมองร่างของไอ้นาทีที่ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ตรงนั้น ไอ้เวรนี่อารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน
            “หญิง ป่านวางสายก่อนนะ เดี๋ยวโทรกลับดึกๆนะ”
            (ป่าน…) เสียงเล็กๆดังขึ้นแผ่วๆ ผมใจเต้นรัวอย่างเก้ๆกังๆ
            “หืม”
            (หญิงเชื่อใจป่านนะ … อย่าทำให้หญิงเสียใจนะ)
            …
            อือ
            ไม่ทำให้หญิงเสียใจ
            เพราะการที่หญิงจะคบกับไอ้นาทีมันอาจจะทำให้หญิงเสียใจและเสียอนาคตไปตลอดชีวิต
            ผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องใช่มั้ย
            “อื้ม แค่นี้ก่อนนะ”
            ผมบอกลาหญิงก่อนจะกดตัดสายแล้วเปิดประตูกระจกให้ไอ้นาที มันเดินเข้ามาตบหัวผมอย่างแรงจนหน้าแทบทิ่มก่อนจะตามด้วยศอกและเข่าอีกมากมาย
            “ห้องก็ห้องกู กล้ามากนะที่ล็อคประตูใส่หน้าเจ้าของห้องแถมยังหยิบมือถือไปโดยพลการอีก”
            นี่สรุปว่า เมื่อกี้มึงหลับเหรอวะ
            “กูไม่อยากรบกวนเจ้าของห้องไง”
            “อ้อเหรอ” ไอ้นาทีลากเสียงก่อนจะกอดอกแล้วมองหน้าผม
            “อะไร หน้ากูมีอะไรติดหรือไง”
            “มี”
            หา ผมยกมือลูบๆหน้า
            “ออกยังวะ”
            “ยังว่ะ ดูท่าจะติดแบบแกะไม่ออก”
            “อะไรวะ?  อย่าบอกนะว่าลูกตาน่ะ” ผมชักจะเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ
            “เปล่า…”
            “มีความจริงอยู่บนหน้ามึงเต็มไปหมดเลย…”
            “หา!!!”
            ผมชะงักไปกับคำพูดของไอ้นาทีที่ดูเหมือนจะมีอะไรแฝงอยู่ ผมไม่ได้หลบตามันแต่กลับจ้องดวงตาสีดำสนิทที่อยู่ภายใต้ขอบตาเรียวนั่นเขม็ง มันรู้แล้วเหรอ? รู้แล้วหรือไงว่าผมเข้าหามันเพราะอะไร
            เหมือนโดนแย่งอากาศหายใจไปช่วง ผมนิ่งจนลืมหายใจ
            ไอ้นาทีต้อนผมเดินกลับเข้าห้อง ดวงตาของมันไม่มีแววที่จะล้อเล่นอีกต่อไป ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก็เห็นอยู่ว่านาทีมันโหดขนาดไหน ขนาดผู้หญิงยังกระทืบได้แล้วผมเองก็ไม่ใช่คนชอบมีเรื่อง ชกต่อยก็ไม่ค่อยจะมีกับชาวบ้านเขา
            ผมถอยหลังไปเรื่อยๆจนรู้สึกว่าขาชนกับอะไรบางอย่าง แต่ไอ้นาทีไม่หยุดแค่นั้น! มันดันผมจนตัวผมล้มลงบนเตียง  แผ่นหลังรับสัมผัสจากความนุ่มของสิ่งที่แบกรับเอาไว้ ก่อนไอ้นาทีจะตามเข้ามาทาบทับร่างของผมอย่างรวดเร็ว!!!
            มือของผมรีบผลักตัวไอ้นาทีออกอย่างแรงแต่เนื่องจากไอ้นาทีมันแรงควาย มือสองข้างของมันกดลงที่ข้อมือของผมซึ่งเป็นจุดตาย ผมเบิกตากว้าง!!!
            “มึง …!”
            “หืม…” ไอ้เวรนาทีร้องหืมในลำคอก่อนจะซุกไซร้จมูกลงที่ซอกคอของผม ผมตัวแข็งทื่อ
            จมูกโด่งๆไล้ไปตามลำคอของผมอย่างจาบจ้วง และมันบังคับให้ผมต้องทำ ผมเงื้อมือขึ้นเพื่อที่จะฟาดคอของไอ้นาที แต่ยังไม่ทันที่จะฟาดลงไป ไอ้นาทีก็ถอนตัวออกไปนั่งลงข้างๆร่างของผม ผมกระพริบตาปริบๆอย่างอึ้งๆ
            “ทำหน้าอย่างกับจะโดนเชือด กูล้อเล่น มีแต่ความโง่ติดหน้ามึงว่ะ”
            โหยไอ้ห่า!
            “สันดาน” ผมรีบจัดแต่งทรงผมให้เข้าที่ก่อนจะเช็คสภาพกระดุมเม็ดแรกของเสื้อที่ถูกปลดออกไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ พลางโกยอากาศเข้าปอดอย่างโล่งอก
            “หึ แล้วอีกอย่าง กูไม่ชอบมีอะไรกับท่อนไม้” ไอ้นาทีหัวเราะอย่างกวนส้นเท้าก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมคว้าหมอนที่อยู่บนเตียงปาใส่มันอย่างแรงแต่พลาดไปโดนกำแพง
            “ไอ้เวร”
            ผมส่ายหัวพลางล้มตัวลงนอนลงบนเตียงใหญ่ๆนั่น
            “หญิงเชื่อใจป่านนะ … อย่าทำให้หญิงเสียใจนะ”
            ผมจะทำยังไงดี จะทำยังไงดีนะ
         
             *
 
            “อือ”
            ผมครางในลำคอพลางขยี้ตาเล็กน้อยแล้วมองไปรอบๆตัว ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นพรวดเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ผิดที่ เวรล่ะ เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไร ผมนอนจนฟ้ามืดเลยแถมไอ้นาทีก็ไม่ได้เปิดไฟซักดวง ผมวาดมือไปทั่วร่างกาย เช็คความปลอดภัยของตัวเอง
            ปลอดภัย เสื้อผ้ายังครบ
            เฮ่อ
            ผมลุกขึ้นจากเตียงพลางเดินไปทั่วๆห้อง ไม่มีวี่แววของไอ้นาที มันไม่อยู่หรือว่าออกไปข้างนอก ไว้ใจผมมากเกินไปหรือเปล่า? ผมตั้งท่ากำลังจะเดินออกจากห้องนอน ก่อนจะได้ยินเสียงแปล่งๆอะไรบางอย่างข้างนอกนั่น ผมค่อยๆเงี่ยหูฟัง
            มันเป็นเสียงหอบหายใจของผู้หญิง
            ผมกระเถิบตัวกลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะพยายามฟังเสียงแผ่วๆนั้น
            “นาที มิลขอโทษ”
            จริงๆด้วย เสียงผู้หญิงจริงๆ
            “ออกไปซะ น่ารำคาญ” เหมือนไอ้นาทีจะไม่ได้เล่นกับผู้หญิงคนนั้น เสียงที่มันพูดดูเย็นชาผิดปกติ ผมยังคงไม่เขยิบตัวไปไหน ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เผื่อว่ามีอะไรที่ผมควรจะต้องรู้
            “มิลขอโทษ นาทีอย่าเย็นชาได้มั้ย”
            “บอกให้ออกไป”
            “นี่นาทีรักมันจริงๆหรือไง!!! ไอ้ผู้ชายที่ชื่อป่านน่ะ!!! นาทีถึงได้ปฏิเสธมิลแบบนี้” ผู้หญิงที่ชื่อมิลตะโกนเสียงแหลมๆดังลั่น ผมชะงักกึกไป
            อะไรนะ
            นาทีเนี่ยนะรักผม ห่ะๆ
            บ้าไปใหญ่แล้ว ผมกับมันก็แค่คนรู้จัก ใช่ ถึงตอนนี้ผมจะอยู่ในสถานะที่ชอบไอ้นาทีอยู่ฝ่ายเดียว แถมยังเป็นสถานะที่เมคขึ้นมาเองอีกต่างหาก แต่ไม่มีทางที่ไอ้นาทีจะรักผม
            เราไม่ได้ทำอะไรพิเศษขนาดนั้นหรอกนะ เธอมั่วใหญ่แล้ว
            เสียงถอนหายใจแรงๆของไอ้นาทีดังขึ้นภายในห้อง ผมตั้งใจฟังกับสิ่งที่นาทีกำลังจะพูด
            “ใช่ รู้แล้วก็ออกไปได้แล้ว”
            “!!!”
            ว่าไงนะ?!!
            “นาที!!!”
            “ก็บอกว่ากูรักมัน แค่นี้ใช่มั้ยที่เธออยากฟัง ฟังเสร็จก็ออกไปซะ แล้วไม่ต้องแต่งตัวยั่วๆแบบนี้มาอีก เธอหมดค่าไปนานแล้ว กลับไปซะ!” เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงโวยวายของผู้หญิงคนนั้น มันไม่สำคัญมากไปกว่าคำพูดของไอ้นาทีเลยแม้แต่นิด
            ผมค่อยๆก้าวขาออกมาจากห้องช้าๆอย่างช็อคๆ ดวงตายังคงปรับแสงไม่เต็มที่ ก่อนจะมายืนอยู่ตรงหน้าไอ้นาทีและผู้หญิงคนที่ชื่อมิลที่ฉุดกระชากลากถูกันอยู่
            “ป่าน…” นาทีหันมามองหน้าผมเหมือนตกใจ มิลเองก็ตกใจที่เห็นผมอยู่ในห้องเหมือนกัน
            “กะ … แก!!!! มีสิทธิ์อะไรเข้ามาในห้องของนาที!!!” ร่างเล็กโวยวาย สภาพเสื้อผ้าที่เธอใส่ดูน่าเกลียดเอามากๆ เป็นเสื้อเอวลอย และกระโปรงสั้นที่ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กนักเรียนธรรมดาจะทำแบบนั้นได้ ปกติผมไม่ค่อยอคติกับผู้หญิงนะ แต่ผู้หญิงคนนี้ทำตัวไม่ไหวจริงๆ
            มากไปกว่านั้น
            เธอคือผู้หญิงที่ถูกไอ้นาทีตบ และเกือบจะโดนนาทีกระทืบซ้ำ
            “ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ออกมา!!!” หญิงสาวตะโกนเสียงดัง ผมช็อคค้างอย่างไม่เข้าใจในขณะที่มือของไอ้นาทีผลักหัวเธอออกไปอย่างแรงแล้วปิดประตูดังปัง!
            บรรยากาศที่น่ากระอักกระอ่วนถูกก่อตัวขึ้นทีละนิด ผมยังคงจ้องใบหน้าของไอ้นาทีที่อยู่ในความมืด พอๆกับนาทีที่จ้องหน้าผมไม่ละสายตา
            “มึง รักกู …” ผมพูดออกไปเสียงแผ่ว ไอ้นาทีหัวเราะเล็กน้อย
            “กูแค่พูดให้เธอกลับไป”
            “ว่าไงนะ?!”
            “จริงๆแล้ว…”
            ‘ผลั่วะ!!!!!’ ยังไม่ทันที่ไอ้นาทีจะได้พูดจบผมก็ปราดเข้าไปชกหน้ามันอย่างแรงจนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บที่มือ บ้าเอ้ย บ้าจริงๆ!!!
            “โว้ย!” ผมสวนเข่าเข้าที่ท้องของนาทีมันอีกครั้งก่อนจะดึงตัวมันขึ้นมา ไอ้นาทีดูเหมือนจะเริ่มโมโห มันสวนผมกลับจนหน้าผมชาไปครึ่งแถบ ก่อนหมัดหนักๆจะชกเข้าที่ท้องน้อยของผมอย่างแรง
            “อุก”
            “เป็นบ้าอะไร!” ไอ้นาทีผลักผมออกจากตัวมันอย่างแรงจนร่างของผมกระแทกกับกำแพง ผมทรุดลงที่พื้นอย่างหมดแรง ไม่ได้คิดจะหนี ในเมื่อผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมต้องอยู่ฟังความจริงจากปากมัน
            ทำไงดีวะป่าน ถ้ามันรักมึงจริงๆขึ้นมา
            แล้วน้องหญิง …
            บ้าเอ้ย แผนมันมั่วซั่วไปหมดแล้วตอนนี้
            “มึงเอาคำว่ารักมาพูดเล่นๆได้หรือไง” ผมถามขึ้นพลางมองหน้าไอ้นาทีที่อยู่ตรงหน้า นาทีส่ายหน้านิดๆก่อนจะจับข้อเท้าของผมแล้วลากอย่างแรงจนหัวผมฟาดลงที่พื้น!
            “โอ้ย พ่อมึง!”
            “กูแค่พูดให้มิลกลับไป มึงดิฟังยังไงถึงเข้าใจว่ากูรักมึง!”
            “ทั้งๆที่มึงรู้ว่ากูชอบมึง แล้วมึงเอาคำๆนั้นมาเล่นทำไมวะ อึก!!” ริมฝีปากของไอ้นาทีประกบลงมายังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคด้วยซ้ำ ผมเบิกตากว้างมองดวงตาของไอ้นาที ดวงตาที่ผมเคยคิดมาตลอดว่ามันเป็นสีดำ ทำไมพอเจอแสงจันทร์สะท้อนเข้าไป มันถึงออกสีเทานะ
            ‘ผลัก’
            ผมผลักร่างของนาทีออกห่างแล้วฟาดหมัดลงบนแก้มนั่นอีกครั้ง ความรู้สึกคลื่นไส้ประดังเข้ามาอีก
            “กูรู้แล้วล่ะ ว่าทำไมคนที่ชอบมึงถึงได้รู้สึกอยากจะตายกันนัก”
            “เพราะมึง มันเป็นคนที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นยังไงล่ะนาที”
            ผมใช้เท้ายันตัวไอ้นาทีออกห่าง ไอ้นาทีทรุดไปนั่งที่พื้นห่างจากผมไปมากอยู่ ผมวิ่งเข้าไปที่ห้องน้ำก่อนจะปิดและกดล็อคประตู อาหารเที่ยงที่กินมาแม้มันจะถูกย่อยไปแล้วกลับถูกผมขย้อนลงชักโครก ผมยกเข่าสองข้างขึ้นมากอดเอาไว้ ก่อนจะซุกหน้าลงที่แขนทั้งสองข้าง
            กูนี่ ... แสดงละครเก่งจริงๆว่ะ







TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2014 20:55:11 โดย candynosugar+ »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [05] 13/1/57 -P.1
«ตอบ #11 เมื่อ13-01-2014 20:47:09 »

เป็นแนวเรื่องที่เจ๋งมากๆ เลยครับ
เดาไม่ถูกเลยว่าจะเป็นยังไงต่อ
ขอบคุณที่ไปขอคนเขียนมาโพสต์ให้ได้อ่านกันครับ

Aun@im

  • บุคคลทั่วไป
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [05] 13/1/57 -P.1
«ตอบ #12 เมื่อ13-01-2014 22:35:58 »

ชอบอ่ะ แนวแหวกๆดี รอติดตามน้า^^

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [05] 13/1/57 -P.1
«ตอบ #13 เมื่อ15-01-2014 23:53:14 »

6

            ‘ปัง!’
            เสียงประตูกระแทกอย่างแรงดังขึ้นด้านนอกนั่นหลังจากที่ผมนั่งหง่าวมาได้เกือบๆชั่วโมงกว่า ผมค่อยๆแง้มประตูออกไป ก่อนจะเดินสำรวจไปทั่วห้องเพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าของห้องมันสละป้อมแล้ว ไอ้นาทีออกไปข้างนอกแล้วจริงๆ ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะเปิดโน๊ตบุ๊คของไอ้นาทีแล้วไล่ๆหลายๆโฟลเดอร์
            ไม่มีอะไรที่จะช่วยชี้ตัวนักโทษเลยว่ะ
            จนในที่สุดผมก็ยอมแพ้ เพราะนอกจากเครื่องโน๊ตบุ๊คมันจะโล่งได้อีกแล้ว โปรกงโปรงแกรมไอ้นาทีมันยังไม่คิดจะโหลดเข้าเครื่องมันเลย นับประสาอะไรกับแอบถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์วะ ว่าแล้วผมก็ควานหาอย่างอื่นต่อ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย แผ่นซีดีบ้าบอคอแตก
            แต่ไม่เจออะไรซักอย่างเลย
            เฮ่อ
            อย่างน้อยก็ดีอย่างที่รู้ว่าไอ้นาทีไม่ใช่โรคจิตเก็บไว้ดูล่ะวะ
            ผมหยิบมือถือบนโต๊ะเขียนหนังสือเก็บใส่กระเป๋ากางเกงอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะค่อยๆเดินออกจากห้องไอ้นาทีเมื่อเช็คดีแล้วว่ามันไม่ได้ลงไปสูบบุหรี่ข้างล่างหรือไปทำอะไรแถวๆระเบียงด้านนอก
            แกล้งงอนมันไปเพื่อความปลอดภัยซักสองสามวันคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง แต่การจะทำแบบนั้นแม่งก็ต้องเสี่ยงอยู่อีกล่ะ ไอ้นาทีไม่ใช่คนจะแคร์อะไรกับเรื่องแบบนี้ด้วย
            ถ้าพลาด ก็คือมึงพลาดเลยว่ะป่าน
            เอาไงเอากันวะ!


*


            รุ่งเช้าผมมาโรงเรียนปกติ ใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกๆวัน ไอ้ที่ไม่ปกติคือสายตาหลายๆคู่ที่มองมา บ้างก็สงสัย บ้างก็นินทา บ้างก็เอ็นดู บ้างก็อำมหิตเหลือเกิน ผมเดินเข้าโรงเรียนไปอย่างไม่สนใจ แต่กลับมีมือของใครสักคนกระชากแขนเอาไว้
            “มานี่กับกู”
            หึ
            ผมว่าละ พอเวลาไอ้นาทีเดือดร้อนทีไร ไอ้เวรนี่มักจะโผล่มาเป็นคนแรกตลอด!
            ผมโดนไอ้พระกาฬลากออกมาจากโรงเรียน ก่อนมันจะลากผมเข้าไปในรถแท็กซี่ ผมงงเป็นไก่ตาแตก วันนี้ผมอุตส่าห์จะตั้งใจเรียนขึ้นมา แต่กลับโดนไอ้เวรนี่มาทำลายลงซะได้
            โดดก็โดดวะ
            “เมื่อคืนมึงทำอะไรเพื่อนกู”
            “ชก”
            “ป่าน” ไอ้พระกาฬกดเสียงต่ำแล้วบีบแขนผมอย่างแรง ผมปรายตามองไอ้กาฬนิดๆ ก่อนจะเมินหนีออกไปมองนอกหน้าต่างอย่างคนเบื่อหน่ายโลก
            “กูขอยกเลิกนัดบอด”
            “ว่าไงนะ?!” อย่ามาทำเป็นหูหนวกสิวะ พูดหลายๆรอบ เดี๋ยวเกิดแม่งไม่เหมือนกันขึ้นมากูจะซวยเอา
            “เลิกนัดบอด กูไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนของมึงอีกแล้ว”
            “ไม่ได้” ผมหันขวับไปหาเจ้าของเสียงที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้พระกาฬทำหน้าดุ
            “คิดว่าจะห้ามกูได้เหรอ” ก่อนที่ผมจะสะบัดแขนอย่างแรงแล้วบอกรถแท็กซี่ให้จอด ผมยื่นเงินให้คนขับแล้วเปิดประตูออกไปตรงกลางถนนนั่นเลย
            ป่านเอารางวัลแถ แหล แสดงไปเลยว่ะมึง
            ผมเดินดุ่มๆออกห่างจากรถแท็กซี่ เสียงเรียกของไอ้พระกาฬที่เรียกชื่อผมยังคงดังเรื่อยๆ ผมไม่สนใจเดินเลี้ยวซอยนู้นซอยนี้อย่างตามใจชอบ
            “เลิกบ้าซักที! ไอ้นาทีมันมีเรื่องกับไอ้นักเลงแถวโรงเรียน B กูไม่ได้มีเวลามานั่งง้อมึงเหมือนแฟนหรอกนะ!!!” ไอ้พระกาฬตะคอกลั่น ผมขมวดคิ้วงงๆ
            มีเรื่องก็เรื่องมันดิ ตายไปได้ยิ่งดี
            ผมอยากจะพูดออกไปแบบนั้นเหมือนกัน แต่ด้วยความเป็นคนดี
            “แล้วทำไมต้องมาบอกกู”
            “เพราะมึงเป็นคนเดียวที่ไอ้นาทีมันฟังยังไงล่ะ”
            “???”
            “อย่าทำหน้าโง่ได้มั้ย มานี่!”
            ไอ้กาฬลากผมมาที่อโคจรแห่งหนึ่ง ที่ที่ผมไม่อยากจะมาเหยียบซักเท่าไร บริเวณนี้เป็นศูนย์รวมของโรงเรียนกุ๊ย โรงเรียนมาเฟีย นักเลงสารพัดจะเยอะ ผมไม่เข้าใจว่าไอ้นาทีมาที่นี่ทำไม แต่การที่ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนมันมาเดินแถวนี้ มันเท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ
            “เร็วๆดิวะ!” พระกาฬเร่งผมให้วิ่งเร็วขึ้น ผมซอยเท้าเร็วๆก่อนจะมายืนหยุดอยู่ที่ทางตันที่หนึ่ง ถ้าผมไม่ได้ตาฝาดหรือประสาทสายตาไม่ดี ผมว่าคนที่กำลังโดนรุมกระทืบอยู่นั่นคือไอ้นาทีนะ
            หน้าเยินเชียว
            “เฮ้ยพวกมึง!!! กูแจ้งตำรวจแล้ว!!! ขืนไม่ปล่อยเพื่อนกูมึงเข้าตารางแน่!!!” ไอ้พระกาฬส่งเสียงดังลั่นเล่นเอาพวกเด็กวัยรุ่นนั่นหันขวับ มันทำหน้าตื่นตระหนกกันใหญ่แถมบางส่วนก็วิ่งกระจัดกระจายกันออกไปอย่างกับผึ้งแตกรัง แต่คนโดนกระทืบเหมือนจะยังไม่หนำใจ
            ไอ้นาทีลุกขึ้นมายืนแล้วฟาดหมัดลงบนหน้าของไอ้กุ๊ยคนหนึ่ง พอเพื่อนมันโดนชก ที่เหลือแม่งก็ลังเลว่าจะไปดีไม่ไปดี
            “นาที!!!” พระกาฬเรียกเพื่อนมัน แต่ไอ้นาทีไม่สนใจอะไรเลย มันชกลงบนหน้าของไอ้กุ๊ยตัวนั้นอีกครั้งและอีกครั้ง จนเสียงรถตำรวจของจริงดังขึ้น
            “แย่แล้ว…” ผมหันไปมองพวกกุ๊ยที่เหลือที่วิ่งหนีไปคนละทาง แต่นาทีไม่ไปไหน มันยังอยู่กับที่ ซ้อมไอ้กุ๊ยคนเดิมอยู่แบบนั้น
            “นาที!! ไอ้ทีมึงพอเหอะว่ะ” ไอ้กาฬยังไม่ทันจะแตะตัวนาทีเลย แค่นั้นไอ้นาทีก็ฟาดหมัดลงบนหน้าเพื่อนมันอย่างแรงจนพระกาฬลงไปนอนกองที่พื้น ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ
            “ยืนโง่ทำอะไรวะป่าน อยากให้นาทีมันติดคุกหรือไง!!!”
            ผมสะอึกไปนิดๆ แน่ใจเหรอวะว่ามันจะฟัง ที่นาทีมันทำไปทั้งหมดมันไม่ได้มีความพิศวาสอะไรในตัวผมซักหน่อย ที่อยู่ในห้องก็แค่แสดงละคร ที่อยู่ที่โรงเรียนก็แค่ยั่วโมโหคนอื่น
            คิดจริงๆเหรอว่าถ้าผมพูดไปแล้วมันจะฟัง
            “กูไม่ได้เสียเวลาไปลากมึงมาเพราะให้มึงยืนนิ่งๆหรอกนะ!!!”
            “นาที!!!! พอได้แล้ว!!!!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นพอๆกับเสียงหวอของรถตำรวจที่ใกล้เข้ามา ไอ้นาทีชะงักหมัดกึกเหมือนกับว่าเวลาหยุด ดวงตาคมสีดำสนิทปราดมามองผม
            “หยุดซักที อยากติดคุกหรือไง” ผมพูดเสียงแผ่วเพราะกลัวจะมีสภาพแบบไอ้กุ๊ยที่โดนไอ้นาทียกจนตัวลอย แถมยังกลัวว่ามันจะไม่ฟังแล้วชกต่อไปจนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายฟันหลุด แต่เปล่า ไอ้นาทีกลับโยนไอ้กุ๊ยนั่นลงที่พื้นแล้วเดินข้ามตัวไอ้กุ๊ยไปอย่างไม่หยี่ระ ผมขมวดคิ้วงงๆ
            “มาเร็ว” พระกาฬกวักมือเรียกผมให้เดินตามนาทีเข้าซอยลัดไป ผมเลยวิ่งตามไปนิ่งๆ
            ผมกับพระกาฬเดินอยู่ด้านหลังนาทีมาระยะหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุพอสมควร ร่างของไอ้นาทีดูโซเซเพราะมันเองก็โดนรุมกระทืบ ลุกขึ้นมาเดินได้ก็อึดขนาดไหนแล้ว ก่อนจู่ๆมันจะร่วงน๊อคลงที่พื้น ไอ้พระกาฬร้องอย่างตกใจ
            “ไอ้ที!!!” พระกาฬเช็คสภาพของเพื่อนมัน นาทีไม่ได้หลับหรือสลบ กลับกันมันแค่หมดแรง
            ผมมองสภาพเยินๆของไอ้นาทีอย่างไม่พอใจนัก
            “สงสัยอยากตายมากนักล่ะสิ ให้กูช่วยสงเคราะห์มั้ย?” ผมถามขึ้นแล้วยกเท้าจะกระทืบมันซ้ำ ผู้ชายคนนี้นอกจากจะดื้อ บื้อ เลว แล้วยังโง่อีกด้วย
            “หยุดเลยไอ้ป่าน มึงช่วยกูหน่อย แผลที่แขนมันเหวอะ”
            “กูไม่ช่วย” ผมว่า ไอ้พระกาฬหันมาตีหน้ายักษ์ใส่
            “กูไม่ช่วยคนโง่ที่เอาตัวเองไปฝังลงดินหรอกว่ะ อยากตายนักก็ให้มันตายไป โง่เอง”
            ผมล้วงกระเป๋าแล้วทำท่าจะเดินออกจากซอย ก่อนจะชะงักกึกเมื่อไอ้นาทีพูดอะไรขึ้นบางอย่าง
            “งั้นกูก็คงโง่ ที่เชื่อฟังคนอย่างมึง”
            ผมหันขวับกลับไปมองหน้าไอ้ตัวดี ไอ้นาทีมันไอออกมาเป็นเลือด ผมไม่แปลกใจหรอก โดนตื้บมาขนาดนั้น ผมเดินเข้าไปใกล้นาทีมันอีกครั้งก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยองๆข้างๆมัน
            “ถามจริงเหอะ ถึงกูจะชอบมึง แต่การที่มึงจะชอบกูมันไม่ใช่เรื่องอะไรที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ”
            นาทีนิ่งไป พอๆกับไอ้พระกาฬที่ผมรู้ว่ามันก็คงเงี่ยหูฟังอยู่
            “กูรู้อยู่แล้วว่ามึงโกหกเรื่องที่มึงรักกู กูแค่ไม่ชอบให้ใครมาล้อเล่นกับความรู้สึก แต่รู้มั้ยวะนาที ถ้ามึงไม่ได้รักกูจริงๆ มึงอย่าให้ความหวังผ่านทางการโกหกเพื่อที่จะจูงกูให้อยู่ใกล้ๆ กูไม่เหมือนคนอื่นๆที่จะชอบให้มึงมาทำให้เหมือนเป็นคนพิเศษ”
            “กูต้องการสิ่งที่มันมีจริงๆ ที่มันเป็นจริงๆ แค่นี้คงรู้นะว่ากูต้องการอะไร”
            ผมว่าแล้วมองหน้าไอ้นาทีนิ่งๆ นาทีเองก็ทำหน้านิ่งไม่แสดงสีหน้าใดๆ ผมถอนหายใจ
            “แต่เห็นว่าวันนี้มึงโง่ กูจะสอนให้มึงฉลาดขึ้นหน่อยแล้วกัน”
            แล้วผมก็ไม่ใจร้ายพอที่จะปล่อยให้มันตายหรอก ผมคุยโอ่ไปงั้นเองแหละ

             แต่ผมก็ใจกล้าพอที่จะสอนมันล่ะนะ
            ‘ผลั่วะ!!!’
            “ไอ้ป่าน!!!”
            “เงียบไป” ผมหันไปมองหน้าไอ้พระกาฬที่มองมาอย่างตกใจเมื่อผมใช้ขาเตะเข้าที่สีข้างของไอ้นาที นาทีมันเบิกตากว้างอย่างที่ไม่เคยเป็น มันเองก็ดูจะตกใจหน่อยๆ ผมใช้เท้าเขี่ยๆปลายเสื้อของมันที่ขาดวิ่น
            “ถ้าไม่รักชีวิตของตัวเอง อย่ามีหน้ามาพูดว่า เชื่อฟังกูคนเดียว”
            ‘ผลั่วะ!!!’
            ผมเตะซ้ำเข้าไปอีกครั้ง พระกาฬมันจะลุกขึ้นมาห้ามแต่กลับโดนไอ้นาทีซัดไปหนึ่งหมัดลงไปนั่งพิงกำแพง ผมหัวเราะในลำคอ ส่วนไอ้พระกาฬกัดฟันกรอดอย่างโมโห
            “ถ้าอยากลุกขึ้นมาซัดกูก็ได้นะ มาดิ” ผมว่าพลางนั่งยองๆลงข้างหน้าไอ้นาทีก่อนจะชี้ที่แก้มตัวเอง
            “มีแต่พวกไร้ค่าเท่านั้นแหละ ที่ใช้กำลังมากกว่าสมอง”
            ไอ้นาทีชะงักกึกไปพอๆกับไอ้พระกาฬที่นิ่งเงียบไปทั้งคู่ ผมนั่งขัดสมาธิลงด้านหน้าพวกมันอย่างเป็นทางการพลางปัดๆเสื้อของนาทีให้เข้าที่แล้วฉีกปลายเสื้อที่ขาดของมันออกก่อนจะพันไปที่แขนด้านซ้ายที่เหวอะเพราะโดนของมีคมอะไรบางอย่างฟัน
            “อือ” นาทีมันร้องออกมาเล็กน้อยเหมือนจะเจ็บ ผมยิ้มบางๆ
            “เจ็บอ่ะดิ”
            “ไม่มั้ง”
            “งั้นก็เลิกทำบ้าๆซะที มีเหตุผลอะไรเอาตัวเองไปตาย?” ผมถามขึ้น ดวงตาสีดำสนิทมองมานิ่งๆ
            “สัญชาตญาณลูกผู้ชาย”
            หึ อยากจะขำ
            “สัญชาตญาณลูกหมาอ่ะดิ” ไม่ต้องเดาก็รู้ คงจะแค่มองหน้าไม่ถูกใจ หรือไม่ก็ไปพูดคำไม่เข้าหู ไม่ก็หมั่นไส้ ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ แต่ก็ไม่ให้ใครทำลายหรือหยาม
            “ไปคลินิกเหอะ ขืนอยู่แบบนี้ดีไม่ดีจะติดเชื้อเอา” ผมสำรวจแผลรอบๆร่างกายของไอ้นาที ดีที่มันไม่มีแผลเหวอะที่หน้า ไม่งั้นชาตินี้อาจจะไม่ต้องใช้หน้าทำมาหากิน
            ผมจับแขนนาทีพาดไหล่ของตัวเอง แล้วค่อยๆพยุงมันให้ลุกขึ้น ไม่วายหันไปส่งสายตาโหดๆให้ไอ้พระกาฬที่นั่งนิ่งๆอยู่ข้างๆให้มันมาช่วยหน่อย แม่งไอ้นาทีไม่ใช่เบาๆ
            เมื่อมาถึงคลินิก ผมก็ได้แต่นั่งรอนอกห้อง มีแต่ไอ้กาฬที่เดินวนไปวนมาอย่างเป็นห่วงเพื่อน ผมถอนหายใจยาวๆแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นอย่างเบื่อๆ มันใช่กงการธุระอะไรที่ผมจะต้องมารอคนโง่ๆแบบไอ้นาทีวะ ว่าแล้วผมก็ทำท่าจะลุกขึ้น ประจวบเหมาะพอดีกับที่ม่านสีขาวถูกรูดเปิด ไอ้นาทีมองเขม็งมาที่ผมเมื่อเห็นผมกำลังจะเดินออกไป
            “ดีแล้วที่พันห้ามเลือดไว้ พี่ฉีดกันบาดทะยักไปให้ แล้วก็เรื่องยา อันนี้ยาแก้ปวด ส่วนอันนี้ยาล้างแผล แล้วก็เบตาดีน” พยาบาลประจำคลินิกยื่นของสารพัดอย่างมาวางที่เคาน์เตอร์ ตอนแรกไอ้นาทีจะเอาทั้งหมดนั่นแต่ผมห้ามไว้ก่อน
            “เอาแค่ยาแก้ปวดก็พอครับ” ผมว่า พยาบาลยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างเป็นกันเอง
            “กาฬ มึงกลับไปก่อนเหอะ วันนี้มีสอบไม่ใช่หรือไง” ไอ้นาทีพูดกับเพื่อนของมัน พระกาฬหันมามองหน้านาทีสลับกับหน้าผม ก่อนจะถามขึ้น
            “แล้วมึง…”
            “กูบอกอาจารย์ได้ แผลแบบนี้คงไปเรียนไม่ไหว มึงอ่ะไม่มีแผลเลย เดี๋ยวแม่งก็ได้ตัดคะแนนไม่ผ่านพอดี” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้นาที
            “ส่วนมึง … มากับกู” ยังไม่ทันที่จะได้ยืดอก ผมก็โดนไอ้นาทีลากออกไปจากคลินิก พระกาฬมองตามผมด้วยสายตาแปลกๆ สายตาที่บ่งบอกถึงความเศร้าหมอง ก่อนที่มันจะหลบสายตาไป
            มันต้องมีอะไรบางอย่างระหว่างสองคนนี้แน่ๆ เชื่อผมดิ
           
            *
 
            ไอ้นาทีพาผมกลับมาที่คอนโดห้องมันอีกครั้ง ผมชั่งใจไม่อยากจะเดินเข้าไปในห้องเลยยืนอยู่หน้าห้องก่อนจะยื่นถุงของคลินิกที่มียาแก้ปวดให้คนตรงหน้า นาทีมันมองแล้วทำหน้างงๆ
            “มีใครเคยบอกไหมว่า เวลามึงอยู่กับกูมึงดูไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย?” ผมถาม นาทีส่ายหน้า
            “กูเป็นแบบนี้กับทุกคน แต่ไม่เคยอยู่กับคนอื่นนานขนาดมึง”
            “อ้อ ปกติฟันเสร็จแล้วก็ทิ้ง” เหมือนผมไปกระตุ้นต่อมอารมณ์โมโหของไอ้นาทีที่ยังคงไม่ดับสนิท มันกระชากแขนผมอย่างแรงก่อนจะผลักผมกระแทกใส่ผนังห้องราวกับว่าผมเป็นตุ๊กตาหมีโคอาล่าที่เหวี่ยงไปนู่นไปนี่แล้วไม่เจ็บ
            “มึงจะเอายังไงวะป่าน?” ไอ้นาทีถามขึ้น ผมมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ
            “ไม่ได้จะเอายังไง”
            “มึงรู้มั้ยว่าตัวมึงงี่เง่า”
            “แล้วไง?”
            “ที่กูทนเนี่ย ก็เพราะเห็นว่าถ้าอยู่กับมึงคงจะมีเรื่องสนุกๆให้ทำ” ผมชะงักกึกไปกับคำพูดของไอ้นาทีพลางขมวดคิ้ว นาทีมันยิ้มมุมปากเมื่อเห็นผมนิ่งไป
            สนุก … งั้นเหรอ
            “ทีนี้ก็เข้าใจหรือยังว่ากูไม่เคยสนใจมึงซะด้วยซ้ำ มึงไม่ยอมกู กูก็ไม่มีอะไรที่จะต้องข้องเกี่ยวกับมึงอีก ที่กูปล่อยให้มันเลยเถิดก็เพราะคิดว่ามันคงไม่น่าเบื่อเหมือนเดิมๆ แต่ผิดกัน”
            “…”
            “มันน่ารำคาญเป็นบ้าเลยว่ะ”
            “งั้นเหรอ…”
            “แล้ววันหลังไม่ต้องมาห้ามกูทำนู่นทำนี่ กูไม่ใช่ลูกมึง ไม่ต้องมาสั่งสอนกู” ไอ้นาทีตะคอกแต่เสียงไม่ได้ดังอะไรมากนักก่อนมันจะดันผมออกจากห้องแล้วปิดประตูใส่หน้า ผมมองบานประตูที่ถูกปิดลงด้วยความรู้สึกแปลกๆ
            และผมก็ไม่เคลียร์เอาซะเลย
            “เปิดประตู” ผมพูดขึ้น ใครๆที่เดินผ่านมาอาจจะมองว่าผมเป็นบ้ายืนสั่งประตู แต่ผมกำลังควบคุมอารมณ์โมโหที่กำลังเพิ่มพูนขึ้นทีละนิด
            มันไม่ผิดที่นาทีจะพูดแบบนั้น ผมไม่มีสิทธิ์อะไรไปสั่งไปสอนมัน ผมแค่เข้ามาหาผลประโยชน์ มันเป็นเพียงแค่เครื่องมือ แล้วผมก็จะออกไปจากชีวิตมัน
            แต่ผมไม่ชอบ
            ไม่ชอบการหนีหน้าแบบที่ผู้ชายมันไม่ทำกัน!!!
            “กูบอกให้เปิดประตูไงไอ้ลูกหมา!!!!” ผมตะคอกเสียงดังแล้วถีบประตูอย่างแรง ไอ้นาทีกระชากประตูเปิดด้วยความโมโห แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้ตั้งตัวผมก็ปราดเข้าไปในห้องแล้วนั่งคร่อมตัวมันเอาไว้
            “มึงจะพูดอะไรมึงก็พูดมาเลยดีกว่านาที กูไม่ชอบอะไรที่มันอ้อมค้อม!!”
            “ออกไปจากตัวกูป่าน” นาทีพูดเสียงเย็น ผมจ้องตามันเขม็ง
            “ไม่”
            “กูบอก ให้มึงลุกออกจากตัวกูเดี๋ยวนี้…”
            “ไม่”
            ‘ผลั่วะ!!’ หมัดหนักๆของไอ้นาทีชกลงบนใบหน้าผมอย่างแรงจนผมถลาออกจากร่างของมัน นาทีลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหาผม ก่อนจะกระชากผมให้ลุกขึ้น ผมผลักมันออกจนไอ้นาทีเซไปเพราะมันยังเจ็บจากแผลที่โดนรุมตีอยู่
            “มึงพูดมา ไม่ต้องอ้อม กูไม่ชอบ”
            “กูไม่ได้ขอให้มึงชอบนี่”
            “งั้นเหรอ … งั้นเอางี้เป็นไงล่ะ” ผมกัดฟันกรอดพลางปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกเผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีขาวด้านในที่ทาบทับร่างกายเอาไว้ ไอ้นาทีนิ่งไป ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเข้าหาผม
            “อยากได้นักไม่ใช่เหรอ ร่างกายกูน่ะ อยากได้มากนักไม่ใช่เหรอ!!”
            “ป่าน…”
            “มึงอย่าอ้อมค้อมนาที!!! มึงจะทำอะไรก็ทำสิวะ!!!! อยากเล่นกับกูเพราะสนุก หรืออยากจะทำบ้าอะไรกัน บอกมาดิวะ!!!!” ผมเป็นคนเดินเข้าไปหาไอ้นาทีเองพลางจับมือของมันให้วางลงบนแผงอกของผม ไอ้นาทีมีท่าทีที่ท่าจ้างให้ใครมาเห็นตอนนี้ คงต้องเป็นอันอ้าปากค้าง
            มันทรุดลงนั่งที่พื้น ก่อนจะกอดเข่าตัวเองแล้วขยี้หัวอย่างเสียสติ
            “กูทำไม่ได้” เสียงทุ้มๆนั่นสั่นพร่าอย่างแปลกๆ ผมสงบสติอารมณ์ลงพลางจับแขนของไอ้นาทีที่มันเลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล
            “มึงบอกเองนี่ ว่ามึงไม่ปฏิเสธกูเพราะอยากหาอะไรสนุกๆทำ”
            “ใช่ กูตั้งใจแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น” ทั้งห้องเงียบไปมีเพียงเสียงหอบหายใจของผมกับไอ้นาทีที่แข่งกันโกยอากาศเข้าปอด ผมลูบใบหน้าของตัวเองพลางนั่งลงที่พื้นข้างหน้าของนาที
            “ว่าแต่กู ตัวมึงเองเถอะกำลังทำอะไร” นาทีมันเงยหน้าขึ้นมาถามผม ผมชะงักไป
            “มึงคงไม่ได้นัดบอดกับกูเพราะชอบกู หึ กูว่าคำนี้กูถามไปหลายรอบแล้ว แล้วมึงก็ชอบตอบกลับมาว่า ใครจะโง่มาเสียตัวถ้าไม่ได้ชอบกู”
            ผมกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกได้ว่ามันยากลำบากเหลือเกิน
            นี่คือวันความแตกหรือไงวะ
            “มึงก็บอกกูมาบ้างสิ ว่ามึง ต้องการอะไรจากคนอย่างกู”







TBC.

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [07] 17/1/57
«ตอบ #14 เมื่อ17-01-2014 12:59:01 »

7

            เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผมถอนตัวออกห่างจากไอ้นาทีด้วยความไม่แน่นอนในอุดมการณ์ของตัวเอง ผมอยากจะหาสิ่งที่สามารถทำให้น้องหญิงเห็นว่าไอ้นาทีมันเลว แต่กลับกัน เวลาผมอยู่ข้างๆมันทีไร มันไม่เคยแสดงความเลวของมันออกมาให้ผมเห็นเลยสักครั้ง
            แล้ววันนั้น ผมก็ไม่ได้ป๊อดพอที่จะไม่พูดความจริง
            “กูเข้าหามึง เพราะไม่ได้ชอบมึงอย่างที่ว่าก็จริง” ไอ้นาทีชะงักกึกไปแล้วมองผมอย่างคาดคั้น
            “เพราะมึงเป็นคนแบบนี้ไง มึงเป็นคนที่คอยทำร้ายคนอื่นไปทั่ว มึงเป็นคนที่ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของใครเอาแต่ความถูกใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง กูเลยระแวงที่จะปล่อยให้มึงทำร้ายคนอื่นๆ”
            “ดูตัวมึงเองก็ไม่ได้จะแคร์ใครไปซะหมดนี่ อย่าทำเป็นโลกสวยไปหน่อยเลยว่ะ” ผมส่ายหน้ากับคำที่ไอ้นาทีพูด
            “คนอย่างมึง จะไปรู้อะไร” เหมือนคำพูดของผมจะไปตอกย้ำไอ้นาที มันนั่งเงียบแล้วไม่พูดอะไรอีกเลย
            “เลิกทำร้ายคนอื่นซักที ทุกสิ่งที่มึงทำ สุดท้ายผลกรรมก็จะตกที่ตัวมึง”

            แล้วหลังจากนั่นผมก็ไม่ได้คุยกับมันอีกเลย นาทีมันเคยบอกไว้ว่า คนที่อยากจะเจอหรือเข้าใกล้มัน ต่อให้กระเป๋าสตางค์ของมันตกอยู่ที่พื้น ต่อให้ตามหาตัวมันพลิกแผ่นดินก็ไม่มีทางเจอตัวมันแน่นอน มีทางเดียวที่จะเข้าหามันได้ ก็คือการนัดบอด ซึ่งนัดบอดต้องอาศัยดวงอย่างมาก ถ้าไอ้นาทีรับปาก นั่นก็คือโชคดี แต่ถ้าปฏิเสธ ก็แห้วไป
            ก่อนที่น้องหญิงจะเอ่ยชื่อไอ้นาทีออกมา ผมก็ไม่เคยเจอหน้าไอ้นาทีจริงๆจังๆซักครั้งหรอก ได้ยินแต่กิตติศัพท์ ได้ยินแต่ชื่อเสียงเรียงนามที่น่ากลัว ที่ว่ามีข่าวใหญ่โตครึกโครมว่านักเรียนหญิงจะฆ่าตัวตายเพราะแฟนหนุ่มทิ้ง
            แต่ผมดันไปรู้ข่าววงในมาว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรกับไอ้นาทีก่อนที่จะโดนนาทีทิ้ง
            “ป่าน” เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังปลุกผมให้ตื่นจากห้วงความคิด ผมหันไปยิ้มให้ไอ้ฟ้าบางๆอย่างเหนื่อยๆ ไอ้ฟ้าทำหน้างงๆแล้วนั่งลงข้างๆผม
            “เป็นไรวะ ตามึงคล้ำๆ ไม่ได้นอนอีกแล้วหรือไง?”
            “อืม”
            “เครียดเรื่องไรบอกกูได้นะเว้ย เครียดมากๆมันไม่ดีต่อตัวมึงนะป่าน” ผมหันไปมองหน้าไอ้ฟ้าแล้วตบบ่ามันเบาๆเพื่อบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง
            ขอบตาผมคล้ำขึ้นมากกว่าเดิม จนกลายเป็นว่าตอนนี้อะไรก็ปิดมันไม่มิด ช่วงก่อนๆผมมักจะใช้คอนซิลเลอร์ปิดเอาไว้ เพราะมันคล้ำจนทำให้เหมือนเป็นคนติดยา แต่ยิ่งผมคิดมาก มันก็ยิ่งคล้ำจนตอนนี้คอนซิลเลอร์ก็ปิดไว้ไม่ไหว
            “กูว่า … ปล่อยให้เรื่องมันเดินไปเองเหอะว่ะ” ไอ้ฟ้าพูดขึ้น ผมส่ายหน้า
            “ไม่ … กูต้องปกป้องน้องหญิง”
            ผมรีบลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะอย่างรวดเร็วก่อนจะทรุดฮวบลงไปเมื่อจู่ๆทุกอย่างก็มืดดับลง มือขวาของผมที่ยังคงประครองสติเอาไว้คว้าโต๊ะเรียนไว้อย่างแรงจนโต๊ะแทบล้ม เสียงไอ้ฟ้าตะโกนดังลั่น
            “ไอ้ป่าน!!!” มือของเพื่อนผมคว้าร่างผมขึ้นมาให้ยืนปกติ ผมค่อยๆปรับสภาพให้ชิน ก่อนที่ความมืดๆมัวๆนั่นจะค่อยๆจางหายไปกลับมาเป็นภาพปกติ
            “โอเคมั้ยวะ?”
            “อือ” ผมร้องในลำคอเล็กน้อย พลางตบบ่าไอ้ฟ้าอีกรอบ
            “ไม่เป็นไร กูไปก่อนนะ”
            “กูไปด้วย”
            “ไม่ต้อง มึงต้องไปรับฝนนี่…”
            “แต่มึง…”
            “น่า กูไม่เป็นไร” ผมว่าก่อนจะเดินออกมาจากห้องเรียนทันที
            ผมเดินไปตามทางที่จะไปขึ้นรถประจำทางเพื่อกลับบ้าน พลางมองท้องฟ้าที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนฝนจะเทกระหน่ำลงมา แต่กลับมีเพียงแค่ลมเย็นๆปะทะใบหน้า ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูเหมือนทุกๆวัน
            นี่ก็อาทิตย์หนึ่งแล้วที่น้องหญิงไม่โทรหาผม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมไปหาที่บ้าน ก็ไม่เคยอยู่ตรงกับเวลาเดียวกับที่ผมไป แล้วน้องหญิงก็ไม่โผล่มาหาผมที่บ้าน พอไปหาที่โรงเรียนก็ไม่เคยเจอ
            เหมือนกับว่าน้องหญิงกำลังหลบหน้าผม
            “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เสียงคุ้นๆดังขึ้นตรงหน้า ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจพลางเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียง ไอ้พระกาฬยืนสะพายกระเป๋าอยู่ตรงหน้าผม แต่ไม่มีวี่แววของไอ้นาทีเลย
            “อืม” ผมร้องอืมในลำคอแล้วทำเหมือนทุกครั้งคือเดินผ่านมันไป
            เหมือนพระกาฬมันจะเดินตามผมมา ผมหันกลับไปเพื่อที่จะต่อว่ามัน แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่หันขวับกลับไปผมก็รู้สึกเหมือนโดนโลกกระชากร่างลงติดกับพื้นดิน ผมร่วงฟึ่บหัวจะโหม่งพื้น โชคดีที่มีมือของใครปราดเข้ามารับเอาไว้แล้วตบหน้าเบาๆเพื่อเรียกสติ
            “ป่าน! ไอ้ป่าน!!”
            ผมสะบัดหน้าของตัวเองพลางปรับสายตาให้เป็นปกติ ก่อนจะผลักเจ้าของมือที่ประครองร่างผมเอาไว้ออกห่าง
            “กูไม่เป็นไร ปล่อย”
            “ไม่เป็นไรอะไรวะ หน้ามึงซีดอย่างกับผี” ไอ้พระกาฬร้องอย่างตกใจ ผมส่ายหน้า
            “กูไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยสิวะ”
            “มันอยากตายตรงนั้นก็เรื่องของมัน” เสียงอีกเสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้ผมชะงักไปในทันที เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตทั้งร่าง ผมค่อยๆหันไปมองหน้าคนที่เดินเข้ามาใหม่
            ไอ้นาที
            “มีแต่พวกโง่เท่านั้นแหละ ที่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่น” ไอ้นาทีพูดเหมือนกับเหยียดหยามผมอย่างมาก ผมหัวเราะในลำคออย่างสมเพชในตัวเองและตัวมัน
            “มีแต่พวกงี่เง่าที่จะยื่นมือมาช่วยคนที่ปฏิเสธ” ผมประชดกลับไป ไอ้พระกาฬรับคำไปเต็มๆ ผมพยุงตัวลุกขึ้นยืน เสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาทำให้ผมต้องกระพริบตาไล่อาการแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองออกไป ก่อนจะรู้สึกราวกับว่าโดนก้อนหินทุบซ้ำๆที่ศีรษะเมื่อมือเล็กๆของใครซักคนคว้าแขนของไอ้นาทีเอาไว้
            “เสร็จแล้ว ไปกันเถอะ …”
            เสียงเล็กชะงักกึกเมื่อปรายตามองเห็นผมซึ่งๆหน้า ผมแทบจะทรุดฮวบลงไปตรงหน้านั้นอีกครั้งเมื่อเห็นเจ้าของดวงตากลมโต ริมฝีปากสวย จมูกเล็กรั้นที่กอดแขนของผู้ร้าย
            “ป่าน…”
            คนที่ผมรัก … กำลังถูกใครบางคนที่ผมเริ่มจะเกลียดโอบกอดเอาไว้ เธอมองผมด้วยสีหน้าที่ตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนๆเมื่อเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดี
            “หญิง…” ผมสบถชื่อของเธอเสียงแผ่ว พลางมองไปยังไอ้นาทีที่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
            “ทำไมหน้าซีดจังเลยป่าน” น้องหญิงเดินเข้ามาหาผมพลางจับแขนผมเบาๆ ร่างเล็กสวมใส่ชุดที่ผมคิดว่ามันน่าเกลียดที่สุดเท่าที่เคยรู้จักหญิงมา เธอตัดกระโปรงสั้นขึ้นไปอีกหลังจากวันที่เราเจอกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ริมฝีปากที่ถูกทาด้วยลิปสติกสีสด เสื้อที่รัดจนแทบจะเห็นไปถึงไหนต่อไหน
            “ป่าน…”
            “อะ ไม่มีอะไร” ผมตอบน้องหญิงกลับไปเพื่อไม่ให้น้องหญิงต้องถามซ้ำ ร่างเล็กยิ้มหวานกลับมาให้ก่อนจะวิ่งกลับไปคว้าแขนของไอ้นาทีเข้ามาใกล้ๆผม
            “จำได้มั้ยว่านี่ใคร” น้องหญิงยิ้มร่า ผมยิ้มบางๆตอบเธอ
            “จำได้สิ”
            “น่าจะลืมไปซะนะ” ไอ้นาทีพูดเสียงเย็นขึ้น น้องหญิงตีแขนของมันเบาๆ
            “อย่าสินาที นี่ป่านเพื่อนหญิงนะ เพื่อนนาทีเหมือนกันนี่” น้องหญิงผู้ซึ่งไม่รู้อะไรกอดแขนนาทีเอาไว้แน่นหนึบ ผมมองแขนของเธอ มองทุกอย่างที่เป็นหญิง
            ผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
            “เราจะไปที่คอนโดของนาทีกัน ป่านไปด้วยกันสิ” ร่างเล็กชวนขึ้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับบรรยากาศแย่ๆที่เริ่มก่อตัวขึ้น ผมกำหมัดแน่น
            “ไม่ต้องชวนมันหรอกหญิง … เด็กเลี้ยงแกะ มันไม่ค่อยจะชอบเข้าดงหมาป่าซักเท่าไรหรอก” ไอ้นาทีว่าพลางโอบไหล่น้องหญิงออกไป ผมมองน้องหญิงที่ทำท่าเหมือนจะสะบัดออกมา แต่เมื่อเจอวงแขนของไอ้นาทีที่โอบลงบนเอวของเธอ สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้า จากภาพที่ผมกำลังกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจ กลับเป็นภาพของไอ้นาทีเข้ามาแทนที่ เพราะผมรู้ว่าน้องหญิงคลั่งนาทีขนาดไหน เธอย่อมไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเมื่อคนของเธออยู่ตรงหน้าแน่ๆ
            ไอ้พระกาฬเดินผ่านผมไปนิ่งๆ ผมคว้าแขนของมันเอาไว้
            “กาฬ”
            ก่อนจะร่วงลงสู่อ้อมแขนของมันแล้วรู้สึกว่าโลกดับมืดลงไปพร้อมกับสติภายในพริบตา


            *

            ผมค่อยๆปรือตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแอร์เย็นๆที่กระทบใบหน้า พลางมองไปรอบๆเพดานที่มีแต่สีขาว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโรงพยาบาล ผมยันตัวเองขึ้นนั่งพลางมองไปรอบๆห้อง ไม่มีวี่แววของใครซักคน ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง แค่เพียงเห็นสภาพตึกด้านล่างผมก็พอรู้ว่าอยู่โรงพยาบาลอะไร
            แอ๊ด
            เสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างของคนที่คุ้นเคย ผมมองไอ้พระกาฬที่เดินเข้ามาในห้อง มันชะงักไปเมื่อเห็นว่าผมฟื้นขึ้นมานั่งจ้องหน้ามันได้แล้ว
            พระกาฬวางบางสิ่งที่ผมไม่เคยคิดจะกินเลยในชีวิตลงบนโต๊ะข้างเตียง มันคือซุบไก่สกัดที่ผมไม่ชอบกลิ่นเลยซักนิด ไม่คิดจะแตะมันเลยซักครั้ง ผมมองท่าทีที่แปลกไปของพระกาฬ
            ไม่ทันได้ตั้งตัว มือหนาๆของพระกาฬก็กระชากร่างของผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะผลักตัวไอ้กาฬออกแต่มันขืนเอาไว้
            “มึงทำอะไร!” ผมตะคอก ไอ้พระกาฬยังคงไม่ปล่อยตัวผม
            “ไอ้กาฬ!!!!”
            “ชู่ว” พระกาฬส่งสัญญาณเหมือนจะบอกให้ผมเงียบ ก่อนที่เสียงประตูจะเปิดขึ้นอีกครั้ง ผมมองร่างของคนสองคนที่เดินควงแขนกันเข้ามา ใจที่เจ็บเจียนตาย กลับถูกบีบรัดอีกครั้ง
            นาทีกับหญิง
            “ป่าน!” น้องหญิงปราดเข้ามากระชากพระกาฬออกก่อนจะผลักไอ้กาฬลงนั่งจุ่มที่โซฟา ร่างเล็กวิ่งเข้ามาหาผมแล้วกอดผมอย่างแน่น ผมนิ่งไป
            ทำไมกันนะ
            ความรู้สึกของผมที่มีให้ต่อน้องหญิง
            ถึงไม่เคยลดลงไปเลยแม้ผมจะเจ็บเพราะเห็นเธอเลือกคนอื่น
            แถมยังเป็นคนที่ผมพยายามกีดกันให้ออกจากตัวเธอ
            “สำออยหรือเปล่า?” ไอ้นาทีถามขึ้นอย่างหน้าด้านๆ ผมจ้องตามันเขม็ง
            “ใช่เรื่องของมึงเหรอ”
            “ป่าน!” น้องหญิงหยิกแขนของผม ผมร้องขึ้นมานิดๆก่อนจะมองใบหน้าหวานที่กำลังงอหงิกนั่น
            “ขอโทษ”
            “รู้สึกผิดก็ดี!”
            “ออกไปก่อนทั้งสองคน กูมีเรื่องจะคุยกับป่าน” ประโยคแรกไอ้นาทีสื่อสารให้ทั้งหญิงและไอ้กาฬรู้ ส่วนประโยคที่สองไอ้นาทีกลับหันไปขมวดคิ้วและเพ่งเล็งไปที่ไอ้กาฬเพียงคนเดียว น้องหญิงเลิกคิ้วสงสัย แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรนาที
            “เร็วๆนะ หญิงหวง”
            ร่างเล็กว่าแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
            หวงงั้นเหรอ
            คิดอะไรอยู่กันนะน้องหญิง
            “พวกที่ไม่คิดจะดูแลสุขภาพของตัวเอง มันก็โง่เหมือนกันนะ” ไอ้นาทีพูดขึ้นพลางนั่งลงที่ข้างเตียง ผมเมินหน้าไปอีกทาง ไม่อยากจะคิดอะไรให้ปวดหัว แต่เรื่องมันก็ประดังเข้ามาเรื่อยๆให้ผมได้คิด
            “ไม่ต้องมาสอนกู”
            “หึ คำพูดคุ้นๆนะ”
            “มึงทำอะไรหญิง” ผมกัดฟันกรอดพลางกระชากคอเสื้อของไอ้นาทีอย่างแรง ได้เวลาที่จะต้องเข้าเรื่องกันแล้ว ไอ้นาทีกรอกตาไปมาอย่างนึกสนุก ก่อนจะยิ้มบางๆแล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผม
            “คิดอยู่ แต่ยังไม่ได้ทำ”
            “อย่าคิดจะแตะผู้หญิงคนนั้นเชียว”
            “ทำไม … รักข้างเดียวหรือไง” ไอ้นาทีพูดขึ้น เหมือนเข็มแทงกลางหัวใจของผม
            “จริงๆก็กะจะทำตั้งแต่วันที่เธอเสนอตัวเข้ามาหรอกนะ แต่พอรู้ว่าเป็นของรักของหวงของมึง…” มือของนาทีบีบคางของผมอย่างแรงแล้วผลักตัวผมลงนอนราบลงบนเตียงคนไข้ มันยิ้มมุมปาก
            “ถ่วงเวลาไว้นานๆ จะได้เจ็บเยอะยังไงล่ะ”
            “สารเลว”
            “ด่ามาอีกสิ คิดถึงเสียงของมึงใจจะขาด”
            “มึงมันชั่ว นาที เสียดายที่เคยไว้ใจว่ามึงมันไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร” ไอ้นาทีชะงักไป ก่อนจะถอนตัวออกจากผม
            “ผิดแล้วแหละป่าน … มึงต่างหากล่ะที่บีบบังคับให้กูทำแบบนี้”
            “??”
            “มึงอยากเห็นไม่ใช่เหรอ รอมานานนี่ คราวนี้จะได้รู้ไงว่า กูมันเลวขนาดไหน”
            “นาที!!!”
            “แต่แย่หน่อยนะ ที่มึงปกป้องคนที่มึงรักไม่ได้ เพราะเขากลับมาเสนอตัวให้กูถึงที่ห้องเลยว่ะ”
            “ให้เกียรติผู้หญิงหน่อยไอ้เวร!!” ผมผลักตัวไอ้นาทีจนมันต้องลุกออกจากเตียงคนไข้ ริมฝีปากของมันยิ้มแสยะอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
            “มึงไม่ควรจะล้อเล่นกับกูตั้งแต่แรกแล้วป่าน…แล้วอีกอย่าง ตอนนี้มึงคงมีคนที่เชื่อฟังคำสั่งมึงคนใหม่แล้ว คงไม่ต้องเสนอตัวให้ใครอีกแล้วสินะ”
            “ไอ้สารเลว!!!!” ผมทำท่าจะลุกขึ้นไปบีบคอไอ้นาทีแต่เมื่อก้าวลงจากเตียงขาเขอก็ล้าจนทำให้ผมฟุบลงที่พื้น ไอ้นาทีเบิกตากว้างเหมือนตกใจ เมื่อเสียงโวยวายเกิดขึ้นในห้อง ไอ้พระกาฬก็รีบพุ่งเข้ามาในห้องอย่างไม่ต้องรอช้า
            “มึงทำเหี้ยอะไรไอ้ที ให้เกียรติคนป่วยหน่อยสิวะ” พระกาฬพยุงผมขึ้นยืน ผมรู้สึกว่าตัวเองล้าเกินกว่าจะทน
            ผมยื่นแขนของตัวเองออกมาดู ก่อนจะพบรอยเข็มจิ้มเป็นจ้ำๆ
            อย่าบอกนะว่า
            “กาฬ…”
            “มึงจะทำอะไรก็เรื่องของมึง กูไม่มีสิทธิ์จะห้าม แต่ในเมื่อมึงตัดไอ้ป่านออกจากชีวิตมึงแล้ว ก็ไม่ต้องเสนอหน้ามาอีก” พระกาฬพูดด้วยน้ำเสียงห้วนเพื่อบ่งบอกถึงสิ่งที่ไอ้นาทีควรจะทำ ผมมองใบหน้าของนาทีที่ดูตระหนกไม่ใช่เล่นที่เห็นผมทรุดลงที่พื้น ก่อนจะพยายามดันตัวเองขึ้นยืน
            “ช่วยกูหน่อย” ผมจับแขนของไอ้กาฬพลางดันตัวเองขึ้นมานั่งที่เตียงแล้วนอนลงอย่างอ่อนล้า ไอ้นาทีทำท่าจะเดินเข้ามาแต่ถูกพระกาฬขวางเอาไว้
            “กลับไปหาน้องหญิงของมึงซะ ป่านไม่มีพันธะอะไรกับมึงแล้ว”
            สิ้นเสียงของพระกาฬทุกอย่างก็เงียบลง ผมนอนกุมแขนตัวเองอยู่ที่เตียงอย่างไม่เข้าใจ ไหนหมอบอกว่าผมอาการดีขึ้นมากแล้ว อาการแบบนี้จะไม่กำเริบอีกครั้งยังไงล่ะ ทำไมแขนของผมถึง
            “ป่าน ลุกขึ้นมา ลุก!” ผมหันไปหาไอ้พระกาฬที่พยายามประครองตัวผมขึ้นนั่ง ไอ้นาทีไม่อยู่ข้างในห้องแล้ว มันออกไปแล้ว ผมเลิกคิ้วสงสัย
            “อะไร”
            “ถ้ามึงไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นต้องเสียใจ มึงต้องทำให้นาทีรักมึงจริงๆ” ผมเบิกตากว้างกับสิ่งที่ไอ้พระกาฬพูดออกมา
            “มึงว่าไงนะ?”
            “ทำให้นาทีรักมึงซะ ไม่ใช่แบบที่มึงเคยทำเพื่อที่จะปกป้องผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นการทำจริงๆ” ไอ้พระกาฬว่าพลางหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมายัดใส่มือผม “เปลี่ยนซะ” มันดูรีบร้อนซะจนผมปวดหัวไปหมด ผมออกจากโรงพยาบาลได้แล้วอย่างนั้นเหรอ
            แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
            ผมนั่งมองไอ้พระกาฬที่เดินวุ่นเป็นหนูติดจั่นภายในห้องก่อนจะตะคอกใส่มันเสียงดัง!
            “หยุดเดินแล้วพูดให้รู้เรื่องก่อน นี่มันอะไรกันวะ?!”
            “กูขอพูดตรงๆเลยนะป่าน…” พระกาฬบีบแขนผมเบาๆ
            “ผู้หญิงของมึงร้ายเกินไป กูไม่ไว้ใจให้อยู่กับไอ้ที”
            ว่าไงนะ?
            “หญิงไม่ใช่คนแบบนั้น”
            “กูไม่รู้ว่าพวกมึงผูกพันกันแบบไหน เพื่อน แฟน หรือพี่น้อง แต่ขอร้อง อย่าให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใกล้นาที”
            ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทำไมกัน? คนอันตรายกว่าน้องหญิงผมก็เคยเห็นมาแล้ว อย่างเช่นมิล
            “มึงเองก็คงไม่อยากให้ไอ้ทีทำร้ายคนของมึง” ข้อนี้ค่อยมีเหตุผลหน่อย ผมเริ่มเข้าใจขึ้นมานิดๆ
            “แล้วมึงล่ะ มึงชอบนาทีไม่ใช่เหรอไง” ผมถามขึ้น พลางมองใบหน้าคมเข้มของไอ้พระกาฬที่นิ่งหยุดลง ดวงตาของไอ้กาฬปราดมามองผมนิ่งๆก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาผม
            “กูไม่มีค่าพอขนาดไปชอบมันหรอก”
            “ลุกจากเตียงซะ หลังจากนี้กูจะเป็นคนช่วยให้ไอ้นาทีรักมึงเอง”
            “!!!”





TBC.

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [08] 18/1/57
«ตอบ #15 เมื่อ18-01-2014 18:49:39 »

8

 
            ผมยืนอยู่หน้าบอร์ดสภานักเรียนที่แออัดก่อนจะอ่านรายละเอียดของกิจกรรมสานสัมพันธ์โรงเรียนที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ผมออกจากโรงพยาบาลมาได้สองสามวัน ไอ้ฟ้ายืนบ่นอุบอยู่ข้างๆว่าไม่อยากจะข้องเกี่ยวอะไรกับโรงเรียนของพวกไอ้นาทีมากนัก ก็อย่างที่รู้ โรงเรียนผมคือโรงเรียนที่ติดอันดับต้นๆของประเทศแถมยังเป็นโรงเรียนที่มีแต่เด็กเรียบร้อย
            ส่วนโรงเรียนของไอ้นาที มันเคยเป็นโรงเรียนกุ๊ยมาก่อน
            “กูไม่อยากทำแบบนี้ว่ะป่าน กูจะไปคุยกับไอ้กี้ ไม่ไหวว่ะ ยกเลิกเหอะ” ไอ้ฟ้าบ่นอุบแล้วเขย่าแขนผม ผมมองใบรายชื่อผู้ที่ได้รับร่วมให้เป็นคณะกรรมการ มีชื่อไอ้กี้อยู่บนนั้น เพื่อนที่ผมสนิทอีกคนแต่ไม่ค่อยได้คุยกับมันช่วงหลังจากที่โดนแยกห้องกัน
            “ไม่ทันแล้วมั้ง ลงตราไปแล้วนี่” ผมชี้ไปที่ตราประทับสีฟ้ากับสีแดงที่แทบจะอยู่ติดกันบนกระดาษประกาศ ไอ้ฟ้าขยี้หัวอย่างหัวเสีย
            “กูจะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง!” ไอ้ฟ้าลากแขนผมตรงไปที่ห้องสภา ก่อนจะถีบประตูอย่างไร้มารยาท ไอ้กี้นั่งอยู่หลังกองกระดาษใบใหญ่ หน้าตามันเหมือนคนเพิ่งตื่น
            “ไอ้เวร มือน่ะมีทำไมไม่ใช้”
            “มึงทำแบบนี้ได้ไงวะกี้ มึงก็รู้ว่าโรงเรียนเราต้องโดนพวกฝั่งนู้นมันแกล้งแน่ๆแล้วมึงยังมีน่าไปให้พวกมันมาสานสัมพันธ์ด้วยเนี่ยนะ” ผมนั่งลงบนโซฟานิ่งๆพลางมองไอ้ฟ้าที่โวยวายแข่งกับไอ้กี้ แล้วถอนหายใจเบาๆ
            พลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อน
            พระกาฬอาสาจะช่วยผมแยกนาทีกับน้องหญิงออกจากกัน โดยเสนอเงื่อนไขให้ผมทำให้นาทีมันรักผมจริงๆ อะไรวะ กูไม่ได้ต้องการความรักจากมันเลย มันเลวขนาดพรากน้องหญิงสุดน่ารักของผมไปแบบนั้น ยังจะมีน่าไปคลุกคลีกับมันแบบมิตรอีกผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง
 แต่เนื่องจากเหตุผลของไอ้กาฬที่พูดมาก็ทำให้ผมเข้าใจอยู่บ้าง
            ไอ้นาทีไม่เคยรักใคร แต่ถ้ามันรักใครแล้วมันก็จะทุ่มเทกับคนๆนั้นมาก ถ้านาทีรักผม น้องหญิงก็จะปลอดภัยและนาทีจะไม่ยุ่งอะไรใดๆกับคนอื่น ดีไม่ดีจะได้ช่วยคนอื่นๆที่คอยจะเข้าหานาทีเพราะเพียงแค่อยากนอนกับมัน
            แล้วผมจะทำสำเร็จเหรอ?
            ผมไม่ใช่สาวสวย ขี้อ้อนนะเว้ย
            “ใช่ป่ะไอ้ป่าน!!?” ไอ้ฟ้าร้องขึ้นมาแล้วหันมาถามผม ผมทำหน้างงๆใส่มัน
            “ห่ะ?”
            “มึงไม่ได้ฟังเลยเหรอ?!!” ผมส่ายหน้าให้ไอ้ฟ้าพลางมองหน้าไอ้กี้ที่ส่ายหน้ากลับ
            “เลิกบ่นเหอะว่ะฟ้า อย่างกับกูอยากให้มันเกิดงานบ้านี่ขึ้น ไอ้พระกาฬประธานสภาฝั่งนู้นมากกว่าที่แบกหน้าไปขอผู้ใหญ่” สิ่งที่ไอ้กี้พูดทำให้ผมเริ่มจะสนใจกับหัวข้อบ้าๆนี้นิดหน่อย ผมมองไอ้กี้ที่เกาหัวอย่างหมดหวัง
            “พระกาฬ? ไอ้ที่ตัวสูงๆหน้าโหดๆหน่อยป่ะวะ?” ผมถามขึ้น ไอ้กี้หันมาพยักหน้าให้
            “อือดิ มันบอกว่าเฉพาะเกรดเราที่เข้าร่วม” เกรดที่มันหมายถึงคือระดับชั้นครับ...
            “หา?! ไอ้เวร เกรดเราไปก็ได้ไปเปิดสงครามกับพวกมันพอดี มึงก็รู้จักไอ้โยธานี่หว่า”
            “มึงหุบปากเดี๋ยวนี้เลยฟ้า กูมีงานเยอะแยะต้องทำ ถ้าจะกรุณา ออกไปโวยวายข้างนอกเถอะเพราะเมื่อเช้าไอ้โยธามันก็มาโวยวายใส่กูเหมือนกัน!”
            ไอ้กี้ว่าแค่นั้นแล้วลากผมกับไอ้ฟ้าออกมาจากห้องสภาที่มืดมนนั่นก่อนจะกระแทกประตูใส่หน้าดังปัง
            ผมมีเรื่องต้องเคลียร์อีกเยอะเลยว่ะ
            “ฟ้า มึงขึ้นไปที่ห้องก่อนนะ กูมีเรื่องต้องทำ” ผมว่าก่อนจะวิ่งออกมาจากห้องประธานสภาทันที จุดมุ่งหมายของผมก็คือห้องประธานสภาของโรงเรียนฝั่งตรงข้าม
            ‘ก๊อกๆ’
            ผมเคาะลงที่บานประตูห้องเล็กน้อยเมื่อมาถึง สายตาแปลกๆที่ส่งมาให้ผมทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวนัก เพราะตอนนี้ผมกำลังสวมชุดนักเรียนที่ไม่เข้าพวก ไม่นานนักประตูก็เปิดขึ้น เผยให้เห็นร่างของใครซักคนที่ผมรู้จักดี
            “ริค”
            “อ้าวป่าน เข้ามาก่อนมา!” ไอ้ริคว่าพลางดึงผมเข้าไปในห้องแล้วกดล็อคประตู ในห้องมีทั้งไอ้พีท ไอ้ริคและไอ้พระกาฬกำลังนั่งคุยอะไรกันซักอย่าง เมื่อพระกาฬเห็นผมเข้ามาในห้องมันก็ลุกจากห้องกระจกด้านในออกมาที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก
            “มาคนเดียวไม่กลัวโดนกระทืบตายหรือไง?” ไอ้พระกาฬถามขึ้น ผมส่ายหน้า ก่อนจะจับแขนเสื้อมันแน่น
            “มึงบอกความจริงมาเหอะ มันมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างหนึ่งอาทิตย์ที่กูไม่ได้ไปหาพวกมึง?”
            ไอ้กาฬชะงักไปก่อนมันจะหันไปมองหน้าไอ้พีทที่มีสีหน้าเคร่งเครียด พีทกวักมือเรียกผมให้เข้าไปนั่งใกล้ๆมัน ไอ้ริคกับพระกาฬก็เดินตามมาข้างในเหมือนกัน
            “ตกลงมันมีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆใช่มั้ย?” ผมหันไปถามไอ้พีทแทน ไอ้พีทมีสีหน้าแบบเคร่งเครียดสุดๆ
            “พระกาฬ” เมื่อผมไม่ได้คำตอบผมจึงถามซ้ำๆอยู่แบบนั้น
            ถ้าเรื่องไม่ใหญ่จริง พวกมันคงไม่มีสีหน้าแบบนี้ รวมไปถึงใบหน้าของไอ้พีทที่ช้ำเหมือนโดนชกด้วย
            “ไอ้กาฬบอกกูมานะ!!!”
            “เยอะแยะเลยว่ะ มากพอที่จะทำให้คนอย่างกูตัดใจจากคนที่แอบรักได้อย่างต่อไม่ติด”
            “ไอ้กาฬ” ไอ้ริคตบบ่าเพื่อนมันก่อนจะมองหน้าผม ผมนั่งกระพริบตาปริบอย่างอึ้งๆ
            “ตกลงมึงชอบนาทีจริงๆเหรอ?”
            “อืม”
            นั่นไง ผมว่าแล้ว ไอ้พระกาฬชอบไอ้นาทีจริงๆ
            “แล้วทำไมมึงถึงตัดใจง่ายขนาดนั้น”
            “เพราะหญิงไงล่ะ” เป็นไอ้พีทที่พูดขึ้นมาแทน ผมหันไปมองหน้ามัน ไอ้พีทเอื้อมมือมาแตะแก้มของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนจะจ้องตาผมเขม็ง ผมไม่ได้ปัดมือของมันออก แต่เหมือนตกอยู่ในความรู้สึกที่พูดไม่ออกมากกว่า
            “มึงเป็นคนน่ารักนะป่าน…” ไอ้พีทว่า ผมเริ่มจะรู้สึกถึงอะไรแปลกๆก่อนจะผลักมือมันออก
            “อะไรวะ?”
            “ทำให้นาทีรักมึงซะ ช่วยทั้งไอ้นาที ทั้งพวกกู ทั้งผู้หญิงของมึง และตัวมึง”
            “!!!!”
            “กูไม่ชอบคำพังเพย ไม่ชอบคำเปรียบเปรย จะพูดอะไรก็พูดตรงๆ” ผมกัดริมฝีปากพลางมองหน้าพวกมันสามคนอย่างไม่เข้าใจ ไอ้ริคถอนหายใจเฮือกใหญ่ มีเพียงเสียงแอร์หึ่งๆที่ตอบผมกลับมา
            “มึงรู้ใช่มั้ยว่าหญิงเป็นลูกสาวของอธิการบดี”
            ผมชะงักไป พวกมันรู้ …
            “อืม”
            “พ่อของเธอจะส่งไอ้นาทีเข้าคุกแน่ๆถ้าหญิงท้องแล้วไอ้นาทีไม่รับ พวกกูจะต้องกลายเป็นพยานปากเอกและอาจจะโดนส่งเข้าตารางเหมือนกัน”
            “!!!!!”
            ผมกระถดตัวถอยหลังพลางนั่งทรุดลงที่เก้าอี้ ดวงตากลอกไปมาอย่างคนไม่มั่นใจ
            “ไอ้นาทีมีอะไรกับหญิงแล้วป่าน…แต่กูเชื่อว่านาทีมันป้องกัน”
            ว่าไงนะ…
            “มีอยู่ทางเดียวที่จะช่วยได้ มึงต้องทำให้นาทีรักมึง มึงต้องรักไอ้นาที บอกให้ผู้หญิงของมึงเข้าใจว่ามึงรักกับไอ้นาที ขาดกันไม่ได้ไม่งั้นมึงตายแน่ๆ มึงต้องแสดงให้เห็น แย่งไอ้นาทีมาจากผู้หญิงคนนั้นซะ” ไอ้พีทพูดขึ้นแล้วขยี้หัวผม
            “พวกกูรู้นะ ว่าพ่อหญิงรักมึงเหมือนกับเป็นลูกชายคนหนึ่ง … พวกเขาคงเข้าใจ”
            “ไอ้พระกาฬจะเป็นคนช่วยมึงให้เข้าหาไอ้นาทีเอง”
 
            *
 
            “ห้อง 242 กูกับไอ้พีทอยู่ห้อง 249 มึงมีอะไรมาเคาะเลยนะ” ไอ้พระกาฬพาผมมาที่ห้อง 249 ห้องของไอ้พีทกับมันที่ใช้นอนในระหว่างช่วงค่ายสานสัมพันธ์ระหว่างสองโรงเรียน ผมยังไม่ได้ติดต่อไอ้ฟ้าเลยว่ามันจะได้เจอกับไอ้กุ๊ยที่ไหนหรือเปล่า
            เพราไอ้พระกาฬเป็นประธานสภาของโรงเรียน มันเลยได้สิทธิ์ไปขอสานสัมพันธ์นอกโรงเรียนโดยจะจัดกิจกรรมต่างๆและจ้างวิทยากรมาช่วยในเรื่องนี้ด้วย แต่ส่วนมากพวกคณะกรรมการจะเป็นคนจัดกันเองมากกว่า
           ผมแยกรถมาคนละคันกับรถทัวร์คันใหญ่ มาพร้อมกับพวกคณะกรรมการโดยนั่งรถตู้ ไอ้พระกาฬแม่งสอนผมเยอะแยะเรื่องออดอ้อนนู่นนี่นั่น จนผมนึกว่ามันเป็นเซียนยั่วผู้ชาย
            ผมทำใจไม่ได้ว่ะที่จะเสียตัวให้ไอ้นาที
            แต่ถ้าพอทำให้ไอ้นาทีมันรักจริงๆก็พอไหว
            ผมไม่อยากให้ใครต้องเข้าคุก โดยเฉพาะไอ้พีท ไอ้ริค และไอ้พระกาฬที่ไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าน้องหญิงต้องการจะทำอะไร ในเมื่อในความคิดของผมแล้ว เธอเป็นนางฟ้าของผมเสมอ
            “ใจเย็นๆป่าน หายใจเข้าลึกๆ” ไอ้พีทตบบ่าผม ผมมองหน้ามันแล้วกระพริบตาปริบๆ
            “ครั้งแรกกับผู้ชายไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกว่ะ!”
            ไอ้เชี่ย!!!
            ผมมายืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้อง 242 ที่อยู่คนละฟากกับ 249 แต่แยกชั้นกับชั้นของผู้หญิง พวกผู้หญิงนอนชั้น 2 ตึก 1 ส่วนพวกผมอยู่ชั้นสี่ตึกสอง
            เอาไงดีวะ ป่านนี้ไอ้นาทีมันคงอยู่ในห้องแล้ว
            ไอ้ป่านเอ้ย ทำไมเรื่องยุ่งๆจะต้องเกิดกับมึงตลอดเลย
            ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะยื่นมือไปเคาะประตูเล็กน้อย ก่อนจะพยายามโกยข้าวของที่หอบอยู่ไม่ให้ร่วงลงไปที่พื้น เสียงกุกกักในห้องดังออกมาพร้อมกับลูกบิดประตูที่บิดลงบ่งบอกว่าคนในห้องกำลังเปิดประตู
              ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับใบหน้าหล่อๆเข้มๆของไอ้นาทีที่ทำตาโตเหมือนตกใจที่เห็นผม
            “เอ่อ โทษที กูมาผิดห้อง” ผมว่าก่อนจะหันหลังเพื่อจะเดินหนี ไม่ทันไรมือของไอ้นาทีก็กระชากคอเสื้อยืดสีดำของผมเอาไว้
            “มึงนอนห้องอะไร?” ไอ้นาทีถามขึ้น ผมปัดมือมันออก
            รังเกียจที่จะให้มือนั่นมาแตะตัว เพราะมือนั่นเคยแตะและทำลายน้องหญิงมาแล้ว
            “242” ผมว่า ไอ้นาทีเงียบไป
            “ถูกห้องแล้ว เข้ามาดิ” ผมหันไปมองหน้าไอ้นาทีที่เดินถอยหลังไปนิดหนึ่งเผยทางให้ผมเดินเข้าห้องโรมแรมสองเตียงสุดหรูติดชายหาด ผมพยายามกัดริมฝีปากตัวเองไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ เพราะความโมโหที่มันมายุ่งกับน้องหญิง แต่ผมทำได้แค่เพียงเมินสายตาโหดๆของไอ้นาทีแล้วเดินเข้าห้องไป
            ผมจะทำยังไงต่อไปดีวะ เข้าถ้ำเสือมาซะแล้วกู!

            เหมือนมีเฟืองฝืดๆคล้องเท้าผมอยู่ ผมเดินช้ายิ่งกว่าเต่าเพื่อเดินผ่านห้องน้ำและมองไปที่เตียงสองเตียงที่ตั้งห่างกันอยู่พอสมควร อย่างน้อยก็ปลอดภัยในระดับหนึ่งล่ะนะ ผมไม่ได้หันไปมองไอ้นาที แต่วางของลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วจัดการหยิบสารพัดอย่างออกมาวาง ก่อนจะถอดผ้าพันแขนที่สวมเอาไว้ออก
             ‘หมับ!’
            “มึงไปโดนอะไรมา” ไอ้นาทีมันบีบแขนผมจนผมต้องหยีหน้า มือมันแรงเยอะเกินไปแล้ว
            ผมสะบัดมือของมันออกก่อนจะหยิบกระปุกยาทาแผลเป็นขึ้นมาถือเอาไว้
            “โดนเพื่อนมึงกัดมั้ง” ผมแถไปงั้น จริงๆแล้วโดนหมอเอาเข็มจิ้มเพื่อหาเส้นเลือดใหญ่ต่างหาก เห็นผมขาวจั๊วะจนแทบจะกลืนไปกับกำแพงแบบนี้ ขอบอกได้เลยว่าหาเส้นเลือดยากเหมือนกันนะครับ
            ไอ้นาทีแทบจะสะบัดแขนผมออกทันทีที่รู้ว่าผมหมายถึงใคร รู้ก็ดี หมายถึงพระกาฬเพื่อนมึงนั่นแหละ
            ผมทาแผลไปเรื่อยๆก่อนจะรอให้มันซึมเข้าไปในผิว
            นาทีนิ่งเงียบไปแล้วเดินหายไปจากระยะสายตาของผม ผมเลื่อนข้าวของออกมาวางบนโต๊ะอย่างถือวิสาสะแล้วมองข้าวของของมันที่มีเพียงแค่กุญแจห้อง มือถือ กระเป๋าสตางค์ ผมเดินไปหยิบปากกาเมจิกในกระเป๋าเป้ออกมา ก่อนจะขีดมันลงที่โต๊ะ
            ฝั่งกู และฝั่งมึง ผมเขียนไว้ ก่อนจะเดินคว้าข้าวของเพื่อใช้อาบน้ำเข้าไปอาบน้ำทันที
            หึ ทำไงดีวะป่าน คิดสิ หลบหน้ามันตลอดแบบนี้ มึงคงช่วยพวกไอ้กาฬได้หรอก
            ว่าแล้วผมก็คิดแผนดีๆออก ผมมองผ้าม่านที่อยู่ในห้องอาบน้ำ ก่อนจะมองไปรอบๆ
            ถ้าการที่ผมจะทำให้น้องหญิงปลอดภัยโดยการที่ต้องเอาความหน้าด้านของตัวเองเข้าแลก ผมก็ยอม แต่ไม่ได้ยอมเสียตัวนะ !!!!
            “เฮ้ย!!!!”
            ผมร้องออกมาก่อนจะกระชากผ้าม่านให้ขาดลงมาคลุมตัวท่อนล่างเอาไว้แล้วนั่งลงไปกับอ่างอาบน้ำ ทำเป็นเทสบู่และแชมพูทั่วตัวแล้วหายใจเข้าลึกพลางนับ 1 2 3
            “ป่าน!!!” เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ผมยิ้มมุมปาก
            เป็นไงเป็นกันวะ
            “โอ้ยยย” ผมร้องเสียงดังลั่น ไอ้นาทีทุบประตูตอบกลับมา
            “ป่าน!!! ป่านมึงเป็นอะไร เปิดประตูสิวะ!!” ลูกบิดถูกเขย่าไปมาเมื่อคนข้างนอกพยายามจะเปิด ผมหันไปรอบๆห้องน้ำก่อนจะมองที่ข้อศอกของตัวเองแล้วยกมันกระแทกลงไปที่ขอบอ่างอาบน้ำแรงๆ
            เจ็บเป็นบ้า นี่โคตรลงทุนเลยนะเนี่ย
            เมื่อเห็นว่าข้อศอกเป็นรอยแดงจ้ำแล้ว ผมจึงนอนกระดิกเท้ารอคนข้างนอกให้กระแทกประตูเข้ามา ให้มันเร็วๆหน่อยเถอะ หนาวจะตายห่าอยู่แล้วครับ
            “ไอ้ป่าน!!! ป่านมึงตายยังวะ” สาบานได้ว่ามันถามผมแบบนี้
            “มึงจะบ้าเหรอ!!! กูแค่ข้อเท้าพลิก โอ้ย”
            ‘ปัง’ ประตูถูกกระแทกเข้ามาพร้อมกับร่างของไอ้นาทีที่ยืนหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้าผม ผมเบิกตากว้างพลางชี้หน้ามันเหมือนโกรธๆ ไม่นึกว่ามันจะพังประตูเข้ามาได้เร็วเกินคาด!
            “มะ … มึงเข้ามาทำห่าอะไรเนี่ย!!!”
            “ก็มึง…” ไอ้นาทีชะงักไปเมื่อเห็นสภาพผม สายตาของมันเลื่อนไปที่ผ้าม่านที่คลุมท่อนล่างของผมไว้ ผมปาขวดแชมพูใส่มันไปโดนหัวมันเต็มๆ
            “มองอะไร!!! โอ้ย” ผมแกล้งทำเป็นจับข้อเท้าพลางหยีหน้า ทั้งๆที่ไม่ได้เจ็บแม้แต่นิด
            “ออกไปเลยไอ้ห่า กูไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือ”
            “ปากแข็งนักหรือไง” ไอ้นาทีเดินมาที่อ่างอาบน้ำ ผมชะงักกึกแล้วรู้สึกเสียวสันหลังวาบ สาบานได้ว่าถ้ามันทำอะไรเกินกว่าที่ควรจะทำล่ะก็ ผมจะเอาฝักบัวฟาดหัวมันจริงๆแน่
            ‘หมับ’
            ผมทำตาโตเมื่อมือหนาของไอ้นาทีคว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าซ้ายของผม มันขมวดคิ้ว
            “ไม่เจ็บเหรอ”
            O_O!!! เฮ้ย! ลืมไปเลยว่าข้อเท้าพลิก!
            “กูเจ็บข้างขวาว่ะโถ่!” ผมแถ ไอ้นาทีทำท่าเหมือนไม่เชื่อก่อนจะเอื้อมมือมากดที่ข้อเท้าขวาของผม ผมร้องจ้ากออกมาจนตัวงอแล้วจับไหล่ของนาทีเอาไว้
            หึหึ ดูถูกป่านคนนี้มากไปแล้ว
            “เหอะ ทำปากดี” คนตรงหน้ามันว่าแล้วเอามือแตะแขนของผม ผมรู้สึกขนลุกซู่
            “แชมพู?”
            “เออดิ ให้เข้าห้องน้ำมาทำอะไร…” ผมบ่นอุบ ไอ้นาทีกร่นเสียงบ่นตอบ
            “ก็นึกว่า…”
            ผมรู้ทันที่ว่าสมองชั่วๆของมันคิดอะไร ผมหยิบขวดครีมนวดผมปาใส่หัวมันแล้วตบหน้าผากมันแรงๆ หึหึ สะใจเป็นบ้า ไหนๆมันก็เลวที่ยุ่งกับคนของผมแล้ว แถมยังมีอะไรกับน้องหญิงไปแล้วด้วย ผมก็จะทำร้ายร่างกายมันตอบยังไงล่ะ
            ไม่ทันได้ตั้งตัว มือของไอ้นาทีก็เลื่อนไปเปิดฝักบัวแล้วน้ำร้อนๆก็พุ่งใส่ร่างของผมจนแสบไปหมด
            “โอ้ยย!!!! ร้อน!!!!” ผมร้องลั่นห้อง เหมือนไอ้ตัวปัญหาจะรู้สึกตกใจนิดๆมันรีบหมุนน้ำไปที่ฝั่งสีฟ้า น้ำเย็นๆค่อยๆชะล้างลงบนตัวผม ผมน้ำตาเล็ดกับน้ำที่ร้อนเหมือนกับเอาน้ำต้มเดือดมาลวกตัว แสบจนเจ็บไปหมดทั้งตัว โชคดีที่ว่าโดนแค่ส่วนหัวลงไปจนถึงหน้าท้อง
            “ป่าน”
            ‘เพี๊ยะ’
            “ปัญญาอ่อน ออกไป น่ารำคาญ” อันนี้ผมโกรธจริงไม่ได้แสดงละคร ผมลูบแขนตัวเองที่ขึ้นสีแดงจัดเบาๆ พลันสัมผัสที่แตะลงบนแก้มจะทำให้ผมชะงักไป ไอ้นาทียื่นมือมาแตะแก้มของผมแผ่วเบา ดวงตาสีเทาเข้มที่เมื่อมองใกล้ๆปรากฏขึ้นมาในระยะสายตาของผม
            "ขอโทษ"
            ก่อนริมฝีปากสีซีดจะกดจูบลงมาบนริมฝีปากผมตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ตัว ผมเบิกตากว้างอย่างช็อคๆ ผมที่อยู่ในสภาพเปลือยทั้งตัว กับไอ้นาทีที่สวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาสามส่วน ผมยกมือเพื่อที่ผลักร่างของนาทีออกไป แต่กลับโดนต้อนจนไอ้นาทีเป็นคนที่บังสายน้ำจากฝักบัวด้านบนเอาไว้ ผมหลับตาปี๋เมื่อท้ายทอยชนกับกำแพงห้องน้ำที่ติดกับอ่างอาบน้ำ
            “นาที…”
            “หืม”
            “ปล่อยกู”
            ‘ผลั่วะ!!!!’
            ผมหายใจเข้าปอดแล้วดันไอ้นาทีออกไปจนสุดแรงก่อนจะชกหน้าคนตรงหน้าไปอย่างแรงจนหน้าหัน นาทีมันนิ่งค้างอยู่แบบนั้น ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ
            “กูไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมึงอีก เดี๋ยวหญิงจะโกรธกูเอาถ้ารู้ว่ากูยุ่งวุ่นวายกับมึง ที่อยู่ห้องเดียวกันก็แค่ความบังเอิญ” ผมหันหน้าหนีแล้วทำสีหน้าแบบเสียใจ ทั้งๆที่ผมอยากจะใช้มีดโกนหนวดที่วางอยู่ที่อ่างอาบน้ำปาดคอไอ้นาทีซะด้วยซ้ำ
            ‘หมับ’
            “เฮ้ย!!!!” จู่ๆนาทีมันก็พุ่งตัวเข้ามาหาผม คว้าผมขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วหยิบผ้าขนหนูมาคลุมท่อนล่างของผมเอาไว้แทนผ้าม่านที่พังลงมา ผมผลักหัวนาทีอย่างแรงแต่มันไม่ปล่อย!! มากไปกว่านั้น มือของไอ้นาทีที่อุ้มผมไม่ค่อยถนัดกับเลื่อนต่ำลงไปที่บั้นท้ายของผม!!!
            “มือน่ะมือ มืออ่ะเห้ยมือ!!!!”
            “อะไรของมึง กูแค่จะช่วย”
            ผมยกแขนคล้องคอไอ้นาทีก็จริง แต่มือของนาทีมันชักจะเลื่อนต่ำลงไปแล้ว
            “ตัวหนักสัด”
            “แล้วใครใช้ให้มึงยกล่ะวะ!!!! ปล่อย!!!!!”
            ‘ผลั่วะ’ ผมฟาดหมัดเข้าที่หัวของมันอีกรอบ ไอ้นาทีแทบคอหักแถมยังเซไปอีกต่างหาก ผมร้องเหวอใหญ่เมื่อรู้สึกเหมือนจะร่วงลงที่พื้นแต่โชคดีไอ้นาทียันตู้เสื้อผ้าไว้ได้ก่อน มันค่อยๆดันคอของตัวเองขึ้น ก่อนจะจ้องเขม็งมาที่ผมอย่างน่ากลัว!!
            “มึงอยากเล่นบทตบจูบใช่มั้ยป่าน!!! เออได้!!!”
            “เฮ้ย!!!!”





TBC.

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.07-08] 18/1/57 -P.1
«ตอบ #16 เมื่อ19-01-2014 01:49:41 »

โอยสนุกโคตร นาทีชอบป่านอ่ะ ป่านก็ชแบนาที สนุกมากมาย

ตอนแรกๆขำตอนป่านอ้วก 5555

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะ ขอบคุณมากเลย

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.07-08] 18/1/57 -P.1
«ตอบ #17 เมื่อ19-01-2014 08:45:43 »

ยอกย้อนซ่อนเงื่อนดีจัง
ตกลงน้องหญิงท้องจริงเปล่า

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.07-08] 18/1/57 -P.1
«ตอบ #18 เมื่อ20-01-2014 23:17:44 »

9


 
            นาทีเหวี่ยงร่างของผมลงบนเตียงอย่างแรงจนผ้าขนหนูที่ปิดบางๆอยู่ที่ช่วงล่างแทบกระเด็นหลุด ผมยกเท้าขึ้นมาเพื่อจะถีบร่างที่กำลังคลานตามมาทาบทับแต่ไอ้นาทีมันคว้าขาผมเอาไว้ได้
            “ปล่อย ไม่งั้นกูถีบมึงจริงๆ” ผมกดเสียงเย็นต่ำเพื่อให้ไอ้นาทีรู้ว่าผมไม่พอใจ
            “ถีบสิ”
            ‘พลั่ก!’
            ผมไม่รอให้มันได้พูดอะไรทั้งนั้นก็จัดการถีบไหล่ไอ้นาทีจนมันร่วงปุลงไปที่พื้น มือก็รีบคว้าหมอนมาปิดส่วนที่อันตรายที่สุดของร่างกายเอาไว้ ผมรู้ว่าการที่ผู้ชายแก้ผ้าต่อหน้ากันมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่ใช่แก้ผ้าต่อหน้าคนที่สามารถมีอารมณ์ความรู้สึกกับผู้ชายด้วยกัน
            นาทีลุกขึ้นจากพื้นแล้วจ้องหน้าผมเขม็ง มันไม่ยอมแพ้กระโดดขึ้นเตียงแล้วปราดเข้ามากระชากตัวผมไปนอนใต้ร่างมันอย่างแรงจนหัวฟาดกับขอบเตียง ผมร้องโอยออกมาแต่ดูไอ้นาทีจะไม่สนใจ
            “เมื่อกี้มึงใช้ขาขวาถีบกูนี่…” ผมเบิกตากว้าง ก่อนจะกัดริมฝีปาก
            พลาดแล้วไอ้ป่าน!
            “มึงต้องการอะไรกันแน่ป่าน” ไอ้นาทีถามขึ้น ผมใช้มือดันตัวมันออกแต่มันกลับขืนตัวเองเอาไว้แล้วแทรกขามาที่หว่างขาของผม ผมเบิกตากว้างแล้วดิ้นพล่านเป็นเจ้าเข้า
            “ขา!!! เอาเข่าออกไป เอาออกไป!!!!”
            “ไม่!!! จนกว่าจะบอกว่ามึงต้องการอะไร!!! มึงเข้ามาในชีวิตกู มึงต้องการให้กูทำเลวใส่มึง แล้วหญิงเป็นอะไรกับมึง มึงบอกกูมาดิวะป่าน!!!” ผมนิ่งไปเมื่อได้ยินชื่อหญิงออกจากปากของนาที ก่อนจะปรายตามองมันอย่างอาฆาต
            “มึงรู้เหรอ?”
            “กูรู้ทั้งหมด”
            ผมชะงักกึก ถ้าอย่างนั้น ... เรื่องที่มันเข้าหาหญิง ... ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันจงใจสินะ
            “มึงพูดมาดิวะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูด!!!”
            ไอ้นาทีเลื่อนเข่าเข้ามาใกล้กลางลำตัวผมมากขึ้น ผมร้องลั่นแล้วดิ้นสุดแรงเกิดก่อนจะโดนชกที่ท้องไปหนึ่งหมัดด้วยมือของคนที่คร่อมตัวผมเอาไว้จนจุก ผมงอตัวแล้วรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วช่องท้อง
            “ถ้าไม่พูด ก็ไม่ต้องพูด” จมูกโด่งๆซุกลงมาลำคอของผมอย่างไร้มารยาท ทั้งดุดัน ช่วงชิง และน่ารังเกียจ ผมพยายามผลักไสนาทีออกไป จนแล้วจนเล่ามันก็กลับมาเป็นฝ่ายที่คอยคุกคาม
            เวรเอ้ย…ผมไม่พร้อม
            ‘ก๊อกๆ’
            เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ผมได้จังหวะดันร่างของนาทีออก ผมวิ่งไปที่ประตูพร้อมคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ที่เก้าอี้มาพันช่วงล่างเอาไว้ ไม่สนว่าใครหน้าไหนที่เคาะประตูผมเปิดกระชากออกมาอย่างแรงเผยให้เห็นร่างสูงใบหน้าดุดันที่ยืนอ้าปากค้างอยู่หน้าห้อง
            “กาฬ!”
            ผมปราดเข้าไปกอดพระกาฬเอาไว้ รู้สึกเหมือนมีแสงสว่างนำทางให้หลุดพ้นจากนรกที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมซุกตัวเข้ากับอ้อมกอดหนานั่นแล้วยิ้มมุมปากให้กับคนที่กำลังจะเดินตามออกมาจากห้อง
            เหมือนพระกาฬเองยังไม่รู้ว่าผมต้องการอะไร มันทำท่าจะผลักผมออก แต่เมื่อเสียงทุ้มๆของนาทีดังขึ้นด้านหลัง มันก็เปลี่ยนจากมือที่จะผลัก เป็นรัดตัวผมเอาไว้แน่นจนผมรู้สึกอึดอัด
            “มึงทำอะไรป่าน” พระกาฬกดเสียงต่ำ ผมไม่ได้เห็นสีหน้าของไอ้นาทีตอนนี้ แต่รู้ว่ามันต้องตีสีหน้าเรียบนิ่งไม่ต่างจากทุกครั้งแน่
            “เปล่านี่…”
            “ถ้าไม่ทำ แล้วนี่มันอะไร” พระกาฬจับแขนผมพลางดึงไปให้ไอ้นาทีเห็นชัดๆ รอยแดงที่ข้อศอกที่ผมเป็นคนทำขึ้นด้วยตัวเองกลายเป็นของยั่วโมโหไอ้นาทีชั้นดี ทั้งๆที่มันทำเพียงแค่ชกจนผมรู้สึกมวนท้องเจ็บแปลบๆ
            ใบหน้าคมของนาทีเรียบนิ่งสนิทอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะแสดงอารมณ์ใดๆออกมา ถ้าให้ผมเดา บรรยากาศแบบนี้นอกจากว่าจะมีเรื่องของน้องหญิงเข้ามาเอี่ยวด้วย แต่ผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ทั้งการที่ไอ้กาฬชอบนาที หรือการที่นาทีทำตัวแปลกๆไปเหมือนกับว่าพระกาฬไม่ใช่เพื่อนของมัน
            “ถ้าไม่ตอบ ก็อย่ามายุ่มย่ามกับป่านให้มันมากนัก”
            “มึงก็เอาคนของมึงไปนอนด้วยเลยสิ กูยอมให้ไอ้พีทมานอนด้วยก็ได้” นาทีว่าพลางกอดอกแล้วมองหน้าผมนิ่งๆ ทั้งๆที่กำลังพูดอยู่กับพระกาฬ “ไม่ชอบซักเท่าไร ของมือสอง”
            “!!!!”
            “กฎก็ต้องเป็นกฎ ป่านต้องนอนห้องนี้กับมึง ถ้ามึงทำตามกฎไม่ได้ ก็ไปบอกกับพวกกรรมการนักเรียนเองแล้วกัน มึงอาจจะได้ห้องพักวีไอพีในส้วมหลุมท้ายโรงแรมก็ได้ใครจะรู้” ไอ้กาฬพูดเสียงเหยียดๆ ผมหัวเราะหึในลำคอเมื่อได้ยินสิ่งที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา
            พูดแบบนี้อย่างกับไอ้นาทีมันจะยอมไปนอน ขนาดอ้วกใส่ตัวมัน มันยังไม่กล้าจะถอดเสื้อเลย
            ไอ้นาทีนิ่งไป ดวงตาแข็งกร้าวและก้าวร้าวนั่นปราดมองเพื่อนของมันอย่างน่ากลัว ก่อนมันจะหันหลังเข้าไปในห้อง ทิ้งท้ายคำกวนประสาทไว้ให้ผมกับไอ้พระกาฬก่อนที่ประตูจะค่อยๆปิดลง
           “บอกคนของมึงว่าอย่าตอแหลให้มากก็แล้วกัน กูไม่ชอบสตรอว์เบอร์รี่”
            ‘ปึง’
            “เมื่อกี้มันว่ามึงว่าตอแหลว่ะ” ไอ้พระกาฬพูดขึ้นพลางหัวเราะนิดๆกับคำพูดของนาที ผมหันขวับไปมองมันตาขวาง จะตอกย้ำเพื่อ?
            ถ้าไม่สตรอว์เบอร์รี่ ผมจะมายืนอยู่จุดๆนี้ได้หรือไง!
            “โว้ย หงุดหงิด” ผมร้องพลางเดินออกมาไกลๆจากห้องที่มีไอ้คนกวนประสาทอยู่ด้านในพลางกุมท้องป้อยๆ เจ็บชะมัด
            “จะไปไหนน่ะ?” คนข้างหลังถาม ผมโบกมือนิดๆ
            “ห้องมึงไง ไม่ไหวว่ะ เมื่อกี้โดนชกมา รู้สึกอยากอ้วกแปลกๆ”
            “แล้วนั่น … ไม่คิดจะใส่เสื้อหน่อยเลยหรือไง?”
            ผมชะงักฝ่าเท้าพลางมองสภาพของตัวเอง ผ้าขนหนูที่พันช่วงเอวไว้แค่ผืนเดียว สภาพหัวแฉะหลังจากเพิ่งสระผม ตัวยังมีหยดน้ำเกาะพราว ผมส่ายหัวนิดๆพลางเท้าเอว
            “ไม่ล่ะ ขอยืมเสื้อหน่อยแล้วกัน”
            “อืม…” ไอ้กาฬตอบแค่นั้น ก่อนจะเดินนำหน้าผมไป ผมหันไปมองประตูห้องของไอ้นาทีที่ปิดสนิท ก่อนจะขยี้หัวเป็นรอบที่ร้อยกับคำพูดที่มันพูด
            นาทีมันรู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่แรกที่ผมนัดบอด คำถามคือ มันรู้ได้ยังไงว่าผมแอบชอบน้องหญิง มันรู้ได้ยังไงว่าผมเข้าหามันเพราะว่าผมต้องการให้มันแสดงความชั่วช้าออกมาให้น้องหญิงเห็น และที่สำคัญ …
            ทำไมมันต้องด่าผมสตรอว์เบอร์รี่ด้วยวะ
            ผมเดินเข้ามาในห้องพักของไอ้กาฬกับไอ้พีท ไอ้พีทที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่เบิกตากว้างเมื่อผมเข้ามาในห้องด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว เล่นเอามือที่กำลังหยิบขนมปล่อยขนมร่วงจนหกเลอะพื้น
            “ขาวอู้ววว” ไอ้พีททำหน้าระริกระรี้ก่อนจะปรี่เข้ามาหาผม ผมยกเท้าขึ้นถีบมันไปกองที่พื้นแล้วเดินแทรกตัวเข้าไปในห้องนอน นั่งลงบนเตียงก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบผ้าเช็ดหัวในห้องพักมาขยี้หัวอย่างถือวิสาสะ
            “ไอ้ป่านมาขออยู่ด้วยซักห้านาที เมื่อกี้มันมีเรื่องกับไอ้นาที” พระกาฬว่า ผมหันไปขยับปากบ่น
            “โชคดีที่มึงมาทันเวลา ไม่งั้นกูเสร็จมันไปแล้ว”
            “อ้าว กูนึกว่ามึงเสร็จมันไปตั้งแต่เข้าห้องละ” ไอ้พีทว่าพลางทำหน้าทะเล้น ผมหัวเราะกรีดเสียงทุ้มต่ำในลำคอแล้วมองมันด้วยความอาฆาต
            “มึงเนี่ยแหละจะตายก่อน”
            ไอ้พีทหัวเราะแหะๆแล้วเดินกลับไปนั่งหน้าโทรทัศน์อีกครั้ง ไอ้พระกาฬยื่นเสื้อสีขาวให้ผมกับกางเกงขาสามส่วน ส่วนสูงผมกับพวกมันไม่ค่อยต่างกันเท่าไร เลยคิดว่าใส่ได้
            “พีท … ถามอย่างดิ” ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังใจจดใจจ่อกับรายการหมีแพนด้า ไอ้พีทหันกลับมามองพลางเลิกคิ้ว
            “ว่า?”
            “มึงรู้ใช่ป่ะว่ากูไม่ได้นัดบอดเพราะชอบไอ้นาที”
            สิ้นเสียงของผมทั้งห้องก็เงียบกริบ ไอ้พระกาฬเลือกที่จะนิ่งและฟัง มันคว้าแว่นตากับหนังสือนั่งลงบนเตียงถัดจากผมไปนิดหน่อย ผมจ้องมองใบหน้าของไอ้พีทที่ทำตาโต
            “ไม่รู้”
            “โกหก” ผมจับพิรุธได้ทันทีที่มันยิ้ม ไอ้พีทมีสีหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย
            “บอกมันไปเหอะพีท ซักวันไอ้นาทีก็คงต้องบอกไอ้ป่านอยู่ดี” เป็นพระกาฬที่ขัดขึ้น ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยอย่างถึงที่สุด
            “ยังไง?”
            “ก็ พวกกูรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่ามึงไม่ได้ชอบไอ้ที” ไอ้พีทยังคงมีสีหน้าระรื่น ไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆ ผิดกับผมที่ความอยากรู้อยากเห็นมันขึ้นมาจุกอก
            “มีข่าวลือว่ามึงกับน้องหญิงคบกัน พอมึงมาขอนัดบอดกับไอ้ที กูเลยรู้เลยว่ามึงไม่ได้มาดีแน่ๆ แล้วยิ่งไปกว่านั้น น้องหญิงก็เคยมาที่ห้องพวกกูบ่อยๆ ชอบเอาของมาให้ไอ้ทีประจำแหละ”
            “!!!!”
            ว่าไงนะ …
            “มึงอย่าทำหน้าแบบนั้นสิวะ กูไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะ แค่ไม่ได้บอก”
            “แล้วไอ้นาทีล่ะ…”
            “รายนั้นเขารู้มากอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่ไอ้ทีไม่รู้ เห็นมันเงียบๆแบบนั้นรู้มากอย่างกับอับดุล พวกกูที่รู้เรื่องอยู่แล้ว เลยอยากแกล้งมึงเล่นๆตอนแรก…” ไอ้พีทว่าพลางเกาหัวแกรกๆ
            “จริงๆแล้วกูกับไอ้ริคพนันกันด้วยว่ามึงจะเสียจิ้นให้ไอ้นาทีเมื่อไร”
            ผมขมวดคิ้ววุ่น
            ไอ้พวกเวร
            “ก็เลยปล่อยเรื่องให้เลยตามเลยไป ให้มึงลองเล่นเกมส์ดู ไอ้นาทีก็ดูจะสนใจเพราะน่าจะสนุก แต่หลังๆชักเริ่มไม่สนุก…ตั้งแต่ที่น้องหญิงของมึงเข้ามาป้วนเปี้ยนมากเกินเหตุ”
            “น้องหญิง?” ผมเลิกคิ้วสูง
            อีกแล้ว … ชื่อคนๆนี้อีกแล้ว ทำไมกันนะ ทั้งๆที่ผมมั่นใจมาตลอดว่าเธอเป็นนางฟ้าของผม เธอเป็นคนจิตใจดีอ่อนหวาน แต่คนพวกนี้กลับใส่ความว่าน้องหญิงคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆทั้งหมด
            จริงๆแล้วมันไม่ใช่หรอกมั้ง … ก็น้องหญิงออกจะชอบนาทีมากขนาดนั้น คงไม่ได้ทำอะไรเกินเหตุหรือร้ายแรง แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกไอ้พีทถึงได้กลัวเธอมากนัก ทั้งๆที่ยัยมิลคู่นัดบอดคนเก่าของไอ้นาทีดูจะน่ากลัวกว่าน้องหญิงร้อยพันเท่า
            “อือฮึ ก็อย่างที่บอกไป มันไม่ค่อยแฮปปี้ซักเท่าไรสำหรับไอ้นาทีที่มีผู้หญิงที่กำราบไม่ได้มาอยู่ข้างๆ”
            ไอ้พีทยิ้มตาหยีแล้วยัดขนมเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ส่วนผมได้แต่นั่งงงเป็นไก่ตาแตก
            นาทีเนี่ยนะกำราบน้องหญิงไม่ได้? เมาหรือเปล่า ได้ข่าวว่านอนกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ
            “แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องอะไร ก็ต้องไปถามไอ้นาทีเอา เพราะเรื่องนี้ไอ้นาทีไม่ยอมพูด ขนาดไอ้กาฬบอกว่าถ้าแม่งไม่พูดจะตัดเพื่อนกับมัน ไอ้นาทียังไม่เปิดปากเลย” ผมหันขวับทันทีที่ไอ้พีทพูดจบ รู้ได้โดยสัญชาติญาณทันทีเลยว่าเรื่องที่มันมองหน้ากันไม่ติดก็เพราะเรื่องนี้
            แต่เพื่อความแน่ใจ ถามซักหน่อยดีกว่า
            “เรื่องนี้เหรอที่ทำให้มึงตัดใจจากเพื่อนมึงน่ะ?” ผมถามไอ้กาฬที่อ่านหนังสืออยู่ด้านหลัง ใบหน้านั่นไม่ได้เงยขึ้นมามองหรือสนใจผมที่นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหน้า แต่กลับจับจ้องตัวอักษรภายในหนังสือราวกับว่าถ้าพลาดตอนใดตอนหนึ่งไปจะต้องเสียดายเอามากๆ
            หัวที่พยักหงึกๆเป็นสัญญาณที่ตอบว่า ‘ใช่’
            “ไร้สาระเป็นบ้า”
            “แต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น … จริงๆแล้วสาเหตุที่กูตัดใจจากไอ้ทีได้ก็เพราะ…”
            ‘กริ๊งงงง!!!’
            ผมที่กำลังตั้งใจฟังไอ้พระกาฬอย่างใจจดใจจ่อแทบจะหน้าคะมำลงที่เตียงเมื่อเสียงโทรศัพท์ภายในห้องดังขึ้น ไอ้พีทหัวเราะแล้วยิ้มร่าก่อนจะวิ่งไปรับสายปริศนา
            “อ๋อ เออ ไอ้กาฬอยู่ข้างๆ แปบนะ”
            ไอ้พีทว่าพลางอมยิ้มอย่างมีเลศนัย มือหนาของมันยื่นหูโทรศัพท์ให้ไอ้พระกาฬที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวเองช้าๆราวกับว่ามาขัดอารมณ์ในการทำสิ่งที่ชอบ
            “ไอ้กี้โทรมาถามว่า ‘ประธานสภาโรงเรียนมึงเป็นxxxอะไร ทำไมถึงไม่ลงมาที่ล้อบบี้ซักที’”
            ผมชะงักไปกับชื่อของคนที่ถูกกล่าวถึง ลืมไปว่าไอ้กาฬเป็นประธานสภาของโรงเรียนมัน ส่วนไอ้กี้ก็เป็นประธานสภาฝั่งโรงเรียนผม ไอ้พระกาฬถอดแว่นออกอย่างเชื่องช้าพลางเอื้อมมือไปรับหูโทรศัพท์ ท่าทีที่ดูสง่าและนิ่งของมันทำให้ผมมองตาค้างไปชั่วขณะหนึ่ง
            ปกติผมไม่เคยมองว่าผู้ชายคนนี้ดูดี ติดออกจะน่ารำคาญด้วยซ้ำไป แต่พอเวลาที่หมอนี่ทำท่าทางสุขุมเหมือนกับผู้ใหญ่ มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าจะเอามันมาเป็นไอดอลคงไม่น่าจะเสียหายอะไรมาก
            “ว่า…” เสียงทุ้มๆกรอกลงไปในโทรศัพท์ ผมละสายตาออกจากพระกาฬเล็กน้อย ไอ้พีทโยนถุงขนมทิ้งลงถังขยะพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
            “กลับไปเตรียมตัวที่ห้องไป เราจะไปทำกิจกรรมที่ริมชายหาดกัน ”
 
*
 
            ผมยืนเซ็งกะตายอยู่ที่ชายหาดกับเพื่อนๆกว่ายี่สิบชีวิตที่ถูกแยกออกจากอีกครึ่งหนึ่งที่ตรงไปที่โรงแรมอีกจังหวัด ทริปนี้มันลำเอียงตรงที่ว่า ครึ่งหนึ่งที่ไม่ใช่พวกผมถูกส่งไปช่วยชุมชนและเด็กยากไร้เพื่อพัฒนาหมู่บ้านบนดอย ส่วนพวกผม เพราะอำนาจบารมีของประธานสภาทั้งสองคน เลยทำให้เรากลายเป็นว่าต้องมาทำกิจกรรมสานสัมพันธ์แทนที่จะไปช่วยเหลือใคร
โลกโคตรเบี้ยวเลย
            “เอาล่ะครับพวกเพื่อนๆ ตอนนี้ได้เวลาสานสัมพันธ์แบบจัดหนัก เนื่องจากว่าสาวๆมีจำนวนน้อยกว่าชายหนุ่มอย่างเราๆเกือบครึ่ง จึงขอให้สาวๆจับกลุ่มกับหนุ่มๆ 2 ชายชาติหมากับหนึ่งสาวใบหม่อน ใครช้าปั่นจิ้งหรีด”
            เป็นเสียงไอ้พีทที่ดังขึ้นร่ายยาวเหยียดพร้อมกับคำสั่ง ผมหันไปมองรอบๆก่อนจะไปเจอะกับไอ้ฟ้าที่โบกมือมาทางนี้ ตอนแรกผมทำท่าจะเข้าไป แต่ไอ้ฟ้าดันโดนฝนน้องสาวเกือบๆฝาแฝดของมันคว้าตัวเอาไว้แล้วจับกลุ่มกับผู้ชายต่างโรงเรียนอีกคนเรียบร้อย
            ในขณะที่กำลังชุลมุนกับการจับคู่อยู่นั่นเอง ผมก็รับรู้ได้ถึงร่างที่สูงเกือบเท่าๆกันที่เดินงงๆมาอยู่ข้างๆ ผมเหลือบหันไปมองร่างของไอ้นาทีที่สวมเสื้อยืดสีขาวเหมือนๆกับผมกับกางเกงขาสามส่วนสีดำสนิทในขณะที่ของผมเป็นลายดอกสีฟ้า
ให้ตายผมก็จะไม่อยู่กับคนที่ด่าผมว่า ‘สตรอว์เบอร์รี่’
            ‘หมับ!’
            “จับได้แล้ว!” มือเรียวเล็กของผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มแบบตุ๊กตาคว้าคล้องแขนผมกับไอ้นาทีเอาไว้ ใบหน้าที่คุ้นเคยทำให้ผมชะงักกึกไปนิดหน่อย ผิดกับไอ้นาทีที่นิ่งสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ
            “หญิง…”
            “อยู่กลุ่มเดียวกันนะ ทั้งป่านทั้งนาทีเลย” น้องหญิงว่าพลางหัวเราะร่า ในขณะที่ใจผมไม่ได้หัวเราะไปด้วยเลย ผมสอดสายตาหาความช่วยเหลือก่อนจะไปสบตากับไอ้พระกาฬที่ไม่ต้องร่วมกิจกรรมนี้ มันกับไอ้กี้นั่งอยู่ที่ใต้ร่มในขณะที่พวกผมต้องยืนตากแดด แต่หน้าที่ของพวกมันสองคนคือต้องดูแลความปลอดภัยดังนั้นไอ้พระกาฬจึงทำได้แต่ท่าปาดคอให้ผม
            เป็นเชิงบอกว่า
            มึงตายแน่
            “เอ้าๆ จับกลุ่มได้แล้วก็นั่งลงครับนั่งลง แดดร้อนๆอย่างนี้ต้องเล่นเกมส์ เยลลี่คลายร้อนกันซักหน่อย!!! สต๊าฟฟฟฟ ขออุปกรณ์หน่อยเว้ยยย!!!” ไอ้พีทแหกปากลั่น พวกผมถูกสั่งให้นั่งลงเป็นกลุ่มๆท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ ผมพยายามใช้ตัวบังน้องหญิงเอาไว้ แต่น้องหญิงกลับเขยิบตัวเข้าหานาทีที่ไม่ทำบ้าอะไรเลย ผมมองด้วยสายตาเป็นห่วงและคาดคั้นไอ้นาที
            แต่ดูเหมือนมันจะไม่รู้สึกบ้าอะไรซักนิดกับท่าทางของผม
            ปีโป้ที่ยังไม่ถูกแกะในกาบมะพร้าวถูกวางลงตรงกลางของแต่ละกลุ่ม ผมมองสิ่งของเหล่านั้นพลางทำหน้าเอือมๆพอๆกับไอ้นาทีที่ดูเหมือนโลกในวันนี้โคตรน่าเบื่อ จะมีเพียงน้องหญิงคนเดียวมั้งที่ยังยิ้มร่าตลอดเวลา พลันเสียงคำสั่งของไอ้พีทก็ดังขึ้น มันหันมามองหน้าผมราวกับว่าจะเกิดเรื่องซวยๆขึ้น ก่อนจะยกมือขอโทษผมแบบขอไปที ผมเลิกคิ้ว
            “เกมส์นี้มีกฎอยู่ว่า ให้ใช้ปากแกะปีโป้ จะทำวิธีไหนก็ตามแต่ ห้ามใช้มือแตะเด็ดขาด สามทีมสุดท้ายที่ช้าที่สุด จะต้องถูกทำโทษครับพี่น้องงงงง!!!!”
            “ปัญญาอ่อน”
            สิ้นเสียงคำสั่งผมกับไอ้นาทีก็โพล่งออกมาพร้อมๆกันทันที ในขณะที่กลุ่มอื่นเริ่มลงมือแกะปีโป้ด้วยปากกันอย่างสนุกสนาน ยกเว้นผม ไอ้นาที แล้วก็น้องหญิงที่กำลังนั่งครุ่นคิดในสิ่งที่กำลังจะทำ
            “พร้อมยัง” น้องหญิงว่าพลางยกยิ้มหวาน ผมส่ายหน้านิดๆพลางมองหน้าไอ้นาที เหมือนไอ้นาทีมันจะรู้ว่าผมกำลังด่ามันอยู่ในใจมันเลยคาบตูดปีโป้ที่อยู่ในถ้วยกาบมะพร้าวขึ้นมาแล้วยื่นไปด้านหน้าน้องหญิง ร่างเล็กเบิกตากลมๆอย่างตกใจ
            “แอะเอ็ว (แกะเร็ว)” ไอ้นาทีว่าก่อนจะหันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่ผม ผมมองน้องหญิงที่ใบหน้าเริ่มขึ้นสี ก่อนจะกลืนก้อนสะอึกเอื้อกใหญ่เมื่อริมฝีปากของเธอกำลังจะแตะลงบนส่วนปากของปีโป้ ใกล้ไป ... ใกล้ไปแล้ว
            ผมหันไปมองไอ้พระกาฬอีกครั้งอย่างขอตัวช่วย มันทำท่าสัญญาณเตือนภัยเป็นเชิงว่า
            “ไอ้เชี่ยป่าน!!!! มึงต้องบุก!!!”
            “ขอโทษนะ!!!” ผมคว้าตัวน้องหญิงออกมาให้ห่างจากไอ้นาทีก่อนจะอมส่วนปากของปีโป้เอาไว้ ดวงตาสีเทาอ่อนๆที่ชัดเจนตอนถูกแสงแดดกระทบเบิกขึ้นอย่างตกใจ ผมขมวดคิ้วแล้วใช้ฟันขบกัดลงที่ตัวปีโป้อย่างแรงจนตัวฝาพลาสติกกระเด้งเปิด เร็วๆไว้ก่อนได้เปรียบ ผมเองก็ไม่อยากจ้องตามันนานจนท้องเป็นปลากัดหรอกนะ
            ผมเคี้ยวปีโป้นั่นตุ้ยๆพลางถอนริมฝีปากออกจากตัวหลอดปีโป้ น้องหญิงมองผมอย่างอึ้งๆ ผมกลืนปีโป้รสองุ่นนั่นลงคอก่อนจะยิ้มแห้งๆแล้วขยี้หัวน้องหญิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
            “เดี๋ยวหญิงสำลัก ป่านทำเอง”
            หึหึหึ มึงตายแน่ๆไอ้นาที จงสำลักชักหงึกๆตายเพราะความคาดไม่ถึงจากคนอย่างกูซะ!!!





TBC

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.09] 20/1/57 P.1
«ตอบ #19 เมื่อ21-01-2014 00:27:30 »

เพิ่งจะพานพบเรื่องนี้ สนุกมากกกกกกกก   o13

ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสต์ค่ะ    :จุ๊บๆ:

มาต่ออีกนะๆ  :oni3:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.09] 20/1/57 P.1
« ตอบ #19 เมื่อ: 21-01-2014 00:27:30 »





ออฟไลน์ นุ่งหนิง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.09] 20/1/57 P.1
«ตอบ #20 เมื่อ21-01-2014 07:10:21 »

ชอบเรื่องนี้มาก
ไม่ค่อยได้อ่าน แบบ นี้
ดูๆๆ ท่าจา รักกันยาก
มีปมน่าติดตาม
แต่ ...ลุ้น นาที รัก ป่าน นะ
 :mew1:

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.09] 20/1/57 P.1
«ตอบ #21 เมื่อ21-01-2014 09:01:07 »

อ่านมาถึงตอนนี้เริ่มมั่นใจว่าน้องหญิงคนดีของนายป่านจะไม่ดีอย่างที่ว่าแล้วล่ะนะ เธอต้องแรงพอตัวแหงเลย 5555+


ป่านกับนาที... เมื่อไหร่จะปิ๊งกัน อยากรู้~ 555+

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.09] 20/1/57 P.1
«ตอบ #22 เมื่อ21-01-2014 12:39:39 »

เรื่องมันวุ่นวายตั้งแต่ป่านนัดบอดแล้วแหละ และไอ้การแก้ปัญหาพวกนี้อีกมันไม่ได้ช่วยแก้เลยมีแต่ทำให้ยุ่ง ไปทำให้อีกคนมารักหาพ่อเด็กจะง่ายกว่ามั้ย ล้อเล่นกับความรู้สึกคนแย่มาก แก้ปัญหาได้เด็กจริง ๆ

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.09] 20/1/57 P.1
«ตอบ #23 เมื่อ21-01-2014 13:00:17 »

 :z13:

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.10] 23/1/57
«ตอบ #24 เมื่อ23-01-2014 16:07:41 »

10

            กิจกรรมช่วงเช้าผ่านไปอย่างน่าเบื่อสุดๆ แม้จะได้สวีท(?)ทัวร์นรกกับไอ้นาที หายใจรดกันบ้างล่ะ แตะเนื้อต้องตัวเกินเพื่อนบ้างล่ะ แต่ผมรู้สึกเฉยมากเพราะมันไม่มีอะไรน่าวี๊ดวิ่วซักนิด ความหวังที่จะทำให้นาทีรักผมลดเหลือศูนย์ถึงติดลบอินฟินิตี้ ถึงแม้ไอ้กาฬจะคอยส่งซิกส์ตลอด แต่ผมขอบอกเลยว่าผมหมดอารมณ์จะแย่งไอ้นาทีมาจากน้องหญิงจริงๆ
คนอื่นสนุกกันแต่ผมกลับมีสีหน้าที่บึ้งตึงตั้งแต่ตอนบ่าย ทั้งร้อน ทั้งหงุดหงิดคนข้างๆที่จะต้องกระเตงไปกระเตงมาเหมือนลูก พฤติกรรมของคู่รักที่เป็นที่จับตามองทำให้ผมกลายเป็นส่วนเกิน เหมือนกับหลุมดำที่กำลังขยายพื้นที่
            ผมชักจะไม่ชอบขี้หน้าไอ้นาทีขึ้นทุกวันๆ แล้วจะให้ผมรักมันลงงั้นเหรอ?
            สาบานได้ว่าเมื่อก่อนผมเคยเทิดทูนว่ามันเป็นคนที่เจ๋งอยู่ แต่ตอนนี้ผมอยากบีบคอมันจัง
            “ปล่อยๆมือกันบ้างก็ได้นะ ระวังขี้กลากจะขึ้น” ผมเดินผ่านไอ้นาทีที่จับมือน้องหญิงเอาไว้ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน กระซิบให้พอรู้กันสองคนเพื่อให้มั่นใจว่าน้องหญิงจะไม่ได้ยินคำประชดประชัน
            “อิจฉา?” คนข้างๆเลิกคิ้วแล้วทำหน้ากวนฝ่าเท้า ผมส่ายหน้า
            “เปล่า กลัวน้องหญิงจะติดเชื้อโรค”
            “หืมป่านเรียกหญิงเหรอ!” ร่างเล็กหันขวับทันทีเมื่อผมพูดจบ แอบหวาดๆเหมือนกันว่าหญิงจะได้ยิน แต่ไม่หรอก เธอยังยิ้มแป้นอยู่เลย
            “หญิงไม่สนใจป่านเลย จะงอนแล้ว”
            ผมอมลมเข้าแก้มก่อนจะหันหลังหนีหญิง ผมไม่ค่อยจะทำอะไรแบบนี้ซักเท่าไรหรอก ปกติจะทำก็ต่อหน้าน้องหญิงคนเดียวเวลาลับๆหรือเวลาเธอไม่สนใจ
            “อ๋า งอนอีกแล้ว ไม่เอานะไม่งอน” น้องหญิงปราดเข้ามาหาผมทันทีแล้วเกาะแขนผมพลางดึงๆอยู่สองสามที ผมอารมณ์ดีแล้วยิ้มหน้าบานแฉ่งเหมือนกำลังกุมชัยชนะเหนือไอ้นาที
            หึหึ
            “หายละ”
            “แค่กๆ” จู่ๆนาทีก็ไอค่อกแค่กออกมา ผมหันไปทำตาขวางใส่มัน ส่วนน้องหญิงก็เหมือนจะเลือกไม่ได้ซักทีทั้งๆที่ผมควรจะสำเหนียกตัวเองได้แล้วว่าผมเป็นแค่เพื่อน ตัวจริงของเธอคือไอ้เวรตรงหน้า
            “นาที … เป็นอะไรน่ะ?”
            “สำลักสตรอว์เบอร์รี่”
            “!!!!” เหอะ
            ผมเดินพุ่งหลาวออกจากบริเวณนั้นทันที ไม่รอให้น้องหญิงถามหรอกว่านาทีไปกินสตรอว์เบอร์รี่มาตอนไหน เห็นๆอยู่ว่าแม่งประชดใส่ผม อยู่ด้วยกันแล้วแม่งจะเป็นโรคประสาทตาย
            “เฮ้ยป่าน!!! เดินไปตรงนั้นไม่ดะ…!!!!”
            “เฮ้ย!!!!”
            เสียงตะโกนที่ดังขึ้นด้านหลังดังพอที่จะทำให้ผมสะดุ้งแล้วรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างถูกดูดลงไปด้านล่าง ผมไถลลงไปในบ่อที่หมาตัวไหนมันขุดเอาไว้พอฝังม้าได้ทั้งตัว แล้วไอ้เสียงเรียกนั่น
            เสียงไอ้กี้แน่ ผมจำได้แม่น
            “ป่าน!!! ตายยังวะ!!?” สาบานได้ว่ามึงเป็นห่วงกู ห๊ะ!!!
            “มึงจะฝังกูเหรอ” ผมเงยหน้าสบกับพระอาทิตย์และหัวกลมๆของประธานสภาโรงเรียนตัวเอง ไม่นานนักก็มีสมาชิกอื่นๆวิ่งกรูกันเข้ามามุง
            “เป็นไรหรือเปล่า?” เป็นไอ้พระกาฬที่ไถตัวลงมาหาผม ผมโบกมือส่ายๆว่าไม่ต้องห่วง
            ไม่เจ็บไม่ปวดไม่พิการ
            “บอกคนอื่นๆกลับไปที่ล้อบบี้ จองสระว่ายน้ำไว้แล้ว” ไอ้กี้หันไปพูดกับไอ้ต้า รองประธานสภา มันพยักหน้าหงึกๆแล้ววิ่งหายไป
            “ใครมาขุดหลุมเล่นตรงนี้วะ” ผมบ่นอุบ พลางขยับตัวเล็กน้อยเมื่อไอ้พระกาฬจะพยุงตัวผมขึ้นก่อนจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ฝ่ามือด้านขวา
            “กูเปล่าขุด มันมีคนมาขุดเล่นเอาไว้ กะว่าจะมากลบตอนเย็นๆ ไม่นึกว่ามึงจะโง่อยากลงไปเล่นในนั้น”
            “หึไอ้หมาคุกกี้ อย่างกับว่ามึงติดป้ายหน้าหลุมว่าระวังตกอย่างนั้นแหละ”
            “กูติดแล้วนะ แต่มันปลิวไปไหนไม่รู้” ไอ้กี้ว่าแล้วนั่งยองๆ
            “มึงโอเคใช่ป่ะ?” ไอ้แว่นข้างบนถาม เหมือนเสียงลูกหมาเห่า ผมไม่ได้สนใจเท่าไร สนใจก็แต่มือขวาของตัวเองที่รู้สึกได้ว่ามันเริ่มจะปวดๆตุ๊บๆแล้วล่ะ
            “เจ็บมือ”
            “เฮ้ย!!!” เมื่อผมยกมือขึ้นมาก็แทบจะชาไปครึ่งแถบ มือที่ไว้ใช้ทำมาหากินถูกเศษแก้วบาดลึกจนน่ากลัว ไอ้กี้ถึงกับแทบจะอ้วกวิ่งหนีออกไปนู่นส่วนไอ้พระกาฬด้วยความตกใจมันเลยดึงมือผมอย่างแรงจนตัวผมเซเข้าไปซุกที่แผงอกของมันอย่างหมดเรี่ยวแรง
            “โอย เจ็บ”
            “เวร แผลลึกไปแล้ว รีบไปทำแผลเหอะว่ะ”
            “กู … ไม่ไหว” ผมเอื้อมมือซ้ายไปจับแขนเสื้อของพระกาฬ ก่อนที่ตาจะค่อยๆปรือปิดลงเรื่อยๆจนกลายเป็นความมืดไปทั้งหมด
            ร่างของพระกาฬปีนขึ้นมาจากหลุมนั่นพร้อมกับดึงตัวร่างโปร่งอีกคนขึ้นมาด้วย คณะกรรมการร้องฮือฮากันใหญ่เมื่อเห็นว่ามีคนได้รับบาดเจ็บและเป็นลม ทุกคนวิ่งวุ่นเป็นหนูติดจุ่นยกเว้นคนสองคนที่ทิ้งไว้ทั้งแววตาที่เป็นห่วงเป็นใย กับแววตาที่ขุ่นเคืองในใจ


            ผมขยับตัวภายใต้ผ้าห่มผืนหนาก่อนจะลืมตาหนักๆขึ้นอย่างยากลำบาก รู้สึกหนังตาหนักเป็นบ้าเลย เวรๆ แล้วนี่มันอะไรกัน ทำไมผมถึงมานอนอยู่ที่เตียงได้ เมื่อกี้ยังอยู่ที่ชายหาดอยู่เลยนะ
            “นึกว่าตายแล้ว”
            เสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นปลายเท้าทำให้ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นใบหน้าของคนๆนั้น ผมยันตัวขึ้นนั่ง
            “หึ สนด้วยเหรอ”
            ผมว่าก่อนจะมองฝ่ามือที่พันไว้เรียบร้อยอย่างสวยงาม ไอ้เจ็บมันก็ยังเจ็บอยู่น่ะนะ แต่ผมรู้สึกเพลียเกินกว่าความเจ็บซะอีก
            ไอ้นาทีลุกขึ้นจากปลายเตียงของผมแล้วเดินไปที่เตียงของมันก่อนจะเก็บหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มบางๆไว้ใต้หมอนพลางเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมขยับตัวลงไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆอีกครั้งพลางมองไปทั่วห้อง
            พระกาฬล่ะ? มันช่วยผมไว้ ต้องขอบคุณหน่อย
            ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู ยังไม่ทันที่มือจะได้แตะประตูคนในห้องน้ำก็เดินออกมาขวางซะก่อน ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่
            “มึงไม่ไปร่วมกิจกรรมหรือไง?” ใช่ ไอ้นาทีสมควรอยู่กับน้องหญิงข้างล่างที่ล้อบบี้ กิจกรรมสระว่ายน้ำอะไรของไอ้กี้มัน
            “นี่มันตีสองแล้ว ใครจะมาทำกิจกรรม”
            ผมอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนความคิดที่จะไปหาไอ้พระกาฬจะถูกลบไปโดยสิ้นเชิง
            มันคงหลับแล้วมั้ง
            “เออ” ผมสบถก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง ไม่ทันไรมือหนาๆก็สวมกอดเข้าที่เอว ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วพยายามจะสะบัดตัวออกกลับกลายเป็นร่วงลงไปกองที่พื้นพรมพร้อมกับฝ่ามือที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันกระทบอะไร
            “โอ้ย!!”
            “ป่าน!”
            ไอ้นาทีรีบจับมือของผมขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว เลือดเริ่มซึมออกมาจากผ้าพันแผล ผมกัดปากระงับความเจ็บสุดใจขาดดิ้น
            “ออกไป อย่ามาแตะตัวกู”
            ผมพยายามผลักคนตรงหน้าออกไป แต่เรี่ยวแรงกลับถูกสูบหายไปหมด
            ผมเสียเลือดมากๆไม่ได้ …
            ไอ้นาทีเหมือนจะเห็นว่าหน้าผมเริ่มซีด มันเลยพยุงตัวผมขึ้นไปนอนที่เตียงที่เดิม ผมหันหลังให้กับนาทีที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่กับมือของผม มันทำท่าจะแกะผ้าพันแผลออกแต่ผมสะบัดทิ้ง
            “บอกว่าอย่ามายุ่ง”
            “เงียบปากซักที!”
            เหมือนเป็นคำสั่งทะแม่งๆ ผมนิ่งลงแล้วปล่อยให้มันจัดการกับฝ่ามือของผม ความรู้สึกเย็นๆทำให้ผมรู้สึกว่าผ้าพันแผลถูกถอดออกไปแล้ว ผมกัดริมฝีปากตัวเองแรงๆเพื่อกลั้นเสียงร้อง
            มันเจ็บมาก ไม่ต้องบอกเลยว่ามันลึกขนาดไหน
            กลิ่นแอลกอฮอล์เย็นๆแตะลงที่จมูกผมพลิกตัวกลับแทบจะทันทีก่อนจะมองไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำแผลที่มือขวาของผม ผมชะงักไป …
            ทำไมกันนะ … ทั้งๆที่เห็นหน้ากันจนชิน
            แต่ทำไมไอ้นาทีถึงได้มีหลายอารมณ์นัก
            นี่เป็นการแก้แค้นที่ผมหลอกมันหรือเปล่า…
            ทำไมถึงได้…
            “โอ้ยยยยยย!!! เบาเบาหน่อยเจ็บ!!!!” ผมร้องจ้ากทันทีเมื่อสำลีชุบแอลกอฮอล์แตะลงที่แผล หยดน้ำตาปริ่มออกจากตาอย่างหมดอาลัยตายอยาก ไอ้นาทียิ้มมุมปากอย่างสะใจ
            “ยิ้มหาพ่อเธอหรือ?!”
            “หึ กรรมตามสนอง ตอแหลบ่อยนัก” มือหนักๆ เหยาะเบตาดีนลงบนแผลผมแบบไม่ถามอะไรซักคำ ผมร้องจ้ากออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
            เจ็บอาราเล่!!!!
            “โอ้ยยย เบาๆ!! จะฆ่ากูหรือไง ไอ้โง่!!!” ผมใช้มือซ้ายตีหัวไอ้นาทีอย่างแรงดังปั่ก มันหันมาทำตาขวางใส่ผม ทีใครทีมันสิวะ ใครใช้ให้มือหนักแบบนี้ ทำแผลคนนะเว้ยไม่ใช่ไม้กระดานที่จะไม่มีความรู้สึกน่ะ
            “ไม่ต้องมามองหน้า!!! มือคนหรือมืออะไรวะ หนักเป็นบ้า”
            “ว่าคนอื่นไม่ดูตัวเองเลยเนอะ”
            “ฮึ่ม ย้อนเหรอวะ”
            “เปล่า … พูดไปให้ควายรับ”
            โว้ย!!!
            “พูดกับมึงทีไรประสาทเสียทุกที”
            ผมบ่นแล้วหันหลังให้ไอ้นาทีอีกครั้ง รู้สึกไปเองหรือเปล่าไม่รู้ว่ามือมันเบาลงจนกลายเป็นว่าไม่รู้สึกเจ็บแล้ว ผมนอนแผ่อยู่บนเตียงปล่อยให้แอร์เย็นๆกระทบหน้า บรรยากาศในห้องเริ่มเงียบจนกลายเป็นว่าได้ยินเสียงโทรทัศน์ที่เปิดค้างอยู่
            “มึงกับไอ้กาฬคบกันอยู่เหรอ” จู่ๆไอ้นาทีก็เป็นฝ่ายเปิดประเด็น ผมชะงักไป
            เปล่า
            อยากจะตอบแบบนั้นอยู่หรอก แต่ขอหน่อยเหอะ ซักนิดก็ยังดี
            “หวานชื่นเชียวล่ะ” ผมยิ้มมุมปากก่อนจะหัวเราะคิกคักในใจ
            “งั้นเหรอ…”
            ไอ้นาทีเหมือนนิ่งไปผมหันกลับไปมองหน้ามันอีกครั้งแล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อริมฝีปากของไอ้นาทีอยู่ใกล้ใบหน้าผมไม่ถึงคืบ ผมเบิกตากว้างแล้วมองดวงตาที่แน่วแน่ของไอ้นาที ก่อนจะรู้สึกเหมือนกับว่าใบหน้าคมๆนั่นเคลื่อนเข้าใกล้เรื่อยๆ
            “โอ้ว ซาร่าห์! สาหร่ายสไปรูรีน่า…”
            “พรืด ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!!!” ผมหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงโฆษณายอดฮิตติดหูดังออกมาจากทีวี ไอ้นาทีหลับตาเหมือนเอือมกับสิ่งที่ผมทำก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันหลังหนีทันที
            โอย ขำ
            ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
            ผมเปล่าเส้นตื้นจริงๆนะ
            นาทีนั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างผมอีกครั้ง มันเงียบไปอีกแล้ว ผมมองใบหน้านิ่งๆและฝ่ามือที่กำลังพันผ้าก็อตลงบนมือของผมทบไปเรื่อยๆ
            “แล้วมึงกับหญิงล่ะ เป็นไงบ้าง”
            ผมเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนแล้วสบตาคนตรงหน้า นาทีเลื่อนสายตามามองผมเล็กน้อยแล้วหันกลับไปสนใจแผลของผมเหมือนเดิม
            “ก็ดี”
            ก็ดีงั้นเหรอ…
            “มึงรักหญิงหรือเปล่า?”
            ผมสังเกตเห็นว่าไอ้นาทีชะงักมือไป ก่อนมันจะหยิบกรรไกรในกล่องปฐมพยายามแล้วตัดผ้าก็อตพลางเอาสก็อตเทปมาแปะทับเพื่อไม่ให้มันหลุด มันเก็บอุปกรณ์แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
            ผมใจแป้วๆพิลึก
            “กูเป็นผู้ชาย… มึงก็เป็นผู้ชาย” ก่อนไอ้นาทีจะเดินออกมาแล้วนั่งลงที่เดิม ผมมองมันนิ่งๆ
            “กูจะพูดในสิ่งที่ลูกผู้ชายเขาทำกัน นั่นคือพูดความจริง”
            ผมพยักหน้าตอบ
            “ก็ได้ มึงพูด กูพูด ลูกผู้ชาย” ผมว่าพลางทำมือชาวร็อค ไอ้นาทียิ้มมุมปากนิดๆ
            “กูไม่ได้ชอบหญิง”
            เหมือนยกภูเขาลูกโตออกจากอก ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง
            “มึงก็เลิกเกาะแกะกับหญิงซะสิ” ผมว่า ไอ้นาทีส่ายหน้าแล้วมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น
            “กูต้องคบกับเธอเพื่อไอ้พีท ไอ้ริค และไอ้กาฬ”
            “??”
            “มึงรู้มั้ยป่าน … ว่าหญิง ไม่ได้มีอะไรกับกูเป็นคนแรก”
            “!!!” ว่าไงนะ…
            “ไอ้พระกาฬสืบรู้ว่าหญิงใช้บริการโฮสต์คลับเถื่อนมาปีกว่าแล้ว เธอไม่ได้ขาย แต่เธอซื้อ”
            “โกหก”
            “กูเป็นลูกผู้ชายพอป่าน … พอหญิงรู้ว่าพวกกูรู้เรื่องเลยขู่ว่าจะฟ้องศาลถ้าเกิดพวกกูเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ มึงก็รู้นี่ว่าพ่อของหญิงนอกจากจะเป็นอธิการบดีโรงเรียนแล้วยังเคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน…”
            ผมรู้สึกราวกับโดนตบจนหน้าชา ทั้งไอ้พีท ไอ้ริค และไอ้พระกาฬต่างก็ตอบแบบเดียวกันว่าหญิงไม่ใช่คนที่ดี แล้วไหนจะที่ไอ้นาทีพูดเมื่อกี้ …
            “ไม่จริงหรอก หญิงอยู่กับกูทุกวันไม่มีเวลาไปทำเรื่องแบบนั้น…”
            “ไม่ทุกเวลาหรอก มึงก็รู้นี่ป่าน” ผมกระถดตัวถอยหลังขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอีกครั้ง มือสั่นจนควบคุมไม่อยู่ รู้สึกเจ็บลึกๆอึดอัดจนหายใจไม่ค่อยออก
            ผมรักหญิงมาก ผมรักหญิงมากพอๆที่จะเชื่อว่าเธอไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้น
            “โกหก”
            “แล้วกูก็ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นด้วย”
            ผมเบิกตาโพลงแล้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ไอ้นาทีเสยผมขึ้นเผยให้เห็นรอยแผลเป็นจางๆที่หน้าผาก ผมขมวดคิ้ววุ่น หมายความว่ายังไง… นาทีไม่เคยมีอะไรกับหญิง?
            “ถ้าไม่มีอะไรกับหญิงแล้วมึงมาพูดได้ไงว่ามึงไม่ใช่คนแรกของหญิง!”
            “ไอ้พระกาฬ…”
            หา..
            “ไอ้กาฬต่างหากที่เป็นคนมีอะไรกับหญิง ไม่ใช่กู”
            “มึง … โกหก…” ผมใช้เท้าเตะที่ไหล่ของไอ้นาทีอย่างแรง ใช่ มันโกหกแน่ๆ มันต้องโกหกเพราะว่ามันอิจฉาไอ้พระกาฬที่มีแต่คนเรียกหา มันอิจฉา มันอยากได้น้องหญิงไว้คนเดียว
            ผมวิ่งลงจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ประตู ตั้งใจว่าคราวนี้ผมต้องคุยกับไอ้กาฬให้รู้เรื่อง แต่ยังไงก็ไวไม่พ้นคนที่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีกว่าตัวเอง ผมทรุดตัวลงนั่งที่ประตูอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะซุกหน้าลงที่แขนสองข้างที่วางท้าวอยู่บนเข่า
            “กูกับพระกาฬโกหกไอ้พีทกับไอ้ริคว่ากูเป็นคนที่มีอะไรกับหญิง แต่จริงๆแล้วกูไม่เคยมีอะไรกับเธอ พระกาฬเป็นคนที่มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเพื่อที่จะสืบว่าเธอไม่ได้จะเข้าหากูเพราะต้องการอย่างอื่น แล้วที่กูทะเลาะกับไอ้กาฬ มันก็เป็นแค่ฉากเพื่อให้หญิงเห็นว่ากูไม่ได้เข้าข้างเพื่อน … ไม่งั้นหญิงจะต้องเล่นงานพวกกูแน่ๆ…”
            ไอ้นาทีไล่เรื่องราวยาวเหยียดจนผมต้องยกมือขึ้นมาปิดหู ผมเม้มริมฝีปากแน่นพลางนึกไปถึงใบหน้าหวานที่คอยคลี่ยิ้มให้ผมเสมอเวลามีเรื่องทุกข์ใจ คนที่คอยปลอบประโลมและอยู่ข้างๆผม คนที่ผมคอยเฝ้าปกป้องและทะนุถนอมมาตลอดตั้งแต่จำความได้
            “มึงโกหก … โกหก” ผมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนอ้อมกอดอุ่นๆที่ถูกคนตรงหน้ามอบให้จะสวมกอดเข้ามา ผมพยายามไล่น้ำตาที่จะไหลออกมา
            ผมไม่ใช่คนร้องไห้ง่ายๆ
            มือซ้ายของผมจิกลงบนเสื้อของไอ้นาทีจนเป็นรอยยับ
            “พระกาฬบอกว่าให้กูทำให้มึงรักกู … เพราะถ้ามึงรักกูแล้ว … ก็ไม่มีอะไรที่จะทำอะไรมึงได้แม้แต่หญิงก็ตาม… แล้วมันก็จะเป็นทางที่จะช่วยให้พวกมึงไม่ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ”
            ผมว่าพลางกัดริมฝีปากแน่นอีกครั้ง
            หญิงไม่ทางเป็นแบบนั้นแน่ๆ
            “หึ มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยรักใคร…”
            ผมพยักหน้าหงึกๆแล้วดันตัวไอ้นาทีออก
            “กูรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่น่าเชื่อ ยิ่งเป็นมึง คนที่รักผู้หญิงคนนั้น…” ไอ้นาทีว่า แล้วนั่งขัดสมาธิลงข้างหน้าผม
            “ถ้ามึงไม่เชื่อ กลับจากค่าย ไปโฮสต์คลับกับกู แล้วจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”




TBC
รู้สึกว่าคนอ่านกันน้อยจังเลย T_T

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.10] 23/1/57
«ตอบ #25 เมื่อ23-01-2014 19:52:21 »

ผู้หญิงอะไรใช้โฮสต์คลับ

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.10] 23/1/57
«ตอบ #26 เมื่อ23-01-2014 20:50:15 »

เหมือนเคยอ่านเรื่องนี้ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าอ่านนานแล้วนะ

ออฟไลน์ killerofcao

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.10] 23/1/57
«ตอบ #27 เมื่อ24-01-2014 01:14:12 »

น่่สงสาร

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.10] 23/1/57
«ตอบ #28 เมื่อ24-01-2014 07:01:33 »

สนุกอ่ะ ลุ้นมากเลยน่ะนี่

ตกลงหญิงนี่ยังไง

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [ TAKE TURN สลับรัก ] by: jiwinil [ep.10] 23/1/57
«ตอบ #29 เมื่อ24-01-2014 08:19:34 »

เห็นมั้ยๆๆๆ ว่าแล้วว่าหญิงต้องร้ายใช่เล่นแหง สงสารป่านอ่ะ หันมารักนาทีดีกว่านะป่าน คนอ่านเชียร์อยู่นะจ๊ะ 5555+

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด